รวม 7 ปัญหาบนท้องถนนแบบ “ไทยสไตล์”

ประเทศไทย เป็นประเทศที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนถนนสูงสุดระดับโลก สาเหตุก็มาจากหลายๆ ปัญหาของผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งการไม่เคารพกฎหมาย ความประมาท ความใจร้อนจนเกิดการทะเลาะวิวาท, อุบัติเหตุ ฯลฯ ซึ่งปัญหาพวกนี้แก้ไขได้ หากคุณมีสติในการขับรถ เคารพกฎจราจร มีน้ำใจแก่ผู้ร่วมทาง

ในบทความนี้ CARRO จึงรวมสาเหตุหลักๆ ที่เป็นปัญหาบนท้องถนนบ้านเรามาให้ผู้อ่านทราบ เพื่อที่จะได้รับรู้และรับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องค่ะ

รวมปัญหาบนท้องถนนแบบ “ไทยสไตล์”

ภาพจาก lavanont

1. ไม่เคารพกฎจราจร

นี่เป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้รถติดหรือเกิดอุบัติเหตุทั้งหมดบนท้องถนน อย่างเช่น การขับรถฝ่าไฟแดงที่พบเห็นกันอยู่บ่อยๆ และการละเลยป้ายเตือนข้างทาง รวมถึงคนที่ขับรถโดยไม่รู้กฎจราจรอีกด้วย

ซึ่งตามหลักกฎหมาย คุณจะไม่สามารถอ้างได้ว่าไม่รู้กฎหมาย ดังนั้น หากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลด หรือต้องเสียค่าปรับ ก็ควรศึกษาเกี่ยวกับกฎจราจรให้ดี และขับขี่รถอย่างถูกกฎ

รวมปัญหาบนท้องถนนแบบ “ไทยสไตล์”

ภาพจาก FM91 Trafficpro

2. ขับรถเร็วและชอบแซง

คนไทยชอบใจร้อนตามอากาศ และมีนิสัยชอบขับรถเร็วและขับแซงรถคันอื่นๆ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์รถชนหรือแหกโค้งพลิกคว่ำบนถนนบ่อยๆ ซึ่งในแต่ละปีนั้น มีการสูญเสียที่เกิดจากการขับรถด้วยความใจร้อนและประมาทแบบนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว และถ้าคุณไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ควรขับรถด้วยความใจเย็น มีสติ หรือไม่ขับแซงรถคันอื่นๆ เป็นอันขาด

รวมปัญหาบนท้องถนนแบบ “ไทยสไตล์”

ภาพจาก โปรแกรมเมอร์ @watcharate

3. จอดล้ำเส้นทางม้าลาย / ไม่จอดให้คนข้ามทางม้าลาย

เป็นปัญหาที่พบเห็นได้ทุกวัน นั่นก็คือ รถจักรยานยนต์จอดล้ำและกีดขวางทางม้าลาย เกิดจากการขับรถมาจอดเป็นคันแรก เพื่อให้สามารถออกตัวก่อน ซึ่งทำให้ล้ำเส้นหยุด แต่ขณะเดียวกันรถยนต์ก็ไปจอดช่องรถจักรยานยนต์ ทำให้รถจักรยานยนต์ต้องจอดเลยเส้น นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดรถติดและปัญหาอื่นตามมา ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่เป็นอันตราย และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ด้วยค่ะ

รวมปัญหาบนท้องถนนแบบ “ไทยสไตล์”

ภาพจาก นู๋ปู กู้ภัยชาละวันพิจิตร

4. ไม่หลีกทางให้รถกู้ภัย

อีกปัญหาของสังคมไทยที่เป็นประเด็นข่าวอยู่บ่อยๆ นั่นคือ การขวางหรือไม่หลีกทางให้กับรถกู้ชีพ, กู้ภัยของมูลนิธิและรถฉุกเฉินโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุไม่หลีกทางให้นั้น อาจมองกว้างๆ ได้ 2 ประเด็น คือ

  • บางคนอาจขับรถโดยเหม่อลอย ขับไปเรื่อยๆ ไม่ตั้งใจขับ หรืออาจเล่นโทรศัพท์ จนไม่ได้ยินเสียงสัญญาณไฟ
  • บางคนมีปมกับรถฉุกเฉิน เพราะเมืองไทยมีรถฉุกเฉินเยอะเกินไป ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของสัญญาณไฟหายไป คนไม่เชื่อว่ารถจะไปกู้ภัยจริงๆ จึงไม่หลีกทางให้ ซึ่งหลายๆ ครั้งก็ทำให้เกิดการสูญเสียแบบที่ไม่น่าเกิด

รวมปัญหาบนท้องถนนแบบ “ไทยสไตล์”

5. คุยโทรศัพท์ในขณะขับรถ

แม้จะมีกฎหมายห้ามออกมา แต่ก็ยังมีคนที่ฝืนกฎและคุยโทรศัพท์ในขณะขับรถอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหารถติดและอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากคุยโทรศัพท์จนเสียสมาธิในการขับรถ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน ทุกครั้งที่ขับรถคุณต้องไม่คุยโทรศัพท์อย่างเด็ดขาด หากจำเป็นก็แนะนำให้จอดรถข้างทาง คุยธุระให้เสร็จแล้วค่อยขับรถต่อไป

รวมปัญหาบนท้องถนนแบบ “ไทยสไตล์”

ภาพจาก FM91 Trafficpro

6. เมาแล้วขับ

เป็นปัญหาโลกแตกที่หาทางแก้ไขกันมานาน แม้จะมีการรณรงค์ห้ามคนเมาแล้วขับอยู่เสมอ แต่ทุกวันนี้ ก็ยังมีคนที่เมาแล้วขับอยู่จำนวนมาก และปัญหาที่ตามมาก็คือ การเกิดอุบัติเหตุอย่างไม่คาดคิดจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเช่นกัน

เพราะฉะนั้นคุณควรพึงระลึกไว้เสมอว่า ไม่ควรขับขี่ในขณะที่กำลังเมาเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ก็ตาม อย่างน้อยก็เซฟเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง และจะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นบนท้องถนนค่ะ

รวมปัญหาบนท้องถนนแบบ “ไทยสไตล์”

ภาพจาก JS100 Radio

7. ขับขี่รถย้อนศร

พฤติกรรมการขับขี่รถย้อนศรอาจพบเห็นไม่บ่อยนักสำหรับคนขับรถยนต์ แต่คนขี่รถมอเตอร์ไซค์มักมีพฤติกรรมที่มักง่ายเช่นนี้ และพบเห็นได้ค่อนข้างบ่อย ในถนนเส้นใหญ่ที่มีทางกลับรถในระยะไกล จึงเป็นสาเหตุที่ไม่อยากไปกลับรถและเลือกที่จะขี่รถย้อนศร ทำให้ในบางครั้งคนที่ใช้ท้องถนนในเลนที่ถูกต้องกลับต้องหักหลบ หรือมองไม่เห็นรถที่ย้อนศรมา ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

แต่ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องของความสะอาดทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Carro-Masii-5-Risky-Driving-Behaviors-Car-Accident

เชื่อไหมว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นมีมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาตั้งแต่ต้นปี โดยสาเหตุหลักๆ จะมาจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่เป็นหลักที่ไม่เคารพกฎหมาย และขาดวินัยในการขับขี่รถยนต์บนท้องถนน อีกทั้งการกระทำแบบนี้จะเพิ่มความเสี่ยงให้แก่ตัวผู้ขับขี่ และผู้ใช้รถใช้ถนนอีกด้วย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ วันนี้ masii ได้นำ 5 พฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ที่ไม่น่าทำขณะขับรถมาเตือนเพื่อนๆ กัน ไปดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง

5 พฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ที่ไม่ควรทำขณะขับรถ

5-Risky-Driving-Behaviors-Car-Accident

1. ฝ่าฝืนกฎจราจร

สาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้น โดยส่วนใหญ่จะมาจากการฝ่าฝืนกฎจราจร เช่น ฝ่าไฟแดงจราจร ขับรถย้อนศร และใช้ความเร็วที่เกินกำหนด เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎจราจรทำให้เพิ่มอัตราความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรทำมากที่สุดสำหรับผู้ขับขี่คือ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง

2. เมาแล้วขับ

เมาแล้วขับรถ เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เช่นกัน ดังนั้นหากเพื่อนๆ หรือใครก็ตามที่รู้ตัวว่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนมึนเมา ควรต้องพักการขับรถไว้ก่อน ควรหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือให้คนที่เราไว้วางไว้ใจมารับเราแทน เพราะการขาดสติ และมีอาการมึนเมานั้น ไม่ควรจะหันมาขับรถอย่างเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยของตัวเรา และผู้อื่น

5-Risky-Driving-Behaviors-Car-Accident

3. เล่นมือถือขณะขับรถ

มีหลายคนที่มักจะประมาทเวลาขับรถ โดยเฉพาะกับการเล่นโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เพราะคิดว่าขับรถมองทางสลับกับมองจอมือถือไปด้วยคงไม่เป็นไรหรอก แต่ความจริงแล้วนั้น พฤติกรรมนี้ถือเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุอันดับต้น ๆ เช่นกัน เพราะเนื่องจากเราจดจ่อกับมือถือมากกว่าขับรถ การกระทำนี้ทำให้ลดความสามารถในการควบคุมรถยนต์ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น หากมีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ เราแนะนำว่าให้ใช้อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ หรือจอดรถก่อนเพื่อคุยธุระให้เสร็จก่อนแล้วค่อยขับรถต่อไป

4. เอื้อมหยิบของในรถ

ไม่ว่าคุณจะมีความจำเป็นที่ต้องเอื้อมหยิบของในรถ ทั้งเบาะข้างๆ หรือเบาะหลัง ควรทำการจอดรถให้เรียบร้อยเสียก่อน อย่าเอื้อมตัวหรือมือไปหยิบของขณะที่กำลังขับรถเด็ดขาด เพราะแค่เสี้ยววินาทีที่เราหันไปมองของที่หยิบอยู่นั้น ก่อให้เกิดเหตุที่ไม่สามารถคาดฝันได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรประมาท และควรจอดรถให้สนิทก่อนจะเอื้อมหยิบของ จะปลอดภัยที่สุด

5-Risky-Driving-Behaviors-Car-Accident

5. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

แม้ว่าการไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะยังไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่การคาดเข็มขัดนิรภัยก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งหลายที่ไม่ควรละเลย ทางออกที่ดีที่สุด คือ การคาดเข็มขัดนิรภัยทุกๆ ครั้งก่อนออกเดินทางทั้งตัวผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร เหตุผลที่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยก็เพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่อาจเกิดกับตัวเราเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยจะเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้เรากระเด็นออกจากเบาะ หรือตัวรถนั่นเอง

และทั้งหมดนี้คือ 5 พฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ที่ไม่ควรทำขณะขับรถที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรรู้ เพื่อจะได้ช่วยกันลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ที่สำคัญคือ การขับขี่อย่างปลอดภัย และมีสติ เคารพกฎจราจรหากใครอยากเพิ่มความอุ่นใจ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อซื้อประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก www.masii.com

Travel-Loy-Krathong-Festival

เวลาผ่านไปไวจริงๆ เผลอแป๊บเดียว “เทศกาลลอยกระทง” ของไทย ก็กลับมากันอีกครั้งแล้ว! ซึ่งหลายคนในวันนี้ ช่วงค่ำๆ ก็จะพาครอบครัว หรือพาแฟน ออกไปลอยกระทงกันในยามค่ำคืนกัน …

แต่ที่แน่ๆ ล่ะ ปัญหารถติด ก็เป็นสิ่งที่หลักเลี่ยงไม่ได้แน่ ในคืนที่คนออกมางานกันเยอะๆ แบบนี้ อีกทั้งอันตรายรอบด้านในคืนนี้ ทั้งเด็กแว๊น เด็กสก๊อย พลุ ประทัด โจรผู้ร้าย เป็นต้น (แน่นอน วันนี้แบบนี้ ก็เห็นมีเรื่องกันแทบทุกปี) …

แต่จะมีวิธีเที่ยวให้สุขใจในคืนนี้ ต้องทำอย่างไร MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง

Maintenance-Car

1. ระวัง! สภาพรถก่อนออกเดินทาง

อันนี้ถือว่าสำคัญเลยล่ะ ถ้าสภาพรถไม่พร้อม แทนที่จะได้เดินทาง กลับต้องเสียเวลารอช่างซ่อม หรือรอรถยก มายกรถไปที่อู่ซ่อมรถแทน …

อย่าลืมดูส่วนประกอบต่างๆ ของรถยนต์ เช่น เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง เบรก แบตเตอรี่ น้ำมันเครื่อง ชุดสายพานต่างๆ หรือของเหลวต่างๆ โดยเบื้องต้นก่อนออกเดินทาง เพราะถ้าคุณอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เวลาเดินทางจะได้ไม่ลำบากใจ

โคมลอย

2. ระวัง! พลุ ดอกไม้ไฟ และโคมลอย

ถึงเทศกาลลอยกระทงทุกปีทีไร มักจะต้องมีข่าวเกี่ยวกับฟืนไฟทุกที ไม่ว่าจะเป็นพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ หรือโคมลอย ถ้าคุณพอทราบล่วงหน้าว่าจุดไหนที่มีการละเล่นแบบนี้เยอะๆ ควรเลี่ยงได้เลยยิ่งดี เพราะสิ่งของเหล่านี้ตกไปโดนรถของคุณ ทั้งดินปีนทั้งเชื้อไฟ นี่ถือว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเลย ที่อาจทำให้รถยนต์ไฟไหม้ได้

เอาเป็นว่าก่อนจะออกไปลอยกระทงที่ไหน ควรหาที่จอดรถยนต์ในร่ม หรือในตึกอาคารได้ ก็ดีเลยครับ อย่างน้อยๆ รถคุณก็ปลอดภัยห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้หน่อย

3. ระวัง! ขโมย

เพราะ “ขโมย” และ “โจรผู้ร้าย” ก็จัดว่ามีความขยันอยู่พอตัว เพราะออกปฏิบัติการทุกวันไม่มีวันหยุด และในสถานที่มืดๆ เปลี่ยวๆ ไม่มีผู้คน โจรที่ชอบทำงานแนวนี้มาก เพราะมีสมาธิในการทำงาน และในที่คนเดินเบียดเสียดกันมากๆ เช่น ย่านที่จัดงานลอยกระทง บรรดาโจรขโมยก็ชอบ เพราะมันล้วงกระเป๋า กรีดกระเป๋าได้ง่ายดี

ทางที่ดีคือ ไม่ควรจอดรถในซอยเปลี่ยวๆ หรือที่มืดๆ เปลี่ยวๆ และไม่ควรนำของมีค่าไว้ในรถ เพราะอาจจะโดนทุบกระจกรถ โจรกรรมสิ่งของได้ ทางที่ดีควรซ่อนไว้ในฝากระโปรงท้ายรถ หรืออย่านำพกติดไว้ในรถเลยดีกว่า

Car-Accident

4. ระวัง! เมาไม่ขับ!

เชื่อเถอะ เทศกาลลอยกระทงแบบนี้ พี่ไทยก็ยังขอเมาได้ด้วย หลายคนเลือกที่จะไปเที่ยวผับ บาร์ ร้านอาหารต่างๆ ที่มีจัดงานเทศกาลลอยกระทง สนุกสนานกับการทานอาหาร กินดื่มจนเพลิน

แต่ถ้าคุณรู้ตัวว่าเมาแล้ว ก็ไม่ควรขับรถกลับบ้าน ควรจะหาเพื่อนที่ไม่ได้กินเหล้า เบียร์ เป็นคนขับรถแทน หรือขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้าน เพราะถ้าเมาแล้วขับและไปเกิดอุบัติเหตุเข้า คุณจะได้ย้ายบ้านไปอยู่คุกแทน เพราะโดนหลายข้อหาเลยทีเดียว

ลอยกระทง-30-สวนสาธารณะ-2563

ภาพจาก สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร

ส่วนวันนี้ ใครที่อยู่ในกรุงเทพฯ ถ้าอยากจะไปลอยกระทงกันในค่ำคืนนี้ ก็สามารถไปร่วมงานกันได้ 30 สวนสาธารณะ เช่น สวนลุมพินี, สวนจตุจักร, สวนวชิรเบญจทัศ, สวนสราญรมย์, สวนรมณีนาถ, สวนสันติชัยปราการ, สวนเสรีไทย, สวนนวมินทร์ภิรมย์, สวนสันติภาพ, สวนกีฬารามอินทรา, สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน, สวนวนธรรม, สวน 50 พรรษา มหาจักรีสิรินธร, อุทยานเบญจสิริ, สวนพระนคร

สวน 60 พรรษา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ, สวนหนองจอก, สวนราษฎร์ภิรมย์, สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา (ฝั่งพระนคร), สวนธนบุรีรมย์, สวนทวีวนารมย์, สวนหลวงพระราม 8, สวนสิริธราพฤกษาพรรณ, สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (บางกอกน้อย), สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (สาทร), สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71, สวนวารีภิรมย์, สวนบึงกระเทียม, สวนพระยาภิรมย์ และสวนบางแคภิรมย์

หรือตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ได้เช่นกัน อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เป็นต้น

ลอยกระทง-2563

ภาพจาก สำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม

หรือตามสถานที่ใกล้ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างเช่น ICONSIAM, ท่ามหาราช, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, ล้ง 1919, ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร หรือจะเป็นที่ริมเขื่อนศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ ก็ได้เช่นกัน

แต่ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เปลี่ยนรถใหม่ ขายรถด่วน เพื่อรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่ากับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

เมาแล้วขับ-ติดคุก

เมาแล้วขับ เจอจับติดคุก!

ประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศที่เกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับติดอันดับต้นๆของโลก จึงทำให้ทางรัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ และถึงแม้ว่ากฎหมายเมาแล้วขับรถจะประกาศออกมาเพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเพียงใด แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่ เนื่องจากว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

ซึ่งถ้าวัดจากสถิติเมาแล้วขับจะพบว่ายังมีอัตราสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้บังคับกฎหมายเล็งเห็นว่าควรจะปรับกฎหมายโดยให้เพิ่มโทษ ทำให้ผู้ขับขี่ที่กำลังคิดจะเมาแล้วขับ เล็งเห็นถึงอัตราโทษที่สูงขึ้น ซึ่งอัตราบทลงโทษใหม่ กฏหมายเมาแล้วขับ แบ่งออกเป็น 4 กรณี ดังนี้

1. ความผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา

มีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับขั้นต่ำ 10,000 ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยศาลจะมีอำนาจในการสั่ง พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือสามารถสั่ง เพิกถอนใบอนุญาต และอาจมีการเพิ่มมาตรการยึดรถในชั้นศาล ไม่เกิน 7 วัน

2. ความผิดฐานเมาแล้วขับ ส่งผลให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกาย หรือ จิตใจ

มีโทษ จำคุก 1 – 5 ปี ปรับ 20,000 – 100,000 บาท โดยศาลจะสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือ เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

3. เมาแล้วขับรถ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส

มีโทษ จำคุก 2 – 6 ปี ปรับ 40,000 – 120,000 บาท ศาลสั่งพักใบอนุญาตขับขี่รถไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือ เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รบ

4. เมาแล้วขับรถยนต์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

มีโทษจำคุก 3 – 10 ปี ปรับ 60,000 – 200,000 บาท ศาลสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที

อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีการปรับแก้กฎหมายเมาแล้วขับ แต่ถ้าคนขับไม่มีสติที่จะเตือนตัวเองว่าเมาแล้วไม่ควรขับรถ อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ และยังไม่นับความเสียหายที่ตามมาอีกนับไม่ถ้วน

อีกทั้งไม่เพียงแค่ตัวเองเดือดร้อน อาจจะมีรวมถึงบุคคลอื่นที่โดนลูกหลงนี้ไปด้วย ฉะนั้น ถ้าคิดจะออกไปดื่มไม่ควรนำรถไป หรือพาคนที่บ้าน หรือเพื่อนที่ไม่ดื่มเป็นคนขับกลับแทน