Mazda3-MY2018

Mazda3 รุ่นปี 2018 เพิ่มออพชั่นใหม่ๆ เพียบ ขึ้นราคาอีกรุ่นละ 1 หมื่นบาท

Mazda3-MY2018

ถึงเวลาที่มาสด้าขยับอีกครั้ง ด้วยการเสริมทัพ C-Segment อย่าง Mazda3 (มาสด้า3) คอมแพคคาร์ระดับพรีเมียมที่เทียบเท่ากับคู่แข่งรถยนต์จากค่ายยุโรป เตรียมพร้อมสู้ศึกลุยตลาดก่อนถึงงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ภายใต้แนวคิดสุดหรู Vision Beyond Imagination หรือ มิติใหม่ของความสมบูรณ์แบบที่มีอยู่จริง ที่ยังคงมาพร้อมกับการออกแบบระดับโลกของมาสด้าหรือ “โคโดะ ดีไซน์” ที่สะท้อนความโดดเด่นสง่างามจากการเคลื่อนไหวอันทรงพลังของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ ผนวกกับเทคโนโลยีสุดล้ำที่ไม่เหมือนใครอย่างสกายแอคทีฟ และระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-Vectoring Control)

ส่งผลให้รถมาสด้า3 ใหม่ เพิ่มความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นเหนือระดับ ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ มากมายจนล้นคัน แต่ปรับราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียงแค่ 10,000 บาทเท่านั้น โดยราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ 857,000 บาท

Mazda3-MY2018

มาสด้า3 รุ่น 2018 คอลเล็กชั่น มาพร้อมสีใหม่ล่าสุด สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal) ที่เพิ่มภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียมให้กับรถมาสด้า3 ปรับปรุงคุณภาพของทุกองค์ประกอบโดยมีปรัชญา HMI เป็นพื้นฐาน ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกและภายใน ฟังก์ชั่นต่างๆ รวมถึงความเงียบภายในห้องโดยสาร

Mazda3-MY2018

มาสด้า3 ยังติดอันดับ Top 3 ของรถยนต์ที่ได้เข้าชิงรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก เมื่อปี 2557 และรางวัลรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมของโลก ปี 2557 การเปิดตัว มาสด้า3 รุ่น 2018 คอลเลคชั่น นี้ เป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของชาวมาสด้า เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจ และปลอดภัยยิ่งขึ้น

โดยในปีนี้ มาสด้าตั้งเป้ายอดขายเฉพาะมาสด้า3 ประมาณ 6,000 คัน และยอดขายโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 60,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 17%

Mazda3-MY2018

สำหรับรถยนต์มาสด้า3 ถือเป็นโมเดลหลักสำคัญ ที่ทำให้มาสด้าเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยรุ่นแรกขึ้นไลน์การผลิตที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จังหวัดระยอง เมื่อปี 2546 ได้สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ไว้มากมาย และมียอดขายในประเทศไทยสูงถึง 30,000 คัน ถัดมารุ่นที่ 2 เริ่มผลิตขึ้นเมื่อปี 2554 มียอดขาย 13,000 คัน และรุ่นที่ 3 เมื่อปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มียอดขายสูงถึง 25,500 คัน รวมทั้ง 3 โมเดล มียอดขายกว่า 68,500 คัน เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญอย่างมากในสายผลิตรถยนต์ของมาสด้า สิ่งสำคัญคือรถยนต์มาสด้า3 ได้ก้าวเข้ามาเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์มาสด้า โดยมียอดขายสูงถึง 1 ใน 3 ของยอดจำหน่ายมาสด้าทั่วโลก ด้วยยอดขายเกือบ 5 ล้านคันใน 142 ประเทศ ที่สำคัญยังได้รับรางวัลและประกาศเกียรติคุณต่างๆ กว่า 180 รางวัล

Mazda3-MY2018

รถยนต์มาสด้า3 รุ่นปี 2018 คอลเลคชั่น ได้เพิ่มออพชั่นล้ำสมัย ตอบสนองกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ประกอบด้วย

ชื่อรุ่น รายการอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มเติมจากรุ่นก่อนหน้า
2.0 E (แบบ 4 ประตู) 2.0 E Sports (แบบ 5 ประตู) 1. เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
2. เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
2.0 C (แบบ 4 ประตู) 2.0 C Sports (แบบ 5 ประตู)
  1. เพิ่มไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light
  2. เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
  3. เพิ่มเพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
  4. เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
2.0 S (แบบ 4 ประตู) 2.0 S Sports (แบบ 5 ประตู)
  1. เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  2. เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
  3. เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
  4. เพิ่มระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
2.0 SP (แบบ 4 ประตู) 2.0 SP Sports (แบบ 5 ประตู)
  1. เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  2. เพิ่มระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา
  3. เพิ่มระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)
  4. เพิ่มระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด

 

Mazda3-MY2018

รถยนต์มาสด้า3 รุ่น 2018 คอลเล็กชั่น มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู ในรูปแบบเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร

โดยสีภายนอกมี มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ซึ่งสีใหม่ล่าสุดคือ สีแดง โซลเรด คริสตัล, สีเทาแมชชีน เกรย์, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค, สีดำ เจ็ท แบล็ก และสีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู

Mazda3-MY2018

ราคาจำหน่ายรถยนต์มาสด้า3 รุ่น 2018 คอลเลคชั่น ทั้งรุ่นซีดาน 4 ประตู และรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู

  • รุ่น 2.0 E ราคา 857,000 บาท
  • รุ่น 2.0 C ราคา 951,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 998,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,149,000 บาท
Mazda2-MY2018

Mazda2 (มาสด้า2) ใหม่ ราคาเดิม เพิ่มออพชั่น เปิดตัวแล้ว

Mazda2-MY2018

Mazda แนะนำ Mazda2 (มาสด้า2) รุ่น 2018 Collection ลุยตลาด ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “Excitement Never Ends” หรือ “เร้าใจ ไม่เคยหยุด” ใส่ออพชั่นเพิ่มจนล้นคัน หวังมัดใจสาวก Zoom-Zoom พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง SKYACTIV-Vehicle Dynamics ที่มาพร้อมกับระบบ G-Vectoring Control เอกลักษณ์เฉพาะตัวจากมาสด้า เพิ่มออพชั่นเต็มคัน แต่ราคาเท่าเดิม

Mazda2-2018สำหรับมาสด้า2 รุ่น 2018 คอลเลคชั่น ทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3L และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5L ทั้งตัวถังแบบซีดานและแฮตช์แบค หวังมัดใจกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ในราคาที่จับต้องได้ง่าย เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานที่หลากหลาย ประกอบด้วย

Mazda2-2018

– สีใหม่ล่าสุด สีแดงโซลเรด คริสตัล ที่ให้ความสดใสเป็นประกายของสีแดง
– ระบบเชื่อมต่อโลกการสื่อสาร MZD Connect
– ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด แบบอัตโนมัติ
– ที่ปัดน้ำฝนแบบกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
– ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light
– ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
– ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
– ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
– ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry)
– หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี

*ออพชั่นเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นของรถ

Mazda2-2018

Mazda 2 เครื่องยนต์เบนซิน

1.3 Skyactiv-G Standard ราคา 530,000 บาท
1.3 Skyactiv-G High ราคา 590,000 บาท
1.3 Skyactiv-G High Connect ราคา 620,000 บาท
1.3 Skyactiv-G High Plus ราคา 670,000 บาท

Mazdd 2 เครื่องยนต์ดีเซล

1.5 Skyactiv-D Standard ราคา 680,000 บาท
1.5 Skyactiv-D High Connect ราคา 750,000 บาท
1.5 Skyactiv-D High Plus L ราคา 789,000 บาท

สำหรับ รุ่น 1.3 Standard ไม่มีการเพิ่มอุปกรณ์

*เฉพาะสี Snowflake Pearl เพิ่มเงินอีก 7,000 บาท
**เฉพาะสี Soul Red เพิ่มเงินอีก 10,000 บาท

รุ่น High

ไฟอ่านแผนที่ตอนหน้า แบบแยกซ้าย–ขวา
ไฟส่องสว่างตรงกลางภายในห้องโดยสาร
หน้าจอกลาง แบบสี Center Display Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
ระบบ MZD Connect พร้อมปุ่ม Center Command
ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
ช่องเชื่อมต่อ USB 1 ช่อง / ช่องใส่ SD Card
ระบบจดจำเสียง Voice Recognition
ลำโพง 6 ตำแหน่ง (เดิน 4 คำแหน่ง)
ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor

รุ่น 1.3 High Connect เพิ่ม

ไฟหน้า LED Projector Lens พร้อมไฟ Daytime Running Light
ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control

รุ่น 1.3 High Plus

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM
ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA

รุ่น 1.5 Standard

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ

รุ่น 1.5 High Connect

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control

รุ่น 1.5 High Plus L

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor

Mazda2-2018

รถยนต์มาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู โดยในแต่ละรูปแบบตัวถังจะมี 7 รุ่นย่อย แบ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 รุ่นและเครื่องยนต์คลีนดีเซล 3 รุ่น

Mazda2-2018

สีภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ซึ่งสีใหม่ล่าสุด คือ สีแดง โซลเรด คริสตัล, สีขาว สโนว์เฟค ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล ไททาเนียมแฟลช, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค, สีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู, สีเทา เมทิเออ เกรย์ และสีดำ เจ็ท แบล็ก

Mazda2-2018

นับได้ว่าคุ้มค่าเลยทีเดียวสำหรับผู้ที่กำลังมองหา Mazda2 ใหม่ รุ่นปี 2018 เพราะนอกจากจะได้ออพชั่นต่างๆ เพิ่มขึ้นมาแล้ว ยังได้ประหยัดเงินด้วยเพราะซื้อได้ในราคาที่เท่ากับรุ่นปี 2017 ส่วนใครที่คิดว่างบประมาณยังมีไม่พอ ก็ลองมองหา Mazda2 มือสองได้ง่ายๆ ด้วยการติดต่อมาที่ Fanpage Carro Thailand ได้เลยครับผม