เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ. ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมเข้ามากำกับดูแลรถป้ายแดง โดยจะดำเนินการตรวจจับปรับรถส่วนบุคคลที่ใช้ป้ายแดงในการขับขี่ ในส่วนของรถส่วนบุคคลที่ซื้อตั้งแต่ 1 ต.ค. 2560 – 31 ธ.ค. 2560 หากซื้อรถใหม่ป้ายแดงจะต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกภายใน 60 วันนับแต่รับรถ และหากซื้อรถตั้งแต่ 1 ม.ค. 2561 เป็นต้นไป จะต้องจดทะเบียนกับ ขบ. ภายใน 30 วันนับแต่รับรถ

หากไม่ดำเนินการตามข้อกำหนดในช่วงเวลาดังกล่าว จะต้องถูกตำรวจตรวจจับและปรับทันที โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 10,000 บาท ดังนั้นช่วงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึง 30 ก.ค. 2560 ขบ. จะเร่งประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้รับทราบข้อมูลดังกล่าว และเข้าใจกฎระเบียบ กฎหมาย ที่ขบ.จะประกาศออกไปเพื่อให้เข้าใจตรงกันและจะได้ไม่ต้องประสบกับปัญหาระหว่างเจ้าหน้าที่ ขณะตรวจจับ

นายสนิทกล่าวอีกว่า การดำเนินการ ดังกล่าวขณะนี้ทาง ขบ. อยู่ในขั้นตอนการแก้ไขกฎหมายรถป้ายแดง และขณะนี้ผ่าน ขั้นตอนของกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้วรอเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช. ให้พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ขบ. มั่นใจว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวนั้นเป็น การรักษาสิทธิของประชาชนที่เป็นเจ้าของ รถที่ซื้อรถใหม่จากศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถ มีการดำเนินการให้จดทะเบียนรถถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อให้ป้ายแดงที่ ขบ. ออกไปอย่างถูกกฎหมายกว่า 100,000 ป้ายทั่วประเทศ หมุนเวียนในระบบ รวมถึงป้องกันปราบปรามรถผิดกฎหมายที่วิ่งบนท้องถนนด้วย ประกอบกับการเข้ามาจดทะเบียนรถถูกต้องตามกำหนดเวลาก็จะทำให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น

ขอขอบคุณภาพจาก jacky2008

ทางกรมการขนส่งทาทงบกระบุอีกว่า สำหรับการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถส่วนบุคคลจากป้ายแดง เป็นป้ายดำ หากเป็นขั้นตอนของ ขบ. ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็แล้วเสร็จ ที่ผ่านมามีรถป้ายแดงจำนวนมากที่ไม่เปลี่ยนป้าย หรือเปลี่ยนป้ายช้า ส่วนหนึ่งมาจากขั้นตอนเอกสารของบริษัทรถยนต์ และ ดีลเลอร์ขายรถ ซึ่งหากถึงกำหนดเวลาตามเงื่อนไข ทางดีลเลอร์ต้องเร่งเวลาเรื่องเอกสารให้ได้ตามกำหนดของ ขบ.

สำหรับรถยนต์ ป้ายแดงที่ซื้อในช่วงก่อนหน้านี้ หรือก่อนวันที่ 1 ต.ค. แล้วยังไม่เปลี่ยนป้ายทะเบียน หากถึงกำหนดวันที่ 1 ต.ค.ที่เริ่มกวดขัน เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจคู่มือรถแล้วพบว่ารับรถมาเกิน 2 เดือนแล้วยังไม่เปลี่ยนป้ายทะเบียนจะถูกจับปรับเช่นกัน โดยช่วงแรกจะเน้นการประชาสัมพันธ์ หรือปรับอัตราต่ำสุดคือ 1,000 บาท

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสด