อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

สวัสดีครับไทร์บิดกลับมาอีกครั้งครับ กลับมาเอาใจสายกระบะและรถ SUV กันว่ามียางอะไรใหม่ๆ และยางยี่ห้อ และ รุ่นไหนที่หน้าใช้บ้างครับ โดยไทร์บิดเราจะแบ่งแยกประเภทดอกยาง HT กับ AT และก็เป็นยางกระบะรุ่น Standard เหมือนเดิมครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

มาเริ่มกันที่กระบะตัว Standard กันก่อนเลยครับ ที่มาแรงในปีนี้ก็คงเป็นยี่ห้อไหนไปไม่ได้ครับกับการพัฒนายางรถกระบะของยี่ห้อ Michelin จากรุ่น Agilis ธรรมดามาเป็น Agilis3 ซึ่งถือว่าพัฒนาเปลี่ยนแปลงหน้าตาบริเวณแก้มยางที่มีเนื้อยางเพิ่มเติมเพื่อป้องกันความเสียหายของแก้มยางพร้อมกับเสริมคุณภาพความแข็งแรงของโครงยางที่ทำได้ดียิ่งขึ้น รถน้ำหนักได้ดีขึ้นประกอบกับอายุการใช้งานที่มากขึ้นด้วยครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

ส่วนอีกยี่ห้อหนึ่งจะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ ในปัจจุบันเพราะพลิกโฉมผลิตภัณฑ์มากมายสำหรับยางยี่ห้อ Goodyear โดยยางสึกช้าขึ้นและเค้าก็ใส่ใจเรื่องเสียงได้ดียิ่งขึ้นมากๆอีกด้วยครับ โดยยางกระบะ Standard ก็เป็นรุ่น Cargo Max ซึ่งมีพี่บัวขาวเป็นพรีเซนเตอร์ที่บ่งบอกถึงความแข็งแรงถึกทนทาน เหมือนพี่ดำดอทคอมครับ ซึ่งก็เป็นยางคุณภาพเกรดกลางที่สามารถใช้งานบรรทุกได้จริงอีกยี่ห้อหนึ่งครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

ต่อมาเราก็คงมาพูดถึงรถ SUV ปีนี้ก็ต้องยอมว่ายังเป็น Michelin Primacy SUV ที่ถือว่ายังได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะก็ถือว่าเป็นยางที่มีความนุ่มเงียบมากที่สุด และเป็นกลุ่มยางพรีเมียมที่ค่อนข้างตรงกับกลุ่มประเภทรถนี้ที่มีราคาแพงและเน้นความหรูหราก็ไม่แปลกใจที่ Michelin Primacy SUV เป็นที่นิยมที่สุดครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

อีกรุ่นหนึ่งที่เพิ่งมาหมาดๆใหม่ๆสดๆร้อนใน ไตรมาส 4 / 2564 นี้ ซึ่งเป็นยี่ห้อ Goodyear ครับ พลิกโฉมเลยสำหรับรถ SUV โดยเฉพาะครับชื่อรุ่น Assurance MaxGuard SUV ที่เน้นของเรื่องการรีดน้ำที่ดี และ มีความคงทนสึกช้า แถมกับดอกยางเรียบที่มีเสียงที่ค่อนข้างต่ำกว่ารุ่นก่อนที่เป็นรุ่น Wrangler TripleMax ครับ ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่น่าลองมากอีกรุ่นหนึ่งที่เข้ามาในตลาดครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

ผมขอเพิ่มเติมสำหรับยางกระบะและ SUV ครับ มียี่ห้อหนึ่งที่มาแรงและได้ความนิยมเพิ่มมากขึ้นมากๆนั่นก็คือ Dayton รุ่น HT100 ครับ ซึ่งจริงๆเป็นแบรนด์อเมริกา และ บริดจสโตน ได้นำเข้ามาผลิต และจัดจำหน่ายในประเทศเรา ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของยี่ห้อนี้ก็คือเรื่องของราคาที่มีราคาที่ไม่แพงมาก และได้เรื่องคุณภาพรับประกันโดย บริดจสโตน ทำให้ผู้คนมั่นใจกับการใช้งานยี่ห้อนี้บวกกับการใช้งานจริงก็ยังทำได้ดีใช้งานในเมือง สบายๆ ได้ครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

ต่อมาเป็นยางที่สายลุยๆ ที่อยากจะแนะนำครับ ดอกยางอเนกประสงค์หรือดอกยาง A/T ยี่ห้อและ ที่อยากจะแนะนำก็คือ Michelin ครับ แต่เพื่อนๆอาจจะนึกถึง LTX Force ใช่ไหมครับ แต่ว่าไม่ครับ เป็นรุ่นใหม่ครับที่พัฒนามาจาก LTX Force ก็คือ LTX TRAIL ครับ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเลยออกจำหน่ายเดือน ตุลาคม 2564 นี้เองครับ ซึ่งใช้งานได้อเนกประสงค์มากขึ้นจริงๆครับเพราะดอกยางประเภทนี้คนนำมาใช้จริงก็วิ่งบนถนนหลวงเยอะขึ้นแล้ว ซึ่งกลายเป็นว่ายาง LTX TRAIL มีความนุ่มขับสบายเพิ่มมากยิ่งขึ้นและสามารถใช้บนถนนหลวงได้ดีขึ้นโดยเฉพาะเรื่องการเกาะถนนบนถนนเปียก ซึ่ง Michelin LTX TRAIL ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานบนนถนนหลวงได้ดีขึ้นอย่างมากจริงๆ ครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

ตัวรองลงมาเป็นดอกยาง AT ที่อยากจะพูดถึงก็คือยี่ห้อ Dunlop AT5 ครับ ถือว่าเป็นยางที่ลายดอกยางดุดันสวยมากใครที่ชอบแต่งรถสไตล์ดุดัน Dunlop AT5 ก็ตอบโจทย์ มีตัวอักษรสีขาวสำหรับไซส์กระบะแนวยกสูงอยู่แล้วทำให้ยิ่งดูเท่ดูดีมากยิ่งขึ้นไปอีก ประกอบกับคุณภาพพัฒนาขึ้นมามากทำให้ยางมีความคงทนและตะกุยได้ดียิ่งขึ้นทำให้การใช้งานจริงแบบลุยๆ ทำได้เยี่ยมอีกด้วยครับเพราะฉะนั้น Dunlop AT5 ถือว่าตอบโจทย์ยางรถกระบะที่เป็นแนวยางดอก A/T อย่างแน่นอนครับ

ก็ถือว่ายางที่ผมแนะนำไปจริงๆมีทั้งยางที่ขายดีคนใช้ค่อนข้างเยอะกับยางที่เป็นรุ่นใหม่เพิ่งออกมาล่าสุดที่น่าทดลองใช้กันครับ หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ www.tiresbid.com ได้เลยครับ เพราะเราเป็นเว็บที่ดีที่สุดครับ และเพื่อนๆสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ได้ครบถ้วน แถมไทร์บิดเรายังมีบริการให้เพื่อนๆ ต้องการสอบถามเรื่องยาง ล้อยาง โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางรถยนต์ได้ผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) ทางทีมงานไทร์บิดยินดีให้คำปรึกษา Tire Specialist เรื่องยาง เรื่องง่าย กันอย่างเต็มที่ครับ เราเป็นตัวกลางยางมืออาชีพ ข้อมูลยางกว่า 14 ยี่ห้อ นึกถึงยาง นึกถึงไทร์บิดออนไลน์นะครับ วันนี้ก็ขอขอบคุณมากครับเพื่อนๆ ที่ติดตาม หากมีข้อสงสัยเลือกยางไม่ถูกสอบถามมาที่ไทร์บิดของเราได้เลยครับ ขอบคุณมากครับ

ยางติดรถทำไมหายางไซส์ตรงๆ ยากจัง

สวัสดีครับไทร์บิดกลับมาอีกแล้ว พอดีมีคำถามเข้ามาเยอะเกี่ยวกับเรื่องเปลี่ยนยางสำหรับเพื่อนๆ ที่ซื้อรถใหม่มาแล้วถึงรอบเปลี่ยนยางแต่พอไปเปลี่ยนยางแต่ละร้านก็บอกให้ขยับไซส์บ้างหล่ะ ยางไซส์เดิมไม่ค่อยมีรุ่นให้เลือกบ้างหล่ะ บางทีไซส์ยางที่เราใช้มีเพียงรุ่นเดิมเท่านั้น แต่เพื่อนๆ ก็อยากเปลี่ยนแบรนด์ยางที่ตัวเองคุ้นหู และเพื่ออยากใช้ยางที่คุณภาพดีขึ้นใช่ไหมครับ เพื่อนๆ อยากรู้ไหมครับว่าวิธีนี้ต้องทำอย่างไรถึงจะดีที่สุดต่อการเปลี่ยนยางของรถเราครับ

ยางติดรถทำไมหายางไซส์ตรงๆ ยากจัง

อย่างแรกเลยต้องเกริ่นก่อนว่า รถใหม่ที่ออกมาจะติดยางออกมาเราจะเรียกกันว่า “ยาง OEM” ซึ่งแล้วแต่ค่ายรถที่ใส่ใจกับเรื่องยางมากน้อยเท่าไหน รถบางค่ายออกรถมาใหม่พร้อมยางที่เป็นรุ่น Top ก็มี รถบางค่ายเน้นประหยัดต้นทุนก็อาจจะลดขนาดไซส์ยางและเลือกรุ่นยางที่เป็นสำหรับ OEM ราคาประหยัด สมรรถนะใช้งานทั่วไปเพื่อทำให้ต้นทุนรถออกมาต่ำลงเพื่อที่จะนำเสนอขายรถยนต์ในราคาที่ถูกลง ซึ่งส่วนมากปัญหาที่เพื่อนๆ พบก็จะเป็นในแบบกลุ่มหลังครับ คือ ยางที่เป็นไซส์เล็กและไม่เป็นไซส์ที่นิยมในตลาด หรือ เป็นรุ่นที่ไม่เคยได้ยินสำหรับยางทดแทน แต่ไม่ต้องเป็นห่วงครับทางไทร์บิดจะแนะนำวิธีแก้ไขให้ครับ

จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับกับการอัพไซส์ยางสำหรับกลุ่มประเภทนี้ แต่เพียงต้องเข้าใจว่าการขยับไซส์ยางที่ถูกต้องนั้นหลักๆ เลย คือ รอบวงของยางควรที่จะเท่ากับรอบวงของยาง OEM ครับเพื่อให้รอบเครื่องนั่นเดินได้เหมือนยางที่ติดรถ หรือหากกรณีเปลี่ยนไซส์ก็สามารถบวกลบ ได้ประมาณที่ 1.5% ครับ ผม เรามายกตัวอย่างกันดูครับว่ารถไหนบ้างที่มีปัญหานี้ครับสำหรับเพื่อนๆ ที่เป็นห่วงเรื่องอัตราการกินน้ำมันถามว่ามีผลเยอะไหม จริงๆมีผลน้อยมากครับ แต่การที่เพื่อนๆได้อัพไซส์ยางให้มีหน้ายางที่กว้างขึ้นทำให้เกาะถนนได้ดีขึ้นมากกว่าเดิมมากอันนี้น่าจะเป็นคีย์หลักที่คุ้มค่ามากกว่าสำหรับการอัพไซส์ยางครับ

ยางติดรถทำไมหายางไซส์ตรงๆ ยากจัง

  • Mitsubishi Mirage ยางติดรถมาเป็นไซส์ยาง 165/65R14 ซึ่งพอมาเปลี่ยนหายี่ห้อรุ่นยางไซส์นี้ค่อนข้างมีน้อยมากเพราะฉะนั้นอย่างยางไซส์นี้ ก็สามารถอัพไซส์ได้ตั้งแต่ 175/65R14 หรือ 185/65R14 ได้ครับพี่ๆ ซึ่งแทบจะไม่มีผลต่อการใช้งานเดิมเลย
  • Honda City รถยอดนิยมติดยางไซส์ 175/65R15 มาแนะนำเป็นอย่างยิ่งครับถ้าเพื่อนๆเปลี่ยน เปลี่ยนเป็น 185/60R15 ครับเป็นยางไซส์ตลาดที่ใช้กับรถหลายๆรุ่นครับผม แถมยังราคาถูกกว่า มียี่ห้อและรุ่นให้เลือกมากกว่า การเกาะถนนก็ดีกว่าด้วยครับ

ยางติดรถทำไมหายางไซส์ตรงๆ ยากจัง

  • Mazda 3 ขึ้นมาอีกสเต็ป จะมีรุ่นหนึ่งที่ติดยางไซส์ 215/45R18 มาครับ ซึ่งถ้าเพื่อนๆอยากให้สะดวกในการหาก็สามารถใส่ 225/45R18 ได้ครับ สามารถใส่ทดแทนกันได้เลยครับ
  • Mazda 2 ติดรถมา 195/45R16 สามารถเปลี่ยนเป็น 195/50R16 หรืออีกรุ่นของ Mazda3 ตัวท้อป ที่ติดยาง 185/60R16 มาสามารถใส่ 205/50R16 ได้ครับ ก็จะมียางให้เลือกเยอะขึ้นครับผม
  • Mazda CX-3 อีกรุ่นหนึ่งที่ออกมาใหม่ติดยางเป็น 215/50R18 ซึ่งมียางน้อยมากต้องบอกว่าแทบไม่มีเลย ไซส์นี้แนะนำให้เปลี่ยนเป็นยางไซส์ 225/50R18 ได้เลยครับ เกาะถนนดีขึ้น และนุ่มขึ้นครับผม

ยางติดรถทำไมหายางไซส์ตรงๆ ยากจัง

  • Isuzu ตัวยกสูงที่ติดยาง 255/65R17 มาไซส์นี้ก็สามารถเปลี่ยนเป็นยาง 265/65R17 ได้เลยครับ จะมียางให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นยาง HT และ ยาง AT มีทุกยี่ห้อครับ เพราะยาง 265/65R17 จะใส่ได้กับกระบะตัวยกสูง Fortuner ที่เป็นรถตลาดเพราะฉะนั่น ไทร์บิดแนะนำครับเปลี่ยนไซส์จะดีกว่า
  • Isuzu อีกรุ่นที่ติดยางขอบ 18 มาจะเป็นยางไซส์ 255/60R18 ไซส์นี้แนะนำเป็น 265/60R18 เลยครับ จะมียาง AT HT ครบตามความต้องการเลยครับ
  • กระบะ Isuzu ติดยาง 195R15 มาอันนี้ สามารถขยับไซส์เป็น 215/70R15 ได้ครับผม จะเป็นยางที่ไซส์ตลาด และมีหน้ายางที่กว้างขึ้นเกาะถนนได้ดีขึ้น และ ที่สำคัญที่สุดของยางกระบะก็คือ สามารถรับน้ำหนักได้ดีขึ้นครับผม

ยางติดรถทำไมหายางไซส์ตรงๆ ยากจัง

และกระบะสุดท้ายอีกรุ่นของ Nissan Navara ที่ติดยาง 205R16 เพื่อนๆ สามารถใส่ยาง 215/70R16 ได้ครับผมเหตุผลก็จะแบบเดียวกับการเปลี่ยนไซส์ 195R15 เป็น 215/70R15

ก็คิดว่าน่าจะครบอยู่ครับสำหรับไซส์ยางติดรถที่ไม่ค่อยเป็นไซส์ตลาด แต่หากเพื่อนๆ เจอไซส์ที่ติดรถมาแล้วไม่แน่ใจสามารถสอบถามเข้ามาที่ทางไทร์บิดได้ครับ ทางเราสามารถแนะนำไซส์ยางที่เหมาะสมกับรถของเพื่อนๆ ให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น ครับ

หากเพื่อนๆ มีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ www.tiresbid.com ได้เลยครับ และเพื่อนๆสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ได้ครบถ้วน แถมไทร์บิดเรายังมีบริการให้เพื่อนๆต้องการสอบถามเรื่องยาง ล้อยาง โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางรถยนต์ได้ผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) ทางทีมงานไทร์บิดยินดีให้คำปรึกษา Tire Specialist เรื่องยาง เรื่องง่าย กันอย่างเต็มที่ครับ นึกถึงยาง นึกถึงไทร์บิดออนไลน์ครับ วันนี้ก็ขอขอบคุณมากครับเพื่อนๆที่ติดตาม หากมีข้อสงสัยเลือกยางไม่ถูกสอบถามมาที่ไทร์บิดของเราได้ครับ ขอบคุณมากครับ

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

สวัสดีครับไทร์บิดอยากมาอธิบายว่าทำไมยางรถยนต์ของเราถึงต้องมีลายดอกยางที่หลากหลายแบบเพราะฉะนั้นลายดอกยางก็ต้องมีคุณสมบัติต่างๆ มากมาย ดังนั้นไทร์บิดจึงอยากมาอธิบายอย่างละเอียดว่าแต่ละส่วนมีหน้าที่ยังไงบ้างครับ

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

ข้อแรกเลยคุณสมบัติของลายดอกยางนั้นก็คือเรื่องของการป้องกันการเหินน้ำ ยางใช้งานปัจจุบันจะมีลายดอกยางทุกเส้นซึ่งลายดอกยางจะมีหน้าที่ทำให้น้ำสามารถไหลผ่านของหน้ายางออกได้ทำให้เพื่อนๆ เวลาขับผ่านแอ่งน้ำ หรือ ถนนเปียกก็จะป้องกันการเหินน้ำได้ เปรียบกับยางของรถแข่ง F1 ที่ไม่มีร่องดอกยางเลยแต่พอเวลามีฝนตกก็จะต้องเปลี่ยนยางชุดใหม่ที่มีลายดอกยางเพื่อลดอาการเหินน้ำครับ

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติข้อที่สองก็คือเพื่อช่วยยึดเกาะถนนบนถนนเปียก ซึ่งหน้าที่นี้จะทำงานแตกต่างกับข้อแรกครับที่จะทำหน้าที่ระบายน้ำแต่ลายดอกยางยังช่วยทำหน้าที่ในการตัดน้ำเวลาหน้ายางกระทบกับน้ำ เวลาลายดอกยางกระทบกับพื้นน้ำจะทำหน้าที่ตัดฟิล์มน้ำออกซึ่งจะทำให้น้ำกระจายออกด้านข้างซึ่งจะส่งผลให้หน้ายางสามารถสัมผัสกับพื้นถนนได้ดีขึ้นจะทำให้ยางเกาะถนนแม้ว่าถนนนั้นเปียก

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติที่สามก็คือช่วยในเรื่องเสียงรบกวน เสียงนั้นปกติจะเกิดจากการที่ลมไหลผ่าน และ เสียงยางที่กระทบกับพื้นซึ่งทั้งสองพอประกอบกันจะทำให้เกิดเสียงดัง ดังนั้นผู้ผลิตยางจึงต้องออกแบบลายดอกยางเพื่อทำให้ลดเกิดเสียงต่างๆ ออกมาโดยการที่จะเกิดเสียงจะเกิดขึ้นโดยให้ลมผ่านลายดอกยาง ซึ่งเวลาออกแบบลายดอกยางจากเสียงเกิดขึ้นมากมายเสียงดัง เสียงเงียบแต่พอมาผสมผสานกันแล้วนะจะได้ค่าเสียงเดซิเบลที่ต่ำที่สุด ซึ่งเป็นขั้นตอนในการออกแบบของเสียง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับประเภทยางด้วยเพราะลายดอกยางสไตล์สปอร์ต ต้องการโฟกัสที่เรื่องการยึดเกาะถนนมากกว่าก็อาจจะทำให้เสียงที่ออกมาเสียงดังครับ

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติที่สี่ก็เพื่อสามารถขับเคลื่อนและส่งผลในเรื่องของแรงตะกรุยที่ดีขึ้นโดยปกติ ถ้ายางเรียบๆจะไม่มีแรงที่จะสามารถตะกรุยได้ดีซึ่งจะทำให้ยางนั้นปั่นฟรีได้ง่ายๆ ทำให้ผู้ผลิตต้องออกแบบลายดอกยางออกมาเพื่อให้ยางเวลาขับเคลื่อนนั่นสามารถมีแรงตะกรุย และ ออกตัวได้ดีขึ้นโดยปกติการออกแบบลายดอกยางไม่ว่าจะเป็นทางเรียบ ทางหินลูกรังก็จะมีลักษณะลายดอกยางที่แตกต่างออกไปเพื่อให้รองรับกับประเภทการใช้งานได้ดีที่สุด ไม่งั้นถ้าอยู่ในทางหินทางดินพอลายดอกยางเป็นดอกเรียบๆ ก็ไม่สามารถตะกรุยออกตัวได้จึงต้องทำเป็นลายดอกก้อนๆ ใหญ่ๆ ครับ

ลายดอกยางมีกี่แบบ ลักษณะใช้งานต่างกันอย่างไร

คุณสมบัติสุดท้ายก็คือ ทำให้หน้ายางสามารถตอบสนองการขับขี่ได้รวดเร็วขึ้น เวลาหน้ายางที่มีการขยับตัวถ้าไม่มีลายดอกยางที่ทำหน้าที่ยืดหดก็จะทำให้ยางไม่สามารถสัมผัสกับพื้นถนนได้เต็มประสิทธิภาพเพราะฉะนั้นการออกแบบลายดอกยางเพื่อให้หน้ายางมีการขยับตัวได้ดียิ่งขึ้นและทำให้สัมผัสกับพื้นถนนได้เต็มหน้าตลอดเวลาก็จะช่วยส่งผลทำให้ยางสามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างทันท่วงทีครับผม

แล้วลายดอกยางมีอยู่กี่ประเภท ?? ลายดอกยางมีอยู่ 3 ประเภทครับ ก็จะมีลายดอกยางแบบสมมาตร ลายดอกยางไม่สมมาตร ลายดอกยางทิศทางเดียว โดยแบ่งคุณสมบัติหลักๆต่างกันครับ

ลายดอกยางแบบสมมาตร ก็จะเป็นลายดอกยางที่ไม่ใช้สมรรณนะสูงซึ่งส่วนมากจะอยู่ในกลุ่มระกระบะ รถ SUV ต่างๆ ครับ ลายดอกยางแบบนี้สามารถใส่สลับหน้ายางได้เลยไม่ว่าจะข้างในข้างนอกดอกยางไม่มีผลต่อการใช้งานครับ

ส่วนที่สองลายดอกยางไม่สมมาตร ลายดอกแบบนี้จะค่อนข้างอเนกประสงค์เพราะใช้ได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าทางตรงและทางคดเคี้ยวซึ่งปัจจุบัน ยางลายดอกแบบนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมมากในทุกๆยี่ห้อเพราะมีความอเนกประสงค์ในการใช้งานมากที่สุด ลายดอกยางลักษณะนี้จะเป็นลายดอกยางที่หน้ายางจากฝั่งซ้ายสุดไปขวาสุดจะไม่เหมือนกันครับ โดยจุดสังเกตุอีกจุดก็จะเป็นแก้มยางจะมีเขียนคำว่า Inside Outside ครับ คือ Outside ให้หันออกนอกตัวถังครับ

ลายดอกทิศทางเดียว เป็นลายดอกยางที่มีการรีดน้ำได้ดีและมีความสามารถในการออกตัวได้ดีและเน้นการใช้งานแบบวิ่งทางตรง ซึ่งลักษณดอกยางจะหันไปทางเดียวกันเสมอ จะมีจุดบอกที่แก้มยางคำว่า Rotation ครับโดยยางลักษณะนี้ถ้าใส่กลับด้านจะทำให้สมรรถนะ ยางลดลงไปประมาณ 20-30% ได้ครับ

ก็จะเป็นคุณสมบัติและลายดอกยางครับที่อธิบายไป แต่หากเพื่อนๆยังมีข้อสงสัยว่ายางไหนที่เหมาะกับเพื่อนๆ มีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ www.tiresbid.com ได้ครับทางเรามีข้อมูลและอธิบายชัดเจนบนเว็บไซต์ของเราครับ และเพื่อนๆสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ได้ครบถ้วน แถมไทร์บิดเรายังมีบริการให้เพื่อนๆต้องการสอบถามเรื่องยาง ล้อยาง โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางรถยนต์ได้ผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) ทางทีมงานไทร์บิดยินดีให้คำปรึกษา Tire Specialist เรื่องยาง เรื่องง่าย กันอย่างเต็มที่ครับ นึกถึงยาง นึกถึงไทร์บิดออนไลน์ครับ ทักมาให้พวกเราได้เลยครับผม ขอบคุณมากครับ

เปลี่ยนยางคนละรุ่นยี่ห้อ เลือกใส่คู่หน้าหลังดี

สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาอีกครั้งครับ เกร็ดความรู้เล็กๆน้อย โดย จอร์จ ไทร์บิด ครับ เป็นปัญหาที่เพื่อนๆเจอกันบ่อยครับเมื่อใช้ยางไปได้สักระยะแล้วเกิดเหตุที่จะต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่เพียงหนึ่งเส้นเนื่องจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือเปลี่ยนเป็นคู่เนื่องจากยางสึกแค่คู่เดียวอีกคู่ยังใช้ได้อยู่ หรือไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนยางคู่หน้าและคู่หลังคนละยี่ห้อเรามีข้อสังเกตที่จะยึดว่ายางรุ่นไหนไว้คู่หน้ายางไหนไว้คู่หลังดี เพื่อนๆคงมีข้อสงสัยว่าต้องใส่แบบไหนถึงดีสำหรับการใช้งานยางให้เต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิม เพื่อนๆจะทำอย่างไรวันนี้ จอร์จ มีคำตอบมาให้ครับ

เปลี่ยนยางคนละรุ่นยี่ห้อ เลือกใส่คู่หน้าหลังดี

กรณีแรก ก่อนครับเมื่อเพื่อนๆ เกิดอุบัติเหตุยางแตก หรือ ยางสึกผิดปกติทำให้ต้องเปลี่ยนยาง 1 เส้นจอร์จ แนะนำว่าควรเลือก ยางที่เป็นยี่ห้อและรุ่นเดียวกันกับคู่นั้นๆ ครับ เพราะยางแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่น จะมีการยึดเกาะถนนที่แตกต่างกันครับ หากใส่คนละรุ่น หรือ คนละประเภท จะทำให้ยางที่เกาะถนนมากกว่าทำงานหนักมากกว่าอีกฝั่ง ซึ่งจะส่งผลทำให้ยางที่เกาะถนนมากกว่าจะสึกเร็วกว่า และแถมจะยังมีโอกาสทำให้สูญเสียสมรรถนะในการขับขี่ซึ่งเกิดจากการเกาะถนนที่ไม่เท่ากันของสองฝั่ง และระยะเบรกที่มีความแตกต่างกันครับ ซึ่งจะทำให้ยางใช้งานได้ไม่คุ้มค่า และ ไม่เต็มสมรรถนะแน่นอนครับ แต่ก็จะมีอีกเกร็ดเล็กๆนิดนึงครับ สำหรับเพื่อนที่ใช้งานยางมาสักระยะใหญ่ๆแล้ว แล้วยางสึกไปถึง 50% แล้ว ก็แนะนำให้เปลี่ยนเป็นคู่แทนนะครับเพราะการที่เปลี่ยนใหม่เส้นเดียวจะทำให้เกิดการห่างกันระหว่างยางที่มีดอกยางเต็มๆกับดอกยางตื้นซึ่งจะทำให้ยางที่มีดอกยางเต็มสึกเร็วกว่าปกติและจะใช้ไม่คุ้มค่าครับผม

เปลี่ยนยางคนละรุ่นยี่ห้อ เลือกใส่คู่หน้าหลังดี

แล้วถ้ากรณีที่เราเปลี่ยนยาง 4 เส้น แต่ยางที่เปลี่ยนมีสองรุ่น รุ่นละคู่ เราจะเลือกอย่างไรว่า รุ่นไหนควรไว้คู่หน้า หรือ คู่หลัง จอร์จ แนะนำให้เพื่อนๆ ดูในส่วนของดัชนีความเร็วครับ ยางรุ่นไหนที่มีดัชนีความเร็วมากกว่าให้ไว้คู่หน้าครับไม่ควรไว้คู่หลังเพราะจะทำให้มีโอกาสเสี่ยงในการท้ายปัดมากกว่าครับ เนื่องมาจากว่ายางที่มีดัชนีความเร็วที่สูงกว่านั้น มีโอกาสลอยตัวและยึดเกาะถนนได้ต่ำกว่ายางที่มีดัชนีต่ำครับ ซึ่งจริงๆ แล้วจอร์จก็ไม่แนะนำให้เปลี่ยนแบบนี้ครับ อย่างไรควรเปลี่ยนเป็นรุ่นเดียวกันทั้ง 4 เส้นครับจะเป็นการง่ายในการดูแลของการสลับยาง

เปลี่ยนยางคนละรุ่นยี่ห้อ เลือกใส่คู่หน้าหลังดี

ส่วนถ้าเปลี่ยนยาง 2 เส้นผม แต่คนละรุ่นกันจะไว้คู่หน้าหรือคู่หลัง ผมเชื่อว่าเพื่อนๆ 80% ต้องคิดว่าต้องเปลี่ยนคู่หน้าแน่ๆ ใช่ไหมละครับ ก็เป็นความคิดที่ถูกประมาณ 50% ครับเพราะมีหลายๆปัจจัยที่อยากให้เพื่อนๆดูเพิ่มเติมครับผม อันดับแรกเลย จอร์จ อยากให้เพื่อนๆพิจารณาก่อนครับว่ายางทั้ง 4 เส้น เราเป็นอย่างไรบ้างครับ โดยปกติถ้าเพื่อนๆที่ไม่ค่อยได้สลับยาง ยางล้อหลังจะอยู่ในสภาพที่ดอกยางจะสึกน้อยกว่ายางคู่หน้า เวลาเราเปลี่ยนสองเส้น แนะนำให้เอายางคู่หลังที่ดอกยางเยอะหรือมีดอกยางเหลือประมาณ 70% ลงมาอยู่ไปใส่ไว้คู่หน้าแทนที่ยางที่ดอกยางหมด และยางใหม่ใส่ไว้คู่หลัง เป็นเพราะว่า ยางหลังมีความสำคัญสำหรับการรีดน้ำมากครับถ้ายางล้อหลังไม่สามารถรีดน้ำได้ดีมีโอกาสทำให้ยางเหินน้ำและเสียการควบคุมจนทำให้เกิดท้ายปัดได้ครับ แต่ถ้าอีกแบบคือ ยางล้อหลังก็ยังใหม่ๆอยู่เลยคุณภาพ 70% ขึ้นไป เราก็เปลี่ยนยางคู่ใหม่ที่คู่หน้าได้เลยครับเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลา สลับล้อหลังขึ้นมาไว้หน้าซึ่งจะทำให้ยางที่สึกมากกว่าสึกเร็วลงไปอีกซึ่งการทำวิธีนี้จะทำให้ยางทั้ง สี่เส้นสึกเสมอกันครับ

แถมอีกนิดนึงครับ กรณีที่ยางคู่หน้าคู่หลังคนละไซส์กัน โดยปกติ แล้วก็คงไม่สามารถสลับยางคู่หน้าคู่หลังได้ ถ้าแนะนำก็ให้เปลี่ยนเป็นคู่ในทุกๆครั้ง หรือ ถ้าใช้ไปได้สักระยะแล้วจริงๆมีเหตุต้องเปลี่ยนหนึ่งเส้นให้เปลี่ยนคู่เหมือนกัน และ เก็บยางอีกเส้นไว้เป็นยางอะไหล่ครับผม เพราะยางกลุ่มรถประเภทนี้ไม่ค่อยมียางอะไหล่ครับ

ก็หวังว่าบทความวันนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังจะเปลี่ยนยางนะครับ เพื่อนๆ สามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ได้ครบถ้วน และช้อปยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ www.tiresbid.com แถมไทร์บิดเรายังมีบริการให้เพื่อนๆต้องการสอบถามเรื่องยาง ล้อยาง โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางรถยนต์ได้ผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) ทางทีมงานไทร์บิดยินดีให้คำปรึกษา Tire Specialist เรื่องยาง เรื่องง่าย กันอย่างเต็มที่ครับ นึกถึงยาง นึกถึงไทร์บิดออนไลน์ครับ ทักมาให้พวกเราได้เลยครับผม วันนี้ จอร์จ ขอตัวลาละครับ โอกาสหน้ามีบทความอะไรใหม่ๆ ติดตามกันนะครับ

วิธีดูแลรักษายางรถยนต์ง่ายๆ เบื้องต้น

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาว CARRO จอร์จเป็นห่วงเพื่อนจริงๆ ครับเห็นเพื่อนๆ เห็นใช้รถกันแต่ไม่ค่อยดูแลยางเท่าไหร่ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมากๆในเรื่องความปลอดภัย วันนี้เลยอยากมาแนะนำการดูแลยางเบื้องต้นกันครับทำง่ายๆ แต่ทำให้ขับรถปลอดภัยหายห่วงแน่นอนครับจะได้ปลอดภัยต่อต่อเองและเพื่อนร่วมทางครับ แนะนำกันเลยนะครับเพื่อไม่ให้เสียเวลา

วิธีดูแลรักษายางรถยนต์ง่ายๆ เบื้องต้น

สเต็ปแรกเลยครับ จอร์จแนะนำ ก่อนขึ้นรถควรเดินวนดูรอบรถซะหน่อยครับดูก่อนเลยว่ายางมีปัญหารึเปล่า เช่น ยางแบน มีตะปูคาอยู่ที่ยาง ยางบวม และ ยางปริแตก เพราะสามารถสังเกตได้ง่ายๆ โดยกรณีความเสียหาย หากยางรั่วและตะปูตำควรทำการซ่อมทันที  กรณียางบวม และยางปริแตกความเปลี่ยนยางทันที  เชื่อกันไหมครับต่างประเทศทำสถิติมาแล้วครับการเดินเช็กสภาพรอบรถประจำวัน ช่วยลดอุบัติเหตุได้ถึง 50% เลยนะครับเพราะฉะนั้นเสียเวลากันสักนิดนะครับไม่ถึง 1 นาทีปลอดภัยขึ้นอีกเยอะครับ 

ข้อแนะนำเพิ่มเติมครับจริงๆแล้วอยากแนะนำว่ารถทุกคันควรมียางอะไหล่ หรือเครื่องเติมลมฉุกเฉินไว้ในรถครับเพราะว่าโดยปกติส่วนมากที่มีปัญหารายวันก็คือยางรั่วซึ่งทำให้ยางแบนครับกรณีนี้ถ้ามียางอะไหล่ควรเปลี่ยนยางอะไหล่แต่อาจจะทำให้เราเสียเหงื่อยเยอะหรือบางคนอาจจะทำไม่เป็น แต่ถ้ามีเครื่องเติมลมฉุกเฉิน เราแค่เติมลมเข้าไปให้ปกติ และขับรถไปหาร้านยางต่อได้ครับซึ่งจะสะดวกรวดเร็วขึ้นมากในกรณีเร่งด่วนครับ ถ้าหากเพื่อนๆไม่มีทั้งสองอย่างกลายเป็นว่าเราต้องเรียก บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ บดยางไปหาร้านยางซึ่งมีโอกาสทำให้ยางเสียหายได้จะทำให้เราอาจมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากยางที่เพิ่มขึ้นได้ครับ

วิธีดูแลรักษายางรถยนต์ง่ายๆ เบื้องต้น

สเต็ปต่อมา อาจต้องลงมือทำ และ อาจจะต้องเสียเหงื่อบ้างครับ แต่ทำไม่บ่อยครับ จอร์จ แนะนำให้เช็ก อาทิตย์ละครั้งครับ คือเช็กในเรื่องของ ลมยาง ความลึกดอกยาง และ สภาพยาง  ซึ่งสามารถทำได้พร้อมๆกันครับ โดยในส่วนของเช็กลมยางควรเช็กและเติมลมตามที่รถแต่ละคันระบุไว้ที่ประตูข้างคนขับ ซึ่งเป็นค่าลมยางที่เหมาะสมกับรถที่สุดขยายความครับ ค่าเติมลมยางที่ผู้ผลิตรถแนะนำมาจะเป็นค่าที่ทำให้รถและยางสามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีที่สุดโดยคำนวณจากหลักทางวิศวยานยนต์ครับ แต่ถ้าความรู้สึกในการขับไม่ได้อาจจะปรับเพิ่มลดได้อยู่ครับ 1-3 PSI การเติมลมยางไม่ว่าจะเติมลมธรรมดาหรือลมไนโตรเจนถ้าเราเช็กลมยางเป็นประจำแทบจะไม่มีความแตกต่างของอายุการใช้งานของยางเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าเพื่อนๆแทบไม่ได้เช็กเลยก็แนะนำว่าให้เติมลมไนโตรเจนดีกว่าเพราะการซึมออกจะช้ากว่าลมปกติ 

วิธีดูแลรักษายางรถยนต์ง่ายๆ เบื้องต้น

แต่ถึงอย่างไรก็ตามควรเช็กลมอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้งครับ  และในขณะที่เติมลมยาง เราก็สามารถดูความลึกดอกยางและสภาพยางไปด้วยได้ครับ โดยความลึกดอกยาง ยางทุกเส้นนั้นจะมีสะพานยางอยู่ตรงร่องดอกยาง หากดอกยางสึกจนถึงสะพานยางแล้วนั่นหมายถึงยางควรจะต้องเปลี่ยนยางแล้ว เพราะยางนั้นจะรีดน้ำได้ไม่ดีส่งผลทำให้การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียกได้ไม่ดีไปด้วย มีโอกาสทำให้เกิดการเหินน้ำของยางได้ครับ ส่วนในยางเสื่อมสภาพนั้น ยางจะมีสภาพยางแข็งกระด้างและแตกลายงาซึ่งทั้งสองกรณีของดอกยางหมดและยางเสื่อมสภาพก็ควรเปลี่ยนยางครับเพราะยางหมดประสิทธิภาพการใช้งานครับ

แต่ต้องของอธิบายเพิ่มเติมนิดนึงครับสำหรับการแตกลายงาโดยปกติแล้วยางเมื่อเจอความร้อน เจอความเย็นเจอฝน เจออากาศเมื่อเป็นระยะเวลานานๆมีโอกาสที่จะแตกลายงาได้อยู่แล้วครับ ซึ่งเบื้องต้นถ้าการแตกลายงาแค่ผิวเล็กๆอันนี้ถือเป็นเรื่องปกติครับถ้าทางเทคนิคจะเรียกว่า OZONE Crack ครับแต่ถ้ามันลายงาลึกไปถึงชั้นโครงยาง หรือ รอยลายงากว้างเกินไปอันนี้ถึงจะเรียกว่ายางเสื่อมสภาพครับผม ซึ่งก็ควรเปลี่ยนยางใหม่เพื่อให้ยางสามารถเกาะถนนกลับมามีประสิทธิภาพการใช้งานได้ดีเหมือนเดิมครับ

จอร์จ ขอแนะนำเลยครับ สเต็ปแรกควรทำทุกวันครับเพราะง่ายที่สุด ส่วน สเต็ปที่สองก็อาทิตย์ถึงสองอาทิตย์ครั้งครับ จอร์จ เป็นห่วงเพื่อนๆทุกคนครับ อยากให้ขับรถกลับบ้านหาคนที่เรารักได้อย่างปลอดภัยครับ เพื่อนๆสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ได้ครบถ้วน และช้อปยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ www.tiresbid.com แถมไทร์บิดเรายังมีบริการให้เพื่อนๆต้องการสอบถามเรื่องยาง ล้อยาง โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางรถยนต์ได้ผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) ทางทีมงานไทร์บิดยินดีให้คำปรึกษา Tire Specialist เรื่องยาง เรื่องง่าย กันอย่างเต็มที่ครับ นึกถึงยาง นึกถึงไทร์บิดออนไลน์ครับ ทักมาให้พวกเราได้เลยครับผม วันนี้ผมขอไปหาคนที่รักก่อนครับแล้ววันหลัง จอร์จ จะมาแนะนำเรื่องอื่นๆครับ ขอบคุณมากครับ

วิธีดูแลยางรถยนต์หน้าฝน

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ จอร์จ มากับฝนครับ หน้าฝนแล้วเลยอยากมาแนะนำเพื่อนๆเรื่องการดูแลยางครับ จอร์จ คิดว่ามีเพื่อนๆหลายๆคนไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องการดูแลยางว่าจะต้องดูแลยางอย่างไรเพื่อเหมาะสมกับพื้นผิวถนนที่มีสภาพเปียก หรือเป็นแอ่งน้ำขัง ซึ่งเป็นสาเหตุของรถเสียหลักจำนวนมากครับ

วิธีดูแลยางรถยนต์หน้าฝน

เรามาเริ่มกันเลยครับ อย่างแรกเลยต้องดูเรื่อง ร่องดอกยางครับ ว่าดอกยางของเราสึกไปเยอะแล้วหรือยัง และ ยังมีดอกยางเหลืออยู่หรือเปล่าเพราะส่วนนี้จะส่งผลกับเรื่องการระบายน้ำออกจากหน้ายาง ยิ่งร่องดอกยางน้อยเท่าไหร่นั่นหมายความว่าการระบายน้ำบริเวณหน้ายางยิ่งทำได้น้อยลง ซึ่งอาจทำให้หน้าผิวสัมผัสยางไม่สามารถแนบกับพื้นถนนได้ดี ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดการยางเหินน้ำได้ครับ

โดยเราจะเช็กได้อย่างไรว่ายางนั้นสึกมากแล้วโดยปกติยางทุกเส้นจะมีสะพานยางอยู่จะเป็นตุ่มๆระหว่างร่องดอกยางครับ ซึ่งตุ่มๆนี้จะเรียกว่า “สะพานยาง” ซึ่งสะพานยางจะมีความหน้าเพียง 1.6 มม.เท่านั้น หากยางสึกถึงสะพานยางแล้วในช่วงหน้าฝนนี้ จอร์จ แนะนำให้รีบเปลี่ยนครับ เพราะการที่ดอกยางเหลือถึงสะพานยางระยะเบรกบนถนนเปียกจากปกติเดิมจะไกลเพิ่มขึ้น ถึง 30-50 เมตรเลยครับ อาจทำให้เรากะระยะทางในการเบรกผิดไปจากเดิมหรือจะเป็นเคสที่กะระยะเบรกผิด ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุกับเพื่อนๆได้ครับ

วิธีดูแลยางรถยนต์หน้าฝน

ต่อมาในช่วงหน้าฝนนี้ ยางคู่ที่เราควรให้ความสำคัญมากที่สุดคือเรื่องยางล้อหลังครับ ยางล้อหลังเป็นยางที่สำหรับประคองวิ่งตามและไม่สามารถควบคุมได้ตัวเราเองครับเพราะฉะนั้นเราต้องเช็กยางคู่หลังของเราให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานร่องดอกยางเต็ม เพราะจะช่วยลดปัญหาการเสียการควบคุมได้เมื่อขับรถผ่านแอ่งน้ำได้ครับ หากดอกยางล้อหลังเหลือน้อยแล้วนั้นโอกาสเกิดการเหินน้ำในล้อหลังจะเกิดสูงมาก ซึ่งทำให้รถสามารถเสียหลักและท้ายปัดได้ครับ ซึ่งเพื่อนๆอาจเห็นตามท้องถนนบ่อยที่มีรถหมุนกันกลางถนน ก็เพราะเหตุนี้ละครับจึงต้องตรวจเช็กล้อหลังด้วยนะครับไม่ใช่เช็กแต่ล้อหน้าการเสียการควบคุมจากท้ายปัดเป็นสาเหตุใหญ่เลยครับเพราะส่งผลให้เกิดความเสียหายเยอะครับ

วิธีดูแลยางรถยนต์หน้าฝน

การเติมลมยางอันนี้ จอร์จ ขอแนะนำครับ ว่าควรเติมลมสูงขึ้นกว่าปกติครับ 1-2 PSI ครับ เพราะการเติมลมสูงขึ้นทำให้ยางมีการโกงตัวเกิดขึ้นและทำให้ร่องดอกยางมีการขยายตัวและสามารถระบายน้ำออกจากหน้ายางได้ดีขึ้นครับ ซึ่งจริงๆ ก็ช่วยได้ในส่วนเดียวครับไม่มากเท่าไหร่ครับ

จากการทดลองถ้าเราเติมลมน้อยลงทุก 7 ปอนด์ต่อตางรางนิ้วเมื่อเราวิ่งขับผ่านน้ำ หน้าสัมผัสพื้นถนนจะมีพื้นที่ลดลงถึง 50% เยอะมากเลยครับ และถ้าเราไปอีก 7 ปอนด์ ก็จะทำให้ผิวสัมผัสของหน้ายางกับพื้นถนนเหลือเพียง 25% เท่านั้นครับจะกลับกันกับเคสปกติที่ว่าถ้าหน้าร้อนยิ่งเติมลมมากผิวสัมผัสยิ่งน้อยลง แต่ถ้าหน้าฝนต้องเติมลมสูงกว่าเล็กน้อยเพื่อให้มีการระบายน้ำได้ดีขึ้นครับแล้วการยึดเกาะถนนจะทำได้ดีกว่าเดิมครับ

ก็อยากจะขอเตือนเพื่อนๆครับ ในช่วงนี้หากฝนตกอยากให้เพื่อนๆลดความเร็วลงมาจากปกติบ้างครับ และหากเสียหลักก็ควรควบคุมสติและค่อยๆบังคับเอารถให้อยู่ครับ เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนๆเพราะจอร์จไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่ดีๆกับทุกๆคนครับ เพราะ จอร์จ เป็นห่วงทุกคนครับ ปลอดภัยหายห่วงกับ ไทร์บิดครับ วันนี้ มากับฝนก็จะไปกับฝนครับ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบครับ

เพื่อนๆ สามารถที่จะคลิกอ่านบทความรู้ยางรถยนต์ เรามีรีวิวยางและบทความรู้ยานยนต์ได้อย่างครบถ้วนเพิ่มเติมได้ฟรีเลยนะครับผม หรือสะดวกช้อปยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ www.tiresbid.com และเรายังมีบริการที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางรถยนต์ที่คอยให้คำแนะนำ โดยสามารถติดต่อช่องทาง Line OA : @tiresbid (มี @ ด้วยนะครับ) ทักมาให้พวกเราได้ครับผม ยินดีให้บริการอย่างยิ่งเลยครับ โอกาสหน้ามีบทความอะไรใหม่ๆติดตามกันนะครับ

ตั้งศูนย์ กับ ถ่วงล้อ

สวัสดีครับผม วันนี้จะมาไขข้อสงสัยให้กับเพื่อนๆหลายๆ คนยังมีความเข้าใจผิดว่า การตั้งศูนย์กับถ่วงล้อ คืออย่างอย่างเดียวกันไหม ไทร์บิดเลยอยากจะมาขออธิบายอีกว่าทั้งสองอย่างนี้คืออะไร และ มีความสำคัญอย่างไรกันบ้างครับ

ตั้งศูนย์ กับ ถ่วงล้อ

อย่างแรกเลย การถ่วงล้อ คือ การทำให้ล้อนั้นมีความสมดุลของน้ำหนักเท่ากันทั้งวง โดยจะทำเมื่อมีการถอดใส่ยางใหม่กับแม็กซ์ครับ ไม่ว่าจะมีการถอดเอามาปะซ่อม หรือเปลี่ยนจุ๊บยางก็ตาม ก็ควรจะมีการถ่วงใหม่ทุกครั้ง เนื่องจากตำแหน่งยางมีการเปลี่ยนตำแหน่งอาจทำให้น้ำหนักของยางทั้งวงไม่เหมือนเดิมได้ซึ่งจะทำให้เกิดอาการสั่นเมื่อใช้งาน

การถ่วงล้อ ไม่ว่ายางจุดสีแดงหรือสีเหลือง จะอยู่ที่จุดใดบนแม็กซ์ไม่มีผลต่อการใช้งานหลังถ่วงล้อเสร็จ เพราะ หลังจากถ่วงล้อเสร็จน้ำหนักของวงจะเท่ากันทั้งหมด แต่จุดเหลือแดงเป็นจุดที่ทำให้คนถ่วงนั้นทำงานได้ง่ายขึ้น และ ใช้ตะกั่วถ่วงได้น้อยลงเท่านั้น

ตั้งศูนย์ กับ ถ่วงล้อ

อย่างที่สองคือตั้งศูนย์ การตั้งศูนย์นั้นจะทำให้ศูนย์ล้ออยู่ในองศาที่ถูกต้องไม่แบะออกเกินไป หรือ ไม่หุบเกินไป ซึ่งจะทำให้การขับขี่ของรถเรานั้นสมบูรณ์มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการตั้งศูนย์ของมุมแคสเตอร์ และ แคมเบอร์ ปัญหาของศูนย์ล้อเมื่อมีปัญหาอาการที่จะบ่งชี้จะมีอยู่ สองอย่าง แรกคือมีอาการกินซ้ายหรือกินขวาเวลาขับขี่ สองอาการสึกของหน้ายางมีปัญหากินสึกไม่เท่ากันของ ขอบในหรือขอบนอก (กรณีที่ยางสึกเป็นลูกคลื่นนั้นจะเกิดปัญหาจากช่วงล่างที่ต้องเช็กแก้ไขก่อนและค่อยนำมาตั้งศูนย์)

ตั้งศูนย์ กับ ถ่วงล้อ

ซึ่งการตั้งศูนย์นั้น แล้วเปลี่ยนยางใหม่ต้องตั้งศูนย์ ถ่วงล้อไหม?? แน่นอนครับ สิ่งที่ต้องทำคือ ถ่วงล้อครับอย่างที่แจ้งเป็นข้างต้นเพราะหากล้อที่ใส่ยางใหม่มานั้นไม่มีความสมดุลในล้อทั้งวง เมื่อใช้งานก็จะเกิดอาการสั่นเมื่อใช้ความเร็วเยอะๆ เพราะเนื่องมาจากว่าล้อกลิ้งไม่กลมทั้งวงครับ

แต่ถ้าเพื่อนมาถามว่าแล้วตั้งศูนย์ละจำเป็นไหม ไทร์บิดต้องเรียนแจ้งก่อนว่าเมื่อเราเปลี่ยนยางเราถอดแมกซ์ออกจากดุมล้อ และ ใส่กลับเข้าไปที่เดิมเพราะฉะนั้น การเปลี่ยนยางใหม่จะไม่ได้กระทบกับช่วงล่าง และ ศูนย์ล้อเดิมเลยครับ ซึ่งจริงๆ แล้วศูนย์ล้อเนี่ยเป็นส่วนที่ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ควรจะไปปรับแต่งหรือยุ่งกับมันครับ เพราะทุกครั้งที่ร้านแจ้งว่าตั้งศูนย์นั้นหมายถึงทางร้านจะทำการเช็กศูนย์ให้โดยขึ้นที่เครื่องและตรวจสอบแต่ส่วนมากแทบไม่ได้ปรับแต่งต้องทำอะไรกับศูนย์เท่าไหร่ครับ แต่ถ้ามีอาการหรือปัญหาเหมือนข้างต้นแน่นอนครับควรตั้งศูนย์แต่ก่อนจะตั้งศูนย์แน่นอนว่าต้องมีการบำรุงช่วงล่างหรือหาสาเหตุที่ให้แน่ชัดก่อนครับว่า ปัญหาที่ศูนย์เพี้ยนเกิดจากอะไร

ตั้งศูนย์ กับ ถ่วงล้อ

แต่ก็จะมีเคสที่เป็นปัญหาก็คือ เมื่อเปลี่ยนยางแล้วมีปัญหาการกินซ้ายและขวาทั้งๆที่ตั้งศูนย์แล้วก็ยังไม่หายส่วนมากเหตุการณ์แบบนี้ขอให้เพื่อนๆ เข้าใจว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นคือช่วงล่างมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นคันชักคันส่ง หรือว่าแร็คพวงมาลัยที่อยู่ด้านในที่มีปัญหามีโอกาสทำให้มีปัญหาการดึงซ้ายหรือดึงขวาเหมือนเดิมครับ

ตั้งศูนย์ กับ ถ่วงล้อ

และก็จะมีอีกปัญหาหนึ่งก็คือ เมื่อเปลี่ยนยางแล้วเส้นเก่าไม่เคยมีปัญหาการดึงซ้ายหรือขวา เลย แล้วทำไมเปลี่ยนยางเส้นใหม่แล้วมีปัญหากินขวากินซ้ายทั้งๆที่ศูนย์ล้อเดิมก็ไม่มีปัญหา อันนี้ผลมาจาก ยางเส้นเก่าที่ก่อนเปลี่ยนนั้นมีการสึกรับกับศูนย์ที่เพี้ยนไปแล้วจนถึงกระทั่งทำให้มีการวิ่งที่ตรง หรือ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งศูนย์เพื่อรองรับกับยางที่สึกผิดปกติทั้งๆ ที่มีปัญหาการกินซ้ายกินขวาอยู่แล้ว พอมาเปลี่ยนยางใหม่ที่มีการสึกเรียบอยู่ทำให้ศูนย์ที่เคยเป็นอยู่นั้นเพี้ยนไปด้วยครับ 

เพราะฉะนั้นจริงๆ เรื่องของการเปลี่ยนยางนั้น ที่แน่ๆเราต้องถ่วงล้อแน่นอน ถ้าเกิดอาการสั่นให้เพื่อนๆไปถ่วงล้อใหม่ครับ แต่ถ้ากินซ้ายกินขวา สึกผิดปกติขอบด้านใน หรือด้านนอกอย่างเดียวก็ให้ไปเช็กเรื่องศูนย์ล้อครับ และอยากให้เพื่อนๆหมั่นเช็กช่วงล่าง และ แมกซ์ด้วยครับเมื่อมีปัญหาข้างต้นเกิดขึ้น แล้วเพื่อนๆ ก็จะพบปัญหาที่แท้จริงๆ ที่ทำให้เพื่อนๆเข้าใจว่า ไม่ใช่ปัญหาที่ยางมีปัญหาครับ เพื่อนๆสามารถที่จะอ่านบทความรู้ยางรถยนต์ เรามีรีวิวยางและบทความรู้ยานยนต์ได้อย่างครบถ้วนครับผม หรือสะดวกช้อปยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ www.tiresbid.com ถ้าหากเพื่อนๆ มีข้อสงสัยเรื่องยางไม่แน่ใจว่ารถตัวเองใช้กับยางรุ่นไหนถึงเหมาะสม เราก็มีบริการที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางรถยนต์ที่คอยให้คำแนะนำ โดยสามารถติดต่อช่องทาง Line OA : @tiresbid (มี @ ด้วยนะครับ) โอกาสหน้ามีบทความอะไรใหม่ๆติดตามกันนะครับ

วิวัฒนาการของยางรถยนต์

สวัสดีครับ วันนี้จอร์จจากไทร์บิดกลับมาอีกครั้งครับ กับบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องยางรถยนต์ครับผม ถ้าพูดถึงยางเพื่อนๆคงอยากรู้ใช่ไหมครับ ว่ายางรถยนต์ในอนาคตต่อไปจะเป็นอย่างไรบ้างมันจะยังคงหน้าตาแบบเดิมอยู่ไหม หรือ ว่าจะมีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ เข้ามาอีก ซึ่งจากที่จอร์จทราบมา ณ ปัจจุบันมีความพยายามมากๆ ในการพัฒนาให้ยางนั้นมีความอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้นครับ ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย การนำกลับมาใช้ใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องของความอเนกประสงค์เพิ่มมากยิ่งขึ้น

Evolution-Of-Tires

ถ้าพูดถึงเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่ยางก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก เพราะมีหลายๆครั้งที่อุบัติเหตุเกิดจากยางแตกทำให้รถเสียหลักจึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องว่าจะทำอย่างไร ให้ยางที่สูญเสียลมหรือยางแตกนั้นสามารถใช้งานได้ต่อไปซึ่งถามว่าในปัจจุบันก็มี ยางรันแฟลต ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้ในระดับที่เรียกว่าดีมากแล้วสำหรับปัจจุบัน แต่ข้อเสียก็คือ หากแตกเสียหายแบบนี้ก็ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานไม่ว่าจะเป็นระยะทาง หรือว่ายางก็จะเสียหายไปเลยไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งทำให้บริษัทยางต่างๆ พยายามคิดค้นยางที่ไม่ใช้ลม (ไม่ใช่ยางตันนะครับเพื่อนๆ ที่มาทดแทน)

Evolution-Of-Tires

ซึ่งยางในอนาคตต้องมีนวัตกรรมที่มีความนุ่มเงียบ และปลอดภัยมากขึ้นเสียหายได้ยากขึ้นครับ โดยจริงๆ ปัจจุบันได้มีการนำเอายางที่ไม่ใช้ลมและโดนตะปูมาใช้จริงแล้วนะครับ แต่ว่าเป็นรถที่ใช้สำรวจบนอวกาศ ซึ่งยังมีการใช้ที่น้อยมาก แต่ว่าหลังๆเพื่อนๆ อาจจะได้เห็นว่ามีตัวอย่างยางดังกล่าวออกมาให้เห็นบ้างแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้นำมาจำหน่ายหรือขายกันครับ เพราะในเรื่องของราคาและกระบวนการผลิตต่างๆ ครับ ก็เป็นนวัตกรรมเรื่องยางอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนปลอดภัยเพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ

Evolution-Of-Tires

ส่วนต่อมาถ้าพูดถึงการนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อนๆ คงสังเกตเห็นแล้วใช่ไหมละครับ ว่ากองยางที่ใช้แล้ว หรือเสียนั้น ปัจจุบันอาจเห็นได้ตามขยะ แม่น้ำลำคลองเต็มไปหมด เพราะว่ายางปัจจุบันใช้แล้วนั้นสามารถทำลายยางได้ครับ

ถ้านำไปทำลายก็มีอยู่ 2-3 วิธีการ คือ นำเอาไปแยกเส้นลวดกับยางออก แล้วนำเอาไปแปรรูปเป็นยางรองพื้นให้สัตว์เดินบ้าง เส้นลวดก็นำไปหลอมทำใหม่ต่อไป หรือ ไม่ก็นำไปเผาเพื่อให้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงใช้งานในโรงงานต่อๆ ไป ซึ่งก็ยังช่วยลดปริมาณขยะส่วนนี้ได้พอสมควร แต่จะทำยังไงให้วิธีพวกนี้หมดไป และดีต่อสภาพแวดล้อมมากที่สุด

Evolution-Of-Tires

ซึ่งบริษัทยางแต่ละที่ก็คิดพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ถามว่าปัจจุบันมีการยืดอายุได้ยังไงก็คือก็แกะร่องดอกยางในยางรถบรรทุก ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ทำให้ยางใช้ได้นานขึ้น แต่กับยางรถเก๋งนั้นไม่ค่อยนิยมทำกันครับ ดังนั้นบริษัทยางก็ต้องออกยางที่ใช้ให้ได้คุ้มที่สุด โดยทำยังไงก็ได้ให้ยางใช้ได้จนหมดอายุการใช้งานแม้โดนเบียดแตกก็ยังใช้ได้อยู่

ส่วนต่อมา วัสดุที่ใช้นั้นยังมีการคิดวิเคราะห์และค้นหาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้วัตถุดิบ สารเคมีที่นำมาทดแทนทำให้การใช้งานได้ทั้งแบบยางที่ดีและสามารถย่อยสลายได้ง่ายด้วยครับ ก็จะเป็นสองส่วนที่ทางผู้ผลิตยางยังค้นหาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจอร์จคิดว่าอีกไม่นานเราจะได้เห็นกันครับ

ส่วนสุดท้ายก็คือ ทำยังไงให้ยางนั้นอเนกประสงค์เพิ่มมากยิ่งขึ้น ตามที่ได้แจ้งเพื่อนๆไวตั้งแต่ในช่วงต้นบทความ โดยปัจจุบันเพื่อนๆก็เห็นยางมีหน้าที่แค่เกาะถนนกับใช้ในการขับเคลื่อนของรถใช่ไหมครับ ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ยางรถนั้นอเนกประสงค์เพิ่มมากยิ่งขึ้นรองรับไลฟ์สไตล์การใช้งานหลากหลายมากขึ้นในอนาคตต่อไป จากรถที่ต้องใช้งานการขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์กลาง จะถูกปรับเปลี่ยนให้ยางแต่ละวงนั้น สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวของยางเอง ซึ่งมีรูปภาพที่ออกมาแล้วในการพัฒนารูปแบบนี้ คือจะมีเครื่องยนต์ที่ติดกับล้อแต่ละล้อเลยครับ ซึ่งจะทำให้โลกของเราลดปริมาณการใช้เครื่องยนต์อีกเป็นจำนวนมากครับ

ซึ่งยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องครับ สำหรับยางรถทุกประเภทเพื่อให้โลกเราได้ใช้ของที่ดียิ่งขึ้นไปครับ เพื่อนๆที่ต้องการหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องยางต่างๆสามารถเข้ามาหาอ่านบทความรู้ยางรถยนต์ฟรี หรือเช็กราคายางเปรียบเทียบได้ที่เว็บไซต์ www.tiresbid.com ครับเรามีความรู้เรื่องยางและรีวิวยางมากมายหลายๆรุ่นครับ พร้อมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ทางไทร์บิดได้ฟรีที่ Line official : @tiresbid ขอขอบคุณมากครับที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ โอกาสหน้าติดตามบทความดีดีจากไทร์บิดใหม่ครับ

Carro-Tiresbid-How-To-Choose-Tire-For-Car

ยางรถยนต์แต่ละยี่ห้อทำไมราคาช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ทั้งๆที่บางทีใช้งานก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่ ข้อสงสัยของเพื่อนๆ ที่คาดว่ามีอยู่ในปัจจุบันจำนวนมากเลย ทำให้เพื่อนๆไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ยี่ห้อไหนดี เลือกใช้ตามแบรนด์ที่ตัวเองมั่นใจ หรือว่าเลือกใช้ตามงบประมาณที่ตัวเองมีพอ หรือมีปัจจัยอื่นควรพิจารณาก่อนเปลี่ยนใหม่กันแน่นะ ??

ในบ้านเราปัจจุบันมีแบรนด์ยางมากกว่า 20 แบรนด์ครับ ซึ่งมีตั้งแต่ทุกคนพูดชื่อแล้วรู้จักเลย กับอีกแบบคือพูดมาแล้วไม่เคยได้ยินเลยถึงกับงงว่าและสงสัยว่ายางได้คุณภาพรึเปล่า ซึ่งไทร์บิดขอมาแบ่งยางแต่ละแบบคร่าวๆ ก่อนในปัจจุบันที่บ้านเรามีก็คือ กลุ่มรถบ้าน กลุ่มรถแต่ง ซึ่งจะแบ่งหลักๆ ได้อยู่ 2 ประเภทครับ 

How-To-Choose-Tire-For-Car

กลุ่มรถบ้าน เป็นกลุ่มที่ปริมาณการใช้เยอะที่สุด ซึ่งจะมีแบรนด์ชั้นนำที่เพื่อนๆรู้จักชื่ออยู่แล้ว ตั้งแต่ มิชลิน บริดจสโตน โยโกฮามา กู๊ดเยียร์ ดันลอป คอนติเนนทอล ดีสโตน แม๊กซิส โอตานิ อพอลโล ฯลฯ ซึ่งในกลุ่มแบรนด์พวกนี้จะมีให้เพื่อนๆ ได้เลือกกันหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นยางประเภทนุ่มเงียบ ยางสปอร์ต ยางกระบะบรรทุก หรือ จะเป็นยางอเนกประสงค์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ

ซึ่งทุกแบรนด์พยายามทำให้ทั้งลายดอกยาง และ แก้มยางนั้นมีความทันสมัยให้ดูสวยเตะตา ซึ่งแต่ละแบรนด์ยางจะมีความโดดเด่นของแต่ละแบรนด์ที่มากกว่ากันครับ เช่นบางแบรนด์เน้นนุ่มเงียบ บางแบรนด์เน้นการใช้งานสมรรถนะการขับขี่ที่ดี บางแบรนด์เน้นอายุการใช้งานที่ยาวนาน หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาที่ประหยัดจับต้องได้

How-To-Choose-Tire-For-Car

แต่ก็อาจจะแลกมาด้วยอายุการใช้งานของยางแบรนด์นั้นๆ ครับ ซึ่งถ้าเทียบกันจุดแตกต่างที่ชัดเจนของทุกๆแบรนด์นั้นจะเกี่ยวกับเรื่องของอายุการใช้งานครับส ภาพของเนื้อยางนั้นจะมีความทนทานที่แตกต่างกัน ในกลุ่มแบรนด์พรีเมียม กับ กลุ่มยางราคาประหยัดครับ ซึ่งถ้าเทียบความต่างกันจะอยู่ราวๆ 30-40% ครับ ซึ่งราคาอาจจะไม่ได้แตกต่างกันขนาดนั้น

แต่สิ่งที่ต่างรองลงมาในกลุ่มนี้ก็จะเป็นเรื่องของสมรรถนะและความนุ่มเงียบครับ ก็แตกต่างกันไป อยู่ประมาณ 10-30% (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเลือกยางให้ตรงกับคุณลักษณ์ของลายดอกยางนะครับ จะไม่สามารถเอายางสปอร์ตมาเทียบกับยางประเภทนุ่มเงียบเพราะการใช้งานจะแตกต่างกันครับ) ซึ่งโดยรวมก็จะเป็นค่าการตลาดที่แตกต่างกันไปครับ เห็นแบรนด์ใดบ่อยๆก็แปลว่าการตลาดหนักต้นทุนก็แพง ก็บวกราคาไปในค่าสินค้านั่นแหละครับ

How-To-Choose-Tire-For-Car

กลุ่มรถแต่ง จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับกลุ่มแรกไม่ว่าจะเป็นเรื่องลายดอกยางที่เน้นการเกาะถนน หรือ ว่าจะเป็นไซส์ยางที่แปลกไปจากปกติ ที่เน้นให้มีซีรี่ส์ที่ต่ำเพื่อให้รถสวย และช่วยในการทรงตัวการขับขี่ที่ดีครับ ซึ่งยางกลุ่มนี้มียี่ห้อที่คุณภาพที่คนส่วนใหญ่รู้จักก็จะมี Yokohama Nitto Toyo ส่วนแบรนด์อื่นๆก็จะมีทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์จีน ซึ่งถ้าพูดชื่อแบรนด์ไปคาดว่าจะไม่คุ้นหูครับ แต่กลุ่มแต่งรถซิ่งยังไงก็ต้องเคยได้ยินครับ

กลุ่มรถซิ่งจริงๆก็มีการแบ่งเกรดเช่นกันทั้งเกรดพรีเมียม และ เกรดยางราคาประหยัด ซึ่งกลุ่มแบรนด์พรีเมียมจะมีสมรรถนะที่ดีมาก และมีความคงทนที่ดี แต่กลุ่มราคาประหยัดถ้าสังเกตบางทีจะลายดอกยางเหมือนกับแบรนด์บนๆครับ อาจจะคล้ายแต่ไม่เหมือนซะทีเดียวซึ่งการใช้ไม่คล้ายกันเลยครับ เพราะการยึดเกาะถนนการรีดน้ำอาจทำได้น้อยกว่า เพราะว่าเป็นส่วนของเรื่องสูตรเนื้อยางมาประกอบด้วย

แต่ถามว่าทุกแบรนด์ที่ผลิตในบ้านเราใช้ได้หายห่วงไหม เดี๋ยวนี้แทบจะ 100% แล้วครับตั้งแต่มี มอก. เข้ามาควบคุมการดูแล เพราะไม่ใช่ว่าใครอยากจะเอายางมาขายในบ้านเราได้แล้วครับ ยางทุกเส้นต้องมีมาตราฐานที่ดี 

เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ไม่ต้องงงนะครับ เวลาจะเลือกยาง ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นรถบ้านทั่วไป เข้าตามจุดบริการใกล้บ้านหาแบรนด์ชั้นนำยังไงก็เจอแล้ว เราค่อยมาลงรายละเอียดว่าเน้นใช้งานแบบนุ่มเงียบ สปอร์ต บรรทุก อะไรก็ว่าไป แล้วมาดูที่ราคาครับ ต้องบอกว่าราคาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยชี้วัดได้ในระดับหนึ่งสำหรับยางครับ แต่ถ้าหากเพื่อนๆมีข้อสงสัยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ทางไทร์บิดได้ที่ Line official : @tiresbid หรืออ่านบทความรู้ยางรถยนต์ฟรี และหากต้องการข้อมูลเรื่องยางเช็กเปรียบเทียบข้อมูลได้เลยที่ www.tiresbid.com ครับข้อมูลครบถ้วนครับผม

Pros-And-Cons-About-New-Mag-Wheel

สิ่งหนึ่งที่นิยมทำกันเพื่อช่วยเพิ่มความสวยงามหรือเสริมความเท่ห์ให้กับรถคันเก่งของคุณก็คือ การเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ ซึ่งโดยทั่วไปจะนิยมเพิ่มขนาดความกว้างของล้อแม็กไปพร้อมๆ กับการใช้ชุดแต่งสเกิร์ต เพื่อทำให้รถดูโหลดเตี้ยลงอีกนิด ถือเป็นการปรับโฉมยอดนิยมที่ “เพิ่มความคูล” ให้กับรถของคุณได้แบบผิดหูผิดตา

แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ที่คุณอาจจะยังนึกไม่ถึง มีด้วยกันอยู่หลายข้อ ไม่นับรวมกับค่าใช้จ่ายหลักหมื่นที่เพิ่มขึ้นมาจากการซื้อแม็กทั้ง 4 ล้อ ยิ่งถ้าหากเลือกวัสดุทำสีพิเศษ แล้วเป็นอัลลอยน้ำหนักเบาด้วยแล้วล่ะก็ ต้นทุนค่าทำสวยครั้งนี้ก็หมดไปไม่น้อยเลยทีเดียว

โดยสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเปลี่ยนล้อแม็กนั้น เป็นสิ่งที่คุณควรพิจารณาร่วมกับขนาดของล้อแม็กที่ต้องการจะเปลี่ยน เพราะว่าส่งผลกับความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณได้นั่นเอง

การขับขี่หลังจากเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์

ทั่วไปแล้วคนมักจะมีความเข้าใจว่า การเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งก็จะต้องใช้ยางรถยนต์ที่มีหน้ายางกว้างขึ้นกว่าเดิมด้วยนั้น จะช่วยให้รถของคุณเกาะถนนได้ดีขึ้นกว่าเดิม เรื่องนี้ก็มีความจริงอยู่ แต่ว่าก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ในทุกกรณี เนื่องจากต้องพิจารณาในเรื่องของกำลังแรงม้า และขนาดของล้อแม็กที่คุณเลือกด้วย เพราะว่าถ้าผิวสัมผัสของหน้ายางกับพื้นถนนมีมาก อีกทั้งกำลังส่งหรือเครื่องยนต์ของรถคุณนั้นมีกำลังไม่มากพอ จะเกิดอาการ “พวงมาลัยรถหนัก”

อาการที่ว่านี้จะทำให้คุณขับขี่ไม่คล่องตัวเหมือนเดิม การบังคับพวงมาลัยรถเพื่อเลี้ยวจะทำได้ลำบากขึ้น เรียกง่ายๆ ว่า เกิดแรงต้านมากขึ้น เพราะล้อทั้ง 4 ล้อมีผิวสัมผัสกับถนนเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้จะทำให้คุณรู้สึกว่ารถเกาะถนนดีขึ้น แต่กลับไม่สามารถบังคับพวงมาลัยรถได้ง่ายเหมือนเดิม ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้เมื่อมีการเปลี่ยนเลนในระยะกระชั้นชิด รวมไปทั้งการถอยรถเข้าจอดในซองก็จะค่อนข้างลำบาก

Pros-And-Cons-About-New-Mag-Wheel

ข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ มีอะไรบ้าง? ไปดูกัน

นอกจากปัญหาเรื่องการบังคับรถยาก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างขับขี่ได้แล้วนั้น ข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ที่คุณควรรู้เอาไว้ก่อนตัดสินใจ ยังมีด้วยกันอีกหลายข้อ ดังนี้

  • ทำให้ช่วงล่างแข็งขึ้น

โดยทั่วไปเมื่อยางมีขนาดใหญ่ขึ้น แก้มยางก็จะเตี้ยลง ผลที่ตามมาก็คือ ช่วงล่างจะแข็งขึ้น ไม่นุ่มสบายเหมือนกับที่โรงงานตั้งค่ามาให้ตั้งแต่ต้น แก้มยางที่บางลงจะส่งผลโดยตรง กับการซับแรงกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ถ้าหากโชคร้ายขับรถตกหลุมด้วยความเร็วสูงล่ะก็ โอกาสเสี่ยงที่ยางระเบิดจะมีสูงด้วยเช่นกัน ในกรณีที่เลวร้ายมาก ๆ อาจทำให้ “ล้อดุ้ง” เลยก็มี

  • ออกตัวอืดและมีอัตราเร่งแย่ลง

ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนั้น จำเป็นต้องใช้แรงบิดจากเครื่องยนต์มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อไปกระทำต่อล้อและส่งกำลังให้ล้อหมุนไปข้างหน้าได้ จึงส่งผลให้รถออกตัวได้อืดกว่าเดิม รวมถึงในกรณีที่ต้องการเร่งแซง คุณจำเป็นที่จะต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้น เพื่อเร่งให้รถวิ่งได้เร็วขึ้นตามที่ต้องการ เพราะพื้นผิวสัมผัสของยางรถยนต์ กับพื้นถนนมีมาก จึงเร่งเครื่องรถยนต์ ได้ไม่ดีเท่ากับล้อมาตรฐานที่มาจากโรงงาน

  • กินน้ำมันมากกว่าเดิม

ผลที่ตามมาจากการที่ต้องเร่งเครื่องยนต์ให้แรงขึ้นเพื่อให้รถวิ่งได้ในความเร็วที่ต้องการ แน่นอนว่ารถจะกินน้ำมันมากขึ้น เพราะเกิดพื้นที่เสียดทานระหว่างหน้ายางและผิวถนน มากกว่าเดิม จึงต้องใช้กำลังเครื่องยนต์มากกว่าเดิมในการขับเคลื่อน โดยทั่วไปจะสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการขับรถของแต่ละคนด้วย

  • ไมล์ความเร็วอ่านค่าผิดเพี้ยน

การตั้งค่าไมล์ความเร็วของวิศวกรจากโรงงาน จะตั้งค่าเรือนไมล์ให้มีความเร็วถูกต้องตรงตามขนาดล้อและยางของรถแต่ละรุ่น สเปคตามโรงงาน แต่ถ้าคุณนำรถไปเปลี่ยนแม็กและยางเอง จะทำให้เกิดปัญหาที่เรียกว่า “ไมล์แข็งขึ้น” หรือความเร็วบนหน้าปัดที่แสดงนั้น น้อยกว่าความเร็วจริงที่คุณขับขี่อยู่ ซึ่งจะส่งผลให้คุณได้รับใบสั่งที่บอกว่า ขับด้วยความเร็วเกินกำหนดแบบไม่รู้ตัว

  • ค่าบำรุงรักษาแสนแพง

เมื่ออยากได้รถสวยก็ต้องทำใจ เรื่องนี้เป็นความจริงเกี่ยวกับยางรถยนต์ด้วย เพราะยางที่ใหญ่ขึ้น จะมีราคาสูงกว่ายางขนาดปกติพอสมควรเลย เมื่อถึงอายุการใช้งานที่จะต้องเปลี่ยนยางแต่ละครั้ง มีค่าใช้จ่ายหลักหมื่นรออยู่แน่นอน และถ้าหากคุณไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ตัวเมือง ยางบางรุ่นก็จะกลายเป็นของหายากโดยปริยาย เพราะที่ร้านก็จะไม่ค่อยสต๊อกยางแต่งในลักษณะนี้เอาไว้เท่าไหร่

ถึงแม้ข้อเสียของการแต่งล้อแม็กรถยนต์นั้นจะมีด้วยกันอยู่หลายข้อ แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเสียทีเดียว เพราะการเลือกขนาดของล้อแม็กที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย จะช่วยให้รถของคุณมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีขึ้น

Pros-And-Cons-About-New-Mag-Wheel

แล้วข้อดีของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ล่ะ มีอะไรบ้าง?

ในวงการยานยนต์เริ่มมีการใช้ล้อขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากทางวิศวกรมีความต้องการที่จะเช็กรถให้มีความสามารถในการขับขี่มากขึ้น อีกทั้งต้องการเพิ่มความสวยงามโดดเด่นให้กับรถรุ่นใหม่ ๆ ให้มีความสะดุดตามากกว่า ดังนั้นจึงเป็นที่ยอมรับกันดีว่า การเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์นั้นมีข้อดีด้วยกันหลายอย่าง ดังนี้

  • เพิ่มความสวยงามสะดุดตา

การเปลี่ยนล้อแม็กให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะช่วยให้ล้อดูเต็มซุ้ม ไม่มีพื้นที่ช่องว่างระหว่างซุ้มล้อกับยาง ดูแล้วสวยงาม อีกทั้งยังสามารถบ่งบอกถึงคาแรกเตอร์ของเจ้าของรถ หรือให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับรถคันนั้นได้อีกด้วย ไม่ต่างจากการทำสีรถเลย

  • เพิ่มการเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าเมื่อแต่งล้อแม็กรถยนต์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ขนาดยางที่มีหน้าสัมผัสเพิ่มมากขึ้น จะทำให้รถสามารถเกาะถนนได้ดีขึ้นกว่าเดิม เข้าโค้งได้ดีกว่าเก่า เพราะพื้นสัมผัสที่เพิ่มขึ้นในทั้ง 4 ล้อ รวมไปถึงแก้มยางที่เตี้ยลง จะช่วยลดการโยนตัวในระหว่างที่เข้าโค้งด้วยความเร็วนั่นเอง

  • เบรกดีกว่าเดิม

คุณจะได้ประสิทธิภาพของระบบเบรกที่ดีขึ้นกว่าเดิมซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการใช้ยางที่มีหน้าสัมผัสใหญ่ขึ้น เมื่อคุณเหยียบเบรก จะสามารถสั่งห้ามล้อหรือลดความเร็วได้ดีกว่าเก่า ทำให้เกิดความรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการขับรถทางไกล ที่ใช้ความเร็วสูงสม่ำเสมอในการเดินทาง

เมื่อคุณรู้แล้วว่าข้อดีและข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์เป็นอย่างไร เมื่อต้องการเลือกที่จะเปลี่ยนล้อ ก็อย่าลืมคำนึงถึงขนาดของล้อแม็กที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยและได้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นกว่าการใช้ล้อและยางมาตรฐานที่มาจากโรงงาน โดยในส่วนของความสิ้นเปลืองอัตราการใช้น้ำมันที่มากขึ้นนั้น ก็จะเป็นรายจ่ายคงที่ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องเรื่อย ๆ ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับการบำรุงรักษาตามระยะทาง ก็จะโดนเป็นแบบครั้งคราวไป

และถ้าหากคุณอยากขับขี่และใช้รถใช้ถนนได้อย่างอุ่นใจ ก็อย่าลืมมองหาการคุ้มครองด้วยการซื้อประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับลักษณะการขับขี่ของคุณ ที่ Roojai.com เรามีประกันรถยนต์หลากหลายรูปแบบ รวมถึงประกันมอเตอร์ไซค์และบิ๊กไบค์สำหรับชาวไบค์เกอร์อีกด้วย เพียงกรอกข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรถและผู้ขับขี่ สามารถเช็คเบี้ยประกันและความคุ้มครองของประกันแต่ละรูปแบบ พร้อมทั้งซื้อได้ภายใน 5 นาที พร้อมผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้คำปรึกษากับคุณ เพื่อเลือกแผนประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด

และถ้าหากไม่อยากพลาดโปรโมชั่นใหม่ๆ และเรื่องราวดีๆ ก็สามารถ Add Official Line ของเราได้ที่ http://nav.cx/8tzQPw8