เช่าซื้อรถคืออะไร มาทำความเข้าใจกัน

ทุกวันนี้ แม้ว่าการซื้อรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์สักคันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากกว่าสมัยก่อนมากๆ แล้ว ไหนจะมีทั้งโปรโมชั่น แคมเปญเด็ดๆ ดาวน์ฟรี ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ดอกเบี้ยต่ำ ฯลฯ สารพัดแรงจูงใจให้คนอยากซื้อรถมาใช้ แต่ปัญหาหลักๆ ของคนซื้อเลยที่เป็นกันทุกยุคสมัย นั่นคือ “เงินไม่พอ” ทำให้การ “เช่าซื้อรถ” ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น

ด้วยระบบผ่อนจ่ายที่พัฒนาไปมาในปัจจุบัน การเช่าซื้อรถ สถาบันการเงินจึงมีบริการเช่าซื้อรถทั้งสำหรับรถใหม่และรถใช้แล้ว ซึ่งผู้เช่าซื้อจะต้องจ่ายเงินเป็นงวดๆ ตามจำนวนเงินและระยะเวลาที่กำหนด และก็ต้องดูแลรถไปตลอดระยะเวลาสัญญา เพราะว่าหากเกิดการชำรุดเสียหาย แต่กรรมสิทธิ์ในรถจะยังไม่เป็นของผู้เช่าซื้อ 100% จนกว่าจะผ่อนจ่ายจนครบตามสัญญา

มาดูกันว่า การเช่าซื้อรถ มีอะไรบ้าง และเอกสารที่ต้องใช้ มีอะไรบ้าง มาอ่านกันเลยจ้า …

เช่าซื้อรถคืออะไร มาทำความเข้าใจกัน

วงเงินเช่าซื้อรถ คือ?

ตามปกติแล้ว วงเงินเช่าซื้อรถ ถ้าคุณจะซื้อรถสักคัน คุณจะต้องวางดาวน์ไว้อยู่ที่ประมาณ 25-40% ของราคารถ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ไฟแนนซ์รถยนต์ หรือสถาบันการเงิน ในเวลานั้นๆ

ซึ่งถ้าเป็นรถใหม่ วงเงินส่วนใหญ่จะได้อยู่ที่ประมาณ 75-80% ของราคารถยนต์ ส่วนที่เหลือผู้ซื้อจะต้องวางเงินดาวน์

แต่ถ้าเป็นรถมือสอง วงเงินขึ้นอยู่กับสภาพรถ ระยะทาง อายุการใช้งาน และสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยรถมือสอง ปกติจะสูงกว่ารถใหม่

และธนาคาร ไฟแนนซ์รถยนต์ หรือสถาบันการเงิน อาจจะมีโปรโมชั่นพิเศษ เช่น การจ่ายค่างวดต่อเดือนที่ต่ำพิเศษ แต่จะต้องไปจ่ายเงินอีกหนึ่งก้อน (เงินบอลลูน) ก้อนใหญ่เป็นงวดสุดท้าย ซึ่งในบางที่ คุณยังสามารถตัดสินใจรีไฟแนนซ์ ต่อการผ่อนชำระบอลลูนไปได้อีก

เช่าซื้อรถคืออะไร มาทำความเข้าใจกัน

ต้องมีคนค้ำประกันไหม?

ตามปกติแล้ว หากการวางดาวน์ของคุณน้อยกว่า 20% หรือมีคุณสมบัติทางการเงินไม่เข้าเกณฑ์ที่ไฟแนนซ์ ธนาคาร หรือสถาบันทางการเงินกำหนดไว้ ผู้ขอสินเชื่อรถต้องหาคนค้ำประกัน ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป มีงานการทำเป็นหลักแหล่ง ประวัติการเงินดี เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเมื่อจะขอสินเชื่อรถ (ว่าคุณจะไม่เบี้ยวหนีนั่นเอง เพราะถ้าหนีหนี้ คนค้ำประกันจะต้องเป็นคนจ่ายต่อ)

เช่าซื้อรถคืออะไร มาทำความเข้าใจกัน

ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?

สำหรับเอกสารที่ทางธนาคาร ไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงิน ต้องการเวลาคุณขอเช่าซื้อรถ ประกอบด้วย

1. สำเนาบัตรประชาชน ทั้งผู้ที่ขอสินเชื่อรถยนต์และผู้ค้ำประกัน

2. สำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อให้ไฟแนนซ์ทราบที่อยู่ ทั้งผู้ที่ขอสินเชื่อรถยนต์และผู้ค้ำประกัน

3. สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) เพื่อแสดงตัวตนคู่สมรส เพราะมีสิทธิ์ครอบครองรถเช่นกัน และยังมีหน้าที่ร่วมรับผิดชอบค่างวดที่ยังผ่อนจ่ายไม่หมดด้วย ในกรณีที่คู่สมรสที่ขอสินเชื่อ และคู่สมรสของผู้ค้ำประกันไม่สามารถผ่อนจ่ายค่างวดรถต่อได้

4. สมุดบัญชีธนาคาร (สมุด Book Bank) แสดงรายการเดินบัญชีย้อนหลัง ทั้งเงินเข้า-ออก เพื่อประเมินความสามารถของผู้เช่าซื้อรถ

5. หนังสือรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองการทำงาน ที่ให้บริษัทหรือต้นสังกัดที่ทำงานอยู่ออกให้ หรืออาจเป็นสลิปเงินเดือนย้อหลัง 3 เดือนขึ้นไป เพื่อแสดงว่ามีรายได้จากการทำงานจริง

6. หนังสือรับรองของบริษัท ในกรณีที่ผู้ขอสินเชื่อเป็นนิติบุคคล

7. หนังสือรับรองกิจการ ในกรณีผู้ขอสินเชื่อเป็นเจ้าของกิจการ ซึ่งต้องเป็นหนังสือรับรองกิจการที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน

โดยหลักๆ แล้ว เอกสารสำหรับขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่ หรือสินเชื่อรถยนต์มือสองจะมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ แต่บริษัทที่รับจัดไฟแนนซ์บางแห่งอาจขอเอกสารเพิ่มเติม หรือขอสัมภาษณ์ทั้งผู้ซื้อและผู้ค้ำประกันเป็นการส่วนตัว เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถผ่อนรถยนต์ในแต่ละงวดได้ รวมถึงประเมินภาระและหนี้สินอื่นๆ ในแต่ละเดือน

หลังจากผ่านขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ทางธนาคาร ไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงิน ก็จะจัดการนัดคุณมาโอนรถภายใน 30 วัน หลังจากได้รับเอกสาร บวกกับได้รับเงินตามที่ตกลงกันครบถ้วน

จากนี้ คุณก็ชำระค่างวดไปเท่ากันทุกงวด จนกว่าจะหมดสัญญา

เช่าซื้อรถคืออะไร มาทำความเข้าใจกัน

แล้วถ้าผิดนัดชำระหนี้ล่ะ?

ไม่ว่าคุณจะเช่าซื้อรถมือหนึ่ง หรือรถมือสอง หาก “ผิดนัดชำระหนี้” ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ. 2555 ระบุว่า หากผู้เช่าผิดนัดชำระหนี้ 3 งวดติดต่อกัน และได้รับจดหมายแจ้งจากผู้ให้เช่าว่าผิดนัดชำระหนี้ และทวงถามให้ชำระหนี้ภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้ง ถ้าผู้เช่ายังไม่ไปจ่ายเงินภายใน 30 วันตามที่กำหนด ผู้ให้เช่าสามารถยึดรถได้

ซึ่งหากรถคุณที่โดยยึดไป ทางธนาคาร ไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงิน ก็จะส่งรถคุณได้ยังลานประมูล หรือขายทอดตลาด ซึ่งถ้ารถขายได้เกินมูลค่าหนี้ที่เหลืออยู่ คนเช่าซื้อรถก็จะได้เงินส่วนต่างไป แต่ถ้าขายแล้วได้เงินน้อยกว่าหนี้ที่ยังค้างอยู่ คุณก็จะต้องจ่ายหนี้ที่เหลือทั้งหมด

ทางที่ดี (และถ้าเป็นไปได้) แนะนำว่าให้เก็บสะสมเงินดาวน์ไปเรื่อยๆ เพราะยิ่งมีเงินดาวน์มาก ก็ยิ่งช่วยให้คุณจ่ายดอกเบี้ยน้อยลง และเป็นไทได้ไวขึ้นอีกด้วย

เช่าซื้อรถคืออะไร มาทำความเข้าใจกัน

ถ้าผ่อนรถหมดแล้ว ต้องทำอะไรต่อ?

ถ้าคุณผ่อนรถงวดสุดท้ายจากการเช่าซื้อรถหมดแล้ว ทีนี้รถก็จะเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณโดยสมบูรณ์ ก็ดำเนินการไปโอนรถได้ ซึ่งทางธนาคาร ไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงิน จะเตรียมชุดโอนรถและใบมอบอำนาจไว้ให้พร้อม คุณแค่เอาสำเนาบัตรประชาชนกับสำเนาทะเบียนบ้านไปก็พอ

ทางไฟแนนซ์รถอาจส่งเอกสารทางไปรษณีย์มาให้คุณตามที่อยู่ ในกรณีที่ไม่สะดวกเดินทางมาติดต่อยังไฟแนนซ์รถ หรือถ้าสะดวกในการติดต่อไฟแนนซ์รถ แต่ทางที่ดี ไปติดต่อที่ไฟแนนซ์เลยดีกว่า และก็เตรียมค่าดำเนินการ (ค่าโอนรถ) ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละที่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ 1,000 – 3,000 บาท

เมื่อขั้นตอนนี้เรียบร้อยแล้ว เล่มทะเบียนรถของคุณสามารถไปรับได้ที่ธนาคาร ไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงิน หรือจะให้จัดส่งทางไปรษณีย์ก็ได้ ภายใน 4-7 วันทำการ แต่ถ้าต่างพื้นที่ หรือพื้นที่ห่างไกลก็ประมาณ 15 -30 วัน เป็นอันว่าจบพิธี

CARRO X Genie ผ่อนสบายๆ เริ่มต้นเพียง 3,XXX บาท 4 ปี ได้เป็นเจ้าของรถง่ายๆ

หากคุณต้องการเช่าซื้อรถยนต์มือสองมาใช้สักคัน สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ แล้ววันนี้กับ “Genie” หรือ บริษัท จีนี่ ฟินเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ CARRO (คาร์โร) มีโปรโมชั่นล่าสุดอย่าง “Genie Easy Owned” (จีนี่ อีซี่ โอน) เป็นเจ้าของรถคันโปรดของคุณได้ง่ายๆ ผ่อนสบายๆ เริ่มต้นเพียง 3,XXX บาท ต่อเดือน!

สมัครง่าย อนุมัติไว พร้อมรับซื้อคืนหลังจากผ่อนครบตามสัญญา 4 ปี* หากคุณต้องการเลือกคันใหม่มาใช้ก็ได้! และสิทธิพิเศษอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  • ฟรี ดาวน์
  • ฟรี เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง ตลอด 4 ปี
  • ฟรี ค่าแรง ตลอด 4 ปี
  • อุ่นใจรับประกัน 1 ปี หลังการขาย

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

ขั้นตอนการขอสินเชื่อรถมือสอง และเอกสารที่ต้องเตรียม

หลายๆ คน อาจมีความจำเป็นที่ต้องมีรถยนต์ไว้ใช้ส่วนตัว ด้วยความจำเป็นหลายๆ อย่าง เช่น ที่อยู่อาศัยไม่มีรถสาธารณะวิ่งผ่าน ต้องการรถไว้ทำธุรกิจส่วนตัววิ่งขายของ ฯลฯ ซึ่งถ้าต้องซื้อรถใหม่ป้ายแดงเลย อาจจะซื้อไม่ไหว ราคาสูง แต่รถมือสองจะเป็นทางเลือก ทำให้เราได้รถมาใช้ได้เร็วขึ้นในราคาที่เราสามารถซื้อได้

วันนี้จึงอยากจะมาเล่าถึงการซื้อรถมือสอง ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่เราต้องรู้ก่อนจะซื้อ เมื่อตัดสินใจจะซื้อแล้วควรจะต้องรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง หากเราไม่ได้ซื้อเงินสด ต้องการกู้บริษัทไฟแนนซ์ต้องทำอย่างไรบ้าง มาลองศึกษารายละเอียดกันนะคะ

ขั้นตอนการขอสินเชื่อรถมือสอง และเอกสารที่ต้องเตรียม

สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อรถมือสอง

  • ต้องยอมรับให้ได้ว่า รถมือสองมีโอกาสที่เราจะต้องคอยซ่อมบำรุงบ่อยกว่า แต่หากเราซื้อกับผู้ขายที่น่าเชื่อถือ มีการตรวจสภาพรถจากผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้ ก็จะทำให้เรามีความมั่นใจและสบายใจยิ่งขึ้นว่าข้อมูลประวัติของรถนั้นถูกต้อง
  • ควรรู้ข้อมูลทั่วไปของรถที่จะซื้อ เช่น ยี่ห้อรุ่น ปีที่ผลิต ปีที่มีการซื้อขายครั้งแรก เป็นต้น เพื่อให้เราได้เราจะได้ประเมินราคาตลาดของรถที่จะซื้อได้
  • ถ้าสามารถรู้ประวัติการใช้งานของรถที่จะซื้อได้ยิ่งดี เช่น วิ่งมาแล้วเป็นระยะทางเท่าไร ใช้บรรทุกของหนักบ่อยไหม เคยเฉี่ยวชนมาบ้างหรือไม่ รถคันนี้เคยทำประกันไหม เป็นต้น

สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำสินเชื่อซื้อรถมือสอง

  • ภาระหนี้สินที่จะเกิดขึ้น จะอยู่กับเราไปนาน อย่างน้อย 3 ถึง 5 ปี
  • วงเงินสินเชื่อที่จะได้รับอนุมัติ อาจจะน้อยกว่าราคาที่เราจะซื้อ เพราะวงเงินสินเชื่อจะขึ้นอยู่กับ อายุของรถว่าใช้งานมานานแล้วกี่ปี และสภาพรถว่าชำรุดทรุดโทรมแค่ไหน ซึ่งอาจดูได้จาก จำนวนระยะทางที่ใช้งาน สภาพตัวถังภายนอก สภาพตัวถังภายใน และอื่นๆ
  • หากเป็นการซื้อจากเจ้าของรถที่เป็นบุคคลธรรมดา ต้องรู้ว่าเจ้าของเดิมยังผ่อนซื้อรถนั้นอยู่หรือเปล่า แต่ถ้าซื้อจากบริษัทหรือเต็นท์ขายรถที่น่าเชื่อถือ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องนี้
  • บริษัทการเงินที่ให้กู้เงินซื้อรถ (บริษัทไฟแนนซ์) นั้นมีมากมาย ควรหาข้อมูลของบริษัทเหล่านั้นให้ถี่ถ้วนชัดเจน เพื่อเราจะได้สามารถเลือกใช้บริษัทที่เราเชื่อมั่นและไว้ใจได้ หรือในระยะยาวจะทำให้เราเสียผลประโยชน์น้อยที่สุด ในกรณีที่เราซื้อรถมือสองจากบริษัทหรือเต็นรถที่ขายรถมือสอง ส่วนมากเขาจะมีรายชื่อของบริษัทไฟแนนซ์ให้เราเลือกใช้อยู่แล้ว ซึ่งสะดวกดี ไม่ต้องเที่ยวหาข้อมูลและติดต่อขอกู้ด้วยตนเอง

ขั้นตอนการขอสินเชื่อรถมือสอง และเอกสารที่ต้องเตรียม

ขั้นตอนการทำสินเชื่อซื้อรถ 2 ขั้นตอน ดังนี้

1.ขั้นเตรียมการ

  • เตรียมเอกสาร กรณีที่ผู้ซื้อเป็นบุคคลหรือนิติบุคคล จัดเตรียมเอกสารดังนี้
บุคคลธรรมดา นิติบุคคล
บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนาของบุคคลผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล
ทะเบียนบ้านฉบับจริง พร้อมสำเนา ทะเบียนบ้านตัวจริง พร้อมสำเนาของบุคคลผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล
สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (ย้อนหลังไม่เกิน 2 เดือน) รายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement) ของบริษัทย้อนหลัง 6 เดือน
สำเนาบัญชีเงินฝากออมทรัพย์, ประจำ, หรือกระแสรายวันย้อนหลัง 6 เดือน สำเนาทะเบียนการค้า
แผนที่ตั้งที่อยู่อาศัย  สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนของกระทรวงพาณิชย์
แผนที่ที่ทำงาน หนังสือบริคณห์สนธิ
  • เตรียมเงินค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ทางผู้ขายจะแจ้งให้ทราบว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่ต้องเตรียมเพิ่มนอกเหนือจากวงเงินในการทำสินเชื่อ ดังนี้

  • เงินค่าจองรถ หรือเงินมัดจำ (ถ้ามี) เพื่อเป็นการยืนยันกับผู้ขายว่าเราซื้อรถคันนี้แน่นอน และผู้ขายจะไม่ขายรถที่เราต้องการจะซื้อคันนี้ให้คนอื่น ในระห่างที่เรารอผลการตรวจสอบเครดิตการขอสินเชื่ออยู่ ซึ่งเงินจองอยู่ที่ประมาณ 5,00010,000 บาท ขึ้นอยู่กับเต้นท์รถแต่ละที่
  • เงินดาวน์รถ สำหรับการกู้ซื้อรถมือสอง ในส่วนของเงินดาวน์อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ซื้อสามารถกู้เงินมาซื้อรถไต้เต็มจำนวนเท่าราคาที่ตกลงซื้อขาย หรือว่ากู้ได้บางส่วน
  • เงินค่าธรรมเนียมจัดไฟแนนซ์ เป็นค่าดำเนินการด้านเอกสารหรืออื่นๆ ที่ทางเต้นท์หรือผู้ขายช่วยดำเนินการให้เรา ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้ต้องคุยรายละเอียดให้ชัดเจนว่ามีหรือไม่มีอย่างไร ถ้ามีแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้างให้ชัดเจนก่อนที่เราจะทำเรื่องขอกู้เงินซื้อรถ
  • เงินค่าใช้จ่ายในการโอนรถ กรมขนส่งได้กำหนดอัตราค่าโอนหรือค่าอากรซื้อขายที่ร้อยละ 0.5 หรือแสนละ 500 บาท จากราคาประเมิน นอกจากนั้นก็จะมีค่าคำขอ 5 บาท ค่าธรรมเนียมการโอน 100 บาท ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพรถยนต์ 50 บาท ในการโอนรถนี้จะเกิดขึ้นสองครั้ง โดยครั้งแรกจะเป็นการโอนกรรมสิทธิ์จากผู้ขายไปยังบริษัทไฟแนนซ์ ส่วนการโอนครั้งหลังจะเป็นการโอนจากบริษัทไฟแนนซ์ไปยังผู้ซื้อ เมื่อผ่อนชำระเงินกู้ซื้อรถยนต์หมดแล้ว
  • เงินค่าประกัน หรืออาจจะมีค่า ... / ภาษีทะเบียนรถยนต์ ถ้าใกล้หมด ซึ่งโดยปกติไฟแนนซ์จะให้เราทำประกันไว้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เพราะหากไม่มีประกันแล้วเกิดมีอุบัติเหตุขึ้น เราจะต้องรับภาระหนัก เพราะเสียทั้งค่าซ่อมรถ ค่าผ่อนรถ ไหนจะค่าซ่อมรถของคู่กรณีอีก 

สิทธิพิเศษ! สำหรับลูกค้า CARRO เบี้ยประกันภัยราคาพิเศษ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.proprakan.com/promotion-carro-car-insurance/

2.ขั้นดำเนินการ

  • ยื่นเอกสารการขอสินเชื่อรถ เอกสารต่างๆ ที่เราได้จัดเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนแรกให้กับทางบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อพิจารณาเครดิตอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ประมาณ 13 วันทำการ
  • เซ็นสัญญากู้เงิน จะทำในตอนยื่นเอกสารขอสินเชื่อรถเลยก็ได้ หรืออาจจะทำหลังจากผ่านการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อแล้วก็ได้เช่นกัน
  • รับโอนรถ บริษัทไฟแนนซ์จะโทรแจ้งผลการพิจารณาอนุมัติให้กับผู้ขายทราบ เพื่อให้ผู้ขายโทรนัดให้เรามารับรถและรับเอกสารต่างๆ เช่น สำเนาทะเบียนรถ, เอกสารสัญญาต่างๆ, รายการที่จะต้องปฏิบัติหลังจากเป็นหนี้เรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่ต้องทำหลังจากที่ทำสินเชื่อแล้ว

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขการผ่อนชำระให้เข้าใจ จะได้ไม่เกิดปัญหาเรื่องการผิดสัญญาผ่อนชำระ
  • ศึกษาวิธีการคิดค่าปรับหากมีการผ่อนชำระช้า หรือผิดสัญญาการผ่อนชำระ
  • ศึกษาให้เข้าใจว่าเงื่อนไขที่บริษัทไฟแนนซ์สามารถนำมาใช้บังคับยึดรถ มีอะไรบ้าง
  • หาเงินจ่ายค่างวดให้ตรงเวลา

ปัจจุบันรถมือสองกลับมาเป็นที่นิยมในหมู่คนใช้รถ เพราะหากเราเลือกรถดีๆ มีแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ คุณภาพรถดี การเลือกซื้อรถมือสองไปใช้งานก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากเซฟเงินไว้นะคะ

5-Ways-To-Try-Car-Installments

ช่วงนี้เชื่อได้เลยว่า หลายต่อหลายคน มีปัญหาทางการเงินอยู่ ในยุคที่เงินฝืด เงินหายาก ทำมาหากินลำบาก พอคิดจะทำอาชีพ หรือค้าขายอะไรก็ตาม ก็ต้องมีคนทำอยู่ก่อนหน้าแล้ว หรือไม่ก็ต้องเจอคู่แข่ง ที่พร้อมจะทำธุรกิจเหมือนเราตลอด …..

หลายคนที่ทำงานอาชีพอิสระ หรือเป็นคนค้าขาย ถ้าต้องผ่อนรถอยู่ในเวลานี้ รถที่คุณรัก คงกลายเป็นตัวภาระไปเสียแล้ว บางคนมักคิดว่าเดือนนี้จะผ่อนไหวหรือไม่ไหว แล้วถ้าขาดส่งเกิน 3 งวดล่ะ จะโดนยึดรถไปหรือเปล่า! เพราะตามกฎหมายอนุโลมให้ผู้เช่าซื้อ สามารถค้างค่างวดได้เป็นจำนวน 3 งวด หากเกินกว่านั้น บริษัทไฟแนนซ์มีสิทธิ์ยึดรถได้ในทันที

Carro หาคำตอบมาให้ทุกท่าน 5 ข้อ ได้พิจารณาทางออกในตอนนี้แล้วครับ ลองไปอ่านดูกันได้เลย …

5-Ways-To-Try-Car-Installments

1. การขายให้บุคคลอื่น โดยไม่ต้องเปลี่ยนสัญญา

คุณเคยเข้าไปดูตามกลุ่ม Facebook ไหมล่ะ? จะมีประกาศขายรถ หาคนผ่อนต่อ ของคนร้อนเงินอยู่เรื่อยๆ บางคันมีราคาที่ถูกเป็นพิเศษ หรือให้เปล่าเลยก็มี กรณีที่ผู้ขายเพิ่งผ่อนไปได้ไม่กี่งวด แต่จงจำไว้ด้วยว่า การขายรถให้บุคคลอื่นโดยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนสัญญา ชื่อผู้เช่าซื้อยังเป็นคนเดิมอยู่ ค่อนข้างเสี่ยงพอสมควร

กรณีที่คนซื้อรถคุณไปแล้ว เอาไปขายให้คนอื่นต่อ หรือรถหาย ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดชอบเต็มๆ หรือเอารถไปจำนำในบ่อน หรือเอาไปขายให้เต็นท์ต่อ เจ้าของหรือผู้เช่าซื้อรถ ต้องรับปัญหากันไปเต็มๆ! เจ้าของรถอาจจะถูกดำเนินคดีอาญา ในข้อหายักยอกทรัพย์ได้ เพราะกรรมสิทธิ์รถเป็นของไฟแนนซ์ ดังนั้น เจ้าของรถไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาไปขาย

2. การขายให้บุคคลอื่นโดยเปลี่ยนสัญญา

อันนี้เป็นการขายรถโดยผู้ซื้อ และผู้ขาย ไปเปลี่ยนสัญญาใหม่ และนำเงินที่ได้ไปปิดจ่ายไฟแนนซ์ วิธีนี้ปลอดภัยสุด ทั้งคนค้ำประกัน ทั้งผู้เช่าซื้อ เพราะถือว่าเป็นการตัดปัญหาทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง แต่คุณก็อาจจะต้องยอมขายรถถูกมากเป็นพิเศษ หรือให้เปล่าไปก็มี กรณีที่ผู้ขายเพิ่งผ่อนไปได้ไม่กี่งวด

5-Ways-To-Try-Car-Installments

3. ปรับโครงสร้างหนี้

หลายๆ ไฟแนนซ์ในตอนนี้ มีบริการ “ปรับโครงสร้างหนี้” หรือ “รีไฟแนนซ์” สำหรับคนที่ผ่อนรถไม่ไหว โดยขยายเวลาจ่ายค่าเช่าซื้อออกไปอีก ซึ่งโดยมากจะเพิ่มได้สูงสุดอยู่ที่ 48 เดือน เมื่อรวมกับสัญญาเดิมจะต้องไม่เกิน 96 เดือน (เงื่อนไขอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบันการเงิน)

แต่เงื่อนไขนี้ จะต้องผ่อนจ่ายค่างวดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 เดือน และต้องจ่ายค่างวดที่ยังค้างอยู่ก่อน รถต้องมีประกันภัยชั้น 1 รวมไปถึงมีผู้ค้ำประกันทุกกรณี และดอกเบี้ยต่องวด ที่อาจจะต้องจ่ายมากขึ้น เป็นต้น

4. ผ่อนดอกเบี้ยไปก่อน

ถ้าผ่อนรถด้วยเงินต้นไม่ไหวจริงๆ ก็ลองคุยกับทางไฟแนนซ์ดู ว่าผ่อนเฉพาะดอกเบี้ยไปก่อนได้หรือไม่

5-Ways-To-Try-Car-Installments

5. คืนรถ

กรณีผ่อนไม่ไหวจริงๆ ติดค้างหลายงวดมาก และรถก็ยังขายเปลี่ยนสัญญาไม่ได้ ก็ควรนำรถไปคืนไฟแนนซ์ดีกว่า เพราะการคืนรถ คือการเลิกสัญญาเช่าซื้อ ซึ่งไฟแนนซ์ก็จะนำรถคุณไปขายทอดตลาด แต่คุณก็อาจจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ทางไฟแนนซ์อาจเรียกกับคุณในภายหลังได้ ในกรณีที่รถขายทอดตลาดแล้ว โปะหนี้ของคุณไม่หมด

แต่ถ้ายังหลบๆ ซ่อนๆ เอาเก็บไว้ใช้ต่อ หมายศาลอาจส่งมาถึงบ้านได้ ต้องไปชำระค่าเสียหาย ค่าขาดประโยชน์ อื่นๆ รวมถึงเป็นคดีแพ่ง ฐานผิดสัญญาเช่าซื้ออีก

ก็ลองหาทางออกกันดูนะครับ ใครเหมาะสมกับข้อไหน ก็ลองพิจารณาเอา เพราะเศรษฐกิจแบบนี้ เรื่องเงินๆ ทองๆ บอกได้เลยว่า ตัวใครตัวมัน!

ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาของภาพ:

  • Fast Auto Show 2019

“ปัญหา” ของคนไทยส่วนใหญ่ในเวลานี้ คือ “รายจ่าย” มากกว่า “รายได้” เนื่องจากค่าเงินที่เฟ้อขึ้นทุกปี ทำให้รายได้ในแต่ละปี ค่าแรง หรือโบนัสต่างๆ ขึ้นตามกันไปไม่ทัน จนหลายคน “ติดกับดักทางการเงิน” กันเป็นแถว ซึ่งส่วนหนึ่งก็ขาดการวางแผนทางการเงินด้วยล่ะครับ

ยิ่งโควิด-19 มา เศรษฐกิจแทบทุกสาขาอาชีพถูกทำลายกันถ้วนหน้า คนถูกลดเงินเดือน ถูก Leave Without Pay ถูกเลิกจ้างชั่วคราว ถูกเลิกจ้างถาวรเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถหาเงินมาผ่อนรถได้ทัน ก็อาจจะโดนยึด หรือต้องปล่อยไฟแนนซ์ยึดไป เป็นที่ทราบกันดีว่า หากคุณค้างค่างวดเกิน 3 เดือนติดต่อกัน มีผลให้สัญญาเช่าซื้อรถสิ้นสุดลง ไฟแนนซ์มีสิทธิ์ยึดรถเราได้โดยชอบตามกฎหมาย แล้วก็จะเอารถของเราไปขายทอดตลาด

หลายๆ ไฟแนนซ์ เลยให้โอกาสกับคนผ่อนรถ ด้วยการ “ปรับโครงสร้างหนี้” เพื่อให้คนที่ผ่อนรถไม่ไหว หรือจะเหตุสุดวิสัยอะไรก็แล้วแต่ MR.CARRO จะมาอธิบายให้ฟัง ว่าการปรับโครงสร้างหนี้ คืออะไร ถ้าทำแล้วจะได้ประโยชน์อะไร มีข้อดี ข้อเสียตรงไหนบ้าง และดอกเบี้ยคุณต้องจ่ายเพิ่มหรือไม่ มาดูกัน …

Debt-Restructuring-Your-Car

ข้อดีของการปรับโครงสร้างหนี้ คือ ช่วยยืดเวลาให้คุณ ในการหาเงินมาชำระหนี้ออกไปได้ในกรณีที่คุณใช้หนี้ไม่ทันตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้

แต่! เมื่อคุณขายรถล้างหนี้ ขายรถทอดตลาดแล้ว ยังไม่พอล้างหนี้ทั้งหมด (เนื่องจากราคารถที่ขายทอดตลาด ก็ค่อนข้างถูกมากจริงๆ) บวกกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่าขาดประโยชน์, ค่าติดตามทวงถาม, ค่าครอบครองรถขณะรอขายทอดตลาด เป็นต้น คุณก็จะต้องจ่ายหนี้เพิ่ม! ถ้าไม่จ่ายก็โดนยื่นฟ้องร้อง บวกกับมีประวัติค้างชำระกับเครดิตบูโร และทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินไม่ได้ เป็นต้น

ส่วนข้อเสียก็จะมีตรงที่ว่า สถาบันการเงินจะรวมยอดหนี้คงค้างของคุณมาคิดใหม่ พร้อมกับบวกค่าปรับ ค่าเสียเวลาติดตาม และดอกเบี้ยเพิ่มเติมเข้าไป ตรงนี้ล่ะที่คุณต้องเตรียมเงินให้จ่ายมากขึ้นกว่าเดิม

Debt-Restructuring-Your-Car

เงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ มีดังนี้

(ซึ่งในแต่ละที่ อาจมีเงื่อนไขแตกต่างกันไปบ้าง โปรดสอบถามไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงินของท่านอีกครั้ง)

1. รถยนต์ต้องจดทะเบียนรถยนต์ และต่อภาษีประจำปี จนถึงปีปัจจุบัน
2. มีการผ่อนชำระค่างวดมาไม่น้อยกว่า 12 งวด
3. ระยะเวลาขั้นต่ำที่สามารถขยายได้ คือ 48 งวด และสูงสุด โดยรวมกับสัญญาเดิม ไม่เกิน 96 งวด
4. อัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับระยะเวลา ที่ต้องการขยาย ตามที่บริษัทฯ กำหนด
5. ต้องชำระค่างวดค้างและค่าเบี้ยปรับ รวมถึงค่าใช้จ่ายคงค้าง อื่นๆ ก่อนทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้
6. มีผู้ค้ำประกันทุกกรณี
7. แนบสำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 (อายุกรมธรรม์คงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน)
8. นำรถมาถ่ายรูปตัวรถ ถ่ายรูปหมายเลขเครื่อง-หมายเลขตัวถัง

Debt-Restructuring-Your-Car

การปรับโครงสร้างหนี้ จะทำให้หนี้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ยังไม่เป็นหนี้เสีย ถือเป็นการให้โอกาสในการผ่อนชำระ ไฟแนนซ์เองก็ไม่ต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายฟ้องร้องคดีแพ่ง เสียเวลาเอารถมาจอดแช่จนโทรม เพื่อรอขายทอดตลาด แถมได้เก็บดอกเบี้ยจากคุณเพิ่มอีก

ส่วนฝ่ายคุณก็จะได้บริหารเงินให้ลงตัว ในการจ่ายหนี้ และมีเวลาผ่อนได้มากขึ้น (แต่ดอกเบี้ยก็สูงขึ้นไปด้วย) และไม่ต้องเสียรถที่คุณผ่อนไปมากแล้ว นับว่าเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย

ซึ่งมันก็อาจจะดีสำหรับคนที่กำลังถังแตก ในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่กันทั้งโลกครับ …

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในช่วงนี้ สามารถขายคันเก่ากับ CARRO Express ได้ รวดเร็ว! เรายินดีรับซื้อรถของคุณ พร้อมปิดการขายได้ทันที รถติดไฟแนนซ์เราก็รับซื้อ แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothaiและอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

รถมือสอง, เงินดาวน์, ดาวน์รถ

ใครที่กำลังอยากได้รถยนต์มือสอง คงรู้เรื่องการดาวน์รถมาก่อนบ้างอยู่แล้วแน่ๆ แต่อาจจะยังไม่ได้เข้าใจเรื่องหลักการวางเงินดาวน์ รวมถึงการผ่อนชำระเงินส่วนที่เหลือให้กับไฟแนนซ์อย่างลึกซึ้ง

วันนี้ CARRO จะมาเคลียร์ทุกข้อข้องใจ! เงินดาวน์ต้องเตรียมไว้เท่าไหร่? ดาวน์ต่ำจะออกรถได้ไหม? ฟรีดาวน์มีจริงหรือไม่? อ่านแล้วเคลียร์ทุกปัญหาแน่นอน!

 

Q1: เงินดาวน์คืออะไร? ทำไมต้องดาวน์?

A: เงินดาวน์ ก็คือ เงินสด ส่วนที่คุณต้องชำระเมื่อทำสัญญากู้ยืม โดยมีการตกลงกับไฟแนนซ์ไว้ว่า คุณจะทำการผ่อนชำระส่วนที่เหลือเป็นงวดๆ ตามจำนวนงวดที่ตกลงกับไฟแนนซ์ไว้ เงินดาวน์จะถูกกำหนดไว้เป็นเปอร์เซ็นต์จากราคารถ เช่น 10% 15% หรือ 20% จากราคารถ เป็นต้น

 

Q2: สนใจรถมือสองราคา XXX,XXX ต้องมีเงินดาวน์เท่าไหร่?

A: ปกติแล้ว เงินดาวน์รถทั่วไป (รถตลาด) จะอยู่ที่ประมาณ 10% จากราคารถ แต่จำนวนมาก – น้อยของเงินดาวน์ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงจากมุมมองของไฟแนนซ์ด้วย

รถมือสองประเภทที่ไฟแนนซ์มองว่ามีความเสี่ยงสูงก็ได้แก่ รถที่มีอายุการใช้งานเกิน 7  ปีขึ้นไป รถยุโรปแพงๆ ที่นำเข้ามา รถที่คนเล่นน้อย รถติดแก๊ส ฯลฯ เป็นต้น

ซึ่งพอไฟแนนซ์มองว่ามีความเสี่ยงสูงปุ๊บ สิ่งที่บริษัทหรือสถาบันการเงินที่รับจัดไฟแนนซ์จะทำได้ก็มีอยู่ 2 ทาง คือ 1. ไม่อนุมัติสินเชื่อ หรือ 2. ให้วางเงินดาวน์สูงๆ และกำหนดจำนวนงวดในการผ่อนชำระไว้น้อยๆ (เพื่อจะได้มียอดจัดน้อยๆ และให้ลูกค้าผ่อนให้จบไปไวๆ เพื่อลดความเสี่ยงของไฟแนนซ์นั้นเอง)

เงินดาวน์

Q3: ฟรีดาวน์คืออะไร?

A: หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า “ฟรีดาวน์” จากเต้นท์ หรือจากบริษัทที่รับจัดไฟแนนซ์บางแห่งมาก่อน คำว่า “ฟรีดาวน์” ในที่นี้ อธิบายง่ายๆ ก็คือ คุณไม่ต้องวางเงินดาวน์ให้ไฟแนนซ์ เพราะไฟแนนซ์ให้คุณกู้ได้เต็มวงเงิน

นั้นแปลว่า คุณไม่ต้องหาเงินสดไว้ให้ไฟแนนซ์ แต่คุณก็จะมีจำนวนงวด/ยอดผ่อนต่องวดสูงกว่าปกติ และเสียดอกเบี้ยให้ไฟแนนซ์มากกว่า (เงินต้นสูงกว่า/ผ่อนชำระนานกว่า ดอกเบี้ยก็ย่อมแพงกว่า)

ฟรีดาวน์ ถือว่าเป็นโปรโมชั่นที่ดีทีเดียวสำหรับคนที่ไม่พร้อมจ่ายเงินก้อน เพราะในบางกรณี คนซื้อสามารถไปตัวเปล่าแล้วขับรถกลับบ้านได้เลยด้วยซ้ำ แต่ถามว่าทุกกรณีหรือไม่ที่ไฟแนนซ์จะให้กู้เต็มวงเงิน? คำตอบคือ “ไม่” คนที่จะได้ฟรีดาวน์จริงๆ ก็คือคนที่มีประวัติทางการเงินดี และรถคันที่ซื้อก็ต้องไม่ใช่รถที่ไฟแนนซ์มองว่ามีความเสี่ยงสูงดังที่อธิบายไว้ข้างต้นด้วย

Q4: มีเงินดาวน์น้อย / มีเงินเดือนน้อย จะจัดไฟแนนซ์ผ่านไหม?

A: ปกติแล้ว ไฟแนนซ์แต่ละแห่งก็จะมีเรทการวางเงินดาวน์ที่ตั้งไว้เป็นมาตรฐาน แต่ก็จะมีบางกรณีที่ไฟแนนซ์จะยอมอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ที่มีเงินดาวน์ไม่มาก และมีเงินเดือนน้อย เช่น

– ผู้ขอสินเชื่อมีเงินเดือนเป็น 2 เท่าของค่างวด เช่น ค่างวดเดือนละ 10,000 บาท ผู้ขอสินเชื่อมีเงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไป เป็นต้น
แต่ หากผู้ขอสินเชื่อมีหนี้สินอื่นๆ เช่น ต้องผ่อนบ้านเดือนละ 8,000 ไฟแนนซ์จะเอาภาระการเงินส่วนนี้ไปหักลบเงินเดือนของผู้ขอสินเชื่อด้วย เช่น นาย A เงินเดือน 20,000 ต้องผ่อนบ้านเดือนละ 8,000 เงินเดือนที่แท้จริงของนาย A ก็คือ 12,000 บาท ซึ่งน้อยเกินไปมากๆ สำหรับการจ่ายค่างวดรถมือสองต่อเดือน

– กู้ร่วม การกู้ร่วมเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่มีรายรับต่อเดือนไม่มาก และไม่มีเงินก้อนใหญ่ไปวางดาวน์เยอะๆ
ตัวอย่าง นาย B เงินเดือน 15,000 บาท หากไปขอสินเชื่อรถมือสอง อาจขอได้ยากเพราะไฟแนนซ์มองว่าอาจรับภาระทางการเงินไม่ไหว แต่หากนาย B ยื่นกู้ร่วมกับ นาง D ผู้เป็นภรรยา ซึ่งมีเงินเดือน 20,000 บาท และมีประวัติทางการเงินดี โอกาสที่ไฟแนนซ์จะอนุมัติก็จะสูงขึ้นมาก

เงินดาวน์

Q5: มีรายได้ xx,xxx ต่อเดือนจะผ่อนรถราคา xxx,xxx ได้หรือ

ไม่?

A: นี่คือคำถามคลาสสิกของการจัดไฟแนนซ์เลยทีเดียว การผ่อนได้หรือไม่ได้ (อีกนัยหนึ่งคือไหวหรือไม่ไหว) นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการจัดไฟแนนซ์ผ่าน หรือมีเงินพอสำหรับการวางดาวน์เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณในการรับภาระในการจ่ายค่างวดแต่ละเดือนด้วย เล่าให้ฟังเฉยๆ อาจไม่เห็นภาพ TC จึงขอยกตัวอย่างดังนี้

ตัวอย่าง
นาย A เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง มีรายรับต่อเดือน 20,000 บาท นาย A สนใจอยากซื้อรถ Honda Civic มือสองซึ่งประกาศขายในราคา 500,000 บาท นาย A จึงวางเงินดาวน์ขั้นต่ำคือ 10% และตกลงจัดไฟแนนซ์ในส่วนที่เหลือ (450,000 บาท) เป็นจำนวน 60 งวด (5 ปี) ซึ่งในการขอสินเชื่อจัดไฟแนนซ์ของนาย A ทางบริษัทที่รับจัดไฟแนนซ์คิดดอกเบี้ย 5% ต่อปี

Q6: จะซื้อรถมือสอง ต้องวางดาวน์เท่าไหร่จึงจะดีที่สุด?

A: การวางดาวน์ที่ดีที่สุดก็คือ วางดาวน์ด้วยเงินจำนวนสูงสุดที่จ่ายออกไปแล้วคุณไม่เดือดร้อน

ข้อดีของการวางดาวน์สูงที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ คุณจะขอจัดไฟแนนซ์ได้ง่ายกว่ามาก เพราะคุณจะกลายเป็นลูกค้าที่เครดิตดีในสายตาไฟแนนซ์ และข้อต่อมาที่จะเป็นประโยชน์ต่อคุณอย่างยิ่งก็คือ ยิ่งวางดาวน์มากก็จะยิ่งผ่อนน้อย ยิ่งผ่อนน้อยและผ่อนระยะสั้น ก็จะเสียดอกเบี้ยและ VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) น้อย ดังที่จะเห็นจากการคำนวณค่างวดต่อเดือนข้างต้นไปแล้วว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถมือสองถูกหรือแพงก็คือ ระยะเวลาที่ผ่อน และจำนวนเงินต้นที่ขอกู้ หากสามารถทำให้ 2 ปัจจัยนี้ลดน้อยลงได้ การซื้อรถของคุณก็จะยิ่งคุ้มค่า

จบไปแล้วสำหรับความรู้เรื่องการดาวน์รถมือสอง หากอ่านแล้วมีข้อสงสัย หรืออยากทราบข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่เพจ FB: carrothailand หรือที่ Line: carrothailand เลย!