ยางรถยนต์ยี่ห้อไหน ก็เหมือนกันจริงหรือ??

สวัสดีครับวันนี้ จอร์จ ไทร์บิดกลับมาอีกครั้งครับ จอร์จก็อยากมาอธิบายพอดีเห็นเพื่อนๆชอบพูดกันว่ายางก็เหมือนๆกันคงไม่ได้แตกต่างกันมากใช้ราคาถูกไปก็ได้ ซึ่ง อาจจะเป็นความเข้าใจที่ผิดครับแต่ก็ไม่แปลกที่เพื่อนๆจะรู้สึกแบบนี้เป็นเพราะด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของยางทุกยี่ห้อจะมีลักษณะใกล้เคียงกันสีดำเหมือนกัน ยางยี่ห้อถูกยี่ห้อแพงบางทีลายดอกยางก็ยังเหมือนกันอีกทำให้ความรู้สึกว่ายางคุณภาพคงไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่จริงๆแล้ว จอร์จ อยากจะบอกว่าแต่ละแบรนด์นั้นใช้วัสดุที่แตกต่างกันมากครับ ประกอบกับเทคโนโลยีในการผลิตก็แตกต่างกันมากเช่นเดียวกันครับ งั้นจอร์จ จะลงรายละเอียด สัก 4 ส่วนของยางเส้นหนึ่งครับ ก็คือ ขอบยาง โครงสร้างยาง เนื้อยาง และ ลายดอกยางครับ

เรามาเริ่มกันอย่างแรกก่อนเลยครับ บริเวณขอบยาง ต้องขออธิบายก่อนครับยางทุกเส้นบริเวณขอบยางนั้นจะมีเส้นลวดอยู่ครับ ซึ่งมีหน้าที่ในการล็อกยางกับของแมกซ์ให้มีความสมดุลเวลาใช้งาน กับ อีกส่วนหนึ่งก็คือมีหน้าที่ไว้รับน้ำหนักครับซึ่งเส้นลวดด้านในหลายๆท่านอาจจะคิดว่าคงเอาเส้นลวดมามัดๆ รวมกัน แต่จริงๆแล้วในรายละเอียดนั้น มันทั้งเรื่องของรูปทรงของเส้นลวด ความเล็ก ความใหญ่ของเส้นลวดครับเพื่อให้เกิดความแข็งแรงมากที่สุดในการใช้งานครับ อาทิ บางคนบอกเส้นลวดเส้นใหญ่ๆน่าจะดี แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่บอกว่าเส้นลวดเล็กแล้วมัดด้วยเส้นลวดอีกทีบริเวณรอบเส้นลวดก็จะยิ่งทำให้แข็งแรงเพิ่มมากขึ้น หรือว่า ช่องว่างระหว่างเส้นลวดถ้าเป็นทรงกลมอาจจะทำให้ไม่แนบสนิท ถ้าทำเส้นลวดเป็นทรงเหลี่ยมจะทำให้ยิ่งไม่มีช่องว่าง ซึ่งจะทำให้แข็งแรงกว่า โดยทั้งหมดที่พูดมาคือการพัฒนาของแต่ละแบรนด์ที่คิดค้นต่างกันครับ เพื่อมาให้ยางที่มีขอบลวดที่แข็งแรงมากที่สุดครับ ซึ่งขอบยางเราอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นแต่จอร์จ อยากจะอธิบายครับ

ยางรถยนต์ยี่ห้อไหน ก็เหมือนกันจริงหรือ??

โครงสร้างยางครับ ทุกคนจะบอกว่าโครงสร้างยางต้องแข็งแรงแต่เพื่อนๆรู้ไหมครับการที่แข็งแรงนั่นอาจส่งผลต่อการให้ตัวของยางรถยนต์นั้นหมายถึงความขับสบายในการขับขี่ด้วยครับ เพราะฉะนั้นแบรนด์ที่ใส่นวัตกรรมเทคโนโลยีเข้าไปนั้น ทำให้โครงสร้างของยางจะมีความให้ตัวที่มาก แต่ ว่ายังมีความแข็งแรงทนทานป้องกันแรงกระแทกได้ดีอีกด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานของขนาดเส้นลวด ผสมผสายการใช้ใยสังเคราะห์ ซึ่งสิ่งเหล้านี้ทางผู้ผลิตก็พัฒนาเพื่อให้ได้ยางที่มีคุณภาพโครงสร้างที่ดีที่สุดครับ ซึ่งก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เรามองไม่เห็นเช่นกันครับเราจึงไม่รู้ความแตกต่าง

ยางรถยนต์ยี่ห้อไหน ก็เหมือนกันจริงหรือ??

ต่อมาในเรื่องของเนื้อยางซึ่งเป็นส่วนที่เราเห็นกันแต่เราไม่รู้หรอกว่าเนื้อยางต่างกันยังไง อย่างแรกเลยครับการเกาะถนนและความทนทานสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกันครับเพราะว่า ถ้ายางที่เกาะถนนดีจะมีความนุ่มหรือมีส่วนผสมของยางที่มากกว่าซึ่งหากมีส่วนผสมของยางที่มากกว่านั้นเวลาใช้งานจริงๆการสึกหรอจะเร็วครับ เพราะฉะนั้นโรงงานผลิตยางจำเป็นจะต้องใส่สารเคมีที่ช่วยทำให้ยางนั่นมีความคงทน แต่ยังมีคุณสมบัติความเหนียวที่ช่วยทำให้เกาะถนนได้ดีขึ้น ส่วนต่อมา นวัตกรรมใหม่ๆในการทำให้เนื้อยางมีสูตรในการสลัดน้ำออกหรือเมื่อเจอน้ำไม่ดูดซับน้ำครับก็ต้องใส่สารเคมีเข้าไป พัฒนาสูตรยางเข้าไปให้ทำได้ครับ และส่วนสุดท้าย ยางทุกเส้นจะมีโมเลกุลที่แตกต่างกัน ยิ่งอนุภาคเล็กก็จะยิ่งทำให้ยางนั้นแนบสนิทกับพื้นถนนได้มากขึ้นครับ เพื่อนๆลองคิดดูว่าผู้ผลิตระดับไหนถึงจะ คิดค้นในสิ่งเหล่านี้ได้ถ้าไม่ใช่แบรนด์ขนาดใหญ่ที่ลงทุนกับเรื่องพวกนี้เป็นมาก

ยางรถยนต์ยี่ห้อไหน ก็เหมือนกันจริงหรือ??

ส่วนสุดท้ายลายดอกยางครับ เพื่อนอาจจะมองว่าลายดอกยางก็แบบเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลงใช่ไหมครับแต่จริงๆแล้วมีการออกแบบลายดอกยางที่ใส่นวัตกรรมลงไปไม่ว่าจะเป็นร่องดอกยางนั่นที่มีรูปทรงที่เปลี่ยนไปที่ช่วยเพิ่มการระบายน้ำออกจากหน้ายางหรือว่าจะเป็นส่วนในการคืนตัวหรือขบกับถนนเพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนได้แนบสนิทมากยิ่งขึ้น หรือจะเป็นการออกแบบยางแบบสามมิติ เพื่อให้ดอกยางนั้นไม่ล้มเพื่อให้ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยมตลอดเวลา

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลคือเรื่องของนวัตกรรมที่บริษัทยางขนาดใหญ่ให้ความใส่ใจกับเรื่องนี้มากเพื่อการใช้งานรถของเพื่อนๆที่ดีกว่าเดิม อย่าเข้าใจผิดว่ายางทุกเส้นทุกราคาเหมือนกันครับ ยางราคาแพงองค์ประกอบของค่าการตลาดอาจจะเป็นส่วนหนึ่ง แต่ค่า R&D ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ยางราคาแพงขึ้นครับ นึกเปลี่ยนยาง นึกถึงไทร์บิดนะครับ มีโปรโมชั่นยางรถเพียบ

หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลยครับ เพราะเราเป็นเว็บจำหน่ายยางที่ดีที่สุดครับ มีแบรนด์สินค้าคุณภาพให้เลือกมากที่สุด และเพื่อนๆสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ แถมไทร์บิดเรายังมีบริการผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกลาง ให้เพื่อนๆที่ต้องการสอบถามได้ยางที่เหมาะสมที่สุดผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) เราเป็นตัวกลางยางมืออาชีพโปรโมชั่นยางรถพิเศษไทร์บิดมากมาย  ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการ เปลี่ยนถึงบ้าน จัดส่ง Fast service ทุกรูปแบบการรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม.ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง ให้เรื่องยางรถของคุณง่ายยิ่งขึ้น ซื้อยางรถมั่นใจทุกครั้งที่ไทร์บิด วันนี้ก็ขอขอบคุณมากครับเพื่อนๆที่ติดตาม หากมีข้อสงสัยเลือกยางไม่ถูกสอบถามมาที่ไทร์บิดของเราได้เลยครับ วันนี้ขอบคุณมากครับ

Threadbare-Tires-From-Quality

สวัสดีครับ เพื่อนชาวไทร์บิดทุกท่าน กลับมาอีกครั้งมีช่วงนี้เพื่อนๆหลายท่านชอบทักมาถามว่า ทำไมยางรุ่นนี้ไม่ค่อยดี รุ่นโน้นไม่ค่อยดี ยางสึกแปลกๆเป็นลูกคลื่น สึกด้านในบ้าง ทำไมยางรุ่นเก่าที่เคยใช้ไม่เคยเป็นเลย หรือบางท่านโทษว่ายางเป็นยางเก่า ไม่ใช่มาตรฐานโรงงานรึเปล่า

ซึ่งคำถามต่างๆ เหล่านี้ เป็นคำถามทีจอร์จ อยากจะพยายามทำความเข้าใจกับเพื่อนๆทุกท่านว่า โอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ข้างต้นถามว่ามีโอกาสไหมก็ต้องบอกว่ามีบ้างแต่น้อยมากๆที่สาเหตุเกิดจากการผลิตที่ทำให้ยางสึกผิดปกติ เพราะฉะนั้นเรามาดูสาเหตุใหญ่ๆ กันดีกว่าว่า ยางที่สึกผิดปกตินั้นมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง เพื่อให้เพื่อนๆ จะได้รู้เหตุผลที่แท้จริงและทำไปดูแลรถและยางของเพื่อนๆ ครับ

Threadbare-Tires-From-Quality

ข้อแรกเลย เป็นเรื่องของการสึกร่องดอกยางด้านในหรือสึกร่องดอกยางด้านนอกโดยสึกเหมือนกันทั้งด้านซ้ายและขวาโดยจะพบเจออาการนี้ที่ยางคู่หน้าเป็นหลักอาจมีคู่หลังบ้าง ซึ่งอาการแบบนี้มีสาเหตุหลักๆ มาจากเรื่องของศูนย์ล้อ ซึ่งศูนย์ล้อนั้นจะสามารถตั้งได้สองแบบ ทั้งมุมโท กับ มุมแคมเบอร์ ซึ่งอาการที่เป็นข้อแรกนี้หลักๆ จะมาจากมุมโท ซึ่งมุมโทจะเป็นการที่หน้ายางนั้นกางออกมากเกินไป (เหมือนเป็ดเดินขาอ้าๆ) หรือ หุบมากเกินไป ซึ่งจะทำให้ยางถูกใช้งานมากด้านใดด้านหนึ่งและสึกผิดปกติสึกร่องดอกยางในหรือนอกด้านเดียวซึ่งการตั้งศูนย์จะทำให้ศูนย์โทนั้นพอดีกับการใช้งานของรถนั้นๆ

แต่ว่าก็มีอีกสองอย่างที่อยากจะบอกเพื่อนไว้ก็คือ รถยุโรป อาทิ รถเบนซ์ และ บีเอ็ม ส่วนมากจะมีปัญหานี้และยากที่จะแก้ไขเพราะว่ามุมล้อของรถประเภทนี้จะถูกให้การใช้งานที่เกาะถนนมากกว่าปกติเล็กน้อยโดยการทำมุมองศาทำให้อาการกินยางด้านในนั้นแก้ไขลำบาก และ อีกอย่างที่อยากจะบอกก็คือ เวลาเปลี่ยนยางใหม่จริงๆ แล้วไม่ได้กระทบกับศูนย์ล้อเดิมครับบางทีศูนย์ล้อเราไม่ได้เพี้ยน พอไปเปลี่ยนยางใหม่แล้วตั้งศูนย์ใหม่กลับเพี้ยนทำให้อาการกินยางเกิดขึ้นได้ครับ

ส่วนอีกมุมหนึ่งที่เรียกว่ามุมแคมเบอร์ครับ วิ่งเป็นอาการที่ล้อนั้นแบะออกมาเกินไป ซึ่งจะทำให้ยางสึกด้านในทั้งล้อซ้ายและล้อขวาเหมือนกัน และ อาจจะส่งผลทำให้การขับขี่เอียงไปด้านในด้านหนึ่งได้ด้วย ซึ่งอาการตั้งศูนย์จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ครับ

Threadbare-Tires-From-Quality

ข้อที่สองคือ ช่วงล่างครับ โดยจะแบ่งเป็นสองประเภทหลักๆ ก็คือประเภทของการที่ทำให้ยางนั้นวิ่งไม่กลมตลอดเวลาซึ่งอาการนี้จะส่งผลให้ดอกยางนั้นสึกเป็นลูกคลื่น และ อีกแบบหนึ่งคือการที่ยางในเส้นนั้นถูกกดทับน้ำหนักมากกว่าปกติครับ โดยอาการสึกแบบนี้จะที่ล้อใดล้อหนึ่งเท่านั้นไม่ได้เกิดเป็นคู่สะเท่าไหร่ (แต่มีโอกาสนะครับกรณีที่ช่วงล่างพังพร้อมกัน)

เรามาเริ่มที่อาการสึกที่เกิดเป็นลูกคลื่นและยางวิ่งไม่กลม ซึ่ง หลักๆแล้วอาการนี้จะมีลักษณะการสึกทั้งแบบทั้งหน้ายาง และ บริเวณไหล่ยางครับซึ่ง อาการจะเกิดจาก 1 โช้คอัพแตก หรือ ใช้งานไม่ได้ ซึ่งจะทำให้จังหวะในการซัพพอร์ตแรงกดทับนั้นไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้ยางนั้นมีการกดทับไม่สม่ำเสมอเช่นกัน และจะทำให้บางตำแหน่งถูกกดทับเยอะบางจุดกดทับน้อย พอเป็นทั้งรอบวงก็จะทำให้เกิดการสึกเป็นลูกคลื่นได้ โดยการสึกแบบนี้จะสึกแบบเต็มหน้ายาง รวมถึงหากลูกปืนเสียหายก็ส่งผลให้เกิดเป็นอาการลูกคลื่นได้เช่นกันเพราะว่ายางไม่สามารถหมุนได้กลมอย่างเต็มที่ และก็ส่วนสุดท้ายก็อาจจะเกิดจากเรื่องการถ่วงล้อหากถ่วงล้อได้ไม่ดีเกิดการไม่สมดุลของยาง เมื่อใช้งานไปนานๆอาจจะทำให้เกิดการสึกรอบวงที่ไม่เท่ากันโดยจะสึกแบบไม่เท่ากัน และ แต่ละตำแหน่งก็ไม่แน่ครับ

Threadbare-Tires-From-Quality

ประเภทการถูกกดทับซึ่ง อาการหลักๆ จะเกิดจากช่วงล่างของปลีกนกที่ชำรุดและเสียหายครับ ซึ่งอาการเมื่อปีกนกเสียหายยางด้านในจะถูกกดทับมากกว่าปกติจะทำให้ร่องยางด้านในนั้นสึกมากกว่าปกติ อาจจะเป็นที่ข้างใดข้างหนึ่งและถ้าประกอบกับช่วงล่างอื่นๆ อาจจะทำให้ร่องดอกยางด้านในมีอาการสึกและ สึกเป็นลูกคลื่นด้วย

ก็จะเป็นอาการสึกผิดปกติของยางที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่เกี่ยวกับเรื่องของยางเลย แต่เป็นเรื่องของช่วงล่างและการดูแลศูนย์รถ ซึ่งอาการช่วงล่างจริงๆแล้วถ้าเรามีการหมั่นตรวจเช็คหรือคอยสังเกตอาการของรถก็จะทำให้ไม่ผลเสียหายต่อยางของเราครับ หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยเรื่องยางสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ที่ Line Official : @tiresbid หรือเข้าอ่านบทความยางรถยนต์ฟรี มีบทความมากมายเกี่ยวกับยางที่ให้เพื่อนๆ อ่านครับ หรือช้อปเปรียบเทียบราคายางออนไลน์ใหม่คลิกเลย www.tiresbid.com ที่เดียวจบ กว่า 10 ยี่ห้อยางชั้นนำครับผม

Ancient-Tire-And-Nowaday-Tire-Different

สวัสดีครับไทร์บิดกลับมาอีกครั้งครับ วันนี้จะมาพูดถึงวิวัตนาการที่ผ่านมาของยางรถยนต์ว่ายางสมัยก่อนที่เป็นยางผ้าใบ และ มียางใน กับ ยางปัจจุบันที่เป็นยางเรเดียลนั้นไม่ใช่ยางในแตกต่างกันยังไง วันนี้ไทร์บิดจะมาอธิบายให้เพื่อนๆ เข้าใจฟังครับ

Ancient-Tire-And-Nowaday-Tire-Different

เมื่อก่อน ยางผ้าใบนั้น ก็คือโครงสร้างของยางรถทำมาจากผ้าใบนั้นเองครับ ซึ่งเมื่อทำจากผ้าใบแน่นอนครับ เรื่องความแข็งแรงในการรับแรงกระแทกของยางก็จะทำได้ไม่ดี อีกทั้งเมื่อโครงยางผ้าใบนั้นเมื่อใช้งานหน้ายางจะมีการขยับตัวค่อนข้างเยอะทำให้การเกาะถนนของยางผ้าใบนั้นจะทำไม่ได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลาครับ และสุดท้ายเมื่อยางผ้าใบบริเวณหน้ายางเมื่อมีการขยับยางสูงจะทำให้ยางนั้นมีการเสียดสีกับพื้นถนนเยอะขึ้นทำให้อายุการใช้งานของยางผ้าใบนั้นค่อนข้างอายุสั้นกว่ายางปัจจุบันอย่างมาก

ส่วนยางเมื่อก่อนจะไม่สามารถกักเก็บลมได้ด้วยตัวเองทำให้ต้องมียางในซึ่งเป็นส่วนที่หน้าที่ในการกักเก็บลมทำให้มีการใช้งานที่ไม่คล่องตัวเท่าไหร่เพราะเนื่องมาจากว่าเมื่อยางเกิดโดนตะปูหรือของมีคมนั่นจะทำให้ยางในแตกเสียหายและไม่สามารถกักเก็บลม โดยยางจะสูญเสียลมโดยฉับพลันซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียหลักขณะขับขี่ หรือ จะเป็นการเสียเวลาในการต้องมาปะซ่อมด้วย

เพราะฉะนั้นยางเมื่อก่อนที่เป็นยางผ้าใบและยางที่มียางในนั้น สมรรถนะค่อนข้างไม่ดีอายุการใช้งานต่ำ แถมยังเสี่ยงต่อการสูญเสียควบคุมอีกด้วยครับ เพราะฉะนั้นบริษัทยางต่างๆจึงได้พัฒนายางที่มีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น สมรรถนะการขับขี่ได้ดี อายุการใช้งานที่ยาวและมีความปลอดภัยในการขับขี่เพิ่มมากขึ้นโดยจะรุ่นต่อมาจะเรียกว่ายางเรเดียลครับ

Ancient-Tire-And-Nowaday-Tire-Different

ยางเรเดียลนั้นโครงสร้างจะมีส่วนประกอบหลักที่ทำมาจากเส้นลวดซึ่งจะทำให้โครงสร้างของยางนั้นมีความแข็งแรงทนต่อแรงกดกระแทกมากกว่า อีกทั้งหน้ายางจะมีเข็มขัดรัดหน้ายางที่มีหน้าที่คอยขึงตึงหน้ายางทำให้หน้ายางแนบกับพื้นถนนได้ตลอดเวลาทำให้สมรรถนะในการขับขี่ของยางนั้นทำได้อย่างเต็มที่ และมีการขัดสีที่เกิดจากการขยับตัวของหน้ายางน้อยกว่ายางผ้าใบทำให้ยางเรเดียลนั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันมีการเสริมและพัฒนาเนื้อยางทำให้มีความคงทนสึกได้ยากเพิ่มมากขึ้นด้วยทำให้ยางรถทั่วๆไปนั้นยิ่งมีอายุการใช้งานที่ยาวนานเพิ่มมากขึ้นอีกด้วยครับ 

ส่วนในเรื่องกักเก็บลมของยางเรเดียลนั้นในท้องยางจะมีชั้นที่สำหรับกักเก็บลมยางชื่อว่าชั้นบิวทิล ซึ่งจะมีหน้าที่กักเก็บลมยางและยังคอยช่วยให้เมื่อยางโดนตะปูตำเข้าไปแล้วนั้นเนื้อยางชั้นนี้จะคอยประกบบริเวณที่โดนตะปูตำ จะทำให้ยางนั้นลมค่อยๆซึมออกไม่สูญเสียลมอย่างฉับพลัน ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่เพิ่มมากขึ้น กว่าจะลมยางหมดก็จะเกิดเมื่อทิ้งรถเป็นเวลานานๆและลมซึมจนออกหมด ซึ่งเพื่อนๆอาจจะเคยเจอเมื่อยางแบนตอนเช้าก่อนออกจากบ้านใช่ไหมละครับ

เพราะฉะนั้นการพัฒนาจากยางผ้าใบเป็นยางเรเดียลนั้นเป็นวิวัฒนาการที่ทำให้การขับขี่ของพวกเรามีความปลอดภัยเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งในอนาคต มีการพัฒนายางที่ความนุ่มเงียบ และยังไม่ต้องใช้ลมยางอีกด้วย แถมยังช่วยในความปลอดภัยก็คือเมื่อโดนตะปูตำก็ยังใช้งานได้อย่างปกติเหมือนเดิมครับ เซฟๆยิ่งๆขึ้นไปอีกครับ ถ้าเพื่อนๆอยากรู้ว่ายางรุ่นไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเพื่อนสามารถสอบถาม Line official : @tiresbid หรือ เสริมเติมความรู้อ่านบทความยางรถยนต์ได้ฟรี เข้าเว็บไซต์ได้ที่ www.tiresbid.com ทางไทร์บิดยินดีให้บริการเพื่อนๆทุกท่านครับ 

Carro-Tiresbid-Old-Tires-And-Usability

สวัสดีครับ ไทร์บิดกลับมาอีกครั้งครับผม วันนี้จะขอพูดถึงเรื่องปีผลิตยางว่ามีผลต่อการใช้งานไหมครับ ยางปีเก่า ผ่านไป 1 ปี จริงๆแล้วไม่มีผลต่อการใช้งานอะไรเลยครับ และโดยปกติแบรนด์ยางแทบจะทุกแบรนด์นับวันรับประกันจากวันที่ใส่ครับ ในเรื่องการรับประกันการผลิตอย่างน้อยๆ ก็ต้องมี 2 ปีขึ้นไป ถ้าแบรนด์ใหญ่ๆก็ 5-6 ปีก็ว่ากันไปครับ

แต่เพื่อนๆ ก็ยังเป็นห่วงเหมือนเดิมใช่ไหมครับ ว่ายังไงก็อยากได้ยางใหม่เอี่ยมที่สุดไว้ก่อน งั้นไทร์บิดเรามาจำลองเหตุการณ์ดูครับ ว่ากรณีที่เป็นยางปีเก่านั้นเก่าถึงปีไหมกันนะครับ

Old-Tires-And-Usability

กรณีเราซื้อยางเดือนมีนาคม แล้วยางที่เรากำลังจะซื้อนั้น เป็นยางผลิตสัปดาห์ที่ 40 ของปีที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นยางที่เพื่อนๆได้มานั่นเพิ่งผลิตมาแค่ 5 เดือน ซึ่งไม่เกินปีเลยครับ แต่แค่ปีผลิตเป็นของปีที่แล้วครับ และกรณีที่การรับประกันจากการผลิตที่ทางแจ้งไว้จะรับประกันนับจากวันติดตั้งก็แปลว่ายางที่รับประกันจากเดือนมีนาคม บวกไปอีก 5 ปี

สมมติเพื่อนๆใช้รถปีละ 20,000 กิโลเมตร เท่ากับเพื่อนๆ สามารถใช้งานยังไงก็ไม่ถึงห้าปีแน่นอนครับ เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเราจะซื้อยางปีเก่า แต่เก่าแค่ไม่กี่เดือนเพื่อนๆ สบายใจแน่นอนครับ

Old-Tires-And-Usability

เรามาดูตามความจริงกันว่าจริงๆแล้วโครงสร้างยางแต่ละส่วนนั้น ปีผลิตมีผลต่อการใช้งานจริงๆไหมครับ ข้อแรกเลยก็คือเรื่องของเนื้อยางกรณีที่เป็นยางปีเก่าเพื่อนๆอาจกลัวว่ายางนั้นอาจจะมีปัญหาใช่ไหมครับ แต่ถ้าร้านที่เพื่อนๆ ซื้อนั้นมีคลังเก็บสต็อกในที่ร่ม เพื่อนๆหายห่วงได้เลยครับว่าเนื้อยางที่อยู่ในโกดังนั้นมีสภาพใช้งาน 100% แน่นอนครับ

ส่วนต่อมาคือเรื่องของโครงยางเมื่อยางเก่าเก็บ 1 ปี ไทร์บิดกล้ารับประกันเลยครับว่าโครงยางนั้นไม่มีการคลายตัวหรือคลายความแข็งแรงแน่นอนครับ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ ว่ายางปีเก่าที่ซื้อจะมีปัญหาความแข็งแรงในการใช้งานครับ

Old-Tires-And-Usability

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งในปัจจุบันเลยก็คือ ยางปีเก่าราคาจะถูกลง 10-20% จากราคาปกติเพราะฉะนั้นเพื่อนๆที่อยากใช้งบอย่างประหยัดกับค่ายางแต่ได้ยางที่มีคุณภาพดีลองหาร้านที่รู้จักใกล้บ้านท่าน หรือ ลองมาสอบถามกับทางไทร์บิดได้ครับว่ามีไซส์นี้รุ่นนี้ยางปีเก่าไหมเพื่อเพื่อนๆจะได้ของดีกันครับ หากเพื่อนๆต้องการคำปรึกษาเรื่องยางสามารถสอบถามทางไทร์บิดได้ผ่าน Line official : @tiresbid หรือเข้าเช็กราคายางได้ที่ www.tiresbid.com ได้ครับ สนใจจะอ่านบทความรู้ยางรถยนต์ก็มีให้อ่านฟรีๆ แถมทางเรายินดีให้บริการเพื่อนๆทุกท่านอย่างเต็มที่แน่นอนครับ