รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาน่าซื้อในงาน Motor Expo 2021

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ในปัจจุบันเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ที่สมรรถนะดีมากกว่าในอดีตมาก และออพชั่นติดรถสุดทันสมัย ไม่แพ้รถยนต์นั่งเลยทีเดียว ซึ่งคาวมนิยมในบ้านเรากับความเป็นรถสารพัดประโยชน์ ทั้งในเชิงพาณิชย์ การใช้งานที่อเนกประสงค์ ขนของได้ ลุยน้ำได้ ไปกันได้หลายคน ใช้ทำเป็นรถรับจ้างหาเงินได้อีกด้วย

ในงาน Motor Expo 2021 นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, นิสสัน, มิตซูบิชิ, ฟอร์ด หรือ เอ็มจี ต่างส่งรถกระบะโฉมใหม่ หรือรุ่นพิเศษของตัวเองออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด ช่วงชิงยอดจองและยอดขาย โดนใจผู้บริโภคที่อยากเปลี่ยนรถกระบะคันใหม่

โดยในงาน Motor Expo 2021 จะมีรถกระบะรุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

Toyota Hilux Revo GR Sport

Toyota Hilux Revo

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) แม้ว่ากระแสจะดูไม่เปรี้ยงปร้างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อปีที่แล้ว ในงาน Motor Show 2021 ครั้งนี้ ยังชูจุดขายอย่างรุ่น GR Sport กับ Hilux Revo GR Sport ขับเคลื่อน 2 ล้อ ในรุ่น Lo-Floor รถกระบะตัวเตี้ยหน้าหล่อที่เพิ่มความ Sport Premium ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขัน รถยนต์ทางเรียบ Super GT (Grand Touring)

และ Hilux Revo GR Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ ในรุ่น Hi-Floor กระบะยกสูงรุ่นท็อป Premium Adventure ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาจากรถแข่งระดับโลก ที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ World Rally Championship (WRC) เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหารถกระบะดีไซน์สปอร์ต ดุดัน ทันสมัย

ทั้งการออกแบบภายนอก ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอย และการตกแต่งภายในห้องโดยสาร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ GR Sport มาพร้อมกับโช้คอัพแบบ Monotube Shock Absorber เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ขั้นสูง ขับสนุกเร้าใจ ขับลุยได้ทุกที่และมั่นใจในการขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า Toyota Safety Sense

พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ 2.8 GD Super Power 204 แรงม้า ที่ตอบสนองความเร็ว แรง และการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งรถกระบะรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาสำหรับประเทศไทยเท่านั้น

ราคาของ Toyota Hilux Revo อยู่ที่ 584,000 – 1,299,000 บาท

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) โฉมใหม่! ครั้งแรกของโลก! ผลงานความสมบูรณ์แบบล่าสุดจาก DNA ของ Isuzu ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติ ทั้งภายนอกภายใน มิติตัวรถใหญ่ บึกบึนยิ่งขึ้น ดูทรงพลัง และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ยกระดับความพรีเมี่ยม สู่มาตรฐานใหม่ของรถปิกอัพระดับ Top Class ด้วยสีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สีเทาดำ และ Black Chrome พร้อมไฟท้ายดีไซน์โทนสีเข้ม ใหม่! Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคัน เพิ่มความดุดัน และล้อ อัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่! แบบ Robust Radius

ห้องโดยสารภายใน ผสานความเท่ สปอร์ต และหรูหรา ด้วยดีไซน์ High-Class & Sporty เน้นสีแบบทูโทน ดำ-น้ำตาล คอนโซลหน้าสีดำ เบาะคู่หน้าดีไซน์ใหม่ เดินด้ายสีน้ำตาล และพวงมาลัยสัมผัสใหม่ สีทูโทน ออกแบบให้มิติห้องโดยสารกว้างขวางแบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู ด้วยวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยม สี Brown Cafe และ Satin Silver จัดวางสิ่งอำนวยสะดวกสบายตามหลัก Usability Design เน้นการใช้งานหลากหลาย พร้อมระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบของ Isuzu Ultimate Entertainment

มีให้เลือกครอบคลุมทั้งรุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู พร้อมเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 190 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพัฒนาใหม่สไตล์สปอร์ต ขับสนุก แม่นยำยิ่งขึ้น และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่ ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล พร้อมโหมดขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic

ราคาของ Isuzu D-Max อยู่ที่ 510,000 – 1,172,000 บาท

Nissan Navara PRO-4X

Nissan Navara

Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) รถกระบะที่ กล้า… เพื่อคนแกร่ง ดีไซน์คอนเซ็ปต์ “Unbreakable Design” คำนึงถึงการใช้งาน และความชื่นชอบของลูกค้า โดดเด่นด้วยด้วยดีไซน์ใหม่ดุดัน และเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มรูปแบบจาก Nissan Intelligent Mobility

นาวารา ใหม่ มีเครื่องยนต์ 3 แบบได้แก่

  • เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ Twin Turbo เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ YS23DDT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบแปรผันแบบ VGS เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ YD25DDTTi ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผันแบบ VGS ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร

นอกจากนี้ ยังคงความสมบูรณ์แบบที่สามารถลุยได้ทุกที่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และเทคโนโลยีที่เสริมความมั่นใจในทุกสภาวะของเส้นทาง อาทิ ระบบป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential: B-LSD) และ ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า (Electronic Rear Locking Differential) รวมถึงเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) ที่เสริมฟังก์ชัน Off-Road Meter เมื่ออยู่ในโหมด 4L

นอกจากนี้ นาวารา ใหม่ ยังนำรุ่นพิเศษ PRO-4X และ PRO-2X ใหม่ ถ่ายทอดดีเอ็นเอมาจาก Nissan Titan สำหรับลูกค้าที่ชอบการเดินทางแบบผจญภัยพร้อมลุยไปในเส้นทางแปลกใหม่ ที่เสริมความดุดันของดีไซน์ภายนอก จากกระจังหน้า และอุปกรณ์ตกแต่งโทนสีดำ ปรับแต่งช่วงล่างใหม่ให้สามารถลุยไปได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ ด้วยล้ออัลลอยพร้อมยางแบบ All-Terrain

โดยทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมสีพิเศษ สเตลท์ เกรย์ (Stealth Gray) เสริมด้วยชุดแต่งที่มีแอคเซนท์สีส้มแดง ภายในห้องโดยสารเสริมด้วยเบาะนั่งสีดำดีไซน์สปอร์ต ในราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท สำหรับรุ่น PRO-2X และ 1,149,000 บาท สำหรับรุ่น PRO-4X

ราคาของ Nissan Navara อยู่ที่ 599,000 – 1,149,000 บาท

Mitsubishi Triton Ralliart

Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) ยังคงตกแต่งรุ่นพิเศษออมาอย่างต่อเนื่องทุกปี งวดนี้ เกาะการกลับมาของแบรนด์ระดับไอคอน Ralliart (แรลลี่อาร์ท) ได้แก่ Mitsubishi Triton Ralliart (มิตซูบิชิ ไทรทัน แรลลี่อาร์ท) มาพร้อมชุดอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากโรงงาน อาทิ ลวดลายสติกเกอร์ด้านข้างตัวรถสีแดง สีเงิน และสีดำ แผ่นกันโคลนสีแดง รวมถึงชุดตกแต่งใต้กันชนหน้าที่มาพร้อมโลโก้แรลลี่อาร์ท

โดยรุ่นแรลลี่อาร์ทจะแตกต่างจากรุ่นธรรมดา ด้วยชุดตกแต่งภายนอกสีดำสุดพิเศษ ออกแบบเฉพาะสำหรับกระจังหน้า ล้ออัลลอย และหลังคา สำหรับภายในตกแต่งด้วยพรมปูพื้นจะมาพร้อมโลโก้แรลลี่อาร์ทด้วยเช่นกัน

สำหรับ Mitsubishi Triton Ralliart จะมาในรุ่น ไทรทัน ตัวเตี้ย มีให้เลือกในรุ่นย่อย ได้แก่ Mega Cab และ Double Cab ชุดตกแต่งพิเศษประกอบด้วยพื้นปูกระบะท้ายที่มีโลโก้แรลลี่อาร์ท และมือเปิดกระบะท้ายสีดำ เพิ่มลุคสปอร์ตสุดโฉบเฉี่ยวและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ไม่หยุดนิ่ง ของรุ่นไทรทันให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Solid White พร้อมหลังคาสีดำ และสีดำ Jet Black Mica

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 519,000 – 1,109,000 บาท

Mazda BT-50

Mazda BT-50

Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) เจเนอเรชั่นใหม่ ผนวกคุณสมบัติของรถปิกอัพที่ดีที่สุดในโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย ดีไซน์ที่ถูกออกแบบอย่างสง่างามที่สุดในโลก คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ประหยัดน้ำมันมากที่สุด มีความทนทานสูงสุด รวมทั้งค่าดูแลรักษาต่ำสุด

การออกแบบที่สง่างาม สไตล์ปิกอัพยุคใหม่ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ให้ความสะดวกสบายเทียบเท่ารถเอสยูวี ยังตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกโอกาส หรือ “Built for Dress and Jeans” ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าที่ออกแบบด้วย Signature Wing ขนาดใหญ่ รูปทรงด้านหน้าที่สง่างามในสไตล์รถเอสยูวี ดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายทรงสปอร์ต โฉบเฉี่ยว

ภายในห้องโดยสาร ประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด ใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูง คอนโซลหน้าถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน เสาภายในและเพดานเลือกใช้โทนสีดำตัดกับหนังสีน้ำตาลเข้มของเบาะนั่ง ให้นั่งสบายในทุกตำแหน่ง และแผงประตูดูหรูหรา ด้วยการตกแต่งสไตล์เดียวกับรถ SUV

การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์โดยให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางตามหลักการ Human Machine Interface ทุกฟังก์ชันง่ายต่อการใช้งาน การรับรู้ข้อมูลการขับขี่รวมถึงสายเรียกเข้าหรือชื่อเพลงบนหน้าจอแบบสี MID (Multi-Information Display) ขนาด 4.2 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลได้หลายรูปแบบ อ่านง่าย มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบ TFT (Thin-film Transistor Technology)

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ซึ่งประหยัดน้ำมันมากที่สุดในคลาส กับตัวเลข 16.1 กม./ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร มีทั้งแบบส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แถมรองรับน้ำมันดีเซลได้ถึง B20

ราคาของ Mazda BT-50 อยู่ที่ 569,000 – 1,153,000 บาท

Ford Ranger Raptor X

Ford Ranger / Ranger Raptor X

Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ในงาน Motor Expo 2021 นี้ Ford นำกระบะรุ่นเด็ดอย่าง Ford Ranger Raptor X (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เอ็กซ์) รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง อัดแน่นด้วย DNA ฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งภายในและภายนอก เพิ่มความโฉบเฉี่ยว ดุดัน สไตล์สปอร์ต มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะ

ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ส่งมอบพละกำลังสูงสุด 213 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมพิชิตทุกเส้นทางด้วยระบบ Terrain Management System (TMS) กับโหมดการขับขี่ถึง 6 รูปแบบ

และยังมี Fod Ranger XL Street Special Edition (ฟอร์ด เรนเจอร์ เอ็กซ์แอล สตรีท สเปเชียล เอดิชั่น) รถกระบะตอนครึ่งสำหรับลูกค้าคนรุ่นใหม่ ตกแต่งเป็นพิเศษโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งของทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี ฟอร์ด ประเทศไทย มาพร้อมความโฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ และมีจำนวนจำกัด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้งานของลูกค้าที่ชื่นชอบความแตกต่างได้อย่างลงตัว

ราคาของ Ford Ranger ทั้งหมด อยู่ที่ 562,000 – 1,729,000 บาท!

MG Extender

MG Extender

MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) นำรุ่นไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดมาโชว์ในงาน Motor Show 2021 นี้ กับ Concept “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าใหม่ ตั้งแต่การจัดวาง Daytime Running Light ไว้ด้านบน

พร้อมชุดไฟส่องสว่างเป็นแบบ LED Projector จัดวางเรียงเป็น 3 ระดับ ตามแนวตั้งด้านข้างของกันชนหน้า โดยไฟส่องสว่างลดระดับต่ำลงกว่าเดิม ทำให้ไม่รบกวนรถที่สวนทางมา พร้อมล้ออัลลอยด์แบบ Bi-Colour ขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารภายใน เสริมความพรีเมี่ยมด้วยสีทูโทน สีน้ำตาลสลับสีดำ คอนโซล และแผงประตูตกแต่งพิเศษ ด้วยวัสดุแบบ Soft Touch พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้าเอนได้ถึง 150 องศา และตกแต่งเบาะด้วยวัสดุลายคาร์บอนไฟเบอร์

ตอกย้ำความเป็นสมาร์ทปิกอัพ ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปที่ครบครันถึง 9 ระบบ มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร พร้อมมอบความคุ้มค่าที่เหนือกว่า

วางสมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซล Commonrail Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 161 แรงม้า ให้ทั้งพละกำลังโดดเด่น การประหยัดน้ำมัน และมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension พร้อมการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อในเกือบทุกรุ่น พร้อม Option ต่างๆ ที่ให้มากกว่ารถทุกรุ่นเมื่อเทียบในระดับราคาเดียวกัน

สำหรับ MG Extender ใหม่ ราคาอยูที่ 559,000 – 1,039,000 บาท

… ถูกใจรุ่นไหน ไปสัมผัสตัวจริงได้ที่งาน Motor Expo 2021 กันได้เลยนะครับ …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

รวมรถเด่น รถใหม่ รถเปิดตัวล่าสุด ในงาน Motor Expo 2021

งาน Motor Expo 2021 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38) มาภายใต้แนวคิด “มหกรรมสุขสันต์คนรักยานยนต์” หรือ “TIME to ENJOY!” หลังจากที่ต้องเผชิญกับโควิด-19 มาอย่างหนักทั้งปีจนอ่วม แถมยังจะมีโควิดสายพันธุ์ใหม่อย่าง “โอไมครอน” มาอีก! โดยที่ผู้บริโภคกำลังซื้อหดหายไปอย่างมาก

ทำให้รถหลายค่ายต้องเร่งนำเสนอรถใหม่ รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ รถจักรยานยนต์ใหม่ หรือสินค้าใหม่ๆ เอาใจผู้บริโภค และกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติไปในตัว ซึ่งในงาน Motor Expo 2021 ปีนี้ มีรถยนต์มาร่วมงานมากถึง 32 แบรนด์ จาก 9 ประเทศ และรถจักรยานยนต์อีก 12 แบรนด์ จาก 7 ประเทศ รวมถึงจัดแสดงเรือ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องมากมาย

รวมรถเด่น รถใหม่ รถเปิดตัวล่าสุด ในงาน Motor Expo 2021

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2021 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

นอกจากโปรโมชั่นพิเศษมากมายแล้ว งานนี้ยังมอบโชคคืนกำไรให้แก่ผู้ชมงาน ทั้ง ซื้อรถ…ชิงรถ / ซื้อบัตร…ชิงรถ / ซื้อสินค้า…ชิงรถ / ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิ๊กไบค์ รวมถึงลุ้นชิงรางวัลอื่นๆ จากการซื้อสินค้าอีกมากมาย

และยังมีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรี! จาก 3 จุดในกรุงเทพฯ และที่รังสิต รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น. ส่วนขาออกงาน รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น ให้คุณเดินทางมาชมงานได้อย่างสะดวกสบาย

ฉีดวัคซีนไม่ครบ ไม่ต้องกังวล! รีวิวจุดตรวจ ATK ที่งาน Motor Expo 2021!

แต่ปีนี้พิเศษหน่อย เนื่องจากมีมาตรการควบคุมป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้ชมงาน คือ ต้องเเสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยโรคโควิด-19 มาเเล้ว 21-90 วัน หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR เเละได้ผลลัพธ์ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเข้างาน

หากท่านใดที่ฉีดวัคซีนยังไม่ครบ 2 เข็ม หรือผลการฉีดวัคซีนเข็ม 2 ไม่มีแสดงขึ้นมาในหมอพร้อม หรือเด็กเล็กอายุ 6-12 ปี ที่ยังรับวัคซีนไม่ได้ จะต้องตรวจ ATK (บริเวณหน้างาน) มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 99 บาท (ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ไม่ต้องตรวจ ATK)

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาเวลาว่าง ไปเดินเที่ยวชมงานกันครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศภายในงาน Motor Expo 2021 ได้เลยครับ

Pocco Meimei

Pocco Meimei

Pocco Duoduo

Pocco Duoduo

ORA Good Cat

ORA Good Cat

Haval Jolion Hybrid SUV

Haval Jolion

Haval H6 PHEV

Haval H6 PHEV

Tank 500

Tank 500

MG Cyberster

MG Cyberster

MG5

MG5

MG-EP-Plus

MG EP Plus

Porsche 911 Carrera GTS

Porsche 911 Carrera GTS

Porsche Cayenne Turbo GT

Porsche Cayenne Turbo GT

Porsche Macan

Porsche Macan

Mini Electric Pacesetter Inspired By JCW

Mini Electric Pacesetter Inspired By JCW

Mini John Cooper Works Hatch Launched By Carnival

Mini John Cooper Works Hatch Launched By Carnival

Mercedes-Benz-EQS-450+-AMG-Premium

Mercedes-Benz EQS

Mercedes-Maybach GLS 600

Mercedes-Maybach GLS 600

BMW 630i GT M Sport

BMW 630i GT M Sport

BMW X3 xDrive20d M Sport

BMW X3 xDrive20d M Sport

BMW iX3 M Sport

BMW iX3 M Sport

BMW iX xDrive50 Sport

BMW iX xDrive50 Sport

Audi A3 Sportback

Audi A3 Sportback

Lotus Elise 220 Sport

Lotus Elise 220 Sport

Lotus Exige Sport 350

Lotus Exige Sport 350

Peugeot 3008

Peugeot 3008

Volvo XC40 Recharge

Volvo XC40 Recharge

Toyota Corolla Cross GR Sport

Toyota Corolla Cross GR Sport

Toyota Yaris GR Sport

Toyota Yaris GR Sport

Toyota Camry

Toyota Camry

Lexus-NX-450h+

Lexus NX450h+

Honda Civic RS

Honda Civic RS

Honda Accord e:HEV

Honda Accord e:HEV

Honda HR-V e:HEV

Honda HR-V e:HEV

Nissan Kicks Sky Edition

Nissan Kicks Sky Edition

Subaru XV 2.0 iP EyeSight

Subaru XV 2.0 i-P EyeSight

Tesla Model Y

Tesla Model Y

โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2021 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

หากท่านใดที่อยากได้บัตรเข้างาน Motor Expo 2021 ฟรี! ท่านละ 2 ใบ ง่ายๆ ดูรายละเอียดการขอบัตรได้ในนี้เลย —> https://th.carro.co/blog/carro-ticket-motor-expo/

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครสนใจอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หรือจะรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถนำรถคันเดิมมาขายกับ CARRO ได้เลย เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

สำหรับใครที่อยากซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ แต่ถ้ามีงบไม่พอ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

สวัสดีครับไทร์บิดกลับมาอีกครั้งครับ กลับมาเอาใจสายกระบะและรถ SUV กันว่ามียางอะไรใหม่ๆ และยางยี่ห้อ และ รุ่นไหนที่หน้าใช้บ้างครับ โดยไทร์บิดเราจะแบ่งแยกประเภทดอกยาง HT กับ AT และก็เป็นยางกระบะรุ่น Standard เหมือนเดิมครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

มาเริ่มกันที่กระบะตัว Standard กันก่อนเลยครับ ที่มาแรงในปีนี้ก็คงเป็นยี่ห้อไหนไปไม่ได้ครับกับการพัฒนายางรถกระบะของยี่ห้อ Michelin จากรุ่น Agilis ธรรมดามาเป็น Agilis3 ซึ่งถือว่าพัฒนาเปลี่ยนแปลงหน้าตาบริเวณแก้มยางที่มีเนื้อยางเพิ่มเติมเพื่อป้องกันความเสียหายของแก้มยางพร้อมกับเสริมคุณภาพความแข็งแรงของโครงยางที่ทำได้ดียิ่งขึ้น รถน้ำหนักได้ดีขึ้นประกอบกับอายุการใช้งานที่มากขึ้นด้วยครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

ส่วนอีกยี่ห้อหนึ่งจะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ ในปัจจุบันเพราะพลิกโฉมผลิตภัณฑ์มากมายสำหรับยางยี่ห้อ Goodyear โดยยางสึกช้าขึ้นและเค้าก็ใส่ใจเรื่องเสียงได้ดียิ่งขึ้นมากๆอีกด้วยครับ โดยยางกระบะ Standard ก็เป็นรุ่น Cargo Max ซึ่งมีพี่บัวขาวเป็นพรีเซนเตอร์ที่บ่งบอกถึงความแข็งแรงถึกทนทาน เหมือนพี่ดำดอทคอมครับ ซึ่งก็เป็นยางคุณภาพเกรดกลางที่สามารถใช้งานบรรทุกได้จริงอีกยี่ห้อหนึ่งครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

ต่อมาเราก็คงมาพูดถึงรถ SUV ปีนี้ก็ต้องยอมว่ายังเป็น Michelin Primacy SUV ที่ถือว่ายังได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะก็ถือว่าเป็นยางที่มีความนุ่มเงียบมากที่สุด และเป็นกลุ่มยางพรีเมียมที่ค่อนข้างตรงกับกลุ่มประเภทรถนี้ที่มีราคาแพงและเน้นความหรูหราก็ไม่แปลกใจที่ Michelin Primacy SUV เป็นที่นิยมที่สุดครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

อีกรุ่นหนึ่งที่เพิ่งมาหมาดๆใหม่ๆสดๆร้อนใน ไตรมาส 4 / 2564 นี้ ซึ่งเป็นยี่ห้อ Goodyear ครับ พลิกโฉมเลยสำหรับรถ SUV โดยเฉพาะครับชื่อรุ่น Assurance MaxGuard SUV ที่เน้นของเรื่องการรีดน้ำที่ดี และ มีความคงทนสึกช้า แถมกับดอกยางเรียบที่มีเสียงที่ค่อนข้างต่ำกว่ารุ่นก่อนที่เป็นรุ่น Wrangler TripleMax ครับ ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่น่าลองมากอีกรุ่นหนึ่งที่เข้ามาในตลาดครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

ผมขอเพิ่มเติมสำหรับยางกระบะและ SUV ครับ มียี่ห้อหนึ่งที่มาแรงและได้ความนิยมเพิ่มมากขึ้นมากๆนั่นก็คือ Dayton รุ่น HT100 ครับ ซึ่งจริงๆเป็นแบรนด์อเมริกา และ บริดจสโตน ได้นำเข้ามาผลิต และจัดจำหน่ายในประเทศเรา ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของยี่ห้อนี้ก็คือเรื่องของราคาที่มีราคาที่ไม่แพงมาก และได้เรื่องคุณภาพรับประกันโดย บริดจสโตน ทำให้ผู้คนมั่นใจกับการใช้งานยี่ห้อนี้บวกกับการใช้งานจริงก็ยังทำได้ดีใช้งานในเมือง สบายๆ ได้ครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

ต่อมาเป็นยางที่สายลุยๆ ที่อยากจะแนะนำครับ ดอกยางอเนกประสงค์หรือดอกยาง A/T ยี่ห้อและ ที่อยากจะแนะนำก็คือ Michelin ครับ แต่เพื่อนๆอาจจะนึกถึง LTX Force ใช่ไหมครับ แต่ว่าไม่ครับ เป็นรุ่นใหม่ครับที่พัฒนามาจาก LTX Force ก็คือ LTX TRAIL ครับ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเลยออกจำหน่ายเดือน ตุลาคม 2564 นี้เองครับ ซึ่งใช้งานได้อเนกประสงค์มากขึ้นจริงๆครับเพราะดอกยางประเภทนี้คนนำมาใช้จริงก็วิ่งบนถนนหลวงเยอะขึ้นแล้ว ซึ่งกลายเป็นว่ายาง LTX TRAIL มีความนุ่มขับสบายเพิ่มมากยิ่งขึ้นและสามารถใช้บนถนนหลวงได้ดีขึ้นโดยเฉพาะเรื่องการเกาะถนนบนถนนเปียก ซึ่ง Michelin LTX TRAIL ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานบนนถนนหลวงได้ดีขึ้นอย่างมากจริงๆ ครับ

อัพเดทยาง กระบะและรถ SUV ใหม่ที่น่าใช้สำหรับครึ่งปีหลัง 2021

ตัวรองลงมาเป็นดอกยาง AT ที่อยากจะพูดถึงก็คือยี่ห้อ Dunlop AT5 ครับ ถือว่าเป็นยางที่ลายดอกยางดุดันสวยมากใครที่ชอบแต่งรถสไตล์ดุดัน Dunlop AT5 ก็ตอบโจทย์ มีตัวอักษรสีขาวสำหรับไซส์กระบะแนวยกสูงอยู่แล้วทำให้ยิ่งดูเท่ดูดีมากยิ่งขึ้นไปอีก ประกอบกับคุณภาพพัฒนาขึ้นมามากทำให้ยางมีความคงทนและตะกุยได้ดียิ่งขึ้นทำให้การใช้งานจริงแบบลุยๆ ทำได้เยี่ยมอีกด้วยครับเพราะฉะนั้น Dunlop AT5 ถือว่าตอบโจทย์ยางรถกระบะที่เป็นแนวยางดอก A/T อย่างแน่นอนครับ

ก็ถือว่ายางที่ผมแนะนำไปจริงๆมีทั้งยางที่ขายดีคนใช้ค่อนข้างเยอะกับยางที่เป็นรุ่นใหม่เพิ่งออกมาล่าสุดที่น่าทดลองใช้กันครับ หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ www.tiresbid.com ได้เลยครับ เพราะเราเป็นเว็บที่ดีที่สุดครับ และเพื่อนๆสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ได้ครบถ้วน แถมไทร์บิดเรายังมีบริการให้เพื่อนๆ ต้องการสอบถามเรื่องยาง ล้อยาง โดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องยางรถยนต์ได้ผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) ทางทีมงานไทร์บิดยินดีให้คำปรึกษา Tire Specialist เรื่องยาง เรื่องง่าย กันอย่างเต็มที่ครับ เราเป็นตัวกลางยางมืออาชีพ ข้อมูลยางกว่า 14 ยี่ห้อ นึกถึงยาง นึกถึงไทร์บิดออนไลน์นะครับ วันนี้ก็ขอขอบคุณมากครับเพื่อนๆ ที่ติดตาม หากมีข้อสงสัยเลือกยางไม่ถูกสอบถามมาที่ไทร์บิดของเราได้เลยครับ ขอบคุณมากครับ

รวมรถใหม่ เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2021

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38” หรือ The 38th Thailand International Motor Expo 2021 ภายใต้แนวคิด “มหกรรมสุขสันต์คนรักยานยนต์” หรือ “TIME to ENJOY!” หลังจากที่ต้องเผชิญกับโควิด-19 มาอย่างหนักทั้งปี จนอ่วมไปตามๆ กัน ทั้งตัวค่ายรถเอง และผู้บริโภคเอง กำลังซื้อหดหายไปอย่างมากในปีนี้

โดยงาน Motor Expo 2021 พร้อมจัดงานในยุค New Normal เตรียมนำรถใหม่ 2021 และรถใหม่ 2022 พร้อมรถรุ่นพิเศษ มาจัดแสดงส่งท้ายปี 2021 โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เปิดตัวทั้งก่อนงาน ตั้งแต่ในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน และในงาน Motor Expo 2021 ที่บริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่แบบออนไลน์กันไปหลายค่าย CARRO มาแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

รวมรถใหม่ เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2021

1. Haval H6 PHEV

หลังจากที่ Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ประเทศไทย ได้เปิดตัว All-New Haval H6 Hybrid SUV (ฮาวาล เอช6) อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ก็ได้เสียงตอบรับจากคนไทยเป็นอย่างดี ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น PRO ราคา 1,149,000 บาท และรุ่น ULTRA ราคา 1,249,000 บาท โดยเป็นราคาแบบ “One Price” ราคาเดียวกันในทุกๆ ช่องทางการขาย

แต่ข่าวดีสำหรับคนชอบ Haval H6 ที่มีกระแสจะมีรุ่นใหม่มาในปลายปีนี้อีก นั่นคือรุ่น Plug-In Hybrid (ปลั๊กอินไฮบริด) หรือ PHEV แบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ เวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาคันแรกของโลก เตรียมเปิดตัวในไทย!

กับขุมพลังเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส GW4B15 GDIT EVO พ่วงระบบเทอร์โบแปรผันและซูเปอร์ชาร์จ ให้แรงม้าสูงสุดมากกว่า 150 แรงม้า วางมอเตอร์คู่ พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 45 kWh บนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนๆ เตรียมมาโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ด้วย

รวมรถใหม่ เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2021

2. Haval Jolion

All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV (ฮาวาล โจไลอ้อน) นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ของ Haval จากสายการผลิตที่โรงงานระยอง นี่ก็เตรียมเปิดตัวในไทยคันแรกของโลก (ที่เป็นรุ่นพวงมาลัยขวา) เช่นกันครับ โดยรถ SUV รุ่น HAVAL Jolion เปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา

ความพิเศษของรถรุ่นนี้ อยู่ที่การใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะแบบเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV และพกพาความหรูหรามารอบคันทีเดียว ห้องโดยสารภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” กว้างขวาง สะดวกสบาย

พร้อมการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด เมื่อทํางานร่วมกับเครื่องยนต์ สร้างการขับเคลื่อนที่พลังและประหยัดน้ำมัน

เตรียมมาโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้แน่นอน

ORA Good Cat 2022

3. ORA Good Cat

ORA Good Cat (โอร่า กู๊ดแคท) เรียกได้ว่าแรงจนฉุดไม่อยู่เลยจริงๆ สำหรับเจ้าแมวเหมียวไฟฟ้าคันนี้ ที่พายอดจองไปอย่างเหนือความคาดหมาย แต่ราคาเปิดออกมาก็ดูเหนือความคาดหมายเช่นเดียวกัน กับ 2 รูปแบบแบตเตอรี่ และ 3 รุ่นย่อย พร้อมโปรเด็ด ORA Good Cat Ultra Deal

อ่านเพิ่มเติม >> ORA Good Cat 2022 ใหม่ แบตเตอรี่ 2 แบบ 3 รุ่นย่อย พร้อมโปรเด็ด เปิดราคา 989,000 – 1,199,000 บาท

ORA Good Cat ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ (143 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 152 กม./ชม. ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์ ORA-Goddess Easy Drive พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈32 นาที และ 40 นาที (ในรุ่น 500 Ultra), ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈45 นาที และ ≈60 นาที (ในรุ่น 500 Ultra) กับการชาร์จไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ ≈8 ชั่วโมง และ ≈10 ชั่วโมง (ในรุ่น 500 Ultra)

New Toyota Camry 2022

4. Toyota Camry

มาดูค่ายรถญี่ปุ่นอย่าง Toyota (โตโยต้า) กันบ้าง ที่เพิ่งเปิดตัว Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) โฉมไมเนอร์เชนจ์เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้ว่าจะดูเงียบเหงาไปบ้าง โดยมาพร้อมแนวคิด “The Absolute Perfection ความสมบูรณ์แบบที่เป็นคุณ” เพิ่มความสปอร์ตด้วยดีไซน์ใหม่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชั่นความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ในราคา 1,475,000 – 1,809,000 บาท

ด้วยดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ ประดับคิ้วโครเมียม ชุดไฟหน้าโฉบเฉี่ยว มีกล้องมองรอบคัน 360 องศา เพิ่มขนาดล้ออัลลอยใหญ่ขึ้นเป็น 18 นิ้ว ภายในใช้ลายไม้แบบใหม่ หนังหุ้มเบาะหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์แบบนุ่มพิเศษ แถมหมอนพิงศีรษะเบาะหน้าปรับพับเก็บได้ พวงมาลัยปรับไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่

เบาะนั่งคู่หน้า Ventilator พร้อมพัดลมจากใต้เบาะและพนักพิง ให้ความรู้สึก Premium เบาะนั่งด้านหลังปรับไฟฟ้า พร้อมแผงควบคุมที่คอนโซลด้านหลัง หน้าจอแบบ Floating type ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 9 นิ้ว แบบใหม่ เชื่อมต่อทุกความสะดวกผ่านระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ได้

ในโฉมนี้ตัดรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ออกไป มีเพียงเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FKB แบบ Dynamic Force 209 แรงม้า จิบน้ำมัน 15.6 กม./ลิตร

และเครื่องยนต์สำหรับรุ่นไฮบริด…ผสาน 2 พลัง มอเตอร์ไฟฟ้า X เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Dynamic Force ทำงานร่วมกันอัตโนมัติ ให้การตอบสนองเต็มกำลัง 211 แรงม้า และเกียร์ E-CVT ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทานและประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม 23.8 กม./ลิตร

All-New Lexus NX PHEV 2022

5. Lexus NX

ด้านค่าย Lexus (เลกซัส) เตรียมนำ The All-New Lexus NX (เลกซัส เอ็นเอ็กซ์) ครอสโอเวอร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Plug-In Hybrid ครั้งแรกจากเลกซัส มาโชว์ในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้

พร้อมกับดีไซน์ใหม่หมดจดบนแพลตฟอร์ม และขุมพลังเทอร์โบใหม่ ที่ยกระดับสุนทรียภาพการขับขี่ของคุณไปอีกขั้นด้วย Lexus Driving Signature

All-New Honda HR-V e:HEV 2022

6. Honda HR-V

มาแน่นอนสำหรับ Honda (ฮอนด้า) ที่เตรียมเปิดตัว All-new Honda HR-V 2022 (ฮอนด้า เอชอาร์วี) ใหม่ เจเนอเรชันที่ 2 ด้วยรูปแบบ e:HEV ขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ลุ้นเปิดราคาในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ คาดราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 990,000 บาท! กับรุ่นย่อย RS เปิดตัวในไทยที่แรกของโลก!

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์ SUV ได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตา ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย กว้างขวาง

มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม โดดเด่นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟได้ประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

Honda Jazz Thai 2021

7. Honda Jazz

Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) นับตั้งแต่เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557! Honda ยังคงยืนหยัดผลิตขายในไทยกันต่อไป หลังจากที่มีกระแสเลิกผลิตมาจากสื่อโซเชียลมีเดียของประเทศใกล้เคียง แต่ดันเอาข่าวมาบอกว่าในไทยซะงั้น!

ในงาน Motor Expo 2021 นี้ Honda Jazz มาพร้อมทางเลือกใหม่ในสไตล์สปอร์ต กับสีเทาโซนิค (มุก) เพียง 1,500 คัน มีให้เลือกใน 3 รุ่นย่อย จากทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น S CVT ราคา 600,000 บาท, รุ่น V+ ราคา 700,000 บาท และรุ่น RS ราคา 745,000 บาท โดยราคารวมค่าสีภายนอก สีเทาโซนิค (มุก) 6,000 บาท

Mitsubishi Xpander Special Edition 2021

8. Mitsubishi Xpander Special Edition

ด้านค่าย Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เปิดตัว Mitsubishi Xpander Special Edition (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ สเปเชียล เอดิชั่น) รถอเนกประสงค์แบบ MPV สำหรับคุณพ่อสมัยใหม่ สะกดทุกสายตาด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งสีดำ อาทิ กระจังหน้า, ชายกันชนหน้าและหลัง, กระจกมองข้าง, คิ้วขอบกระจกประตู, คิ้วตกแต่งชายกันชนข้าง, และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม อาทิ มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถพร้อมกรอบรองที่จับประตู, ที่ชาร์จมือถือแบบไร้สาย, ระบบความบันเทิงรุ่นใหม่พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีแดง (Spirit Red) สีดำ (Jet Black Mica) และสีขาว (Quartz White Pearl)

Mazda CX-3 2022

9. Mazda CX-3

ช่วงปลายปี 2564 นี้ Mazda (มาสด้า) เริ่มรุกตลาดรถ SUV หนัก ด้วยการปรับปรุงโฉมเล็กๆ น้อยๆ ให้กับรถในรูปแบบ Crossover SUV แทบทุกรุ่น เริ่มตั้งแต่ Mazda CX-3 2022 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3) กับการเผยโฉมสีภายนอกเทรนด์ใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ในราคาเริ่มต้นเท่าเดิม 769,000 บาท

ให้ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอลอิสระขึ้นอีกขั้น กับแนวคิด “Leap Forward” ให้ชีวิตไปอีกขั้น กับ SUV ใหม่ที่คุ้มค่ากว่า เชื่อมต่อคนรุ่นใหม่กับโลกยานยนต์ด้วยการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger และรองรับระบบ Wireless Apple CarPlay ทุกรุ่น พร้อมเบาะคนขับปรับไฟฟ้า กับระบบบันทึกตำแหน่ง พร้อมเพิ่มออฟชั่นใหม่ในทุกรุ่นย่อย

ขับสนุกคล่องตัวแบบรถ SUV กับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน ใครสนใจไปลองขับดูกันได้ ที่งาน Motor Expo 2021

Mazda CX-5 2022

10. Mazda CX-5

Mazda (มาสด้า) แนะนำ New Mazda CX-5 2022 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) กับแนวคิดใหม่ “พลังความสุข ที่เร้าใจทุกเส้นทาง” ทุกรุ่นมาพร้อมหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีนใหม่ ขนาด 8 นิ้ว, รองรับการเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดผ่านระบบ Mazda Connect รองรับ Apple CarPlay และระบบ Android Auto

พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว และขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์สุดเท่ 3 สไตล์

มีให้เลือกถึง 3 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 165 แรงม้า คุ้มค่ามากที่สุด เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร Turbo 231 แรงม้า ทรงพลังแรงมากที่สุด และเครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้า แรงและประหยัดน้ำมันมากที่สุด ในราคา 1,320,000 – 1,830,000 บาท

New Mazda CX-8 2022

11. Mazda CX-8

Mazda (มาสด้า) แนะนำ New Mazda CX-8 2022 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8) รถอเนกประสงค์ SUV ระดับพรีเมี่ยม แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่างแท้จริง มาพร้อมแนวคิด “The Precious Moment for All ทุกช่วงเวลา…มีคุณค่าไม่สิ้นสุด”

เพิ่มทางเลือกใหม่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 ที่นั่ง 2.5 SP Exclusive เบาะนั่งแบบ Captain Seat แยกอิสระซ้าย-ขวา เพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light แบบ LED และหน้าจอ Center Display แบบทัชสกรีนใหม่ ขนาด 8 นิ้ว ทุกรุ่นย่อย รวมถึงประตูท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และเพิ่มเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกกับความปลอดภัย ให้ครบยิ่งขึ้นกว่าเดิม

มีให้เลือกถึง 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซินขนาด 2.5 ลิตร 194 แรงม้า และเครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้า แรงและประหยัดน้ำมันมากที่สุด ในราคา 1,499,000 – 2,069,000 บาท

Aston Martin Vantage Roadster 2022

12. Aston Martin Vantage Roadster

มาดูสายรถแนวซูเปอร์คาร์กันบ้าง ซึ่งขอบอกเลยว่าในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ มีมาให้ชมกันอย่างแน่นอน กับ … Aston Martin Bangkok เปิดตัว Aston Martin Vantage Roadster (แอสตัน มาร์ติน แวนเทจ โรดสเตอร์) ยนตรกรรมสปอร์ตนักล่า เปิดหลังคาท้าสายลม ในราคา 15,900,000 บาท ในไทยปีนี้ได้โควต้ามาเพียง 2 คัน มีคนจองไปเรียบร้อย …

มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดุดันและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ผสานเส้นสายบึกบึนแบบเดียวกับรุ่นคูเป้อันเป็นเอกลักษณ์ โอเวอร์แฮงค์หน้า-หลังสั้น และโป่งล้อกว้าง แสดงถึงความคล่องตัวและตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพ ไฟหน้าแบบใหม่ พร้อมไฟท้ายบางเฉียบ กว้างเต็มพื้นที่ของฝาท้ายที่เชิดขึ้น

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร Twin Turbo 503 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 685 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ของ ZF ผสานเพลาขับวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ติดตั้งในปลอกอะลูมิเนียม (Alloy Torque Tube) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที

ทำความเร็วได้สูงสุด 306 กม./ชม. โดยเครื่องยนต์ถูกติดตั้งให้ชิดกับตัวถังมากสุด เพื่อการกระจายน้ำหนักที่สมดุล 50:50% ภายใต้พิกัด 1,745 กก. (1,628 กก. เมื่อติดตั้ง Lightweight Options)

Peugeot 3008 SUV 2022

13. Peugeot 3008 & 5008

Peugeot ประเทศไทย เปิดตัว Peugeot 3008 SUV (เปอโยต์ 3008) ใหม่ ภายใต้ Concept “Face The New Face” ในราคา 1,689,000 บาท และ Peugeot 5008 (เปอโยต์ 5008) ใหม่ แบบ 7 ที่นั่ง ภายใต้ Concept “The Space Of Happiness” ราคา 1,869,000 บาท

ปรับโฉมเพิ่มความเร้าใจ ให้โฉบเฉี่ยวและทันสมัยยิ่งขึ้น รูปลักษณ์ที่โดดเด่นถูกปรับให้ดูชัดเจนและทันสมัยยิ่งขึ้น เพิ่มความสปอร์ตด้วยช่องดักลมสีดำบนกันชนหน้า ส่วนด้านท้ายก็ไม่น้อยหน้า ด้วยไฟท้ายแบบ Full LED (รวมไฟถอยหลัง) สะท้อนกรงเล็บสิงโต (Lion Claws) ได้อย่างทรงพลัง

ห้องโดยสารของ 3008 SUV ต้อนรับผู้โดยสารอย่างอบอุ่นด้วยเบาะหนัง ตัดกันกับสีด้ายที่ใช้เย็บตะเข็บอย่างลงตัว ตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วยวัสดุผ้าคุณภาพสูง มาตรวัดดิจิทัลอเนกประสงค์ขนาด 12.3 นิ้ว ด้านหน้าผู้ขับ สามารถปรับการแสดงผลได้อิสระ ติดตั้งทัชสกรีนอเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว บริเวณกลางแดชบอร์ด จอภาพความละเอียดสูง

มาพร้อม 7 สวิตช์แบบก้านเปียโน (Piano Key Toggle Switches) ที่ดูหรูหรา และช่วยให้สามารถปรับการทำงานของระบบต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว พร้อมรองรับการชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย (Wireless Charging)

ขับเคลื่อนอย่างมั่นใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร Twin-Scroll Turbo 167 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร สูงสุดในรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ช่วยให้มีอัตราเร่งดีและใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่า ส่งกำลังนุ่มนวลฉับไว ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Electric Impulse พร้อม Advanced Grip Control กับ 5 โหมดการขับ (Normal-Snow-Mud-Sand-ESP Off) ผสานหลายระบบช่วยเหลือผู้ขับ

Peugeot 2008 SUV 2022

14. Peugeot 2008

Peugeot ประเทศไทย ยังได้เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ The All-New 2008 (เปอโยต์ 2008) SUV ยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับคนพันธุ์ใหม่ หัวใจพรีเมียม ภายใต้ Concept “Uncage The Lion In You” ปลดปล่อยตัวตนที่เป็นคุณ ในงาน Motor Expo 2021 นี้

Pocco Duoduo รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุด เริ่มต้น 389,000 บาท เปิดตัวใน Motor Expo 2021

15. Pocco Duoduo

Pocco Duoduo (ป๊อคโค่ ตั่วตั่ว) หรือ 朋克多多 เป็นรถภายใต้แบรนด์ 朋克 (เผิงเค่อ) มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Punk (พังก์) เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ Tall Boy 4 ประตู (ดูคล้ายกับรถ K-Car ของญี่ปุ่น) นั่งได้ 4-5 ที่นั่ง ผสมผสานการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ จุดชาร์จไฟอยู่บริเวณด้านหน้ารถ โดยใช้สีทูโทนเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพิ่งเปิดตัวไปในจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 10.3 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14.5 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 178 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 389,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 449,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

รู้จัก Pocco Meimei รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ในราคา 399,000 – 469,000 บาท เปิดตัวในงาน Motor Expo 2021 เช่นกัน!

16. Pocco Meimei

Pocco Meimei Mini EV (ป๊อคโค่ เม่ยเม่ย) หรือ 朋克美美 เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ 3 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาดเล็ก ที่เปิดตัวในจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างสะดวก กับนวัตกรรมสุดล้ำ ยิ่งทวีคูณความน่ารัก น่าเลิฟ ถูกใจคุณผู้หญิงอย่างแน่นอน

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร และกำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 105 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 9.2 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 170 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 399,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 469,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

All-New Ford Ranger 2022

17. Ford Ranger

All-New Ford Ranger 2022 (ฟอร์ด เรนเจอร์) โฉมใหม่ล่าสุดเผยโฉมครั้งแรกในโลกพร้อมกันเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ชูดีไซน์จาก F-150 บึกบึนแข็งแรงภายใต้แนวคิด “Built Ford Tough” หรือ “เกิดมาแกร่ง” เตรียมผลิตและเปิดตัวอย่างอย่างเป็นทางการในไทยปีหน้านี้

โครงสร้างของ Ranger ถูกพัฒนาขึ้นใหม่หมด โดยเพิ่มระยะห่างระหว่างล้อขึ้นอีก 50 มม. และยืดความยาวฐานล้ออีก 50 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

ห้องโดยสารภายใน กว้างขวางและหรูหราแบบเดียวกับรถยนต์นั่ง ชูจุดเด่นด้วยหน้าปัดแบบดิจิทัล และหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว และ 12 นิ้ว ที่รวมเอาปุ่มระบบปรับอากาศไว้ด้วยกัน พร้อมคันเกียร์แบบ Electronic Shifter ที่หัวเกียร์ขนาดสั้นกว่าปกติ ซึ่ง Ford ระบุว่า ใช้ชุดคันเกียร์แบบนี้แทนที่เกียร์แบบปุ่มหมุน เพื่อสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า

สำหรับรายละเอียดเครื่องยนต์ยังไม่เปิดเผย แต่จะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ Turbo เดี่ยว และ Bi-Turbo เช่นเคย พร้อมปรับปรุงเครื่องยนต์ เกียร์และชุดถ่ายทอดส่งกำลังขึ้นใหม่ และเพิ่มขุมพลัง V6 ในตลาดบางประเทศอีกด้วย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2021 กันแล้ว ถ้าใครสนใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถนำรถคันเดิมมาขายกับ CARRO ได้เลย เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

สำหรับใครที่อยากซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2021 แต่งบไม่พอ! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุดและยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

ราคารถใหม่ Isuzu ปี 2022 ทุกรุ่น Update ล่าสุด!

รวมราคารถใหม่ Isuzu (อีซูซุ) Update 8/10/2021

CARRO นำเสนอราคารถใหม่ 2022 รถกระบะ Isuzu (อีซูซุ) และ Isuzu 2022 โฉมใหม่ราคาทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ มาซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ที่ CARRO Automall สิ! โทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line @carroautomall

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

รถกระบะ Isuzu D-Max 2021

All-New-Isuzu-D-Max-Spark-2019

Spark

  • Cab Chassis ราคา 510,000 บาท
  • Cab Chassis A/T ราคา 545,000 บาท
  • Cab Chassis (Refrigerator) ราคา 515,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi B ราคา 547,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi S ราคา 572,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi S A/T ราคา 607,000 บาท
  • Spark 3.0 Ddi S ราคา 590,000 บาท
  • Spark 4X4 3.0 Ddi S ราคา 675,000 บาท

All-New-Isuzu-D-Max-Hi-Lander-2-Door-2019

Spaceccab / Hi-Lander 2 ประตู

  • Spacecab 1.9 Ddi S ราคา 605,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi S A/T ราคา 640,000 บาท
  • Spacecab 3.0 Ddi S ราคา 628,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi L ราคา 673,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi L DA ราคา 688,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi Z ราคา 735,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L ราคา 708,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA ราคา 723,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 781,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T ราคา 816,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP ราคา 848,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP A/T ราคา 883,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi ZP ราคา 878,000 บาท

All-New-Isuzu-D-Max-Hi-Lander-4-Door-2019

Cab4 / Hi-Lander 4 ประตู

  • Cab4 1.9 Ddi S ราคา 686,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi S ราคา 721,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi L ราคา 764,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi L DA ราคา 779,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi Z ราคา 840,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L ราคา 802,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA ราคา 825,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 882,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T ราคา 917,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 955,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP A/T ราคา 990,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi M A/T ราคา 1,023,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi ZP ราคา 986,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi M A/T ราคา 1,054,000 บาท

All-New-Isuzu-D-Max-V-Cross

V-Cross

  • V-Cross 3.0 Ddi Z (2 ประตู) ราคา 852,000 บาท
  • V-Cross 3.0 Ddi Z (4 ประตู) ราคา 974,000 บาท
  • V-Cross MAX 3.0 Ddi ZP (4 ประตู) ราคา 1,089,000 บาท
  • V-Cross MAX 3.0 Ddi M A/T (4 ประตู) ราคา 1,157,000 บาท

All-New-Isuzu-D-Max-X-Series-2020

X-Series

  • Speed 1.9 Ddi L M/T (2 ประตู) ราคา 723,000 บาท
  • Speed 1.9 Ddi L M/T (4 ประตู) ราคา 814,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z M/T (2 ประตู) ราคา 838,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z M/T (4 ประตู) ราคา 932,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T (4 ประตู) ราคา 967,000 บาท

รถกระบะ Isuzu D-Max 2022

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

Spark

  • Cab Chassis ราคา 515,000 บาท
  • Cab Chassis A/T ราคา 550,000 บาท
  • Cab Chassis (Refrigerator) ราคา 520,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi B ราคา 552,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi S ราคา 577,000 บาท
  • Spark 1.9 Ddi S A/T ราคา 612,000 บาท
  • Spark 3.0 Ddi S ราคา 595,000 บาท
  • Spark 4X4 3.0 Ddi S ราคา 680,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

Spaceccab / Hi-Lander 2 ประตู

  • Spacecab 1.9 Ddi S ราคา 610,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi S A/T ราคา 645,000 บาท
  • Spacecab 3.0 Ddi S ราคา 633,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi L ราคา 673,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi L DA ราคา 693,000 บาท
  • Spacecab 1.9 Ddi Z ราคา 740,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA ราคา 728,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA M/T ราคา 763,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 786,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T ราคา 821,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP A/T ราคา 883,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi ZP ราคา 888,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

Cab4 / Hi-Lander 4 ประตู

  • Cab4 1.9 Ddi S ราคา 691,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi S ราคา 726,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi L DA ราคา 784,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi L DA A/T ราคา 819,000 บาท
  • Cab4 1.9 Ddi Z ราคา 845,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA ราคา 830,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi L DA A/T ราคา 865,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z ราคา 892,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T ราคา 927,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP ราคา 965,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi ZP A/T ราคา 1,000,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi ZP ราคา 996,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi M ราคา 1,033,000 บาท
  • Hi-Lander 3.0 Ddi M A/T ราคา 1,064,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

V-Cross

  • V-Cross 3.0 Ddi Z (2 ประตู) ราคา 867,000 บาท
  • V-Cross 3.0 Ddi Z (4 ประตู) ราคา 989,000 บาท
  • V-Cross MAX 3.0 Ddi ZP (4 ประตู) ราคา 1,104,000 บาท
  • V-Cross MAX 3.0 Ddi M A/T (4 ประตู) ราคา 1,172,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

X-Series

  • Speed 1.9 Ddi L DA M/T (2 ประตู) ราคา 728,000 บาท
  • Speed 1.9 Ddi L DA M/T (4 ประตู) ราคา 819,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z M/T (2 ประตู) ราคา 843,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z M/T (4 ประตู) ราคา 942,000 บาท
  • Hi-Lander 1.9 Ddi Z A/T (4 ประตู) ราคา 977,000 บาท

suzu-MU-X-The-Onyx-2019

MU-X 2020

  • 1.9 Ddi CD A/T ราคา 1,099,000 บาท
  • 1.9 Ddi DVD M/T ราคา 1,214,000 บาท
  • 1.9 Ddi DVD A/T ราคา 1,264,000 บาท
  • 1.9 Ddi DA DVD Navi A/T (Push Start) ราคา 1,329,000 บาท
  • 3.0 Ddi DA DVD Navi A/T (Push Start) ราคา 1,374,000 บาท
  • 3.0 Ddi 4X4 DA DVD Navi A/T (Push Start) ราคา 1,474,000 บาท
  • 1.9 Navi A/T The Onyx ราคา 1,364,000 บาท
  • 3.0 Navi A/T The Onyx ราคา 1,409,000 บาท

All-New-Isuzu-MU-X-2020

MU-X 2021

  • 1.9 Ddi Active A/T ราคา 1,121,000 บาท (ราคาช่วงแนะนำ 1,109,000 บาท)
  • 1.9 Ddi Luxury M/T ราคา 1,266,000 บาท (ราคาช่วงแนะนำ 1,254,000 บาท)
  • 1.9 Ddi Luxury A/T ราคา 1,304,000 บาท
  • 1.9 Ddi Elegant A/T ราคา 1,349,000 บาท
  • 1.9 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,434,000 บาท
  • 3.0 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,479,000 บาท
  • 3.0 Ddi 4X4 Ultimate A/T ราคา 1,579,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

MU-X 2022

  • 1.9 Ddi Active A/T ราคา 1,119,000 บาท
  • 1.9 Ddi Luxury A/T ราคา 1,314,000 บาท
  • 1.9 Ddi Elegant A/T ราคา 1,359,000 บาท
  • 3.0 Ddi Elegant A/T ราคา 1,404,000 บาท
  • 1.9 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,454,000 บาท
  • 3.0 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,499,000 บาท
  • 3.0 Ddi 4X4 Ultimate A/T ราคา 1,599,000 บาท

*หมายเหตุ : รถปิคอัพ Isuzu รุ่น Spark, Spacecab, Hi-Lander 2 ประตู และ Cab 4 สีเมทาลิค เพิ่ม 7,000 บาท กระบะรุ่น Hi-Lander 4 ประตู, V-Cross 4 ประตู และ X-Series สีขาวมุกเพิ่ม 7,000 บาท ส่วน Isuzu MU-X สีขาวมุกเพิ่ม 12,000 บาท

*ราคาดังกล่าว อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ดูโปรโมชั่น Isuzu ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/isuzu-car-price-list/

Isuzu (อีซูซุ) เดินหน้าลุยตลาดรถช่วงปลายปี โชว์ศักยภาพ “ใหม่! พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” เผยโฉมรถรุ่นใหม่ครบทุกรุ่น เข้มขึ้น ดุขึ้น นำโดย “ใหม่! Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์)” ตอกย้ำตัวตนใหม่ภายใต้แนวคิด “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX” ขับเคลื่อนความสมบูรณ์แบบในทุกองศา มาพร้อมเอกลักษณ์ สีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก และ “ใหม่! Isuzu X-Series (อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์)” แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์ ปรับเพิ่มลุคสปอร์ตยิ่งขึ้น

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

พร้อมเปิดตัวรถอเนกประสงค์สุดหรู “(All-New Isuzu MU-X) ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ที่เติมเต็มฟังก์ชั่นความปลอดภัยใหม่ในระบบ ADAS โดย “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์” และ “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์” เปิดตัวตนใหม่ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมศกนี้ และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมศกนี้ เป็นต้นไป ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับ อีซูซุ ดีแมคซ์ ยอดยนตรกรรมปิกอัพระดับ Top Class ที่ประสบความสำเร็จทั้งในไทยและต่างประเทศ และยังคงกระแส “ดีแมคซ์ฟีเวอร์” ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทยเมื่อปลายปี 2562 หรือแม้แต่ปัจจุบันที่ตลาดรถยนต์หดตัวลงจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถยากขึ้น อีซูซุดีแมคซ์ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ใช้รถในเมืองไทย เนื่องจากความโดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะ ความคุ้มค่าเงินสูงสุด และภาพลักษณ์ใหม่ซึ่งดูทันสมัย

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับรถปิกอัพรุ่นล่าสุด “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX” ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ โดยมาพร้อมสีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก ที่มีคุณสมบัติพิเศษให้มุมมองสีหลากหลายมิติ ไล่ระดับจากเทาประกายมุกจรดเทาเข้ม ซึ่งสีพิเศษนี้มีให้เลือกใน “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์” ทุกรุ่น

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

นอกจากนี้ยังมี “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์” ปิกอัพสไตล์สปอร์ตเท่ที่มาพร้อมชุดแต่งจัดเต็ม ซึ่งครั้งนี้ได้เพิ่มความสปอร์ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้นอีก ทั้งในรุ่น Speed ให้อารมณ์เรซซิ่งสุดร้อนแรง และรุ่น Hi-Lander สปอร์ตพรีเมี่ยม แฝงเรซซิ่งสปิริตภายใต้ความเรียบหรู สะดวกสบาย

และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น ตลอดจนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) โดยเพิ่มเติมฟังก์ชั่นความปลอดภัย ใหม่! Turn Assist with AEB ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา อีกขั้นของความมั่นใจในทุกการเดินทาง โดยรถแต่ละรุ่นจะเปิดตัวต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม”

นอกจากนี้ ยังมีจุดปรับเปลี่ยนพิเศษในแต่ละรุ่น ได้แก่

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • รถธงรุ่นล่าสุด ใหม่! อีซูซุวี-ครอส 4×4 (NEW! ISUZU V-CROSS 4×4) พรีเมี่ยมสปอร์ตออฟโรดที่มาพร้อมความแรงจัด ขับสนุกเร้าใจของเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เติมเต็มความเข้มดุสไตล์สปอร์ตทรงพลังในทุกมิติของรถด้วย ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สีเทาดำ และ Black Chrome พร้อมไฟท้าย ดีไซน์โทนสีเข้ม ใหม่! Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคันที่กระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง Fender Lip, Robust Extender เพิ่มความดุดัน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่! แบบ Robust Radius สี Matte Black

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ห้องโดยสารอารมณ์ใหม่ เท่ สปอร์ต และหรูหรา ด้วยดีไซน์ High-Class & Sporty เน้นสีแบบทูโทน ดำ-น้ำตาล คอนโซลหน้าสีดำ เบาะคู่หน้าดีไซน์ใหม่ เดินด้ายสีน้ำตาลอย่างพิถีพิถัน และพวงมาลัยสัมผัสใหม่ สีทูโทน พร้อมออกแบบให้มิติห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่า แบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู ที่เติมเต็มอารมณ์ด้วยวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยม สี Brown Cafe และ Satin Silver สปอร์ตหรูเหนือระดับไปอีกขั้น และจัดวางสิ่งอำนวยสะดวกสบายตามหลัก Usability Design เน้นการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบของ Isuzu Ultimate Entertainment ในราคา …….. บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ (New! Isuzu D-Max) รุ่น Cab 4, Hi-Lander และ Spacecab หรูหรา สะดวกสบาย ตอบรับทุกเป้าหมาย ทุกการใช้งานในทุกด้านของชีวิต เท่ เต็มอารมณ์สปอร์ตด้วย ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สี Chrome และ Dark Gray Metallic พร้อมไฟท้ายดีไซน์โทนสีเข้ม และ ใหม่! ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีทูโทนดีไซน์แบบ Robust Radius ในรุ่น Hi-Lander

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ยกระดับการออกแบบภายใน ใช้วัสดุพรีเมี่ยม เติมเต็มความหรูด้วย Piano Black และ Satin Chrome พร้อมพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่า แบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ โอบกระชับ พร้อมเทคโนโลยี Coolmax ลดการสะสมความร้อน เบาะนั่งคู่หน้าเทคโนโลยี AVEC (Anti Vibration Elastic Comfort) ซับแรงสั่นสะเทือน ลดความเมื่อยล้า เบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับ และ ใหม่! เกียร์อัตโนมัติ ใน Hi-Lander และ Cab 4 ในรุ่น LDA
  • รุ่น Spark, Spacecab และ Cab 4 ราคา 515,000 – 845,000 บาท ส่วนรุ่น Hi-Lander ราคา 728,000 – 1,064,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับ ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์ (New! Isuzu X-Series) ยนตรกรรมดีไซน์เท่ แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์ (INFINITE X-LIFE) ขีดสุดความเร้าใจสไตล์สปอร์ต ที่มาพร้อมชุดแต่งจัดเต็ม แรงจัดด้วยขุมพลังเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 เติมเต็มพลังเรซซิ่งแบบไม่ต้องมีลิมิต! โดยมาพร้อม ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทนสีดำ Glossy Black ผสานสีแดงเข้ม Garnet Red พร้อมไฟท้ายโทนสีเข้ม พร้อมสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง ในราคา 728,000 – 977,000 บาท

  • รุ่น Speed สติกเกอร์คาดหน้า-หลัง สีเทาพร้อมขอบแดงใหม่ Garnet Red คมเข้มสะดุดตา พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้า

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • รุ่น Hi-Lander สติกเกอร์คาดหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้าตกแต่งขอบด้วยสีเงิน Silver-Gray ในรุ่นสีขาว / ตกแต่งขอบด้วยสีทอง Light Gold-Silver ในรุ่นสีดำ ใหม่! ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำ Glossy Black ดีไซน์เท่แบบ Robust Radius เสริมความสปอร์ตพรีเมี่ยม โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง เข้มเต็มอารมณ์

และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” (All-New Isuzu MU-X) …ความสำเร็จใหม่ที่คุณกำหนด ยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรู เพิ่มความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่า ล่าสุดเพิ่ม ใหม่! Turn Assist with AEB ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา ในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำหน้าล่าสุด เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง ในราคา 1,119,000 – 1,599,000 บาท

นอกจากนี้ ในรถอีซูซุทุกรุ่นยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ “เตือนการรับบริการ” เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าในการเข้ารับบริการหลังการขายจากอีซูซุ

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

พบกับ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์ แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์” พร้อมเผยโฉม ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ความสำเร็จใหม่ที่คุณกำหนด” เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

สำหรับใครที่อยากซื้อรถใหม่ แต่ถ้าหากว่างบไม่พอ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

บรรทุกของหนักในรถอย่างไร ถึงปลอดภัยในการขับรถช่วงหน้าฝน

หลายคนที่ใช้รถยนต์, รถ Crossover, รถ SUV หรือรถกระบะในการทำมาหากิน ไปทำธุระ ส่งของ ขนของ หาลูกค้า หรือมีไลฟ์สไตล์เริ่มอยากท่องเที่ยว หลังจากที่ต้อง Work From Home อยู่บ้านทำงานกันมานาน ก็เริ่มใช้รถยนต์ในการเดินทางกันในช่วงนี้ ที่ค่อนข้างมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แต่เนื่องด้วยการบรรทุกของหนักนั้น ย่อมส่งผลต่อสมรรถนะรถ การควบคุมรถ และความปลอดภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งในช่วงหน้าฝน การขับขี่รถยนต์ย่อมต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ดังนั้น MR.CARRO จะมาแนะนำเคล็ดลับในการขนของขึ้นรถ บรรทุกหนักได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย กันตามนี้เลยครับ …

บรรทุกของหนักในรถอย่างไร ถึงปลอดภัยในการขับรถช่วงหน้าฝน

1. คำนวณน้ำหนักบรรทุกก่อน

ตามปกติ ในรถยนต์ประเภท SUV และรถกระบะ จะมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระค่อนข้างกว้างขวาง แต่ผู้ใช้ก็ไม่ควรขนทุกอย่างใส่จนเต็มรถตั้งแต่พื้นจนถึงเพดานรถ ควรคำนึงถึงน้ำหนักในการบรรทุก ซึ่งก็คือความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักสูงสุดของรถ ซึ่งรถแต่ละคันออกแบบมาให้รับน้ำหนักสูงสุดได้ไม่เท่ากัน ถ้าเป็นรถ SUV โดยเฉลี่ยเริ่มตั้งแต่ 400 กิโลกรัมเป็นต้นไป

แต่ถ้าเป็นรถกระบะตอนเดียว บรรทุกได้สูงถึง 1,000 กิโลกรัม (1 ตัน) ตามมาตรฐานของผู้ผลิตรถกระบะแต่ละยี่ห้อ ถ้าจะเอาบรรทุกให้มากกว่านั้น ก็คงต้องทำคอกสูง เสริมแหนบ ใส่ล้อกระทะบรรทุก ใส่เพลาลอย แล้วแหละ

การคำนวณน้ำหนักบรรทุกของรถยนต์นั้น คำนวณได้จากน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด (Gross Vehicle Weight) ลบด้วยน้ำหนักของรถยนต์ในขณะว่างเปล่า ตามด้วยน้ำหนักรวมของผู้โดยสาร และเชื้อเพลิง

ตัวอย่างเช่น ผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่หนัก 60 กิโลกรัม 2 คน และเด็กน้ำหนัก 40 กิโลกรัม 2 คน คุณจะต้องลดน้ำหนักการบรรทุกสัมภาระลงไปอีก 200 กิโลกรัม และอย่าลืมคำนวณน้ำหนักของน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยนะครับ

2. รักษาจุดศูนย์ถ่วงให้เหมาะสม

ตามปกติ ไม่ว่าคุณจะใช้รถประเภทไหนก็ตาม ควรวางสัมภาระที่หนักที่สุดไว้บริเวณด้านล่างสุดของพื้นที่เก็บสัมภาระโดยวางสัมภาระให้กระจายน้ำหนักทั่วทั้งพื้นที่บรรทุก เพื่อช่วยให้ศูนย์ถ่วงของรถต่ำลง ลดโอกาสในการพลิกคว่ำ

นอกจากนี้ ยังช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการควบคุมรถซึ่งเกิดจากน้ำหนักของรถนั่นเอง การนำสัมภาระที่มีน้ำหนักมากไว้ท้ายรถจะทำให้ล้อหน้าลอย ซึ่งอาจส่งผลต่อสมรรถนะการบังคับเลี้ยวและการเบรก

บรรทุกของหนักในรถอย่างไร ถึงปลอดภัยในการขับรถช่วงหน้าฝน

3. รัดแน่นไว้ปลอดภัยดี

เพื่อป้องกันไม่ให้สัมภาระกลายเป็นสิ่งอันตรายเมื่อต้องเบรกกระทันหัน ควรเก็บสัมภาระขนาดเล็กใส่กล่องให้เรียบร้อย ส่วนสัมภาระขนาดใหญ่หน่อย ควรทำการรัดไว้ในช่องเก็บของ

ทำแบบนี้แล้ว สัมภาระในรถจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารเมื่อรถต้องเบรคอย่างกระทันหัน

4. ปรับกระจกให้มองเห็นชัดเจน

พยายามหลีกเลี่ยงการบรรทุกตั้งแต่พื้นจนถึงเพดานรถ และปรับกระจกให้มองเห็นชัดเจน จำไว้ว่าถ้ากระจกมองหลังไม่ชัด จะทำให้การขับขี่เป็นเรื่องยากและก่อให้เกิดความเสี่ยงขณะถอยหลัง (เนื่องจากของวางจนสูง บังจนมองไม่ค่อยเห็น กรณีมองผ่านกระจกมองหลัง) ถ้ามองเห็นข้างหลังไม่ชัดก็มีโอกาสสูงที่จะถอยชนคน หรือสิ่งของได้

เว้นเสียแต่ว่ารถคุณจะติดตั้งกล้องมองภาพด้านหลัง หรือสัญญาณกะระยะถอยหลัง ซึ่งจะช่วยให้การถอยหลังง่ายขึ้น

บรรทุกของหนักในรถอย่างไร ถึงปลอดภัยในการขับรถช่วงหน้าฝน

5. การเก็บสัมภาระไว้บนหลังคา

ควรหลีกเลี่ยงการบรรทุกสัมภาระบนหลังคารถยนต์ เพราะมีผลเสียตามหลักอากาศพลศาสตร์และศูนย์ถ่วง ซึ่งส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและการควบคุมรถแม้ในขณะขับด้วยความเร็วต่ำ นอกจากนี้ หากมีสัมภาระหลุดลอยไปขณะที่รถเคลื่อนที่อยู่อาจเป็นอันตรายต่อรถคันอื่น

อย่างไรก็ตาม การติดตั้งแร็คหลังคาอย่างถูกต้องพร้อมราง จะช่วยเก็บสัมภาระให้ปลอดภัย ซึ่งควรเลือกกล่องเก็บของบนหลังคาที่ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาตร์ มีความปลอดภัย กันน้ำได้ และหลีกเลี่ยงการบรรทุกของหนักพร้อมทำการรัดสัมภาระให้แน่นไม่โยกเคลื่อน

6. เก็บสัมภาระที่จำเป็นต้องใช้ให้หยิบง่ายเสมอ

ตรวจสอบให้แน่ใจทุกครั้งว่าเก็บชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน อันได้แก่สายเคเบิลสำหรับจั๊มสตาร์ท โทรศัพท์มือถือ และน้ำดื่ม ไว้ในที่ที่หยิบได้ง่ายเมื่อต้องการใช้ ในรถ SUV บางรุ่น ยางอะไหล่ หรือชุดปะยางฉุกเฉิน อาจถูกเก็บไว้ในพื้นที่เก็บสัมภาระในรถ ดังนั้นรถบางรุ่นอาจไม่สามารถเก็บสัมภาระอื่นเพิ่มเติมได้

บรรทุกของหนักในรถอย่างไร ถึงปลอดภัยในการขับรถช่วงหน้าฝน

7. ตรวจสอบลมและสภาพยาง

ก่อนขับขี่ คุณควรตรวจสอบยางของคุณเพื่อให้แน่ใจว่ายางอยู่ในสภาพดี ไม่สึกหรอ ดอกยางสภาพพร้อมใช้งาน มีการเติมลมยางอย่างถูกต้องเหมาะสมตามคำแนะนำที่ติดไว้บริเวณประตูด้านข้างของคนขับ ด้านในฝาน้ำมัน หรือในคู่มือผู้ใช้งาน

ผู้ขับควรเติมลมตามตัวเลขที่แนะนำไว้ ไม่ใช่ตามตัวเลขความดันสูงสุดที่เห็นบนขอบยาง เนื่องจากรถยนต์แต่ละรุ่นอาจต้องเติมลมยางแตกต่างกันเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง หรือขณะบรรทุกสัมภาระหนัก

8. อย่าบรรทุกสัมภาระที่ไม่จำเป็น

อย่าบรรทุกสัมภาระเกินน้ำหนักที่รถยนต์สามารถรับไหว ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ หรือรถรุ่นใดๆ ก็ตาม ถ้ารู้สึกว่ากำลังบรรทุกเกินพิกัด ควรหาวิธีลดสัมภาระ จำไว้ว่า “ความปลอดภัย” คือสิ่งสำคัญที่สุด

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนช่วงนี้ ใครอยากซื้อรถ SUV, รถ Crossover หรือรถกระบะมือสอง สภาพเยี่ยม ราคาเบาๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถ SUV, รถ Crossover หรือรถกระบะมือสอง รุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

  • Chevrolet

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน!

ช่วงหน้าฝนนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่เรามักเลี่ยงได้ยาก หากอยู่ในเขตพื้นที่ต่ำ ที่ลุ่ม ที่ป่าเขาลำเนาไพร หรือจุดที่ท่อระบายน้ำ ไม่ได้ลอกท่อมานาน เมื่อฝนตกหนักๆ ลงมา สิ่งที่ตามมานั่นก็คือ “น้ำท่วม” (หรือเรียกว่า “น้ำรอการระบาย”) นั่นเอง

ซึ่งทำให้รถยนต์แบบกระบะ, รถแบบ Crossover SUV หรือรถ SUV ที่ออกแบบมาให้ยกสูงหน่อย ใช้ระบบขับเคลื่อนทั้ง 2 ล้อ และ 4 ล้อ สามารถลุยน้ำได้ในระดับหนึ่ง เป็นที่ต้องการของคนใช้รถในบ้านเรามาก เพราะความอเนกประสงค์ในการใช้งานแล้ว ยังลุยน้ำท่วมได้ไหวอีกต่างหาก (แม้ว่ารถทุกคัน จะไม่ได้ออกแบบมาให้ลุยน้ำเป็นหลักก็ตาม)

โดยรถที่มีระยะต่ำสุดจากพื้น (หรือ ความสูงใต้ท้องรถ) (Ground Clearance) น้อยหรือมาก ก็มีผลต่อการลุยน้ำของรถรุ่นนั้นๆ ด้วย และรถที่ลุยน้ำได้ รวมไปถึงช่วงล่างหน้า เครื่องยนต์ ท่ออากาศ ไดชาร์จ และระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งในห้องเครื่องยนต์ ล้วนมีผลต่อการลุยน้ำทั้งสิ้น

สำหรับในบทความนี้ ใครที่กำลังมองหารถกระบะมาใช้งานในช่วงหน้าฝนนี้ แล้วอยากรู้ว่า รถกระบะป้ายแดง หรือรถกระบะมือสองที่มีขายในท้องตลาด มีความสามารถในการลุยน้ำได้มากน้อยแค่ไหน หรือลุยน้ำได้ลึกสุดเท่าไหร่ Mr.Carro จะมาแนะนำ 8 รถกระบะให้ชมกัน

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Isuzu D-Max

1. Isuzu D-Max

กระบะ Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) รถกระบะยอดนิยมของชาวไทย นับตั้งแต่โฉมปี 2011 – 2019 ในรุ่นโฉม Spark, Spacecab, Cab4 หรือ X-Series (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 190 – 200 มม. และในแบบ Spark 4X4, Hi-Lander, V-Cross 4X4 หรือ X-Series (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 225 – 235 มม.

สำหรับ Isuzu D-Max ในส่วนที่เป็นรุ่นโฉมปี 2020 – ปัจจุบัน ในรุ่นโฉม Spark, Spacecab, Cab4 หรือ X-Series (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 190 – 200 มม. และในแบบ Spark 4X4, Hi-Lander, V-Cross 4X4 หรือ X-Series (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 220 – 240 มม.

พูดง่ายๆ คือถ้าคุณเลือกรถกระบะ Isuzu D-Max รุ่น Spark 4X4, Hi-Lander, V-Cross 4X4 หรือ X-Series (ยกสูง) สามารถลุยน้ำได้ประมาณ 80 เซนติเมตร (ในรุ่นยกสูงนะครับ) คือตั้งแต่ช่วงประมาณใต้กระจังหน้าของรถ หรือบริเวณใต้โป่งซุ้มล้อของรถนั่นเอง ส่วนรุ่นนอกเหนือจากนั้น ลุยได้แค่ครึ่งล้อรถก็น่าพอใจมาก มากกว่านี้อย่าเสี่ยง

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Toyota Hilux Revo

2. Toyota Revo

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) รุ่นตั้งแต่โฉมปี 2015 – 2021 ในรุ่นโฉม Standard Cab, Smart Cab, Double Cab รวมถึง Z Edition (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 154 – 165 มม. และในแบบ Prerunner, 4X4, Rocco และ TRD Sporivo / GR Sport (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 205 มม. และ 216 – 217 มม.

แม้ว่าตัวรถจะมีระยะต่ำสุดจากพื้นน้อยกว่าในกระบะยี่ห้ออื่นๆ แต่ทาง Toyota ก็ให้ความมั่นใจว่า สามารถนำ Toyota Revo ไปลุยน้ำได้ลึกที่สุดถึง 80 เซนติเมตร (ในรุ่นยกสูง) เลยทีเดียว

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Nissan Navara

3. Nissan Navara

Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) กระบะพันธุ์กล้าแกร่ง ขับดีแต่ขายไม่ค่อยดี รุ่นตั้งแต่โฉมปี 2014 – 2020 ในโฉม Single Cab, King Cab Cab, Double Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 180 – 205 มม. และในแบบ Double Cab, 4X4, Calibre และ Sportech หรือ Black Edition (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 204 – 220 มม.

ส่วนโฉมปัจจุบัน ในรุ่นโฉม Single Cab, King Cab Cab, Double Cab มีระยะต่ำสุดจากพื้น 205 มม. และในแบบ Double Cab, 4X4, Calibre หรือ PRO2X และ PRO4X มีระยะต่ำสุดจากพื้น 205 มม. และ 225 มม.

ในส่วนของ Nissan Navara (รุ่นยกสูง) สามารถลุยน้ำได้ถึง 70 เซนติเมตร แต่ถ้าเป็นโฉมใหม่ในรุ่น PRO2X และ PRO4X ลุยน้ำได้ถึง 80 เซนติเมตรเลยทีเดียว แต่ถ้าจะเอาระยะปลอดภัย ลุยน้ำสูงแค่ 45 เซนติเมตร ตามที่ Nissan เคยบอกเมื่อหลายปีก่อนก็พอละกัน …

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Mitsubishi Triton

4. Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) สุดหล่อจอมลุย รุ่นตั้งแต่โฉมปี 2014 – ปัจจุบัน ในรุ่นโฉม Standard Cab, Mega Cab, Double Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม. และในแบบ Triton Plus, 4X4 และ Athlete (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 200 – 220 มม.

สามารถลุยน้ำได้ลึกสุดถึง 70 – 80 เซนติเมตร (ในรุ่นยกสูง) เลยครับ

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Mazda BT-50

5. Mazda BT-50

อีกหนึ่งในรถกระบะจากค่ายมาสด้า อย่าง Mazda BT-50 PRO (มาสด้า บีที-50) รุ่นตั้งแต่ปี 2011 – 2020 ในรุ่นโฉม Standard Cab, Freestyle Cab และ Double Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 201 มม. และในแบบ Hi-Racer, 4X4 และ Thunder (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 237 มม.

ส่วน Mazda BT-50 ใหม่ ที่เป็นคู่แฝดกันกับ Isuzu D-Max ในรุ่นโฉม Standard Cab, Freestyle Cab และ Double Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 190 – 200 มม. และในแบบ Hi-Racer และ 4X4 (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 235 – 240 มม.

สามารถลุยน้ำลึกได้ถึง 80 เซนติเมตรเช่นกัน ไม่แพ้รถจากค่ายอื่นๆ

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / MG Extender

6. MG Extender

กระบะน้องใหม่ในตลาดรถยนต์บ้านเราอย่าง MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) ก็มีคุณสมบัติพร้อมลุยไม่แพ้เพื่อนๆ ปิคอัพในระดับเดียวกัน สามารถลุยน้ำได้สูงถึง 70 เซนติเมตร (ตัวเตี้ย) และ 80 เซนติเมตร (รุ่นยกสูง)

ในรุ่นโฉม Giant Cab และ Extended Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มม. และ 183 มม. กับในแบบ Giant Cab และ Extended Cab (ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 231 มม.

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Ford Ranger Raptor

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Ford Ranger

7. Ford Ranger

สำหรับรถกระบะ Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ที่สุดสายลุยทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ในโฉม Hi-Rider, Wildtrak และ 4X4 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2011 – 2021 ทาง Ford เอง รับประกันว่าสามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มม. (หรือ 80 เซนติเมตร) ก็อยู่ช่วงประมาณใต้กระจังหน้าของรถ หรือบริเวณใต้โป่งซุ้มล้อของรถ โดยใช้ความเร็วไม่เกิน 7 กม./ชม. ตามที่ระบุไว้ในคู่มือรถ

ส่วนในรุ่นกระบะพื้นฐาน ความสูงปกติ สามารถลุยน้ำที่สูงได้ไม่เกิน 600 มม. (60 เซนติเมตร)

ซึ่ง Ford Ranger โฉมปี 2011 – 2014 ตัวรถมีระยะต่ำสุดจากพื้น 201- 232 มม., โฉมปี 2015 – 2021 อยู่ที่ 230 มม. ส่วนในรุ่น Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์) ระยะต่ำสุดจากพื้นอยู่ที่ 281 มม. สามารถลุยน้ำได้ลึกที่สุด 850 มม. (85 เซนติเมตร)

ส่วนประกอบสำคัญๆ ของเครื่องยนต์ ไดชาร์จ ระบบไฟฟ้า ถูกออกแบบมาให้สูงพ้นระดับน้ำดังกล่าว และจุดที่เป็นระบบไฟฟ้าก็หุ้มห่อถึง 2 ชั้น อีกทั้งหม้อกรองอากาศก็ติดตั้งวาล์วกันน้ำเข้าอีกด้วย

8 รถกระบะน่าใช้ ลุยน้ำเก่ง ลุยน้ำท่วม ลุยได้ลึก เหมาะกับหน้าฝน! / Chevrolet Colorado

8. Chevrolet Colorado

สำหรับ Chevrolet Colorado (เชฟโรเลต โคโรลาโด้) ที่แม้ว่าจะกลายเป็นตำนานไปซะแล้ว (เพราะบริษัทแม่กลับประเทศไป) แต่ความน่าใช้ และความทนทาน ก็ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม

ในรุ่นโฉม S-Cab, X-Cab และ G-Cab (ตัวเตี้ย) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 187 มม. – 194 มม. กับในแบบ High Country, Z71 และ Z71 4X4 และรุ่นพิเศษต่างๆ (ที่ยกสูง) มีระยะต่ำสุดจากพื้น 198 – 270 มม.

สามารถลุยน้ำที่สูงถึงระดับ 70 – 80 เซนติเมตร อย่างไม่ลำบากยากเย็นนัก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่าทางผู้ผลิตรถยนต์จะระบุว่า ลุยน้ำได้ลึกสุดกี่เซนติเมตรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า น้ำจะไม่ได้เข้ามาในรถนะครับ! การขับขี่ให้ใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ต่ำ รักษาความเร็วคงที่ หลีกเลี่ยงคลื่นที่อยู่ด้านหน้าของรถยนต์และอย่าหยุดรถ และต้องระมัดระวังเครื่องยนต์และชุดกรองอากาศ หากน้ำไหลเข้าหม้อกรองอากาศจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้

ที่สำคัญ หลังจากการลุยน้ำท่วมมาแล้ว อย่าลืมนำรถไปตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก ที่อู่ซ่อมรถหรือศูนย์ด้วยนะครับผม

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo GR Sport (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต) รถกระบะยอดนิยม สายพันธุ์สปอร์ตฝีมือคนไทย ครั้งแรกของเอเชียที่ประเทศไทย พร้อมรุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2564 เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มต้นผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน ออกจำหน่ายครั้งแรกในปี 2511 ใช้ชื่อรุ่นว่า “Hi-Lux” (ไฮลักซ์) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในระยะเวลาอันรวดเร็ว

และในปี 2547 ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของโตโยต้าประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจาก โตโยต้า ประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นฐานการผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์ประเทศแรกนอกประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำการผลิตและจำหน่าย ทั้งภายในประเทศ รวมทั้งส่งออกจำหน่ายในทุกภูมิภาคทั่วโลก ภายใต้ โครงการ IMV ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Innovative International Multi-purpose Vehicle”

ตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษของโตโยต้า รถกระบะ “ไฮลักซ์” รถกระบะยอดนิยมของคนไทย มีลูกค้าครอบครองเป็นเจ้าของแล้ว จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 2.5 ล้านคัน* (*ข้อมูลยอดขายสะสมภายใต้โครงการ IMV ตั้งแต่ปี 2547 – กรกฎาคม 2564)

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

Toyota Hilux Revo GR Sport และ Hilux Revo รุ่นปรับปรุงใหม่ ปี 2564…พลังแกร่งเหนือนิยาม (THE UNBEATABLE)

Toyota Hilux Revo GR Sport และ Hilux Revo 2021 รุ่นปรับปรุงใหม่ ครั้งแรกของเอเชีย ซึ่งพัฒนาโดยหัวหน้าวิศวกรชาวไทย ดร.จุฬชาติ จงอยู่สุข และ คุณอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล โดย ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport นับเป็นผลิตภัณฑ์ GR รุ่นที่ 4 ที่แนะนำสู่ลูกค้าชาวไทย ต่อจาก Corolla GR Sport, GR Supra และ GR Yaris

และเป็นรถกระบะในซีรีย์ GR รุ่นแรก ที่ผลิตในประเทศไทย โดยมี DNA ของมอเตอร์สปอร์ตภายใต้แนวคิดของ Gazoo Racing ที่ว่า “จากสนามแข่ง สู่ท้องถนน” โดย ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport นับเป็นอีกหนึ่งผลผลิตจากแรงบันดาลใจ ในการสร้าง “ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า” รถรุ่นนี้มาพร้อมการออกแบบที่เน้นอารมณ์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน จากชุดแต่งพิเศษรอบคัน ผู้ขับขี่จะสัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพการเกาะถนน และความคล่องตัวที่ดียิ่งขึ้น จากการทำงานของโช้คอัพแบบโมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) ในรุ่น 4WD”

นอกจากนี้ในรุ่น Hi-floor ได้เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัย อาทิ กล้องมอบรอบคัน ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ และในรุ่น Lo-Floor มีการติดตั้งชุดไฟ LED ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน ในรุ่น Mid เพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ให้โดนใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการแต่งรถ

สุดท้ายกับการแนะนำเครื่องยนต์ใหม่ 2.8 ลิตร “GD Super Power” ในรุ่นมาตรฐาน (B-CAB) เพิ่มสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ที่เน้นการบรรทุกหนัก หรือกลุ่มรับจ้างขนของในราคาที่น่าดึงดูดใจ พร้อมด้วยระบบ T-Connect ที่มอบการเชื่อมต่อระหว่างคนและรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

ดร. จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค กล่าวว่า “หลังจากที่ได้เปิดตัวโตโยต้าไฮลักซ์ รีโว่ และฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ในปีที่ผ่านมาเราได้ทำการสำรวจถึงความคิดเห็นของผู้แทนจำหน่าย พนักงานขายและลูกค้าผู้ใช้จริงทั่วประเทศกว่า 1,000 ตัวอย่าง เพื่อให้เข้าใจทั้งจุดเด่นและจุดที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ โดยได้นำผลสำรวจดังกล่าวมาใช้สำหรับการพัฒนาสู่รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2564 นี้ โดยมีการปรับปรุงให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ในทุกๆ รุ่น

นางสาวอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับไฮลักซ์ รีโว่ รุ่น GR Sport ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล Gazoo Racing ซึ่งมีที่มาจากการที่โตโยต้าได้เข้าร่วมการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตเพื่อทดสอบสมรรถนะยานยนต์ในสนามแข่งขันทั่วโลก ผ่านทีม Toyota Gazoo Racing เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของรถยนต์ที่ใช้งานธรรมดา ให้วิ่งบนถนนที่ไม่ธรรมดาและมีอุปสรรคมากมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งยานยนต์ที่มีสมรรถนะพิเศษ โดยเราได้นำความรู้และประสบการณ์จากการแข่งขัน มาใช้ในการพัฒนารถยนต์รุ่น GR เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์ขับขี่แบบมืออาชีพที่ไม่เหมือนใคร”

โดยดีไซน์ของ GR คือการผสมผสานระหว่างฟังก์ชั่นการใช้งานและรูปลักษณ์ (Functional Beauty) ภายนอกโดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โดยถูกออกแบบให้รองรับการขับขี่ตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพิ่มประสิทธิภาพ มีการขับขี่อันยอดเยี่ยม ภายในเน้นความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์รถแข่งระดับโลก Toyota Gazoo Racing ได้เป็นอย่างดี

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่น GR Sport ได้รับการพัฒนาพิเศษจำนวน 2 รุ่น

– ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ

– แนวคิดในการพัฒนารถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ GR-Sport ขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งระดับโลกที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ World Rally Championship (WRC) ซึ่งถือได้ว่าเป็นรายการแข่งขันรถยนต์อันดับต้นๆ ของโลก โดยรถรุ่นนี้เหมาะสำหรับที่ลูกค้า ที่มีความชื่นชอบรถกระบะดีไซน์ GR Sport ที่เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม เหนือใคร มาพร้อมกับโช้คอัพแบบโมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) เพิ่มประสิทธิภาพ ในการควบคุมการขับขี่ให้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น พร้อมขับลุยได้ในทุกสภาพถนน

– ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ขับเคลื่อน 2 ล้อในรุ่น Lo-Floor หรือ ตัวเตี้ย

– แนวคิดในการพัฒนารถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ขับเคลื่อน 2 ล้อในรุ่น Lo-Floor หรือตัวเตี้ย ได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขัน รถยนต์ทางเรียบ Super GT (Grand Touring)

– ซึ่งเป็นการแข่งรถยนต์ทางเรียบความเร็วสูงอันดับ 1 ของเอเชียและเป็นที่นิยมแพร่หลายในระดับโลก โดยรถรุ่นนี้เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการรถกระบะที่มีดีไซน์โดดเด่น โดยปรับลดความสูงช่วงล่างลง 23 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ (Vehicle Stability) โดยเฉพาะในช่วงความเร็วสูง พร้อมปรับปรุงช่วงล่างให้นั่งสบายเหมือนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น

สำหรับปี 2564 นี้ Toyota ยังคงมุ่งมั่นพัฒนารถกระบะ Hilux Revo 2021 ให้ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้า ตั้งแต่การบรรทุกของหนัก ใช้ในชีวิตประจำวัน หรือเป็นรถคู่ใจที่สร้างรายได้ของทุกคน

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

– โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นมาตรฐาน (B-CAB) หรือกระบะตอนเดียว เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังสูง ใช้งานสำหรับบรรทุกของหรือด้านการขนส่ง (Logistic) หรือเกษตรกรใช้บรรทุกผลิตผล และได้นำเครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มาใส่รุ่นมาตรฐาน พร้อมด้วยระบบช่วงล่างที่แข็งแกร่งรองรับน้ำหนักบรรทุกได้อย่างดี และประหยัดน้ำมันสูงสุด

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

– โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่น Z-Edition หรือรถกระบะตัวเตี้ยหน้าหล่อ เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน หรือทำธุรกิจ งานบรรทุก การค้าขายปลีก-ส่ง ได้เป็นอย่างดี และนำไปตกแต่งเพิ่มได้ ซึ่งในรุ่น “Z-Edition ตัวเตี้ยหน้าหล่อ” ได้ปรับเพิ่มไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home และไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ในรุ่น Mid สอดรับกับโป่งล้อ Wide Body ได้เป็นอย่างดี

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

– โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นยกสูง (Prerunner) และขับเคลื่อน 4 ล้อ ถือได้ว่าเป็นรถกระบะรุ่นยอดนิยม ใช้งานอเนกประสงค์ และสะดวกสบายเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง ซึ่งในรุ่นนี้ได้เพิ่มกระจังหน้า โครเมียม และไฟหน้าแบบ LED ปรับระดับอัตโนมัติ และไฟท้ายแบบ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

นอกจากนี้ในรุ่น Mid ได้เพิ่มเบาะหนัง พร้อมปรับด้วยไฟฟ้าด้านผู้ขับ ให้ความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สำหรับในรุ่น High และ Rocco ที่เพิ่มฟังก์ชั่นความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) และ ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) เป็นต้น

สรุปอย่างเร็ว … มีอะไรเด่นๆ เปลี่ยนใหม่บ้าง ใน Toyota Hilux Revo GR Sport 2021 ใหม่?

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

1. ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ (Hi-Floor (4×4)) รถกระบะยกสูงรุ่นท็อป Premium Adventure เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหารถกระบะดีไซน์สปอร์ต ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูง ทรงพลังขับสนุก ควบคุมได้ดั่งใจ สามารถขับลุยได้ทุกที่ ในขณะเดียวกันให้ความรู้สึกเหมือนขับขี่รถยนต์นั่ง และมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า Toyota Safety Sense

– ใหม่…ดีไซน์ภายนอก…โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับรถแข่งดับโลก Toyota Gazoo Racing

– กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถดีไซน์ใหม่ พร้อมตัวหนังสือ TOYOTA และสัญลักษณ์ GR

– กันชนหน้าพร้อมชุดตกแต่ง และกันชนหลังสีดำเมทัลลิก

– ชุดตกแต่งซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถตกแต่งด้วยสีดําเมทัลลิก

– กระจกมองข้างสีดําเมทัลลิก ปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Welcome Light

– เสาอากาศแบบ Shark fin

– สัญลักษณ์ GR และ GR Sport บริเวณด้านข้างและประตูท้าย

– สปอร์ตบาร์สีดำเมทัลลิกพร้อมไฟสองสว่าง LED และพื้นปูกระบะ

– ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่แบบ GR Sport

– สติ๊กเกอร์ด้านข้างและท้ายกระบะ ดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่น GR Sport

– กุญแจรีโมท Smart key ดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่น GR Sport

– ใหม่…ดีไซน์ภายใน…บ่งบอกตัวตนความสปอร์ตในทุกมิติ

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

– ภายในดีไซน์สปอร์ตโทนสีดำสลับแดง ตกแต่งด้วยสี Smoke silver พร้อมสัญลักษณ์ GR ให้ความรู้สึกสปอร์ตในสไตล์รถแข่ง

– เบาะนั่ง Suede แบบเจาะรู และหนังสังเคราะห์เดินด้ายตกแต่งสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR

– แผงคอนโซลหน้า และช่องปรับอากาศด้านหน้าตกแต่งด้วยสี Smoke silver และสีดำเมทัลลิก

– แผงข้างประตู สีดำบุหนังสังเคราะห์พร้อมแถบสี Smoke silver และสีดําเมทัลลิก

– พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ต พร้อมหน้าปัด และระบบสตาร์ทอัจฉริยะ Push start พร้อมสัญลักษณ์ GR

– แป้นคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต

– ใหม่…สมรรถนะการขับขี่…ระบบส่งกำลังในสไตล์รถสปอร์ต ตอบสนองได้ดั่งใจ

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

– ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone Suspension) และระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบแหนบซ้อน พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง พร้อมกับโช้คอัพแบบ โมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift

– ระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เบรกมีครีบระบายความร้อน พร้อมคาลิปเปอร์สีแดง และสัญลักษณ์ GR

– ใหม่…ฟังก์ชันความปลอดภัย…มั่นใจได้ทุกการเดินทาง ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก

– ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)

– ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert)

– ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)

– กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor)

– ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)

– ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

2. ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ขับเคลื่อน 2 ล้อ (Lo-Floor) รถกระบะตัวเตี้ยที่เพิ่มความ Sport Premium ตอบโจทย์ลูกค้าสายรถแต่ง มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ 2.8GD Super Power ที่ให้ความเร็ว แรง และการขับขี่ที่สนุกสนานมากยิ่งขึ้น ซึ่งถูกพัฒนาสำหรับรถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ ในประเทศไทยเท่านั้น

– ใหม่…ดีไซน์ภายนอก…โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับรถแข่งดับโลก Toyota Gazoo Racing

– กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถและสีดำเมทัลลิกดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ GR

– กันชนหน้าพร้อมชุดตกแต่ง

– ชุดตกแต่งสเกิร์ตรอบคัน

– กระจกมองข้างสีดําเมทัลลิกปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว

– เสาอากาศแบบ Shark fin

– สัญลักษณ์ GR และ GR Sport บริเวณด้านข้างและประตูท้าย

– ล้ออัลลอย 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่แบบ GR Sport

– สติ๊กเกอร์ด้านข้างกระบะ ดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่น GR Sport

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

– ใหม่…ดีไซน์ภายใน…บ่งบอกตัวตนความสปอร์ตในทุกมิติ

– ภายในดีไซน์สปอร์ตโทนสีดำสลับแดง ตกแต่งด้วยสี Smoke silver พร้อมเดินด้ายตกแต่งสีแดง และสัญลักษณ์ GR ให้ความรู้สึกแบบสปอร์ตในสไตล์รถแข่ง

– เบาะนั่ง Suede แบบเจาะรู และหนังสังเคราะห์เดินด้ายตกแต่งสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR

– แผงคอนโซลหน้า และช่องปรับอากาศด้านหน้าตกแต่งด้วยสี Smoke silver และสีดำเมทัลลิก

– แผงข้างประตู สีดำบุหนังสังเคราะห์พร้อมแถบสี Smoke silver และสีดําเมทัลลิก

– พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ต พร้อมหน้าปัด สัญลักษณ์ GR

– แป้นคันเร่งและเบรคแบบสปอร์ต

– ใหม่…สมรรถนะการขับขี่…ระบบส่งกำลังในสไตล์รถสปอร์ต ตอบสนองได้ดั่งใจ

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

– เครื่องยนต์ GD Super Power 2.8 ลิตร ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องพละกำลังและความประหยัดสูงสุด

– ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift และ Paddle Shift

– ระบบเบรกหน้าแบบดิสก์เบรกมีครีบระบายความร้อน พร้อมคาลิปเปอร์สีแดง และสัญลักษณ์ GR

– การออกแบบปรับลดความสูงช่วงล่างลง 23 มิลลิเมตร เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ตามหลักอากาศพลศาสตร์ ลดอาการโคลงของตัวรถ ช่วยเรื่องการทรงตัวและเกาะถนนมากยิ่งขึ้น

Toyota เปิดตัว Toyota Hilux Revo 2021 ใหม่! สนนราคา 544,000 - 1,299,000 บาท

พร้อมเป็นเจ้าของโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport และโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2564

36 รุ่นย่อย มีสีภายนอกให้เลือก 8 สี

– Dark Blue Mica (เฉพาะรุ่นยกสูง Prerunner / 4×4 /ยกเว้นรุ่น GR Sport และ Rocco)

– Emotional Red * (เฉพาะรุ่น GR Sport / Rocco)

– Oxide Bronze Metallic (เฉพาะรุ่น Rocco)

– White Pearl CS* (เฉพาะรุ่น GR Sport / Rocco / Prerunner และ 4×4 High)

– Silver Metallic (ยกเว้นรุ่น GR Sport / Rocco)

– Dark Grey Metallic (ยกเว้นรุ่น GR Sport / Rocco / รุ่นมาตรฐาน Cab & Chassis)

– Attitude Black Mica (ยกเว้นรุ่นมาตรฐาน)

– Super White** (ยกเว้นรุ่น GR Sport / Rocco / Pre runner และ 4×4 High)

ราคาคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ

ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ (Hi-Floor (4×4))

– มี 1 รุ่น ราคา 1,299,000 บาท

ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ขับเคลื่อน 2 ล้อ (Lo-Floor)

– มี 1 รุ่น ราคา 889,000 บาท

ไฮลักซ์ รีโว่ Rocco

– มี 4 รุ่น ราคา 966,000 – 1,256,000 บาท

ไฮลักซ์ รีโว่ ยกสูงแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

– มี 5 รุ่น ราคา 879,000 – 1,176,000 บาท

ไฮลักซ์ รีโว่ ยกสูงแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner

– มี 10 รุ่น ราคา 724,000 – 1,026,000 บาท

ไฮลักซ์ รีโว่ Z-Edition

– มี 8 รุ่น ราคา 619,000 – 805,000 บาท

ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นมาตรฐาน กระบะตอนเดียว

– มี 7 รุ่น ราคา 544,000 – 704,000 บาท

(*สำหรับสี Emotional Red และ White Pearl CS เพิ่ม 10,000 บาท / ** สี Super White ลด 7,000 บาท)

เป็นเจ้าของ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ใหม่วันนี้! รับแคมเปญพิเศษ และแพ็คเกจขยายการรับประกันคุณภาพเพิ่มเป็น 5 ปี 150,000 กม. พร้อมค่าแรงเช็กระยะฟรีถึง 100,000 กม. รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท สิทธิพิเศษเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าโตโยต้ากับ Toyota Privilege More

พบกับ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นปรับปรุงใหม่ 2564 ได้วันที่ 25 สิงหาคม 2564 และโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ได้ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2564 ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อ Toyota Hilux Revo ใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครไม่มีงบซื้อรถป้ายแดง ลองหา Toyota Hilux Revo มือสอง มาใช้แทนที่รถคันเดิม Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

ในช่วงที่เศรษฐกิจของไทย ย่ำแย่ติดต่อกันมาในช่วงหลายปีก่อนหน้า หรือการ Disruption ในหลายวงการอาชีพ หรือจะผลกระทบจากโควิด-19 กำลังระบาดหนักในไทยนับตั้งแต่ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้อาชีพการงานแบบเดิมๆ ที่เคยทำกันมานาน ทั้งบริษัทเล็กๆ แบบ SMEs หรือบริษัทยักษ์ใหญ่ ได้รับผลกระทบกันมหาศาล ทั้งด้านการท่องเที่ยว สายการบิน การศึกษา ร้านนวด สปา ผับ บาร์ หรือร้านอาหารทั้งร้านเล็ก ร้านใหญ่ สตรีทฟู้ด ต้องปิดตัวกันไปนับแสนราย

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

ทำให้หลายคนต้องหาทางเอาตัวรอด หาทางสร้างรายได้ สร้างอาชีพใหม่ๆ กันเป็นแถว บางคน อาจจะมีทุนมาก ก็มีสายป่านยาวหน่อย ส่วนคนที่ทุนน้อย ก็อาจต้องลงแรงมากหน่อย เพื่อให้การเริ่มต้นเป็น “นายตัวเอง” ไปต่อได้ ในยุคที่ต้องปรับตัวในการหาเงิน และสู้กับโควิดไปด้วย อย่าง “รถเร่ขายของ” ก็เช่นกัน มีผู้เริ่มมาทำกันมาก ในหลากหลายอาชีพ ทำเลไหนดีก็ขับไปขายทุกวัน ทำเลไหนไม่ดี ก็เปลี่ยนที่ไปได้เรื่อยๆ ไม่ต้องเช่าห้องแถว เช่าที่ให้วุ่นวาย

แถมยังใช้สื่อออนไลน์อย่าง Facebook, IG, YouTube หรือ Twitter เรียกลูกค้ามาพิสูจน์ได้เพียบอีกด้วย! และสามารถควบคุมค่าใช้จ่าย ในแต่ละวันได้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ซึ่งในวิกฤตช่วงนี้ ก็ยังไม่สิ้นโอกาสทีเดียว

ใครที่มีรถกระบะ Carro จะมาแนะนำ 10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถกับข้าว ใครมีรถ มาเปิดท้ายขายของ ทำได้ทันทีครับ!

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

ภาพจาก ออนิว ผักซิ่ง

1. รถพุ่มพวง

รถพุ่มพวง เป็นอะไรที่ชาวกรุงคงต้องเห็นกันคุ้นหูคุ้นตาอยู่แล้ว กับรถเร่ขายของไปตามซอย ตามหมู่บ้านต่างๆ พร้อมเปิดเสียงออกลำโพงเรียกลูกค้า ขายผัก ขายกับข้าว บ้างล่ะ

ชื่อของรถพุ่มพวง นั้น ก็มาจากการห้อยสินค้าเป็นห้อยถุงๆ โตงเตงไว้รอบท้ายกระบะ ซึ่งก็ยังไปพ้องกับไปกับชื่อนักร้องลูกทุ่งหญิงในตำนาน พุ่มพวง ดวงจันทร์ อีกต่างหาก ซึ่งรถพุ่มพวงส่วนหนึ่ง มาจากหาบเร่แผงลอย ที่มักจะถูกเทศกิจไล่บ่อยๆ หรือทำเลที่เคยอยู่ค่าเช่าแพง หรือขายไม่ดี จึงเปลี่ยนรูปแบบการขายมาเป็นการขับรถขายของแทน ซึ่งเริ่มเห็นมากขึ้นนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540

ส่วนใหญ่สินค้ามักเป็นของกิน หรือสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก เน้นขับเข้าไปตามซอยลึกๆ ไปตามหมู่บ้านต่างๆ หรือไซต์งานก่อสร้าง ที่ร้านสะดวกซื้อ อาจจะยังเข้าไม่ถึง เอาใจแม่บ้านถึงที่นั่นล่ะ

แต่รถพุ่มพวง อาจจะไม่จำเป็นต้องขายกับข้าวอย่างเดียวเสมอไป อาจจะขายผัก ขายรองเท้า ขายของกินเล่น ก็มี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อมาเป็นแพ็คๆ หรือเป็นกิโล แล้วมาขายปลีก ให้ได้กำไรมากขึ้นครับ

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

ภาพจาก ร้านบุญมีรับซื้อของเก่า-ข้างรพ.โคกสำโรง

2. รับซื้อของเก่า

อาชีพรับซื้อของเก่า อาจจะเป็นอาชีพที่บางคนดูถูกดูแคลน เพราะต้องอยู่กับของสกปรกทั้งวัน และยังเสี่ยงอันตรายจากสารเคมี เชื้อโรคต่างๆ แต่ก็เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำได้อยู่ ทั้งการนำของเก่าไปรีไซเคิลขาย แถมยังช่วยลดขยะตามบ้านอย่างได้ผลอีกด้วย

บางคนอาจจะยึดอาชีพรับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าๆ นำไปซ่อมแล้วขายใหม่ แต่บางคนก็อาจจะเน้นรับซื้อพวกกล่องกระดาษเก่า ขวดพลาสติก ขวดเบียร์ เศษเหล็ก กระป๋องอะลูมิเนียม หรือหนังสือเก่า ตามความถนัด ซึ่งถ้ามีประสบการณ์มากขึ้น สามารถผันตัวมาเปิดร้าน หรือเปิดพื้นที่รับซื้อของเก่าได้เลย

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

ภาพจาก Nongying Siwaporn

3. ขายกาแฟ

ในยุค Work From Home ต้องทำงานอยู่บ้านแบบนี้ มนุษย์เงินเดือนที่เคยติดกาแฟ ต้องสั่งกาแฟแก้วละเป็นร้อยมากิน จะสั่งออนไลน์ก็เจอค่าส่งเยอะ อาจจะไม่ได้ดื่มกาแฟบ่อยเหมือนแต่ก่อน ถ้าคุณมีฝืมือ หรือเคยเรียนชงกาแฟ จะแบบมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพมาบ้าง อาจจะนำรถกระบะที่ตัวเองมี วางเครื่องชงกาแฟ ตกแต่งรถอีกหน่อย พร้อมชงกาแฟสดๆ ทำเป็นร้านกาแฟเคลื่อนที่ได้เลย

บางคนอาจจะหารายได้เพิ่ม นอกจากจะขายกาแฟเพียงอย่างเดียวแล้ว ก็อาจจะนำเมล็ดกาแฟให้ขายให้ตามร้านต่างๆ ได้ด้วย เรียกว่ารับรายได้สองทางเลย

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

ภาพจาก สวนประภัสราพันธุ์ไม้-คลอง15

4. ขายต้นไม้

เป็นที่รู้กันว่าเหล่าบรรดาแม่บ้าน หรือพ่อบ้าน มักนิยมปลูกต้นไม้ไว้รอบๆ บ้าน การเอารถกระบะมาดัดแปลงเป็นรถขายต้นไม้ ไปรับต้นไม้จากสวนมาขายก็น่าจะไปได้สวย ในช่วงเวลาที่คนอยู่บ้าน Work From Home กันเยอะ

ถ้าหากใครอยากรวยเร็วหน่อย ก็อาจจะหาต้นไม้ หรือสมุนไพร ที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันต้านโควิด-19 มาขายในขณะนี้ เช่น ฟ้าทะลายโจร, กระชายขาว, ขมิ้นชัน, ขิง, มะขามป้อม, กระเทียม, สันพร้าหอม หรือต้นสายน้ำผึ้งมาขาย รับรองขายดีจนหามาขายไม่ทันทีเดียว

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

5. ขายข้าว

ถ้าใครมีอาชีพขายข้าวอยู่ มีหน้าร้านข้าว หรือรู้จักกับคนที่ทำงานโรงสีข้าว ก็ลองเอารถกระบะที่มี หาข้าวหลายๆ ชนิด หรือข้าวสารเป็นถุงๆ ใส่รถกระบะไปแบ่งขายตามหมู่บ้านต่างๆ ก็ได้ เพราะอย่างไรทุกคนก็ต้องกินข้าว

 

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

ภาพจาก Tee Motor

6. ขายผลไม้

นี่ก็จัดว่าเป็นอาชีพยอดฮิตของรถเร่ขายของเลยทีเดียว ซึ่งบางส่วนอาจมีสวนของตนเอง หรือมีแหล่งรับผลไม้จากสวน จากตลาดไท หรือตลาดสี่มุมเมือง ทางที่ดีคุณควรรับผลไม้จากสวน ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เน้นอย่าขายแพง แต่ขายให้หมดไวๆ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงขาดทุน เนื่องจากผลไม้สุก งอม หรือเน่าซะก่อน

สำหรับผลไม้ที่นิยมนำใส่รถกระบะมาขาย ก็มีอยู่หลากหลายประเภท โดยมากมักเป็นผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ ส้ม, กล้วย, มังคุด, สัปปะรด, เงาะ, ขนุน, มะขาม, ทุเรียน, ลิ้นจี่, ลองกอง, ลางสาด, มะม่วง, ฝรั่ง, มะพร้าว, มะละกอ เป็นต้น ซึ่งผลไม้ที่เหลือจากขาย บางอย่างนำมาแปรรูป เช่น กวน เชื่อม เป็นสินค้าใหม่ขายได้อีก

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

ภาพจาก ซูซูกิ101โปรดีby_yu

7. ขายก๋วยเตี๋ยว

บางคนอาจจะเคยเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว หรือเคยเป็นลูกมืออยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เอารถกระบะที่มีมาดัดแปลงทำเป็นรถ Food Truck (ฟู้ดทรัค) ขายก๋วยเตี๋ยวก็น่าสนใจ อาจจะต้องลงทุนมาหน่อยในการเตรียมเครื่องครัว วัตถุดิบต่างๆ หาที่จอดขายตามหมู่บ้าน หรือตามซอยก็ได้

ซึ่งก็สามารถทำได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวไก่ ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ, ก๋วยเตี๋ยวหมู, ก๋วยเตี๋ยวเป็ด, เย็นตาโฟ, บะหมี่น้ำ, บะหมี่หมูแดง, บะหมี่เป็ดย่าง, บะหมี่ไก่ตุ๋น, บะหมี่เป็ดตุ๋น หรือก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ เป็นต้น เหมาะสำหรับคนมีฝืมือด้านการทำอาหารเลย

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

ภาพจาก Cut In Car Barbertruck

8. ทำร้านตัดผม

ช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้หลายคนออกไปนอกบ้านเท่าที่จำเป็นเท่านั้น แถมร้านตัดผมก็ปิด จนผมยาวรุงรังกันไปหมด ถ้าใครเคยเรียนทำผม เรียนตัดผมมา นี่จัดว่าเป็นทางออกที่เหมาะเหม็งมากในยุคนี้ คือการดัดแปลงรถกระบะ ติดแอร์ ทำเป็น “บาร์เบอร์ทรัค” ร้านตัดผมเคลื่อนที่

สะดวกนัดเจอคนตัดเมื่อไหร่ ก็ไปบริการถึงที่ได้เลย พอหลังจากตัดผมคนแรกเสร็จ ก็จะทำความสะอาดภายในก่อน ที่จะให้ลูกค้าคนต่อไปขึ้นมาต่อ ถือเป็นการตอบโจทย์ให้กับลูกค้าในช่วงสถานการณ์โควิด เพราะให้บริการถึงที่ ไม่ต้องเสียค่าเช่าร้านด้วย

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

9. ขายของเบ็ดเตล็ด

ขายของเบ็ดเตล็ด อย่างอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน ไม้กวาด ไม้ถูพื้น เสื้อผ้ารองเท้า ขันน้ำ กะละมัง ฯลฯ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ขายตามหมู่บ้านในยุคนี้อาจรายได้ไม่เยอะนัก เพราะส่วนใหญ่ผู้คนมักนิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์กันเป็นหลัก อาจจะลองขายตามไซต์งานก่อสร้าง หรือโซนที่เป็นชุมชน มีตลาด มีแม่บ้านอยู่เยอะๆ น่าจะขายได้หน่อย

สำหรับข้อดีของการขายของเบ็ดเตล็ด คือของเก็บไว้ได้นาน ไม่ต้องกังวลในเรื่องของเน่าบูด หมดอายุ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยต้นทุนที่สูงหน่อย

10 อาชีพ ขายของบนรถกระบะ รถพุ่มพวง รถเร่ขายของ

ภาพจาก Nattapon Yoowattana

10. รถรับจ้าง

สำหรับใครที่ไม่ได้มีทุนรอนมากมายในการลงทุนซื้อของมาขาย หรือทำอาหารขาย ก็ลองเอารถกระบะที่มีมาเป็นรถรับจ้างก็ได้ ตามป้ายประกาศที่ติดตามเสาไฟฟ้าเยอะๆ นั่นล่ะ ตั้งแต่ไปขนของ ส่งของ ย้ายบ้าน ย้ายหอพัก เป็นต้น

เพียงแต่รถกระบะที่จะนำมาทำเป็นรถรับจ้าง ควรเป็นรถกระบะตอนเดียว ที่มีคอกด้านหลังสูงๆ หน่อยนะ เพราะงานนี้เน้นขนกันจริงๆ

นี่ก็จัดว่าเป็นแนวทางให้คุณลองนำไปใช้ดูนะครับ ซึ่งการดัดแปลงรถ อาจต้องใช้งบประมาณตั้งแต่หลักหมื่น ไปจนถึงหลักแสน ในช่วงเริ่มแรก และต้องคำนวณต้นทุนกำไรในแต่ละวัน โดยรถเร่บางอาชีพ รายได้อาจดีกว่างานประจำ แต่ใช่ว่าทุกคนที่ขายจะมีรายได้แบบนี้ บางวันเกิดฝนตก ขายไม่ได้เลยก็มี ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับทำเลขาย เวลาออกขายในแต่ละวัน ซึ่งคุณอาจคว้าโอกาสรายได้เดือนละครึ่งแสนก็เป็นได้นะ จะบอกให้

CARRO Automall

ส่วนใครที่กำลังมองหารถกระบะคันที่ใช่ มาใช้ในการทำรถพุ่มพวง รถกับข้าว รถเร่ขายของ หรือรถส่งของ Carro จัดเต็มทั้งราคาและคุณภาพ ให้ทุกท่านสามารถเป็นเจ้าของรถกระบะคุณภาพดี ราคาโดนใจ และยังอุ่นใจไปอีกขั้น นอกจากจะผ่านการตรวจสอบรถยนต์ด้วยคุณภาพ 160 จุดอย่างละเอียด จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เรายังรับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี รับประกันไม่กรอไมล์ และรับประกันไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม อีกด้วย! และเรายังมีบริการสินเชื่อรถยนต์จาก Genie เพื่อคุณอีกด้วย

เลือกชม ซื้อรถ หรือจองรถออนไลน์ของ Carro ผ่านหน้าตลาดรถ (คลิกที่นี่) หรือติดต่อผ่าน Inbox ใน Fanpage Carro Thailand

หรือคุณสามารถเลือกชมรถด้วยตนเองได้ที่ Carro Automall สาขาใกล้บ้านท่านได้แล้ววันนี้ ทั้งสาขาดอนเมือง สาขาศรีนครินทร์ และสาขาเกษตรนวมินทร์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 9.30 – 18.30 น.

Carro Automall สาขาดอนเมือง

Carro Automall สาขาดอนเมือง ตั้งอยู่ ณ 292 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทร. 02-508-8690

Carro Automall สาขาศรีนครินทร์

Carro Automall สาขาสวนหลวง ตั้งอยู่ ณ 37/91 ซ.ศรีนครินทร์ 55 (ซอยพรีเมียร์ 1 แยก 1) (ติดฝั่งสวนหลวง ร.9) ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250 โทร. 02-508-8690

Carro Automall สาขาเกษตรนวมินทร์

และ Carro Automall สาขาเกษตรนวมินทร์ ตั้งอยู่ ณ ตลาดรถยนต์มอเตอร์ สแควร์ 289/5 บล็อก H2 ถ.ประเสริฐมนูกิจ (แยกไฟแดงนวลจันทร์ตัดใหม่ ตลาดรถไฟนวลจันทร์เก่า) เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230 โทร. 02-508-8690

รวมถึงศูนย์บริการลูกค้า Carro Customer Experience Center

สาขา Lotus’s บางกะปิ ชั้น 2 เลขที่ 3109 ถ. ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตโลตัสบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240

ดูเส้นทาง

สาขา Lotus’s ศรีนครินทร์ ชั้น 1 เลขที่ 9 หมู่ที่ 6 ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

ดูเส้นทาง

สาขา Lotus’s พระราม 1 ชั้น 3 เลขที่ 31 ถ.พระราม1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

ดูเส้นทาง

สาขา Lotus’s บางใหญ่ ชั้น 1 เลขที่ 90 หมู่ 5 ตำบลบางคูเวียง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130

ดูเส้นทาง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @Carrothai ครับ