มีใครมากกว่านี้ไหม Porsche 911 Turbo (996) กับไมล์กว่า 1 ล้านกิโลเมตร!

หากคุณเป็นหนึ่งในสาวกของรถยนต์แบรนด์ Porsche (ปอร์เช่) อาจมีความชื่นชอบเป็นพิเศษกับ “เจ้าชายกบ” อย่าง Porsche 911 (ปอร์เช่ 911) หลาย ๆ รุ่น ที่ Porsche เริ่มต้นผลิตตั้งแต่ในปี 1963 จวบจนปัจจุบัน

แต่ก็มีบางโฉมที่ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ จนสาวกปอร์เช่อาจไม่ปลื้มนักอย่าง Porsche 911 (996) ที่แฟน ๆ เจ้าชายกบมองดูแล้วรู้สึกน่าชังมากกว่าน่ารัก ในการดีไซน์ตัวรถในตระกูล 911 จากผลงานการออกแบบของ Pinky Lai และ Harm Lagaay ที่ดูฉีกขนบประเพณีของ Porsche ไปจากเดิม แต่สมรรถนะและการขับขี่ ของ 996 นั้น ก็ยังถือว่าไม่เป็นสองรองใครในตระกูล 911 อยู่นะ

มีใครมากกว่านี้ไหม Porsche 911 Turbo (996) กับไมล์กว่า 1 ล้านกิโลเมตร!

และสิ่งที่ทำให้หลายคนทึ่งไปกับ Porsche 996 Turbo รุ่นนี้ นั่นก็คือมีชายคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ ที่น่าจะได้ชื่อว่า เป็นคนที่ใช้งานรถ Porsche 911 มากที่สุดในโลก! ด้วยจำนวนระยะทางที่มากกว่า 659,701 ไมล์ (หรือ 1,061,685 กิโลเมตร) คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ Porsche คันนี้วิ่งมาล้านกิโลเมตร!

Tom Thalmann หลังจากที่ใช้รถญี่ปุ่นอย่าง Honda มามากถึง 4 คัน ต่อมาในปี 2003 จึงได้ตัดสินใจซื้อรถ Porsche 911 Turbo (โฉม 996) สานฝันของตัวเองได้สำเร็จ

มีใครมากกว่านี้ไหม Porsche 911 Turbo (996) กับไมล์กว่า 1 ล้านกิโลเมตร!

พร้อมกับใช้งานรถสปอร์ตคันนี้เป็นประจำแทบทุกวัน ด้วยระยะทางเฉลี่ยถึงเกือบ 158 กิโลเมตร ในแต่ละวัน! ในทุกสภาพอากาศ ตั้งแต่แดดร้อน ฝนตก หิมะตก รวมถึงยังนำรถไปร่วมแข่งขันในเซอร์กิตต่าง ๆ 4-12 ครั้ง ในแต่ละปี

เคล็ดลับที่ทำให้รถสปอร์ตคู่ใจของคุณ Tom ใช้งานได้ยาวนาน และสมบูรณ์ที่สุด นั่นคือการตรวจเปลี่ยนของเหลวและอะไหล่ต่างๆ ตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้เสมอ แม้จะต้องจ่ายค่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ เดือน มาตลอด 18 ปี

มีใครมากกว่านี้ไหม Porsche 911 Turbo (996) กับไมล์กว่า 1 ล้านกิโลเมตร!

แต่สิ่งที่ Tom มองว่าสิ้นเปลืองที่สุด นั่นก็คือ การที่ต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ทั้ง 4 เส้น ทุก ๆ 3-4 เดือน จนเมื่อถึงระยะทาง 383,000 ไมล์ (ประมาณ 616,000 กิโลเมตร) ก็ถึงเวลาโอเวอร์ฮอล์เครื่องยนต์ใหม่ เนื่องจากกำลังอัดเครื่องยนต์เริ่มตกแล้ว พอวิ่งมาถึง 647,000 ไมล์ (ประมาณ 1,041,000 กิโลเมตร) ก็จัดการเปลี่ยนอะไหล่ชุดใหญ่กันอีกครั้ง เช่น ชุดคลัทช์ เกียร์ และเทอร์โบ เป็นต้น

มีใครมากกว่านี้ไหม Porsche 911 Turbo (996) กับไมล์กว่า 1 ล้านกิโลเมตร!

และแน่นอนว่า Porsche 911 Turbo สภาพเดิม ๆ จากโรงงานคันนี้ จะรับใช้คุณทอมได้ยาวนานถึงหนึ่งล้านกิโลเมตรแบบนี้ ทนทานดุจรถแท็กซี่บางยี่ห้อในเมืองไทย ก็คงต้องขออยู่ดูแลด้วยกันไปชั่วชีวิตแล้วล่ะ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครสนใจอยากขายรถคันเดิม หรือจะรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถนำรถคันเดิมมาขายกับ CARRO ได้เลย เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

สำหรับใครที่อยากซื้อรถใหม่ที่ทนทาน ใช้งานได้ถึงล้านกิโลเมตร แต่ถ้ามีงบไม่พอ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

MG-Cyberster-Concept-2021

ในงาน Auto Shanghai 2021 ครั้งนี้ ค่ายรถเมืองจีนหลายค่ายต่างนำรถยนต์รุ่นเด็ดๆ มาประชันกันในงานนี้สารพัด เพื่อเอาใจลูกค้าชาวจีนให้หันมาซื้อรถกันอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 กันไปอย่างหนักหน่วงในปีที่ผ่านมา

และทางด้านค่าย SAIC Motor ผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน และยังเป็นเจ้าของแบรนด์ MG (เอ็มจี) ได้นำรถต้นแบบ MG Cyberster (เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมห้องโดยสารสไตล์ E-Sport คันแรกในโลก มาโชว์ในงานนี้ด้วย

ซึ่ง MG Cyberster โดดเด่นด้วยความทันสมัย ความอัจฉริยะ และก้าวล้ำนำหน้า โดยสืบทอดรูปทรงคลาสสิคของรถเปิดประทุน และจิตวิญญาณของรถยนต์ MGB Roadster ไว้อย่างเต็มขั้น MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง ว่ารถสปอร์ตขวัญใจชาวอีสปอร์ตรุ่นนี้ จะมีอะไรเป็นที่น่าสนใจบ้าง

MG-Cyberster-Concept-2021

MG Cyberster คือรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มากับพร้อมห้องโดยสารสไตล์เกมมิ่งคันแรกในโลก สร้างสรรค์โดยทีมนักออกแบบของเอ็มจี สืบทอดรูปทรงคลาสสิคและความเป็นผู้นำเทรนด์ของรถยนต์ MGB Roadster เข้ากับแนวทางการออกแบบใหม่ ระหว่างความสุนทรียภาพ และจินตนาการเชิงศิลป์ ที่สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง

MG-Cyberster-Concept-2021

ด้านหน้าของ MG Cyberster สืบทอดดีไซน์สไตล์คลาสสิคของ MG ด้วยไฟหน้าทรงกลม กระจังหน้าเรียวยาว พร้อมชุดไฟหน้า “Magic Eye” แบบ Interactive และกระจังหน้าที่ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้านข้างตัวรถใช้ชุดไฟ LED “Laser Belt” ลงตัวกับล้อดีไซน์ใหม่แบบ “Hacker Blade” ทำให้ตัวรถดูทรงพลังมากยิ่งขึ้น

MG-Cyberster-Concept-2021

ด้านท้ายของ MG Cyberster ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์แบบยุโรปในลักษณะท้ายสั้น หรือ Kammback พร้อมชุดไฟท้ายดีไซน์สุดล้ำแบบ “Red Wing” ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจน

MG-Cyberster-Concept-2021

นอกจากนี้ การออกแบบโลโก้เรืองแสง ไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศร และสปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกัน ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวของรถสปอร์ตอย่างเต็มที่

MG-Cyberster-Concept-2021

ภายในของ MG Cyberster ดูล้ำยุค มาพร้อมการเชื่อมต่ออัจฉริยะรองรับเทคโนโลยี 5G และชุดแบตเตอรี่ ยังให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร และให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที

สำหรับแนวทางการออกแบบภายใน จะเป็นแบบ “Digital Fiber” วางผังที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง ออกแบบตำแหน่งที่นั่งแยกฝั่งซ้าย-ขวา ออกจากกัน และมีแผงหน้าปัด LED ขนาดใหญ่พร้อมจอกลาง

MG-Cyberster-Concept-2021

โดยแผงหน้าปัดแบบชิ้นเดียว ที่ผสานหลากหลายธีมไว้ด้วยกัน ไม่เพียงแค่แสดงข้อมูลสำคัญๆ แต่ยังให้อารมณ์สปอร์ตคลาสสิคในสไตล์ยุโรป เบาะรองนั่งแบบ Zero-Gravity Seat มือจับหุ้มหนังสีแดงที่บริเวณแผงประตู ลงตัวกับ Laser Belt ในขณะที่เส้นสายภายในและผิวสัมผัสสร้างโมเมนตัมได้อย่างทรงพลัง

MG-Cyberster-Concept-2021

นอกจากนี้ เอ็มจี และ Bilibili E-Sports ซึ่งเป็นบริษัทด้าน E-Sport รายใหญ่ในจีน ยังได้ร่วมกันสร้าง Cockpit เกมซูเปอร์คาร์รุ่นแรกในรถ MG ซึ่งมีดีไซน์ภายในที่รองรับการออกแบบเสียงและแสงในธีม E-sport ให้อารมณ์ความรู้สึกเสมือนหนึ่งอยู่ในโลกของเกมอย่างแท้จริง ให้ผู้ใช้โดยเฉพาะ Gen Z จะชื่นชอบมาก

MG-Cyberster-Concept-2021

ทางด้านสมรรถนะ MG Cyberster ติดตั้งแบตเตอรี่ไร้โมดูล (Moduleless Battery) เทคโนโลยี CTP ในเวอร์ชั่นอัพเกรดใหม่ ซึ่งให้ระยะการขับขี่ที่ไกลถึง 800 กิโลเมตร สามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 3 วินาที

และมีเทคโนโลยีอัจฉริยะชั้นสูง ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการอัพเกรดแบบแอคทิฟ (Active-upgrading) และสมาร์ท ค็อกพิท (Smart Cockpit) นอกจากนี้ MG Cyberster ยังมีเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 อีกด้วย

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า MG Cyberster แบบสปอร์ตโรสเตอร์ต้นแบบคันนี้ น่าจะถูกใจคอเกมมิ่งกันอย่างมากครับ!

หากช่วงนี้ ใครกำลังอยากขายรถคันเดิมอยู่ สามารถขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ โดยได้ราคาที่ดีที่สุด รับประกันความพึงพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

Mitsuoka-Himiko-ม้า-อรนภา

ย้อนเวลากลับไปในช่วงปลายปีที่แล้ว คงไม่มีใครคาดคิดว่าคนที่อยู่วงการบันเทิงมาหลายสิบปี อย่าง “ม้า อรนภา กฤษฎี” จะออกมาแสดงออกทางการเมืองของเหล่า นิสิต นักศึกษา และนักเรียน ที่ชูสามนิ้วและผูกโบว์ขาว ด้วยคำพูดที่ค่อนข้างรุนแรง จนกลายเป็นดราม่าในโลกออนไลน์

จากกระแสสังคมดังกล่าว ม้า-อรนภา จึงถูกปลดออกจากรายการที่ทำอยู่ทั้งหมด และตกงานมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ต้องมาช่วยแม่ไลฟ์สดขายห่อหมก ขายของลูกค้า หรือนำเสื้อผ้าแบรนด์เนมออกมาขาย ล่าสุดประกาศขายรถสปอร์ตสุดหรู คลาสสิค ที่มีชื่อว่า Mitsuoka Himiko (มิทสึโอกะ ฮิมิโกะ) อีกด้วย หลังจากได้ Toyota Corolla Cross ป้ายแดง ที่แฟนหนุ่มได้ซื้อมาให้ใช้เป็นที่เรียบร้อย

MR.CARRO คิดว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า รถที่ ม้า อรนภา ใช้อยู่ เป็นรถที่มีชื่อเสียงเรียงนามมาจากไหน ใครเป็นคนขาย วันนี้เลยขอโอกาสมาเล่าให้ฟังกันครับ …

Mitsuoka-Himiko

บริษัท Mitsuoka Motor นับเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเล็กของญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 1968 โดย Susumu Mitsuoka เน้นจุดขายที่คุณค่าที่อยู่เหนือกาลเวลา ความคลาสสิคของรถในสไตล์อังกฤษ หรือสไตล์อเมริกันในยุค 50 และ 60 ซึ่งสามารถใช้งานได้จริงในยุคปัจจุบัน และในช่วงแรกเริ่มของบริษัท มีจะผลิตรถยนต์ขนาดจิ๋ว Micro Car ด้วย

สำหรับรถยนต์ที่มีชื่อเสียงในอดีตของค่ายนี้ ก็มีอย่างเช่น BUBU, MC-1, Zero-1, SSK, Speedster, Ray, Ryoka, Le-Seyde, Orochi หรือ Like เป็นต้น

Mitsuoka-Motor-Famous-Cars

โดย Mitsuoka เริ่มนำรถยนต์ขนาดใหญ่มาตกแต่ง จริงๆ จังๆ เป็นครั้งแรกด้วยการนำ Nissan Silvia (S13) มาตกแต่งใหม่ให้เป็นรถยนต์สปอร์ตคลาสสิค ในชื่อรุ่น Le-Seyde ในปี 1990 ที่จำลองแบบมาจากรถ Zimmer Golden Spirit เพียง 500 คันเท่านั้น

ภายหลังจึงเริ่มขยายสู่ตลาด Mass มากขึ้น ด้วยการนำรถยนต์จากค่ายรถชื่อดังหลายแบรนด์ อาทิ Toyota, Nissan หรือ Mazda มาดัดแปลงให้เป็นรถยนต์แบบคลาสสิก ด้วยช่างฝืมือผู้ชำนาญงาน ประกอบด้วยมือ ซึ่งใช้เวลาผลิตต่อคันอยู่ที่ประมาณ 3-9 เดือน

ปัจจุบัน Mitsuoka มีรถยนต์ขายหลากหลายรุ่น อาทิ Viewt, Galue, Ryuki, Rock Star, Himiko, Buddy และสามล้ออย่าง Like-T3 เป็นต้น

Mitsuoka-Himiko

สำหรับ Mitsuoka เข้ามาในไทยได้อย่างไรนั้น? ก็ต้องขอบอกเลยว่า บริษัท มิทสึโอกะ มอเตอร์เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จับมือกับทาง ยนตรกิจ คอร์ป ในวันที่ 15 กันยายน 2553 ลงขันเปิดบริษัทร่วมกัน ในสัดส่วนการลงทุนระหว่าง Mitsuoka Motor ประเทศญี่ปุ่น ถือหุ้น 45% กับยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้น 40% ที่เหลือเป็นบริษัทอื่นๆ

เตรียมพร้อมตั้งฐานประกอบรถในไทย โดยใช้โรงงานประกอบรถยนต์ ของยนตรกิจอุตสาหกรรม ย่านร่มเกล้า หลังจากที่แต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2551 หวังเปิดตลาดส่งออกในภูมิภาคอาเซียน ตะวันออกกลาง ประเดิมเปิดไลน์ประกอบ 2 รุ่น Galue IV และ Himiko ในปี 2554 แต่ก็ทำตลาดในบ้านเราถึงปี 2559 ก็ตัดสินใจยุบตลาด ถอยทัพกลับประเทศไป …

Mitsuoka-Himiko

Mitsuoka Himoko (มิทสึโอกะ ฮิมิโกะ) เป็นยนตรกรรมสปอร์ตคลาสสิค 2 ที่นั่ง เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 โดยนำพื้นฐานของ Mazda Roadster (หรือ Mazda MX-5) รหัสรุ่น NC มาตกแต่งใหม่ด้วยช่างผู้ชำนาญมากถึง 45 คน

ตั้งชื่อรุ่นรถตามองค์ราชินี “ฮิมิโกะ” ผู้ปกครองอาณาจักร “ยามาไต” ซึ่งเป็นอาณาจักรโบราณที่มีอยู่จริงประมาณ 1,800 ปีมาแล้ว ให้ภาพความสง่างาม เกียรติยศ และรัศมีแห่งความงดงามที่เปี่ยมคุณค่า น่าหลงใหล มีพลังที่น่าดึงดูดใจตามรูปลักษณ์ของราชินี Himiko อย่างแท้จริง ในราคา 3,750,000 บาท

ตัวรถภายนอก ออกแบบโดย Takanori Aoki ผสมผสานกลมกลืนระหว่างรถยนต์สมัยใหม่ กับเส้นสายโค้งมนของรถคลาสสิค แบบ Long-Nose / Short-Deck กล่าวคือ อัตราส่วนระหว่าง ความยาวของบังโคลนหน้ากับช่วงท้ายรถ เป็นอัตราส่วนทอง คือ 7 : 3 งดงามเปรียบประดุจอัญมณีล้ำค่า แลดูยังคล้ายกับรถ Jaguar XK120 และ Morgan Aero 8 อีกด้วย

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 162 แรงม้า ที่ 6,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 189 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Manual Shift Mode ขับเคลื่อนล้อหลัง เปิดประทุนได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ในเวลา 12 วินาที

Mitsuoka-Himiko-Classic

ในปี 2555 ได้เปิดตัว Mitsuoka Himiko Classic ตกแต่งพิเศษด้วยตัวถังสีทูโทน Brilliant Black / Strong Red เบาะที่นั่งพร้อมแผงประตูหนังแท้สีแดง ตัดเย็บด้วยช่างฝีมือประณีต ภายในตกแต่งด้วยลายไม้สวยเก๋ คลาสสิคอย่างเหมาะเจาะลงตัว เพิ่มความหรูหราอีกระดับด้วยคิ้วโครเมี่ยมรอบคัน ผลิตเพียง 20 คัน เท่านั้น ในราคา 3,880,000 บาท

Mitsuoka-Himiko-Limited-Edition-2015

จนในเดือนมิถุนายน 2558 เปิดตัว Mitsuoka Himiko Limited Edition High Impack Color ในงาน Bangkok Auto Salon 2015 ออกแบบด้วยสีสันตัวรถที่สดใส ใช้โทนเขียวและส้ม ตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์ดำ เอาใจคนรักสปอร์ตสไตล์คลาสสิก ใช้ล้อแม็กสีดำขนาด 17 นิ้ว ท่อไอเสียคู่ ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ โดยพัฒนาร่วมกับ TRUST / GReddy บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับจากทั้ง Race & Street Tuner

ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยโทนเขียวและส้ม ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 10 คันเท่านั้น ในราคา 3,980,000 บาท!

แล้วก็หายไปเงียบจากท้องตลาด!

ส่วนถ้าใครอยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! ขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ ลงประกาศขายรถฟรี โดยได้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @Carrothai คลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก

What-Is-Alcantara-Seat

รถยนต์ในบ้านเราแต่เมื่อแต่อดีตนั้น การขายรถยังไม่ดุเดือดแบบในทุกวันนี้ วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งภายใน ก็มักจะเป็นแบบง่ายๆ ไม่เน้นความหรูหรา เน้นความทนทานเป็นหลัก แต่พอเริ่มเข้าสู่ยุค 80 ที่รถยนต์เริ่มมาพร้อมความทันสมัยมากขึ้น ความหรูหราก็ถูกประเคนเข้ามาแต่งเติมในรถยนต์มากขึ้น

แม้กระทั่งเบาะนั่ง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในรถ ก็ถูกพัฒนาให้สอบรับกับสรีระคนขับ หรือผู้โดยสาร ได้ถูกต้องตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) มากขึ้น วัสดุที่ใช้ จากแต่เดิมที่เบาะนั่งเป็นแบบหนังเทียม หรือไวนิล ก็พัฒนาไปเป็นเบาะผ้าแบบต่างๆ เช่น แบบสักหลาด แบบกำมะหยี่ หรือเบาะหนังแท้ เป็นต้น

และเบาะ Alcantata (อาคันทารา) ที่หลายคนเรียก “เบาะหนังกลับ” ล่ะ ที่เพิ่งจะเป็นที่นิยมในรถหรู รถสปอร์ต หรือรถ Supercar ตั้งแต่ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานั่นเอง มีที่มาจากอะไร? และใช้วัสดุอะไร ในการผลิต?

หลายคนมีความสงสัย MR.CARRO จึงขอตอบทุกข้อข้องใจใน ณ ที่นี้ …

What-Is-Alcantara-Seat

วัสดุ Alcantara ที่ตกแต่งภายในรถยนต์

Alcantara (อาคันทารา) เป็นชื่อของแบรนด์ของวัสดุสังเคราะห์อย่าง Polyester ประมาณ 68% และ Polyurethane ประมาณ 32% พัฒนาขึ้นโดยผสมผสานผ้าและเส้นใยพลาสติก มาเพื่อทดแทนหนังกลับแท้ๆ โดย Miyoshi Okamoto นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานให้กับบริษัทเคมี Toray Industries Inc. ตั้งแต่ช่วงก่อนปี 1970

What-Is-Alcantara-Seat

วัสดุสังเคราะห์ของ Alcantara ให้ความรู้สึกนุ่มนวล

โดยเริ่มแรกเรียกวัสดุสังเคราะห์ชนิดนี้ว่า Ecsaine ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Ultra Suede

มาถึงช่วงประมาณในปี 1972 จึงได้ร่วมมือกับบริษัทเคมีของอิตาลี ANIC S.p.A. (หรือ Azienda Nazionale Idrogenazione Combustibili) หรือชื่อในปัจจุบัน Eni S.p.A. (ในภาษาอิตาลี ย่อมาจาก Ente Nazionale Idrocarburi หรือในภาษาอังกฤษ National Hydrocarbons Authority) พัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน พร้อมตั้งบริษัทชื่อ Antor S.p.A.

ในปี 1973 จึงก่อตั้งบริษัทร่วมกันในชื่อ Iganto S.p.A. (ชื่อบริษัท ย่อมาจาก I = Italia หรือ Italy ในภาษาอังกฤษ, G = Giappone หรือ Japan (ญี่ปุ่น) ในภาษาอังกฤษ ANic และ TOray) ถือหุ้นระหว่าง ANIC 51% และ Toray 49% ก่อนจะเจาะกลุ่มตลาดแฟชั่น และกลุ่มอุปกรณ์ตกแต่ง

Fiat-X1-9

และในปี 1978 รถ Fiat X1/9 รถสปอร์ตขนาดเล็ก เครื่องวางกลางรุ่นยอดนิยม ก็ได้ใช้วัสดุของ Alcantara ตกแต่งในรถเป็นครั้งแรก

ก่อนจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Alcantara S.p.A. ในปี 1981 และในปี 1995 จึงมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหม่ ทาง ENI ของอิตาลีถอนตัวออก กลายเป็นทางญี่ปุ่น Toray และ Mitsui เข้ามาถือหุ้นในบริษัทเต็มตัว ก็เลยเรียกได้ว่า เป็นบริษัทของญี่ปุ่น ที่ทำธุรกิจอิตาลีไปละกัน แต่ฐานการผลิต ก็ยังคงอยู่ที่ Nera Montoro ใกล้กับกรุงโรม เช่นเดิม

What-Is-Alcantara-Seat

รถ Supercar ของอิตาลี นิยมตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara

โดย Alcantara ขายความเป็นเบาะ Made in Italy จึงมีราคาค่อนข้างสูง และนิยมใช้กันในรถหรูหรา รถสปอร์ต

เนื้อของวัสดุจะดูคล้ายๆ หนัง แต่สัมผัสแล้วนุ่มมือ มีความละเอียดกว่า ไม่ลื่นแบบไหลลื่น เหมือนเบาะหนังแท้ อีกทั้งเป็นวัสดุไม่ลามไฟ จึงนิยมนำมาใช้ในรถแข่ง และรถสปอร์ต

What-Is-Alcantara-Seat

แต่แล้วข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย เนื่องจากเบาะ Alcantara มีราคาแพงเพราะขายแบรนด์เนม และลักษณะการใช้งาน คล้ายกับเบาะผ้าสักหลาด หรือผ้ากำมะหยี่ นั่นคือ “อมฝุ่นมาก” การทำความสะอาดต้องใช้น้ำยาเช็ดเบาะ หรือลูกกลิ้งดูดฝุ่น แต่ถ้าจะให้ง่ายก็ขับรถเข้าร้านคาร์แคร์ ดูดฝุ่นเบาะทำความสะอาดเลยดีที่สุด

What-Is-Alcantara-Seat

การออกแบบและพัฒนาเบาะของโรงงาน Alcantara

ส่วนถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อดาวน์รถคันใหม่ ซื้อรถคันใหม่ ก็สามารถนำรถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

Toyota-Sports-800-GR-Concept

เมื่อ Toyota Gazoo Racing ปลุกปั้น Toyota Sports 800 GR Concept ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง …

หากย้อนกลับไปในช่วงหลาย 50 กว่าปีที่แล้ว หลายคนยังคงจำเจ้า Toyota Sports 800 รถสปอร์ตขนาดเล็กของโตโยต้า ที่เคยมีโลดแล่นบนท้องถนนไทยอยู่หลายคัน (ซึ่งปัจจุบัน กลายเป็นรถที่หายากมากๆ และมีราคาที่สูงลิ่ว)

Toyota-Publica-Sports-Concept

หลังจากที่ Toyota ได้ผลิตและจำหน่ายรถรุ่น Publica ในหลายหลายรูปแบบตัวถังแล้ว จึงอยากคิดโครงการใหม่ ที่ผลิตรถในรูปแบบ Sports 2 ประตู แบบ 2 ที่นั่ง ขึ้นมา เป็นรถต้นแบบในชื่อ “Toyota Publica Sports” และเผยโฉมสู่สาธารณชนในงาน Tokyo Motor Show ปี 1962 ก่อนจะเปิดตัว Toyota Sports 800 ในอีก 3 ปีผ่านมา …

Toyota-Sports-800

Toyota เริ่มพัฒนา Sports 800 โดยฝีมือของนักออกแบบชื่อ Shozo Sato ร่วมกับวิศวกร Toyota ชื่อ Tatsuo Hasegawa อดีตวิศวกร ผู้ออกแบบเครื่องบินรบในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะออกสู่ตลาดในวันที่ 1 เมษายน 1965 โดยทำตลาดในญี่ปุ่นผ่านโชว์รูมเครือข่ายจำหน่ายที่ชื่อ Publica (ต่อมาคือเครือข่ายจำหน่าย Corolla) ในราคา 595,000 เยน มียอดขายตลอด 5 ปี (1965-1969) รวม 3,131 คัน

Toyota-Sports-800

รถรุ่นนี้ มีชื่อเล่น เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า “Yota-Hachi” (ヨタハチ) โดยคำว่า Yota มาจากคำว่า Toyota ส่วน Hachi หมายถึง เลข 8 รวมกันเป็น Toyota 8 นั่นเอง

โดยรถที่เรานำเสนอในวันนี้ อดีต เคยเข้าเป็นร่วมการแข่งขัน Suzuka 500km เมื่อปี 1966 และถูกทิ้งเป็นซากรถ อยู่ในโกดังมานาน โดยรถที่ได้รับการบูรณะใหม่ มีเลขตัวถังหมายเลข 10007 ที่ขับโดยนักแข่งชาวญี่ปุ่น Mitsuo Tamura เข้าอันดับ 2 ในสนามซูซูกะมาแล้ว

Toyota-Sports-800-GR-Concept

ถึงแม้จะมีแรงม้าเพียง 45 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 6.8 กก.-ม. ที่ 3,800 รอบ/นาที จากเครื่องยนต์รหัส 2U-B แบบ Boxer 2 สูบ OHV ขนาด 790 ซีซี ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 4 สปีด ก็ยังสามารถต่อกรกับรถแข่งรุ่นใหญ่ได้ ด้วยน้ำหนักตัวถังที่เบา ลู่ลม ตัวถังแบบเหล็กกล้าผสมอลูมิเนียม (น้ำหนักรถเพียง 580 กก.) และความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์

Toyota-Sports-800-GR-Concept

Toyota-Sports-800-GR-Concept

ตลอดการแข่งขัน 84 รอบ รถแข่งรุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวในสนาม ที่ไม่ต้องเติมน้ำมันตลอดการแข่งขัน และถึงแม้จะผ่านธงตราหมากรุกแล้ว ก็ยังมีน้ำมันเหลือกว่า 30% ของน้ำมันในถัง

Toyota-Sports-800-GR-ConceptToyota-Sports-800-GR-Concept

ซึ่งการบูรณะครั้งนี้ ต้องยกให้ Toyota Gazoo Racing ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยต้องผลิตชิ้นส่วนใหม่มาใช้เป็นจำนวนมาก และช่วงล่างกับเครื่องยนต์ ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด พร้อมกับติดสติ้กเกอร์ที่มีลวดลายตามแบบฉบับ Gazoo สมัยใหม่

Toyota-Sports-800-GR-Concept

Toyota-Sports-800-GR-Concept