Carro-Secures-110M-Debt-Financing-2020

CARRO (คาร์โร) บริษัท Startup ด้านรถมือสองชั้นนำจากประเทศสิงคโปร์ ประกาศว่าบริษัทได้ระดมทุนเพิ่มเติมอีกจาก Mitsubishi Corporation และ MS&AD Ventures ได้เพิ่มอีก 110.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือ 150 ล้านดอลล่าร์สิงคโปร์)

โดยในเวลาเพียงห้าปี นับตั้งแต่เริ่มดำเนินงาน CARRO ได้ขยายธุรกิจให้บริการด้านรถมือสองไปยังประเทศต่างๆ ใน ASEAN อาทิเช่น ประเทศไทย ที่เป็นสาขาจากที่ขยายมาจาก CARRO สิงคโปร์โดยตรง

ส่วนในประเทศมาเลเซีย ทาง CARRO ได้เข้าซื้อกิจการ MyTukar.com บริษัท Startup ด้านรถมือสอง ด้วยเงินลงทุนมากถึง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 125.4 ล้านริงกิตมาเลเซีย) และในประเทศอินโดนีเซีย ได้เข้าซื้อกิจการ Jualo.com อีกทั้งยังมีแผนขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย

บนเส้นทางธุรกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดดมากกว่า 500% ในแต่ละปี ซึ่ง CARRO มีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้ให้ถึง 740 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (หรือ 1 พันล้านดอลล่าร์สิงคโปร์) ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้

Carro-Singapore-Team

แม้ว่าบริษัทฯ จะอยู่ในช่วงเพิ่งที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 (โควิด-19) ใน ASEAN ขณะนี้ กลับส่งผลดีให้การธุรกิจอยู่บ้าง เนื่องจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายรถยนต์ส่วนใหญ่ เลือกที่จะเลี่ยงการพบปะ หรือการสัมผัส

ด้าน Ernest Chew หัวหน้าฝ่ายการเงินของ CARRO ได้เผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใช้งานระบบดิจิทัลมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ขายรถ ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มที่สูงขึ้น

“โควิด-19 ช่วยผลักดันเกิดความก้าวหน้าในตลาดรถยนต์ออนไลน์ แม้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจในตอนนี้ ทำให้ลูกค้าต้องมองหารถยนต์ที่คุ้มค่าคุ้มราคามากขึ้น และก็คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย” เขากล่าวเสริม

Carro-And-Doctor-Car-Prevent-Covid-19

สำหรับ CARRO นั้นได้รับ EBITDA (Earnings before Interest, Taxes, Depreciation and Amortization – กำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย) เป็นบวกในช่วงไตรมาสสามที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็น EBITDA ที่สูงสุดในนับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19

สำหรับ CARRO เป็นบริษัท Startup ด้าน Car Trading Platform ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างผู้ซื้อรถและผู้ขายรถ โดยมีบริการเสริมทั้งด้านไฟแนนซ์ ประกันภัย การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อรถคันใหม่ และขายรถคันเดิมอย่างครบวงจร

Carro-Pantip-Workshop-Event-2019

โดยในช่วงก่อนหน้านั้น จนในเดือนกันยายน 2020 CARRO ได้รับเงินทุนมากกว่า 100 ล้านดอลล่าร์สิงคโปร์ (หรือ 74 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ) จากผู้ร่วมลงทุนอย่าง SoftBank Ventures Asia, EDBI, Insignia Ventures Partners และ B Capital Group เพื่อขับเคลื่อนและขยายธุรกิจ

ซึ่งงบลงทุนนี้รวมถึง 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่ได้รับก่อนหน้าในเดือนสิงหาคม 2019 และ 60 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่ได้รับจาก Series B เมื่อเดือนพฤษภาคม 2018 อีกด้วย

สำหรับท่านใดที่อยากขายรถ ผ่านบริการของเรา CARRO เรายินดีรับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็คราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่รายละเอียดข้อมูลรถของคุณ และรูปรถที่คุณต้องการขายได้ที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

ช่วงนี้ใครที่เป็นดีลเลอร์ของ CARRO เรามีข่าวดีมาบอก! สำหรับดีลเลอร์ที่ขายรถยนต์ผ่าน Application CARRO Wholesale ซึ่งเป็นระบบการซื้อรถกับทาง CARRO เราได้จัดโปรโมชั่นตั้งแต่ 1 – 30 เม.ย. 2564 เพื่อตอบแทนดีลเลอร์ที่สามารถขายรถยนต์ผ่านทาง CARRO Wholesale ได้ตามเป้า ก็จะได้รับคะแนนสะสม พร้อมแลกของรางวัลได้มากมาย!

หากท่านใดอยากร่วมเป็นดีลเลอร์กับเรา และยังไม่มี App นี้ สามารถดาวน์โหลด Application “CARRO Wholesale” มาใช้กันได้เลย ทั้งในระบบ iOS และ Android (สามารถคลิก Download ที่ Link นี้ได้เลย http://onelink.to/fjjn42)

ส่วนวิธีใช้งาน CARRO Wholesale Application สามารถดูได้ใน Link ด้านล่าง

สำหรับดีลเลอร์ใหม่ หรือดีลเลอร์ดั้งเดิม เพียงแค่ดาวน์โหลด Application หรือแค่เสนอราคา ก็ได้รับคะแนนสะสม เพื่อไว้สำหรับแลกของรางวัลได้ทันที!

รายละเอียดของรางวัล ประจำเดือนเมษายน 2564

เงื่อนไข:

  • แลกของรางวัลได้ตั้งแต่ 1 – 30 เมษายน 2564
  • ค่าดำเนินการเฉลี่ยต่ำกว่า 5,000 บาท ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • ดีลเลอร์ที่ไม่ได้จ่ายค่ามัดจำ Dealer Premium (10,000 บาท) ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • ของรางวัลมีจำนวนจำกัด สามารถดูรายละเอียดแต่ละรางวัลด้านล่าง
  • การรับของรางวัลจะต้องมารับที่สำนักงาน CARRO ในกรุงเทพฯและสาขาในเขตพื้นที่ในเวลาทำการเท่านั้น
  • หากต้องการติดต่อรับสิทธิพิเศษหรือของรางวัล ติดต่อแผนก Dealership โทร. 063-535-9584 หรือ 063-535-6703

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

ของรางวัล Tier 1 – 5,000 Points

  • HP CLEANER เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
  • JBL Go3 Portable Waterproof Speaker ลำโพงบลูทูธกันน้ำ

เงื่อนไข:

  • เพียงจบรถ 1 คัน ในเดือนเมษายน 2564 และจ่ายเต็มค่าดำเนินการ
  • ของรางวัลมีจำนวนจำกัด (4 รางวัล)
  • ใช้คะแนน 5,000 Points ต่อ 1 รางวัล
  • แลกของรางวัลได้ตั้งแต่ 1 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2564
  • ค่าดำเนินการเฉลี่ยต่ำกว่า 5,000 บาท ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • ดีลเลอร์ที่ไม่ได้จ่ายค่ามัดจำ Dealer Premium (10,000 บาท) ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

ของรางวัล Tier 2 – 8,000 Points

  • MBK ตู้เย็นมินิบาร์ ขนาด 30 ลิตร HM103
  • POWERPLUS JP06W เครื่องจั๊มสตาร์ท รุ่นใหม่ NEW GEN 4 Cells Car Jump Staeter Power Bank 16800 mAh แบตจั๊มสตาร์ทรถยนต์

เงื่อนไข:

  • เพียงจบรถ 2 คัน ในเดือนมีนาคม 2564 และจ่ายค่าดำเนินการเต็ม
  • ของรางวัลมีจำนวนจำกัด (3 รางวัล)
  • ใช้คะแนน 8,000 Points ต่อ 1 รางวัล
  • แลกของรางวัลได้ตั้งแต่ 1 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2564
  • ค่าดำเนินการเฉลี่ยต่ำกว่า 5,000 บาท ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • ดีลเลอร์ที่ไม่ได้จ่ายค่ามัดจำ Dealer Premium (10,000 บาท) ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

ของรางวัล Tier 3 – 12,000 Points

  • เครื่องฟอกอากาศ TOSHIBA รุ่น CAF-H20(W)
  • DDpai Mini5 Dash Cam Car Camera กล้องติดรถยนต์ ความละเอียดสูงสุด 2160P 4K Ultra HD

เงื่อนไข:

  • เพียงจบรถ 3 คัน ในเดือนเมษายน 2564 และจ่ายเต็มค่าดำเนินการ
  • ของรางวัลมีจำนวนจำกัด (3 รางวัล)
  • ใช้คะแนน 12,000 points ต่อ 1 รางวัล
  • แลกของรางวัลได้ตั้งแต่ 1 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2564
  • ค่าดำเนินการเฉลี่ยต่ำกว่า 5,000 บาท ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • ดีลเลอร์ที่ไม่ได้จ่ายค่ามัดจำ Dealer Premium (10,000 บาท) ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

ของรางวัล Tier 4 – 15,000 Points

  • SANSHIRO พัดลมไอเย็น 30 ลิตร FS-06R
  • PHILIPS หม้อทอดไร้น้ำมัน 4.1 ลิตร รุ่น HD9200

เงื่อนไข:

  • เพียงจบรถ 4 คัน ในเดือนมีนาคม 2564 และจ่ายค่าดำเนินการเต็ม
  • ของรางวัลมีจำนวนจำกัด (2 รางวัล)
  • ใช้คะแนน 15,000 Points ต่อ 1 รางวัล
  • แลกของรางวัลได้ตั้งแต่ 1 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2564
  • ค่าดำเนินการเฉลี่ยต่ำกว่า 5,000 บาท ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • ดีลเลอร์ที่ไม่ได้จ่ายค่ามัดจำ Dealer Premium (10,000 บาท) ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

ของรางวัล Tier 5 – 20,000 points

  • Marshall Uxbridge Voice (Wireless Bluetooth Smart Voice Speaker)
  • LANCAMP สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า JS30 Scooter

เงื่อนไข:

  • เพียงจบรถ 5 คัน ในเดือนมีนาคม 2564 และจ่ายค่าดำเนินการเต็ม
  • ของรางวัลมีจำนวนจำกัด (1 รางวัล)
  • ใช้คะแนน 20,000 Points ต่อ 1 รางวัล
  • แลกของรางวัลได้ตั้งแต่ 1 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2564
  • ค่าดำเนินการเฉลี่ยต่ำกว่า 5,000 บาท ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • ดีลเลอร์ที่ไม่ได้จ่ายค่ามัดจำ Dealer Premium (10,000 บาท) ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

Carro-Dealer-Promotion-4-2021

ของรางวัล VIP Tier – 70,000 Points

  • iPad Air 64GB Wifi
  • Nintendo Switch Bundle Ring Fit Maxsoft นินเทนโดสวิทซ์ชุดบันเดิล ริงฟิต

เงื่อนไข:

  • เพียงจบรถ 10 คัน ในเดือนมีนาคม 2564 และจ่ายค่าดำเนินการเต็ม
  • ของรางวัลมีจำนวนจำกัด (1 รางวัล)
  • ใช้คะแนน 70,000 Points ต่อ 1 รางวัล
  • แลกของรางวัลได้ตั้งแต่ 1 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2564
  • ค่าดำเนินการเฉลี่ยต่ำกว่า 5,000 บาท ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • ดีลเลอร์ที่ไม่ได้จ่ายค่ามัดจำ Dealer Premium (10,000 บาท) ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้

หมายเหตุ:

  • กรณีการจบรถผ่าน CARRO Wholesale แอปฯ และชำระค่าดำเนินการในราคาเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เมษายน 2564
  • กรณีที่เป็นระดับ VIP ต้องมีคะแนนสะสม 70,000 คะแนนขึ้นไป และจำกัดสิทธิเฉพาะดีลเลอร์คนแรกเท่านั้น จำกัดเพียงแค่ 1 รางวัลต่อเดือน 
  • กรณีการรับผู้แลกสิทธิและของรางวัล CARRO Rewards จำเป็นต้องรับที่สำนักงาน CARRO ในกรุงเทพฯ และสาขาในเขตพื้นที่นั้นๆ เท่านั้น (เฉพาะวันและเวลาทำการ)
  • หากมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทฯ​ ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ในการแลกรางวัลในแต่ละลำดับ จะมีจำนวนจำกัด 
  • ในกรณีใช้ Voucher จ่ายค่าดำเนินการแทนนั้นไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • ดีลเลอร์ที่ไม่ได้จ่ายค่ามัดจำ Dealer Premium (10,000 บาท) ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • ค่าเฉลี่ยของค่าดำเนินการต่ำกว่า 5,000 บาท ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้
  • คะแนนสะสมไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้
  • กรณีต้องการเช็คคะแนน หรือ ติดต่อรับสินค้า CARRO Rewards กรุณาติดต่อแผนก Dealership
  • CARRO Official : 063-373-4355
  • วันวิสา (แจง) : 063-535-6703
  • ภานุธัช (ฟอร์ด) : 063-535-9584
  • กัลยา (จุ๋ม) : 063-535-9588
Carro-Agent-Rewards-2020

สวัสดีครับ หากท่านตอนนี้กำลังทำธุรกิจเป็นดีลเลอร์รถยนต์ เป็นเซลล์ขายรถ เซลล์รถใหม่ (หรือที่ปรึกษาการขาย) ที่มักมีลูกค้านำรถคันเก่ามาเทิร์นอยู่เสมอๆ (ซึ่งทางเราจะเรียกว่า Agent) และในส่วนของบริษัทเช่ารถต่างๆ เป็นต้น

ก่อนอื่นเลย เรามีความยินดีให้ท่านได้ใช้ Application CARRO Wholesale ซึ่งเป็นระบบการซื้อรถกับทาง CARRO อยู่แล้ว หากท่านใดยังไม่มี App นี้ สามารถดาวน์โหลด Application “CARRO Wholesale” จากใน iOS และ Android (สามารถคลิก Download ที่ Link นี้ได้เลย http://onelink.to/fjjn42)

ส่วนวิธีใช้งาน CARRO Wholesale Application สามารถดูได้ใน Link ด้านล่าง

และในโอกาสนี้ เราขอยินดีที่นำเสนอโปรโมชั่นใหม่ๆ กับ “CARRO Rewards สำหรับ Agent” ยิ่งถ้าคุณขายรถผ่าน Application CARRO Wholesale ของเรามากเท่าไหร่ ยิ่งขายรถได้มาก ปิดการขายได้มาก ก็จะได้รับเงินคืนเริ่มต้นที่ 1,500 บาททันที! พร้อมทั้งยังได้ค่าคอมมิชชั่นตามปกติอีก เรียกว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มจริงๆ!

วิธีขายรถกับเราก็ง่ายนิดเดียว เพียงขายผ่าน Application CARRO Wholesale พร้อมกรอกรายละเอียด รุ่นรถยนต์ที่ต้องการขาย และรูปถ่ายรถยนต์ในมุมต่างๆ ซึ่งจะมีดีลเลอร์นับพันเจ้า คอยเสนอให้ราคารถยนต์ของคุณตามที่คุณพึงพอใจ เมื่อได้ราคาจนถึงที่สุด CARRO จะติดต่อไปยังผู้ขายกับผู้ซื้อ ให้มาพบกันเพื่อทำการเซ็นสัญญาซื้อขาย พร้อมปิดการขาย และรับเงินสดกลับบ้าน

รายละเอียดเมื่อปิดการขายรถสำเร็จ พร้อมได้เงินคืนกับ CARRO Rewards สำหรับ Agent

Tier Number of Transaction เงินคืน Remark ระยะในการจบรถ Promotion Period
1 1 (รถคันแรก) 1,500 – โปรโมชั่นคันแรกเท่านั้น
– โปรโมชั่นนี้ไม่สามารถแลกเป็นสินค้าอื่นได้
– เงินจะโอนให้หลังจากมีการทำสัญญาเสร็จสิ้น
– ต้องมีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นเต็มจำนวนเท่านั้น
– ต้องจบภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น
– โปรโมชั่นนี้ต้องแนบนามบัตร NCS มาพร้อมตอนรับเงิน
ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่คันแรกที่จบการขาย ก.ย. – ธ.ค. 2563

ขายรถได้กี่คัน ได้เงินเท่าไหร่

  • ขายรถได้ 1 คัน รับเงินคืน 1,500 บาท

เงื่อนไข และหมายเหตุ:

  • ระยะเวลาในการจบรถ ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่คันแรกที่จบการขาย
  • โปรโมชั่นนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคม 2563 เท่านั้น
  • หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Inbox มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand หรือโทร. 02-508-8425 ในเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 9.30 – 18.30 น.) หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Carro-X-Shopee-Promotion-12-12

CARRO ร่วมกับ Shopee ให้คุณขายรถคันเดิมได้ง่ายๆ แถมได้ไปช็อปปิ้งสนุกๆ กันอีกด้วย ในโปร 12.12 Birthday Sale แคมเปญที่สุดแห่งปี!! ช้อปกันให้มันส์กว่าที่เคย แค่ขายรถคันเดิมกับ CARRO เพียงแค่เข้าไปเว็บไซต์ของ Shopee และลงขายรถของคุณผ่านทาง CARRO แค่นี้ คุณก็ได้ Voucher สำหรับใช้ช้อปปิ้งต่อใน Shopee ได้ง่ายๆ เลย หมดเขต 31 ธ.ค. 2563 นี้!

วิธีการใช้โค้ดแบบง่ายๆ :

  • ใช้ 15 Shopee Coins แลกโค้ดส่วนลดที่ Shopee https://bit.ly/3jzb83C
  • ในขั้นตอนลงขายรถ นำโค้ดส่วนลดไปกรอกที่เว็บไซต์ CARRO https://th.carro.co/
  • เมื่อลูกค้าที่กรอกโค้ดส่วนลด และสามารถขายรถกับทาง CARRO ได้สำเร็จ รับเลย Shopee Voucher มูลค่า 1,500 บาท จากทาง CARRO

ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้โค้ด :

1. โปรโมชั่นนี้ต้องจบการขายรถยนต์กับ CARRO เท่านั้น
2. โปรโมชั่นนี้ไม่สามารถแลกเป็นสินค้าอื่นได้
3. โปรโมชั่นนี้พิเศษเฉพาะลูกค้าที่แลก Coin จาก Shopee เท่านั้น
4. โปรโมชั่นนี้ต้องมีการกรอก Promo Code ที่ได้รับจากทาง Shopee เท่านั้น
5. ลูกค้าจะได้รับ Voucher Shopee มูลค่า 1,500 บาท เมื่อสามารถขายรถกับ CARRO ได้สำเร็จ ภายในเดือน ธ.ค. 2563 เท่านั้น
6. ต้องเป็นการขายที่สำเร็จในช่วงเวลา 1 – 31 ธ.ค. 2563 เท่านั้น
7. Voucher มีระยะเวลาการใช้งาน 3 เดือน (ธ.ค. 2563 – ก.พ. 2564)
8. เงื่อนไขเป็นไปตามที่กำหนด
9. สิทธิ์มีจำนวนจำกัด

หากท่านใดสงสัย มีคำถาม หรือต้องการคำตอบเพิ่มเติม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่ :

Tel : 02-508-8425 

Facebook: Facebook CARRO Thailand

Line@: @Carrothai คลิก! https://lin.ee/mXBlicw

Thailand-Car-Auctions

ในช่วงที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปในทั่วโลกอยู่ขณะนี้ แม้ว่าสถานการณ์ในไทยจะผ่อนคลายไปมากแล้วก็ตาม อีกทั้งตลาดรถใหม่ของเราจะผ่านงาน Motor Show 2020 (มอเตอร์โชว์ 2020) ไปหมาดๆ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง ก็แสดงให้เห็นว่า ตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 นี้ ดูเติบโตในระดับหนึ่ง แต่ก็น้อยไปกว่าครึ่งทีเดียว หากเทียบกับยอดขายรถในงาน Motor Show ปีที่ผ่านมา

ในเวลานี้ตลาดรถมือสองอาจจะเรียกได้ว่าไม่ปกตินัก เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการตกงาน หรือถูกลดเงินเดือน หลายรายผ่อนรถต่อไม่ไหว รถจึงถูกยึดไปโดยไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงินเป็นจำนวนมาก ก็กระทบกันไปตามๆ กัน จนต้องปรับกลยุทธ์กันรายวัน

แต่ตอนนี้บรรดาลานประมูลรถหลายๆ แห่งนั้น กลับเรียกได้ว่ากำลังคึกคักเลยทีเดียว หลายที่บอกหารถไม่ได้ตามต้องการด้วยซ้ำไป! เป็นเพราะอะไร เดี๋ยว MR.CARRO จะพาไปทำความรู้จักกับการประมูลรถกัน …

Thailand-Car-Auctions

การประมูลรถ คือ การให้ผู้ซื้อ (ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นผู้ประกอบการรถมือสอง) เข้ามาแข่งขันกันเสนอราคาให้มากที่สุดเท่าที่จะให้ได้ต่อรถคันนั้น ซึ่งวิธีดังกล่าวนั้น ทำให้รถยนต์มีมูลค่าเพิ่มจากปกติตามสภาพที่ขายได้ทั่วไป ซึ่งสถาบันการเงินหลายแห่งต่างนิยมมากในการปล่อยรถยนต์ที่ยึดมาจากลูกค้า ที่ไม่สามารถผ่อนจ่ายได้ตามกำหนด

รถประมูลส่วนมาก ที่นำมาประมูลกัน โดยหลักๆ แล้วจะมาจาก

1. รถจากสถาบันการเงิน มักจะมาจากรถยนต์ที่ถูกไฟแนนซ์ ยึดรถมาขายทอดตลาด

2. รถอุบัติเหตุ เป็นการประมูลซากรถ หรือขายซากรถนั้นเอง ส่วนใหญ่มักจะซื้อไปทำอะไหล่กัน

3. รถปลดระวางจากบริษัทรถเช่า หรือหน่วยงานราชการ ซึ่งรถประเภทนี้ หลายคันสภาพดี แต่หลายคันก็ใช้งานมาหนัก (โดยเฉพาะรถเช่า) ก่อนซื้อก็ต้องตรวจสอบดูว่า มีชนหนักเบา เครื่องยนต์สภาพเป็นอย่างไรบ้าง

4. รถของกลาง คือรถที่โดนตำรวจ หรือสรรพสามิตยึดมา บางคันเป็นรถที่ยึดมาจากพ่อค้ายาเสพติด หรือรถยนต์นำเข้าโดยการหนีภาษี หลายคันเป็นรถสปอร์ต รถซูเปอร์คาร์ ซึ่งรถพวกนี้บอกได้เลยว่าไม่ต้องไปสู้ให้เสียเวลา เพราะมีใบสั่งมาแล้ว ว่าใครจะประมูลรถคันไหนกลับไป

Thailand-Car-Auctions

หากใครที่คิดจะซื้อรถประมูล คุณต้องดูรถเป็นด้วย ไม่ว่าจะตัวถังรถ เครื่องยนต์ เลขรหัสต่างๆ ถูกต้องครบถ้วนหรือเปล่า ส่วนมากแล้วผู้ประมูลรถมักจะเป็นผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสอง ที่ต้องการหารถเข้าเต็นท์ไปขายนั่นเอง รถบางคันอาจมีสภาพไม่สมบูรณ์ อาจจะต้องมา “เก็บงาน” อะไรกันอีก

แต่รถประมูลเหล่านี้ มั่นใจได้ว่าถูกกฎหมาย 100% แน่นอน เพราะทางผู้จัดการประมูล ต้องทำการตรวจสอบมาก่อนหน้าแล้ว นี่จัดว่าเป็นข้อดีของรถประมูล

และในเวลานี้ (เดือนกรกฎาคม 2563) รถยนต์มีเข้าสู่ระบบการประมูลน้อยลง เพราะลูกหนี้บางส่วนยังสามารถใช้รถยนต์ได้ โดยการประนอมหนี้กับทางสถาบันการเงิน ทำให้รถยนต์ที่เกิดจาก NPL ถูกยึดลดลง ส่งผลให้ราคารถยนต์มือสองปรับตัวขึ้นประมาณ 2 – 3% เพราะ Demand มากกว่า Supply ซึ่งรวมไปถึงรถประมูลด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นที่สนใจอย่างมาก ของบรรดาผู้ประกอบการรถมือสองในเวลานี้ ในการหาของดีราคาถูกเข้าเต็นท์รถ

สำหรับใครที่ต้องการประมูลรถ ไม่ว่าจะประมูลรถที่งานประมูล หรือจะประมูลรถออนไลน์ ก็เตรียมตัวเก็บตังค์กันไว้นะครับ

Thailand-Car-Auctions

อยากประมูลรถ ต้องทำอย่างไร?

ลงทะเบียนเข้าร่วมประมูล โดยเตรียมหลักฐาน ดังนี้

บุคคลธรรมดา

  • บัตรประชาชนพร้อมสำเนา
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • กรณีที่ผู้ประมูลไม่ได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง ให้ใช้หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตร ประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ

นิติบุคคล

  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
  • สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการบริษัทที่มีอำนาจ ลงนามผูกพันนิติบุคคล

1. ผู้ซื้อควรตรวจสภาพรถและข้อมูลรถที่ตัวรถก่อนทำการประมูล

2. ผู้เข้าร่วมประมูลต้องมัดจำค่าป้ายหมายเลขผู้ประมูล 20,000 บาท ด้วยเงินสด หรือ แคชเชียร์เช็ค (หากไม่สามารถประมูลรถยนต์ได้ จะได้รับเงินคืนทันที)

3. กรณีต้องการจัดไฟแนนซ์หรือเช่าซื้อกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายเช่าซื้อ (ไฟแนนซ์) ก่อนทำการประมูลทุกครั้ง

4. แสดงเจตนาการซื้อรถยนต์ด้วยวิธียกป้ายหมายเลขประมูลเท่านั้น (ถ้าแสดงโดยวิธีอื่น โฆษกจะไม่นับขายให้) โดยเริ่มการประมูลจากราคากลาง ซึ่งหากผู้เข้าประมูลเสนอซื้อมากกว่า 1 ราย

• โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 2,000 บาท กรณีที่ราคาเริ่มต้น 1-999,999 บาท

• โฆษกจะปรับราคาขึ้นครั้งละ 10,000 บาท กรณีที่ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไปและผู้เสนอซื้อในราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล

5.ผู้ชนะการประมูลต้องลงลายมือชื่อในเอกสารหลักฐานการประมูลและมีเจ้าหน้าที่พาไปชำระเงินมัดจำ

Thailand-Car-Auctions

6.กรณีที่ประมูลรถยนต์ได้ ต้องชำระเงินดังนี้

6.1 ชำระเงินในวันประมูล

  • วางเงินมัดจำ จำนวน 10% ของราคารถยนต์ที่ประมูลได้ หรือจ่ายผ่านบัตรเครคดิตวีซ่าการ์ด, บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิต จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรเครดิตเป็นเงินสด) ส่วนจำนวนเงิน 90% ที่เหลือชำระผ่านบัญชีภายใน 3 วัน ทำการนับจากวันที่ประมูลก่อนเที่ยง (12.00 น.)
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของเงินมัดจำ (กรณีรถที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม)
  • ค่าดำเนินการ 8,560 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
  • ค่าดำเนินการ รถ 6 ล้อ ขึ้นไป 10,700 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)

6.2 ชำระเงินส่วนที่เหลือภายในวันพฤหัสบดีก่อน 12.00 น. ผู้ประมูลได้ตรวจสอบสภาพรถยนต์ และ อุปกรณ์ประจำรถยนต์ภายหลังการประมูล โดยบริษัท สหการประมูล จะออกใบตรวจสภาพรถแก่ท่านเป็นหลักฐานเพื่อใช้ยืนยันในวันรับรถ กรณีที่ท่านไม่ยอมตรวจสภาพรถยนต์ บริษัทฯถือว่าท่านสละสิทธิ์การเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้น

ผู้ชนะการประมูลมีความประสงค์ขอเปลี่ยนชื่อผู้ซื้อหลังจากหนังสือสัญญาออกแล้ว บริษัทฯจะเปลี่ยนให้ หากมีเหตุผลอันสมควรโดยคิดค่าใช้จ่ายดังนี้

  • รถที่ประมูลได้ราคาจบน้อยกว่า 10,000 บาท ต้องชำระค่าเปลี่ยนชื่อผู้ประมูลคันละ 3,000 บาท ต่อการเปลี่ยนชื่อ 1 ครั้ง
  • รถที่ประมูลได้ราคาจบตั้งแต่ 10,000 บาท ต้องชำระค่าเปลี่ยนชื่อผู้ประมูลคันละ 30% ของราคาจบการประมูล ผู้ประมูลรถยนต์ได้จะต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียม, ค่าภาษี, ค่าปรับ, ค่าจดทะเบียนในการขอใช้รถใหม่ (กรณีรถยนต์ที่ประมูลได้มีการแจ้งหยุดการใช้รถไว้) และเงินเพิ่มภาษีนิติบุคคล (รถ-ประมูลแบบนิติบุคคลและประมูลแบบรถด่วนที่โอนไม่เกิน 2 ต่อ ถ้ามี) รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนโอนและการรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

กรณีที่ผู้ซื้อประมูลรถยนต์ได้และไม่ปฏิบัติตาม ข้อ 5 , ข้อ 6.1 บริษัทฯ ถือว่าท่านมีเจตนาก่อกวน และทำให้เกิดความเสียหายกับบริษัทฯ และผู้ประมูลซื้อคนอื่น บริษัทฯจะดำเนินการกับท่านตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร เล่มทะเบียนของรถนิติบุคคล ท่านที่ประมูลได้จะได้เล่ม ประมาณ 30 วัน เล่มทะเบียนของรถบุคคลทั่วไป ท่านที่ประมูลได้จะได้เล่ม ประมาณ 15 วัน

ใครที่สนใจ อยากร่วมประมูลรถออนไลน์กับทาง CARRO เพื่อหารถไปใช้ ไปขาย หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถ Inbox มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand หรือโทร. 02-508-8425 ในเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 9.30 – 18.30 น.) หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand คลิกที่นี่จ้า —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก

New-Car-Booking-MotorShow-2020

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เผยยอดจองรถยนต์หลังการจัดงาน Motor Show 2020 แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ก็ยังมีผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนถึง 1,049,046 คน ขณะที่ยอดจองในงานทะลุ 20,000 คัน ส่งผลให้ยอดขายรถในช่วงครึ่งปีหลังมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น

เมื่อรวมเข้ากับสภาวะของเศรษฐกิจที่บรรยากาศไม่เอื้อต่อการจับจ่ายของผู้บริโภค แม้ค่ายรถยนต์จะพยายามนำเสนอแคมเปญที่ดีภายในงาน แต่ผู้บริโภคก็ยังคงชะลอการตัดสินใจในการซื้อรถออกไป สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น มีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้บริโภค ในการตัดสินใจใช้เงินในสภาวะเช่นนี้

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 มี.ค. – 9 เม.ย. 2560 รวม 36,093 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 2561 รวม 36,587 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 27 มี.ค. – 7 เม.ย. 2562 รวม 49,278 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 15 ก.ค. – 26 ก.ค. 2563 รวม 22,791 คัน

ตัวเลขยอดจองรวมทุกค่ายอยู่ที่ 22,791 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 18,381 คัน และรถจักรยานยนต์ 4,410 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับเป้าที่แต่ละบริษัทฯ ได้คาดการณ์ไว้ แม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

 ยอดจองรถยนต์ในงาน-Motor-Show-2020

ตารางยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show 2020

ยอดจองรถจักรยานยนต์ในงาน-Motor-Show-2020

ตารางยอดจองรถจักรยานยนต์ในงาน Motor Show 2020

ซึ่งจากตัวเลขยอดจองรถภายในงาน ตลาดรถยนต์ในกลุ่มราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภค เนื่องจากมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับของ Motor Show 2020 วันที่ 15 ก.ค. – 26 ก.ค. 2563

1. Toyota 3,745 คัน

Toyota-Corolla-Cross-2020

2. Mazda 2,365 คัน

Mazda-CX-30-2020

3. Honda 2,001 คัน

Honda-CR-V-2020

4. Suzuki 1,583 คัน

Suzuki-XL7

5. Isuzu 1,510 คัน

Isuzu-D-Max-2020

6. MG 1,399 คัน

MG-ZS-2020

7. Mitsubishi 1,227 คัน

Mitsubishi-Xpander-Cross

8. Nissan 952 คัน

Nissan-Kicks-e-POWER-2020

9. BMW 888 คัน

BMW-X3-2020

10. Ford 742 คัน

Ford-Ranger-Raptor-2020

ส่วนแบรนด์รถจักรยานยนต์ ที่ทำยอดจองสูงสุด ได้แก่ อันดับ 1 ฮอนด้า ยอดจองรวม 1,545 คัน อันดับ 2 ยามาฮ่า 1,387 คัน อันดับ 3 คาวาซากิ ยอดจองรวม 446 คัน อันดับ 4 รอยัล เอนฟิลด์ ยอดจองรวม 321 คัน และอันดับ 5 ซูซูกิ 203 คัน

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Motor-Show-2020-Accessories

“Motor Show 2020” (มอเตอร์โชว์ 2020) หรือ The 41th Bangkok International Motor Show 2020 แม้ว่าในปีนี้ทางผู้จัดงานฯ จำเป็นต้องเพิ่มเนื้อที่ในส่วนของการโชว์รถยนต์มากขึ้น อันเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด-19 ที่ต้องเน้นการรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distrancing ทำให้เนื้อที่ในส่วนของร้านอุปกรณ์ตกแต่ง และบูธเครื่องเสียงติดรถ จึงต้องหายไปพอสมควร

แต่ก็ยังมีมุม Accessories ที่นำอุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ มาโชว์ในงานเช่นเคย อาทิเช่น กล้องติดรถยนต์ ฟิล์มกรองแสง ล้อแม็ก ยางรถยนต์ เครื่องเสียงติดรถ หมวกกันน็อค หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดรถ

ที่มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย และกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ที่มาเดินเที่ยวชมงานได้เสียเงินเลือกซื้อ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน …

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาโอกาสไปเดินเที่ยวกันจริงๆ ครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศของ รถแต่ง ของแต่งรถ และเครื่องเสียงติดรถ ในงาน Motor Show 2020 กันได้เลย

Honda-Pretty-Motor-Show-2020

Pretty Honda

Isuzu-Pretty-Motor-Show-2020

Pretty Isuzu

Lexus-Pretty-Motor-Show-2020

Pretty Lexus

AP-Honda-Pretty-Motor-Show-2020

Pretty AP Honda

BMW-Motorrad-Pretty-Motor-Show-2020

Pretty BMW Motorrad

Motor-Show-2020-Accessories-1

มุมฟิล์มกรองแสง

Motor-Show-2020-Accessories

มุมกิจกรรมกลางแจ้ง

Motor-Show-2020-Accessories

มุมมือถือ + Gadget ก็มีมา!

Nissan-Skyline-Motor-Show-2020

Nissan Skyline GT-R (BNR32) รถแข่งคันดังในยุค 90

Motor-Show-2020-Accessories

มุมของเล่น (สำหรับผู้ใหญ่)

Motor-Show-2020-Accessories

มุมล้อแม็กและยาง

Motor-Show-2020-Accessories

กระเป๋าเป้สวยๆ ก็มีให้เลือกซื้อ

Miss-Motor-Show-2020

Miss Motor Show 2020 พร้อมมาพบกับคุณทุกวัน

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก:

The-10-Best-In-Motorshow-2020

งาน “มอเตอร์โชว์ 2020” หรือ “Motor Show 2020” ในยุค New Normal ที่มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รุ่นใหม่ๆ มาโชว์แล้ว รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยในยุคเฟซชิลด์ ที่ดูแปลกตาไปจากปีผ่านๆ มา …

ในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของการจัดงานแสดง เป็นงานอีเว้นท์ใหญ่ของประเทศ ที่มีมาตรการการเฝ้าระวังโรคติดต่อที่มีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยการขับเคลื่อนในเชิงธุรกิจ ก็ยังจำเป็นจะต้องดำเนินต่อไป

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ของยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ในงานครั้งนี้ด้วย CARRO ขอรวบรวม “10 ที่สุด” ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Show 2020” มาให้ทุกท่านได้ทึ่งกัน ว่ามีด้วยหรือเนี่ย!

Suzuki-Celerio-2020

ถูกที่สุด

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ต้องยกให้ Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car ขนาดเล็กของซูซูกิขายกันมาหลายปี มาในราคาเพียง 318,000 บาท ที่ขายกันมายาวนานหลายปี

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 90 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

Rolls-Royce-Phamtom-2020

แพงที่สุด

รถที่ “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ยังคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก Rolls-Royce Phantom (โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม) เป็นรถยนต์เพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “King of cars” หรือรถยนต์ที่ดีสุดในโลก ได้รับความนิยมอย่างมากในบรรดา ดาราฮอลลีวูด, เซเลบริตี้ระดับ A-List รวมถึงนักกีฬาและนักดนตรีระดับแนวหน้า ในราคาคันละ 53,500,000 บาท!!!

ทะยานอย่างฉับไวแต่เงียบเชียบ ผสานความนุ่มนวลของการขับเคลื่อนแบบพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo V12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร ตัวถังสีทูโทน ล้อแม็กขอบ 22 นิ้ว ห้องโดยสารแบบ Bespoke Interior มาพร้อมกับ Starlight Headliner ที่ช่วยสร้างบรรยากาศท้องฟ้าในยามค่ำคืน และ The Gallery แบบ Rivenslate ลงตัวกับแดชบอร์ดที่ตกแต่งด้วยสีดำ Piano black

Lamborghini-Aventador-SVJ-Roadster-2020

รถ Super Car แพงที่สุด / เร็วที่สุด

รถ Super Car ที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้คือ Lamborghini Aventador SVJ Roadster (ลัมโบร์กินี อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์) ที่มีราคาสูงถึง 48,980,000 บาท!!! และยังผลิตจำนวนจำกัดเพียง 800 คันทั่วโลก

มาพร้อมกับระบบอากาศพลศาสตร์ ALA (Aerodynamica Lamborghini Attiva) 2.0 ที่พัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพในการจัดการอากาศได้ดีกว่ารุ่น Aventador SV Roadster ถึง 40%

มาพร้อมกับประสบการณ์ขับขี่แบบ Open Air ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ตัวหลังคาทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ที่สามารถรีดพละกำลังสูงสุดถึง 770 แรงม้า ช่วยให้ทะยานจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 2.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม.

Rolls-Royce-Cullinan-2020

รถ SUV แพงที่สุด

ส่วนรถ SUV ที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ได้แก่ Rolls-Royce Cullinan (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน) ตัวรถระดับ Ultra Luxury SUV รุ่นแรกของ Rolls-Royce ในราคา 33,500,000 บาท!!!

Cullinan ตั้งชื่อตามเพชรที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันถูกนำไปประดับอยู่บนมงกุฏของพระราชินีแห่งอังกฤษ โครงสร้างตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียม ที่เป็นสิทธิบัตรของโรลส์-รอยซ์

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo V12 สูบ 6.75 ลิตร 563 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ห้องโดยสารสามารถขยายพื้นที่เพื่อเพิ่มความจุสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,930 ลิตร

ขณะที่ช่วงล่างหน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบน และหลังแบบ 5 ลิงก์ ปรับความสมดุลอัตโนมัติ นับเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์สุดหรู รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ที่พร้อมฟันฝ่าอุปสรรคในทุกสภาพเส้นทาง

Takano-Auto-Thailand-2020

รถยนต์ไฟฟ้า ราคาถูกที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้า ที่ราคาถูกสุดในงาน Motor Show 2019 ต้องยกให้ รถกระบะไฟฟ้าขนาดจิ๋ว Takano (ทากาโน่) TTE500 พาคุณไปได้ทุกที่ สามารถรับน้ำหนักในการบรรทุกได้มากถึง 300 กิโลกรัม

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5 กิโลวัตต์ พร้อมแบตเตอรี่ 12V 125 แอมป์ ขนาด 6 ลูก ใต้พื้นกระบะหลัง และเครื่องยนต์เบนซินขนาดจิ๋วช่วยปั่นไฟฟ้าให้แบตเตอรี่ ให้ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่ 100-120 กิโลเมตร โดยใช้เงินเพียง 30 บาท และทำความเร็วได้สูงสุด 60 กม./ชม. ในราคาพิเศษเพียง 388,000 บาท! (จากราคาปกติ 438,000 บาท)

Porsche-Taycan

รถยนต์ไฟฟ้า ราคาแพงที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้าแพงที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ Porsche นั่นคือ Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคานน์ ใหม่) รถสปอร์ตคันแรกจากปอร์เช่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ ตัวถัง 4 ประตูซีดานที่ยังคงเอกลักษณ์งานออกแบบของปอร์เช่ เอาไว้อย่างครบถ้วน พร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ และเทคโนโลยีล้ำยุค

เปิดตัวด้วยรุ่น ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S) พละกำลังสูงสุดกว่า 761 แรงม้า ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 7,100,000 บาท ไทคานน์ เทอร์โบ (Taycan Turbo) พละกำลังสูงสุด 680 แรงม้า ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 9,900,000 บาท

และ ไทคานน์ 4 เอส (Taycan 4S) พละกำลังสูงสุด 530 แรงม้า ที่มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 11,700,000 บาท! จัดว่าเป็นรถ EV ที่แพงที่สุดในงานนี้

Hyundai-County-2020

ใหญ่ที่สุด

ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ ต้องยกให้ Hyundai County (ฮุนได เคานตี้) รถบัสที่บริษัท ฮุนได คอมเมอร์เชียล เวฮิเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือ ยนตรกิจ คอร์เปอเรชั่น เพิ่งจะได้สิทธิ์เป็นผู้นำเข้าและประกอบขายในบ้านเรา ในชื่อการค้าคือ Hyundai Truck & Bus (ฮุนได ทรัค แอนด์ บัส)

สำหรับ Hyundai County เป็นรถบัสขนาด 18+1 ที่นั่ง มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล D4D ขนาด 3.9 ลิตร แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ราคาเปิดตัวที่ 1,991,000 บาท

Siam-Watercraft-Cobalt

แปลกที่สุด

แปลกที่สุดในงาน Motor Show 2020 ต้องยกให้เรือ Cobalt ลำใหญ่ของบูธ SiamWatercraft ที่มาโชว์ในงานครั้งนี้

BMW-K1600B-2020

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Show 2020 ต้องยกให้ BMW K1600B (บีเอ็มดับเบิลยู เค1600บี) ในราคา 1,695,000 บาท!

Toyota-In-Motor-Show-2020

บูธยี่ห้อรถคนสนใจเยอะสุด

ในงาน Motor Show 2020 ด้วยการจัดงานในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ “New Normal” ทำให้การเข้าชมในบูธนั้น ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ต้องจำกัดผู้คนต่อเนื้อที่ของบูธ สแกนเช็กอิน-เช็กเอาท์ ผ่าน App ไทยชนะ และต้องล้างมือด้วยเจลแอลกฮอลล์ เพื่อป้องการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบูธที่คนให้ความสนใจมากที่สุดในงานนี้คงต้องยกให้ Toyota (โตโยต้า)

เนื่องจากมีผู้คนสนใจรถรุ่นใหม่ที่ Toyota นำมาโชว์ในงานนี้มาก อาทิเช่น Toyota Corolla Cross, Toyota Hilux Revo และ Toyota Fortuner เป็นต้น ทำให้มีผู้คนยอมรอต่อแถวเข้าคิวยาวเหยียด หรือรอรับบัตรคิวไว้นับพันคนเลยทีเดียว!

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก:

Pickup-In-Motorshow-2020

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ออพชั่น และกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ และยอดขายยังเป็นปัจจัยที่แสดงให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เป็นรถสารพัดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ใช้งานได้ทั้งในเมือง ในที่ทุรกันดาร ขนของ ขนสัตว์ ใช้รับจ้างหาเงิน ทำเป็นรถสองแถวก็ได้ หรือใช้งานส่วนตัวก็ดี ฯลฯ

ในงาน Motor Show 2020 นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, นิสสัน, มิตซูบิชิ, ฟอร์ด หรือ เชฟโรเลต ต่างส่งรถกระบะโฉมใหม่ หรือรุ่นพิเศษของตัวเองออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด ช่วงชิงยอดจองและยอดขาย โดนใจผู้บริโภคที่อยากเปลี่ยนรถกระบะคันใหม่

โดยในงาน Motor Show 2020 จะมีรถกระบะรุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันได้เลยครับ …

Toyota-Hilux-Revo-Rocco-2020

Toyota Hilux Revo

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) ปรับโฉมใหญ่ต้อนรับปี 2020 เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา เริ่มต้นด้วยหน้าตาภายนอก ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam + ไฟ LED Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding

และสำหรับรุ่นพิเศษ Rocco นอกจากจะมีชุดตกแต่งพิเศษ อาทิ สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters และยังเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense อีกด้วย

ส่วนภายในห้องโดยสาร มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay พ่วงด้วย T-Connect และมาตรวัดดีไซน์ใหม่ ปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุดถึง 204 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร (Nm) ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้างตั้งแต่ 1,600-2,800 รอบ/นาที

และสำหรับรุ่น Off-Road เครื่องยนต์ได้ปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบ/นาที เป็น 680 รอบ/นาที) เพื่อให้ลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง

ราคาของ Toyota Hilux Revo มีดังนี้

  • Hilux Revo Z-Edition มี 12 รุ่น ราคา 609,000 – 809,000 บาท
  • Hilux Revo ยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner มี 12 รุ่น ราคา 707,000 – 1,009,000 บาท
  • Hilux Revo แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มี 5 รุ่น ราคา 862,000 – 1,159,000 บาท
  • Hilux Revo Rocco มี 4 รุ่น ราคา 949,000 – 1,239,000 บาท

Isuzu-D-Max-2020

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max Stealth (อีซูซุ ดีแมคซ์) โฉมใหม่! ครั้งแรกของโลก! ผลงานความสมบูรณ์แบบล่าสุดจาก DNA ของ Isuzu ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติ ทั้งภายนอกภายใน มิติตัวรถใหญ่ บึกบึนยิ่งขึ้น ดูทรงพลัง และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ยังมีเส้นสายพริ้วไหว ช่วยให้ตัวรถดูปราดเปรียว และสปอร์ต แรงสะใจ กับแพลตฟอร์มใหม่ ระบบความปลอดภัยใหม่เต็มรูปแบบ เทคโนโลยีใหม่ในทุกฟังก์ชั่น

ห้องโดยสารภายใน เน้นเส้นสายที่เฉียบคม คอนโซลหน้าเล่นระดับแบบ Sharp Horizontal Layers ใช้วัสดุพรีเมี่ยมหลากหลาย พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ใช้งานง่ายตามหลัก Usability Design พร้อมระบบความบันเทิง ISUZU Ultimate Entertainment หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว คมชัดระดับ HD รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเสียงรอบทิศทาง Dynamic Surround Sound 8 ลำโพง

มีให้เลือกครอบคลุมทั้งรุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู พร้อมเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 190 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพัฒนาใหม่สไตล์สปอร์ต ขับสนุก แม่นยำยิ่งขึ้น และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่ ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล พร้อมโหมดขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic

ราคาของ Isuzu D-Max อยู่ที่ 510,000 – 1,157,000 บาท

Nissan-Navara-2020

Nissan Navara

Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) ที่ผ่านมาก็มีข่าวว่า Nissan จะปรับโฉมใหญ่ให้กับ Navara โฉมนี้ที่ขายในไทยมานับตั้งแต่ปี 2014 แต่ก็ยังคงต้องติดตามรอข่าวกันต่อไป

ในส่วนของ Navara มาพร้อมกับรูปทรงที่บึกบึน มีเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Around View Monitor (AVM) ที่ช่วยให้สามารถมองเห็นตัวรถและสิ่งรอบข้างผ่านกล้องที่ถูกติดตั้งรอบคัน ซึ่งรวมถึง ระบบเบรค ABS ถุงลมนิรภัย กุญแจรีโมท ปุ่มสตาร์ท และ ช่องแอร์ปรับอากาศด้านหลังอีกด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ขนาด 2.5 ลิตร รหัส YD25DDTi ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ส่วนในรุ่น 4WD รหัส YD25DDTi VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า

ราคาของ Nissan Navara อยู่ที่ 559,500 – 1,096,000 บาท

Mitsubishi-Triton-2020

Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) โฉมไมเนอร์เชนจ์ มาในแนวคิด “Engineered Beyond Tough” หน้าตาภายนอกใช้ไฟหน้าแบบ 2 ชั้น และกระจังหน้าแบบ Dynamic Shield มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED Tube กับกันชนดีไซน์ใหม่ ลงตัวกับล้อแม็กลาย 6 ก้านคู่ และด้วยระยะความสูงจากพื้นถึง 700 มม. ช่วยลดความเสี่ยงที่ไฟหน้าและไฟตัดหมอกจะได้รับความเสียหายขับรถลุยน้ำท่วม หรือถูกหินกระเด็นใส่ตัวรถ

ส่วนออพชั่นภายใน และดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ปรับเปลี่ยนเยอะพอสมควร ช่องแอร์แบบใหม่ ใช้วัสดุภายในดูโดดเด่นขึ้น และยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครันที่สุดในระดับเดียวกัน รวมไปถึงกล้องมองภาพรอบคัน ที่ใช้กล้อง 4 ตัวจับภาพรอบคันพร้อมภาพมุมสูงที่แสดงสิ่งกีดขวางรอบคัน และเซ็นเซอร์กะระยะจอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการจอดรถ

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo Clean Diesel ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด แบบใหม่พร้อม Sport Mode

ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II พร้อมฝ่าอุปสรรคในทุกสภาพเส้นทาง ด้วย 4 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมด 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และโหมด 4H ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control พ่วงด้วยโหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 654,000 – 1,099,000 บาท

Ford-Ranger-Raptor-2020

Ford Ranger Raptor

Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเตอร์ แรพเตอร์) ถูกสร้างมาไม่ซ้ำใคร เพราะนี่คือรถกระบะออฟโรดคันแรกของเอเชีย ที่ตั้งใจสร้างมาแบบไร้ข้อจำกัด สร้างและพัฒนายนตรกรรมออฟโรดทั้งคัน ทำใหม่หมด! ส่งตรงจากโรงงานของฟอร์ด นี่แหละกระบะพันธุ์โหดออฟโรดตัวจริงที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง

โครงสร้างทั้งหมดประกอบไปด้วยเหล็ก High-strength Low-alloy (HSLA) หลายเกรด เพื่อให้พร้อมรับทุกความโหด และเข้าถึงสมรรถนะขั้นสุด แชสซีส์ถูกปรับโครงสร้างใหม่หมด มาพร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox ที่มาพร้อมระบบบายพาสภายใน (Internal Bypass) และระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และคอยล์โอเวอร์ช็อค ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่บนทางออฟโรดเป็นพิเศษ

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร (1,996 ซีซี) Twin Turbo (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) ให้แรงม้าสูงสุด 213 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift มาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) สามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 6 แบบ รวมถึงโหมดการขับขี่บาฮาสำหรับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง

ราคาของ Ford Ranger อยู่ที่ 569,000 – 1,265,000 บาท

ราคาของ Ford Ranger Raptor อยู่ที่ 1,699,000 บาท

MG-Extender-2020

MG Extender

MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเหมือน “พี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” พรีเซ็นเตอร์ของรถรุ่นนี้ ด้วยกระจังหน้าแบบ Modern Design ที่เป็นเอกลักษณ์ของ MG พร้อมมิติตัวถังขนาดใหญ่ รวมถึงกระบะท้ายใหญ่กว่า ช่วยเพิ่มปริมาณการบรรทุกได้มากยิ่งขึ้น ช่วงล่าง แบบ Euro Tuning Suspension พร้อมโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งและสร้างด้วยเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System

ภายในรถ มาพร้อมความอัจฉริยะด้วยระบบปฏิบัติการ i–SMART เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับผู้ใช้รถยนต์ MG

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2.0 ลิตร Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันดีเซล B10 ครอบคลุมทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

มีให้เลือกทั้งแบบกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และแบบ 4 ประตู (Double Cab) ซึ่งมีทั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ (2WD) และแบบ 4 ล้อ (4WD)

ราคาของ MG Extender อยู่ที่ 549,000 – 1,029,000 บาท

… ถูกใจรุ่นไหน ไปสัมผัสตัวจริงได้ที่งาน Motor Show 2020 กันได้เลยนะครับ …

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก:

SUV-And-Crossover-In-Motorshow-2020

ช่วง Motor Show 2020 (มอเตอร์โชว์ 2020) นี้ รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ รถยนต์ในรูปแบบ SUV, PPV หรือ Crossover นั้น ยังเป็นที่นิยมจากมหาชนอย่างมากเช่นทุกปี เพราะเป็นรถที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะไว้วิ่งในเมือง ไว้ออกต่างจังหวัด ลุยน้ำท่วม ขนสัมภาระมากมาย หรือเดินทางไปกับครอบครัวหลายคนก็ตาม หลายแบรนด์จึงต้องรีบกระโดดลงมาเล่นรถในกลุ่มนี้ ถึงขนาดบางค่าย ไม่เคยทำ ไม่ยอมทำ ก็ต้องทำออกมาขาย!

ในงาน Bangkok International Motor Show 2020 ครั้งนี้ แม้ว่าจะถูกวิกฤตโควิด-19 เล่นงานจนต้องเลื่อนมาจัดในช่วงกลางปี 2563 รถ SUV และรถ Crossover ตัวเลขยอดจองของรถแนวนี้ ก็ยังถือว่าดีตั้งแต่วันแรกๆ ของงาน และผู้คนก็ยังให้ความสนใจมาก ดังที่จะเห็นได้จากการเปิดตัวรถ SUV หรือรถ Crossover ใหม่ในงาน มีคนสนใจอยากดูต่อคิวเข้าบูธในยุค New Normal แน่นขนัดจนต้องต่อแถวยาวเหยียดทีเดียว

MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปชมกัน ว่าในงานจะมีรถยนต์ SUV และรถ Crossover รุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ พร้อมรายละเอียดพอสังเขป มาเสนอครับ …

Toyota-Corolla-Cross-2020

Toyota Corolla Cross

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกของโลก และโชว์ในงาน Motor Show 2020 พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue) ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ชมงาน Motor Show 2020

ตัวรถภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ส่วนห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Toyota Corolla Cross ใหม่

  • รุ่น 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท**

ราคาพิเศษ 959,000 บาท (ณ วันเปิดตัว – 30 กันยายน 2563 มีจำนวนจำกัด)

ราคารุ่น Hybrid

  • รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท**

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม

Toyota-Fortuner-Legender

Toyota Fortuner

Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ต้อนรับปี 2020 ทุกรุ่นย่อย! พร้อมรุ่นพิเศษใหม่ “Legender” โดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ และปรับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อมกับ Light Guiding กับล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่

ส่วนภายในใช้มาตรวัดใหม่ ปรับจอแสดงผลระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay ส่วนระบบเชื่อมต่อ T-Connect ในทุกรุ่น มีกล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ พร้อมระบบ Activated Kick Door เปิดประตูหลังได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสตัวรถ

และช่วงล่าง Super Flex Suspension ที่ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพ และเปลี่ยนวัสดุของแหนบ พร้อมระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว

ด้านเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ในรุ่นเครื่องยนต์ ขนาด 2.8 ลิตร GD Super Power (เจนเนอเรชั่น 2) แรงม้าสูงสุดขึเนมาเป็น 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบ/นาที เป็น 680 รอบ/นาที) พร้อมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการขับขี่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง และยังเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense อีกด้วย

ราคาของ Toyota Fortuner

  • 2.4G เกียร์อัตโนมัติ 1,319,000 บาท จาก 1,349,000 บาท (วันนี้ – 30 กันยายน 2563)
  • 2.4V เกียร์อัตโนมัติ 1,424,000 บาท จาก 1,454,000 บาท (วันนี้ – 30 กันยายน 2563)
  • 2.4V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,494,000 บาท จาก 1,524,000 บาท (วันนี้ – 30 กันยายน 2563)
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,564,000 บาท
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,634,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,769,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,839,000 บาท

(*** สำหรับสี Emotional Red และ สี White Pearl CS เพิ่ม 12,000 บาท)

(*** สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี White Pearl CS Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)

Nissan-Kicks-e-POWER-2020

Nissan Kicks e-POWER

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) รถ Crossover ไฮบริด ที่มีจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

นอกจากนี้ ห้องโดยสารภายใน โดดเด่นด้วยการใช้สีทูโทนดำ – ส้ม ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

ราคาของ Nissan Kicks e-POWER ใหม่

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,049,000 บาท ปรับขึ้น 50,000 บาท)
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,103,900 บาท ปรับขึ้น 54,900 บาท)

*สีขาว Storm White และสีส้ม Monarch Orange เพิ่มเงิน 10,000 บาท และสีทูโทน หลังคาสีดำ เพิ่มเงิน 10,000 – 15,000 บาท

Honda-CR-V-2020

Honda CR-V

Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) ใหม่ เปิดตัวในไทยที่งาน Motor Show เป็นประเทศแรกของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ด้วยดีไซน์ภายนอกยังสปอร์ตหรูหราและความแข็งแกร่งในทุกมิติ พรีเมียมขึ้นด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบ Panorama และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential

เสริมความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายล้ำสมัยระดับพรีเมียม

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลังการขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 160 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC 173 แรงม้า และมาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก

ราคาของ Honda CR-V

  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 S 5 ที่นั่ง ราคา 1,369,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,529,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 E 7 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,579,000 บาท
  • เครื่องยนต์ดีเซล รุ่น DT-EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,759,000 บาท

Mazda-CX-3-2020

Mazda CX-3

Mazda CX-3 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3) ในรุ่นปี 2020 นี้ ได้ปรับปรุงรุ่นย่อยใหม่ และปรับราคาจำหน่ายใหม่ พร้อมโชว์ตัวในงาน Motor Show 2020 เจาะกลุ่มคนอยากมีรถ Crossover คันแรกมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามียอดขายสะสมในประเทศไทยกว่า 16,000 คัน

CX-3 นี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Drive Your Attitude” ภายใต้แนวทางการออกแบบใหม่ล่าสุด และเทคโนโลยี SkyActiv ที่กำลังสร้างชื่อในตลาดทั่วโลกรวมทั้งในตลาดในไทย ด้วยดีไซน์สปอร์ตหรู กับสีพรีเมี่ยมใหม่ Machine Gray กับ Soul Red Crystal พร้อมนวัตกรรมล่าสุดที่ให้คุณควบคุมได้ทุกเส้นทาง Skyactiv-Vehicle Dnamics และเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activesense

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อม Manual Mode Activematic อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 16.4 กม./ลิตร

ราคาของ Mazda CX-3

  • รุ่น 2.0 Base ราคา 768,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Comfort ราคา 848,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Proactive ราคา 948,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Style ราคา 1,048,000 บาท

Mazda-CX-30-2020

Mazda CX-30

Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) นับเป็นดาวเด่นในบูธ Mazda ของงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ ตัวรถออกแบบภายใต้แนวคิด Kodo: Soul of Motion ตัวรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 โดย CX-30 ยังเป็นรถที่ได้รางวัล 1 ใน 3 รถยนต์ยอดเยี่ยมของโลกปี 2020 มั่นใจได้ทั้งคุณภาพและการชับขี่ ภายในนั่งกันได้ 4 คนสบายๆ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง หรือชอบที่ชื่นชอบรถ SUV แนวสปอร์ต

ห้องโดยสารภายใน ครบทุกความสะดวกสบาย เริ่มตั้งแต่มาตรวัดแบบดิจิทัลแบบจอ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ Head-up Display แบบสีบนกระจกหน้า มีระบบอินโฟเทนเมนท์ และระบบเชื่อมต่อ Mazda Connect ทำงานผ่านจอกว้างขนาด 8.8 นิ้ว รองรับการแสดงผลระบบกล้อง 360° View Monitor รวมถึงฟังก์ชั่น Apple CarPlay ที่สามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ด้วยปุ่ม Center Commander ที่บริเวณฐานเกียร์ได้ และชุดเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 12 ตัว

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้

ราคา Mazda CX-30

  • รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

Mitsubishi-Xpander-Cross

Mitsubishi Xpander Cross

Mitsubishi Xpander Cross (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส) นับตั้งแต่ Mitsubishi Xpander เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2561 สามารถสร้างยอดขายสะสมรวมทุกรุ่นได้มากกว่า 26,000 คัน ในปีนี้ Mitsubishi จึงเปิดตัว Xpander Cross ในเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา พร้อมปรับรูปลักษณ์ให้ดูลุยๆ แข็งแกร่ง ขับขี่ได้ทุกสภาพถนน ด้วยความสูงใต้ท้องรถที่สูงถึง 225 มม. และโดดเด่นด้วยดีไซน์ด้านหน้าใหม่แบบ Advanced “Dynamic Shield” เวอร์ชั่นล่าสุด

ห้องโดยสารภายใน ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่ม ดูหรูหราสะดวกสบาย พร้อมดีไซน์สีทูโทน สีดำและน้ำตาล ที่แผงคอนโซลและเบาะนั่ง รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่ 2 สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 และเบาะแถวที่ 3 ปรับพับได้แบบ 50:50 และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

ส่วนเครื่องยนต์ยังเหมือนในโฉมธรรมดา นั่นคือแบบเบนซินขนาด 1.5 ลิตร MIVEC ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาของ Mitsubishi Xpander Cross ใหม่

  • ราคา 899,000 บาท

Mitsubishi-Pajero-Sport-Elite-Edition

Mitsubishi Pajero Sport

Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลิท เอดิชั่น) ยังคงเป็นรถ PPV รุ่นขายดีของ Mitsubishi แม้ว่าจะออกมาหลายปีแล้ว ซึ่งตัวนี้เป็นรุ่นพิเศษที่เปิดตัวในงาน Motor Show 2020 นี้

สีตัวรถ มีให้เลือกได้ระหว่างสีดำ Jet Black Mica หรือสีขาว White Diamond ตัดกับหลังคาดำ มาพร้อมกระจังหน้าสีดำ มีสัญลักษณ์ Elite Edition เฉพาะรุ่นที่ประตูบานท้าย ปลายท่อไอเสียสเตนเลส พร้อมชุดแต่งสีดำล้วน อาทิ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ชุดแต่งใต้กันชนหน้า-หลัง ราวหลังคา สปอยเลอร์หลัง และเสาอากาศแบบครีบฉลาม

ภายในห้องโดยสารใช้เบาะสีน้ำตาล Quole Modure ที่สามารถสะท้อนความร้อนจากแสงแดด แผงประตูและคอนโซลกลางบุหนังสีน้ำตาล มีตราสัญลักษณ์ Pajero Sport เหนือกล่องเก็บของด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร ฝาครอบสเตนเลสพร้อมไฟ LED ชุดพรมปักตรา Pajero Sport และกล้องบันทึกภาพหน้ารถ DVR : Digital VDO Recorder เป็นต้น

ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร MIVEC VG Turbo 181 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

ราคาของ Mitsubishi Pajero Sport

  • รุ่น 2.4 GT-Premium 2WD Elite Edition ราคา 1,524,000 บาท
  • รุ่น 2.4 GT-Premium 4WD Elite Edition ราคา 1,629,000 บาท

Suzuki-XL7

Suzuki XL7

Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) Multi-Dynamic Crossover ที่ชื่อรุ่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับ Suzuki Vitara XL7 ที่ทาง Suzuki เคยขายในไทยมาก่อนเลย ชูแนวคิด THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต บนพื้นฐานของ HEARTECT Platform ร่วมกับรุ่น Ertiga ด้วยสมรรถนะและฟังก์ชันที่ครบครัน ที่มาของ XL7 ซึ่งก็หมายถึงรุ่นนี้มี 7 ที่นั่งนั่นเอง

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ต ออกแบบให้มีความสูงขึ้น ใช้ไฟหน้า LED ปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ พร้อม ไฟ Daytime Running Light และล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว มีราวหลังคา และไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรคแนวตั้งแบบ Light guides

ภายในตกแต่งวัสดุด้วยลาย Carbon Fiber พร้อมคิ้วโครเมียม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลข้อมูลการขับขี่ จอแสดงผลระบบอินโฟฯ แบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมแอร์เบาะแถว 2 และแถว 3 ซึ่งเบาะแถว 2 สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ปรับเลื่อนได้ 240 มม. ช่วยให้เข้า-ออกเบาะแถว 3 ง่ายขึ้นและเบาะแถว 3 ปรับพับได้แบบ 50:50

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส K15B เหมือนในรุ่น Ertiga ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า

ราคาของ Suzuki XL7

  • รุ่น GLX ราคา 779,000 บาท

MG-ZS-2020

MG ZS

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ปรับโฉมใหม่ไปในเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ด้วยอีกขั้นของยนตรกรรมภายใต้นิยาม “SMART UP” ยกระดับ สู่การเป็น “สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดบริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่มีความทันสมัยมากขึ้นและสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม พร้อมชูจุดเด่นรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART มีระบบ Voice Command ภาษาไทย

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ 8 สปีด และสามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด

ราคาของ MG ZS

  • รุ่น C+ ราคา 689,000 บาท
  • รุ่น D+ ราคา 739,000 บาท
  • รุ่น X+ ราคา 799,000 บาท

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก: