หลายคนที่มีรถยนต์คงรู้ถึงความสำคัญของการต่อภาษีรถยนต์อย่างดี เพราะถ้าเราไม่ต่อภาษีรถยนต์ อาจจะเจอค่าปรับที่จ่ายล่าช้า และการใช้รถยนต์ที่ขาดการต่อภาษีรถนั้น มีความผิดอาจมีโทษปรับสูงถึง 20,000 บาท

หากคุณต้องการไปชำระภาษีรถยนต์ประจำปีด้วยตัวเอง เดี๋ยวนี้ไม่ยุ่งยากแล้วครับ Mr.Carro จะมาแนะนำวิธีต่อภาษีรถด้วยตัวเอง ง่ายนิดเดียว พร้อมสถานที่สำนักงานขนส่งต่างๆ ในกรุงเทพฯ หรือในห้างสรรพสินค้า ในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ชำระภาษีรถได้เช่นเดียวกัน

ใครที่เป็น “มือใหม่” ในการต่อภาษี อาจไม่แน่ใจว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เราได้ลิสต์มาให้คุณแล้ว ตามด้านล่างนี้เลย …

เอกสารที่ต้องใช้ในการต่อภาษีรถยนต์ มีดังนี้

  • หนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียน) หรือสำเนาเล่มทะเบียนรถ
  • เอกสารการจัดทำประกันภัย ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 (ส่วนท้าย พ.ร.บ. หรือ สำเนาหน้าตาราง พ.ร.บ. ที่ยังไม่หมดอายุ อย่างน้อย 3 เดือน)
  • หลักฐานการผ่านการตรวจสภาพรถ จาก ตรอ. (เฉพาะรถที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป)
  • หนังสือรับรองการตรวจ และทดสอบส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง (เฉพาะรถติดแก๊ส LPG และ NGV)

การต่อภาษีรถยนต์ ง่ายๆ ดังนี้

  • นำรถไปตรวจสภาพ (กรณีรถอายุเกิน 7 ปี และในกรณีที่รถจักรยานยนต์ อายุการใช้งาน 5 ปี ขึ้นไป) ณ งานตรวจสภาพรถ ของสำนักงานขนส่งพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ หรือสำนักงานขนส่งในจังหวัดนั้นๆ หรือ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) เมื่อได้ใบตรวจสภาพรถผ่านแล้ว ก็ไปจ่ายภาษีได้เลย
  • ชำระเงินค่าภาษีรถ ณ ช่องทางการเสียภาษีต่างๆ
  • รับใบเสร็จค่าภาษีรถ + เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และเล่มทะเบียนรถคืน

แต่หากคุณไม่มีเวลาไปต่อภาษีที่ขนส่ง ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเพราะ Carro จะแนะนำสถานที่ที่รองรับการต่อภาษีรถยนต์ให้กับคุณเอง

MOT-Service-Center

ศูนย์บริการร่วมคมนาคม เชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน

ศูนย์บริการร่วมคมนาคม โดย กรมทางหลวงชนบท มี 19 หน่วยงานจากสังกัดกระทรวงคมนาคม ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง มาให้บริการประชาชน ณ จุดเดียวกัน เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30 – 16.30 น. หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-212-5644-45

BAAC-Thailand

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

ต่อภาษีรถยนต์ ได้ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา โดยเตรียมเอกสารตามข้างต้นไปให้พร้อม

Thailand-Post

ไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ

คุณสามารถชำระภาษีรถยนต์ได้ที่เคานเตอร์ไปรษณีย์ไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยเตรียมเอกสารตามข้างต้นไปให้พร้อม

Pay-Car-Tax-At-Holiday

ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี : Shop Thru for Tax

ห้าง Big C

คุณสามารถชำระภาษีรถยนต์ได้ที่ห้าง Big C ได้ ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามโครงการ ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี : shop Thru for Tax รวมทั้งหมด 11 สาขาด้วยกัน คือ สาขาบางบอน, บางปะกอก, เพชรเกษม, อ่อนนุช, สุวินทวงศ์, รัชดาภิเษก, สุขาภิบาล 3, ลาดพร้าว, รามอินทรา, สำโรง และสมุทรปราการ เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น.

ห้างสรรพสินค้า Central

สำหรับที่ห้างสรรพสินค้า Central จะมีให้บริการ 3 สาขา ที่คุณสามารถชำระภาษีรถยนต์ได้ คือ เซ็นทรัลศาลายา, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัล Westgate เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

ศูนย์การค้า Paradise Park สาขาศรีนครินทร์

ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี : shop Thru for Tax ในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ศูนย์การค้า Paradise Park สาขาศรีนครินทร์ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 18.00 น.

Counter-Service-7-11

 7-11 (เซเว่นอีเลฟเว่น) / Counter Service (เคานเตอร์ เซอร์วิส)

ต่อภาษีรถยนต์ที่ 7-11 (เซเว่นอีเลฟเว่น) ก็ถือว่าสะดวกสบายเช่นกัน เพราะมีสาขามากมายอยู่ทั่วประเทศ เพียงแค่เตรียมเอกสารในการต่อภาษีให้ แจ้งพนักงานว่ามาต่อภาษีรถประเภทไหน ซึ่งต่อได้ทั้งรถยนต์ และ รถมอเตอร์ไซต์ ยื่นเอกสาร เตรียม พรบ. ไว้ให้พร้อม (หรือซื้อที่ร้านก็ได้)

ชำระค่าธรรมเนียมในการต่อภาษีตามจำนวนให้ครบเรียบร้อย แจ้งที่อยู่ในการรับเอกสารกับทาง 7-11 พร้อมรับหลักฐานในการต่อภาษี โดยทาง 7-11 จะทำเรื่องถึง กรมการขนส่งทางบก เมื่อเสร็จเรียบร้อย ใบเสร็จพร้อมป้ายวงกลม จะถูกจัดส่งไปตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ใช้เวลาประมาณ 10 วัน หลังจากวันที่ชำระเงิน

Play-Mobile-Phone-Near-Sighted

Application / Mobile Banking

และยังต่อภาษีรถได้ง่ายๆ ผ่านระบบแอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet หรือ Mobile Banking ของธนาคารต่างๆ ได้

*เบื้องต้นรองรับเฉพาะรถที่ไม่เข้าข่ายต้องนำรถไปตรวจสภาพ อาทิ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้), รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ) ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่ได้เกิน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก ที่ไม่มีภาษีค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 1 ปี ไม่ถูกอายัดทะเบียน ไม่ใช่รถที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทก๊าซ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้

ซึ่งนอกจากสถานที่ที่ได้กล่าวมาทั้งหมด คุณยังสามารถที่จะยื่นขอต่อภาษีแบบออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ของ กรมการขนส่งทางบก* หรือจะไปที่สำนักงานพื้นที่ต่างๆ เพื่อใช้บริการเลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ได้อีกด้วย

*กรมการขนส่งทางบก จะจัดส่งใบเสร็จรับเงิน และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี ให้ผู้ชำระเงินทางไปรษณีย์ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน โดยมีค่าจัดส่งเอกสาร 32 บาททั่วไทย

อย่างไรก็ตาม สถานที่รองรับการต่อภาษีที่เราได้กล่าวมาทั้งหมดนั้น ส่วนใหญ่ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ และทุกที่มีความสะดวก สบาย เท่ากันหมด ไม่ว่าจะเลือกต่อที่ไหนก็ตาม แค่เลือกที่ใกล้บ้านคุณ รวมถึงวันที่ว่างที่จะไปต่อภาษี เพียงเท่านี้การต่อภาษีประจำปี ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของคุณดูวุ่นวายขึ้นเลย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

1/9/2017

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

อย่างที่รู้กันว่า “พ.ร.บ.รถยนต์” ที่คุณต้องควักเงินจ่ายทุกปี เมื่อต่อภาษีป้ายทะเบียนนั้น เป็นการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับประเภทที่สาม แต่เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าเจ้า พ.ร.บ.รถยนต์ มันมีสิทธิประโยชน์อย่างไรเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และคุณสามารถเบิกในกรณีใดได้บ้าง ซึ่งวันนี้ CARRO จะมาอธิบายเป็นข้อๆ ให้คุณเข้าใจได้ไม่ยากดังนี้

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

ภาพจาก ภาพจาก พลหฤษฏ์ จันทกล มิตรแท้ประกันภัย

ใครมีหน้าที่ต้องทำประกันภัย พ.ร.บ. รถยนต์?

ได้แก่ เจ้าของรถ ผู้ครอบครองรถในฐานะผู้เช่าซื้อรถ และผู้นำรถที่จดทะเบียนในต่างประเทศเข้ามาใช้ในประเทศ การฝ่าฝืนไม่จัดให้มีประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 กฎหมายกำหนดโทษปรับไว้ไม่เกิน 10,000 บาท

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

ภาพจาก @Ammye_my

ใครที่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.รถยนต์?

ผู้ประสบภัย หมายถึง บุคคลที่ประสบภัยจากรถ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร คนเดินเท้า หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย ก็จะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.รถยนต์

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

ภาพจาก ขุนเทียน 322 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

แล้วถ้าเกิดกรณี เมาแล้วขับ พ.ร.บ. รถยนต์ จ่ายหรือไม่?

คำตอบคือ พ.ร.บ.รถยนต์ ต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับคุณ ไม่ว่าคุณจะเมามากแค่ไหน และถึงแม้ว่าในขณะนั้นคุณจะไม่มีใบขับขี่ก็ตาม แต่ พ.ร.บ.รถยนต์ จะคุ้มครองแค่ตัวบุคคลเท่านั้น กรณีรถยนต์เสียหายจะไม่รับผิดชอบ

ถึงอย่างไรก็ตาม เวลาเมาก็ไม่ควรขับขี่รถ เพราะถ้าพูดถึงโทษตามกฎหมายกับค่าเสียหายที่จะได้รับ ถ้าเทียบแล้วมันไม่คุ้มกันเสียเลย

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

ภาพจาก NOILAB55

ตาม พ.ร.บ. รถยนต์ คุ้มครองคุณด้วยจำนวนเงินเท่าไร และกรณีใด?

ผู้ประสบภัยจะได้รับความคุ้มครองในความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ และเป็นค่าปลงศพในกรณีเสียชีวิต โดยที่ไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด โดยชดใช้ให้แก่ผู้ประสบภัย หรือทายาทของผู้ประสบภัย ภายใน 7 วัน นับแต่ได้รับคำร้องขอค่าเสียหายดังกล่าว เรียกว่า “ค่าเสียหายเบื้องต้น” โดยมีจำนวนเงิน ดังนี้

1. กรณีบาดเจ็บ จ่ายตามจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อหนึ่งคน

2. ส่วนกรณีผู้ประสบภัยได้รับความเสียหายต่อร่างกาย (ทุพพลภาพ) อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ จะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น จำนวน 35,000 บาท ต่อหนึ่งคน

(ก) ตาบอด
(ข) หูหนวก
(ค) เป็นใบ้หรือเสียความสามารถในการพูด หรือลิ้นขาด
(ง) สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์
(จ) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว
(ฉ) เสียอวัยวะอื่นใด
(ช) จิตพิการอย่างติดตัว
(ซ) ทุพพลภาพอย่างถาวร

3. กรณีบาดเจ็บตาม ข้อ 1. และต่อมาทุพพลภาพตาม ข้อ 2. รวมกันแล้วจะไม่เกิน 65,000 บาท ต่อหนึ่งคน

4. กรณีเสียชีวิตจะได้รับการชดใช้เป็นค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการจัดการศพ จำนวน 35,000 บาท ต่อหนึ่งคน

5. กรณีเสียชีวิตภายหลังการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอันจำเป็นเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงตามข้อ 1 รวมกันไม่เกิน 65,000 บาท ต่อหนึ่งคน

ส่วนกรณีเกิดรถเสียหายตั้งแต่ 2 คันขึ้นไป จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นอย่างไรบ้าง?

กรณีรถตั้งแต่ 2 คันขึ้นไปที่ก่อให้เกิดความเสียหาย (เฉี่ยวชนกัน) เป็นเหตุให้ผู้ซึ่งอยู่ในรถไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารก็ตาม หากได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จะจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยซึ่งอยู่ในรถคันที่ทำ พ.ร.บ. แต่ถ้าผู้ประสบภัยเป็นบุคคลภายนอกไม่ได้อยู่ในรถคันใดคันหนึ่ง โดยจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยโดยเฉลี่ยจ่ายในอัตราส่วนที่เท่ากัน

ประกันภัยรถยนต์ตาม พ.ร.บ. เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้

ภาพจาก กรมทางหลวง

เคลมง่าย เซฟขั้นตอนไว้เลย จะได้ไม่พลาด!

1. แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวัน

2. เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล (เมื่อการรักษาเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมขอเอกสารจากโรงพยาบาลด้วยนะ)

  • ใบรับรองแพทย์
  • ใบเสร็จรับเงิน

3. นำส่งเอกสารต่อบริษัทประกันภัยที่ซื้อ พ.ร.บ. เพื่อขอเบิกค่ารักษาพยาบาล ดังนี้

  • บันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
  • ใบรับรองแพทย์
  • ใบเสร็จรับเงิน
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น ยังมีในส่วนค่าสินไหมทดแทน และสำรองจ่ายอีกด้วย ทำให้รู้ว่า พ.ร.บ. ที่เราจ่ายทุกๆ ปีนั้น สำคัญแค่ไหน แล้วอย่าลืมไปต่อ พ.ร.บ. กันด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้ พ.ร.บ. หาซื้อได้ง่ายมาก แม้แต่ พ.ร.บ. รถยนต์ออนไลน์ ก็ยังมีให้เลือกซื้อกันเพียบ เพราะถ้าไม่ต่ออาจเจอโทษปรับหลายพันบาทเมื่อคุณตำรวจขอดูเอกสารนะจ๊ะ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

หากใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ส่วนใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ค่ะ

แหล่งที่มาข้อมูลจาก: