5 วิธีจัดการกลิ่นบุหรี่ในรถให้ได้ผล!

ในอดีต การสูบบุหรี่ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะใครๆ ก็สูบกัน ไม่เว้นแม้แต่เหล่าดาราดัง ก็สูบกันเป็นเรื่องปกติ ในรถยนต์ ที่จุดบุหรี่ กับที่เขี่ยบุหรี่ ก็มีติดมาจากโรงงานให้พร้อม บนรถเมล์ก็สูบได้ ในรถแท็กซี่ ก็สูบได้ ตามสถานที่ต่างๆ ก็ล้วนมีมุมสำหรับคนสูบบุหรี่ หรือที่เขี่ยบุหรี่ จัดให้ชาวสิงห์อมควันพร้อมทั้งนั้น

แต่ในยุคที่คนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ ทำให้การสูบบุหรี่ ไม่ใช่เรื่องที่โก้เก๋อีกต่อไป เป็นภัยต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดสารพัดโรค และภาครัฐต้องใช้งบประมาณในการดูแลสุขภาพไปมากมาย แม้แต่ที่จุดบุหรี่ในรถ ก็ยังทำเป็นฝาปิดแทนที่

5 วิธีจัดการกลิ่นบุหรี่ในรถให้ได้ผล!

ยิ่งหลายคนที่มีอาชีพเกี่ยวกับขับรถ เช่น ขับรถแท็กซี่ ขับรถผู้บริหาร ขับรถส่งของ ฯลฯ แล้วยังสูบบุหรี่อยู่ คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ที่ต้องนั่งไปด้วย ก็คงไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ ที่ยังติดแน่นทนนานอยู่ในรถนัก

เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก Mr.Carro จะมาแนะนำ 5 วิธีการกำจัดกลิ่นบุหรี่ภายในรถยนต์ เพื่อบรรยากาศที่ดีกับผู้ร่วมทาง หรือผู้ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ครับ

5 วิธีจัดการกลิ่นบุหรี่ในรถให้ได้ผล!

1. แอปเปิ้ลเขียว

แอปเปิ้ลเขียว เป็นผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ หลากหลายชนิด และสารต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงเส้นใยอาหาร เป็นผลไม้ที่บำรุงสายตา บำรุงเส้นผมหนังศีรษะ ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน ไขมันต่ำ เสริมภูมิคุ้นกัน ให้ให้กระดูกและฟันแข็งแรง และเหมาะสำหรับคนลดน้ำหนัก ฯลฯ

ที่สำคัญ แอปเปิ้ลเขียว ยังช่วยแก้ปัญหากลิ่นบุหรี่ติดรถได้ด้วย เพราะแอปเปิ้ลเขียวสามารถดูดซับกลิ่นได้ เพียงนำแอปเปิ้ลเขียวผ่าซีกวางไว้ในรถ จะช่วยดูดซับกลิ่นบุหรี่ที่ติดในรถของคุณได้ดีเลย

5 วิธีจัดการกลิ่นบุหรี่ในรถให้ได้ผล!

2. ถ่านหุงข้าว

การใช้ถ่านดูดกลิ่นบุหรี่ ก็เป็นวิธีกำจัดกลิ่นบุหรี่ในรถที่ได้ผล เพียงวางถ่านใส่กะละมังไว้ในรถ หรือใส่ถุงผ้าแขวนไว้เพื่อดักจับกลิ่นก็ได้ ซึ่งถ่านหุงข้าวนี้ยังมีประโยชน์ ใช้ดับกลิ่นเหม็น กลิ่นหืน กลิ่นอับ ภายในบ้าน หรือตู้เสื้อผ้าได้อีกด้วยครับ

5 วิธีจัดการกลิ่นบุหรี่ในรถให้ได้ผล!

3. เบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดา มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาด และดูดซับกลิ่นได้อีกด้วย! แค่นำเบกกิ้งโซดาใส่ภาชนะไว้ในรถ ตรงจุดที่มีกลิ่นบุหรี่ติดอยู่ จะช่วยลดกลิ่นเหม็นอับ และช่วยดูดกลิ่นบุหรี่ได้

5 วิธีจัดการกลิ่นบุหรี่ในรถให้ได้ผล!

4. สเปรย์ปรับอากาศ / น้ำหอม

การใช้สเปรย์ปรับอากาศ หรือน้ำหอม นับได้ว่าง่ายและสะดวกที่สุด และยังมีหลากหลายกลิ่น แต่ก็ต้องเลือกให้ดี เพราะกลิ่นน้ำหอมบางชนิด อาจไม่ถูกกับจมูกใคร ถึงขั้นสูดดมเข้าไปพร้อมกลิ่นบุหรี่ อาจวิงเวียนศีรษะได้ทีเดียว

5 วิธีจัดการกลิ่นบุหรี่ในรถให้ได้ผล!

5. ล้างแอร์

กรณีที่ยังมีกลิ่นบุหรี่ ลอยออกมาจากช่องแอร์ในรถยนต์ ก็อาจต้องลงทุนล้างแอร์รถยนต์ ให้ช่างจัดการล้างระบบแอร์ หรือล้างตู้แอร์ให้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาและเสียค่าใช้จ่ายเยอะหน่อย แต่ก็จัดว่าได้ผลอยู่

ซึ่งวิธีการล้างแอร์ปัจจุบัน ก็มีทั้งแบบถอดทั้งแผงคอนโซล หรือล้างแบบไม่ต้องถอดตู้ แต่ถ้าจะเอาให้สะอาดจริงๆ ควรล้างแบบถอดตู้ดีกว่า

เอาเป็นว่า ถ้าคุณลองวิธีกำจัดกลิ่นบุหรี่แล้ว รู้สึกว่ากลิ่นบุหรี่ในรถยังไม่หมดไปเสียที เราแนะนำให้เลิกสูบบุหรี่ดีกว่าครับ เพื่อสุขภาพของตัวคุณเอง และคนในครอบครัวด้วยครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

Carro-Roojai-Why-Air-Conditioner-In-Car-Not-Cold

ปัญหาแอร์รถไม่เย็นที่ผู้ขับขี่หลาย ๆ คนมักพบเจอ จริงอยู่ที่ในช่วงออกรถใหม่ ๆ เปิดแอร์รถได้เย็นฉ่ำ แต่พอใช้งานไปได้สักปี 2 ปี แอร์รถไม่เย็นเหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่เร่งแอร์รถให้เย็นที่สุดแต่กลับรู้สึกไม่ค่อยเย็นแบบที่ควร หรือบางครั้งก็อาจจะเย็นเกินไป มันเป็นเพราะอะไร ? มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากอะไร แล้วมีวิธีแก้ไขอย่างไร

Why-Air-Conditioner-In-Car-Not-Cold

วันนี้ Roojai.com ได้รวบรวมสาระดี ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในการรับมือกับปัญหาแอร์รถไม่เย็นด้วยตัวเองได้ แน่นอนว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้แอร์รถไม่เย็น แต่หากรู้สักนิดว่า ปัจจัยไหนที่ทำแล้วเสี่ยงต่อการทำให้แอร์รถเสีย ก็ควรเลี่ยง และโอกาสที่ต้องนั่งร้อนภายในรถก็คงมีน้อยลงเช่นกัน

ปัญหา แอร์รถไม่เย็น หากเกิดขึ้นบ่อย จะเป็นอย่างไร ?

อย่าปล่อยให้ปัญหาแอร์รถไม่เย็นเกิดขึ้นบ่อย ๆ เพราะไม่ส่งผลดีต่อคุณและรถยนต์ของคุณแน่ ๆ ควรรู้ไว้เลยว่าแอร์รถไม่เย็น แปลว่ารถยนต์ของคุณกำลังมีปัญหาและทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยลงด้วย เป็นคำตอบว่า แอร์รถไม่เย็นเกิดจากอะไร สามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นรถเก่าหรือรถใหม่ ซึ่งมีหลายสาเหตุ ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยรู้และไม่ค่อยให้ความสนใจ มองว่าอาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เชื่อไหมว่าแค่แอร์รถไม่เย็นสามารถส่งผลให้อายุการใช้งานของรถคุณสั้นลงกว่าปกติได้ ยังไม่รวมถึงปัญหาที่จะส่งผลให้รถเสียในภายหลังได้อีกมากมาย

Why-Air-Conditioner-In-Car-Not-Cold

ปัจจัยหลักที่ทำให้ แอร์รถไม่เย็น เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

แน่นอนว่าปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลให้ แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม มีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาแอร์หมด สายท่อแอร์รั่ว ระบบระบายความร้อนไม่ดี ลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวม คลัทช์คอมเพรสเซอร์จับไม่สนิท และอื่นๆ อีกหลายปัจจัย แต่เพื่อให้คุณแน่ใจว่ารถยนต์ของคุณแอร์ไม่เย็นหรือผิดปกติไหม ? ลองเช็คดูว่าตอนนี้กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่หรือไม่ ดังนี้

1.น้ำยาแอร์ขาดหรือหมด

น้ำยาแอร์ขาดหรือหมดก็เป็นปัญหาหลักที่ทำให้แอร์รถไม่เย็นได้ เพราะจะทำให้แอร์เย็นน้อยหรือไม่เย็นเลย จะมีแต่ลมร้อนๆ ออกมาจากช่องแอร์ วิธีแก้ไขให้ลองสตาร์ทเครื่องแล้วเปิดระบบเครื่องปรับอากาศปุ่ม A/C เพื่อให้คอมเพรสเซอร์ทำงาน แล้วส่องดูในช่องตรวจสอบน้ำยาที่อยู่ระหว่างแผงระบายความร้อนทางด้านหน้ารถ หากเห็นเป็นฟองอากาศเล็ก ๆ สีขาว แสดงว่าน้ำยาแอร์กำลังจะหมดให้รีบเติมน้ำยาทันที

2. ตู้แอร์ สายท่อแอร์ หรือข้อต่อต่าง ๆ เกิดรอยรั่วซึม

หากตู้แอร์ สายท่อแอร์ หรือข้อต่อต่าง ๆ เกิดรอยรั่ว ก็ส่งผลให้แอร์รถไม่เย็นได้ เพราะจะทำให้ค่าแรงดันของน้ำยาแอร์ตก ลองตรวจสอบได้โดยการนำน้ำสบู่หรือน้ำแชมพูมาตีให้เป็นฟองแล้วนำไปทาตามข้อต่อต่าง ๆ ของระบบแอร์ เมื่อทาทั่วแล้วให้สังเกตว่าตรงจุดไหนเกิดเป็นฟองอากาศลอยขึ้นมา แสดงว่าจุดนั้นเกิดการรั่วซึมอยู่ ให้ทำการขันให้แน่น

3. ระบบระบายความร้อนบนแผงคอยล์ร้อนไม่ดี

เป็นอีกสาเหตุที่พบบ่อย ลองเช็คโดยการเปิดฝากระโปรงรถ ติดเครื่องยนต์ และเปิดแอร์ไว้ เมื่อคอมเพรสเซอร์รถยนต์ทำงาน ลองสังเกตดูพัดลมหน้าแผงคอยล์ร้อนว่าหมุนช้าหรือมีเสียงดังไหม? หากมีปัญหาต้องเปลี่ยนพัดลมใหม่ หรือถ้าแผงคอยล์ร้อนสกปรกก็ต้องทำความสะอาดเพื่อให้การระบายความร้อนของน้ำยาแอร์ทำงานได้ดีขึ้น ระบบแอร์ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

Why-Air-Conditioner-In-Car-Not-Cold

4. ลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์หลวมไม่มีกำลังอัด

แอร์รถไม่เย็น สาเหตุ มาจากปัญหาลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวม เพราะถ้าลูกลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวมจะทำให้ระดับความดันของน้ำยาแอร์มีน้อย เมื่อมีน้อยส่งผลให้มีปริมาณน้ำยาแอร์ฉีดเข้าคอยล์เย็นได้ไม่เพียงพอ ทำให้แอร์รถไม่เย็นในที่สุดนั่นเอง ลองเช็คโดยการติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ แล้วลองเร่งเครื่องยนต์แล้วแอร์เย็น แสดงว่าลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวม โดยปกติจะต้องไม่เย็นขึ้นตอนเร่งเครื่องยนต์ ต้องแก้ไขโดยการเปลี่ยนลูกสูบใหม่ทันที

5. ชุดวาล์ว และดรายเออร์อุดตัน หรือเสื่อมคุณภาพ

เมื่อชุดวาล์วและดรายเออร์อุดตันหรือเสื่อมคุณภาพลง ส่งผลให้แอร์รถไม่เย็นได้เท่าที่ควร อาจเย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง เพราะเมื่อชุดวาล์วและดรายเออร์อุดตันจะทำให้แรงดันน้ำยาแอร์ที่ออกจากคอมเพรสเซอร์ไหลผ่านเข้าคอยล์เย็นได้ไม่ดี เมื่อมีน้อยส่งผลให้มีปริมาณน้ำยาแอร์ฉีดเข้าคอยล์เย็นได้ไม่เพียงพอ ทำให้ระบบแอร์ทำงานได้ไม่เต็มที่ แอร์รถจึงไม่ค่อยเย็นนั่นเอง ลองเช็คโดยการติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ หากแอร์ไม่ค่อยเย็นและมีเสียงดัง ลองเร่งเครื่องยนต์แล้วสังเกตุดูว่าแอร์มีความเย็นขึ้นไหม หากเร่งเครื่องแล้วเย็นขึ้น นั่นแปลว่าชุดวาล์วและดรายเออร์เกิดการอุดตัน ต้องถอดเปลี่ยนชุดวาล์วและดรายเออร์ใหม่

6. คลัตช์คอมเพรสเซอร์จับไม่สนิท

ปัญหาคลัตช์คอมเพรสเซอร์จับไม่สนิท หรือปัญหาคลัตช์ลื่น เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แอร์รถเย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง หรือบางทีอาจจะไม่มีความเย็นเลย มีแต่ลมออกมาจากช่องแอร์ ซึ่งเกิดจากกระแสไฟที่ส่งเข้ามายังคลัตช์แม่เหล็กมีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอที่จะทำให้คลัตช์คอมเพรสเซอร์ติดเข้ากับมูลเลย์ได้ หรือติดได้แต่อาจไม่แน่นพอ เกิดการฟรีในบางจังหวะ ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้แอร์รถเย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง สามารถแก้ไขโดยการเช็ค 3 จุดนี้ คือ

  • ลองเช็คดูว่าระบบสายไฟที่ส่งมายังคลัตช์คอมเพรสเซอร์นั้นทำงานปกติไหม? บกพร่องหรือไม่
  • ลองเช็คชุดสวิตช์ระดับเซ็นเซอร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมความเย็นว่าทำงานปกติไหม หรือมีการเสื่อมสภาพ
  • ทำการปรับแต่งหน้าคลัตช์ให้เรียบเสมอ และตั้งระยะคลัตช์ใหม่ (การติดตั้งคลัตช์ใหม่จะมีค่าใช้จ่ายสูง)

7. สายพานคอมเพรสเซอร์หย่อนมากเกินไป

หากสายพานคอมเพรสเซอร์แอร์หย่อนมากเกินไป ก็เป็นปัญหาหลักที่ทำให้แอร์ไม่เย็นได้ เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ที่กำลังทำงานอยู่เกิดการฟรีได้ ส่งผลให้ไม่สามารถที่จะฉุดให้คอมเพรสเซอร์หมุนได้ ลองเช็คโดยการติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ จากนั้นสังเกตุดูว่าหากมีอาการคอมเพรสเซอร์ทำงานอยู่แล้วเกิดเสียงดัง ส่งผลให้แอร์รถไม่ค่อยเย็นหรือไม่มีความเย็นเลย สามารถแก้ไขโดยการปรับระดับสายพานให้ตึงขึ้น แต่ต้องระวัง หากสายพานมีรอยแตกหรือฉีกขาดควรเปลี่ยนเส้นใหม่ ไม่ควรใช้เส้นเดิม

8. การใช้น้ำยาแอร์ที่ผิดประเภท

การเลือกใช้น้ำยาแอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะส่งผลให้ แอร์รถไม่เย็น แล้ว ยังสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ได้อีกด้วย รวมถึงการเลือกใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภทหรือใช้น้ำยาแอร์ที่ผสมน้ำยาปลอมมา จะส่งผลเสียต่อระบบแอร์รถยนต์ได้ ทำให้อุปกรณ์ในระบบแอร์รถยนต์เกิดความเสียหาย เนื่องจากไม่สามารถทนแรงดันสูงที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ได้ออกแบบไว้ ยังทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ค่อยๆ เสียหายและหมดอายุการใช้งานก่อนกำหนด

Why-Air-Conditioner-In-Car-Not-Cold

ทั้งหมดนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ แอร์รถไม่เย็น ซึ่งคุณสามารถเช็คอาการเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง และนำวิธีแก้ไขของแต่ละสาเหตุไปใช้กับรถยนต์ของคุณได้ เพราะหากพบว่ามีอาการใดอาการหนึ่งที่เราได้บอกไป ให้รีบทำการแก้ไขและซ่อมแซมทันที เพื่ออายุการใช้งานของรถที่ยาวนานขึ้น และประสิทธิภาพในการขับขี่รถยนต์ที่ดีของคุณ หากรถยนต์มีประสิทธิภาพที่ดี ความปลอดภัยในการขับขี่ก็ดีตามไปด้วยเช่นกัน

แต่ถ้าอยากได้รับความคุ้มครองในกรณีเกิดเหตุที่คาดไม่ถึงจากการใช้รถใช้ถนน ก็อย่าลืมทำประกันรถยนต์ให้กับรถคู่ชีพของคุณด้วย เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ และเมื่อคุณมีประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมเอาไว้ด้วยแล้ว ก็จะช่วยให้คลายความกังวลใจไปได้ ที่ Roojai.com ประกันรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ออนไลน์ ซื้อง่าย ราคาดี และเชื่อถือได้ พร้อมชำระเบี้ยแบบผ่อนได้ด้วยสูงสุด 10 งวดผ่านบัตรเดบิต ซื้อประกันออนไลน์ที่ Roojai.com คุ้มครองทันที ราคาดีโดนใจ

และถ้าไม่อยากพลาดโปรโมชั่นใหม่ ๆ และเรื่องราวดี ๆ ก็สามารถติดตามเราได้ผ่านทาง Official Fanpage: Roojai.com หรือ add Official Line ของเราไว้ได้เลย

If-Car-Air-Conditioner-Bad-Smell

ปัญหาแอร์รถยนต์เหม็นอับ ถือเป็นเรื่องกวนใจของใครหลายๆ คน เมื่อเข้าสู่ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ช่องระบายอากาศอับชื้น เกิดการหมักหมมของเชื้อโรค เชื้อรา และกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ จนสร้างความรำคาญใจแก่ผู้ใช้รถไม่น้อย แต่ไม่ต้องกังวลไปนะครับ

วันนี้เราจะมาบอกวิธีแก้ปัญหาแอร์รถยนต์เหม็นอับที่เห็นผลได้จริง รับรองกลิ่นเหม็นอับจะไม่มากวนใจแน่นอน

If-Car-Air-Conditioner-Bad-Smell

1. เปิดพัดลมปิด A/C เพื่อไล่กลิ่นอับ

เริ่มจากกดปิด A/C และเปิดพัดลมให้สุดก่อนจดรถประมาณ 5 นาที เพื่อไล่ความชื้นออกจากคอยล์เย็น และช่วยลดกลิ่นอับของระบบแอร์ในรถ แล้วที่สำคัญอย่าลืมปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับสภาพอากาศด้วย

2. เปิดกระจก-เปิดประตูรถไว้ทุกบาน

เพราะบางทีรถอาจจะมีกลิ่นเหม็นอับตกค้างอยู่ ให้เราลองเปิดกระจกหรือเปิดประตูรถไว้ทุกบาน จะช่วยให้อากาศภายในรถถ่ายเทมากขึ้น แต่ก่อนที่จะเปิดกระจกหรือเปิดประตูรถ เราอย่าลืมปิดระบบแอร์ด้วยนะครับ

If-Car-Air-Conditioner-Bad-Smell

3. เปลี่ยนไส้กรองอากาศ

สำหรับไส้กรองอากาศจะมีหน้าที่ช่วยดักจับฝุ่น เศษละอองต่างๆ ไม่ให้เข้าสู่ระบบแอร์ แต่ทั้งนี้ไส้กรองอากาศจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5,000 กิโลเมตร ดังนั้น เราควรทำความสะอาดไส้กรองอากาศ หรือทางที่ดีเปลี่ยนไส้กรองอากาศใหม่ซะเลย จะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกไปเกาะที่ไส้กรองอากาศ

4. ล้างแอร์รถยนต์

ในกรณีที่เรายังได้กลิ่นเหม็นอับ หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดอยู่ในรถ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมรถใกล้บ้าน เพื่อล้างแอร์มาทำความสะอาดดีกว่า เพราะถ้าจะให้ล้างแอร์เองคงจะยาก แล้วอีกอย่างเราอาจจะทำไม่ถูกต้องด้วย ซึ่งการล้างแอร์ปกติเราควรเปลี่ยนทุกๆ 30,000 กิโลเมตรครับ

If-Car-Air-Conditioner-Bad-Smell

5. ใช้สมุนไพรอ่อนๆ มาช่วยลดกลิ่น

นอกจากนี้เรายังสามารถใช้สมุนไพรอ่อนๆ มาเป็นตัวช่วยได้นะ เช่น กลิ่นมะกรูด กลิ่นดอกลาเวนเดอร์ กลิ่นมะลิ เป็นต้น เพราะความหอมจากธรรมชาติจะช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ภายในรถได้ดี แล้วไม่เป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ และผู้โดยสารในรถด้วย

แต่ไม่แนะนำให้ใช้น้ำหอมที่มีสารเคมีมาติดหน้ารถ เพราะสารเคมีเหล่านี้จะไปเกาะติดเครื่องกรองแอร์ ทำให้แอร์อุดตัน และแอร์พังในที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น น้ำหอมติดรถยนต์จะมีสารเคมีทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แนะนำให้ใช้เป็นสมุนไพรหรือดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมแทนจะดีกว่า

พอเข้าสู่ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ยิ่งทำให้แอร์รถเหม็นอับชื้นง่ายขึ้น ทางที่ดีเราควรหมั่นตรวจเช็กระบบแอร์เป็นประจำ เปลี่ยนไส้กรองอากาศตามกำหนด แล้วที่สำคัญอย่าลืมทำความสะอาดรถยนต์ให้ถูกวิธี ก็จะช่วยป้องกันกลิ่นเหม็นอับภายในรถได้ ไม่ต้องคอยกังวลใจด้วยครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : frank.co.th ประกันที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณ

Carro-Roojai-Prevent-Air-Your-Car-From-Virus

ว่าด้วยเรื่องของการดูแล แอร์รถยนต์ ให้สะอาดสดชื่น นับเป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญที่ผู้ใช้รถหลาย ๆ คนละเลย ทั้งที่ความจริงแล้วด้วยระบบปิดของห้องโดยสาร ส่วนของแอร์นี่แหละคือปัจจัยหลักในเรื่องความสะอาดของอากาศภายในรถที่คนในรถต้องสูดเข้าไป และคงไม่ดีแน่ถ้าในส่วนนี้สกปรก สูดฝุ่นละอองเข้าไปทุกวันๆ

Roojai.com อยากชวนให้ทุกคนมาดูแลอากาศในรถให้ดีขึ้น ยิ่งในปัจจุบันอากาศภายนอกต่างล้อมรอบด้วยมหันตภัยมากมายในอากาศ ไม่ว่าจะมาจากฝุ่น PM2.5 หรือแม้กระทั้ง ไวรัสโควิด-19 และเมื่อการอยู่ในรถอาจจะปลอดภัยกว่าด้วยซ้ำ รู้อย่างนี้แล้วก็มาทำให้อากาศในรถคุณน่าอยู่ขึ้นด้วยแอร์รถยนต์ที่สะอาดมากขึ้นกันดีกว่า

อากาศสะอาดของ แอร์รถยนต์ เริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยเรื่องของ “กรองแอร์”

ระบบแอร์รถยนต์ จะมีส่วนของกรองแอร์ฯ หรือที่เรียกว่า “Car air filter” อยู่ในส่วนของระบบแอร์ ทำหน้าที่กรองลมแอร์ที่ออกมาจากระบบให้สะอาดที่สุด ช่วยกรองเศษฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ขนาดเล็กที่อาจหลุดเข้ามาจากระบบทำความเย็น ไม่ให้ออกไปถึงในห้องโดยสารผ่านช่องลมแอร์ และคุณต้องสูดมันเข้าไป

Prevent-Air-Your-Car-From-Virus

อย่างไรก็ตามเมื่อรถผ่านการใช้งาน กรองแอร์ทำหน้าที่กรองเศษฝุ่นทุกวัน แน่นอนว่าย่อมมีเศษสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ในส่วนของกรองแอร์สะสมเป็นจำนวนมาก และเมื่อมากขึ้น ความสามารถในการดักจับฝุ่นของตัวกรองก็จะลดลงตามไป จนสุดท้ายเศษฝุ่นสกปรกเหล่านั้นก็จะหลุดเข้าไปในห้องโดยสารในท้ายที่สุด อีกทั้งยังเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ลมแอร์ไม่แรง แอร์รถยนต์ไม่เย็น ได้ด้วยจากสาเหตุที่เศษสิ่งสกปรกไปบังลมแอร์ให้ผ่านออกมาได้ยากกว่าปกตินั่นเอง

อาจจะมีคำถามว่า กรองแอร์ ควรเปลี่ยนตอนไหนดี ต้องบอกเลยว่า ส่วนของกรองแอร์ไม่สามารถทำความสะอาดได้ แต่ข่าวดีก็คือ มันสามารถถอดเปลี่ยนใหม่ได้เลย ราคาไม่กี่บาท ในรถทั่วไปจะเปลี่ยนกรองแอร์ทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร แต่ตัวเลขนี้ไม่ได้การันตีตายตัว เพราะคุณสามารถเปลี่ยนมันก่อนได้โดยเฉพาะรถบางคันที่ต้องใช้เส้นทางที่มีฝุ่นควันหรือถนนลูกรังบ่อย ๆ ซึ่งเป็นเหตุทำให้ตัวกรองแอร์สกปรกหรือตันเร็วกว่า

Prevent-Air-Your-Car-From-Virus

วิธีที่จะช่วยให้อากาศในรถสะอาดและสดชื่นมากขึ้น

หลังจากที่ทำให้จุดเริ่มต้นของอากาศภายในห้องโดยสารสะอาดแล้ว ยังมีอีกหลาย ๆ วิธีที่จะช่วยให้ในรถคุณสดชื่นและสะอาดขึ้นได้อีก ดังนี้

ติดตั้ง เครื่องฟอกอากาศ ในรถ

บางทีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกทางอากาศไม่ได้มาจากทางช่องแอร์เพียงอย่างเดียว การเปิดกระจกหรือเปิดประตูบางจังหวะก็ทำให้สิ่งสกปรกและฝุ่นควันเข้าไปได้แล้ว การมีเครื่องฟอกอากาศในรถติดไว้ก็จะช่วยทำให้อากาศในรถสะอาดได้ อีกทั้งเครื่องฟอกอากาศบางรุ่นก็ยังสามารถฆ่าเชื้อไวรัสที่เป็นอันตรายต่อคนได้ด้วย หาซื้อมาติดไว้ในรถของคุณ ยังไงก็มีแต่ข้อดี

Prevent-Air-Your-Car-From-Virus

ทำความสะอาดภายในห้องโดยสารอยู่เสมอ

ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก เพียงนำผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ หมั่นคอยลูบฝุ่นที่ติดอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของรถอยู่เสมอ ทั้งเบาะนั่ง คอนโซลหน้า แผงประตู และดูดฝุ่นพรมพื้นรถร่วมด้วย เพียงแค่นี้ก็จะช่วยให้อากาศในรถที่คุณสูดหายใจเข้าไปสะอาดขึ้นอย่างรู้สึกได้แน่นอน

เปิดประตูจอดรถตากแดดไล่กลิ่นอับ

กลิ่นอับสะสมตลอดการใช้รถมาอย่างยาวนาน สะอาดขึ้นได้ง่าย ๆ แค่จอดรถเปิดประตูทิ้งไว้กลางแดด วิธีพื้นฐานง่าย ๆ ว่าด้วยความร้อนช่วยฆ่าเชื้อรา และถ้ารถของคุณไม่เคยทำมันเลยก็ควรลองทำสักหน่อย เพื่อบรรยากาศที่ดีกว่าในรถของคุณเอง

Prevent-Air-Your-Car-From-Virus

ล้างแอร์รถยนต์

ในส่วนของตู้แอร์รถยนต์ แม้จะไม่ใช่ปัจจัยหลักในเรื่องของความสะอาดของสภาพอากาศภายในห้องโดยสาร แต่ก็มีผลทำให้ฝุ่นละอองเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารได้ ดังนั้น การล้างแอร์รถยนต์ ตามระยะที่ใช้รถก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณมองข้ามไม่ได้

อย่าเปิดกระจก หรือเปิดประตูไว้นาน ๆ

การเปิดกระจกหรือเปิดประตูเพียงไม่นานก็ทำให้ฝุ่นควันต่าง ๆ เข้ามาในรถของคุณได้อย่างรวดเร็ว เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงที่จะเปิดทั้งกระจกหรือประตูรถทิ้งไว้ ยิ่งถ้าไปจอดเปิดประตูหรือเปิดกระจกขับรถย่านที่มีฝุ่นมาก ๆ จะสังเกตเห็นได้เลยว่าในรถของคุณจะมีฝุ่นเกาะเต็มในทันที นี่แค่ที่ตาเห็นนะ ไม่นับรวมที่ยังมองไม่เห็นอีก

เพียงเท่านี้ แอร์รถยนต์ ของคุณก็จะช่วยมอบอากาศที่บริสุทธิ์ให้กับรถคุณได้แล้ว ดูแลกรองแอร์ของรถให้ดีพร้อมกับนำเทคนิคที่จะช่วยให้อากาศในรถของคุณสะอาดขึ้นไปใช้ แค่นี้สภาพอากาศในรถคุณก็ดีขึ้นได้แล้ว มาดูแลพื้นที่ส่วนตัวอย่างบนรถของคุณให้ปลอดภัยที่สุดกันดีกว่า

ยิ่งในตอนนี้อากาศที่ไหนก็ไว้ใจไม่ได้ด้วย ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เหมือนกับอุบัติเหตุที่ไม่รู้จะเกิดขึ้นกับรถคุณเมื่อไร เลือกทำประกันก็ต้องดูที่น่าเชื่อถือ มั่นใจได้ในคุณภาพบริการ เลือกใช้ประกันรถออนไลน์จาก Roojai.com รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า เช็คราคาออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. และหากใครสนใจประกันโควิดออนไลน์ ราคาดี คุ้มครองสูง คลิกดูข้อมูลได้เลย https://www.roojai.com/covid/

5 วิธี แก้ปัญหารถแอร์ไม่เย็น

น่าสังเกตกันไหมครับว่า ในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมานี้ โลกเราพบกับสภาวะโลกร้อนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งในด้านการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่เกินเลย การกินอยู่และการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ ล้วนก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนทั้งสิ้น

ส่วนในประเทศไทยเองนั้น ก็ตั้งอยู่ในเขตเส้นศูนย์สูตร ซึ่งอากาศร้อนชื้นทุกฤดูอยู่แล้ว ไม่ใช่เพียงแค่หน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว เราก็รู้สึกได้ว่าแดดร้อนมากขึ้นกว่าเดิม ขนาดแอร์รถป้ายแดงยังเหนื่อย ถ้าเป็นรถมือสองอายุหลายปี ระบบแอร์ยิ่งไม่เย็นใหญ่!

CARRO มีเคล็ดลับมาบอกครับ ว่าแก้ปัญหาแอร์ไม่เย็นของรถยนต์คุณอย่างไร ให้เย็นฉ่ำชื่นอุราขึ้นอีกครั้ง …

Prepare-Car-Air-Condition-In-Hot-Season

1. เครื่องยนต์ต้องสมบูรณ์

ระบบเครื่องยนต์ต้องสมบูรณ์ เพราะเครื่องยนต์นั้นย่อมมีผลไปถึงระบบแอร์ด้วย ตรวจดูหม้อน้ำว่ามีรอยรั่วซึมหรือไม่ ดูท่อทางเดินน้ำจุดต่างๆ มีรอยแตกลายงา หรือแข็งแล้วหรือยัง เช็กซีล จุกยางจุดต่างๆ ดูสภาพเป็นไงบ้าง ตัวแหวนรัด ปั้มน้ำ และสายพาน ไปด้วยก็ดี อันไหนเสื่อมสภาพ ก็เปลี่ยนใหม่ซะ

Prepare-Car-Air-Condition-In-Hot-Season

2. ฟิล์มกรองแสง

ฟิล์มกรองแสงควรเลือกชนิดที่มีการสะท้อนความร้อนได้ดี ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่ก็จะช่วยให้แอร์ในห้องโดยสารรถ เย็นขึ้นได้เช่นกัน

Prepare-Car-Air-Condition-In-Hot-Season

3. พัดลมไฟฟ้า

พัดลมระบายความร้อน ก็สำคัญ เพราะมีผลต่อระบบระบายความร้อนและแอร์ ในรถขับหลัง หรือรถกระบะส่วนมาก ใช้พัดลมจากการหมุนของเครื่องยนต์ ซึ่งมี Free Blade อยู่ มันจะตัดการทำงานของพัดลมเมื่อรอบเครื่องยนต์สูงๆ เพื่อไม่ให้กินกำลัง เพราะยังไงเครื่องยนต์รอบสูง ก็มีลมปะทะมาช่วยระบายความร้อนที่หม้อน้ำและแผงคอยล์ร้อนของแอร์ หากซิลิโคนใน Free Blade เสื่อมสภาพ ลมจากใบพัดก็จะหมุนได้ช้าลง และทำให้แอร์รถไม่เย็นตามไปด้วย

Prepare-Car-Air-Condition-In-Hot-Season

4. ไดเออร์

ไดเออร์ (Drier) เป็นตัวกรองความชื้นในระบบแอร์ จะมีกระจกเล็กๆ ใสๆ ที่เรียกว่า “ตาแมว” ติดอยู่ วิธีสังเกต ให้ติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ จากนั้นดูปริมาณสารทำความเย็นที่ไหลผ่าน ดูฟองที่เกิดขึ้นว่าเป็นแบบไหน

ถ้าฟองที่ไหลผ่าน ไหลเป็นเส้นประเหมือนไข่ปลา มีปริมาณเล็กน้อย แสดงว่าสารทำความเย็นพอดี ถ้าเห็นฟองมาก แสดงว่าน้อยไป ถ้าไม่เห็นฟองเลย สารทำความเย็นอาจจะรั่วหมด หรือไม่ก็มากเกินไป วิธีแก้ไขคือเติมน้ำยาแอร์เข้าไปให้พอดี แต่ถ้าแอร์ไม่เย็นอีก ก็ต้องเปลี่ยนไดเออร์ใหม่

Prepare-Car-Air-Condition-In-Hot-Season

5. ล้างตู้แอร์

สำหรับรถที่ใช้งานมาหลายปี แต่ไม่เคยล้างตู้แอร์เลย ก็ลองล้างตู้แอร์หรือคอยล์เย็นบ้างสักครั้ง เพราะบ้านเราฝุ่นเยอะ ในห้องโดยสารก็มีฝุ่นแฝงเข้าไปตามจุดต่างๆ ตลอด เมื่อสะสมฝุ่นมากก็ทำให้ตู้แอร์ตัน มีกลิ่นเหม็นอับ ลมแอร์ไม่แรง รวมถึงการอุดตันที่ Expansion Valve (ตัวฉีดน้ำยาแอร์ให้กลายเป็นไอ) ในคอยล์เย็น ก็ทำให้แอร์ไม่เย็นเช่นกัน โดยวิธีล้างแอร์ ก็มีทั้งรื้อคอนโซลออกมาล้าง และแบบส่องกล้องล้าง

ไหนๆ จะล้างตู้แอร์แล้ว ก็ตรวจเช็กการรั่วซึม วัดกำลังอัดของระบบแอร์ด้วย ไม่งั้นล้างตู้แอร์มาแล้วแอร์ไม่เย็นอีก ก็เสียเงินฟรีเปล่าๆ …

Prepare-Car-Air-Condition-In-Hot-Season

แต่ถ้าทำทุกวิถีทางแล้ว แอร์ก็ยังไม่เย็น เพราะกำลังอัดของคอมเพรสเซอร์แอร์ตกไปตามอายุ มีเสียงดัง หรือมีน้ำมันคอมแอร์ฯ รั่ว หรือคอมเพรสเซอร์แอร์ใกล้หมดอายุแล้ว คุณอาจจะต้องลงทุนมากหน่อย เพื่อเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์แอร์ลูกใหม่ รับรองเย็นฉ่ำอย่างแน่นอนครับ …

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ