หนี้สิน

5 คุณสมบัติอันตรายที่บ่งบอกว่าคุณกำลังมีหนี้ท่วมหัว

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันการซื้อของราคาหลักหมื่นหลักแสนนั้นง่ายแสนง่าย  แค่เซ็นและรูดปรื๊ดเดียว ก็สามารถเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตราบใดที่คุณยังสามารถรับผิดชอบภาระหนี้สินจำนวนนี้ได้ แต่ถ้าซื้อเพลินจนกลายเป็นหนี้กองโตสะสม จนเครียดและหาทางออกการชำระหนี้สินไม่ได้ แบบนี้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับคุณแล้วล่ะ !

หนี้สิน

วันนี้ คาร์โร จึงจะให้คุณลองเช็กสถานการณ์หนี้ของตัวเองว่าเป็นแบบนี้รึเปล่า ? ไปดูกันเลยเถอะ !!

1. คุณเริ่มกังวลว่าคนที่บ้านจะเห็นใบแจ้งหนี้ของคุณ

เวลาไปรษณีย์มาส่งจดหมายที่บ้านทีไร คุณเป็นต้องรีบวิ่งไปโกยบรรดาใบแจ้งหนี้ของตัวเองไปซ่อนไว้ไม่ให้ครอบครัวเห็น เป็นแบบนี้ไม่ดีแน่ ๆ เพราะลึก ๆ แล้วแม้แต่ตัวคุณเองยังรู้เลยว่าหนี้สินขนาดนี้นับว่าไม่ธรรมดา ถ้าคนที่รักคุณมาเห็นเข้าต้องตำหนิ และเป็นห่วงชีวิตคุณอย่างแน่นอน แล้วคุณจะไม่ตำหนิ ไม่ห่วงตัวเองหน่อยหรือ ?

 

2. คุณจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคุณมีหนี้อยู่ทั้งหมดเท่าไร

ถ้าคุณคิดไม่ออกว่าคุณมีหนี้สินติดพันอยู่ทั้งหมดเท่าไร หรือรูดซื้ออะไรไปแล้วบ้าง ไม่ว่าจะเพราะจำนวนมันสูงจนนับไม่ถ้วน หรือคุณจงใจลืม ๆ มันไป ก็ล้วนส่อว่าหนี้ที่คุณมีมันเยอะเกินกว่าที่คุณจะรับผิดชอบได้แล้ว อาจทำให้คุณไม่ทันระวังตัว ยิ่งก่อหนี้มาพอกพูนขึ้นไปอีก แถมเวลาถึงกำหนดชำระก็ไม่ทันได้ตั้งตัวหรือวางแผนอะไรเลย

 

3. คุณเริ่มกู้ยืมเงินมาเพื่อใช้หนี้

การกู้หนี้ยืมสินของคนอื่นมาโปะหนี้ส่วนที่ต้องรับจ่าย หนึ่งในวิธีสุดคลาสสิคของคนเป็นหนี้ที่หาทางออกไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วเป็นแค่การหนีปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน หากเป็นแบบนี้หลายงวดเข้า บัญชีหนี้สินของคุณก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย แค่เปลี่ยนเจ้าหนี้ไปเรื่อย ๆ เท่านั้นเอง

 

4. ต้องจ่ายหนี้มากกว่า 45% ของรายได้ทั้งหมด

ถ้าคุณต้องเอาเงินเดือน 45% หรือรายได้เกือบครึ่งไปประเคนให้เจ้าหนี้หมด สุขภาพทางการเงินของคุณระยะยาวต้องแย่แน่ ๆ เพราะนั่นหมายความว่าเกือบครึ่งของทรัพย์สินที่คุณมีอยู่ “ไม่ใช่ของคุณโดยแท้จริง” แต่เป็นทรัพย์สินที่ได้มาด้วยเงินของเจ้าหนี้ทั้งนั้น แล้วเป็นแบบนี้ต่อไปจะไหวอีกแค่ไหน ? ถามใจตัวเองดู

 

5. เวลามีเบอร์ไม่รู้จักโทรเข้ามา คุณจะวิตกกังวลก่อนเลยว่าเป็นการทวงหนี้

มีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามาทีไร คุณเป็นต้องสะดุ้งทุกที ใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ว่าจะเป็นการโทรมาทวงหนี้รึเปล่า ? แปลว่าเจ้าหนี้ได้ประเมินแล้วว่าสถานการณ์ของคุณในตอนนี้มีโอกาสสูงที่จะจ่ายคืนไม่ไหว จึงต้องเข้ามาวนเวียนป้วนเปี้ยนในชีวิตประจำวันของคุณมากขึ้น แล้วแบบนี้ชีวิตจะมีความสุขได้ยังไง ?

หนี้สิน

เป็นยังไงกันบ้าง 5 ข้อนี้ตรงกับชีวิตคุณมากน้อยแค่ไหน ถ้าตรงทุกข้อ อย่านิ่งนอนใจ !! ถึงเวลาต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติการบริหารเงินของตัวเองซะใหม่ ก่อนที่หนี้สินจะรัดตัวซะจนหายใจไม่ออกนะคะ แต่หากใครหาทางออกไม่ได้ ลองเอารถของคุณมาขายกับคาร์โรสิค่ะ รู้ผลภายใน 2 ชั่วโมง รับเงินสดทันทีหลังจากปิดการขาย คลิกเลย !!

Tokyo-Auto-Salon-2018

รวมรถใหม่ รถแต่ง รถซิ่ง ในงาน “Tokyo Auto Salon 2018”
 Tokyo-Auto-Salon-2018

ประมวลภาพรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด รถต้นแบบ และอื่นๆ ในงานมหกรรมยานยนต์ “Tokyo Auto Salon 2018” งานแสดงรถแต่งที่ยิ่งใหญ่สุดในญี่ปุ่น จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1983 ถึงปัจจุบัน …

โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 14 มกราคม 2561 ณ Makuhari Messe เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น … ทาง Carro ขอเก็บตกภาพบรรยากาศ พร้อมรถแต่ง รถซิ่ง สวยๆ มาให้ชมกันครับ

Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018 Tokyo-Auto-Salon-2018 Tokyo-Auto-Salon-2018 Tokyo-Auto-Salon-2018 Tokyo-Auto-Salon-2018 Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018

Tokyo-Auto-Salon-2018

ขอบคุณภาพจาก Tokyo Auto Salon Fanpage

Toyota-C-HR-Price

Toyota C-HR ใหม่ ราคา 979,000 – 1,159,000 บาท ยอดจองกว่า 3 พันคันแล้ว!

Toyota-C-HR

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยราคาจำหน่ายของซับคอมแพคเอสยูวีรุ่นใหม่ Toyota C-HR (Coupe High Rider) โดยมีผลเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม ศกนี้

นับตั้งแต่ Toyota C-HR ได้แนะนำสู่สาธารณชนในช่วงงาน Motor Expo 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์ที่ไร้ขีดจำกัด และเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และ ไฮบริด

Toyota-C-HR

Toyota C-HR ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนทำให้มียอดลงทะเบียนจองสิทธิ์ล่วงหน้ากว่า 3,000 คัน เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,000 คัน* บัดนี้โตโยต้า พร้อมประกาศราคาจำหน่ายรถรุ่นดังกล่าว โดยมั่นใจว่าราคาที่นำเสนอนั้นเป็นราคาที่คุ้มค่า และทุกท่านสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ นอกจากนั้นเรายังพร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้า ดังนี้

– Custom Name Plate สำหรับลูกค้าที่ทำการจองรถตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561
– ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม.
– พิเศษสำหรับรุ่นไฮบริด รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

Toyota-C-HR

โดย Toyota C-HR มีเป้าหมายการขายในปี 2561 อยู่ที่ 2,000 คัน/เดือน สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียน จองสิทธิ์ล่วงหน้าตั้งแต่งาน Motor Expo 2017 ทางบริษัทฯ จะเริ่มส่งมอบรถให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมเป็นต้นไป”
*(ข้อมูลยอดลงทะเบียนจองสิทธิ์เป็นเจ้าของล่วงหน้า Toyota C-HR ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 – วันที่ 12 มกราคม 2561)

Toyota-C-HR

Toyota C-HR มาพร้อมแนวคิด “Live Alive…ออกไปใช้ชีวิต” ด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของเพชร อีกทั้งการออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำ สะท้อนถึงรูปแบบพื้นผิวของอัญมณีที่มีความประณีตในการเจียระไน นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมไปด้วย 4 เทคโนโลยีใหม่ อันได้แก่

– New Generation of Hybrid ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ พัฒนาให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็กลง แต่เก็บประจุไฟฟ้าได้มากขึ้น ทนทานและประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น โดยประหยัดน้ำมันสูงถึง 24.4 กม./ลิตร ด้วยการย้ายตำแหน่งของแบตเตอรี่ ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น

– โครงสร้าง TNGA (Toyota Global New Architecture) ถูกพัฒนาขึ้นโดยการออกแบบโครงสร้างตัวถังใหม่ให้แข็งแกร่ง (Body rigidity) และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง (Low center of gravity) ลดการโคลงตัวของตัวถัง เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ โดดเด่นเรื่องประสิทธิภาพการเกาะถนน (Stablility) คล่องตัวในทุกจังหวะการขับขี่ (Agility) รวมถึงการออกแบบห้องโดยสาร เพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ให้กว้างขึ้นโดยลดจุดอับสายตา (Visibility) นอกจากนี้ Toyota C-HR มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone Suspension) ที่นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนแล้วยังเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่อีกด้วย

Toyota-C-HR

– Toyota Safety Sense ระบบความปลอดภัยใหม่ของรถโตโยต้ามาตรฐานระดับโลกรวมเอาระบบความปลอดภัยขั้นสูงไว้ด้วยกัน อาทิ ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist)

Toyota T-Connect Telematics ระบบที่เชื่อมต่อผู้ขับขี่และรถยนต์ ผ่าน Smart phone และ Apple watch พร้อมทั้งเครือข่ายศูนย์ข้อมูลอัจฉริยะ เพื่อรับข้อมูลและความช่วยเหลือตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทาง T-Connect Telematics บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์และช่วยค้นหาพิกัดในกรณีที่รถถูกโจรกรรม สัญญาณ Wi-Fi ในรถยนต์ และการลดเบี้ยประกันด้วยโปรแกรม Pay As You Drive insurance เป็นต้น

Toyota-C-HR-Price

เลือกเป็นเจ้าของ Toyota C-HR 4 รุ่น 6 สี สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด
(Premium Red/Black Roof, Blue Metallic/Black Roof, Radiant Green Metallic/Black Roof, White Pearl Crystal, Metal Stream Metallic, Attitude Black Mica)
และ 3 สี สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
(White Pearl Crystal, Metal Stream Metallic, Attitude Black Mica)

รุ่น 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท**
รุ่น 1.8 Mid ราคา 1,039,000 บาท**
รุ่น HV Mid ราคา 1,069,000 บาท**
รุ่น HV Hi ราคา 1,159,000 บาท**

Toyota-C-HR

(สำหรับสีพิเศษได้แก่ Premium Red, Blue Metallic และ Radiant Green Metallic พร้อมหลังคาสีดำเพิ่ม 10,000 บาท สี White Pearl Crystal เพิ่ม 10,000 บาท)
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว

Live-Alive-VibeSpace

พร้อมเปิดประสบการณ์ไปกับโตโยต้า “Live Alive Vibe Space”
พบกับยนตรกรรมใหม่ Toyota C-HR และ 4 เทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้ชีวิตของคุณไปได้ไกลกว่า ซึ่งจะยกขบวนไปพบกับลูกค้าโตโยต้าทั่วประเทศ

4-8 มกราคม 2561 เซ็นทรัลลาดพร้าว
19-23 มกราคม 2561 เซ็นทรัล โคราช
7-11 กุมภาพันธ์ 2561 เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่
15-19 กุมภาพันธ์ 2561 เซ็นทรัล ภูเก็ต
23-27 กุมภาพันธ์ 2561 เซ็นทรัล ชลบุรี
7-11 มีนาคม 2561 เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร

ข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมศึกษาได้ที่ http://www.toyota.co.th/model/c-hr/specification

Toyota-C-HR

สำหรับผู้ที่สนใจมองหาและซื้อ Toyota C-HR ใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่า จะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ Carro เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ซื้อ ขาย รีไฟแนนซ์ รถยนต์อย่างมืออาชีพกับ Carro Thailand” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “Carro Thailand” ครับผม

เคล็ดลับ-อายุยืน

เคล็ดลับใกล้ตัวที่ยิ่งทำมากเท่าไร
ก็ยิ่งมีมีสุขภาพดีชีวิตยืนยาวมากเท่านั้น

การมีสุขภาพที่ดีกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายของใครหลายคนไปแล้ว ซึ่งช่วงเวลาหลังผ่านพ้นปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ในปี 2561 เชื่อว่าต้องมีคนกำลังจะใช้โอกาสนี้ตั้งเป้าหมายเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียใหม่ วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับอายุยืน แบบชาวอังกฤษ มาแชร์ใหคุณได้อ่านกัน

เคล็ดลับ-อายุยืน

ตามข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ ชาวอังกฤษมีโอกาสที่จะอายุยืนถึง 79.6 ปี และสุขภาพที่ดีขึ้นของชาวอังกฤษในช่วงศตวรรษ 20 นั้น สาเหตุหลักคืออาหาร หลักโภชนาการ และสุขลักษณะที่ดีขึ้น อายุขัยเฉลี่ยของชาวอังกฤษเพิ่มขึ้นถึง 30 ปี ในช่วงปี 1990 ถึง 2010 จำนวนชาวอังกฤษที่มีชีวิตอยู่และได้รับบัตรอวยพรจากสมเด็จพระราชินีนาถในโอกาสวันเกิดครบ 100 ปีของพวกเขาสูงขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ แต่นอกเหนือจากปัจจัยเหล่านี้ยังมีรูปแบบการใช้ชีวิตบางอย่างเป็นที่รู้กันว่าช่วยให้ชาวอังกฤษอายุยืนด้วยเช่นกัน

1.ปริมาณกิจกรรม

คนแข็งแรงที่เดินวันละ 30 นาที อายุยืนกว่าคนที่เดินน้อยกว่า ไม่ว่าจะมีไขมันสะสมในร่างกายมากน้อยเพียงใด แม้แต่คนที่น้ำหนักเกินก็มีหัวใจที่แข็งแรงขึ้นได้ด้วยการเดินให้มากขึ้นแค่สิบนาทีเพิ่มจากกิจวัตรประจำวัน ไม่จำเป็นต้องเข้ายิม แค่เคลื่อนไหวให้ได้ครึ่งชั่วโมงทุก ๆ วันก็เหลือเฟือแล้ว

2.ขาและลำตัวที่แกร่ง

ร่างกายช่วงล่างที่แข็งแกร่งทำให้เกิดสมดุล ความยืดหยุ่น และความทนทาน เมื่อแก่ตัวลงคุณสมบัตินี้คือ กุญแจลดความเสี่ยงการหกล้ม กระดูกสะโพกแตก/ร้าว หรืออาการบาดเจ็บอื่นๆ ที่นำไปสู่สุขภาพที่อ่อนแอเรื้อรัง ราว 1 ใน 5 ของคนทั่วโลกที่กระดูกสะโพกแตก/ร้าว กลายเป็นคนที่สุขภาพถดถอยและเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อน

3.ความมีวินัย

คนที่มองตัวเองว่าเป็นคนมีวินัย มีระเบียบ และบรรลุเป้าเสมอ จะมีแนวโน้มอายุยืนและมีความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์น้อยกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน นี่เป็นข้อสรุปของงานวิจัยที่ใช้เวลาถึง 12 ปีโดยศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยรัช ในชิคาโก ซึ่งพบว่าคนที่ตั้งสมาธิจดจ่อได้เก่งกว่าต้องออกกำลังสมองมากกว่า เพราะเหตุนี้แม้คุณจะเกษียณแล้วจงทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ ลองทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นสมอง

เคล็ดลับ-อายุยืน

4.น้ำหนักตัว

ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป น้ำหนักตัวเกินทำให้อายุสั้นได้จริง เพราะการแบกรับน้ำหนักที่เกินตัวสร้างความเสี่ยงทั้งต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคมะเร็งบางชนิด และโรคหัวใจ

5.การบริโภคเนื้อแดง

การกินเนื้อแดง (เช่น เนื้อวัว) หรือเนื้อสัตว์แปรรูปเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบมากอันดับที่สี่ คิดเป็นร้อยละ 42 ตามข้อมูลงานวิจัยใหม่ชิ้นหนึ่ง เนื้อสัตว์แปรรูปที่โดนโจมตีหนักคือ ฮอทด็อกและเบคอน ที่พบว่ากินเพียงแค่ 2 ออนซ์/ 50 กรัม ต่อวัน ซึ่งเท่ากับไส้กรอกแค่หนึ่งชิ้นก็เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก

6.การมีเพื่อนฝูง

เพื่อนนั้นดีต่อสุขภาพ เพราะมิตรภาพที่อบอุ่นและเหนียวแน่นช่วยลดความเครียด ความเครียดเรื้อรังคือ บ่อนทำลายระบบภูมิคุ้มกัน แถมทำให้เซลล์แก่เร็ว สุดท้ายส่งผลให้ชีวิตเราสั้นลงได้ราวๆ 4-8 ปี

เพื่อนที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุดคือคนที่ฟังคุณได้ทุกเรื่องโดยไม่ตัดสินคุณ ควรมีเพื่อนที่ร่างกายแข็งแรงด้วย เพราะมีงานศึกษาตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์เผยว่า เมื่อเพื่อนๆ หรือครอบครัวคุณน้ำหนักเพิ่ม คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามพวกเขา ดังนั้น พยายามอยู่ในวงล้อมของคนที่ฟิตเฟิร์ม มีความสุข ไม่ตัดสินคนอื่น ชอบออกกำลังกาย และสนุกกับชีวิตเข้าไว้ แล้วคุณจะทำแบบเดียวกัน

เคล็ดลับ-อายุยืน

7.เครื่องดื่มน้ำตาลสูง

นักวิทยาศาสตร์ที่วิทยาลัยสาธารสุขฮาร์วาร์ดได้วิเคราะห์งานวิจัย 11 ชิ้นโดยมุ่งมองที่ความเชื่อมโยงของการบริโภคเครื่องดื่มน้ำตาลสูง (ส่วนใหญ่เป็นน้ำอัดลม) กับโรคบางโรค ได้ข้อสรุปว่าการดื่มเครื่องดื่มน้ำตาลสูงวันละครั้งขึ้นไปเพิ่มความเสี่ยงภาวะหัวใจวาย 20 เปอร์เซ็นต์ และความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ถึง 26 เปอร์เซ็นต์ เทียบกันคนที่ดื่มเครื่องดื่มดังกล่าวไม่ถึง 1 ครั้งต่อเดือน คาดกันว่าการกระตุ้นต่อมรับรสด้วยความหวาน (จะจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์) อยู่เป็นประจำ ทำให้แฟนๆ น้ำอัดลมติดอาหารรสหวานไปด้วย ซึ่งเป็นเหตุเพิ่มน้ำหนักตัว

8.การทำความสะอาดบ้าน

ไม่ใช่เรื่องความสะอาด แต่มันคือการ ‘ชะล้าง’ ร่างกาย การดูดฝุ่น กวาดพื้น หรือล้างหน้าต่างหนึ่งชั่วโมงช่วยเผาผลาญได้ถึงราวๆ 285 แคลอรี ลดความเสี่ยงการเสียชีวิตไปได้ 30 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลของงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ทำกับกลุ่มคนอายุ 70-80 กว่าปี

9.การคิดบวกอยู่เสมอ

ผู้คนที่มองชีวิตด้านบวก มีเป้าหมายในชีวิต และรู้สึกมีส่วนร่วมในสังคมนั้น มีสุขภาพดีกว่าผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รู้สึกดีกับตัวเอง งานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษากลุ่มชนที่อายุยืนที่สุดในโลก (เช่น ชาวเมืองโอกินาวา ในญี่ปุ่น และบนเกาะอิคาเรีย ในกรีซ) พบว่าคนกลุ่มดังกล่าวเหมือนกันตรงการให้ความสำคัญอย่างมากกับครอบครัว เพื่อนฝูง และเพื่อนบ้าน พอๆ การทุ่มเททำงานหนัก

เคล็ดลับ-อายุยืน

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ 9 ข้อที่เราได้กล่าวมานี้เป็นเคล็ดลับง่ายๆใกล้ตัว ที่ยิ่งรู้ก็ยิ่งทำให้สุขภาพดีมีชีวิตยืนยาวแน่นอน รับรอง !!

 

เครดิต : hellomagazinethailand.com

 

วันเด็ก

ย้อนอดีต !!
ของเล่นของสะสมสุดฮิตในวัยเด็ก

หากย้อนไปเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก หลายคนมักจะมีของเล่นที่ชอบและของสะสมอยากได้ แต่ในปัจจุบันได้โตขึ้นของเล่นที่เคยเล่น เมื่อตอนเด็กเหล่านั้นก็กลับค่อย ๆ จางหายไปตามกาลเวลา ของบางอย่างไม่สามารถหาซื้อได้แล้ว บางอย่างเด็ก ๆ สมัยนี้ก็เลิกเล่นไปแล้ว

วันนี้ คาร์โร จึงอยากพาคุณย้อนอตีดวันวานด้วยรูปของเล่น ของสะสม ที่หลายคนต้องเคยมีไว้ครอบครองอย่างแน่นอน มีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย

หมวดของเล่น

1. ยาง

วันเด็ก

การกระโดดยาง เป็นกิจกรรมช่วงพักเที่ยงยอดนิยมของผู้หญิงที่ทุกคนต้องเคยเล่นมาก่อน แต่ไม่ใช่มีแค่ผู้หญิงที่เล่นผู้ชายบางคนก็เล่นด้วย และบางคนกลับเล่นเก่งกว่าผู้หญิงเสียอีก

 

2. รางดินน้ำมัน

วันเด็ก

กิจกรรมยอดฮิตที่หลายคนช่วยกันสร้างสรรค์รางจากดินน้ำมัน กลายเป็นรางที่สุดจะครีเอท มีความยากง่ายในแต่ละจุด เป่าลูกกลม ๆ ไปให้ถึงเส้นชัยด้วยความเร็ว กิจกรรมนี้เท่าที่จำได้ทั้งผู้ชายผู้หญิงก็เล่นกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายเล่นเสียมากกว่า

 

3. กระดาษเสี่ยงทายวันเด็ก

เกมกระดาษเสี่ยงทาย เป็นอีกหนึ่งเกมที่เหล่าสาว ๆ ชอบ จะพับเองเล่นเองหรือชวนเพื่อนมาเล่นก็สนุกสนานไปด้วยกัน เพราะเด็กทุกคนนั้นชอบที่จะเล่นอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเสี่ยงทายอยู่แล้ว

 

4. ลูกแก้ว

วันเด็ก

ผู้ชายคนไหนไม่เคยเล่นดีดลูกแก้วนี้เชยสุดๆ เพราะเป็นกิจกรรมสุดฮิตของผู้ชายเลยก็ว่าได้ มีทั้งจับกลุ่มกันสู้หรือสู้กันตัวต่อตัวก็แล้วแต่จำนวนผู้เล่น ใครชนะก็ยึดลูกแก้วอีกฝ่ายไป

 

5. ลูกโป่งวิทยาศาตร์

วันเด็ก

ตอนเด็กจำได้เลยว่าชอบซื้อมาเป่าเล่นมาก และเมื่อก่อนขายอันไม่กี่บาท ใครสามารถเป่าได้กลมสวยสุด ชนะ ! หรือไม่ก็เปล่าแล้วเอามาต่อๆกันให้เกิดเป็นรูปร่างก็สวยไปอีกแบบ

 

6. ทามาก็อด

วันเด็ก

เรียกได้ว่าเป็นของเล่นที่น่าตื่นเต้นมากในวัยเด็ก เพราะเหมือนได้เล่นกับสิ่งที่มีชีวิต ต้องอาบน้ำ ต้องป้อนข้าว ต้องดูแลเป็นอย่างดีไม่ใช้สัตว์เลี้ยงตาย

 

7. เกมเรียงเลข

วันเด็ก

เป็นเกมที่ต้องใช้ความคิดอยู่พอสมควรเลยสำหรับเกมนี้ เรียกได้ว่า ถ้าเรียงไม่ได้แทบอยากจะแกะออกมาแล้วเรียงเข้าไปใหม่

 

8. เล่นเชือก

วันเด็ก

เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดเพลินที่สามารถเล่นไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดสิ้นสุด โดยให้เพื่อนอีกคนช่วยกันเล่น สอดกันไปมาสลับกับ สนุกจนลืมดูเวลาเลยทีเดียว

 

9. หมากเก็บ

วันเด็ก

เป็นของเล่นที่อยู่คู่กับเด็กที่ชอบเล่นกิจกรรมในร่มเลยก็ว่าได้ บางคนเล่นจนเซียน ทำให้เวลาจับกลุ่มกันเป็นที่ต้องการของเพื่อน ๆ แต่ละด่านมีความง่ายไปยาก นอกจากนี้บางครั้งนำหมากเก็บเอามาร้อยเป็นสร้อยก็มี แต่จะเฉพาะเด็กผู้หญิงเท่านั้นนะที่เอามาร้อยเล่น

 

10. รถแข่งกระดาษ

วันเด็ก

เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยามว่างของเหล่า ๆ เด็กผู้ชาย ที่นำกระดาษมาพับเป็นรถแข่งกระดาษคู่ใจ องค์ประกอบสำคัญในการพับต้องลู่ลมได้ดี เป่าทีเดียวไปได้ไกลกว่าเพื่อน และระบายสีในแบบที่ตัวเองชื่นชอบ เสร็จแล้ว หลังจากนั้นเอาไปดวลกับเพื่อนคนอื่น ๆ

 

หมวดของสะสม ของต้องมี !!

1. กระเป๋า outdoor

วันเด็ก

รองมาจากกระเป๋าหนังแบบถือที่ต้องเอาคลิปหนีบให้แบน ก็ต้องเป็นกระเป๋า outdoor นี้แหละ !! เพราะเป็นไอเท็มสุดเท่ที่ใครๆต้องมี สีสุดฮิตที่หลายคนเลือกซื้อก็คือ สีดำ และสีกรมท่า สะพายไปเรียนแบบเก๋ ๆ

 

2. ปากกา The dog

วันเด็ก

เป็นยี่ห้อปากการุ่นแรก ๆ เลยก็ว่าได้ที่ทำปากกาออกมาหัวเล็กที่สุด แล้วสีน้ำเงินเข้ม เขียนลื่น โดนใจวัยรุ่นสมัยนั้นเป็นอย่างมาก ใครเริ่มได้ใช้ปากกา ปากกายี่ห้อนี้ จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ เลย

 

3. กระปุกดินสอ

วันเด็ก

กระปุกดินสอเป็นเหมือนอะไรที่บ่งบอกถึงตัวคนใช้ และเปรียบเหมือนอุกปรณ์สุดเจ๋ง ยิ่งถ้ามีฟังก์ชั่นแปลก ๆ สะดุดตา ยิ่งน่าใช้และเป็นที่น่าสนใจของเพื่อน ๆ อีกด้วย

 

4. ยางลบ

วันเด็ก

เป็นยางลบที่มีกลิ่นหอมมาก และมีลวดลายที่น่ารัก บางคนซื้อเพื่อเก็บสะสมจนครบทุกสีทุกตัวอักษร แต่บางคนกลับนำเอามาเคี้ยวเล่นเพราะหลงไหลในกลิ่นของเจ้ายางลบ ใครเคยทำแบบบ้างรายงานตัวมา เดี๋ยวนี้ !

 

Spare-Parts-Knowledge

เรื่องรถยนต์กับอะไหล่นั้น ถือได้ว่าเป็นของคู่กันราวลิ้นกับฟันเลยทีเดียว เพราะการใช้งานรถยนต์ ชิ้นส่วนภายในย่อมมีการเสื่อมสภาพเป็นธรรมดา ดังนั้น เมื่อถึงคราวที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นนั้นๆ ก็ยังให้มีเลือกทั้งอะไหล่แท้ อะไหล่เทียบ อะไหล่เทียม อีกต่างหาก

หลายคนมีมักเชื่อว่า อะไหล่แท้ คือของแท้ๆ ส่วน อะไหล่เทียบ อะไหล่เทียม ราคามักถูกกว่า และมักไม่ทนทาน หรือคุณภาพแย่ ซึ่งบางทีก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะของแบบนี้ มันก็มีหลายเกรดให้เลือก ตามจำนวนเงินที่คุณจ่ายไป

MR.CARRO ขอแนะนำการเลือก อะไหล่แท้ อะไหล่เทียบ อะไหล่เทียม ให้กับผู้ใช้รถได้ทราบครับ.

Spare-Parts-Knowledge

อะไหล่แท้ คือ อะไหล่มาตรฐานจากบริษัทรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ มักจะมีคุณภาพสูงตามมาตรฐานของรถยี่ห้อนั้นๆ และราคาก็สูงด้วยเช่นกัน

อะไหล่เทียบ คืออะไหล่ที่สามารถใช้ร่วมกันได้กับรถยนต์หลายรุ่น หลายยี่ห้อ เช่น ผ้าเบรก ก้านปัดน้ำฝน ไส้กรองต่างๆ สายพานต่างๆ ตู้แอร์ คอมเพรสเซอร์แอร์ หม้อน้ำ ผ้าคลัทช์ หวีคลัทช์ ฟลายวีล ลูกหมาก โช้คอัพ เป็นต้น

อะไหล่เทียม คือ อะไหล่ที่ผลิตโดยโรงงานผลิตอะไหล่ออกมาขายในยี่ห้อของตนเอง ระดับคุณภาพจะมีทั้งคุณภาพต่ำ คุณภาพเทียบเท่าอะไหล่แท้ และคุณภาพสูงกว่าอะไหล่แท้ ซึ่งอะไหล่บางส่วน จะผลิตโดยโรงงานที่เป็น หรือเคยเป็นผู้ผลิตอะไหล่ส่งให้บริษัทรถยนต์ ถือว่าเทียบเท่ากับอะไหล่แท้เลยทีเดียว แต่เมื่อโรงงานผลิตขายเอง จึงต้องลบตรายี่ห้อสินค้านั้นๆ ออก และใช้เป็นยี่ห้อของตัวเอง สามารถทำราคาได้ถูกกว่าได้ เพราะไม่ต้องถูกบวกกำไรเพิ่มจากบริษัทรถยนต์

Spare-Parts-Knowledge

และ … อะไหล่ปลอม ที่ผลิตจากโรงงานเล็กๆ ปลอมสินค้าที่ติดตลาดได้รับการยอมรับจากลูกค้า เลียนแบบทั้งอะไหล่แท้ และอะไหล่เทียบ อะไหล่เทียมยี่ห้อดังๆ แต่คุณภาพไม่เทียบเท่า เพราะต้องการทำราคาให้ถูกมากที่สุด ซึ่งบริษัทรถยนต์หลายราย มักมีการแสดงข้อแตกต่างระหว่างอะไหล่ปลอม กับ อะไหล่ที่ทางบริษัทรถขาย ให้ผู้บริโภคได้ทราบเป็นความรู้

การซ่อมรถยนต์ ไม่จำเป็นต้องใช้อะไหล่แท้เท่านั้นถึงจะทนทาน เพราะยังมีอะไหล่อื่นให้เลือกใช้ได้ในราคาถูกกว่า อะไหล่แท้เชื่อถือได้ด้านคุณภาพ และบริษัทรถยนต์ให้การรับประกันชัดเจน แต่ไม่ได้เป็นทางเลือกเดียวสำหรับการเลือกใช้อะไหล่เทียบ หรือ อะไหล่เทียม ในกรณีที่รถเก่ามากๆ หรือเป็นรถนำเข้า ที่ทางยี่ห้อผู้ผลิต เลิก Support อะไหล่ขายแล้ว หรือไม่ได้สั่งรถรุ่นนั้นเข้ามาจำหน่าย

Spare-Parts-Knowledge

การผลิตรถยนต์ทุกรุ่น ต้องใช้ชิ้นส่วนประกอบมากมายหลายหมื่นชิ้น ถ้าผู้ผลิตรถยนต์จะผลิตเองทุกชิ้น ก็ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในการตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนต่างๆ และยังต้องลงทุนทำ R&D พัฒนาผลิตภัณฑ์อีกด้วย

Spare-Parts-Knowledge

การจ้างผู้ผลิตอะไหล่ (Supplier) ซึ่งเป็นผู้ผลิตที่มีความชำนาญเฉพาะทาง จึงเป็นทางออกที่ช่วยลดต้นทุนให้กับบริษัทรถได้ และสามารถควบคุมคุณภาพมาตรฐาน การทดสอบ ให้เป็นไปตามที่กำหนดได้ ยกเว้นอุปกรณ์บางอย่าง ที่เทคนิคการผลิตเป็นความลับของบริษัท หรือมีบริษัทในเครือผลิตอยู่แล้ว บริษัทรถยนต์จึงทำเอง

Spare-Parts-Knowledge

การเลือกซื้อ ในบางชิ้นต้องใช้สายตาและการสัมผัส เช่น ดูเนื้อของยางที่เป็นส่วนประกอบ แต่บางอย่างต้องหาข้อมูลก่อนตัดสินใจมากๆ เช่น สอบถามผู้ที่เคยใช้มาก่อน ดูจากยี่ห้อที่อยู่บนอะไหล่แท้ชิ้นเดิม

ขึ้นอยู่กับท่านผู้อ่านแล้วล่ะครับ ว่าจะเลือกใช้อะไหล่แบบไหน มีให้เลือกสารพัดยี่ห้อ ทั้งของแท้ ของเทียบ ของเทียม เผลอๆ มีของปลอมด้วยอีกต่างหาก ขึ้นอยู่ความพึงพอใจ หรืองบประมาณที่มี แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนก็ต้องการของดีที่สุด ในราคาที่ถูกที่สุด ใช้งานแล้วคุ้มค่าที่สุด ครับ …

หากใครสนใจที่จะขายรถคันเก่า อยากขายรถ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express

นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Porsche-911-Mario

รถคันโปรดของดาราดัง “มาริโอ้ เมาเร่อ” กับ Porsche 911 Targa

Porsche-มาริโอ้-1

ขอบคุณภาพจาก mgronline

จากข่าวของ “มาริโอ้ เมาเร่อ” เจอแท็กซี่เอาหนังสติ๊กยิงลูกหินใส่รถ Porsche 911 Targa Carrera 2 จนกระจกด้านคนขับแตกละเอียด บริเวณแยกประตูน้ำ คนขับแท็กซี่อ้างฉุนถูกพระเอกหนุ่มขับปาดหน้า แล้วเกิดการด่าทอกัน สุดท้ายทาง “มาริโอ้ เมาเร่อ” ยอมความไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ แต่ในส่วนของคดีปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ พร้อมจับมือกับคู่กรณีอีกต่างหาก …

Carro ขอนำเสนอรายละเอียดของ Porsche 911 Targa Carrera 2 รถคู่ใจของ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ให้ทุกท่านได้ทราบครับ.

Porsche-911-4S-911-Coupe

Porsche 911 เปิดตัวรถต้นแบบในปี 1963 และผลิตจริงในปี 1964 สืบต่อความสำเร็จจากรุ่น 356 ชูจุดเด่นด้วยรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางหลัง ที่คิดค้นโดย Ferdinand Porsche ผู้เดียวกับที่คิดค้นรถ “โฟล์ค เต่า” (Volkswagen Beetle)

มาพลิกโฉมใหญ่ในปี 1975 ที่ออกแบบตัวรถให้ดูเข้ากับยุค 70 พร้อมเพิ่มรุ่น Turbo ในเวอร์ชั่น “930” จนล่วงมาในปี 1989 ทาง Porsche จึงได้ออกเวอร์ชั่นใหม่ “964” ขึ้นมาแทนที่โฉมเดิม

1990-Porsche-911-Carrera-4-Models

สำหรับรถ Porsche 911 Targa รุ่นปี 1990 ของมาริโอ้ เป็นรุ่นหลังคา Targa ที่แตกต่างจากรุ่นเปิดประทุน หรือ Cabriolet เนื่องจากหลังคาของ 911 ในรุ่น Targa ถอดออกได้เฉพาะบริเวณด้านบนเหนือศีรษะ แต่ยังมีกระจกบานหลังปิดส่วนท้ายไว้ ไม่ได้เปิดออกหมดเหมือนรุ่นหลังคาเปิดได้ Cabriolet … โดยในรุ่น Carrera 2 ที่มาริโอ้ใช้ มีจำนวนการผลิตเพียง 3,534 คันทั่วโลก

Porsche-911-Carrera-2-4

สำหรับ Porsche 911 Targa ในเวอร์ชั่น 964 ของมาริโอ้นี้ ออกแบบโดย Benjamin Dimson ตั้งแต่ในช่วงเดือนมกราคม 1986 และผลิตตั้งแต่ปี 1989–1994 มียอดขายทุกแบบรวมในทั่วโลกกว่า 62,172 คัน เปลี่ยนชิ้นส่วนตัวถังใหม่กว่า 85%

Porsche-911-Carrera-2

ภายนอกมีการปรับโฉมให้ดูเข้ากับรถในยุค 90 มากขึ้น อาทิเช่น ชุดกันชนหน้าที่ออกแบบให้กลมกลืนกับตัวรถมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้รถรุ่นนี้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ Cd.=0.32 สปอยเลอร์หลังยกขึ้นได้อัตโนมัติ ภายในตกแต่งหรูหราขึ้น เมื่อเทียบกับโฉมก่อนหน้า พร้อมกับอัดระบบความปลอดภัยให้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อน อาทิ ระบบเบรค ABS, ถุงลมนิรภัย เป็นต้น

Porsche-911-Targa-2

สำหรับโฉม “Carrera” ในตัว 964 มีให้เลือกทั้งในแบบ Coupe และ Targa โดย “Carrera 2” ซึ่งขับเคลื่อนล้อหลัง และ “Carrera 4” ที่เป็นแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (All-Wheel Drive) ที่ถูกแนะนำออกมาเป็นครั้งแรกในรุ่นนี้ 1990 พร้อมกับ Porsche 911 Turbo

Porsche-911-Targa

มิติตัวรถยาว 4,250 มม. กว้าง 1,651 มม. สูง 1,320 มม. ระยะฐานล้อ 2,272 มม.

Porsche-911-Targa

เครื่องยนต์มีให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ขนาด 3.3 ลิตร Turbo, 3.6 ลิตร, 3.6 ลิตร Turbo และ 3.8 ลิตร Turbo ในรุ่น RS/RSR

Porsche-911-Targa

โดย Porsche 911 Targa มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 3.6 ลิตร แบบ Boxer 6 สูบ SOHC ทรงพลัง ให้แรงม้าสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.5 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 260 กม./ชม. มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Triptronic ที่แนะนำในรุ่นนี้เป็นครั้งแรก

RWB-964-Wide-Body-Targa

Porsche 911 Targa ที่แต่งโดย RWB

ทุกวันนี้ Porsche 911 (964) ทั้งในแบบธรรมดา, Targa, Cabriolet, Turbo, Speedster, 911 Cup รวมไปถึงรุ่น RS และ RSR ถือเป็นรถสะสมของเศรษฐี เป็นของเล่นที่มีราคาหลักล้าน ไปจนถึงหลายล้านบาทเลยทีเดียว แถมหายากอีกด้วยครับ

เมื่อเจอ “รถพยาบาลฉุกเฉินขอทาง” ควรทำอย่างไร

หลายคนคงเคยตกอยู่ในสภาวะขับรถอยู่บนถนนแล้วเห็นรถพยาบาลฉุกเฉิน แต่ไม่รู้ว่าจะหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินได้อย่างไร และบางคนเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณของรถพยาบาลฉุกเฉินก็เกิดอาการตกใจจนไม่สามารถบังคับรถให้หลีกทางได้ คาร์โร จึงนำ 6 แนวทางการหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินตามหลักปฏิบัติของสากล ที่เพื่อนๆสามารถทำตามได้ ดังนี้

1.เมื่อคุณเห็นสัญญาณไฟ และได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน หลายคนอาจตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นก่อนอื่นเลยผู้ขับขี่ควรตั้งสติ

2.พยายามมองกระจกหลังเพื่อเล็งระยะของรถพยาบาลที่กำลังจะวิ่งผ่านมา

3.ถ้าหากมองดูแล้วว่าพบว่าปริมาณรถทั้งซ้ายขวาที่อยู่ใกล้ ไม่มีอันตราย และเราสามารถเบี่ยงชิดซ้ายได้ ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วรถลง และเบี่ยงซ้ายเพื่อหลีกทางให้รถพยาบาลทันที

4.หากคุณไม่สามารถหลีกทางได้ อาจเพราะสภาพรถที่หนาแน่น และมีอันตรายก็ให้หยุดหรือชะลอรถเพื่อให้รถพยาบาลหาทางวิ่งผ่านไปให้ได้ก่อน

5.เมื่อรถพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้วห้ามขับตามโดยเด็ดขาด !!

6.กรณีรถติดและรถพยาบาลอยู่ด้านหลังพอดีให้พิจารณาว่าควรชิดซ้ายหรือชิดขวาดี แต่ถ้าไม่มีใครหลีกทาง ให้คุณตัดสินใจเลือกว่าจะหลบทางไหนและเปิดไฟเลี้ยว เพื่อให้สัญญาณให้รถพยาบาล ได้แซงผ่านไปได้สะดวก

 

emergency-ambulanceการหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินเป็นความดีง่ายๆ ที่เราสามารถทำร่วมกันได้นะคะ จึงอยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนเวลาเจอหรือเห็นรถพยาบาลขอทางมา ควรรีบหลีกทางให้ เพราะวันหนึ่งคนที่อยู่บนรถคันนั้นอาจเป็นญาติหรือคนรู้จักของเราก็ได้ค่ะ 

และนี้คือ ตัวอย่างที่ไม่ดีและอย่าได้ทำตามเด็ดขาด !!

เครดิตวิดีโอ : ไทยรัฐ

Cover-New-Car-2018-In-Thailand

รถใหม่หลากหลายรุ่น ทยอยเปิดตัวกันในทุกเดือน ของปี 2561

สวัสดีปีใหม่ 2561 ปีจอ กับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ทยอยเปิดตัวในปีนี้อย่างคับคั่ง เตรียมพร้อมให้ผู้บริโภค ผู้สนใจ ได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์ใหม่ๆ กัน ส่วนรถคันเดิมของคุณ ที่ต้องการขายแล้ว แต่ไม่รู้จะขายได้ที่ไหน ก็ติดต่อมาที่ Carro Thailand ได้เลยครับ …

Carro คาดการณ์รถใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในปี 2561 จะมียี่ห้อใด รุ่นใดบ้าง ติดตามได้ที่นี่ครับ.

Toyota C-HR – มาแน่

Toyota-C-HR

Toyota C-HR (โตโยต้า ซี-เอชอาร์) นี่ถือว่ามาขายในบ้านเราอย่างแน่นอนแล้ว เพียงแต่ว่ารอเวลาในการเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2561 ครับ โดยมาพร้อมกับโครงสร้างแบบ TNGA (Toyota New Global Architecture) ออกแบบและพัฒนาเพื่อสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และสมบูรณ์แบบทุกการขับเคลื่อนในทุกสภาพถนน พร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร ที่ให้การประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 24.4 กม./ลิตร ซึ่งนับว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และระบบไฮบริด 5 ปี

โดยในรุ่น 1.8 Entry ราคาเริ่มต้นไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนในรุ่น 1.8 MID และ Hybrid MID ราคา 1,050,000 บาท (+,- ไม่เกิน 20,000 บาท) และในรุ่น Hybrid Hi ราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท

Toyota Camry

Toyota-Camry

แม้ว่ารถยนต์ 4 ประตู ขนาดกลางในตลาดโลก กำลังเข้าสู่ขาลงด้วยยอดขายที่ร่วงลงไปมาก แต่ Toyota ก็คงเตรียมแผนการเปิดตัว Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) ในไทย ทั้งในรุ่นเครื่องยนนต์เบนซินธรรมดา และรุ่น Hybrid ช่วงประมาณกลางปี หรือปลายปี 2561 นี้ครับ

ส่วนเครื่องยนต์ คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว VVT-ie พ่วงด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

Nissan Terra

Nissan-Terra

Nissan เตรียมเปิดตัวรถ SUV 7 ที่นั่ง หลังจากที่มีภาพหลุดว่อนในเน็ตมานาน โดย Nissan Terra (นิสสัน เทอร่า) จะใช้พื้นฐานร่วมกับ Nissan Navara ซึ่งในจีนเตรียมเปิดตัวในกลางปีนี้ และในไทย ก็มีโอกาสได้ผลิตจำหน่ายในปีนี้ด้วย

ด้านขุมพลังนั้น ในเวอร์ชั่นจีนเป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส QR25 ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า (ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับใน Navara เวอร์ชั่นจีน) มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ ส่วนในเวอร์ชั่นไทย คาดว่าเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับใน Navara ครับ

Suzuki Swift – มาแน่

Suzuki-Swift

Suzuki Swift ใหม่ แม้ว่าจะเปิดตัวในญี่ปุ่นตั้งแต่ปลายปี 2559 แล้ว แต่ในปีนี้ ชาวไทยได้ซื้อหามาใช้แน่นอน เก็บเงินซื้อกันได้เลย (หลังจากที่เห็นรถ Spy-Shot รุ่นนี้ พรางตัวเก็บข้อมูลในไทยนานแล้ว) สำหรับ Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เจนเนอเรชั่นที่ 3 พัฒนาโครงสร้างตัวถังภายใต้ Platform “Heartect” น้ำหนักเบา โครงสร้างตัวถังแข็งแรงมากขึ้น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 4 สูบ Dualjet 91 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT

ส่วนในรุ่นเครื่องยนต์ Hybrid และรุ่น Sport ในไทยไม่มาแน่นอนเหมือนเดิมครับ สุดท้ายก็ต้องรอดูกันว่า ซูซูกิ จะตัดสินใจเปิดตัว Swift รุ่นใหม่นี้ตอนไหน อาจจะเป็นช่วงต้นปีนี้ก็เป็นไปได้ครับ

Ford Ranger Raptor – มาแน่

Ford-Ranger-Raptor

Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์) เตรียมเปิดตัวและจำหน่ายในประเทศไทยอย่างแน่นอน ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้

โดย Ford Ranger Raptor จะมาแทน Ranger Wildtrak ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน ขุมพลังอาจเลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร Ecoblue แบบ 4 สูบ VG Turbo หรืออาจใช้เครื่องดีเซลขนาด 2.2 ลิตร และ 3.2 ลิตร ที่อยู่ใน Ranger รุ่นปัจจุบัน

Mitsubishi Eclipse Cross

Mitsubishi-Eclipse-Cross

หลังจากที่ Mitsubishi ได้ถูกควบรวมกับ Nissan ก็ดูเหมือนสถานการณ์ของบริษัทจะดีขึ้นมาก โดยเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในหลายประเทศ รวมถึงในไทย ซึ่งทาง Mitsubishi จะส่ง Mitsubishi Eclipse Cross (มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอส) รถ SUV Crossover รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เผยโฉมในงาน Geneva Motor Show เมื่อปีที่ผ่านมา เตรียมตัวเปิดตัวในไทยภายในปีนี้

Mitsubishi Xpander

Mitsubishi-Xpander

มิตซูบิชิ เปิดตัวยนตรกรรมชั้นนำระดับโลก Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์) รถ Crossover MPV ที่ อินโดนีเซีย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ได้แก่ GLX MT, GLS MT, Exceed MT, Exceed AT, Sport AT และ Ultimate AT ซึ่งคาดว่าในปีนี้ ได้พบกับตัวจริงที่ไทยอย่างแน่นอน อาจจะเป็นในช่วงต้นปี หรือกลางปีนี้

Mitsubishi Xpander ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (PS) ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มีให้เลือกเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น

Nissan Note e-Power

Nissan-Note-e-Power

Nissan Note e-Power (นิสสัน โน๊ต อี-เพาเวอร์) รถ Hatchback ขุมพลังไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3008-10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 25.9 กก.-ม. ที่ 0-3,008 รอบ/นาที คู่กับชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งบริเวณใต้เบาะคู่หน้า ส่งกำลังผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ประหยัดน้ำมันสูงสุด (ตามมาตรฐาน JC08) ที่ 34 กม./ลิตร

ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงยอดเยี่ยม สมรรถนะโดยรวมดีกว่ารถเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร โดยได้รับการตอบรับที่ดีมาก ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในบ้านเรา ทางนิสสันเคยแจ้งว่า จะนำเข้ามาขายในปีนี้ หากทางภาครัฐอนุมัติแผนเพื่อรับอัตราภาษีใหม่ สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า EV / Hybrid

Nissan Leaf

Nissan-Leaf

“Nissan Leaf” (นิสสัน ลีฟ) รุ่นใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น เพิ่งเปิดตัวและนำมาโชว์ในงาน Motor Expo 2017 ที่ผ่านมา ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “100%” มีอัตราการปล่อยมลพิษเป็น “0” พร้อมชูจุดเด่นอย่าง “นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)” มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าชุดใหม่ แบบ EM57 ที่ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า (PS) (110 กิโลวัตต์) (แรงม้าเพิ่มขึ้น 38% จากรุ่นแรก) ที่ 3,283-9,795 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. (320 นิวตันเมตร) ที่ 0-3,283 รอบ/นาที

เพียงชาร์จ 1 ครั้ง สามารถเดินทางได้ระยะทางมากถึง 400 กิโลเมตร! (ตามการทดสอบตามโหมด JC08 ของประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งทางนิสสันเคยแจ้งว่า จะนำเข้ามาขายในปีนี้ หากทางภาครัฐอนุมัติแผนเพื่อรับอัตราภาษีใหม่ สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า EV / Hybrid แต่ราคาคงอยู่ที่หลักล้านครับ

Honda Accord

Honda-Accord

Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) เจนเนอเรชั่นที่ 10 มาพร้อมรูปร่างหน้าตา ที่ฉีกแนวจากเดิมหมด ดีกว่าเดิมทุกด้าน ทั้งระยะฐานล้อ 2,830 มม. (ยาวขึ้น 55 มม.) ความสูง 1,450 มม. (ลดลง 15 มม.) และความกว้างตัวรถ 1,860 มม. (กว้างกว่า 10 มม.) ไฟหน้าแบบ Full LED 9 ดวง ไฟตัดหมอกแบบ LED รวมไปถึงติดตั้งไฟท้าย LED รูปตัว C ภายในเน้นความหรูหรา แฝงอารมณ์สปอร์ต

คาดว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร Turbo 192 แรงม้า หรือเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร Turbo 252 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด คาดว่าเปิดตัวในไทย ประมาณกลางปีนี้

ออมเงิน

ออมเงิน เก็บก่อน รวยก่อน มีเงินเก็บแบบไม่รู้ตัว

ทำงานมาตั้งหลายปี พยายามเก็บเงิน ออมเงินเท่าไร ก็ทำไม่ได้เสียที ซึ่งจริง ๆ แล้วการเก็บเงินไม่ได้เป็นเรื่องยาก บางคนเป็นหนี้อยู่ก็ยังออมเงินได้ เพียงแต่ว่าจะต้องตั้งใจทำให้มากกว่าเดิม วันนี้ คาร์โร จึงนำวิธีการออมเงินง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ 

วิธีที่ 1 เก็บเงินแบบเแบ่งกระปุก

ออมเงิน

เตรียมกระปุกหรือขวดโหลมาไว้สำหรับใส่เงิน พร้อมเขียนสิ่งที่อยากได้แปะไว้หน้ากระปุกแต่ละอัน เช่น กระปุกที่ 1 สำหรับไปเที่ยวญี่ปุ่น กระปุกที่ 2 สำหรับรถคันในฝัน กระปุกที่ 3 สำหรับ MacBook Pro เป็นต้น เวลาอยากได้อะไรก็จะตั้งใจหยอดเงินใส่กระปุกนั้นๆ พยายามอย่าใช้บัตรเครดิต ฝึกซื้อของจากเงินสด เพราะการไม่เป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐนั่นเอง

 

วิธีที่ 2 เก็บเศษเหรียญ

ออมเงิน

แต่ละวันเรามักมีเศษเหรียญติดตัวไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะที่กระจัดกระจายอยู่ตามซอกมุมต่างๆ ทั้งในบ้านหรือบนรถ เอามารวมใส่ไว้ในกระปุกเดียว อย่าเอาไปใช้จ่าย พอปลายปีค่อยเอาออกมานับ รับรองว่าได้เงินเยอะอย่างเหลือเชื่อ !

 

วิธีที่ 3 เก็บตามจำนวนวันของปี

วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท ไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่  365 ถ้าคุณทำตามได้อย่างเคร่งครัด วันสุดท้ายของปีจะมีเงินเก็บประมาณ 66,000 บาท แต่ถ้าใครที่ต้นปียังมีแรงฮึด แนะนำให้ลองทำกลับกัน เก็บ 365 บาทตั้งแต่วันที่ 1 และค่อยๆ เก็บลดลงไปเรื่อยๆ หรือถ้าใครอยากเก็บทุกวันในจำนวนเท่ากัน เราหารเฉลี่ยมาให้แล้ว คือวันละ 183 บาท ก็จะได้ยอดเงินท้ายปีที่มีจำนวนเท่ากันแล้ว

 

วิธีที่ 4 ออมตามวันที่

ออมเงิน

ถ้าคุณคิดว่าการเก็บเงินวิธีที่ 4 มันยากเกินไปสำหรับคุณ ลองมาเก็บตามวันที่ แต่ตัดเป็นเดือนต่อเดือน พอเอามารวม ๆตลอดปีได้ถึง 5,738 บาทเลยทีเดียว

 

วิธีที่ 5 เก็บแบงค์ 50

ออมเงิน

ในหนึ่งวันโอกาสที่จะเจอแบงค์ 50 มีอยู่น้อย ต้องคอยลุ้นว่าจะได้รับเงินทอนมาเป็นแบงค์ 50 หรือไม่ ถ้าได้มาก็นำไปหยอดกระปุกออมสิน อีกอย่างการออมเงินด้วยการเก็บแบงค์ 50 ทำง่าย สามารถเริ่มทำได้ตลอด และการออมเงินด้วยจำนวน 50 บาทนั้นกำลังพอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

จะออมมาก หรือออมน้อย ยังไงก็เป็นการออมอยู่ดี และมีเงินเก็บเหมือนกัน แต่อย่าเก็บออมแบบตึงจนเกินไป เดี๋ยวจะเครียดกันซะเปล่า ๆ เอาเป็นว่าเก็บแบบพอดี ๆ ที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนขัดสนก็พอ

 

Source the standard , aommoney.com , pantip.com