Suzuki-Swift-Compare

ดู Suzuki Swift กันให้ชัด! ว่าแต่ละรุ่นย่อย มีอะไรกันบ้าง

Suzuki-Swift

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เปิดตัวมาพร้อมเสียงฮือฮาของคนชอบรถเล็ก และคนที่สนใจรถแนว Eco-Car (อีโคคาร์) มาพร้อมโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ HEARTECT ที่่น้ำหนักเบา แข็งแรง ทนต่อการสึกหรอ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12M 83 แรงม้า กับเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ DUALJET และฟังก์ชั่นจัดเต็ม ในราคาที่จับต้องได้

Suzuki-Swift

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12M แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที กับเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ DUALJET รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

มิติตัวรถ ยาว 3,840 มม. กว้าง 1,735 มม. สูง 1,495 มม. ระยะฐานล้อ 2,450 มม.

Suzuki-Swift

อุปกรณ์มาตรฐานของแต่ละรุ่นย่อย มีดังนี้

1.2 GA CVT ราคา 499,000 บาท

– ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ฮาโลเจน
– ไฟท้าย LED
– จอแสดงข้อมูลการขับขี่ดิจิตอล
– เบาะหลังปรับพับ 60:40
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
– ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
– ระบบเบรก ABS และ EBD
– ระบบ Idling Stop
– จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
– เบาะหลังพับแบบ 60:40
– ล้อกระทะเหล็กขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ

รุ่น 1.2 GL CVT ราคา 536,000 บาท

เพิ่ม

– ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
– มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ
– ที่เปิดประตูท้ายแบบไฟฟ้า
– กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
– เซ็นทรัลล็อค และกุญแจรีโมท
– ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
– เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
– เครื่องเล่นวิทยุ CD/MP3
– USB/AUX
– ไฟห้องเก็บสัมภาระด้านหลัง

รุ่น 1.2 GLX CVT ราคา 609,000 บาท

เพิ่ม

– กระจังหน้าตกแต่งลายเส้นสีแดง
– ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ปรับสูง-ต่ำได้
– ไฟตัดหมอกคู่หน้า
– เครื่องเล่นวิทยุ CD/MP3/Bluetooth
– กระจกข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
– พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มรับโทรศัพท์
– Keyless Entry & Keyless Push Start
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
– มือจับคู่หลังบนเพดาน
– ดิสก์เบรก 4 ล้อ
– ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
– ล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว

รุ่น 1.2 GLX-Navi CVT ราคา 629,000 บาท

เพิ่ม

– Suzuki Smart Connect หน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว
– ระบบ Navigator รองรับ Apple CarPlay และ Mirrorlink

Suzuki-Swift

ราคา

รุ่น 1.2 GA CVT ราคา 499,000 บาท
รุ่น 1.2 GL CVT ราคา 536,000 บาท (เพิ่มขึ้นจากรุ่น GA CVT 37,000 บาท)
รุ่น 1.2 GLX CVT ราคา 609,000 บาท (เพิ่มขึ้นจากรุ่น GL CVT 73,000 บาท)
รุ่น 1.2 GLX-Navi CVT ราคา 629,000 บาท (เพิ่มขึ้นจากรุ่น GLX CVT 20,000 บาท)

*สีขาว เพิ่มเงินอีก 5,000 บาท

มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Ablaze Red Pearl, Star Silver Metallic, Mineral Gray Metallic, Super Black Pearl และ 2 สีใหม่ คือ Speedy Blue Metallic และ Pure White Pearl

Isuzu-MU-X-The-Iconic

“อีซูซุมิว-เอ็กซ์ The Iconic” มาพร้อมชุดแต่งสปอร์ต ในราคา 1,354,000 – 1,411,000 บาท

อีซูซุ เขย่าตลาดรถเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการแนะนำ รุ่นพิเศษ! “Isuzu MU-X The Iconic” รถยนต์นั่งอเนกประสงค์สุดหรูที่มาพร้อมชุดแต่งพิเศษสปอร์ตเท่รอบคัน จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Isuzu-MU-X-The-Iconic“อีซูซุมิว-เอ็กซ์ The Iconic” เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์สุดหรูรุ่นล่าสุด ต่อยอดความแรงของ “The New Isuzu MU-X” ภายใต้นิยาม Signature of Privilege เอกลักษณ์แห่งเอกสิทธิ์ โดยเพิ่มเติมความโฉบเฉี่ยว หรูหรา งดงามทุกรายละเอียด อาทิ สปอร์ตเท่รอบคันกับชุดแต่ง Iconic Style ห้องโดยสารโทนเข้ม Lava Black ขับเน้นอารมณ์สปอร์ต ระบบความบันเทิงพร้อม Built-in Navigator และ Digital TV Tuner และล้ออัลลอย 18” Iconic Cross

Isuzu-MU-X-The-Iconic

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ให้การตอบสนองการขับขี่ที่ดี ประหยัดน้ำมัน และรักษาสิ่งแวดล้อม ชุดเกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 2 ล้อ พร้อมช่วงล่างที่นุ่มนวล รวมถึงเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตยุคใหม่ให้ผู้ใช้รถได้สูงสุดในทุกด้าน โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ขาวมุกเอเวอร์เรสต์ (Everest Pearl White) และ ดำออสเตรเลียนโคล (Australian Coal Black) ในราคา 1,354,000 – 1,411,000 บาท

Isuzu-MU-X-The-Iconic

รุ่นพิเศษ! “อีซูซุมิว-เอ็กซ์ The Iconic” ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ

Isuzu-MU-X-The-Iconic-Price

6-Ways-To-Fix-Car-Black-Smoke

เมื่อพูดถึงเรื่องรถ “ควันดำ” หลายคนก็จะนึกถึงรถที่ใช้ “เครื่องยนต์ดีเซล” ของมาทันที! แล้วยิ่งตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ที่ประเทศไทยประสบปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ทำให้หน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กรมการขนส่งทางบก และตำรวจจราจร จึงออกตั้งด่านตรวจวัดควันดำกันทั่ว ซึ่งถ้าโดนจับก็ต้องเสียเวลา เสียค่าปรับ แถมถูกห้ามใช้รถอีก

6-Ways-To-Fix-Car-Black-Smoke

รถเมื่อใช้ไปได้สักระยะหนึ่ง มักจะมีปัญหาเรื่องควันดำ โดยเฉพาะรถเก่าที่มีการใช้งานมานาน ซึ่งนอกจากจะสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ แล้ว ยังสร้างมลพิษให้กับสภาวะแวดล้อมของโลกอีกด้วย ซึ่งสาเหตุที่รถมีควันดำนั้นมีดังนี้

  1. เครื่องยนต์สึกหรอมาก เช่น ลูกสูบและกระบอกสูบ แหวนลูกสูบชำรุด
  2. ปั๊มฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงชำรุดและทำงานไม่ถูกต้อง หรือฉีดน้ำมันในจังหวะที่ไม่ถูกต้อง
  3. หัวฉีดน้ำมันแรงดันสูงที่จ่ายเข้าไปในห้องเผาไหม้ชำรุด
  4. กรองอากาศอุดตัน
  5. น้ำมันเครื่องมีอายุการใช้งานมาก
  6. เขม่าควันดำและฝุ่นละอองค้างอยู่ภายในท่อไอเสีย

6-Ways-To-Fix-Car-Black-Smoke

ภาพจาก กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News

และเมื่อพบว่ารถคุณเกิดควันดำอย่าได้นิ่งนอนใจ ควรรดำเนินการแก้ไข ดังนี้

1. ซ่อมแซมเครื่องยนต์ในส่วนที่สึกหรอ เช่น เปลี่ยนลูกสูบ แหวนลูกสูบ หรือ ทำการคว้านกระบอกสูบ แล้วเปลี่ยนลูกสูบให้ใหญ่ขึ้น
2. ทำการเช็กปั๊ม โดยนำเข้าศูนย์บริการ ทำการปรับแต่งปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดสึกหรอ รวมทั้งปรับแต่งหัวฉีดน้ำมันและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ รวมทั้งการปรับแต่งอัตราและจังหวะการฉีดน้ำมันให้ถูกต้องเป็นไปตามบริษัทผู้ผลิตกำหนด
3. เปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ เพื่อให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบรูณ์
4. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด
5. ปรับแต่งเครื่องยนต์ให้ทำงานถูกต้องตามระยะเวลาที่เหมาะสม
6. ทำการล้างท่อไอเสียโดยใช้น้ำหรือลมฉีดชะล้างเขม่า และฝุ่นละอองภายในท่อไอเสีย

มาตรฐานค่าควันดำจากท่อไอเสียของรถยนต์

ปกติแล้ว การวัดควันดำของรถยนต์ จะวัดกันจอดรถยนต์จอดอยู่กับที่ ซึ่งมีกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 50 (เมื่อตรวจวัดด้วยเครื่องมือวัดควันดำระบบกระดาษกรอง) หรือไม่เกินร้อยละ 45 (เมื่อตรวจวัดด้วยเครื่องมือวัดควันดำระบบวัดความทึบแสง)

6-Ways-To-Fix-Car-Black-Smoke

ภาพจาก กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News

รถยนต์ที่ปล่อยควันดำ เกินค่ามาตรฐาน นอกจากโดนปรับแล้ว ยังจะถูกติดสติ๊กเกอร์ หรือพ่นสีที่หน้ากระจกรถว่า “ห้ามใช้ชั่วคราว” คือ คำสั่งห้ามใช้รถยนต์เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะนำรถไปแก้ไขปรับปรุงเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และมีควันดำเป็นไปตามมาตรฐาน ภายในกำหนด 30 วัน

และหากยังฝ่าฝืน ไม่นำรถยนต์ไปแก้ไขปรับปรุงเครื่องยนต์ให้มีควันดำลดลง ภายใน 30 วัน ก็จะถูกติดสติ๊กเกอร์ “ห้ามใช้เด็ดขาด” พร้อมบันทึกหมายเลขทะเบียนลงในคอมพิวเตอร์ เพื่อแจ้งไปยังนายทะเบียนของกรมขนส่งทางบกพิจารณาดำเนินการ และจะเคลื่อนย้ายรถยนต์ได้ ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เท่านั้น

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก กรมควบคุมมลพิษ

ยิ่งลักษณ์

โครงการ “รถคันแรก” ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
มีทั้งข้อดี และพิษร้ายเรื้อรัง

หลายวันก่อนได้มีข่าวออกมาว่า มีกลุ่มคนได้รับความเดือดร้อนจากโครงการในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่ผ่านมา เจ้าของรถหลายรายได้เดินทางไปยังกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อขอโอนรถให้กับบุคคลอื่น เนื่องจากครอบครองรถมาเกินระยะเวลา 5 ปี ตามหลักเกณฑ์ของโครงการแล้ว แต่กลับโอนไม่ได้!!

วันนี้ คาร์โร จึงจะมาสรุปเป็นข้อๆไปตามลำดับเหตุการณ์ พร้อมทั้งวิธีการดำเนินการการคืนเงินภาษี ดังนี้

1. ในปัจจุบันปรากฏว่า มีประชาชนจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่สามารถโอนรถให้กับบุคคลอื่นได้ แม้จะครอบครองรถมาเกินระยะเวลา 5 ปี ตามหลักเกณฑ์ของโครงการรถคันแรกแล้ว เพราะเป็นรถที่ได้รับแจ้งว่าอยู่ในข่ายถูกตรวจสอบจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ว่าอาจทำผิดเงื่อนไขโครงการ เช่น มีการเปลี่ยนมือเจ้าของรถก่อน หรือมีการขายก่อน 5 ปี บางรายที่อยู่ในข่ายไม่ควรได้รับเงินคืนภาษีมาตั้งแต่ต้น

2. ล่าสุด ตามรายงานข่าวระบุว่า มีรถที่เข้าข่ายติดปัญหาการโอนอยู่ประมาณ 40,000 คัน

3. สาเหตุที่ติดปัญหาไม่สามารถโอนได้ เนื่องจากผู้ใช้สิทธิ์มีการยื่นเอกสารมาให้กรมล่าช้ากว่าที่ระเบียบกำหนดในสิ้น เดือน ธ.ค. 2555 จึงทำให้ สตง. ตั้งข้อสังเกตว่าการยื่นเอกสารมาล่าช้าอาจไม่ตรงกับหลักเกณฑ์การได้รับสิทธิ์รถคันแรกตามที่มีมติ ครม.หรือไม่ จึงให้มีการชะลอการโอนสิทธิ์ไว้ก่อน จนกว่าจะมีการพิจารณาตัดสินชัดเจน คาดว่าจะหาข้อยุติปัญหาได้ภายใน 2 สัปดาห์

4. โครงการรถคันแรกเป็นการให้สิทธิพิเศษทางภาษีสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ตามโครงการนี้ ด้วยการคืนภาษีสรรพสามิตให้ไม่เกินคันละ 1 แสนบาท

5. ตัวอย่างของการทำผิดเงื่อนไข และต้องคืนเงิน เนื่องจากได้มีการตรวจสอบจากสำนักงานสรรพสามิตในหลายพื้นที่ได้มีการแก้ไขปัญหาตามที่ สตง.รายงาน

ไม่ว่าจะเป็น กรณีเอกสารประกอบไม่ครบถ้วน รวมถึงการติดตามเรียกเงินคืนจากผู้ขอใช้สิทธิที่ทำผิดเงื่อนไข อาทิ ชื่อตามใบจองรถยนต์เป็นคนละชื่อกับชื่อผู้ขอใช้สิทธิ อายุผู้ขอใช้สิทธิ์ไม่ครบ 21 ปีบริบูรณ์ ในช่วงจองรถยนต์ เป็นต้น

ตัวอย่าง ในพื้นที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ราชบุรี กรณีนายกองใจ ขอใช้สิทธิคืนเงินรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน จำนวน 10,946 บาท ซึ่งกรมสรรพสามิต ทำการอนุมัติสิทธิคืนเงินให้ ก่อนที่จะมีการตรวจสอบเอกสารภายหลัง พบว่า ชื่อในใบจองเป็นคนละชื่อกับผู้ใช้สิทธิ

สำนักงานสรรพสามิต พื้นที่กรุงเทพมหานคร 4 กรณีนายชวนินทร์ อายุไม่ครบ 21 ปีบริบูรณ์ตอนจองรถยนต์ และรับรถยนต์ไม่ตรงรุ่น/หมายเลขเครื่องยนต์ และใบจองรถยนต์คนละชื่อกับชื่อผู้ขอใช้สิทธิ ซึ่งสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่กทม.4 ได้ดำเนินการติดตามเรียกเงินคืนจากนายชวนินทร์ แล้ว ฯลฯ

6. เงินที่ใช้ซื้อรถคันแรกไปแล้ว 1 ล้านคันในยุคนั้น นับเป็นการใช้ดีมานด์ล่วงหน้าไปหลายปี และถูกล็อกไว้ด้วยว่า 5 ปี ต้องถือครองรถ จะขายต่อไม่ได้หลังโครงการตลาดรถยนต์จึงซึมระยะยาว ทั้งรถใหม่ รถมือสอง

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เคยสรุปผลจากนโยบายรถคันแรกว่า โครงการรถคันแรก มีผลดีตรงที่ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอดการผลิตปี 2556 ขยับขึ้นเป็นปีละกว่า 2 ล้านคัน

แต่ผลเสียก่อให้เกิดหนี้ครอบครัว จากการเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่มีให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคหดตัวลงทุกประเภทสินค้า (หลังมีโครงการรถคันแรก)

นอกจากนี้ในรายงานการตรวจสอบของ สตง. ได้ระบุถึงผลกระทบของโครงการที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องไว้ด้วย ระบุว่า “การดำเนินโครงการฯ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องทั้งโดยตรงและโดยอ้อม

ผลกระทบโดยตรง

โครงการรถคันแรกสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา รัฐยังสามารถเก็บภาษีต่อเนื่องได้เพิ่มมากขึ้น และส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องมีการเติบโตได้ระยะหนึ่ง แต่ขาดความยั่งยืน โดยเป็นการดึงอุปสงค์ (Demand) ในอนาคต คือ ความต้องการซื้อล่วงหน้ามาใช้ จึงส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการผลิตรถยนต์

ผลกระทบโดยอ้อม

จากการที่ยอดการผลิตรถยนต์ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องเลิกจ้างแรงงานบางส่วน มีการยึดรถขายทอดตลาดจำนวนมาก และยังส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มือสอง ซึ่งมีรถยนต์มือสองค้างในสต๊อกจำนวนมาก โดยมีเต็นท์รถยนต์มือสองหลายแห่งต้องปิดกิจการ

นอกจากนี้ ปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ก่อให้เกิดผลกระทบต่อปัญหาการจราจรและปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเกิดจากผู้ซื้อรถยนต์คันแรกยังขาดความรู้ความชำนาญในการขับรถยนต์เพียงพอ

วิธีดำเนินการการคืนเงินภาษี

1. ผู้ซื้อรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย

-หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี

-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ

-สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)

2. กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ

3. กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน

4. กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครอง รถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่

5. กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อเมื่อครอบครองครบ 1 ปี โดยจ่ายเป็นเช็คให้ในครั้งเดียว

 

กรณีรถถูกยึดเนื่องจากไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้

ปลดล็อคเงื่อนไข ห้ามโอนภายใน 5 ปี กรณีผู้ซื้อรถ(ผ่อน)ผิดนัดไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ ไฟแนนซ์ก็สามารถยื่นเรื่องให้กรมสรรพสามิตตรวจสอบ ว่าเป็นจริง เป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าผู้ซื้อรถผิดนัดไม่ผ่อนชำระต่อจริง ก็จะแก้เงื่อนไขกรณีห้ามโอนภายใน 5 ปี ให้สามารถนำรถไปขายทอดตลาดได้

และจะเรียกเงินภาษีจากผู้ที่ซื้อรถไปแล้วแต่ไม่สามารถผ่อนต่อได้ คืนกลับให้กรมสรรพสามิตเท่ากับจำนวนที่ได้รับไป (ผู้ซื้อรถไปแล้วแต่ไม่สามารถผ่อนต่อได้ จะต้องคืนเงินให้กรมสรรพสามิตเท่ากับจำนวนเงินที่ได้รับการคืนภาษีรถยนต์คันแรก)

สุดท้าย สะท้อนให้เห็นว่าโครงการดำเนินการไม่รัดกุม มุ่งเอาคะแนนนิยมเฉพาะหน้ามากกว่า จะทำเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ แต่ฝากปัญหาไว้กับระบบอุตสาหกรรมรถยนต์ และยังทิ้งภาระเป็นเสมือนพิษร้ายไว้กับผู้ร่วมโครงการอีกยาวนาน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : naewna.com

ยางรถยนต์

การเติมลมยางรถยนต์ ต้องเติมเท่าไรถึงดี

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ยางรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญมาก แต่บางคนกลับมองข้ามไป หรืออาจเพราะยังเป็นมือใหม่ ซึ่งการเติมลมยางจนมีแรงดันยางนั้นสูงหรือต่ำกว่ามาตรฐานจะทำให้เกิดอันตรายต่อการขับขี่รถยนต์ อีกทั้งสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และมีผลต่ออายุการใช้งานของยางรถยนต์

 

1. การเติมลมยางน้อยเกินไป

ยางรถยนต์

ขอบคุณรูปภาพจาก car.boxzaracing.com

โครงสร้างของยางรถยนต์นั้นยุบตัวมากกว่าปกติ และยางรถมีความร้อนสูงขึ้นเมื่อขับขี่ แรงต้านทานการหมุนของล้อเพิ่มขึ้น หมุนพวงมาลัยยากกว่าเดิม จนทำให้ล้อนั้นต้องสึกหรือมีอายุการใช้งานลดลง จะเกิดการสึกบริเวณไหล่ยาง และแก้มยาง

 

2. การเติมลมยางมากเกินไป

ยางรถยนต์

ขอบคุณรูปภาพจาก car.boxzaracing.com

เมื่อรับแรงกระแทกจะระเบิดได้ง่าย ทำให้การขับขี่นั้นเป็นอันตราย และยางรถยนต์จะยึดติดกับถนนลดลง ซึ่งจะมีผลต่อการสึกหรอของช่วงล่างรถยนต์ ดอกยางโดยเฉพาะกลางหน้ายางจะสึดไว ทำให้มีอายุการใช้งานลดลง

 

ยางรถยนต์

ขอบคุณรูปภาพจาก deestone.com

ดังนั้น คาร์โร ขอแนะนำวิธีการเติมยางให้ถูกต้อง แม้ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขับก็เข้าได้ไม่ยาก

  1. เติมลมยางตามสเปคของรถที่กำหนด โดยสามารถศึกษาได้จากคู่มือของรถหรือดูจากด้านข้างประตูรถด้านคนขับ
  2. ไม่ควรเติมลมยางในขณะที่ยางยังร้อนเกินไป เนื่องจากความร้อนทำให้อากาศขยายตัว
  3. หากต้องเดินทางไกล นาน ๆ ควรเพิ่มลมยางอีกประมาณ 3-5 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)
  4. หมั่นเช็คลมยางเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

ยางรถยนต์

ขอบคุณรูปภาพจาก deestone.com

3. ความดันลมยางมี่เหมาสม สำหรับรถเก๋ง และรถกระบะ

รถเก๋ง ความดันสูงสุด ไม่ควรเกิน 36 ปอนด์/ตารางนิ้ว ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของรถนั้น ด้วย เช่น

  • รถเก๋งขนาดเล็ก ความดันลมยาง ประมาณ 25-30 ปอนด์/ตารางนิ้ว (psi)
  • รถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ ความดันลมยาง ประมาณ 30-35 ปอนด์/ตารางนิ้ว (psi)
  • รถกระบะ ความดันลมยาง ไม่ควรเกิน 65 ปอนด์/ตารางนิ้ว (psi)

สุดท้าย ผู้ขับขี่รถยนต์ควรระมัดระวังและควรเข้าใจการเติมลมยางทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเติมเองหรือให้ที่อื่นเติมก็ควรจะเติมตามาตรฐานที่กำหนดซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ขับขี่และยานพาหนะของผู้ขับขี่เอง

ขอบคุณข้อมูล : car.boxzaracing.com, รักษ์รถ.com, deestone.com

Toyota-Vios-เอามาทำแท็กซี่ได้ยังไง

นับตั้งแต่ Toyota Soluna มาจนถึง Toyota Vios ผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว ก็ยังมีคนสงสัยว่า “เอา Vios มาทำแท็กซี่ได้ไง?”

Toyota-Soluna-Vios-Taxi

“Toyota Vios เป็นแท็กซี่ได้ยังไง? รถไม่ใช่เครื่อง 1600 นะ ทำไมถึงเอามาทำแท็กซี่ได้” …

เป็นคำพูดที่ผมได้ยินมาตลอด หรือเห็นเป็นกระทู้อยู่ใน Pantip (พันทิป) เป็นระยะๆ ในช่วงเกือบๆ 20 ปีที่ผ่านมา

Toyota-Vios-Taxi-1

ผมจำได้ตั้งแต่ตอนที่ Toyota Soluna (โตโยต้า โซลูน่า) ไมเนอร์เชนจ์ รุ่นท้ายหยดน้ำ ก็มีรถรุ่นนี้ทำออกมาเป็นแท็กซี่แบบป้ายดำ ของสหกรณ์แท็กซี่แห่งหนึ่ง นำรถแท็กซี่รุ่น 1ท-2ท ย้ายทะเบียนเดิม มาใส่ในรถคันใหม่ (ป้ายทะเบียน ทก ทข ห้ามติดมิเตอร์ แต่ก็มีมิเตอร์หลายคันทีเดียว) จนถึงปัจจุบัน ก็มีคนพูดถึง “Toyota Vios Taxi” มาตลอด

Datsun-Sunny-Taxi

Datsun Sunny Taxi ในอดีต

เรื่องมันยาว … ต้องย้อนกลับไปสมัยที่รถแท็กซี่ ยังไม่มีมิเตอร์ ในยุคทะเบียน 1ท-2ท …

ประมาณปี 2513 ทางกระทรวงมหาดไทย สมัยที่จอมพลประภาส จารุเสถียร เป็นรัฐมนตรีว่าการ ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้รถแท็กซี่ ต้องประกอบการเป็นรูปบริษัทจำกัด หรือสหกรณ์จำกัด โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าเป็นบริษัทต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และต้องมีรถแท็กซี่ไม่น้อยกว่า 500 คัน

ส่วนสหกรณ์จะต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 1,000 คน มีรถแท็กซี่ไม่น้อยกว่า 500 คันเช่นเดียวกัน

กฎกระทรวงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในปี 2517 ในกรณีที่ยังปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ ไม่ได้ รมต. มหาดไทยมีอำนาจผ่อนผันได้ไม่เกิน 2 ครั้งๆ ละไม่เกิน 2 ปี

ในปีเดียวกัน ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศกฎกระทรวงมหาดไทย ก็ได้งดไม่ให้มีการจดทะเบียนเพิ่ม และทำการสำรวจจำนวนแท็กซี่ เพื่อนำมาเป็นข้อมูล พบว่ามีรถอยู่ทั้งหมด 9,000 คัน

Toyota-Corona-Taxi

Toyota Corona แท็กซี่ในอดีต (ภาพจาก Paul Thallon)

ปี 2517 – 2518 ราคาป้ายทะเบียนแท็กซี่ 1ท เริ่มมีราคาขึ้นมาบ้าง มาสูงสุดที่ 70,000 บาท ก่อนสิ้นปี 2518

ต่อมาในปี 2519 พ.ต.ท. บุญเลิศ เลิศปรีชา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงฉบับเก่าให้สหกรณ์มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คน ซึ่งลดลงจากเดิมที่กำหนดไว้ 1,000 คน และลดจำนวนแท็กซี่เหลือ 100 คัน การผ่อนผันกฎเกณฑ์ลงนี้เพื่อให้ผู้ขับรถแท็กซี่ มีการรวมตัวกันได้ง่ายขึ้น และสะดวกสำหรับการเข้ามาควบคุมดูแลของทางราชการ

พร้อมกับได้เพิ่มโควต้าทะเบียนแท็กซี่อีก 4,500 ป้าย โดยกำหนดเวลาให้มาจดทะเบียนเสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 เมษายน 2519 ในช่วงนั้นจึงมีผู้ประกอบการอาชีพขับรถแท็กซี่รวมตัวกันจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นมา 15 สหกรณ์ และรวมสหกรณ์เดิมอีก 1 เป็น 16 สหกรณ์

ป้ายทะเบียนแท็กซี่ที่เพิ่มขึ้นอีก 4,500 ป้าย ซึ่งใช้อักษรนำหน้าเป็น “2ท” ได้แบ่งโควต้าให้แก่สหกรณ์ต่างๆ 6 สหกรณ์ และกับอีก 4 บริษัทแท็กซี่ ทะเบียนที่จัดสรรให้สหกรณ์นั้น ให้แต่ละสหกรณ์นำไปแบ่งกันในหมู่สมาชิก จุดมุ่งหมายหลักก็เพื่อต้องการให้ผู้มีอาชีพขับรถแท็กซี่มีเครื่องมือหากินเป็นของตนเอง

และหลังจากที่ป้ายทะเบียนรุ่น “2ท” ออกสู่ท้องตลาด ราคาป้ายทะเบียน “1ท” ที่เคยมีการซื้อขายกันสูงถึง 70,000 บาท ก็ได้ลดลงมา กล่าวกันว่าในช่วงนั้นป้ายทะเบียนแทบไม่มีการซื้อขายกันเลย อย่างรถ นิสสัน บูลเบิร์ด มีการเสนอขายกันในช่วงนั้น 3 คัน 1 แสนบาท ยังหาคนซื้อยาก ป้าย “2ท” ที่ออกมาใหม่ไม่มีราคา

Toyota-Corolla-KE70-Taxi

Toyota Corolla (KE70) แท็กซี่ในอดีต (ภาพจาก Frog59)

หลังจากนั้นประมาณปี 2523 เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น แต่ยังไม่ค่อยจะดีนัก เถ้าแก่แท็กซี่พบทางออกที่จะแก้ปัญหาราคาน้ำมันที่แพง โดยหันมาใช้แก๊ส LPG แทน แต่กว่าที่ทางราชการจะยอมให้ติดตั้ง ก็ใช้เวลานานพอดูเพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ

ทางราชการมองถึงความไม่ปลอดภัย เพราะระบบการใช้เชื้อเพลิงแก๊สไม่เคยมีมาก่อน จนเกิดเป็นคดีขึ้นที่ สน.นางเลิ้ง ถึงขั้นฟ้องร้องต่อศาล แต่ในที่สุดยอมให้ใช้กันได้

เจ้าของอู่จึงคิดค่าเช่าเพิ่มอีก 20 บาท มาเป็น 80 บาท เนื่องจากต้องการลงทุนในถังแก๊ส ป้าย “1ท” เริ่มมีราคาขึ้นมาอีกครั้ง มีการซื้อขายกัน 20,000 บาท และป้าย 2ท ขายกันประมาณ 10,000 บาท

การที่ป้ายทะเบียน “1ท” มีราคาแพงกว่าป้าย “2ท” เพราะว่าป้าย “1ท” สามารถมีการซื้อขายและโอนย้ายข้ามบริษัทแท็กซี่หรือสหกรณ์ได้ ในขณะที่ป้าย “2ท” จำกัดการโอนย้ายอยู่ภายในบริษัทหรือสหกรณ์เดียวกันเท่านั้น

ช่วงนี้นายทุนเจ้าของอู่เดิมเริ่มพากันซื้อป้ายสะสมไว้เพื่อเก็งราคา ช่วงไล่เรี่ยกันนั้น รถแท็กซี่ก็หันมาติดแอร์ ทำให้เป็นที่นิยมของผู้โดยสาร ค่าเช่าจึงขยับตัวสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงหลักแสน คนขับที่มีป้ายเป็นของตนเองเริ่มขายป้ายให้กับนายทุน แล้วหวนกลับมาเช่ารถขับแทน

Toyota-Vios-Taxi

ภาพจาก Login reaming @ Pantip

ในราวปี 2530 ที่เศรษฐกิจเริ่มบูมราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นคนเล่นหุ้นมีกำไรงาม กอปรกับผู้ที่ไปขายแรงงานในตะวันออกกลาง เริ่มกลับมาปักหลักที่บ้านเกิดเมืองนอน มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นมามากมาย

เริ่มมีผู้คนหน้าใหม่เดินเข้าสู่ธุรกิจแท็กซี่ มาแย่งกันลงทุนในแท็กซี่ ป้ายแท็กซี่เริ่มขาดตลาด ทำให้ราคาดีดตัวขึ้นไป 300,000 บาท สำหรับป้าย “2ท” และ 400,000 บาท สำหรับป้าย “1ท”

Toyota-Vios-Taxi

จนกระทั่งมาในปี 2534 ป้าย 1ท ได้ขยับตัวขึ้นไปถึง 600,000 บาท และป้าย “2ท” ขึ้นไปถึง 500,000 บาท และค่าเช่าต่อหนึ่งกะสูงถึง 450 บาท เพราะการลงทุนในแท็กซี่ 1 คันรวมราคารถและราคาป้าย จนถึงเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย เป็นต้นทุนรวมจะตกประมาณคันละเกือบล้านบาท

Toyota-Corolla-EE80-Taxi

Toyota Corolla 1.3 DX (EE80) Taxi ยอดฮิตในยุค 80 (ภาพจาก Aekkarat Aittharit‎)

จนล่วงเลยมาในปี 2535 เป็นช่วงเดียวกับที่ นุกูล ประจวบเหมาะ นั่งอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สมัยรัฐบาลนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ยุคเปิดเสรี ทางกรมการขนส่งทางบก จึงรับหน้าที่ไปทำการศึกษาถึงการแก้ไขปัญหาของแท็กซี่ว่า “ทำไมค่าเช่าและค่าโดยสาร แพงเกินกว่าเหตุ”

หลังจากศึกษา ผลปรากฏว่าจำนวนรถที่มีอยู่เพียง 13,500 คัน คือทะเบียน 1ท 9,000 คัน และทะเบียน 2ท 4,500 คัน (ที่เปิดเพิ่มใหม่ให้เมื่อปี 2519) เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขเพราะจำนวนรถไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสาร

“นั่นเป็นเพราะว่า การจำกัดโควต้าไม่ให้แท็กซี่มีเพิ่มขึ้น สภาพการณ์ดังกล่าว เป็นเช่นนี้มานานเกือบจะ 20 ปี” ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยามในยุคนั้น เล่าให้ฟัง

นุกูล จึงผลักดันนโยบายเปิดเสรีออกไป ในที่สุดรัฐประกาศให้มีการเพิ่มป้ายรถแท็กซี่ ได้อย่างไม่จำกัดจำนวนโดยออกเป็นกฎกระทรวงมาเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2535 ที่ผ่านมา

Toyota-Avanza-Taxi

แม้แต่ Toyota Avanza ก็เอามาทำแท็กซี่เหลือง-ดำ ได้

จึงเป็นที่สิ้นยุคของรถแท็กซี่ยุคเก่า ที่เคยซื้อขายทะเบียนรถกันแพงลิบลิ่ว ค่อยๆ ทยอยหายไปจนเกือบหมด เหลือวิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ เพียง 297 คันในปัจจุบัน ซึ่งป้ายทะเบียนแบบเก่า สามารถนำรถที่มีจำนวนซีซีต่ำกว่า 1500 ซีซี มาทำแท็กซี่ได้ แต่ห้ามติดมิเตอร์ (แต่โป๊ะไฟ “Taxi-Meter” กันทั้งนั้น …)

Toyota-Vios-Taxi

Toyota-Vios-Taxi

Toyota-Vios-Taxi

Toyota Vios Taxi ป้ายแดงจากศูนย์ ใส่ทะเบียนแล้วพร้อมใช้งานได้เลย (ภาพจาก ง้วน ออโต้ เซอร์วิส)

โดยรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนก่อนปี พ.ศ.2535 คือหมวดทะเบียน 1ท และ 2ท เดิม โดยปัจจุบันเป็น แท็กซี่หมวด ทก และ ทข เป็นสัญลักษณ์ สีเหลือง-ดำ ซึ่งเป็นรถยนต์รับจ้างที่ใช้รับส่งผู้โดยสารในลักษณะเหมาคัน ได้มีประกาศเพิ่มเติมในกฎกระทรวงฉบับที่ 9 พ.ศ.2535 ให้งดรับจดทะเบียนเพิ่มเติม

ซึ่งเจ้าของรถที่จดทะเบียนรถประเภทนี้ หากไม่ประสงค์ใช้รถคันเดิม หรือคันเดิมมีสภาพเสื่อมโทรม สามารถนำรถคันใหม่มาจดทดแทนได้

แต่เพื่อเป็นการพัฒนารถแท็กซี่ให้มีมาตรฐานการให้บริการ มีการติดตั้งมิเตอร์ทุกคัน กรมการขนส่งทางบกจึงได้ยกเลิกการให้จดทดแทนตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 โดยให้สิ้นสภาพไปตามระยะเวลา ทำให้ปัจจุบันมีรถแท็กซี่รุ่นเก่าหมวดดังกล่าวที่ไม่ติดมิเตอร์ รวมทั้งสิ้น 297 คัน

ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้รถแท็กซี่จะต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปีตามเงื่อนไขที่กำหนด พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดตรวจการขนส่งทางบกลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวด หากตรวจสอบพบรถมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงหรือไม่พร้อมให้บริการ ก็จะทำการแจ้งยกเลิกใช้รถดังกล่าวทันที ซึ่งรถจำนวนดังกล่าวจะสิ้นสภาพไปในที่สุด

Toyota-Vios-Taxi

Toyota-Vios-Taxi

Toyota Vios Taxi สี เชียว-เหลือง หลงมาได้ไง! (ภาพจาก มิเตอร์ แท็กซี่)

แต่ก็มีคนหลายคน เมื่อเห็น Toyota Vios เป็นแท็กซี่ ก็ยังมีคำถามที่ว่า “เฮ้ย! Vios ทำแท็กซี่ได้ด้วยหรอ” อยู่อีก!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall Toyota Vios / โตโยต้า วีออส

สำหรับใครที่รักรถ Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) และอยากเป็นเจ้าของ Toyota Vios สภาพเยี่ยมสักคัน Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เรามี โตโยต้า วีออส ให้คุณเลือกมากมาย คุณสามารถจองรถ Toyota Vios ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง โตโยต้า วีออส ทุกคัน ผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

Mazda2-MY2018

Mazda2 (มาสด้า2) ใหม่ ราคาเดิม เพิ่มออพชั่น เปิดตัวแล้ว

Mazda2-MY2018

Mazda แนะนำ Mazda2 (มาสด้า2) รุ่น 2018 Collection ลุยตลาด ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “Excitement Never Ends” หรือ “เร้าใจ ไม่เคยหยุด” ใส่ออพชั่นเพิ่มจนล้นคัน หวังมัดใจสาวก Zoom-Zoom พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง SKYACTIV-Vehicle Dynamics ที่มาพร้อมกับระบบ G-Vectoring Control เอกลักษณ์เฉพาะตัวจากมาสด้า เพิ่มออพชั่นเต็มคัน แต่ราคาเท่าเดิม

Mazda2-2018สำหรับมาสด้า2 รุ่น 2018 คอลเลคชั่น ทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3L และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5L ทั้งตัวถังแบบซีดานและแฮตช์แบค หวังมัดใจกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ในราคาที่จับต้องได้ง่าย เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานที่หลากหลาย ประกอบด้วย

Mazda2-2018

– สีใหม่ล่าสุด สีแดงโซลเรด คริสตัล ที่ให้ความสดใสเป็นประกายของสีแดง
– ระบบเชื่อมต่อโลกการสื่อสาร MZD Connect
– ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด แบบอัตโนมัติ
– ที่ปัดน้ำฝนแบบกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
– ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light
– ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
– ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
– ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
– ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry)
– หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี

*ออพชั่นเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นของรถ

Mazda2-2018

Mazda 2 เครื่องยนต์เบนซิน

1.3 Skyactiv-G Standard ราคา 530,000 บาท
1.3 Skyactiv-G High ราคา 590,000 บาท
1.3 Skyactiv-G High Connect ราคา 620,000 บาท
1.3 Skyactiv-G High Plus ราคา 670,000 บาท

Mazdd 2 เครื่องยนต์ดีเซล

1.5 Skyactiv-D Standard ราคา 680,000 บาท
1.5 Skyactiv-D High Connect ราคา 750,000 บาท
1.5 Skyactiv-D High Plus L ราคา 789,000 บาท

สำหรับ รุ่น 1.3 Standard ไม่มีการเพิ่มอุปกรณ์

*เฉพาะสี Snowflake Pearl เพิ่มเงินอีก 7,000 บาท
**เฉพาะสี Soul Red เพิ่มเงินอีก 10,000 บาท

รุ่น High

ไฟอ่านแผนที่ตอนหน้า แบบแยกซ้าย–ขวา
ไฟส่องสว่างตรงกลางภายในห้องโดยสาร
หน้าจอกลาง แบบสี Center Display Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
ระบบ MZD Connect พร้อมปุ่ม Center Command
ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
ช่องเชื่อมต่อ USB 1 ช่อง / ช่องใส่ SD Card
ระบบจดจำเสียง Voice Recognition
ลำโพง 6 ตำแหน่ง (เดิน 4 คำแหน่ง)
ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor

รุ่น 1.3 High Connect เพิ่ม

ไฟหน้า LED Projector Lens พร้อมไฟ Daytime Running Light
ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control

รุ่น 1.3 High Plus

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM
ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA

รุ่น 1.5 Standard

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ

รุ่น 1.5 High Connect

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control

รุ่น 1.5 High Plus L

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor

Mazda2-2018

รถยนต์มาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู โดยในแต่ละรูปแบบตัวถังจะมี 7 รุ่นย่อย แบ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 รุ่นและเครื่องยนต์คลีนดีเซล 3 รุ่น

Mazda2-2018

สีภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ซึ่งสีใหม่ล่าสุด คือ สีแดง โซลเรด คริสตัล, สีขาว สโนว์เฟค ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล ไททาเนียมแฟลช, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค, สีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู, สีเทา เมทิเออ เกรย์ และสีดำ เจ็ท แบล็ก

Mazda2-2018

นับได้ว่าคุ้มค่าเลยทีเดียวสำหรับผู้ที่กำลังมองหา Mazda2 ใหม่ รุ่นปี 2018 เพราะนอกจากจะได้ออพชั่นต่างๆ เพิ่มขึ้นมาแล้ว ยังได้ประหยัดเงินด้วยเพราะซื้อได้ในราคาที่เท่ากับรุ่นปี 2017 ส่วนใครที่คิดว่างบประมาณยังมีไม่พอ ก็ลองมองหา Mazda2 มือสองได้ง่ายๆ ด้วยการติดต่อมาที่ Fanpage Carro Thailand ได้เลยครับผม

การแต่งรถเหล่านี้
อาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ร่วมเดินทางได้

หลายคนอาจซื้อรถมาเพื่อขับใช้งานปกติ แต่สำหรับบางคนนอกจากจะนำมาใช้งานแล้ว ยังชื่นชอบการตกแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้รถของตัวเองดูสวย ดูหล่อ แตกต่างจากคันอื่น หรือตกแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน

ซึ่งหากตกแต่งแบบธรรมดาทั่วไป ไม่ผิดกฎหมาย ก็คงจะไม่น่าเป็นห่วง และไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นการแต่งรถที่สร้างปัญหาให้กับผู้อื่น แบบนี้ไม่น่ารักเลย เพราะบนถนนไม่ได้มีแค่รถของคุณวิ่งอยู่คันเดียว

วันนี้ คาร์โร จึงยกตัวอย่างการแต่งรถที่มักสร้างปัญหาให้กับผู้อื่น มีอยู่ 5 ข้อใหญ่ๆ ดังนี้

1. ท่อไอเสียเสียงดังเกินมาตรฐาน

สำหรับคนคิดอยากจะแต่งรถเป็นสิ่งแรกๆ เลยที่จะต้องเปลี่ยนท่อก่อน ไม่ว่าจะเปลี่ยนทั้งเส้น หรือเปลี่ยนแค่ปลายท่อ เพื่อให้ได้เสียงลั่นๆ สร้างความเร้าใจยิ่งขึ้น ซึ่งหากเปลี่ยนมาแล้วเสียงดังกำลังดี และไม่รบกวนเพื่อนร่วมทาง ก็ถือว่าโอเค แต่ถ้าเปลี่ยนมาแบบไม่สนใจใคร เสียงดังลั่นซอย แบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะคนอื่นอาจไม่ชอบเหมือนเราก็ได้ แถมยังเป็นการรบกวนอีกด้วย

2. โหลดเตี้ย – ยกสูง

ข้อนี้ จริงๆ แล้วการโหลดเตี้ยลงมาจนติดพื้นมันไม่ได้สร้างปัญหาให้คนอื่นสักเท่าไหร่ ส่วนมากจะลำบากคนที่ขับรถโหลดเตี้ยมากกว่า เพราะเวลาเจอเนินสูงๆ หรือเจอหลังเต่าในซอย ก็จะต้องค่อยๆ ขับ ค่อยๆ ตะแคง หยอดลงไปเบาๆ เพื่อป้องกันชุดแต่งเสียหาย ซึ่งตรงนี้แหละที่จะทำให้รถที่ขับตามหลังต้องลำบาก เพราะต้องคอยจนกว่ารถโหลดเตี้ยจะผ่านไปได้ ส่วนรถยกสูงก็จะมีแค่เรื่องบดบังทัศนวิสัย เนื่องจากรถสูงๆ ใหญ่ๆ ที่วิ่งอยู่ด้านหน้า จะทำให้รถที่ขับตามมองไม่เห็นเส้นทางข้างหน้านั่นเอง
พ.ร.บ
3. ไฟหน้าซีนอนแยงตา

รถบางคันไม่มีมาให้แต่แรก จึงจัดการไปเปลี่ยนใหม่เป็นหลอดซีนอน เพื่อเพิ่มความสว่าง และสวยงาม แต่การเปลี่ยนเฉพาะหลอดจะทำให้แสงไฟฟุ้งกระจาย รถที่ขับสวนเลน หรือรถที่ขับอยู่ด้านหน้าก็จะได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ทำให้ตาพร่า มองเห็นไม่ชัดเจน ฯลฯ ซึ่งถ้าหากอยากจะใส่จริงๆ ควรจะหาโคมโปรเจคเตอร์มาใส่ด้วย เพราะตัวโคมสามารถรวมแสงไม่ให้ฟุ้งกระจายไปรบกวนคนอื่นได้

4. ไฟหรี่ไอติม ทั้งด้านหน้า-หลัง

คนใส่อาจจะคิดว่าเท่ สวย ดูดี เงินตัวเองจะแต่งรถแบบไหนก็ได้ แต่จริงๆ แล้ว การดัดแปลงสัญญาณไฟรถที่ไม่ใช่จากผู้ผลิต เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และก่อให้เกิดความรำคาญ รบกวนการขับรถ ทำให้สมรรถนะในการขับขี่ลดลง จนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

ไฟไอติม-ไฟซิ่ง

5. เปิดเพลงเสียงดัง

รถบางคันอาจไม่ได้แต่งภายนอก หรือเครื่องยนต์เลย แต่กลับจัดชุดเครื่องเสียงชุดใหญ่ลงไปแทน ซึ่งหลายๆ คนมักคิดว่าไหนๆ ทำมาแล้วก็เปิดโชว์ให้คนอื่นฟัง หรือหันมามองในความเท่นี้ด้วย แต่กลับกันคนส่วนใหญ่มักไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะมันสร้างความเดือดร้อน และความรำคาญเสียมากกว่า

สุดท้าย อยากให้คนที่แต่งรถแบบที่ได้กล่าวมานั้น เห็นใจและเข้าใจผู้ร่วมทางคนอื่นๆที่เดือดร้อนกันบ้าง เพราะคงไม่มีใครพอใจหรอก หากมีคนมาทำเรื่องที่คุณไม่ชอบเหมือนกันต่อหน้า นอกจากนี้บางข้อที่กล่าวมา ยังผิดกฎหมาย หากคุณขับไปเจอด่านก็เตรียมเงินเสียค่าปรับได้เลย

 

ที่มา : auto.sanook.com/62009/

5 เรื่องที่มือใหม่หัดขับรถ ต้องรู้!

เป็นมือใหม่หัดขับรถ รู้ไว้ จะกลายเป็นมือโปรในระยะสั้นๆ

นับวันจำนวนรถเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ในขณะที่มีพื้นที่ถนนเท่าเดิม ทำให้สิ่งที่ตามมาคือปัญหาการจราจร ฉะนั้นเริ่มที่ตัวผู้ขับขี่เองจะดีกว่า และด้วยส่วนหนึ่งคือการมีมือใหม่ที่เยอะมากขึ้นบนถนน ทำให้คนที่ใช้รถใช้ถนนในปัจจุบัน ล้วนแต่เต็มไปด้วยคนที่ไม่ค่อยรู้ หรือขับเป็นแต่ไม่เข้าใจ

ส่วนเรื่องที่รู้อยู่แล้ว อย่างกฎจราจรต่างๆ ครั้งนี้จึงจะไม่พูดถึงกันให้มากมาย แต่ถ้าวันนี้คุณเพิ่งขับรถลองดูสิว่า เรื่องเหล่านี้จะช่วยให้คุณขับรถปลอดภัยขึ้นหรือไม่ในการขับขี่ปัจจุบัน

ขับรถ

1. เบรก ควรใช้เมื่อหยุดเท่านั้น

อาจจะเป็นเรื่องที่ยากจะบรรยายเกี่ยวกับการใช้เบรก แต่โดยปกติแล้วเบรกจะถูกใช้ 2 กรณี คือชะลอความเร็วและหยุดรถ แต่ด้วยความเข้าใจในเรื่องการชะลอความเร็วนี่เอง ทำให้มือใหม่หลายคนขับรถโดยแตะเบรกแทบตลอดเวลาทำให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ผู้ขับขี่คนอื่น เนื่องจากเวลาเบรกไฟเบรกทางด้านหลังก็จะติดด้วย และจะทำให้ผ้าเบรกเกิดการสึกหรอมากกว่าที่ควรจะเป็น เพียงเพราะต้องการรักษาความเร็ว

ทางแก้ของปัญหานี้ คือ ต้องหัดการควบคุมคันเร่ง แต่หากวันนี้ใครเป็นคนที่ขับรถแล้ว ติดต้องใช้เบรก ลองเริ่มต้นด้วยการผ่อนคันเร่งก่อน แล้วกลับค่อยๆ เหยียบไปให้น้ำหนักตามความเร็วที่ต้องการดู น่าจะดีกว่า แม้อาจจะไม่ชินในช่วงแรกแต่ท้ายที่สุด เมื่อเข้าใจในการทำงานก็จะรู้ว่าเบรกไม่ใช่ทุกสิ่งที่สามารถชะลอความเร็วได้

2. ไฟเลี้ยว

ไฟเลี้ยวถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และมันช่วยอำนวยความปลอดภัยในการบอกทิศทางที่จะไป เช่นเดียวกับที่ทำให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้นด้วย ตามหลักแล้วควรเปิดไฟเลี้ยวก่อนทุกๆ 100 เมตร เช่นเดียวกับตอนที่จะเปลี่ยนเลน

 

3. ไฟฉุกเฉิน

ที่มาของไฟฉุกเฉินคือ การที่เราส่งสัญญาณแสดงไฟเลี้ยวทั้งสองข้างพร้อมกัน และคำว่าฉุกเฉินก็ย่อมหมายถึงว่ามีเรื่องที่ทำให้รถไม่สามารถขับเคลื่อนต่อได้ หรือเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น หลายคนอาจจะเคยถูกสอนมาว่าให้เปิดไฟฉุกเฉินยามฝนตกด้วย หรือกระทั่งยามข้ามแยกไม่มีสัญญาณไฟ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นแนวคิดที่ผิด เนื่องจากจะทำให้ผู้ขับขี่เกิดความสับสนและอาจจะนำไปสู่อุบัติเหตุได้ในที่สุด

ขับรถ

4. ขับเร็ววิ่งขวา ขับช้าวิ่งกลาง

ข้อนี้สำคัญทั้งมือใหม่ หรือมือเก่า ที่ขับช้าแล้วยังวิ่งเลนขวาสุด โดยเฉพาะมือใหม่มักจะพบเห็นบ่อย ที่ยังเห็นวิ่งเลนขวา แล้วทิ้งระยะห่างหลายกิโลฯ ทำให้คนที่รีบก็แซงไม่ได้ เมื่อโดนจี้มากๆ ก็จะเกิดอาการลน จึงอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ และยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหารถติดตามมามากมาย

 

5. แตร

ส่วนใหญ่ที่เจอคือไม่ค่อยบีบแตรกัน ซึ่งการใช้รถในภาคสากล แตรคือสัญญาณเตือน ไม่ใช่การยกไฟสูงใส่ ซึ่งด้วยนิสัยของคนไทยเป็นคนขี้เกรงใจ ทำให้น้อยคนที่ใช้แตรเป็นสัญญาณ ทั้งที่จริงมีเพียงไม่กี่ที่ ที่ห้ามใช้ได้แก่ สถานศึกษา วัด โรงพยาบาล และเขตพระราชฐาน ส่วนที่อื่นไม่ได้ห้ามอย่างชัดเจน  ดังนั้นหากพบปัญหาที่อาจจะนำมาซึ่งอุบัติเหตุสิ่งที่ควรทำคือการบีบแตร เพื่อเตือนเพื่อนร่วมทาง0

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้อาจจะเรียกว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการขับขี่อย่างปลอดภัยบนท้องถนน แม้ถนนกับมือใหม่หัดขับอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นชิน แต่ด้วยประสบการณ์ในการขับขี่ ก็จะสอนให้รู้ว่าการขับรถที่ถูกต้องอาจจะไม่ใช่เหมือนที่โรงเรียนสอนขับรถแนะนำเสมอไป

ขับรถ

ด้วยหลักการขับรถอย่างปลอดภัยมีข้อปฏิบัติอยู่ 3 ประการ คือ

1. ไม่ขับไปชนเขา

2.ไม่ให้เขามาชนเรา และ

3. ไม่เป็นสาเหตุให้เขาชนกัน

ดูเหมือนง่ายแต่ผู้ขับขี่ก็ต้องศึกษา และใช้ประสบการณ์บนท้องถนนให้เป็นประโยชน์ โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ ก็จะลดน้อยลงนะคะ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาจาก:

  • auto.sanook.com
Promotion-Feb-2018

ติดตามโปรโมชั่นรถใหม่ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2561 กับ CARRO Blog ได้ที่นี่

สวัสดีในเดือนแห่งความรักเช่นนี้ ค่ายรถยนต์หลายค่าย ต่างเตรียมตัวเปิดตัวรถยนต์ใหม่ เพื่อดึงดูดเงินในกระเป๋าคุณกันเป็นแถว เริ่มต้นกันในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ Ford เปิดตัวรถกระบะ Ranger Raptor ใหม่ ส่วนในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค่าย Suzuki เปิดตัว Swift ใหม่ และในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ Mercedes-Benz เตรียมเปิดตัว Mercedes-AMG C43 4-Matic Coupe เวอร์ชั่นประกอบในประเทศ

ทาง CARRO ก็ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นเด็ดๆ แคมเปญโดนๆ สำหรับคนอยากที่ซื้อรถใหม่ เฉกเช่นทุกเดือนครับ

ถ้าคุณอยากขายรถที่ตัวเองมีอยู่แล้วเพื่อซื้อรถใหม่ ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ขายรถง่ายๆ ได้ราคาดี กับ CARRO Thailand” นะครับ

สำหรับโปรโมชั่นรถใหม่ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เชิญชมได้ด้านล่างครับ.

Toyota

Toyota-Yaris-ATIV-Promotion-1-2018

เติมเต็ม Lifestyle ที่ใช่คุณแบบง่ายๆ

Yaris และ ATIV ผ่อนเริ่มต้นเพียง 4,399 บาท/เดือน ด้วยโปรแกรมสบายดี จาก โตโยต้า ลีสซิ่ง

Toyota-Hilux-Revo-Promotion-2-2018

ใหม่! ไฮลักซ์ รีโว่ ตัวตน ของคนจริง

ซื้อวันนี้ ฟรี ประกันภัยชั้น 1 Exclusive Toyota Care มูลค่าสูงสุด 28,500 บาท วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2561

Nissan

Nissan-Range

ขับรถนิสสันให้สนุก โปรโมชั่นนี้มีผลถึง 28 กุมพาพันธ์ 2561

Note 

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*

“Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 4,150 บาท* [(สำหรับงวดที่ 1-60), เงินดาวน์ 30% (170,400 บาท), ดอกเบี้ย 3.89% และงวดที่ 61 (227,200 บาท),คำนวณจากรุ่น 1.2V CVT ราคา 568,000 บาท]

Almera

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

เลือกรับข้อเสนอพิเศษ*:
(1) “Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,990 บาท [(สำหรับงวดที่ 1-60), เงินดาวน์ 30% (161,100 บาท),ดอกเบี้ย 2.13% และงวดที่ 61 (177,210 บาท), คำนวณจากรุ่น 1.2 E Sportech ราคา 537,000 บาท]
หรือ
(2) ดาวน์ต่ำสุด 19,999 บาท (คำนวณจากส่วนลดเงินดาวน์ 33,701 บาท ที่ดาวน์ 10% รุ่น 1.2 E Sportech ราคา 537,000 บาท) และ คูปองน้ำมัน มูลค่า 8,000 บาท

Almera Nismo

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

เลือกรับข้อเสนอพิเศษ*:
(1) “Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,990 บาท [(สำหรับงวดที่ 1-60), เงินดาวน์ 32% (174,720 บาท), ดอกเบี้ย 2.56% และงวดที่ 61 (180,180 บาท), คำนวณจากรุ่น 1.2E NISMO ราคา 546,000บาท]
หรือ
(2) ดาวน์ต่ำสุด 19,999 บาท (คำนวณจากส่วนลดเงินดาวน์ 34,601 บาท ที่ดาวน์ 10% รุ่น 1.2 E NISMO ราคา 546,000 บาท)

X-Trail

เลือกรับข้อเสนอพิเศษ*:
ราคาพิเศษ 1,159,000 บาท**
หรือ
อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 0%* (เงินดาวน์ 30% ระยะเวลาผ่อนชำระ 24-48 เดือน)
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี*
* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น
** สำหรับรุ่น 2.0S 2WD CVT

Navara

Single Cab

ราคาพิเศษ 499,000 บาท*
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
* สำหรับ S/Cab S 6MT

King Cab

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
เลือกรับข้อเสนอพิเศษ:*
(1) ดาวน์ต่ำ 9,999 บาท (คำนวณจากส่วนลดเงินดาวน์ 53,501 บาท ที่ดาวน์ 10% รุ่น K/Cab 18MY S 6MT ราคา 635,000 บาท)
หรือ
(2) “Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 4,500 บาท [(สำหรับงวดที่ 1-60), เงินดาวน์ 25% (158,750 บาท), ดอกเบี้ย 1.97% และงวดที่ 61 (254,000 บาท), คำนวณจากรุ่น K/Cab 18MY S 6MT ราคา 635,000 บาท]

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

Double Cab

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
อัตราดอกเบี้ย 0* (เงินดาวน์ 30%, ระยะเวลาผ่อนชำระ 24-48 เดือน)
* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

Navara Sportech / Black Edition

บัตรกำนัล มูลค่า 10,000 บาท*
อัตราดอกเบี้ย 0* (เงินดาวน์ 25%, ระยะเวลาผ่อนชำระ 24-48 เดือน)
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
เพิ่มมูลค่ารถเก่าเมื่อแลกซื้อรถใหม่ (Trade-in bonus) 10,000 บาท

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

Sylphy

MY2018

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี
อัตราดอกเบี้ย 0% (เงินดาวน์ 30%, ระยะเวลาผ่อนชำระ 24-48 เดือน)

* เงื่อนไขนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

Teana

อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 0% (เงินดาวน์ 25%, ระยะเวลาผ่อนชำระ 24-48 เดือน)
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

* เงื่อนไขนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น

March 

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection 1 ปี

เลือกรับข้อเสนอพิเศษ*:
“Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 3,330 บาท [(สำหรับงวดที่ 1-60), เงินดาวน์ 23% (92,400 บาท), ดอกเบี้ย 1.15% และงวดที่ 61 (147,000 บาท), คำนวณจากรุ่น 1.2 S MT ราคา 420,000 บาท]
หรือ
ดาวน์ต่ำสุด 4,999 บาท** (คำนวณจากส่วนลดเงินดาวน์ 37,001 บาท ที่ดาวน์ 10% รุ่น 1.2 S MT ราคา 420,000 บาท)

* ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับบริษัท นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น
** เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ

Honda

Honda-Promotion-2-3-4-2018

ออกรถวันนี้ ลุ้นรับ รถยนต์ฮอนด้าและอื่นๆ อีกมากมาย มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท วันนี้ – 10 เม.ย. 2561

ในการลุ้นรางวัล ผู้ร่วมรายการจะได้รับสิทธิ์การลุ้นรางวัลต่อการซื้อรถยนต์ฮอนด้า 1 คัน ดังนี้ บริโอ้ / บริโอ้ อเมซ รับ 1 สิทธิ์ ซิติ้ / แจ๊ซ / โมบิลิโอ / บีอาร์-วี รับ 2 สิทธิ์ ซีวิค / เอซอาร์-วี รับ 3 สิทธิ์ ซีอาร์-วี / แอคคอร์ด รับ 4 สิทธิ์ แอคคอร์ด ไฮบริด รับ 5 สิทธิ์

Honda-Promotion-2-3-4-2018

เป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายๆ กับฮอนด้าช่วยผ่อนสูงสุด 10,000 บาท และบัตรของขวัญฮอนด้า มูลค่า 3,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำ หรือฟรีประกันภัย ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ วันนี้ ถึง 10 เม.ย. 2561 เท่านั้น

Mazda

Mazda-Promotion-2-2018

Mazda Promotion 

ซีซั่นแห่งความโชคดี สุขกับทุกข้อเสนอ จองรถ รับลำโพงพลูทูธ JBL GO+ รุ่นใหม่ล่าสุด 10-18 ก.พ. 2561 ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

Mazda2

ดอกเบี้ย 1.69% ดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน (ยกเว้น รุ่น 1.3 Standard และ 1.3 Sports Standard ราคา 530,000 บาท)
ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
และ Mazda Care Program 3 ปี

(เฉพาะมาสด้า2 รุ่นปี 2017 เท่านั้น)

Mazda3

ดอกเบี้ย 0.33% ดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน (ยกเว้น รุ่น 2.0E และ 2.0E Sports ราคา 847,000 บาท)
ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mazda CX-3

ดอกเบี้ย 0.66% (ยกเว้น รุ่น 2.0E ราคา 835,000 บาท)
ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mazda CX-5

ดอกเบี้ย 1.99% ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน
ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี

Mazda MX-5

ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
และโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร

Mazda BT-50 PRO

ดาวน์เริ่มต้น 35,000 บาท (เฉพาะรุ่น FSC 2.2S ราคา 630,000 บาท ตามโปรแกรมพิเศษสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย)
ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
และ Mazda Care Program 5 ปี

Mitsubishi

Mitsubishi-Promotion-1-2018

ข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับมิตซูบิชิทุกรุ่น ด้วยแพ็กเกจ 5 ปี ดูแลดีถึงใจ ซื้อรุ่นไหน ก็ดูแลดีถึงใจ

ฟรี ค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี [1]
ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. 5 ปี [2]
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี [3]
พร้อมรับประกันคุณภาพ และ ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี [4]

เงื่อนไข: *สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่น Triton S/Cab 4WD 2.5D HP GL 5AT (SWB)) ตั้งแต่วันที่ 1 – 28 กุมภาพันธ์ 2561

[1] ฟรีค่าอะไหล่และเคมีภัณฑ์ตามกำหนดการเช็คระยะ มูลค่าสูงสุด 23,442 บาท สำหรับรุ่น ปาเจโร สปอร์ต, มูลค่าสูงสุด 23,703 บาท สำหรับรุ่นไทรทัน, มูลค่าสูงสุด 18,464 บาท สำหรับรุ่นแอททราจ และ รุ่นมิราจ ตามเงื่อนไขและข้อจำกัดของการบริการที่บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด

[2] บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน นาน 5 ปี ตามเงื่อนไขและข้อจำกัดของการบริการที่บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด

[3] เบี้ยประกันภัยชั้นหนึ่งไดมอนด์ โพรเทคชั่น เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 28,499 บาท สำหรับรุ่นปาเจโร สปอร์ต, มูลค่าสูงสุด 21,864 บาท สำหรับรุ่นไทรทัน, มูลค่าสูงสุด 16,223 บาท สำหรับรุ่นแอททราจ และ มูลค่าสูงสุด 15,746 บาท สำหรับรุ่นมิราจ ตามเงื่อนไขการรับประกันภัยและทุนประกันภัยที่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด

[4] การรับประกันคุณภาพรถยนต์ (Diamond Warranty) 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน) ระยะเวลาการรับประกันของชิ้นส่วนและอุปกรณ์แต่ละชนิดอาจแตกต่างกันตามที่ระบุไว้ในสมุดรับบริการและคู่มือการใช้รถ และรายการฟรีค่าแรงเช็คระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน) มูลค่า 8,150 บาท สำหรับรุ่นปาเจโร สปอร์ต, มูลค่าสูงสุด 8,100 บาท สำหรับรุ่นไทรทัน, มูลค่าสูงสุด 7,650 บาท สำหรับรุ่นแอททราจ และ รุ่นมิราจ อัตราค่าแรงที่นำมาคำนวณอ้างอิงจากอัตราค่าแรงกลาง บริการฟรีเฉพาะค่าแรงเช็คระยะตามที่กำหนดไว้ในบัตรตรวจเช็คระยะฟรีในสมุดรับบริการและคู่มือการใช้รถ ซึ่งรถยนต์ของลูกค้าจะได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาตามรายการที่ระบุไว้ โดยลูกค้าสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการมาตรฐานของผู้จำหน่ายมิตซูบิชิที่ได้รับการแต่งตั้งเท่านั้น

[5] สามารถตรวจสอบรายละเอียดการให้บริการ รวมถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดเพิ่มเติมได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th/

Suzuki

Suzuki-Ciaz

โปรร้อนแรง แซงทุกดีล

Suzuki Swift ทุกรุ่น
อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน*,
พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง**
และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ ดับเบิลยู พี (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี

Suzuki Ciaz ทุกรุ่น
อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 36 เดือน*,
พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง**
และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ ดับเบิลยู พี (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี

Suzuki Celerio ทุกรุ่น
อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน*,
(รุ่น GA/MT ไม่ร่วมรายการ) พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง**
และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ ดับเบิลยู พี (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี

Suzuki Ertiga ทุกรุ่น
อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน*,
พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง**
และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ ดับเบิลยู พี (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี

Suzuki Carry ทุกรุ่น
ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่า 30,000 บาท*,
พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง**

หมายเหตุ
*เงื่อนไขดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่ซื้อเป็นเงินสด หรือเช่าซื้อกับธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เท่านั้น
**ประกันภัยชั้นหนึ่ง ปีแรกไม่รวม พรบ. บุคคลที่ 3 เฉพาะบริษัทประกันที่ร่วมโครงการ คือ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เท่านั้น
***บัตรน้ำมันจะถูกจัดส่งภายใน 60 วัน หลังการส่งมอบรถยนต์ซูซูกิ สามารถติดต่อสอบถามการรับบัตรน้ำมันได้ที่ โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิที่ท่านทำการออกรถ
****เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิใกล้บ้านท่านทุกสาขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Subaru

Subaru-Forester-Promotion-2-2018

Subaru Forester ดอกเบี้ย 0% 48 เดือน ฟรีประกันชั้นหนึ่ง 3 ปี เฉพาะรุ่น 2.0i คันที่กำหนดเท่านั้น หรือรถเก่าแลกใหม่รับส่วนลดสูงสุด 80,000 บาท

Isuzu

Isuzu-D-Max-Promotion-2-2018

เชิญสัมผัสและทดลองขับ ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ ขีดสุด แห่ง นวัตกรรมเปลี่ยนโลก

เอกสิทธิ์พิเศษ เมื่อซื้อ ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ เงื่อนไขไฟแนนซ์ดอกเบี้ยพิเศษ 1.59% หรือ รับบัตรกำนัลอีซูซุ มูลค่า 10,000 บาท

ตั้งแต่ 1 ก.พ. – 28 ก.พ. 2561

Isuzu-D-Max-V-Cross-Promotion-2-2018

เอกสิทธิ์พิเศษ เมื่อซื้อ ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ V-Cross Max 4X4 บลูเพาเวอร์ เงื่อนไขไฟแนนซ์ดอกเบี้ยพิเศษ 1.30%

ตั้งแต่ 1 ก.พ. – 28 ก.พ. 2561

Testdrive-Isuzu-D-Max-1-2-2018

เชิญสัมผัสและทดลองขับ ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์

เงื่อนไขในการร่วมรายการ
1. ทดสอบขับรถ ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ ที่โชว์รูมอีซูซุหรือสถานที่จัดกิจกรรมทั่วประเทศ ตั้งแต่ 4 ม.ค. – 28 ก.พ. 2561 โดยผู้ที่สนใจมีสิทธิ์ลงทะเบียนกรอกชื่อ-ที่อยู่ในแบบฟอร์มที่บริษัทฯจัดเตรียมไว้เพื่อลุ้นรางวัล รางวัลรวม 60 รางวัล มูลค่ารวมทั้งสิ้น 6,000,000 บาท
2. จับรางวัล 2 ครั้ง ณ โชว์รูมอีซูซุคาร์แกลเลอรี่ สาขารังสิต-นครนายก เลขที่ 49 หมู่ 2 ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จับรางวัลในวันที่ 8 ก.พ. 2561 และ 7 มี.ค. 2561 เวลา 11.00 น. ประกาศผลในวันที่ 19 ก.พ. 2561 และ 19 มี.ค. 2561 ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ และทางบริษัทฯ จะส่งจดหมายลงทะเบียนไปถึงผู้โชคดีตามที่อยู่ที่ลงทะเบียนไว้
3. รายละเอียดรางวัลสำหรับทั้ง 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ตั้งแต่ 4-31 ม.ค. 2561 บัตรกำนัลมูลค่า 100,000 บาท จำนวน 10 รางวัล รวมมูลค่า 1,000,000 บาท ครั้งที่ 2 ตั้งแต่ 1-28 ก.พ. 2561 บัตรกำนัลมูลค่า 100,000 บาท จำนวน 10 รางวัล รวมมูลค่า 1,000,000 บาท
4. รางวัลบัตรกำนัลนี้ใช้สำหรับเป็นส่วนลดในการซื้อรถ ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ คันใหม่เท่านั้น
5. ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจะต้องออกรถระหว่างวันที่ 4 ม.ค. 2561-31 พ.ค. 2561 เท่านั้น หากไม่ใช้สิทธิ์ในการซื้อรถถือว่าสละสิทธิ์ บริษัทฯ จะให้ผู้โชคดีที่สำรองไว้ใช้สิทธิ์แทนต่อไป
6. ผู้โชคดีมีสิทธิ์ได้รับรางวัลสูงสุดเพียงรางวัลเดียว
7. ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสด หรือโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้
8. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงของรางวัลโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
9. ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจะต้องชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย 5% หรือตามที่กฎหมายกำหนด
10. พนักงานและครอบครัวของพนักงาน บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด และบริษัทในกลุ่มอีซูซุ/ ผู้จำหน่ายอีซูซุ/ บริษัทตัวแทนโฆษณาที่เกี่ยวข้อง / คณะกรรมการดำเนินงานไม่มีสิทธิ์ร่วมรายการ
11. ผลของการจับรางวัลของคณะกรรมการถือเป็นเด็ดขาด และสิ้นสุด

Isuzu-MU-X-1-2-2018

เอกสิทธิ์พิเศษ เมื่อซื้อ ใหม่! อีซูซุมิว-เอ็กซ์ บลูเพาเวอร์ เงื่อนไขไฟแนนซ์ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือ รับบัตรกำนัลอีซูซุ มูลค่า 10,000 บาท

ตั้งแต่ 4 ม.ค. – 28 ก.พ. 2561

– อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% เมื่อซื้อรถ ใหม่! อีซูซุมิว-เอ็กซ์ บลูเพาเวอร์
– เงื่อนไขไฟแนนซ์เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนด อ้างอิงดอกเบี้ยเดือน มกราคม – กุมภาพันธ์ 2561

Chevrolet

Chevrolet-Promotion-1-2-2018

ห้ามพลาด ข้อเสนอสุดพิเศษ ก้าวสู่ปีทองแห่งความสำเร็จ เชฟโรเลตให้คุณผ่อนน้อย นาน 12 เดือน ที่โชว์รูมเชฟโรเลต ทั่วประเทศ 1 ม.ค. 2561 – 28 ก.พ. 2561

Ford

Ford-Promotion-2-2018

ข้อเสนอคุ้มแล้วคุ้มอีก จาก ฟอร์ด ถึง 28 ก.พ. 2561

Hyundai

Hyundai-Promotion-2-3-4-2018

Hyundai Big Thanks : ฉลอง 10 ปี ฮุนได เสกความสุขชุดใหญ่ แค่ซื้อรถฮุนไดรุ่นใดก็ได้ ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2561- 30 เมษายน 2561

รางวัลที่ 1 ทองคำแท่ง หนัก 10 บาท มูลค่ารางวัลละ 206,200 บาท จำนวน 10 รางวัล รวมมูลค่า 2,062,000 บาท (อ้างอิงจากราคาทอง ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560)
รางวัลที่ 2 แพคเกจทัวร์ประเทศเกาหลีใต้ 5 วัน 3 คืน สำหรับ 2 ท่าน มูลค่ารางวัลละ 100,000 บาท จำนวน 5 รางวัล รวมมูลค่า 500,000 บาท
รางวัลที่ 3 โทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy Note 8 รุ่น 64GB มูลค่ารางวัลละ 33,900 บาท จำนวน 15 รางวัล รวมมูลค่า 508,500 บาท

ทั้งหมด จำนวน 30 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้น 3,070,500 บาท

MG

MG3

MG3 ผ่อนเริ่มต้น 5,202 บาท/เดือน ฟรีชุดแต่งรอบคัน และกล้องมองหลัง วันนี้ – 28 ก.พ.นี้