10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดฮิตในไทย จะมียี่ห้อไหน รุ่นใดบ้าง มาดูกัน!

ย้อนกลับไปในปี 2535 วงการแท็กซี่ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่แต่เดิม รถแท็กซี่นั้น ใช้ระบบการต่อรองราคา พลิกโฉมมาเป็น “Taxi-Meter” (แท็กซี่มิเตอร์) ที่คิดค่าโดยสารตามระยะทาง และกำหนดให้ใช้สี “เขียว-เหลือง” เป็นรถส่วนบุคคล พร้อมทั้งจำกัดอายุของรถแท็กซี่ไว้มิให้เกิน 12 ปี (ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ 9 ปี) และไม่จำกัดจำนวนการจดทะเบียน ส่วนบุคคล หรือนิติบุคคล จะจดทะเบียนกี่คันก็ได้ ซึ่งต่างจากในอดีตก่อนหน้า

นี่จึงเป็นที่มาของ “แท็กซี่มิเตอร์” ที่วิ่งกันเกลื่อนถนนกรุงเทพฯ ในตอนนี้

สำหรับรถที่แท็กซี่นิยมนั้น ก็ต้องเป็นรถที่ทนทาน (ย้ำ) ต้องวิ่งได้วันละหลายร้อยกิโลเมตร ไม่จุกจิก เครื่องยนต์กลไกต้องไม่ซับซ้อน ซ่อมง่าย อู่ข้างทางก็ซ่อมได้ อะไหล่แท้ เทียบ เทียม ต้องหาง่าย และใช้ด้วยกันได้

Carro ขอนำเสนอ 10 รถแท็กซี่ยอดนิยมในไทย มาดูกันครับว่า จะมีรุ่นไหนยี่ห้อใดบ้าง ที่เป็นที่นิยมของคนขับแท็กซี่ และเจ้าของอู่แท็กซี่ในขณะนี้ …

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

Toyota Corolla Altis

Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) เรียกได้ว่าต้องยกให้เป็นรถยอดนิยมตลอดกาล ของชาวแท็กซี่เลยทีเดียว ที่ทุกสหกรณ์มีรถรุ่นนี้หมด ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน อะไหล่แท้ เทียบ เทียม หาง่าย เวลาเสีย ช่างอู่ทั่วไปก็ซ่อมได้ รถทนทาน ไม่จุกจิก ใช้หาเงินกันคุ้ม แม้ว่าช่วงนี้ คนจะนำรถมาทำแท็กซี่กันน้อยลงไปก็ตาม

แต่ Toyota Altis รุ่นนี้ก็ยังมีคนนำไปทำแท็กซี่ กันตั้งแต่รุ่นถูกสุดอย่าง Limo, 1.6G, 1.8 Sport, 1.8 GR Sport หรือแม้กระทั่งรุ่น Hybrid เลย

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

ภาพจาก แท็กซี่เกรดเอ อ้วนรังสิต

Toyota Innova Crysta

Toyota Innova Crysta (โตโยต้า อินโนว่า คริสต้า) เรียกได้ว่า เป็นรถยอดนิยมมากพอสมควร สำหรับเหล่าแท็กซี่ที่วิ่งตามสนามบิน หรือรอรับลูกค้าตามหน้าโรงแรมต่างๆ เพราะสามารถขนคนได้เยอะ ขนของได้แยะ ทนทาน อะไหล่แท้ เทียบ เทียม ก็หาง่าย เวลาเสีย ช่างอู่ทั่วไปก็ซ่อมได้ นิยมกันมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ ที่ออกมาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน

เรื่องเครื่องยนต์กับช่วงล่างทนทานหายห่วง เพราะสามารถใช้ร่วมกับ Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) ได้ แต่อะไหล่ตัวถัง อาจจะหาของมือสองลำบากนิดๆ เพราะเป็นรถที่ผลิตในอินโดนีเซีย

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

Toyota Prius

กลายเป็นตำนานรถแท็กซี่แนวรักษ์โลกไปแล้ว สำหรับ Toyota Prius (โตโยต้า พรีอุส) รถยนต์ไฮบริด เป็นรถแท็กซี่ที่ทาง บริษัท ออลไทย แท็กซี่ จำกัด ทำออกมา 500 คัน ลงทุนกว่า 700 ล้านบาท เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่แท็กซี่ไทย ใช้สีเหลือง สีเดียวกันกับ นิวยอร์ค แท็กซี่ โดดเด่นสะดุดตา เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 และให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2558

โดย Prius ที่นำมาทำแท็กซี่ จะไม่ดัดแปลงหรือติดแก๊ส พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV ในรถ ติดตั้งระบบ GPS Tracking และระบบติดตามควบคุมรถหรือ “กล่องดำ” ไม่ว่าจะขับรถเร็วเกินกำหนด ขับกระชาก หรือเหยียบเบรก แม้แต่การทำผิดระเบียบ ด้วยการรับผู้โดยสารแล้วไม่กดมิเตอร์ ทางศูนย์ฯ จะทราบได้ทันที สามารถเรียกผ่าน Application หรือ Call Center 1624 ได้ และจ่ายค่าบริการได้ทั้งเงินสด บัตรเครดิต/เดบิต หรือบัตรเติมเงิน และออกใบเสร็จรับเงินได้

ต้นทุนเฉลี่ยรถแท็กซี่ต่อคัน หักลบจากส่วนลดราคารถ และค่าติดตั้งอุปกรณ์ไอทีเพิ่มเติม ตกคันละประมาณ 1.3 ล้านบาท โดยรถแต่ละคัน จะสามารถทำรายได้ให้บริษัทตกปีละ 1 ล้านบาท (ยอดในปี 2559) แต่ทว่าในปัจจุบัน All Thai Taxi ยังมีรถให้บริการเหลืออยู่เพียง 119 คัน (ยอด ณ เดือนกรกฎาคม 2564) …

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

ภาพจาก Sandrew Sarol Asentista

Toyota Fortuner

อันนี้เหมาะสำหรับผู้โดยสารสายลุย Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) แท็กซี่ที่สามารถลุยได้ ไม่ว่าจะเป็นทางลูกรัง หรือน้ำท่วม สามารถไปรับ-ส่ง คุณ ถึงประตูบ้านได้สบายๆ

แท็กซี่รุ่นนี้ เน้นวิ่งรับลูกค้าตามสนามบิน เหมานักท่องเที่ยว หรือรอรับลูกค้าตามหน้าโรงแรมต่างๆ เพราะคุ้มค่ากว่าวิ่งรับผู้โดยสารตามท้องถนนทั่วไป

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

ภาพจาก Pee Pee

Nissan Sylphy

หนึ่งเดียวของนิสสันในเวลานี้ ที่แท็กซี่นิยมมากที่สุด นั่นคือ Nissan Sylphy (นิสสัน ซิลฟี่) ก็มีให้เห็นอยู่บ้าง ภายในดูสวยหรู น่านั่ง

ส่วน Nissan อาจจะลำบากนิดนึงในเรื่องของชิ้นส่วนตัวถังมือสอง แต่ในเรื่องความทนทานยังไว้ใจได้

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

Honda Civic

ด้วยแนวคิด (ของใครหลายๆ คน) ที่ยังเชื่อกันว่า Honda ห้ามนำรถมาทำเป็นแท็กซี่ (ได้ยินมาตั้งแต่ 20 กว่าปีที่แล้ว ทุกวันนี้ก็ยังมีคนพูดกันเหมือนเดิม) …

อ่านเพิ่มเติม >> Honda ห้ามเอารถมาทำ Taxi-Meter จริงหรือ?

แต่ก็มี Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ตั้งแต่โฉม EG, ES, FD, FB มาจนถึงรุ่นล่าสุด FC ออกมาเป็นแท็กซี่เห็นกันเรื่อยๆ แม้ว่าจำนวนจะน้อยนิด เพราะค่าบำรุงรักษา ค่าอะไหล่ที่สูง ทำให้หา “Honda” เป็นแท็กซี่ได้ลำบากหน่อย

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

ภาพจาก Pok Mu-X2017 TAXI Service

Isuzu MU-X

นี่ก็จัดเป็นแท็กซี่สำหรับผู้โดยสารสายลุย Isuzu MU-X (อีซูซุ มิวเอ็กซ์) แท็กซี่ที่สามารถลุยได้ ไม่ว่าจะเป็นทางลูกรัง หรือน้ำท่วม สามารถไปรับ-ส่ง คุณ ได้ แบบไม่เหนื่อยยาก

ไว้เน้นวิ่งรับลูกค้าตามสนามบิน เหมานักท่องเที่ยว หรือรอรับลูกค้าตามหน้าโรงแรมต่างๆ มากกว่า

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

Mitsubishi Pajero Sport

Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต) นี่ก็เป็นรถประเภทเดียวกับแท็กซี่สายลุย เน้นรับนักท่องเที่ยวตามโรงแรม หรือรับลูกค้าตามสนามบิน เพราะถ้าวิ่งหาคนขึ้นแล้ว ไม่คุ้มค่าแก๊สแน่นอน!

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

BYD e6

สำหรับ BYD แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน (ซึ่ง BYD ย่อมาจาก Build Your Dream) ที่เข้ามาทำตลาดในไทยแบบเงียบๆ มาหลายปี ในตอนนี้ได้บริษัท Siam ATR (สยาม แอดวานซ์ เทคโนโลยี่ รีเลชั่นชิป หรือบริษัทในเครือสยามกลการอุตสาหกรรม) เป็นตัวแทนจำหน่ายในปัจจุบัน

โดยโครงการ BYD e6 Taxi VIP (บีวายดี อี6) เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2561 เป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก, บริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด (ผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD ในไทยในตอนนั้น) และบริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด (ผู้ประกอบการขนส่งรถ Taxi VIP) ซึ่ง BYD e6 Taxi VIP เป็นรถ Crossover MPV ที่มีดีไซน์เรียบง่าย นั่งได้ 5 ที่นั่ง

มาพร้อมชุดมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous ให้กำลังสูงสุด 134 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 149 กม./ชม. วิ่งได้มากถึง 400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง พร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียม-ไออน ฟอสเฟต ที่มีความจุมากถึง 80 kWh

10 รถแท็กซี่รุ่นยอดนิยมในไทย

Mercedes-Benz C 350 e Avantgarde

เมื่อ All Thai Taxi ตัดสินใจทำ “Taxi VIP” (แท็กซี่ วีไอพี) ด้วย Mercedes-Benz C 350 e Avantgarde (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี 350 อี อาวองการ์ด) ราคาคันละ 2,640,000 บาท เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2561 ด้วยจำนวน 100 คันแรก เพื่อยกระดับรถแท็กซี่ให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล รองรับผู้โดยสาร เช่น ลูกค้าองค์กรธุรกิจ, ธุรกิจโรงแรม, นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ที่ต้องการความหรูหรา สะดวกสบาย

สำหรับอัตราค่าบริการ TAXI VIP เริ่มต้น 2 กิโลเมตรแรก 150 บาท กิโลเมตรต่อไป กิโลเมตรละ 12-16 บาท กรณีรถติดนาทีละ 6 บาท กรณีเรียกรถผ่านศูนย์บริการสื่อสารครั้งละไม่เกิน 50 บาท การจองล่วงหน้าและการจ้างจากท่าอากาศยานครั้งละไม่เกิน 100 บาท และให้บริการมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสาร ตลอดการเดินทาง อาทิ น้ำดื่มฟรี, หนังสือพิมพ์, ผ้าเย็น, บริการฟรี Wi-Fi, ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ดูรถแท็กซี่แต่ละคันกันไปแล้ว หากใครที่อยากถอยแท็กซี่ออกมาขับบ้าง ก็ลองขายรถคันเดิมกับทาง Carro เพื่อนำเงินไปซื้อรถแท็กซี่มาหาเงินดูสิ โดยได้ราคาที่ดีที่สุด พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : *ข้อมูล 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนมิถุนายน 2565 เมื่อเวลาผ่านไปราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรือราคาล่าสุด ที่ตัวแทนจำหน่ายรถรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

หากใครที่มีโอกาสได้เปิดฟังคลื่นวิทยุที่เกี่ยวกับการรายงานสภาพจราจร เช่น สวพ.91 หรือ จส.100 จะสังเกตได้ว่า ในวันๆ หนึ่ง มีผู้คนที่โทรเข้ามาแจ้งเรื่องลืมของในรถแท็กซี่กันเยอะมาก โดยสิ่งของที่ยอดฮิตของคนขี้ลืม ได้แก่ กระเป๋าสตางค์, โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, กระเป๋าต่างๆ, กล้องถ่ายรูป, ซองเอกสาร, ร่ม หรือกุญแจต่างๆ เป็นต้น

10-อันดับ-ลืมของบนรถแท็กซี่-สวพ.91

ภาพจาก สวพ.91

ซึ่งบางคน อาจจะจำได้แค่บางอย่าง แต่บางคน ก็จำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง (เพราะอาจจะขึ้น Taxi ตอนกลางคืน หรือเมาด้วยล่ะ) ทำให้ยากต่อการติดตาม ของหายแล้วไม่ได้คืน

Mr.Carro ขอแนะนำ 5 สิ่งที่ควรจำ เมื่อขึ้นรถแท็กซี่ เวลาลืมของ จะได้ตามได้ ครับ …

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

ภาพจาก แท็กซี่แวนไทยแลนด์

1. เวลา และสถานที่ขึ้น-ลง

อันนี้ถือว่าสำคัญ หากคุณไม่ได้เรียกแท็กซี่จากในโรงแรม หรือบางสถานที่ ที่มีการจดเลขทะเบียน หรือมีภาพจากในกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ การจดจำเวลา และสถานที่ขึ้น-ลง ถือว่าสำคัญ เพราะรถแท็กซี่ส่วนใหญ่ มักแบ่งกันขับกันเป็นกะ จะได้ตามตัวคนขับได้ถูก

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

ภาพจาก แท็กซี่เกรดเอ อ้วนรังสิต

2. สีรถ

อันนี้ก็ถือว่าสำคัญ เพราะปัจจุบันนี้ แท็กซี่บ้านเรามีสารพัดสีมาก จนได้ชื่อว่า “รถสีลูกกวาด” เลยทีเดียว ซึ่งก็มีตั้งแต่รถส่วนบุคคล เขียว-เหลือง, รถแท็กซี่รุ่นเก่า เหลือง-ดำ ส่วนรถสหกรณ์ก็มีหลากหลายสี ตั้งแต่สีเหลืองทั้งคัน สีเขียวทั้งคัน สีฟ้า สีชมพู โดยบางคันอาจจะมี 2 สี ซึ่งคาดแถบสีขาวไว้ด้านข้างตัวรถด้วย ต้องสังเกตดีๆ

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

3. ป้ายทะเบียนรถ

ทะเบียนรถ ถือว่าสำคัญที่สุดในการตามหาตัวรถ นอกจากดูนอกตัวรถแล้ว บริเวณภายในประตูรถทั้งเบาะหน้า และเบาะหลัง ก็มีเลขทะเบียนติดเอาไว้ และมีอักษรเทียบระหว่างภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ เช่น ถ้าเป็นทะเบียน มฎ 1234 ภายในจะเป็น AA 1234 เพื่อให้ชาวต่างชาติจำได้ง่ายขึ้น ขึ้นรถมาแล้วกลัวลืม ก็หยิบมือถือมาถ่ายรูปไว้ก่อนเลย

4. ชื่อ-สกุล รหัส ของคนขับ / รูปพรรณของคนขับ

ชื่อ-สกุล รหัส ของคนขับบริเวณด้านหน้ารถ ควรสังเกตให้ละเอียด รวมถึงสังเกตดูว่า คนขับ มีรูปร่างอย่างไร อ้วน ผอม หนุ่ม แก่ หัวล้าน ผมยาว ใส่แว่น มีไฝ รอยสัก ฯลฯ เพราะบางครั้ง บัตรประจำตัวคนขับที่แสดงไว้ อาจะเป็นคนละคนกับคนขับ

5 สิ่งต้องจำเมื่อขึ้นแท็กซี่ ถ้าลืมของ จะได้ตามได้

5. คนขับฟังวิทยุ หรือดูอะไรอยู่ตอนนั้น

นี่ก็สำคัญ! หากขณะนั่งในรถ คนขับแท็กซี่ เปิดฟังรายการวิทยุอะไร คลื่นไหน หากนึกขึ้นได้ ให้ลองรีบโทรเข้าไปในรายการนั้นๆ ดูทันที หากรายการนั้นเป็นรายการสด หรือกำลังดู Live สด เพจอะไรอยู่ เผื่อคนขับรถได้ยินได้ฟังได้เห็นแล้ว โอกาสที่คุณจะได้ของคืน มีมากขึ้นครับ

แต่ถ้าคนขับ เปิดเพลงจาก USB/มือถือ หรือ ปิดวิทยุ … ก็ตัดข้อนี้ไปได้ครับ

ทางที่ดี ก่อนลงแท็กซี่ ควรตรวจสอบให้เรียบร้อย ว่าลืมสิ่งของอะไรไว้บนเบาะ หรือในฝากระโปรงท้ายหรือไม่ เพราะโอกาสที่จะได้คืนนั้น บอกได้เลยว่าน้อย … ฉะนั้น ต้องรอบคอบก่อน กันไว้ดีกว่าแก้ครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาขับแทนนั่งแท็กซี่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

Taximeter-Extended-Lifetime

กรมการขนส่งทางบก รับลูก ครม. อนุมัติขยายอายุการใช้งานรถแท็กซี่จากเดิม 9 ปี เป็น 12 ปี โดยต้องเป็นรถที่จดทะเบียน “ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563” และผ่านการตรวจสภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด มีความมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัยต่อการให้บริการ

ที่สำคัญ ต้องผ่านเกณฑ์การตรวจสภาพ ที่กรมการขนส่งทางบก และกรมควบคุมมลพิษร่วมกันกำหนดขึ้น เพื่อให้มีมาตรฐานสมรรถนะ ความมั่นคงแข็งแรง และความปลอดภัยในการใช้งาน มีคุณภาพและความเรียบร้อยในการรับจ้างจนสิ้นอายุการใช้งาน

ทั้งนี้ รถแท็กซี่ที่ได้รับการขยายอายุการใช้งานต้องผ่านการตรวจสภาพและเกณฑ์การวินิจฉัยการตรวจสภาพรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. 2555 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียนกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการตรวจสภาพรถยนต์รับจ้างบรรทุกผู้โดยสารไม่เกินเจ็ดคนเพื่อขยายอายุการใช้งานจาก 9 ปี เป็น 12 ปี ในปี 2564 จะมีรายการที่ต้องตรวจสภาพเพิ่มเติม ดังนี้

1. ตรวจก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอนจากท่อไอเสีย โดยใช้เครื่องวิเคราะห์ก๊าซในขณะที่เครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบาและไม่มีภาระ และให้ตรวจทุกชนิดเชื้อเพลิงในกรณีมีการใช้เชื้อเพลิงมากกว่า 1 ชนิด โดยค่าก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ต้องไม่เกินร้อยละ 0.5 โดยปริมาตร และค่าก๊าซไฮโดรคาร์บอนต้องไม่เกิน 100 ส่วนในล้านส่วน

2. โครงสร้างและตัวถังรถ ต้องมีความมั่นคงแข็งแรงสามารถรองรับการทำงานของรถขณะมีน้ำหนักเต็มอัตราบรรทุกได้ในทุกสภาพการใช้งาน ไม่ชำรุด ผุกร่อน จนมีผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของรถ เป็นต้น

3. ประตูและพื้นรถ ต้องไม่ชำรุด ผุกร่อน จนมีผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของรถและความปลอดภัยในการใช้งาน สะอาด ไม่มีคราบเปื้อน คราบสกปรก หรือขยะ

4. ที่นั่งผู้ขับรถ ที่นั่งคนโดยสารและพนักพิงศีรษะ ไม่ชำรุดทรุดโทรมหรือเสียหาย ที่นั่งต้องยึดติดกับโครงสร้างรถและตัวถังรถอย่างมั่นคงแข็งแรง

5. ตรวจเข็มขัดนิรภัยและจุดยึดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงตรวจการล็อกและปลดล็อกของเข็มขัดนิรภัยโดยการกระตุกหรือกระชากต้องทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. สีรถ ภายนอกตัวรถ ไม่มีรอยแตกร้าว รอยด่าง คราบสนิม หรือรอยหลุดลอกชำรุดจำนวนมากหรือขนาดใหญ่ และสีรถถูกต้องตามเอกสารหลักฐานหรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนด

7. เครื่องปรับอากาศ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถปรับอากาศภายในรถและภายในห้องโดยสารได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ปรับทิศทางและแรงลมได้ ไม่มีน้ำรั่วซึมออกจากระบบปรับอากาศภายในรถหรือภายในห้องโดยสาร ไม่มีเสียงดังรบกวน มีกลิ่นเหม็น หรือกลิ่นอับชื้น

8. ที่เก็บสัมภาระท้ายรถสำหรับผู้โดยสารต้องมีสภาพดี ไม่ชำรุดหรือเสียหาย ผนังทุกด้านปิดทึบมั่นคงแข็งแรงและถาวร รวมถึงมีความสะอาด เรียบร้อย ไม่มีสิ่งของที่จะเป็นอุปสรรคในการวางสัมภาระของผู้โดยสาร

https://dlt.go.th/web-upload/m_news/172/2810/file_photo/a96a53a8d171efa4a5f342fc8cb2109f.jpg

เจ้าของรถที่มีความประสงค์จะขยายอายุการใช้งานรถแท็กซี่สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก ส่วนรถที่จดทะเบียนต่างจังหวัดยื่นความประสงค์ได้ที่กลุ่มวิชาการ สำนักงานขนส่งแต่ละจังหวัด

หลักฐานประกอบการดำเนินการ ได้แก่ใบคู่มือจดทะเบียนหรือภาพถ่าย หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถ ใบอนุญาตขับรถสาธารณะหรือใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายในประเภทที่ใช้แทนกันได้ที่ยังไม่สิ้นอายุ หลักฐานการจัดให้มีประกันภัยคุ้มครองบุคคลที่ 3 และประกันภัยเพิ่มเติมที่ให้การคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ในวงเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท สำหรับการชดใช้ค่าเสียหายต่อคนในแต่ละครั้ง และความเสียหายต่อทรัพย์สินในวงเงินไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท สำหรับการชดใช้ค่าเสียหายในแต่ละครั้ง

รถแท็กซี่ที่ได้รับการขยายอายุการใช้งานจาก 9 ปี เป็น 12 ปี จะต้องเข้ารับการตรวจสภาพระหว่างการใช้งานปีละ 4 ครั้ง เพื่อให้รถมีสภาพมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยเพียงต่อการให้บริการ

นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดให้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบรายเดือนแทนการใช้วิทยุสื่อสารได้ โดยต้องแสดงหมายเลขโทรศัพท์ไว้ภายในห้องโดยสารที่ผู้โดยสารสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และบริเวณประตูตอนหลังด้านนอกทั้งสองด้าน และด้านบนของกระจกบังลมหน้ารถด้วย

แหล่งที่มา :

Taximeter-Baggage-Fees

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าบริการอื่น กรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษสำหรับรถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi-Meter) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563 โดยที่เป็นการแก้ไขปรับปรุงอัตราค่าบริการอื่น ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

ซึ่งมีการปรับค่าบริการอื่นกรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษดังนี้

1. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใดด้านหนึ่งเกินกว่า 26 นิ้ว ขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท

2. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใด ด้านหนึ่งไม่เกิน 26 นิ้ว เกินกว่าสองชิ้น ให้เรียกเก็บค่าบริการตั้งแต่ชิ้นที่สามขึ้นไป ในอัตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท ทั้งนี้ ไม่นับรวมกับสัมภาระตามข้อ 1

3. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระเป็นอุปกรณ์การกีฬาจำพวก ถุงกอล์ฟ รถจักรยาน วินด์เซิร์ฟ หรือเครื่องดนตรี ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 50 นิ้ว ขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 100 บาท

4. การจ้างที่มีการบรรทุกสัมภาระเป็นสินค้า สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่บรรจุกล่อง และที่มิได้มีการบรรจุกล่อง แต่มีการมัดรวมหรือหีบห่อรวมกันไว้ ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 50 นิ้ว ขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราที่บรรจุกล่อง มัดรวมหรือหีบห่อชิ้นละไม่เกิน 100 บาท

*สัมภาระ ในที่นี้หมายถึง สิ่งของหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่นำติดตัวมาด้วย แต่มิได้หมายความรวมถึงรถวีลแชร์ ไม้เท้า หรืออุปกรณ์สำหรับคนพิการ

แหล่งที่มาจาก: