Beware-Your-Side-Mirror-From-Motorcycle

อีกเรื่องหนึ่งเลยของคนขับรถในกรุงเทพฯ หรือตามหัวเมืองใหญ่ๆ ที่นอกจากเผชิญกับรถติดแล้ว ยังต้องมาเจอเหล่านักบิด หรือ “มอเตอร์ไซค์” ทั้งหลาย เบียด ปาด แทรก ขึ้นมาด้านข้างตัวรถเป็นประจำ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ วิ่งถนนแคบๆ แล้วรถติดๆ ด้วยนะ รู้สึกได้เลย

บางทีก็เกิดการกระทบกระทั่งขึ้นมา เช่น แฮนด์รถจักรยานยนต์ เฉี่ยวกระจกมองข้าง! ถ้าไม่มากก็แค่เฉี่ยวกระจกมองข้างเป็นรอยถลอก หรืองอไปข้างหน้า ถ้าหนักหน่อยก็หักทั้งยวงเลย

ก็คงได้แต่ทำใจ เพราะ 99.99% ของมอเตอร์ไซค์ที่มาเฉี่ยว มักจะไม่รับผิดชอบ ไปเลย! … Mr.Carro ขอนำเสนอวิธีขับรถ ที่ได้มาจากผู้คร่ำหวอดในวงการนักข่าวสายรถจักรยานยนต์มานาน แนะนำวิธีเลี่ยงไม่ให้มอเตอร์ไซค์เฉี่ยวกระจกมองข้าง ได้มากที่สุดครับ …

วิธีที่ 1

Beware-Your-Side-Mirror-From-Motorcycle

เวลาขับรถ พยายามขับรถให้อยู่จุดกึ่งกลาง ระหว่างเส้นแบ่งเลนจราจรมากที่สุด พยายามอย่าชิดเส้นขอบทางไปด้านซ้าย-ขวา มากเกินไป

เพราะเวลามอเตอร์ไซค์จะแทรกเข้ามาด้านข้างตัวรถของเรา เขาจะค่อยๆ ขี่ไปได้อย่างไม่ลำบากนัก (เพราะถ้าเขาซิกแซก ซอกแซกลำบาก ไปๆ มาๆ แฮนด์อาจมากระแทก โดนกระจกมองข้างรถของเราแทน!)

วิธีที่ 2

Beware-Your-Side-Mirror-From-Motorcycle

เมื่อคุณจอดรถติดไฟแดง หรือติดอะไรก็แล้วแต่ พยายาม “อย่า” จอดรถติดเสมอกับกระจกมองข้างรถคันด้านข้างๆ ให้จอดรถเหลื่อมกันไว้ บวกกับเว้นระยะห่างจากคันหน้าไว้ เพราะมอเตอร์ไซค์ที่ขี่มา มักจะพยายามหาวิธีแทรก เกิดไปเจอรถจอดติดกันสองคัน กระจกมองข้างอยู่มุมเสมอกันพอดี บางทีหลบกระจกมองข้างรถอีกคันได้ แต่กลับไปเฉี่ยวกระจกมองข้างรถอีกคันแทน!

ถ้าโดนเฉี่ยวแล้ว เรียกประกันภัยอย่างไร?

Beware-Your-Side-Mirror-From-Motorcycle

อย่างแรก คือ ต้องแจ้งบริษัทประกันภัย กับแจ้งความกับตำรวจไว้ และแจ้งเคลมบริษัทประกันรถยนต์ทันทีที่เกิดเหตุ (กรณี เช่น กระจกมองข้างหัก) ถ้ามีหลักฐาน เช่น ป้ายรถทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์คันที่เฉี่ยว ภาพจากกล้องหน้ารถ ภาพจากกล้องวงจรปิด ก็เตรียมไว้เป็นหลักฐาน

เมื่อเจ้าหน้าที่รับแจ้งสอบถามข้อมูลการเกิดเหตุเบื้องต้นแล้ว จะส่งเจ้าหน้าที่มาดู ณ จุดเกิดเหตุ เช่น ถ้าจุดนั้นมีติดตั้งกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ก็จะติดต่อตำรวจเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดช่วงเกิดเหตุ ถ้าเห็นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ ก็เป็นโอกาสที่จะทำให้พนักงานสอบสวนสามารถออกหมายเรียกเจ้าของรถจักรยานยนต์คันนั้นมาสอบสวน เข้าสู่กระบวนการติดตามผู้กระทำความผิด หรือทำให้รถยนต์เสียหายต่อไป

ทั้งนี้ เอกสารเคลมที่บันทึกของพนักงานสอบสวน สามารถระบุป้ายทะเบียน หรือรายละเอียดอื่นๆ ของรถคู่กรณี ได้ครบถ้วน ทั้งหมวดตัวอักษรและหมวดจังหวัด จะมีประโยชน์ที่ประกันภัยจะละเว้นไม่เรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไขของ คปภ. ในข้อที่ระบุไว้ว่า ความเสียหายต่อตัวรถยนต์ กรณีถูกคู่กรณีเฉี่ยวชนและไม่สามารถระบุรายละเอียดของคู่กรณีได้ ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก (ค่า Excess) เฉพาะกรณีนี้ต่อเหตุการณ์ๆ ละ 1,000 บาท สำหรับการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1

ถ้าหากเป็นประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 + หรือ 3+ จะคุ้มครองเฉพาะเวลาโดนมอเตอร์ไซค์เฉี่ยว แล้วคุณสามารถ “จำหมายเลขทะเบียนได้” เพราะจะไม่ได้ถือว่า เป็นการถูกเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี แต่ประเภท 2 + หรือ 3+ จะไม่คุ้มครองการถูกมอเตอร์ไซค์ชนแล้วหลบหนี

รู้แบบนี้แล้ว ก็ลองไปปฏิบัติใช้ดู แต่ทางที่ดี ก็ต้องระวังมอเตอร์ไซค์มาเฉี่ยว อยู่ดีละครับ!

ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

6-สิ่งต้องมีในรถ-ที่จะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น!

ของที่ต้องมีบนรถ ชีวิตจะดีขึ้น!

เพราะเวลาที่เราต้องใช้ไปบนท้องถนนในแต่ละวันนั้นกินเวลารวมกันแล้วก็หลายชั่วโมง ยิ่งถ้าคุณทำงานในเขตเมืองย่านธุรกิจ และมีบ้านอยู่ชานเมือง หรือเป็นอาชีพที่ต้องเดินทางอยู่เป็นประจำ เช่น เซลล์ หรือวิศวกรที่ขับไปดูไซต์งาน ระยะเวลาที่อยู่บนรถก็อาจจะนานกว่านั้นมาก จนรถอาจจะกลายเป็นหลังที่ 3 (รองจากที่พักอาศัยจริงๆ และที่ทำงาน) ไปซะแล้ว

ดังนั้น การเตรียมของที่จำเป็นให้พร้อมสำหรับการใช้ชีวิตอยู่บนรถจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามไป วันนี้ Carro ได้พี่หมี GoBear จะมาบอกว่า “6 สิ่งต้องมีในรถ ที่จะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น!” กันค่ะ

1. เอกสารสำคัญต่างๆ

เอกสารสำคัญบางอย่างก็ควรพกติดรถไว้เสมอนะคะ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เอกสารเหล่านี้จะเป็นสิ่งจำเป็นในการให้ข้อมูลต่อตำรวจ และบริษัทประกันค่ะ

1) เล่มทะเบียน ควรถ่ายเอกสารหน้าเจ้าของรถกับหน้าที่เราทำการต่อภาษีล่าสุดเก็บไว้ ไม่ควรเก็บตัวจริงไว้กับรถเนื่องจากหากรถหายหรือถูกขโมย เล่มทะเบียนก็จะหายไปด้วย หากมีเจ้าหน้าที่ขอดูแล้วเราไม่มีสำเนาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ อาจถูกยึดรถไว้ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ หรือต้องเสียค่าปรับตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 อีกด้วยค่ะ

2) กรมธรรม์ประกันภัย หรือสำเนาการประกันภัยรถยนต์ที่คุณซื้อไว้ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาไม่ว่าเราจะขับไปชนหรือมีอีกฝ่ายมาชนเราก็ตาม นี่คือเอกสารจำเป็นที่ต้องใช้ค่ะ โดยควรเอาเก็บไว้ในที่ๆหาได้ง่ายจะได้หาเจอยามต้องใช้จริงค่ะ

3) ใบอนุญาตขับขี่ นี่ก็สำคัญสุดๆ ควรมีติดรถไว้เช่นกันค่ะ บางคนทำกระเป๋าสตางค์หาย หรือลืมพกไปด้วยบ่อยๆ ก็ใช้วิธีใส่ไว้ในรถนี่แหละ เพราะไม่รู็ว่าเราจะเจอด่านตรวจหรือโดนเรียกขอดูเมื่อไหร่ พกไว้อุ่นใจกว่าแน่นอน

อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมขนส่งทางบก ได้แจ้งว่ากำลังทำแอปพลิเคชั่นใบขับขี่ดิจิตัลเพื่อให้ประชนชนสามารถโหลดมาใช้แทนใบขับขี่ได้ โดยจะผูกเข้ากับเบอร์โทรศัพท์ 1 ใบต่อ 1 เลขหมาย  เตรียมเริ่มใช้งานกลางเดือนมกราคม 2562 นี้ ก็ต้องคอยดูกันต่อไปค่ะ ว่าผลจะเป็นเช่นไร หากใช้งานจริงจะได้ผลดีหรือไม่

 

2. แบตเตอรีสำรองหรือ Power Bank

ถึงแม้ว่าเราจะสามารถชาร์จมือถือได้จากที่จุดบุหรี่ในรถก็จริง แต่การชาร์จมือถือในรถนั้นก็มีข้อควรระวังอยู่ นั่นคือกระแสไฟที่จ่ายมาอาจไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควร ทำให้เกิดไฟกระชาก ส่งผลเสียทั้งกับแบตเตอรีรถยนต์

ซึ่งอาจทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรีสั้นลง รถสตาร์ทติดยาก และแบตโทรศัพท์มือถือของเราเองด้วย ส่วนช่องเสียบ USB นั้นแทบไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ เพราะกระแสไฟที่จ่ายผ่านทางนี้มีน้อยมาก ถ้าชาร์จโทรศัพท์เครื่องใหญ่หน่อยหรือแท็บเล็ตจะเห็นได้ว่าตัวเลขแบตแทบไม่กระดิกขึ้นมาเลย จึงเหมาะกับการเสียบ USB เพื่อฟังเพลงมากกว่าค่ะ

ดังนั้น การชาร์จจากพาวเวอร์แบงค์ จึงปลอดภัยกว่าแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรวางพาวเวอร์แบงค์ทิ้งไว้ในรถนานๆเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพื่อนๆต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน เพราะอาจเกิดการระเบิดได้ค่ะ

 

3. เงินเหรียญ

การมีเงินเหรียญติดรถไว้ช่วยให้คุณอุ่นใจได้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ เพราะไม่ว่าจะขึ้นทางด่วน เติมลมยาง ให้ทิปเด็กพนักงานเฝ้าที่จอดรถ ซื้อพวงมาลัยหรือกล้วยแขกกลางสี่แยก หรือแม้กระทั่งล้างรถจากตู้แบบหยอดเหรียญก็ตาม นอกจากเศษเหรียญเหล่านี้แล้ว เพื่อนๆยังอาจพกแบงค์ย่อยๆ อย่างแบงค์ยี่สิบ หรือ ห้าสิบติดรถไว้บ้างก็ดีนะคะ แต่อย่าลืมเอาออกจากรถให้เรียบร้อยเวลาไปใช้บริการคาร์แคร์ล่ะ เดี๋ยวที่เก็บเอาไว้หายหมดจะหาว่าไม่เตือน

 

4. มินต์

ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดหรอก “มินต์” เนี่ยแหละ เพราะกลิ่นที่ดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นในรถหรือกลิ่นปากก็ตาม คุณอาจพกลูกอมรสมินต์ปราศจากน้ำตาลไว้ในที่เก็บของหน้ารถหากกังวลเรื่องกลิ่นปาก ส่วนในรถที่เรามักจะเอาการบูรแขวนในรถนั้นอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะการบูรมีสารที่มีคุณสมบัติในการดูดความชื้น เมื่อระเหิดจะไปเกาะตรงช่องของเครื่องปรับอากาศ พอสะสมมากๆมากเข้าจะทำให้ช่องตัน คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักมากขึ้น อาจถึงขั้นแอร์พังได้ค่ะ ถ้าหากคุณอยากให้อากาศในรถหอมสดชื่นแล้วล่ะก็อาจใช้เป็นน้ำหอมปรับอากาศรถยนต์กลิ่นมิ้นท์แทนได้ค่ะ

 

5. ชุดปฐมพยาบาล และอุปกรณ์ซ่อมรถ

เพราะเหตุฉุกเฉินไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ดังนั้นคุณควรจะมีชุดปฐมพยาบาลติดรถไว้เผื่อในกรณีที่ต้องห้ามเลือก ทำแผล ไปจนถึงชุดยาสามัญประจำบ้านที่สามารถพกไว้ได้ เช่น ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้ปวด ยาลดไข้

อย่างไรก็ตามหากเป็นประเภทยาต้องสังเกตด้วยนะคะ ว่าสีและกลิ่นของยามีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ยาบางประเภทต้องเก็บอยู่ในขวดหรือซองสีชาเท่านั้น ไม่เหมาะกับการเก็บในที่ที่มีแดดจ้า โดยเฉพาะหากเราต้องจอดรถจากแดดเป็นกิจวัตร อาจทำให้ยาเสื่อมคุณภาพได้ ควรมีการเอามาตรวจเช็คอยู่เป็นประจำ

นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มของกินอื่นๆที่เราคิดว่าจำเป็น เช่น น้ำเปล่า อาหารแห้งอาหารเพิ่มพลังงาน  ของขบเคี้ยวต่างๆติดไว้ สำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะด้วยก็ดีค่ะ

ในส่วนของอุปกรณ์ซ่อมรถนั้น สิ่งของที่จำเป็นต้องมีติดรถไว้ก็มีตั้งแต่ สายพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ ไฟฉาย ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง ชุดปั๊มลมและอุดยางรั่วฉุกเฉิน ยางอะไหล่ สลิงหรือเชือกสำหรับลากรถ เป็นต้น

 

6. เพลย์ลิสต์เพลงโปรดของคุณ

เชื่อไหมค่ะว่า เพลง เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วนบรรเทาความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี และยังมีประโยชน์ที่คุณคาดไม่ถึงเมื่อฟังขณะขับรถได้อีกด้วย โดยมีงานวิจัยการฟังเพลงขณะขับรถจากมหาวิทยาลัย Groningen มหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ระบุว่า อาสาสมัครอายุตั้งแต่ 19-25 ปีจำนวน 47 คน ได้รับคำสั่งให้เลือกเพลงที่จะนำมาฟังขณะขับรถด้วยตนเอง โดยทำการทดลองทั้งสิ้น 3 รอบ รอบแรกขับไปพร้อมกับเปิดเพลงเสียงดัง รอบที่สองเปิดเพลงเสียงดังปานกลาง และรอบสุดท้ายขับรถโดยไม่เปิดเพลงเลย

พบว่า  อาสาสมัครทุกคนเมื่อฟังเพลงขณะขับรถจากเพลย์ลิสต์ที่ตนเลือกเอง (ทั้งป๊อบ ร็อค แจ๊ส คลาสสิค ฯลฯ) จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสภาพถนนไม่ว่าจะขณะที่มีการจราจรคับคั่งในเขตเมืองหรือการขับรถทางไกลได้อย่างรวดเร็วมากกว่ารอบที่ขับรถโดยไม่เปิดเพลง โดยวัดจากอัตราการเต้นต่อหัวใจ ซึ่งเสียงเพลงที่เปิดไว้ขณะขับรถนั้นทำหน้าที่เป็นตัวช่วยให้สมองตื่นตัว ไม่รู้สึกเบื่อ และยังช่วยให้มีสมาธิในการขับรถได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับ 6 สิ่งที่ต้องมีในรถ ที่ทางพี่หมี GoBear แนะนำกันไป มีข้อไหนที่ตรงใจเพื่อนๆบ้างไหมค่ะ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่เราต้องมีทุกครั้งขณะขับรถก็คือ “สติ” นั่นเอง อย่างไรก็ตาม การทำประกันรถยนต์ไว้ก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะช่วยให้เราอุ่นใจได้เมื่ออุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก GoBear

ส่วนลดประวัติดีของประกันรถยนต์-คืออะไร-ทำไมต้องรู้

รู้ไว้ไม่เสียหาย อะไรคือ ส่วนลดประวัติดีของประกันรถยนต์

พูดถึงประกันรถยนต์ แน่นอนว่าการรู้จริง รู้รอบ รู้ลึก โดยเฉพาะส่วนลดประวัติดี หรือ No Claim Bonus ย่อสั้น ๆ ว่า NCB ซึ่งเป็นส่วนลดที่มอบให้กับผู้ซื้อประกันที่ไม่มีแจ้งเคลม และขับขี่ปลอดภัยมาตลอด เอาจริง ๆ ส่วนลดประวัติดีนั้นเหมือนกับการให้รางวัลคนทำดีล่ะครับ ขับดีก็ต้องได้ส่วนลดดี ๆ ถูกไหม ?

 

ทำอย่างไรถึงจะได้ส่วนลดประวัติดี ?

พูดง่าย ๆ เพียงแค่คุณขับดีไม่มีเคลม ไม่มีประวัติการเคลมว่าเป็นฝ่ายผิด หรือเกิดอุบัติเหตุจากการกระทำของคู่กรณีหรือบุคคลภายนอกที่ขับมาชนคุณ ซึ่งคุณจะต้องแจ้งบริษัทฯ ได้ว่า “ผู้ก่อเหตุคือใคร” เพื่อให้บริษัทเรียกร้องค่าเสียหายได้นั้นเอง

และการที่จะรับส่วนลดประวัติดีได้อย่างต่อเนื่องคุณจะต้องซื้อประกันรถยนต์กับบริษัทฯ ที่เดิมเท่านั้นนะครับ หรือตามภาษากฎหมายที่ว่าความคุ้มครองต่ออายุเท่านั้น ถึงจะได้รับส่วนลดนี้ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายไปได้มากโขเลยล่ะค่ะ

 

คำนวณค่าเบี้ยส่วนลดประวัติดียังไง?

สำหรับส่วนลดประวัติดีจะคำนวณจากเบี้ยประกันภัยของปีที่ผ่านมา เช่น

  • เบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ปีที่ผ่านมาเป็นเงิน 13,000 บาท แต่เบี้ยประกันภัยของปีที่ต่ออายุเป็นเงิน 10,000 บาท
  • กรณีที่ผู้ซื้อประกันได้ส่วนลดประวัติดี 20% ก็จะได้ส่วนลดเท่ากับ 2,000 บาท ซึ่งคำนวณส่วนลดประวัติดี 20% ของ 10,000 บาท ไม่ใช่คำนวณจากเบี้ยประกันของปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ส่วนลดประวัติดีของคุณจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามปีที่คุณใช้ประกันภัย ซึ่งมีส่วนลดสูงสุด 50% แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องซื้อประกันจากบริษัทฯ จากที่เดิมอย่างต่อเนื่องนะคะ

 

อธิบายกันอีกทีว่าส่วนลดประวัติดีแบ่งออกเป็น ดังนี้

  • ขั้นที่ 1 ลด 20% เมื่อไม่มีการเคลมรถยนต์ในปีแรก
  • ขั้นที่ 2 ลดเพิ่มอีก10% จากปีที่แล้วเป็น 30% เมื่อไม่มีการเคลมใน 2 ปีติดต่อกัน
  • ขั้นที่ 3 ลดเพิ่มอีก10% จากปีที่แล้วเป็น 40% เมื่อไม่มีการเคลมใน 3 ปีติดต่อกัน
  • ขั้นที่ 4 ลดเพิ่มอีก10% จากปีที่แล้วเป็น 50% เมื่อไม่มีการเคลมใน 4 ปีติดต่อกัน หรือมากกว่านั้น

ทั้งนี้ในการให้ส่วนลดประวัติดีนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละบริษัทฯ ประกันด้วยล่ะครับ เป็นไงบ้างค่ะ เข้าใจส่วนลดประวัติดีมากขึ้นใช่ไหมครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก Frank.co.th

Carro-OIC-Force-Insurance

ลดปัญหาบริษัทประกัน “มั่วนิ่ม” ไม่จ่ายค่าขาดประโยชน์ ระหว่างซ่อมรถ คปภ. สั่งทุกบริษัทต้องจ่าย วันละ 500 – 1,000 บาท เริ่มต้นปี 2562

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ คปภ. ได้ข้อสรุปการปรับปรุงความคุ้มครองของค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ให้แก่เจ้าของรถยนต์ที่ทำประกันและอยู่ระหว่างนำไปเคลมซ่อมแล้ว

Repair-Car

โดยจะจ่ายเงินเป็น 3 กลุ่ม ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่ยังมีความคลุมเครือทำให้เกิดปัญหาร้องเรียนเข้ามา ประกอบด้วย

กลุ่มแรก รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
กลุ่มที่ 2 รถยนต์รับจ้างสาธารณะขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท
และกลุ่มที่ 3 รถยนต์ขนาดเกินกว่า 7 ที่นั่งกำหนดอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท

“ที่ผ่านมาปัญหาเรื่องร้องเรียนกรณีการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ มียอดร้องเรียนมากเป็นอันดับ 1 เรื่องส่วนใหญ่ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนคือบริษัทประกันไม่ยอมจ่ายค่าขาดประโยชน์ เพราะประชาชนไม่มีความรู้ หรือมีการจ่ายในอัตราที่ต่ำ เพราะก่อนหน้านี้ระเบียบได้กำหนดให้จ่ายตามฐานานุรูปขนาดของเครื่องยนต์ และความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทประกัน ดังนั้นจึงต้องปรับหลักเกณฑ์ใหม่ให้ชัดเจน โดยมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาหารือเรื่องนี้ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยโดยเฉพาะจนสามารถหาข้อสรุปได้แล้ว”

Repair-Car

อีกทั้ง คปภ. อยู่ระหว่างยกร่างคำสั่งนายทะเบียนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และจะบังคับใช้ได้ในต้นปีหน้า และเมื่อมีคำสั่งนายทะเบียนออกมาแล้ว บริษัทจะต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถในเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยและจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

“หากฝ่าฝืนมีความผิดฐานขัดคำสั่งนายทะเบียน ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย อาจถือได้ว่าบริษัทจงใจฝ่าฝืนข้อตกลงแห่งสัญญาประกันภัย หรือข้อกำหนดหรือกฎเกณฑ์ใดๆ ที่มีความชัดเจนให้บริษัทมีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หรือบุคคลผู้มีสิทธิ์เรียกร้องหรือได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัย อันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งมีบทลงโทษในอัตราที่สูง ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท และถ้าเป็นกรณีการกระทำผิดต่อเนื่องให้ปรับอีกไม่เกินวันละ 2 หมื่นบาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่”

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ

frankxcarro

ก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถออนไลน์ ต้องเช็กสิ่งเหล่านี้ก่อน!

กับการใช้ชีวิตยุคนี้สมัยนี้สมาร์ทโฟนและสื่อดิจิทัลเป็นสิ่งที่สำคัญกับชีวิตเลยล่ะ ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เช่น การซื้อของออนไลน์ส่งถึงบ้าน และการซื้อประกันออนไลน์ที่อ่านกรมธรรม์ธรรม์ผ่านหน้าจอ และซื้อทันทีผ่านปลายนิ้วสัมผัส

โดยเฉพาะวันนี้ที่มีโบรกเกอร์ประกันภัยมากมายหลายแบรนด์ผุดเป็นดอกเห็ด การเลือกซื้อประกันดี ๆ สักกรมธรรม์ในยุค InsurTech ป็อปปูล่าเช่นนี้ เราควรพิจารณาเลือกซื้อประกันออนไลน์จากอะไรกันนะ ?

1. ดูจากความน่าเชื่อถือเป็นหลัก

เมื่อการซื้อประกันออนไลน์ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ใกล้ตัวกว่าที่คิด ด้วยข้อดีเพราะไม่ยุ่งยากสะดวกสบาย ช่วยประหยัดเวลา สามารถซื้อได้ทันทีไม่ต้องออกจากบ้าน  หากคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ หรือการซื้อประกันชีวิต คุณควรมองหาประกันออนไลน์ที่มีความน่าเชื่อถือเป็นหลักครับ

แล้วจะรู้ได้ไงว่าเว็บไซต์นั้นน่าเชื่อถือ ?

สังเกตง่าย ๆ เลยบนเว็บไซต์ประกันออนไลน์นั้น ๆ จะแสดงเลขที่ใบอนุญาตตัวแทนนายหน้าประกันวินาศภัยจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (ค.ป.ภ.) ตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ให้ชัดเจน (OIC license for non-life insurance registration number) เพราะเป็นเครื่องหมายการันตีให้ชัดเจนว่าน่าเชื่อถือ มีการการันตีจากหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก  ยกตัวอย่างเว็บไซต์ Frank.co.th ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนบนหน้าเว็บไซต์

“OIC license for non-life insurance registration number : 00017/2559” ดังเช่นในภาพ

สิ่งที่ต้องมองหาก่อนซื้อประกันออนไลน์ผ่านโบรกเกอร์02

2. เว็บไซต์ต้องมีรายละเอียดครบครัน ไม่มีประวัติเสีย

ความครบเครื่อง ครบครัน !! เว็บไซต์ประกันออนไลน์นั้น ๆ จะต้องบอกเล่ารายละเอียด เงื่อนไขให้ครบถ้วน เข้าใจง่ายไม่มีหมกเม็ดและต้องเคลมง่ายด้วยครับ เช่น ประกันรถยนต์ Frank.co.th ที่บอกเล่าความคุ้มครองประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 2 และประกันชั้น 3 อย่างละเอียดถี่ถ้วน และอย่าลืมเช็กประวัติของเว็บไซต์บริการประกันออนไลน์นั้น ๆ ด้วยนะ สามารถเสิร์ซหาง่าย ๆ จาก Google เพื่อดูว่า บริษัทฯ นั้น ๆ ให้บริการเป็นอย่างไร ดูแลลูกค้าดีแค่ไหน มีประวัติเสียมาก่อนหน้านี้หรือไม่ การเช็กรีวิวจากลูกค้าด้วยกันจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้เป็นอย่างดีครับ

3. ใส่ใจบริการหลังการขาย

ซื้อประกันออนไลน์จะให้ดีจะต้องมีบริการหลังการขายที่ครบครัน จริง ๆ แล้วการซื้อประกันคือการซื้อความคุ้มครองในการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น ควรมีช่องทางการโทร หรือติดต่อง่ายดาย รวมทั้งบริการในช่องทางอื่น ๆ ที่ดูแลด้วยใจจริง เช่น เมื่อเราต้องการคำตอบ แชทเข้าไลน์แอด (Line@) ทางบริษัทฯ ประกันนั้น ๆ ก็ตอบได้อย่างรวดเร็วทันที ช่วยเหลือทันการตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา

4. ต้องมีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า

ความดีงามของการซื้อประกันออนไลน์ คุณจะได้รับราคาที่คุ้มค่า การคุ้มครองที่มาพร้อมกับสิทธิพิเศษที่ได้รับมาด้วย เป็นสิ่งที่คุณต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน เช่น ส่วนลด ของแถม หรือบริการอื่น ๆ เพิ่มเติม ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ จากบริการ Frank.co.th ที่มีสิทธิพิเศษ Penguin Privileges มอบดีลพิเศษให้เสมอ และทั้งหมดนี้ก็เป็นทริคการเลือกประกันออนไลน์แบบคร่าว ๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อประกันให้ง่ายขึ้นนั้นเองล่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก frank.co.th