แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

การสำเร็จการศึกษา คือ ก้าวสำคัญสำหรับอนาคต หมายถึงโลกใหม่ เส้นทางใหม่ และความท้าทายใหม่ การมองหารถสักคันสำหรับการใช้งานในฐานะของเด็กจบใหม่วัยทำงานจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ “รถที่ดีที่สุด” ที่เป็นเหมือนทั้งของขวัญวันสำเร็จการศึกษาและรถคู่ใจสำหรับเริ่มต้นวัยทำงาน รู้ใจเลยอยากแนะนำนักศึกษาจบใหม่ทุกคนในการซื้อรถคันแรก ว่าคันไหนที่จะโฉบเฉี่ยวทันสมัยเหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ชีวิตในเมือง ที่สำคัญต้องราคาสบายกระเป๋า จะซื้อสดก็ได้ จะผ่อนก็ไม่หนักเกินไป มีรุ่นไหนบ้าง ไปดูกันเลย

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

5 รุ่นรถสำหรับ “เด็กจบใหม่วัยทำงาน” ที่อยากซื้อรถคันแรก

ต้องบอกว่าในปัจจุบันนี้มีรถรุ่นใหม่ออกมาให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากประเทศจีนที่มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ แต่ตำแหน่งของรถยอดนิยมที่ยังอยู่ในหัวใจนักขับก็แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก จากรถหลายรุ่นจำนวนนับร้อย รู้ใจขอเลือกมาเพียง 5 รุ่นเท่านั้นที่ถูกอกถูกใจสำหรับนักขับรุ่นใหม่ จะมีรถรุ่นไหนเข้ารอบบ้าง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันได้เลย

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

1. Suzuki Swift

หนึ่งในดวงใจที่ยังคงติดอันดับรถเล็กสำหรับการใช้งานในเมืองที่มีความทันสมัยที่มาพร้อมกับความคล่องแคล่ว คล่องตัวอยู่เสมอกับ Suzuki Swift ที่มีการปรับปรุงรูปโฉมมาตั้งแต่ครั้งแรกมาสู่รถเก๋งดีไซน์น่ารัก โฉบเฉี่ยวและคงความทันสมัยเอาไว้ได้อย่างลงตัว เรียกว่าถ้าใครเคยรู้จักกับ Suzuki Swift รุ่นแรก คงแทบไม่รู้เลยว่ารถคันนี้เดินทางมาไกลได้ขนาดนี้ ด้วยรูปทรงที่สวยงาม สะดุดตา พร้อมด้วยพลังเครื่องยนต์ที่มีขนาด 1.0 ที่ต้องบอกว่ารถมอเตอร์ไซต์บางรุ่นยังประหยัดน้อยกว่ารถเก๋งดีไซน์น่ารักคันนี้

ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบมาได้กว้างขวางมากกับขนาดเล็กหลอกตา ต้องบอกว่า เป็นความคุ้มค่าคุ้มราคาที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว สำหรับชีวิตในการทำงานที่มีเอกสารมากมาย หรือการพักผ่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กับเพื่อนฝูงที่รู้ใจ Suzuki Swift พร้อมทำหน้าที่เป็นพาหนะที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว และที่สำคัญอยู่ในราคาที่เบาและเป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ นับจากวันจบการศึกษาเลยก็ว่าได้ โดยราคาในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 557,000 บาทเท่านั้น แถมยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

2. Mitsubishi Mirage / Mitsubishi Attrage

อีกหนึ่งค่ายผลิตรถชั้นนำที่ออกแบบรถมาได้อย่างลงตัวสำหรับใครก็ตามที่อาจมองว่ารถในระดับ 1.0 ลิตรนั้นมันเล็กไปสำหรับผู้ชายตัวใหญ่ร่างโต ดังนั้น การมองหารถเก๋งที่มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางขึ้นจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก และหนึ่งในรูปแบบรถที่ตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการของคุณคือ Mitsubishi Mirage / Mitsubishi Attrage สองตัวเลือกที่แสนโดนเด่นจากค่าย Mitsubishi ที่คุณต้องร้องว้าวทั้งในรูปทรงและประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างแน่นอน

สำหรับรูปลักษณ์ภายนอก เรียกว่าตอบสนองคนรักรถบอดี้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี ทั้งพื้นที่ในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ไม่ว่าจะปรับรูปแบบเพื่อการรับเพื่อนไปทำงานด้วยกันหรือวันพักผ่อนยามเลิกงาน หรือพื้นที่สำหรับการใส่เอกสารสำหรับการนำเสนองานต่าง ๆ ที่ใส่ได้ทั้งในพื้นที่โดยสารหรือพื้นที่เก็บของด้านหลังก็สามารถทำได้อย่างลงตัว มาพร้อมขุมพลังระดับ 1.0 ลิตรอีกเช่นกัน แต่ดีไซน์นั้นเหมือนรถหรูในระดับที่เหนือกว่า Mitsubishi Mirage / Mitsubishi Attrage จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกแบบสำหรับการซื้อรถคันแรกสำหรับวัยทำงานของคุณ โดยราคาเปิดตัวของ Mitsubishi Mirage อยู่ที่ 523,000 บาท และMitsubishi Attrage เปิดตัวในราคา 543,000 บาท เท่านั้น

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

3. Nissan March

หนึ่งในดวงใจของผู้รักความเร็ว ความแรง และความแข็งแกร่งของตัวถังรถกับ Nissan March ความน่ารักที่มากับความแข็งแกร่งที่ออกแบบมาได้อย่างลงตัว การออกแบบที่เน้นความโค้งเว้าที่สร้างความน่ารักน่าสนใจ แตกต่างไปจากการออกแบบรถทั่วไป อีกทั้งด้วยเทคโนโลยี Eco car ที่ถูกนำเข้ามาในรถคันนี้กับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ที่มีพลังขับเคลื่อนที่ดีมาก แถมยังประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ เดินทางในเมืองใหญ่ได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องของการเผาผลาญน้ำมันที่สิ้นเปลืองเกินเหตุ

นอกจากนั้น ด้วยดีไซน์ภายในห้องโดยสารที่หรูหรา ทันสมัย เพิ่มเติมฟังก์ชันต่าง ๆ สำหรับการขับขี่และการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าด้วยระบบมัลติมีเดียครบครัน ทำให้รถเล็กรุ่นนี้เป็นยนตรกรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพสำหรับการขับรถในเมืองใหญ่ จะรถติดแค่ไหน Nissan March ก็พร้อมเป็นเพื่อนอยู่เคียงข้างสร้างความสนุกสนานให้กับคุณทั้งในวันทำงานอันแสนเร่งรีบ และวันพักผ่อนอันแสนเร้าใจ นี่แหละ รถคู่ใจคนวัยมันส์ในยามเริ่มต้นวัยทำงานในปีแรกกับสนนราคาเบาที่สุดเพียงแค่ 420,000 บาทเท่านั้น โดยรุ่นท็อปสุดของ Nissan March อยู่ที่ 495,000 บาท เท่านั้น

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

4. Toyota Yaris ATIV

สนามการแข่งขันนี้ไม่มีเขาได้อย่างไร กับความโฉบเฉี่ยวทันสมัยกับ Eco car ขนาดเล็กราคาเบา ๆ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตในเมืองได้อย่างลงตัวกับ Toyota Yaris ATIV ที่ออกแบบมาเอาใจนักขับอย่างเต็มที่ทั้งในรูปโฉม Hatchback และ Sedan ที่ปรับฟังก์ชันสำหรับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบ “ทะลุออกหน้าต่างรถ” ทั้งระบบมัลติมีเดียสำหรับการสร้างความบันเทิงในการเดินทาง พร้อมกับแผ่นกรองอากาศที่สร้างความสดชื่นภายในตัวรถที่เป็นนวัตกรรมการออกแบบที่ใส่ใจในตัวผู้ขับขี่อย่างมาก

ความโดดเด่นคือการออกแบบที่มีหลากหลายเวอร์ชันให้เลือก เรียกกันว่าละลานตากันเลยทีเดียวทั้งในส่วนของรูปโฉมทั่วไป ที่สามารถประยุกต์เข้ากับรูปแบบไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ทั้งในเรื่องของการทำงานและการพักผ่อน Toyota Yaris ATIV เตรียมทุกสิ่งเอาไว้แบบจัดเต็มเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้รถให้ลงตัวที่สุด และมาพร้อมกับระบบการขับเคลื่อนที่สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมของเงินทุนที่มีตั้งแต่ Sport ราคา 609,000 บาท หรือ Play Limited Edition Sport ราคา 634,000 บาท เรียกได้ว่าจะเป็นรูปโฉมไหน Toyota Yaris ATIV ก็จัดให้แบบเต็มๆ

แนะนำรถ 5 รุ่นเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน

5. Honda City

อีกหนึ่งยนตรกรรมชั้นเลิศที่ไม่อาจมองข้ามได้กับค่ายการออกแบบและผลิตรถระดับโลกอย่าง Honda ที่ขอส่ง Honda City RS เข้าประกวด ขวัญใจรถสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองสำหรับเด็กจบใหม่และเริ่มต้นวัยทำงานเป็นปีแรก ด้วยราคาเบา ๆ สบายกระเป๋าและมีรูปแบบดีไซน์ให้เลือกทั้งแบบ Sedan และ Hatchback มาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์รูปแบบใหม่แบบ e:HEV ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าร่วม ทำให้ Honda City ประหยัดน้ำมัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ได้มาก

นอกจากนั้นด้วยดีไซน์ของห้องโดยสารที่ออกแบบมาได้อย่างกว้างขวางและยังเข้ากับดีไซน์ตัวรถที่เลิศหรู จึงเป็นรถที่มีขนาดเกือบเทียบเท่ารถขนาดกลาง แต่มีประสิทธิภาพที่ล้นเกินราคา ไม่ว่าจะเป็นการเก็บเอกสาร อุปกรณ์สำหรับการทำงานก็สามารถทำได้อย่างลงตัว หรือจะปรับเปลี่ยนรูปโฉมเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจกับเพื่อนฝูงก็สามารถทำได้ในทันที นับได้ว่าเป็นรถเก๋งอเนกประสงค์ที่พร้อมในเรื่องการใช้งานอย่างเต็มที่ สนนราคาเพียงแค่ 579,500 บาท สำหรับรุ่น Sedan และ 599,000 บาท สำหรับรุ่น Hatchback

ไม่ว่าเด็กจบใหม่หรือคนวัยทำงาน ต้องไม่ลืมมีประกันรถยนต์

น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่กับรถทั้ง 5 รุ่นใหม่สำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นวัยทำงาน เลือกรถที่ถูกใจได้แล้ว อย่าลืมเลือกประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าสำหรับการคุ้มครองรถและตัวคุณเองแบบเต็มประสิทธิภาพ ที่รู้ใจ ประกันออนไลน์ เรามีประกันรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่พร้อมตอบสนองความต้องการได้อย่างลงตัว มองหาประกันรถยนต์ที่ใช่ไปกับเรา เพราะเรารู้ใจกว่า ประหยัดกว่า เราทำให้ประกันรถยนต์เป็นเรื่องง่าย ไม่ซับซ้อน และเชื่อถือได้ ให้เราได้ดูแลรถคันใหม่ของคุณกับการเริ่มต้นวัยทำงานด้วยความอุ่นใจไปในทุกเส้นทาง คลิกเช็คราคาและปรับแต่งแผนของคุณได้เลย

สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ๆ จากรู้ใจได้ที่ FB fan page: Roojai หรือ คลิก add Official Line ของเราไว้ได้เลย

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

รถ Eco-Car (อีโคคาร์) ยังจัดได้ว่าเป็นรถยอดนิยมของคนไทยมานานนับสิบกว่าปี ที่แม้ว่าจะเป็นรถเล็ก แต่ก็ให้พลังเครื่องยนต์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง หรือขับในต่างจังหวัดก็ได้ ด้วยคุณสมบัติที่ประหยัดน้ำมัน (เหมาะเลยกับในยุคน้ำมันแพงเช่นนี้) ขับง่าย หาที่จอดรถก็ง่าย และยังซ่อมง่าย ใช้งานได้อเนกประสงค์ อีกทั้งมีราคาเริ่มต้นที่ไม่แพง วัยรุ่น นักศึกษา หรือเด็กจบใหม่ ที่รายได้ยังไม่มากนัก ก็สามารถวางดาวน์ และผ่อนต่อเดือนได้สบายๆ

ในงาน Motor Show 2022 นี้ ผู้ผลิตรถ Eco-Car หลายเจ้า เช่น โตโยต้า, นิสสัน, มิตซูบิชิ, มาสด้า หรือ ซูซูกิ ก็ยังนำเสนอรถในแบบ Eco-Car กันอย่างต่อเนื่องเหมือนเช่นเคย

โดยในงาน Motor Show 2022 จะมีรถ Eco-Car รุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Nissan Almera

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) จัดเป็นรถ Eco-Car ขนาด 4 ประตู เครื่อง Turbo รุ่นแรกที่ออกมาในตลาด “Intelligent Urban Sedan” โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ใหม่โฉบเฉี่ยว และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) เป็นต้น แถมยังมีรุ่นใส่ชุดแต่งสปอร์อย่าง Sportech (สปอร์ตเทค) ให้เลือก

ภายในออกแบบใหม่หมด ใช้วัสดุคุณภาพสูง เน้นความประณีตในการประกอบ พร้อมพื้นที่ว่างเหนือศีรษะ พื้นที่วางขาที่กว้างขวาง คงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในด้านความกว้างขวางที่สุด ในรถยนต์ระดับเดียวกัน และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ AIVI สะดวกสบายในการใข้งานทั้งระบบนำทาง ระบบความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ ภายใต้การเชื่อมต่อที่ราบรื่นผ่านสมาร์ทโฟน

วางขุมพลังขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 152 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) มีประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic แถมยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility

ราคาของ Nissan Almera

  • รุ่น E ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 619,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 649,000 บาท
  • รุ่น VL Sportech ราคา 699,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car จาก มิตซูบิชิ ในงาน Motor Show 2022 นี้ ชูรุ่นตกแต่งพิเศษ Ralliart ด้วยสติ๊กเกอร์รอบคัน สำหรับภายนอกมากับภาพลักษณ์ดูหรูหราขึ้นด้วยกระจังหน้า Advanced Dynamic Shield แบบรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย และตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน และสปอยเลอร์หลังแบบใหม่ให้เพิ่มเติม

พร้อมกับตกแต่งภายในใหม่ เบาะหนัง มีจอแสดงข้อมูลการขับแบบ High Contrast และลายคาร์บอนแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุแบบผิวนุ่มบริเวณแผงประตู สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจอแสดงผลส่วนกลางด้วยระบบ Smartphone – Link Display Audio (SDA) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ มีระบบ Cruise Control กับอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ราคาของ Mitsubishi Mirage

  • รุ่น 1.2 Active ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Ralliart ราคา 537,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Smart ราคา 579,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย พัฒนามาจาก Suzuki A: Wind Concept ต้นแบบรถยนต์ประหยัดพลังงานระดับโลก ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกของโลก (World Premier) ในไทย ได้ชื่อว่าคุณภาพเกินตัว ตอกย้ำภาพลักษณ์ของซูซูกิ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตรถอีโคคาร์

มียอดจำหน่ายรวมนับตั้งแต่เปิดตัวอยู่ที่ 13,732 คัน (เดือนพฤษภาคม 2557 – พฤศจิกายน 2562) อัดแน่นด้วยคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร อีกทั้้งยังเป็นมาตรฐานใหม่ ของรถยนต์นั่งมาตรฐานโลก ส่งออกไปขายในเอเชียและยุโรปด้วย

ราคาของ Suzuki Celerio

  • รุ่น GA MT ราคา 328,000 บาท
  • รุ่น GL MT ราคา 408,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 437,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Suzuki Swift

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) ปรับโฉมใหม่ เพิ่มลุคสปอร์ตปราดเปรียว กระจังหน้าโครเมียมแบบใหม่ และล้อแม็กใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมไฟหน้า LED Projector และไฟท้าย LED

ภายในมีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทุกการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth พื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 265 ลิตร ปรับพับเบาะหลังแบบ 60:40 พร้อมด้วย Keyless Entry เปิด-ปิดล็อกประตูได้โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท สะดวก ทันสมัย กับ Keyless Push Start ปุ่มสตาร์ทในรถ

โดดเด่นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ให้ความแข็งแรง ลดน้ำหนักทุกส่วนของรถยนต์ แต่คงความแข็งแกร่ง ทนทาน ขับขี่ได้คล่องตัว รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก

แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ ฉีดน้ำมันเข้าไปที่กระบอกสูบพร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ทำให้น้ำมันมีละอองที่ละเอียดขึ้น ได้กำลังและแรงบิดที่ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กม./ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Swift

  • รุ่น GL CVT ราคา 557,000 บาท
  • รุ่น GL PLUS CVT ราคา 567,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 629,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Suzuki Ciaz

Suzuki CIAZ (ซูซูกิ เซียส) มาภายใต้แนวคิด “สัมผัสใหม่ สบายทุกมิติ” สุดยอดสปอร์ตอีโคซีดานที่หลายคนรอคอย

ด้านภายนอก ไม่ทิ้งลวดลายความเป็นสปอร์ต อีโอคาร์ กระจังหน้าใหม่สไตล์สปอร์ต ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟหรี่แบบ LED ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันพร้อมสปอยเลอร์หลังไดนามิก

ภายใน คอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย มาตรวัดสไตล์สปอร์ต Suzuki Smart Connect จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบนำทาง รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay กับเบาะหนังคุณภาพสูง ช่องวางเครื่องดื่มมากถึง 8 ตำแหน่ง พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างถึง 565 ลิตร

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินรหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว VVT ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลือง 20 กม./ลิตร รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Ciaz

  • รุ่น GL MT ราคา 523,000 บาท
  • รุ่น GL CVT ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 625,000 บาท
  • รุ่น RS CVT ราคา 675,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Toyota Yaris

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) และ Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) อีโคคาร์แฮทช์แบ็ค Yaris เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2556 เพื่อตอบสนองความต้องการรถ Eco-Car ในไทย และในเดือนสิงหาคม 2560 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของรถใน Segmant อีโคคาร์

สำหรับ Yaris ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มีความสปอร์ต พรีเมียม ด้วยภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าด้านบนสีดำเงา วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอก สเกิร์ตด้านข้าง และด้านหลัง ล้ออัลลอยปัดเงาสีดำตกแต่งด้วยขอบสีเงินขนาด 15 นิ้ว

ควบคู่ไปกับชุดแต่งพิเศษ X-URBAN โดดเด่น สไตล์ครอสโอเวอร์ ออกแบบภายใต้แนวคิด Modern & Cool ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตครอสโอเวอร์รอบคัน ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมโช๊คอัพและสปริงแบบยกสูงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ภายในได้ปรับพวงมาลัยแบบ Soft Touch หุ้มหนังชนิดนุ่มพิเศษ และแบบหุ้มหนังนุ่มพิเศษสีทูโทนแดง Terra Rossa และสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา เบาะนั่งด้านหน้าและหลังสีทูโทนแดง Terra Rossa และสีดำ เดินด้ายลายพิเศษ ที่วางแขน และกล่องเก็บของที่คอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา

สมรรถนะเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ที่ปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น

ราคาของ Toyota Yaris

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 549,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 679,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) อีโคคาร์ซีดานยอดนิยม ATIV ที่โดดเด่นด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมสมรรถนะการขับขี่คล่องตัว ให้ความรู้สึกสนุกสนานในทุกการขับขี่ “Fun-To-Drive” พร้อมฟังก์ชันสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

สำหรับ Yaris ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มีความสปอร์ต พรีเมียม ด้วยภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าด้านบนสีดำเงา วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอก สเกิร์ตด้านข้าง และด้านหลัง สปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยปัดเงาสีดำตกแต่งด้วยขอบสีเงินขนาด 15 นิ้ว ส่วนภายในได้ปรับพวงมาลัยแบบ Soft Touch หุ้มหนังชนิดนุ่มพิเศษ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา

สมรรถนะเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ที่ปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น

ราคาของ Toyota Yaris ATIV

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 539,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 674,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Honda City

Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ครั้งแรกกับการกระโดดลงมาอยู่ในตลาดรถ Eco-Car ของ Honda City ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ผสานความสปอร์ตและความหรูหรา และภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายเหนือระดับรถซิตี้คาร์ และครั้งแรกกับรุ่น RS ที่ยกระดับความสปอร์ตเร้าใจไปอีกขั้น

สะกดทุกสายตาด้วยเส้นสายที่เฉียบคมโดดเด่น ด้วยไฟหน้าแบบ Projector พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารสะดวกสบายในทุกที่นั่ง หรูหราและสวยงามยิ่งขึ้นในโทนสีดำ หรือเบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชันระดับพรีเมียม อาทิ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น

ครั้งแรกกับ Honda City RS ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS มาพร้อมกันชนหน้าและกระจังหน้าสปอร์ต ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้ายสีแดง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง และดึงดูดทุกสายตาด้วยสีภายนอกใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS

มาพร้อมขุมพลัง Turbo ใหม่ ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC Turbo 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร แต่ยังประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กม./ลิตร

ราคาของ Honda City

  • รุ่น S ราคา 579,500 บาท
  • รุ่น V ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 665,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 739,000 บาท
  • รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Honda City Hatchback

Honda City (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทข์แบค) นี่ก็นับเป็นครั้งแรกของ Honda City ในรูปแบบ Hatchback 5 ประตู ที่เปิดตัวในไทยเป็นที่แรกในโลก ผสานเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์กับเบาะนั่ง อัลตราซีท (ULTR) แยกพับแบบ 60:40 ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้ถึง 4 โหมด พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตล้ำสมัย ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมยกระดับความสปอร์ตอีกขั้นในรุ่น RS ครบครันด้วยฟังก์ชันที่พร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานระดับพรีเมียม และเทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์และทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน Honda CONNECT

มาพร้อมการขับขี่ที่สนุกสนานกับขุมพลัง Turbo เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC Turbo ให้สมรรถนะการขับขี่สูงถึง 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร

พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัย มั่นใจในทุกการเดินทาง อาทิ กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ถุงลม 6 ตำแหน่ง เป็นต้น

ราคาของ Honda City Hatchback

  • รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 675,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
  • รุ่น e:HEV RS ราคา 849,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

Mazda2

Mazda2 (มาสด้า2) 2022 Collection ยกระดับความคุ้มค่ากับออพชั่นที่เกินราคา อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ขับสนุก และปลอดภัยยิ่งขึ้น ดีไซน์เรียบหรูสง่างามดุจงานศิลปะชิ้นเอก ตามแนวคิด Kodo Design (โคโดะ ดีไซน์) ที่เรียบง่าย แต่งดงามตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ยังมาพร้อมสีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) สีใหม่ สำหรับ 4 ประตู และ 5 ประตูและเพิ่มสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) สีใหม่ สำหรับซีดาน 4 ประตู

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมแผงคอนโซลหน้าและเบาะหนังสีดำสไตล์สปอร์ตดีไซน์ใหม่ ที่ผสานกันอย่างลงตัวกับความพรีเมี่ยม และเบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะคนขับได้ถึง 2 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานนี้ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน

มั่นใจทุกการขับขี่ให้ทุกเส้นทางสนุกมั่นใจได้ในแบบของคุณกับ Active Driving Display สกรีนใสแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ Sport Paddle Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่

จัดเต็มกับระบบความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense และยังมาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) และกล้องมองหลัง รวมถึงระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และประหยัดพลังงาน i-ELOOP เพิ่มการขับขี่ไร้กังวลที่ทั้งประหยัดและปลอดภัย

ในงบไม่เกิน 6 แสนบาท เลือกได้เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Mazda2 / Mazda2 Sports

  • รุ่น 1.3 E / E Sports ราคา 546,000 บาท
  • รุ่น 1.3 C / C Sports ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S Leather / S Leather Sports ราคา 659,000 บาท
  • รุ่น 1.3 SP / SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • รุ่น XDL / XDL Sports ราคา 799,000 บาท

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ: Nissan March (นิสสัน มาร์ช) และ Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) ณ วันที่จัดทำบทความ ทางผู้ผลิตรถยนต์มิได้นำรถยนต์มาจัดแสดงในงาน Motor Show 2022 แต่ยังคงมีข้อมูลรถยนต์ และราคาใบราคาที่แจกในงาน Motor Show 2022 ตามปกติ

ในยุคที่ราคาน้ำมันแพงหูฉี่ขนาดนี้ รถ Eco-Car (อีโคคาร์) ยังจัดได้ว่าเป็นรถยอดนิยมของชาวไทยมาต่อเนื่องมานานนับสิบปี ที่แม้ว่าจะเป็นรถเล็ก แต่ก็ให้พลังเครื่องยนต์เหลือเฟือ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองมาก ด้วยคุณสมบัติที่ประหยัดน้ำมัน ขับง่าย หาที่จอดรถก็ง่าย และยังซ่อมง่าย ใช้งานได้อเนกประสงค์ แถมมีราคาเริ่มต้นที่ไม่แพง วัยรุ่น นักศึกษา หรือเด็กจบใหม่ ที่รายได้ยังไม่มากนัก ก็สามารถวางดาวน์ และผ่อนต่อเดือนได้สบายๆ

ในงาน Motor Expo 2021 นี้ ผู้ผลิตรถ Eco-Car หลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, นิสสัน, มิตซูบิชิ, มาสด้า, ซูซูกิ หรือ เอ็มจี ก็ยังนำเสนอรถในแบบ Eco-Car ที่มีการปรับโฉมเล็กๆ น้อยๆ กระตุ้นให้เกิดความสนใจอย่างต่อเนื่อง

ในงาน Motor Expo 2021 จะมีรถ Eco-Car รุ่นใดบ้างที่นำมาโชว์แล้วน่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

Nissan March

Nissan March

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ถือได้ว่าเป็นรถ “Eco-Car” รุ่นแรกของไทย เปิดตัวผลิตขายอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2553 มาพร้อม Concept “ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีก” มียอดสะสมรวมมากนับหลักแสนคัน และยังคงขายในบ้านเราเข้าสู่ปีที่ 11 โดยปรับราคาขึ้นไปบ้าง ณ ปัจจุบัน มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก แต่ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย

ภายในเพิ่มความมีระดับ ด้วยสีภายในสีดำ แผงคอนโซลหน้าตกแต่ง Piano Black สีดำ และทันสมัยมากขึ้นด้วยแผงแสดงผลหน้าจอล้อมกรอบด้วยโครเมี่ยม สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB ไฟในห้องเก็บสัมภาระ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Anti-jam Protection) ด้านคนขับ และกุญแจอัจฉริยะ พร้อมระบบ Immobilizer

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร ขับขี่ก็ง่าย จอดรถก็คล่องตัว ราคาอะไหล่ไม่แพง คุ้มค่า

ราคาของ Nissan March

  • รุ่น 1.2 S MT ราคา 420,000 บาท
  • รุ่น 1.2 E MT ราคา 480,000 บาท
  • รุ่น 1.2 S CVT ราคา 495,000 บาท
  • รุ่น 1.2 EL CVT ราคา 510,000 บาท

Nissan Note

Nissan Note

Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) จัดเป็น “Eco-Car” เฟส 2 ที่ผลิตขายอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2560 มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก และเทคโนโลยีสุดล้ำ พัฒนาภายใต้แนวคิด Dynamic & Innovative Compact” หรือ “รถยนต์คอมแพคที่มีความคล่องตัวและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย” และแนวคิดนวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะ หรือ Nissan Intelligent Mobility ครั้งแรกในรถกลุ่มอีโคคาร์

ภายในออกแบบด้วยโทนสีดำและตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน ตกแต่งคอนโซลกลางด้วยสี Piano Black เบาะผ้าสีดำตกแต่งขอบด้วยสีเบจ โดยเบาะด้านผู้ขับขี่สามารถปรับสูง-ต่ำ ได้ และเบาะหลัง ปรับแยกแบบ 60:40 สะดวกสบายด้วยปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start Button) และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key พร้อมระบบ Immobilizer

ระบบความบันเทิง คุณภาพดี วิทยุ หน้าจอ LED แบบสัมผัส ระบบเชื่อมต่อรวมถึง HDMI และสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วย Bluetooth นอกจากนี้ ยังสะดวกสบายด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องใส่ของและอุปกรณ์ต่างๆครบครัน

เหนือกว่ารถยนต์ระดับเดียวกัน กับระบบ Intelligent Forward Collision Warning ช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ, ระบบ Intelligent Emergency Braking ช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ และครั้งแรกในรถอีโคคาร์ กับระบบ Intelligent Around View Monitor (AVM) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ให้แรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำ แรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร เกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและทันใจ สามารถตอบสนองอัตราเร่งแซง เพิ่มความเร้าใจ

ราคาของ Nissan Note

  • รุ่น 1.2 E CVT ราคา 530,000 บาท
  • รุ่น 1.2 V CVT ราคา 565,000 บาท
  • รุ่น 1.2 VL CVT ราคา 595,000 บาท

Nissan Almera

Nissan Almera

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) จัดเป็นรถ Eco-Car ขนาด 4 ประตู เครื่อง Turbo รุ่นแรกที่ออกมาในตลาด “Intelligent Urban Sedan” โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ใหม่โฉบเฉี่ยว และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) เป็นต้น และยังมีรุ่นจัดชุดแต่งอย่าง Sportech มาให้เลือกด้วย

ภายในออกแบบใหม่หมด ใช้วัสดุคุณภาพสูง เน้นความประณีตในการประกอบ พร้อมพื้นที่ว่างเหนือศีรษะ พื้นที่วางขาที่กว้างขวาง คงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในด้านความกว้างขวางที่สุด ในรถยนต์ระดับเดียวกัน และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ AIVI สะดวกสบายในการใข้งานทั้งระบบนำทาง ระบบความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ ภายใต้การเชื่อมต่อที่ราบรื่นผ่านสมาร์ทโฟน

วางขุมพลังขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 152 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) มีประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic แถมยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility

ราคาของ Nissan Almera

  • รุ่น E ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น V Sportech ราคา 629,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 639,000 บาท
  • รุ่น VL Sportech ราคา 659,000 บาท

Honda City

Honda City / City Hatchback

Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) และ Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบค) ยังคงจัดเป็นรถที่ค่ายฮอนด้ายังต้องขยับตัวรถขนาด B-Segment อย่าง Honda City ลงมาเล่นในตลาดรถ Eco-Car Phase 2 (แต่ทาง Honda ไม่เรียก Eco-Car แต่เรียกเป็น Ecology Car) นับตั้งแต่ปลายปี 2562 ซึ่งก็สามารถช่วงชิงยอดขายได้มากทีเดียว กับ “The City Series”

ด้วยรูปทรงสวย สปอร์ต ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย มีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch พื้นที่เก็บสัมภาระใหญ่มาก ช่วงล่างเกาะถนน แถมยังมีของแต่งในตลาดมีเพียบ เพราะได้เปรียบกว่าตรงที่ออกมาได้ 2 ปีแล้ว

แถมสมรรถนะขุมพลังเครื่องยนต์เทอร์โบใหม่ 1.0 ลิตร DOHC VTEC Turbo ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ให้อัตราเร่งและประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กม./ลิตร

ในงบไม่เกิน 6 แสนบาท เลือกได้เฉพาะรุ่น S และ S+ ครับผม

ราคาของ Honda City

  • รุ่น S ราคา 596,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 627,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 648,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 690,000 บาท

ราคาของ Honda City Hatchback

  • รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 675,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 749,000 บาท

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย พัฒนามาจาก Suzuki A: Wind Concept ต้นแบบรถยนต์ประหยัดพลังงานระดับโลก ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกของโลก (World Premier) ในไทย ได้ชื่อว่าคุณภาพเกินตัว ตอกย้ำภาพลักษณ์ของซูซูกิ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตรถอีโคคาร์

มียอดจำหน่ายรวมนับตั้งแต่เปิดตัวอยู่ที่ 13,732 คัน (เดือนพฤษภาคม 2557 – พฤศจิกายน 2562) อัดแน่นด้วยคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร อีกทั้้งยังเป็นมาตรฐานใหม่ ของรถยนต์นั่งมาตรฐานโลก ส่งออกไปขายในเอเชียและยุโรปด้วย

ราคาของ Suzuki Celerio

  • รุ่น GA MT ราคา 318,000 บาท
  • รุ่น GL MT ราคา 398,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 427,000 บาท

Suzuki Swift GL Plus

Suzuki Swift

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เพิ่มรุ่นพิเศษใหม่กับรุ่น GL Plus อัพเกรดชุดแต่งรอบคัน และ Swift รุ่นปกติ มาในแนวคิด “Power You Up แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ด้วยกระจังหน้าตกแต่งโครเมียม และล้ออัลลอยปัดเงาขนาด 16 นิ้ว

ภายในมีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทุกการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth พื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 265 ลิตร ปรับพับเบาะหลังแบบ 60:40 พร้อมด้วย Keyless Entry เปิด-ปิดล็อกประตูได้โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท สะดวก ทันสมัย กับ Keyless Push Start ปุ่มสตาร์ทในรถ

โดดเด่นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ให้ความแข็งแรง ลดน้ำหนักทุกส่วนของรถยนต์ แต่คงความแข็งแกร่ง ทนทาน ขับขี่ได้คล่องตัว รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก

แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ ฉีดน้ำมันเข้าไปที่กระบอกสูบพร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ทำให้น้ำมันมีละอองที่ละเอียดขึ้น ได้กำลังและแรงบิดที่ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กม./ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Swift

  • รุ่น GL CVT ราคา 557,000 บาท
  • รุ่น GL+ CVT ราคา 567,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 629,000 บาท

Suzuki Ciaz

Suzuki Ciaz

Suzuki Ciaz (ซูซูกิ เซียส) จัดเป็นรถ Eco-Car Sedan มาภายใต้แนวคิด “สัมผัสใหม่ สบายทุกมิติ” ที่หลายคนรอคอย ด้านภายนอก ไม่ทิ้งลวดลายความเป็นสปอร์ต อีโอคาร์ กระจังหน้าใหม่สไตล์สปอร์ต ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟหรี่แบบ LED ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันพร้อมสปอยเลอร์หลังไดนามิก

ภายใน คอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย มาตรวัดสไตล์สปอร์ต Suzuki Smart Connect จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบนำทาง รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay กับเบาะหนังคุณภาพสูง ช่องวางเครื่องดื่มมากถึง 8 ตำแหน่ง พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างถึง 565 ลิตร

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินรหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว VVT ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลือง 20 กม./ลิตร รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Ciaz

  • รุ่น GL MT ราคา 523,000 บาท
  • รุ่น GL CVT ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 625,000 บาท
  • รุ่น RS CVT ราคา 675,000 บาท

Toyota Yaris And Ativ

Toyota Yaris / Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) และ Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) อีโคคาร์แฮทช์แบ็ค Yaris และ อีโคคาร์ซีดานยอดนิยม ATIV เอาใจคนรุ่นใหม่ โฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ด้วยดีไซน์ใหม่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและฟังก์ชันความปลอดภัยครบครัน คุ้มค่าตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน และแนะนำชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ โดดเด่น สะดุดตา

ปรับดีไซน์ภายนอก และเพิ่มระบบความปลอดภัย “Toyota Safety Sense” พร้อมพวงมาลัยหุ้มหนังนุ่มพิเศษตกแต่งด้วยด้ายสีเทา (หรือสีฟ้า) พร้อมชุดตกแต่งพิเศษ X-URBAN โดดเด่น สไตล์ครอสโอเวอร์ ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Modern & Cool โดดเด่นสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ กับกระจังหน้าด้านบนสีดำเงา ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมโช๊คอัพและสปริงแบบยกสูงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อเอาใจ Urbanista ที่ชอบความโดดเด่น ไม่ซ้ำใครโดยเฉพาะ พร้อมหลังคาแบบ Black Roof ให้เลือก

ห้องโดยสารภายใน พวงมาลัยหุ้มหนังนุ่มพิเศษสีทูโทนแดง Terra Rossa และสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีเทา เบาะนั่งด้านหน้าและหลังสีทูโทนแดง Terra Rossa และสีดำ พร้อมเดินด้ายลายพิเศษ

อีกหนึ่งทางเลือก ด้วยชุดตกแต่งพิเศษ FLASH II Package เสริมความโฉบเฉี่ยวและดูโดดเด่นสะดุดตาให้กับ Yaris และ ATIV มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังมีกล่องควบคุมคันเร่งไฟฟ้า ACTIVE SPEED เติมความสปอร์ต ตอบสนองรวดเร็วในขณะออกตัว

สมรรถนะเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ที่ปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น

ราคาของ Toyota Yaris

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 549,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 679,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium with Black Roof ราคา 684,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport X with black Roof ราคา 658,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium with Black Roof ราคา 728,000 บาท

ราคาของ Toyota Yaris ATIV

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 539,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 674,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium with Black Roof ราคา 679,000 บาท

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car ที่ขายมานานนับสิบปี จาก มิตซูบิชิ ตัวรถที่ขนาดเล็กน่ารัก ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ยิ่งในโฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่ปรับโฉมใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน มากับภาพลักษณ์ดูหรูหราขึ้นด้วยกระจังหน้า Advanced Dynamic Shield แบบรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย และตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน และสปอยเลอร์หลังแบบใหม่ให้เพิ่มเติม

พร้อมกับตกแต่งภายในใหม่ เบาะหนัง มีจอแสดงข้อมูลการขับแบบ High Contrast และลายคาร์บอนแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุแบบผิวนุ่มบริเวณแผงประตู สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจอแสดงผลส่วนกลางด้วยระบบ Smartphone – Link Display Audio (SDA) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ มีระบบ Cruise Control กับอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ราคาของ Mitsubishi Mirage

  • รุ่น 1.2 Active CVT ราคา 474,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Active CVT ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Special Edition ราคา 523,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Smart CVT ราคา 579,000 บาท

Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car 4 ประตู ที่ดีไซน์ได้สปอร์ตรอบคัน มากับภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราขึ้นด้วยกระจังหน้า Advanced Dynamic Shield แบบรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย และตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน

พร้อมกับตกแต่งภายในใหม่ เบาะหนัง มีจอแสดงข้อมูลการขับแบบ High Contrast และลายคาร์บอนแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุแบบผิวนุ่มบริเวณแผงประตู สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจอแสดงผลส่วนกลางด้วยระบบ Smartphone – Link Display Audio (SDA) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ มีระบบ Cruise Control กับอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ราคาของ Mitsubishi Attrage

  • รุ่น 1.2 Active MT ราคา 494,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Active CVT ราคา 529,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Special Edition ราคา 543,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Smart CVT ราคา 584,000 บาท

Mazda2

Mazda2

Mazda2 (มาสด้า2) ยกระดับความคุ้มค่ากับออพชั่นที่เกินราคา อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ขับสนุก และปลอดภัยยิ่งขึ้น ดีไซน์เรียบหรูสง่างามดุจงานศิลปะชิ้นเอก ตามแนวคิด Kodo Design (โคโดะ ดีไซน์) ที่เรียบง่าย แต่งดงามตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ภายในห้องโดยสาร ออกแบบจัดวางอย่างเหมาะสม กับการใช้งานของมนุษย์เป็นหลัก ตาม Concept – HMI (Human Machine Interface) ได้แก่ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ Active Driving Display และ Center Commander จัดวางอยู่ในตำแหน่งที่ลงตัว, Mazda Connect ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto™ เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รวมถึงระบบ Infotainment ที่มีให้เลือกมากมาย

จัดเต็มกับระบบความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense และยังมาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) และกล้องมองหลัง รวมถึงระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และประหยัดพลังงาน i-ELOOP เพิ่มการขับขี่ไร้กังวลที่ทั้งประหยัดและปลอดภัย

ในงบไม่เกิน 6 แสนบาท เลือกได้เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Mazda2 / Mazda2 Sports

  • รุ่น 1.3 C / C Sports ราคา 596,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S / S Sports ราคา 627,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S Leather / S Leather Sports ราคา 648,000 บาท
  • รุ่น 1.3 SP / SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • รุ่น XD Sports ราคา 782,000 บาท
  • รุ่น XDL Sports ราคา 799,000 บาท

MG5

MG5

MG5 (เอ็มจี5) จัดได้ว่าเป็นรถรุ่นดังในโลกโซเชียลที่มีคนพูดถึงกันมากอีกหนึ่งรุ่น ที่ต้องบอกก่อนเลยว่า MG5 นี้ เป็นรถในกลุ่ม C-Segment ที่มีตัวรถขนาดใหญ่ แต่ด้วยตลาดรถในกลุ่ม C-Segment ยากที่จะทำให้ MG สู้ได้ และไม่คึกคักในหมู่ผู้บริโภคแบบแต่ก่อน

MG จึงปรับแผนสู้ด้วยออฟชั่นและลดราคาลงมาในกลุ่ม B-Segment ที่จัดเป็นรถกลุ่ม Eco-Car Phase 2 จึงทำให้ MG5 จะเป็นรถที่อยู่ระหว่างกึ่งกลางกลุ่ม C-Segment แต่มีราคาเทียบเท่ารถกลุ่ม B-Segment

ด้วยรูปทรงสวย สปอร์ต มาพร้อมนิยาม “BEYOND” โดดเด่นและมีมุมมองที่เหนือระดับ รวมถึงหน้าตารถ และท้ายรถ ที่ดูคล้ายกับรถยุโรป แต่ราคาสบายกระเป๋ากว่ามาก

ห้องโดยสารภายในที่มีความใหญ่โต ออฟชั่นเพียบ! พร้อมกับหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว “ใหญ่สะใจ” คนชอบหน้าจอโตๆ ผนวกกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART สังการทำงานด้วยเสียงได้ พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม กับระบบ Smart Check, Smart Command และ Smart Connect อันเป็นจุดเด่นของ MG รวมถึงซันรูฟไฟฟ้า หลังคาเปิดได้ มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ อีกด้วย

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด ที่ประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.9 กม./ลิตร (ตาม ECO Sticker) และสามารถรองรับน้ำมัน E85 ได้

ราคาของ MG5

  • รุ่น C ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น D ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น X Sunroof ราคา 689,000 บาท

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

CARRO Automall แนะนำ 6 รถมือสอง สำหรับเด็กจบใหม่

ในช่วงนี้ แม้ว่าจะมีเด็กจบใหม่ ที่เรียนจบมหาวิทยาลัยและต้องก้าวเข้าสู่โลกการทำงาน กลับ ประสบปัญหาจากโควิด-19 กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหางานไม่ได้ พร้อมๆ กับผู้คนที่ตกงานกันเป็นจำนวนนับล้านคน

แต่ก็ยังมีเด็กจบใหม่จำนวนหนึ่ง ที่โชคดีมาก หางานได้ในเวลานี้ แต่เนื่องด้วยการระบาดของโควิด-19 ซึ่งบางงานอาจจะ Work From Home ไม่ได้ ทำให้ต้องออกจากบ้านไปทำงาน จะใช้ระบบขนส่งสาธารณะก็ค่อนข้างรอนาน เสี่ยงต่อการเจอคนเยอะๆ และอาจเป็นอันตรายต่อคนที่บ้านอีก หลายคนจึงจำเป็นต้องซื้อรถมาใช้ในการเดินทาง ท่ามกลางทุนทรัพย์ที่มีจำกัด

CARRO Automall เลยจะมาแนะนำให้น้องๆ และทุกคนได้รู้จักกับ 6 รถมือสองยอดฮิตในตอนนี้กันครับ ซึ่งอาจจะไว้ใช้เป็นรถคันแรก สำหรับใช้เดินทางไปทำงาน โดยที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแล หรือเติมน้ำมันในแต่ละเดือนที่จะพอจ่ายไหว เมื่อเทียบกับเงินเดือนที่ได้รับกันครับ

Nissan-March-2013

1. Nissan March

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) จัดว่าเป็นรถ “Eco-Car” รุ่นแรกของไทย เปิดตัวจำหน่ายมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2010 ใน Concept “ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีก” มียอดสะสมรวมมากนับหลักแสนคัน และยังมีรถป้ายแดงขายในตอนนี้ โดยปรับราคาขึ้นไปบ้าง ณ ปัจจุบัน

มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก แต่ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย (เฉพาะด้านหน้า) มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT ให้เลือก ใช้งานในเมืองได้อย่างพอเพียง ประหยัดน้ำมัน มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย ราคามือสองปัจจุบัน มีเงินแค่หนึ่งแสนกว่าบาท ก็เป็นเจ้าของได้แล้ว

Toyota-Yaris

2. Toyota Yaris

ชื่อชั้นของ “โตโยต้า” ต้องยอมรับว่าเป็นรถที่ทนทาน ไม่จุกจิก รวมถึงราคาขายต่อที่ดีกว่ารถแบรนด์อื่นๆ แต่ข้อเสียก็มักชอบกั๊กออฟชั่นมากหน่อย ถ้าคุณรับได้ก็ไม่เป็นไร

สำหรับรถมือสองที่เราขอแนะนำ นั่นคือ Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) รถสปอร์ตแฮทช์แบค ที่ตอบสนองชีวิตไลฟ์สไตล์คนเมือง ในรูปแบบรถอีโค่คาร์ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2013 มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 86 แรงม้า ภายในได้เปรียบเนื่องจากกว้างขวางกว่ารถในระดับเดียวกัน ออฟชั่นที่มีให้ก็ถือว่าใช้ได้ ส่วนราคามือสองเริ่มต้นอยู่ที่สองแสนกว่าบาท เด็กจบใหม่ผ่อนไหวอยู่แล้ว

CARRO Automall แนะนำ Toyota Vios

3. Toyota Vios

ขยับตัวรถขึ้นมาในระดับเครื่องยนต์ใหญ่หน่อย กับ Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) ที่เปิดตัวจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปัจจุบัน เหมาะสำหรับคนต้องใช้รถในต่างจังหวัด วิ่งบนทางหลวงบ่อยๆ ได้กำลังเครื่องยนต์ พลังเร่งแซงมากขึ้น

รุ่นนี้มาพร้อมขุมพลังที่ใช้กันอย่างยาวนาน ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FE ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ใช้มาตั้งแต่ Vios โฉมแรก ความทนทานนี่หายห่วง ดูแลง่าย ไม่จุกจิก ส่วนในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ และรุ่นที่ขายในปัจจุบัน ปรับเครื่องยนต์ใหม่เป็นรหัส 2NR-FBE 108 แรงม้า เติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ด้วย ส่วนราคามือสองเริ่มต้นอยู่ที่สองแสนกลางๆ ก็พร้อมเป็นเจ้าของได้

CARRO Automall แนะนำ Honda Jazz

4. Honda Jazz

รถยอดนิยมของเหล่าบรรดาวัยรุ่น นักศึกษา หรือเด็กจบใหม่ที่เพิ่งทำงานกัน เพราะเป็นรถที่มีรูปร่างหน้าตาสปอร์ตโดนใจวัยรุ่น แต่งสวย ของแต่งเยอะอีกรุ่น คนต้องยกให้กับ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ส) ซึ่งในปัจจุบันก็ถือมีรุ่นที่เป็นป้ายป้ายแดงออกห้างจำหน่าย แต่ในราคามือสองนั้น ถือว่าย่อมเยาว์กว่ามาก เริ่มต้นที่สามแสนกว่าบาท

รุ่นนี้มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร รหัส L15Z1 ให้แรงม้าสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ดูแลง่าย ทนทาน ขับสนุกยิ่งขึ้นด้วย Paddle Shift ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด แถมยังมีระบบ Cruise Control ขับทางไกลสบายๆ ไม่ต้องเมื่อยขาขวา

Mazda2

5. Mazda2

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนเพิ่งเริ่มทำงาน ที่ชอบรถแนวสปอร์ต ขับแล้วช่วงล่างเกาะถนนดี ขับสนุก ได้อารมณ์คล้ายกับรถซิตี้คาร์ของยุโรป ต้องยกให้ Mazda2 (มาสด้า2) ที่ออกจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2015 คุณอาจจะลืมไปเลย ว่านี่คือรถ Eco-Car แถมมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล

ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ SKYACTIV ทั้งแบบเบนซินขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน 23.3 กม./ลิตร และดีเซลขนาด 1.5 ลิตร Turbo 105 แรงม้า ประหยัดสุดยอด 26.3 กม./ลิตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กับ Manual Mode ออฟชั่นมีเยอะพอควร (ยกเว้นรุ่นเริ่มต้น) ถูกใจเด็กจบใหม่ขาซิ่งหลายๆ คน โดยราคามือสองเริ่มต้นเกือบๆ สามแสนบาท อาจต้องเก็บเงินดาวน์ หรือผ่อนต่อเดือนมากหน่อยนะ!

Suzuki-Swift-2012

6. Suzuki Swift

พูดถึง Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) หลายคนน่าจะเคยเห็นและรู้สึกชื่นชอบ กับความเป็นสปอร์ตที่แฝงอยู่ และดูคล้ายกับรถ Mini ของอังกฤษ โดย Suzuki Swift โฉมปี 2012 – 2018 ยังคงเป็นรถอีโคคาร์ยอดนิยมในตลาดรถมือสอง ซื้อง่ายขายคล่อง แต่งสวย

มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.25 ลิตร รหัส K12B ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า จัดว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับอีโคคาร์ในขนาด 1.2 ลิตรด้วยกัน ซึ่งตัวรถก็มีออฟชั่นที่จัดมาให้มากพอสมควร ในราคามือสองตอนนี้เริ่มต้นประมาณเกือบๆ สองแสนบาท ก็ซื้อได้แล้ว

ส่วนช่วงนี้ ใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาเบาๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! 

อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Eco-Car-In-Motorshow-2021

รถ Eco-Car (อีโคคาร์) ถือเป็นรถที่ยอดนิยมของชาวไทยมานานนับสิบปี ที่แม้ว่าจะเป็นรถเล็ก แต่ก็ให้พลังเครื่องยนต์เหลือเฟือ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองเลยทีเดียว ด้วยคุณสมบัติที่ประหยัดน้ำมัน ขับง่าย หาที่จอดรถก็ง่าย และยังซ่อมง่าย ใช้งานได้อเนกประสงค์ อีกทั้งมีราคาเริ่มต้นที่ไม่แพง วัยรุ่น นักศึกษา หรือเด็กจบใหม่ ที่รายได้ยังไม่มากนัก ก็สามารถวางดาวน์ และผ่อนต่อเดือนได้สบายๆ

ในงาน Motor Show 2021 นี้ ผู้ผลิตรถ Eco-Car หลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, นิสสัน, มิตซูบิชิ, มาสด้า, ซูซูกิ หรือ เอ็มจี ก็ยังนำเสนอรถในแบบ Eco-Car ที่มีการปรับโฉมเล็กๆ น้อยๆ กระตุ้นให้เกิดความสนใจอย่างต่อเนื่อง

โดยในงาน Motor Show 2021 จะมีรถ Eco-Car รุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

Nissan-March-2021

Nissan March

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ถือได้ว่าเป็นรถ “Eco-Car” รุ่นแรกของไทย เปิดตัวผลิตขายอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2553 มาพร้อม Concept “ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีก” มียอดสะสมรวมมากนับหลักแสนคัน และยังคงขายในบ้านเราเข้าสู่ปีที่ 11 โดยปรับราคาขึ้นไปบ้าง ณ ปัจจุบัน มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก แต่ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย

ภายในเพิ่มความมีระดับ ด้วยสีภายในสีดำ แผงคอนโซลหน้าตกแต่ง Piano Black สีดำ และทันสมัยมากขึ้นด้วยแผงแสดงผลหน้าจอล้อมกรอบด้วยโครเมี่ยม สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB ไฟในห้องเก็บสัมภาระ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ (Anti-jam Protection) ด้านคนขับ และกุญแจอัจฉริยะ พร้อมระบบ Immobilizer

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร ขับขี่ก็ง่าย จอดรถก็คล่องตัว ราคาอะไหล่ไม่แพง คุ้มค่า

ราคาของ Nissan March

  • รุ่น 1.2 S MT ราคา 420,000 บาท
  • รุ่น 1.2 E MT ราคา 480,000 บาท
  • รุ่น 1.2 S CVT ราคา 495,000 บาท
  • รุ่น 1.2 EL CVT ราคา 510,000 บาท

Nissan-Almera-2021

Nissan Almera

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) จัดเป็นรถ Eco-Car ขนาด 4 ประตู เครื่อง Turbo รุ่นแรกที่ออกมาในตลาด “Intelligent Urban Sedan” โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ใหม่โฉบเฉี่ยว และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) เป็นต้น

ภายในออกแบบใหม่หมด ใช้วัสดุคุณภาพสูง เน้นความประณีตในการประกอบ พร้อมพื้นที่ว่างเหนือศีรษะ พื้นที่วางขาที่กว้างขวาง คงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในด้านความกว้างขวางที่สุด ในรถยนต์ระดับเดียวกัน และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ AIVI สะดวกสบายในการใข้งานทั้งระบบนำทาง ระบบความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ ภายใต้การเชื่อมต่อที่ราบรื่นผ่านสมาร์ทโฟน

วางขุมพลังขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 152 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) มีประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic แถมยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility

ราคาของ Nissan Almera

  • รุ่น S ราคา 499,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 639,000 บาท

Mitsubishi-Mirage-2021

Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car จาก มิตซูบิชิ ตัวรถที่ขนาดเล็กน่ารัก ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ยิ่งในโฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่ปรับโฉมใหญ่ทั้งภายนอกและภายใน มากับภาพลักษณ์ดูหรูหราขึ้นด้วยกระจังหน้า Advanced Dynamic Shield แบบรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย และตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน และสปอยเลอร์หลังแบบใหม่ให้เพิ่มเติม

พร้อมกับตกแต่งภายในใหม่ เบาะหนัง มีจอแสดงข้อมูลการขับแบบ High Contrast และลายคาร์บอนแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุแบบผิวนุ่มบริเวณแผงประตู สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจอแสดงผลส่วนกลางด้วยระบบ Smartphone – Link Display Audio (SDA) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ มีระบบ Cruise Control กับอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ราคาของ Mitsubishi Mirage

  • รุ่น 1.2 GLX CVT ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Special Edition ราคา 523,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Smart ราคา 579,000 บาท

Mitsubishi-Attrage-2021

Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car 4 ประตู ที่ดีไซน์ได้สปอร์ตรอบคัน มากับภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราขึ้นด้วยกระจังหน้า Advanced Dynamic Shield แบบรถรุ่นอื่นๆ ในค่าย และตกแต่งด้วยเส้นสีแดง ชุดกันชนหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light สำหรับวิ่งกลางวัน

พร้อมกับตกแต่งภายในใหม่ เบาะหนัง มีจอแสดงข้อมูลการขับแบบ High Contrast และลายคาร์บอนแบบใหม่ พร้อมเพิ่มวัสดุแบบผิวนุ่มบริเวณแผงประตู สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนจอแสดงผลส่วนกลางด้วยระบบ Smartphone – Link Display Audio (SDA) หน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri และการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธ มีระบบ Cruise Control กับอุปกรณ์ความปลอดภัยอีกเพียบ

มาคู่กับขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทั้งหรูและประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

ราคาของ Mitsubishi Attrage

  • รุ่น 1.2 GLX CVT ราคา 529,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Special Edition ราคา 543,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Smart ราคา 584,000 บาท

Suzuki-Celerio-2021

Suzuki Celerio

Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย พัฒนามาจาก Suzuki A: Wind Concept ต้นแบบรถยนต์ประหยัดพลังงานระดับโลก ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกของโลก (World Premier) ในไทย ได้ชื่อว่าคุณภาพเกินตัว ตอกย้ำภาพลักษณ์ของซูซูกิ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตรถอีโคคาร์

มียอดจำหน่ายรวมนับตั้งแต่เปิดตัวอยู่ที่ 13,732 คัน (เดือนพฤษภาคม 2557 – พฤศจิกายน 2562) อัดแน่นด้วยคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร อีกทั้้งยังเป็นมาตรฐานใหม่ ของรถยนต์นั่งมาตรฐานโลก ส่งออกไปขายในเอเชียและยุโรปด้วย

ราคาของ Suzuki Celerio

  • รุ่น GA MT ราคา 328,000 บาท
  • รุ่น GL MT ราคา 408,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 437,000 บาท

Suzuki-Swift-2021

Suzuki Swift

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) ปรับโฉมใหม่ เพิ่มลุคสปอร์ตปราดเปรียว กระจังหน้าโครเมียมแบบใหม่ และล้อแม็กใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมไฟหน้า LED Projector และไฟท้าย LED

ภายในมีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทุกการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth พื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 265 ลิตร ปรับพับเบาะหลังแบบ 60:40 พร้อมด้วย Keyless Entry เปิด-ปิดล็อกประตูได้โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมท สะดวก ทันสมัย กับ Keyless Push Start ปุ่มสตาร์ทในรถ

โดดเด่นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิ ให้ความแข็งแรง ลดน้ำหนักทุกส่วนของรถยนต์ แต่คงความแข็งแกร่ง ทนทาน ขับขี่ได้คล่องตัว รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก

แรงสุดขีด สปีดเร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ ฉีดน้ำมันเข้าไปที่กระบอกสูบพร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ทำให้น้ำมันมีละอองที่ละเอียดขึ้น ได้กำลังและแรงบิดที่ดียิ่งขึ้น จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กม./ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Swift

  • รุ่น GL CVT ราคา 557,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 629,000 บาท

Suzuki-Ciaz-2021

Suzuki Ciaz

Suzuki CIAZ (ซูซูกิ เซียส) เพิ่งปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปีที่ผ่านมา ภายในแนวคิด “สัมผัสใหม่ สบายทุกมิติ” สุดยอดสปอร์ตอีโคซีดานที่หลายคนรอคอย

ด้านภายนอก ไม่ทิ้งลวดลายความเป็นสปอร์ต อีโอคาร์ กระจังหน้าใหม่สไตล์สปอร์ต ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED พร้อมไฟหรี่แบบ LED ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันพร้อมสปอยเลอร์หลังไดนามิก

ภายใน คอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย มาตรวัดสไตล์สปอร์ต Suzuki Smart Connect จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบนำทาง รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay กับเบาะหนังคุณภาพสูง ช่องวางเครื่องดื่มมากถึง 8 ตำแหน่ง พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างถึง 565 ลิตร

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินรหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว VVT ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลือง 20 กม./ลิตร รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20

ราคาของ Suzuki Ciaz

  • รุ่น GL MT ราคา 523,000 บาท
  • รุ่น GL CVT ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น GLX CVT ราคา 625,000 บาท
  • รุ่น RS CVT ราคา 675,000 บาท

Toyota-Yaris-ATIV-Play-2021

Toyota Yaris / Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) และ Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) อีโคคาร์แฮทช์แบ็ค Yaris และ อีโคคาร์ซีดานยอดนิยม ATIV เอาใจคนรุ่นใหม่ ที่มีรุ่นพิเศษเปิดตัวในงาน Motor Show 2021 ด้วยอย่างรุ่น PLAY (Limited Edition) จำนวนจำกัดเพียง 1,500 คันโดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกภายใน เพิ่มสีภายนอกใหม่ “Ice Pink Metallic” พร้อมกระจังหน้าด้านบนสีดำเงา ล้ออัลลอย “Dark Mulberry” ปัดเงาสีทูโทนขาว-ดำ ลายใหม่ ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยโทนสีใหม่ สวยเด่นสะกดสายตา

มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น ระบบปรับอากาศพร้อมแผ่นกรองอากาศ PM 2.5 กระจกหน้า “Acoustic Glass” แบบช่วยดูดซับพลังงานความร้อน (High Solar Energy Absorption) สะดวกยิ่งกว่าด้วย “Trunk Organizer” ที่จัดเก็บสัมภาระท้ายรถ เป็นต้น

เพิ่มความมั่นใจเมื่อจอดรถ กับกล้องมองรอบคัน “Panoramic View Monitor” มุมมอง 360 องศา ผ่านกล้อง 4 จุดรอบคัน แสดงภาพแบบเรียลไทม์ พร้อมเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อผู้ขับและรถ ด้วยแอปพลิเคชัน “PLAY CONNECT Car Telematics” และฟังก์ชั่นความปลอดภัยครบครัน

สมรรถนะเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ที่ปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น

ราคาของ Toyota Yaris

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 549,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 679,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium with Black Roof ราคา 684,000 บาท
  • รุ่น Play Limited Edition Sport ราคา 634,000 บาท
  • รุ่น Play Limited Edition Sport Premium with Black Roof ราคา ราคา 709,000 บาท

ราคาของ Toyota Yaris ATIV

  • รุ่น 1.2 Entry ราคา 539,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.2 Sport Premium ราคา 674,000 บาท
  • รุ่น Play Limited Edition Sport ราคา 624,000 บาท
  • รุ่น Play Limited Edition Sport Premium ราคา ราคา 699,000 บาท

Mazda2-Sports-2021

Mazda2

Mazda2 (มาสด้า2) 2021 Collection ยกระดับความคุ้มค่ากับออพชั่นที่เกินราคา อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ขับสนุก และปลอดภัยยิ่งขึ้น ดีไซน์เรียบหรูสง่างามดุจงานศิลปะชิ้นเอก ตามแนวคิด Kodo Design (โคโดะ ดีไซน์) ที่เรียบง่าย แต่งดงามตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ภายในห้องโดยสาร ออกแบบจัดวางอย่างเหมาะสม กับการใช้งานของมนุษย์เป็นหลัก ตาม Concept – HMI (Human Machine Interface) ได้แก่ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ Active Driving Display และ Center Commander จัดวางอยู่ในตำแหน่งที่ลงตัว, Mazda Connect ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto™ เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รวมถึงระบบ Infotainment ที่มีให้เลือกมากมาย

จัดเต็มกับระบบความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense และยังมาพร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) และกล้องมองหลัง รวมถึงระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และประหยัดพลังงาน i-ELOOP เพิ่มการขับขี่ไร้กังวลที่ทั้งประหยัดและปลอดภัย

ในงบไม่เกิน 6 แสนบาท เลือกได้เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร

ราคาของ Mazda2 / Mazda2 Sports

  • รุ่น 1.3 E / E Sports ราคา 546,000 บาท (MY2019)
  • รุ่น 1.3 C / C Sports ราคา 596,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S / S Sports ราคา 627,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S Leather / S Leather Sports  ราคา 648,000 บาท
  • รุ่น 1.3 SP / SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • รุ่น XD Sports ราคา 782,000 บาท
  • รุ่น XDL Sports ราคา 799,000 บาท
  • รุ่น Mazda 100th Anniversary Edition ราคา 677,000 บาท

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองรุ่นที่ต้องการ สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CARRO Automall > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line ก็ที่ @carroautomall

ส่วนถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน