Honda CR-V มือสอง น่าซื้อ น่าใช้ CARRO Automall มีให้เลือกแล้ว

ถ้าจะว่ากันถึงเรื่องของการใช้รถ บรรดารถ SUV นี่ถือว่ามีบทบาทสำหรับคนใช้รถในไทยมานานสามสิบปีแล้วก็ว่าได้ ทั้งความอเนกประสงค์ในการใช้งาน การบรรทุกสัมภาระ ตอบโจทย์คนมีครอบครัวใหญ่ มีลูกหลานหลายคน ใช้รถเดินทางไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมญาติ ซึ่งรถรุ่นใหม่ๆ ล้วนออกแบบมาใช้ขับง่าย ใช้งานง่าย และเพิ่มความหรูหรามากกว่าในอดีตเป็นเท่าตัว

สำหรับรถยนต์ที่ CARRO Automall (คาร์โร ออโต้มอลล์) จะมาแนะนำคนที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์มาไว้ใช้งาน โดยต้องเป็นรถที่มีที่เก็บของจุกจิกเพียบ เบาะพับได้หลายรูปแบบ เครื่องยนต์พลังแรง แถมราคาขายต่อดี ไม่ตก แถมยังเป็นแบรนด์เจ้าตลาด ขับไปไหนก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องของศูนย์บริการ และการหาอะไหล่

ไปรู้จักกับ Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี) เจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ทาง CARRO Automall ภูมิใจเสนอ และอยากให้คุณได้เป็นเจ้าของกันครับ มาดูกันว่า รุ่นนี้มีความน่าสนใจตรงจุดไหนกันบ้าง …

Honda-CR-V-G5-Thai

Honda CR-V เจเนอเรชั่นที่ 5 เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 จัดเป็นรถยนต์ SUV อเนกประสงค์รุ่นใหญ่เจเนอเรชั่นที่ 5 ของตระกูล CR-V ที่ออกแบบใหม่ทั้งคัน ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขึ้น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง ที่ตามออกมาในเดือนพฤศจิกายน 2561

Honda-CR-V-G5-Thai

ตามปกติแล้ว Honda CR-V จะเปิดตัวในญี่ปุ่นเป็นที่แรกๆ แต่ยกเว้นโฉมนี้ เริ่มทำตลาดในประเทศญี่ปุ่นช้าหน่อย โดยกว่าจะขายก็ในวันที่ 30 สิงหาคม 2018

ตัวรถพัฒนาขึ้นโดย Mr.Takaaki Nagadome หัวหน้าทีมวิศวกร และทีมงาน Honda R&D ด้วยหลักการออกแบบ Modern Functional Dynamic ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบไฟฟ้าด้วยระบบแฮนด์ฟรี (Hands-free Power Tailgate) เป็นต้น

Honda-CR-V-G5-Concept

มิติตัวรถยาว 4,571 มม. กว้าง 1,855 มม. สูง 1,657 มม. (ส่วนรุ่น AWD 1,667 มม.) ระยะฐานล้อ 2,660 มม. (รุ่นดีเซล 2,662 มม.) น้ำหนักรถ 1,545-1,742 กิโลกรัม

Honda-CR-V-G5-Thai

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายและเงียบยิ่งขึ้นในทุกการเดินทาง ออกแบบภายในหลักการที่ว่า “Urban BASE Beautility” พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มากถึง 561 ลิตร (ในรุ่น 5 ที่นั่ง) หากพับเบาะหลังลง จะเพิ่มเนื้อที่ได้มากถึง 1,123 ลิตร และ 936 ลิตร ในรุ่น 7 ที่นั่ง

มาพร้อมเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3 มอบความสะดวกสบายทุกอิริยาบถตลอดการเดินทาง หรูหราด้วยแผงคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยเส้นสายลายไม้ และวัสดุสี Piano Black เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง

Honda-CR-V-G5-Thai

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ i-Dual Zone อีกทั้งเทคโนโลยีเพื่อการควบคุมอันล้ำสมัย อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เป็นต้น

ในส่วนของเวอร์ชั่นไทย มาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อนเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร เป็นครั้งแรก! พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) ในรูปแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-DTEC Diesel Turbo ให้แรงม้าสูงสุดถึง 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 35.6 กก.-ม. (350 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000 รอบ/นาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่

ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ (Shift by Wire)

Honda-CR-V-G5-Thai

เครื่องยนต์ให้อัตราเร่ง และอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 18.9 กม./ลิตร โดย เครื่องยนต์ i-DTEC Diesel Turbo มีหลักสำคัญในการทำงานของเครื่องยนต์ ผ่านระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 จังหวะ (2-Stage Turbocharger)

ประกอบด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำงานในช่วงแรงดันสูง (High Pressure Turbo) และเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ทำงานในช่วงแรงดันต่ำ (Low Pressure Turbo) โดยจะทำงานร่วมกันตั้งแต่รอบต้นที่ต้องการอัตราเร่งเพื่อใช้ในการออกตัว

Honda-CR-V-G5-Thai

ส่วนระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ออกแบบให้อัตราทดเกียร์รองรับใช้งานจริงทุกสภาพการขับขี่ อัตราทดเกียร์ที่มากถึง 9 สปีด จะช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ให้อัตราเร่งที่ดีตั้งแต่ออกตัว เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวล

เมื่อต้องการกำลังในการเร่ง โดยผู้ขับขี่กดคันเร่งเพิ่ม ระบบจะคำนวณอัตราทดเกียร์เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์แบบก้าวกระโดดจากเกียร์ 9 มายังเกียร์ 5 และจากเกียร์ 7 มาเกียร์ 4 โดยไม่ต้องไล่ระดับ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนเกียร์ 2 ระดับ หรือ 1 ระดับ รูปแบบอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ การเปลี่ยนเกียร์ในรูปแบบอื่นๆ ยังคงต้องอาศัยการทำงานที่ต่อเนื่อง ผ่านการไล่ระดับเกียร์เพื่อเปลี่ยนเกียร์ไปยังระดับที่ต้องการได้

Honda-CR-V-G5-Thai

และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC ให้แรงม้าสูงถึง 173 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 22.8 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ให้การตอบสนองที่ทันใจ พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85

Honda-CR-V-G5-Thai

ทั้งนี้ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ E-DPS ใหม่ ทำงานโดยเปลี่ยนการควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยระบบไฟฟ้า ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็ว พร้อมกับให้แรงบิดที่ล้อหลังสูงขึ้น อีกทั้งเพิ่มความแม่นยำของการปรับแรงบิดที่ล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุล พร้อมด้วยระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist – AHA) และระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย (Motion-Adaptive Electric Power Steering – MA – EPS) ให้การทรงตัวขณะขับขี่ที่ดีเยี่ยม ทั้งในการเข้าโค้ง หรือทางลาดชัน เป็นต้น

สำหรับ Honda CR-V มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายรุ่นย่อย ทั้งในแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง อาทิ

  • เครื่องยนต์ดีเซล รุ่น DT E และรุ่น DT EL 4WD
  • เครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.4 S, 2.4 ES (5 ที่นั่ง) 2.4 E และรุ่น 2.4 EL 4WD (7 ที่นั่ง)

New-Honda-CR-V-2020

ล่วงมาจนถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 Honda ได้เปิดตัว Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) โฉมไมเนอร์เชนจ์ ในไทยเป็นประเทศแรกของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ด้วยดีไซน์ภายนอกยังสปอร์ตหรูหราและความแข็งแกร่งในทุกมิติ พรีเมียมขึ้นด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา และไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential

New-Honda-CR-V-2020

เสริมความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) ครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายล้ำสมัยระดับพรีเมียม

New-Honda-CR-V-2020

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานทั้งแบบ 7 ที่นั่งและ 5 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลังการขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC และมาพร้อมสีใหม่ สีน้ำเงินคอสมิก

อ่านเพิ่มเติม >> Honda ไม่รอช้า! เปิดตัว Honda CR-V 2020 ใหม่! สดใสขึ้นในราคา 1,369,000 – 1,759,000 บาท

Honda CR-V Black Edition 2021

ล่าสุดในวันที่ 23 สิงหาคม 2564 Honda ได้เปิดตัวรุ่นพิเศษ Honda CR-V Black Edition สปอร์ตเข้มเต็มสไตล์ เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร 2WD เท่านั้น ด้วยดีไซน์ภายนอกโทนสีดำแบบเอกซ์คลูซีฟรอบคัน ครั้งแรกกับราวหลังคาสีดำใหม่ (Roof Rail) แข็งแกร่งในทุกมิติด้วยล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีดำแบบสปอร์ต กระจังหน้าโครเมียมรมดำ กันชนหน้าสีดำแบบสปอร์ต พร้อมคิ้วตกแต่งโครเมียมรมดำ และกันชนหลังสีดำแบบสปอร์ต

เปิดมุมมองใหม่ด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) มาพร้อมสีภายนอก สีดำคริสตัล (มุก) ภายในห้องโดยสารเรียบหรูในดีไซน์โทนสีดำ แผงคอนโซลขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้สีดำและสีดำ Piano Black ตอกย้ำความพิเศษด้วยเบาะหนังปักโลโก้ Black Edition มาพร้อมเบาะโดยสารแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง ครบครันด้วยฟังก์ชันระดับพรีเมียม อาทิ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) เป็นต้น

และสำหรับ CARRO Automall ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ต้อนรับหน้าหนาว เรามี Honda CR-V รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 1 คันครับ ได้แก่ …..

HONDA CRV 2.4 E (i-VTEC) 2018 ขาว

HONDA CRV 2.4 E (i-VTEC) 2018 ขาว

HONDA CRV 2.4 E (i-VTEC) 2018 ขาว

HONDA CRV 2.4 E (i-VTEC) 2018 ขาว

HONDA CRV 2.4 E (i-VTEC) 2018 ขาว

1. Honda CR-V 2.4 E ปี 2018 เลขไมล์ 61,915 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 949,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-crv-2018-G6LXK3.html

ถ้าใครที่กำลังมองหา Honda CR-V มือสอง (ฮอนด้า ซีอาร์วี มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริง เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถ Honda CR-V ทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก CARRO Automall เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2564 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

นับตั้งแต่ MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ไดทำการปรับเปลี่ยนโฉมไปในช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา ก็ยังคงสร้างปรากฎการณ์เป็นรถ SUV แบบ Crossover ที่ขายดีในบ้านเราอยู่อย่างต่อเนื่อง

แต่ทว่าคู่แฝดที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) ที่ดูเหมือนจะเงียบๆ หายไปในบ้านเรา ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

อ่านเพิ่มเติม >> เจาะลึก MG ZS EV ใหม่ รถ SUV พลังไฟฟ้า 100% ในราคา 1,190,000 บาท

ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า ในต่างประเทศแถบยุโรปและอังกฤษตอนนี้ MG ZS EV 2022 ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ พร้อมขายกันแล้วจ้า เชื่อว่าคนชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า MG รอเก็บตังค์ซื้อกันเลย ไม่ว่าจะกี่ล้านก็ตาม …

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

สำหรับรูปโฉมดีไซน์ภายนอกของ MG ZS EV 2022 หน้าตาดูใกล้เคียงกับ MG ZS รุ่นไมเนอร์เชนจ์ แต่ปรับปรุงหน้าตาใหม่ด้วยการใช้กันชนและกระจังหน้าแบบทึบ สไตล์รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมออกแบบให้ฝาปิดช่องชาร์จไฟบริเวณกระจังหน้าให้สังเกตได้ง่ายขึ้น พร้อมชุดไฟท้ายและกันชนท้ายออกแบบใหม่ และล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

ห้องโดยสารภายใน ติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมทั้งมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว อีกทั้งยังมีระบบชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สายมาให้ด้วย

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

ส่วนระบบความปลอดภัย ยังคงจัดหนักจัดเต็มไปกับระบบ Advanced Synchronized Protection System เหมือนในโฉมแรกเช่นเคย ทั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย (FSF) ระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System ทั้งหมด 9 ระบบ และระบบเสริมความปลอดภัยในขณะขับขี่ Advanced Driver-Assistance Systems ได้แก่

  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าของรุ่น Standard Range ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (178 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่น Long Range เพิ่มกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าเป็น 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน ที่ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ หรือ 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

แต่อีกจุดเด่นของ MG ZS EV 2022 ที่ไม่พูดไม่ได้ก็คงจะเป็นชุดแบตเตอรี่ แบบ Lithium-ion ความจุ 44.5 kWh ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นความจุ 51 kWh ที่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 318 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP)

อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่แบบ Long Range ขนาด 72 kWh ที่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 439 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) และรองรับการชาร์จด่วนตามจุด EV Charger ด้วยกำลังไฟมากขึ้นถึง 76 กิโลวัตต์ ส่งผลให้ประหยัดเวลาชาร์จ จาก 0-100% ลงเหลือ 42 นาทีเท่านั้น (หากชาร์จไฟบ้านปกติแบบ AC ขนาด 7kW ใช้เวลาราว 10.5 ชั่วโมง)

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Isuzu (อีซูซุ) เดินหน้าลุยตลาดรถช่วงปลายปี โชว์ศักยภาพ “ใหม่! พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” เผยโฉมรถรุ่นใหม่ครบทุกรุ่น เข้มขึ้น ดุขึ้น นำโดย “ใหม่! Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์)” ตอกย้ำตัวตนใหม่ภายใต้แนวคิด “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX” ขับเคลื่อนความสมบูรณ์แบบในทุกองศา มาพร้อมเอกลักษณ์ สีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก และ “ใหม่! Isuzu X-Series (อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์)” แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์ ปรับเพิ่มลุคสปอร์ตยิ่งขึ้น

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

พร้อมเปิดตัวรถอเนกประสงค์สุดหรู “(All-New Isuzu MU-X) ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ที่เติมเต็มฟังก์ชั่นความปลอดภัยใหม่ในระบบ ADAS โดย “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์” และ “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์” เปิดตัวตนใหม่ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมศกนี้ และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมศกนี้ เป็นต้นไป ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับ อีซูซุ ดีแมคซ์ ยอดยนตรกรรมปิกอัพระดับ Top Class ที่ประสบความสำเร็จทั้งในไทยและต่างประเทศ และยังคงกระแส “ดีแมคซ์ฟีเวอร์” ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทยเมื่อปลายปี 2562 หรือแม้แต่ปัจจุบันที่ตลาดรถยนต์หดตัวลงจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถยากขึ้น อีซูซุดีแมคซ์ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ใช้รถในเมืองไทย เนื่องจากความโดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะ ความคุ้มค่าเงินสูงสุด และภาพลักษณ์ใหม่ซึ่งดูทันสมัย

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับรถปิกอัพรุ่นล่าสุด “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX” ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ โดยมาพร้อมสีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก ที่มีคุณสมบัติพิเศษให้มุมมองสีหลากหลายมิติ ไล่ระดับจากเทาประกายมุกจรดเทาเข้ม ซึ่งสีพิเศษนี้มีให้เลือกใน “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์” ทุกรุ่น

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

นอกจากนี้ยังมี “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์” ปิกอัพสไตล์สปอร์ตเท่ที่มาพร้อมชุดแต่งจัดเต็ม ซึ่งครั้งนี้ได้เพิ่มความสปอร์ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้นอีก ทั้งในรุ่น Speed ให้อารมณ์เรซซิ่งสุดร้อนแรง และรุ่น Hi-Lander สปอร์ตพรีเมี่ยม แฝงเรซซิ่งสปิริตภายใต้ความเรียบหรู สะดวกสบาย

และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่เหนือชั้น ตลอดจนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) โดยเพิ่มเติมฟังก์ชั่นความปลอดภัย ใหม่! Turn Assist with AEB ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา อีกขั้นของความมั่นใจในทุกการเดินทาง โดยรถแต่ละรุ่นจะเปิดตัวต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม”

นอกจากนี้ ยังมีจุดปรับเปลี่ยนพิเศษในแต่ละรุ่น ได้แก่

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • รถธงรุ่นล่าสุด ใหม่! อีซูซุวี-ครอส 4×4 (NEW! ISUZU V-CROSS 4×4) พรีเมี่ยมสปอร์ตออฟโรดที่มาพร้อมความแรงจัด ขับสนุกเร้าใจของเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เติมเต็มความเข้มดุสไตล์สปอร์ตทรงพลังในทุกมิติของรถด้วย ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สีเทาดำ และ Black Chrome พร้อมไฟท้าย ดีไซน์โทนสีเข้ม ใหม่! Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคันที่กระจกมองข้าง ราวหลังคา มือจับประตู บันไดข้าง Fender Lip, Robust Extender เพิ่มความดุดัน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่! แบบ Robust Radius สี Matte Black

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ห้องโดยสารอารมณ์ใหม่ เท่ สปอร์ต และหรูหรา ด้วยดีไซน์ High-Class & Sporty เน้นสีแบบทูโทน ดำ-น้ำตาล คอนโซลหน้าสีดำ เบาะคู่หน้าดีไซน์ใหม่ เดินด้ายสีน้ำตาลอย่างพิถีพิถัน และพวงมาลัยสัมผัสใหม่ สีทูโทน พร้อมออกแบบให้มิติห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่า แบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู ที่เติมเต็มอารมณ์ด้วยวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยม สี Brown Cafe และ Satin Silver สปอร์ตหรูเหนือระดับไปอีกขั้น และจัดวางสิ่งอำนวยสะดวกสบายตามหลัก Usability Design เน้นการใช้งานที่หลากหลาย พร้อมระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบของ Isuzu Ultimate Entertainment ในราคา …….. บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ (New! Isuzu D-Max) รุ่น Cab 4, Hi-Lander และ Spacecab หรูหรา สะดวกสบาย ตอบรับทุกเป้าหมาย ทุกการใช้งานในทุกด้านของชีวิต เท่ เต็มอารมณ์สปอร์ตด้วย ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สี Chrome และ Dark Gray Metallic พร้อมไฟท้ายดีไซน์โทนสีเข้ม และ ใหม่! ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีทูโทนดีไซน์แบบ Robust Radius ในรุ่น Hi-Lander

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • ยกระดับการออกแบบภายใน ใช้วัสดุพรีเมี่ยม เติมเต็มความหรูด้วย Piano Black และ Satin Chrome พร้อมพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โอ่อ่า แบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ โอบกระชับ พร้อมเทคโนโลยี Coolmax ลดการสะสมความร้อน เบาะนั่งคู่หน้าเทคโนโลยี AVEC (Anti Vibration Elastic Comfort) ซับแรงสั่นสะเทือน ลดความเมื่อยล้า เบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับ และ ใหม่! เกียร์อัตโนมัติ ใน Hi-Lander และ Cab 4 ในรุ่น LDA
  • รุ่น Spark, Spacecab และ Cab 4 ราคา 515,000 – 845,000 บาท ส่วนรุ่น Hi-Lander ราคา 728,000 – 1,064,000 บาท

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

สำหรับ ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์ (New! Isuzu X-Series) ยนตรกรรมดีไซน์เท่ แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์ (INFINITE X-LIFE) ขีดสุดความเร้าใจสไตล์สปอร์ต ที่มาพร้อมชุดแต่งจัดเต็ม แรงจัดด้วยขุมพลังเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 เติมเต็มพลังเรซซิ่งแบบไม่ต้องมีลิมิต! โดยมาพร้อม ใหม่! กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทนสีดำ Glossy Black ผสานสีแดงเข้ม Garnet Red พร้อมไฟท้ายโทนสีเข้ม พร้อมสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง ในราคา 728,000 – 977,000 บาท

  • รุ่น Speed สติกเกอร์คาดหน้า-หลัง สีเทาพร้อมขอบแดงใหม่ Garnet Red คมเข้มสะดุดตา พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้า

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

  • รุ่น Hi-Lander สติกเกอร์คาดหน้า-หลัง พร้อมสัญลักษณ์ X ที่ด้านหน้าตกแต่งขอบด้วยสีเงิน Silver-Gray ในรุ่นสีขาว / ตกแต่งขอบด้วยสีทอง Light Gold-Silver ในรุ่นสีดำ ใหม่! ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำ Glossy Black ดีไซน์เท่แบบ Robust Radius เสริมความสปอร์ตพรีเมี่ยม โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง เข้มเต็มอารมณ์

และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” (All-New Isuzu MU-X) …ความสำเร็จใหม่ที่คุณกำหนด ยอดยนตรกรรมอเนกประสงค์ระดับหรู เพิ่มความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่า ล่าสุดเพิ่ม ใหม่! Turn Assist with AEB ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา ในระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำหน้าล่าสุด เพิ่มความมั่นใจในทุกการเดินทาง ในราคา 1,119,000 – 1,599,000 บาท

นอกจากนี้ ในรถอีซูซุทุกรุ่นยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ “เตือนการรับบริการ” เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าในการเข้ารับบริการหลังการขายจากอีซูซุ

Isuzu เปิดตัว Isuzu D-Max 2022 ใหม่! พร้อม Isuzu MU-X 2022 ใหม่!

พบกับ “ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ พลานุภาพ…ไร้ขีดจำกัด” “ใหม่! อีซูซุเอ็กซ์-ซีรี่ส์ แรงทะลุไมล์…เร้าใจสไตล์เอ็กซ์” พร้อมเผยโฉม ณ โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป และ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ความสำเร็จใหม่ที่คุณกำหนด” เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม ศกนี้ เป็นต้นไป

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

สำหรับใครที่อยากซื้อรถใหม่ แต่ถ้าหากว่างบไม่พอ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

บรรทุกของหนักในรถอย่างไร ถึงปลอดภัยในการขับรถช่วงหน้าฝน

หลายคนที่ใช้รถยนต์, รถ Crossover, รถ SUV หรือรถกระบะในการทำมาหากิน ไปทำธุระ ส่งของ ขนของ หาลูกค้า หรือมีไลฟ์สไตล์เริ่มอยากท่องเที่ยว หลังจากที่ต้อง Work From Home อยู่บ้านทำงานกันมานาน ก็เริ่มใช้รถยนต์ในการเดินทางกันในช่วงนี้ ที่ค่อนข้างมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แต่เนื่องด้วยการบรรทุกของหนักนั้น ย่อมส่งผลต่อสมรรถนะรถ การควบคุมรถ และความปลอดภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งในช่วงหน้าฝน การขับขี่รถยนต์ย่อมต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ดังนั้น MR.CARRO จะมาแนะนำเคล็ดลับในการขนของขึ้นรถ บรรทุกหนักได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย กันตามนี้เลยครับ …

บรรทุกของหนักในรถอย่างไร ถึงปลอดภัยในการขับรถช่วงหน้าฝน

1. คำนวณน้ำหนักบรรทุกก่อน

ตามปกติ ในรถยนต์ประเภท SUV และรถกระบะ จะมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระค่อนข้างกว้างขวาง แต่ผู้ใช้ก็ไม่ควรขนทุกอย่างใส่จนเต็มรถตั้งแต่พื้นจนถึงเพดานรถ ควรคำนึงถึงน้ำหนักในการบรรทุก ซึ่งก็คือความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักสูงสุดของรถ ซึ่งรถแต่ละคันออกแบบมาให้รับน้ำหนักสูงสุดได้ไม่เท่ากัน ถ้าเป็นรถ SUV โดยเฉลี่ยเริ่มตั้งแต่ 400 กิโลกรัมเป็นต้นไป

แต่ถ้าเป็นรถกระบะตอนเดียว บรรทุกได้สูงถึง 1,000 กิโลกรัม (1 ตัน) ตามมาตรฐานของผู้ผลิตรถกระบะแต่ละยี่ห้อ ถ้าจะเอาบรรทุกให้มากกว่านั้น ก็คงต้องทำคอกสูง เสริมแหนบ ใส่ล้อกระทะบรรทุก ใส่เพลาลอย แล้วแหละ

การคำนวณน้ำหนักบรรทุกของรถยนต์นั้น คำนวณได้จากน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด (Gross Vehicle Weight) ลบด้วยน้ำหนักของรถยนต์ในขณะว่างเปล่า ตามด้วยน้ำหนักรวมของผู้โดยสาร และเชื้อเพลิง

ตัวอย่างเช่น ผู้โดยสารเป็นผู้ใหญ่หนัก 60 กิโลกรัม 2 คน และเด็กน้ำหนัก 40 กิโลกรัม 2 คน คุณจะต้องลดน้ำหนักการบรรทุกสัมภาระลงไปอีก 200 กิโลกรัม และอย่าลืมคำนวณน้ำหนักของน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยนะครับ

2. รักษาจุดศูนย์ถ่วงให้เหมาะสม

ตามปกติ ไม่ว่าคุณจะใช้รถประเภทไหนก็ตาม ควรวางสัมภาระที่หนักที่สุดไว้บริเวณด้านล่างสุดของพื้นที่เก็บสัมภาระโดยวางสัมภาระให้กระจายน้ำหนักทั่วทั้งพื้นที่บรรทุก เพื่อช่วยให้ศูนย์ถ่วงของรถต่ำลง ลดโอกาสในการพลิกคว่ำ

นอกจากนี้ ยังช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการควบคุมรถซึ่งเกิดจากน้ำหนักของรถนั่นเอง การนำสัมภาระที่มีน้ำหนักมากไว้ท้ายรถจะทำให้ล้อหน้าลอย ซึ่งอาจส่งผลต่อสมรรถนะการบังคับเลี้ยวและการเบรก

บรรทุกของหนักในรถอย่างไร ถึงปลอดภัยในการขับรถช่วงหน้าฝน

3. รัดแน่นไว้ปลอดภัยดี

เพื่อป้องกันไม่ให้สัมภาระกลายเป็นสิ่งอันตรายเมื่อต้องเบรกกระทันหัน ควรเก็บสัมภาระขนาดเล็กใส่กล่องให้เรียบร้อย ส่วนสัมภาระขนาดใหญ่หน่อย ควรทำการรัดไว้ในช่องเก็บของ

ทำแบบนี้แล้ว สัมภาระในรถจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารเมื่อรถต้องเบรคอย่างกระทันหัน

4. ปรับกระจกให้มองเห็นชัดเจน

พยายามหลีกเลี่ยงการบรรทุกตั้งแต่พื้นจนถึงเพดานรถ และปรับกระจกให้มองเห็นชัดเจน จำไว้ว่าถ้ากระจกมองหลังไม่ชัด จะทำให้การขับขี่เป็นเรื่องยากและก่อให้เกิดความเสี่ยงขณะถอยหลัง (เนื่องจากของวางจนสูง บังจนมองไม่ค่อยเห็น กรณีมองผ่านกระจกมองหลัง) ถ้ามองเห็นข้างหลังไม่ชัดก็มีโอกาสสูงที่จะถอยชนคน หรือสิ่งของได้

เว้นเสียแต่ว่ารถคุณจะติดตั้งกล้องมองภาพด้านหลัง หรือสัญญาณกะระยะถอยหลัง ซึ่งจะช่วยให้การถอยหลังง่ายขึ้น

บรรทุกของหนักในรถอย่างไร ถึงปลอดภัยในการขับรถช่วงหน้าฝน

5. การเก็บสัมภาระไว้บนหลังคา

ควรหลีกเลี่ยงการบรรทุกสัมภาระบนหลังคารถยนต์ เพราะมีผลเสียตามหลักอากาศพลศาสตร์และศูนย์ถ่วง ซึ่งส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและการควบคุมรถแม้ในขณะขับด้วยความเร็วต่ำ นอกจากนี้ หากมีสัมภาระหลุดลอยไปขณะที่รถเคลื่อนที่อยู่อาจเป็นอันตรายต่อรถคันอื่น

อย่างไรก็ตาม การติดตั้งแร็คหลังคาอย่างถูกต้องพร้อมราง จะช่วยเก็บสัมภาระให้ปลอดภัย ซึ่งควรเลือกกล่องเก็บของบนหลังคาที่ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาตร์ มีความปลอดภัย กันน้ำได้ และหลีกเลี่ยงการบรรทุกของหนักพร้อมทำการรัดสัมภาระให้แน่นไม่โยกเคลื่อน

6. เก็บสัมภาระที่จำเป็นต้องใช้ให้หยิบง่ายเสมอ

ตรวจสอบให้แน่ใจทุกครั้งว่าเก็บชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน อันได้แก่สายเคเบิลสำหรับจั๊มสตาร์ท โทรศัพท์มือถือ และน้ำดื่ม ไว้ในที่ที่หยิบได้ง่ายเมื่อต้องการใช้ ในรถ SUV บางรุ่น ยางอะไหล่ หรือชุดปะยางฉุกเฉิน อาจถูกเก็บไว้ในพื้นที่เก็บสัมภาระในรถ ดังนั้นรถบางรุ่นอาจไม่สามารถเก็บสัมภาระอื่นเพิ่มเติมได้

บรรทุกของหนักในรถอย่างไร ถึงปลอดภัยในการขับรถช่วงหน้าฝน

7. ตรวจสอบลมและสภาพยาง

ก่อนขับขี่ คุณควรตรวจสอบยางของคุณเพื่อให้แน่ใจว่ายางอยู่ในสภาพดี ไม่สึกหรอ ดอกยางสภาพพร้อมใช้งาน มีการเติมลมยางอย่างถูกต้องเหมาะสมตามคำแนะนำที่ติดไว้บริเวณประตูด้านข้างของคนขับ ด้านในฝาน้ำมัน หรือในคู่มือผู้ใช้งาน

ผู้ขับควรเติมลมตามตัวเลขที่แนะนำไว้ ไม่ใช่ตามตัวเลขความดันสูงสุดที่เห็นบนขอบยาง เนื่องจากรถยนต์แต่ละรุ่นอาจต้องเติมลมยางแตกต่างกันเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง หรือขณะบรรทุกสัมภาระหนัก

8. อย่าบรรทุกสัมภาระที่ไม่จำเป็น

อย่าบรรทุกสัมภาระเกินน้ำหนักที่รถยนต์สามารถรับไหว ไม่ว่าจะเป็นรถกระบะ หรือรถรุ่นใดๆ ก็ตาม ถ้ารู้สึกว่ากำลังบรรทุกเกินพิกัด ควรหาวิธีลดสัมภาระ จำไว้ว่า “ความปลอดภัย” คือสิ่งสำคัญที่สุด

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนช่วงนี้ ใครอยากซื้อรถ SUV, รถ Crossover หรือรถกระบะมือสอง สภาพเยี่ยม ราคาเบาๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถ SUV, รถ Crossover หรือรถกระบะมือสอง รุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

  • Chevrolet

CARRO Automall แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport

ช่วงหน้าฝนนี้ บรรดารถ SUV นี่ถือว่ามีบทบาทสำหรับคนใช้รถในไทยมานานสามสิบปีแล้วก็ว่าได้ ทั้งความอเนกประสงค์ในการใช้งาน การบรรทุกสัมภาระ ตอบโจทย์คนมีครอบครัวใหญ่ มีลูกหลานหลายคน ใช้รถเดินทางไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมญาติ ซึ่งรถรุ่นใหม่ๆ ล้วนออกแบบมาใช้ขับง่าย ใช้งานง่าย ออฟชั่นเพียบ และเพิ่มความหรูหรามากกว่าในอดีตเป็นเท่าตัว

แต่รถอีกประเภทหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มรถ SUV เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีแชสซีส์เหมือนรถกระบะ แล้วใช้ตัวถังรถครอบลงไป ที่ในไทยมักเรียกกันว่ารถ “PPV” (Pick-Up Passenger Vehicle = รถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ) โดยมากแล้วจะเป็นรถ 7 ที่นั่ง ซึ่งก็มียอดขายที่สูงมากต่อด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่ง หรือรถมือสองก็ตาม

CARRO Automall แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport

สำหรับรถยนต์ที่ CARRO Automall (คาร์โร ออโต้มอลล์) จะมาแนะนำให้คนที่กำลังมองหารถใช่วงหน้าฝนนี้ ได้ซื้อไว้ใช้งาน เป็นเจ้าของรถครอบครัวกันสักคัน โดยต้องเป็นรถที่มีที่เก็บของจุกจิกได้ เบาะพับได้หลายรูปแบบ แถมราคาขายต่อดี ไม่ตก แถมยังเป็นแบรนด์ตลาด ขับไปไหนก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องของศูนย์บริการ และการหาอะไหล่

ไปรู้จักกับ Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต) รุ่นปี 2015 – ปัจจุบัน ที่ทาง CARRO Automall ภูมิใจเสนอ และอยากให้คุณได้เป็นเจ้าของกันครับ มาดูกันว่า รุ่นนี้มีความน่าสนใจตรงจุดไหนกันบ้าง …

CARRO Automall แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport

Mitsubishi Pajero Sport เจเนอเรชั่นที่ 2 (รุ่นปัจจุบัน) เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 มีความล้ำสมัยที่สุดและครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เริ่มจากการออกแบบตัวรถที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ด้วยการยกระดับงานดีไซน์ด้วยการถ่ายทอดเอกลักษณ์การออกแบบล่าสุด “Dynamic Shield” ตัวถังใหญ่ แข็งแกร่ง และบึกบึน งานออกแบบยังสะท้อนแนวคิด “รูปลักษณ์ที่สอดคล้องกับการใช้งาน” ผสมผสานการปกป้อง สมรรถนะการขับขี่

CARRO Automall แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport

ภายในห้องโดยสารของ ปาเจโร สปอร์ต หรูหราและอเนกประสงค์ยิ่งขึ้น ด้วยคอนโซลกลางเสริมด้วยวัสดุนุ่มบริเวณด้านข้าง มาตรวัดแบบ High Contrast พร้อมการแสดงผลแบบอนิเมชั่น 3 มิติ และระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร เทคโนโลยีนาโนอิ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ ยังรวมถึงช่องชาร์จไฟฟ้า 220V AC ช่องเก็บสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เบรกมือไฟฟ้า ช่องระบบปรับอากาศดีไซน์ใหม่สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ตลอดจนระบบกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท และมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างขวางที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง

ความหรูหราและสะดวกสบาย ยังรวมถึงระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ Dual Zone แยกปรับซ้าย-ขวา พวงมาลัยแบบปรับขึ้นลงและเข้าออกได้ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง หน้าจอบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติและระบบปรับอากาศด้านหลัง

CARRO Automall แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport

Pajero Sport รุ่นนี้ ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบตามหลักการยศาสตร์ ด้วย T-Shaped High Console ที่จัดวางทุกฟังก์ชั่นให้อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน รวมถึงหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว และระบบ Navigator พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นมีสวิตช์ควบคุมระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ และสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง พร้อม Paddle Shift ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC) ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าถึงแม้รถคันหน้าจะชะลอความเร็วหรือหยุดรถ ระบบนี้จะช่วยรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยไว้ได้

Pajero Sport ยังมาพร้อมระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยอัจฉริยะ (ETACS) ระบบนี้ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในตัวรถ ทั้งใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดระบบไฟฟ้า ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนช่องทาง ระบบเตือนลืมปิดไฟหรี่ ระบบสัญญาณไฟกระพริบเมื่อหยุดรถฉุกเฉิน ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็ว ระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์และเมื่อกดรีโมท ระบบกุญแจนิรภัยและกุญแจอัจฉริยะ

CARRO Automall แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC บล็อกอลูมิเนียม ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Sport Mode และระบบ INC (Idle Neutral Control) + G-Sensor

ระบบขับเคลื่อน Super Select 4WD-II ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีทั้งหมด 4 โหมด ประกอบด้วย โหมด 2H ระบบขับเคลื่อนสองล้อ (2WD High-Range) โหมด 4H ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time – All Wheel Control (4WD High-Range) โหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง (4WD High-range with Locked Transfer) และโหมด 4LLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ (4WD Low-Range with Locked Transfer) ระบบนี้ ยังมาพร้อมโหมดออฟโรดที่หลากหลาย และเฟืองท้ายดิฟล็อก ที่สืบทอดมาจากตำนานในสนามแข่ง

สำหรับ Pajero Sport โฉมนี้ มีรุ่นย่อยให้เลือก ได้แก่ 2.4 GT 2WD, 2.4 GT Premium 2WD และ 2.4 GT Premium 4WD

CARRO Automall แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition

ในเดือนพฤศจิกายน 2561 Mitsubishi เปิดตัวรุ่นพิเศษให้กับ Pajero Sport ด้วย “Elite Edition” มาพร้อมชุดหรูๆ ประกอบด้วยสัญลักษณ์ Pajero Sport บนฝากระโปรงหน้า, กระจังหน้าสีดำ, ชุดแต่งใต้กันชนหน้า-หลังสีดำ, ราวหลังคาสีดำ, สปอยเลอร์หลัง, ปลายท่อไอเสียสเตนเลส และล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ส่วนตัวถังสีขาว White Pearl มาพร้อมหลังคาสีดำ Jet Black Mica

ห้องโดยสารภายใน มาพร้อมเบาะหนังแท้สีน้ำตาลแบบ Horizontal Stripe พร้อมกับเทคโนโลยี Quole Modure สะท้อนความร้อนจากแสงแดด, แผงข้างประตูและกล่องเก็บของคอนโซลกลางตกแต่งด้วยหนังสีน้ำตาล, กันรอยขอบประตูสเตนเลสพร้อมไฟ LED และพรมปูพื้นห้องโดยสาร

CARRO Automall แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport

ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 Mitsubishi เปิดตัว Mitsubishi Pajero Sport โฉมไมเนอร์เชนจ์ ครั้งแรกในโลก (อีกแล้ว) มาพร้อมหน้าตารูปลักษณ์ภายนอกใหม่ เพิ่มชุดไฟหน้า Bi-LED ปรับลำแสงอัตโนมัติ ไฟตัดหมอก LED และไฟท้าย LED คู่กับล้ออัลลอย 18 นิ้ว หรูหราและทรงพลังยิ่งขึ้น

ส่วนภายในห้องโดยสารใช้จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลจากหน้าจอระบบสัมผัส SDA ปรับปรุงใหม่เพื่อง่ายต่อการอ่าน และประตูท้ายไฟฟ้า สามารถเปิด-ปิด ด้วยสมาร์ทโฟน และระบบแฮนด์ฟรี

CARRO Automall แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition

ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2563 ตามมาติดๆ กับรุ่นพิเศษอย่าง Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต อีลิท เอดิชั่น) มีให้เลือก 2 สีได้แก่ สีดำ (Jet Black Mica) และสีขาว (White Diamond) ตัดกับหลังคาสีดำ

มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งมาตรฐาน ได้แก่ กระจังหน้ารถสีดำตกแต่งด้วยโลโก้ “Pajero Sport” บนฝากระโปรงหน้า และโลโก้ “Elite Edition” ที่ฝาประตูท้าย พร้อมปลายท่อไอเสียสเตนเลส ทั้งนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งสีดำทั้งหมด ได้แก่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์, ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว, ชุดตกแต่งใต้กันชนหน้า-หลัง, ราวหลังคา, สปอยเลอร์หลัง และเสาอากาศแบบครีบฉลาม

CARRO Automall แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport Elite Edition

ภายในห้องโดยสารหรูกราด้วยเบาะนั่งสีน้ำตาล “Quole Modure” ที่มีคุณสมบัติพิเศษช่วยสะท้อนความร้อนจากแสงแดด และตกแต่งพิเศษด้วยแผงข้างประตู กับคอนโซลกลาง บุด้วยวัสดุนุ่มสีน้ำตาล พร้อมสัญลักษณ์ “Pajero Sport” เหนือกล่องเก็บของด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร ฝาครอบสเตนเลสพร้อมไฟ LED พรมห้องโดยสารปักโลโก้ “Pajero Sport” และกล้องบันทึกภาพหน้ารถ DVR (Digital VDO Recorder)

สำหรับคนนั่งตอนหลังเพลิดเพลินกับระบบความบันเทิงตลอดการเดินทางด้วยจอภาพขนาด 12.1 นิ้ว ติดตั้งบนเพดานรถ พร้อมรีโมทคอนโทรล รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และสมาร์ทโฟนผ่าน HDMI เป็นต้น

และสำหรับ CARRO Automall ในเดือนตุลาคม 2564 เดือนหน้าฝนนี้ เรามี Mitsubishi Pajero Sport รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 8 คันครับ ได้แก่ …..

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.5 GT 2010 ขาว

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.5 GT 2010 ขาว

1. Mitsubishi Pajero Sport 2.5 GT ปี 2010 เลขไมล์ 178,136 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 389,000 บาท!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mitsubishi-pajero-sport-2010-GYPZNZ.html

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.5 GT 2012 ขาว

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.5 GT 2012 ขาว

2. Mitsubishi Pajero Sport 2.5 GT ปี 2012 เลขไมล์ 156,898 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 459,000 บาท!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mitsubishi-pajero-sport-2012-DXOYM9.html

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.5 GT 2012 น้ำตาล

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.5 GT 2012 น้ำตาล

3. Mitsubishi Pajero Sport 2.5 GT ปี 2012 เลขไมล์ 185,695 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mitsubishi-pajero-sport-2012-G6019R.html

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.5 GT 2013 ดำ

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.5 GT 2013 ดำ

4. Mitsubishi Pajero Sport 2.5 GT ปี 2013 เลขไมล์ 149,159 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mitsubishi-pajero-sport-2013-EW86J2.html

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.4 GT PREMIUM 2WD 2015 น้ำตาล

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.4 GT PREMIUM 2WD 2015 น้ำตาล

5. Mitsubishi Pajero Sport 2.4 GT ปี 2015 เลขไมล์ 155,896 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 749,000 บาท!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mitsubishi-pajero-sport-2015-E40Z4X.html

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.4 GT PREMIUM 2WD 2016 ดำ

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.4 GT PREMIUM 2WD 2016 ดำ

6. Mitsubishi Pajero Sport 2.4 GT Premium 2WD ปี 2016 เลขไมล์ 102,216 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 779,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mitsubishi-pajero-sport-2016-DXO1LL.html

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.4 GT 2018 เทา

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.4 GT 2018 เทา

7. Mitsubishi Pajero Sport 2.4 GT ปี 2018 เลขไมล์ 58,091 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 859,000 บาท!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mitsubishi-pajero-sport-2018-DO1894.html

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.4 GT 2018 ขาว

MITSUBISHI PAJERO-SPORT 2.4 GT 2018 ขาว

8. Mitsubishi Pajero Sport 2.4 GT ปี 2018 เลขไมล์ 66,539 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 879,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mitsubishi-pajero-sport-2018-E15024.html

ถ้าใครที่กำลังมองหา Mitsubishi Pajero Sport มือสอง (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริง เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถ Mitsubishi Pajero Sport ทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย! 

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand  โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก CARRO Automall เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2564 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ

เพราะเหตุใด รถเก๋งที่ขายในไทย ถึงไม่มีปัดน้ำฝนหลัง

ที่ผมจั่วหัวมาแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยเลย เพราะว่าคำถามนี้ ก็จัดเป็นหนึ่งในคำถามของผู้ที่สงสัยกันมานาน และมักถามกันบ่อยๆ ตามสื่อโซเชียลมีเดีย ว่าทำไม “รถเก๋ง ถึงไม่มีปัดน้ำฝนหลัง เหมือนแบบรถยนต์แบบ 3 ประตู / 5 ประตู Hatchback หรือรถยนต์แบบรถ Crossover SUV หรือรถ SUV บ้าง?”

ตามจริงแล้ว จะบอกว่ารถเก๋งที่ขายในไทย ไม่เคยติดตั้งที่ปัดน้ำฝนหลังมาให้เลย ก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว …

เพราะเหตุใด รถเก๋งที่ขายในไทย ถึงไม่มีปัดน้ำฝนหลัง

ในอดีต รถเก๋งที่ขายในไทย ที่มีติดตั้งปัดน้ำฝนหลังมาให้ ก็จะมีแค่ Mazda 323 (มาสด้า 323) (BF), Mitsubishi Galant (มิตซูบิชิ กาแลนท์), Mitsubishi Galant Ultima (มิตซูบิชิ กาแลนท์ อัลติม่า) และ Peugeot 406 (เปอโยต์ 406) รุ่นที่นำเข้าจากฝรั่งเศส ประมาณนี้

เพราะเหตุใด รถเก๋งที่ขายในไทย ถึงไม่มีปัดน้ำฝนหลัง

ว่ากันด้วยตามหลักการของหลักอากาศพลศาสตร์ เมื่ออากาศที่ไหลผ่านรถยนต์เวลาเคลื่อนที่จนไปถึงท้ายรถแล้ว ลักษณะอากาศจะเกิดหมุนแบบปั่นป่วน เกิดกระแสลมหมุน เนื่องจากด้านหลังมีการเคลื่อนที่ของอากาศที่มาจากรอบคันรถ ไม่ว่าจะด้านบน ด้านข้าง หรือด้านล่าง

เพราะเหตุใด รถเก๋งที่ขายในไทย ถึงไม่มีปัดน้ำฝนหลัง

ซึ่งในตัวรถเก๋ง อากาศจะไหลผ่านไปยังกระจกที่ลาดและท้ายที่ยื่นยาวออกมา อากาศจะไปปั่นป่วนบริเวณด้านท้ายรถ พร้อมกับพัดพาสิ่งสกปรก (ส่วนหนึ่ง) ออกไปหมุนอยู่แถวท้ายรถ ซึ่งต่างจากในรถประเภทท้ายตัด หรือท้ายสั้นอย่าง Hatchback (แฮทช์แบค), Liftback (ลิฟท์แบค), Coupe (คูเป้) หรือแบบ Van / Wagon (แวน / แวกอน) อากาศจะไปหมุนอยู่ที่บริเวณกระจกบานท้าย ทำให้มีสิ่งสกปรกติดกระจกมากกว่า จึงต้องมีที่ปัดน้ำฝนหลังไว้ใช้งาน

เพราะเหตุใด รถเก๋งที่ขายในไทย ถึงไม่มีปัดน้ำฝนหลัง

และอีกเหตุผลหนึ่ง สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในเมืองหนาว (บางประเทศ) ผู้ผลิตรถอาจติดตั้งที่ปัดน้ำฝนหลังให้เช่นเดียวกัน เนื่องจากเวลาหิมะตก สามารถใช้ปัดหิมะที่บริเวณกระจกบานหลัง และไฟเบรกดวงที่ 3 (เฉพารุ่นที่ติดตั้งด้านในรถ) ให้เห็นชัดขึ้น (บางรุ่นมีให้เลือกเป็น Option คุณต้องจ่ายเงินเพิ่มนะครับ)

เรื่องก็มีอยู่แค่นี้แหละครับ ถ้ารถคุณมีปัน้ำฝนหลัง ก็อย่าลืมหาโอกาสใช้งาน จะช่วงฝนตก หรือปัดคราบสกปรกบนกระจกหลังออกบ้างนะครับ

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ! เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริง เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถ Mazda2 ทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

นิสสัน ประเทศไทย เปิดตัว New Nissan Terra 2021 (นิสสัน เทอร์ร่า) ใหม่ รถ SUV 7 ที่นั่ง สำหรับทุกคนในครอบครัว (หรือจะเรียกเป็นรถ PPV ก็ได้ เพราะพื้นฐานมาจากรถกระบะ) ที่มีจุดเด่นด้านความปลอดภัย ความบันเทิง และความเอนกประสงค์ที่ตอบสนองทุกการใช้งานของครอบครัว ในราคาเริ่มต้นที่ 1,199,000 บาท ถูกลงกว่ารุ่นเดิมหนึ่งแสนบาท!!!

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

Nissan Terra ใหม่ พัฒนาตามเสียงตอบรับของลูกค้าในไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความบันเทิงในรถ แต่ยังคงคำนึงถึงความพรีเมี่ยมและ ความอเนกประสงค์ ทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครอบคลุม ระบบความบันเทิงจาก Bose หน้าจอขนาด 11 นิ้ว พร้อม Smart TV stick สำหรับผู้โดยสารแถวสอง และสาม ชาร์จเจอร์ไร้สาย เทคโนโลยี NissanConnect และการเชื่อมต่อผ่าน Android Auto* และ Apple CarPlay แบบไร้สาย ที่เป็นครั้งแรกในรถยนต์ระดับเดียวกัน รวมถึงดีไซน์ภายนอกและภายในที่ปรับให้มีความพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

การออกแบบ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ สอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบ “Unbreakable Design” ดีไซน์ไฟหน้า Quad LED รูปตัวซีอันเป็นเอกลักษณ์ 4 ดวงในแต่ละด้าน ที่สว่างมากขึ้น 34% และออกแบบท้ายรถใหม่ทั้งหมด พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

Nissan Terra ใหม่ ปกป้องรอบด้านด้วย 360 Degree Safety Shield ทั้งเทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินและแจ้งเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะหรือเมื่อรถออกนอกช่องทาง เทคโนโลยีเตือนรถในมุมอับ เทคโนโลยีกล้องมองภาพรอบทิศทาง ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย เทคโนโลยีเตือนผู้ขับขี่เมื่อขาดสมาธิหรือเหนื่อยล้า และเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ แสดงภาพความละเอียดสูงผ่านกระจกมองหลัง เพื่อเพิ่มทัศนวิสัย

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

การออกแบบภายในแบบใหม่พร้อมเพิ่มเทคโนโลยีที่ทันสมัย และปรับให้เบาะนั่งสบายขึ้น รวมถึงสามารถปรับรูปแบบที่นั่งแถวที่สองและสามได้หลากหลาย เพียงกดปุ่ม 1-Touch Remote Fold & Tumble ที่คอนโซลกลาง และฝาประตูท้ายระบบไฟฟ้าและเซนเซอร์ด้านใต้กันชนหลัง

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

เทคโนโลยีเพื่อความบันเทิงตลอดเส้นทาง ทั้งระบบเสียง Bose Premium Audio System จากลำโพง 8 ตำแหน่ง และแอมพลิฟายเออร์ การเพิ่มฉนวนลดเสียงรบกวนและ Acoustic Glass เพื่อคุณภาพเสียงที่ดี หน้าจอสัมผัส WXGA ขนาด 9 นิ้ว

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

และเทคโนโลยี NissanConnect ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto* และ Apple CarPlay แบบไร้สายซึ่งเป็นครั้งแรกในรถยนต์ระดับเดียวกัน ทำให้เข้าถึงระบบนำทางและทุกแอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดาย

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะและที่ชาร์จแบบไร้สายบริเวณคอนโซลหน้า รวมถึงช่องชาร์จไฟ USB (ประเภท A และ C) 5 จุด บริเวณคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแถวที่สาม นอกจากนี้ผู้โดยสารในแถวสองและสามสามารถรับชมความบันเทิงผ่านหน้าจอขนาด 11 นิ้ว ที่เชื่อมต่อผ่านช่อง HDMI หรือ Smart TV Stick

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

ขุมพลังยังคงเป็นเครื่องยนต์ดีเซรหัส YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร Twin Turbo ให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง ด้วยแรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด และสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากสองล้อเป็นสี่ล้อได้อย่างง่ายดาย

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

ราคาของ Nissan Terra 2021 ใหม่

  • รุ่น 2.3 E 2WD 7AT ราคา 1,199,000 บาท
  • รุ่น 2.3 VL 2WD 7AT ราคา 1,449,000 บาท
  • รุ่น 2.3 VL 4WD 7AT ราคา 1,499,000 บาท

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

มาพร้อมสีให้เลือก ได้แก่ สีขาว ไวท์ เพิร์ล, สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์, สีดำ แบล็ค สตาร์ และสีเทา ทไวไลท์ เกรย์ รวมถึงสีพิเศษสำหรับรุ่น VL ได้แก่ สีแดง คูลีส์ และสีทองแดง ฟอร์จ คอปเปอร์

รวมถึงทางเลือกในการตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบทูโทน ทั้งโทนสีดำ-แดงเบอร์กันดี หรือโทนสีดำ-เบจ

หมายเหตุ : *อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ จัดจำหน่ายโดยผู้จำหน่ายนิสสันทั่วประเทศ ซึ่งการติดตั้งและรับประกันชุดแต่ง อุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ ดำเนินการโดย บริษัท สยามกลการโลจิสติกส์ จำกัด

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อ Nissan Terra ใหม่ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครไม่มีงบซื้อรถป้ายแดง ลองหา Nissan Terra มือสอง มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

5 รถยนต์น่าซื้อ ราคาไม่แรง เหมาะสำหรับให้คุณแม่นั่ง

ทุกวันนี้ สังคมไทยจัดได้ว่าเข้าสู่ในยุค “สังคมผู้สูงอายุ” แล้ว แต่บางทีอายุก็เป็นเพียงตัวเลข เพราะผู้สูงอายุหลายคนยังคงมีไฟ มีความกระฉับกระเฉง กำลังกายยังแข็งแรง สามารถทำอะไรเองได้หลายต่อหลายอย่าง โดยไม่ต้องพึ่งพาลูกหลานมาก หรือแม้กระทั่งการขับรถไปซื้อของ หรือไปหาหมอ ก็ขับได้ในระยะทางไม่ไกลมากนัก

อ่านเพิ่มเติม >> เลือกรถยนต์แบบไหน ถึงจะเหมาะกับ วัยเกษียณอายุ!

ลูกๆ หลายคนที่ทำงานจนพอจะมีฐานะขึ้นมาบ้างแล้ว ก็อยากจะตอบแทนพระคุณแม่ ในเดือนแห่งวันแม่ โดยการเลือกรถให้คุณแม่ไว้นั่งสักคัน ซึ่งการเลือกรถให้ผู้สูงอายุนั้น ควรจะเป็นรถยนต์ที่ขับได้ง่าย ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนนัก รวมไปถึงความสูงของรถที่มากหน่อย (ถ้าเป็นไปได้) สามารถเข้า-ออก ตัวรถได้ง่าย (ถ้าใครเคยใช้รถโหลดเตี้ยจะรู้ เข้า-ออก บางทีพลาด หัวโขกโดนขอบประตู)

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกสองสิ่ง นั่นก็คือ งบประมาณ และความพึงพอใจของคุณแม่คุณ ว่าอยากได้รถประเภทไหน …

ในวันนี้ CARRO Automall (คาร์โร ออโต้มอลล์) จะขอมาแนะนำให้คุณแม่ คุณลูก และทุกท่านรู้จักรถมือสอง 5 แบบที่น่าซื้อมาใช้ ราคาไม่แรง เหมาะสำหรับให้คุณแม่นั่งกันครับ ว่ามีความน่าสนใจตรงไหนบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า …

5 รถยนต์น่าซื้อ ราคาไม่แรง เหมาะสำหรับให้คุณแม่นั่ง

1. รถ Eco-Car

สำหรับรถ Eco-Car (รถอีโคคาร์) มีคุณสมบัติเด่นๆ อยู่หลายอย่าง อาทิ มีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก (ตั้งแต่ 1.0 ลิตร – 1.25 ลิตร) พอใช้งานในเมืองได้สบายๆ ประหยัดน้ำมัน รูปทรงขนาดกะทัดรัด หาที่จอดในเมืองง่าย รวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่าย ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ก็มีมาให้แทบทุกรุ่น แถมยังเป็นรถขายดี ซื้อง่ายขายคล่อง

และศูนย์บริการ กับอะไหล่ ก็มีให้เลือกทั้งแบบแท้ เทียบ เทียม ไม่กระทบถึงรายจ่ายมาก เมื่อถึงเวลาต้องนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการ

สำหรับรถ ECO-Car สภาพเยี่ยม ทาง CARRO Automall ก็มีมาให้ท่านเลือกด้วยกันหลายคัน อาทิ

NISSAN MARCH 1.2 E 2017 เทา

NISSAN MARCH 1.2 E 2017 เทา

1. Nissan March 1.2 E ปี 2017 (โฉมไมเนอร์เชนจ์) เลขไมล์ 50,415 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 245,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-march-2017-E1KJ10.html

TOYOTA YARIS 1.2 E 2018 ขาว

TOYOTA YARIS 1.2 E 2018 ขาว

2. Toyota Yaris 1.2 E ปี 2018 (โฉมไมเนอร์เชนจ์) เลขไมล์ 100,299 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 389,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-yaris-2018-D5O3O4.html

SUZUKI SWIFT 1.2 GL 2019 น้ำเงิน

SUZUKI SWIFT 1.2 GL 2019 น้ำเงิน

3. Suzuki Swift 1.2 GL ปี 2019 เลขไมล์ 17,220 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 379,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/suzuki-swift-2019-D26936.html

5 รถยนต์น่าซื้อ ราคาไม่แรง เหมาะสำหรับให้คุณแม่นั่ง

2. รถ Sub-Compact

ในส่วนของรถ Sub-Compact นอกจากจะเป็นรถขายดีแล้ว มีคุณสมบัติเด่นๆ เพิ่มเติมจากรถประเภท Eco-Car อยู่หลายอย่าง (ซึ่งบางรุ่น ก็ยังสามารถจัดเป็นรถ Eco-Car ได้อีกด้วย) อาทิ มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ้น (ตั้งแต่ 1.3 ลิตร – 1.5 ลิตร) เผื่อให้ลูกหลานไว้ใช้งานได้ด้วย และประหยัดน้ำมัน รูปทรงขนาดกะทัดรัด หาที่จอดในเมืองง่าย รวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่าย ซึ่งบางรุ่นก็ออกแบบมาให้คล้ายกับรถแบบ MPV ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน มีมาให้แทบทุกรุ่น

ส่วนศูนย์บริการ กับอะไหล่ ก็มีให้เลือกทั้งแบบแท้ เทียบ เทียม ไม่กระทบถึงรายจ่ายนัก เมื่อต้องนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการเช่นกัน

สำหรับรถ Sub-Compact สภาพเยี่ยม ทาง CARRO Automall ก็มีมาให้ท่านเลือกด้วยกันหลายคัน อาทิ

TOYOTA VIOS 1.5 J 2018 ขาว

TOYOTA VIOS 1.5 J 2018 ขาว

1. Toyota Vios 1.5 J ปี 2018 (โฉมไมเนอร์เชนจ์) เลขไมล์ 48,166 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 399,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-vios-2018-E4N2NX.html

HONDA CITY 1.5 V i-VTEC 2017 เทา-ดำ

HONDA CITY 1.5 V i-VTEC 2017 เทา-ดำ

2. Honda City 1.5 V i-VTEC ปี 2017 (โฉมไมเนอร์เชนจ์) เลขไมล์ 51,218 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-city-2017-GJ6QN6.html

HONDA JAZZ 1.5 i-VTEC RS 2018 ส้ม

HONDA JAZZ 1.5 i-VTEC RS 2018 ส้ม

3. Honda Jazz 1.5 RS ปี 2018 (โฉมไมเนอร์เชนจ์) เลขไมล์ 57,643 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 519,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-jazz-2018-DR1R15.html

5 รถยนต์น่าซื้อ ราคาไม่แรง เหมาะสำหรับให้คุณแม่นั่ง

3. รถ Crossover SUV

อันนี้สำหรับคุณแม่ที่ชอบแนวลุยๆ หรือแนวบ้านอยู่ต่างจังหวัดหน่อย เพราะรถแนว Crossover SUV หรือ SUV จะมีความใกล้เคียงกับรถเก๋ง และรถประเภท 4WD มาผสมกัน เครื่องยนต์มักมีขนาดตั้งแต่ 1.8 ลิตร ไปจนถึง 2.5 ลิตร ซึ่งก็กินน้ำมันในระดับหนึ่ง และบรรทุกผู้โดยสารได้ 5-7 คน จัดเป็นรถขายดีเช่นกัน

สามารถขับได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง ลุยน้ำท่วมได้ ลุยดินโคลนเบาๆ ได้ ภายในปรับเบาะตามการใช้งานได้ เหมาะสำหรับคุณแม่ ที่ยังทำมาค้าขาย หรือต้องขนสัมภาระ ขนของไปส่งที่ไปรษณีย์บ่อยๆ

สำหรับรถ Crossover SUV สภาพเยี่ยม ทาง CARRO Automall ก็มีมาให้ท่านเลือกด้วยกันหลายคัน อาทิ

HONDA HRV 1.8 EL 2019 เทา

HONDA HRV 1.8 EL 2019 เทา

1. Honda HR-V 1.8 EL ปี 2019 เลขไมล์ 17,617 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 739,000 บาท! รถผู้หญิงมือเดียวใช้งานน้อยมาก

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-hrv-2019-DO11RJ.html

NISSAN X-TRAIL 2.5V 2019 ดำ

NISSAN X-TRAIL 2.5V 2019 ดำ

2. Nissan X-Trail 2.5 V ปี 2019 (โฉมไมเนอร์เชนจ์) เลขไมล์ 9,048 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 899,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/nissan-x-trail-2019-GYP90Q.html

5 รถยนต์น่าซื้อ ราคาไม่แรง เหมาะสำหรับให้คุณแม่นั่ง

4. รถ PPV

อันนี้สำหรับคุณแม่สายลุยอย่างแท้จริง เพราะรถ PPV นั้นมีพื้นฐานมาจากรถกระบะ ที่นำตัวรถแบบ SUV มาครอบลงไปอีกที เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งแบบเบนซิน และดีเซล มีตั้งแต่ขนาด 2.0 ลิตร ไปจนถึง 3.2 ลิตร และหลายรุ่นยังตกแต่งมาหรูหรากว่ารถเก๋งอีกด้วย

เน้นความแข็งแรง ทนทาน ลุยได้มากกว่า การขับขี่อาจต้องออกแรงหน่อย และนั่งอาจไม่สบายสักหน่อย อาจไม่เหมาะกับคุณแม่ที่อยู่ในวัยสูงอายุนัก ส่วนการดูแลรักษาก็คล้ายกับรถกระบะ ไม่ค่อยจุกจิกอะไรมาก

สำหรับรถ PPV สภาพเยี่ยม ทาง CARRO Automall ก็มีมาให้ท่านเลือกด้วยกันหลายคัน อาทิ

ISUZU MU-X 3.0 (DVD Navi) 2013 เทา

ISUZU MU-X 3.0 (DVD Navi) 2013 เทา

1. Isuzu MU-X 3.0 Ddi Navi ปี 2013 เลขไมล์ 70,060 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 659,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2013-GM9R08.html

TOYOTA FORTUNER 2.8 V TRD BLACK TOP 2017 ขาว

TOYOTA FORTUNER 2.8 V TRD BLACK TOP 2017 ขาว

2. Toyota Fortuner 2.8 V TRD Sportivo Black Top ปี 2017 เลขไมล์ 46,531 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 1,119,000 บาท! รถบ้าน เจ้าของคนเดียว

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2017-D8RJY7.html

5 รถยนต์น่าซื้อ ราคาไม่แรง เหมาะสำหรับให้คุณแม่นั่ง

5. รถ MPV

นี่ล่ะ ถือเป็นขวัญใจของคนมีครอบครัวใหญ่ ญาติพี่น้องเยอะ หรือลูกหลายคนเลยทีเดียว สำหรับรถ MPV ที่สามารถนั่งได้ตั้งแต่ 7-11 คน บางรุ่นมีประตูสไลด์ไฟฟ้า เข้า-ออก ง่าย เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีครอบครัวใหญ่ๆ มีเด็กๆ เป็นได้ทั้งรถผู้สูงอายุ และรถคันที่สองของบ้าน แต่การใช้รถแนวนี้ ก็อาจจะต้องแลกมากับค่าน้ำมัน ราคาตัวรถ และค่าบำรุงรักษาที่มากหน่อยนะ

สำหรับรถ MPV สภาพเยี่ยม ทาง CARRO Automall ก็มีมาให้ท่านเลือกด้วยกันหลายคัน อาทิ

TOYOTA SIENTA 1.5G 2018 เทา

TOYOTA SIENTA 1.5G 2018 เทา

TOYOTA SIENTA 1.5G 2018 เทา

1. Toyota Sienta 1.5 G ปี 2018 เลขไมล์ 36,058 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 479,000 บาท!

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-sienta-2018-DR1573.html

HONDA FREED 1.5 SE 2012 เงิน

HONDA FREED 1.5 SE 2012 เงิน

2. Honda Freed 1.5 SE ปี 2012 (โฉมไมเนอร์เชนจ์) เลขไมล์ 100,299 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ฟรีดาวน์! ราคา 433,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-freed-2012-G0J0NX.html

ถ้าคุณลูกกำลังมองหารถ 5 ประเภทนี้ แล้วอยากซื้อมาให้คุณแม่ใช้งาน หรือคุณแม่จะขับเองก็ดี CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริง เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถได้ทั้งภายนอก ภายใน กันแบบ 360 องศา เลยทีเดียว รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก CARRO Automall เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2564 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ

ซื้อแล้วห้ามขาย! All-New Toyota Land Cruiser 2022

หลังจากที่ Toyota เปิดตัว All-New Toyota Land Cruiser 2022 (โตโยต้า แลนด์ ครุยเซอร์) ใหม่ ที่นับได้ว่าเป็น King Of SUV ของญี่ปุ่นที่มีตำนานมายาวนานมากนับตั้งแต่ปี 1951 มาจนถึงทุกวันนี้ก็ครบรอบ 70 ปี Toyota Land Cruiser เลยพอดี ทาง Toyota จึงเปิดตัวโฉมใหม่หมดใน Series 300 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล รวมถึงเวอร์ชั่นสปอร์ตอย่าง GR ด้วย ซึ่งตอนนี้มียอดจองในญี่ปุ่นกว่า 22,000 คัน

All-New Toyota Land Cruiser 2022

แต่ล่าสุด มีข้อมูลจากลูกค้าจากญี่ปุ่นปล่อยข้อมูลออกมาว่า ทาง Toyota ห้ามไม่ให้ลูกค้าที่ซื้อรถรุ่นนี้ไปแล้ว เอาไปขายต่อในระยะเวลา 12 เดือน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในหลายประเทศได้ ซึ่งทางโตโยต้าออกมายืนยันแล้วว่า เป็นเรื่องจริง เพราะต้องการให้รถไปอยู่ในมือคนใช้งานจริงๆ มากกว่าอยู่ในมือผู้ที่ไม่หวังดี

All-New Toyota Land Cruiser 2022

สำหรับ All-New Toyota Land Cruiser 2022 ใหม่ พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม GA-F ซึ่งเป็นหนึ่งในแพล็ตฟอร์ม TNGA จากโตโยต้า แต่ยังคงใช้โครงสร้างตัวรถที่วางบนแชสซีส์ตามแบบฉบับ Land Cruiser รุ่นดั้งเดิม พร้อมปรับปรุงใหม่ให้แข็งแรงมากขึ้น และรีดน้ำหนักลงได้มากถึง 200 กิโลกรัม

All-New Toyota Land Cruiser 2022

ในโฉมนี้ ปรับปรุงช่วงล่างใหม่หมด ให้รองรับการขับขี่รูปแบบต่างๆ ทั้งทางเรียบและทางทุรกันดาร เสริมด้วยระบบ Multi-Terrain Monitor สำหรับแสดงอุปสรรคบนเส้นทางได้แบบ Real-Time และระบบ Multi Terrain Select เลือกโหมดการขับขี่ตามที่ต้องการ รวมถึงการใช้ช่วงล่างแบบ E-KDSS หรือ Electronic Kinetic Dynamic Suspension System เป็นครั้งแรกในโลกด้วย เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนยิ่งขึ้น

All-New Toyota Land Cruiser 2022

ภายในห้องโดยสาร ยังคงความหรูหราอลังการเอาไว้อย่างเต็มพิกัด เน้นออกแบบให้ผู้ขับใช้งานระบบต่างๆ ได้ง่าย และตกแต่งด้ยวัสดุสีเงินในโฉมนี้ยังมาะพร้อมระบบ Toyota Safety Sense ที่มีฟังก์ชั่น Parking Support Brake เพิ่มขึ้นมา โดยจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุในขณะถอยจอดได้

All-New Toyota Land Cruiser 2022

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 Twin Turbo ขนาด 3.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 415 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ดีเซล V6 Twin Turbo ขนาด 3.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 309 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ทั้งคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

แต่ก็มีข่าวลูกค้าในญี่ปุ่นรายหนึ่งที่เพิ่งซื้อ All-New Toyota Land Cruiser 2022 ใหม่ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ Twitter @shimabase1 ว่า โตโยต้าได้ทำหนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ระบุว่าห้ามมิให้ลูกค้านำรถที่เพิ่งได้รับไปขายต่อให้ผู้อื่นภายในเวลาอย่างน้อย 12 เดือน หลังจากส่งมอบรถ หากฝ่าฝืนสัญญาจะไม่ได้รับสิทธิ์ให้ซื้อรถโตโยต้าอีกในภายหลัง

แต่ในตอนนี้ ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าลูกค้าที่ฝ่าฝืนสัญญาดังกล่าว จะถูกห้ามซื้อรถโตโยต้าคันใหม่เป็นเวลานานเท่าใด ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการเงื่อนไขที่ดูไม่ลงตัวเลย สำหรับผู้ขายกับลูกค้า

All-New Toyota Land Cruiser 2022

นอกจากนี้ อาจเป็นไปได้ว่าลูกค้าที่ซื้อรถรุ่นนี้ จะนำรถไปขายต่อให้บุคคลบางกลุ่มในต่างประเทศเพื่อใช้ในทางที่ไม่ดี คล้ายกับกรณีที่รถกระบะ Toyota Hilux หรือ Toyota Land Cruiser ถูกใช้งานโดยกลุ่มหัวรุนแรงในแถบตะวันออกกลาง จึงได้ออกสัญญามาเพื่อป้องกันการขาย หรือส่งออกรถไปขายยังต่างประเทศด้วยนั่นเอง

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

DFSK เทพนคร เปิดตัว DFSK Glory i-Auto ใหม่

สำหรับชื่อชั้นของ DFSK (ดีเอฟเอสเค) หรือ “Dongfeng” (ตงฟง) รถยนต์ชื่อดังจากจีนแดง หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันอยู่บ้านในช่วงเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ที่มีการทำตลาดรถ “ฟู้ดทรัค” ในบ้านเรา ซึ่งก็ได้การตอบรับเป็นอย่างดี แต่ภายหลังก็ยุติการจำหน่ายรถไป เหลือแต่เพียงบริการหลังการขายอย่างเดียว

DFSK Glory i-Auto

ล่าสุด DFSK Thepnakorn ซึ่งเป็นดีลเลอร์รถยนต์ DFSK ใน จ.นครราชสีมา ได้แจ้งว่าจะสั่งนำเข้า DFSK Glory i-Auto (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ ไอ-ออโต้) ใหม่ เป็นรถ Crossover SUV สัญชาติจีนแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งในตลาดจีนเองใช้ชื่อว่า Dongfeng Fengguang 580 (ตงฟง เฟิงกวง 580) เปิดตัวไปตั้งแต่ช่วงปี 2016 ก่อนจะส่งรุ่นที่หรูกว่าอย่าง 580 Pro ตามออกมาในปี 2019

DFSK Glory i-Auto

ส่วนรุ่นที่ขายในไทยนั้น คาดว่าเป็นแบบเดียวกับในอินโดนีเซีย ในชื่อ DFSK Glory i-Auto ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020

มิติตัวรถยาว 4,680 มม. (ตัวรถยาวกว่า MG HS ที่ 4,574 มม. และ Haval H6 ที่ 4,653 มม.) กว้าง 1,845 มม. สูง 1,715 มม. และระยะฐานล้อ 2,780 มม.

DFSK Glory i-Auto

ตัวถังภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Infinite Starlight Design ชุดไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ส่วนไฟท้ายแบบ Full LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential, หลังคาแบบ Panoramic Sunroof ที่สั่งการเปิดได้ด้วยเสียง, ประตูบานท้ายแบบไฟฟ้า พร้อมเซ็นเซอร์เท้า, กล้อง 360 องศารอบคันรถ และล้อแม็กแบบสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว เป็นต้น

DFSK Glory i-Auto

ส่วนภายในห้องโดยสาร ตกแต่งหรูหราพร้อมลายไม้ มาพร้อมด้วยหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมปุ่มสั่งงานบริเวณแผงคอนโซล, ระบบสั่งการด้วยเสียง i-Talk, เบาะหนังแท้ 7 ที่นั่ง พร้อมปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 6 ทิศทาง ด้านผู้โดยสาร 4 ทิศทาง, ปุ่มปรับเครื่องเสียงที่พวงมาลัย, เบรกมือไฟฟ้า, แอร์อัตโนมัติพร้อมแอร์ด้านหลัง, กล้องบันทึกภาพขณะรถวิ่ง และระบบความปลอดภัยมากมาย เป็นต้น

DFSK Glory i-Auto

ด้านขุมพลังมีขนาด 1.5 ลิตร ที่เสริมความแรงไว้ด้วย Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT บนน้ำหนักตัวรถ 1,510 กิโลกรัม

DFSK Glory i-Auto

DFSK Glory i-Auto ราคารถอยู่ที่ 899,000 บาท นำเข้ามาถึงไทยในเดือนสิงหาคม 2564 นี้ครับ

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

อีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall