20-สิ่งทำก่อน-40

วางแผน 20 สิ่งที่คุณควรเริ่มทำก่อนที่อายุจะ 40

ทุกวันนี้คุณเคยถามตัวเองกันบ้างไหม ? ว่าคุณอยากวางแผนชีวิตในอนาคตข้างหน้าไว้อย่างไร หรือเราอยากจะเริ่มแก่ไปเป็นแบบไหน ถ้าใครที่ยังไม่เริ่มต้นมองชีวิตในระยะยาวต้องรีบวางแผนกันได้แล้วนะ และถ้าชีวิตของคุณยังขาดสีสัน ควรลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่คุณจะแก่เกินทำเรื่องอะไรพวกนี้แล้วก็ได้ ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ที่จะทำให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น

  1. ออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ

    20-สิ่งทำก่อน-40

  2. เลิกใช้บัตรเครดิต 20-สิ่งทำก่อน-40

  3. ลองเป็นอาสาสมัคร 20-สิ่งทำก่อน-40

  4. อ่านหนังสือดีๆ 20-สิ่งทำก่อน-40

  5. ออกกำลังกาย
    20-สิ่งทำก่อน-40

  6. เล่นดนตรี

    20 สิ่งทำก่อน 40

  7. หากิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นอะดรีนาลีน เช่น เล่นเกม ปีนเขา โดดร่ม 20 สิ่งทำก่อน 40

  8. หาอะไรใหม่ๆที่ยังไม่เคยกิน และหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพทาน 20 สิ่งทำก่อน 40

  9. ปลูกต้นไม้

    20 สิ่งทำก่อน 40

  10. เรียนดำน้ำ และออกไปดำน้ำในทะเลจริงๆ 20 สิ่งทำก่อน 40

  11. เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ 

  12. ออกไปเที่ยวที่เคยอยากไปแต่ไม่ได้ไป

  13. ให้เวลากับตัวเอง

  14. เรียนหรืออบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองเคยสนใจแต่ยังไม่เคยลองเรียน

  15. ลองเรียนภาษาใหม่ๆ

  16. เล่นกีฬาที่ไม่เคยลอง

  17. พูดคุยกับครอบครัวให้มากขึ้น

  18. หาบทเรียน เพิ่มประสบการณ์ชีวิต

  19. วางแผนการเงิน

  20. คิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ทั้งดีและไม่ดี

 

ทั้ง 20 สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นการบอกให้คุณได้เตรียมตัว ก่อนจะเข้าวัยที่ไม่เหมือนเดิม เตรียมทั้งเรื่องของร่างกาย จิตใจ และพร้อมจะเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิม

สุดท้าย เราหวังว่าอย่างน้อยสักครั้งหนึ่ง ให้คุณได้ทำบางอย่างในชีวิตที่อาจเคยคิดจะทำแต่ไม่มีเวลา ดังนั้น ตอนนี้ล่ะ ! เริ่มเลย !  เพราะเวลามันเคยรอใคร ออกไปใช้ชีวิตให้คุ้มกันเถอะ ! อย่างให้มาคิดเสียดายทีหลังว่าทำไมตอนนั้นไม่ได้ทำ

10 ที่จอดรถปราบเซียน ต้องระวังเพราะแคบมาก!

ปัญหาเรื่องที่จอดรถ ถือเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้วในเวลานี้ เพราะจำนวนรถในตอนนี้ มีมากกว่าที่จอดรถที่พอจะรองรับได้ ทำให้การแก่งแย่งที่จอดรถ กลายเป็นสิ่งที่คนกรุงทุกสมัยนิยมทำกัน อีกทั้งที่ดินแปลงใหญ่ๆ สำหรับสร้างตึกจอดรถในเมือง หายากมากกว่าแต่ก่อน ทำให้การออกแบบจึงต้องให้ได้ประโยชน์มากที่สุด แม้แต่ที่จอดรถ ไม่ว่าจะพื้นที่คับแคบแค่ไหน สถาปนิกก็ต้องออกแบบให้รถเข้าไปจอดได้แ

งานนี้เป็นการวัดใจว่า ฝืมือการขับรถของใครจะเก่งกว่ากัน รวมไปถึง ขนาดตัวรถ การกะระยะ ว่าใครจะกะได้แม่นยำและมีประสบการณ์การขับขี่มากกว่ากัน เพราะถ้าพลาดขึ้นมา หรือใครเอารถกระบะไซส์ใหญ่ หรือรถตู้ขึ้นไป ก็จะได้ริ้วรอยที่ตัวรถติดกลับไปด้วย …

CARRO รวบรวม 10 สถานที่และอาคาร ที่จอดรถปราบเซียน ที่จอดรถสุดโหด แถมหาที่จอดได้ยากที่สุด (นั่นหมายถึง การขับรถขึ้น-ลง ตึก ที่ยากลำบาก และหาที่จอดรถได้ยาก) ให้ท่านผู้อ่านได้เตรียมตัวเวลาไปใช้บริการครับ.

10 อันดับ ที่จอดรถปราบเซียน และหาที่จอดได้ยากที่สุด / อาคารศรีวรจักร

อาคารศรีวรจักร

สำหรับ อาคารศรีวรจักร ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนหลวง ใกล้โรงพยาบาลกลาง ย่านวรจักร ซึ่งขึ้นชื่อว่า เป็นย่านที่รถติดและวุ่นวายมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เป็นแหล่งขายอุปกรณ์ อะไหล่รถยนต์ ชุดแต่ง อุปกรณ์เครื่องมือช่างต่างๆ นอกจากนี้ เดินจากหลังอาคาร ยังสามารถทะลุตรอกเล็กๆ ไปถึงคลองถมได้เลย จึงสะดวกสำหรับคนที่จะมาช็อปปิ้งแถวนี้

และถือว่าเป็นอาคารที่จอดรถปราบเซียน สำหรับนักขับมือใหม่และมือเก่าทั้งหลายเลยทีเดียว หลอนทุกโค้ง ด้วยทางโค้งขึ้นตึกที่แคบ ขึ้นชื่อว่าขับรถขึ้น-ลง ได้ยากที่สุด (โดยเฉพาะรถคันใหญ่ และยาว) เป็นอันดับแรก ยิ่งใครขับรถเกียร์ธรรมดา มีได้ถอยกันทุกชั้น มีฝากรอยแผลของการเบียดจากรถอยู่นับไม่ถ้วน บริเวณทางขึ้น-ลง

โรงแรมไวท์ออคิด / Royal Bangkok @ Chinatown)

โรงแรมไวท์ออคิด (ปัจจุบัน โรงแรม Royal Bangkok @ Chinatown)

โรงแรมย่านใจกลางถนนเยาวราชแห่งนี้ (ปัจจุบันคือ โรงแรม Royal Bangkok @ Chinatown) ถือว่า เป็นตึกจอดรถที่ทางขึ้น-ลง สุดแคบ และเตี้ย โคตรปราบเซียน อีกทั้งช่องจอดทำไว้ให้จอดรถได้ 2 คัน แต่เอาจริงๆ ต้องจอดชิดกันสุดๆ ซึ่งในอาคารนี้ เกิดปัญหารถเฉี่ยวชนกันบ่อยมากๆ เรียกได้ว่าต้องกะระยะกันให้ดีๆ เลยทีเดียว

White-Orchid-Hotel-Chinatown

ภายในลานจอดรถ โรงแรม Royal Bangkok @ Chinatown (ขอบคุณภาพจากคุณ thaipower สมาชิก Pantip.com)

10 อันดับ ที่จอดรถปราบเซียน และหาที่จอดได้ยากที่สุด / ที่จอดรถคลองถมพัฒนา

อาคารจอดรถ คลองถมพัฒนา

อาคารจอดรถคลองถมพัฒนา อยู่บริเวณถนนวรจักร ที่นี่ขึ้นชื่อของความชัน และเตี้ย (สูงเกิน 2.35 เมตร ขึ้นตึกไม่ได้) แต่จะแคบไม่เท่าอาคารศรีวรจักร ด้วยที่ความชันระหว่างทางขึ้นแต่ละชั้น มักจะมีรอยแผลของการเบียดจากรถอยู่ที่ผนังนับไม่ถ้วน

10 อันดับ ที่จอดรถปราบเซียน และหาที่จอดได้ยากที่สุด / ตึกจอดรถ ถนนตรีมิตร

ตึกจอดรถ ถนนตรีมิตร

อีกหนึ่งจุดปราบเซียนสุดโหดอีกที่ นั่นคือ ตึกจอดรถ ริมถนนตรีมิตร ใกล้กับซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย–จีน หรือวงเวียนโอเดียนเก่า เป็นตึกจอดรถที่ด้านล่างสร้างเป็นอาคารพาณิชย์สำหรับค้าขาย ด้านบนสำหรับจอดรถ ที่มีทางขึ้น-ลง ทางจอดรถที่แคบสุดๆ

Texus สุกี้ เยาวราช

Texus สุกี้ เยาวราช

ด้วยความที่เป็นย่านเมืองเก่า ที่ดินสำหรับสร้างตึกจอดรถจึงค่อนข้างมีน้อย และคับแคบมาก อย่างที่ของ เท็กซัส สุกี้ ที่มีทางขึ้น-ลง ทางจอดรถที่เล็กมากๆ แถบมืดและแคบมาก ปราบเซียนมาหลายคนแล้ว โดยทางเข้านั้นห้ามรถที่สูงเกินกว่า 2 เข้าไป เรียกได้ว่ารถกระบะขนของ หมดสิทธิ์

10 อันดับ ที่จอดรถปราบเซียน และหาที่จอดได้ยากที่สุด / ศูนย์ค้าส่ง AEC Trade Center พันธุ์ทิพย์

Pantip Plaza ประตูน้ำ (ปัจจุบัน ศูนย์ค้าส่ง AEC Trade Center พันธุ์ทิพย์)

ศูนย์ค้าส่ง AEC Trade Center พันธุ์ทิพย์ (หรือห้างพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ ในอดีต) หลายคนบอกที่นี่ขับรถ ขึ้น-ลง ตึกจอดรถยาก ถ้าคนขับรถแบบมีประสบการณ์พอสมควร จะยากแค่ตอนขึ้นชั้น 1 มากกว่า เพราะทางเข้าแคบ และยากสำหรับรถที่โหลดเตี้ย

Center One อนุสาวรีย์ชัยฯ

Center One อนุสาวรีย์ชัยฯ

แม้ว่าห้าง Center One อนุสาวรีย์ชัยฯ จะอยู่ริมถนน และมีที่จอดรถอยู่ด้านหลังห้าง แถมทางเข้าซอยแคบมากๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อของที่นี่คือ ทางขึ้น-ลง ลานจอดรถ และลานจอดรถที่แคบทั้งด้านข้างและด้านบน สำหรับรถสูงๆ เข้าออกลำบากหน่อยล่ะ

อาคาร เจมส์ ทาวเวอร์

อาคารจอดรถ Gems Tower

อาคารจอดรถ Gems Tower ถนนเจริญกรุง นี่ก็ถือว่าเป็นตึกจอดรถปราบเซียน ขึ้น-ลง ยากสุดอีกที่ ทั้ง แคบ ชัน โค้งที่แคบมากๆ มีรอยแผลฝากไว้ที่กำแพงเพียบ เหมาะสำหรับคนอยากวัดฝีมือและประสบการณ์การขับรถ

วัดอินทรวิหาร อาคารจอดรถ 5 ชั้น

วัดอินทรวิหาร อาคารจอดรถ 5 ชั้น

วัดอินทรวิหาร อยู่ด้านหน้าธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) สี่แยกบางขุนพรหม หลังตลาดเทเวศร์ (ใกล้ๆ บางลำพู) ทางลงสะพานพระราม 8 ฝั่งพระนคร

มีอาคารจอดรถ 5 ชั้น แบบน็อกดาวน์รองรับรถยนต์ได้ประมาณ 200 คัน กับทางขึ้น-ลง ลานจอดรถแบบไทยๆ ที่แคบและมีโค้งหักศอก ทำเอาบรรดามือใหม่หัดขับ หรือรถกระบะ ต้องเหนื่อยกันหน่อย ขึ้นลงได้ลุ้นกันตลอด ฝากรอยจารึกไว้เป็นยันต์ที่รถกับกำแพงกันเพียบ

มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

อาคารโรงอาหารและที่จอดรถ (ตึก 12) มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

ถือว่าเป็นตึกจอดรถปราบเซียน ขึ้นยากสุดแล้ว ทั้ง แคบ ชัน หักศอก แถมยังเป็นกำแพงทึบ มีรถสวนอีก ดีไม่ดี อาจจะได้แผลกลับบ้านที่รถคุณด้วย ถ้าฝีมือและประสบการณ์ยังไม่ถึง

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

วันหยุดยาว

ใครหงุดหงิดขณะรถติดในช่วงวันหยุดยาวนี้
ลองดู 5 วิธีนี้ จะทำให้คุณผ่อนคลาย

อย่างที่ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าช่วงนี้ใกล้เทศกาลความสุขอย่างส่งท้ายปีเก่าต้อนรับรับปีใหม่ ทำให้มีวันหยุดยาวติดกันหลายวัน และหลายคนกำลังออกเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด หรือไปเที่ยวพักผ่อน ซึ่งการออกจากรุงเทพพร้อม ๆ กัน ผลที่ตามมา แน่นอนคือ รถติด กว่าจะหลุดออกไปยังจังหวัดที่ตนเองได้วางแผนไว้ อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียว

วันหยุดยาว

คาร์โร จึงอยากแนะนำกิจกรรมแก้เบื่อ ที่สามารถทำฆ่าเวลาบนรถได้อย่างเพลิดเพลิน มีอะไรบ้าง ไปดูกัน !

 

1. เปิดคอนเสิร์ตในรถด้วยเพลงโปรด

วันหยุดยาว

กิจกรรมที่ง่ายแสนง่ายไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมอะไรมากมายก็สามารถทำได้ เพียงเปิดเพลงโปรดของคุณ หรือหมุนคลื่นวิทยุหาเพลงเพราะๆ ฟัง แล้วจะฮัมหรือร้องเพลงไปพร้อมๆ กันก็ได้ รับรองว่าแค่ฟังเพลงที่ชอบ ก็ทำให้อารมณ์คุณดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

 

2. หาอะไรทานรองท้อง

วันหยุดยาว

หลายคนต้องตื่นเช้าเพื่อเดินทาง ทำให้อาจละเลยอาหารเช้าไป กว่าจะถึงที่หมายคงหิวจนไส้กิ่ว ดังนั้นก่อนออกจากบ้านอาจหา ผลไม้ แซนวิช หรืออาหารที่มีประโยชน์ใส่กล่อง กินรองท้องแก้หิวขณะรถติดก็ได้นะ ยิ่งผลไม้หวานๆ กินแล้วทำให้อารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย

 

3. ทำ Face Yoga บนรถ

Face Yoga

มาลองบริหารกล้ามเนื้อหน้าโดยการโยคะหน้า แก้เบื่อแก้เซ็งขณะรถติดกันดีกว่า จะได้ดูสวยอ่อนวัยอยู่เสมอไงล่ะ สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลย

 

4. แต่งหน้าไปเพลิน ๆ กว่าจะถึงก็สวยพอดี

วันหยุดยาว

เดี๋ยวนี้การแต่งหน้าในรถไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปสำหรับสาว ๆ เพราะนอกจากจะมีคลิป How to แถมทริคแต่งหน้ายังไงไม่ให้มือสั่นออกมาเพียบแล้ว รวมถึงเช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้า ผม และพอถึงที่หมายก็ได้ดูสวยหล่อพอดี

 

5. เซลฟี่วนไป

วันหยุดยาว

พอแต่งหน้าแต่งตัวมาดูดีแล้ว ก็ต้องต่อด้วยการเซลฟี่ในรถ จะเซลฟี่เดี่ยวหรือถ่ายกับแก๊งเพื่อนหรือกับครอบครัว และหารูปอัพลงเฟซบุ้ค ไอจี อวดเพื่อนๆ ยิ่งถ้าได้รูปสวยถูกใจแล้วอยากจะแต่งสีแต่งรูปให้สวยปังกว่าเดิมก็ถือว่าเป็นการฆ่าเวลาแถมเพลินสุดๆจนอาจลืมเวลาไปเลย !

วันหยุดยาว

อย่างไรก็แล้วแต่ เราขอแนะนำว่าควรทำเฉพาะเมื่อรถติดหนักๆ จนนิ่งไม่ขยับไปไหนจะดีกว่าค่ะ แล้วอย่าลืมความระมัดระวัง ไม่ประมาทในขณะขับขี่ด้วยนะคะ

Driving-License

สิ่งที่จำเป็นสำหรับคนขับรถยนต์ และคนขี่รถจักรยานยนต์ ที่ต้องมีพกติดตัวไว้ตลอดเวลาของการขับขี่ นั่นคือ “ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์” ซึ่งใบขับขี่ ก็ยังแบ่งออกเป็นได้อีกหลายๆ ประเภท รวมไปถึงคุณสมบัติต่างๆ ที่สำคัญว่ามีอะไรบ้าง

สำหรับในอดีต กรมการขนส่งทางบก ยังได้มีการออกใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพให้ แต่ถูกยกเลิกไปเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2546 (ซึ่งหากใครที่มีใบขับขี่ประเภทตลอดชีพอยู่ สามารถไปเปลี่ยนบัตรเป็นแบบสมาร์ทการ์ดได้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงประเภทของใบขับขี่ใดๆ) จึงทำให้มีการต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ส่วนบุคคลแบบปัจจุบัน คือ มีอายุครั้งละ 5 ปี บังคับใช้ทั้งในรถยนต์ส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล

ทาง CARRO ขอแนะนำวิธีการสอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ให้ทุกท่านได้อ่านและปฏิบัติกันครับ.

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

เริ่มแรก ไปทำใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้านท่าน …

*สำหรับในเขตกรุงเทพฯ และปริมณทล มี 5 พื้นที่ ได้แก่

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 5 (ถ.พหลโยธิน ตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร)
โทร. 02-271-8888 ต่อ 4201-4 หรือ 1584

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 (ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล)
โทร. 02-415-7337 ต่อ 204-205

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 2 (ถ.สวนผัก ตลิ่งชัน)
โทร. 02-433-4773

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 (ถ.สุขุมวิท ตรงข้าม ซ.สุขุมวิท 62/1)
โทร. 02-333-0035

สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 (ถ.สุวินทวงศ์ หนองจอก)
โทร. 02-543-5512

ผู้ที่ภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ยื่นคำขอที่สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดสาขา หรือกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งเขตใดเขตหนึ่งก็ได้ (เพราะมีระบบออนไลน์ถึงกันหมด) สามารถค้นหารายละเอียดได้ที่ http://www.dlt.go.th

หรือ สอบใบขับขี่กับโรงเรียนสอนขับรถของเอกชน ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

1. การขอทำใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว (2 ปี)

– ผู้ขอทำใบขับขี่รถยนต์ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
– ผู้ขอทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 90 ซีซี ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์
– เป็นผู้ที่ไม่มีร่างกายบกพร่อง เช่น ตาบอด ตาบอดสี หรือหูหนวก เป็นต้น

หลักฐานเอกสารประกอบ เพื่อขอทำใบขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว

1. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ (เซ็นสำเนาถูกต้อง พร้อมระบุเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ)
3. ใบรับรองแพทย์ ซึ่งตรวจไว้ไม่เกิน 1 เดือน

จากนั้น ทำการยื่นคำขอพร้อมหลักฐานเอกสารประกอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและลงทะเบียนรับ เสร็จแล้วรับคืนเอกสารฉบับจริง

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

ขั้นตอนอบรมและทดสอบ เพื่อขอทำใบขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว

1. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ ทดสอบการมองเห็นสีที่จำเป็นในขณะขับรถ ความลึกของการมองเห็น ลานกว้างของสายตา และทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อเห็นสีไฟจราจร
2. อบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรทางบก เครื่องหมายพื้นทาง ป้ายบังคับ ป้ายเตือน ป้ายแนะนำ มารยาทและจิตสำนึก เทคนิคขับรถให้ปลอดภัย บำรุงรักษารถ การรับรู้สถานการณ์อันตรายและรูปภาพจราจรต่างๆ
3. สอบภาคทฤษฏี (ทดสอบข้อเขียน) ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (E-Exam) ซึ้งต้องผ่าน 90% จำนวนข้อสอบทั้งหมด 50 ข้อ ต้องให้ได้ 45 ขึ้นขึ้นไป เนื้อหาข้อสอบ ดูรายละเอียดได้ใน Link นี้ – http://apps.dlt.go.th/e_exam/
4. สอบภาคปฏิบัติ (ทดสอบขับรถ) ตามชนิดใบขับขี่ (รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว)
5. เสียค่าธรรมเนียมกรณีสอบผ่านทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ (รถยนต์ชั่วคราว 2 ปี 205 บาท รถจักรยานยนต์ชั่วคราว 2 ปี 105 บาท)
6. ถ่ายรูป พิมพ์บัตร แล้วรอรับใบอนุญาตขับขี่

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

2. การขอทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (5 ปี)

ผู้ที่ขอทำใบขับขี่ส่วนบุคคล 5 ปี เป็นผู้ที่ได้รับใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และสามารถยื่นก่อนใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 60 วัน

หลักฐานเอกสารประกอบ เพื่อขอทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล หรือรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (5 ปี)

1. ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว แล้วแต่กรณี ที่ยังไม่หมดอายุ
2. สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว แล้วแต่กรณี จำนวน 1 ฉบับ
3. บัตรประจำตัวประชาชน
4. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ (เซ็นสำเนาถูกต้อง พร้อมระบุเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ)
5. ใบรับรองแพทย์ ซึ่งตรวจไว้ไม่เกิน 1 เดือน

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

ขั้นตอนอบรมและทดสอบ เพื่อขอทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี หรือรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี

1. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ ทดสอบการมองเห็นสีที่จำเป็นในขณะขับรถ ความลึกของการมองเห็น ลานกว้างของสายตา และทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อเห็นสีไฟจราจร
2. เสียค่าธรรมเนียม (รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี 505 บาท รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี 255 บาท)
3. ถ่ายรูป พิมพ์บัตร แล้วรอรับใบอนุญาตขับขี่

*กรณีเอกสารหลักฐานประกอบ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว สิ้นอายุแล้วเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายและทดสอบข้อเขียน ผ่านตามเกณฑ์ จึงสามารถรับใบอนุญาตขับขี่ส่วนบุคคล 5 ปีได้
**แต่ถ้าใบอนุญาตขับขี่ชนิดชั่วคราว สิ้นอายุแล้วเกินกว่า 3 ปี ต้องเข้ารับการอบรม ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ทดสอบข้อเขียนและทดสอบขับรถด้วย เหมือนกรณีมาขอทำใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว หรือรถจักรยานยนต์ชั่วคราว

สอบใบขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ... ง่ายนิดเดียว

3. การต่อใบอนุญาตขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี

การต่อใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลหรือใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล ชนิด 5 ปี มาเป็น 5 ปี สามารถยื่นก่อนใบอนุญาตขับขี่สิ้นอายุไม่เกิน 3 เดือน

หลักฐานเอกสารประกอบ เพื่อต่อใบอนุญาตขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี

1. ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลหรือใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลเดิม แล้วแต่กรณี
2. บัตรประจำตัวประชาชน
3. ใบรับรองแพทย์

ขั้นตอนอบรมและทดสอบ เพื่อขอต่อใบอนุญาตขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี

1. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ ทดสอบการมองเห็นสีที่จำเป็นในขณะขับรถ ความลึกของการมองเห็น ลานกว้างของสายตา และทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อเห็นสีไฟจราจร
2. อบรม 1 ชั่วโมง
3. เสียค่าธรรมเนียม (รถยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี 505 บาท รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล 5 ปี 255 บาท)
4. ถ่ายรูป พิมพ์บัตร แล้วรอรับใบอนุญาตขับขี่

*กรณีใบขับขี่เดิมสิ้นอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี เพิ่มขั้นตอนการสอบข้อเขียน
**กรณีใบขับขี่เดิมสิ้นอายุเกิน 3 ปี ต้องทดสอบข้อเขียนและทดสอบขับรถ

Sign

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับรายละเอียดการทำใบขับขี่ที่ทาง CARRO นำมาให้ได้ศึกษากัน ในส่วนของใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ หรือใบขับขี่ส่วนบุคคลชนิดที่ 2, 3 และ 4 (รถบรรทุก รถพ่วง) ทางเราจะนำมาเสนอในโอกาสต่อไปครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Hyundai-H-1-Starex

Hyundai H-1 / Grand Starex ปรับโฉมครั้งใหญ่ สวย หรู น่าใช้มากยิ่งขึ้น

Hyundai-H-1

Hyundai H-1 (ฮุนได เอช-วัน) หรือ Grand Starex (แกรนด์ สตาร์เร็กซ์) แม้ว่าโฉมนี้จะผลิตออกมาขายตั้งแต่ปี 2007 แล้ว แต่ก็ยังคงขายได้เรื่อยๆ ในหลายประเทศ ด้วยคุณสมบัติที่มากมาย ราคาที่ไม่แพงนักเมื่อเทียบกับรถประเภทเดียวกันยี่ห้ออื่น แถมคู่แข่งในตลาดก็มีไม่กี่เจ้า อย่างในประเทศไทย Hyundai H-1 ถือว่าสร้างชื่อเสียงให้กับ ฮุนได มาตลอด 10 ปี ที่กลับเข้ามาทำตลาดในไทยอีกครั้ง

Hyundai-H-1

Hyundai Grand Starex เวอร์ชั่นเกาหลี ถึงเวลาไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่สอง ด้านหน้าปรับโฉมต่างไปจากเดิมมาก ด้วยไฟหน้าทรงเหลี่ยม กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าใหม่ ล้อแม็กลายใหม่ โดยในรุ่น Top ใช้ชุดไฟท้ายแบบ LED และล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ให้ความหรูหราสง่างามมากยิ่งขึ้น

Hyundai-H-1

Hyundai-H-1

มิติตัวถังยาว 5,150 มม. กว้าง 1,920 มม. สูง 1,925 มม. ระยะฐานล้อ 3,200 มม.

Hyundai-H-1-Interior

Hyundai-H-1-Interior

ภายในห้องโดยสารเปลี่ยนชุดคอนโซลหน้าใหม่หมด พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน หัวเกียร์ออกแบบใหม่ มีระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว หน้าจอทัชสกรีน อยู่กึ่งกลางคอนโซล และติดตั้งระบบแอร์ดิจิตอล พร้อมระบบถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง

Hyundai-H-1

ขุมพลังเป็นแบบดีเซลขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว CRDi ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที (ในรุ่นเกียร์ธรรมดา) และ 175 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที (ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ) แรงบิดสูงสุด 36.0 กก.-ม. ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที (ในรุ่นเกียร์ธรรมดา) และ 46.0 กก.-ม. ที่ 2,000-2,250 รอบ/นาที (ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ)

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 9.4 กม./ลิตร (ในรุ่น 2WD) และ 8.9 กม./ลิตร (ในรุ่น 4WD)

ในตลาดเกาหลีใต้สามารถเลือกห้องโดยสารภายในได้ถึง 5 แบบ เช่น 3 ที่นั่ง, 5 ที่นั่ง, 9 ที่นั่ง, 11 ที่นั่ง และ 12 ที่นั่ง

Hyundai-H-1

ส่วนในตลาดบ้านเรา คงต้องรอดูในปีหน้านี้ ว่าทางอินโดนีเซีย ผู้ผลิต Hyundai H-1 / Grand Starex ส่งให้กับไทย จะเปิดตัวและพร้อมส่งออกกันเมื่อไหร่ครับ

ส่วนใครที่สนใจ Hyundai H-1 / Grand Starex มือสอง สามารถเข้าไปดูได้ที่ https://th.carro.co/buycar/Hyundai หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “CARRO Thailand” ครับผม

ชมภาพรถสีม่วง Ultra Violet เทรนด์สีปี 2018

Pantone ประกาศเทรนด์สีปี 2018 คือสีม่วงหรือสี Ultra Violet

หลาย ๆ คนได้อัปเดตเทรนด์ต่างๆในปีหน้ากันแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้ บริษัท Pantone ผู้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับสีและสิ่งพิมพ์รายใหญ่ของโลก ได้ประกาศเทรนด์สีประจำปี 2018 หรือ Color of the Year 2018 คือ สีม่วง Ultra Violet หรือ PANTONE 18-3838

Pantone-Ultra-Violet

ซึ่งสีม่วง Ultra Violet เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่เป็นไปได้ สร้างแรงบันดาลใจ สะท้อนถึงจินตนาการ ความเฉลียวฉลาด และวิสัยทัศน์ที่เป็นตัวกำหนดอนาคต นอกจากนี้สีม่วง Ultra Violet ยังทำให้นึกถึงความลี้ลับของจักรวาล ที่กว้างไกลไร้ขอบเขต

ดังนั้น คาร์โร จึงได้รวบรวมรถที่มีสีม่วงมาให้คุณได้ชมกัน ไปเริ่มกันเลย !

Lamborghini huracan

Lamborghini huracan

BMW M7

BMW M7

 

Ford Fairlane ’58

Ford Fairlane '58

 

Ford Falcon GT

Ford Falcon GT

 

Ford Mustang

Ford Mustang

 

Suzuki Swift

suzuki-swift

Mercedes-Benz SL Class

Mercedes-Benz SL-Class

Mercedes-Benz SLS AMG

Mercedes-Benz SLS AMG

 

Peugeot 208 XY Concept

Peugeot 208 XY Concept

Plymouth GTX

Plymouth GTX

Porsche 911 GT3 RS

Porsche 911 GT3 RS

Porsche 911 GT3 RS

ของขวัญ-ปี-ใหม่

รวมไอเดียยอดแย่สำหรับการเลือกของขวัญจับฉลาก
ในงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

และแล้ว… ก็ใกล้ถึงเทศกาลแห่งความสุขอีกครั้ง และสำหรับกิจกรรมประจำช่วงปีใหม่ คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก การจับฉลาก !! จะจับกันกับเพื่อนในกลุ่ม เพื่อนมหาวิทยาลัย เพื่อนที่ทำงาน หรือในครอบครัว นั่นเป็นที่มาว่าทำไมเราต้องเริ่มมองหาของขวัญจับฉลากเตรียมกันได้แล้ว ! แต่ ขอเถอะ ของขวัญจับฉลากยอดแย่แบบนี้ อย่าได้นำมาจับในกลุ่มเลย ถ้าไม่อยากให้ผู้รับต้องเสียความรู้สึก

1. เงิน

ของขวัญ-ปี-ใหม่

จริงๆแล้วการนำเงินใส่ซองมาจับฉลากนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย  ข้อดีคือ ผู้รับสามารถนำเงินไปซื้อสิ่งที่ตนต้องการหรือนำไปใช้ต่อได้ในภายภาคหน้า แต่ผู้รับจะรู้สึกถึงความไม่ใส่ใจของผู้ให้เลย ทำให้ผู้รับมี 2 ความรู้สึกทั้งดีและไม่ดีนั่นเอง

 

2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ของขวัญ-ปี-ใหม่

ปีใหม่ทั้งทีหลายๆคนก็อยากเริ่มต้นด้วยอะไรที่ดีๆกันใช่ไหม ?  แต่ถ้าคุณนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ หรือของที่เป็นอบายมุขมาจับฉลาก ผู้ให้จะคิดว่าคุณได้ให้สิ่งที่ไม่เป็นมงคลสำหรับชีวิตเขา จริงอยู่ที่คุณอาจจะชอบแต่ไม่ได้หมายความว่าผู้รับจะชอบด้วย

 

3. ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน

ของขวัญ-ปี-ใหม่

คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าที่บ้านของคนที่จับได้ของขวัญของคุณนั้นมีของสิ่งนี้หรือไม่ เพราะถ้าเขามีแล้ว เขาก็คงไม่ได้ใช้ ทำให้กลายเป็นของขวัญที่ดูไร้ค่าขึ้นมาทันที

 

4. นาฬิกาตั้งโต๊ะ

ของขวัญ-ปี-ใหม่

เป็นของขวัญปีใหม่สุดเบสิกที่คิดอะไรไม่ออกก็มักจะซื้อมาจับฉลาก ถ้าตอนสมัยเด็กจับกันเล่นๆ ไม่คิดอะไรก็สนุกดีอยู่หรอก แต่พอโตขึ้นคุณยังซื้อของพวกนี้มาจับฉลากอยู่ละก็ มันจะบ่งบอกถึงรสนิยมของคุณที่ดูไปทางค่อนข้างแย่เสียกว่า

5. คูปองส่วนลด

ของขวัญ-ปี-ใหม่

มันดีต่อผู้รับจริงหรอ ? ต้องคิดให้ดีๆ เพราะบางคูปองส่วนลดต้องเสียเงินก่อนที่จะได้รับส่วนลด ทำให้ผู้รับต้องเสียเงินอีกรอบเพื่อที่จะได้รับส่วนลดนั้น ทำให้ผู้รับรู้สึกแย่ที่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อน มันน่าโดนตีจริงๆนะ

 

6. จิ๊กซอว์

ของขวัญ-ปี-ใหม่

สำหรับการให้ของขวัญปีใหม่ที่เป็นจิ๊กซอว์ อาจดูเป็นงานอดิเรกที่ให้ได้ใช้สมาธิ ดูน่าสนุกแน่ๆเลย แต่คุณอาจคิดผิดก็ได้นะ !  เพราะบางคนแทบไม่มีเวลาที่จะว่างทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว (ยกเว้นเป็นงานอดิเรกที่เขาชื่นชอบจริงๆ) มันจะกลายเป็นภาระของผู้รับไปเสียมากกว่า ว่าหลังจากต่อเสร็จจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหน และไหนจะนำไปใส่กรอบ นานๆไปมันหลุด สุดท้ายพังทำอะไรไม่ได้ก็ต้องทิ้ง (อันนี้จากประสบการณ์ตรง)

 

7. ของขวัญมือสอง

ของขวัญ-ปี-ใหม่

“แหม๋ ก็ของขวัญอันนี้ได้มาก็ไม่เคยได้ใช้เลย เก็บไว้อย่างดี เอามาจับฉลากกับเพื่อนๆดีกว่า” (แบบนี้ก็ได้หรอ ?) ผู้รับอาจจะไม่รู้ เพราะถ้ามันยังใหม่มาก อาจไม่ทันได้สังเกตุ แล้วถ้าผู้รับมารู้ทีหลังเขาอาจจะเสียความรู้สึก และรู้สึกไม่ดีต่อตัวคุณเอง

แต่ถ้าเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้ใช้งาน นำเอามาขายกับคาร์โรสิ เรารับซื้อรถมือสองที่ให้ราคาที่ดีสุดกับคุณแน่นอน มีตังไปซื้อของขวัญให้ตัวเองเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

Toyota-Vios-Laos

โฉมเดียวกับ Yaris ATIV ในไทย แต่เป็น Vios ในลาว

Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) ใหม่ เปิดตัวแล้วในประเทศลาว โฉมเดียวกับ Yaris ATIV (ยาริส เอทีฟ) ในไทย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3 ลิตร ราคาขายเริ่มต้น 160 ล้านกีบ (631,000 บาท) มีตัวถังสีฟ้าอ่อน Greyish Blue Metallic ซึ่งไม่มีจำหน่ายในบ้านเรา ให้เลือกด้วย

Toyota-Vios-Laos

Yaris ATIV ใหม่ เมื่อนำไปขายในประเทศลาว ได้ใช้ชื่อรุ่น “Vios” แทนที่รุ่นเดิม มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย นั่นคือ 1.3E เกียร์ธรรมดา และ 1.3G เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ขายควบคู่ไปกับ Yaris 5 ประตู ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร เช่นกัน

Toyota-Vios-Laos

Toyota-Vios-Laos

Toyota-Vios-Laos

ในรุ่น 1.3G CVT เพิ่มไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ + ไฟ Daytime Running Light แบบ LED, ไฟท้ายแบบ LED, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว

Toyota-Vios-Laos

Toyota-Vios-Laos

ภายในห้องโดยสารมีออพชั่นให้มาครบครัน ไม่ต่างจากเวอร์ชั่นไทย อาทิเช่น พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง, มาตรวัดเรืองแสง Optitron, เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8″ ทุกรุ่นย่อย และดูภาพจากกล้องมองหลังได้, ช่องเชื่อมต่อ USB/AUX, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อม Heater, กุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่ม Push Start, ถุงลมนิรภัยรอบคัน 7 จุด เป็นต้น

Vios เวอร์ชั่นลาว มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส 1NR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.5 กก.-ม. (123 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT

Toyota-Vios-Laos

ราคาจำหน่าย Toyota Vios ใหม่ ในประเทศลาว ราคาเริ่มต้นที่ 160 ล้านกีบ เมื่อคิดเป็นเงินไทยอยู่ระหว่าง 631,000 – 706,000 บาท (หรือ 19,300 – 21,600 ดอลล่าร์สหรัฐฯ)

Suzuki-Spacia

2 บุคลิก 2 สไตล์ เหมาะสำหรับวัยรุ่น และคุณแม่บ้านไว้ขับรถไปรับลูก หรือจ่ายตลาด

“Suzuki Spacia” (ซูซูกิ สปาเซีย) และ “Suzuki Spacia Custom” (ซูซูกิ สปาเซีย คัสตอม) ถึงเวลาปรับโฉมโมเดลเชนจ์ ขวัญใจคนรักรถ K-Car โดยเปิดตัวไปตั้งแต่ในงาน Tokyo Motor Show 2017 ที่ผ่านมา และทุกแบบยังเป็นเครื่องยนต์ Hybrid เอาใจคนรักความประหยัดด้วย

Suzuki-Spacia-Styling

Suzuki-Spacia-Styling

หากย้อนไปดูที่มาของ “Suzuki Spacia” ตั้งแต่เจเนอเรชั่นแรก เริ่มผลิตขายกันตั้งแต่เดือนมีนาคม 2013 โดยมาแทนที่รุ่น Palette ที่เลิกจำหน่ายไป จนถึงเจเนอเรชั่นที่ 2 (MK53S) นี้ ออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ประตูข้างแบบบานเลื่อนด้วยไฟฟ้า โดย Spacia หน้าตามาแนวน่ารักสดใส เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงและคนที่มีครอบครัว

Suzuki-Spacia-Custom-Styling

Suzuki-Spacia-Custom-Styling

ส่วน “Spacia Custom” หน้าตาดุดัน มีการใช้สีดำตัดกระจกมองข้างและหลังคา เอาใจวัยรุ่น หรือคนวัยทำงานที่ชอบรถขนาดเล็ก

Suzuki-Spacia-Interior

ห้องโดยสารภายใน แผงคอนโซลหน้าดูเหลี่ยมๆ แต่แฝงไปด้วยออพชั่นทันสมัยเพียบ ใช้วัสดุดูแพง ปรับปรุงจุดเก็บของต่างๆ ให้ดูอเนกประสงค์และสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดย Spacia มีให้เลือกทั้งโทนสีเบจ และโทนสีเทา-ดำ ส่วน Spacia Custom มีเฉพาะโทนสีดำเท่านั้น

Suzuki-Spacia-Custom-Interior

Suzuki-Spacia-Custom-Interior

ในส่วนของระบบความปลอดภัย บอกได้คำเดียวว่าจัดเต็ม ซูซูกิ ให้มาทั้ง ระบบเตือนและป้องกันการชนด้านหน้า Dual Sensor Brake Support, ระบบหลีกเลี่ยงการปะทะทั้งหน้า-หลัง ระบบป้องกันการชนด้านหลังขณะถอยหลัง Back-up Brake Support ที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถยนต์ K-Car แถมติดตั้งกล้องมองภาพรอบคัน และระบบ Head-Up Display เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Suzuki-Spacia-Safety

Suzuki-Spacia-Safety

Suzuki-Spacia-Safetyสำหรับเครื่องยนต์ … มาพร้อมเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 660 ซีซี รหัส R06A แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว VVT ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 5.1 กก.-ม. (50 นิวตันเมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) สูงสุด 28.2 กม./ลิตร

Suzuki-Spacia-Engine

ในส่วนของแบบ Custom มีเครื่องยนต์เป็น Hybrid Turbo ให้เลือกเพิ่ม แบบ 660 ซีซี รหัส R06A แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว VVT Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 6.1 กก.-ม. (60 นิวตันเมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) สูงสุด 25.6 กม./ลิตร

ทั้ง 2 รุ่น ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า WA05A ให้แรงม้าสูงสุด 3.1 แรงม้า ที่ 1,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 50 นิวตันเมตร ที่ 100 รอบ/นาที (Mild Hybrid) พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT และระบบขับเคลื่อนที่มีทั้งล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ

Suzuki-Spacia-Safety

มีให้เลือกใน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Hybrid X, Custom Hybrid XS และ Custom Hybrid XS Turbo ในราคาตั้งแต่ 1,409,400 – 1,908,360 เยน

ส่วนในไทย โอกาสที่จะนำเข้ามาขายนั้น คงบอกได้แต่เพียงว่า ต้องพึ่งผู้นำเข้าอิสระอย่างเดียว แต่จะใครซื้อหรือไม่ อันนี้ไม่รู้ครับ เพราะราคารวมภาษีแล้ว ราคาประมาณหนึ่งล้านกว่าบาท

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.suzuki.co.jp/

กิจกรรมฤดูหนาว

ฤดูหนาวที่มาเดี๋ยวเดียวก็จากไป
หากิจกรรมสร้างความเย็นเองดีกว่า

ปาเข้าไปเกือบจะสิ้นเดือนธันวาแล้ว ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เพราะนอกจากการมาถึงของเงินโบนัสที่รอคอยมาทั้งปีแล้ว ช่วงนี้ยังเป็นช่วงของงานเทศกาล วันหยุดต่าง ๆ และอากาศหนาวที่เราต่างตั้งตารอ…

แต่ !! เมืองไทยมีฤดูหนาวที่ไหนกัน มาให้เราดีใจอยู่วันสองวัน แล้วก็จากกันไปไม่ลาสักคำ ก็อย่าได้แคร์ไป ความสุขของเราอยู่ที่เรา และถ้าอากาศจะไม่หนาว เราก็สร้างขึ้นมาเอง กับกิจกรรมทำประชดหนาว เพื่อความสุขก่อนจะถึงปีใหม่นี้

 

1. กิจกรรมฤดูหนาว : ช้อปเสื้อผ้า Winter collection 

Winter collection

นักช้อปตัวยงอย่างเราพอมีคอลเลกชันใหม่เข้ามา หน้าที่ของเราคือการซื้อเท่านั้น ! ทำไงได้ล่ะ ไม่ว่าจะเป็นร้านแบรนด์เล็กหรือแบรนด์ใหญ่ต่างก็ออกมา Winter collection ให้เราจับจ่ายกันทั้งนั้น ถึงแดดบ้านเราจะร้อนแรงก็ตาม หรือแม้ว่าอากาศในตอนนี้มันจะไม่หนาวแล้ว แต่ก็ขอว่าอย่าได้แคร์ ซื้อแล้วต้องใส่ อ้างไปว่า “ก็มันเป็นแฟชั่นอ่ะ”

 

2. กิจกรรมฤดูหนาว : เล่นไอซ์สเก็ต

ไอซ์สเก็ต

กิจกรรมเวรี่สุดคูลที่เอาจริงๆเล่นตอนไหนก็ได้ เพราะบ้านเรามันก็มีแต่ลานสเก็ตในร่ม แต่ไหนๆ ลมหนาวก็พัดผ่านไปแล้ว เรามาพึ่งไอความหนาวจากที่นี่แทนแล้วกัน

 

3. กิจกรรมฤดูหนาว : นั่งลานเบียร์

ลานเบียร์

ยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงลานเบียร์ที่จัดอยู่ตามหน้าห้างฯ เพื่อสังสรรค์และดื่มดั่มเบียร์ไปพร้อมกับบรรยากาศชิลล์ๆ คูลๆ ใครกำลังหาแหล่งลานเบียร์ในกรุงเทพ คลิก

 

4. กิจกรรมฤดูหนาว :กินหม้อไฟ ซูดบะหมี่ ดื่มกาแฟร้อน/ช็อกโกแลต

ดื่มช็อกโกแลต

อากาศหนาว (แต่เอ๋..ทำไมตัวเปียก) ก็ต้องคู่กับการทานของร้อน อย่างการทานซดซุปร้อนๆให้คล่องคอ บวกกับสารพัดผักและเนื้อสัตว์ที่ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น นอกจากนี้การนั่งล้อมวงทานอาหารก็เป็นกิจกรรมครอบครัวที่ดีเหมือนกันนะ หรือจะออกไปนั่งชิลล์ๆที่ร้านกาแฟ หรือชงช็อกโกแลตร้อนทางคู่กับ Marshmallow แค่นี้ก็เหมือนอยู่นิวยอร์กล่ะ

 

5. กิจกรรมฤดูหนาว : กินไอติม

กินไอติม

ถ้าใครอยากได้สัมผัสความเย็นในช่วงเดือนธันวาแบบนี้ ก็ลองไปซื้อไอติมมากินซักแท่งสองแท่ง เราก็สามารถสร้างความเย็นให้กับตัวเองได้ โดยไม่ง้อฝนฟ้าอากาศ แต่ถ้าอยากเพิ่มความเย็นไปอีก แนะนำให้หยิบรีโมทเปิดแอร์ แล้วกินไอติมไปด้วย เย็นสุดขั้วแน่นอน