LPG-CNG-Car-And-Insurance

ช่วงนี้คนที่ใช้รถหลายคนเริ่มรู้สึกกันได้แล้วว่า ราคาน้ำมัน ที่เคยร่วงไปในเมื่อช่วงโควิด-19 ระบาดอย่างมากจากความต้องการที่ลดลงฮวบฮาบ แต่ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่แบบนี้ ราคาน้ำมันกลับไม่ได้ลดลงตามไปด้วย แต่กลับพุ่งสูงขึ้นจนคนใช้รถมากๆ ต่างเดือดร้อนกันเป็นแถว

เลยทำให้หลายเริ่มต้องหาทางออกกับพลังงานทางเลือก ด้วยการนำรถติดแก๊ส LPG มาใช้ หรือไปติดแก๊สรถยนต์แทน ทั้งแบบ LPG และแก๊ส CNG (หรือ NGV) ที่อาจจะได้รับความนิยมน้อยกว่ารถติดแก๊ส LPG แต่ถ้าคุณใช้รถวันละหลายสิบกิโลเมตร ก็ยังดูคุ้มค่ากว่าใช้น้ำมันเพียวๆ

แต่หลายคนก็ใช้งานรถกันอย่างเดียว ไม่ดูแลรักษา จนเกิดข่าวรถติดแก๊สไฟไหม้กันเป็นประจำ ทำให้หลายเริ่มวิตก เอารถไปทำประกันภัยดีกว่า

และคำถามที่ตามมาอยู่เสมอคือ รถติดแก๊ส LPG ทำประกันภัยได้หรือไม่ ต้องแจ้งบริษัทประกันภัยหรือเปล่า เบี้ยประกันเพิ่มไม่หรือไม่ MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟังกัน …

LPG-CNG-Car-And-Insurance

1. ทำประกันภัยชั้นไหนดี?

ปกติแล้ว รถยนต์ติดแก๊ส LPG / CNG ทำประกันภัยได้เหมือนรถยนต์ทั่วไป ซึ่งถ้ารถคุณเพิ่งไปติดแก๊ส LPG หรือ CNG มา ก็ควรแจ้งทางบริษัทประกันภัยให้ทราบว่า ติดตั้งแก๊สรถยนต์เพิ่มเติม เพื่อที่ทางบริษัทฯ จะได้ให้ความครอบคลุมเพิ่มเติม

โดยปกติ ประกันภัยรถยนต์ที่นอกจากจะคุ้มครองทั้งกรณีรถชน สูญหาย และยังรวมถึงรถไฟไหม้ด้วย ได้แก่

– ประกันภัยชั้น 1
– ประกันชั้น 2
– ประกันชั้น 2+

หากใครที่กำลังคิดใช้รถติดแก๊ส LPG หรือ CNG หากทำประกันชั้น 3 หรือ3+ ไว้ จะไม่ได้รับการคุ้มครองเหตุไฟไหม้ทุกกรณี หากเกิดเหตุก็จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายในส่วนนี้เอง เว้นเสียแต่ว่ารถคุณถูกคู่กรณีชนจนเกิดไฟไหม้ ถ้าคุณเป็นฝ่ายถูก คุณสามารถเรียกเคลมจากบริษัทประกันของคู่กรณีได้

LPG-CNG-Car-And-Insurance

2. เบี้ยประกันภัย จ่ายเพิ่มหรือไม่

แน่นอนว่า คุณก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยเพิ่ม เนื่องจากเป็นการติดตั้งดัดแปลงเพิ่มเติม บริษัทประกันภัยจึงต้องคิดในส่วนที่เพิ่มเติมเข้าไปด้วย แต่รถคุณก็จะได้ทุนประกันรถเพิ่มขึ้นด้วย เวลาเกิดปัญหาก็สามารถเคลมประกันภัยได้

LPG-CNG-Car-And-Insurance

3. ตรวจสภาพแก๊สบ่อยๆ ปลอดภัยสุด

ถ้าคุณกำลังใช้รถติดแก๊ส LPG / CNG ในเวลานี้ แม้ว่าจะต้องถูกบังคับให้ตรวจสภาพแก๊สรถยนต์ ก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปีทุกปีแล้ว แต่ก็อย่าลืมหาโอกาสตรวจระบบแก๊สรถยนต์ด้วยตัวเองสม่ำเสมอนะครับ

โดยตรวจดูตามข้อต่อหม้อต้มแก๊ส วาล์วแก๊ส ถังแก๊ส ท่อยางต่างๆ ดูว่ามีกลิ่นออกมาหรือเปล่า หรือใช้น้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างจาน ลูบตามข้อต่อดูเบื้องต้น ว่ามีแก๊สรั่วซึมตามข้อต่อหรือไม่ ที่สำคัญ อย่าลืมเปลี่ยนกรองแก๊สหม้อต้มทุกๆ 20,000 กิโลเมตร พร้อมตรวจเช็กกล่อง ECU หลังติดตั้งแก๊สไปแล้วทุกๆ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร

และเมื่อใช้รถจนถึงระยะ 40,000 – 60,000 กิโลเมตร ก็อย่าลืมไปตั้งวาล์ว และถังแก๊สอายุครบ 10 ปี ก็ต้องตรวจสภาพถังแก๊สด้วยครับ

ที่สำคัญ เมื่อติดตั้งแก๊ส LPG / CNG เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมแจ้งกรมการขนส่งทางบก เมื่อลงเล่มให้เรียบร้อยนะครับ เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย และได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยครับ

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

แต่ถ้าใครจำเป็นต้องใช้เงินเยอะ ก็เอารถที่ไม่ขับแล้ว มาขายรถที่ CARRO สิ! เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Gasohol-91-Phased-Out-In-Thailand

กระทรวงพลังงาน เตรียมผลักดันการใช้แก๊สโซฮอล์ E20 ให้เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานของประเทศ เพื่อช่วยยกระดับราคามันสำปะหลังและอ้อย คาดเริ่มประกาศใช้ E20 เป็นน้ำมันเบนซินหลัก และยกเลิกผลิตแก๊สโซฮอล์ 91 ในเดือนมิถุนายนนี้ ก่อนจะยกเลิกจำหน่ายในวัยที่ 1 กันยายน 2563

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2563 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดให้กรมธุรกิจพลังงาน เตรียมพร้อมที่จะให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานกลุ่มเบนซิน ได้ภายในมิถุนายนนี้ เพื่อยกระดับราคามันสำปะหลังและอ้อย ที่ปัจจุบันมีการนำมาใช้ผลิตเป็นเอทานอลคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 27 ของการผลิตเอทานอลทั้งหมด หลังจากก่อนหน้านี้ประกาศให้ดีเซล B10 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานเมื่อ 1 มกราคม 2563 เพื่อสนับสนุนราคาปาล์ม

ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงานได้หารือกับน้ำมันของเอกชน เบื้องต้นสรุปที่จะกำหนดให้โรงกลั่นน้ำมันเลิกการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2563 ก่อนจะยกเลิกการจำหน่ายหน้าปั๊มน้ำมัน มีผลภายในวันที่ 1 กันยายน 2563 เพื่อผลักดันให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันเบนซินฐานของประเทศ

Gasohol-91-Phased-Out-In-Thailand

โดย น้ำมันแก๊สโซฮอล 91 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่มาจากน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว มาผสมกับเอทานอล หรือเอทิแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ในอัตราส่วน 10 % จึงได้ออกมาเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอลออกเทน 91 และยังคงคุณสมบัติในการใช้งานกับเครื่องยนต์ เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินออกเทน 91

นับตั้งแต่ภาครัฐ ประกาศยกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 ไปในปี 2556 มาจนถึงน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ยกเลิกในปี 2563 แล้ว รถเก่า รถมือสองของใครหลายๆ คน ที่ไม่ได้รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 จะมีปัญหาหรือไม่? ในการใช้งาน

มาดูกันว่า 3 ทางออกของรถเก่า ต้องทำอย่างไรกันบ้าง

Gasohol-91-Phased-Out-In-Thailand

1. เปลี่ยนชนิดน้ำมัน เป็นแก๊สโซฮอล์ 95 หรือจูนเครื่องยนต์ให้รองรับ E20/E85

หากน้ำมันรถคุณเป็นรถรุ่นเก่า (หลังปี 1995 ขึ้นไป หรือเครื่องยนต์หัวฉีด) MR.CARRO ขอแนะนำให้รถคุณใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ทดแทน เนื่องจากยังคงมีการจำหน่ายตามปกติ และมีราคาที่สูงกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 เพียงนิดเดียว แถมให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้นด้วยซ้ำไป เนื่องจากมีออคเทนที่มากกว่า

น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่มาจากน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว มาผสมกับเอทานอล หรือเอทิแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ในอัตราส่วน 10 % เพื่อทดแทนสาร MTBE (Methyl Tertiary Butyl Ether) จึงได้ออกมาเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล ออกเทน 95 และยังคงคุณสมบัติในการใช้งานกับเครื่องยนต์ เช่นเดียวกับน้ำมันเบนซินออกเทน 95

Gasohol-91-Phased-Out-In-Thailand

บางคันอาจจะต้องการความประหยัด ก็สามารถไปติดกล่องจูนเครื่องยนต์ ให้สามารถรองรับ น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 หรือ E85 ได้ การติดกล่องก็เพื่อจ่ายน้ำมันให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งแก๊สโซฮอล์ E85 ก็เป็นราคาน้ำมันที่ถูกที่สุดในเวลานี้ (15.29 บาท ณ วันที่ 20 มีนาคม 2563) ช่วยให้สามารถประหยัดเงินได้มาก

แต่ก็แลกกับการสิ้นเปลืองที่มากขึ้น และท่อน้ำมันที่เสื่อมสภาพไวขึ้นด้วย เพราะแอลกฮอลล์ สามารถกัดซึมเข้ารอยปริแตกของท่อน้ำมันได้มากกว่า และต้องเปลี่ยนหัวฉีดใหม่เพื่อลดการอุดตันอีกด้วย

Gasohol-91-Phased-Out-In-Thailand

2. ติดแก๊ส LPG

การติดแก๊ส LPG ในช่วงที่ราคาน้ำมันลดลงฮวบๆ แบบนี้ หลายคนอาจจะคิดว่าเพื้ยนหรือเปล่า? ติดแก๊สแล้วเวลาขายต่อ คนมองว่ารถต้องใช้งานเยอะแน่ๆ ราคาตก เครื่องยนต์ร้อนมากกว่าปกติ ต้องดูแลระบบแก๊ส หม้อต้ม เครื่องยนต์ ต้องตั้งวาล์ว เปลี่ยนซีลวาล์ว แหวนลูกสูบ ฯลฯ เร็วกว่ารถทั่วไป ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องไวขึ้น แถวกลัวรถไฟไหม้ด้วย

แต่ที่จริงแล้ว การติดแก๊สก็มีข้อดีอยู่หลายอย่างเช่นกัน เช่น ราคาที่ถูกกว่าน้ำมันมาก (คุณคิดหรือ ว่าราคาน้ำมันจะลงต่ำแบบนี้ตลอดไป) รวมถึงให้ออคเทนเครื่องยนต์ที่มากกว่า (ประมาณออคเทน 105) ทำให้การเผาไหม้ที่สมบูรณ์กว่า

ซึ่งมันจะคุ้มค่ามาก ถ้าคุณเป็นคนที่ใช้รถเยอะๆ เมื่อหักลบรายจ่ายแล้ว การติดแก๊สรถยนต์ อาจทำให้คุณเหลือเงินส่วนต่างไว้ดูแลเครื่องยนต์อีกเยอะเลย ยังไงก็คุ้ม

Gasohol-91-Phased-Out-In-Thailand

3. เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่

สำหรับรถยนต์รุ่นที่เก่ามากๆ จนน้ำมันไม่รองรับการใช้งานของเครื่องยนต์สักอย่าง อีกทั้งถังน้ำมันยังเป็นเหล็กอีก การเปลี่ยนเครื่องยนต์ก็ดูจะเป็นทางออกที่ดี ของคนที่ไม่ยึดกับกับการ “เน้นเดิมๆ” นัก หรือเครื่องยนต์ที่หาอะไหล่เริ่มยาก กำลังตก ถังน้ำมันแบบเหล็ก ไม่รองรับกับการเติมแก๊สโซฮอล์

เพราะเครื่องยนต์รถรุ่นใหม่ แม้ว่าจะเป็นของเก่าเซียงกงก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้หัวฉีดในการจ่ายน้ำมัน มากกว่าเครื่องยนต์แบบเก่าที่ใช้ระบบคาร์บูเรเตอร์จ่าน้ำมัน ที่ต้องหาคนจูนเก่งๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ และก็ให้กำลังเครื่องยนต์ กับการดูแลรักษาที่ง่ายกว่าเครื่องยนต์แบบเก่าๆ

ส่วนใครที่อยากขายรถเก่า เพื่อไปซื้อรถปีใหม่ขึ้น ที่รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน