ขึ้นชื่อว่า “หนู” แล้ว ในบริบทของภาษาไทย ก็มีอยู่หลายความหมาย ตั้งแต่ หนูที่เป็นสัตว์ตระกูลฟันแทะ มีตั้งแต่ หนูท่อ, หนูหริ่ง, หนูขาว, หนูนา และหนูเลี้ยง เช่น แฮมสเตอร์ หรือคำที่ไว้เรียกเด็กๆ อายุน้อยกว่าว่าเป็น “คุณหนู” หรือจะเป็นคำที่ไว้เรียกคนในวงการการเมือง อย่าง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ก็ได้เช่นกัน …

แต่หนูที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้ คือ “หนูบ้าน” หรือ “หนูท่อ” ครับ ที่เป็นตัวสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ทั้งสกปรกและอันตราย อีกทั้งกรณีรถยนต์ที่เกิดไฟไหม้หลายต่อหลายครั้ง หรือสตาร์ทไม่ติด ไฟเดินไม่ครบทั้งระบบ ก็มีสาเหตุมาจากหนูกัดสายไฟ ในห้องเครื่องยนต์นี่ล่ะครับ

MR.CARRO จะมาบอกเคล็ดไม่ลับ ของวิธีป้องกันหนูมากัดสายไฟในรถกันครับ …

Protect-Your-Car-From-Rats-And-Mice

บางคนจอดรถ ในพื้นที่ที่มีที่ทิ้งเศษอาหาร กองขยะ ซึ่งเป็นแหล่งที่หนูชุกชุมอยู่แล้ว ภายในห้องเครื่องยนต์มีพื้นที่เป็นซอกมุมหลายส่วน อีกทั้งฉนวนสายไฟในรถ ยังทำมาจากวัสดุที่มีส่วนผสมของธรรมชาติ นั่นคือ “ถั่วเหลือง” ซึ่งจัดว่าเป็นของโปรดของคุณหนูๆ เลยล่ะ

วิธีป้องกันแบบเบสิก ก็เริ่มต้นด้วย ใช้กาวดักหนู หรือยาเบื่อหนู มาวางไว้ที่บริเวณใต้ท้องรถ หรือบริเวณรอบๆ รถ เพื่อให้หนูโดนของพวกนี้ก่อน

Protect-Your-Car-From-Rats-And-Mice

เครื่องยนต์เขรอะแบบนี้ หนูชอบมาก!

เปิดฝากระโปรงรถเอาไว้เสมอ เวลาจอดรถตรงบริเวณที่มักโดนหนูกัดสายไฟบ่อยๆ เพราะหนูมักจะไม่ชอบที่สว่างๆ นัก รวมถึงพยายามทำความสะอาดห้องเครื่องยนต์ ไม่ให้มีกลิ่นหนูหรือกลิ่นสาปต่าางๆ หรือหาแผ่นอะไรก็ได้มาปิดไว้บริเวณใต้ท้องรถ ในจุดที่หนูเข้ามาได้

หรือจะนำน้ำผสมกับพริกป่น ใส่กระบอกฉีดน้ำ ฉีดเข้าไปในบริเวณห้องเครื่อง ตรงที่หนูชอบเข้าไปซุกตัว หรือจะใช้น้ำมันสน (หาซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้าง) ชุบเศษผ้าวางไว้ตามจุดที่หนูอยู่ หากเกรงว่ากลิ่นน้ำมันจะแรงไป ให้ผสมน้ำมันกับเกล็ดการบูร เพื่อกลิ่นจะได้ไม่ฉุนเกินไป

Protect-Your-Car-From-Rats-And-Mice

ต้นยี่โถ (ภาพจาก WeKnow.in.th)

ถ้าเน้นแนวธรรมชาติ ก็ใช้ไม้ยี่โถ วางไว้บริเวณใต้ท้องรถก็ได้ เพราะกลิ่นของต้นไม้ชนิดนี้ ไม่ถูกประสาทการรับกลิ่นของหนูเลย แต่ต้องเปลี่ยนไม้ยี่โถราว 3 เดือนครั้ง เพราะกลิ่นจะจางลง แต่ถ้าหาไม่ได้ ก็ลองใช้น้ำมันสะระแหน่ น้ำมันระกำ น้ำมันไพล น้ำมันยูคาลิปตัส กลิ่นจำพวกยาหม่อง น้ำมันมวย เนื่องจากหนูมีประสาทรับกลิ่นที่ไวมาก เพราะหนูมักไม่ชอบกลิ่นหอม

หรือเลี้ยงแมว หรือหมา (ต้องเป็นตัวที่จับหนูเก่งๆ ด้วยนะ) ไว้คอยไล่จับหนู

กรณีหนูกัดสายไฟในรถ แล้วต้องการเคลมประกันภัย

Protect-Your-Car-From-Rats-And-Mice

ส่วนรถใครที่เกิดความเสียหายจากการที่หนูกัดสายไฟในห้องครื่องยนต์แล้ว หากมีทำประกัยภัยชั้น 1 ไว้ ก็สามารถเคลมประกันได้ครับ เเพราะถือเป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะการเฉี่ยวชนเท่านั้น โดยเจ้าของรถอาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก หรือค่า Excess ซึ่งยังไงก็คุ้มกว่าจ่ายเงินซ่อมเองทั้งหมดอยู่ดี

ในกรณีที่ต้องการเคลมประกัน เนื่องจากถูกหนูกัดสายไฟ ให้ถ่ายรูปรอยเท้าหนู และร่องรอยความเสียหายรอบๆ และไม่ควรทำความสะอาดจุดเสียหายจนกว่าเจ้าหน้าที่ประกันภัยจะออกใบเคลมให้ แล้วค่อยแจ้งบริษัทประกันภัยเคลมต่อไป

แต่ทางที่ดี ถ้ารู้ว่าจุดไหนหนูเยอะ พยายามหลีกเลี่ยงในการจอดรถ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ลองทำตามวิธีที่ว่ามาข้างต้นเถอะครับ …

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยค่ะที่ @carroautomall

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก