รวมรถใหม่ เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2021

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38” หรือ The 38th Thailand International Motor Expo 2021 ภายใต้แนวคิด “มหกรรมสุขสันต์คนรักยานยนต์” หรือ “TIME to ENJOY!” หลังจากที่ต้องเผชิญกับโควิด-19 มาอย่างหนักทั้งปี จนอ่วมไปตามๆ กัน ทั้งตัวค่ายรถเอง และผู้บริโภคเอง กำลังซื้อหดหายไปอย่างมากในปีนี้

โดยงาน Motor Expo 2021 พร้อมจัดงานในยุค New Normal เตรียมนำรถใหม่ 2021 และรถใหม่ 2022 พร้อมรถรุ่นพิเศษ มาจัดแสดงส่งท้ายปี 2021 โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เปิดตัวทั้งก่อนงาน ตั้งแต่ในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน และในงาน Motor Expo 2021 ที่บริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่แบบออนไลน์กันไปหลายค่าย CARRO มาแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

รวมรถใหม่ เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2021

1. Haval H6 PHEV

หลังจากที่ Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) ประเทศไทย ได้เปิดตัว All-New Haval H6 Hybrid SUV (ฮาวาล เอช6) อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ก็ได้เสียงตอบรับจากคนไทยเป็นอย่างดี ซึ่งมีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น PRO ราคา 1,149,000 บาท และรุ่น ULTRA ราคา 1,249,000 บาท โดยเป็นราคาแบบ “One Price” ราคาเดียวกันในทุกๆ ช่องทางการขาย

แต่ข่าวดีสำหรับคนชอบ Haval H6 ที่มีกระแสจะมีรุ่นใหม่มาในปลายปีนี้อีก นั่นคือรุ่น Plug-In Hybrid (ปลั๊กอินไฮบริด) หรือ PHEV แบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ เวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาคันแรกของโลก เตรียมเปิดตัวในไทย!

กับขุมพลังเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส GW4B15 GDIT EVO พ่วงระบบเทอร์โบแปรผันและซูเปอร์ชาร์จ ให้แรงม้าสูงสุดมากกว่า 150 แรงม้า วางมอเตอร์คู่ พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 45 kWh บนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนๆ เตรียมมาโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ด้วย

รวมรถใหม่ เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2021

2. Haval Jolion

All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV (ฮาวาล โจไลอ้อน) นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ของ Haval จากสายการผลิตที่โรงงานระยอง นี่ก็เตรียมเปิดตัวในไทยคันแรกของโลก (ที่เป็นรุ่นพวงมาลัยขวา) เช่นกันครับ โดยรถ SUV รุ่น HAVAL Jolion เปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา

ความพิเศษของรถรุ่นนี้ อยู่ที่การใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะแบบเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV และพกพาความหรูหรามารอบคันทีเดียว ห้องโดยสารภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” กว้างขวาง สะดวกสบาย

พร้อมการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด เมื่อทํางานร่วมกับเครื่องยนต์ สร้างการขับเคลื่อนที่พลังและประหยัดน้ำมัน

เตรียมมาโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้แน่นอน

ORA Good Cat 2022

3. ORA Good Cat

ORA Good Cat (โอร่า กู๊ดแคท) เรียกได้ว่าแรงจนฉุดไม่อยู่เลยจริงๆ สำหรับเจ้าแมวเหมียวไฟฟ้าคันนี้ ที่พายอดจองไปอย่างเหนือความคาดหมาย แต่ราคาเปิดออกมาก็ดูเหนือความคาดหมายเช่นเดียวกัน กับ 2 รูปแบบแบตเตอรี่ และ 3 รุ่นย่อย พร้อมโปรเด็ด ORA Good Cat Ultra Deal

อ่านเพิ่มเติม >> ORA Good Cat 2022 ใหม่ แบตเตอรี่ 2 แบบ 3 รุ่นย่อย พร้อมโปรเด็ด เปิดราคา 989,000 – 1,199,000 บาท

ORA Good Cat ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ (143 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 152 กม./ชม. ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์ ORA-Goddess Easy Drive พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈32 นาที และ 40 นาที (ในรุ่น 500 Ultra), ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0%–>80%) ใช้เวลาประมาณ ≈45 นาที และ ≈60 นาที (ในรุ่น 500 Ultra) กับการชาร์จไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ ≈8 ชั่วโมง และ ≈10 ชั่วโมง (ในรุ่น 500 Ultra)

New Toyota Camry 2022

4. Toyota Camry

มาดูค่ายรถญี่ปุ่นอย่าง Toyota (โตโยต้า) กันบ้าง ที่เพิ่งเปิดตัว Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) โฉมไมเนอร์เชนจ์เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แม้ว่าจะดูเงียบเหงาไปบ้าง โดยมาพร้อมแนวคิด “The Absolute Perfection ความสมบูรณ์แบบที่เป็นคุณ” เพิ่มความสปอร์ตด้วยดีไซน์ใหม่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชั่นความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ในราคา 1,475,000 – 1,809,000 บาท

ด้วยดีไซน์กระจังหน้าแบบใหม่ ประดับคิ้วโครเมียม ชุดไฟหน้าโฉบเฉี่ยว มีกล้องมองรอบคัน 360 องศา เพิ่มขนาดล้ออัลลอยใหญ่ขึ้นเป็น 18 นิ้ว ภายในใช้ลายไม้แบบใหม่ หนังหุ้มเบาะหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์แบบนุ่มพิเศษ แถมหมอนพิงศีรษะเบาะหน้าปรับพับเก็บได้ พวงมาลัยปรับไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่

เบาะนั่งคู่หน้า Ventilator พร้อมพัดลมจากใต้เบาะและพนักพิง ให้ความรู้สึก Premium เบาะนั่งด้านหลังปรับไฟฟ้า พร้อมแผงควบคุมที่คอนโซลด้านหลัง หน้าจอแบบ Floating type ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 9 นิ้ว แบบใหม่ เชื่อมต่อทุกความสะดวกผ่านระบบ Apple CarPlay และ Android Auto ได้

ในโฉมนี้ตัดรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ออกไป มีเพียงเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FKB แบบ Dynamic Force 209 แรงม้า จิบน้ำมัน 15.6 กม./ลิตร

และเครื่องยนต์สำหรับรุ่นไฮบริด…ผสาน 2 พลัง มอเตอร์ไฟฟ้า X เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร Dynamic Force ทำงานร่วมกันอัตโนมัติ ให้การตอบสนองเต็มกำลัง 211 แรงม้า และเกียร์ E-CVT ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทานและประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม 23.8 กม./ลิตร

All-New Lexus NX PHEV 2022

5. Lexus NX

ด้านค่าย Lexus (เลกซัส) เตรียมนำ The All-New Lexus NX (เลกซัส เอ็นเอ็กซ์) ครอสโอเวอร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Plug-In Hybrid ครั้งแรกจากเลกซัส มาโชว์ในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้

พร้อมกับดีไซน์ใหม่หมดจดบนแพลตฟอร์ม และขุมพลังเทอร์โบใหม่ ที่ยกระดับสุนทรียภาพการขับขี่ของคุณไปอีกขั้นด้วย Lexus Driving Signature

All-New Honda HR-V e:HEV 2022

6. Honda HR-V

มาแน่นอนสำหรับ Honda (ฮอนด้า) ที่เตรียมเปิดตัว All-new Honda HR-V 2022 (ฮอนด้า เอชอาร์วี) ใหม่ เจเนอเรชันที่ 2 ด้วยรูปแบบ e:HEV ขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ลุ้นเปิดราคาในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ คาดราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 990,000 บาท! กับรุ่นย่อย RS เปิดตัวในไทยที่แรกของโลก!

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์ SUV ได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตา ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย กว้างขวาง

มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม โดดเด่นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟได้ประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

Honda Jazz Thai 2021

7. Honda Jazz

Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) นับตั้งแต่เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557! Honda ยังคงยืนหยัดผลิตขายในไทยกันต่อไป หลังจากที่มีกระแสเลิกผลิตมาจากสื่อโซเชียลมีเดียของประเทศใกล้เคียง แต่ดันเอาข่าวมาบอกว่าในไทยซะงั้น!

ในงาน Motor Expo 2021 นี้ Honda Jazz มาพร้อมทางเลือกใหม่ในสไตล์สปอร์ต กับสีเทาโซนิค (มุก) เพียง 1,500 คัน มีให้เลือกใน 3 รุ่นย่อย จากทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น S CVT ราคา 600,000 บาท, รุ่น V+ ราคา 700,000 บาท และรุ่น RS ราคา 745,000 บาท โดยราคารวมค่าสีภายนอก สีเทาโซนิค (มุก) 6,000 บาท

Mitsubishi Xpander Special Edition 2021

8. Mitsubishi Xpander Special Edition

ด้านค่าย Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เปิดตัว Mitsubishi Xpander Special Edition (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ สเปเชียล เอดิชั่น) รถอเนกประสงค์แบบ MPV สำหรับคุณพ่อสมัยใหม่ สะกดทุกสายตาด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งสีดำ อาทิ กระจังหน้า, ชายกันชนหน้าและหลัง, กระจกมองข้าง, คิ้วขอบกระจกประตู, คิ้วตกแต่งชายกันชนข้าง, และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม อาทิ มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถพร้อมกรอบรองที่จับประตู, ที่ชาร์จมือถือแบบไร้สาย, ระบบความบันเทิงรุ่นใหม่พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีแดง (Spirit Red) สีดำ (Jet Black Mica) และสีขาว (Quartz White Pearl)

Mazda CX-3 2022

9. Mazda CX-3

ช่วงปลายปี 2564 นี้ Mazda (มาสด้า) เริ่มรุกตลาดรถ SUV หนัก ด้วยการปรับปรุงโฉมเล็กๆ น้อยๆ ให้กับรถในรูปแบบ Crossover SUV แทบทุกรุ่น เริ่มตั้งแต่ Mazda CX-3 2022 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3) กับการเผยโฉมสีภายนอกเทรนด์ใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ในราคาเริ่มต้นเท่าเดิม 769,000 บาท

ให้ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอลอิสระขึ้นอีกขั้น กับแนวคิด “Leap Forward” ให้ชีวิตไปอีกขั้น กับ SUV ใหม่ที่คุ้มค่ากว่า เชื่อมต่อคนรุ่นใหม่กับโลกยานยนต์ด้วยการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger และรองรับระบบ Wireless Apple CarPlay ทุกรุ่น พร้อมเบาะคนขับปรับไฟฟ้า กับระบบบันทึกตำแหน่ง พร้อมเพิ่มออฟชั่นใหม่ในทุกรุ่นย่อย

ขับสนุกคล่องตัวแบบรถ SUV กับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า ทั้งแรงและประหยัดน้ำมัน ใครสนใจไปลองขับดูกันได้ ที่งาน Motor Expo 2021

Mazda CX-5 2022

10. Mazda CX-5

Mazda (มาสด้า) แนะนำ New Mazda CX-5 2022 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) กับแนวคิดใหม่ “พลังความสุข ที่เร้าใจทุกเส้นทาง” ทุกรุ่นมาพร้อมหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีนใหม่ ขนาด 8 นิ้ว, รองรับการเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดผ่านระบบ Mazda Connect รองรับ Apple CarPlay และระบบ Android Auto

พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว และขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์สุดเท่ 3 สไตล์

มีให้เลือกถึง 3 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 165 แรงม้า คุ้มค่ามากที่สุด เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร Turbo 231 แรงม้า ทรงพลังแรงมากที่สุด และเครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้า แรงและประหยัดน้ำมันมากที่สุด ในราคา 1,320,000 – 1,830,000 บาท

New Mazda CX-8 2022

11. Mazda CX-8

Mazda (มาสด้า) แนะนำ New Mazda CX-8 2022 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8) รถอเนกประสงค์ SUV ระดับพรีเมี่ยม แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่างแท้จริง มาพร้อมแนวคิด “The Precious Moment for All ทุกช่วงเวลา…มีคุณค่าไม่สิ้นสุด”

เพิ่มทางเลือกใหม่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น กับรุ่นเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 ที่นั่ง 2.5 SP Exclusive เบาะนั่งแบบ Captain Seat แยกอิสระซ้าย-ขวา เพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light แบบ LED และหน้าจอ Center Display แบบทัชสกรีนใหม่ ขนาด 8 นิ้ว ทุกรุ่นย่อย รวมถึงประตูท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และเพิ่มเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกกับความปลอดภัย ให้ครบยิ่งขึ้นกว่าเดิม

มีให้เลือกถึง 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เบนซินขนาด 2.5 ลิตร 194 แรงม้า และเครื่องยนต์คลีนดีเซล ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้า แรงและประหยัดน้ำมันมากที่สุด ในราคา 1,499,000 – 2,069,000 บาท

Aston Martin Vantage Roadster 2022

12. Aston Martin Vantage Roadster

มาดูสายรถแนวซูเปอร์คาร์กันบ้าง ซึ่งขอบอกเลยว่าในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ มีมาให้ชมกันอย่างแน่นอน กับ … Aston Martin Bangkok เปิดตัว Aston Martin Vantage Roadster (แอสตัน มาร์ติน แวนเทจ โรดสเตอร์) ยนตรกรรมสปอร์ตนักล่า เปิดหลังคาท้าสายลม ในราคา 15,900,000 บาท ในไทยปีนี้ได้โควต้ามาเพียง 2 คัน มีคนจองไปเรียบร้อย …

มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดุดันและน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ผสานเส้นสายบึกบึนแบบเดียวกับรุ่นคูเป้อันเป็นเอกลักษณ์ โอเวอร์แฮงค์หน้า-หลังสั้น และโป่งล้อกว้าง แสดงถึงความคล่องตัวและตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพ ไฟหน้าแบบใหม่ พร้อมไฟท้ายบางเฉียบ กว้างเต็มพื้นที่ของฝาท้ายที่เชิดขึ้น

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร Twin Turbo 503 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 685 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ของ ZF ผสานเพลาขับวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ติดตั้งในปลอกอะลูมิเนียม (Alloy Torque Tube) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที

ทำความเร็วได้สูงสุด 306 กม./ชม. โดยเครื่องยนต์ถูกติดตั้งให้ชิดกับตัวถังมากสุด เพื่อการกระจายน้ำหนักที่สมดุล 50:50% ภายใต้พิกัด 1,745 กก. (1,628 กก. เมื่อติดตั้ง Lightweight Options)

Peugeot 3008 SUV 2022

13. Peugeot 3008 & 5008

Peugeot ประเทศไทย เปิดตัว Peugeot 3008 SUV (เปอโยต์ 3008) ใหม่ ภายใต้ Concept “Face The New Face” ในราคา 1,689,000 บาท และ Peugeot 5008 (เปอโยต์ 5008) ใหม่ แบบ 7 ที่นั่ง ภายใต้ Concept “The Space Of Happiness” ราคา 1,869,000 บาท

ปรับโฉมเพิ่มความเร้าใจ ให้โฉบเฉี่ยวและทันสมัยยิ่งขึ้น รูปลักษณ์ที่โดดเด่นถูกปรับให้ดูชัดเจนและทันสมัยยิ่งขึ้น เพิ่มความสปอร์ตด้วยช่องดักลมสีดำบนกันชนหน้า ส่วนด้านท้ายก็ไม่น้อยหน้า ด้วยไฟท้ายแบบ Full LED (รวมไฟถอยหลัง) สะท้อนกรงเล็บสิงโต (Lion Claws) ได้อย่างทรงพลัง

ห้องโดยสารของ 3008 SUV ต้อนรับผู้โดยสารอย่างอบอุ่นด้วยเบาะหนัง ตัดกันกับสีด้ายที่ใช้เย็บตะเข็บอย่างลงตัว ตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วยวัสดุผ้าคุณภาพสูง มาตรวัดดิจิทัลอเนกประสงค์ขนาด 12.3 นิ้ว ด้านหน้าผู้ขับ สามารถปรับการแสดงผลได้อิสระ ติดตั้งทัชสกรีนอเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว บริเวณกลางแดชบอร์ด จอภาพความละเอียดสูง

มาพร้อม 7 สวิตช์แบบก้านเปียโน (Piano Key Toggle Switches) ที่ดูหรูหรา และช่วยให้สามารถปรับการทำงานของระบบต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็ว พร้อมรองรับการชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย (Wireless Charging)

ขับเคลื่อนอย่างมั่นใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร Twin-Scroll Turbo 167 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร สูงสุดในรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ช่วยให้มีอัตราเร่งดีและใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่า ส่งกำลังนุ่มนวลฉับไว ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Electric Impulse พร้อม Advanced Grip Control กับ 5 โหมดการขับ (Normal-Snow-Mud-Sand-ESP Off) ผสานหลายระบบช่วยเหลือผู้ขับ

Peugeot 2008 SUV 2022

14. Peugeot 2008

Peugeot ประเทศไทย ยังได้เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ The All-New 2008 (เปอโยต์ 2008) SUV ยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับคนพันธุ์ใหม่ หัวใจพรีเมียม ภายใต้ Concept “Uncage The Lion In You” ปลดปล่อยตัวตนที่เป็นคุณ ในงาน Motor Expo 2021 นี้

Pocco Duoduo รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุด เริ่มต้น 389,000 บาท เปิดตัวใน Motor Expo 2021

15. Pocco Duoduo

Pocco Duoduo (ป๊อคโค่ ตั่วตั่ว) หรือ 朋克多多 เป็นรถภายใต้แบรนด์ 朋克 (เผิงเค่อ) มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Punk (พังก์) เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ Tall Boy 4 ประตู (ดูคล้ายกับรถ K-Car ของญี่ปุ่น) นั่งได้ 4-5 ที่นั่ง ผสมผสานการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ จุดชาร์จไฟอยู่บริเวณด้านหน้ารถ โดยใช้สีทูโทนเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพิ่งเปิดตัวไปในจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 10.3 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14.5 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 178 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 389,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 449,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

รู้จัก Pocco Meimei รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋ว ในราคา 399,000 – 469,000 บาท เปิดตัวในงาน Motor Expo 2021 เช่นกัน!

16. Pocco Meimei

Pocco Meimei Mini EV (ป๊อคโค่ เม่ยเม่ย) หรือ 朋克美美 เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ 3 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาดเล็ก ที่เปิดตัวในจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างสะดวก กับนวัตกรรมสุดล้ำ ยิ่งทวีคูณความน่ารัก น่าเลิฟ ถูกใจคุณผู้หญิงอย่างแน่นอน

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร และกำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 105 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 9.2 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 170 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

สนนราคารุ่น L เริ่มต้นที่ 399,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 469,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

All-New Ford Ranger 2022

17. Ford Ranger

All-New Ford Ranger 2022 (ฟอร์ด เรนเจอร์) โฉมใหม่ล่าสุดเผยโฉมครั้งแรกในโลกพร้อมกันเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ชูดีไซน์จาก F-150 บึกบึนแข็งแรงภายใต้แนวคิด “Built Ford Tough” หรือ “เกิดมาแกร่ง” เตรียมผลิตและเปิดตัวอย่างอย่างเป็นทางการในไทยปีหน้านี้

โครงสร้างของ Ranger ถูกพัฒนาขึ้นใหม่หมด โดยเพิ่มระยะห่างระหว่างล้อขึ้นอีก 50 มม. และยืดความยาวฐานล้ออีก 50 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

ห้องโดยสารภายใน กว้างขวางและหรูหราแบบเดียวกับรถยนต์นั่ง ชูจุดเด่นด้วยหน้าปัดแบบดิจิทัล และหน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว และ 12 นิ้ว ที่รวมเอาปุ่มระบบปรับอากาศไว้ด้วยกัน พร้อมคันเกียร์แบบ Electronic Shifter ที่หัวเกียร์ขนาดสั้นกว่าปกติ ซึ่ง Ford ระบุว่า ใช้ชุดคันเกียร์แบบนี้แทนที่เกียร์แบบปุ่มหมุน เพื่อสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า

สำหรับรายละเอียดเครื่องยนต์ยังไม่เปิดเผย แต่จะมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ Turbo เดี่ยว และ Bi-Turbo เช่นเคย พร้อมปรับปรุงเครื่องยนต์ เกียร์และชุดถ่ายทอดส่งกำลังขึ้นใหม่ และเพิ่มขุมพลัง V6 ในตลาดบางประเทศอีกด้วย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2021 กันแล้ว ถ้าใครสนใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถนำรถคันเดิมมาขายกับ CARRO ได้เลย เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

สำหรับใครที่อยากซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2021 แต่งบไม่พอ! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุดและยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

New-Car-In-Motorshow-2021

“Motor Show 2021” (มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42) หรือ The 42th Bangkok International Motor Show 2021 ภายใต้แนวคิด “วิถีชีวิตใหม่ใจเป็นสุข” หรือ “Shaping The Next Chapter” พร้อมนำรถรุ่นใหม่มาโชว์ให้ดูกันอย่างคับคั่ง ท่ามกลางบรรยากาศการจัดงานตามรูปแบบวิถีชีวิตใหม่-New Normal ปลอดภัยไร้กังวลจากโควิด-19 แน่นอน และในปีนี้ พิเศษ! ด้วยโซน Smart EV City ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนยุคใหม่

โดยงานมอเตอร์โชว์ 2021 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ รถรุ่นเด่นๆ ที่เปิดตัวกันตั้งแต่ก่อนงาน และในงาน Motor Show 2021 แม้ว่าในปีนี้ บริษัทรถยนต์หลายค่าย อาจจะมีรถใหม่มาเปิดตัวกันไม่มากนัก และก็เป็นรถจากแบรนด์จีน และยุโรปเป็นหลัก … เอาละ CARRO ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ กันเลยครับ …

All-New-Mazda-BT-50-2021

Mazda BT-50

All-New Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) เจเนอเรชั่นใหม่ เปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคม 2564 ผนวกคุณสมบัติของรถปิกอัพที่ดีที่สุดในโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว กับแนวคิด “พร้อม…กับทุกด้านของชีวิต” ประกอบด้วย ดีไซน์ออกแบบอย่างสง่างาม คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ประหยัดน้ำมันมากที่สุดถึง 16.1 กม./ลิตร ทนทานสูงสุด รวมทั้งค่าดูแลรักษาต่ำสุด (เพราะว่าตัวรถใช้แบบเดียวกับ Isuzu D-Max นั่นเอง!)

ปิกอัพสายพันธุ์ใหม่ของมาสด้า กระจังหน้าออกแบบด้วย Signature Wing ขนาดใหญ่ รูปทรงด้านหน้าสไตล์รถ SUV สปอร์ต โฉบเฉี่ยว ส่วนภายในห้องโดยสาร เน้นความประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด ใช้วัสดุคุณภาพสูง

คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน เสาภายในและเพดาน เลือกใช้โทนสีดำตัดกับหนังสีน้ำตาลเข้ม มีเบาะไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทางและระบบดันหลัง ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone สามารถแยกปรับด้านซ้าย-ขวาได้อิสระ พร้อมแอร์หลัง รวมถึงระบบ Infotainment ที่มาพร้อมหน้าจอแบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 9 นิ้ว

มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.9 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ซึ่งเครื่องยนต์ทั้ง 2 ขนาด รองรับน้ำมันได้ถึง B20

All-New Mazda BT-50 4 มีให้เลือก 14 รุ่นย่อย ในราคา 553,000 – 1,153,000 บาท

New-MG-Extender-2021

MG Extender

MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) กระบะพันธุ์ยักษ์ เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมราคาในงาน Motor Show 2021 ด้วยรูปโฉมปรับปรุงใหม่หมด กับกระจังหน้าขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ไฟหน้าแบบ 2 ชั้น ด้านบนเป็น Daytime Running Light พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ส่วนชุดไฟหน้าแบบ LED Projector ถูกย้ายไปติดตั้งที่กันชนหน้า คู่กับไฟตัดหมอก

ด้านข้างมาพร้อมบันไดข้างใหม่ คู่ไปกับล้ออัลลอยสี Bi-Colour ขนาด 18 นิ้ว ส่วนด้านท้าย ใช้ไฟท้ายรูปตัว C Curve ตกแต่งฝากระบะท้ายด้วยแผงสีดำ พร้อมแถบสีแดงเชื่อมไฟท้ายทั้งสองเข้าด้วยกัน

ภายในห้องโดยสารของ MG Extender ใหม่ ใช้เบาะนั่งสีทูโทนน้ำตาล-ดำ เสริมด้วยลายเคฟลาร์ มีหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว เชื่อมต่อระบบ i-SMART ได้ พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ๆ อาทิ กล้องมองภาพรอบทิศทาง, ระบบเตือนออกนอกเลน LDW หรือระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS เป็นต้น

ส่วนขุมพลัง ยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผันจาก Garrett เช่นเดิม

สำหรับราคาของ MG Extender ใหม่ รอดูกันได้ในวันที่ 22 มีนาคมนี้ ที่งาน Motor Show 2021

ORA-Good-Cat

ORA Good Cat

ORA Good Cat (โอร่า กู๊ดแคท) นับว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ในแบรนด์ ORA ที่ผลิตออกมาเพื่อจำหน่าย บนแพลทฟอร์มที่ชื่อ L.E.M.O.N. (Lightweight Electrification Multi-purpose Omni-protection Network) เทคโนโลยีสุดล้ำของแพลตฟอร์มแบบ Modular แบบ 5 ประตู Hatchback โดยจำหน่ายในประเทศจีนเมื่อเดือนตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา

ตัวรถภายนอก มาด้วยดีไซน์แบบ Retro Futurism กลมมนสุดคลาสสิก และด้านท้ายที่ดูแปลกตา ด้วยตำแหน่งไฟเบรกที่ไว้บริเวณกันชนท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ขนาดยาว ฝังในกระจกบานหลัง พร้อมล้อแม็กแบบ 17 นิ้ว และ 18 นิ้ว ให้เลือก

ภายในยังคงเน้นรูปแบบความคลาสสิค เรียบง่าย มากับเบาะหนังแท้ พวงมาลัยหุ้มหนัง ขับสนุกไปกับ ORA-Enjoyment ปรับเปลี่ยนสภาวะในห้องโดยสารได้ตามต้องการ และระบบ Smart Quick Start แค่เสียบเข็มขัดนิรภัยและเหยียบเบรก ก็สตาร์ทรถได้ทันที

ผนวกกับ Infotainment หรือ ORA Smart-Café ผนวกกับ OS Coffee Intelligent Car Control System ที่ใช้ระบบ AI ในการประมวลผล ทำงานผ่านหน้าจอขนาด 17.25 นิ้ว จำนวน 2 จอ มีระบบจดจำเสียงและใบหน้า และผู้ช่วยอย่าง ORA CAT Avatar ที่แสดงผลเป็นรูปแมวบนหน้าจออีกด้วย

ระบบขับเคลื่อน มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ (143 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที จำกัดความเร็วไว้สูงสุดที่ 150 กม./ชม. ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์ ORA-Goddess Easy Drive พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ

กับแบตเตอรี่แบบ CTP ขนาดความจุ 47.8 kWh และ 59.1 kWh ซึ่งสามารถชาร์จได้กว่า 80% (จากแบตเตอรี่คงเหลือ 30%) ภายในเวลาเพียง 30 นาที ให้ระยะทางวิ่ง 401 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และ 501 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

เตรียมโชว์ตัวจริงในไทย ที่งาน Motor Show 2021 นี้!

ORA-R1

ORA Black Cat

ORA Good Cat (โอร่า กู๊ด แคท) หรือที่ขายในเมืองจีนชื่อ “ORA R1” รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กแบบ A-Segment พัฒนาขึ้นภายใต้ ME Platform ใช้เวลาพัฒนามากกว่า 10 ปี กับ 500 ผู้เชี่ยวชาญในการ R&D ด้วยรูปทรงแบบย้อนยุค แต่ก็ดูเรียบง่าย มีล้อแม็กให้เลือกทั้งแบบ 15 นิ้ว และ 16 นิ้ว ใช้โครงสร้างตัวรถด้วยเหล็ก High Tensile Steel

ภายในในเรียบหรู เน้นระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการช่วยขับรถ ส่วนระบบขับเคลื่อน ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet แม่เหล็กถาวร สำหรับหมุนล้อคู่หน้า ออกแบบการจัดวางมอเตอร์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ Lithium-ion Polymer หรือ LMP ความจุ 30.7 kWh และระบบประมวลผลไว้ใกล้กัน

มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 35 กิโลวัตต์ (49 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 125 นิวตัน-เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 102 กม./ชม. และให้ระยะทางวิ่ง 301 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และยังมีรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 45 กิโลวัตต์ ให้เลือกอีกด้วย

เตรียมโชว์ตัวจริงในไทย ที่งาน Motor Show 2021 นี้!

Great-Wall-Poer-2021

POER EV

POER EV (โพ อีวี) รถกระบะไฟฟ้าจากแดนมังกรที่เตรียมมาโชว์ในงาน Motor Show 2021 อีกรุ่น เป็นรถที่มีชื่อแบรนด์มาจากคำว่า 炮 (Pao) ที่แปลว่า ความทรงพลัง ที่ทาง Great Wall เลือกชื่อนี้ในการทำตลาดโลก เปิดตัวครั้งแรกในช่วงกลางปี 2020 ที่ผ่านมา ช่วยสะท้อนคอนเซปต์ Power, Peak และ Perfect โดยรุ่นมีให้เลือกทั้งแบบช่วงสั้น และช่วงยาว

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร Turbo 166 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 190 แรงม้า

นอกจากนี้ยังมีรุ่น EV ให้เลือก โดยวางมอเตอร์ไฟฟ้าพิกัดกำลังขนาด 150 กิโลวัตต์ (201 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ในระยะทางมาดถึง 405 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ถือว่าเป็นรถกระบะไฟฟ้าที่วิ่งได้ระยะมากที่สุดที่มีขายในจีน

เตรียมโชว์ตัวจริงในไทย ที่งาน Motor Show 2021 นี้!

Haval-H6-2021

HAVAL H6 Hybrid SUV

HAVAL H6 Hybrid SUV (ฮาวาล เอช6 ไฮบริด เอสยูวี) รถยนต์เอสยูวียอดนิยมระดับโลก ที่เพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุด เจเนอเรชั่นที่ 3 ไปเมื่อปี 2020 เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ผสานกับดีไซน์อันโดดเด่น ที่แอบมาวิ่งทดสอบกลางเมืองกรุงกันได้สักพักแล้ว

ในรุ่นที่ขายในเมืองจีน เป็นแบบเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร GDiT EVO Turbo 160 แรงม้า และแบบ 2.0 ลิตร GDiT EVO 187 แรงม้า ซึ่งทั้ง 2 แบบ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด DCT

สำหรับรถ SUV รุ่นนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำหน้า เช่น ระบบช่วยถอยอัตโนมัติ (Automated Reversing Assist), ระบบรักษาระยะห่างและความเร็ว (Intelligent Cornering), ระบบรักษาระยะห่างระหว่างรถ (Intelligent Dodge) และระบบควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน (Lane Center Keeping)

เตรียมเปิดตัวรุ่น Hybrid ที่แรกของโลกในไทย ณ งาน Motor Show 2021

Rolls-Royce-Ghost-2021

Rolls-Royce Ghost

Rolls-Royce Ghost (โรลส์-รอยซ์ โกสต์) เปิดตัวในไทยไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา กับรถยนต์รุ่นที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในประวัติศาสตร์ 117 ปี ของ Rolls-Royce โดย Ghost รุ่นใหม่นี้ใช้เวลาพัฒนานานกว่า 5 ปี ให้ออกมาได้อย่างหรูหรา แต่เรียบง่าย ใช้งานได้อเนกประสงค์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วโลก

Rolls-Royce Ghost ใช้โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม เรียกว่า “สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา” (Architecture of Luxury) เช่นเดียวกับ Rolls-Royce รุ่นใหม่ทุกรุ่น ทั้งเบา ยืดหยุ่น แต่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่สมดุล 50:50

ขณะที่สัญลักษณ์นางฟ้า หรือ “Spirit Of Ecstacy” เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ถูกล้อมกรอบบริเวณฐาน แต่อยู่บนฝากระโปรง ดุจกำลังลอยอยู่กลางทะเลสาบ และที่สุดของเทคโนโลยีต่างๆ อัดแน่นทั้งคัน ผนวกกับความนุ่มนวลของช่วงล่างดุจพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) พัฒนาไปอีกขั้น กับเทคโนโลยี “Planar Suspension System”

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ Twin Turbo V12 ขนาด 6.75 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 563 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ช่วยให้ยนตรกรรมพิกัดกว่า 2 ตัน มีอัตราเร่งทันใจ แรงบิดสูงสุดมีให้ใช้ตั้งแต่ 1,600 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่ารอบเดินเบาประมาณ 600 รอบ/นาที เท่านั้น รวมถึงมีการปรับแต่งท่อไอดีใหม่ เพื่อลดเสียงรบกวน

สำหรับ All-New Rolls-Royce Ghost ราคาเริ่มต้น 32,700,000 บาท ส่วน All-New Rolls-Royce Ghost Extended ราคาเริ่มต้น 36,800,000 บาท!!!

Maserati-MC20-2021

Maserati MC20

Maserati MC20 (มาเซราติ เอ็มซี20) ซูเปอร์คาร์รุ่นล่าสุดจากค่ายตรีศูล ต่อยอดจากรุ่น MC12 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย นับเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของ มาเซราติ ผลิตจากโรงงานในเมืองโมเดนา ประเทศอิตาลี 100% มาพร้อมรางวัล “Most Beautiful Supercar of the Year 2021” จากฝรั่งเศส และ “Super Sports Car of the Year” จากอังกฤษ

อักษร MC ย่อจาก Maserati Corse ขณะที่ตัวเลข 20 มาจากปีที่เปิดตัว (2020) ใช้เวลาในการรังสรรค์ประมาณ 2 ปี ด้วยความร่วมมือตั้งแต่ต้นของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab, ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจาก Maserati Engine Lab และบรรดานักออกแบบจาก Maserati Style Centre

ระบบอากาศพลศาสตร์ ผ่านการออกแบบและปรับแต่งในอุโมงค์ลมที่ Dallara Wind Tunnel โดยใช้เวลาทั้งหมดกว่า 2,000 ชั่วโมง และการทดสอบ CFD (Computational Fluid Dynamics) กว่า 1,000 ครั้ง ส่งผลให้รถมีบุคลิกโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ขณะที่ประตูเปิดขึ้นแบบปีกผีเสื้อ

ขุมพลังยุคใหม่ ใส่เทคโนโลยีเอฟวัน “Nettuno” เป็นเครื่องยนต์เบนซิน V6 Twin Turbo 630 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 730 นิวตันเมตร ที่มีเทคโนโลยีโดดเด่นจนได้รับสิทธิบัตรจากสถาบันนานาชาติ เรียกว่า MTC (Maserati Twin Combustion) ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดกว่า 325 กม./ชม. และเป็นเครื่องยนต์ที่ Maserati ผลิตเองอีกครั้ง หลังจากหยุดไปนาน 20 ปี

สนนราคาเริ่มต้น ที่ 21,500,000 บาท!!!

Mercedes-AMG-GLA-35-4MATIC-2021

Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC

Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC (เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีแอลเอ 35) ยนตรกรรมคอมแพ็คเอสยูวีสายพันธุ์แรงที่มาพร้อมความอเนกประสงค์และดีไซน์สปอร์ตตามปรัชญาของ Mercedes-AMG ในทุกรายละเอียด

ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยการออกแบบในสไตล์ของ Mercedes-AMG ตลอดทั้งคัน เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าแบบ AMG Specific Radiator Grille, ไฟหน้าใหม่แบบ LED high-performance แบบ Full LED พร้อมไฟแบบ Daytime Running Light และเฉียบคมด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่จาก AMG แบบ 5-Twin Spoke ขนาด 19 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารตกแต่งในแบบ AMG Interior ด้วยพวงมาลัยดีไซน์สปอร์ตแบบ 3 ก้านท้ายตัด ตกแต่งด้วยหนัง Nappa พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch control เบาะนั่ง AMG Sport Seat แบบสปอร์ต ด้วยหนังชนิด ARTICO สลับกับ DINAMICA Micro-Fibre ตัดเย็บด้วยด้ายสีแดงและเข็มขัดนิรภัยสีแดงตลอดทั้งคัน โดยมีไฟล้อมรอบห้องโดยสารแบบ Ambient Light ที่สามารถเลือกปรับได้มากถึง 64 เฉดสี

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร พร้อม Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุดถึง 306 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 3,000-4,000 รอบ/นาที จึงมอบอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.1 วินาที

วางจำหน่ายในราคา 3,190,000 บาท!!!

Mercedes-Benz-GLE-350-de-4MATIC-Exclusive-2021

Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive

Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive (เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี 350 ดีอี) ผสานเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดและความแข็งแกร่งในแบบฉบับของเครื่องยนต์ดีเซลเข้าด้วยกันเป็นครั้งแรก

การออกแบบภายนอก ให้อารมณ์สปอร์ตในทุกมิติด้วยดีไซน์แบบ Exclusive Body Styling พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่มีความโดดเด่นในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบ LED High-Performance ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 20 นิ้ว ตลอดจนความแข็งแกร่งของส่วนท้าย ที่บ่งบอกถึงความโดดเด่น

กับครั้งแรกของระบบมัลติมีเดีย MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ที่เชื่อมโยงคุณเข้ากับเทคโนโลยีอันชาญฉลาดเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว โดยพัฒนามาจากนวัตกรรม AI และยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำหน้าอย่างครบครัน

พร้อมเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิต ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อม Turbocharger และ Intercooler ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี Plug-In Hybrid เจเนอเรชันที่ 3 พร้อมแรงม้าสูงสุดถึง 320 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 6.8 วินาที ขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

แนะนำให้ผู้ใช้รถยนต์ไทย ได้สัมผัสแบบ Executive ในราคาเริ่มต้น 4,699,000 บาท!!!

Mercedes-Benz-E-300-e-AMG-Dynamic-2021

Mercedes-Benz E-Class

Mercedes-Benz E-Class (เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส) รุ่นใหม่ ดีไซน์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยวอย่างเป็นทางการของรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยยอดขายสะสมมากถึง 14 ล้านคันทั่วโลก เฉพาะตัวถัง W213 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2559 ก็สามารถทำยอดขายสะสมทั่วโลกรวมกว่า 1.2 ล้านคัน

มีให้เลือกในไทย 3 แบบใหม่ ได้แก่ E 300 e Avantgarde, E 220 d AMG Sport และ E 300 e AMG Dynamic ที่มีให้เลือกทั้งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี แบบ Plug-In Hybrid เจเนอเรชันที่ 3 และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลพลังแรง และชุดแต่ง AMG Body Styling ที่ปรับดีไซน์ใหม่ให้ดูล้ำสมัยยิ่งขึ้น

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2 ทางเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ผสานพลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี Plug-In Hybrid เจเนอเรชันที่ 3 ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า พร้อมอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.7 วินาที

อีกหนึ่งทางเลือก คือ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ Turbo ให้พละกำลัง 194 แรงม้า พร้อมอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที ส่วนระบบส่งกำลัง แบบ 9G-TRONIC ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 6.5%

Mercedes-Benz The new E-Class มีวางจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่

  • Mercedes-Benz E 300 e Avantgarde ราคา 3,190,000 บาท
  • Mercedes-Benz E 220 d AMG Sport ราคา 3,540,000 บาท
  • Mercedes-Benz E 300 e AMG Dynamic ราคา 3,770,000 บาท

BMW-330Li-M-Sport-2021

BMW 330Li M Sport

BMW 330Li M Sport (บีเอ็มดับเบิลยู 330แอลไอ เอ็ม สปอร์ต) ครั้งแรกของรุ่นฐานล้อยาวในประเทศไทย ที่ยังคงลุคสปอร์ตโฉบเฉี่ยวและสมรรถนะที่เฉียบคมไว้เช่นเคย ด้วยฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นปกติถึง 110 มม. ส่งให้ตัวรถมีมิติความยาวรวม 4,819 มม. ความกว้างยังคงเดิมที่ 1,827 มม. ขณะที่ความสูงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1,441 มม.

ความยาว 110 มม. ที่เพิ่มขึ้นบริเวณประตูหลัง ช่วยให้ผู้โดยสารเบาะหลัง เข้า-ออกจากรถ ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น และยังสบายกว่าขณะเดินทางด้วยพื้นที่ห้องโดยสารแถวหลังที่ยาวขึ้นอีก 43 มม.

ตัวรถมาพร้อมกับล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี สอดรับกับขอบหน้าต่าง ช่องดักอากาศ และซี่บริเวณกระจังหน้าไตคู่สีดำเงา ภายในโฉบเฉี่ยวด้วยพวงมาลัย M Sport คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec และตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Tetragon

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ส่งกำลังสูงสุด 190 กิโลวัตต์ / 258 แรงม้าที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,550 – 4,400 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 6.2 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 250 กม.ชม. ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 จังหวะ และรองรับระบบ Driving Experience Control ที่มีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกทั้งในโหมด COMFORT, SPORT และ ECO PRO

มาในราคา 2,899,000 บาท (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW-530e-M-Sport-2021

BMW Series-5

BMW Series-5 (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5) เปิดตัวรถรุ่นใหม่ในตำนาน เจเนอเรชั่นที่ 7 ต้อนรับปี 2564 ด้วย ในสามรุ่นย่อย ได้แก่ BMW 520d M Sport, BMW 530e Elite และ BMW 530e M Sport กับรูปโฉมที่ทรงพลังยิ่งขึ้นทั้งภายนอกและภายใน เสริมความล้ำอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ล่าสุด

โดย BMW Series-5 โฉมนี้ Concept เปิดตัวที่แตกต่างไปจากทุกครั้ง Change the way you lead. Lead the way you change. ซึ่งต้องการเน้นย้ำถึงการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เหนือกว่า เพียงแค่ด้านยนตรกรรม

มาพร้อมกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 20% ในรูปทรงแปดเหลี่ยมแบบใหม่ สอดรับกับไฟหน้า Adaptive LED รูปตัว L สอดรับกับไฟหน้า Adaptive LED รูปตัว L ส่วนไฟท้าย LED มาในรูปแบบสามมิติทรงตัว L รับกับไฟหน้า โฉบเฉี่ยวด้วยกรอบสีดำ มาพร้อมชุดแต่ง M Aerodynamics

มอบประสิทธิภาพเต็มพิกัด ทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน และระบบ Plug-In Hybrid พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ใหม่ล่าสุด โดยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบใน BMW 520d M Sport ส่งแรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.5 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.

ขณะที่ BMW 530e Elite และ 530e M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ที่มอบกำลัง 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด ส่งกำลังรวมสูงสุดถึง 215 กิโลวัตต์ / 292 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 420 นิวตันเมตร

และสามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นด้วยระบบ XtraBoost ซึ่งปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาทีเมื่อขับขี่ในโหมด SPORT จึงสามารถโลดแล่นจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 235 กม./ชม.

ผู้สนใจสามารถครอบครอง BMW 520d M Sport ได้ในราคา 3,539,000 บาท, BMW 530e Elite ในราคา 2,999,000 บาท และ BMW 530e M Sport ในราคา 3,739,000 บาท

BMW-M4-Competition-Coupe-2021

BMW M4 Competition Coupe

BMW M4 Competition Coupe (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม4 คอมเพติชั่น คูเป้) หลอมรวมจิตวิญญาณแห่งความทรงพลัง ความคล่องตัว และความเร้าใจจากวิศวกรรมขั้นสูงของบีเอ็มดับเบิลยู M มาพร้อมสมรรถนะอันโดดเด่นตามแบบฉบับรถแข่งพันธุ์แท้ ปราดเปรียว คล่องตัว และการควบคุมที่เฉียบคม

โครงสร้างตัวถังและแชสซีอันแข็งแกร่ง เสริมประสิทธิภาพด้วยระบบช่วงล่าง Adaptive M พร้อมโช้คอัพที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพลาหน้าและเพลาท้ายยืดหยุ่นด้วยการตั้งค่าตามหลักจลนศาสตร์ของ รุ่น M และยังมาพร้อมระบบ M Servotronic ช่วยปรับกำลังพวงมาลัยให้เหมาะสมกับความเร็ว ระบบเบรก M compound ตอบสนองอย่างทันใจ สร้างประสบการณ์ขับขี่สไตล์สปอร์ตอย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ M Dynamic Mode ช่วยให้ดริฟท์รถได้อย่างถึงใจยิ่งขึ้น

หัวใจหลักของบีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition Coupé ใหม่ ผสานพลังจากเครื่องยนต์เบนซินรอบสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ในตระกูล M เข้ากับสมรรถนะจากเทคโนโลยี M TwinPower Turbo รุ่นใหม่ล่าสุด มาในขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง มอบแรงบิดเต็มสูบสูงถึง 650 นิวตันเมตร ที่ 2,750 – 5,500 รอบ/นาที ส่งพละกำลังเร้าใจที่ 510 แรงม้า ที่ 6,250 รอบ/นาที

พร้อมพุ่งทะยานจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.9 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ M Steptronic Sport พร้อม Drivelogic ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เกิดการสูญเสียกำลัง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมผ่านคันเกียร์ M หรือแป้นเปลี่ยนเกียร์บริเวณพวงมาลัย

ราคาจำหน่าย 9,999,000 บาท! (พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

Mini-Cooper-S-Countryman-2021

Mini Cooper S Countryman

Mini Cooper S Countryman (มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน) ใหม่ เน้นย้ำเสน่ห์อันแข็งแกร่งของรุ่นรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของมินิ ตัวรถมีรูปลักษณ์ที่หมดจดและหรูหรายิ่งกว่าเคย ส่วนกันชนท้ายดีไซน์ใหม่ มีแผงใต้กันชนที่เสริมให้มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ใหม่ ดูทรงพลังและทันสมัยเป็นพิเศษ ฟังก์ชั่นไฟหน้าและท้ายทั้งหมดมาพร้อมกับเทคโนโลยี LED คุณภาพสูงเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในขณะที่ไฟท้ายโดดเด่นด้วยดวงไฟในลวดลายของธงยูเนียนแจ็ค

มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ใหม่ ผสานสมรรถนะที่รองรับการขับขี่หลากหลายรูปแบบเข้ากับการออกแบบห้องโดยสารเพื่อการใช้งานที่หลากหลายไม่แพ้กัน โดยมาพร้อมกับเบาะหลังที่กว้างเต็ม 3 ที่นั่ง นอกจากนี้ เบาะนั่งแถว 2 ยังสามารถปรับพับในแบบ 40 : 20 : 40 เพื่อขยายปริมาตรความจุสัมภาระจาก 450 ลิตร เป็นสูงสุดถึง 1,390 ลิตร

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร มอบแรงม้าสูงสุดถึง 192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบ/นาที ขับขี่สนุกตามสไตล์มินิด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบคลัตช์คู่ Steptronic 7 จังหวะ และแบบ Paddle Shift ในรุ่นไฮทริม

ราคาในรุ่น Entry อยู่ที่ 1,999,000 บาท และในรุ่น Hightrim ราคา 2,529,000 บาท

Audi-RS-e-tron-GT-2021

Audi RS e-tron GT

Audi RS e-tron GT (อาวดี้ อาร์เอส อีทรอน จีที) Shaping the Future of Mobility อีกก้าวสำคัญที่จะมาเขย่าวงการยานยนต์ด้วยรถไฟฟ้า 100% ที่มี Performance ดีที่สุดของอาวดี้

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

New-Car-In-Motor-Expo-2020

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37” หรือ The 37th Thailand International Motor Expo 2020 ภายใต้แนวคิด “พร้อมขับเคลื่อน ไปในความเปลี่ยนแปลง” หรือ “Whatever Changes will be…Move on” หลังจากที่ต้องเผชิญกับโควิด-19 มาเกือบทั้งปีนี้ จนอ่วมไปตามๆ กัน ทั้งตัวค่ายรถเอง และผู้บริโภคเอง กำลังซื้อหดหายไปอย่างมากในปีนี้

โดยงาน Motor Expo 2020 พร้อมจัดงานในยุค New Normal เตรียมนำรถรุ่นใหม่ และรถรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงส่งท้ายปี 2020 โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2563 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2020 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่เปิดตัวก่อนงานและในงาน Motor Expo 2020 นับตั้งแต่ในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน บริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ไปแล้วหลายค่าย CARRO ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

Toyota-GR-Yaris-2021

1. Toyota GR Yaris

Toyota เตรียมสั่งนำเข้า Toyota GR Yaris (โตโยต้า จีอาร์ ยาริส) รถสปอร์ตตัวแรง 3 ประตู แต่งซิ่งครบสูตร ด้วยโควต้านำเข้าเพียง 6 คันเท่านั้น ในราคาประมาณ 2.7 ล้านบาท! หลังจากที่เปิตตัวในญี่ปุ่นไปในงาน Tokyo Auto Salon 2020 ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และจัดได้ว่าเป็น Yaris ที่แรงที่สุดในโลกด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินรหัส G16E-GTS ขนาด 1.6 ลิตร Turbo แบบ 3 สูบแถวเรียง ให้แรงม้าสูงสุด 272 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร (37.7 กก.-ม.) ที่ 3,000-4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ iMT บนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR4 ที่ถูกพัฒนามาจากในสนามแข่ง WRC

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.5 วินาที และจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 230 กม./ชม.

Toyota-Innova-Crysta-2021

2. Toyota Innova (Minorchange)

Toyota (โตโยต้า) เผยโฉม Toyota Innova (โตโยต้า อินโนวา) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ มีให้เลือก 3 รุ่น คือ 2.8 Crysta Premium, 2.8 Crysta และ 2.0 Entry ปรับเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกรอบคัน โฉบเฉี่ยว ทันสมัย โดดเด่นสะดุดตามากขึ้น นับตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าใหม่ ชุดตกแต่งรอบคัน สปอยเลอร์หลัง ล้อแม็กดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว และ 17 นิ้ว

ภายในออกแบบอย่างมีระดับ กว้างสบาย ตืดตั้งเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และฟังก์ชันความปลอดภัยอย่าง กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (Panoramic View Monitor) และสัญญาณกะระยะด้านหน้าและด้านหลัง

พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร GD-Efficient Boost, เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Dual VVT-i ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ในราคา 1,199,000 – 1,429,000 บาท

Nissan-Navara-Pro-4X-2021

3. Nissan Navara

Nissan (นิสสัน) เปิดตัว Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) โฉมหน้ายกใหม่!ถอดแบบมาจากรุ่นพี่สายพันธุ์ยักษ์อย่าง Nissan Titan บุกตลาดเป็นประเทศแรกในโลก ด้วยดีไซน์ใหม่ดุดัน เพื่อลูกค้าคนไทยด้วยพลังที่กล้า เพื่อคนแกร่ง จากชื่อเสียงมากกว่า 80 ปี ของรถกระบะนิสสันที่ลูกค้ายอมรับในเรื่องความแข็งแกร่งทนทาน โดยไม่ละทิ้ง DNA ของนิสสันที่ท้าทายทุกขีดจำกัด

ดีไซน์ Concept “Unbreakable Design” คำนึงถึงการใช้งาน และความชื่นชอบของลูกค้า กับรุ่นย่อยใหม่ PRO4X และ PRO2X อีกขั้นของกระบะ Adventure สำหรับทุกความท้าทาย ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดุดัน กระจังหน้าใหม่แบบ Interlock และซุ้มล้อขนาดใหญ่ ชุดไฟหน้าแบบ QUAD – LED คุณภาพสูง 4 ดวง พร้อม Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED แบบเส้นเดียวที่ทันสมัย

มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ รหัส YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ Twin Turbo เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมด Manual ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร (Nm) และ Nissan Intelligent Mobility เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มรูปแบบ ในราคา 599,000 – 1,149,000 บาท

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

4. Honda City Hatchback

Honda เปิดตัว Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบค) ครั้งแรกในโลกกับฮอนด้า ซิตี้ ในรูปแบบ 5 ประตู ในไทย ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสง ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI

ผสานเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์กับเบาะนั่ง อัลตราซีท (ULTR) และการขับขี่ที่สนุกสนานกับ ขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ให้สมรรถนะการขับขี่สูงถึง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที

ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ในราคา 599,000 – 749,000 บาท!

New-Honda-City-Hybrid-2021

5. Honda City e:HEV

Honda (ฮอนด้า) เปิดตัว Honda City e:HEV (ฮอนด้า ซิตี้ อีเอชอีวี) ยนตรกรรม Full Hybrid รุ่นแรกของเซกเมนต์ City Car ในประเทศไทย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive i-MMD ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 98 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เป็นระบบ Full Hybrid 109 แรงม้า ที่ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบ/นาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กม./ลิตร และรองรับน้ำมัน E20

พร้อมเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING) ดีไซน์สปอร์ตโดดเด่น ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS เสริมเอกลักษณ์เฉพาะของความเป็นไฮบริดด้วยโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark) และโลโก้ e:HEV

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกมิติ ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม ในราคา 839,000 บาท!

All-New-Isuzu-MU-X-2020

6. Isuzu MU-X

Isuzu (อีซูซุ) เปิดตัว  “All-New Isuzu MU-X (ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์)” ใหม่ ครั้งแรกของโลก! ยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นใหม่หมดระดับ Masterpiece ภายใต้นิยาม “เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ (Originality Redefined)” พลิกโฉมใหม่ทั้งภายนอกจรดภายใน ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา สะดวกสบาย ประณีตในทุกรายละเอียด ในราคา 1,121,000 บาท (ราคาช่วงแนะนำ 1,109,000 บาท) – 1,579,000 บาท

ตัวรถภายนอก หรู ล้ำสไตล์ สง่างาม โฉบเฉี่ยวเร้าอารมณ์ ภายใต้แนวคิด Emotional & Solid ผสานความหนักแน่นและพลิ้วไหวเข้าไว้ด้วยกันตลอดทั้งคัน ส่วนภายในกว้างขวาง โอ่อ่า ด้วยแนวคิดการออกแบบ Fine, Rich & Impressive Craftsmanship ด้วยวิธีการออกแบบ Integrated Cockpit คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง จัดวางเรียบหรู

มีให้เลือกครบครันด้วยสไตล์ที่หลากหลายรวม 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power และ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 พร้อมทางเลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ พร้อมระบบขับเคลื่อน Rough Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L

Mitsubishi-Outlander-PHEV-2020

7. Mitsubishi Outlander PHEV

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เตรียมรุกตลาดรถยนต์ Plug-In Hybrid เป็นครั้งแรกในไทยกับ Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด) ที่ผลิตจากโรงงานแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2020 นี้

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ 135 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 211 นิวตันเมตร ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว หน้า-หลัง ให้กำลัง 82 แรงม้า และ 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 195 นิวตันเมตรทั้งคู่ ให้กำลังรวมสูงสุด 305 แรงม้า โดยราคารุ่น GT อยู่ที่ 1,640,000 บาท และรุ่น GT Premium ราคา 1,749,000 บาท

Mitsubishi-Xpander-2020

8. Mitsubishi Xpander

Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์) รุ่นปรับปรุงใหม่ โดดเด่นมากขึ้นด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และเสาอากาศแบบครีบฉลาม พร้อมเอกลักษณ์การออกแบบ Advanced ‘Dynamic Shield’ ที่มาพร้อมกับสีภายนอกใหม่ สีเทา Graphite Gray พร้อมด้วยระยะความสูงจากพื้นถึง 205 มม.

ห้องโดยสารภายในสะดวกสบาย กว้างขวาง ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่มคุณภาพเยี่ยม มีความเงียบเพิ่มมากขึ้น มีเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนที่ต่ำ (NVH) เพิ่มสุนทรียภาพตามปรัชญาแบบ “โอโมเตะนาชิ” ที่ถ่ายทอดความประณีตและยังใส่ใจในทุกรายละเอียด

สะดวกสบายมากขึ้นด้วยกุญแจอัจฉริยะแบบ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และระบบปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พวงมาลัยสามารถปรับระดับสูง-ต่ำ และปรับเข้า-ออกได้ พร้อมกับสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย และจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว พร้อมการแสดงผลแบบภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ ในราคา 789,000 – 863,000 บาท

Ford-Ranger-2021

9. Ford Ranger / Everest

Ford (ฟอร์ด) ปรับโฉม Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘Live The Ranger Life’ มาพร้อมระบบส่งกำลังที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น โดยรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ทุกคันจะได้รับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ในราคา 669,000 – 1,699,000 บาท

ภายนอกกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูตกแต่งตะแกรงสีดำ ในรุ่น XL, XL Street, XL+, XLT และWildtrak, ล้ออัลลอยสีดำและกระจกข้างสีดำในรุ่น XL+ Sport, XL Street, XLT และ Wildtrak, มือจับประตูสีดำในรุ่น XL+ Sport, XLT และ Wildtrak และอุปกรณ์เสริมใหม่ แผ่นเปิด-ปิดฝากระบะท้ายด้วยระบบไฟฟ้า (Power Roller Shutter) เป็นครั้งแรกสำหรับ Wildtrak

ในโอกาสนี้ Ford ยังได้เปิดตัว Ranger XL Street ใหม่ กระบะตอนครึ่งตัวเตี้ยแต่งพิเศษ เป็นรุ่นย่อยใหม่ล่าสุด ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ผลงานของทีมดีไซเนอร์ของ ฟอร์ด ออสเตรเลีย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Ford Ranger ของทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง (Ford Thailand Racing – FTR) มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ผสานเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

Ford-Everest-2021

และในส่วนของ Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) ใหม่ ต่อยอดความสำเร็จของ Ford Everest Sport ที่ได้รับกระแสตอบรับดีจากลูกค้า โดยลูกค้ากว่าครึ่ง ให้ความสนใจเลือกซื้อจากดีไซน์สไตล์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว และดุดัน

ด้วยกระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวอักษรนูน ‘Everest’ บนฝากระโปรงหน้า พร้อมมือจับ กระจกข้าง และล้ออัลลอยใหม่สำหรับรุ่นเทรนด์ พร้อมมอบตัวเลือกสีภายนอกใหม่ สีขาว สโนว์ เฟลก ไวท์ เพิร์ล สำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ สำหรับรุ่นเทรนด์, ไทเทเนี่ยม และไทเทเนี่ยม พลัส และสีน้ำเงินดีพ คริสตัล บลู สำหรับรุ่นสปอร์ต ในราคา 1,299,000 – 1,799,000 บาท

Rolls-Royce-Ghost-2021

10. Rolls-Royce Ghost

Rolls-Royce (โรลส์-รอยซ์) เผยโฉม Rolls-Royce Ghost (โรลส์-รอยซ์ โกสต์) เจเนอเรชั่น 2 ในฐานะตัวแทนการเข้าสู่ยุคใหม่ของบริษัท ที่เตรียมมาเปิดตัวเขย่าตู้เซฟเศรษฐีไทย ให้เอาเงินออกมาซื้อได้ในเดือนนี้

Rolls-Royce Ghost ใหม่ พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มอลูมิเนียม สเปซเฟรม Architecture of Luxury แบบเดียวกับ Rolls-Royce Phantom และ Rolls-Royce Cullinan การออกแบบตัวรถเน้นความเรียบง่าย ใช้ประตูคู่หลังแบบ Coach Doors กับห้องโดยสารที่เงียบเชียบภายใต้สูตร Formula for Serenity รวมถึงงานตกแต่งพิเศษจากแผนก Bespoke และปรับปรุงระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสารใหม่ Micro-Environment Purification System หรือ MEPS เป็นต้น

ขุมพลังมาจากเครื่องยนต์เบนซินตระกูล N74 ของ BMW แบบ V12 ความจุ 6.75 ลิตร Twin Turbo 563 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF พร้อมเทคโนโลยี Satellite Aided Transmission

Maserati-Ghibli-Hybrid-2021

11. Maserati Ghibli Hybrid

Maserati (มาเซราติ) เผยโฉม Maserati Ghibli Hybrid (มาเซราติ กิบลี ไฮบริด) หัวใจลูกผสมแบบ Mild Hybrid เป็นครั้งแรกของค่ายนี้ พร้อมการปรับปรุงใหม่รอบคัน ให้ดูแตกต่างไปจาก Ghibli รุ่นปกติ สำหรับลูกค้าที่มองหาสมรรถนะและความประหยัด เตรียมเปิดตัวในไทยเดือนนี้

ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร Turbo ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง อัดอากาศด้วย Supercharge ไฟฟ้า หรือ E-Booster ให้แรงม้าสูงสุด 330 แรงม้า และส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ของ ZF พร้อมกำลังไฟ 48 โวลต์ ที่ใช้เทคโนโลยี BSG หรือ Belt-Driven Starter Generator สายพานที่รวมกับมอเตอร์สตาร์ท ทำหน้าที่แทน Alternator (ไดชาร์จ) และนำกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ระบบไฟ 48 โวลท์ ไปเพิ่มแรงบิด และลดการใช้เชื้อเพลิง

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 255 กม./ชม. อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ มีระบบเชื่อมต่อภายใต้โปรแกรม Maserati Connect ให้ข้อมูลผู้ขับขี่ ทำงานร่วมกับชุดระบบมัลติมีเดีย MIA (Maserati Intelligent Assistant) แบบใหม่ ใช้พื้นฐานของ Android Automotive แสดงผลด้วยจอทัชสกรีนขนาด 10.1 นิ้ว

Audi-e-tron-Sportback-55-quattro-S-line-2020

12. Audi e-tron Sportback

Audi (อาวดี้) เปิดตัว Audi e-tron Sportback 55 quattro S line รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โมเดลที่ 2 ของ Audi เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ชูจุดเด่นและความสมบูรณ์แบบทางเทคโนโลยีไฟฟ้า 100% ตอบรับกลยุทธ์ของ AUDI AG ที่กำหนดนิยามใหม่ของ “Vorsprung” ให้มีความทันสมัย สะท้อนจุดยืน ความพร้อม และบทบาทของแบรนด์ Audi สำหรับยุคยานยนต์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

พร้อมเปิดตัวแคมเปญ Branding ใหม่พร้อมกันทั่วโลก กับสโลแกน “Future is An Attitude” ชูจุดเด่นของเทคโนโลยี ดีไซน์ที่สะท้อน DNA ของ Audi ลุคสปอร์ตพรีเมียมและสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ภายในมาพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส พร้อมตอบสนองการสั่งงาน (Haptic Feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว เพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับการสั่งการด้วยการเขียนด้วยนิ้ว เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือด้วย Audi Smartphone Interface และเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ

ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบไฟฟ้า (Electric quattro) มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้กำลังสูงสุดถึง 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 463 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง (อ้างอิงตามผลการทดสอบโดยใช้มาตรฐาน NEDC) การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง

ผสมผสานกับระบบขับเคลื่อน quattro และมีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Recuperation) อย่างชาญฉลาด 2 รูปแบบ คือ พลังงานจากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว (Coasting) และพลังงานจากการเบรก (Braking) พร้อมเปิดจองและส่งมอบทันทีในราคา 5,299,000 บาท

BMW-430i-Coupe-M-Sport-2021

13. BMW 430i Coupe M Sport

BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) เปิดตัว BMW 430i Coupe M Sport (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 4 คูเป้) ใหม่ มาพร้อมกลิ่นอายที่ผสมผสานทั้งความแข็งแกร่ง ทรงพลัง และความหรูหราในสไตล์คูเป้ของ BMW ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 90 ปี

โดย BMW 430i Coupe M Sport ใหม่ พัฒนาทั้งในด้านสมรรถนะและสุนทรียภาพให้โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้า รวมถึง BMW ซีรี่ส์ 3 ซีดาน อย่างชัดเจน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo รุ่นใหม่ล่าสุด และเทคโนโลยี Mild Hybrid ยกระดับการโต้ตอบให้ฉับไวกว่า มอบสมรรถนะการขับขี่ได้เต็มพิกัด

ส่งพละกำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ระหว่าง 1,550- 4,400 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.8 วินาที ในราคา 3,969,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW-X1-sDrive20d-M-Sport-2021

14. BMW X1

BMW X1 (บีเอ็มดับเบิลยู X1) รถยนต์ Sports Activity Vehicle รุ่นปรับโฉมใหม่ ให้การใช้งานที่หลากหลายยิ่งกว่า และฟีเจอร์การใช้งานและอุปกรณ์ล้ำสมัยอีกมากมาย มาพร้อมเครื่องยนต์ BMW TwinPower Turbo แบบ 3 สูบ และ 4 สูบ

โดย BNW X1 sDrive18i (Iconic) ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 4,600-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,480-4,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ Steptronic อัตโนมัติ 7 จังหวะ คลัทช์คู่ อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 9.7 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม.

ในขณะที่ BMW X1 sDrive20d xLine และ BMW X1 sDrive20d M Sport ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที สามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 222 กม./ชม.

ซึ่งในรุ่น xLine มาพร้อมเกียร์ Steptronic อัตโนมัติ 8 จังหวะ และในรุ่น M Sport มาพร้อมเกียร์ Steptronic อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบสปอร์ต ในราคา 1,999,000 – 2,559,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

New-MG-HS-PHEV-2020

15. MG HS PHEV

MG (เอ็มจี) เปิดตัว MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส ปลั๊กอินไฮบริด) ชูแนวคิด “Refinement” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต โดยสะท้อนถึงความเหนือระดับ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบายความปลอดภัย และการแนะนำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ Turbo ขนาด 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ที่มาพร้อมนวัตกรรม Hairpin Design พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดใหญ่ 16.6 kWh ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ EDU II – 10 Speeds ให้กำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร สามารถเลือกขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร

พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสูงมากถึง 25 ระบบ พร้อมทั้ง Advanced Driver Assistance System สนับสนุนช่วยเหลือผู้ขับขี่เทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous) ระดับ 2 ในราคา 1,359,000 บาท

KIA-Grand-Carnival-2021

16. KIA Grand Carnival

KIA (เกีย) ก็ขอเผยโฉมรถใหม่ๆ ในงาน Motor Expo 2020 ครั้งนี้บ้าง ด้วยการเปิดตัว KIA Grand Carnival (เกีย แกรนด์ คานิวัล) ใหม่! เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่ส่งตรงจากเกาหลีใต้มาถึงไทย ที่เตรียมเปิดราคาในงานนี้ด้วยเลย

สำหรับ KIA Grand Carnival โฉมนี้ ปรับรูปโฉมใหม่หมดที่ดูคล้ายกับ SUV และรถมินิแวนในฝั่งอเมริกันมากขึ้น พร้อมกระจังหน้าแบบ Tiger Nose และเส้นสายตัวถังแบบใหม่ เพิ่มเหลี่ยมมุมมากขึ้น สร้างขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ล่าสุดอย่าง “Grand Utility Vehicle” ที่ใช้ร่วมกับรุ่น Optima และ Sorento พร้อมห้องโดยสารภายในที่หรูหรามากขึ้น โดดเด่นด้วยจอ Infotainment ขนาดใหญ่ด้านคอนโซลหน้า

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร CRDi Turbo 202 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด