Subaru เปิดตัว Subaru Forester ใหม่ โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ญี่ปุ่น

Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) รถ Crossover ขนาด Compact ยอดนิยมขายดีทั้งในญี่ปุ่นและในไทย ถึงเวลาเผยโฉมไมเนอร์เชนจ์แล้ว! รอรับรถกันได้ในเดือนสิงหาคม 2021

Subaru เปิดตัว Subaru Forester ใหม่ โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ญี่ปุ่น

ออกแบบด้านหน้าดูหล่อยิ่งขึ้น กับแนวคิดใหม่ “BOLDER” ดูดีมีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น ใช้ไฟหน้าทรงใหม่ กระจังหน้าดีไซน์หกเหลี่ยม และชุดกันชนหน้าใหม่

มิติตัวรถยาว 4,640 มม. กว้าง 1,815 มม. สูง 1,715 มม. (รุ่น X-BREAK 1,730 มม.) ระยะฐานล้อ 2,670 มม. น้ำหนักตัวรถ 1,570 – 1,640 กิโลกรัม

Subaru เปิดตัว Subaru Forester ใหม่ โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ญี่ปุ่น

ส่วนภายในรถใช้เบาะหุ้มหนัง Nappa ใหม่ สีดำหรือน้ำตาลในรุ่น Advance ขณะที่รุ่น Sport ใช้วัสดุ Ultra Suede สลับหนัง ส่วนรุ่น X-Break ใช้เบาะหนังจากโพลียูรีเทนที่กันน้ำได้

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ New Generation EyeSight มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องคู่หน้า ปรับจุดติดตั้งใหม่บริเวณกระจกหน้ารถ เพิ่มมุมมองของตัวกล้องให้กว้างและชัดยิ่งขึ้น พร้อมปรับปรุงการทำงานของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) เมื่อตามคันหน้า ให้เบรกได้อย่างนุ่มนวลและปลอดภัยมากขึ้น

Subaru เปิดตัว Subaru Forester ใหม่ โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ญี่ปุ่น

ขุมพลังของ Forester (ยกเว้นรุ่น Sport) เป็นแบบ Hybrid ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด e-Boxer รหัส FB20 ขนาด 2.0 ลิตร 145 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตร (19.2 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 18.6 กม./ลิตร (ตามมาตรฐานโหมด JC08) พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์ (13.5 แรงม้า) และระบบ e-Active Shift Control ควบคุมการตอบสนองของตัวรถให้เหมาะสมตามแต่ละสภาวะ

ส่วนรุ่น Sport ใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส CB18 ขนาด 1.8 ลิตร Turbo DIT ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 5,200 – 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร (30.6 กก.-ม.) ที่ 1,600 – 3,600 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 16.5 กม./ลิตร (ตามมาตรฐานโหมด JC08)

โดยทุกรุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร Symmetrical AWD และส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Subaru เปิดตัว Subaru Forester ใหม่ โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ญี่ปุ่น

Subaru Forester โฉมไมเนอร์เชนจ์นี้ เปิดให้จองกันแล้ว (แต่ยังไม่ระบุราคาจำหน่าย) พร้อมส่งมอบรถในเดือน 8 นี้ ที่ญี่ปุ่น มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Touring, X-Break, Advance และ Sport

พร้อมกับสีตัวรถที่มีให้เลือกสะใจถึง 10 แบบ และ 3 สีใหม่ อย่างสีเขียว Cascade Green Silica, สีเขียว Autumn Green Metallic และสีน้ำตาล Brilliant Bronze Metallic

ส่วนในไทย รอหลังส่งมอบรถในญี่ปุ่นกันไปสักพัก ก่อนจะมาขายปลายปีนี้ครับ

และสำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

Toyota bZ4X รถต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) จากค่ายโตโยต้า

นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด (แม้ว่าหลายคนจะตื่นเต้นก็ตาม) กับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ของ Toyota (โตโยต้า) ที่ในอดีต Toyota เคยพัฒนารถ SUV ในรูปแบบรถพลังงานไฟฟ้า กับ Toyota RAV4 ที่ออกจำหน่ายในปี 1996 และ Toyota RAV4 EV เจเนอเรชั่นที่ 2 โดยร่วมกันพัฒนากับทาง Tesla ในปี 2010 – 2014 ก่อนจะเลิกราไป

อ่านเพิ่มเติม >> ประวัติ Toyota RAV4 EV : แม้ว่า Toyota จะเริ่มรถยนต์ไฟฟ้าก่อน แต่ไม่ได้หมายถึงความสำเร็จ!

Toyota bZ4X Concept

Toyota เผยโฉมรถต้นแบบ Toyota bZ4X Concept ใหม่ จัดเป็นรถ Crossover SUV พลังงานไฟฟ้า 100% จากค่ายโตโยต้า ที่เผยโฉมครั้งแรกเมื่อ 19 เมษายน 2021 ในงาน Auto Shanghai ประเทศจีน ในตอนนี้เผยโฉมอย่างเป็นทางการในอเมริกาแล้ว พร้อม​ขายในญี่ปุ่นกับจีนก่อน ก่อนผลิตออกขายทั่วโลกในช่วงกลางปี 2022

ซึ่ง Toyota จะใช้ชื่อรุ่นในชื่อ Toyota bZ ซึ่งย่อมาจาก “Beyond Zero” และยังเป็นรุ่นแรกของตระกูล bZ Series ที่โตโยต้าจะนำชื่อ bZ นี้พร้อมนำไปใช้รถรุ่นใหม่ในอนาคตอีก 7 รุ่น เพื่อสื่อถึงความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota

Toyota bZ4X Concept

ส่วนคำว่าระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า (หรือ Electrified) หากนอกเหนือจากรถ BEV โตโยต้าจะนับรวมรถในกลุ่ม Hybrid, Plug-In Hybrid รวมไปถึงรถ Fuel Cell ด้วย

Toyota bZ4X Concept

Toyota bZ4X พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม e-TNGA ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มใหม่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ร่วมพัฒนากับทาง Subaru และ Daihatsu โดยสามารถใช้ได้ในรถยนต์หลายประเภท รวมจุดเด่นด้านระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าของโตโยต้า และความเชี่ยวชาญด้านระบบ AWD ของ Subaru ไว้ โดย Subaru ก็พัฒนารถของตัวเองในชื่อ Subaru Solterra EV ด้วยเช่นกัน

ตัวรถหน้าสั้นแต่ฐานล้อยาว เพื่อเพิ่มเนื้อที่ห้องโดยสารมากเป็นพิเศษ เทียบเท่าระดับ D-Segment Sedan

Toyota bZ4X Concept

ภายในห้องโดยสารสำหรับรุ่นจำหน่ายจริง ก็คงไม่แตกต่างไปจากรถต้นแบบ โดยออกแบบให้ทัศนวิสัยดีสุด มีหน้าจอ Infotainment ที่ลอยตัวเหนือแผงคอนโซล

Toyota bZ4X Concept

ซึ่ง Toyota bZ4X นี้ จะใช้ฐานการผลิตเพียง 2 แห่งในระยะแรก คือที่ประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน ก่อนจะผลิตแล้วส่งขายไปในทั่วโลกช่วงกลางปี 2022 ส่วนรถในตระกูล “bZ” ที่เหลืออีก 7 รุ่น เตรียมออกสู่ตลาดโลกในปี 2025

และสำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

แหล่งที่มาจาก:

SUV-and-Crossover-In-Motorshow-2021

ช่วง Motor Show 2021 (มอเตอร์โชว์ 2021) นี้ รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ รถยนต์ในรูปแบบ SUV, PPV หรือ Crossover นั้น ยังเป็นที่นิยมจากมหาชนอย่างมากเช่นทุกปี เพราะเป็นรถที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะไว้วิ่งในเมือง ไว้ออกต่างจังหวัด ลุยน้ำท่วม ขนสัมภาระมากมาย หรือเดินทางไปกับครอบครัวหลายคนก็ตาม หลายแบรนด์จึงต้องรีบกระโดดลงมาเล่นรถในกลุ่มนี้ ถึงขนาดบางค่าย ไม่เคยทำ ไม่ยอมทำ ก็ต้องทำออกมาขาย!

ในงาน Bangkok International Motor Show 2021 ครั้งนี้ รถ SUV และรถ Crossover ตัวเลขยอดจอง และความสนใจของผู้คนกับแนวนี้ ยังถือว่าไปได้ดี แม้ว่าฐานลูกค้าของรถยนต์ประเภทนี้ ส่วนหนึ่งจะได้รับผลกระทบอย่างมาก จากการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ครั้งแรก และระลอกใหม่ก็ตาม

MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปชมกัน ว่าในงานจะมีรถยนต์ SUV และรถ Crossover รุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ พร้อมรายละเอียดพอสังเขป มาเสนอครับ …

Toyota-Corolla-Cross-2021

Toyota Corolla Cross

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกของโลก ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue) ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ชมงาน Motor Show 2020

ตัวรถภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ส่วนห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Toyota Corolla Cross ใหม่

  • รุ่น 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท**

ราคารุ่น Hybrid

  • รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท**

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม

Toyota-Fortuner-2021

Toyota Fortuner

Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) มาพร้อมรุ่นพิเศษใหม่ “Legender” โดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ และปรับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อมกับ Light Guiding กับล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่

ส่วนภายในใช้มาตรวัดใหม่ ปรับจอแสดงผลระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay ส่วนระบบเชื่อมต่อ T-Connect ในทุกรุ่น มีกล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ พร้อมระบบ Activated Kick Door เปิดประตูหลังได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสตัวรถ

และช่วงล่าง Super Flex Suspension ที่ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพ และเปลี่ยนวัสดุของแหนบ พร้อมระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว

ด้านเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ในรุ่นเครื่องยนต์ ขนาด 2.8 ลิตร GD Super Power (เจนเนอเรชั่น 2) แรงม้าสูงสุดขึเนมาเป็น 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบ/นาที เป็น 680 รอบ/นาที) พร้อมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการขับขี่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง และยังเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense อีกด้วย

ราคาของ Toyota Fortuner

  • 2.4G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,349,000 บาท
  • 2.4V เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,454,000 บาท
  • 2.4V 4WD เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,524,000 บาท
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,564,000 บาท
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,634,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,769,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,839,000 บาท

(*** สำหรับสี Emotional Red และ สี White Pearl CS เพิ่ม 12,000 บาท)

(*** สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี White Pearl CS Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)

Nissan-Kicks-e-Power-2021

Nissan Kicks e-POWER

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) รถ Crossover ไฮบริด ที่มีจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

นอกจากนี้ ห้องโดยสารภายใน โดดเด่นด้วยการใช้สีทูโทนดำ – ส้ม ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

ราคาของ Nissan Kicks e-POWER ใหม่ (ราคาช่วงเปิดตัว ตั้งแต่ 15 พ.ค. 2563 – 31 มี.ค. 2564)

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท

*สีขาว Storm White และสีส้ม Monarch Orange เพิ่มเงิน 10,000 บาท และสีทูโทน หลังคาสีดำ เพิ่มเงิน 10,000 – 15,000 บาท

Honda-CR-V-2021

Honda CR-V

Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) ใหม่ แม้ว่า CR-V รุ่นนี้ จะออกมาขายในบ้านเรานับเวลาได้ถึง 4 ปีแล้ว แต่ด้วยดีไซน์ภายนอกยังสปอร์ตหรูหราและความแข็งแกร่ง ก็ยังทำให้ CR-V รุ่นนี้ยังขายได้เรื่อยๆ แถมยังมีหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบ Panorama และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential อีกด้วย

เสริมความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายล้ำสมัยระดับพรีเมียม

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลังการขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 160 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC 173 แรงม้า และมาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก

ราคาของ Honda CR-V

  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 S 5 ที่นั่ง ราคา 1,369,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,529,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 E 7 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,579,000 บาท
  • เครื่องยนต์ดีเซล รุ่น DT-EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,759,000 บาท

Mazda-CX-30-2021

Mazda CX-30

Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) ตัวรถออกแบบภายใต้แนวคิด Kodo: Soul of Motion ตัวรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 โดย CX-30 ยังเป็นรถที่ได้รางวัล 1 ใน 3 รถยนต์ยอดเยี่ยมของโลกปี 2020 มั่นใจได้ทั้งคุณภาพและการชับขี่ ภายในนั่งกันได้ 4 คนสบายๆ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง หรือชอบที่ชื่นชอบรถ SUV แนวสปอร์ต

ห้องโดยสารภายใน ครบทุกความสะดวกสบาย เริ่มตั้งแต่มาตรวัดแบบดิจิทัลแบบจอ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ Head-up Display แบบสีบนกระจกหน้า มีระบบอินโฟเทนเมนท์ และระบบเชื่อมต่อ Mazda Connect ทำงานผ่านจอกว้างขนาด 8.8 นิ้ว รองรับการแสดงผลระบบกล้อง 360° View Monitor รวมถึงฟังก์ชั่น Apple CarPlay ที่สามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ด้วยปุ่ม Center Commander ที่บริเวณฐานเกียร์ได้ และชุดเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 12 ตัว

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้

ราคา Mazda CX-30

  • รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

Subaru-Forester-2021

Subaru Forester

Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) จัดเป็นรถ SUV ที่ประกอบในไทยแล้ว มีราคาเริ่มต้นเร้าใจมากๆ ใช้แพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด นั่นคือ Subaru Global Platform เพิ่มการดูดซับแรงกระแทกมากขึ้นถึง 40% ลดการสั่นโคลงได้มากขึ้น 50% อีกทั้งตัวรถ ยังมีหน้าตาที่ดูทะมัดทะแมง บึกบึนขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ห้องโดยสารสไตล์รถครอบครัว นั่งสบายทั้ง 5 ที่นั่ง ส่วนในรุ่น Top สุด ยังมีระบบ Eyesight กล้องคู่ ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกด้วย

โดยในงานนี้ ยังได้จัดแสดง ชุดแต่ง GT สำหรับรถยนต์ Subaru Forester 2.0i-S EyeSight และ ชุดแต่ง GT Lite สำหรับรถยนต์ Subaru Forester 2.0i-S ด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ Boxer DOHC 16 วาล์ว Di 156 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic แบบแปรผันอัตราทดต่อเนื่อง CVT 7 สปีด บนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD Symmetrical All-Wheel Drive

ราคาของ Subaru Forester

  • รุ่น 2.0i-L ราคา 1,030,000 บาท
  • รุ่น 2.0i-S ราคา 1,060,000 บาท
  • รุ่น 2.0i-S Eyesight ราคา 1,130,000 บาท

Mitsubishi-Pajero-Sport-2021

Mitsubishi Pajero Sport

Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต) ยังคงเป็นรถ PPV รุ่นขายดีของ Mitsubishi แม้ว่าจะออกมาหลายปีแล้ว โดยตัวนี้เป็นสีพิเศษ Passion Red Edition (แพชชั่น เรด เอดิชั่น) ที่เปิดตัวในงาน Motor Show 2021 เพื่อร่วมฉลองการครบรอบ 60 ปี มิตซูบิชิ มอเตอร์ส กับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย กับสีแดง ซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของ มิตซูบิชิ

นอกจากนี้ ยังมี Pajero Sport GT Plus ที่มาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า สามารถสั่งการด้วยระบบแฮนด์ฟรี และจอภาพขนาด 12.1 นิ้ว บนเพดานเพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล พร้อมรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน USB และ HDMI ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายต่างๆ อาทิ ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อจอดอยู่กับที่ (BAH) ระบบเบรกมืออัตโนมัติ (APB) กล้องมองภาพรอบคัน (MAM) และเซ็นเซอร์ช่วยจอด และรุ่นพิเศษ Elite Edition ที่มาพร้อมความหรูหรา พรีเมียม และสไตล์ที่เหนือระดับ ในแบบฉบับที่เป็นคุณด้วยแนวคิด “เดอะ มาสเตอร์พีซ” มาโชว์ในงานด้วย

ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร MIVEC VG Turbo Intercooler 181 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัจฉริยะ 8 จังหวะ พร้อม Sport Mode และระบบ INC

ราคาของ Mitsubishi Pajero Sport

  • รุ่น 2.4D GT 2WD ราคา 1,299,000 บาท
  • รุ่น 2.4D GT Plus 2WD ราคา 1,353,000 บาท
  • รุ่น 2.4D GT-Premium 2WD ราคา 1,473,000 บาท
  • รุ่น 2.4D GT-Premium 4WD ราคา 1,603,000 บาท
  • รุ่น 2.4D GT-Premium 2WD Elite Edition ราคา 1,528,000 บาท
  • รุ่น 2.4D GT-Premium 4WD Elite Edition ราคา 1,633,000 บาท

Isuzu-MU-X-2021

Isuzu MU-X

“All-New Isuzu MU-X (ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์)” ใหม่ ยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นใหม่หมดระดับ Masterpiece ภายใต้นิยาม “เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ (Originality Redefined)” พลิกโฉมใหม่ทั้งภายนอกจรดภายใน ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา สะดวกสบาย ประณีตในทุกรายละเอียด

ตัวรถภายนอก หรู ล้ำสไตล์ สง่างาม โฉบเฉี่ยวเร้าอารมณ์ ภายใต้แนวคิด Emotional & Solid ผสานความหนักแน่นและพลิ้วไหวเข้าไว้ด้วยกันตลอดทั้งคัน ส่วนภายในกว้างขวาง โอ่อ่า ด้วยแนวคิดการออกแบบ Fine, Rich & Impressive Craftsmanship ด้วยวิธีการออกแบบ Integrated Cockpit คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง จัดวางเรียบหรู

มีให้เลือกครบครันด้วยสไตล์ที่หลากหลายรวม 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า และ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 150 แรงม้า พร้อมทางเลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ พร้อมระบบขับเคลื่อน Rough Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L

ราคาของ Isuzu MU-X

  • รุ่น 1.9 Ddi Active A/T ราคา 1,109,000 บาท
  • รุ่น 1.9 Ddi Luxury M/T ราคา 1,254,000 บาท
  • รุ่น 1.9 Ddi Luxury A/T ราคา 1,316,000 บาท
  • รุ่น 1.9 Ddi Elegant A/T ราคา 1,349,000 บาท
  • รุ่น 1.9 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,434,000 บาท
  • รุ่น 3.0 Ddi Ultimate A/T ราคา 1,479,000 บาท
  • รุ่น 3.0 Ddi 4X4 Ultimate A/T ราคา 1,579,000 บาท

*สีขาวมุกเพิ่ม 12,000 บาท

MG-ZS-2021

MG ZS

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ ด้วยอีกขั้นของยนตรกรรมภายใต้นิยาม “SMART UP” ยกระดับ สู่การเป็น “สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดบริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่มีความทันสมัยมากขึ้นและสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม พร้อมชูจุดเด่นรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART มีระบบ Voice Command ภาษาไทย

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ 8 สปีด และสามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด

ราคาของ MG ZS

  • รุ่น C+ ราคา 689,000 บาท
  • รุ่น D+ ราคา 739,000 บาท
  • รุ่น X+ ราคา 799,000 บาท

MG-HS-2021

MG HS

New MG HS (เอ็มจี เอชเอส) รถยนต์ SUV รุ่นล่าสุด ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ครั้งใหม่ภายใต้แนวคิด “Elegance” นิยามของ SUV ที่เหนือระดับ ดีไซน์ล้ำสมัยทั้งภายนอกและภายใน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยครบครัน

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้พละกำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด  250 นิวตัน-เมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบ/นาที โดยสามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที พร้อมรองรับน้ำมัน E85 และยังมีรุ่น PHEV หรือ Plug-In Hybrid ให้เลือกด้วย

ราคาของ MG HS

  • รุ่น C ราคา 919,000 บาท
  • รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท
  • รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท
  • รุ่น PHEV ราคา 1359,000 บาท

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

All-New-Honda-Vezel-2021

นับตั้งแต่ Honda Vezel (ฮอนด้า วีเซล) หรือที่รู้จักกันดีในไทย และในประเทศอื่นๆ ในชื่อ Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์วี) เปิดตัวเป็นครั้งแรกในรหัสรุ่น GH เมื่อเดือนกันยายน 1998 ก่อนจะเปิดตัวสู่เจเนอเรชั่นที่ 2 รหัสรุ่น RU ด้วยชื่อ “Vezel” เมื่อเดือนธันวาคม 2013 พร้อมเปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2557 เป็นครั้งแรกในชื่อ Honda HR-V

All-New-Honda-Vezel-2021

บัดนี้ก็ได้เวลาของรุ่นใหม่ของโลก! Honda Vezel / HR-V เจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เตรียมขายในญี่ปุ่นเดือนเมษายนนี้ ยังคงความเป็นรถ Crossover แบบสปอร์ตคูเป้เช่นรุ่นที่แล้ว สร้างขึ้นบนพื้นฐานร่วมกันกับ Honda City และ Fit ใหม่

โดยมีให้เลือกด้วยกันทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซิน และขุมพลังไฮบริด e:HEV ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมกับนำเหล่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ทั้งหลาย และ Tina Tamashiro มาร่วมแคมเปญโฆษณารถรุ่นนี้ในชื่อ “GOOD GROOVE_VEZEL”

All-New-Honda-Vezel-2021

ตัวรถภายนอก มาใน Design Language ของฮอนด้าแบบใหม่ ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ที่ดูเรียบง่าย มีสีเดียวกับตัวรถ กับไฟหน้าทรงโฉบเฉี่ยว และยังคงเอกลักษณ์ของที่เปิดประตูบานหลัง ดูกลมกลืนไปกับตัวรถเช่นเดิม พร้อมฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ และเปิด-ปิด ประตูรถได้แบบง่ายๆ ด้วยระบบ Honda Digital Key ใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจได้

พร้อมชุดแต่งที่มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ 2 สไตล์ ได้แก่แบบ Urban Style และในแบบ Casual Style

All-New-Honda-Vezel-2021

ห้องโดยสาร ออกแบบภายใต้แนวคิด Human Machine Interface และความเป็น “Sleek & Long Cabin” เพิ่มความโปร่งโล่งภายในห้องโดยสารทุกที่นั่ง พร้อมความกลมกลืนกับวัสดุบุนุ่มของแผงคอนโซล และช่องแอร์ที่เสริมลูกเล่นด้วยปุ่มหมุนเปิด-ปิด ช่องลม

All-New-Honda-Vezel-2021

และอีกหนึ่งจุดเด่น อย่างหลังคากระจกพาโนรามิกแบบเปิดปิดได้ พร้อม Low-E Glass กระจกตัดความร้อนจากแสงอาทิตย์ ไฟเพดานแบบ LED ระบบสัมผัส

อีกทั้งยังมีระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT ทำงานผ่านหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ที่ลอยตัวเหนือแผงคอนโซล เสริมด้วยระบบ Automatic Map Update Service อัพเดทแผนที่อัตโนมัติได้

All-New-Honda-Vezel-2021

ขุมพลังของ มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่เลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 แบบ นั่นคือ Normal, Sport และ Econ และยังมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ Real-time AWD ให้เลือกด้วย

All-New-Honda-Vezel-2021

สำหรับระบบความปลอดภัย ยังคงเป็นมาตรฐานเดียวกันกับทุกรุ่นอย่าง Honda SENSING ที่มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC), ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้อง และเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking (CMBS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Support System (LKAS) และระบบอ่านป้ายจราจร Sign Recognition Function เป็นต้น

All-New-Honda-Vezel-2021

Honda Vezel / HR-V 2021 ใหม่ มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น G (มีทั้งรุ่นขับหน้า และขับสี่), e:HEV X (มีทั้งรุ่นขับหน้า และขับสี่), e:HEV PLaY (มีเฉพาะรุ่นขับหน้า) และ e:HEV Z (มีทั้งรุ่นขับหน้า และขับสี่)

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

แต่ถ้าใครจำเป็นต้องใช้เงินเยอะ ก็เอารถที่ไม่ขับแล้ว มาขายรถที่ CARRO สิ! เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

รวมรถเด่น รถใหม่ รถเปิดตัวล่าสุด ในงาน Motor Expo 2020

งาน Motor Expo 2020 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37) มาภายใต้แนวคิด “พร้อมขับเคลื่อน ไปในความเปลี่ยนแปลง” หรือ “Whatever Changes will be…Move on” หลังจากที่ต้องเผชิญกับโควิด-19 อ่วมกันถ้วนหน้าเกือบทั้งปี ผู้บริโภคเอง กำลังซื้อหดหายไปอย่างมากในปีนี้ ค่ายรถจึงต้องอัดแคมเปญ โปรโมชั่น เปิดตัวรถใหม่กันแบบโหมกระหน่ำ!

โดยในงาน Motor Expo 2020 นี้ มีรถยนต์ที่ร่วมงานมากถึง 31 แบรนด์ จาก 8 ประเทศ และรถจักรยานยนต์อีก 21 แบรนด์ จาก 10 ประเทศ รวมถึงจัดแสดงเรือ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องมากมาย คาดยอดขายกระฉูดเม็ดเงินสะพัดกว่า 35,000 ล้านบาท

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2020 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

นอกจากโปรโมชั่นพิเศษมากมายแล้ว งานนี้ยังมอบโชคคืนกำไรให้แก่ผู้ชมงาน ทั้ง ซื้อรถ…ชิงรถ / ซื้อบัตร…ชิงรถ / ซื้อสินค้า…ชิงรถ / ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์ / ชม Motor Expo Online ชิงรางวัล รวมถึงลุ้นชิงรางวัลอื่นๆ จากการซื้อสินค้าอีกมากมาย

และยังมีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรี! จาก 3 จุดในกรุงเทพฯ และที่รังสิต รอบแรก 11.00 น. รอบสุดท้าย 20.30 น. ส่วนขาออกงาน รอบแรก 12.00 น. รอบสุดท้าย 22.30 น ให้คุณเดินทางมาชมงานได้อย่างสะดวกสบาย

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาเวลาว่าง ไปเดินเที่ยวชมงานกันครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศภายในงาน Motor Expo 2020 ได้เลยครับ

Toyota-GR-Yaris

Toyota GR Yaris

Toyota-Innova-Crysta-2021

Toyota Innova Crysta

Lexus-IS300h

Lexus IS 300h

Lexus-UX300e

Lexus UX 300e

Lexus-LS500h

Lexus LS 500h

Honda-City-Hatchback-2021

Honda City Hatchback

Honda-City-eHEV-2021

Honda City e:HEV

Nissan-Note-2020

Nissan Note 2020

Nissan-Navara-PRO4X-2021

Nissan Navara PRO-4X

BMW-Series-4-Coupe-2021

BMW 430i Coupe M Sport

BMW-X1-2021

BMW X1 sDrive20d M Sport

Volvo-XC40-Recharge-2021

Volvo XC40 Recharge

Porsche-Panamera-GTS-2021

Porsche Panamera GTS

KIA-Carnival-2021

KIA Carnival

MG-EP-Wagon-2021

MG EP EV

MG-HS-PHEV-2021

MG HS PHEV

Audi-e-Tron-Sportback

Audi e-tron Sportback

Rolls-Royce-Ghost-Extended-2021

Rolls-Royce Ghost Extended

Maserati-Ghibli-Hybrid

Maserati Ghibli Hybrid

Mercedes-Benz-GLA-200-AMG-Dynamic

Mercedes-Benz GLA 200 AMG Dynamic

Ford-Ranger-2021

Ford Ranger

Ford-Everest-2021

Ford Everest

โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2020 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2563 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

หากท่านใดที่อยากได้บัตรเข้างาน Motor Expo 2020 ฟรี! ง่ายๆ ดูรายละเอียดการขอบัตรได้ในนี้เลย —> https://th.carro.co/blog/carro-ticket-motor-expo/

New-MG-HS-PHEV-2020

MG ประเทศไทย ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มรถ SUV และรถยนต์พลังงานทางเลือกในประเทศไทย ประกาศเปิดตัว New MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส ปลั๊กอินไฮบริด) ชูแนวคิด “Refinement” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต โดยสะท้อนถึงความเหนือระดับ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบายความปลอดภัย และการแนะนำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid

MG ได้เริ่มทำตลาดรถยนต์ในไทยเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ซึ่งต้องเผชิญกับการตั้งคำถาม และความท้าทายมากมาย จากความทุ่มเททำงานอย่างหนักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้ในตอนนี้ MG ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กับตลาดรถยนต์เมืองไทย

และต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รถยนต์คันที่ 100,000 ได้ผลิตออกจากโรงงานของเรา ซึ่งก็คือ NEW MG HS PHEV ที่เปิดตัวในวันนี้ ถือเป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบที่สี่ต่อจากเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล และรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย

New-MG-HS-PHEV-2020

New MG HS PHEV “REFINEMENT” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต

รถ SUV รุ่นล่าสุดของเอ็มจี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานพลังสุดยอดแห่งระบบขับเคลื่อน 2 ระบบ เข้าด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เพิ่มขีดสุดให้สมรรถนะในการขับขี่ พร้อมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยขั้นสูง ครบครันด้วยองค์ประกอบการดีไซน์ที่โดดเด่น ภายใต้แนวคิด Brit Dynamic ที่ผสานทั้ง สมรรถนะ (Performance) การควบคุม (Handling) การออกแบบ (Design) และความปลอดภัย (Safety) ได้อย่างลงตัว

New-MG-HS-PHEV-2020

Refined Performance: ขุมพลังแห่งการขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบของระบบปลั๊กอินไฮบริด

New MG HS PHEV ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร จากขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน Turbo ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร มีระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที ตอบสนองได้อย่างทันใจ

New-MG-HS-PHEV-2020

และเพิ่มความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด EV และโหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport ที่เพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น

แบตเตอรี่ใน New MG HS PHEV เป็นแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง โดยมีขนาดใหญ่ถึง 16.6 kWh ทำให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการสะสมพลังงานได้มากกว่าจึงวิ่งได้นานขึ้น รวมถึงการทำระยะทางได้มากขึ้น โดยสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% สูงสุดถึง 67 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

New-MG-HS-PHEV-2020

นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยีในมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Hairpin Design ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถดึงสมรรถนะของการส่งกำลังและลดอัตราการสูญเสียพลังงานได้ดียิ่งขึ้น พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Coolant ซึ่งดีกว่าระบบระบายความร้อนแบบปกติ ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ด้วยแบตเตอรี่ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก AMERICAN UL2580 และผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น

New MG HS PHEV มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่สามารถชาร์จพลังงาน ในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) โดยเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ

และด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ทำให้ New MG HS PHEV มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่ 65 กม./ลิตร (อ้างอิงข้อมูลจาก Eco Sticker) และมีการปล่อยค่าไอเสีย หรือคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 36 กรัม/กม.

New MG HS PHEV ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ด้วยระบบกันสะเทือนของช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut และช่วงล่างหลังแบบ Multi-link ที่มาพร้อมเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่บนทุกสภาพถนน

New-MG-HS-PHEV-2020

Refined Exterior: ขีดสุดของการออกแบบ

New MG HS PHEV มีความโดดเด่นทางดีไซน์ที่ยกระดับพื้นฐานมาจากรถยนต์ C-SUV ยอดนิยมอย่าง “MG HS” ใช้เส้นสายตัวถังที่โค้งมน ในรูปแบบ British Shoulder Line กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็มจีแบบ Stellar Magnetic Field ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ไฟท้าย LED Space Light Field และไฟเลี้ยวแบบ Sequential ที่แสดงผลแบบไล่ระดับทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

เพิ่มเอกลักษณ์ความเป็นรถยนต์ Plug-in Hybrid ด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ในสไตล์ Thunder Wing Blade ขนาด 18 นิ้ว

New-MG-HS-PHEV-2020

Refined Interior & Utility: สะดวกสบายตลอดเส้นทาง

New MG HS PHEV ตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยสี 2-Tone Monaco Blue และใช้วัสดุ Soft Touch เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสารด้วย NVH Luxury Silence Space เพิ่มฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก พร้อมหลังคาซันรูฟที่เปิดกว้างแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) บนพื้นที่เกือบ 90% ของพื้นที่หลังคา

มอบประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ ด้วยจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว และจอควบคุมกลางแบบ Touch Screen ขนาด 10 นิ้ว ระบบเสียง BOSE 8.1 Sound System พร้อมสร้างบรรยากาศและสีสันให้กับการขับขี่ด้วย Interactive Ambient Light ที่ปรับเฉดสีได้มากถึง 64 เฉดสี

นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกฝั่ง Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า

New-MG-HS-PHEV-2020

Refined i-SMART: รู้ใจกว่าที่คิด

New MG HS PHEV ติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่ทำให้เอ็มจีเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี การเชื่อมต่อ โดยทำให้ผู้ขับขี่สามารถสื่อสารกับรถเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ด้วย Smart Command ที่สามารถสั่งการระบบผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทยหรือควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน

พร้อมยกระดับความสมาร์ทเพื่อความปลอดภัยด้วย Emergency Call ซึ่งเป็นระบบโทรหาคนสำคัญอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน Smart Connect เชื่อมต่อโลกออนไลน์อย่างชาญฉลาด สามารถเลือกฟังเพลงได้ทั้งแบบออนไลน์และสตรีมมิ่ง ระบบค้นหาร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว พร้อมนำทางและรายงานการจราจรแบบ Real Time รวมทั้งการอ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างทันเหตุการณ์

และยังสามารถอัพเกรดระบบได้เองผ่านช่องทางออนไลน์ Smart Check ที่มีระบบ Charging Management ในการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ และการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมถึงการตรวจสอบสถานะรถยนต์และเตือนเมื่อมีสถานะผิดปกติ สั่งการล็อคหรือปลดล็อคประตูรถ ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car และการเข้าถึงบริการ Passion Service ของเอ็มจี ช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงการบันทึกการดูแลรักษารถ ตามระยะ ผ่าน MG Mobile Application

New-MG-HS-PHEV-2020

Refined Safety: ปลอดภัยรอบคัน

New MG HS PHEV มีระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System กว่า 25 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน 14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการ ขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 11 ระบบ

สำหรับระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ถือเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระดับที่ 2 (Partial Automation) โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้

New-MG-HS-PHEV-2020

กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา RDA (Rear Drive Assist)

  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

กลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน LAS (Lane Assist System)

  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)

กลุ่มระบบที่ช่วยในการขับขี่ FDA (Front Drive Assist)

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)

นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัย 6 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

New-MG-HS-PHEV-2020

New MG HS PHEV มีสีตัวถังทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว Arctic White โดยมีสีภายในแบบ 2-Tone Monaco Blue ในขณะที่ตัวถังสีแดง Scarlet Red และสีดำ Black Knight จะมาพร้อมการตกแต่งภายในสีดำ ในราคา 1,359,000 บาท! และโปรโมชั่นพิเศษ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี และ MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง

ส่วนใครที่อยากได้ New MG HS PHEV ใหม่ แต่เงินสดมีไม่เพียงพอ ถ้าใช้รถคันเดิมอยู่ สามารถนำมาขายกับทาง CARRO ได้ แม้ว่ารถจะติดไฟแนนซ์ เราก็พร้อมปิดไฟแนนซ์ให้ และยินดีรับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

The-10-Best-In-Motorshow-2020

งาน “มอเตอร์โชว์ 2020” หรือ “Motor Show 2020” ในยุค New Normal ที่มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รุ่นใหม่ๆ มาโชว์แล้ว รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยในยุคเฟซชิลด์ ที่ดูแปลกตาไปจากปีผ่านๆ มา …

ในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของการจัดงานแสดง เป็นงานอีเว้นท์ใหญ่ของประเทศ ที่มีมาตรการการเฝ้าระวังโรคติดต่อที่มีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยการขับเคลื่อนในเชิงธุรกิจ ก็ยังจำเป็นจะต้องดำเนินต่อไป

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ของยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ในงานครั้งนี้ด้วย CARRO ขอรวบรวม “10 ที่สุด” ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Show 2020” มาให้ทุกท่านได้ทึ่งกัน ว่ามีด้วยหรือเนี่ย!

Suzuki-Celerio-2020

ถูกที่สุด

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ต้องยกให้ Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car ขนาดเล็กของซูซูกิขายกันมาหลายปี มาในราคาเพียง 318,000 บาท ที่ขายกันมายาวนานหลายปี

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 90 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

Rolls-Royce-Phamtom-2020

แพงที่สุด

รถที่ “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ยังคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก Rolls-Royce Phantom (โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม) เป็นรถยนต์เพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการขนานนามให้เป็น “King of cars” หรือรถยนต์ที่ดีสุดในโลก ได้รับความนิยมอย่างมากในบรรดา ดาราฮอลลีวูด, เซเลบริตี้ระดับ A-List รวมถึงนักกีฬาและนักดนตรีระดับแนวหน้า ในราคาคันละ 53,500,000 บาท!!!

ทะยานอย่างฉับไวแต่เงียบเชียบ ผสานความนุ่มนวลของการขับเคลื่อนแบบพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo V12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร ตัวถังสีทูโทน ล้อแม็กขอบ 22 นิ้ว ห้องโดยสารแบบ Bespoke Interior มาพร้อมกับ Starlight Headliner ที่ช่วยสร้างบรรยากาศท้องฟ้าในยามค่ำคืน และ The Gallery แบบ Rivenslate ลงตัวกับแดชบอร์ดที่ตกแต่งด้วยสีดำ Piano black

Lamborghini-Aventador-SVJ-Roadster-2020

รถ Super Car แพงที่สุด / เร็วที่สุด

รถ Super Car ที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้คือ Lamborghini Aventador SVJ Roadster (ลัมโบร์กินี อเวนทาดอร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์) ที่มีราคาสูงถึง 48,980,000 บาท!!! และยังผลิตจำนวนจำกัดเพียง 800 คันทั่วโลก

มาพร้อมกับระบบอากาศพลศาสตร์ ALA (Aerodynamica Lamborghini Attiva) 2.0 ที่พัฒนาให้ทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพในการจัดการอากาศได้ดีกว่ารุ่น Aventador SV Roadster ถึง 40%

มาพร้อมกับประสบการณ์ขับขี่แบบ Open Air ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ตัวหลังคาทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร ที่สามารถรีดพละกำลังสูงสุดถึง 770 แรงม้า ช่วยให้ทะยานจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 2.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม.

Rolls-Royce-Cullinan-2020

รถ SUV แพงที่สุด

ส่วนรถ SUV ที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Show 2020 ได้แก่ Rolls-Royce Cullinan (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน) ตัวรถระดับ Ultra Luxury SUV รุ่นแรกของ Rolls-Royce ในราคา 33,500,000 บาท!!!

Cullinan ตั้งชื่อตามเพชรที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันถูกนำไปประดับอยู่บนมงกุฏของพระราชินีแห่งอังกฤษ โครงสร้างตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียม ที่เป็นสิทธิบัตรของโรลส์-รอยซ์

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo V12 สูบ 6.75 ลิตร 563 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ห้องโดยสารสามารถขยายพื้นที่เพื่อเพิ่มความจุสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,930 ลิตร

ขณะที่ช่วงล่างหน้าเป็นแบบดับเบิลวิชโบน และหลังแบบ 5 ลิงก์ ปรับความสมดุลอัตโนมัติ นับเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์สุดหรู รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ที่พร้อมฟันฝ่าอุปสรรคในทุกสภาพเส้นทาง

Takano-Auto-Thailand-2020

รถยนต์ไฟฟ้า ราคาถูกที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้า ที่ราคาถูกสุดในงาน Motor Show 2019 ต้องยกให้ รถกระบะไฟฟ้าขนาดจิ๋ว Takano (ทากาโน่) TTE500 พาคุณไปได้ทุกที่ สามารถรับน้ำหนักในการบรรทุกได้มากถึง 300 กิโลกรัม

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 5 กิโลวัตต์ พร้อมแบตเตอรี่ 12V 125 แอมป์ ขนาด 6 ลูก ใต้พื้นกระบะหลัง และเครื่องยนต์เบนซินขนาดจิ๋วช่วยปั่นไฟฟ้าให้แบตเตอรี่ ให้ระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่ 100-120 กิโลเมตร โดยใช้เงินเพียง 30 บาท และทำความเร็วได้สูงสุด 60 กม./ชม. ในราคาพิเศษเพียง 388,000 บาท! (จากราคาปกติ 438,000 บาท)

Porsche-Taycan

รถยนต์ไฟฟ้า ราคาแพงที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้าแพงที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ Porsche นั่นคือ Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคานน์ ใหม่) รถสปอร์ตคันแรกจากปอร์เช่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ ตัวถัง 4 ประตูซีดานที่ยังคงเอกลักษณ์งานออกแบบของปอร์เช่ เอาไว้อย่างครบถ้วน พร้อมสมรรถนะการขับขี่สุดเร้าใจ และเทคโนโลยีล้ำยุค

เปิดตัวด้วยรุ่น ไทคานน์ เทอร์โบ เอส (Taycan Turbo S) พละกำลังสูงสุดกว่า 761 แรงม้า ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 7,100,000 บาท ไทคานน์ เทอร์โบ (Taycan Turbo) พละกำลังสูงสุด 680 แรงม้า ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 9,900,000 บาท

และ ไทคานน์ 4 เอส (Taycan 4S) พละกำลังสูงสุด 530 แรงม้า ที่มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 11,700,000 บาท! จัดว่าเป็นรถ EV ที่แพงที่สุดในงานนี้

Hyundai-County-2020

ใหญ่ที่สุด

ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ ต้องยกให้ Hyundai County (ฮุนได เคานตี้) รถบัสที่บริษัท ฮุนได คอมเมอร์เชียล เวฮิเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือ ยนตรกิจ คอร์เปอเรชั่น เพิ่งจะได้สิทธิ์เป็นผู้นำเข้าและประกอบขายในบ้านเรา ในชื่อการค้าคือ Hyundai Truck & Bus (ฮุนได ทรัค แอนด์ บัส)

สำหรับ Hyundai County เป็นรถบัสขนาด 18+1 ที่นั่ง มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล D4D ขนาด 3.9 ลิตร แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ราคาเปิดตัวที่ 1,991,000 บาท

Siam-Watercraft-Cobalt

แปลกที่สุด

แปลกที่สุดในงาน Motor Show 2020 ต้องยกให้เรือ Cobalt ลำใหญ่ของบูธ SiamWatercraft ที่มาโชว์ในงานครั้งนี้

BMW-K1600B-2020

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Show 2020 ต้องยกให้ BMW K1600B (บีเอ็มดับเบิลยู เค1600บี) ในราคา 1,695,000 บาท!

Toyota-In-Motor-Show-2020

บูธยี่ห้อรถคนสนใจเยอะสุด

ในงาน Motor Show 2020 ด้วยการจัดงานในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ “New Normal” ทำให้การเข้าชมในบูธนั้น ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ต้องจำกัดผู้คนต่อเนื้อที่ของบูธ สแกนเช็กอิน-เช็กเอาท์ ผ่าน App ไทยชนะ และต้องล้างมือด้วยเจลแอลกฮอลล์ เพื่อป้องการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบูธที่คนให้ความสนใจมากที่สุดในงานนี้คงต้องยกให้ Toyota (โตโยต้า)

เนื่องจากมีผู้คนสนใจรถรุ่นใหม่ที่ Toyota นำมาโชว์ในงานนี้มาก อาทิเช่น Toyota Corolla Cross, Toyota Hilux Revo และ Toyota Fortuner เป็นต้น ทำให้มีผู้คนยอมรอต่อแถวเข้าคิวยาวเหยียด หรือรอรับบัตรคิวไว้นับพันคนเลยทีเดียว!

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก:

SUV-And-Crossover-In-Motorshow-2020

ช่วง Motor Show 2020 (มอเตอร์โชว์ 2020) นี้ รถยนต์อเนกประสงค์ หรือ รถยนต์ในรูปแบบ SUV, PPV หรือ Crossover นั้น ยังเป็นที่นิยมจากมหาชนอย่างมากเช่นทุกปี เพราะเป็นรถที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะไว้วิ่งในเมือง ไว้ออกต่างจังหวัด ลุยน้ำท่วม ขนสัมภาระมากมาย หรือเดินทางไปกับครอบครัวหลายคนก็ตาม หลายแบรนด์จึงต้องรีบกระโดดลงมาเล่นรถในกลุ่มนี้ ถึงขนาดบางค่าย ไม่เคยทำ ไม่ยอมทำ ก็ต้องทำออกมาขาย!

ในงาน Bangkok International Motor Show 2020 ครั้งนี้ แม้ว่าจะถูกวิกฤตโควิด-19 เล่นงานจนต้องเลื่อนมาจัดในช่วงกลางปี 2563 รถ SUV และรถ Crossover ตัวเลขยอดจองของรถแนวนี้ ก็ยังถือว่าดีตั้งแต่วันแรกๆ ของงาน และผู้คนก็ยังให้ความสนใจมาก ดังที่จะเห็นได้จากการเปิดตัวรถ SUV หรือรถ Crossover ใหม่ในงาน มีคนสนใจอยากดูต่อคิวเข้าบูธในยุค New Normal แน่นขนัดจนต้องต่อแถวยาวเหยียดทีเดียว

MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปชมกัน ว่าในงานจะมีรถยนต์ SUV และรถ Crossover รุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ พร้อมรายละเอียดพอสังเขป มาเสนอครับ …

Toyota-Corolla-Cross-2020

Toyota Corolla Cross

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกของโลก และโชว์ในงาน Motor Show 2020 พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue) ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ชมงาน Motor Show 2020

ตัวรถภายนอกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ส่วนห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Toyota Corolla Cross ใหม่

  • รุ่น 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท**

ราคาพิเศษ 959,000 บาท (ณ วันเปิดตัว – 30 กันยายน 2563 มีจำนวนจำกัด)

ราคารุ่น Hybrid

  • รุ่น Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท**
  • รุ่น Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท**

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท
**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม

Toyota-Fortuner-Legender

Toyota Fortuner

Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ต้อนรับปี 2020 ทุกรุ่นย่อย! พร้อมรุ่นพิเศษใหม่ “Legender” โดดเด่นด้วยกระจังหน้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมแถบกันชนล่างสีเงิน ไฟหน้า DayTime Running Light แบบ Light Guiding ดีไซน์ใหม่ และปรับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED พร้อมกับ Light Guiding กับล้ออัลลอย 18 นิ้วดีไซน์ใหม่

ส่วนภายในใช้มาตรวัดใหม่ ปรับจอแสดงผลระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay ส่วนระบบเชื่อมต่อ T-Connect ในทุกรุ่น มีกล้องมองภาพรอบคันพร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ พร้อมระบบ Activated Kick Door เปิดประตูหลังได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้มือสัมผัสตัวรถ

และช่วงล่าง Super Flex Suspension ที่ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของการดูดซับแรงกระแทกของโช๊คอัพ และเปลี่ยนวัสดุของแหนบ พร้อมระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC (Variable Flow Control) ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว

ด้านเครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ในรุ่นเครื่องยนต์ ขนาด 2.8 ลิตร GD Super Power (เจนเนอเรชั่น 2) แรงม้าสูงสุดขึเนมาเป็น 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สำหรับรุ่น Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบ/นาที เป็น 680 รอบ/นาที) พร้อมทั้งพัฒนาประสิทธิภาพการขับขี่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคง และยังเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense อีกด้วย

ราคาของ Toyota Fortuner

  • 2.4G เกียร์อัตโนมัติ 1,319,000 บาท จาก 1,349,000 บาท (วันนี้ – 30 กันยายน 2563)
  • 2.4V เกียร์อัตโนมัติ 1,424,000 บาท จาก 1,454,000 บาท (วันนี้ – 30 กันยายน 2563)
  • 2.4V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,494,000 บาท จาก 1,524,000 บาท (วันนี้ – 30 กันยายน 2563)
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,564,000 บาท
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,634,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,769,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,839,000 บาท

(*** สำหรับสี Emotional Red และ สี White Pearl CS เพิ่ม 12,000 บาท)

(*** สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี White Pearl CS Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)

Nissan-Kicks-e-POWER-2020

Nissan Kicks e-POWER

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) รถ Crossover ไฮบริด ที่มีจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

นอกจากนี้ ห้องโดยสารภายใน โดดเด่นด้วยการใช้สีทูโทนดำ – ส้ม ด้วยแผงคอนโซล และเบาะหนัง พร้อมเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลา ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอเครื่องเสียง ผ่าน Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigation System ผ่าน Google Map กับระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition ที่ใช้งานง่าย แถมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมากถึง 432 ลิตร และยังมีความลึกของห้องเก็บสัมภาระที่มากถึง 900 มม. โดยที่ยังไม่พับเบาะหลัง

ราคาของ Nissan Kicks e-POWER ใหม่

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,049,000 บาท ปรับขึ้น 50,000 บาท)
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท (ราคาหลังโปรโมชั่น 1,103,900 บาท ปรับขึ้น 54,900 บาท)

*สีขาว Storm White และสีส้ม Monarch Orange เพิ่มเงิน 10,000 บาท และสีทูโทน หลังคาสีดำ เพิ่มเงิน 10,000 – 15,000 บาท

Honda-CR-V-2020

Honda CR-V

Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) ใหม่ เปิดตัวในไทยที่งาน Motor Show เป็นประเทศแรกของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ด้วยดีไซน์ภายนอกยังสปอร์ตหรูหราและความแข็งแกร่งในทุกมิติ พรีเมียมขึ้นด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบ Panorama และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential

เสริมความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายล้ำสมัยระดับพรีเมียม

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลังการขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO 160 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC 173 แรงม้า และมาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก

ราคาของ Honda CR-V

  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 S 5 ที่นั่ง ราคา 1,369,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,529,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 E 7 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,579,000 บาท
  • เครื่องยนต์ดีเซล รุ่น DT-EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,759,000 บาท

Mazda-CX-3-2020

Mazda CX-3

Mazda CX-3 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3) ในรุ่นปี 2020 นี้ ได้ปรับปรุงรุ่นย่อยใหม่ และปรับราคาจำหน่ายใหม่ พร้อมโชว์ตัวในงาน Motor Show 2020 เจาะกลุ่มคนอยากมีรถ Crossover คันแรกมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามียอดขายสะสมในประเทศไทยกว่า 16,000 คัน

CX-3 นี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Drive Your Attitude” ภายใต้แนวทางการออกแบบใหม่ล่าสุด และเทคโนโลยี SkyActiv ที่กำลังสร้างชื่อในตลาดทั่วโลกรวมทั้งในตลาดในไทย ด้วยดีไซน์สปอร์ตหรู กับสีพรีเมี่ยมใหม่ Machine Gray กับ Soul Red Crystal พร้อมนวัตกรรมล่าสุดที่ให้คุณควบคุมได้ทุกเส้นทาง Skyactiv-Vehicle Dnamics และเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activesense

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อม Manual Mode Activematic อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 16.4 กม./ลิตร

ราคาของ Mazda CX-3

  • รุ่น 2.0 Base ราคา 768,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Comfort ราคา 848,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Proactive ราคา 948,000 บาท
  • รุ่น 2.0 Style ราคา 1,048,000 บาท

Mazda-CX-30-2020

Mazda CX-30

Mazda CX-5 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) นับเป็นดาวเด่นในบูธ Mazda ของงาน Motor Show 2020 ครั้งนี้ ตัวรถออกแบบภายใต้แนวคิด Kodo: Soul of Motion ตัวรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 โดย CX-30 ยังเป็นรถที่ได้รางวัล 1 ใน 3 รถยนต์ยอดเยี่ยมของโลกปี 2020 มั่นใจได้ทั้งคุณภาพและการชับขี่ ภายในนั่งกันได้ 4 คนสบายๆ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง หรือชอบที่ชื่นชอบรถ SUV แนวสปอร์ต

ห้องโดยสารภายใน ครบทุกความสะดวกสบาย เริ่มตั้งแต่มาตรวัดแบบดิจิทัลแบบจอ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ Head-up Display แบบสีบนกระจกหน้า มีระบบอินโฟเทนเมนท์ และระบบเชื่อมต่อ Mazda Connect ทำงานผ่านจอกว้างขนาด 8.8 นิ้ว รองรับการแสดงผลระบบกล้อง 360° View Monitor รวมถึงฟังก์ชั่น Apple CarPlay ที่สามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ด้วยปุ่ม Center Commander ที่บริเวณฐานเกียร์ได้ และชุดเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 12 ตัว

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้

ราคา Mazda CX-30

  • รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

Mitsubishi-Xpander-Cross

Mitsubishi Xpander Cross

Mitsubishi Xpander Cross (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส) นับตั้งแต่ Mitsubishi Xpander เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2561 สามารถสร้างยอดขายสะสมรวมทุกรุ่นได้มากกว่า 26,000 คัน ในปีนี้ Mitsubishi จึงเปิดตัว Xpander Cross ในเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา พร้อมปรับรูปลักษณ์ให้ดูลุยๆ แข็งแกร่ง ขับขี่ได้ทุกสภาพถนน ด้วยความสูงใต้ท้องรถที่สูงถึง 225 มม. และโดดเด่นด้วยดีไซน์ด้านหน้าใหม่แบบ Advanced “Dynamic Shield” เวอร์ชั่นล่าสุด

ห้องโดยสารภายใน ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่ม ดูหรูหราสะดวกสบาย พร้อมดีไซน์สีทูโทน สีดำและน้ำตาล ที่แผงคอนโซลและเบาะนั่ง รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่ 2 สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 และเบาะแถวที่ 3 ปรับพับได้แบบ 50:50 และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

ส่วนเครื่องยนต์ยังเหมือนในโฉมธรรมดา นั่นคือแบบเบนซินขนาด 1.5 ลิตร MIVEC ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาของ Mitsubishi Xpander Cross ใหม่

  • ราคา 899,000 บาท

Mitsubishi-Pajero-Sport-Elite-Edition

Mitsubishi Pajero Sport

Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลิท เอดิชั่น) ยังคงเป็นรถ PPV รุ่นขายดีของ Mitsubishi แม้ว่าจะออกมาหลายปีแล้ว ซึ่งตัวนี้เป็นรุ่นพิเศษที่เปิดตัวในงาน Motor Show 2020 นี้

สีตัวรถ มีให้เลือกได้ระหว่างสีดำ Jet Black Mica หรือสีขาว White Diamond ตัดกับหลังคาดำ มาพร้อมกระจังหน้าสีดำ มีสัญลักษณ์ Elite Edition เฉพาะรุ่นที่ประตูบานท้าย ปลายท่อไอเสียสเตนเลส พร้อมชุดแต่งสีดำล้วน อาทิ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ชุดแต่งใต้กันชนหน้า-หลัง ราวหลังคา สปอยเลอร์หลัง และเสาอากาศแบบครีบฉลาม

ภายในห้องโดยสารใช้เบาะสีน้ำตาล Quole Modure ที่สามารถสะท้อนความร้อนจากแสงแดด แผงประตูและคอนโซลกลางบุหนังสีน้ำตาล มีตราสัญลักษณ์ Pajero Sport เหนือกล่องเก็บของด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร ฝาครอบสเตนเลสพร้อมไฟ LED ชุดพรมปักตรา Pajero Sport และกล้องบันทึกภาพหน้ารถ DVR : Digital VDO Recorder เป็นต้น

ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร MIVEC VG Turbo 181 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

ราคาของ Mitsubishi Pajero Sport

  • รุ่น 2.4 GT-Premium 2WD Elite Edition ราคา 1,524,000 บาท
  • รุ่น 2.4 GT-Premium 4WD Elite Edition ราคา 1,629,000 บาท

Suzuki-XL7

Suzuki XL7

Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) Multi-Dynamic Crossover ที่ชื่อรุ่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกันกับ Suzuki Vitara XL7 ที่ทาง Suzuki เคยขายในไทยมาก่อนเลย ชูแนวคิด THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต บนพื้นฐานของ HEARTECT Platform ร่วมกับรุ่น Ertiga ด้วยสมรรถนะและฟังก์ชันที่ครบครัน ที่มาของ XL7 ซึ่งก็หมายถึงรุ่นนี้มี 7 ที่นั่งนั่นเอง

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ต ออกแบบให้มีความสูงขึ้น ใช้ไฟหน้า LED ปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ พร้อม ไฟ Daytime Running Light และล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว มีราวหลังคา และไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรคแนวตั้งแบบ Light guides

ภายในตกแต่งวัสดุด้วยลาย Carbon Fiber พร้อมคิ้วโครเมียม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงผลข้อมูลการขับขี่ จอแสดงผลระบบอินโฟฯ แบบทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว ระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมแอร์เบาะแถว 2 และแถว 3 ซึ่งเบาะแถว 2 สามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ปรับเลื่อนได้ 240 มม. ช่วยให้เข้า-ออกเบาะแถว 3 ง่ายขึ้นและเบาะแถว 3 ปรับพับได้แบบ 50:50

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส K15B เหมือนในรุ่น Ertiga ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า

ราคาของ Suzuki XL7

  • รุ่น GLX ราคา 779,000 บาท

MG-ZS-2020

MG ZS

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ปรับโฉมใหม่ไปในเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ด้วยอีกขั้นของยนตรกรรมภายใต้นิยาม “SMART UP” ยกระดับ สู่การเป็น “สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดบริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่มีความทันสมัยมากขึ้นและสปอร์ตยิ่งกว่าเดิม พร้อมชูจุดเด่นรถยนต์รุ่นแรกของเอ็มจี ที่มาพร้อมกับระบบอัจฉริยะ i-SMART มีระบบ Voice Command ภาษาไทย

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ 8 สปีด และสามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด

ราคาของ MG ZS

  • รุ่น C+ ราคา 689,000 บาท
  • รุ่น D+ ราคา 739,000 บาท
  • รุ่น X+ ราคา 799,000 บาท

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อนำเงินไปซื้อรถใหม่ ง่ายๆ เพียงขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้เงินไว! เร็ว! พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก:

SUV-And-Crossover-In-Motor-Expo-2019

ในยุคปัจจุบัน ถ้าจะให้พูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ รถยนต์ในรูปแบบ SUV, PPV และ Crossover นั้น เป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี (ดูได้จากยอดขายรถประเภทนี้ ย้อนหลังไป 7-8 ปีที่ผ่านมา) เพราะเป็นรถที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะไว้วิ่งในเมือง ไว้ออกต่างจังหวัด ลุยน้ำท่วม ขนสัมภาระมากมาย หรือเดินทางไปกับครอบครัวหลายคนก็ตาม

ในงาน Motor Expo 2019 (มอเตอร์เอ็กซ์โป 2019) นี้ บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ที่มีไลน์การผลิตรถแนว SUV, PPV และ Crossover ต่างรีบนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของตนออกสู่ตลาดโดยเร็ว เพื่อช่วงชิงยอดจองและยอดขาย ซึ่งในงาน Motor Expo 2019 จะมีรุ่นใดมาโชว์นั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันได้เลยครับ …

1. Nissan X-Trail

Nissan-X-Trail-2019

Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์เทรล) จัดเป็นรถ Crossover ที่เปิดตัวในบ้านเราตั้งแต่เมื่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และแบบ Hybrid (ไฮบริด) รายแรกในกลุ่ม SUV ระดับเดียวกันในประเทศไทย

เพิ่มฟังก์ชั่นมากมาย ตอบรับกับวิถีชีวิตคนเมือง เช่น ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายอัตโนมัติแบบระบบแฮนด์ฟรี หรือระบบเครื่องเสียงที่ให้ความบันเทิงรุ่นใหม่แบบ A-IVI และหลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟ มีให้เลือกทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง เป็นต้น

ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า แรงบิด 233 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร + มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร

ราคา

แบบเบนซิน

  • รุ่น 2.5S 2WD ราคา 1,350,000 บาท
  • รุ่น 2.5V 2WD ราคา 1,460,000 บาท
  • รุ่น 2.5VL 4WD ราคา 1,660,000 บาท

แบบ Hybrid

  • รุ่น 2.0V 4WD Hybrid ราคา 1,537,000 บาท
  • รุ่น 2.0VL 4WD Hybrid ราคา 1,617,000 บาท

2. Subaru XV

Subaru-XV-GT-Edition-2019

Subaru XV (ซูบารุ เอ็กซ์วี) ได้พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของแพลทฟอร์มใหม่ “Subaru Global Platform” ช่วยให้ขับรถได้อย่างสะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพในการควบคุมในระดับสูงสุด แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นกว่า 70% การสั่นสะเทือนลดลง และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำซึ่งยังผลให้การควบคุมรถมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Subaru XV มากับเครื่องยนต์เบนซินสูบนอน Boxer ขนาด 2.0 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงตรง Direct Injection ให้แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบสมมมาตร Symmetrical All-Wheel Drive และตัวช่วยอย่างระบบ X-MODE

ราคา

  • รุ่น 2.0i ราคา 1,234,221 บาท
  • รุ่น 2.0i-P ราคา 1,279,221 บาท
  • รุ่น GT Edition ราคา 1,338,000 บาท

3. Subaru Forester

Subaru-Forester-2019

Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) จัดเป็นรถ Crossover SUV ที่มีเอกลักษณ์ในด้านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา หรือ Symmetical AWD โดยในงาน Motor Expo 2019 ซูบารุ ได้เปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศของ Forester อีกครั้ง

มาพร้อมเครื่องยนต์ Boxer ขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อมฟังก์ชั่น X-Mode ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่บนสภาพภูมิประเทศที่ท้าทาย เสริมระบบความปลอดภัยยุคใหม่ ระบบ Eyesight ประกอบด้วยระบบเบรคอัตโนมัติก่อนการชน ระบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนที่ ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลนโดยไม่เจตนา และระบบเตือนมีมีรถแล่นมาจากด้านหลังขณะถอยรถ เป็นต้น

ราคา

รุ่น 2.0i-L ราคา 1,030,000 บาท (รวม Option Pack 1,330,000 บาท)
รุ่น 2.0i-S ราคา 1,060,000 บาท (รวม Option Pack 1,380,000 บาท)
รุ่น 2.0i-S Eyesight 1,145,000 บาท (รวม Option Pack 1,425,000 บาท)

*ราคารวมการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 100,000 กม., บริการช่วยเหลือ 24 ชม./ 3 ปี, เซนเซอร์ถอยหลัง, เบาะหนังแท้

4. Honda CR-V

Honda-CR-V-2019

Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี) ใหม่ รุ่น 5 ที่นั่ง นำเสนอเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร  เปิดตัวครั้งแรกในงาน Motor Expo 2018

พร้อมเพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบครันในทุกรุ่น อาทิ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี (Hands-free Power Tailgate) และระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI เป็นต้น

ราคา

  • รุ่น 2.4 S (5 ที่นั่ง) ราคา 1,359,000 บาท
  • รุ่น 2.4 ES 4WD (5 ที่นั่ง) ราคา 1,499,000 บาท
  • รุ่น 2.4 E (7 ที่นั่ง) ราคา 1,409,000 บาท
  • รุ่น 2.4 EL 4WD (7 ที่นั่ง) ราคา 1,549,000 บาท
  • รุ่น DT-E (7 ที่นั่ง) ราคา 1,559,000 บาท
  • รุ่น DT-EL 4WD (7 ที่นั่ง) ราคา 1,699,000 บาท

5. Mazda CX-8

All-New-Mazda-CX-8

All-New Mazda CX-8 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8) งานนี้มาโชว์ตัวใน Motor Expo 2019 อย่างเป็นทางการ รถ Crossover อเนกประสงค์ SUV ระดับ Premium แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ถือเป็น Crossover SUV ที่สะท้อนภาพลักษณ์ความภูมิฐาน สง่างาม และความสมบูรณ์แบบ ตัวรถยาวขึ้น นั่งสบายทุกที่นั่ง ภายใต้ปรัชญา KODO design : Soul of Motion ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงามจากคอนเซ็ปต์ “Less is More”

ให้การตอบสนองดีเยี่ยมด้วยขุมพลังของ 2 เครื่องยนต์ สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร 190 แรงม้า ปรับปรุงพัฒนาใหม่ โดยในรุ่นดีเซล XDL Exclusive 6 ที่นั่ง มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ i-ACTIV AWD และประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร 194 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงถึง 13.5 กม./ลิตร

ราคา

  • รุ่น 2.5 S ราคา 1,599,000 บาท
  • รุ่น 2.5 SP ราคา 1,699,000 บาท
  • รุ่น XDL ราคา 1,899,000 บาท
  • รุ่น XDL Exclusive ราคา 2,069,000 บาท

6. Mitsubishi Pajero Sport

New-Mitsubishi-Pajero-Sport-2019

Mitsubishi Pajro Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต) เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกในโลก มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหราและทรงพลังยิ่งขึ้น เอาใจนักธุรกิจ ผู้บริหาร ที่มีครอบครัวแล้ว พร้อมปรับปรุงภายในห้องโดยสารใหม่ ด้วยจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ปรับปรุงใหม่เพื่อง่ายต่อการอ่าน และประตูท้ายไฟฟ้าที่ใช่ง่ายยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเปิด-ปิด ด้วยสมาร์ทโฟน

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร MIVEC เทอร์โบดีเซล 181 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด กับเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครันยิ่งขึ้น ด้วยระบบส่งสัญญาณเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน (LCA) และระบบสัญญาณเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA)

ราคา

  • รุ่น 2.4 D GT ราคา 1,299,000 บาท
  • รุ่น 2.4 D GT-Premium 2WD ราคา 1,469,000 บาท
  • รุ่น 2.4 D GT-Premium 4WDราคา 1,599,000 บาท

7. MG ZS

MG-ZS-EV-2019

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) รถ Crossover SUV เพื่อชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด มาพร้อมระบบอัจฉริยะ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ครั้งแรกในโลก รูปลักษณ์โดดเด่นสไตล์ บริท ไดนามิค (Brit Dynamic) ที่ให้ความหรูหราทันสมัยและสปอร์ตยิ่งขึ้น ห้องโดยสารสะดวกสบาย กว้างขวาง พร้อมระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System 9 ระบบ

New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode

และยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ MG ในไทยด้วย กับ New MG ZS ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ขุมพลังจากแบตเตอรี่ลิเธี่ยม ไอออน (Lithium-ion) ความจุ 44.5 kWh วิ่งได้ไกลกว่า 337 กิโลเมตร รองรับการชาร์จไฟทั้งแบบ Normal Charge ใช้เวลาเพียง 6.5 ชั่วโมง และแบบ Quick Charge ที่ 80% ในเวลาเพียง 30 นาที

ราคา

  • รุ่น 1.5 C ราคา 679,000 บาท
  • รุ่น 1.5 D ราคา 729,000 บาท
  • รุ่น 1.5 X Sunroof ราคา 789,000 บาท
  • รุ่น EV ราคา 1,190,000 บาท

8. MG HS

MG-HS-2019

All-New MG HS (เอ็มจี เอชเอส) รถยนต์ SUV รุ่นล่าสุด ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ครั้งใหม่ภายใต้แนวคิด “Elegance” นิยามของ SUV ที่เหนือระดับ ดีไซน์ล้ำสมัยทั้งภายนอกและภายใน พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยที่ครบครันมากยิ่งขึ้น

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้แรงม้าสูงสุด 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด  250 นิวตัน-เมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบ/นาที โดยสามารถทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที พร้อมรองรับน้ำมัน E85

ราคา

  • รุ่น C ราคา 919,000 บาท
  • รุ่น D ราคา 1,019,000 บาท
  • รุ่น X ราคา 1,119,000 บาท

9. Chevrolet Captiva

Chevrolet-Captiva

All-New Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) ใหม่ จัดเป็นรถอเนกประสงค์ Crossover SUV ขนาดใหญ่คุ้มค่าที่สุดในตลาด ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายผู้ที่สนใจ รถอเนกประสงค์ขนาด Compact สามารถเป็นเจ้าของรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ได้ เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการพื้นที่ใช้สอย และการใช้งานแบบรถอเนกประสงค์ SUV ขนาดใหญ่

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (1,451 ซีซี) DOHC Turbo DVVT ให้แรงม้าสูงสุด 143 แรงม้า (105 กิโลวัตต์) ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด พร้อม Mode Shift Control รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10

ราคา

  • รุ่น LS ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 999,000 บาท (เพิ่ม 30,000 บาท สำหรับรุ่น 7 ที่นั่ง)
  • รุ่น LT ราคา 1,099,000 บาท
  • รุ่น Top สุด Premier ราคา 1,199,000 บาท

10. Peugeot 3008 & 5008

Peugeot-3008

Peugeot 3008 และ 5008 (เปอโยต์) ค่ายรถจากแดนน้ำหอม หลังจากกลับมารุกตลาดในไทยอีกครั้ง ด้วยตัวแทนจำหน่ายเจ้าใหม่ ก็พร้อมสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนๆ ด้วย SUV 2 รุ่น คือ Peugeot 3008 SUV 5 ที่นั่ง และ 5008 SUV 7 ที่นั่ง มาโชว์ในงาน Motor Expo 2019 ทันที

มาพร้อมห้องโดยสาร ‘i-Cockpit’ สุดล้ำ พวงมาลัยขนาดกะทัดรัด และมีตำแหน่งการขับที่ดีเยี่ยม และดีไซน์ร่วมสมัย

ราคา

  • รุ่น 3008 Active ราคา 1,549,000 บาท
  • รุ่น 3008 Allure ราคา 1,699,000 บาท
  • รุ่น 5008 Active ราคา 1,749,000 บาท
  • รุ่น 5008 Allure ราคา 1,899,000 บาท

11. BMW X3

BMW-X3-M-2019

BMW X3 M (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3 เอ็ม) ครั้งแรกในงาน Motor Expo 2019! และยังเป็นครั้งแรกของตระกูล M ที่เปิดตลาดใหม่ จับกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์อเนกประสงค์ Mid-Size Sports Activity Vehicle (SAV) ควบด้วยความทรงพลังแบบ BMW M

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ M TwinPower Turbo แบบ 6 สูบเรียง 480 แรงม้า สามารถทำความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.2 วินาที โลดแล่นสู่ความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. พร้อมสุดยอดโครงสร้างแชสซีส์ในสไตล์รถแข่งสุดดุดัน และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive

ราคา

– BMW X5 xDrive40e Pure Experience ราคา 4,399,000 บาท (รวม BSI ราคา 4,439,000 บาท)
– BMW X5 xDrive40e M Sport ราคา 4,699,000 บาท (รวม BSI ราคา 4,739,000 บาท)

12. Audi Q3

Audi-Q3-Sportback

Audi Q3 (อาวดี้ คิว3) ที่เป็นดาวเด่นของ Audi ในงาน Motor Expo 2019 จัดเป็น SUV รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีความสมบูรณ์ทุกด้าน ทั้งขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นทุกมิติ เพิ่มความกว้างขวาง ความสะดวกสบายในการใช้งาน และการเข้าออกตัวรถ

การออกแบบด้านหน้า ในห้องโดยสารควบคุมด้วยระบบ MMI Radio Plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ Smartphone Interface รองรับ Android และ Apple CarPlay

ราคา

  • รุ่น Q3 35 TFSI ราคา 2,299,000 บาท
  • รุ่น Q3 35 TFSI S line ราคา 2,499,000 บาท
  • รุ่น Q3 Sportback 35 TFSI S line ราคา 2,649,000 บาท

13. Range Rover Evoque

Range-Rover-Evoque-2019

Range Rover Evoque (เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค) ใหม่ SUV สำหรับคนเมืองที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง ยังมาพร้อมตัวเลือกของเครื่องยนต์ทั้งแบบระบบไฟฟ้า Plug-In Hybrid และดีเซล Ingenium

ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของ Range Rover Evoque จากรุ่นก่อนหน้านี้ ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2010 ด้วยยอดขายทั่วโลกมากกว่า 772,096 คัน กวาดรางวัลระดับนานาชาติมากว่า 217 รางวัล ตัวใหม่นี้คือวิวัฒนาการอีกขั้น ที่มาผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัยในปัจจุบัน

ราคา

  • ราคาเริ่มต้นที่ 3,999,000 บาท

14. Porsche Cayenne Coupe 

Porsche-Cayenne-Coupe

Porsche Cayenne Coupe (ปอร์เช่ คาเยนน์ คูเป้) รถสปอร์ตอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดจากปอร์เช่ ที่มาพร้อมความโฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตาด้วยแนวหลังคาที่ลาดลงมาจรดท้ายรถ สะดวกสบายทุกการเดินทางด้วยเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต 4 ที่นั่ง

สปอร์ตเต็มพิกัดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ Turbo ขนาด 3.0 ลิตร 340 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 243 กม./ชม. ติดตั้งอุปกรณ์มาตราฐาน ระบบความบันเทิงและการติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management รุ่นล่าสุด พร้อมระบบ Apple CarPlay และ ระบบเครื่องเสียง BOSE Surround Sound System

ราคา

  • Porsche Cayenne Coupe ราคาเริ่มต้นที่ 8.6 ล้านบาท
  • Porsche Cayenne e-Hybrid Coupe ราคาเริ่มต้นที่ 6.5 ล้านบาท

15. Lamborghini Urus

Lamborghini-Urus

Lamborghini Urus (ลัมโบร์กีนี อูรุส) เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ในรูปแบบรถ Super SUV ขนาด 5 ที่นั่ง เน้นดีไซน์และสมรรถนะตามฉบับ Lamborghini ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งเน้นความสปอร์ต ใช้ระบบอินโฟเทนเม้นท์ Lamborghini Infotainment System (LIS) พร้อมจุดเด่นอย่างโหมดการขับขี่ระบบ Tamburo ที่มีโหมดการขับขี่ให้ 6 โหมด

ช่วงล่างเป็นแบบ Adaptive Air Suspension พร้อม Active Damping และ Active Roll Stabilization ใช้จานเบรกคาร์บอนเซรามิคขนาด 440 มม. พร้อมคาลิเปอร์ 10-Pot ด้านหน้า และขนาด 370 มม. ในด้านหลัง ให้ระยะเบรก 100-0 กม./ชม. อยู่ที่ 33.7 เมตร

มาพร้อมขุมพลัง V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 650 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 850 นิวตัน-เมตร ที่ 2,250 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.6 วินาที ต่อเนื่องจนถึง 200 กม./ชม. ในเวลา 12.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 305 กม./ชม.

ราคา

– Lamborghini Urus ราคา 23,420,000 บาท

New-Car-Promotion-MotorExpo

งาน Motor Expo 2019 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36) มาภายใต้แนวคิด “โลดแล่นทันใด ทะยานไปด้วยกัน” หรือ “Ride and Drive Together Now” จัดเต็มรถรุ่นใหม่ ที่เปิดตัวในปีนี้และในงานนี้ มาจัดแสดงส่งท้ายปี สู้กับเศรษฐกิจซบเซาของปีนี้อย่างเต็มที่

เชิญพบกับรถยนต์ที่ร่วมงานจำนวนมากถึง 33 แบรนด์ และรถจักรยานยนต์อีก 26 แบรนด์ ซึ่งมีแบรนด์ใหม่ มาเปิดตัวในงานนี้ด้วย!

Motor-Expo-2019

นอกจากโปรโมชั่นพิเศษมากมายแล้ว งานนี้ยังมอบโชคคืนกำไรให้แก่ผู้ชมงาน โดยปีนี้ยังคงแจกรถยนต์ 3 คัน และจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 1 คัน รวมถึงลุ้นชิงรางวัลอื่นๆ จากการซื้อสินค้าอีกมากมาย และยังมีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรี! จาก 3 จุดในกรุงเทพฯ และที่รังสิต ให้คุณเดินทางมาชมงานได้อย่างสะดวกสบาย

และหากใครที่สนใจ ต้องการ “ขายรถ” กับทาง CARRO เพื่อนำเงินไปซื้อรถคันใหม่ ขายได้ไว! เร็ว! ได้ราคาที่ดีที่สุด! พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! สามารถเข้าไปกรอกรายละเอียดได้ที่ https://th.carro.co/sell-car/express

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาเวลาว่าง ไปเดินเที่ยวชมงานกันครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศภายในงาน Motor Expo 2019 กันได้เลย

Toyota-GR-Supra

Toyota GR Supra

Nissan-Almera-2020

Nissan Almera 2020

Nissan-GT-R-50th-Anniversary

Nissan Leaf

Honda-City-2020

Honda City 2020

Honda-Civic-Hatchback-MY2020

Honda Civic Hatchback 2020

Mitsubishi-Mirage-2020

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi-Attrage-2020

Mitsubishi Attrage

Isuzu-D-Max-2020

Isuzu D-Max

Hyundai-Veloster

 

Hyundai Veloster

Mini-Countryman-John-Cooper-Works

Mini Countryman John Cooper Works

Porsche-718-Cayman-AAS

Porsche 718 Cayman AAS Sport Edition

Mazda2-2020

Mazda2 2020

Mercedes-AMG

Mercedes-AMG

Volvo-V60

Volvo V60

โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2019 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

หากท่านใดที่อยากได้บัตรเข้างาน Motor Expo 2019 ฟรี! ง่ายๆ ดูรายละเอียดการขอบัตรได้ในนี้เลย —> https://th.carro.co/blog/carro-ticket-motor-expo/