Frank-X-Carro-Car-Insurance-Type3-Plus

สวัสดีครับชาว CARRO หากคุณสงสัยว่า “รถมือสองจำเป็นต้องมีประกันรถยนต์ไหม?” คงต้องบอกว่า “จำเป็นครับ” หากคุณมีงบไม่มากแต่ต้องการความดูแลทุกการขับขี่ แนะนำประกันรถยนต์ชั้น 3+ หรือประกันชั้น 3 พลัสก็เหมาะ เพราะเบี้ยไม่แพงความคุ้มครองก็ไม่เบาเลยครับ

ด้วยข้อดี คือ “เบี้ยถูก” ประกันชั้น 3+ เบี้ยประกันรถยนต์จึงมีราคาถูกที่สุดตามทุนประกันที่ 100,000 บาท และประกัน 3+ ยังเหมาะกับรถยนต์ที่มีอายุ 4-15 ปีขึ้นไป หมายความว่า รถมือสองซื้อประกันชั้นนี้ได้แน่ๆ และดูแลค่าซ่อมรถยนต์เราหากเกิดอุบัติเหตุด้วยนะครับ ซึ่งให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. รถยนต์ ที่เรามี จึงช่วยให้ผู้ขับขี่รถมือสองอุ่นใจทุกการขับขี่ได้อีกเปราะ

ประกันชั้น 3+ คุ้มครองเหตุอะไร ?

หากคุณกำลังสงสัยว่า ประกันชั้น 3+ นั้นคุ้มครองอะไรบ้าง เดี๋ยวจะสรุปให้เข้าใจแบบสั้น ๆ ตามนี้ครับ

  • คุ้มครองหากเกิดเหตุรถชนรถ ดูแลค่ารักษาพยาบาล ดูแลกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ เพิ่มเติมจากพ.ร.บ.
  • หากเกิดอุบัติเหตุประกันชั้น 3+ จะช่วยรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ตามทุนประกันของคุณ
  • ดูแลเฉพาะเหตุรถชนรถเท่านั้น และต้องระบุคู่กรณีให้ชัดเจน มีหลักฐานในการแจ้งเคลม
  • กรณีขับรถชนคนเสียชีวิต ประกัน 3+ จะช่วยประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญาที่ต้องส่งฟ้องศาล ตามทุนประกันที่เลือกไว้

เรียกได้ว่า ประกันชั้น 3+ ช่างเป็นประกันภัยที่ดีต่อใจรถมือสอง เพราะมีความคุ้มครองแบบพลัสๆ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก Frank.co.th ประกันที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณ

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

จังหวัดสงขลา เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดสงขลา เป็นที่ตั้งของเทศบาลนครหาดใหญ่ นับเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของไทย และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของภาคใต้ โดยที่หาดใหญ่ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการท่องเที่ยว เป็นศูนย์รวมของสินค้าหลักในภาคใต้ และเป็นประตูผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย และสิงคโปร์

ตัวเมืองหาดใหญ่ ที่นับว่าเจริญมาได้จนถึงทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเพราะมีการทางตัดทางรถไฟสายใต้ ต่อมามีผู้มองการณ์ไกลว่า บริเวณสถานีรถไฟหาดใหญ่นี้ ต่อไปจะต้องเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน จึงได้มีการจับจองและซื้อที่ดินแปลงใหญ่จากราษฏรพื้นบ้าน สร้างอาคารบ้านเรือน พัฒนามาจนเป็นเมืองขนาดใหญ่ อย่างในทุกวันนี้

ในส่วนของอำเภอหาดใหญ่ รวมไปถึงในสงขลา พัทลุง สตูล หรือใน 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น ตลาดรถมือสองในตอนนี้อาจจะซบเซาไปบ้าง จากผลกระทบหลายๆ อย่าง ทั้งสินค้าราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ยางพาราที่จำหน่ายไม่ได้ราคาที่ต้องการ ค่อนข้างส่งผลกระทบอย่างมาก กับตลาดรถมือสองในหัวเมืองปักษ์ใต้ตอนนี้

เรามาดูกันว่า อยู่หาดใหญ่ สงขลา หรือ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พี่บ่าวหรือสาวนุ้ย จะขายรถด้วยวิธีใด ได้แขบที่สุด ราคาดีหลายๆ …

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

1. ประกาศขาย

ไม่ว่านายหัวจะประกาศขายรถในรูปแบบต่างๆ เช่น ตั้งขายจอดขายรถข้างทาง หรือขายในเว็บซื้อ-ขายรถมือสอง ในกลุ่ม Facebook นายหัวก็ต้องรอเวลา ว่าจะมีใครติดต่อกลับมานัดดูรถบ้าง หรือซื้อรถของเจ้าบ้าง อาจจะรอเป็นอาทิตย์ หรือนานเป็นเดือน ไม่ได้เร็วอย่างที่คิดเสมอไป

ยิ่งคนพื้นที่บางคนถ้าไม่ได้เล่นอินเตอร์เนต ก็อาจจะไม่ได้เห็นรถคุณด้วยซ้ำไป ทั้งที่เขาอาจจะกำลังมีเงินพร้อมซื้อด้วยก็ตาม

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

2. ขายเต็นท์

ในหาดใหญ่ และในสงขลาเอง ก็มีเต็นท์รถอยู่หลากหลายที่ ทั้งในตัวเมือง และในอำเภอต่างๆ รอบๆ จังหวัด ซึ่งถ้าพี่บ่าว นายหัว หรือสาวนุ้ยขับรถตระเวนไปเช็กราคาแต่ละที่ ก็ต้องใช้เวลาอีก ซึ่งเต็นท์รถแต่ละที่ ก็ตั้งอยู่กันค่อนข้างห่างพอสมควร บางทีไปเสนอรถให้ทางเต็นท์แล้ว ราคาไม่ได้ดั่งใจก็มี

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

3. ขายรถกับ CARRO หาดใหญ่ (สงขลา)

ถ้าพี่บ่าว นายหัว หรือสาวนุ้ยตัดสินใจมาขายรถที่ “CARRO หาดใหญ่” ซึ่ง CARRO Thailand หรือ คาร์โร เป็น Startup ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถมือสองออนไลน์ชั้นนำ ที่ได้มาตรฐานจากประเทศสิงคโปร์ ตั๋วจะขายออกได้ไว ได้ราคาดี สามารถปิดการขายได้ภายใน 24 ชั่วโมง ขั้นตอนลงขายง่าย อีกทั้งยัง “ฟรี!” ตั๋วไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย รับรอง สบายใจหลาย และทาง CARRO ยังมีพนักงานคอยบริการ คอยติดต่อประสานงานผู้ขายกับผู้ซื้อให้ด้วย

Carro-Sell-Car-In-Hatyai

ออฟฟิศของ CARRO หาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่ 377 ถ.นวลแก้วอุทิศ ต.คอหงษ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110

ถ้าพี่บ่าว นายหัว หรือสาวนุ้ยสนใจ สามารถเข้าไปเช็กราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี้ > https://th.carro.co/sell-car/express

นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1800-012-288, 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

สำหรับเบอร์โทร “02” นั้น เชื่อว่าหลายคนอาจจะลังเลว่า เป็นเบอร์โทรที่ขายรถในพื้นที่ใช่หรือไม่? ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเบอร์โทร 02 ของเรานั้น เป็นเบอร์ Call Center ที่ทางเราได้รับข้อมูลรายละเอียดรถของคุณล้ว ทางเราก็จะประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คอยติดตามดูแลการขายรถให้คุณครับ

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Renew-Or-Choose-New-Company-Car-Insurance

ลังเลใจไม่น้อยเมื่อประกันรถยนต์ใกล้หมดแบบนี้ จะต่อประกันรถยนต์ที่เก่าดี หรือที่ใหม่ดีนะ มีข้อดีข้อเสียต่างกันยังไง ตามเรามาดูกันเลยดีกว่า 

ต่อประกันรถยนต์กับที่เดิม

ใครที่อยากจะต่อประกันรถยนต์ที่เดิมนั่น เหมาะมากๆ สำหรับใครที่ธุรกิจรัดตัว เวลาว่างไม่เยอะ ไม่ต้องการความยุ่งยากให้กับชีวิต เพราะจะต่อประกันรถยนต์ใหม่สักเจ้า นอกเหนือจากเบี้ยประกันแล้ว เราต้องศึกษาเงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเติม แถมต้องคอยเปรียบเทียบประกันอีก ทำให้หลายคนตัดปัญหาที่แสนยุ่งยากเหล่านั้นดว้ยการต่อประกันภัยรถยนต์ที่เดิมแทน

นอกจากนี้ ข้อดีของการต่อประกันรถยนต์ที่เดิม คือ มีส่วนลดเบี้ยประกันภัยในปีต่อไป หากคุณต้องการตัดรายจ่าย ถ้าได้ความคุ้มครองเท่าเดิม แต่จ่ายน้อยลง ที่เดิมนี่แหละที่ตอบโจทย์! แถมยังสะดวกสบายไม่ต้องตระเตรียมเอกสารใหม่ๆ ให้ยุ่งยาก 

ถ้าประกันรถยนต์เจ้าเดิมของคุณไม่มีปัญหา ตอบโจทย์ครบถ้วนอยู่แล้ว ก็คงไม่มีใครคิดจะอยากเปลี่ยนเจ้าประกันรถยนต์หรอก จริงไหมล่ะ

Renew-Or-Choose-New-Company-Car-Insurance

ต่อประกันรถยนต์เปลี่ยนที่ใหม่

ถ้าประกันรถยนต์เจ้าเก่าไม่ค่อยตอบโจทย์เอาเสียเลย การเปลี่ยนไปต่อประกันรถยนต์เจ้าใหม่ๆ น่าจะตอบโจทย์มากกว่า! นอกจากนี้การเปลี่ยนเจ้าต่อประกันรถยนต์นั้น ให้ข้อดีใจแง่การเคลมนั่นเอง เพราะหากคุณเคลมบ่อย อยากจ่ายเบี้ยปีหน้าถูกลง จะต้องย้ายค่ายไปหาเจ้าใหม่จะช่วยให้เบี้ยประกันคุณถูกลงมากกว่า

นอกจากนี้ อาจจะมีสิทธิ์ได้รับส่วนลดมากกว่าอีกด้วย เพราะหลายเจ้ามักมีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมให้กับลูกค้าใหม่ๆ  แต่การเปลี่ยนเจ้า เปลี่ยนที่ต่อประกันรถยนต์ใหม่นั่น มีข้อเสียคือเสี่ยงนั่นเอง เสี่ยงว่าถ้าเราเปรียบเทียบไม่ดี ก็อาจจะเจอประกันรถยนต์ที่แย่กว่าเจ้าเก่าได้ และกว่าจะเปลี่ยนก็ต้องรออีกทีปีหน้าเลยนะ! 

แบบนี้เลือกยังไงให้ชัวร์ ? 

สำหรับใครที่ยังลังเล ชั่งใจว่าจะต่อประกันรถยนต์ที่ไหนดี ที่เก่า หรือที่ใหม่ดีนะ ขอแบบนี้บอกเลยว่าไม่ตายตัว และขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ปัจจัยต่างๆ ขอแต่ละคน เช่น ถ้าประกันเจ้าเดิมดี มีส่วนลดต่างๆ ที่น่าสนใจ เวลาเคลม ไปอู่ซ่อมก็สบาย ไม่ยากอะไร คุณก็อาจจะต่อที่เดิมก็ได้

แต่ถ้าใครที่อยากจะเปลี่ยนที่ใหม่ แสวงหาประกันรถยนต์ที่ดีกว่าประกันรถยนต์เดิมๆ ลองมาทำความรู้จักกับ บริการเปรียบเทียบประกันรถยนต์จาก rabbit finance ที่ให้คุณเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้สะดวกสบาย ไม่ต้องยุ่งยาก ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถค้นหาประกัรรถยนต์พร้อมโปรโมชั่นที่โดนใจ เหมาะกับเงินในกระเป๋าได้ง่ายๆ ไม่ต้องยุ่งยากอีกต่อไป

Masii-Auto-Insurance-And-Secondhand-Car

หากพูดถึงรถยนต์มือสอง แน่นอนว่าหลายๆ คน ก็มักจะเลือกซื้อใช้ เพราะเนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่ารถยนต์มือหนึ่งป้ายแดงอย่างเห็นได้ชัดเจน และรวมไปถึงเรื่องของคุณภาพ และสภาพรถยนต์มือสองทั่วไปในปัจจุบัน ก็คงสภาพได้ดีด้วยอีกด้วย ดังนั้น ไม่แปลกใจเท่าไรที่เพื่อนๆ หลายคนเลือกใช้รถยนต์มือสองกันมากขึ้น

Carro-Masii-Auto-Insurance-And-Secondhand-Car

ใช้รถมือสอง ประกันรถยนต์ยังจำเป็นอยู่ไหม?

แน่นอนว่าอาจจะมีเพื่อนๆ หลายคนที่มักมีความคิดว่าการซื้อรถยนต์มือสองคือการซื้อขาย หรือใช้รถยนต์ต่อจากคนอื่น ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องมีประกันรถยนต์ก็ได้เหมือนกัน อาจจะดูเป็นความคิดที่ไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไรนัก แต่เชื่อสิว่ายังมีคนคิดแบบนี้อยู่จริงๆ นะ ทางมาสิ ขอแนะนำให้เพื่อนๆ พักความเชื่อเหล่านี้เอาไว้ก่อน

เราอยากจะบอกว่ากับเพื่อนๆ ทุกคนว่า ประกันภัยรถยนต์ยังถือว่าเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างมากสำหรับเพื่อนๆ ที่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งป้ายแดงหรือมือสองก็ตาม เพราะหน้าที่หลักของการทำประกันรถยนต์ คือ การคุ้มครองทั้งตัวเราและรถยนต์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เกิดเหตุที่ไม่คาดคิด เห็นไหมว่า มันไม่เกี่ยวกันเลยว่าต้องเป็นรถยนต์มือหนึ่งอย่างเดียวที่ควรทำ รถยนต์ใดๆ ก็สามารถทำประกันรถยนต์ได้ทั้งนั้น

แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่ซื้อรถมือสองมาใช้งาน แล้วพบว่าไม่รู้ว่า เราควรจะเลือกทำประกันรถมือสองประเภทไหนดีถึงจะเหมาะสม วันนี้ มาสิ มีคำแนะนำดีๆ มาฝากกัน ไปดูกันว่า รถมือสอง ทำประกันรถยนต์แบบไหนดี

Carro-Masii-Auto-Insurance-And-Secondhand-Car

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีอายุรถมือสองที่ไม่เก่ามากนัก และใช้งานเป็นประกันทางเราขอแนะนำให้ทำประกันชั้น 1 ไปเลยเพราะว่า จะให้ความคุ้มครองที่มากกว่าชั้นอื่นๆ นอกเหนือจากค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยต่างๆ แต่ยังครอบคลุมไปถึงการคุ้มครองกรณีรถชนไม่มีคู่กรณีอีกด้วยนะ เช่น รถชนต้นไม้ ชนกำแพง เป็นต้น

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากประหยัดค่าเบี้ยประกันน้อยลง ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับรถมือสอง โดยเฉพาะหากรถมือสองมีอายุมากกว่า 3 ปีขึ้นไป สำหรับความคุ้มครองนั้นจะใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 เลย แตกต่างตรงกันที่ชั้น 2+ จะชดเชยความเสียหายกรณีรถชนที่มีคู่กรณีเท่านั้น

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+

ประหยัดได้เพิ่มขึ้นด้วยเบี้ยประกันที่ถูกลง แต่ความคุ้มครองสำหรับชั้น 3+ นั้นไม่ได้แตกต่างกับชั้น 1 และ 2+ โดยเฉพาะรถมือสองที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป ประกันชั้นนี้จะเหมาะกับรถของเพื่อนๆ เลย สำหรับความคุ้มครองจะแตกต่างตรงที่ไม่ครอบคลุมถึงรถหาย และไฟไหม้รถ

เพียงเท่านี้ทาง มาสิ ก็หวังว่าเพื่อนๆ ที่มีรถมือสองอยู่น่าจะทราบและหาได้แล้วว่ารถยนต์ของเราเหมาะกับประกันรถยนต์ชั้นไหน หากใครสนใจหรือมองหาประกันรถยนต์ สามารถโทรเข้ามาสอบถามเบี้ยได้เลยที่ 02-710-3100 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Carro-Masii-Trick-To-Save-Oil-Your-Car

ในปัจจุบันนี้ สิ่งหนึ่งที่คอยรบกวนเราอยู่ทุกวัน คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไปเกือบจะทุกๆ วัน เดี๋ยวราคาขึ้นบ้าง ราคาลงบ้าง เท่ากับว่าถ้าเป็นแบบนี้ในแต่ละเดือน เราจะเสียเงินไปกับค่าน้ำมันของรถยนต์ตัวเองประมาณกี่บาทนะ

แน่นอนว่าหลายๆ คนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นที่เราต้องใช้จ่ายทุกเดือนสำหรับค่าน้ำมัน แต่ถ้าเราลองมองว่าให้เรื่องจำเป็นสามารถประหยัดขึ้นมาได้ จะถือว่าเป็นการช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของเราได้ไม่มากก็น้อย

เคล็ดลับทำอย่างไรให้ประหยัดค่าน้ำมัน

ถ้าหากเกิดคำถามที่ว่าเราจะสามารถหาวิธีประหยัดค่าน้ำมันได้จากที่ไหนบ้าง ซึ่งทาง masii อยากจะบอกเพื่อนๆ เลยว่า จริงๆ การอัปเดตคอยหมั่นดูราคาน้ำมันก็ถือว่าเป็นวิธีที่ช่วยในเบื้องต้นได้แล้ว แต่วันนี้ทางเราได้รวบรวมวิธีการเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยประหยัดค่าน้ำมันมากฝากเพื่อนๆ ชาว Carro จ้า

ตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์

Carro-Masii-Trick-To-Save-Oil-Your-Car

สิ่งแรกเลย วิธีที่จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้มากขึ้นคือ การหมั่นเช็กดูสภาพรถยนต์ของตัวเอง โดยหลักๆ ทาง มาสิ แนะนำว่าให้เพื่อนๆ ตรวจดูอะไหล่เครื่องยนต์ เพราะถ้าหากเราไม่เปลี่ยนอะไหล่เดิมให้เป็นอะไหล่ที่มีสภาพที่พร้อมใช้งาน จะทำให้อายุการใช้งานของรถสั้นลง ส่งผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม

บรรทุกของตามความเหมาะสม

มาสิเข้าใจว่าเพื่อนๆ หลายคนมักจะใช้ชีวิตอยู่บนรถยนต์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัวบนรถยนต์ แต่งหน้าบนรถยนต์ หรือแม้แต่การรับประทานอาหารรถยนต์ก็ต้องทำมาบ้างแล้ว แบบนี้ส่งผลทำให้รถยนต์ของเราบรรทุกของมากขึ้น อาทิเช่น กระเป๋าเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง รวมไปถึงสัมภาระอื่นๆ เท่ากับว่ายิ่งรถยนต์ของเรามีน้ำหนักมากขึ้น ก็จะทำให้รถทำงานมากขึ้นกว่าเดิม

รักษาความเร็วให้มั่นคง

วิธีที่จะช่วยให้รถยนต์ของเพื่อนๆ ประหยัดค่าน้ำมันได้มากขึ้นคือ การขับขี่รถยนต์ด้วยอัตราความเร็วที่เหมาะสมคือ 60-70 กม./ชม. ซึ่งถ้าเพื่อนๆ สามารถทำได้จะเป็นการประหยัดน้ำมันไปได้ถึง 15-20% และลดความเสี่ยงอุบัติเหตุที่จะเกิดท้องถนนได้อีกด้วย

ทำบัตรเครดิตสำหรับการเติมน้ำมัน

Carro-Masii-Trick-To-Save-Oil-Your-Car

สิ่งสุดท้ายที่อยากจะแนะนำเพื่อนๆ หลายคนคือ การทำบัตรเครดิตสำหรับการเติมน้ำมัน แน่นอนว่าธนาคารหรือสถาบันทางการเงินได้จับมือรวมกับปั๊มน้ำมันมากมาย เพื่อเสนอสิทธิพิเศษ โปรโมชั่น และส่วนลดต่างๆ ยิ่งถ้าหากเราจำเป็นต้องเติมน้ำมันอยู่แล้ว ลองรูดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเติมน้ำมันอาจจะได้รับส่วนลด เครดิตเงินคืน สูงสุดถึง 3-5% ก็เป็นไปได้ อาจจะเป็นยอดจำนวนเงินที่ไม่มากไม่น้อย แต่ที่แน่ๆ คือช่วยเราประหยัดค่าน้ำมันได้มากขึ้นนั่นเอง

เพียงเท่านี้ หากเพื่อนๆ ลองปฎิบัติตามกันดูสัก 2-3 ข้อบอกเลยว่า ค่าน้ำมันแต่ละเดือนที่เพื่อนๆ ใช้จ่ายไป จะประหยัดขึ้นได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีเงินเก็บ เงินออมไว้ใช้ในยามจำเป็นอีกด้วยจ้า ถ้าอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถโทรเข้ามาได้ที่ 02 710 3100 หรือไลน์ @masii

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Sell-Car-In-Khonkaen

จังหวัดขอนแก่น จัดเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หรือภาคอีสาน) และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจังหวัดศูนย์ปฏิบัติการ ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง

สำหรับจังหวัดขอนแก่น นับเป็นอีกจังหวัดที่เจริญมากในภาคอีสาน เพราะมีทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ ตั้งกันอยู่มากมาย รวมไปถึงบริษัทเอกชน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP เป็นอันดับที่ 2 ของภาคอีสาน มีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีมากที่สุด คือ 107,607 บาท

สำหรับในจังหวัดขอนแก่นเองนั้น รถยนต์ที่นับว่ามียอดขายเยอะ ซึ่งนับได้ทั้งรถใหม่ และรถมือสอง โดยมากผู้คนที่นี่ มักนิยมรถยนต์ Eco-Car เพราะประหยัด นั่งได้หลายคน ขนของเล็กๆ น้อยๆ ได้ และรถกระบะรูปแบบต่างๆ ที่ใช้ในด้านการเกษตร ธุรกิจขนส่งต่างๆ รวมไปถึงใช้ในหน่วยงานราชการ เป็นต้น

เรามาดูกันว่า อยู่ขอนแก่น อ้ายหรือเอื้อย จะขายรถด้วยวิธีไส ได้ฟ่าวที่สุด ราคาดีคักๆ …

Carro-Sell-Car-In-Khonkaen

1. ประกาศขาย

ไม่ว่าเจ้าจะประกาศขายในที่ต่างๆ เช่น ตั้งขายจอดขายรถข้างทาง หรือขายในเว็บซื้อ-ขายรถมือสอง ในกลุ่ม Facebook เจ้าก็ต้องรอเวลา ว่าจะมีใครติดต่อกลับมานัดดูรถบ้าง หรือซื้อรถของเจ้าบ้าง อาจจะรอเป็นอาทิตย์ หรือนานเป็นเดือน ไม่ได้ฟ่าวอย่างที่คิดเสมอไป

Carro-Sell-Car-In-Khonkaen

2. ขายเต็นท์

ในขอนแก่นเองก็มีเต็นท์รถอยู่หลากหลายที่ ทั้งในตัวเมือง และในอำเภอต่างๆ รอบๆ จังหวัด ซึ่งถ้าอ้ายขับรถตระเวนไปเช็กราคาแต่ละที่ ก็ต้องใช้เวลาอีก บางทีไปเสนอรถให้ทางเต็นท์แล้ว ราคาไม่ได้ดั่งใจอ้ายก็มี

Carro-Sell-Car-In-Khonkaen

3. ขายรถกับ CARRO

ถ้าอ้ายหรือเอื้อยตัดสินใจมาขายรถที่ “CARRO” ซึ่ง Carro Thailand หรือ คาร์โร เป็น Startup ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถมือสองออนไลน์ชั้นนำ ที่ได้มาตรฐานจากประเทศสิงคโปร์ ตั๋วจะขายออกได้ไว ได้ราคาดี สามารถปิดการขายได้ภายใน 24 ชั่วโมง ขั้นตอนลงขายง่าย อีกทั้งยัง “ฟรี!” ตั๋วไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย รับรอง สบายใจเด้อ และทาง CARRO ยังมีพนักงานคอยบริการ คอยติดต่อประสานงานผู้ขายกับผู้ซื้อให้ด้วย

Carro-Sell-Car-In-Khonkaen

ถ้าอ้ายหรือเอื้อยสนใจ สามารถเข้าไปเช็กราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี้ > https://th.carro.co/sell-car/express

นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1800-012-288, 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

สำหรับเบอร์โทร “02” นั้น เชื่อว่าหลายคนอาจจะลังเลว่า เป็นเบอร์โทรที่ขายรถในพื้นที่ใช่หรือไม่? ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเบอร์โทร 02 ของเรานั้น เป็นเบอร์ Call Center ที่ทางเราได้รับข้อมูลรายละเอียดรถของคุณล้ว ทางเราก็จะประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คอยติดตามดูแลการขายรถให้คุณครับ

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่เด้อ —> เพิ่มเพื่อน

Carro x Frank - จะให้ดี... ควรต่อประกันรถตอนไหน

มีรถยนต์ก็ต้องดูแล! ต้องเทคแคร์อย่าให้ขาดทั้งน้ำมัน ทั้งซ่อมบำรุง ทั้งเติมลมยาง และอื่นๆ มากมาย และที่ลืมไม่ได้เลยคือการต่อประกันรถยนต์เพิ่มความคุ้มครองนอกเหนือจาก พ.ร.บ.รถยนต์

ถามว่าเราควรต่อประกันรถยนต์ตอนไหน ?

คงต้องตอบตรงๆ ว่า มีให้เลือกต่อประกันรถยนต์หลายช่วงเวลาตามนี้

1. ต่อล่วงหน้า 3 เดือนก่อนหมดอายุ
2. ต่อล่วงหน้า 1 เดือนก่อนหมดอายุ
3. ต่อล่วงหน้า 1 วันก่อนหมดอายุ

และเพื่อชาว CARRO ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพนกวิน Frank.co.th โบรกเกอร์ประกันภัยออนไลน์ขออธิบายตามนี้ครับ!!

Car-Insurance-For-New-Driver

1. ต่อประกันรถล่วงหน้า 3 เดือน

คงต้องบอกว่า “หากกลัวลืม!!” และต้องการความดูแลต่อเนื่อง
เราสามารถต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้า 3 เดือนก่อนประกันหมดอายุ

สำหรับการต่อประกันล่วงหน้ามีข้อดียังไงบ้าง ?

  • มีเวลาได้พิจารณาเงื่อนไขที่ดีที่สุด
  • มีเวลาอ่านข้อตกลง และเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยที่ต้องการ
  • มีเวลาผ่อนจ่ายยาว ๆ สบาย ๆ ไม่ตึงมือ
  • มีเวลาเคลมรถยนต์และนำเข้าซ่อมก่อนต่อประกันกับที่ใหม่
  • และที่สำคัญคือมีความคุ้มครองต่อเนื่อง

ดังนั้น การต่อประกันภัยล่วงหน้า 3 เดือนนั้น เหมาะสำหรับคนขี้ลืมและเหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนบริษัทฯ ประกันรถยนต์เป็นบริษัทใหม่ แนะนำให้ซื้อประกันล่วงหน้าเลย หากใครเงินไม่พออยากได้ประกันชั้น 1 บางโบรกเกอร์มีผ่อน 0% ให้เลือกด้วยนะ

What-Is-Excess-In-Insurance

2. ต่อประกันรถล่วงหน้า 1 เดือน

ไม่มากไม่น้อยครับสำหรับช่วงเวลา 1 เดือน สำหรับคนที่ต้องการต่อประกันกับเจ้าใหม่ เมินบริษัทฯ เดิม เรายังมีเวลาได้หายใจหายคอดูเบี้ยประกันภัย เทียบความคุ้มครอง เลือกทุนประกัน และมองหาบริการเสริมอื่นๆ จากโบรกเกอร์ออนไลน์เจ้าดังทั้งหลายที่พร้อมให้บริการ

ข้อดีของการต่อประกันรถล่วงหน้า 1 เดือน คือ

  • ไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้านานเกินไป
  • มีเวลาเคลมรอยรอบคัน หรือเคลมแห้งซ่อมกับประกันเจ้าเดิม
  • รับความคุ้มครองต่อเนื่อง (แต่ต้องตัดสินใจในทันนะ)

Old-Car-Over-7-Years-With-Insurance

3. ต่อประกันรถล่วงหน้า 1 วันก่อนหมดอายุ

ถ้าเลือกเพลินเกินห้ามใจ อันนี้ก็ดีอันโน้นก็ดี ตัดใจไม่ได้สักที อันนี้ก็ต้องบอกว่าอาจเสี่ยงหน่อย ๆ ครับ สำหรับการซื้อล่วงหน้า 1 วันก่อนหมดอายุ เพราะประกันรถยนต์บางเจ้าอาจจะต้องใช้เวลาตรวจสอบรถยนต์ก่อนรับประกันก็มี และอาจจะมีระยะเวลาดำเนินการอยู่บ้างครับ

อ่านมาถึงตรงนี้เลือกได้หรือยังครับ ? ว่าต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้าแบบไหนเหมาะกับเรา ?

ขอบคุณข้อมูลจาก Frank.co.th ประกันที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณ

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก จส.100

Carro-Sell-Car-In-Chiangmai

จังหวัดเชียงใหม่ หรือในภาษาคำเมือง เรียกว่า “เจียงใหม่” เป็นจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย มีพื้นที่ประมาณ 20,107 ตร.กม. ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีประชากรราว 1.76 ล้านคน มากเป็นอันดับ 5 ของประเทศ ในจำนวนนี้ เป็นประชากรที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองและชานเมืองราว 960,000 คน

จังหวัดเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาแต่โบราณ มี “คำเมือง” เป็นภาษาท้องถิ่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านประเพณีวัฒนธรรม และมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก

ซึ่งในตอนนี้ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก อาทิเช่น นักท่องเที่ยวชาวจีน ชาวยุโรป หรือชาวเอเชียชาติอื่นๆ ทำให้การจับจ่ายใช้สอยในท้องถิ่น ถือว่าค่อนข้างใช้ได้ เพราะมีรายได้จากการท่องเที่ยวมาช่วยไว้

เนื่องด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยว มีการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างดี (แต่ระบบขนส่งมวลชนยังไม่ค่อยดี) ทำให้ชาวเชียงใหม่ในปัจจุบันก็นิยมการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรถป้ายแดง หรือรถมือสอง ย่อมมีการเปลี่ยนรถใหม่ ขายรถคันเก่า กันอยู่เสมอๆ ทั้งการซื้อไปใช้เอง หรือการใช้ในหน่วยงานธุรกิจเอกชน ราชการ หรือรัฐวิสาหกิจก็ตาม

เรามาดูกันว่า อยู่เจียงใหม่ ตั๋วจะขายรถด้วยวิธีไหน ได้เร็วที่สุด หื่อราคาดีสุด …

arro-Sell-Car-In-Chiangmai

1. ประกาศขาย

ไม่ว่าตั๋วจะประกาศขายในที่ต่างๆ เช่น ตั้งขายจอดขายรถข้างทาง หรือขายในเว็บซื้อ-ขายรถมือสอง ในกลุ่ม Facebook ตั๋วก็ต้องรอเวลา ว่าจะมีใครติดต่อกลับมานัดดูรถบ้าง หรือซื้อรถของตั๋วบ้าง อาจจะต้องใช้เวลานานเป็นอาทิตย์ หรือนานเป็นเดือนเลยก็ได้

arro-Sell-Car-In-Chiangmai

ภาพจาก ลูกสามารถ แล้วไง‎

2. ขายเต็นท์

ในเจียงใหม่เองก็มีเต็นท์รถกระจายอยู่หลากหลายที่ หลากหลายสาขา ทั้งในตัวเมืองเชียงใหม่ และในอำเภอต่างๆ ซึ่งถ้าตั๋วขับรถตระเวนไปเช็กราคาแต่ละที่ ก็ต้องใช้เวลาอีก บางทีไปเสนอรถให้ทางเต็นท์แล้ว ราคาไม่ได้ดั่งใจตั๋วก็มี

arro-Sell-Car-In-Chiangmai

3. ขายรถกับ CARRO เจียงใหม่

ถ้าตั๋วตัดสินใจมาขายรถที่ “CARRO เชียงใหม่” ซึ่ง CARRO Thailand หรือ คาร์โร เป็น Startup ผู้ให้บริการซื้อ-ขายรถมือสองออนไลน์ชั้นนำ ที่ได้มาตรฐานจากประเทศสิงคโปร์ ตั๋วจะขายออกได้ไว ได้ราคาดี สามารถปิดการขายได้ภายใน 24 ชั่วโมง ขั้นตอนลงขายง่าย อีกทั้งยัง “ฟรี!” ตั๋วไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย รับรอง ซว่างอกซว่างใจ๋ และทาง CARRO ยังมีพนักงานคอยบริการ คอยติดต่อประสานงานผู้ขายกับผู้ซื้อให้ด้วย

ออฟฟิศของ CARRO เชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่ 230 บ้านช่างทอง หมู่ 7 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 50200

ถ้าตั๋วสนใจสามารถเข้าไปเช็กราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี้ > https://th.carro.co/sell-car/express

นอกจากจะสามารถกรอกแบบฟอร์มตามข้างต้นแล้ว ยังสามารถติดต่อกับ CARRO ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1800-012-288, 02-508-8425 หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

สำหรับเบอร์โทร “02” นั้น เชื่อว่าหลายคนอาจจะลังเลว่า เป็นเบอร์โทรที่ขายรถในพื้นที่ใช่หรือไม่? ไม่ต้องกังวลครับ เพราะเบอร์โทร 02 ของเรานั้น เป็นเบอร์ Call Center ที่ทางเราได้รับข้อมูลรายละเอียดรถของคุณล้ว ทางเราก็จะประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ คอยติดตามดูแลการขายรถให้คุณครับ

อีกทั้งยังสามารถ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่เน้อเจ้า —> เพิ่มเพื่อน

10-ศัพท์ขายรถมือสอง-ที่คุณต้องรู้-ก่อนจะขายรถ!

ในอดีตหากใครที่ต้องการประกาศขายรถด้วยตัวเอง ช่องทางการขายก็มีค่อนข้างจำกัดกว่าในปัจจุบันมาก เช่น ลงประกาศขายรถในหนังสือพิมพ์ ในนิตยสารรถยนต์ หรือนิตยสารที่เกี่ยวกับรถมือสองเล่มใหญ่ๆ แบบสมัยก่อน

นอกจากการถ่ายรูปรถออกมาให้สวยแล้ว การใช้คำโฆษณาที่กระชับ ดูน่าสนใจ ก็เป็นหนึ่งในจุดสนใจที่ทำให้คนหันมามองรถคันนั้น จนนำไปสู่การไปดูรถของจริง ทดลองขับ ก่อนจะจ่ายเงินและทำสัญญาซื้อขาย

แต่ถ้าคุณอ่านแล้วรู้สึกสงสัยกับ “ศัพท์ขายรถมือสอง” MR.CARRO จะมาอธิบายให้ฟัง ว่าแต่ละคำนั้น หมายความว่าอย่างไร …

Know-10-Thai-Words-About-Used-Car

1. อ.ว.ท.ม.

อ.ว.ท.ม. นั้น ย่อมาจาก “แอร์ วิทยุ เทป แม็ก” (ไม่ใช่ “เอาไว้ทำไม” แบบนี้คนยุคปัจจุบันพูดกันนะ!) เป็นศัพท์ที่คนอายุ 30+ ขึ้นไปถึงจะรู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาหน่อย

เพราะการลงขายรถในอดีต เนื้อที่ในนิตยสารมีจำกัด การลงขายละเอียดย่อๆ ให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย ถือว่าสำคัญที่สุด ซึ่งในสมัยก่อน รถใครที่มีครบทั้ง 4 ออพชั่นนี้ ถือว่าแจ๋วจริงๆ ในยุคที่รถหลายรุ่นแอร์ซื้อต้องแยกต่างหาก ติดวิทยุ เทป แยก และล้อแม็ก ที่มีมาให้เฉพาะรุ่นท็อปๆ เท่านั้น

2. รถมือเดียว

เต็นท์รถยนต์หลายเต็นท์มักการันตีว่า รถที่ลงขายนี่เป็น “รถมือเดียว” นะ! โดยรถมือเดียว ใช้กันเยอะมาก มักใช้ในความหมายที่พูดถึงว่าเป็นรถที่เจ้าของใช้คนเดียวตั้งแต่ป้ายแดงจนขาย เพราะเชื่อกันว่า ขับคนเดียว สภาพรถต้องดีกว่าขับกันหลายๆ คน

แต่ในความเป็นจริง รถคันที่ลงขาย อาจจะเป็นรถที่เปลี่ยนมาหลายมือ เพียงแต่ถือชุดโอนลอยไว้ ไม่ได้โอนเป็นชื่อเจ้าของรถคนล่าสุด หรือขับมาหลายคนแล้วก็เป็นได้ ทางที่ดี ถ้าคุณเล็งๆ รถคันไหนไว้อยู่ ลองเอาเลขทะเบียน เลขรหัสตัวถัง เช็กกับศูนย์บริการดูสภาพรถก่อนก็ได้ ว่าตรวจซ่อมบำรุงมากี่ครั้ง

Know-10-Thai-Words-About-Used-Car

3. รถคันนี้ “ผู้หญิงขับ”

คุณคงเคยเห็นรถบ้านหรือคัน หรือรถเต็นท์โฆษณามา “รถผู้หญิงใช้” คงจะต้องถนอม สภาพดีแน่ๆ (แต่เรื่องรอยเฉียวชนเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะมีบ้างเป็นเรื่องปกติ) และดูแลรถได้ดีกว่าผู้ชายใช้แน่ๆ แต่เรื่องนี้ก็ไม่เสมอไป

เพราะผู้หญิงหลายคนนั้น ก็อาจจะใช้รถอย่างเดียวจริงๆ วิ่งกันจนเครื่องยนต์ความร้อนขึ้น วิ่งกันจนน้ำมันเครื่องแห้ง ก็เป็นไปได้ ดังนั้น การดูแลรักษารถที่มีสภาพที่พร้อมใช้ น่าจะเป็นสิ่งที่คนซื้อรถมือสอง โฟกัสในจุดนี้ มากกว่ามาดูว่ารถคันไหนผู้ชายใช้ หรือผู้หญิงใช้

4. วิ่งน้อย, ไมล์น้อย, ไมล์แท้ๆ

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารถคันนี้ใช้งานมาน้อย ซึ่งก็อาจจะน้อยมากจริงๆ หากเทียบกับรถมือสองในรุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งหลายคนใช้ความเป็นรถวิ่งน้อย อัพราคาขายได้มากขึ้นนิดหน่อย

แต่รถวิ่งน้อยหลายคัน ก็อาจจะไม่ได้มีสภาพที่ดีเสมอไป บางคันวิ่งน้อย แต่จอดตากแดดตากฝนจนสภาพสีซีด สีแตก หรือมีรอยเฉี่ยวชนมาเต็มคันก็มี ดังนั้นก่อนจะเลือกรถคันไหน ก็ต้องดูองค์ประกอบโดยรวมด้วยครับ อีกทั้งในยุคที่ไมล์แบบธรรมดา หรือไมล์แบบดิจิทัล สามารถ “กรอ” กันได้หมด ก็ลองเอารถไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการดูก่อนนะครับ ว่ารถคันนี้ วิ่งมาแท้จริงกี่กิโลเมตร …

Know-10-Thai-Words-About-Used-Car

5. ประวัติดี มี Book Service เช็กได้

อีกหนึ่งทริคที่เต็นท์ขายรถมักใช้ศัพท์นี้กัน ในการเสนอการขาย เนื่องจากศูนย์บริการจะมีเก็บข้อมูลตั้งแต่ตอนเจ้าของคนแรกออกรถมา ไปจนถึงการเข้ารับบริการ การตรวจเช็คตามระยะกิโลเมตร ของรถคันนั้นๆ เอาไว้ ทำให้คนที่จะซื้อรถ สามารถตรวจสอบข้อมูลรถคันที่ต้องการเบื้องต้นได้

ซึ่งอย่างน้อยก็มั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า รถคันนี้ ได้เข้ารับการบำรุงรักษา ที่ศูนย์บริการของยี่ห้อนั้นๆ อย่างแน่นอน

6. รถหมอใช้

ผมเองก็ได้ยินมาตั้งแต่ในอดีตแล้ว ที่เต็นท์รถชอบโฆษณาว่า “รถหมอใช้” โดยความเชื่อของคนไทยส่วนใหญ่มักเชื่อว่า อาชีพหมอหรือแพทย์นั้น เป็นคนที่มีความรู้สูง เรียนมาสูง รายได้ดี เมื่อมีรถก็กล้าที่จะเปย์เงินในการดูแล จึงทำให้ความคิดของคนจะซื้อรถ ต้องคิดว่า รถคันนี้สภาพดีแน่นอน

แต่อะไรในโลกนี้มันก็ไม่เสมอไป เพราะหมอที่ใช้รถวิ่งแบบสมบุกสมบัน ใช้งานกันจนรถมีปัญหาเยอะ ต้องรีบขายทิ้งก็มี!

Know-10-Thai-Words-About-Used-Car

7. เจ้าของไปต่างประเทศ

ในอดีต ยุคที่คนไทยแห่กันไปทำงานในต่างประเทศ “เจ้าของไปต่างประเทศ” มีใช้ให้เห็นกันบ่อยมากตามนิตยสารรถมือสอง หรือตามเต็นท์รถมือสอง

แต่ในปัจจุบันไม่ค่อยมีคนใช้กันแล้ว เพราะผู้บริโภคหลายคนก็รู้ ว่าบางคนไม่ได้ไปต่างประเทศจริงๆ หรอก เพียงแต่ว่าอยากขายรถมือสอง แบบขายด่วนๆ ขายไวๆ เท่านั้น แต่ไม่แน่ เจ้าของรถอาจจะไปเมืองนอกจริงๆ แต่เอกสารชุดโอนที่ให้ไว้ ดันหมดอายุอีก! ต้องเสียเวลามาตามตัว ตามเอกสารกันยาวเลย …

8. ยุบโปรเจค, ล้มโปรเจค

ศัพท์นี้ จะมีให้เห็นกันเยอะ ในบรรดาผู้ที่เล่นรถคลาสสิค รถ Retro และรถซิ่งทั้งหลาย … รถที่ยุบโปรเจค ล้มโปรเจค ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่เจ้าของอยากซื้อมาเก็บเดิมๆ หรือแต่งซิ่ง แต่ด้วยสภาวะทางการเงินที่ย่ำแย่ (พูดง่ายๆ คือ ไม่มีเงินจะใช้จ่ายแล้ว ในยุคนี้) ก็ต้องทำการขายรถออกมา ซึ่งบางคัน อาจจะอยู่ในสภาพปั้นอยู่ในอู่ซ่อมรถด้วยซ้ำไป

แต่การที่คุณจะซื้อรถที่ยุบโปรเจค ล้มโปรเจค ก็อาจจะต้องเตรียมเงินไว้โมดิฟาย หรือซ่อมรถมากขึ้นด้วยเช่นกัน อาจจะต้องเป็นคนที่ถูกชะตากับรถคันนั้นจริงๆ ถึงจะอยู่คู่กันได้ เพราะไม่งั้นก็คงออกมาลงประกาศขายอีก

Know-10-Thai-Words-About-Used-Car

9. ต่อรองหน้ารถ

ในยุคที่ขายรถเป็นเรื่องง่ายกว่าในอดีต อยากจะยกหูคุยกับคนขาย จะแชทคุย ก็ทำได้ง่ายๆ มักจะมาพร้อมกับการต่อรองราคาเสมอ แน่นอน ใครๆ ก็อยากได้ของดี ราคาถูก ซึ่งบางคนยังไม่ทันเห็นตัวรถจริงๆ ก็ต่อราคากันซะแบบกำปั้นทุบดินไปซะก่อน!

คนขายรถหลายคน ไม่ได้แอนตี้นักต่อราคาหรอกครับ เพียงแต่อยากให้ผู้ซื้อ ไปดูรถคันจริงๆ ก่อน แล้วก็ค่อยต่อรองราคา เอาตามความพอใจของทั้งสองฝ่าย หรือจะหาคนที่พูดเก่งๆ คนที่มีความรู้เรื่องรถ ไปช่วยดูช่วยคุยก็ได้อีกทาง

10. น้ำลาย, ไม่พูดมาก เจ็บคอ

ศัพท์นี้ มีให้เห็นเยอะพอสมควร โดยเฉพาะรถบ้านที่ขายในโซเชียลมีเดีย เนื่องมาจากว่าประสบการณ์ของคนขายรถมือสองหลายคน มักเจอกับพวกชอบจองปากเปล่าจนเบื่อ ถึงเวลานัดแล้วเงียบ ไม่มาตามนัดบ้างล่ะ ทำให้เสียโอกาสในการขายรถกับคนอื่นๆ ที่สนใจรถคันนี้ไปด้วย

หลายคนจึงจั่วหัวเป็นข้อความไว้แบบนี้เลย ว่าถ้าคุณไม่พร้อม ก็อย่า Comment เล่น! แต่ก็อาจจะทำให้คนที่สนใจ เมินเฉยไปด้วยเช่นกัน อันนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะเธอ …

สำหรับใครที่อยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

ซื้ออะไรก่อนดี-ระหว่าง-บ้าน-กับ-รถ

ปัญหาโลกแตก สำหรับคนที่อยากจะมีทั้งรถ และ บ้าน ในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะบรรดามนุษย์เงินเดือน หรือเด็กจบใหม่ที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว มีเงินเก็บได้ประมาณก้อนหนึ่ง หรือว่ามีแฟนแล้ว ก็อยากที่จะหาอะไรที่เป็นหลักประกันในชีวิต รวมไปถึงความสะดวกสบายในการเดินทางไปไหนมาไหนด้วย

แต่การจะซื้อทั้งบ้าน และรถ พร้อมๆ กัน มันก็จะดูหนักมากสำหรับใครหลายๆ คน ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณโชคดี มีฐานเงินเดือนที่สูงมากจริงๆ หรือฐานะทางบ้านดี (หรือ “รวย” ก็ได้) มีครอบครัวคอยช่วยผ่อน ช่วยอุดหนุนให้

และนี่ก็เป็นคำถามที่ผมได้ยินมาอย่างสม่ำเสมอ ตลอดเวลาระยะหลายปีมานี้ Mr.Carro จะมาอธิบายให้ฟัง ว่าการซื้อบ้าน หรือ ซื้อรถ อะไรควรซื้อก่อนหลังดี …

Car-VS-House-What-Should-I-Buy-First

1. เพราะ “รถ” มีแต่ “ลด”

ปกติแล้ว รถยนต์ เป็นทรัพย์สินที่มีการเสื่อมมูลค่าลงทุกปี ส่วนทางกับบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่แทบจะไม่มีการเสื่อมมูลค่า มีแต่เก็บไว้แล้วมูลค่าเพิ่มยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัย หรือซื้อไว้เพื่อเก็งกำไร ล้วนแล้วแต่มูลค่าเพิ่มทั้งสิ้น

แต่ในบางอาชีพ ที่อาจจะต้องใช้รถยนต์เป็นเครื่องมือทำมาหากิน เช่น ขับรถแท็กซี่, รถกระบะส่งของ, เซลส์แมน หรือจะขับ Grab Car อะไรก็สุดแท้แต่ … การมีรถไว้ใช้หาเงินได้ ถือเป็นเครื่องมือที่จำเป็น และทำให้ชีวิตคุณสะดวกสบายขึ้น อาจจะต้องมองตรงจุดนี้ด้วยเช่นกัน

และถ้าคุณมีรายได้น้อย ก็ควรจะซื้อรถ ก่อนซื้อบ้าน … แต่ถ้าคุณเป็นลูกคนรวย มีเงินเหลือเฟือ จะซื้อทั้งสองอย่างเลยก็ได้ ไม่มีใครว่า!

2. ผ่อนรถ น้อยกว่าผ่อนบ้าน

ทำไมถึงควรซื้อรถก่อนซื้อบ้าน ก็เพราะว่าการซื้อรถนั้น เราใช้เงินดาวน์ไม่มาก และก็ใช้เวลาผ่อนก็ไม่มาก (โดยส่วนใหญ่ ผ่อนกัน 4 – 7 ปี) ซึ่งต่างจากบ้าน, คอนโดมิเนียม หรือที่ดิน ที่เวลาทำสัญญาผ่อนแล้ว คุณก็จะต้องผ่อนต่อเนื่องไปเรื่อยๆ 25 – 30 ปี

การซื้อรถนั้น ยิ่งถ้าคุณวางดาวน์ไว้เยอะ หรือสามารถโปะค่างวดได้มากกว่าเดิม เงินต้นก็ยิ่งหมดเร็วขึ้นเท่านั้น … หรือจะเลือกซื้อรถมือสองก็ได้เช่นกัน

รถที่มีราคาถูกๆ อย่างรถราคาหลักหมื่นบาท ผมเชื่อว่าหลายๆ คน สามารถซื้อรถด้วยเงินสดได้เลยทันที โดยที่ไม่ต้องผ่อนด้วยซ้ำไป! แต่ก็ต้องลุ้นกับการเก็บงาน เตรียมเงินไว้ซ่อม เช่นเดียวกันกับการซื้อบ้านมือสอง ที่ก็ต้องเตรียมงบไว้ตกแต่ง หรือซ่อมแซมด้วยเช่นกัน

Car-VS-House-What-Should-I-Buy-First

3. การผ่อนรถ เครดิตมาถึงการซื้อบ้าน

ถ้าคุณมีประวัติการผ่อนชำระที่ดี นั่นคือเครดิตที่ช่วยให้คุณกู้เงินซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น และได้วงเงินมากขึ้น เนื่องจากบริษัทไฟแนนซ์ จะส่งข้อมูลประวัติการชำระเงิน ให้กับทางเครดิตบูโรอีกที

4. ถามตัวเองว่าผ่อนไหวมั้ย

การที่จะผ่อนอะไรต่อมิอะไร ไม่ว่าจะเป็น รถ หรือ บ้าน ต้องถามฐานะทางการเงินของคุณก่อนว่า “ผ่อนไหวมั้ย” เพราะถ้าหากคุณตัดสินใจผ่อนอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว เกิดค้างค่างวด ผ่อนไม่ไหวขึ้นมา ก็อาจจะโดนยึดทั้งบ้าน ทั้งรถ ขายทอดตลาดได้ ยิ่งถ้าของที่คุณโดนยึดขายทอดตลาดไปแล้ว ขายได้ต่ำกว่าราคาประเมิน คุณก็จะต้องควักเงินใช้หนี้เพิ่มอีกด้วยครับ

สำหรับความสามารถในการผ่อนชำระ ถ้าคุณคิดจะซื้อบ้าน ต้องผ่อนไม่เกิน 40% ของเงินรายได้ต่อเดือน และสำหรับการผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ ต้องไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน แต่ถ้าจะซื้อทั้งบ้าน ทั้งรถ 2 อย่างพร้อมกัน การผ่อนชำระรวมกันต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน

เพราะนอกจากเงินผ่อนที่คุณต้องจ่ายทุกเดือนแล้ว อย่าลืมว่า มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงตามมาตลอด เช่า ค่าน้ำมัน ค่าภาษี ค่าประกันภัย ค่าซ่อมบำรุง เป็นต้น

Car-VS-House-What-Should-I-Buy-First

5. ความจำเป็น

ความจำเป็น และความพร้อม นับว่าสำคัญมาก เพราะการซื้อรถสักคัน หรือบ้านสักหลัง (หรือจะผ่อนคอนโดมิเนียมก็เหมือนกัน) มีเงื่อนไขในการผ่อนชำระต้องต่อเนื่องยาวนานหลายปี ดูสิว่ามีเงินวางดาวน์เท่าไหร่ เงินเดือนในแต่ละเดือน รายรับเท่าไหร่ รายจ่ายเท่าไหร่ ถ้ามีลูกแล้ว ต้องจ่ายค่ากิน ค่าเทอมเท่าไหร่ ฯลฯ

เมื่อหักลบกลบค่าใช้จ่ายกินอยู่แล้ว จะเหลือเงินเท่าไหร่ ในการผ่อนรถ หรือ บ้าน บ้าง อันนี้สำคัญนะครับ

มาดูกันว่า เงินเดือนเท่าไหร่ ถึงจะได้วงเงินกู้สูงสุด และจำนวนเงินผ่อนต่องวดบ้าง …

เงินเดือน (บาท)

จำนวนเงินผ่อนต่องวด

วงเงินกู้สูงสุด

15,000 6,000 1,000,000
20,000 8,000 1,300,000
25,000 10,000 1,600,000
30,000 12,000 2,000,000
35,000 14,000 2,300,000
40,000 16,000 2,600,000
45,000 18,000 3,000,000
50,000 20,000 3,300,000
55,000 22,000 3,600,000
60,000 24,000 4,000,000
65,000 26,000 4,300,000
70,000 28,000 4,600,000
75,000 30,000 5,000,000
80,000 32,000 5,300,000
85,000 34,000 5,600,000
90,000 36,000 6,000,000
95,000 38,000 6,300,000
100,000 40,000 6,600,000

Car-VS-House-What-Should-I-Buy-First

ในยุคที่คนรุ่นใหม่ มีช่องทางในการหาเงินง่ายกว่าคนรุ่นเก่ามาก แต่ด้วยปัจจัยอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งราคารถที่แพงขึ้น ราคาบ้านที่สูงขึ้น หรือเงินเฟ้อ ข้าวของขายยากขึ้น กำลังซื้อของผู้คนหายไปมาก ก็ทำให้คนรุ่นใหม่ หลายๆ คน ตอนนี้ ตั้งตัวได้ยากกว่าคนรุ่นเก่าด้วยเช่นกัน