อย่าทิ้งของมีค่า

อย่า! เก็บของมีค่าไว้ในรถ จอดที่ไหนก็เสี่ยง!

เชื่อว่าทุกคนมีความกังวลไม่มากก็น้อย ในเรื่องของ “รถหาย”!! จึงคอยระแวดระวังกัน เพราะทุกวันนี้มี “โจรชุม” เหมือนยุง แต่สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นภัยใกล้ตัวของคนมีรถยนต์ นอกจากรถหายเพราะถูกโจรกรรมแล้ว ก็หนีไม่พ้น “โจรทุบกระจกฉกทรัพย์” ซึ่งไม่ใช่ภัยรูปแบบใหม่ แต่เป็นภัยที่เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ มีทั้งโจรหน้าเก่า หน้าใหม่ สลับกันก่อเหตุ

กระจกห้องโดยสารของรถ ถือเป็นส่วนที่เปราะบางที่สุดของรถ สามารถถูกทำลายได้โดยง่าย ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที คนร้าย ก็สามารถเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินของมีค่า ที่เจ้าของเก็บไว้ภายในรถอย่างรวดเร็ว

ที่ผ่านมามีผู้เคราะห์ร้ายทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นคนดัง ศิลปิน ดารา นักร้อง นักกีฬา นักธุรกิจ พ่อค้าแม่ขาย พนักงานออฟฟิศ หรือแม้แต่ตำรวจก็ไม่ได้รับการละเว้นจากบรรดาโจรทุบกระจกรถ บางรายสูญทรัพย์สินเป็นจำนวนหลักแสน หรือมากกว่า บางรายก็โชคร้ายถึงขั้นถูกขโมยรถยนต์ไปด้วย

ถึงแม้หลังเกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นตำรวจในแต่ละท้องที่ได้ “ล้อมคอก” เพิ่มการตรวจตราระมัดระวัง ส่งสายตรวจเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น แต่คนร้าย ก็ยังสามารถหาช่องโหว่ รอจังหวะสบโอกาสก่อเหตุอีกนับครั้งไม่ถ้วน เพราะคนร้ายก็พยายามคิดค้นหาวิธีหลบเลี่ยงการทำงานของตำรวจได้อยู่เสมอ

จากสถิติการเกิดคดีอาชญากรรม ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เคยทำเอาไว้ พบว่า ถนน 4 เส้นทางในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ถ.เกษตร-นวมินทร์ ถ.วิภาวดีรังสิต ถ.พหลโยธิน และ ถ.รัชดาภิเษก โดยเฉพาะ แยกห้วยขวาง เกิดเหตุคนร้ายทุบกระจกรถยนต์ขโมยทรัพย์สินมากที่สุด อาจเป็นเพราะย่านนี้ มีร้านอาหารริมทางเปิดให้บริการอยู่จำนวนมาก ประชาชนจึงจอดรถไว้ริมทางโดยไม่ระวัง คนร้ายจึงฉวยโอกาสลงมือได้ง่าย

แถม “วิวัฒนาการโจร” ทุกวันนี้ ได้ลามเข้าไปก่อเหตุตามลานจอดรถห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่แม้จะมีระบบรักษาความปลอดภัย มีทั้ง รปภ.และกล้องวงจรปิดทุกซอกมุม ยังไม่รอด!

โจรทุบกระจกรถเหล่านี้ พฤติการณ์ส่วนใหญ่แล้ว สายตาจะคอยหารถยนต์เป้าหมายที่มีทรัพย์สินมีค่าอยู่ภายในรถ เช่น กระเป๋าเงิน เครื่องคอมพิวเตอร์ กล้องถ่ายรูป ฯลฯ

ดังนั้น การจอดรถในแต่ละครั้ง แต่ละสถานที่ ควรจัดเก็บสิ่งของต่างๆ ให้ลับตาคน อย่าเปิดเผย อย่าแต่งตัวล่อตาล่อใจแก่ผู้พบเห็น สำหรับสิ่งของ หากสามารถนำติดตัวไปด้วย ก็จะปลอดภัยเพิ่มขึ้น

 

วิธีป้องกันโจรขโมยของทุบกระจกรถ มีอยู่ 4 ข้อหลัก คือ

1. อย่าจอดรถในที่มืด ไม่ว่าจะจอดชั่วคราวหรือจอดทั้งคืน เนื่องจากการจอดรถ เปรียบเหมือนการฝากทรัพย์สินที่สำคัญ ควรจะจัดหาที่จอดรถที่เหมาะสม และถ้าเป็นไปได้ หาที่จอดรถที่มีแสงสว่าง และไม่ควรอยู่ห่างจากบ้านตัวเอง เพื่อที่จะได้รับรู้กรณีมีเหตุฉุกเฉิน

2.อย่าอยู่ในที่เปลี่ยว หรือลับตาคนเป็นอันขาด แต่ถ้าไม่สามารถเลี่ยงได้ ให้จอดรถโดยอย่าให้ด้านผู้โดยสารอยู่ด้านนอกถนน และจัดการล็อกรถให้ดี เป็นไปได้ควรออกมาตรวจสอบรถบ่อยเท่าที่จะทำได้

3.รถไม่ใช่บ้าน ไม่ใช่ตู้เซฟ ไม่ควรวางหรือเก็บของมีค่าเอาไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ทั้งหมด ต้องยอมรับว่าของมีค่าเป็นสิ่งล่อตาล่อใจโจร แม้หลายครั้งที่โจรทุบกระจกจะเป็นการเดาสุ่ม แต่ก็ต้องเป็นการเดาสุ่มแบบมีความเป็นไปได้ ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากการเคยรู้เคยเห็น ดังนั้นจึงไม่ควรนำทรัพย์สินไว้ในรถ

4.สัญญาณกันขโมย เมื่อมีแล้วต้องใช้ให้เป็น ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะสามารถป้องกันโจรได้ หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงก็ควรปรับตั้งค่าให้มีความอ่อนไหวสูง แต่ไม่ต้องถึงขั้นหมาเห่าหรือรถวิ่งผ่านยังดัง ควรให้ช่างช่วยปรับตั้งในระดับที่เอามือแปะกระจกแรงๆ แล้วดังก็พอ แม้สัญญาณกันขโมยอาจไม่ช่วยกันแบบ 100% แต่ก็พอจะช่วยประวิงเวลาโจร หรืออย่างน้อยมันอาจจะตกใจ หนีไปก็ได้

แม้แนวป้องกันอาจจะเป็นเพียงวิธีพื้นฐาน แต่หลายคนยังละเลยที่จะปฏิบัติตาม โดยเฉพาะการวางของมีค่าไว้ในรถ ส่วนหนึ่งมาจากความมักง่าย ที่ไม่ชอบนำของมีค่าลงไปจากรถ แม้จะชั่วครู่ชั่วคราว จนทำให้เป็นที่หมายตาโจร ดังนั้น “กันไว้ดีกว่าแก้” น่าจะดีที่สุด..!!

 

Ref : komchadluek.net