รถยนต์แบบไหนที่ควรทำประกันชั้น 3

ทุกวันนี้อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนน หากคุณขับรถประมาท ขาดสติในการขับรถละก็ อุบัติเหตุทางรถก็สามารถเกิดขึ้นกับคุณได้เลยค่ะ ดังนั้นการทำประกันรถยนต์จึงเป็นเหมือนหลักประกันป้องกันความปลอดภัยให้กับคุณ แต่ทุกวันนี้เศรษฐกิจมันไม่ดีจะเอาเงินไปลงกับประกันรถยนต์คงไม่ไหว ดังนั้นบริษัทประกันจึงมีประกันชั้น 3 ที่เบี้ยประกันราคาถูกที่สุด เพื่อตอบโจทย์คนที่อยากมีประกันรถและอยากได้ประกันรถที่ราคาถูกนั่นเอง

ว่าแต่รถยนต์แบบไหนควรทำประกันชั้น 3 ล่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่ารถยนต์แบบไหนควรซื้อประกันรถชั้น 3

6 ลักษณะรถยนต์ที่เหมาะกับประกันชั้น 3

รถยนต์ที่ไม่ค่อยใช้งาน ควรทำประกันรถประเภทไหน

  1. ถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน

หากคุณมีรถยนต์อยู่ในบ้าน แต่ไม่ค่อยได้ใช้งาน มักจะจอดทิ้งไว้อยู่ที่บ้าน นานๆทีจะเอารถคันนี้ออกมาใช้ บอกเลยว่ารถยนต์คันนี้ควรทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ด้วยเหตุผลที่ว่า รถยนต์คันนี้นานๆทีจะใช้งาน ไม่ค่อยได้ขับรถไปไหน แต่ใช่ว่ารถที่ไม่ใช้งานจะไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเลย ดังนั้นเราควรทำประกันรถยนต์เอาไว้ เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้กับรถยนต์ของคุณ และคู่กรณีของคุณ

  1. รถเก่า

รถเก่าที่ว่า ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี ซึ่งอายุการใช้งานของรถยนต์ขนาดนี้ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่รับคุ้มครองแน่นอนค่ะ เพราะระบุไว้ในเงื่อนไขของประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้ชัดเจน ว่าไม่รับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป ดังนั้นหากคุณมีรถยนต์ที่อายุการใช้งานมากกว่า 7 ปีขึ้นไป แนะนำให้ทำประกันรถยนต์ชั้น 3 เลยค่ะ

ซึ่งถ้าพูดตามหลักความเป็นจริงแล้ว ส่วนใหญ่คนที่มีรถเก่าก็มักไม่ค่อยได้ใช้ จะจอดทิ้งไว้อยู่ที่บ้าน โอกาสที่จะเฉี่ยวชนก็น้อย เกิดอุบัติเหตุก็น้อย ดังนั้นประกันที่เหมาะกับรถเก่าก็คือ ประกันรถยนต์ชั้น 3 นั่นเอง

  1. คนที่ขับรถเชี่ยวชาญ

หากคุณมั่นใจในทักษะการขับรถของตัวเองอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว ผ่านการขับรถมานานหลายปี เรียกว่าเชี่ยวชาญเลยก็ว่าได้ ไม่เฉี่ยว ไม่ชน เกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์น้อยมาก แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ ว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเราต้องทำประกันรถยนต์เพื่อความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งประกันรถยนต์ที่เหมาะกับผู้ที่ขับรถอย่างเชี่ยวชาญ ก็คือ ประกันรถยนต์ชั้น 3

สภาพแวดล้อมบ้านก็มีส่วนในการเลือกทำประกันรถ

  1. สภาพแวดล้อมของบ้าน

สภาพแวดล้อมของบ้านก็มีส่วนให้เราเลือกทำประกันรถยนต์เช่นกัน หลายคนคงไม่เข้าใจใช่ไหมคะว่าทำไมสภาพแวดล้อมบ้านเกี่ยวอะไรกับการเลือกซื้อประกันรถยนต์ บอกเลยว่าเกี่ยวเต็มๆ หากสภาพแวดล้อมบ้านของคุณเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย เสี่ยงเกิดอัคคีภัย เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติต่างๆ คุณควรทำประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองแบบจัดเต็ม

แต่ถ้าบ้านของคุณไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ แนะนำให้ทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็พอค่ะ เพราะประกันชั้น 3 ไม่ได้คุ้มครองในส่วนของความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องทำประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองในส่วนของภัยธรรมชาติ เพื่อเป็นการประหยัดในส่วนของเบี้ยประกันรถนั่นเอง

  1. ทำธุรกิจ หรือมีญาติพี่น้อง คนรู้จักเปิดอู่ซ่อมรถ

ในส่วนนี้ถือเป็นสิทธิพิเศษก็ว่าได้ค่ะ หากคุณหรือญาติพี่น้องทำธุรกิจอู่ซ่อมรถละก็ ค่าซ่อมรถของคุณอาจจะได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่น หากคุณได้รับสิทธิพิเศษเหล่านี้ละก็ เรื่องค่าใช้จ่าย ค่าซ่อมแซมก็หายไปได้หน่อยนึง

ซึ่งถ้าคุณมีตัวเลือกแบบนี้ เราไม่จำเป็นต้องซื้อประกันรถยนต์ที่เบี้ยราคาสูงๆ หรือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองแบบเต็มความคุ้มครองเลยค่ะ คุณเลือกประกันรถยนต์แค่ชั้น 3 ก็เพียงพอต่อการซื้อประกันรถยนต์

  1. งบสำหรับประกันไม่สูงมาก

หากคุณมีปัญหาเรื่องสภาพทางการเงิน ไม่อยากเอารายได้ของคุณไปจบอยู่ที่เบี้ยประกันรถยนต์ราคาสูงๆ แต่ถ้าไม่ทำประกันรถยนต์ก็ไม่ได้ ดังนั้นเราควรเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่เบี้ยประกันราคาเป็นกันเอง แถมยังให้ความคุ้มครองอย่างคุ้มค่า เช่นประกันรถยนต์ชั้น 3 นั่นเอง แม้ความคุ้มครองอาจไม่จัดเต็มเหมือนประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ แต่ในเมื่อเรามีข้อจำกัดเรื่องงบ ประกันชั้น 3 จึงเป็นตัวช่วยคนสำคัญที่จะดูแลความปลอดภัยนั่นเอง

หากคุณต้องการทำประกันรถยนต์แต่มีข้อจำกัดหลายๆ อย่างตามที่ทางเราได้กล่าวไปข้างต้น เราแนะนำให้คุณทำประกันชั้น 3 เลยค่ะ หากคุณสนใจทำประกันรถยนต์ชั้น 3 ก็สามารถเข้ามาดูได้ที่ rabbit finance เรามีบริการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้คุณเลือกประกันรถยนต์ตามที่คุณต้องการเลยค่ะ สนใจคลิกเข้ามาเลย!