MG-Cyberster-Concept-2021

ในงาน Auto Shanghai 2021 ครั้งนี้ ค่ายรถเมืองจีนหลายค่ายต่างนำรถยนต์รุ่นเด็ดๆ มาประชันกันในงานนี้สารพัด เพื่อเอาใจลูกค้าชาวจีนให้หันมาซื้อรถกันอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 กันไปอย่างหนักหน่วงในปีที่ผ่านมา

และทางด้านค่าย SAIC Motor ผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน และยังเป็นเจ้าของแบรนด์ MG (เอ็มจี) ได้นำรถต้นแบบ MG Cyberster (เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมห้องโดยสารสไตล์ E-Sport คันแรกในโลก มาโชว์ในงานนี้ด้วย

ซึ่ง MG Cyberster โดดเด่นด้วยความทันสมัย ความอัจฉริยะ และก้าวล้ำนำหน้า โดยสืบทอดรูปทรงคลาสสิคของรถเปิดประทุน และจิตวิญญาณของรถยนต์ MGB Roadster ไว้อย่างเต็มขั้น MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง ว่ารถสปอร์ตขวัญใจชาวอีสปอร์ตรุ่นนี้ จะมีอะไรเป็นที่น่าสนใจบ้าง

MG-Cyberster-Concept-2021

MG Cyberster คือรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มากับพร้อมห้องโดยสารสไตล์เกมมิ่งคันแรกในโลก สร้างสรรค์โดยทีมนักออกแบบของเอ็มจี สืบทอดรูปทรงคลาสสิคและความเป็นผู้นำเทรนด์ของรถยนต์ MGB Roadster เข้ากับแนวทางการออกแบบใหม่ ระหว่างความสุนทรียภาพ และจินตนาการเชิงศิลป์ ที่สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง

MG-Cyberster-Concept-2021

ด้านหน้าของ MG Cyberster สืบทอดดีไซน์สไตล์คลาสสิคของ MG ด้วยไฟหน้าทรงกลม กระจังหน้าเรียวยาว พร้อมชุดไฟหน้า “Magic Eye” แบบ Interactive และกระจังหน้าที่ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้านข้างตัวรถใช้ชุดไฟ LED “Laser Belt” ลงตัวกับล้อดีไซน์ใหม่แบบ “Hacker Blade” ทำให้ตัวรถดูทรงพลังมากยิ่งขึ้น

MG-Cyberster-Concept-2021

ด้านท้ายของ MG Cyberster ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์แบบยุโรปในลักษณะท้ายสั้น หรือ Kammback พร้อมชุดไฟท้ายดีไซน์สุดล้ำแบบ “Red Wing” ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจน

MG-Cyberster-Concept-2021

นอกจากนี้ การออกแบบโลโก้เรืองแสง ไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศร และสปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกัน ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวของรถสปอร์ตอย่างเต็มที่

MG-Cyberster-Concept-2021

ภายในของ MG Cyberster ดูล้ำยุค มาพร้อมการเชื่อมต่ออัจฉริยะรองรับเทคโนโลยี 5G และชุดแบตเตอรี่ ยังให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร และให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที

สำหรับแนวทางการออกแบบภายใน จะเป็นแบบ “Digital Fiber” วางผังที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง ออกแบบตำแหน่งที่นั่งแยกฝั่งซ้าย-ขวา ออกจากกัน และมีแผงหน้าปัด LED ขนาดใหญ่พร้อมจอกลาง

MG-Cyberster-Concept-2021

โดยแผงหน้าปัดแบบชิ้นเดียว ที่ผสานหลากหลายธีมไว้ด้วยกัน ไม่เพียงแค่แสดงข้อมูลสำคัญๆ แต่ยังให้อารมณ์สปอร์ตคลาสสิคในสไตล์ยุโรป เบาะรองนั่งแบบ Zero-Gravity Seat มือจับหุ้มหนังสีแดงที่บริเวณแผงประตู ลงตัวกับ Laser Belt ในขณะที่เส้นสายภายในและผิวสัมผัสสร้างโมเมนตัมได้อย่างทรงพลัง

MG-Cyberster-Concept-2021

นอกจากนี้ เอ็มจี และ Bilibili E-Sports ซึ่งเป็นบริษัทด้าน E-Sport รายใหญ่ในจีน ยังได้ร่วมกันสร้าง Cockpit เกมซูเปอร์คาร์รุ่นแรกในรถ MG ซึ่งมีดีไซน์ภายในที่รองรับการออกแบบเสียงและแสงในธีม E-sport ให้อารมณ์ความรู้สึกเสมือนหนึ่งอยู่ในโลกของเกมอย่างแท้จริง ให้ผู้ใช้โดยเฉพาะ Gen Z จะชื่นชอบมาก

MG-Cyberster-Concept-2021

ทางด้านสมรรถนะ MG Cyberster ติดตั้งแบตเตอรี่ไร้โมดูล (Moduleless Battery) เทคโนโลยี CTP ในเวอร์ชั่นอัพเกรดใหม่ ซึ่งให้ระยะการขับขี่ที่ไกลถึง 800 กิโลเมตร สามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 3 วินาที

และมีเทคโนโลยีอัจฉริยะชั้นสูง ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการอัพเกรดแบบแอคทิฟ (Active-upgrading) และสมาร์ท ค็อกพิท (Smart Cockpit) นอกจากนี้ MG Cyberster ยังมีเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 อีกด้วย

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า MG Cyberster แบบสปอร์ตโรสเตอร์ต้นแบบคันนี้ น่าจะถูกใจคอเกมมิ่งกันอย่างมากครับ!

หากช่วงนี้ ใครกำลังอยากขายรถคันเดิมอยู่ สามารถขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ โดยได้ราคาที่ดีที่สุด รับประกันความพึงพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

ORA-Lightning-Cat-2021

นี่นับว่าเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่ชาวเน็ตจีนพูดถึงกันอย่างมาก สำหรับ ORA Lighting Cat (โอร่า ไลท์นิ่ง แคท) หรือรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่ทาง ORA นำเสนอออกมาตั้งแต่ก่อนงาน Auto Shanghai 2021 ที่จัดงานในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 21 – 28 เมษายน 2021 เสียอีก ตั้งแต่ภาพชุดสำหรับถ่ายโฆษณา

และในตอนนี้เราก็ได้เห็นตัวรถเป็นๆ กันเสียที กับน้องใหม่ตระกูลแมว ภายใต้ Concept “แค่รักก็โอเคแล้ว”

ORA-Lighting-Cat-2021

แม้ว่าเจ้า ORA Lightning Cat หรือเจ้าแมวสายฟ้า (ORA Shandian Mao) จะเป็นรถต้นแบบในเวลานี้ก็จริง แต่ก็มีแนวโน้มในการนำมาต่อยอด และผลิตขายกันจริงๆ อย่างแน่นอน ในราคาอยู่ที่ประมาณ 2 แสนหยวน (961,000 บาท) กับดีไซน์ที่ดูโค้งมน ลู่ลมเป็นพิเศษ แลดูคล้ายกับรถในแบรนด์ของ Porsche มากทีเดียว อีกทั้งยังมีการปรับทิศทางการเคลื่อนไหว โดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดของแพลตฟอร์ม GWM LEMON

ORA-Lighting-Cat-2021

ORA Lightning Cat ใช้ชุดไฟหน้าและไฟท้ายแบบกลมมน ล้อแม็กขนาด 20 นิ้ว ใช้ตัวรถสีทูโทน เทา-ทอง ที่ดูแปลกตา ประตูแบบไร้กรอบทั้ง 4 บาน สไตล์รถ Hardtop ด้านหลังใช้ชุดสปอยเลอร์แบบไฟฟ้า สามารถพับเก็บได้ และกระจกมองข้างแบบกล้อง และชุดหลังคาแบบ Panoramic Sunroof

ORA-Lighting-Cat-2021

ส่วนห้องโดยสารภายใน แม้ว่าในงานนี้ จะไม่ได้เปิดประตูให้ผู้ชมงานเช้าชมเต็มๆ แต่ก็พอดูได้จากภายนอก ใช้วัสดุโทนสีน้ำตาลอ่อน ดูอบอุ่น ส่วนชุดเบาะหนังแท้ 4 ที่นั่ง ด้านเบาะหลังจะตกแต่งด้วยหนังแท้สีดำ พวงมาลัยหุ้มหนัง บริเวณแผงคอนโซลหน้ายังคงติดตั้งจอ Infotainment ขนาดใหญ่ พร้อมประดับด้วยแถบสีเงิน ตามเทรนด์รถในยุคนี้

มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติระดับ L3 ระบบจอดอัตโนมัติ รวมไปถึงแพลตฟอร์มอัจฉริยะรุ่นที่ 3 ของ Qualcomm ระบบ V2X และระบบการรับรู้รอบทิศทางเอกสิทธิ์เฉพาะของ ORA

ORA-Lighting-Cat-2021

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าทาง ORA ยังไม่ระบุว่ามีขนาดกำลังเท่าไหร่ ระบุแค่เพียงว่าใช้แบตเตอรี่แบบไร้โคบอลต์ (NMX) แบบแท่ง ที่มีชื่อเรียกว่า Jelly Battery มีประสิทธิภาพสูง ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. สามารถทำได้ดีถึง 4 วินาที ถือว่ายอดเยี่ยมพอๆ กับ Porsche Panamera Turbo เลยก็ว่าได้ พร้อมทีเด็ดที่ทาง ORA คุยไว้ ว่าวิ่งได้ระยะทางมากถึง 700 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้งเลยทีเดียว

ORA-Lighting-Cat-2021

สำหรับใครที่สนใจรถรุ่นนี้ ก็เตรียมเก็บเงินซื้อได้เลยจ้า เพราะผลตอบรับถือว่าดีทีเดียว คาดว่า ORA จะเปิดตัวผลิตจริงในไม่นานนี้แน่นอน

หากช่วงนี้ ใครกำลังอยากขายรถคันเดิมอยู่ สามารถขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ โดยได้ราคาที่ดีที่สุด รับประกันความพึงพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

ORA-Punk-Cat-2021

ในงาน Auto Shanghai 2021 ครั้งที่ 19 จัดขึ้นในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 21 – 28 เมษายน 2021 ครั้งนี้ ทางค่าย ORA ได้นำรถยนต์ไฟฟ้ามาโชว์มากมายหลายรุ่น รวมไปถึง อีกรุ่น ORA Punk Cat (โอร่า พังก์ แคท) หรือชื่อรุ่นในภาษาจีน 欧拉朋克猫 (ORA Pengke Mao) มาร่วมเซอร์ไพรส์ผู้เข้าร่วมชมงานในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น Time Machine” ผสานความคลาสสิค และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยได้อย่างลงตัว

ORA-Punk-Cat-2021

ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ ทาง ORA (โอร่า) หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ของค่าย Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ได้เปิดตัวภาพ Teaser ไปก่อนหน้า ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวจีน ที่ชื่นชอบรถยนต์ในรูปทรงย้อนยุคของ Volkswagen Beetle (โฟล์คสวาเกน บีทเทิล) เป็นอย่างมาก

ORA-Punk-Cat-2021

สำหรับรูปทรงภายนอก การดีไซน์แลดูคล้ายกับ โฟล์ค เต่า เป็นอย่างมาก แต่ความแตกต่างตรงที่เจ้า ORA Punk Cat คันนี้ ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบ 5 ประตู Hatchback กับสีรถแบบทูโทน ขาว-เขียว ร่วมกับชุดไฟหน้าทรงกลม ไฟท้ายทรงรี พร้อมกันชนโคมเมียมขนาดใหญ่ ทรงคลาสสิค และประดับด้วยแถบสแตนเลสยาวรอบคัน ภายใต้เทคโนโลยีจากแพลตฟอร์ม GWM LEMON

ORA-Punk-Cat-2021

ด้านห้องโดยสารภายในดูแพรวพราว ออกแนวรถในเทพนิยาย เล่นด้วยโทนสีขาว-เขียว เหมือนสีรถภายนอก ตกแต่งภายในด้วยวัสดุหนัง ตรงกลางใช้จอ Infotainment แสดงข้อมูลขนาดใหญ่ พร้อมมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอลสำหรับคนขับ พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมก้านแตรแบบย้อนยุค เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ กับหัวเกียร์แบบหมุน

รวมไปถึงระบบปรับอุณหภูมิเบาะนั่ง และระบบเบาะนั่งเจ้าหญิง ที่สามารถปรับเอนนอนลงพร้อมการเปิดเพลงแบบอัตโนมัติ รวมถึงยังมีระบบจดจำบุคคล ที่สามารถเก็บข้อมูลและจดจำได้แม้กระทั่งช่วงวันนั้นของเดือน พร้อมกระจกที่รายล้อมด้วยไฟ LED สำหรับการแต่งหน้าในรถของสาวๆ โดยเฉพาะ

แต่ในส่วนของขุมพลัง ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ให้ทราบ แม้ว่าจะยังเป็นเพียงแค่รถยนต์ต้นแบบที่ทาง ORA ทำขึ้นมาเพื่อโชว์ในงานนี้ แต่ถ้ามีเสียงตอบรับดีเมื่อไหร่ ก็อาจเป็นไปได้ในการผลิตจริงครับ

หากช่วงนี้ ใครกำลังอยากขายรถคันเดิมอยู่ สามารถขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ โดยได้ราคาที่ดีที่สุด รับประกันความพึงพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

Hyundai-Staria-2021

นับเป็นเรื่องที่ไม่แปลกประหลาดใจแต่อย่างใด สำหรับการเปิดตัว Hyundai Staria (H-1) ใหม่ รถมินิแวนสุดหรูสุดล้ำ ที่ทาง Hyundai ตั้งใจนำเจ้าตัวนี้มาแทนที่ Hyundai H-1 ที่ขายในตลาดโลกมานานสิบกว่าปี แบบชนิดที่ว่าไม่มีเคล้าเดิมเหลือให้เห็น!

นับตั้งแต่ค่าย Hyundai เริ่มต้นเปิดตลาดรถตู้เป็นของตัวเองในชื่อ Hyundai Starex (ฮุนได สตาเร็กซ์) ในปี 1997 ด้วยการซื้อสิทธิการผลิตมาจาก Mitsubishi Delica (มิตซูบิชิ เดลิก้า) เอามาแต่งหน้าทาปาก แล้วขายในแบรนด์ฮุนได

กระทั่งในปี 2007 รถตู้แบบมินิแวนแท้ๆ ที่ Hyundai พัฒนาขึ้นเองทั้งหมด บ้านเรารู้จักกันดีในชื่อ Hyundai H-1 (ฮุนได เอชวัน) จึงได้ถือกำเนิดขึ้น และขายดีในระดับหนึ่ง ด้วยราคาที่จับต้องได้ และยังได้รับความนิยมมาจนถึงตอนนี้

Hyundai-Staria-2021

Hyundai Staria รุ่น Tourer

แต่สำหรับ Hyundai Staria (ฮุนได สตาเรีย) ใหม่นี้ ถือเป็นการพลิกโฉมการออกแบบใหม่หมด พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์ม Hyundai-Kia N Platforms (Hyundai-Kia N3) กับแนวคิดการออกแบบ Inside-Out

Hyundai-Staria-2021

Hyundai Staria รุ่น Top สุด อย่าง Lounge

ใช้ชุดไฟ Daytime Running Light LED แบบ Beltline บริเวณฝากระโปรงหน้าเป็นแถบยาว ชุดไฟหน้าไปอยู่ที่ชุดกันชนหน้า เป็นลายตะแกรงดูย้อนยุค ส่วนชุดไฟท้ายแบบแนวตั้ง Parametric Design แบบเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า IONIQ 5 ส่วนด้านข้างเพิ่มเนื้อที่กระจกรอบคันใหญ่จุใจ ให้มองเห็นวิวได้รอบทิศ

Hyundai-Staria-2021

มิติตัวรถยาว 5,255 มม. กว้าง 1,995 มม. สูง 1,990 มม. (และ 2,000 มม.) ระยะฐานล้อ 3,275 มม.

Hyundai-Staria-2021

ห้องโดยสารภายใน ได้อารมณ์ของความหรูหรา ที่ทาง Hyundai ถอดแบบมาจากเลานจ์ในเรือสำราญ ผนวกกับอุปกรณ์ความบันเทิงนานาชนิด ตั้งแต่พวงมาลัย 4 กานรูปทรงแปลกตา ชุดเครื่องเสียงจาก Bose, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Infotainment จอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว, กล้องมองภาพภายในรถแบบมุมกว้าง ติดตั้งลำโพงและไมโครโฟน สำหรับไว้คุยกันได้ระหว่างผู้โดยสารหน้า-หลัง, ชุดเกียร์แบบปุ่มกด และไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารปรับได้ 64 สี เป็นต้น

Hyundai-Staria-2021

ห้องโดยสารภายใน มีให้เลือกตั้งแต่แบบ Premium 9 ที่นั่ง มาพร้อมชุดเบาะนั่งสามแถว แบบ Premium Relaxation Seats พร้อมระบบปรับเอนด้วยไฟฟ้า ส่วนรุ่น 11 ที่นั่ง ให้เบาะนั่งแถวสองแบบ Captain Seat ขนาดใหญ่ หมุนได้ 180 องศา เพื่อความสะดวกในการเข้าไปยังแถวที่ 3 หรือเปลี่ยนเป็นห้องนั่งเล่น ห้องประชุมได้

ระบบความปลอดภัย เป็นแบบ Hyundai SmartSense เช่นเดียวกับรถยนต์นั่งของฮุนได

Hyundai-Staria-2021

ขุมพลังของ Staria ทุกแบบ เริ่มต้นด้วยขุมพลังดีเซลขนาด 2.2 ลิตร CRDi แบบ 4 สูบ VGT 177 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 431 นิวตันเมตร (44.0 กก.-ม.) ที่ 1,500-2,500 รบ/นาที ประหยัดน้ำมัน 10.8 กม./ลิตร

และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.5 ลิตร แบบ Smartstream ใช้พลังก๊าซ LPG ให้แรงม้าสูงสุด 240 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 32.0 กก.-ม. (314 นิวตันเมตร) ที่ 4,500 รอบ/นาที

ระบบเกียร์ให้เลือกทั้ง 2 แบบ นั่นคือ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ส่วนระบบส่งกำลังมีทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD

Hyundai-Staria-2021

สำหรับรุ่นย่อยของ Staria แบ่งออกได้ตั้งแต่แบบ Cargo3 ซึ่งเป็นแบบรถตู้เชิงพาณิชย์ มี 3 ที่นั่ง รุ่นย่อยมีทั้งแบบ Smart ราคา 27.26 ล้านวอน และรุ่น Modern ราคา 28.72 ล้านวอน

ส่วน Cargo5 ซึ่งเป็นแบบรถตู้เชิงพาณิชย์ มี 5 ที่นั่ง รุ่นย่อยมีทั้งแบบ Smart ราคา 27.95 ล้านวอน และรุ่น Modern ราคา 29.52 ล้านวอน

และ Staria แบบหรูอย่าง Tourer มีทั้งแบบ Tourer 9 ราคา 30.84 ล้านวอน และ Tourer 11 ซึ่งแยกย่อยออกไปได้อีกเป็นรุ่น Smart ราคา 29.32 ล้านวอน และ Modern ราคา 30.84 ล้านวอน

Hyundai-Staria-2021

สำหรับรุ่นหรูสุดขีด อย่าง Lounge มีทั้งแบบ Lounge 7 Inspiration มี 7 ที่นั่งสุดหรู ราคา 42.12 ล้านวอน และ Lounge 9 แบ่งออกได้เป็นรุ่นแยกย่อยอย่าง Prestige ราคา 36.61 ล้านวอน และ Inspiration ราคา 40.48 ล้านวอน

สำหรับในไทย คงต้องติดตามดูกันเร็วๆ นี้ ว่าทาง Hyundai ประเทศอินโดนีเซีย จะได้ขึ้นสายการผลิตรุ่นนี้กันเมื่อไหร่ ต้องติดตามรอดูในปลายปีนี้ที่เราเชื่อว่า Hyundai ประเทศไทย น่าจะนำเข้ามาโชว์ (และอาจจะขายด้วย) เป็นแน่แท้ แต่ถ้านำเข้าจากเกาหลี ราคาต้องสูงกว่ารุ่นเดิมเป็นเท่าตัวแน่นอนครับ!

หากช่วงนี้ ใครกำลังอยากขายรถคันเดิมอยู่ สามารถขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ โดยได้ราคาที่ดีที่สุด รับประกันความพึงพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

New-Car-Booking-Motorshow-2021

บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เผยยอดจองรถยนต์หลังการจัดงาน Motor Show 2021 ที่แม้ว่าผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงมีอยู่แต่ก็เริ่มบรรเทาลง ผู้คนมีกำลังใจในการจับจ่ายใช้สอย ซื้อรถใหม่ๆ มากขึ้น จึงสร้างยอดจองรถในงานได้ถึง 27,868 คัน คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 30,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 51.5% จากปี 2563 ที่ผ่านมา อีกทั้งค่ายรถส่วนใหญ่ ได้ทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด

ขณะที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นในมาตรฐานการป้องกันโควิด-19 ของผู้จัดงาน ทำให้ตัวเลขผู้เข้าชมงานสูงถึง 1.34 ล้านคน จากเดิม 1.049 ล้านคน เพิ่มขึ้น 28.6%

Motorshow-2021-Sightseeing

ในส่วนพฤติกรรมของผู้บริโภคเองปีนี้ ต่างให้การตอบรับกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวก่อนหน้างาน และเปิดจองภายในงานมอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรก เห็นได้จากบรรยากาศการเจรจาที่หนาแน่นดังเช่นทุกปี โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์ที่มียอดจองเป็นสองเท่าของวันธรรมดา แต่ช่วงนี้หลายคนยังต้องต้องรัดเข็มขัด จึงหันมาซื้อหารถใหม่ที่ตอบโจทย์ความคุ้มค่ามากขึ้น ขณะที่ตลาดรถหรูยังคงเติบโตตามเป้า ด้วยสาเหตุที่ค่ายรถเองชิงเปิดตัวสินค้าใหม่แทบทุกรุ่น เพื่อกระตุ้นยอดขาย

ด้านเทคโนโลยีต้องบอกว่า ปีนี้เป็นปีของยานยนต์ไฟฟ้า ผู้บริโภคต่างให้ความสนใจพร้อมเปิดรับความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเมื่อค่ายรถหันมาทำตลาดรถยนต์ Hybrid (ไฮบริด) หรือรถ Plug-In Hybrid (ปลั๊กอินไฮบริด) มากขั้น ส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าต่อจากนี้ คงต้องจับตาเมื่อมีผู้เล่นหน้าใหม่หันมาชิงตลาดนี้ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 มี.ค. – 9 เม.ย. 2560 รวม 36,093 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 28 มี.ค. – 8 เม.ย. 2561 รวม 36,587 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 27 มี.ค. – 7 เม.ย. 2562 รวม 49,278 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 15 ก.ค. – 26 ก.ค. 2563 รวม 22,791 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 24 มี.ค. – 4 เม.ย. 2564 รวม 27,868 คัน

ถึงแม้ว่า ที่ผ่านมาเราต้องเจอผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยอดจองลดลงจากช่วงปรกติ แต่ด้วยตัวเลขยอดจองในปีนี้ แสดงว่ามีการเติบโตขึ้นจากปีก่อนถึง 51.5% เชื่อว่ากำลังซื้อของคนไทย ที่อยากได้รถยนต์คันใหม่ไม่ได้หายไปไหน แค่รอเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงิน ในการออกแคมเปญ และโปรโมชั่นของค่ายรถ ด้วยเงื่อนไขที่หลากหลาย เลือกให้เหมาะสมกับความต้องการได้

ยอดจองรถยนต์ในงาน-Motor-Show-2021

ตารางยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Show 2021

ยอดจองรถจักรยานยนต์ในงาน-Motor-Show-2021

ตารางยอดจองรถจักรยานยนต์ในงาน Motor Show 2021

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับของ Motor Show 2021 วันที่ 24 มี.ค. – 4 เม.ย. 2564

1. Toyota 4,406 คัน

Toyota-Corolla-Cross-2021

2. Mazda 3,454 คัน

Mazda-BT-50-2021

3. Honda 3,305 คัน

Honda-City-eHEV-2021

4. Isuzu 2,829 คัน

Isuzu-D-Max-V-Cross-2021

5. Suzuki 2,689 คัน

Suzuki-Swift-2021

6. Mercedes-Benz 1,863 คัน

Mercedes-Benz-E-200-Coupé-AMG-Dynamic-2021

7. MG 1,629 คัน

MG-ZS-2021

8. Mitsubishi 1,462 คัน

Mitsubishi-Pajero-Sport-2021

9. Ford 1,212 คัน

Ford-Ranger-FX4-Max-2021

10. Nissan 1,144 คัน

Nissan-Kicks-e-Power-2021

พบกันใหม่ในปีหน้ากับงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43″ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – เมษายน 256ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี 

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Eco-Car-In-Motorshow-2021

รถ Eco-Car (อีโคคาร์) ถือเป็นรถที่ยอดนิยมของชาวไทยมานานนับสิบปี ที่แม้ว่าจะเป็นรถเล็ก แต่ก็ให้พลังเครื่องยนต์เหลือเฟือ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเลยทีเดียว ด้วยคุณสมบัติที่ประหยัดน้ำมัน ขับง่าย หาที่จอดรถก็ง่าย และยังซ่อมง่าย ใช้งานได้อเนกประสงค์ อีกทั้งมีราคาเริ่มต้นที่ไม่แพง วัยรุ่น นักศึกษา หรือเด็กจบใหม่ ที่รายได้ยังไม่มากนัก ก็สามารถวางดาวน์ และผ่อนต่อเดือนได้สบายๆ

ในงาน Motor Show 2021 นี้ ผู้ผลิตรถ Eco-Car หลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, นิสสัน, มิตซูบิชิ, มาสด้า, ซูซูกิ หรือ เอ็มจี ก็ยังนำเสนอรถในแบบ Eco-Car ที่มีการปรับโฉมเล็กๆ น้อยๆ กระตุ้นให้เกิดความสนใจอย่างต่อเนื่อง

โดยในงาน Motor Show 2021 จะมีรถ Eco-Car รุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

Nissan-March-2021

Nissan March

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ถือได้ว่าเป็นรถ “Eco-Car” รุ่นแรกของไทย เปิดตัวผลิตขายอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2553 มาพร้อม Concept “ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีก” มียอดสะสมรวมมากนับหลักแสนคัน และยังคงขายในบ้านเราเข้าสู่ปีที่ 11 โดยปรับราคาขึ้นไปบ้าง ณ ปัจจุบัน มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก แต่ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย

ภายในเพิ่มความมีระดับ ด้วยสีภายในสีดำ แผงคอนโซลหน้าตกแต่ง Piano Black สีดำ และทันสมัยมากขึ้นด้วยแผงแสดงผลหน้าจอล้อมกรอบด้วยโครเมี่ยม สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB ไฟในห้องเก็บสัมภาระ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Anti-jam Protection) ด้านคนขับ และกุญแจอัจฉริยะ พร้อมระบบ Immobilizer

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร ขับขี่ก็ง่าย จอดรถก็คล่องตัว ราคาอะไหล่ไม่แพง คุ้มค่า

ราคาของ Nissan March

  • รุ่น 1.2 S MT ราคา 420,000 บาท
  • รุ่น 1.2 E MT ราคา 480,000 บาท
  • รุ่น 1.2 S CVT ราคา 495,000 บาท
  • รุ่น 1.2 EL CVT ราคา 510,000 บาท

Nissan-Almera-2021

Nissan Almera

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) จัดเป็นรถ Eco-Car ขนาด 4 ประตู เครื่อง Turbo รุ่นแรกที่ออกมาในตลาด “Intelligent Urban Sedan” โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ใหม่โฉบเฉี่ยว และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) เป็นต้น

ภายในออกแบบใหม่หมด ใช้วัสดุคุณภาพสูง เน้นความประณีตในการประกอบ พร้อมพื้นที่ว่างเหนือศีรษะ พื้นที่วางขาที่กว้างขวาง คงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในด้านความกว้างขวางที่สุด ในรถยนต์ระดับเดียวกัน และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ AIVI สะดวกสบายในการใข้งานทั้งระบบนำทาง ระบบความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ ภายใต้การเชื่อมต่อที่ราบรื่นผ่านสมาร์ทโฟน

วางขุมพลังขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 152 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) มีประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic แถมยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility

ราคาของ Nissan Almera

  • รุ่น S ราคา 499,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 639,000 บาท

Mitsubishi-Mirage-2021

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car จาก มิตซูบิชิ ตัวรถที่ขนาดเล็กน่ารัก ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ยิ่งในโฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่ปรับโฉมใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน มากับภาพลักษณ์ดูหรูหราขึ้นด้วยกระจังหน้า Advanced Dynamic Shield แบบรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย และตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน และสปอยเลอร์หลังแบบใหม่ให้เพิ่มเติม

พร้อมกับตกแต่งภายในใหม่ เบาะหนัง มีจอแสดงข้อมูลการขับแบบ High Contrast และลายคาร์บอนแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุแบบผิวนุ่มบริเวณแผงประตู สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจอแสดงผลส่วนกลางด้วยระบบ Smartphone – Link Display Audio (SDA) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ มีระบบ Cruise Control กับอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ราคาของ Mitsubishi Mirage

  • รุ่น 1.2 GLX CVT ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Special Edition ราคา 523,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Smart ราคา 579,000 บาท

Mitsubishi-Attrage-2021

Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car 4 ประตู ที่ดีไซน์ได้สปอร์ตรอบคัน มากับภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราขึ้นด้วยกระจังหน้า Advanced Dynamic Shield แบบรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย และตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน

พร้อมกับตกแต่งภายในใหม่ เบาะหนัง มีจอแสดงข้อมูลการขับแบบ High Contrast และลายคาร์บอนแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุแบบผิวนุ่มบริเวณแผงประตู สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจอแสดงผลส่วนกลางด้วยระบบ Smartphone – Link Display Audio (SDA) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ มีระบบ Cruise Control กับอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ราคาของ Mitsubishi Attrage

  • รุ่น 1.2 GLX CVT ราคา 529,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Special Edition ราคา 543,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Smart ราคา 584,000 บาท

Suzuki-Celerio-2021

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย พัฒนามาจาก Suzuki A: Wind Concept ต้นแบบรถยนต์ประหยัดพลังงานระดับโลก ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกของโลก (World Premier) ในไทย ได้ชื่อว่าคุณภาพเกินตัว ตอกย้ำภาพลักษณ์ของซูซูกิ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตรถอีโคคาร์

มียอดจำหน่ายรวมนับตั้งแต่เปิดตัวอยู่ที่ 13,732 คัน (เดือนพฤษภาคม 2557 – พฤศจิกายน 2562) อัดแน่นด้วยคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร อีกทั้้งยังเป็นมาตรฐานใหม่ ของรถยนต์นั่งมาตรฐานโลก ส่งออกไปขายในเอเชียและยุโรปด้วย

ราคาของ Suzuki Celerio

  • รุ่น GA MT ราคา 328,000 บาท
  • รุ่น GL MT ราคา 408,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 437,000 บาท

Suzuki-Swift-2021

Suzuki Swift

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) ปรับโฉมใหม่ เพิ่มลุคสปอร์ตปราดเปรียว กระจังหน้าโครเมียมแบบใหม่ และล้อแม็กใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมไฟหน้า LED Projector และไฟท้าย LED

ภายในมีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทุกการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth พื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 265 ลิตร ปรับพับเบาะหลังแบบ 60:40 พร้อมด้วย Keyless Entry เปิด-ปิดล็อกประตูได้โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท สะดวก ทันสมัย กับ Keyless Push Start ปุ่มสตาร์ทในรถ

โดดเด่นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ให้ความแข็งแรง ลดน้ำหนักทุกส่วนของรถยนต์ แต่คงความแข็งแกร่ง ทนทาน ขับขี่ได้คล่องตัว รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก

แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ ฉีดน้ำมันเข้าไปที่กระบอกสูบพร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ทำให้น้ำมันมีละอองที่ละเอียดขึ้น ได้กำลังและแรงบิดที่ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กม./ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Swift

  • รุ่น GL CVT ราคา 557,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 629,000 บาท

Suzuki-Ciaz-2021

Suzuki Ciaz

Suzuki CIAZ (ซูซูกิ เซียส) เพิ่งปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปีที่ผ่านมา ภายในแนวคิด “สัมผัสใหม่ สบายทุกมิติ” สุดยอดสปอร์ตอีโคซีดานที่หลายคนรอคอย

ด้านภายนอก ไม่ทิ้งลวดลายความเป็นสปอร์ต อีโอคาร์ กระจังหน้าใหม่สไตล์สปอร์ต ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟหรี่แบบ LED ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันพร้อมสปอยเลอร์หลังไดนามิก

ภายใน คอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย มาตรวัดสไตล์สปอร์ต Suzuki Smart Connect จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบนำทาง รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay กับเบาะหนังคุณภาพสูง ช่องวางเครื่องดื่มมากถึง 8 ตำแหน่ง พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างถึง 565 ลิตร

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินรหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว VVT ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลือง 20 กม./ลิตร รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Ciaz

  • รุ่น GL MT ราคา 523,000 บาท
  • รุ่น GL CVT ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 625,000 บาท
  • รุ่น RS CVT ราคา 675,000 บาท

Toyota-Yaris-ATIV-Play-2021

Toyota Yaris / Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) และ Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) อีโคคาร์แฮทช์แบ็ค Yaris และ อีโคคาร์ซีดานยอดนิยม ATIV เอาใจคนรุ่นใหม่ ที่มีรุ่นพิเศษเปิดตัวในงาน Motor Show 2021 ด้วยอย่างรุ่น PLAY (Limited Edition) จำนวนจำกัดเพียง 1,500 คันโดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกภายใน เพิ่มสีภายนอกใหม่ “Ice Pink Metallic” พร้อมกระจังหน้าด้านบนสีดำเงา ล้ออัลลอย “Dark Mulberry” ปัดเงาสีทูโทนขาว-ดำ ลายใหม่ ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยโทนสีใหม่ สวยเด่นสะกดสายตา

มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น ระบบปรับอากาศพร้อมแผ่นกรองอากาศ PM 2.5 กระจกหน้า “Acoustic Glass” แบบช่วยดูดซับพลังงานความร้อน (High Solar Energy Absorption) สะดวกยิ่งกว่าด้วย “Trunk Organizer” ที่จัดเก็บสัมภาระท้ายรถ เป็นต้น

เพิ่มความมั่นใจเมื่อจอดรถ กับกล้องมองรอบคัน “Panoramic View Monitor” มุมมอง 360 องศา ผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน แสดงภาพแบบเรียลไทม์ พร้อมเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อผู้ขับและรถ ด้วยแอปพลิเคชัน “PLAY CONNECT Car Telematics” และฟังก์ชั่นความปลอดภัยครบครัน

สมรรถนะเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ที่ปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น

ราคาของ Toyota Yaris

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 549,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 679,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium with Black Roof ราคา 684,000 บาท
  • รุ่น Play Limited Edition Sport ราคา 634,000 บาท
  • รุ่น Play Limited Edition Sport Premium with Black Roof ราคา ราคา 709,000 บาท

ราคาของ Toyota Yaris ATIV

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 539,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 674,000 บาท
  • รุ่น Play Limited Edition Sport ราคา 624,000 บาท
  • รุ่น Play Limited Edition Sport Premium ราคา ราคา 699,000 บาท

Mazda2-Sports-2021

Mazda2

Mazda2 (มาสด้า2) 2021 Collection ยกระดับความคุ้มค่ากับออพชั่นที่เกินราคา อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ขับสนุก และปลอดภัยยิ่งขึ้น ดีไซน์เรียบหรูสง่างามดุจงานศิลปะชิ้นเอก ตามแนวคิด Kodo Design (โคโดะ ดีไซน์) ที่เรียบง่าย แต่งดงามตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ภายในห้องโดยสาร ออกแบบจัดวางอย่างเหมาะสม กับการใช้งานของมนุษย์เป็นหลัก ตาม Concept – HMI (Human Machine Interface) ได้แก่ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ Active Driving Display และ Center Commander จัดวางอยู่ในตำแหน่งที่ลงตัว, Mazda Connect ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto™ เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รวมถึงระบบ Infotainment ที่มีให้เลือกมากมาย

จัดเต็มกับระบบความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense และยังมาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) และกล้องมองหลัง รวมถึงระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และประหยัดพลังงาน i-ELOOP เพิ่มการขับขี่ไร้กังวลที่ทั้งประหยัดและปลอดภัย

ในงบไม่เกิน 6 แสนบาท เลือกได้เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Mazda2 / Mazda2 Sports

  • รุ่น 1.3 E / E Sports ราคา 546,000 บาท (MY2019)
  • รุ่น 1.3 C / C Sports ราคา 596,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S / S Sports ราคา 627,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S Leather / S Leather Sports  ราคา 648,000 บาท
  • รุ่น 1.3 SP / SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • รุ่น XD Sports ราคา 782,000 บาท
  • รุ่น XDL Sports ราคา 799,000 บาท
  • รุ่น Mazda 100th Anniversary Edition ราคา 677,000 บาท

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

สถิติการขายรถยนต์ ยอดขายรถ ตลาดรถยนต์ไทย ปี 2564

สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 58,960 คัน ลดลง 10.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 18,969 คัน ลดลง 25% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 39,991 คัน ลดลง 2.3% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 31,169 คัน ลดลง 6.6%

สืบเนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 (โควิด-19) ที่ยังคงส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจโดยรวม และตลาดรถยนต์ เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ

Great-Wall-Motor-Motorshow-2021

ตลาดรถยนต์ในเดือนมีนาคมมีแนวโน้มที่ขยับตัวดีขึ้น ถึงแม้ว่าการระบาดของไวรัส Covid-19 (โควิด-19) ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ยังส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน อย่างไรก็ดี โครงการ “คนละครึ่ง” “เราเที่ยวด้วยกัน” “ช้อปดีมีคืน” “เราชนะ” และล่าสุดกับ “ม33 เรารักกัน” ของรัฐบาล ส่งผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

ตลอดจนการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เพิ่มเติม ช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น โดยตลาดรถยนต์ เริ่มกลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถใหม่ การปรับโฉมใหม่ การนำเสนอรถยนต์รุ่นพิเศษ (Limited Edition) รวมถึงข้อเสนอพิเศษ

และกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถยนต์ เพื่อปูทางสู่งาน Motor Show 2021 (งานมอเตอร์โชว์ 2021) ภายใต้การสื่อสารการตลาด “เงื่อนไขเดียวกับมอเตอร์โชว์” มีแนวโน้มผลักดันตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม เติบโตต่อเนื่องถึงเดือนเมษายน …

Toyota-Fortuner-2021

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกุมภาพันธ์ 2564

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 58,960 คัน ลดลง 10.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 16,477 คัน เพิ่มขึ้น 13.8% ส่วนแบ่งตลาด 27.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 15,897 คัน ลดลง 14.6% ส่วนแบ่งตลาด 27.0%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 9,007 คัน ลดลง 7.7% ส่วนแบ่งตลาด 15.3%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,969 คัน ลดลง 25%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 7,868 คัน ลดลง 6.4% ส่วนแบ่งตลาด 41.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 4,056 คัน ลดลง 36.3% ส่วนแบ่งตลาด 21.4%
อันดับที่ 3 มาสด้า 1,826 คัน ลดลง 22.4% ส่วนแบ่งตลาด 9.6%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 39,991 คัน ลดลง 2.3%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 16,477 คัน เพิ่มขึ้น 13.8% ส่วนแบ่งตลาด 41.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 11,826 คัน ลดลง 3.4% ส่วนแบ่งตลาด 29.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,592 คัน ลดลง 9.4% ส่วนแบ่งตลาด  6.5%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 31,169 คัน ลดลง 6.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 15,400 คัน เพิ่มขึ้น 13.2% ส่วนแบ่งตลาด 49.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 9,781 คัน ลดลง 7.7% ส่วนแบ่งตลาด 31.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,592 คัน ลดลง 9.4% ส่วนแบ่งตลาด  8.3%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,800 คัน
โตโยต้า 1,939 คัน – อีซูซุ 1,851 คัน – มิตซูบิชิ 531 คัน – ฟอร์ด 473  คัน – นิสสัน 6 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 26,369 คัน ลดลง 11.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 13,549 คัน เพิ่มขึ้น 4.6% ส่วนแบ่งตลาด 51.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 7,842 คัน ลดลง 16.7% ส่วนแบ่งตลาด 29.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,119 คัน ลดลง 12.1% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2564

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 114,168 คัน ลดลง 16.3%

อันดับที่ 1 โตโยต้า
33,655 คัน ลดลง 13.3% ส่วนแบ่งตลาด 29.5%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 31,725 คัน เพิ่มขึ้น 10.3% ส่วนแบ่งตลาด 27.8%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
14,664 คัน ลดลง 30.7% ส่วนแบ่งตลาด 12.8%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 35,073 คัน ลดลง 35.3%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 12,394 คัน ลดลง 30.7% ส่วนแบ่งตลาด 35.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
9,129 คัน ลดลง 31.1% ส่วนแบ่งตลาด 26.0%
อันดับที่ 3 มาสด้า 3,605 คัน ลดลง 34.7% ส่วนแบ่งตลาด 10.3%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 79,095 คัน ลดลง 3.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 31,725 คัน เพิ่มขึ้น 10.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
24,496 คัน ลดลง 4.2% ส่วนแบ่งตลาด 31.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,897 คัน ลดลง 2.0% ส่วนแบ่งตลาด 6.2%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 61,276 คัน ลดลง 8.1%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
29,598 คัน เพิ่มขึ้น 9.7% ส่วนแบ่งตลาด 48.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
20,275 คัน ลดลง 9.4% ส่วนแบ่งตลาด 33.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,897 คัน ลดลง 2.0% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 9,094 คัน
โตโยต้า 3,914 คัน – อีซูซุ 3,285 คัน – มิตซูบิชิ 1,053 คัน – ฟอร์ด 816  คัน – นิสสัน 26 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 52,182 คัน ลดลง 12.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
26,313 คัน เพิ่มขึ้น 1.7% ส่วนแบ่งตลาด 50.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
16,361 คัน ลดลง 18.3% ส่วนแบ่งตลาด 31.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 4,081 คัน ลดลง 0.9% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%

หากช่วงนี้ใครอยากซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง สามารถขายคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาจาก:

Sedan-Hybrid-And-Plug-In-Hybrid-In-Motorshow-2021

ถ้าจะให้พูดถึงรถยนต์ในรูปแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid นั้น นอกจากรถในรูปแบบ SUV และ Crossover ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จนเป็นเทรนด์ของโลกไปแล้ว แต่ในส่วนของตลาดรถเก๋ง ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันในท้องตลาด และก็ยังเป็นรถประเภทแรก ที่ค่ายรถส่วนใหญ่เลือกผลิตในรูปแบบ Hybrid (ไฮบริด) และ Plug-In Hybrid (ปลั๊กอินไฮบริด) อีกด้วย

เนื่องจากความสะดวกของรถแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid คือการใช้งานที่สะดวกสบาย ไม่ต้องหาที่ชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่หมด และช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มาก อีกทั้งยังสามารถใช้งานในโหมด EV วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียวๆ ได้เช่นกัน

CARRO จึงขอเลือกรถเก๋ง รถยนต์นั่งแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid รุ่นเด่นๆ ในงาน Motor Show 2021 (งานมอเตอร์โชว์ 2021) ที่น่าซื้อน่าสนในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มาให้ชม 7 รุ่นครับ …

Toyota-Corolla-Altis-Hybrid-2021

Toyota Corolla Altis Hybrid

Toyota Corolla Altis (โคโรลล่า อัลติส) กับครั้งแรกในรูปแบบของรถยนต์เก๋ง Hybrid ในตลาด C-Segment บนสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ให้ความสนุกสนานในการขับขี่อย่างเต็มที่ (Fun-to-drive) สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งในงานครั้งนี้ ยังนำ Corolla Altis Hybrid Premium (ชื่อเดิมคือ Hybrid Mid) ที่เพิ่งเปิดตัวปรับปรุงใหม่ไปในเดือนมกราคม 2564 มาโชว์อีกด้วย

ตัวรถมาพร้อมระบบ Full Hybrid System ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ยังคงไว้ซึ่งความสนุกในการขับขี่ และตอบสนองต่อการเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ อัดออพชั่นแจ๋วๆ อย่าง ระบบปรับระดับกระจกข้างอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (Outer Mirror Reverse Function) และระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) มาให้ด้วย

พร้อมระบบ Toyota Safety Sense ใหม่ล่าสุด ที่มีระบบการทำงานเพิ่มเติม คือ Dynamic Radar Cruise Control แบบ Full-Speed Range ซึ่งสามารถปรับลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์คันหน้า และระบบ Lane Tracing Assist ที่ช่วยประคองรถยนต์ให้วิ่งอยู่ในเลนได้เอง แม้ในขณะเข้าโค้ง

ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 กับขุมพลังเครื่องยนต์รหัส 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 53 กิโลวัตต์ รวมกำลังสูงสุดที่ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT เพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น

ราคาของ Toyota Corolla Alris Hybrid

  • รุ่น Hybrid Smart (เดิม Hybrid Entry) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 939,000 บาท
  • รุ่น Hybrid Premium (เดิม Hybrid Mid) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 994,000 บาท
  • รุ่น Hybrid Premium Safety (เดิม Hybrid High) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,099,000 บาท

Toyota-Camry-Hybrid-2021

Toyota Camry Hybrid

Toyota Camry Hybrid (โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด) มาในภาพลักษณ์ดีไซน์สปอร์ต หรูหรา ผ่านการออกแบบอย่างพิถิพิถัน พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเหนือใคร พัฒนาภายใต้แนวคิด “Unprecedented Change” จากสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ที่ช่วยผสานยนตรกรรมกับผู้ขับขี่ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

ห้องโดยสารภายใน ฉีกแนวการออกแบบเดิมๆ ทิ้งไป เล่นเส้นสายรูปตัว “Y” พร้อมลาย Hybrid Onyx บริเวณแผงคอนโซลกลาง ดุจสายน้ำไหล แต่ยังคงหรูหราเหมือนเดิม มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ มีเครื่องเล่น DVD แบบหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง

และยังมีระบบหน่วงแรงเบรกอัตโนมัติ และระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายแบบ Qi เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร Hybrid แบบ Dynamic Force ให้แรงม้าสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 ผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Lithium-ion ให้กำลังสูงสุด 88 แรงม้า และแรงบิด 202 นิวตันเมตร โดยทั้งสองระบบ ให้แรงม้าสูงสุด 211 แรงม้า

ราคาของ Toyota Camry Hybrid

  • รุ่น 2.5 HV ราคา 1,649,000 บาท
  • รุ่น 2.5 HV Premium ราคา 1,809,000 บาท

Honda-City-eHEV-2021

Honda City e:HEV

Honda City e:HEV (ฮอนด้า ซิตี้ อีเอชอีวี) ยนตรกรรม Full Hybrid รุ่นแรกของเซกเมนต์ City Car ในประเทศไทย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive i-MMD ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 98 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เป็นระบบ Full Hybrid 109 แรงม้า ที่ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบ/นาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กม./ลิตร และรองรับน้ำมัน E20

พร้อมเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “Honda SENSING” (ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง) ดีไซน์สปอร์ตโดดเด่น ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS เสริมเอกลักษณ์เฉพาะของความเป็นไฮบริดด้วยโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark) และโลโก้ e:HEV

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกมิติ ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม เช่น มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม Google Maps พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) เป็นต้น

ราคาของ Honda City e:HEV

  • รุ่น RS ราคา 839,000 บาท

Honda-Accord-Hybrid-2021

Honda Accord Hybrid

Honda Accord Hybrid (ฮอนด้า แอคคอร์ด) นับเป็น Accord เจเนอเรชั่นที่ 10 จัดว่าเป็นรุ่นที่ปฏิวัติดีไซน์จากทุกรุ่นที่ผ่านมาอย่างชัดเจน ออกแบบภายใต้แนวคิดหลัก “Absolute Confidence” เพื่อสร้างมาตรฐานยนตรกรรมพรีเมียมซีดานให้เหนือระดับไปอีกขั้น โดยมีหลัก 3 ประการในการพัฒนา ได้แก่ Dynamics, Captivating และ Upscale แถมยังป็นครั้งแรกกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ที่เรียกว่า Laser Blaze ในการออกแบบตัวถัง เพื่อลดรอยต่อบริเวณหลังคารถและตัวถัง

สะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นระดับพรีเมียม อาทิ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display : HUD) มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเปิดแอร์ได้จากกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) เป็นต้น

มาพร้อมครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) กับมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลัง 2 ตัว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า

พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่ ได้แก่ EV Drive Mode, Hybrid Drive Mode และ Engine Drive Mode

ราคาของ Honda Accord Hybrid

  • รุ่น Hybrid ราคา 1,639,000 บาท
  • รุ่น Hybrid Tech ราคา 1,799,000 บาท

Lexus-IS300h-2021

Lexus IS300h

Lexus IS (เลกซัส ไอเอส) รถสปอร์ตซีดานหรู ที่นำเสนอการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส หรือ Lexus Driving Signature ด้วยสมรรถนะที่ทรงพลัง เกาะถนนเป็นเยี่ยม ภายใต้การพัฒนาด้วยการใช้ถนนออกแบบรถ และทดสอบในสนามแข่ง Shimoyama ประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากสนาม Nurburgring ประเทศเยอรมนี

ดีไซน์ภายนอกออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม โฉบเฉี่ยว ดุดัน กว้างขวางและยาวขึ้น ติดตั้งไฟหน้า 3-LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมล้อขนาด 18 นิ้ว และ 19 นิ้ว ช่วยการเกาะถนนเป็นเยี่ยม

ภายในห้องโดยสาร ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง Smooth Leather พร้อมปรับไฟฟ้าคู่หน้า 8 ทิศทาง, ระบบปรับอากาศเบาะนั่งคู่หน้า, มาตรวัดแสดงผลรวม TFT ขนาด 8 นิ้ว มีหน้าจออินโฟเทนเมนท์ EMV ขนาด 10.3 นิ้ว (รุ่น Luxury ขนาด 8 นิ้ว) พร้อมปุ่มควบคุมกลางระบบสัมผัส Frameless Touch Pad พร้อมระบบเสียง Lexus Premium 10 ลำโพง

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 223 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.5 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 200 กม./ชม. รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Lexus IS300h

  • รุ่น Luxury ราคา 2,690,000 บาท
  • รุ่น Premium ราคา 3,370,000 บาท

BMW-330e-M-Performance-2021

BMW Series-3

BMW 330e M Sport (บีเอ็มดับเบิลยู 330อี เอ็ม สปอร์ต) มาพร้อมความโฉบเฉี่ยวกับชุดแต่ง M Sport รอบคัน และยังมีเทคโนโลยีเจ๋งๆ อีกมากมาย อาทิ ระบบ Parking Assistant Plus ที่มาพร้อมกับระบบช่วยถอยรถในทิศทางเดิมแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ตัวรถสามารถจดจำทิศทางที่ขับตรงไปข้างหน้าในระยะ 50 เมตรสุดท้าย ด้วยความเร็วไม่เกิน 36 กม./ชม.ได้ และสามารถถอยออกในทิศทางเดิมโดยอัตโนมัติ ระบบ Parking Assistant Plus กับกล้องมองรอบทิศทาง Surround View Camera ที่มีมุมมองด้านบน มุมมองรอบทิศทาง และมุมมอง 3D และระบบ BMW ConnectedDrive ที่คนขับสามารถดูภาพของรถที่จอดผ่านมือถือได้อีก

ส่วนในรุ่นพิเศษ M Performance Edition ปลั๊กอินไฮบริดในรุ่นพิเศษ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 15 คัน ลงตัวกับชุดแต่ง M Performance ด้านหน้าตัวรถกระจังหน้ Iconic Glow ที่เปล่งแสงสว่างตั้งแต่ปลดล็อกรถไปจนถึงสตาร์ทเครื่องยนต์ และตั้งแต่ดับเครื่องไปจนล็อกรถ รวมถึงไฟ LED โปรเจคเตอร์ฉายโลโก้ BMW ติดบริเวณประตูรถ เสริมความสปอร์ตด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ ได้แก่ ฝาครอบกระจกข้าง สปอยเลอร์หลัง และดิฟฟิวเซอร์หลัง ร่วมกับลิ้นกันชนหน้าซ้ายและขวา เน้นย้ำถึงหรูหราควบคู่ไปกับการขับขี่สไตล์สปอร์ต

มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร พร้อมกับเทคโนโลยี TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้แรงม้าสูงสุด 292 แรงม้า และสามารถวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าอย่างเดียว ทำระยะทางได้สูงสุดอยู่ที่ 55-68 กิโลเมตร

และสามารถเพิ่มกำลังให้ตัวรถเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นในโหมด SPORT เพียงเหยียบคันเร่งเพื่อกระตุ้นการทำงานของ XtraBoost ซึ่งสามารถปลดปล่อยพละกำลังเพิ่มขึ้นอีก 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที ทำให้ BMW 330e M Sport ใหม่ มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 5.9 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 230 กม./ชม.

ส่วนในรุ่นพิเศษ M Performance Edition สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 110 กม./ชม. ซึ่งมากกว่ารุ่นปกติ 30 กม./ชม.

ราคาของ BMW Series-3

  • รุ่น 330e M Sport ราคา 2,769,000 บาท
  • รุ่น 330e M Sport (M Performance Edition) ราคา 2,969,000 บาท

Mercedes-Benz-C300e-2021

Mercedes-Benz C-Class

Mercedes-Benz C-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส) กับความเป็นรถในตระกูล EQ Power รุ่นประกอบในประเทศไทย ซึ่ง C 300 e Avantgarde และ C 300 e AMG Dynamic แม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2562 ส่วนรุ่นย่อย AMG Sport ก็เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2563 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงยอดนิยมในหมู่แฟนๆ ค่ายดาวสามแฉกเช่นเคย

สำหรับ Mercedes-Benz C 300 e ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน Plug-In Hybrid ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ แรงม้าสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200-1,400 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 122 แรงม้า โดยมีกำลังรวมสูงสุด 320 แรงม้า ที่ 4,500-5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC

สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.4 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม.

ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 13.5 kWh เพิ่มจากเดิม 111% พร้อมเซลล์แบตเตอรี่ชนิดใหม่ ซึ่งมีส่วนผสมของลิเธียม-นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอลต์ (Li NMC) สามารถชาร์จประจุไฟจนเต็มได้ในเวลา 1 ชั่วโมง 50 นาที (จากระดับแบตเตอรี่ 10% ด้วยเครื่องประจุไฟฟ้า Wall Box)

ราคาของ Mercedes-Benz C-Class

  • รุ่น C 300 e Avantgarde ราคา 2,599,000 บาท
  • รุ่น C 300 e AMG Sport ราคา 2,739,000 บาท
  • รุ่น C 300 e AMG Dynamic ราคา 2,990,000 บาท

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

SUV-Hybrid-And-Plug-In-Hybrid-In-Motorshow-2021

ถ้าจะให้พูดถึงรถยนต์ในรูปแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid นั้น ตอนนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นเทรนด์ของโลกกันไปซะแล้ว แม้ว่ากระแสอาจจะมีสูสีกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ก็ตาม แต่เนื่องจากความสะดวกของรถแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid คือการใช้งานที่สะดวกสบาย ไม่ต้องหาที่ชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่หมด และช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มาก อีกทั้งยังสามารถใช้งานในโหมด EV วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียวๆ ได้เช่นกัน

ซึ่งตลาดรถแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid ก็มีให้เลือกหลากหลายประเภท อาทิ รถเก๋ง, รถ SUV, หรือรถ MPV เป็นต้น แต่ในหัวข้อนี้ เราจะขอนำเสนอถึงรถแบบ SUV และ Crossover ที่มาในรูปแบบ Hybrid และ Plug-In Hybrid กันครับ

CARRO ขอคัดสรรรถ Hybrid และ Plug-In Hybrid รุ่นเด่นๆ ในงาน Motor Show 2021 (งานมอเตอร์โชว์ 2021) ที่น่าซื้อน่าสนในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มาให้ชม 7 รุ่นครับ …

Toyota-Corolla-Cross-2021

Toyota Corolla Cross Hybrid

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue)

ตัวรถภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ส่วนห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

นอกจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซินธรรมดาแล้ว ยังมีในส่วนของเครื่องยนต์ Hybrid ที่มาพร้อมชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Toyota Corolla Cross Hybrid

  • รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท**

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม

Toyota-C-HR-2021

Toyota C-HR Hybrid

Toyota C-HR (โตโยต้า ซีเอชอาร์) ถือเป็นรถยนต์ SUV อีกรุ่นที่ยอดนิยมในบ้านเรา แม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2561 จนทำยอดขายได้มากกว่า 3 หมื่นคันแล้ว พร้อมทำตลาดด้วย Slogan ใหม่ “This is New Belief… มากกว่าทุกอย่างที่เคยเชื่อ”

ตัวรถภายนอกด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงของเพชร ทำให้รูปลักษณ์ของ C-HR มีความเป็นเอกลักษณ์ สปอร์ต เฉียบคม และดูโดดเด่น พร้อมเพิ่มทางเลือกด้วยสีขาวมุก หลังคาดำ ในขณะที่ห้องโดยสารทุกเกรดรุ่นย่อย จะมีการใช้หนังเป็นวัสดุหุ้มเบาะมาตรฐานทุกรุ่น

สำหรับขุมพลัง Hybrid ของ C-HR ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 600 โวลต์ ให้กำลัง 53 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 163 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock

ราคาของ Toyota C-HR Hybrid

  • รุ่น HV Mid ราคา 1,069,000 บาท
  • รุ่น HV Hi ราคา 1,159,000 บาท

Nissan-Kicks-e-Power-2021

Nissan Kicks

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) รถ Crossover ไฮบริด ที่มีจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ในงาน Motor Show 2021 นี้ เสริมความสดใหม่ด้วยสีภายนอก 2 สี ได้แก่ สีเหลือง ซันไลท์ (Sunlight Yellow) (จ่ายเพิ่ม 10,000 บาท) และสีน้ำเงิน ไนท์บลู (Night Blue) พร้อมเสริมความหรูหราของห้องโดยสารภายในด้วยชุดแต่ง สไตลิช (Stylish package) ด้วยไฟแอมเบียนท์ที่ข้างแผงประตูและพื้นห้องโดยสารตอนหน้า พร้อมไฟ ‘Welcome’ เมื่อเปิดประตูหน้า และอุปกรณ์ตกแต่งวัสดุสีเงินบริเวณแผงอุปกรณ์ต่าง ๆ เสริมความพรีเมียมในห้องโดยสาร

พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

โดยมีให้เลือกในรุ่นย่อย V และ VL โดยยังคงราคาจำหน่ายในราคาเดิม พร้อมเสริมความอุ่นใจของลูกค้าขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการขยายเงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเป็น 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

และขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

ราคาของ Nissan Kicks e-POWER

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท
  • รุ่น VL (ภายในสีทูโทน) ราคา 1,059,000 บาท

Mitsubishi-Outlander-PHEV-2021

Mitsubishi Outlander PHEV

Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) เปิดตัวครั้งแรกในไทย เป็นรถ SUV ระดับพรีเมียมที่ประกอบในประเทศ ผสาน DNA และเทคโนโลยีรถยนต์ระดับตำนานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้าไว้ด้วยกัน เริ่มด้วย “Pajero” สุดยอดตำนานแห่งรถเอสยูวี “Mitsubishi Lancer Evolution” เจ้าแห่งสนาม “เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ” (WRC) ที่มีเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่เป็นหนึ่งในตำนานแห่งสมรรถนะ รวมทั้งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายจริงรุ่นแรกของโลกอย่าง “i-MiEV” (ไอ-มีฟ)

ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น โฉบเฉี่ยว และหรูหราเหนือระดับ ดีไซน์ภายในประณีตทุกรายละเอียด ห้องโดยสารกว้างขวาง ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 305 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดอีวี (ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ) โหมด ไฮบริด (ขับเคลื่อนหลักด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่) และโหมดพาราเรล ไฮบริด (เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถไปพร้อมกัน)

พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 52.6 กม./ลิตร หรือ 1.9 ลิตรต่อ 100 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

ราคาของ Mitsubishi Outlander PHEV

  • รุ่น GT ราคา 1,640,000 บาท
  • รุ่น GT-Premium 2WD ราคา 1,759,000 บาท

MG-HS-PHEV-2021

MG HS PHEV

All-New MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี) รถยนต์ SUV รุ่นล่าสุดจากค่าย MG ที่ยังมีคนถามถึงมากในงาน Motor Show 2021 ชูแนวคิด “Refinement” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต โดยสะท้อนถึงความเหนือระดับ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบายความปลอดภัย และการแนะนำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานพลังสุดยอดแห่งระบบขับเคลื่อน 2 ระบบ เข้าด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า

ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร จากขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน Turbo ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล มีขนาดใหญ่ถึง 16.6 kWh

ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที ตอบสนองได้อย่างทันใจ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% สูงสุดถึง 67 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

ราคาของ MG HS PHEV

  • รุ่น PHEV ราคา 1,359,000 บาท

Volvo-XC40-Recharge-2021

Volvo XC40 Recharge

Volvo XC40 Recharge (วอลโว่ เอ็กซ์ซี 40 รีชาร์จ) ถือว่าเป็นรถขุมพลัง Plug-In Hybrid ที่วอลโว่ จะทำตลาดในบ้านเราทุกรุ่น และเสริมทางเลือกให้กับกลุ่มตลาดรถ Crossover SUV ขนาดเล็ก ในราคาที่ถือว่าเป็นมิตรที่สุด เมื่อเทียบกับบรรดารถยุโรปด้วยกัน

ใช้ขุมพลังแบบเครื่องยนต์เบนซิน Turbo ขนาด 1.5 ลิตร 180 แรงม้า ผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 82 แรงม้า รวมกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 262 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 10.7 kWh

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.3 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 180 กม./ชม. และวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางมากถึง 44 กิโลเมตร ในราคารุ่นเริ่มต้นเลย 2 ล้านมานิดๆ

ราคาของ Volvo XC40 Recharge

  • รุ่น XC40 Recharge T5 R-Design Expression ราคา 2,090,000 บาท
  • รุ่น XC40 Recharge T5 R-Design ราคา 2,390,000 บาท
  • รุ่น XC40 Recharge T5 Inscription ราคา 2,390,000 บาท

Volvo-XC60-Recharge-2021

Volvo XC60 Recharge

Volvo XC60 Recharge (วอลโว่ เอ็กซ์ซี 60 รีชาร์จ) สุดยอดนวัตกรรมเอสยูวีระบบไฟฟ้าแนวสปอร์ต สไตล์สแกนดิเนเวียนที่วอลโว่ภาคภูมิใจ ติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์ T8 Twin Engine ระบบ Plug-in Hybrid จากโรงงาน มอบรูปลักษณ์ที่หรูหราแนวสปอร์ตเอสยูวี

ใช้ขุมพลังแบบเครื่องยนต์เบนซินตระกูล Drive-E ขนาด 2.0 ลิตร เทคโนโลยี T8 Twin Engine อัดอากาศด้วย Supercharged และ Turbo พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่ 10.4 kWh กำลังรวมทั้งระบบ 407 แรงม้า

ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 47.6 กม./ลิตร และวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางมากถึง 45 กิโลเมตร

ราคาของ Volvo XC60 Recharge

  • รุ่น XC60 Recharge T8 AWD R-Design Expression ราคา 2,990,000 บาท

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

The-10-Best-In-Motorshow-2021

งาน “มอเตอร์โชว์ 2021” หรือ “Motor Show 2021” ในยุค New Normal ที่มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รุ่นใหม่ๆ มาโชว์แล้ว รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง โปรโมชั่น แคมเปญผ่อนดาวน์ และพริตตี้สาวสวยในยุคเฟซชิลด์ หลายคนอาจเริ่มคุ้มตากันบ้างแล้ว นับจากการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา …

แต่ในงาน Motor Show 2021 การขับเคลื่อนในเชิงธุรกิจ ก็ยังต้องดำเนินต่อไป ด้านผู้ร่วมงานนอกจากจะต้องทำการขายให้ได้มากที่สุดแล้ว บางรายอาจสร้างสีสันให้กับบูธตัวเอง เพื่อเรียกลูกค้า หรือสร้างความจดจำให้คนเดินผ่านไปผ่านมาจำได้ ด้วยการนำจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มี มาร่วมโชว์ในงานนี้ด้วย

ซึ่งจุดเด่นบางอย่าง เราถือได้ว่ามีความเป็น “ที่สุด” ที่มีมาโชว์หรือขายภายในงานครั้งนี้ CARRO จึงรวบรวม “10 ที่สุด” ที่เกี่ยวกับยานยนต์ในงาน “Motor Show 2021” มาให้ทุกท่านได้ว้าวกัน ว่ามีด้วยหรือเนี่ย!

Suzuki-Celerio-2021

ถูกที่สุด

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Show 2021 ครั้งนี้ต้องยกให้ Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car ขนาดเล็กของซูซูกิขายกันมาหลายปี มาในราคาเพียง 328,000 บาท ที่ขายกันมายาวนานหลายปี

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 90 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

Rolls-Royce-Ghost-Extended-2021

แพงที่สุด

รถที่ “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2021 ยังคงเป็นแบรนด์เดิมเหมือนปีก่อนๆ ครับ! นั่นคือ Rolls-Royce Ghost Extended (โรลส์-รอยซ์ โกสต์) ในราคา 36,800,000 บาท!

ซึ่งนับเป็นยนตรกรรมที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ Rolls-Royce กว่า 117 ปี หรูหราแต่ดูเรียบง่าย ภายใต้ปรัชญาการออกแบบที่เรียกว่า “Post Opulence” ใช้โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม เรียกว่า “สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา” (Architecture of Luxury) ผสานช่วงล่าง “Magic Carpet Ride” ที่ได้รับการปรับปรุงให้นุ่มนวลขึ้นอีกระดับ กับเทคโนโลยี “Planar Suspension System”

ห้องโดยสารภายใน นับเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าสามารถเลือกเบาะนั่งด้านหลังแบบ “Serenity Seat” ปรับเอนได้ตามต้องการ คล้ายห้องโดยสารของเครื่องบินชั้นธุรกิจ มาพร้อมตู้แช่แชมเปญที่สามารถกำหนดอุณหภูมิได้ 2 โหมด คือ 6 และ 11 องศาเซลเซียส พร้อมติดตั้งระบบฟอกอากาศ MEPS (Micro-Environment Purification System) สามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อนอนุภาคขนาดเล็กจากห้องโดยสาร ภายในเวลาต่ำกว่า 2 นาที

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ Twin-Turbo V12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ให้กำลัง 563 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ช่วยให้ยนตรกรรมพิกัดกว่า 2 ตัน มีอัตราเร่งทันใจในทุกสถานการณ์ แรงบิดสูงสุดมีให้ใช้ตั้งแต่ 1,600 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่ารอบเดินเบาประมาณ 600 รอบ/นาที เท่านั้น รวมถึงมีการปรับแต่งท่อไอดีใหม่ เพื่อลดเสียงรบกวนที่อาจเล็ดลอดสู่ห้องโดยสาร

Aston-Martin-DBS-Superleggera-2021

รถ Super Car แพงที่สุด

รถ Super Car ที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2021 ขอยกให้ Aston Martin DBS Superleggera (แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา) ในราคาเริ่มต้น 28,900,000 บาท!!!

คำว่า Superleggera เป็นภาษาอิตาเลียน หรือ Superlight ในภาษาอังกฤษ แสดงถึงเทคนิคการผลิตตัวถังน้ำหนักเบา อันเป็นเอกลักษณ์ของสำนัก “Touring” ผู้ผลิตรถยนต์อิตาเลียนระดับตำนาน ด้วยโครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม ผสานการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ มีความกว้างและบึกบึนกว่า แอสตัน มาร์ติน ทุกรุ่น พร้อมสปอยเลอร์หลังคาร์บอนไฟเบอร์ Aeroblade IITM ทำงานร่วมกับดิฟฟิวเซอร์ 2 ชั้น สร้างแรงกดมหาศาลช่วงความเร็วสูง

พละกำลังดุดันแบบสุดขั้ว กับเครื่องยนต์เบนซิน V12 ขนาด 5.2 ลิตร Twin Turbo 715 แรงม้า (BHP) แรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร สูงสุดในประวัติศาสตร์ของ แอสตัน มาร์ติน ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 340 กม./ชม.

Rolls-Royce-Cullinan-2021

รถ SUV แพงที่สุด

ส่วนรถ SUV ที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2021 ได้แก่ Rolls-Royce Cullinan (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน) ตัวรถระดับ Ultra Luxury SUV รุ่นแรกของ Rolls-Royce ในราคา 33,500,000 บาท!!!

Cullinan ตั้งชื่อตามเพชรที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันถูกนำไปประดับอยู่บนมงกุฏของพระราชินีแห่งอังกฤษ โครงสร้างตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียม ที่เป็นสิทธิบัตรของโรลส์-รอยซ์

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo V12 สูบ 6.75 ลิตร 563 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ห้องโดยสารสามารถขยายพื้นที่เพื่อเพิ่มความจุสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,930 ลิตร

ขณะที่ช่วงล่างหน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบน และหลังแบบ 5 ลิงก์ ปรับความสมดุลอัตโนมัติ นับเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์สุดหรู รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ที่พร้อมฟันฝ่าอุปสรรคในทุกสภาพเส้นทาง

Takano-TTE-RS-2021

รถยนต์ไฟฟ้า ราคาถูกที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้า ที่ราคาถูกสุดในงาน Motor Show 2021 ต้องยกให้ รถกระบะไฟฟ้าขนาดจิ๋ว Takano (ทากาโน่) TTE500 พาคุณไปได้ทุกที่ สามารถรับน้ำหนักในการบรรทุกได้มากถึง 300 กิโลกรัม และจดทะเบียนได้ด้วย

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5 กิโลวัตต์ พร้อมแบตเตอรี่ 12V 125 แอมป์ ขนาด 6 ลูก ใต้พื้นกระบะหลัง และเครื่องยนต์เบนซินขนาดจิ๋วช่วยปั่นไฟฟ้าให้แบตเตอรี่ ให้ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่ 100-120 กิโลเมตร โดยใช้เงินเพียง 30 บาท และทำความเร็วได้สูงสุด 60 กม./ชม. ในราคาเพียง 499,000 บาท!

Porsche-Taycan-Turbo-S-NaRaYa-2021

รถยนต์ไฟฟ้า ราคาแพงที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้าแพงที่สุดในงาน Motor Show 2021 นั่นคือ Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคานน์) รถสปอร์ตคันแรกจากปอร์เช่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ ตัวถัง 4 ประตูซีดานที่ยังคงเอกลักษณ์งานออกแบบของปอร์เช่ เอาไว้อย่างครบถ้วน พร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ และเทคโนโลยีล้ำยุค สามารถชาร์จพลังงาน จาก 5 – 80% SoC (State of Charge) ด้วยการใช้เวลาเพียง 22.5 นาที

เปิดตัวด้วยรุ่น ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S) พละกำลังสูงสุดกว่า 761 แรงม้า ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 6,190,000 บาท ไทคานน์ เทอร์โบ (Taycan Turbo) พละกำลังสูงสุด 680 แรงม้า ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 9,900,000 บาท

และ ไทคานน์ 4 เอส (Taycan 4S) พละกำลังสูงสุด 530 แรงม้า ที่มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 11,700,000 บาท! จัดว่าเป็นรถ EV ที่แพงที่สุดในงานนี้

Chaiseri-First-Win-II-2021

ใหญ่ที่สุด

ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Show 2021 ครั้งนี้ ต้องยกให้ 2 ใหญ่อย่าง ชัยเสรี First Win ATV (ชัยเสรี เฟิร์ส วิน เอทีวี) ยานเกราะล้อยางทางยุทธวิธี (Armored Tacticle Vehicle = ATV) และ ชัยเสรี First Win II (ชัยเสรี เฟิร์ส วิน ทู) แบบรถพยาบาล หนึ่งในผลงานชิ้นโบแดง ของทางชัยเสรี และมาดามรถถัง นพรัตน์ กุลหิรัญ เลยก็ว่าได้

ชัยเสรี First Win II เป็นรถเกราะป้องกันทุ่นระเบิด สำหรับทหารราบใช้งาน ด้วยการเชื่อมตัวถังรูปตัว V แบบ Monocoque ทั้งหมด เพื่อการปกป้องในระดับสูงต่อภัยคุกคามในสนามรบที่หลากหลาย รวมถึงทุ่นระเบิดและระเบิดแสวงเครื่อง

ชัยเสรี First Win II ตัวรถมีน้ำหนักประมาณ 12.5 ตัน น้ำหนักพร้อมรบ 14.5 ตัน บรรทุกกำลังพลได้ถึง 10 นาย พร้อมคนขับ ใช้เครื่องยนต์ดีเซล Cummin 300 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติของ Allison 3000 SP มีพวงมาลัยเพาเวอร์ ติดแอร์ ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ และยางรันแฟลตมาตรฐาน FINABEL 20A.5 ทดสอบ 50 กิโลเมตร การป้องกันกระสุนระดับ STANAG 4569 ระดับ 2 และการป้องกันแรงระเบิดถึงระดับ 3B / 4A

ในปีที่ผ่านมา ชัยเสรี First Win II ยังชนะการประมูลยานยนต์หุ้มเกราะล้อยาง 4X4 ที่กองทัพเรือจัดหาใหม่จำนวน 6 คัน ด้วยงบประมาณ 99.9 ล้านบาท อีกด้วย

Chaiseri-First-Win-ATV-2021

ส่วน First Win ATV เป็นรถเกราะกันกระสุน ใช้ในภารกิจลาดตระเวน วางเครื่องยนต์ดีเซล 330 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติของ Allison 3000 SP ความเร็วบนถนนสูงสุด 110 กม./ชม. และในภูมิประเทศ 40-60 กม./ชม.

มีพวงมาลัยเพาเวอร์ ติดแอร์ ระบบกันสะเทือนแบบอิสระ และยางรันแฟลตมาตรฐาน FINABEL 20A.5 ทดสอบ 50 กิโลเมตร การป้องกันกระสุนระดับ STANAG 4569 ระดับ 1 และการป้องกันแรงระเบิดถึงระดับ 2

BMW-502-Barockengel

เก่าที่สุด

เก่าที่สุดในงาน Motor Show 2021 ต้องยกให้ BMW 502 Barockengel (บีเอ็มดับบลิว 502 บาโรกเองเกล) ปี 1955 รุ่นนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “Barockengel” ในภาษาเยอรมัน หรือ “Baroque Angel” ในภาษาอังกฤษ หมายถึง เทพีแห่งยุคบาโรก จากความสวยงามของตัวถังรถ ที่ดูโค้งมน งดงามทุกส่วนสัด และภายในใช้วัสดุชั้นยอด แม้แต่พวงมาลัยยังเป็นสีงาช้าง และช่วงล่างกับระบบกันสะเทือน ให้ความนุ่มนวล นั่งสบายแบบในรถยุค 60 กว่าปีที่แล้ว

และยังเป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ V8 แบบอะลูมิเนียม ขนาด 2.6 ลิตร รุ่นแรกของโลกที่ผลิตแบบ Mass Produced รถคันนี้เป็นรถพวงมาลัยซ้าย เกียร์ธรรมดา เครื่องเดิม ภายในเดิม ประวัติดี เจ้าของดูแลรักษาอย่างดีเยี่ยม

Volvo-XC40-Recharge-Pure-Electric-2021

มีราคาขาย แต่ไม่มีรถโชว์!

ที่สุดของชาวโซเชียลมีเดียพูดถึงกันอย่างมาก ในงาน Motor Show 2021 ที่มีราคาขายรถ แต่ไม่มีรถตัวเป็นๆ มาโชว์ให้ดู คงต้องยกให้ Volvo XC40 Recharge Pure Electric (วอลโว่ เอ็กซี 40 รีชาร์จ เพียว อิเล็กทริค) รถ SUV พลังไฟฟ้า วางขุมพลัง P8 AWD ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า Dual Motor ขับเคลื่อนล้อหน้าและหลัง

เปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในงาน มอเตอร์โชว์ 2021 ที่ 2,590,000 บาท

Great-Wall-Motor-Motorshow-2021

มีรถโชว์ แต่ไม่มีราคาขาย! และคนสนใจเยอะสุด

ในงาน Motor Show 2021 น่าจะเรียกได้เลยว่าบูธนี้ ดูดคนมารวมกันได้เยอะที่สุดแล้ว ตั้งแต่ไปเดินชมงานมา และเป็นที่พูดถึงในโซเชียลมีเดียเยอะที่สุด นั่นคือบูธ Great Wall (เกรท วอลล์) ที่เปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการ (จริงๆ) ในไทย พร้อมนำรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) รุ่นเด็ดๆ มาโชว์อย่าง ORA Black Cat (โอร่า แบล็ค แคท), ORA Good Cat (โอร่า กู๊ด แคท) และรถกระบะไฟฟ้า POER EV (โพลว์ อีวี)

และเปิดตัวครั้งแรกในโลกอย่าง All New HAVAL H6 Hybrid SUV (ฮาวาล เอช6 ไฮบริด เอสยูวี) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Turbo ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ ให้แรงม้าสูงสุด 243 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร รวมไปถึงรถยนต์ต้นแบบ Concept H มาจัดแสดงภายใต้แนวคิด “Innovation Builds Better Future” 

แต่ยังไม่มีราคาจำหน่าย แม้แต่รุ่นเดียว! เพราะต้องรอราคาอย่างเป็นทางการ ในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ครับ

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน