ราคารถใหม่ MG ปี 2022 ทุกรุ่น

รวมราคารถใหม่ MG (เอ็มจี) ทุกรุ่น Update 8/8/2022

Carro นำเสนอราคารถใหม่ 2022 MG (เอ็มจี) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน เช็คราคารถ MG ป้ายแดงได้ที่นี่

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @carrothai เช่นกัน หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

All-New MG5 / เอ็มจี 5

All-New MG5 2021

  • 1.5 C ราคา 569,000 บาท
  • 1.5 D ราคา 609,000 บาท
  • 1.5 X ราคา 699,000 บาท

All-New MG5 2022

  • 1.5 C ราคา 585,000 บาท
  • 1.5 D ราคา 625,000 บาท
  • 1.5 D+ ราคา 679,000 บาท
  • 1.5 X ราคา 709,000 บาท

MG ZS / เอ็มจี แซดเอส

MG ZS

  • 1.5 C+ ราคา 689,000 บาท
  • 1.5 D+ ราคา 739,000 บาท
  • 1.5 X+ ราคา 799,000 บาท

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

New MG ZS EV 2022

  • D ราคา 949,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 240,000 บาท)
  • X ราคา 1,023,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 240,000 บาท)

New MG VS HEV 2022 / เอ็มจี วีเอส เอชอีวี 2022

New MG VS HEV 2022

  • D ราคา 859,000 บาท
  • X ราคา 919,000 บาท

New MG HS 2022

New MG HS 2022

  • C ราคา 939,000 บาท
  • D ราคา 1,089,000 บาท
  • X ราคา 1,159,000 บาท

New MG HS PHEV 2022

New MG HS PHEV 2022

  • D ราคา 1299,000 บาท
  • X ราคา 1379,000 บาท

10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ราคาถูกสุดในไทย ปี 2022

MG EP

  • Wagon ราคา 761,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 227,000 บาท)
  • Plus ราคา 771,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 227,000 บาท)

New MG Extender 2021 / เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ 2021

New MG Extender 2021

New MG Extender รุ่น Giant Cab (กระบะตอนครึ่ง)

  • GC 2.0 C 6MT ราคา 559,000 บาท
  • GC 2.0 D 6MT ราคา 629,000 บาท
  • GC 2.0 GRAND D 6MT ราคา 669,000 บาท
  • GC 2.0 GRAND D 6AT ราคา 729,000 บาท
  • GC 2.0 GRAND X 6MT ราคา 739,000 บาท

New MG Extender รุ่น Double Cab (4 ประตู)

  • DC 2.0 GRAND D 6MT ราคา 769,000 บาท
  • DC 2.0 GRAND X 6AT ราคา 889,000 บาท
  • DC 2.0 GRAND 4WD X 6AT ราคา 1,039,000 บาท

ดูโปรโมชั่น MG ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/mg-new-car-promotion/

MG Mulan EV 2023 รถไฟฟ้า SUV พุ่ง 0-100 ใน 4 วิ!

MG (เอ็มจี) เตรียมเปิดตัว All-New MG Mulan (เอ็มจี มู่หลาน) รถ Crossover SUV Hatchback พลังงานไฟฟ้า 100% อีกหนึ่งรุ่น ชูจุดเด่นด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4 วินาที เตรียมเปิดตัวในยุโรปและในอังกฤษช่วงปลายปี 2022 นี้ ก่อนจะเข้าไทยช่วงปี 2566 เป็นอย่างช้า ในราคาที่จับต้องได้

สำหรับชื่อรุ่น MG Mulan นี้ นับได้ว่าเป็นอีกครั้งที่ MG นำชื่อแบบจีนๆ อย่าง “มู่หลาน” หรือ “ฮวา มู่หลาน” (花木蘭) ที่คอหนังหลายคนต้องคุ้นหู มาใส่ไว้กับรถยนต์ที่ผลิตออกมาขาย เพื่อต้องการยกย่องตำนานสตรีจีนที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่ยังคงปรากฏในวรรณกรรม งานศิลปะ และสื่อบันเทิงในจีนอีกหลายครั้ง มาจนถึงเวอร์ชั่นหนังการ์ตูนของดิสนีย์เมื่อปี 1998 ก่อนจะเป็นภาพยนตร์ที่ใช้นักแสดงจริงในปี 2020

MG Mulan EV 2023 รถไฟฟ้า SUV พุ่ง 0-100 ใน 4 วิ!

MG Mulan เป็นรุ่นจำหน่ายจริงของ MG 4 และ CyberE ที่ถูกเผยโฉมไปก่อนหน้านี้ ใช้แพล็ตฟอร์ม Nebula ที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ

มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าทรงโฉบเฉี่ยวรับกับช่องดักลมแนวตั้ง บริเวณฝากระโปรงหน้ามีร่องรูปตัว U เหนือฝากระโปรงหน้า ใส่ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาดใหญ่ ที่มองเห็นคาลิเปอร์เบรกสีส้มอยู่ภายใน ส่วนด้านท้ายใช้สปอยเลอร์หลังแบบแยกสองชิ้น และไฟท้ายแบบ LED รูปทรงตัว Y ให้ความสปอร์ตสุดๆ

ในส่วนของมิติตัวรถอยู่ที่ยาว 4,287 มม. กว้าง 1,836 มม. สูง 1,516 มม. และระยะฐานล้อ 2,705 มม.

MG Mulan EV 2023 รถไฟฟ้า SUV พุ่ง 0-100 ใน 4 วิ!

ในส่วนของพื้นที่บนหลังคา ติดตั้งหลังคากระจกขนาดใหญ่ที่ไม่มีคานตรงกลางรถ พร้อมทั้งหน้าจอ Infotainment แบบแยกเหนือแผงคอนโซล

MG Mulan EV 2023 รถไฟฟ้า SUV พุ่ง 0-100 ใน 4 วิ!

ภาพจาก Autohome.com.cn

สำหรับชุดมอเตอร์ไฟฟ้านั้นใช้แบบ TZ180XS0951 ซึ่งผลิตโดยบริษัท United Automotive Electronics Co., Ltd., ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ คู่ไปกับแบตเตอรี่แบบลิเธียม ที่ผลิตโดย Ningde Yikong Power System ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4 วินาที ถือว่าดีเลยทีเดียว

MG Mulan EV 2023 รถไฟฟ้า SUV พุ่ง 0-100 ใน 4 วิ!

MG 4 EV รุ่นจำหน่ายจริงในจีน ขณะอยู่ในโรงงานประเทศจีน

MG Mulan ยังใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่เรียกว่า LBS Recumbent Cells ที่สามารถกักเก็บพลังงานในแต่ละเซลล์ได้มากกว่าเดิม แถมมีขนาดเล็กลงเพื่อใช้เนื้อที่ให้ห้องโดยสารให้น้อยที่สุด รวมถึงใช้ช่วงล่างด้านหลังแบบ Five-Link ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเป็นพิเศษเพื่อการขับขี่ที่สนุกและมั่นใจ

และแน่นอนว่า MG Mulan 2023 นี้ ออกแบบมาเพื่อส่งขายลูกค้าชาวยุโรปและอังกฤษเป็นหลัก ส่วนการเปิดตัวในจีน ยุโรปและอังกฤษ จะมีขึ้นภายในปลายปีนี้ อีกทั้งยังมีโอกาสนำเข้ามาขายไทยด้วยในช่วงปี 2566 นี้

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ประเดิมเปิดตัว New MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) รถยนต์ไฟฟ้า 100% โฉมใหม่ ที่มาพร้อมกับ Concept “Truly Easy” พร้อมด้วย MG EV Ecosystem หรือระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งของเอ็มจี โดยมีเครือข่าย MG Super Charge ที่ครอบคลุมและรองรับการเดินทางได้ทั่วประเทศ

พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษ เงินจองจำนวน 10,000 บาท จะมีมูลค่าเป็น 20,000 บาท เพื่อใช้หักจากราคาจำหน่ายเมื่อมีการส่งมอบรถอย่างเป็นทางการ และอุปกรณ์เชื่อมต่อกระแสไฟ V2L มูลค่า 10,000 บาท เฉพาะผู้ที่จองผ่าน mgcars.com ในระหว่างวันที่ 11-21 มีนาคม และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เท่านั้น

มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X  โดยจะประกาศราคาอย่างเป็นทางการในงาน Motor Show 2022 (งานมอเตอร์โชว์ 2022) วันที่ 22 มีนาคมนี้ และจะจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการใน 58 โชว์รูม ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อโชว์รูมได้ที่ www.mgcars.com

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

MG (เอ็มจี) แนะนำ MG ZS EV รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกเข้าสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ด้วยแนวคิดหรือ Concept “Easy” เพื่อทำให้ผู้บริโภคเห็นว่า การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นเรื่อง “ง่าย” ทั้งในด้านของการใช้งาน การดูแลรักษา การชาร์จพลังงาน และการเป็นเจ้าของ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าคนไทยและทำให้ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ทั้งนี้ก่อนการเปิดตัว New MG ZS EV บริษัทฯ ยังได้ทดสอบสมรรถนะและการใช้งานอย่างครอบคลุมของรถรุ่นนี้ภายใต้โปรเจค EV Marathon โดยเป็นการวิ่งทดสอบทั่วประเทศบนระยะทางกว่า 4,880 กิโลเมตร เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีสมรรถนะที่เพียงพอสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน มีศักยภาพรองรับการใช้งานวิ่งระยะไกลได้อย่างสะดวกสบายเหมือนรถยนต์ทั่วไป ด้วยความพร้อมของสถานีชาร์จที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

New MG ZS EV รถพลังงานไฟฟ้า 100% ในรูปแบบ SUV ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “TRULY EASY” ยนตรกรรมที่จะทำให้ชีวิตของคุณ “ง่าย” ขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา ภายนอกเรียบหรู ล้ำสมัยภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ลงตัวสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย ขับขี่ง่าย มั่นใจในทุกเส้นทาง

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

EASY & STYLISH – EXTERIOR DESIGN: ดีไซน์ภายนอกล้ำสมัย

New MG ZS EV มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นตามแบบฉบับรถ SUV ของ MG เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสปอร์ต ผสานเข้ากับเส้นสายที่ทันสมัย ลงตัวในทุกรายละเอียด พร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่สะท้อนภาพลักษณ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มากยิ่งขึ้น

  • มิติตัวถังยาว 4,323 มม. กว้าง 1,809 มม. สูง มม. ระยะฐานล้อ 2,585 มม.
  • กระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ GRILLE-LESS DESIGN
  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ตอนกลางวัน (Daytime Running Lights)
  • ไฟท้ายแบบ และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา
  • ล้ออัลลอยด์ ดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

EASY & CONVENIENT – INTERIOR DESIGN: ดีไซน์ภายใน เพื่อการใช้งานที่ “ง่าย” และ สบาย ยิ่งขึ้น

New MG ZS EV ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู แฝงความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

  • ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว
  • หน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว
  • หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
  • พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • กระจกมองหลังตัดแสง
  • ระบบกรองอากาศ PM 2.5
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
  • ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

EASY DRIVE: สมรรถนะเพื่อการขับขี่ที่ง่าย มั่นใจ และปลอดภัยยิ่งขึ้น

New MG ZS EV เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที

และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 50.3 kWh ทำให้สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

  • มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor
  • แบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาด 50.3 kWh
  • แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
  • ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ
  • โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Normal และโหมด Sport
  • ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam

*ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE (NEDC)

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

New MG ZS EV มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System 20 ระบบ ได้แก่

  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) ถือเป็นระบบใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาเป็นครั้งแรก โดยผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) และ LKA (Lane Keep Assist) เข้าไว้ด้วยกัน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

EASY CHARGE: ง่าย สะดวกสบาย ทุกการชาร์จ ด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม

New MG ZS EV ทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบรองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ

  • ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที*
  • ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที
  • ล่าสุด กับระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) จ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น

*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

EASY CONNECT: ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ทำให้การใช้งานง่ายและสะดวกสบายอย่างแท้จริง

New MG ZS EV มาพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่พร้อมทำให้ทุกการเชื่อมต่อในรถมีความง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ เชื่อมให้ผู้ใช้งานและรถเป็นหนึ่งเดียวกัน

Smart Check

  • ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์ และระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
  • ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
  • ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
  • ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ
  • ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ

Smart Command

  • กุญแจดิจิตอล
  • ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
  • ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
  • ระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan และตั้งค่าการเดินทางแบบ Team Travel
  • ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน
  • ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน Emergency Call
  • ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Centre
  • ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG Super Charge ผ่านทางสมาร์ทโฟน

Smart Connect

  • ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
  • ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
  • ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
  • ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน และอัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
  • อัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

New MG ZS EV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ได้แก่ สีน้ำเงิน (Como Blue) สีเงิน (Cosmic Silver) สีแดง (Scarlet Red) สีดำ (Black Knight) และสีขาว (Arctic White)

สำหรับผู้จอง New MG ZS EV ในช่องทางออนไลน์ผ่าน www.mgcars.com ระหว่างวันที่ 11-21 มีนาคมนี้ และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565 จะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษจากทางเอ็มจี ประกอบด้วย

  • เงินจอง 10,000 บาท จะมีมูลค่าเป็น 20,000 บาท เพื่อใช้หักออกจากราคาจำหน่าย NEW MG ZS EV เมื่อมีการส่งมอบรถอย่างเป็นทางการ
  • รับประกับแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
  • รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร
  • ฟรี! MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง
  • ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
  • ฟรี! อุปกรณ์เชื่อมต่อกระแสไฟ V2L มูลค่า 10,000 บาท

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

10 อันดับ รถ MPV ราคาดีในไทย ปี 2022

ถ้าจะให้พูดถึง “รถ MPV” (Multi-Purpose Vehicle) แล้ว นี่ล่ะ ถือเป็นขวัญใจของคนมีครอบครัวใหญ่ ญาติพี่น้องเยอะ หรือลูกหลายคนเลยทีเดียว สำหรับรถ MPV ส่วนใหญจะมีนั่งได้ตั้งแต่ 5 – 11 คน เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีครอบครัวใหญ่ๆ มีเด็กๆ เป็นได้ทั้งรถผู้สูงอายุ และรถคันที่สองของบ้าน ใช้งานได้หลากหลาย

สำหรับรถ MPV ในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 3 แบบหลักๆ ได้แก่ รถ MPV ที่มีพื้นฐานแบบเดียวกับรถเก๋ง แต่ออกแบบรูปทรงใหม่ให้เป็นรถสไตล์มินิแวน, รถ MPV แนว Crossover ที่ดูลุยกว่า ส่วนมากมักจะเน้นซุ้มโป่งล้อสีดำรอบคัน หรือยกสูงขึ้นหน่อย

และอีกแบบนั่นคือแบบ Minivan อันนี้ส่วนใหญ่จะพัฒนาพื้นฐานของตัวรถขึ้นมาใหม่ มีตั้งแต่รถมินิแวนรุ่นเล็ก จนถึงมินิแวนขนาดใหญ่ ส่วนมากนิยมใช้ประตูสไลด์ไฟฟ้า เพื่อให้คนเข้า-ออก ง่าย

ปัจจุบันกระแสความนิยมรถ MPV ถือได้ว่ามากพอสมควร แม้ว่าหลายรุ่นจะเป็นรถนำเข้า มีราคาสูงถึงหลายล้านบาทก็ตาม ในส่วนของคนมีครอบครัว มีเด็กๆ รวมไปถึงบ้านที่มีผู้สูงอายุ เน้นความนั่งสบาย ขึ้น-ลงสะดวก

ด้วยเหตุนี้ CARRO จึงขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ MPV ราคาถูกสุดในไทย ประจำปี 2022 มาให้ทุกท่านได้ทราบครับ.

Suzuki Ertiga / ซูซูกิ เออร์ติก้า

1. Suzuki Ertiga GL ราคา 659,000 บาท

Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติกา) เจเนอเรชั่นที่ 2 เปิดตัวในบ้านเราเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เป็นรถอเนกประสงค์แบบ MPV 7 ที่นั่ง นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย ที่ออกแบบตัวรถให้ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ห้องโดยสารภายในดูเรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพสูง คอนโซลลายไม้แบบเล่นระดับ และยังมีแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลังอีกด้วย

มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ทนทานด้วยโครงสร้างตัวถัง TECT และระบบ NVH ให้การขับขี่นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน พร้อมลดเสียงรบกวนตลอดเส้นทาง สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start

ใช้เครื่องยนต์เบนซินใหม่ ตัวเดียวกับในรุ่น Swift รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

Honda Mobilio / ฮอนด้า โมบิลิโอ้

2. Honda Mobilio S ราคา 659,000 บาท

Honda Mobilio (ฮอนด้า โมบิลิโอ) รถแบบ Sub-Compact SUV ที่พัฒนาจากพื้นฐานของ Brio ยืดระยะฐานล้อให้ยาวขึ้น จัดเป็นรถอเนกประสงค์ของ Honda รุ่นแรก ที่ผลิตในประเทศไทย โดยฮอนด้าเรียกรถรุ่นนี้ว่า Metro Utility Vehicle (MUV)

เปิดตัวตั้งแต่เดือนกันยายน 2557 และปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในเดือนพฤษภาคม 2560 ชูจุดเด่นห้องโดยสารกว้างสะดวกสบาย กับเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ล้ำสมัยด้วยคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมฟังก์ชั่นต่างๆ อาทิ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอ MID, ระบบแอร์อัตโนมัติ, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ หรือระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว ที่เชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI ได้ เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร จากในรุ่น City และ Jazz 117 แรงม้า พ่วงด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ให้สมรรถนะดี ประหยัดน้ำมัน และรองรับแก๊สโซฮอล์ E85

Toyota Sienta / โตโยต้า เซียนต้า

3. Toyota Sienta 1.5G ราคา 765,000 บาท

Toyota Sienta (โตโยต้า เซียนต้า) จัดเป็นรถในรูปแบบ MPV ราคาต่ำล้านเพียงรุ่นเดียวที่ใช้ประตูบานเลื่อนด้านข้างแบบไฟฟ้ามาให้ (ในรุ่นเริ่มต้น 1.5 G ราคา 765,000 บาท ประตูเลื่อนไฟฟ้าได้เฉพาะด้านซ้าย) เปิดตัวในไทยครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ก่อนจะปรับโฉมในช่วงเดือนสิงหาคม 2562 และเป็นรถที่นำเข้าจากอินโดนีเซียเช่นเคย

การออกแบบภายนอก ได้แรงบันดาลใจมาจาก “Urban Trekking Shoes” หรือ “รองเท้าเดินป่าสมัยใหม่” เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักการท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์หลากหลาย แต่เป็นรถที่ขับได้ทุกวัย และนั่งได้ถึง 7 ที่นั่ง พร้อมปรับรูปแบบการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ในรถมีระบบหน้าจอสัมผัสขนาด 6.8 นิ้ว เป็นมาตรฐาน รวมถึงระบบความปลอดภัยครบครัน

ขุมพลังใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส 2NR-FE ขนาด 1.5 ลิตร 108 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบ Sport Sequential Shift 7 สปีด อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 16.1 กม./ลิตร

Honda-BR-V / ฮอนด้า บีอาร์วี

4. Honda BR-V V ราคา 765,000 บาท

Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์วี) เป็นรถแนว Active Sport Crossover (หรือ Mini SUV) ที่ปรับโฉมล่าสุดไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่และไฟ LED สำหรับวิ่งกลางวัน, ไฟตัดหมอกใหม่ เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin) ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว แถมยังสีภายนอกเพิ่มสีใหม่ แดงมุก Passion Red

ชูจุดเด่นด้วยห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทนดำ-แดงสไตล์สปอร์ต มีเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถพับแยกแบบ 60:40 หรือพับตลบจังหวะเดียว (One Motion) ปรับเลื่อนหน้า-หลัง เพื่อให้ผู้โดยสาร แถวที่ 3 เข้า-ออกได้สะดวกยิ่งขึ้น และพนักพิงปรับเอนได้ถึง 3 ระดับ

โดยเบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง พนักพิงสามารถพับแยกแบบ 50:50 หรือพับตลบไปด้านหน้า 2 จังหวะ เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย และแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร แบบเดียวกับใน Honda City (รุ่นเก่า) ให้แรงม้าสูงสุด 117 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT โดยทั้งเครื่องยนต์และเกียร์ พัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยี Earth Dreams พร้อมรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85

Suzuki XL7 / ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7

5. Suzuki XL7 GLX ราคา 779,000 บาท

Suzuki XL7 (ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7) Crossover MPV อีกรุ่นที่เปิดตัวในเดือนกรกฏาคม 2563 ด้วยรูปแบบ Multi-Dynamic Crossover ที่ชูแนวคิด THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต พัฒนามาจากรุ่น Ertiga และนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย เอาใจชาวไทยที่ชอบรถแนวอเนกประสงค์ MPV ในรูปแบบ Crossover 7 ที่นั่ง ดีไซน์สปอร์ตเข้ม ดุดัน พร้อมลุย

ห้องโดยสารภายใน สไตล์สปอร์ตพรีเมียม ด้วยพวงมาลัย D-Shape แบบสปอร์ต มาพร้อมจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว พร้อม Apple CarPlay ระบบแอร์อัตโนมัติ พร้อมแอร์แถวหลัง, มี Keyless Push Start และชุดเบาะที่ปรับรูปแบบการใช้งานได้หลายอย่าง

มาพร้อมเครื่องยนต์รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เป็นที่คุ้นเคยกันดีจากในรุ่น Ertiga

Mitsubishi Xpander / เอ็กซ์แพนเดอร์

6. Mitsubishi Xpander GLS-LTD. ราคา 789,000 บาท

Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์) จัดเป็นรถ Crossover MPV ที่ยอดนิยมมากในประเทศอินโดนีเซีย และประเทศฟิลิปปินส์ นำมาเปิดตัวในไทยครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ด้วยคุณสมบัติที่ใหญ่กว่า สูงกว่า ในสไตล์รถ MPV ในระดับเดียวกัน และมีดีไซน์ตัวรถแบบ Advanced Dynamic Shield Design ที่ดูคล้ายกับรถ SUV มาก

กว้างขวางด้วยห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ผู้โดยสารแถวที่ 3 สามารถเดินภายในได้อย่างสะดวกสบาย ขณะที่เบาะนั่งแถวที่สอง สามารถพับเบาะกลางลงเพื่อใช้เป็นที่วางแขนได้ มีช่องวางแก้วน้ำให้ถึง 16 จุดรอบคัน มีแอร์สำหรับผู้โดยสารหลัง

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินรหัส 4A91 ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมปุ่ม Overdrive รองรับแก๊สโซฮอล์ E85 และยังมี Mitsubishi Xpander Cross ให้เลือก ในราคา 919,000 บาท

All-New Toyota Veloz 2022

7. Toyota Veloz 1.5 Smart ราคา 795,000 บาท

All-New Toyota Veloz (โตโยต้า เวลอซ) เป็นรถ MPV รุ่นใหม่ที่ทาง Toyota นำมาขายทดแทนรุ่น Avanza นั่นเอง ซึ่งเปิดตัวไปในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ด้วยการชูจุดเด่น ดีไซน์ล้ำสมัย แบบฉบับ Premium Crossover ตามแนวคิดการออกแบบ “Proud Active” พื้นที่ภายในกว้างขวาง ปรับเบาะที่นั่งโดยสารได้ถึง 7 แบบ การขับขี่ที่มั่นคง อัตราเร่งดีเยี่ยม จาก Platform ขับเคลื่อนล้อหน้าใหม่ เจาะกลุ่มคนมีครอบครัว และกลุ่มธุรกิจ SME สมัยใหม่ ในราคาที่ง่ายต่อการเป็นเจ้าของ

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Dual VVT-i 106 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ มอบอัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.9 กม./ ลิตร ให้อัตราเร่งทันใจ ตอบสนองนุ่มนวล เงียบกว่าในทุกช่วงความเร็ว หยุดรถมั่นใจด้วยดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมเบรกมือไฟฟ้า

ระบบมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดด้วย Toyota Safety Sense หรือ TSS พร้อมฟังก์ชั่นเพิ่มเติม อาทิ ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (Pedal Misoperation Control) ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Front Departure Alert) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert (LDA) With Steering Assist) ในรุ่น Premium

MG V80 / เอ็มจี วี80

8. MG V80 2.5 ราคา 988,000 บาท

MG V80 (เอ็มจี วี80) ถ้าใครจำแบรนด์ Maxus (แม็คซัส) ได้ ที่ทาง จะต้องนึกถึงเจ้า Maxus V80 (แม็คซัส วี80) ที่เคยนำเข้าจากจีนมาขายในบ้านเราเมื่อเดือนสิงหาคม 2557 เพื่อหวังตีตลาดรถตู้แบบ MPV ให้กระจุยด้วยขนาดรถไซส์ยุโรปแบบฉบับอังกฤษ นั่งได้ตั้งแต่ 12 – 16 ที่นั่ง

กับการนำเสนอรถ Segment ใหม่อย่าง GPV (Grand Passenger Van) ขนาดกว้างใหญ่เหมือนมินิบัส บานประตูหลังขนาดใหญ่ แบบ Giant Swing แยก เปิด 2 บาน ด้านในตัวรถมีความสูงถึง 171 ซม. ทำให้ยืนได้สบาย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

แต่ทาง SAIC-CP ยังไม่ยอมแพ้ ในเดือนมีนาคม 2562 ได้เปิดตัว MG V80 สายพันธุ์ลูกครึ่งยุโรป-จีน ปรับที่นั่งใหม่เป็นขนาด 11 ที่นั่ง แถมลดราคาตัวรถลงมาอีก แต่ก็ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมจากชาวรถตู้อยู่ดี

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ Eco-D ดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2.5 ลิตร พร้อมระบบเทอโบชาร์จแปรผัน VNT Turbo (Variable Nozzle Vane Turbo) และ Intercooler 136 แรงม้า พร้อมชุดปั๊มแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงคอมมอนเรลของ Bosch ให้แรงดันสูงถึง 1,800 บาร์ มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติ SeleMatic 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

Toyota Innova Crysta / โตโยต้า อินโนว่า คริสต้า

9. Toyota Innova Crysta 2.0 Entry ราคา 1,199,000 บาท

Toyota Innova Crysta (โตโยต้า อินโนว่า คริสต้า) จัดเป็นรถ MPV ขนาดกลางยอดฮิตของคนมีครอบครัว คนขับรถโรงแรม หรือแท็กซี่ นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกันยายน 2559 จนถึงช่วงปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ดีไซน์รอบคัน ให้มีความโฉบเฉี่ยว ทันสมัย

ภายนอกมาพร้อมจุดเด่นใหม่ๆ ได้แก่ ไฟหน้าแบบ LED Projector และไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED, ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว และ 17 นิ้ว พร้อมระบบช่วยปิดประตูท้าย Door Easy Closer เป็นต้น

ส่วนภายในรถ มาพร้อมเบาะนั่งหุ้มหนัง พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุลายไม้, หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay มีระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry กับระบบสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start และกล้องมองภาพรอบทิศทาง Panoramic View Monitor

สำหรับรุ่นเริ่มต้น ใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส 1TR-FE ขนาด 2.0 ลิตร 139 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 1GD-FTV (High) ขนาด 2.8 ลิตร 174 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift

Hyundai H-1 / ฮุนได เอชวัน

10. Hyundai H-1 Touring ราคา 1,329,000 บาท

Hyundai H-1 (ฮุนได เอชวัน) จัดเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ขายในบ้านเรามาอย่างยาวนานมาก นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550 สำหรับค่ายรถยนต์จากแดนเกาหลี Hyundai (ฮุนได) ซึ่งครองตลาดรถกลุ่มนี้ เรียกได้ว่าแทบจะผูกขาดเลยทีเดียว

ด้วยตัวรถขนาดใหญ่ แต่นำเข้าจากอินโดนีเซีย ทำให้ราคาย่อมเยาว์กว่ารถประเภทเดียวกันแบรนด์อื่นๆ มาก และไม่ว่าจะให้ผู้บริหารนั่ง หรือให้คนในครอบครัวนั่ง … ได้หมด!

ด้วยสมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซลรหัส D4CB Turbo คอมมอนเรล CRDi ขนาด 2.5 ลิตร ให้พลังขับเคลื่อนถึง 175 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด นุ่มนวล เกาะถนน และทรงตัวดี ด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเป็นแบบคอยล์สปริง พร้อมจุดยึด 5 จุด

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

หมายเหตุ : *ข้อมูลสินค้า 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลสินค้าที่ Update ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2565 เมื่อเวลาผ่านไปราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรือราคาล่าสุด ที่ตัวแทนจำหน่ายรถรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง

**การจัดอันดับ หากเป็นรถ MPV รุ่นที่มีราคาเท่ากันในหลายยี่ห้อนั้น ทางเราจะจัดอันดับเรียงตามการเปิดตัวโฉมใหม่ล่าสุด หรือการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ล่าสุด ขึ้นเป็นอันดับแรก

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

นับตั้งแต่ MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) ไดทำการปรับเปลี่ยนโฉมไปในช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา ก็ยังคงสร้างปรากฎการณ์เป็นรถ SUV แบบ Crossover ที่ขายดีในบ้านเราอยู่อย่างต่อเนื่อง

แต่ทว่าคู่แฝดที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า อย่าง MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) ที่ดูเหมือนจะเงียบๆ หายไปในบ้านเรา ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

อ่านเพิ่มเติม >> เจาะลึก MG ZS EV ใหม่ รถ SUV พลังไฟฟ้า 100% ในราคา 1,190,000 บาท

ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า ในต่างประเทศแถบยุโรปและอังกฤษตอนนี้ MG ZS EV 2022 ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ พร้อมขายกันแล้วจ้า เชื่อว่าคนชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า MG รอเก็บตังค์ซื้อกันเลย ไม่ว่าจะกี่ล้านก็ตาม …

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

สำหรับรูปโฉมดีไซน์ภายนอกของ MG ZS EV 2022 หน้าตาดูใกล้เคียงกับ MG ZS รุ่นไมเนอร์เชนจ์ แต่ปรับปรุงหน้าตาใหม่ด้วยการใช้กันชนและกระจังหน้าแบบทึบ สไตล์รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมออกแบบให้ฝาปิดช่องชาร์จไฟบริเวณกระจังหน้าให้สังเกตได้ง่ายขึ้น พร้อมชุดไฟท้ายและกันชนท้ายออกแบบใหม่ และล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

ห้องโดยสารภายใน ติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมทั้งมาตรวัดแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว อีกทั้งยังมีระบบชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สายมาให้ด้วย

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

ส่วนระบบความปลอดภัย ยังคงจัดหนักจัดเต็มไปกับระบบ Advanced Synchronized Protection System เหมือนในโฉมแรกเช่นเคย ทั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย (FSF) ระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System ทั้งหมด 9 ระบบ และระบบเสริมความปลอดภัยในขณะขับขี่ Advanced Driver-Assistance Systems ได้แก่

  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าของรุ่น Standard Range ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (178 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่น Long Range เพิ่มกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าเป็น 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน ที่ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ หรือ 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 439 กิโลเมตร

แต่อีกจุดเด่นของ MG ZS EV 2022 ที่ไม่พูดไม่ได้ก็คงจะเป็นชุดแบตเตอรี่ แบบ Lithium-ion ความจุ 44.5 kWh ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นความจุ 51 kWh ที่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 318 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP)

อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่แบบ Long Range ขนาด 72 kWh ที่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 439 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) และรองรับการชาร์จด่วนตามจุด EV Charger ด้วยกำลังไฟมากขึ้นถึง 76 กิโลวัตต์ ส่งผลให้ประหยัดเวลาชาร์จ จาก 0-100% ลงเหลือ 42 นาทีเท่านั้น (หากชาร์จไฟบ้านปกติแบบ AC ขนาด 7kW ใช้เวลาราว 10.5 ชั่วโมง)

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

MG-New-Car-Promotion

รวม Promotion รถใหม่ 2022 MG (เอ็มจี) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ประจำเดือนเมษายน 2565

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม มาที่นี่เลย CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งรถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยีจากระบบ AI ช่วยประเมินสภาพรถก่อนขาย

รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือต้องการหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่คุณต้องการ ก็ได้เช่นกัน มาซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ที่ CARRO Automall สิ! โทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line @carroautomall

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai คลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

New MG HS

  • ดาวน์เริ่มต้นที่ 5% หรือดอกเบี้ยพิเศษ 0.90 % นาน 4 ปี
  • ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ความคุ้มครอง 1 ปี
  • ประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.

New MG HS PHEV

  • ดาวน์เริ่มต้นที่ 5% หรือดอกเบี้ยพิเศษ 0.90 % นาน 4 ปี
  • ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ความคุ้มครอง 1 ปี
  • ประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟรี MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง
  • แบตเตอรี่แรงดันสูงรับประกันนาน 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

โปรโมชั่น MG มอบโปรโมชั่นสุด Fun

MG5

  • ดาวน์เริ่มต้น 5% หรือ ดอกเบี้ย 0.55% นาน 6 เดือน
  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

MG EP Plus

  • รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.89%
  • ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
  • ฟรี! ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
  • พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

MG ZS

  • ดอกเบี้ยพิเศษ 0.90%
  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

MG Extender

  • รับดอกเบี้ย 0% นาน 6 ปี
  • ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี
  • พิเศษ! สำหรับลูกค้าเก่าเอ็มจี (Loyalty Program) หรือ นำรถเก่าแลกรถใหม่ (Trade-in) รับสิทธิ์ ส่วนลดเพิ่มเติมสูงสุด 20,000 บาท
  • ฟรี ค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กิโลเมตร

โปรโมชั่น

  • รถยนต์รุ่นนี้มีแผนที่จะเปิดตัวภายในปี 2566
  • ภาพ MG Cyberster ที่ใช้ในการโฆษณาเป็นเพียงรถ Concept เท่านั้น โดยรถยนต์ที่จำหน่ายจริงจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งอาจมีดีไซน์ และฟังก์ชันที่แตกต่าง เนื่องจากต้องปรับเปลี่ยนให้สอดรับกับการใช้งานบนท้องถนนได้จริง
  • ลูกค้าที่จอง จะมีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นร่วมกับทีมพัฒนา MG Cyberster เฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ในเวลาระหว่างนี้ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะมีการอัพเดทสถานการณ์ และอาจมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้เป็นการเฉพาะ ให้กับผู้จองสิทธิ์ได้เข้าร่วมเท่านั้น
  • สิทธิ์ในการจองแบ่งเป็น 2 ระดับ ลูกค้าที่สนใจสามารถเลือกจองได้ 1 สิทธิ์ต่อ 1 ท่าน ต่อ 1 คัน เท่านั้น

ดู Promotion MG เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.mgcars.com/th/Promotion

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์–ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บุกตลาดรถยนต์นั่งในครึ่งปีหลังด้วย “All-New MG5” (เอ็มจี5) ด้วยคอนเซ็ปต์ “BEYOND” เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตคูเป้ซีดาน พร้อมพื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่ ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน สมรรถนะการขับขี่ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยเหนือระดับ รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย

ในราคาเริ่มต้นที่ 559,000 บาท!!! พร้อมจำหน่ายและเปิดให้ทดลองขับแล้ววันนี้ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

All-New MG5 2021 เป็นยนตรกรรมรุ่นล่าสุดที่สะท้อนแนวทางการพัฒนาของ MG ซึ่งประกอบด้วย 3 แกนหลัก ได้แก่ เทคโนโลยี (Technology) ความทันสมัย (Fashion) และ ความคุ้มค่า (Value)

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

โดยมีรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตคูเป้ที่เป็นเอกลักษณ์ มีมิติตัวถังที่ใหญ่กว่ารถยนต์ประเภท B-Segment ทั่วไป ซึ่งมีมิติตัวรถยาว 4,675 มม. กว้าง 1,842 มม. สูง 1,473 มม. (รุ่น X 1,480 มม.) และระยะฐานล้อ 2,680 มม.

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

จึงให้มีพื้นที่ภายห้องโดยสารที่กว้างขวางนั่งสบาย มีพื้นที่เหนือศีรษะที่สูงโปร่ง พร้อมการตกแต่งสไตล์สปอร์ตพรีเมียม

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

การออกแบบคอนโซลกลางแบบ Driver-Focus Cockpit ที่ให้องศาที่เหมาะกับตำแหน่งคนขับ รวมไปถึงการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ในระดับมาตรฐานของ B-Sedan มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ซึ่งจุดเด่นของรถรุ่นนี้ มีอาทิ …

  • ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ
  • หลังคาซันรูฟ (เฉพาะรุ่น X)
  • วัสดุภายในเป็นแบบผิวสัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ในหลายตำแหน่ง
  • หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และโทรศัพท์มือถือระบบ Android
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น
  • ปุ่ม PUSH Start

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการติดตั้งอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่เหนือระดับเทียบเท่ากับ รถ C-Sedan ได้แก่

  • ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว (เฉพาะรุ่น X)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น X)
  • มาตรวัดอัจฉริยะแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว
  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับรถยนต์ MG ที่โดดเด่นด้วยระบบการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุด คือ กุญแจดิจิตอล (Digital Key) ที่เจ้าของรถสามารถส่งผ่านมายังโทรศัพท์มือถือ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องใช้กุญแจในการสตาร์ท อีกทั้งยังสามารถส่งกุญแจดิจิตอลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ได้ด้วยการรับ-ส่งโค้ด ผ่านทางแอพพลิเคชั่น i-SMART

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

All-New MG5 ให้ความสนุกในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VTi-TECH มีกำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

รวมไปถึงระบบช่วยในการขับขี่และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว (Synchronized Protection System) ที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น

  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ มาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA
  • เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (AVH)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA) (เฉพาะรุ่น X)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) (เฉพาะรุ่น X)
  • ม่านถุงลมนิรภัย (เฉพาะรุ่น X)
  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 3 มิติ (เฉพาะรุ่น X)
  • ระบบควบคุมการทรงตัวในขณะเข้าโค้ง (XDS)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล (TCS)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS) และอื่นๆ อีกมากมาย

เป้าหมายของ MG คือ การให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ที่ดีกว่าเดิมอยู่เสมอ ด้วยการแนะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่มีความโดดเด่นในด้าน เทคโนโลยี (Technology) ความทันสมัย (Fashion) และ ความคุ้มค่า (Value) สู่ตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่องครอบคลุมเกือบทุกเซกเมนต์

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

การเปิดตัว All-New MG5 ในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งชื่นชอบรถยนต์นั่งสไตล์สปอร์ต โดยรถรุ่นนี้มาพร้อมนิยาม “BEYOND” ที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ที่มีความโดดเด่นและมีมุมมองที่เหนือระดับ รวมทั้งสะท้อนวิสัยทัศน์ของ MG ที่ต้องการสร้างจุดขายที่เหนือชั้นกว่าให้กับรถยนต์ในกลุ่ม B-Segment รวมไปถึงกลุ่ม Eco-Car ของไทยให้ก้าวข้ามกรอบเดิมๆ

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

ซึ่งเรามั่นใจว่าด้วยความโดดเด่นของ All-New MG5 และความพร้อมของการบริการหลังการขายด้วยศูนย์บริการมาตรฐานเอ็มจีกว่า 150 แห่ง ทั่วประเทศ จะทำให้รถยนต์รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยม สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างตรงจุดและมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้นกว่าให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างแน่นอน

ราคาของ All-New MG5 2021 ใหม่

  • รุ่น C (รุ่นเริ่มต้น) ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น D (รุ่นกลาง) ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น X (รุ่นท็อป) ราคา 689,000 บาท

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

สำหรับ All-New MG5 2021 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น C รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเหลือง (Nuclear Yellow) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเงิน (Silver Metallic) สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey)

โดยบริษัทฯ จะเริ่มทยอยส่งมอบ All-New MG5 2021 ให้กับลูกค้าภายในปลายเดือนนี้เป็นต้นไป

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

อีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall

MG-Cyberster-Concept-2021

ในงาน Auto Shanghai 2021 ครั้งนี้ ค่ายรถเมืองจีนหลายค่ายต่างนำรถยนต์รุ่นเด็ดๆ มาประชันกันในงานนี้สารพัด เพื่อเอาใจลูกค้าชาวจีนให้หันมาซื้อรถกันอีกครั้ง หลังจากที่ต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 กันไปอย่างหนักหน่วงในปีที่ผ่านมา

และทางด้านค่าย SAIC Motor ผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน และยังเป็นเจ้าของแบรนด์ MG (เอ็มจี) ได้นำรถต้นแบบ MG Cyberster (เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมห้องโดยสารสไตล์ E-Sport คันแรกในโลก มาโชว์ในงานนี้ด้วย

ซึ่ง MG Cyberster โดดเด่นด้วยความทันสมัย ความอัจฉริยะ และก้าวล้ำนำหน้า โดยสืบทอดรูปทรงคลาสสิคของรถเปิดประทุน และจิตวิญญาณของรถยนต์ MGB Roadster ไว้อย่างเต็มขั้น MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง ว่ารถสปอร์ตขวัญใจชาวอีสปอร์ตรุ่นนี้ จะมีอะไรเป็นที่น่าสนใจบ้าง

MG-Cyberster-Concept-2021

MG Cyberster คือรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มากับพร้อมห้องโดยสารสไตล์เกมมิ่งคันแรกในโลก สร้างสรรค์โดยทีมนักออกแบบของเอ็มจี สืบทอดรูปทรงคลาสสิคและความเป็นผู้นำเทรนด์ของรถยนต์ MGB Roadster เข้ากับแนวทางการออกแบบใหม่ ระหว่างความสุนทรียภาพ และจินตนาการเชิงศิลป์ ที่สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง

MG-Cyberster-Concept-2021

ด้านหน้าของ MG Cyberster สืบทอดดีไซน์สไตล์คลาสสิคของ MG ด้วยไฟหน้าทรงกลม กระจังหน้าเรียวยาว พร้อมชุดไฟหน้า “Magic Eye” แบบ Interactive และกระจังหน้าที่ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้านข้างตัวรถใช้ชุดไฟ LED “Laser Belt” ลงตัวกับล้อดีไซน์ใหม่แบบ “Hacker Blade” ทำให้ตัวรถดูทรงพลังมากยิ่งขึ้น

MG-Cyberster-Concept-2021

ด้านท้ายของ MG Cyberster ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์แบบยุโรปในลักษณะท้ายสั้น หรือ Kammback พร้อมชุดไฟท้ายดีไซน์สุดล้ำแบบ “Red Wing” ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจน

MG-Cyberster-Concept-2021

นอกจากนี้ การออกแบบโลโก้เรืองแสง ไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศร และสปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกัน ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวของรถสปอร์ตอย่างเต็มที่

MG-Cyberster-Concept-2021

ภายในของ MG Cyberster ดูล้ำยุค มาพร้อมการเชื่อมต่ออัจฉริยะรองรับเทคโนโลยี 5G และชุดแบตเตอรี่ ยังให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร และให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที

สำหรับแนวทางการออกแบบภายใน จะเป็นแบบ “Digital Fiber” วางผังที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง ออกแบบตำแหน่งที่นั่งแยกฝั่งซ้าย-ขวา ออกจากกัน และมีแผงหน้าปัด LED ขนาดใหญ่พร้อมจอกลาง

MG-Cyberster-Concept-2021

โดยแผงหน้าปัดแบบชิ้นเดียว ที่ผสานหลากหลายธีมไว้ด้วยกัน ไม่เพียงแค่แสดงข้อมูลสำคัญๆ แต่ยังให้อารมณ์สปอร์ตคลาสสิคในสไตล์ยุโรป เบาะรองนั่งแบบ Zero-Gravity Seat มือจับหุ้มหนังสีแดงที่บริเวณแผงประตู ลงตัวกับ Laser Belt ในขณะที่เส้นสายภายในและผิวสัมผัสสร้างโมเมนตัมได้อย่างทรงพลัง

MG-Cyberster-Concept-2021

นอกจากนี้ เอ็มจี และ Bilibili E-Sports ซึ่งเป็นบริษัทด้าน E-Sport รายใหญ่ในจีน ยังได้ร่วมกันสร้าง Cockpit เกมซูเปอร์คาร์รุ่นแรกในรถ MG ซึ่งมีดีไซน์ภายในที่รองรับการออกแบบเสียงและแสงในธีม E-sport ให้อารมณ์ความรู้สึกเสมือนหนึ่งอยู่ในโลกของเกมอย่างแท้จริง ให้ผู้ใช้โดยเฉพาะ Gen Z จะชื่นชอบมาก

MG-Cyberster-Concept-2021

ทางด้านสมรรถนะ MG Cyberster ติดตั้งแบตเตอรี่ไร้โมดูล (Moduleless Battery) เทคโนโลยี CTP ในเวอร์ชั่นอัพเกรดใหม่ ซึ่งให้ระยะการขับขี่ที่ไกลถึง 800 กิโลเมตร สามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 3 วินาที

และมีเทคโนโลยีอัจฉริยะชั้นสูง ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการอัพเกรดแบบแอคทิฟ (Active-upgrading) และสมาร์ท ค็อกพิท (Smart Cockpit) นอกจากนี้ MG Cyberster ยังมีเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 อีกด้วย

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า MG Cyberster แบบสปอร์ตโรสเตอร์ต้นแบบคันนี้ น่าจะถูกใจคอเกมมิ่งกันอย่างมากครับ!

หากช่วงนี้ ใครกำลังอยากขายรถคันเดิมอยู่ สามารถขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ โดยได้ราคาที่ดีที่สุด รับประกันความพึงพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก -> https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ ซื้อรถ คลิก -> https://th.carro.co/taladrod/allcar/carro 

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

New-MG-HS-PHEV-2020

MG ประเทศไทย ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มรถ SUV และรถยนต์พลังงานทางเลือกในประเทศไทย ประกาศเปิดตัว New MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส ปลั๊กอินไฮบริด) ชูแนวคิด “Refinement” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต โดยสะท้อนถึงความเหนือระดับ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบายความปลอดภัย และการแนะนำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid

MG ได้เริ่มทำตลาดรถยนต์ในไทยเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ซึ่งต้องเผชิญกับการตั้งคำถาม และความท้าทายมากมาย จากความทุ่มเททำงานอย่างหนักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้ในตอนนี้ MG ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กับตลาดรถยนต์เมืองไทย

และต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รถยนต์คันที่ 100,000 ได้ผลิตออกจากโรงงานของเรา ซึ่งก็คือ NEW MG HS PHEV ที่เปิดตัวในวันนี้ ถือเป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบที่สี่ต่อจากเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล และรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย

New-MG-HS-PHEV-2020

New MG HS PHEV “REFINEMENT” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต

รถ SUV รุ่นล่าสุดของเอ็มจี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานพลังสุดยอดแห่งระบบขับเคลื่อน 2 ระบบ เข้าด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า เพิ่มขีดสุดให้สมรรถนะในการขับขี่ พร้อมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยขั้นสูง ครบครันด้วยองค์ประกอบการดีไซน์ที่โดดเด่น ภายใต้แนวคิด Brit Dynamic ที่ผสานทั้ง สมรรถนะ (Performance) การควบคุม (Handling) การออกแบบ (Design) และความปลอดภัย (Safety) ได้อย่างลงตัว

New-MG-HS-PHEV-2020

Refined Performance: ขุมพลังแห่งการขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบของระบบปลั๊กอินไฮบริด

New MG HS PHEV ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร จากขุมพลังของเครื่องยนต์เบนซิน Turbo ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร มีระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที ตอบสนองได้อย่างทันใจ

New-MG-HS-PHEV-2020

และเพิ่มความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด EV และโหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport ที่เพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น

แบตเตอรี่ใน New MG HS PHEV เป็นแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง โดยมีขนาดใหญ่ถึง 16.6 kWh ทำให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพในการสะสมพลังงานได้มากกว่าจึงวิ่งได้นานขึ้น รวมถึงการทำระยะทางได้มากขึ้น โดยสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% สูงสุดถึง 67 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

New-MG-HS-PHEV-2020

นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยีในมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Hairpin Design ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถดึงสมรรถนะของการส่งกำลังและลดอัตราการสูญเสียพลังงานได้ดียิ่งขึ้น พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Coolant ซึ่งดีกว่าระบบระบายความร้อนแบบปกติ ทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ด้วยแบตเตอรี่ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก AMERICAN UL2580 และผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น

New MG HS PHEV มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่สามารถชาร์จพลังงาน ในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) โดยเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ

และด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ทำให้ New MG HS PHEV มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่ 65 กม./ลิตร (อ้างอิงข้อมูลจาก Eco Sticker) และมีการปล่อยค่าไอเสีย หรือคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 36 กรัม/กม.

New MG HS PHEV ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ด้วยระบบกันสะเทือนของช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut และช่วงล่างหลังแบบ Multi-link ที่มาพร้อมเหล็กกันโคลงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่บนทุกสภาพถนน

New-MG-HS-PHEV-2020

Refined Exterior: ขีดสุดของการออกแบบ

New MG HS PHEV มีความโดดเด่นทางดีไซน์ที่ยกระดับพื้นฐานมาจากรถยนต์ C-SUV ยอดนิยมอย่าง “MG HS” ใช้เส้นสายตัวถังที่โค้งมน ในรูปแบบ British Shoulder Line กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะของเอ็มจีแบบ Stellar Magnetic Field ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ไฟท้าย LED Space Light Field และไฟเลี้ยวแบบ Sequential ที่แสดงผลแบบไล่ระดับทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

เพิ่มเอกลักษณ์ความเป็นรถยนต์ Plug-in Hybrid ด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ในสไตล์ Thunder Wing Blade ขนาด 18 นิ้ว

New-MG-HS-PHEV-2020

Refined Interior & Utility: สะดวกสบายตลอดเส้นทาง

New MG HS PHEV ตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยสี 2-Tone Monaco Blue และใช้วัสดุ Soft Touch เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสารด้วย NVH Luxury Silence Space เพิ่มฟิล์มกันเสียง และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก พร้อมหลังคาซันรูฟที่เปิดกว้างแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) บนพื้นที่เกือบ 90% ของพื้นที่หลังคา

มอบประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ ด้วยจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว และจอควบคุมกลางแบบ Touch Screen ขนาด 10 นิ้ว ระบบเสียง BOSE 8.1 Sound System พร้อมสร้างบรรยากาศและสีสันให้กับการขับขี่ด้วย Interactive Ambient Light ที่ปรับเฉดสีได้มากถึง 64 เฉดสี

นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกฝั่ง Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key พร้อมปุ่ม Push Start และฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า

New-MG-HS-PHEV-2020

Refined i-SMART: รู้ใจกว่าที่คิด

New MG HS PHEV ติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่ทำให้เอ็มจีเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี การเชื่อมต่อ โดยทำให้ผู้ขับขี่สามารถสื่อสารกับรถเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ด้วย Smart Command ที่สามารถสั่งการระบบผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทยหรือควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน

พร้อมยกระดับความสมาร์ทเพื่อความปลอดภัยด้วย Emergency Call ซึ่งเป็นระบบโทรหาคนสำคัญอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน Smart Connect เชื่อมต่อโลกออนไลน์อย่างชาญฉลาด สามารถเลือกฟังเพลงได้ทั้งแบบออนไลน์และสตรีมมิ่ง ระบบค้นหาร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว พร้อมนำทางและรายงานการจราจรแบบ Real Time รวมทั้งการอ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างทันเหตุการณ์

และยังสามารถอัพเกรดระบบได้เองผ่านช่องทางออนไลน์ Smart Check ที่มีระบบ Charging Management ในการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ และการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมถึงการตรวจสอบสถานะรถยนต์และเตือนเมื่อมีสถานะผิดปกติ สั่งการล็อคหรือปลดล็อคประตูรถ ค้นหารถด้วยระบบ Find My Car และการเข้าถึงบริการ Passion Service ของเอ็มจี ช่วยค้นหาศูนย์บริการ รวมถึงการบันทึกการดูแลรักษารถ ตามระยะ ผ่าน MG Mobile Application

New-MG-HS-PHEV-2020

Refined Safety: ปลอดภัยรอบคัน

New MG HS PHEV มีระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System กว่า 25 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน 14 ระบบ และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการ ขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 11 ระบบ

สำหรับระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ถือเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระดับที่ 2 (Partial Automation) โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้

New-MG-HS-PHEV-2020

กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา RDA (Rear Drive Assist)

  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

กลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน LAS (Lane Assist System)

  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
  • ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)

กลุ่มระบบที่ช่วยในการขับขี่ FDA (Front Drive Assist)

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)

นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัย 6 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

New-MG-HS-PHEV-2020

New MG HS PHEV มีสีตัวถังทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว Arctic White โดยมีสีภายในแบบ 2-Tone Monaco Blue ในขณะที่ตัวถังสีแดง Scarlet Red และสีดำ Black Knight จะมาพร้อมการตกแต่งภายในสีดำ ในราคา 1,359,000 บาท! และโปรโมชั่นพิเศษ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี และ MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง

ส่วนใครที่อยากได้ New MG HS PHEV ใหม่ แต่เงินสดมีไม่เพียงพอ ถ้าใช้รถคันเดิมอยู่ สามารถนำมาขายกับทาง CARRO ได้ แม้ว่ารถจะติดไฟแนนซ์ เราก็พร้อมปิดไฟแนนซ์ให้ และยินดีรับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

MG-eHS-Plug-In-Hybrid

อีกหนึ่งค่ายรถชื่อดังในตำนานของอังกฤษ (ที่ปัจจุบันมีเจ้าของเป็นจีน) ซึ่งในบ้านเรารู้จักกันดีอย่าง MG (เอ็มจี) ก่อนหน้านั้นก็ได้สร้างความฮือฮาไปหนึ่งยก ด้วยการนำเข้า MG ZS EV (เอ็มจี แซดเอส อีวี) รถ Crossover SUV ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% สีฟ้าสดใสเข้ามาขายในไทยเป็นเจ้าแรก อีกทั้งยังทำราคาไม่แพง ส่งผลให้ขายดิบขายดี เกินความคาดหมายเลยทีเดียว!

ล่าสุดทาง MG ก็ได้เผยๆ มาแล้วว่า ในช่วงปลายปี 2020 นี้ เตรียผลิต MG eHS Plug-In Hybrid (เอ็มจี อีเอชเอส ปลั๊กอินไฮบริด) ที่โรงงานของ SAIC-CP ในระยองมาจำหน่ายอีกรุ่น ซึ่งเป็นรถในกลุ่ม PHEV ที่ยังมาพร้อมสีฟ้า Copenhagen Blue ให้เลือกอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : MG เปิดตัวรถ SUV “MG HS” ใหม่ ในราคา 919,000 – 1,119,000 บาท

MG-eHS-Plug-In-Hybrid

สำหรับรูปโฉมภายนอกของ MG eHS Plug-In Hybrid นั้น ยังคงเหมือนกันรุ่นหลักอย่าง MG HS ทุกอย่าง ภายใต้แนวคิด “Elegance” ระดับรถซีดานหรู

MG-eHS-Plug-In-Hybrid

ตัวรถโดดเด่นด้วยเส้นสายตัวถังแบบ British Shoulder Line เน้นเรื่องความโค้งมนของตัวรถ กระจังหน้าดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ MG ซึ่งมาพร้อมแนวคิด Stella Magnetic Field ที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากกลุ่มดาวบนท้องฟ้าที่ดึงดูดเข้าหากัน พร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว ลาย Thunder Sword Blade

MG-eHS-Plug-In-Hybrid

มิติตัวรถยาว 4,574 มม. กว้าง 1,876 มม. สูง 1,685 มม. ระยะฐานล้อ 2,720 มม. บนน้ำหนักตัวรถ 1,775 กิโลกรัม

MG-eHS-Plug-In-Hybrid

ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยความโค้งมน เล่นระดับ เลือกใช้เบาะหนังแท้ผสมหนัง Alcantara สีทูโทนน้ำเงิน-ขาว Monaco Blue ติดตั้งหน้าปัดแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลทั้งเรื่องการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง

MG-eHS-Plug-In-Hybrid

พร้อมชุดหน้าจอสัมผัสแบบ Smart Touchscreen ขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมทั้งติดตั้งระบบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Internet Car Intelligent System 3.0 (Zebra Smart Solutions บนพื้นฐานของ AliOS เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งของ Alibaba Cloud) มาให้ และระบบเครื่องเสียงคุณภาพจาก Bose

MG-eHS-Plug-In-Hybrid

MG eHS ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยและระบบช่วยควบคุมการขับขี่ที่เรียกว่า MG Pilot อาทิ ระบบช่วยควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ ACC, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW, ระบบควบคุมความเร็ว SAS Assist, ระบบตรวจสอบจุดบอด BLIS, ระบบเตือนการเปิดประตู DOW, ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC และระบบภาพพาโนรามา 360 องศา เป็นต้น

MG-eHS-Plug-In-Hybrid

New MG eHS Plug-In Hybrid มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน GDI Turbo ขนาด 1.5 ลิตร แบบเดียวกับใน MG HS รุ่นธรรมดา ให้พละกำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 10 สปีด EDU II ขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Hair-Pin High Power Permanent Magnetic Motor ขนาด 121 แรงม้า ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 1.3 ลิตร/100 กม. (หรือ 76.9 กม./ลิตร)

อีกทั้งยังติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดความจุ 16.6 kWh ทำให้สามารถขับด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียวๆ หรือโหมด EV ได้ระยะทางมากถึง 75 กิโลเมตร

เมื่อรวมกำลังทั้งหมด จะให้แรงม้าสูงสุด 291 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,300 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.6 วินาที

MG-eHS-Plug-In-Hybrid

สำหรับ MG eHS Plug-In Hybrid มีให้เลือกเป็นเจ้าของด้วยกัน 3 รุ่นย่อย (กับราคาที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลจีน) ดังนี้

  • รุ่น e-Plus ราคา 189,800 หยวน หรือประมาณ 869,251 บาท
  • รุ่น e-Pro ราคา 199,800 หยวน หรือประมาณ 915,049 บาท
  • รุ่น e-Trophy ราคา 219,800 หยวน หรือประมาณ 1,006,645 บาท

ติดตามรอตัวจริงของ MG eHS Plug-In Hybrid ในไทยได้ เปิดตัวช่วงก่อนงาน Motor Expo 2020 นี้ ราคาเปิดตัวอยู่ประมาณหนึ่งล้านบาทกลางๆ ขอรับ!

ถ้าคุณเกิดอยากตัดสินใจขายรถด่วนๆ เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือได้เงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน