5-Tips-Driving-Through-A-Railroad-Crossing

อีกข่าวหนึ่งที่มีให้เห็นกันตามโลกโซเชียลกันอยู่เสมอๆ อีกหนึ่งข่าว ที่อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกันบ่อยมากนัก แต่มันก็อยู่ใกล้ตัวของคนขับรถอยู่มากพอสมควร กับข่าวรถไฟชนกับรถยนต์ หรือชนคนก็ตาม

หลายคนอาจไม่รู้ว่า ทางรถไฟนั้น มีจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ ที่ทั้งถูกต้อง และเป็นทางลักผ่าน ทางตัดผ่าน (Illegal Crossing) ที่ชุมชนแถบริมทางรถไฟ ทำขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็นของเอกชน หรือผู้อยู่อาศัยแถวนั้น หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล “แต่ไม่ได้ขออนุญาตทำทางตัดผ่าน จากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือไม่ได้รับอนุญาตจากการรถไฟแห่งประเทศไทย”

5-Tips-Driving-Through-A-Railroad-Crossing

ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากถึงร้อยละ 87 ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณจุดตัดทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้น ซึ่งส่วนใหญ่ของอุบัติเหตุ มีสาเหตุจากความไม่คุ้นเคยและความไม่ชำนาญเส้นทางของคนขับ รวมถึงการขาดทักษะในการขับรถผ่านเส้นทาง

MR.CARRO มีข้อมูลดีๆ จากการรถไฟแห่งประเทศไทย มาแนะนำทุกท่านเมื่อจำเป็นต้องขับรถผ่านทางรถไฟกันครับ

5-Tips-Driving-Through-A-Railroad-Crossing

1. หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร

ไม่ว่าตรงนั้น จะมีเครื่องกั้นทาง หรือเครื่องหมายหรือเสียงสัญญาณระวังรถไฟหรือไม่ก็ตาม เพื่อความปลอดภัยต้องดูให้แน่ใจว่า จะไม่มีรถไฟวิ่งผ่าน หรือรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว ถึงจะค่อยขับรถผ่านไปได้

2. ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นภายในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางเดินรถที่ตัดข้ามทางรถไฟ

5-Tips-Driving-Through-A-Railroad-Crossing

3. ถ้าต้องจอดรถ ควรจอดรถในระยะไม่ต่ำกว่า 15 เมตร ก่อนถึงทางรถไฟ

4. หากเห็นป้ายสัญลักษณ์ ต้องหยุด!

หากเห็นป้ายสัญลักษณ์ เช่น ป้ายหยุด ป้ายเตือนรูปกากบาท “ระวังรถไฟ” ป้ายทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนสีอำพัน มีรูปรถจักรไอน้ำและรั้วกั้น ให้ชะลอความเร็ว และจอดดูซ้าย-ขวา ให้แน่ใจว่าไม่มีรถไฟแล่นผ่านมา เมื่อเห็นว่าปลอดภัยจึงขับผ่านไปได้

5. ถ้ารถคันที่ติดฟิล์มกรองแสงเข้มมาก ให้เปิดกระจกรถดูก่อนจะขับผ่านไป!

รถในยุคปัจจุบันส่วนใหญ่ มักติดฟิล์มกรองแสงชนิดเข้มมาก จนอาจทำให้มองเห็นไม่ชัดในเวลากลางคืน จึงต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น ขณะขับรถข้ามทางรถไฟ เพื่อความปลอดภัยกรณีขับรถทางตัดผ่านที่ไม่มีเครื่องกั้น ให้เปิดกระจกรถซ้าย-ขวา ดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถไฟมา แล้วค่อยขับรถผ่านไป

สำหรับป้ายเตือนหรือป้ายสัญญาณจราจรติดตั้งอยู่บริเวณจุดตัดทางรถไฟ ผู้ขับรถ รวมไปถึงผู้เดินเท้า ต้องทำความเข้าใจความหมายของป้ายหรือสัญลักษณ์ต่างๆ ไว้ด้วยเพื่อความปลอดภัย ซึ่งแต่ละป้ายจะมีความหมายว่าอย่างไรบ้าง มาดูกัน

5-Tips-Driving-Through-A-Railroad-Crossing

1. ป้ายทางข้ามทางรถไฟมีเครื่องกั้นทาง จะมีลักษณะเป็นรูปรั้วกั้น อยู่บนพื้นป้ายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนสีเหลืองอำพัน หมายถึงทางรถไฟที่มีเครื่องกั้นทางปิดกั้น

2. ป้ายทางข้ามทางรถไฟไม่มีเครื่องกั้นทาง เป็นรูปหัวรถจักรไอน้ำ อยู่บนพื้นป้ายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนสีเหลืองอำพันเช่นกัน หมายถึง ป้ายทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่านและไม่มีเครื่องกั้นทาง ให้ขับรถช้าๆ และสังเกตดูรถไฟทั้งซ้าย-ขวา ถ้ามีรถไฟกำลังจะผ่านมาให้หยุดรอให้ห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร แล้วรอจนกว่ารถไฟนั้นผ่านไปแล้ว จึงเคลื่อนรถต่อไปได้

3. ป้ายหยุด เป็นป้ายรูปแปดเหลี่ยมสีแดง มีข้อความ “หยุด” หมายถึงว่ารถทุกชนิดต้องหยุดเมื่อเห็นป้ายนี้ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงขับรถต่อไปได้อย่างปลอดภัย

4. ป้ายกากบาท “ระวังรถไฟ” ป้ายเตือนว่าเป็นจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับรถยนต์ จะมีรถไฟแล่นผ่านทางรถไฟบริเวณนี้ ให้ระวัง และชลอความเร็ว

5-Tips-Driving-Through-A-Railroad-Crossing

และนี่ก็เป็นเคล็ดไม่ลับ ในการขับรถยนต์ข้ามทางรถไฟอย่างปลอดภัยแล้วล่ะครับ ยิ่งในตอนกลางคืน ยิ่งต้องระวังระวังมากขึ้นครับ แม้ว่ารถจักรแต่ละคัน จะมีไฟหน้าที่ส่องสว่างได้ไกลมากก็ตาม แต่คนขับรถปัจจุบันมักติดฟิล์มกรองแสงที่เข้มมาก จนอาจจะไม่ทันสังเกตกันได้ครับ

แหล่งที่มาจาก:

5-Fast-Checking-Car-For-Travel-Newyear

ช่วงนี้หลายๆ ท่าน เริ่มออกเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่กันแล้ว ซึ่งการเตรียมตัวในการเดินทาง ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน หากเกิดปัญหารถเสียระหว่างทางขึ้นมา คุณอาจจะเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น และทำให้เพื่อนร่วมทางเจอรถติดมากขึ้นอีกต่างหาก …

ที่สำคัญ การเดินทางนั้นต้องขับขี่รถอย่างมีสติ ขับขี่ด้วยความปลอดภัย เมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ เหนื่อยก็หาที่พัก ยืดเส้นยืดสาย หายง่วงหายเพลียแล้วค่อยไปต่อ และอย่าลืมมีน้ำใจให้กับเพื่อนร่วมทาง

ส่วนถ้าใครเบื่อละ อยากขายรถคันเดิม เพื่อไปดาวน์รถคันใหม่ ซื้อรถใหม่มาขับ ยอมเป็นหนี้หลายปี ดีกว่ามาเสียเวลาซ่อมรถกลางทาง ก็สามารถมาขายรถ หรือตีราคารถ ที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

CARRO ขอแนะนำวิธีตรวจสอบรถแบบ 5 ขั้นตอนตรวจเช็ครถแบบเร่งด่วน ก่อนเดินทางปีใหม่ ครับ.

5-Fast-Checking-Car-For-Travel-Newyear

1. เช็คระบบไฟต่างๆ

ระบบไฟ ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการขับรถ โดยไฟส่องสว่างที่ต้องตรวจเช็คก่อนเดินทาง นั่นคือ ชุดไฟหน้า (ไฟสูง, ไฟต่ำ, ไฟหรี่, ไฟเลี้ยวทั้งสองข้าง) ทั้งแบบธรรมดาและแบบ LED หรือไฟโปรเจคเตอร์, ไฟตัดหมอก, ไฟเบรก และไฟถอยหลัง หากพบว่ามีหลอดใดไม่สว่าง สามารถเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง โดยดูวิธีการเปลี่ยนจากคู่มือของรถแต่ละรุ่น

แต่ถ้าทำเองไม่เห็น ควรให้ช่างฝีมือที่ไว้ใจได้ เป็นผู้เปลี่ยนให้ก็ดีเช่นกัน

Maintenance-Car

2. เช็คระบบของเหลว

ระบบของเหลวต่างๆ ในเครื่องยนต์ เช็คง่ายๆ ไม่ยาก อาทิ น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเบรก, น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์, น้ำมันคลัทช์, น้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ รวมถึงน้ำมันเฟืองท้าย ฯลฯ ต้องอยู่ในระดับปกติ ไม่ล้นหรือพร่องจากค่าหรือขีดที่กำหนด และควรทำการเปลี่ยนถ่ายตามระยะ หากมีปริมาณที่ต่ำกว่า Min ก็ควรเติมเพิ่ม หรือหากสีเปลี่ยนเป็นคล้ำขึ้น ก็ควรไปเปลี่ยนถ่ายครับ

5-Fast-Checking-Car-For-Travel-Newyear

3. เช็คยางและช่วงล่าง

ตรวจเช็คสภาพยาง ว่ามีรอยปริหรือแตกลายงาหรือไม่ หากมีรอยปริแตกเกิดขึ้นที่แก้มยาง ควรรีบเปลี่ยนยาง เพราะเสี่ยงต่อยางระเบิดได้ง่ายเวลาวิ่งด้วยความเร็วสูง และวัดระดับลมยาง ที่ควรได้มาตรฐานของรถแต่ละรุ่น โดยดูจากสติกเกอร์แนะนำแรงดันลมยางบริเวณเสาด้านคนขับ หากมีผู้โดยสารเต็มคัน ต้องเพิ่มแรงดันลมยางล้อหลังตามที่ระบุด้วยเช่นกัน

ในส่วนของช่วงล่าง ใช้การฟังเสียงว่ามีเสียงกุกๆ กักๆ เวลาขับรถหรือไม่ ส่วนการเช็คโช๊คอัพว่ายังทำงานดีอยู่หรือไม่ ใช้วิธีเอามือกดลงไปที่มุมของช่วงล่างรถทั้ง 4 ด้าน จากนั้นให้ดูการยกตัวของรถ หากตัวรถยกขึ้นครั้งเดียวแล้วหยุด แสดงว่าโช๊คอัพยังทำงานดี แต่หากมีอาการเด้งขึ้นลง แสดงว่าโช๊คอัพหมดสภาพแล้ว เวลาขับ จะทำให้ยางไม่สัมผัสกับพื้นถนนนัก ควรเปลี่ยนใหม่

ส่วนถ้าใครใช้รถกระบะ หรือรถอเนกประสงค์แบบ PPV ลองก้มไปดูเฟืองท้ายด้านหลังดู ว่าน้ำมันเฟืองท้ายพร่องไปหรือเปล่า หรือว่าลูกปีนหลวม ลูกปีนเป็นตามด เฟืองห่างหรือแตกหัก จนเกิดเสียงเฟืองท้ายหอน ซึ่งขั้นตอนนี้อาจต้องใช้แม่แรงช่วยยกท้ายรถขึ้น ในการตรวจสอบ

5-Fast-Checking-Car-For-Travel-Newyear

4. เช็คระบบเบรก

หากรู้สึกมีเสียงดังเกิดขึ้นขณะเหยียบเบรก แสดงว่าผ้าเบรกใกล้หมดหรือหมดแล้ว ควรรีบไปเปลี่ยน ก่อนที่จานเบรกจะได้รับความเสียหาย จากการโดนเหล็กกับเหล็กสีกันจนจานเบรกเป็นรอย ซึ่งอาจจะต้องเจียรจานเบรก หรือเปลี่ยนจานเบรกใหม่

5-Fast-Checking-Car-For-Travel-Newyear

5. เช็คเครื่องยนต์

เช็คสภาพเครื่องยนต์ได้ง่ายๆ โดยฟังเสียงผิดปกติของเครื่องยนต์ เครื่องยนต์สั่น เดินไม่เรียบ มีอาการสะดุด รอบตก หรือเร่งไม่ขึ้น มีควันขาวหรือควันดำออกจากท่อไอเสีย หรือตามซีลรอยต่อในเครื่อง (เช่น ซีลหน้าเครื่อง ซีลท้ายเครื่อง) มีการรั่วซึมของน้ำ หรือน้ำมันเครื่องหรือไม่

เกียร์มีอาการกระตุก สะดุด หรือกระชากตอนออกตัว ทางที่ดี รีบนำรถไปให้ศูนย์บริการตรวจเช็ค เพื่อความปลอดภัย เพราะอันนี้งานใหญ่ ถ้าที่บ้านไม่ได้เป็นอู่ซ่อมรถก็คงทำเองไม่ไหว

5-Fast-Checking-Car-For-Travel-Newyear

สุดท้ายก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมในขณะที่เดินทางไกล ดังเช่นกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำประชาชน ที่ต้องเดินทางไกลในช่วงเทศกาลปีใหม่ อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปวดเมื่อย หรือไอ ซึ่งอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นได้เสมอทั้งในภาวะปกติและช่วงเวลาเดินทางไกล

จึงขอแนะนำให้พกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพร 4 ผลิตภัณฑ์ ติดตัวไปด้วย ได้แก่ …

  • ยาอมแก้ไอมะขามป้อม สรรพคุณ ช่วยบรรเทาอาการขับเสมหะ ทำให้ชุ่มคอ
  • ยาหม่องสมุนไพร/น้ำมันไพล สรรพคุณ บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • ยาหอมเทพจิตร สรรพคุณ แก้ลม บำรุงหัวใจ
  • ยาดมสมุนไพร สรรพคุณ บรรเทาอาการวิงเวียน ช่วยให้สดชื่นผ่อนคลาย

โดยยาสมุนไพรเหล่านี้ มีสรรพคุณบรรเทาอาการเจ็บป่วยในเบื้องต้น สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

ขณะที่ กรมสุขภาพจิต แนะนำใช้ 3 วิธีคลายเครียด ขณะรถติดในช่วงเดินทางไปฉลองเทศกาลปีใหม่ โดยฟังเพลงที่ชื่นชอบแบบ Non-Stop ฟังวิทยุ และบิดขี้เกียจ ยืดเหยียดคลายกล้ามเนื้อหดเกร็ง เช่น การกำมือสลับแบมือ ก้มเงยศีรษะ หันหน้าไปซ้าย-ขวา การขยับไหล่ขึ้น-ลง การนวดขมับ นวดหัวคิ้ว และสันจมูก นวดบ่าทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ และช่วยลดความเครียดลงได้

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2563 หลายคนตอนนี้อาจวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวกันไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวในประเทศ หรือเที่ยวต่างประเทศ ทาง CARRO Thailand ก็ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ

ส่วนใครที่อาจไม่ได้เดินทางกลับต่างจังหวัด หรือเป็นคนกรุงเทพฯ สายบุญ อยากเข้าวัดไหว้พระ ทำบุญ หรือจะสวดมนต์ข้ามปี ก็ได้เช่นกัน ตามวิถีชาวพุทธ

ทาง CARRO Thailand ได้รวบรวม 10 สถานที่จัดงานสวดมนต์ข้ามปี 2563 มาให้ทุกท่าน ได้เดินทางไปร่วมไหว้พระสวดมนต์กันได้ตามสะดวกแล้วครับ จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย

สวดมนต์ข้ามปี-2563-สนามหลวง

1. สวดมนต์ข้ามปี มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

กระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน กิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. 2562 – 1 ม.ค. 2563

โดยในวันที่ 30 ธันวาคม 2562 มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพระบรมมหาราชวังไปประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนสักการะ

ส่วนวันที่ 31 ธ.ค. 2562 จะมีกิจกรรมแสดงธรรม สวดมนต์ พิธีถวายพระพรชัยมงคล และพอถึงช่วงเวลา 23.40 – 00.10 น. หรือช่วงข้ามศักราชใหม่ พระสงฆ์จะประกอบพิธีเจริญพุทธมนต์และสวดบทชัยมงคลคาถา วัดทั่วประเทศลั่นฆ้องชัยจำนวน 9 ครั้ง และเช้า วันที่ 1 ม.ค. 2563 มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ ณ ท้องสนามหลวง และวัดทั่วประเทศ

กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ณ มณฑลท้องสนามหลวง จะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และ วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยมีกำหนดการต่างๆ ดังนี้

18.00-20.00 น. : วันที่ 31 ธ.ค. ชมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมไทย

20.00-23.30 น. : สวดบทธัมมจักรกัปปวัตนสูตร

23.40 น. : พิธีถวายพระพรชัยมงคล

23.45-23.50 น. : สวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า
– นะโม 3 จบ
– บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย (อิติปิ โส ภะคะวา)
– บทพุทธชัยมงคลคาถา (พาหุง)

24.00 น. : จุดไฟพระฤกษ์(ไฟประทานจากสมเด็จพระสังฆราช)
– ลั่นฆ้องชัย 9 ครั้ง
– บทชัยมงคลคาถา (ชยันโต)

7.00 น. : วันที่ 1 ม.ค. ทำบุญตักบาตร เพื่อความเป็นสิริมงคล

สวดมนต์ข้ามปี-2563-พุทธมณฑล

2. สวดมนต์ข้ามปี ณ ลานพุทธมณฑล

“พุทธมณฑล” เป็นสถานที่ทางศาสนาอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ มาก และไปมาสะดวก ซึ่งทางพุทธมณฑลเอง ได้จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ที่ลานรอบองค์พระประธานพุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยมีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วยพระเถราจารย์ ร่วมในการสวดมนต์และแผ่เมตตาแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมพุทธวิถี เสริมบารมี

ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 เวลา 17.19 น. เป็นต้นไป และเมื่อเสร็จพิธี รับของมงคลที่ระลึก

สวดมนต์ข้ามปี-2563-เสาชิงช้า

3. สวดมนต์ข้ามปี ลานคนเมือง (เสาชิงช้า)

กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2562 – 1 ม.ค. 2563 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เพื่อเริ่มต้นปีใหม่แบบวิถีไทยๆ พร้อมความเป็นสิริมงคลแก่พี่น้องประชาชน

เริ่มต้นในวันที่ 31 ธ.ค. 2562 กรุงเทพมหานคร จะอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร จากหอพระภายในศาลาว่าการ กทม. ไปตามเส้นทางต่างๆ บริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อให้ประชาชนได้กราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นจะอัญเชิญประดิษฐานบริเวณลานคนเมืองซึ่งเป็นจุดที่ใช้จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี” นอกจากนี้ภายในงานจะมีกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม กิจกรรมสาธิตและการเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรมต่างๆ อีกด้วย

กำหนดการในงาน คือ ในช่วงค่ำเวลาประมาณ 20.00 น. จะได้ชมการแสดงทางวัฒนธรรมต่างๆ จากนั้นในช่วงดึกจะเริ่มพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และต่อกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ยาวไปจนข้ามสู่ศักราชใหม่

โดย กทม. จะจัดพิมพ์หนังสือสวดมนต์สำหรับแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดินทางมาในพิธีด้วย ส่วนในช่วงเช้าของวันที่ 1 ม.ค. 2563 เวลา 7.00 น. มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์เนื่องในวันขึ้นปีใหม่

สวดมนต์ข้ามปี-2563-วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

4. สวดมนต์ข้ามปี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

ด้านวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ก็ได้มีการจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี” ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เช่นเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 – 1 มกราคม 2563 โดยมีกำหนดการดังต่อไปนี้ :

เวลา 19.00 น. ทำวัตรเย็นแปล ณ พระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร

เวลา 21.00 น. พิธีสืบชาตา เสริมชะตาราศี เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในศักราชใหม่
– ประธานจุดเทียนชัย
– ไหว้พระ/อาราธนาศีล/รับศีล/อาราธนาพระปริตร
– สะเดาะเคราะห์ เรียกขวัญ แบบล้านนา
– ผู้เข้าร่วมพิธีทุกท่านนำด้ายสายสิญจน์ครอบศีรษะ
– พระสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ สวดสืบชาตา ตามประเพณีโบราณ
– ถวายตุงมหาเศรษฐีรุ่งเรื่อง/ พระสงฆ์ทั้งนั้นอนุโมทนา

เวลา 23.00 น. อธิษฐานเปลี่ยนแปลงชีวิตต้อนรับศักราชใหม่ พิธีสวดมนต์ข้ามคืน
– ประธานจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย
– พระสงฆ์ ประชาชน ร่วมสวดมนต์

เวลา 0.01 ลั่นฆ้องชัย ต้อนรับศักราชใหม่
– พระสงฆ์สวดบท ชัยยมงคลกถา ประพรมน้ำพระพุทธมนต์

สวดมนต์ข้ามปี-2563-วัดปทุมวนาราม

5. สวดมนต์ข้ามปี วัดปทุมวนาราม

สำหรับใครที่อยากฉลองปีใหม่แบบสนุกสุดเหวี่ยง ไปกับแสงสีและดนตรี แต่ก็อยากรู้สึกแว๊บๆ เข้ามาในโลกแห่งทางธรรมบ้าง ก็สามารถมาร่วมงาน “สวดมนต์ข้ามปี” กันได้ที่วัดปทุมวนาราม ใจกลางเมืองแห่งนี้ได้เลย

ร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความสวัสดิมงคล ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ พุทธศักราช 2562 – 2563 ได้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 – 1 มกราคม 2563

สวดมนต์ข้ามปี-2563-วัดธาตุทอง

6. สวดมนต์ข้ามปี วัดธาตุทอง พระอารามหลวง

วัดธาตุทอง เป็นอีกวันหนึ่งที่อยู่ในย่านถนนสุขุมวิท ที่มีผู้คนมาทำุญไหว้พระกันอยู่เป็นประจำ ก็มีจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี” ด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับในปีนี้ ทางวัดธาตุทอง ได้จัดงานสวดมนต์ข้ามปี สืบดวงชะตา เสริมบารมี กันในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป

สวดมนต์ข้ามปี-2563-สวนโมกข์กรุงเทพ

7. สวดมนต์ข้ามปี สวนโมกข์กรุงเทพฯ

สำหรับสวนโมกข์กรุงเทพฯ ก็มีการจัดงาน “สวดมนต์ข้ามปี” กับงาน “เทศกาลเจริญสติ สวดมนต์ภาวนาข้ามปี พุทธศักราช 2563” ปีใหม่ชีวิตใหม่ ปีแห่งการเติมธรรมะลงในชีวิต ในระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 2562 – 1 ม.ค. 2563 ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 6 ช่วง ได้แก่

ช่วง 1 ยามเช้า : 31 ธ.ค. ตักบาตรสาธิต สมาทานศีล ฟังธรรม และสมาธิภาวนา ณ โถงกิจกรรม ชั้น 1

ช่วง 2 ยามบ่าย : สมาธิภาวนา และกิจกรรมต่างๆ

ช่วง 3 ยามเย็น : ทำวัตร ฟังธรรม เติมธรรมะลงในชีวิต ณ สวนพุทธธรรม ชั้น 1

ช่วงที่ 4 ยามข้ามปี : สวดมนต์ภาวนา รับศักราชใหม่

ช่วงที่ 5 ภาวนารับปีใหม่ : สวดมนต์ภาวนา

ช่วงที่ 6 ทำวัตรเช้า : 1 ม.ค. ทำบุญตักบาตรและรับพรปีใหม่

สวดมนต์ข้ามปี 2563

นอกจากนี้ กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่มีอยู่ในข้างต้นแล้ว ทางกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้ร่วมกับ กทม. และ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดกิจกรรมตามวัดต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ อีกจำนวนมากถึง 58 แห่ง ได้แก่

1. สมาคมส่งเสริมความดีสากล

2. วัดทุ่งลานนา เขตประเวศ กทม.

3. วัดยานนาวา เขตสาทร

4. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบฯ

5. วัดภาษี เขตวัฒนา กทม.

6. วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เขตบางขุนเทียน

7. วัดชัยพฤกษ์มาลา เขตตลิ่งชัน

8. วัดสุวรรณประสิทธิ์ เขตบึงกุ่ม

9. วัดพรหมวงศาราม เขตดินแดง

10. วัดเทพลีลา เขตบางกะปิ

11. วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน

12. วัดเจริญธรรมาราม เขตสายไหม

13. วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร เขตดุสิต

14. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร

15. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร

16. วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร

17. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์

18. วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์

19. วัดบางเตย เขตบึงกุ่ม

20. วัดชัยชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร

21. วัดมหรรณพารามวรวิหาร เขตดุสิต

22. วัดพิชัยญาติการามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย

23. วัดอุดมรังสี เขตหนองแขม

24. วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก เขตห้วยขวาง

25. วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบฯ

26. วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เขตบางเขน

27. วัดราชสิงขร บางคอแหลม

28. วัดดาวดึงษ์ เขตบางพลัด

29. วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เขตบางรัก

30. วัดธรรมมงคล เขตพระโขนง

31. วัดหัวลำโพง เขตบางรัก

32. วัดบางโพโอมาวาส เขตบางซื่อ

33. วัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ

34. วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร

35. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร

36. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต

37. วัดสามพระยาวรวิหาร

38. วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

39. วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย

40. วัดประยุรวงศาวาส เขตธนบุรี

41. วัดกัลยาณมิตร เขตธนบุรี

42. วัดราชคฤห์ เขตธนบุรี

43. วัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตตลิ่งชัน

44. วัดราชสิทธาราม เขตบางกอกใหญ่

45. วัดนาคกลาง เขตบางกอกใหญ่

43. วัดใหม่พิเรนท์ เขตบางกอกใหญ่

46. วัดสุวรรณคีรี เขตบางกอกน้อย

47. วัดเทพนารี เขตบางพลัด

48. วัดดอนเมือง เขตดอนเมือง

49. วัดเวฬุวนาราม เขตดอนเมือง

50. วัดราชโอรสาราม เขตจอมทอง

51. วัดนางนอง เขตจอมทอง

52. วัดทองนพคุณ เขตคลองสาน

53. วัดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ

54. วัดบุณยประดิษฐ์ เขตบางแค

55. วัดหนองจอก เขตหนองจอก

56. วัดอัปสรสวรรค์ เขตภาษีเจริญ

57. วัดอุดมรังสี เขตหนองแขม

58. วัดคู้บอน เขตคลองสามวา

ท่านใดสะดวกวัดไหน แถวไหน สามารถไปร่วมงานกันได้ตามสะดวก รับรอง อิ่มบุญ (ได้สวดมนต์ ไหว้พระ ตักบาตรตอนเช้า) อิ่มใจ (ได้นั่งสมาธิ ฟังพระอบรมเทศนา) และอิ่มท้อง (เพราะหลายๆ วัด มีข้าวปลาอาหาร ให้ทานกันได้ไม่อั้น) แน่นอน!

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

What-Is-Alcantara-Seat

รถยนต์ในบ้านเราแต่เมื่อแต่อดีตนั้น การขายรถยังไม่ดุเดือดแบบในทุกวันนี้ วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งภายใน ก็มักจะเป็นแบบง่ายๆ ไม่เน้นความหรูหรา เน้นความทนทานเป็นหลัก แต่พอเริ่มเข้าสู่ยุค 80 ที่รถยนต์เริ่มมาพร้อมความทันสมัยมากขึ้น ความหรูหราก็ถูกประเคนเข้ามาแต่งเติมในรถยนต์มากขึ้น

แม้กระทั่งเบาะนั่ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในรถ ก็ถูกพัฒนาให้สอบรับกับสรีระคนขับ หรือผู้โดยสาร ได้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) มากขึ้น วัสดุที่ใช้ จากแต่เดิมที่เบาะนั่งเป็นแบบหนังเทียม หรือไวนิล ก็พัฒนาไปเป็นเบาะผ้าแบบต่างๆ เช่น แบบสักหลาด แบบกำมะหยี่ หรือเบาะหนังแท้ เป็นต้น

และเบาะ Alcantata (อาคันทารา) ที่หลายคนเรียก “เบาะหนังกลับ” ล่ะ ที่เพิ่งจะเป็นที่นิยมในรถหรู รถสปอร์ต หรือรถ Supercar ตั้งแต่ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานั่นเอง มีที่มาจากอะไร? และใช้วัสดุอะไร ในการผลิต?

หลายคนมีความสงสัย MR.CARRO จึงขอตอบทุกข้อข้องใจใน ณ ที่นี้ …

What-Is-Alcantara-Seat

วัสดุ Alcantara ที่ตกแต่งภายในรถยนต์

Alcantara (อาคันทารา) เป็นชื่อของแบรนด์ของวัสดุสังเคราะห์อย่าง Polyester ประมาณ 68% และ Polyurethane ประมาณ 32% พัฒนาขึ้นโดยผสมผสานผ้าและเส้นใยพลาสติก มาเพื่อทดแทนหนังกลับแท้ๆ โดย Miyoshi Okamoto นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานให้กับบริษัทเคมี Toray Industries Inc. ตั้งแต่ช่วงก่อนปี 1970

What-Is-Alcantara-Seat

วัสดุสังเคราะห์ของ Alcantara ให้ความรู้สึกนุ่มนวล

โดยเริ่มแรกเรียกวัสดุสังเคราะห์ชนิดนี้ว่า Ecsaine ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Ultra Suede

มาถึงช่วงประมาณในปี 1972 จึงได้ร่วมมือกับบริษัทเคมีของอิตาลี ANIC S.p.A. (หรือ Azienda Nazionale Idrogenazione Combustibili) หรือชื่อในปัจจุบัน Eni S.p.A. (ในภาษาอิตาลี ย่อมาจาก Ente Nazionale Idrocarburi หรือในภาษาอังกฤษ National Hydrocarbons Authority) พัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน พร้อมตั้งบริษัทชื่อ Antor S.p.A.

ในปี 1973 จึงก่อตั้งบริษัทร่วมกันในชื่อ Iganto S.p.A. (ชื่อบริษัท ย่อมาจาก I = Italia หรือ Italy ในภาษาอังกฤษ, G = Giappone หรือ Japan (ญี่ปุ่น) ในภาษาอังกฤษ ANic และ TOray) ถือหุ้นระหว่าง ANIC 51% และ Toray 49% ก่อนจะเจาะกลุ่มตลาดแฟชั่น และกลุ่มอุปกรณ์ตกแต่ง

Fiat-X1-9

และในปี 1978 รถ Fiat X1/9 รถสปอร์ตขนาดเล็ก เครื่องวางกลางรุ่นยอดนิยม ก็ได้ใช้วัสดุของ Alcantara ตกแต่งในรถเป็นครั้งแรก

ก่อนจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Alcantara S.p.A. ในปี 1981 และในปี 1995 จึงมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหม่ ทาง ENI ของอิตาลีถอนตัวออก กลายเป็นทางญี่ปุ่น Toray และ Mitsui เข้ามาถือหุ้นในบริษัทเต็มตัว ก็เลยเรียกได้ว่า เป็นบริษัทของญี่ปุ่น ที่ทำธุรกิจอิตาลีไปละกัน แต่ฐานการผลิต ก็ยังคงอยู่ที่ Nera Montoro ใกล้กับกรุงโรม เช่นเดิม

What-Is-Alcantara-Seat

รถ Supercar ของอิตาลี นิยมตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara

โดย Alcantara ขายความเป็นเบาะ Made in Italy จึงมีราคาค่อนข้างสูง และนิยมใช้กันในรถหรูหรา รถสปอร์ต

เนื้อของวัสดุจะดูคล้ายๆ หนัง แต่สัมผัสแล้วนุ่มมือ มีความละเอียดกว่า ไม่ลื่นแบบไหลลื่น เหมือนเบาะหนังแท้ อีกทั้งเป็นวัสดุไม่ลามไฟ จึงนิยมนำมาใช้ในรถแข่ง และรถสปอร์ต

What-Is-Alcantara-Seat

แต่แล้วข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย เนื่องจากเบาะ Alcantara มีราคาแพงเพราะขายแบรนด์เนม และลักษณะการใช้งาน คล้ายกับเบาะผ้าสักหลาด หรือผ้ากำมะหยี่ นั่นคือ “อมฝุ่นมาก” การทำความสะอาดต้องใช้น้ำยาเช็ดเบาะ หรือลูกกลิ้งดูดฝุ่น แต่ถ้าจะให้ง่ายก็ขับรถเข้าร้านคาร์แคร์ ดูดฝุ่นเบาะทำความสะอาดเลยดีที่สุด

What-Is-Alcantara-Seat

การออกแบบและพัฒนาเบาะของโรงงาน Alcantara

ส่วนถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อดาวน์รถคันใหม่ ซื้อรถคันใหม่ ก็สามารถนำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

รวม 10 จุด "เคาท์ดาวน์ปีใหม่ 2020" ทั่วกรุงเทพฯ ที่คุณไม่ควรพลาด!

ช่วงนี้ก็ล่วงเข้าสู่ปลายเดือนธันวาคมกันแล้ว ก่อนถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563 นี้ ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่เคาท์ดาวน์ รอนับถอยหลัง 5 4 3 2 1 กับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงอยู่ Carro ขอเสนองาน “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” (Countdown 2020) ที่มีศิลปินชื่อดังมาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่ง พร้อมมองพลุหลากสีสันที่ยิงขึ้นฟ้าด้วยบรรยากาศสนุกสนาน

ส่วนใครที่จะขายรถเก่าเพื่อซื้อรถยนต์คันใหม่ ฉลองเทศกาลปีใหม่ 2563 นี้ ทาง Carro ก็มีความยินดีที่พร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

คนกรุงเทพฯ ถ้าไม่สะดวกไปต่างจังหวัด หรือที่ไกลๆ ช่วงปีใหม่ 2563 ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานับเคาท์ดาวน์ในกรุงเทพฯ ดู เพราะที่เที่ยวสำหรับเคาท์ดาวน์ในกรุงเทพฯ มีมากมายให้เลือก ตามไปดูกันเลย

Countdown-In-Bangkok-2020

1. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (Central World)

เริ่มต้นด้วยที่แรก กับสถานที่ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” สุดฮิตในตำนานอย่าง Central World ที่เป็นจุด Countdown ยอดฮิตมานาน กับงาน “AIS Bangkok Countdown 2020” ณ ลานด้านหน้าห้างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ การันตีด้วยเวทีใหญ่ที่สุด 220 เมตร ย้ำความเป็น World of Best Entertainment Countdown จุดเคาท์ดาวน์ที่ดีที่สุด มันส์ที่สุด และแฮปปี้ที่สุดตลอดกาล

พร้อมด้วยตำแหน่งไทม์สแควร์แห่งเอเชีย และเป็นสถานที่เคาท์ดาวน์ติดอันดับโลก จาก CNN เพราะมีการจัดแสดงที่อลังการ โดยจัดแสดงพลุ ดอกไม้ไฟ ให้คุณสนุกไปกับเหล่าดารา ศิลปินชื่อดังมากมาย ที่มาร้องเพลงร่วมส่งท้ายปีเก่าไปกับคุณ

ส่วนถ้าใครไม่สะดวกที่จะมาร่วมงาน ในปีนี้ ทางเซ็นทรัล ยังได้จัดพร้อมกันอีก 11 สาขาทั่วประเทศ ที่เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัล เฟสติวัล และ เซ็นทรัล ภูเก็ต

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Central World

Countdown-In-Bangkok-2020

2. ASIATIQUE The Riverfront

ถ้าคุณกำลังหาสถานที่ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” ในกรุงเทพฯ บวกกับบรรยากาศสุดโรแมนติกริมแม่น้ำเจ้าพระยา “เอเชียทีค” เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่เหมาะมากเลยทีเดียว และปีนี้ ASIATIQUE Thailand Countdown 2020 มาในคอนเซปต์ “Boost Your Energy Up” ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 นี้ 17.00 น. เป็นต้นไป เตรียมชาร์ทความสนุก รับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ท่ามกลางบรรยากาศมันส์ๆ ตื่นตาไปกับเวที แสง สี เสียง สนุกสุดเหวี่ยงไปกับมหกรรมคอนเสิร์ต จากศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย

และพลาดไม่ได้กับการการแสดงพลุจากทีม PYRO 2000 แชมป์โลกจากประเทศอังกฤษ ที่กวาดแชมป์มาแล้วทั่วโลก บินตรงเพื่อมาออกแบบโชว์พลุสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่เอเชียทีคโดยเฉพาะ โดยแบ่งเป็น 5 โชว์พลุประสารทพรให้กับทุกคน ได้แก่ รื่นรมย์ Pleasant, รุ่งเรือง Prosperity, สุขเกษมเปรมปรีย์ Happiness, โชคดีมีชัย Lucky และสดชื่นเบิกบานใจ Blissful and Blossom

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Asiatique

Countdown-In-Bangkok-2020

3. Iconsiam

สำหรับ Iconsiam แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ ก็จัดงาน “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” อย่างยิ่งใหญ่ โดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพันธมิตรสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างมหาปรากฏการณ์ “Amazing Thailand Countdown 2020” เฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สุดยิ่งใหญ่ตระการตา ภายใต้แนวคิด มหัศจรรย์พร 7 ประการ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่ 17.00 น. ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม

เพื่อตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์ เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญแห่งการท่องเที่ยว และเป็นแลนด์มาร์คของการเฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ให้ที่มีชื่อเสียงไปในระดับโลก

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Iconsiam

Countdown-In-Bangkok-2020

4. Future Park & Zpell

สำหรับคนที่บ้านอยู่ชานเมือง เลยกรุงเทพฯ ไปนิดหน่อย แค่ปทุมธานี หากไม่อยากฝ่าเข้ามาเบียดเสียดฝูงชนย่านใจกลางเมือง ก็มาร่วม “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กันได้ที่ “Future Park & Zpell Countdown 2020” ระเบิดสีสันความสุข กับคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ข้ามปี!!

พบศิลปินเบอร์ Top ของเมืองไทย

19.00 น. YOUNGOHM
20.00 น. LAZYLOXY & OG-ANIC
21.00 น. 25 HOURS
22.00 น. MODERN DOG
23.20 น. COCKTAIL

พบกันวันสิ้นปี 31 ธันวาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ที่ Short Stay ลานจอดรถด้านหน้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Future Park & Zpell

Countdown-In-Bangkok-2020

5. Crystal Design Center (CDC)

สำหรับคนที่อยู่ในย่านเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา สามารถมาชิคๆ ชิวๆ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กันได้ที่ CDC Countdown 2020ฟรีคอนเสิร์ตเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี!!! ยกทัพศิลปิน Joeyboy, Paradox, Cocktail, Zeal และ นิวจิ๋ว

รับบัตรเข้างานฟรี! พร้อมเครื่องดื่ม และลุ้นรับ iPhone 11 คลิก https://bit.ly/35DjDUK

มาร่วมมันส์ไปด้วยกัน วันอังคารที่ 31 ธันวาคม นี้ 17.00 น. เป็นต้นไป ที่ Crystal Arena CDC เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ขอบอก งานนี้มีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรีด้วยนะ!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Crystal Design Center

Countdown-In-Bangkok-2020

6. Mega Bangna

อันนี้แม้จะเลยเขตกรุงเทพฯ เข้าไปเขตจังหวัดสมุทรปราการนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าอยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯ ละกัน ในการร่วมนับถอยหลังข้ามปี “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” กับงาน “The Forestias by MQDC Presents Mega Countdown 2020” สนุกมันส์ข้ามปีกับคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่เต็มรูปแบบจากศิลปินดัง ตอกย้ำแลนด์มาร์คงานเคาท์ดาวน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แห่งกรุงเทพตะวันออก

พบกับศิลปินดัง ได้แก่ นนท์-ธนนท์, วง Getsunova, วงโปเตโต้, วงสล็อต แมชชีน, Poly Cat, UR Boy TJ และ กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่ ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ศูนย์การค้าเมกาบางนา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Mega Bangna

Countdown-In-Bangkok-2020

7. คิง เพาเวอร์ มหานคร

สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไป “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” แบบสูงๆ แบบหรูๆ ดูบ้าง ก็เชิญไปได้ที่ “คิง เพาเวอร์ มหานคร” มาร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่บนรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมชมการแสดงพลุจากทั่วกรุงเทพฯ ในแบบ 360 องศา บนชั้น 78 ของคิง เพาเวอร์ มหานคร

และสนุกไปกับแชมเปญปาร์ตี้และการแสดงการเหล่าศิลปินชั้นนำ ตั้งแต่เวลา 21.00 – 01.30 น. พร้อมฟรีโฟลว์แชมเปญ และหอยนางรมแบบไม่จำกัด บัตรราคาเริ่มต้นที่ 25,000++ บาท/ท่าน

และสำหรับท่านที่ต้องการเก็บความประทับใจ กับพระอาติทย์ตกสุดท้ายของปี บนรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ระหว่างเวลา 17.00-19.30 น. สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ในราคา 4,500++ บาท/ท่าน (สำหรับผู้ใหญ่) พร้อมรับแชมเปญ 1 แก้ว

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: King Power Mahanakhon

Countdown-In-Bangkok-2020

8. Seacon Square

มหกรรมฟรีคอนเสิร์ต! เต็มรูปแบบ จากศิลปินดังที่จะทำให้คุณต้องกรี๊ดกันแบบสุดเสียง เต้นกันให้สุดแรง เติมเต็มความสุขสนุกสุดมันส์แบบไร้ขีดจำกัด กับงาน “SEACON Countdown Concert 2020” ต้อนรับ “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” ตลอด 3 คืนเต็ม 29-31 ธ.ค. 2562 ลานหน้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ตั้งแต่ 20.30 – 00.00 น.

อาทิตย์ที่ 29 ธ.ค. 2562 เปิดเวทีความมันส์กับวง “Cocktail” วงร็อกนักร้องเสียงเอกลักษณ์ และ “ปาล์มมี่” ศิลปินฮิปปี้สุดเซอร์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวแบบไม่เหมือนใคร

จันทร์ที่ 30 ธ.ค. 2562 สนุกไปกับดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก วงร็อกหัวใจวัยรุ่นผงาดง้ำค้ำวงการเพลง กับวง “Paradox” ตอกย้ำความมันส์อย่างต่อเนื่องกับ “Clash” ร็อกระดับตำนาน

อังคารที่ 31 ธ.ค. 2562 สนุกส่งท้ายในคืนข้ามปีไปกับวง “ETC” ที่ขนเพลงฮิตให้อินและฟินไปพร้อมกัน แล้วมาเคาท์ดาวน์รับศักราชใหม่ไปพร้อมกับวง “Mild” ที่มาในแนวดนตรีป็อป ผสมผสานกับฮิปฮอปอย่างลงตัว

ยินดีต้อนรับทุก “ธีมมันส์” ของการแต่งตัว โดดเด่นสะดุดตาผู้คน รับรางวัลเด็ดไปเลย!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Seacon Square

https://www.brandbuffet.in.th/wp-content/uploads/2015/12/TheStreetRachada_Countdown.jpg

9. The Street Ratchada

ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา เตรียมกิจกรรม “เคานท์ดาวน์ปีใหม่” กับงาน “The Street Countdown 2020” สุดอลังการและยิ่งใหญ่ที่สุดในย่านรัชดา และปาร์ตี้กับศิลปินสุดคูลล์ ที่มาสร้างความสนุกภายในงาน อาทิ ACTART, VARINZ, Z TRIP, KANOM, NONNY9, เต-นิว

พร้อมชมพลุฉลองการปีใหม่ ในวันที่ 31 ธ.ค. 2562 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ลานด้านหน้า เดอะ สตรีท รัชดา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: The Street Ratchada

Countdown-In-Bangkok-2020

10. ตึกใบหยก 2

ส่วนใครที่อยาก “เคาท์ดาวน์ปีใหม่” แบบแข่งกันกินไปด้วย ก็ต้องไปที่ Baiyoke Marathon Rally Buffet Count Down Party 2020 บุฟเฟ่ต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปี ทานได้ไม่จำกัด (แต่ไม่ฟรี ราคาเริ่มต้น 2,900 บาท ที่นั่งมีจำนวนจำกัด) เริ่มตั้งแต่เวลา 19.30 น. จนถึงเคาท์ดาวน์ ซึ่งใครเก็บ RC ครบ 10 RC ลุ้นชิงรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท

ร่วมชมพลุ ชมวิวแบบ 360 องศา ระหว่างเก็บ RC แวะนวดผ่อนคลาย ความเหนื่อยล้า พร้อมชมวิวสุดชิลของกรุงเทพฯ Sky Relax ชั้น 69 และเคาท์ดาวน์แบบสูงที่สุด ดาดฟ้าพื้นหมุน ชั้น 84

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: Baiyoke Sky Hotel

เอาล่ะ ใครที่สะดวกจะไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน ก็เตรียมตัววางแผนกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยนะครับผม …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

9-Tourist-Attractions-Near-Bangkok-At-Winter

ขับรถเล่น รับลมหนาวกับ 9 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ

1. ยอดเขาเทวดา อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี

ความเย็นยะเยือกรับลมหนาว ทะเลหมอกบนยอดเขาที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,123 เมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว มีพื้นที่เกือบ 2 แสนไร่ เหมาะกับนักเดินทางขาลุย ที่ชื่นชอบธรรมชาติมีครบทั้งป่าไผ่ น้ำตก ไร่ข้าวโพด และข้าวไร่

เที่ยวหน้าหนาว-ยอดเขาเทวดา

2. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

เจ้าของฉายา สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 7 แหล่งโอโซนบริสุทธิ์ของโลก ยังมีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีทิวทัศน์สวยงามรายล้อม และที่เที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย เที่ยวได้ทั้งครอบครัว

เที่ยวหน้าหนาว-วังน้ำเขียว

3. เขาพะเนินทุ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

อีกหนึ่งแหล่งชมทะเลหมอกใกล้กรุงเทพฯ ที่นี่มีทะเลหมอกปกคลุมเหนือยอดเขาทั้งปี ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสได้ในยามเช้า ซึ่งสามารถเลือกชมทะเลหมอกได้ 2 จุด คือ จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 30 และ 36 บอกเลยว่าเย็นสบายเว่อร์

เที่ยวหน้าหนาว-เขาพะเนินทุ่ง

4. ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล จังหวัดลพบุรี

ช่วงอากาศหนาวจะมีนักเที่ยวแวะเวียนเพื่อมาชมดอกทานตะวันเป็นจำนวน เพราะที่นี่เป็นทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้ร่วมสนุกมากมาย เช่น ปั่นจักรยานชมทุ่งทานตะวัน นั่งรถไฟชมทุ่ง ขี่ม้า และถ่ายรูปกับดอกทานตะวันยักษ์ เป็นต้น

เที่ยวหน้าหนาว-ทุ่งทานตะวัน

5. ไร่องุ่น อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

มีไร่องุ่นจำนวนมาก และมีผลิตภัณฑ์จากองุ่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นองุ่นสด ไวน์ น้ำองุ่น หรือแยมองุ่น ฉะนั้นหน้าหนาวนี้ไปเที่ยวเด็ดองุ่นจากต้นชิมกันสด ๆ ที่ไร่องุ่นมวกเหล็ก ใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เดินทางไม่ไกล สามารถไปเช้ากลับเย็นได้แบบชิล ๆ เลยล่ะ

เที่ยวหน้าหนาว-ไร่องุ่น

6. อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม

เมื่อเข้าฤดูหนาวก็เป็นช่วงบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก โดยเฉพาะถ้าได้พักรีสอร์ทริมน้ำ อากาศเย็น ๆ มีลดพัดสบาย นอกจากนี้ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดน้ำ ล่องเรือไหว้พระ ชิมอาหาร และผลไม้อร่อย ๆ จากชาวสวนอัมพวา เหมาะจะเป็นสถานที่พักผ่อนในวันหยุดสั้น ๆ

เที่ยวหน้าหนาว-อัมพวา

7. เที่ยวเมืองเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เที่ยวในช่วงฤดูหนาวจะได้บรรยากาศที่แสนจะเย็นสบายไม่ร้อน การเดินชมเมืองเก่าและวัดโบราณต่างๆ ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน โดยเฉพาะวัดไชยวัฒนารามในยามเย็นจะสวยงามมาก ๆ จนหลายคนต้องตกตะลึงเลยล่ะค่ะ

เที่ยวหน้าหนาว-อยุธยา

8. เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก

เป็นเมืองแห่งน้ำตก ที่ในหน้าหนาวจะได้สัมผัสกับสายน้ำอันเยือกเย็น การเดินทางนั้นถือว่าสะดวก และง่ายเพราะใกล้กับกรุงเทพฯ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ เพราะมีทั้ง ล่องแพ ล่องแก่ง ขับรถ ATV เป็นต้น

เที่ยวหน้าหนาว-เขากระโจม

9. เขากระโจม จังหวัดราชบุรี

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาว เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเดินทางแบบสมบุกสมบัน เพราะเป็นเทือกเขาที่มีความสลับซับซ้อน แต่มีความสูงชันไม่มาก และเมื่อได้ไปถึงบนยอด จะได้พบกับวิวธรรมชาติที่เป็นทะเลหมอกตรงหน้า

เที่ยวหน้าหนาว-วังน้ำเขียว

ประกันภัยรถยนต์ตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัย

ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล มือใหม่หัดขับ หรือขับรถมานานแล้ว สิ่งหนึ่งที่สร้างความอุ่นใจในขณะขับรถได้ตลอดทุกเส้นทาง นั้นคือ ประกันภัยรถยนต์ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแตกต่างกันออกไป ราคาประกันชั้น 1 ก็จะมีความแตกต่างจากชั้น 2 , ชั้น 2+ , ชั้น 3 และชั้น 3+ ซึ่งก่อนการเลือกซื้อประกันรถยนต์อาจพิจารณาได้ดังนี้

  • ควรเลือกซื้อกับตัวแทนหรือบริษัทที่มีใบอนุญาตเพื่อความปลอดภัย
  • ควรมีเบี้ยราคาประกัน 1 , ชั้น 2 , ชั้น 2+ , ชั้น 3 และชั้น 3+ ให้ได้เปรียบเทียบ
  • การทำธุรกรรมทางการเงิน ควรมีหลากหลายช่องทางให้ได้ชำระ
  • เป็นระบบโบรกเกอร์ประกันภัยที่มีศูนย์รวมบริการประกันแบบครบครัน
  • มีข้อเสนอพิเศษก่อนจะตัดสินใจซื้อที่ไหนดีควรจะเช็คโปรโมชั่นเสียก่อน

สนใจทำประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ rabbit finance คลิกเข้ามาตอนนี้คุณจะได้รับการเปรียบเทียบจาก 30 บริษัทชั้นนำ และลูกค้าใหม่ยังได้ส่วนลดสูงสุด 15% หรือหากมีข้อสงสัย เราก็มีเจ้าหน้าที่เฉพาะด้านที่คอยให้คำปรึกษาลูกค้าอย่างใกล้ชิด

What-Medications-Not-Take-When-Driving

อุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย ต่อให้เราขับขี่รถยนต์อย่างระมัดระวัง แต่อุบัติเหตุก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ หากยิ่งเราเกิดขับขี่รถยนต์ขณะที่มึนเมา พฤติกรรมเหล่านี้จะยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงได้อีกด้วยนะ รวมไปถึงยาบางชนิด บางประเภท ก็สามารถส่งผลให้เราง่วงซึม หรือมึนเมาจนเกิดอุบัติได้เช่นกันค่ะ

ยาประเภทไหนบ้าง ที่ควรเลี่ยงหากต้องขับรถ

What-Medications-Not-Take-When-Driving

เพื่อนๆ มีใครที่มีอาการสะลึมสะลือหลังจากการรับประทานยาเข้าไปบ้างคะ บางคนก็รู้สึกง่วง อยากทิ้งตัวลงนอน บางครั้งเหมือนความสามารถในการขับขี่ไม่ค่อยเต็มร้อยสักเท่าไร แล้วยิ่งรับประทานยาเข้าไปแล้ว ต้องทำงาน ต้องขับรถ หรือแม้แต่การทำงานที่เกี่ยวกับเครื่องจักรกล

แบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยนะคะ เพราะเนื่องจากสาเหตุดังกล่าวมักจะเกิดจากตัวยาที่มีผลข้างเคียงทำให้เราเกิดอาการง่วง เพราะยาไปทำการกดระบบส่วนกลางของประสาทเราโดยตรง ทำให้เกิดอาการง่วงนอน และปวดเมื่อย ซึ่งหากเพื่อนๆ รู้ตัวว่าจะต้องรับประทานยาเหล่านี้ก็ควรหลีกเลี่ยงกับการขับรถยนต์นะคะ เผื่อหากเกิดอุบัติเหตุการณ์บนท้องถนนขึ้นมา อาจจะเกิดอันตรายอย่างหนักได้เลยค่ะ

มาดูกันว่ายาประเภทไหนที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ยาลดน้ำมูก/ยาแก้แพ้
  • ยานอนหลับ
  • ยาแก้ปวดหัว
  • ยาคลายกล้ามเนื้อ
  • ยาคลายเครียด

หากเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องขับรถยนต์ ก็ควรเลือกใช้กลุ่มยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงน้อยที่สุด และขณะที่ขับรถอยู่เกิดอาการง่วง เพื่อนๆ ไม่ควรฝืนนะคะ ควรจอดรถหรือหาที่พักนอนไปก่อน และการทำประกันรถยนต์ไว้จะช่วยให้เพื่อนๆ อุ่นใจได้หากเกิดอุบัติเหตุการณ์บนท้องถนนนะคะ หรือหากมีข้อสงสัยสามารถโทรเข้ามาได้ที่ 02-710-3100 เรามีทีมงานคอยให้คำตอบอยู่ค่ะ

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ช่วงไม่กี่วันมานี้ ในโลกโซเชียลมีเดีย มีการถกเถียงกันอย่างดุเดือด ถึงการที่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ตบเท้าหารือกรมสรรพสามิต 16 ธ.ค. นี้ เสนอตั้งกองทุนเก็บค่าธรรมเนียมกำจัดรถยนต์เก่า 10 ปี พร้อมให้สิทธิพิเศษผู้ใช้ซื้อรถใหม่ หวังกระตุ้นยอดขาย ลดมลพิษ …

แนวคิดนี้ เกิดขึ้นจากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ ในช่วง 10 เดือน ที่ผ่านมา (ม.ค. -ต.ค.) ตัวเลขยอดขายตกลงมาก ทำได้เพียง 838,847 คัน ขยายตัว 0.6%

จนผู้คนออกมาโจมตี ทั้งฝ่ายเอกชนที่ต้องการให้รัฐบาลตั้งกองทุนเก็บค่าธรรมเนียมกำจัดรถยนต์เก่า 10 ปี และภาพลักษณ์ของรัฐบาลตอนนี้ที่เป็นอย่างไร ทุกคนก็รู้ๆ กันอยู่ เลยกลายเป็นกระแสของคนเล่นรถเก่า รักรถเก่า รักรถมือสอง ออกมาด่ารัฐบาลกันเป็นชุด

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ถ้าคุณคิดอยากขายรถเก่ามาก ขยับมาซื้อรถใหม่ หรือรถมือสองที่ปีใหม่ขึ้นมาหน่อย เพราะไม่อยากรับภาระค่าใช้จ่ายที่ตามมาในอนาคต ก็นำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี นั้น มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

การจัดเก็บภาษีรถยนต์ประจำปี ของ กรมการขนส่งทางบก

แนวคิดในการจัดเก็บภาษีรถยนต์ ตั้งแต่ในยุคของกองทะเบียน กรมตำรวจ มาจนถึงยุคกรมการขนส่งทางบก ในอดีตนั้น จัดเก็บภาษีตามน้ำหนักรถยนต์ (ทั้งรถเก๋ง, รถกระบะ และรถตู้) ต่อมา ช่วงประมาณปี 2525 กรมการขนส่งทางบก จึงปรับรูปแบบการจัดเก็บภาษีของรถยนต์นั่ง (เฉพาะรถเก๋ง) ใหม่ ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 ที่เก็บตามความจุกระบอกสูบของเครื่องยนต์

ปัจจุบัน มีการจัดเก็บภาษี 4 ประเภทด้วยกัน คือดังนี้

1) จัดเก็บตามกระบอกสูบ ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน

600 ซีซีแรก ซีซี ละ 0.50 บาท
601 – 1,800 ซีซีๆ ละ 1.50 บาท
เกิน 1,800 ซีซีๆ ละ 4.00 บาท

หากเป็นรถที่จดทะเบียนมาแล้ว 5 ปี ให้ได้รับการลดหย่อนภาษีประจำปีในปีต่อๆ ไป ดังนี้

– ปีที่ 6 ร้อยละ 10
– ปีที่ 7 ร้อยละ 20
– ปีที่ 8 ร้อยละ 30
– ปีที่ 9 ร้อยละ 40
– ปีที่ 10 และปีต่อๆ ไป ร้อยละ 50

2) จัดเก็บเป็นรายคัน ได้แก่ รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์สาธารณะ รถพ่วง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร

– รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 100 บาท
– รถจักรยานยนต์สาธารณะ คันละ 100 บาท
– รถพ่วงของรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 50 บาท
– รถพ่วงนอกจากข้อข้างต้น คันละ 100 บาท
– รถบดถนน คันละ 200 บาท
– รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร คันละ 50 บาท

3) จัดเก็บตามน้ำหนัก ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล รถยนต์รับจ้าง

น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัดรถยนต์บริการ รถยนต์รับจ้าง รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลรถลากจูงรถแทรกเตอร์ที่มิได้ใช้ในการเกษตร
ไม่เกิน 500 150 450 185 300
501 – 750 300 750 310 450
751 – 1,000 450 1,050 450 600
1,001 – 1,250 800 1,350 560 750
1,251 – 1,500 1,000 1,650 685 900
1,501 – 1,750 1,300 2,100 875 1,050
1,751 – 2,000 1,600 2,550 1,060 1,350
2,001 – 2,500 1,900 3,000 1,250 1,650
2,501 – 3,000 2,200 3,450 1,435 1,950
3,001 – 3,500 2,400 3,900 1,625 2,250
3,501 – 4,000 2,600 4,350 1,810 2,550
4,001 – 4,500 2,800 4,800 2,000 2,850
4,501 – 5,000 3,000 5,250 2,185 3,150
5,001 – 6,000 3,200 5,700 2,375 3,450
6,001 – 7,000 3,400 6,150 2,560 3,750
7,001 ขึ้นไป 3,600 6,600 2,750 4,050

4) รถที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า

– รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ให้เก็บภาษีตามน้ำหนักของรถในอัตรารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน
– รถอื่นนอกจาก 4.1 ให้เก็บภาษีในอัตรากึ่งหนึ่งของรถตามข้อ 2 และ 3

รถใครภาษีขาดเกิน 3 ปี ดูวิธีการต่อภาษี พร้อมจดทะเบียนใหม่ ได้ใน Link นี้ – 3 ขั้นตอนง่ายๆ ในการต่อทะเบียนรถ “ภาษีขาดเกิน 3 ปี”

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

แล้วภาษีสรรพสามิต ของรถยนต์ป้ายแดงที่ออกใหม่จากโรงงานล่ะ?

ปัจจุบัน กรมสรรพสามิต จัดเก็บภาษีเฉพาะรถยนต์ใหม่ ที่ผลิตจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือนำเข้าจากต่างประเทศ โดยจัดเก็บภาษีตามหลักสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดอัตราภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อส่งเสริมให้เกิดการประหยัดพลังงาน และลดมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม จากการปล่อย CO2 อันเป็นสาเหตุหลักให้เกิดสภาวะโลกร้อน และฝุ่น PM 2.5

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ข้อดี ของ แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี

  • ปริมาณรถยนต์เก่าในบ้านเราลดลง เพราะผู้คนส่วนหนึ่ง ยอมขายรถเก่าทิ้ง เนื่องจากสู้กับภาษีที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว
  • ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่ปล่อยออกจากเครื่องยนต์รถยนต์ น้อยลง
  • ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ มียอดขายรถยนต์ใหม่มากขึ้น กับบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น
  • ซากรถคันเก่า จะเข้าสู่กระบวนการกำจัดซากที่ได้มาตรฐาน แบบโรงงานรีไซเคิลรถยนต์ เช่นในประเทศจีน หรือ ญี่ปุ่น และได้รับเงินที่จ่ายเข้ากองทุนคืนพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะเป็นการลดภาษีสรรพสามิตของรถใหม่ ที่จะซื้อออกไป

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

ข้อเสีย ของ แนวคิดของการเก็บภาษีรถเก่า อายุเกิน 10 ปี

  • ผู้บริโภคต้องยอมซื้อรถยนต์ป้ายแดงคันใหม่ ในราคาจำหน่ายที่แพงกว่าหลายประเทศทั่วโลกพอสมควร ทั้งๆ ที่ ซื้อรถมือสองคุณภาพดี (แต่อายุมากหน่อย) ซึ่งคุ้มค่าเงินกว่า
  • ไม่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รายได้ของคนไทยส่วนใหญ่ มิได้มากพอที่จะสามารถเปลี่ยนรถยนต์ได้ทุกๆ 5-10 ปี เนื่องจากรถยนต์ใหม่ ก็มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
  • บางคนอาจใช้เวลาในการผ่อนรถยนต์ นานถึง 6-7 ปี พอผ่อนหมด ใช้งานได้อีก 3 ปี ก็ต้องเจอการปรับภาษีรถยนต์ที่สูงขึ้น ทำให้ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น
  • ในต่างประเทศ ที่เป็นทั้งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง สามารถทำราคาจำหน่ายรถยนต์ที่เหมาะสมได้ ซึ่งต่างไปจากบ้านเรา
  • รถเก่าหลายคัน อายุมากแล้ว แต่ถ้าได้รับการดูแลรักษาที่ดี ก็ยังน่าใช้ไม่แพ้รถใหม่ๆ
  • คนที่มีรถยนต์มากกว่า 1 คัน และถ้าเป็นรถยนต์เก่า ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายต่อปีมากขึ้น
  • ระบบขนส่งมวลชน เช่น รถเมล์ ที่มีอายุมากถึง 20-40 ปี สภาพเก่าโทรม ควันดำ ยังวิ่งให้บริการผู้คนในเมืองใหญ่ ค่อนข้างย้อนแย้งกับข้อเสนอในการลดมลพิษ

Old-Car-Tax-Idea-In-Thailand

สำหรับตัวเลขของ กรมการขนส่งทางบก พบว่า รถยนต์เก่าอายุเกิน 10 ปี ที่จดทะเบียนก่อนปี 2552 ในปัจจุบัน มีอยู่ประมาณ 26 ล้านคัน จำนวนนี้ เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลประมาณ 9 ล้านคัน แยกออกได้เป็น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน 4.07 ล้านคัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน 3.8 แสนคัน และรถกระบะ 4.6 ล้านคัน

คือต้องบอกก่อนว่า แนวคิดนี้ “ดี” ในประเทศที่ “พัฒนาแล้ว” คุณภาพชีวิตประชาชนดี มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง มีค่าครองชีพสูง และมีระบบขนส่งมวลชนที่ได้คุณภาพ จนทำให้รู้สึกว่า ไม่มีรถยนต์ใช้งาน ชีวิตก็ไม่ลำบากในการเดินทาง

【短期連載】「ユーザー車検」必勝マニュアル『初心者は検査ラインでハザードを点灯』(その3)

การตรวจสภาพรถ ของประเทศญี่ปุ่น

เช่น ในประเทศญี่ปุ่น รถยนต์ใหม่มีราคาถูกกว่าในไทยมาก แต่เมื่อคุณใช้รถยนต์ไปจนถึงปีที่ 4 นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียน คุณก็ต้องนำรถยนต์เข้าตรวจสภาพ (ของญี่ปุ่นเรียกว่า “車検” Shaken = ชาเกง) ซึ่งคล้ายกับ ตรอ. ในบ้านเรา เป็นการตรวจสภาพรถยนต์ทุกๆ 2 ปี แต่มีความละเอียดในการตรวจสอบรถยนต์มากกว่ามาก และค่าตรวจสภาพที่ค่อนข้างแพงมาก ครั้งนึงต้องจ่ายหลายหมื่นเยนเลยทีเดียว

ซึ่งถ้าตรวจสภาพรถไม่ผ่าน ก็ต้องกลับไปซ่อมแซมแก้ไข เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก (โดยการตรวจสภาพรถนี้ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ภาษีรถยนต์ ที่ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของรถ, ประกันภัยรถยนต์ 24 เดือน, ภาษีค่าใช้ถนน และค่าอากร เป็นต้น)

https://img.bestcarweb.jp/wp-content/uploads/2019/11/29220240/40ac879c58a8b005491a1f3d4ed1ec38.jpg

อัตราค่าตรวจสภาพรถ ของประเทศญี่ปุ่น

และยิ่งรถเก่ามากเท่าไหร่ ค่าตรวจสภาพก็ยิ่งสูงมากขึ้น ทำให้คนญี่ปุ่นหลายคนรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ถ้าเกิดอุบัติเหตุ ค่าซ่อมก็ไม่คุ้ม เพราะค่าซ่อมแพงกว่าซื้อรถใหม่ แถมตอนลากเอาไปทิ้ง ต้องเสียเงินค่ากำจัดขยะอีก

https://www.ft.com/__origami/service/image/v2/images/raw/https%3A%2F%2Fs3-ap-northeast-1.amazonaws.com%2Fpsh-ex-ftnikkei-3937bb4%2Fimages%2F3%2F7%2F5%2F9%2F8909573-1-eng-GB%2F20140609_Myanmar1.jpg?source=nar-cms

รถมือสองเก่าจากญี่ปุ่น ที่อยู่ในประเทศพม่า

ด้วยเหตุนี้ จึงมีพ่อค้ารถมือสอง ทำธุรกิจส่งรถยนต์เก่าจากญี่ปุ่น ไปขายที่ภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย พม่า หรือแถบโอเชียเนีย แถบแคริเบียน หรือประเทศที่ใช้รถพวงมาลัยขวากันมากมาย จนบางทีก็ตัดขายเป็นอะไหล่ แบบเชียงกงในบ้านเรา หรือขับไปทิ้งเป็นซาก อยู่ตามป่าตามเขาในต่างจังหวัด ยังดีกว่า (คนญี่ปุ่นขี้เหนียวก็เยอะนะ! รู้ว่าค่าใช้จ่ายแพง ทิ้งแล้วซื้อใหม่คุ้มกว่า)

คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จึงใช้รถยนต์เฉลี่ยประมาณ 5-7 ปี ก็เปลี่ยนคันใหม่แล้ว

แต่ถ้าในบ้านเรา หากมีการบังคับใช้จริงๆ แล้วล่ะก็ คนที่จะเดือดร้อนจำนวนมาก ก็คงหนีไม่พ้นคนไทยส่วนใหญ่ ที่ใช้รถเก่า และรถมือสอง นี่ล่ะครับ …

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

5-Things-You-Should-Never-Do-While-Driving

เทศกาลของการท่องเที่ยว ก็กลับมาพร้อมกับอากาศหนาวๆ กันอีกแล้วนะครับ สำหรับใครที่คิดจะเดินทางไกลในช่วงปีใหม่ 2563 นี้ นอกจากสุขภาพร่างกายต้องพร้อมแล้ว สุขภาพรถ ก็ต้องพร้อมเช่นกันนะครับ หากท่านใดยังไม่ได้ไปตรวจสภาพรถฟรี ก็รีบนำรถไปตรวจสภาพกันได้เลย

ส่วนถ้าใครอยากจะขายรถด่วนๆ ในช่วงสิ้นปีนี้ เพื่อนำเงินไปดาวน์รถคันใหม่ ผ่อนรถใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ ก็นำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ Carro สิ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express คลิกที่นี่เลย https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

พอได้รถมาขับกันแล้ว การขับรถยนต์นั้นต้องใช้สมาธิพอสมควร ไม่วอกแวก หรือทำนู่นทำนี่ตอนนั่งหลังพวงมาลัยไปด้วย … 5 สิ่งที่ห้ามทำ เมื่อกำลังขับรถอยู่นั้น มีอะไรบ้าง Mr.Carro จะมาเล่าทั้งหมดให้ฟัง

5-Things-You-Should-Never-Do-While-Driving

1. โทรศัพท์มือถือ อย่าเล่น!

ในโลกยุคปัจจุบัน เชื่อได้เลยว่าแทบทุกคนติดโทรศัพท์มือถือกันทั้งนั้น แต่เวลาขับรถ สมาธิหลักควรจะอยู่ที่ถนนหนทางข้างหน้ามากกว่า การเล่น Facebook หรือการแชทไลน์ ในขณะขับรถ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้

ดังนั้น การขับรถทางไกล หากจำเป็นต้องคุยโทรศัพท์ ควรใช้ระบบ Bluetooth และถ้าหากต้องการดูเส้นทางจาก GPS ในมือถือ ก็ตั้งค่าให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง ควรหาจุดที่ติดโทรศัพท์ไว้บริเวณกระจกบานหน้ารถ ในมุมที่ง่ายต่อการดูครับ

2. ของหล่น อย่าเก็บ!

บางคนชอบเก็บของเอาไว้ในรถหลายอย่าง บางทีพอจะหยิบมาใช้ แล้วก็อาจจะวางในพื้นที่เรียบหรือลื่น เมื่อเวลารถออกตัวหรือเลี้ยว แรงเหวี่ยงของรถ อาจจะทำของกลิ้งหล่นไปที่พื้นได้ กรณีนี้ห้ามก้มลงไปเก็บของเด็ดขาดตอนกำลังขับรถอยู่ เพราะถ้าเงยหน้าขึ้นมาอีกที รถอาจเสียการควบคุม เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

และการเอื้อมตัวไปเก็บของขณะขับรถ อาจทำให้กล้ามเนื้อหลังบาดเจ็บได้ ทางที่ดี ควรจัดวางสิ่งของให้เรียบร้อย ก่อนนำรถออกเดินทาง และไม่วางสิ่งของไว้ในจุดที่หล่นง่าย หรือกลิ้งไปมาได้ เช่น บนแผงคอนโซลที่พื้นเรียบ ไม่มีช่องเว้าสำหรับให้วางของ เป็นต้น

5-Things-You-Should-Never-Do-While-Driving

3. รองเท้า อย่าถอด!

เป็นปัญหาที่มีมานาน ของเรื่องรองเท้าไปขัดอยู่ในแป้นเบรก หรือคันเร่ง เพราะหลายคนเวลาขับรถ ชอบถอดรองเท้าขับรถ แต่การวางรองเท้าเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เพราะรองเท้าอาจเลื่อนไหล ทำให้เบรกได้ไม่เต็มที่ หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้

ทางที่ดี ถอดรองเท้าแล้ว ยกไปวางไว้บริเวณที่นั่งฝั่งผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัย

4. รองเท้าส้นสูง อย่าใส่!

การใส่รองเท้าส้นสูงขับรถนั้น ทำให้เหยียบแป้นเบรกหรือแป้นคันเร่งไม่ได้เต็มฝ่าเท้า อาจทำให้เบรกได้ไม่สนิท หรือรถไหลไปชนคันหน้าได้

ทางที่ดี ควรเปลี่ยนรองเท้าก่อนขับรถ จะช่วยให้เหยียบเบรกและคันเร่งได้มั่นใจมากขึ้นครับ

5-Things-You-Should-Never-Do-While-Driving

5. สุรายาเมา ห้ามดื่ม!

การดื่มเหล้านี่เป็นเรื่องที่แยกไม่ออกกับทุกเทศกาลเลยจริงๆ จะเทศกาลไหนพี่ไทยก็เมา แต่เมาอย่างเดียวไม่พอ ดันออกมาขับรถซะด้วยสิ แล้วก็เกิดอุบัติเหตุ สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมานับไม่ถ้วน

ถ้าหากรู้ตัวว่าเมาแล้ว ห้ามขับรถเด็ดขาด! ทางที่ดี ควรให้คนที่ไม่ได้ดื่มเหล้า ขับรถให้แทน หรือจอดรถทิ้งไว้ก่อน ถ้ามาคนเดียวก็ขึ้นแท็กซี่ หรือใช้ Application ที่มีบริการคนขับรถให้มาขับให้

เอาละครับ เมื่อรู้ถึงข้อห้ามต่างๆ เหล่านี้แล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันด้วยล่ะครับ

Sale-Nissan-Almera-With-Carro-Express

ใครที่กำลังสนใจเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ในช่วงนี้ ก็คงเห็นแล้วว่าทาง Nissan (นิสสัน) เพิ่งได้เปิดตัว Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) รุ่นใหม่ล่าสุดไปในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนก็สนอกสนใจ อยากซื้อ หรือแม้กระทั่งค่ายรถคู่แข่งก็ไม่ยอมแพ้ ต้องออกรุ่นใหม่ล่าสุด หรือแต่งหน้าทาปากรถที่มีอยู่เดิม มาชิงส่วนแบ่งทางการตลาดด้วยเช่นกัน

ในช่วงปลายปี หลายคนโบนัสเริ่มออก มากบ้างน้อยบ้าง ก็อาจจะวางแผนขายรถคันเก่า เพื่อที่จะเปลี่ยนรถคันใหม่ เป็นรถ Eco-Car แทนรถคันเดิมอยู่ก็ได้ ต้อนรับปี 2563

แต่ร้อนทั้งร้อยของคนอยากขายรถทุกคน ล้วนต้องการขายด้วยวิธีใดก็ได้ ที่สามารถขายรถได้ราคาที่ตนเอง “พึงพอใจ”

Nissan-Almera-Carro-Express

วันนี้ CARRO จะมาแนะนำลูกค้าที่ลงขาย Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) รุ่น 1.2 E A/T ปี 2014 กับบริการขายรถด่วน CARRO Express ของทาง CARRO ที่ได้ราคามากถึง “200,000 บาท” กันครับ

เคล็ดไม่ลับ ในการขายรถให้ได้ราคา

Nissan-Almera-Carro-Express

สภาพรถภายนอก หากรถของคุณสภาพดี ไม่มีรอยเฉี่ยวชน บุบครูดตามจุดต่างๆ ไม่มีชนหนัก ชนิดที่ซ่อมมาแล้วไม่เหมือนเดิม เส้นของฝากระโปรงหน้า-หลัง กันชน ประตูด้านข้าง ต้องเสมอกัน รวมไปถึงเครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง ระบบน้ำหล่อเย็น หรือระบบแก๊ส LPG/NGV (ถ้ามี) ต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน

การแต่งรถถ้าแต่งแบบนิดๆ หน่อยๆ เช่น เปลี่ยนล้อแม็กใหม่ ก็ถือว่าสวยงาม และน่าสนใจ ซึ่งผู้ซื้อต่อไปจะนำไปแต่งเพิ่มเติม หรือจะขับไปแบบเดิมๆ ต่อก็ได้

Nissan-Almera-Carro-Express

สำหรับห้องโดยสารภายในของรถคันนี้ ถือว่าสมบูรณ์ เบาะนั่งไปหุ้มหนังใหม่แทนที่เบาะผ้า ใส่พรมกระดุม ดูสะอาด ไม่มีรอยฉีกขาด หรือเปื้อนคราบต่างๆ และยังมีแอร์ วิทยุ CD มาให้พร้อมทุกการใช้งาน และในส่วนห้องเครื่องยนต์ก็ยังดูเดิมๆ สะอาด ก็จะยิ่งช่วยให้คุณขายรถออกได้ไวขึ้น

Nissan-Almera-Carro-Express

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่มีการซื้อขายรถยนต์ นั่นคือ “เอกสารของรถ” ไม่ว่าจะเป็นเล่มทะเบียนรถ เอกสารประกันภัย การเสียภาษีรถยนต์ในแต่ละปี ทางที่ดี ควรจะมี Book Service หรือบิลใบเสร็จเมื่อซ่อมรถยนต์ในที่ผ่านมาด้วย ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ซื้อด้วย ว่ารถของเรานั้น ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เวลาขายต่อ จะได้ราคาที่สูงขึ้นไปในตัว

Carro-Sell-Car-Express

ซึ่งหากใครที่อยากขายรถคันเดิมแบบด่วนๆ เพื่อนำเงินไปซื้อรถในฝันคันใหม่ สามารถส่งรายละเอียดรถของคุณ มาตีราคากับทาง CARRO หรือขายรถกับ CARRO ได้ โดยเราให้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีระบบการันตีเรื่องของเวลาขายรถ (CARRO Tracking) ที่คุณเช็กได้ว่า รถของคุณสถานะอยู่ขั้นตอนใดแล้ว

หากคุณสนใจอยากขายรถกับ CARRO นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มได้ใน https://th.carro.co/sell-car/express แล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1800-012-288, 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน