New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

Triton ใหม่ พร้อมเปิดขาย 17 พฤศจิกายน 2561 พัฒนาขึ้นใหม่ให้ “แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค”

“Mitsubishi Triton” (มิตซูบิชิ ไทรทัน) หรือ “L200” ในตลาดโลก โฉมไมเนอร์เชนจ์ เตรียมเปิดตัวครั้งแรกของโลก ภายใต้แนวคิด “Engineered Beyond Tough” พร้อมเชิญทั้งสื่อไทยและสื่อต่างประเทศมาร่วมงาน เพราะถือเป็น Global Launch Ceremony ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

หน้าตาภายนอกใช้ไฟหน้าแบบ 2 ชั้น และกระจังหน้าแบบ Dynamic Shield ดูคล้ายกับ Mitsubishi Pajero Sport และน้องใหม่อย่าง Mitsubishi Xpander มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED Tube กับกันชนดีไซน์ใหม่ และลงตัวกับล้อแม็กลาย 6 ก้านคู่

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

มิติตัวรถ (ในรุ่น Double Cab 4WD) ตัวรถยาว 5,300 มม. กว้าง 1,815 มม. สูง 1,795 มม. ระยะฐานล้อ 3,000 มม. ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง 1,520 / 1,515 มม. ระยะต่ำสุดถึงพื้น 220 มม. และน้ำหนักตัวรถ 1,960 กก.

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

มิติตัวรถ (ในรุ่น Athlete) ตัวรถยาว 5,300 มม. กว้าง 1,815 มม. สูง 1,795 มม. ระยะฐานล้อ 3,000 มม. ความกว้างช่วงล้อหน้า-หลัง 1,520 / 1,515 มม. ระยะต่ำสุดถึงพื้น 220 มม. และน้ำหนักตัวรถ 1,960 กก.

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

ส่วนออพชั่นภายใน และดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ปรับเปลี่ยนเยอะพอสมควร ช่องแอร์แบบใหม่ ใช้วัสดุภายในดูโดดเด่นขึ้น

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

ในรุ่น Single Cab 4WD, Mega Cab Plus, Double Cab Plus และ Double Cab 4WD ใช้ขุมพลังแบบดีเซลขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด แบบใหม่พร้อม Sport Mode

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

ส่วนในรุ่น Top มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super-Select 4WD ll และ Differential Lock และยังเพิ่มโหมดขับขี่บนเส้นทางออฟโรด สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เหมาะกับสภาพถนน ในโหมด 4LLc ได้แก่ Gravel Mud /Snow Sand และ Rock รวมทั้งระบบ Easy-Select 4WD ในรุ่นล่างที่สามารถเลือกโหมดควบคุมได้สะดวก

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

ระบบความปลอดภัยเพียบ อาทิ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM) สามารถตรวจจับได้ทั้งพาหนะและคน ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตาและแจ้งเตือนขณะเปลี่ยนเลน (BSW กับ LCA) ระบบเตือนขณะถอยออกจากช่องจอดรถ (RCTA) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งรุ่นแรงและรวดเร็ว (UMS) เป็นต้น

New-Mitsubishi-Triton-Thailand-2018

ราคาของ Triton ใหม่ …

Mitsubishi-Triton-2018-Price

Mitsubishi-Triton-2018-Price

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น วางแผนที่จะจำหน่าย มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ และรุ่นเดิม ที่ประมาณ 180,000 คัน ภายในปีงบประมาณนี้ โดยรถรุ่นดังกล่าวถือเป็นรถที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เมื่อปีงบประมาณที่แล้ว รองจากรถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์

Honda-StepWGN-Spada

ปรับหน้าตาดูทันสมัย ควบคู่ไปกับเครื่องยนต์พลังไฮบริด

Honda StepWGN / StepWGN Spada (ฮอนด้า สเตปแวกอน / สเตปแวกอน สปาด้า) โฉมปัจจุบันที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2015 ก็ได้เวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เพื่อช่วงชิงยอดขายจากคู่แข่งซะที

Honda-StepWGN-Spada

โดย StepWGN Spada โฉมไมเนอร์เชนจ์ที่คุณกำลังเห็นอยู่นี้ ทาง Honda ได้ปรับปรุงหน้าตาให้ดูทันสมัย (หรือดูเหมือนหุ่นยนต์?) และร่วมสมัยกับการออกแบบในฮอนด้ารุ่นอื่นๆ อาทิเช่น ชุดกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED รวมไปถึงชุดไฟท้ายแบบ LED และสปอยเลอร์หลังดีไซน์ใหม่ เป็นต้น

Honda-StepWGN-Spada

Honda-StepWGN-Spada

มาพร้อมมิติตัวถังยาว 4,695 มม. (รุ่น Spada 4,760 มม.) กว้าง 1,695 มม. สูง 1,840 มม. และระยะฐานล้อ 2,890 มม.

Honda-StepWGN-Spada

Honda-StepWGN-Spada

ห้องโดยสารภายใน สะดวกสบายด้วยเบาะนั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้ามี Heater ในเบาะ สนุกไปกับระบบ Infotainment แบบหน้าจอสัมผัส คอนโซลกลางติดตั้ง USB จ่ายไฟ 2 จุด ติดตั้งเครื่องเล่น DVD แบบพับเก็บได้ พร้อมหน้าจอขนาด 9 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Triple Zone และระบบฟอกอากาศ Plasma Cluster เป็นต้น

Honda-StepWGN-Spada

Honda-StepWGN-Spada

Honda StepWGN Spada ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมระบบความปลอดภัย Honda Sensing ใหม่ ประกอบด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน – Adaptive Cruise Control (ACC), ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก- Collision Mitigation Braking System (CMBS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ – Lane Keeping Assist System (LKAS) รวมไปถึงระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ – Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW) เป็นต้น

Honda-StepWGN-Spada

Honda StepWGN Spada มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส L15B แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VTEC Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 20.7 กก.-ม. (203 นิวตันเมตร) ที่ 1,600-5,500 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันได้ดีเลยทีเดียว ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) ได้มากถึง 17.0 กม./ลิตร ในรุ่น B 2WD ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

และเครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 2.0 ลิตร รหัส LFA-H4 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC + i-MMD ให้แรงม้าสูงสุด 145 แรงม้า (PS) ที่ 6,200 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 17.8 กก.-ม. (175 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า (PS) ที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 32.1 กก.-ม. (315 นิวตัน-เมตร) ที่ 0-2,000 รอบ/นาที ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ตามโหมด JC08) ได้มากถึง 25.0 กม./ลิตร และส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

Honda StepWGN Spada มีสีให้เลือกทั้งหมด 8 สี และ 5 รุ่นย่อย ในราคาเริ่มต้นที่ 2,852,280 เยน ไปจนถึง 3,559,680 เยน

Honda-StepWGN-Spada

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.honda.co.jp

เจาะลึก-NewYaris

เจาะลึก! Toyota Yaris Hatchback ใหม่ มีเพิ่มอะไรให้บ้าง ในแต่ละรุ่นย่อย?

Toyota-Yaris-Head

หลังจากที่ Toyota ได้เปิดตัว Yaris Hatchback Minorchange (ยาริส แฮทช์แบ็ค ไมเนอร์เชนจ์) ไปแล้วเมื่อวานที่ผ่านมา เชื่อได้ว่าแฟนๆ โตโยต้า ที่กำลังสนใจและอยากซื้อรถใหม่ หรือกำลังต้องการศึกษาข้อมูลของ Yaris Hatchback ในตอนนี้ คงอยากรู้เป็นแน่แท้ว่า มีอะไรจัดมาให้ หรือเพิ่มขึ้นมาในแต่ละรุ่นย่อยบ้าง?

ทาง CARRO ขอรวบรวมข้อมูลอุปกรณ์มาตรฐานของ Yaris ทุกรุ่นย่อย มาให้ทุกท่านได้พิจารณากันครับ

Toyota Yaris Hatchback มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แกรุ่น J ECO, J, E และ G มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 86 แรงม้า 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 11.0 กก.-ม. (108 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

มิติตัวรถยาว 4,145 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,475 มม. (รุ่น G 1,500 มม.) ระยะฐานล้อ 2,550 มม.

Toyota-Yaris-Safety

และสีใหม่! Citrus Mica Metallic (มาแทนสี Frozen Blue Metallic)

รุ่น J ECO ราคา 479,000 บาท

Toyota-Yaris-J-Eco-Grade

Toyota-Yaris-J-Eco-Grade-Interiorอุปกรณ์มาตรฐานรุ่น J ECO

– ล้อกระทะเหล็กแบบ 14 นิ้ว
– ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ฮาโลเจน
– ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding
– เสาอากาศแบบสั้น
– ที่ปัดน้ำฝนแบบธรรมดา
– กระจกมองข้างสีดำ
– มือจับประตูสีดำ
– พวงมาลัยแบบยูรีเทน ปรับสูง-ต่ำ ได้
– เบาะนั่งหุ้มวัสดุผ้า
– กระจกไฟฟ้าคู่หน้า (ด้านหลังแบบมือหมุน)
– เบาะนั่งด้านหลังพับได้
– ไฟอ่านแผนที่
– Eco Meter
– กุญแจรีโมท
– ลำโพง 2 ตำแหน่ง (ไม่มีเครื่องเสียง)
– กระจกมองข้างแบบธรรมดา
– ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านนิรภัยด้านข้าง และ หัวเข่าฝั่งคนขับ)
– ระบบเบรก ABS/EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
– ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
– ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC

รุ่น J ราคา 529,000 บาท

Toyota-Yaris-J-Grade

Toyota-Yaris-J-Grade-Interior

อุปกรณ์มาตรฐาน (ที่เพิ่มมาจากรุ่น J ECO)

– ล้อกระทะเหล็กแบบ 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ
– กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
– มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ
– กระจกไฟฟ้า 4 บาน
– เบาะคนขับปรับสูง-ต่ำได้
– กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
– เครื่องเสียง AM/ FM / CD / MP3 / WMA พร้อม USB / AUX

รุ่น E ราคา 559,000 บาท
Toyota-Yaris-E-Grade

Toyota-Yaris-E-Grade-Interior

อุปกรณ์มาตรฐาน (ที่เพิ่มมาจากรุ่น J)

– ล้อแม็กขนาด 15 นิ้ว
– แผ่นกันความร้อนใต้ฝากระโปรง
– ที่ปัดน้ำฝนหน่วงเวลาและปรับตั้งเวลาได้
– กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว
– กระจกบังลมหน้า Acoustic Glass
– กระจกแต่งหน้าบริเวณที่บังแดดคู่หน้า
– เบาะหลังปรับพับแยก 60:40
– แผงปิดห้องสัมภาระท้ายรถ
– มาตรวัดเรืองแสง
– จอแสดงข้อมูลการขับขี่ (MID)
– ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
– Bluetooth
– ลำโพง 4 ตำแหน่ง
– สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
– กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า
– สัญญาณกะระยะท้าย
– กุญแจ Immobilizer
– สัญญาณกันขโมย TDS

รุ่น G ราคา 609,000 บาท

Toyota-Yaris-G-Grade

Toyota-Yaris-G-Grade-Interior

อุปกรณ์มาตรฐาน (ที่เพิ่มมาจากรุ่น E)

– ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อม LED Light Guiding
– ไฟหน้าเปิด-ปิด อัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home
– ไฟส่องสว่างแบบ LED Daytime Running Lights
– ไฟตัดหมอกหน้า
– กระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม ด้านล่างสีดำเงา
– เสาอากาศแบบครีบฉลาม
– มือจับประตูโครเมียม
– พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง ตกแต่งด้วยแถบเมทัลลิก
– ระบบ Smart Entry และ Push Start

หากคุณกำลังตัดสินใจซื้อรถรุ่นนี้อยู่ ขอให้คำนึงว่า เรามีความต้องการใช้งานแบบไหน งบประมาณมีอยู่เท่าไหร่ เพราะออพชั่นบางอย่าง ก็อาจไม่ได้จำเป็นใช้งานเสมอไป ลองตัดสินใจหรือพิจารณาเลือกซื้อดู …

แต่ถ้าติดเรื่องงบประมาณ แนะนำให้ลองดู Yaris Hatchback มือสองสภาพดีๆ สักคัน หรืออยากได้ Yaris Hatchback รุ่นท็อปสุด ในราคาที่ถูกกว่ารถป้ายแดง ก็ลองเข้าไปเลือกค้นหาได้ที่ https://th.carro.co/ ครับผม!