Memories-Toyota-Corolla-Submodels

รถยนต์อีกรุ่นหนึ่งที่ไม่ว่าคุณจะเป็นมุมไหนของโลก ไม่ว่าจะทวีปไหนก็ตาม Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) ต้องมีอยู่ที่นั่น! และยังเป็นรถยนต์ ที่สร้างชื่อชั้นให้ Toyota สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ของโลก

สำหรับ Toyota Corolla คือรุ่นรถที่ขายดีที่สุดในโลกของโตโยต้า กล่าวคือ โคโรลล่า ก็คือโตโยต้า นับตั้งแต่การเปิดตัวรถโคโรลล่ารุ่นแรกในประเทศญี่ปุ่นในปี 2509 และเป็นรถที่ขายดีที่สุดของโตโยต้า ปัจจุบันขายมาแล้ว 150 ประเทศทั่วโลก ด้วยยอดขายสะสม 48 ล้านคัน (ยอดถึงในปี 2020)

คำว่า “Corolla” นั้น มีที่มาจากความหมายในภาษาอังกฤษ หมายถึง กลีบชั้นที่อยู่รอบเกสรดอกไม้ ซึ่งในอดีตของ Corolla หลายรุ่นๆ มักจะใช้สัญลักษณ์หน้ารถ (ซึ่งเลียนแบบมาจากตราประจำตระกูล แบบที่นิยมกันในยุโรปในอดีต) เป็นรูปตัว “C” และมีสัญลัษณ์รูปดอกไม้ เหนือคำว่าตัว C อีกที

แต่ในความหมายของ Corolla แล้ว ยังเป็นชื่อที่ทาง Toyota ได้ใช้และจำหน่าย เพื่อรักษาความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ยังได้แตกไลน์ออกไปเป็นรถรุ่นต่างๆ เพิ่มเติมอีกด้วย

เราจะมาทำความรู้จัก กับประวัติคร่าวๆ ของ Toyota Corolla รุ่นย่อยต่างๆ กันอีกครั้งครับ นับตั้งแต่ในอดีต จวบจนปัจจุบัน Toyota Corolla มีใช้ชื่อรุ่นแยกย่อยหลายรุ่นทีเดียว

Toyota-Corolla-Altis-ZZE122

1. Toyota Corolla Altis (1999 – ปัจจุบัน)

ต้นกำเนิดของ Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) ในชื่อรุ่นแยกย่อย “Altis” นั้น ใช้ในไทยเป็นครั้งแรก ในเดือนกุมภาพันธ์ 2542 กับโฉมเจเนอเรชั่นที่ 8 AE112 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ หรือ Toyota Hi-Torque GOA จะใช้ในรุ่น 1.6 ลิตร และ Altis จะใช้ในรุ่น 1.8 ลิตร (ซึ่งหลายคนมักจะเข้าใจกันว่าชื่อ Altis นั้น ใช้เป็นครั้งแรกในตัว อัลติสหน้าหมู)

คำว่า Altis มองอีกมุมหนึ่ง เป็นชื่อของศาสนสถานในกรีก ที่ตั้งอยู่ในบริเวณโอลิมเปีย

ในส่วนของ Toyota Corolla Altis ESport นั้น เริ่มใช้ในไทยครั้งแรกเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2557 โดยขอเริ่มจากตัว E นั้นย่อมาจากคำว่า Excellent Extreme Exciting ซึ่งจะใช้ตัวอักษร E เพียงอักษรเดียว เพื่อสื่อสารถึงความยอดเยี่ยม ความเป็นที่สุด และความเร้าใจจากภาพลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน ส่วนคำที่สอง มาจากคำว่า Sporty แต่ใช้ย่อว่า Sport เพื่อบ่งบอกถึงสมรรถนะความเร้าใจในการขับขี่ที่น่าหลงไหล

Toyota-Corolla-Levin-TE27

2. Toyota Corolla Levin (1972 – 2000)

Toyota Coroll Levin (โตโยต้า โคโรลล่า เลวิน) คือชื่อรถสปอร์ตตัวถังคูเป้ในตระกูล Corolla ที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปี 1972 ก่อนจะผลิตขายมาหลายโมเดลด้วยกัน รุ่นที่ดังมากคงต้องยกให้โฉมเจเนอเรชั่นที่ 5 ที่ผลิตออกจำหน่ายตั้งแต่ปี 1983 – 1987 ในรุ่นย่อย AE85 และ AE86

จนกระทั่งรุ่นสุดท้าย เจเนอเรชั่นที่ 8 ที่เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 1995 และปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์กันในปี 1998 ก่อนจะเลิกขายไปในช่วงกลางปี 2000 เนื่องมาจากตลาดรถยนต์ 2 ประตู Coupe เสื่อมความนิยม ไม่คุ้มค่าต่อการผลิตต่อไป

สำหรับ “Levin” เป็นคำที่ใช้ใน Poetic word (บทกวีนิพนธ์) ซึ่งมาจากคำว่า “Lightning” (หรือ ฟ้าแลบ) ซึ่งทาง Toyota ให้ความหมายไว้ประมาณนี้ แต่บางข้อมูลก็บอกว่า เป็นการรวมกันระหว่างคำว่า Corolla + Twincam

Toyota-Corolla-II

3. Toyota Corolla II (1982 – 1999)

Toyota Corolla II (โตโยต้า โคโรลล่า ทู) เป็นการแตกหน่อออกมาจากรถ Sub-Compact ขนาดเล็กรุ่นดังของ Toyota อย่าง Tercel และ Corsa เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 19 พฤษภาคม 1982 กับรูปแบบของรถ 3 ประตู และ 5 ประตู Hatchback เท่านั้น

ผลิตออกจำหน่ายด้วยกันถึง 4 เจเนอเรชั่น ก่อนจะตัดสินใจเลิกผลิตไปเมื่อกลางปี 1999 เพื่อลดความซ้ำซ้อนของรถยนต์ในสายการผลิต

ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า Corolla II นี้ ก็เพราะว่า Toyota ตั้งใจจะให้เป็นน้องชายของ Corolla ผู้พี่ โดย Corolla II ได้เริ่มจำหน่ายในเครือข่ายจำหน่าย Corolla แทนที่รุ่น Tercel ที่ถูกย้ายไปจำหน่ายในเครือข่ายของ Vista นั่นเอง

Toyota-Corolla-FX

4. Toyota Corolla FX (1984 – 1995)

Toyota Corolla FX (โตโยต้า โคโรลล่า เอฟเอ็กซ์) เป็นการแตกหน่อออกมาจาก Corolla Toyota กับรูปแบบของรถ 3 ประตู และ 5 ประตู Hatchback เท่านั้น เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1984

ผลิตออกมาจำหน่ายด้วยกันถึง 3 เจเนอเรชั่น ก่อนจะเลิกผลิตไปราวๆ กลางปี 1995

คำว่า “FX” นั้นแปลงมาจากคำว่า “FF 2-Box” นั้นหมายถึงว่ารถรุ่นนี้ เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และมีรูปทรงรถแบบ 2 Box นั่นเอง ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุโรป จนกระแสนี้มาถึงญี่ปุ่นด้วย

Toyota-Corolla-Ceres

5. Toyota Corolla Ceres (1992 – 1998)

Toyota Corolla Ceres (โตโยต้า โคโรลล่า เซเรส) ถือกำเนิดในช่วงยุคที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังบูม ฟองสบู่ยังไม่แตก ด้วยรูปแบบของรถ Hardtop Compact 4 ประตู ครั้งแรกของตระกูล Corolla ที่นิยมมากในยุค 90 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 18 พฤษภาคม 1992 คู่กันไปกับรถฝาแฝดอย่าง Toyota Sprinter Marino ก่อนจะเลิกผลิตไปในเดือนมิถุนายน 1998

Ceres เป็นชื่อที่มาจาก เทพีเซเรส ตามตำนานเทพปกรณัมโรมัน เป็นเทพีแห่งพืชผลที่กำลังเจริญเติบโต (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าธัญพืช) และความรักของมารดา

Toyota-Corolla-Spacio

6. Toyota Corolla Spacio (1997 – 2007)

Toyota Corolla Spacio (โตโยต้า โคโรลล่า สปาซิโอ) เป็นครั้งแรกของตระกูล Corolla กับรถในรูปแบบ Minivan MPV ที่กำลังบูมในช่วงปลายยุค 90 บนพื้นฐานเดียวกันกับ Toyota Corolla Sedan แต่มีที่นั่งด้วยกัน 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ส่วนในเวอร์ชั่นยุโรป ถูกแยกออกไปใช้ในชื่อว่า “Corolla Verso”

ผลิตออกมาจำหน่ายด้วยกันเพียง 2 เจเนอเรชั่นเท่านั้น ก่อนจะเลิกผลิตไปในช่วงเดือนมิถุนายน 2007

สำหรับ Spacio เป็นคำที่แผลงมาจากภาษาอิตาลี “Spazio” ที่หมายความว่า “ห้อง” หรือ “พื้นที่” (Space ในภาษาอังกฤษ)

Toyota-Corolla-Fielder-JDM

7. Toyota Corolla Fielder (2000 – 2018)

Toyota Corolla Fielder (โตโยต้า โคโรลล่า ฟีลด์เดอร์) เป็นรุ่นย่อยของ Corolla ในตระกูล Corolla Van และ Wagon ที่ใช้กันมา นับตั้งแต่เปิดตัวเจเนอเรชั่นแรกเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2000 เป็นรถแวกอนที่มีพื้นฐานเดียวกับในรุ่น Sedan ผลิตขายกันมา 3 เจเนอเรชั่น ก่อนจะยุติบทบาทชื่อนี้ไปในช่วงปี 2018

และในส่วนของ Corolla Van รุ่นดั้งเดิม ก็ถูกจับแยกออกไปทำตลาดเป็นรถเพื่อการพาณิชย์โดยเฉพาะเลยในชื่อ Probox

คำว่า “Fielder” ในภาษาอังกฤษ มีได้หลายความหมาย เช่น คนรับลูกในกีฬาเบสบอลและคริกเก็ต แต่ในความหมายที่ Toyota ให้ไว้นั้น หมายถึง การทัศนศึกษา หรือมีกิจกรรมสันทนาการกลางแจ้งอื่นๆ

Toyota-Corolla-Runx-JDM

8. Toyota Corolla Runx (2001 – 2006)

Toyota Corolla Runx (โตโยต้า โคโรลล่า รังซ์) เป็น Corolla เวอร์ชั่น Hatchback ที่กลับมาเปิดตลาดในญี่ปุ่นอีกครั้ง กับเจเนอเรชั่นที่ 9 เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2001 แต่รุ่นนี้จะเน้นการทำตลาดในยุโรปมากกว่า ด้วยรูปแบบ 3 ประตู Hatchback (เวอร์ชั่นยุโรป) และแบบ 5 ประตู Hatchback

พร้อมกับใช้ชื่อนี้ ขายกันมาจนถึงประมาณเดือนตุลาคม 2006 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อรุ่นไปเป็น “Auris” แทน …

สำหรับชื่อรุ่น “Runx” เป็นการรวมเอาคำว่า Run และเพิ่มคำว่า “X” เข้าไป

Toyota-Corolla-Rumion

9. Toyota Corolla Rumion (2007 – 2015)

Toyota Corolla Rumion (โตโยต้า โคโรลล่า รูเมี่ยน) เปิดตัวออกมาขายด้วยชื่อนี้ เพียงแค่โฉมเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นการสานต่อมาจากรุ่น Spacio กับรถในรูปแบบ Tall Wagon Compact ซึ่งเป็นรถรุ่นเดียวกับ Scion xB ที่ Toyota ผลิตจำหน่ายใน USA และ Toyota Rukus ในออสเตรเลีย

โดยรุ่นนี้ใช้พื้นฐานร่วมกันกับรุ่น Auris และ Blade มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร และ 1.8 ลิตร

ชื่อรุ่นย่อยนี้ เป็นการรวมกันระหว่างคำว่า “Roomy” และ “Unique” ด้วยห้องโดยสารที่ให้การใช้งานแบบอเนกประสงค์ ไม่เหมือนใคร

Toyota-Corolla-Axio

10. Toyota Corolla Axio (2006 – 2019)

Toyota Corolla Axio (โตโยต้า โคโรลล่า แอกซิโอ้) เป็นการแยกกัน Corolla เวอร์ชั่นญี่ปุ่น กับ Corolla เวอร์ชั่นรุกตลาดโลก เอาใจตลาดบ้านเกิดตัวเองมากขึ้น เน้นใช้งานง่าย ดีไซน์ดูสุขุม และราคาถูก ซึ่งถูกใจผู้ใช้รถชาวญี่ปุ่นมากกว่า

เริ่มด้วยการเปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 10 ตุลาคม 2006 ในรุ่น 4 ประตู Sedan ผลิตออกมาด้วยชื่อต่อท้ายนี้เพียงแค่ 2 เจเนอเรชั่น ก่อนจะหวนกลับไปใช้ชื่อ Corolla เพียวๆ แบบเดิมอีกครั้ง …

สำหรับชื่อของ Axio นั้นมาจากในภาษากรีก “Axia” ที่หมายถึง “คุณค่า” และ “คุณภาพ”

Toyota-Corolla-Cross-2020

11. Toyota Corolla Cross (2020 – ปัจจุบัน)

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) ใหม่ นับเป็นรถอเนกประสงค์ SUV เปิดตัวครั้งแรกของโลกในไทยเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ทั้วในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร และเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร ที่มาพร้อมสโลแกน A New Journey…ให้ชีวิตเดินทาง กับเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นตอบโจทย์การใช้ชีวิตเพื่อที่สุดของความสะดวกสบาย

แนวคิดของรถคันนี้คือ “การนำ DNA ของรถยนต์โคโรลล่า มาพัฒนาให้เกิดเป็นรถยนต์อเนกประสงค์” รวมทั้งความหรูหรา พร้อมประโยชน์ใช้สอยที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า “ความแข็งแกร่งสำหรับชีวิตในเมือง” (Urban Toughness)

คำว่า Cross มีความหมายได้หลายความหมาย เช่น ข้าม, กากบาท หรือไม้กางเขน หรือจะเป็นคำย่อมาจากคำว่า Crossover และยังหมายถึงคำว่า โกรธ ได้อีกด้วย เป็นต้น

ส่วนใครที่ฝันอยากจะเป็นเจ้าของรถยนต์ Toyota Corolla รุ่นใดรุ่นหนึ่ง ก็ลองขายรถคันเดิมแล้วเอาเงินไปซื้อ Toyota Corolla รุ่นเหล่านี้มาใช้ดู เพียงลงขายรถคันเดิมง่ายๆ ได้ที่ Link นี้เลย https://th.carro.co/sell-car/express ให้ราคาดี รับเงินไว ปิดการขายได้ใน 24 ชั่วโมง หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand คลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

Toyota-TRD-2000

ย้อนกลับไปในยุค 90 ช่วงนั้นรถแต่งรถแรง ยังไม่ได้เป็นที่นิยมเป็นวงกว้าง ถึงขั้นที่ว่าค่ายรถต่างๆ ต้องผลิตออกมาเอาใจตลาดแบบในปัจจุบัน แต่ก็จะมีคนเฉพาะกลุ่ม (เอาจริงๆ ก็กลุ่มใหญ่พอสมควรเลยล่ะ) ที่นิยมเล่นรถแต่งซิ่งในแนวนี้อยู่ในเวลานั้น จึงเป็นโอกาสทอง ของบรรดาสำนักแต่งต่างๆ ได้แสดงโชว์ฝีมือ และออก “ของแรง” มาให้ได้ซื้อหากัน ในจำนวนจำกัด และราคาสูงมากก็ตาม

ด้านสำนักแต่งที่คู่บุญของ Toyota มานาน อย่าง “TRD” (Toyota Racing Development) ก็ได้ทำการโมดิฟายรถในเครือของ Toyota มาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในยุค 90 ชื่อชั้นของ TRD อาจไม่คุ้นหูของคนทั่วไปในไทยนัก

แต่สำหรับคนรักรถโตโยต้าแล้ว ชื่อนี้มีของดีออกมาเยอะ! นับตั้งแต่น้องเล็ก TRD 2000, TRD 2000GT เอาเจ้า MR2 มาแต่ง ไปจนถึงสปอร์ตรุ่นใหญ่ TRD 3000GT ที่จับเจ้า Supra มาแต่งให้แรง

MR.CARRO จะขอนำเสนอ TRD 2000 ในมุมของ User Voice ครับ

TRD-2000-Catalogue

ในปี 1994 ช่วงที่รายการแข่งขันรถยนต์ JTCC (All Japan Touring Car Championship) กำลังฮิตในประเทศญี่ปุ่น Toyota ได้ส่ง Corolla ลงเข้าแข่งขัน ผนวกกับเศรษฐกิจญี่ปุ่น ที่กำลังบูม (ก่อนฟองสบู่แตก) ในขณะนั้น

Toyota-TRD-2000

ทางสำนักแต่ง TRD (Toyota Racing Development) และ Toyota Techno Craft Co., Ltd จึงนำ Toyota Corolla เจเนอเรชั่นที่ 7 หรือ “สามห่วง” ที่รู้จักกันดีในบ้านเรา รุ่นย่อย GT (รหัสรุ่น E-AE101-AEMVF) มาแต่งพิเศษในชื่อ “TRD 2000” เมื่อเดือนตุลาคม 1994 ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 99 คัน

Toyota-TRD-2000

สำหรับรถคันที่เรานำเสนออยู่นี้ ได้ถูกเจ้าของรถตกแต่งให้แตกต่างไปจาก TRD 2000 เดิมเล็กน้อย เริ่มต้นตั้งแต่การเปลี่ยนไฟหน้าเป็นแบบเดียวกับ Corolla Wagon (หรือแบบของ Depo ที่ขายในบ้านเรานั่นล่ะ) เลนส์ไฟเลี้ยวแบบใส กระจังหน้านำของ Corolla FX มาใส่ ส่วนล้อนั้นใช้ของ Enkei NT03 และยางขนาด 205/40R17 ของ Dunlop

Toyota-TRD-2000

เครื่องตัวเดียวกับ Celica!

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3S-GE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับที่ใช้ในการแข่งขัน JTCC ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.5 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด บนน้ำหนักตัวรถ 1,140 กิโลกรัม

Toyota-TRD-2000

ของแท้ ต้องมีแผ่นเพลท หน้าตาแบบนี้ จาก Toyota Techno Craft

ซึ่งเจ้าเครื่องยนต์ 3S-GE ที่อยู่ใน TRD 2000 นี้ มีแรงม้าที่มากกว่าเครื่องยนต์ 4A-GE ที่อยู่ใน Corolla GT ถึง 20 แรงม้า และแรงบิดที่มากกว่า 3.0 กก.-ม.

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามมาตรฐานโหมด 10-15) อยู่ที่ 11.2 กม./ลิตร

Toyota-TRD-2000

สำหรับชุดยางแท่นเครื่องของ TRD ได้ปรับปรุงใหม่ ให้รองรับแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ได้มากขึ้น

Toyota-TRD-2000

ภายใน ได้อารมณ์สปอร์ตกำลังดี

TRD 2000 มาพร้อมชุดแต่งครบครัน อาทิ คอยล์สปริง TRD, หัวเกียร์ TRD แบบ Quick Shift, ท่อไอเสียคู่ TRD แบบสแตนเลส, โช๊คอัพ TRD, ผ้าเบรก TRD, เหล็กค้ำโช๊คหน้า TRD, ชุดเกียร์ Manual Transaxle แบบ S54 แบบเดียวกับใน Toyota Celica (ST202), สติ้กเกอร์ด้านข้าง และชื่อรุ่นด้านหลัง

ส่วนคันที่เรานำเสนอนี้ ภายในใช้พวงมาลัย 4 ก้านของ MOMO และเบาะนั่งของ Recaro ซึ่งเจ้าของได้ตกแต่งเองเพิ่มเติม

Toyota-TRD-2000

ชุดมาตรวัดจากรุ่นธรรมดา จนดูไม่ว่านี่เครื่องแรง!

ในส่วนของ Option สามารถสั่งเพิ่มเติมได้ อาทิ ชุดคลัทช์ TRD, เฟืองท้าย TRD แบบ LSD, เหล็กกันโคลง TRD, เบาะนั่ง Konig Prinz P200, พวงมาลัยหุ้มหนังแท้ 3 ก้าน TRD และล้อแม็ก TRD Type-FT (15X6.5JJ-38) พร้อมยาง Yokohama Grand Prix M5 ขนาด 195/55R15

Toyota-TRD-2000

ราคาตัวรถ 1,726,000 เยน ราคารวมชุดแต่งทั้งหมด 3,350,000 เยน

แต่ความพิเศษของรถรุ่นนี้ ตอนขายก็พิเศษไปด้วยเช่นกัน เพราะขายได้แค่ใน 1 จังหวัด และ 3 จังหวัด ที่ต้องแสดงการมีสถานที่จอดรถเป็นของตนเอง (ถึงจะซื้อได้) อีกทั้งยังไม่ขายให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี

แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่สูงมาก ทำให้รถรุ่นนี้ ขายไปได้แค่ 10 คันเท่านั้น!

Toyota-TRD-2000

ท่อไอเสียคู่ ติดตั้งมาให้พร้อม

แม้ว่าภายนอกจะดูธรรมดาสามัญ แต่ถ้าเป็นคนเล่นรถ จะรู้เลยว่ารุ่นนี้น่ะ ไม่ธรรมดา!

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถใหม่ป้ายแดง มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครไม่มีงบซื้อรถป้ายแดง ลองหารถมือสองรุ่นข้างต้น มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

เนื้อเรื่อง / ภาพ โดย Kentaro HIROSHIMA

แหล่งที่มาจาก:

โคโรลล่าเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่สอง

Corolla-Axio-Exterior

Corolla-Fielder-Exterior

Toyota Corolla Axio และ Corolla Fielder เป็นรถซีดานขนาดคอมแพ็ค ที่พัฒนาขึ้นแตกต่างไปจาก Corolla ที่จำหน่ายในตลาดโลกโดยสิ้นเชิง ตามสไตล์อนุรักษ์นิยมของญี่ปุ่น ซึ่งถูกปรับไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรกไปเมื่อปี 2558 และในเดือนนี้ Toyota Japan ได้ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์อีกรอบ ให้ดูทันสมัยขึ้น ก่อนจะเปิดตัวรุ่นใหม่จริงๆ ในปี 2018 นี้

Corolla-Axio-Exterior

สำหรับชื่อรุ่นของ “Axio” นั้น มาจากภาษากรีก “Axia” หมายถึง “Value” หรือ “Quality” ในภาษาอังกฤษ ส่วน “Fielder” ก็มาจากภาษาอังกฤษ ตามความหมายคือ คนรับลูกในกีฬาเบสบอล และคริกเก็ต

Corolla-Fielder-Exterior

Corolla-Fielder-Exterior

Toyota Corolla Axio และ Fielder มีการปรับโฉมกระจังหน้าเพียงเล็กน้อย ด้วยการปรับขอบบนของกระจังหน้าให้บางขึ้น ปรับมิติของกระจังหน้าให้นูนขึ้น ปรับกระจังหน้า และเปลี่ยนทรงกันชนหน้าใหม่ ออกแบบช่องรับอากาศ ซ้าย-ขวา ของกันชนหน้า ดูให้ดูเข้มขึ้น

Corolla-Axio-Interior

Corolla-Axio-Interior

ภายในห้องโดยสาร แทบไม่มีอะไรต่างไปจากเดิม มีแค่มีการเปลี่ยนโทนสีภายในห้องโดยสารสำหรับรุ่นย่อย “W x B” มีให้เลือกทั้งโทนสีดำคาดด้วยสีเทา และโทนสีขาว

Corolla-Fielder-Interior

Corolla-Fielder-Interior

ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้งระบบ Toyota Safety Sense C พร้อมเพิ่มระบบ Intelligent Clearance Sonar (ICS) ระบบเบรกอัตโนมัติ เมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง หรือถอยจอดใกล้วัตถุในระยะกระชั้นชิดเกินไป โดยระบบจะตัดกำลังเครื่องยนต์พร้อมเหยียบเบรกให้อัตโนมัติ

Corolla-Fielder-Utility

สำหรับ Toyota Corolla Axio และ Corolla Fielder เครื่องยนต์มีให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ …

เครื่องเบนซินขนาด 1.3 ลิตร (เฉพาะ Corolla Axio) รหัส 1NR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.3 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i อัตราสิ้นเปลืองน้ำเชื้อเพลิงอยู่ที่ 20.6 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน JC08)

เครื่องเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR-FKE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-iE ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.9 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i อัตราสิ้นเปลืองน้ำเชื้อเพลิงอยู่ที่ 23.4 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน JC08)

ส่วนในรุ่นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และแบบ 4WD จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า (103 แรงม้า ในรุ่น 4WD) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.1 กก.-ม. (13.5 กก.-ม. ในรุ่น 4WD) ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i อัตราสิ้นเปลืองน้ำเชื้อเพลิงอยู่ที่ 18.0 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน JC08)

Corolla-Axio-Hybrid-Engine

ด้านขุมพลังไฮบริด เป็นเครื่องเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FXE 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 11.3 กก.-ม. ที่ 3,600-4,400 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 61 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

Corolla-Fielder-Utility

Toyota Corolla Axio มีสีให้เลือก 9 สี ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,526,040 เยน ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ไปจนถึงสูงสุด 2,482,920 เยน ในรุ่น Hybrid ส่วน Corolla Fielder มีสีให้เลือก 9 สี ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,656,720 เยน ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ไปจนถึงสูงสุด 2,536,920 เยน ในรุ่น Hybrid