การโอนรถ โอนตรง โอนลอย คืออะไร

“โอนรถ” หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ แต่หลังจากนี้คุณจะไม่ต้องงงอีกต่อไป เพราะบทความนี้ CARRO จะพาทุกคนไปรู้จักกับการโอนรถให้มากกว่าเดิม …

“การโอนกรรมสิทธิ์รถ คืออะไร?” คำถามที่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า ทำไมต้องโอนรถ? แล้วถ้าไม่โอนรถจะได้ไหม? เรามาหาคำตอบกันเลยดีกว่า …

การโอนรถ โอนตรง โอนลอย คืออะไร

การโอนกรรมสิทธิ์รถ คือ การโอนทะเบียนรถเพื่อเปลี่ยนเจ้าของ โดยที่ ผู้ซื้อ-ผู้ขายรถ จะต้องแจ้งต่อนายทะเบียนหลังจากที่มีการโอนรถ (วันที่ที่ระบุในใบคำขอโอนและรับโอน) ไม่เกิน 15 วัน เพราะถ้าหากว่าเกินวันที่กำหนดก็จะโดนปรับนั่นเอง

ดังนั้น การโอนกรรมสิทธิ์รถจึงสำคัญมากสำหรับทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะการซื้อขายรถมือสอง เพราะถ้าหากยังไม่มีการโอนรถ ผู้ซื้อก็จะไม่มีกรรมสิทธิ์ในรถคันนั้นโดยสมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่า ผู้ซื้อก็จะยังไม่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของรถคันนั้นโดยสมบูรณ์ หรือถ้าหากรถคันนั้นเกิดติดคดีความ ชื่อของผู้ถือกรรมสิทธิ์รถคนสุดท้าย ก็อาจจะต้องถูกตรวจสอบ

การโอนรถ โอนตรง โอนลอย คืออะไร

ประเภทของการโอนกรรมสิทธิ์รถ

การโอนกรรมสิทธิ์รถนั้นมีหลากหลาย อาทิ การโอนโดยตรง โอนโดยคำสั่งของศาล หรือแม้กระทั่งการโอนรถจากการได้รับมรดก เป็นต้น

แต่ในบทความนี้ CARRO จะพูดถึงการโอนหลักๆ แค่ 2 ประเภท ที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในการ ซื้อ-ขาย รถยนต์มือสอง คือ การโอนตรง และ การโอนลอย

Review-Transfer-LPG-Powered-Car

การโอนตรง

คือ การที่ผู้ขาย และผู้ซื้อ สามารถไปทำการโอนกรรมสิทธิ์โดยตรงต่อหน้านายทะเบียน ณ สำนักงานขนส่งที่รถคันนั้นจดทะเบียนแจ้งใช้อยู่

TIPS: ในกรณีที่ผู้ขายไม่สามารถไปทำการโอนได้ ผู้ขายสามารถเซ็นใบมอบอำนาจให้ผู้ซื้อไปดำเนินการเองได้ ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดได้ใน ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร

การโอนรถ โอนตรง โอนลอย คืออะไร

การโอนลอย

คือ การที่เจ้าของรถได้ทำการโอนรถโดยไม่ได้ระบุชื่อของผู้รับโอน และยังไม่ได้ไปทำการโอนกรรมสิทธิ์รถโดยตรงต่อหน้านายทะเบียน แต่เมื่อผู้ขายได้รับเอกสารแล้ว ก็ต้องทำการไปโอนกรรมสิทธิ์รถด้วยตัวเอง ซึ่งการโอนลอยส่วนใหญ่ มักจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรถมือสอง เพราะว่าถ้าหากคุณขายรถให้กับเต็นท์รถ หรือโชว์รูม จะต้องทำการเซ็นเอกสารโอนลอย เพราะผู้ขายจะยังไม่ทราบชื่อของผู้ซื้อ แต่ผู้ขายควรระวัง ในกรณีที่เซ็นเอกสารโอนลอย ถ้าหากมีคนนำรถไปทำอะไรที่ไม่ดี คนที่จะถูกตรวจสอบคนแรก คือ ผู้ถือกรรมสิทธิ์รถคนสุดท้ายนั่นเอง

TIPS: ควรตรวจสอบชื่อของผู้ขายในเอกสารทั้งหมดให้ดี ว่าถูกต้องตรงกันทั้งหมด และชื่อของผู้ขายจะต้องเป็นชื่อของผู้มีกรรมสิทธิ์รถคันนั้นเป็นคนสุดท้าย ซึ่งมีข้อควรระวังหลายอย่างสำหรับการโอนลอย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การโอน

ชุดโอน

ขั้นตอนในการโอนรถ

หลายคนอาจจะเข้าใจผิดมาตลอดว่า การโอนกรรมสิทธิ์รถ นั้นยุ่งยาก แต่ที่จริงแล้วมันไม่ยากอย่างที่คิด เพราะว่ามีแค่ 4 ขั้นตอนตามนี้เท่านั้น ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้จะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน หรืออาจจะใช้เวลาเกือบทั้งวัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเตรียมเอกสารของคุณ เพราะถ้าคุณเตรียมเอกสารครบ ก็อาจจะใช้เวลาไม่นาน

  1. กรอกแบบฟอร์มคำขอและรับโอน ที่ส่วนงานทะเบียนสำนักงานขนส่ง
  2. เราต้องนำรถเพื่อรับการตรวจสภาพรถ ที่งานตรวจสภาพรถยนต์ที่สำนักงานขนส่งจังหวัด
  3. เมื่อตรวจสภาพรถเสร็จ ยื่นเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ และชำระค่าธรรมเนียมที่งานทะเบียนรถ
  4. รับคู่มือจดทะเบียนรถ ใบเสร็จ เครื่องหมายเสียภาษีประจำปี หรือแผ่นป้ายทะเบียนรถ

TIPS: อย่าลืมที่จะทำการตรวจสอบว่ารถคันนั้นมีสมุดใบคู่มือทะเบียนรถยนต์ (เล่มรถสีฟ้า) หรือไม่ เพราะถ้าหากไม่มี ก็ไม่ควรเสี่ยงที่จะซื้อ เพราะนั้นอาจจะเท่ากับว่ารถคันนั้นผิดกฎหมาย หรือเป็นรถหนีไฟแนนซ์ ซึ่งมันอาจจะเกิดเป็นปัญหาตามมาที่หลังได้

การโอนรถ โอนตรง โอนลอย คืออะไร

ถ้าใครอยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall