10-Super-Strong-Cars-For-Prime-Minister-And-President

ในโลกผุๆ ของเราใบนี้ มีประเทศอยู่ด้วยกันมากเกือบถึงสองร้อยประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็มีลักษณะทางกายภาพ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ลักษณะประชากรที่แตกต่างกันไป บางประเทศ อาจเป็นเพียงแค่เกาะเล็กๆ แต่เป็นที่จับจ้องของคนทั่วโลก หรือบางประเทศ อาจไม่ใช่ประเทศที่พัฒนา แต่ผู้นำกลับมีความยิ่งใหญ่จนได้ใจคนทั้งโลก หรือจะเป็นจอมเผด็จการ ที่คนรังเกียจทั้งโลกก็มี

ด้วยความแตกต่างเหล่านี้ เมื่อผู้นำของประเทศนั้นๆ ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจต่างๆ หรือออกต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง อีกสิ่งหนึ่งที่ให้ความสะดวกสบาย และปกป้อง “ท่านผู้นำ” ให้พ้นภัยจากผู้ปองร้ายได้ตลอดเวลาการเดินทาง นั่นคือ “รถยนต์ประจำตำแหน่ง” นั่นเอง ซึ่งแต่ละประเทศ ต่างก็จัดหารถที่มีคุณสมบัติเป็น “ที่สุด” สำหรับคนสำคัญนี้

MR.CARRO ขอพาทุกท่านไปดูกันว่า 10 รถประจำตำแหน่งสุดแกร่ง ที่ผู้นำทั่วโลกใช้งานกันนั้น จะมีรุ่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง …

Aung-San-Suu-Kyi-Myanmar-Cars

1. พม่า (หรือ เมียนมา)

สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า หรือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นับเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 40 ของโลก และใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ใน ASEAN เป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดเราที่สุด และมีพรมแดนเชื่อมต่อกันยาวที่สุด อีกทั้งยังมีอะไรหลายสิ่งที่คล้ายกันด้วย เช่น พิธีกรรมทางศาสนา ประเพณี ลัทธิความเชื่อต่างๆ และทหาร เป็นต้น

หากพูดถึงผู้นำพม่าแล้ว ชาวโลกก็ต้องนึกถึงหญิงแกร่งผู้นี้เป็นอันดับหนึ่ง นั่นคือ อองซานซูจี (Aung San Suu Kyi) ที่ปรึกษาแห่งรัฐ (ตำแหน่งเทียบเท่ากับประธานาธิบดี – State Counsellor) และแกนนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) แม้ว่าตอนนี้เธอจะถูก พล.อ. มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำกองทัพเมียนมาทำรัฐประหาร และยึดอำนาจการปกครอง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ก็ตาม

แม้ว่ารถประจำตำแหน่งของหญิงเหล็กอย่าง อองซานซูจี จะไม่แน่ชัดว่าใช้รถคันใดเป็นรถประจำตำแหน่งหลักๆ แต่รถที่เธอมีโอกาสได้นั่ง มักจะเป็นรถยนต์มือสองจากประเทศญี่ปุ่น อย่าง Toyota Mark II, Mitsubishi Pajero หรือ Toyota Land Cruiser เป็นต้น

Cadillac-One-Presidential-State-Car-USA

2. สหรัฐอเมริกา

ประเทศที่มักยกตัวเองเป็นเจ้าโลก เป็นตำรวจโลก เป็นผู้นำโลก รวมไปถึงประเทศที่เป็นบ้านของผู้คนหลายวัฒนธรรม และความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ ประเพณี จนถูกนิยามให้เป็น Melting Pot ที่ทุกคนนึกถึงอย่าง สหรัฐอเมริกา ที่มีเนื้อที่ประเทศใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก

และเพิ่งได้ประธานาธิบดีคนใหม่ล่าสุดมาหมาดๆ นั่นคือ Joe Biden (โจ ไบเดน) ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 ตัวแทนพรรคเดโมแครต

ส่วนรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดี (Presidential State Car) ของ USA แน่นอน ต้องเป็นรถยนต์ Cadillac One (คาดิแลค วัน) หรือ Limo One ที่ได้ฉายาอื่นๆ อีกว่า The Beast (อสูรร้าย), First Car และ Stagecoach

เผยโฉมเมื่อ 24 กันยายน 2018 และใช้งานตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดี Donald Trump (โดนัลด์ ทรัมป์) ซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษ จนดูเหมือนรถถังขนาดย่อมๆ เพราะใช้พื้นฐานของรถบรรทุก GMC TopKick ในเครือ GM นั่นเอง สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือ 45 ล้านบาท)

ตัวรถมีน้ำหนักราวๆ 6.8 – 9.1 ตัน มาพร้อมกระจกกันกระสุนหนา 5 นิ้ว ภายในรถบรรจุอาวุธต่างๆ เช่น ปีนลูกซอง, แก๊สน้ำตา พร้อมถังออกซิเจน รวมถึงถุงเลือดที่มีกรุ๊ปเลือดตรงกับของประธานาธิบดี ยางรันแฟลต, ระบบปล่อยควันอำพราง, ระบบ Night Vision และถังน้ำมันหุ้มฉนวนกันระเบิดและไฟไหม้

ห้องโดยสารภายในบุวัสดุภายในหนาถึง 8 นิ้ว มีกระจกกั้นกลาง สามารถเปิด-ปิด ได้เฉพาะประธานาธิบดีเท่านั้น แบ่งส่วนแยกระหว่างคนนั่งด้านหลังและคนขับ ซึ่งคนที่จะขับรถคันนี้ ต้องเป็นสายลับฝึกฝนมาอย่างดีจากหน่วย CIA พร้อมระบบสื่อสารครบถ้วน ทั้งระบบ Navigator, โทรศัพท์ผ่านดาวเทียม สามารถเชื่อมต่อไปถึงรองประธานาธิบดี และเพนตากอน

Hongqi-L5-China

3. จีน

นี่ก็นับเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีพลเมืองเชื้อสายจีนกระจายไปอยู่ทั่วโลกอีก นั่นคือ จีน หรือ สาธารณรัฐประชาชนจีน นั่นเอง

ผู้นำสูงสุดของจีน นั่นคือ สีจิ้นผิง ที่ครองตำแหน่งทั้งประธานาธิบดี ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2013 ตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ที่ก้าวขึ้นมาเทียบชั้นประธานเหมา เจ๋อตุง ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทีเดียว

และรถของผู้นำระดับนี้ ก็ต้องสมศักดิ์ศรีพญามังกร ด้วย Hongqi L5 ซึ่งผลิตโดย FAW Group หรือ First Automobile Works ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของจีนซึ่งเป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในจีน โดย หงฉี ในภาษาจีนกลางนั้นแปลว่า “ธงแดง” มีราคาสูงถึง 5 ล้านหยวน และยังคงความเป็นรถยนต์ที่ดีไซน์แบบย้อนยุคแบบรุ่นแรกที่ผลิตในปี 1958 ซึ่งได้แบบมาจากรถยนต์ของสหภาพโซเวียต และรถอเมริกันจากค่าย Chrysler (แบรนด์ Imperial)

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งขนาด 4.0 ลิตร แบบ V8 Twin Turbo 381 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และขนาด 6.0 ลิตร แบบ V12 ลิตร 408 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

Toyota-Century-Japan

ภาพจาก Ethical & LifeHack

4. ญี่ปุ่น

มาถึงประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่ได้ชื่อว่าคนไทยชอบไปเที่ยวมากที่สุดอีกแห่งในโลกใบนี้ มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงเทคโนโลยีอันล้ำหน้า และแบรนด์ยี่ห้อรถดังๆ ทั้งหลาย ที่มีขายในบ้านเราไง

อีกทั้งยังมีนายกรัฐมนตรีมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก นับตั้งแต่ในยุคเมจิ มาจนถึงยุคเวะ มีมาแล้ว 62 คน ใน 96 คณะรัฐมนตรี ซึ่งคนปัจจุบันได้แก่ Yoshihide Suga (โยชิฮิเดะ ซูงะ) เป็นนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่คนแรกในยุคเรวะ

และรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แน่นอนว่าต้องเป็นรถญี่ปุ่น นั่นคือ Toyota Century (โตโยต้า เซ็นจูรี่) รุ่นล่าสุด แบบกันกระสุน และ Lexus LS600hL (เลกซัส แอลเอส) แบบกันกระสุน ซึ่ง Lexus ได้เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ในยุคที่ Shinzo Abe (ชินโซ อาเบะ) กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ ในปี 2015 ที่ผ่านมา

Mercedes-Benz-S600-Pullman-Guard-North-Korea

5. เกาหลีเหนือ

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ประเทศที่ชาวโลกมักพูดถึง (ในทางที่ไม่ดี) อยู่เสมอ และยังคงเป็นประเทศที่มีระบอบคอมมิวนิสต์ ขับเคลื่อนประเทศโดยพรรคแรงงานแห่งเกาหลี บูชาลัทธิจูเช่ (Juche) เน้นเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตัวเอง แต่กลับมีการสถาปนาผู้นำประเทศแบบสืบทอดทางสายเลือด! (แปลกมั้ยล่ะ) ซึ่งคนปัจจุบัน คือ Kim Chong Un (คิมจองอึน) พร้อมกับลัทธิบูชาบุคคลตระกูลคิม และยังเป็นประเทศที่มีเสรีภาพของพลเมืองต่ำที่สุดในโลก

แม้ว่าเกาหลีเหนือจะยากจนอย่างแสนสาหัสเพียงใด บรรดาครอบครัวตระกูลคิมและผู้นำพรรคแรงงานแห่งเกาหลี ก็ต้องกินดีอยู่ดีไว้ก่อน ดูได้จากรสนิยมของท่านผู้นำเกาหลีเหนือ ตั้งแต่ประธานาธิบดี คิมอิลซุง ผู้เป็นปู่ของ คิมจองอึน ที่นิยมชมชอบรถเยอรมนีมาก

และรถประจำตำแหน่งของผู้นำสูงสุดคนปัจจุบัน ยังใช้ Mercedes-Benz S600 Pullman Guard (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-600 พูลแมน การ์ด) แบบกันกระสุนและกันระเบิด และ Maybach S62 (มายบัค เอส 62) ซึ่งบริษัท Daimler AG ผู้ผลิตรถ Mercedes-Benz ก็ยังงงเลยว่า ไม่ได้ทำธุรกิจใดๆ กับเกาหลีเหนือ แต่ซื้อมาใช้ได้อย่างไร!

Hyundai-Equus-Stretch-Edition-South-Korea

6. เกาหลีใต้

มาดูอีกหนึ่งฝั่งของเกาหลี ที่เป็นประชาธิปไตยจ๋าบ้าง อย่าง สาธารณรัฐเกาหลี หรือ เกาหลีใต้ ที่หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1948 คาบสมุทรเกาหลีถูกแบ่งเป็นสองส่วนโดยเส้นละติจูดที่ 38 องศาเหนือ (มักเรียกว่าเส้นขนาน 38) ได้สหรัฐอเมริกาเข้ามาดูแลเกาหลีใต้ พร้อมจัดการปกครองแบบประชาธิปไตย

ในส่วนของผู้นำประเทศ เกาหลีใต้นั้นมีการเปลี่ยนประธานาธิบดีอยู่หลายครั้ง แต่ประธานาธิบดีหลายคน ก็มักจะติดคุกด้วยข้อหาคอรัปชั่นอยู่เสนอ ซึ่งก็น่าแปลกมาก สวนทางกับการพัฒนาประเทศที่ล้ำยุคไปไกลมากๆ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม เทคโนโลยี รวมไปถึงในด้านภาพยนตร์ก็ตาม

สำหรับรถประจำจำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ตอนนี้ มีใช้อยู่ด้วยกันหลายคัน อาทิ Mercedes-Benz S600 Pullman Guard (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-600 พูลแมน การ์ด) แบบกันกระสุนและกันระเบิด, Hyundai Equus Stretch Edition (ฮุนได อีคุส สแทช เอดิชั่น) หรือ Genesis EQ900 (เจเนซิส อีคิว 900) และ Hyundai Nexo (ฮุนได เน็กซ์โซ) เป็นต้น

BMW-Series-7-Singapore

7. สิงคโปร์

ประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นเกาะเล็กๆ แต่กลับโดดเด่นที่สุดใน ASEAN ทั้งในความเป็นศูนย์กลางทางการเงิน ที่ก้าวขึ้นมาเป็น Top 3 ด้านการเงินระดับโลกในเวลาเพียง 50 ปี ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การปกครอง และการท่องเที่ยว รวมถึงเป็นแหล่งรวมบริษัทสตาร์ทอัพเอาไว้มากมาย ซึ่ง CARRO ก็เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่เกิดในประเทศนี้

แม้ว่าสิงคโปร์ จะมีตำแหน่งประธานาธิบดีก็ตาม แต่อาจจะไม่ได้เด่นเท่านายกรัฐมาตรีของประเทศนี้ อย่าง Lee Hsien Loong (ลี เซียนลุง) ผู้เป็นลูกชายของผู้ก่องตั้งประเทศเล็กๆ แห่งนี้อย่าง Lee Kuan Yew (ลีกวนยู) ที่ใช้ความสามารถและความเด็ดขาด นำพาเกาะเล็กๆ ที่ไม่มีทรัพยากรอะไร เคยยากจนกว่าไทย น้ำกินก็ต้องซื้อจากประเทศเพื่อนบ้าน ให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าระดับโลกได้

รถประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ มีด้วยกันหลายคัน อาทิเช่น Lexus LS (เลกซัส แอลเอส) หรือ BMW Series-7 (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7) รุ่น 750Li เป็นต้น

Jaguar-XJ-LWB-Sentinel-UK

8. อังกฤษ

ประเทศอังกฤษ หรือ สหราชอาณาจักร ในอดีตขึ้นชื่อว่าเป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นเจ้าอาณานิคมที่ปกครองดินแดนในทวีปอเมริกาเหนือ แคริบเบียน แอฟริกา ออสเตรเลีย โอเชียเนีย และเอเชียหลากหลายพื้นที่ จนได้ชื่อว่าเป็นจักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ป็นผลให้มรดกทางการเมือง กฎหมาย ภาษา และวัฒนธรรมของอังกฤษ แผ่ขยายไปในทั่วโลกในเวลาต่อมา

ในปัจจุบัน อังกฤษ มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2เป็นพระมหากษัตริย์ และมี Boris Johnson (บอริส จอห์นสัน) หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2019

รถประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในปัจจุบันใช้ Jaguar XJ LWB Sentinel (จากัวร์ เอ็กซ์เจ เซนติเนล) แบบกันกระสุนและกันระเบิด เป็นต้น

Audi-A8-L-Security-Germany

9. เยอรมนี

อีกหนึ่งประเทศผู้นำหลายๆ ด้านในยุโรป อย่าง สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ที่เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในสหภาพยุโรป เป็นประเทศผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี หรือเศรษฐกิจ เป็นต้น และเป็นประเทศที่คนไทยพูดถึงกันอย่างมากอีกด้วย (อยากรู้ ไปหาข่าวอ่านกันเอาเอง)

นายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็นหญิงเหล็กอีกคนหนึ่ง สำหรับ Angela Merkel (อังเกลา แมร์เคิล) ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีตั้งแต่ปี 2005 เป็นผู้นำของพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2018 เกิดในประเทศเยอรมนีตะวันตก แต่ไปโตในประเทศเยอรมนีตะวันออก จบปริญญาเอกปรัชญาสาขาควอนตัมเคมี และทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์จนถึงปี 1989 ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางการเมือง

ด้านชีวิตส่วนตัวของหญิงเหล็กผู้นี้ เธอเป็นคนติดดิน แม้แต่บ้านพักก็ยังอยู่ในอพาร์ทเมนท์ของสามี แทนที่จะพำนักในอาคารสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนรถประจำตำแหน่ง ในปัจจุบันใช้ Audi A8 L Security (ออดี้ เอ 8 แอล ซิเคียวริตี้) แบบกันกระสุนและกันระเบิดมือ บนน้ำหนักตัวรถเกือบ 4 ตัน

Aurus-Senat-Russia

10. รัสเซีย

Soviet Union (สหภาพโซเวียต) จากประเทศที่ได้ชื่อว่า เป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมี สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตรัสเซีย เป็นสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุด มีประชากรมากที่สุด และมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจสูงสุดในอดีตสหภาพโซเวียต

ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ประเทศในเครือได้ประกาศเอกราช ยกเลิกระบอบคอมมิวนิสต์ แตกออกเป็นประเทศย่อยๆ มากถึง 15 ประเทศ ซึ่งรัสเซียก็เป็นหนึ่งในนั้น และเปลี่ยนชื่อเป็น สหพันธรัฐรัสเซีย จวบจนปัจจุบัน

ด้านประธานาธิบดี Vladimir Putin (วลาดิเมียร์ ปูติน) ผู้ที่เคยควบทั้งตำแหน่งประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย นับตั้งแต่ปี 1999 ขยับไปเป็นประธานาธิบดี ปี 2000 – 2008 แล้วก็กลับไปเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ปี 2008 – 2012 ก่อนจะกลับไปเป็นประธานาธิบดีอีก ปี 2012 – ปัจจุบัน เปรียบเสมือน “พระเจ้าซาร์” ของรัสเซียสมัยใหม่ ซึ่งยืนอยู่เหนือการเมืองแบบพรรค

ด้านรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีรัสเซีย ในปัจจุบันใช้ Aurus Senat (ออรุส เซนัต) รถสุดหรูที่ผลิตในรัสเซีย นับเป็นการยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต ที่ผู้นำจะใช้รถที่ผลิตในประเทศในงานพิธีการต่างๆ ผลิตโดยสถาบันวิจัยของรัสเซียที่รู้จักกันในชื่อ NAMI และเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ Sollers ของรัสเซีย

ซึ่งเป็นรถกันกระสุนและกันระเบิด ใช้เครื่องยนต์แบบ Hybrid ขนาด 4.4 ลิตร แบบ V8 Twin Turbo จาก Porsche 568 แรงม้า และแบบ V12 ขนาด 6.6 ลิตร 848 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนใครที่อยากขายรถ หรือมีเพื่อนฝูงกำลังหาที่ขายรถอยู่ CARRO เรารับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

10-Favorite-Cars-of-Thai-Prime-Minister

“รถยนต์” ถือเป็นยานพาหนะชิ้นหนึ่งที่สามารถแสดงให้เห็นได้ถึงสถานะ และฐานะ ของผู้ที่ครอบครอง รวมไปถึงการใช้งานในวาระพิเศษต่างๆ อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก ทุกสถานะและอาชีพ

Thaksin-Car-USA

ไม่เว้นแม้กระทั่งอาชีพ “นายกรัฐมนตรี” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเป็นประธานแห่งคณะรัฐมนตรีไทย และทำหน้าที่หัวหน้ารัฐบาลของประเทศไทย ที่ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือจะมาจากวิธีพิเศษพิสดารแบบไหนก็ตาม

Prayut-Car

นายกรัฐมนตรีในอดีตหลายท่าน ต่างก็มีความชื่นชอบรถยนต์เช่นกัน หลายท่านอาจจะมีรถยนต์สะสมไว้หลายสิบคัน หรืออาจจะมีคันใดคันหนึ่ง (ซึ่งอาจจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว หรือรถยนต์ประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) ที่เรียกว่าเป็น “รถคันโปรด” และมักจะใช้ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ …

Carro ขอพาไปชม 10 รถยนต์สุดโปรดของ “นายกรัฐมนตรีไทย” ในแง่มุมของประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ในอดีต จวบจนถึงปัจจุบัน ครับ.

จอมพล ป. พิบูลสงคราม

จอมพล-ป.พิบูลสงคราม

จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ ป. พิบูลสงคราม (แปลก พิบูลสงคราม) หรือ “จอมพลกระดูกเหล็ก” เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 3 ของไทย ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุด คือ 15 ปี 24 วัน รวม 8 สมัย มีนโยบายที่สำคัญๆ มากมาย ที่ช่วยพัฒนาประเทศไทย ให้เจริญรุ่งเรืองทัดเทียมนานาอารยประเทศ มีการปลุกระดมให้คนไทยรู้สึกรักชาติ

และยังสร้าง “วัฒนธรรมของชาติ” หลายอย่างสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ เช่น การรำวง, ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย และเป็นผู้เปลี่ยนชื่อ “ประเทศสยาม” เป็น “ประเทศไทย” และเป็นผู้เปลี่ยน “เพลงชาติไทย” มาเป็นเพลงที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เป็นต้น

รถยนต์คันโปรดของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม มีมากมายหลายคัน ตั้งแต่รถยนต์ส่วนตัว และรถประจำตำแหน่งอย่าง Buick ปี 1948, Bentley R type Saloon ปี 1952, Mercedes-Benz 300SL Gullwing ปี 1955, Cadillac Fleetwood Series 75 Limousine ปี 1956 หรือรถยนต์ Citroen Traction Avant ที่ใช้ขับลี้ภัยทางการเมือง ไปยังกัมพูชาในปี 2500

แต่ที่ต้องยกให้เป็น “รถคันโปรด” ของท่านนั่นคือ “Ford Thunderbird” (ฟอร์ด ธันเดอร์เบิร์ด) ปี 1960 ที่ท่านจอมพล ได้ซื้อใช้ขณะท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา ก่อนจะนำกลับไปใช้งานในประเทศญี่ปุ่น ช่วงที่ลี้ภัยทางการเมือง (ปัจจุบัน รถคันนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ตั้งอยู่ภายในศูนย์การทหารปืนใหญ่ จ.ลพบุรี)

จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

จอมพลสฤษดิ์-ธนะรัชต์

จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ พลตำรวจเอก สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีคนที่ 11 ของไทย และเป็นหัวหน้า “คณะปฏิวัติ” มีฉายา “จอมพลผ้าขาวม้าแดง” เป็นทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, ผู้บัญชาการทหารบก และอธิบดีกรมตำรวจ เจ้าของคำพูดที่ว่า “พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ” และ “ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”

เป็นผู้ริเริ่มการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2504–2509) มีการสร้างสาธารณูปโภคสำคัญ เช่น ไฟฟ้า, ประปา, ถนน ทั้งในเมืองและชนบท ซึ่งเรียกว่า “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก” เป็นผู้ก่อตั้งสำนักงบประมาณ ก่อตั้งธนาคารทหารไทย และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด ออกกฎหมายเลิกการเสพและจำหน่ายฝิ่น กฎหมายปราบปรามพวกนักเลง อันธพาล ปราบการค้าประเวณี

รถคันโปรดของ “จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์” (ที่ไว้แจกบรรดาอนุภริยา และลูกน้องคนสนิท) ต้องยกให้ Ford Taunus” (ฟอร์ด เทานุส) สั่งนำเข้ามาจากประเทศเยอรมนี 20 คัน ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นรถหายากมากอีกหนึ่งรุ่นไปแล้ว

หรือจะเป็นรถประจำตำแหน่ง อย่าง “Lincoln Continental Convertible” (ลินคอร์น คอนติเนนตัล คอนเวอร์ติเบิล) ปี 1962 และเป็นรถรุ่นเดียวกับที่ John F. Kennedy (JFK) (จอห์น เอฟ. เคนเนดี) ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ใช้เป็นรถส่วนตัว และรถราชการ ที่หายากมากไม่แพ้กัน

จอมพลถนอม กิตติขจร

จอมพลถนอม-กิตติขจร

จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของประเทศไทย ผู้บัญชาการทหารบก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 4 สมัย เป็นระยะเวลาถึง 10 ปี 6 เดือนเศษ

เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาลในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ซึ่งเป็นเหตุการณ์การประท้วงของ นิสิต นักศึกษา และประชาชน โดยทหารได้ใช้อาวุธสงคราม เข้าปราบปรามนักศึกษาประชาชนที่ชุมนุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ จนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เป็นผลให้ จอมพล ถนอม กิตติขจร ต้องลาออกจากตำแหน่ง และเดินทางออกนอกประเทศ

และจอมพลถนอม ยังเป็น “จอมพลคนสุดท้าย” เพราะมีอายุยืนที่สุด ถึง 92 ปี

สำหรับรถคันโปรดของ จอมพล ถนอม กิตติขจร ก็คงเป็นรถประจำตำแหน่งอย่าง “Lincoln Continental” (ลินคอร์น คอนติเนนตัล) ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่ง และเป็นรถในยุคที่ความเป็นอเมริกันกำลังเฟื่องฟูในบ้านเราตอนนั้น

พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์

พลเอก-เปรม-ติณสูลานนท์

พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี รัฐบุรุษ และนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 16 ดำรงตำแหน่ง 3 สมัย ระหว่างปี 2523 – 2531

ท่านมักเรียกแทนตัวเองต่อผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าว่า “ป๋า” และเรียกผู้ที่อาวุโสน้อยกว่า อย่างเอ็นดูและเป็นกันเองว่า “ลูก” ที่จนเป็นที่มาของคำว่าป๋า หรือ ป๋าเปรม และคนสนิทของท่านมักถูกเรียกว่า ลูกป๋า และเรียกติดปากกันมาจนถึงปัจจุบัน

ในยุคของป๋าเปรม แม้ว่าจะไม่ได้ปรากฏว่าท่านมีรถยนต์ส่วนตัวหรือไม่ แต่ในปี 2523 สมัยรัฐบาลยุคป๋าเปรม ได้ใช้ “Cadillac Fleetwood Limousine” (คาดิแลค ฟรีตวูด ลิมูซีน) พวงมาลัยขวา เครื่องยนต์ขนาด 7.0 ลิตร จาก USA เป็นรถประจำตำแหน่ง และรับรองผู้นำกับประมุขจากชาติต่างๆ และมีโอกาสใช้งานประจำ เป็นรถที่กระจกและตัวถังกันกระสุน ในราคา (ยุคนั้น) คันละ 13.5 ล้านบาท

ชวน หลีกภัย

ชวน-หลีกภัย

ชวน หลีกภัย หรือ “นายหัวชวน” เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 20 ของไทย เจ้าของสมญานาม “มีดโกนอาบน้ำผึ้ง” ดำรงตำแหน่งสองสมัย และในสมัยที่ 2 ยังควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งถือเป็นพลเรือนคนที่สอง ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนี้ ปัจจุบันเป็นประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์

สำหรับรถคันโปรดของ “นายหัวชวน” ต้องยกให้รถ “Jeep” (จี๊ป) พวงมาลัยซ้าย คันนี้ ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข บนถนนสายการเมืองมายาวนานร่วม 40 กว่าปี ทั้งนี้ รถจี๊ปคันดังกล่าว ซ่อมแซมใหม่หมดทั้งคันโดยอดีตคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลชวน 2 เมื่อครั้งนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งใช้งบประมาณกว่า 2 แสนบาท

บรรหาร ศิลปอาชา

บรรหาร-ศิลปอาชา

บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 21 เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เดิมมีชื่อว่า เต็กเซียง แซ่เบ๊ หรือที่รู้จักกันในฉายา “มังกรสุพรรณ” หรือ “เติ้งเสี่ยวหาร” อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย อดีตประธานกรรมการมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใส ศิลปอาชา อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา และยังเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี 11 สมัย

ซึ่งรัฐบาลบรรหาร มีผลงานที่โดดเด่นคือ การริเริ่มให้มีร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540

รถคันโปรดของ บรรหาร ศิลปอาชา คงต้องยกให้ “Peugeot 404” (เปอโยต์ 404) ปี 1960 รถคันแรกที่ซื้อมาในราคา 4 หมื่นบาท เป็นรถที่เขาภูมิใจมาก สมัยยังเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัท สหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด ตอนนั้นยังไม่ได้ลงเล่นการเมือง

ดร.ทักษิณ ชินวัตร

ทักษิณ-ชินวัตร

นี่ถือเป็นนายกรัฐมนตรีในตำนานอีกหนึ่งท่าน ไม่ว่าจะไปที่ไหน พูดอะไร สื่อต้องเอามาเล่นเป็นข่าวตลอด สำหรับ “เสี่ยแม้ว” “ทักษิณ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 23 ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2544 – 2549 และเป็นพี่ชายของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 28 เคยเป็นนักธุรกิจโทรคมนาคมและการสื่อสาร ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อดีตข้าราชการตำรวจ (ชั้นยศสูงสุดที่ พันตำรวจโท) อดีตเจ้าของและประธานสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี

ด้วยนโยบายต่างๆ ที่โดนใจชาวบ้าน เช่น ลดความยากจนในชนบท โดยสามารถลดความยากจนได้ถึงครึ่งหนึ่งภายใน 4 ปี ริเริ่มระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ “30 บาท รักษาทุกโรค” ตลอดจนการกวาดล้างยาเสพติด โครงการ OTOP, หวยบนดิน ที่ทำให้ถูกกฎหมาย ทั้งการสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น

ทำให้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเป็น สส. ซึ่งดำรงตำแหน่งจนครบวาระคนแรก และจากผลการเลือกตั้งในปี 2548 ทำให้ทักษิณ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนเสียงสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักธุรกิจหมื่นล้านของ “เสี่ยแม้ว” ย่อมมีรถยนต์ในดวงใจอยู่หลายสิบคันมาก นับตั้งแต่รถ Mercedes-Benz ที่ใช้ตั้งแต่สมัยเรียนที่อเมริกา แล้วก็นำกลับมาเมืองไทย และยังชื่นชอบรถยุโรป โดยเฉพาะ BMW เป็นพิเศษ ซึ่งเคยมีอยู่ 4 คันเลยทีเดียว

โดยรถคันโปรดของทักษิณ (ก่อนถูกปฏิวัติเมื่อปี 2549) คงต้องยกให้รถประจำจำแหน่ง “Mercedes-Benz S600 Pullman (W220)” รุ่นกันกระสุน ในราคา 21 ล้านบาท “BMW Series 7” (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7) สั่งพิเศษกันกระสุน กันระเบิดและแก๊สน้ำตา ในราคา 57 ล้านบาท (ราคาในปี 2547) และ “BMW 645 Ci” (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 6 คูเป้) เครื่องยนต์ขนาด 4.5 ลิตร แบบ V8 333 แรงม้า ในราคา 12 ล้านบาท (ราคาในปี 2547)

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

อภิสิทธิ์-เวชชาชีวะ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หรือ “มาร์ค” เป็นนักการเมืองไทยผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2551 – 2554 และเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน

ซึ่ง อภิสิทธิ์ เคยได้ชื่อว่าเป็น ส.ส. กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2535 ขณะมีอายุได้เพียง 27 ปี ซึ่งนับว่าเป็น ส.ส. ที่มีอายุน้อยที่สุดในขณะนั้น และยังเป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในรอบกว่า 60 ปี อีกด้วย

สำหรับรถประจำตำแหน่งของ “พี่มาร์ค” ที่ใช้อยู่เป็นประจำ นั่นคือ Range Rover Armoured (เรนจ์ โรเวอร์ อาเมอร์) ที่กันได้ทั้งกระสุนและระเบิด มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 5.0 ลิตร V8 375 แรงม้า จัดซื้อมาในราคาคันละ 6 ล้านบาทเศษ ซึ่งซื้อทีเดียว 20 คันรวด เมื่อเดือนสิงหาคม 2552 รวมราคาอยู่ที่ 122.8 ล้านบาท

หากใครยังจำได้ เหตุการณ์ในกระทรวงมหาดไทย เมื่อเดือนเมษายน 2552 รถ Mercedes-Benz S600 Pullman (W220) ที่ซื้อมาในสมัยรัฐบาลของทักษิณ ก็ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งให้ชาวไทยได้เห็น ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นั่งอยู่ภายในอย่างปลอดภัย …

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ยิ่งลักษณ์-ชินวัตร

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือ “ปู” เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 28 เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย และด้วยวัย 44 ปี จัดว่าเป็นนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งอายุน้อยที่สุดในรอบกว่า 60 ปี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคเพื่อไทย, กรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคม

โดยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ มีรถอยู่หลายคันก็จริง (นับตั้งแต่ Mercedes Benz S-Class รุ่น S280 ที่ครอบครองตั้งแต่ปี 2545) มักนิยมใช้รถตู้ ซึ่งเป็นแบบเดียวกับนักการเมืองยุคใหม่นิยมกัน แต่ที่ชอบมากเป็นพิเศษคงต้องยกให้ “Volkswagen Caravelle” (โฟล์คสวาเกน คาราเวลล์) กันกระสุน ในราคาคันละ 7.8 ล้านบาท หรือจะเป็น “Toyota Alphard” (โตโยต้า อัลฟาร์ด) ที่มีใช้อยู่หลายคันมาก …

และทะเบียนรถแทบทุกคัน ก็สร้างเรื่องมหัศจรรย์ แสดงอิทธิฤทธิ์ให้เป็นข่าวอีกหลายครั้ง นั่นคือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มักออกเลขรางวัลเกี่ยวพันต้องตรงกับทะเบียนรถยนต์พาหนะที่คุณยิ่งลักษณ์ หลายต่อหลายงวดอย่างน่าประหลาดล้ำ

ทั้งออกตรงเป๊ะ ทั้งข้างบน ทั้งข้างล่าง … มันเป็นความมหัศจรรย์สุดๆ ไม่ใช่แค่งวดสองงวดนะครับ นับได้ถึง 8 งวดเลย มันเป็นมาตั้งแต่เมื่อเธอเริ่มเข้ามารับตำแหน่งในปี 2554 งวด 16 ส.ค. 2554 ก็ตรงเป๊ะ งวดถัดมา 1 ก.ย. 2554 ตรงเป๊ะอีก!

พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา

พลเอก-ประยุทธ์-จันทรโอชา

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ชื่อเล่น ตู่) เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 29 ของประเทศไทย หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะทหารผู้ยึดอำนาจการปกครอง ทำรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาค 1

รถประจำตำแหน่งของ “ลุงตู่” นี่ก็มีใช้อยู่หลายคันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น “Volkswagen Caravelle” กันกระสุน หรือ “Toyota Alphard” และ “Toyota Vellfire” เป็นต้น

ส่วนคันล่าสุดนี่คือ “Mercedes-Benz S600 Guard Sedan Long” (เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 600 การ์ด ซีดาน ล็อง) ใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 530 แรงม้า ทะเบียน 4 กต 29 ที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ทำสัญญาจัดซื้อเอาไว้ จำนวน 4 คัน วงเงิน 78 ล้านบาท ตกคันละ 19.5 ล้านบาท

ดูรถของนายกรัฐมนตรีแต่ละคันกันไปแล้ว มาดูเงินในกระเป๋าของตัวเองกันบ้าง หากใครที่สนใจ ต้องการขายรถกับทาง Carro เพื่อนำเงินไปซื้อรถมือสอง Mercedes-Benz หรือ BMW รุ่นเดียวกับที่อดีตนายกรัฐมนตรีทั้งหลายเคยใช้ โดยได้ราคาที่ดีที่สุด พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! ก็เชิญได้เลยนะครับ

ขอขอบคุณ แหล่งที่มาบางส่วนจาก :