8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

8 รถอีโคคาร์มือสอง ประหยัดน้ำมัน ราคาไม่แพง ที่น่าเป็นเจ้าของ!

ในปัจจุบัน “รถมือสอง” นั้นจะมีตัวเลือกในท้องตลาดอย่างมหาศาล และมีรถหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สภาพเก่าๆ ราคาเพียงหลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงราคาหลายล้านบาท ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่ใช้แล้วไม่ถูกใจ ใช้แล้วเบื่อ อยากขายแล้วซื้อใหม่ หรือครอบครัวขยายขึ้น ต้องเปลี่ยนรถใหญ่ขึ้นก็มี

แต่อีกหนึ่งในรถที่ให้ความคุ้มค่าในการใช้งาน ในยุคเศรษฐกิจขาขึ้นก่ายหน้าผากแบบนี้ นั่นคือรถยนต์ “Eco-Car” ที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำงานใหม่ๆ แม่บ้าน หรือนักศึกษา เป็นต้น อยากได้รถมือสองประหยัดน้ำมัน หาที่จอดง่าย ไว้ใช้งานในเมือง ไปจ่ายตลาด หรือขับไปมหาวิทยาลัย ในงบประมาณจำกัด และมีราคารถมือสองที่ไม่แพงมาก ซื้อขายง่าย

ตัวเลือกอย่างรถยนต์ Eco-Car (อีโคคาร์) ถือได้ว่าเหมาะสมกับงบประมาณและสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ … Carro ขอแนะนำ 8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้ มีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง รับชมกันได้เลยครับ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

1. Toyota Yaris

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) ในอดีตถือเป็นรถ Sub-Compact ที่ยอดนิยมที่สุดอีกหนึ่งรุ่นในท้องตลาด ซึ่งรุ่นแรกก่อนหน้านั้น ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แต่ในเจเนอเรชั่นที่เป็น Eco-Car ตอนนี้ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ เน้นกลุ่มวัยรุ่น ความปลอดภัยครบครัน

และผ่านการปรับโฉมมาหลายครั้ง แถมยังมีรถใหม่ป้ายแดงขายในตอนนี้อยู่ด้วย เป็นรถที่ดูแลง่าย ทนทาน ค่าซ่อมไม่แพง ศูนย์บริการหาง่าย ของแต่งก็มีเยอะ ขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้งานในเมือง

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i 86 แรงม้า ปัจจุบัน Yaris มีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 240,000 – 540,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

2. Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) จัดเป็นรถ Sedan ในรูปแบบ Eco-Car รุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นในท้องตลาด ที่ทาง Toyota ตั้งใจออกมาขายเพื่อชนกับ Eco-Car ซีดานค่ายอื่นๆ โดยเฉพาะ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560 ด้วยรูปลักษณ์สปอร์ต เจาะกลุ่มวัยรุ่น ความปลอดภัยครบครัน แถมยังมีรถใหม่ป้ายแดงขายอยู่ด้วย เป็นรถที่ดูแลง่าย ทนทาน ค่าซ่อมไม่แพง ใช้อะไหล่ร่วมกับ Yaris โฉม Hatchback ได้พอสมควร

โดยทั้ง Yaris และ Yaris ATIV ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i 86 แรงม้า ปัจจุบัน Yaris ATIV มีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 350,000 – 540,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

3. Nissan March

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ถือเป็นรถ Eco-Car รุ่นแรกที่ทำตลาดในโครงการนี้ ซึ่งในยุคของสยามกลการ เคยทำรุ่นนี้ขายเมื่อ 20 กว่าปีก่อน เปิดตัวเมื่อ 12 มีนาคม 2553 มีราคาจำหน่ายที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ได้รับความนิยมอย่างมากและมียอดขายสะสมรวมหลายแสนคัน แถมยังส่งออกไปขายในญี่ปุ่นอีกด้วย และปัจจุบันยังมีแบบรถป้ายแดงขาย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องอะไหล่นัก

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC 79 แรงม้า ประหยัดนํ้ามันได้มากถึง 20 กม./ลิตร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 130,000 – 330,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

4. Nissan Almera

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) เป็นรถ Eco-Car ขนาด 4 ประตู รุ่นแรกที่ผลิตออกมาในตลาดประเทศไทย เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 พร้อมทั้งมีรุ่นพิเศษออกมาหลายครั้ง รวมไปถึงการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ และเวอร์ชั่นใส่ชุดแต่ง NISMO ด้วย มีความโดดเด่นด้วยขนาดห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่ารถรุ่นเดียวกันมาก

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC 79 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 20 กม./ลิตร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 160,000 – 360,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

หรือถ้ามีงบประมาณมากหน่อย จะเลือก Almera โฉมปัจจุบันในรูปแบบรถมือสอง ที่เปิดตัวสู่ตลาดบ้านเรามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ก็ได้เช่นกัน

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 100 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 450,000 – 500,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

5. Suzuki Swift

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) สำหรับโฉมนี้ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 เป็นรุ่นที่ประกอบในบ้านเรา ด้วยรูปแบบ Eco-Car ที่ขายดีของซูซูกิ นำเสนอด้วยรูปทรงน่ารักเหมือนรถ Hatchback จากฝั่งยุโรป ออพชั่นแพรวพราว แต่งสวย ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 20 กม./ลิตร และมีรุ่นพิเศษออกมากระตุ้นตลาดอยู่เรื่อยๆ

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12B ขนาด 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT 91 แรงม้า ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 180,000 – 350,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

หรือถ้ามีงบประมาณมากหน่อย จะเลือก Swift โฉมปัจจุบันในรูปแบบรถมือสอง ที่เปิดตัวสู่ตลาดบ้านเรามาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 ก็ได้เช่นกัน

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12M แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 83 แรงม้า กับเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ DUALJET รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 350,000 – 460,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

6. Suzuki Ciaz

Suzuki Ciaz (ซูซูกิ เซียส) (ชื่อรุ่น มาจากคำว่า “City A-Z”) เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 เป็นรถซีดาน 4 ประตู ที่มีอะไรร่วมกันกับ Swift หลายๆ อย่าง แต่งสวย สปอร์ต ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง ประหยัดน้ำมันมากถึง 20 กม./ลิตร และตอนนี้ก็ยังมีรถป้ายแดงขายอยู่

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12B ขนาด 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT 91 แรงม้า ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 240,000 – 400,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

7. Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) ชื่อที่คนรุ่นก่อนคุ้นเคยตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้ว ในรูปแบบของรถ 4 ประตู และ 5 ประตู ก่อนจะกลับมาเป็นรถ Eco-Car ขายในตลาดบ้านเราอีกครั้ง เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 ชูรูปทรงขนาดเล็กน่ารัก ปรับโฉมกันมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังมีในรูปแบบรถป้ายแดงให้เลือกเช่นกัน

มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว MIVEC 78 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้ถึง 20-23.8 กม./ลิตร ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 150,000 – 390,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

8. Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวที่แรกในโลกในไทย อีกหนึ่งในรถ Eco­-Car แบบ 4 ประตู แบรนด์ที่สอง ที่ออกแนะนำสู่ท้องตลาดในวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ชูจุดเด่นด้วยการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับรถ อีโคคาร์ ซีดาน จากเทคโนโลยีการออกแบบชั้นสูง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มีให้ครบครัน แล้วก็ยังมีในรูปแบบรถป้ายแดงให้เลือกเช่นกัน

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว MIVEC 78 แรงม้า รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 180,000 – 390,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

Mr.Carro หวังว่า รถ Eco-Car ที่เรานำมาเสนอนี้ น่าจะถูกใจคุณผู้อ่านนะครับ …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : *ราคาในตลาดรถมือสอง 8 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนมิถุนายน 2565 เมื่อเวลาผ่านไปราคามือสองดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

รวมที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ

รวบรวมที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ไปง่าย ไม่แพง ในวันหยุด

หากวันหยุดนี้ คุณยังไม่มีที่ไป น้ำก็ไม่อยากเล่น งบก็เหลือน้อย แต่ก็ไม่อยากนอนอยู่บ้านเฉยๆ! งั้นมาลองดู list “สถานที่เที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ” ที่ Carro มาเสนอสักหน่อยมั้ย เพราะไม่ไกลแถมยังไม่แพง เผื่อเป็นตัวเลือกช่วยตัดสินใจ ว่าคุณจะไปเก็บแต้ม (ที่เที่ยว) ที่ไหนดี

1. องค์พระปฐมฯ, ตลาดดอนหวาย จ.นครปฐม

ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ amazingthaitour.com

เป็นจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพเลย ขับรถแค่ชั่วโมงนิดๆก็ถึง เหมาะสำหรับ One day trip หรือการขับรถไปเช้าเย็นกลับ สถานที่น่าสนใจก็มี อาทิ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร หรือองค์พระปฐมเจดีย์ พระสถูปเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ให้กราบไหว้

ในช่วงเย็นบริเวณวัดก็จะมีตลาดที่รวบรวมร้านค้า ร้านอาหารอร่อยๆ มากมายให้ลองชิม หรือจะไป ตลาดน้ำดอนหวาย ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดดอนหวาย ริมแม่น้ำท่าจีน ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ทางเกษตร ขนมไทยโบราณ และอาหารคาว-หวานต่างๆ ตลาดจะเริ่มเปิดตั้งแต่เช้าไปจนถึงช่วงเย็น ซึ่งคุณสามารถไปทั้ง 2 ที่ได้ภายในวันเดียว

 

2. เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี

ที่เที่ยว ใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ banthip.com

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุดเลยก็ว่าได้ มีระยะทางจากกรุงเทพไม่ถึง 30 กม. บนเกาะเกร็ดคุณสามารถชมความสวยงามของเจดีย์เอียง นมัสการพระพุทธไสยาสน์ เลือกซื้อเครื่องปั้นดินเผาจากชาวตำบลเกราะเกร็ด และชิมอาหารขึ้นชื่ออย่าง ดอกไม้ทอด, ทอดมันหน่อกะลา รวมถึงขนมไทยหลายชนิดที่สายกินจะต้องฟินสุดขีด ใครที่ขี้เกียจเดินก็มีจักรยานให้ปั่นชมวิวรอบทิวทัศน์เกาะ ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ คนจะเยอะและคึกคักเป็นพิเศษ

 

3. ตลาดร่มหุบ, ตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม

ที่เที่ยว ใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ aisfm.edu.com

จากภาพที่เคยเห็นตามสื่อต่างๆ จะเป็นภาพพ่อค้าแม่ค้ากำลังค้าขายในตลาด จนมีรถไฟวิ่งผ่านมา ร่มผ้าใบก็หุบลงและกางตัวออกเมื่อรถไฟผ่านไป ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของตลาดร่มหุบ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ คุณอาจจะใช้เวลาทั้งวันที่นี่ หรือแวะตลาดนี้เพื่อถ่ายภาพชิคๆ ก่อนจะไปตลาดน้ำอัมพวาก็ได้

ที่เที่ยว ใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ govivigo.com

ตลาดน้ำอัมพวาเป็นตลาดที่มีชื่อเสียง ด้วยบรรยากาศย้อนยุค สบายๆ มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหาร, เครื่องดื่ม, ซีฟู้ดราคาถูกในคลองอัมพวา บนบกก็มีร้านค้าเช่นกัน คุณจึงสามารถเดินชมตลาด ทานอาหารนานาชนิด หรือเช่าเรือไปไหว้พระทางน้ำ เที่ยวชมดูหิ่งห้อยในยามค่ำคืน มีโฮมสเตย์สวยๆ ริมน้ำมากมายให้เข้าพัก ส่วนการเดินทาง สามารถขับรถโดยใช้ถนนพระราม 2 (ทางหลวงหมายเลข 35) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรสงคราม ก็จะมีป้ายบอกทางไปสู่ตลาดร่มหุบและตลาดน้ำอัมพวา

 

4. เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา

ที่เที่ยว ใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ Pantip.com

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ เพียง 3 ชั่วโมง ค่าเข้าต่อคนเพียง 40 บาทสำหรับคนไทย การนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปบนอุทยานฯ ก็เพิ่มอีกแค่ 50 บาท ที่เขาใหญ่ มีกิจกรรมใกล้ชิดธรรมชาติมากมายให้คุณเลือกทำ ไม่ว่านอนชิลล์ดูดาวที่ลานกางเต็นท์ลำตะคอง, เที่ยวน้ำตก, ส่องสัตว์ตอนกลางคืนที่อุทยานฯ หรือ เดิน trail เส้นทางธรรมชาติกองแก้ว ฯลฯ เหมาะสำหรับแก๊งเพื่อนหรือครอบครัวที่รักธรรมชาติมากๆ เพราะมีกิจกรรมให้เลือกทำเยอะ ไม่น่าเบื่อ

 

5. เกาะขาม จ.ชลบุรี

ที่เที่ยว ใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ makalius.co.th

เกาะขามเป็นเกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะแสมสาร เกาะนี้มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีชายหาดที่สวยงาม กิจกรรมท่องเที่ยวมีหลากหลาย เช่นการดำน้ำ การนั่งเรือท้องกระจกชมประการัง เล่นน้ำทะเลริมหาดทราย ชมหมู่เกาะและทัศนียภาพทางทะเล แต่เกาะขามไม่มีที่พัก เพราะบนเกาะไม่อนุญาตพักแรมคืน

เป็นทริปไปเช้าเย็นกลับ หรือถ้าอยากพักก็สามารถหาที่พักใกล้ๆ กับท่าเรือได้เช่นกัน เปิดให้เข้าเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ การเดินทางไปเกาะขาม ใช้ถนนสุขุมวิท จากบางนา ขับรถตรงไประยอง ผ่านชลบุรี ผ่านสัตหีบ จากสามแยกสัตหีบไปกิโลเมตร 6 ใช้ถนนสาย 331 ไปจนถึงท่าเรือ

 

6. น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี

ที่เที่ยว ใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ areenorasing.wordpress

ใครอยากเล่นน้ำแต่ไม่อยากไปทะเลเจอแดดให้แสบผิว วันหยุดยาวนี้ ยังมีน้ำตกที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยและความใสอีกที่นึง ก็คือ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี น้ำตกเอราวัณมีความสูงถึง 7 ชั้น ระยะทางรวมประมาณ 1,500 เมตร โดยภายในอุทยานมีทั้งห้องพักและเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวเลือกเข้าพัก เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติได้ตามความต้องการ

อีกทั้งความใสของน้ำตกที่ยิ่งสูงยิ่งใส การเดินทางไปน้ำตกเอราวัณ ใช้ถนนเพชรเกษมหรือไปตามถนนบรมราชชนนี ผ่านนครชัยศรี จนถึงตัวจังหวัดกาญฯ ไปตามทางหลวง หมายเลข 3199 แล้วข้ามสะพานไปยังตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ แล้วเลยเข้าไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ

 

7. แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ที่เที่ยว ใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ ja.wikipedia.org

เปลี่ยนบรรยากาศจากน้ำตก แต่ก็ยังโดดน้ำได้ที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน คุณจะได้สัมผัสวิวสวยๆ ริมเขื่อน ที่สามารถกางเต็นท์หรือเช่าที่พักชมดวงอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในหน้าร้อน! ที่เขาพะเนินทุ่ง แล้วจะลงมาเล่นน้ำกันต่อบริเวณสันเขื่อนด้านล่างก็ได้

ที่เที่ยว ใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ travel.thaiza.com

หากมาในช่วงหน้าหนาวก็จะได้รับลมเย็นพร้อมบรรยากาศเขียวขจี หรือถ้ามาในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน จะได้พบกับผีเสื้อนับพันที่บินมากินอาหารในช่วงฤดูร้อน การเดินทางไปแก่งกระจาน ใช้ถนนพระราม 2 ถึงสามแยกวังมะนาวให้เลี้ยวซ้าย เข้าสู่จังหวัดเพชรบุรี ขับไปอำเภอท่ายาง แล้วขับไปตามทางหลวง 3499 ก็จะถึงแก่งกระจาน

 

8. วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ central-region.blogspot.com

วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ สิ่งที่น่าสนใจในวัด คือ เศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งมีรากไม้ปกคลุม เนื่องจากเศียรพระพุทธรูปนี้หล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ ในสมัยเสียกรุงศรีฯ จนรากไม้ขึ้นปกคลุมมีความงดงามแปลกตา นอกจากนี้ ในวัดมหาธาตุยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ อีก เช่น พระปรางค์ขนาดใหญ่ (ปัจจุบันทลายลงแล้ว), เจดีย์แปดเหลี่ยม, วิหารเล็กปกคลุมด้วยรากไม้, และตำหนักพระสังฆราชในสมัยนั้น

ที่เที่ยว ใกล้กรุงเทพเครดิตภาพ Woodychanel

การเดินทางไปวัดมหาธาตุ จากกรุงเทพฯ ขับรถเข้าตัวเมืองอยุธยาแล้วข้ามสะพานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตรงไปจนถึงสี่แยกไฟแดงที่ 2 เลี้ยวขวาตรงไปไม่ไกล ผ่านบึงพระราม จะเห็นวัดมหาธาตุอยู่ทางซ้ายมือ เปิดให้เข้าชมทุกวันค่ะ

โสด,-ซื้อรถ,-ประหยัด

โสด โทรศัพท์มีกล้อง! อยากมีรถขับเก๋ๆ เลือกซื้อเองได้ไม่ยาก

ภาระไม่มี และพี่เปย์ไว อาจเป็นคำนิยามใหม่ของ #คนโสด2018 หลายๆคน แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีภาระอย่างคนอื่นที่มีคู่หรือมีครอบครัว เราก็ต้องเตรียมตัวและ Plan เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้เป๊ะ! ยิ่งเรื่องรถยิ่งสำคัญ เพราะการใช้ชีวิตคนเดียวนั้นไม่มีใครคอยรับคอยส่ง ไม่มีใครคอยแชร์ค่างวด ค่าน้ำมัน ค่าอะไหล่ ไหนจะต้องสำรองค่าดูแลรักษารถตามอายุการใช้งาน ถ้าพลาดมาก็หนักกว่าชาวบ้าน เพราะต้องรับผิดชอบคนเดียวล้วนๆ

ฉะนั้น เรามาเตรียมตัวให้พร้อม จะได้เป็นโสดให้สนุก ไม่ทุกข์ เพราะการมีรถจะไม่เป็นภาระ วันนี้ Carro จึงขอเสนอทริคดีๆ บวกรถเก๋ๆ ที่จะทำให้ชีวิตโสดของคุณปัง ไม่มีพัง!

1.ราคาไม่แพงเกินไป

นี่คือปัจจัยสำคัญอันดับ 1 ในการเลือกซื้อรถของคนโสด บางคนอาจแย้งว่า เห้ย! สไตล์เราคือ Luxury นะยู แต่เดี๋ยวก่อน! เราเข้าใจเรื่อง Style ว่าเป็นของใครของมัน แต่อยากให้ลองคำนวนว่ารายรับเรามีเท่าไหร่ มีรายจ่ายอะไรบ้าง เพราะการบริหารรายจ่ายที่ดี ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถไม่ควรเกิน 25 – 30% ของรายรับ ต่อเดือน เพราะชีวิตยังมีค่าใช้จ่ายด้านอื่นอีก เช่น ค่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าประกันชีวิต ฯลฯ คุณจึงไม่ควรถวายเงินเดือนมากกว่าครึ่งไปกับค่างวดรถและค่าน้ำมัน เพราะอาจจะชักหน้าไม่ถึงหลัง และที่น่ากลัวกว่าการโดนยึดรถคือ การเป็นหนี้!

รถที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราขอแนะนำ

Nissan March

Nissan March

Suzuki Celerio

suzuki-celerio

Nissan Almera

Nissan Almera

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage

2.เลือกรุ่นที่ประหยัดน้ำมัน

เนื่องจากราคาน้ำมันในประเทศไทยมีการขึ้นและลงตลอดเวลา ไม่ค่อยเสถียร และเราต้องใช้รถทุกวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ วิธีที่เซฟที่สุดคือ เลือกซื้อรถยนต์รุ่นที่ประหยัดน้ำมัน ได้แก่

Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage

Mazda2

Mazda 2

Toyota Yaris

toyota-Yaris

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio

 

3.สามารถเติมน้ำมัน E85 หรือ E20 ได้

รุ่นที่จะแนะนำในข้อนี้เหมาะกับคนโสดตัวคนเดียวมากที่สุด เพราะขนาดเล็ก ปราดเปรียว ขับและดูแลง่าย เหมาะกับสภาพถนนในกรุงเทพฯ และยังเหมาะกับสภาพการเงินในกระเป๋าคนโสดอีกด้วย เพราะเติมน้ำมันที่มีราคาถูกได้ คือ E85 หรือ E20 รถที่แนะนำ ได้แก่

Honda Jazz

honda jazz

Honda City

Honda City

4.ค่าบำรุงรักษาไม่แพง

ข้อนี้เป็นข้อที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ แต่มักจะโดนมองข้าม เพราะรถ 1 คัน ก็เหมือนกับคนในครอบครัว 1 คน รับมาในชีวิตแล้วก็ต้องดูแลกันจนวันสุดท้าย การดูแลก็ทำได้ไม่ยาก เช่น ใช้งานอย่างถนอม หมั่นตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ เช็คระยะ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ฯลฯ จะเห็นได้ว่า การบำรุงรักษามีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง แม้ยังไม่รวมประกัน พ.ร.บ. แต่ถ้าหากใครคิดว่ามีรายรับสูงงงงงมากพอ สภาพการเงินคล่องมือ ไม่มีความเดือดร้อนทางการเงินใดๆ ทั้งโสด รวย และพร้อมเป เราก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะคุณสามารถเลือกซื้อรถได้ทุกรุ่นตามใจอยาก

แต่ถ้าหากคุณยังเป็นโสด ตัวคนเดียว ไม่มีรายรับที่มากพอบวกกับยังมีค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ เราขอแนะนำให้เลือกซื้อรถตลาดอย่าง Toyota หรือ Honda เพราะราคาสามารถเอื้อมถึง อะไหล่หาง่าย ค่าบำรุงรักษาถูก ซ่อมไม่ยุ่งยาก หรือเลือกซื้อรถบ้านมือสอง ก็คุ้มค่าเช่นกัน แค่นี้ เราก็จะโสดแบบ Cool Cool เก๋ๆ เงินเหลือพร้อมเปย์ มีรถพร้อมขับ และไร้ปัญหากวนใจภายหลัง!

ออมเงิน

ออมเงิน เก็บก่อน รวยก่อน มีเงินเก็บแบบไม่รู้ตัว

ทำงานมาตั้งหลายปี พยายามเก็บเงิน ออมเงินเท่าไร ก็ทำไม่ได้เสียที ซึ่งจริง ๆ แล้วการเก็บเงินไม่ได้เป็นเรื่องยาก บางคนเป็นหนี้อยู่ก็ยังออมเงินได้ เพียงแต่ว่าจะต้องตั้งใจทำให้มากกว่าเดิม วันนี้ คาร์โร จึงนำวิธีการออมเงินง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ 

วิธีที่ 1 เก็บเงินแบบเแบ่งกระปุก

ออมเงิน

เตรียมกระปุกหรือขวดโหลมาไว้สำหรับใส่เงิน พร้อมเขียนสิ่งที่อยากได้แปะไว้หน้ากระปุกแต่ละอัน เช่น กระปุกที่ 1 สำหรับไปเที่ยวญี่ปุ่น กระปุกที่ 2 สำหรับรถคันในฝัน กระปุกที่ 3 สำหรับ MacBook Pro เป็นต้น เวลาอยากได้อะไรก็จะตั้งใจหยอดเงินใส่กระปุกนั้นๆ พยายามอย่าใช้บัตรเครดิต ฝึกซื้อของจากเงินสด เพราะการไม่เป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐนั่นเอง

 

วิธีที่ 2 เก็บเศษเหรียญ

ออมเงิน

แต่ละวันเรามักมีเศษเหรียญติดตัวไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะที่กระจัดกระจายอยู่ตามซอกมุมต่างๆ ทั้งในบ้านหรือบนรถ เอามารวมใส่ไว้ในกระปุกเดียว อย่าเอาไปใช้จ่าย พอปลายปีค่อยเอาออกมานับ รับรองว่าได้เงินเยอะอย่างเหลือเชื่อ !

 

วิธีที่ 3 เก็บตามจำนวนวันของปี

วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท ไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่  365 ถ้าคุณทำตามได้อย่างเคร่งครัด วันสุดท้ายของปีจะมีเงินเก็บประมาณ 66,000 บาท แต่ถ้าใครที่ต้นปียังมีแรงฮึด แนะนำให้ลองทำกลับกัน เก็บ 365 บาทตั้งแต่วันที่ 1 และค่อยๆ เก็บลดลงไปเรื่อยๆ หรือถ้าใครอยากเก็บทุกวันในจำนวนเท่ากัน เราหารเฉลี่ยมาให้แล้ว คือวันละ 183 บาท ก็จะได้ยอดเงินท้ายปีที่มีจำนวนเท่ากันแล้ว

 

วิธีที่ 4 ออมตามวันที่

ออมเงิน

ถ้าคุณคิดว่าการเก็บเงินวิธีที่ 4 มันยากเกินไปสำหรับคุณ ลองมาเก็บตามวันที่ แต่ตัดเป็นเดือนต่อเดือน พอเอามารวม ๆตลอดปีได้ถึง 5,738 บาทเลยทีเดียว

 

วิธีที่ 5 เก็บแบงค์ 50

ออมเงิน

ในหนึ่งวันโอกาสที่จะเจอแบงค์ 50 มีอยู่น้อย ต้องคอยลุ้นว่าจะได้รับเงินทอนมาเป็นแบงค์ 50 หรือไม่ ถ้าได้มาก็นำไปหยอดกระปุกออมสิน อีกอย่างการออมเงินด้วยการเก็บแบงค์ 50 ทำง่าย สามารถเริ่มทำได้ตลอด และการออมเงินด้วยจำนวน 50 บาทนั้นกำลังพอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

จะออมมาก หรือออมน้อย ยังไงก็เป็นการออมอยู่ดี และมีเงินเก็บเหมือนกัน แต่อย่าเก็บออมแบบตึงจนเกินไป เดี๋ยวจะเครียดกันซะเปล่า ๆ เอาเป็นว่าเก็บแบบพอดี ๆ ที่ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนขัดสนก็พอ

 

Source the standard , aommoney.com , pantip.com