mg-6

รีวิว MG6 ปรับลุคใหม่ หวังแจ้งเกิดให้ได้กับรถซีดานเมืองไทย

เริ่มจะได้เห็นรถแบรนด์เอ็มจีในบ้านเรามากขึ้น โดยเฉพาะในรุ่นน้องเล็กอย่าง เอ็มจี 3 ที่มีเอกลักษณ์ สไตล์สีสันสดใส ถูกใจวัยรุ่น อย่างไรก็ตามในรุ่นพี่ใหญ่ เอ็มจี 6 ที่เปิดตัวนำร่องทำตลาดก่อนกลับไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไร ดังนั้นทางเอ็มจีจึงต้องมีการแต่งองค์ทรงเครื่องกันใหม่หวังเอาใจลูกค้าคนไทย และเพื่อกระตุ้นยอดขายรถในรุ่นนี้ให้คึกคักเหมือนรุ่นน้องบ้าง

ก่อนจะไปสัมผัสกับรถรุ่นใหม่ ก็ขอนำเสนอข้อมูลเทคนิคของเอ็มจี 6 กันก่อน โดยในรุ่นใหม่นี้มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุถึง 161 แรงม้า (118 กิโลวัตต์) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 215 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-4,500 รอบ/นาที รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด DCT (Dual Clutch Transmission)

ทราบข้อมูลเทคนิคกันพอหอมปากหอมคอ ก็ได้เวลาไปสัมผัสกับเอ็มจี 6 ใหม่ โดยทันทีที่ได้เห็น แอบคิดเล็กน้อยว่า…เปลี่ยนตรงไหน!!! สารภาพว่าแว่บแรกคิดแบบนี้จริงๆ คือดูแล้วไม่ต่างจากรุ่นเดิมสักเท่าไร พอมาดูบั้นท้าย…ก็คล้ายคลึงแบบเดิมน่ะ และเพื่อคลายข้อสงสัยของตัวเองก็เลยเริ่มสำรวจอย่างถี่ถ้วนแบบใกล้ชิด

ว่าแล้วก็เริ่มตั้งแต่รูปลักษณ์หน้าตาด้านหน้ากันก่อน เมื่อมาดูใกล้ๆก็เริ่มเห็นจุดที่เปลี่ยนแปลง (เล็กน้อย) โดยไฟหน้าในรุ่นปรับโฉมใหม่ครั้งนี้เป็นแบบ Bi-Xenon HID ดูทันสมัยและมีประโยชน์ในแง่การส่องสว่างที่มากขึ้นและมุมด้านล่างลงมาเล็กน้อยของไฟหน้าจะมี Headlight Washer หรือระบบหัวฉีดน้ำล้างไฟหน้า อันนี้ถือว่าโอเคเลยเพราะจะช่วยทำความสะอาดและล้างไฟหน้า เพิ่มความปลอดภัยและส่องสว่าง

นอกจากนั้นสิ่งที่น่าสนใจในมุมมองด้านข้างนี้อีกอย่างคือลวดลายของล้อแมกซ์ ดูดุดันกว่ารุ่นเดิม เพราะตัวเดิมดูมีความอ่อนฉ้อยสวยงามไฉไลมาก พอมาถึงบั้นท้ายของรถคันนี้ สารภาพตามตรงๆ เลยว่าไม่ค่อยรักไม่ค่อยเลิฟเท่าไร พยายามจะเพ่งมองทั้งใกล้ทั้งไกล ก็ไม่ค่อยถูกใจกับดีไซน์บั้นท้าย มีความรู้สึกว่าไฟท้ายดูเล็กๆ ดูไม่บาลานซ์กับบอดี้รถยังไงไม่รู้ ยังดีที่มีสปอยเลอร์หลัง ไฟตัดหมอก และตัวท่อที่ปลายท่อเป็นสเตนเลสให้อารมณ์สปอร์ต ทำให้ดูดีขึ้นมาหน่อย เข้ามาสำรวจภายในกันดูบ้าง โดยมุมมองรวมๆ ถือว่ากว้างขวาง ยิ่งหากภายในเป็นสีเบจ ห้องโดยสารจะดูสว่าง โล่ง แต่เมื่อเลือกห้องโดยสารโทนสีดำ ก็จะให้อารมณ์สปอร์ต ตัววัสดุ อุปกรณ์ต่างๆหรือการประกอบดูดี สมราคา  ตัวเบาะของผู้ขับขี่สามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง เช่นเดียวกับผู้โดยสารคู่หน้าหากเป็นรุ่นท็อปก็สามารถปรับไฟฟ้าด้วย ตัวเบาะแถวหลัง พนักพิงปรับได้ 60:40 พับราบเป็นแนวเดียวกันเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของได้มากขึ้น

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน

พวงมาลัยของรถรุ่นนี้เป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น ปรับได้ 4 ทิศทาง ตัวหน้าจอแสดงผลการทำงานด้านหน้ามองง่าย เรือนไมล์เรืองแสงสีขาวตัดกับสีแดง ไล่สายตามาตรงกลางห้องโดยสาร มีจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วที่สามารถทำหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์ มีระบบนำทาง หรือจะโชว์ภาพจากกล้องหลัง หรือด้านความบันเทิงก็ทำได้หมดทั้งซีดี เอ็มพี3 วิทยุ รองรับ USB และ AUX มาพร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง และยังสามารถเชื่อมต่อบลูธูทกับระบบสมาร์ทโฟนได้ ไม่เพียงเท่านั้น พระเอกที่ทางเอ็มจีมีการพราว์ด ทู พรีเซ้นต์มากก็คือการพัฒนาระบบ inkaNet ที่เป็นระบบอัจฉริยะ เชื่อมต่อระหว่างรถกับเจ้าของรถ โดยจะเชื่อมต่อกันผ่านระบบโทรศัพท์ ทำให้เจ้าของรถได้รู้สถานะว่ารถเป็นอย่างไร อาทิ ปิดประตูสนิทไหม กำลังไฟพอหรือเปล่า หรือน้ำมันเหลือเท่าไร รวมไปถึงยังควบคุมการทำงานของรถได้ อาทิ สั่งล้อกหรือปลดล้อก ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car อีกทั้งยังมีสามารถเตือนความผิดปกติของรถได้ โดยระบบจะแจ้งเตือนเข้ามาในเอสเอ็มเอส ยกตัวอย่างที่จะแจ้งเตือน ก็คือ รถมีการเคลื่อนที่ผิดปกติ หรือรถมีการสตาร์ทเครื่องยนต์อยู่

เรียกได้ว่าหาจุดขายมาพร้อมรบครั้งใหม่ ซึ่งผลการตอบรับจะเป็นอย่างไรก็ต้องคอยติดตามกันดู แต่ในแง่ภาพรวมๆหลังจากได้สัมผัสกับเจ้าเอ็มจี 6 ใหม่ก็ต้องบอกว่า ดีไซน์ภายนอกไม่ได้ขี้เหร่ แต่หากเทียบกับคู่แข่งอื่นๆที่มีอยู่ในตลาดแล้วก็อาจจะเป็นรองแน่นอน ส่วนเรื่องภายในก็ทำได้ดี แถมระบบต่างๆที่พยายามใส่เข้ามาก็ถือเป็นการเพิ่มแวลูให้รถรุ่นนี้ดูดีมากขึ้น เอาเป็นว่าลูกค้าที่ยังลังเลใจหรือยังไม่รู้จักกับแบรนด์นี้ ก็ลองเข้าไปแวะชมและทดลองขับกันได้ที่โชว์รูมของเอ็มจีทั่วประเทศ

โดยเอ็มจี 6 มีให้เลือก 5 สีได้แก่ สีขาว Arctic White, สีดำ, สีแดง, สีเงิน และสีเทา ส่วนในรุ่นฟาสต์แบ็ค มีสีพิเศษตัวถังขาว Arctic White หลังคาดำ เอาใจพวกชอบแต่งรถให้ดูเป็นสปอร์ต

สนนราคาของเอ็มจี 6 ใหม่ มีด้วยกัน 2 แบบให้เลือก คือฟาสต์แบ็ค (Fastback)
รุ่น 1.8 C 828,000 บาท
รุ่น 1.8 D 908,000 บาท
รุ่น 1.8 D Sunroof 938,000 บาท
รุ่น 1.8 X 1,008,000 บาท
และรุ่น 1.8 X Sunroof 1,038,000 บาท

ส่วนในรุ่น ซีดาน (Sedan) เริ่มต้นที่
รุ่น 1.8 C  818,000 บาท
รุ่น 1.8 D 898,000 บาท
รุ่น 1.8 D Sunroof 928,000 บาท
รุ่น 1.8 X 998,000 บาท
และรุ่น 1.8 X Sunroof 1,028,000 บาท

ถือเป็นความพยายามของเอ็มจี ที่ต้องการจะผลักและดัน เอ็มจี 6 ให้สามารถแจ้งเกิดในบ้านเรา แต่มุมมองรวมๆการดีไซน์แม้จะเป็นการปรับโฉมใหม่ แต่เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่มีจุดแข็งทั้งในแง่ของแบรนด์ ดีไซน์ และแฟนเฉพาะกลุ่มแล้วก็ต้องถือว่าเป็นการบ้านที่หนักหนา อย่างไรก็ตามก็ต้องให้คะแนนความพยายาม โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาสวมใส่เพื่อเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับขี่และรถ ก็ถือเป็นการอำนวยความสะดวกและให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคนี้