All-New-Honda-City-Hatchback-And-Hybrid-2021

Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) เป็นหนึ่งในรถโมเดลสำคัญของ Honda ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าในไทยตั้งแต่ปี 2539 จนสามารถครองตำแหน่งผู้นำในตลาด Sub-Compact ในไทยได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับ Honda City เจเนอเรชันที่ 5 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นครั้งแรกที่แนะนำเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร เข้าสู่ตลาด

และได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม ด้วยยอดจำหน่ายและยอดจองรวมกว่า 35,000 คัน ภายในเวลาหนึ่งปีหลังเปิดตัว ในครั้งนี้ ฮอนด้า ซิตี้ จะกลับมาสร้างปรากฏการณ์ และยกระดับมาตรฐานใหม่ ให้กับรถซิตี้คาร์อีกครั้ง ด้วยการแนะนำ ฮอนด้า ซิตี้ 2 รุ่นใหม่ …

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

Honda City Hatchback 2021 (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก)

ครั้งแรกในโลกกับการเผยโฉมฮอนด้า ซิตี้ ในรูปแบบ 5 ประตู กับ Honda City Hatchback ใหม่ ที่ประเทศไทย ผสานเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์กับเบาะนั่ง อัลตราซีท (ULTR) และการขับขี่ที่สนุกสนานกับ ขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ให้สมรรถนะการขับขี่สูงถึง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด และสามารถรองรับน้ำมัน E20

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

ภายนอกโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ภายในห้องโดยสารหรูหราสวยงามในโทนสีดำ มาพร้อมเบาะหนัง (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ Piano Black มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสง ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และเทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ และทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน Honda CONNECT

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

ในส่วนของเบาะนั่ง อัลตรา ซีท (ULTR) แยกพับแบบ 60:40 ที่ปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ได้ถึง 4 โหมด พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ได้แก่

  • Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง
  • Long Mode: เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
  • Tall Mode: เบาะด้านหลังพับขึ้น เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง
  • Refresh Mode: เบาะด้านหน้าพับเชื่อมต่อกับเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด

และสปอร์ตยิ่งขึ้นกับ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ รุ่น RS ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS มาพร้อมกันชนหน้าและกระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ต ปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สปอยเลอร์หลังตกแต่งสีดำแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

ภายในห้องโดยสาร สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งแถบสีแดง มาพร้อมพนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง พร้อม Honda CONNECT และสีภายนอก สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS

ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) เป็นต้น

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่

  • รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น SV ราคา 675,000 บาท
  • รุ่น RS ราคา 749,000 บาท

มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS สีใหม่ สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) พร้อมด้วย สีขาวแพลทินัม (มุก) เฉพาะรุ่น RS และ SV สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโซนิค (มุก) และสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะรุ่น S+

เสริมความสปอร์ตในสไตล์คุณไปอีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น

  • ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง ราคา 5,500 บาท
  • คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท
  • แผงครอบกันรอยขอบห้องสัมภาระ ราคา 900 บาท
  • สติกเกอร์ตกแต่งล้ออัลลอย ราคา 320 บาท (ราคาต่อ 1 ชุดมี 4 ชิ้น)
  • ไฟตัดหมอกแบบ LED ราคา 5,500 บาท และ
  • กล้องหน้ารถ ราคา 3,850 บาท

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจ ทั้งหมด 2 แพ็กเกจ ได้แก่

  • Modulo Aero Package ราคา 16,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
  • Modulo Aero Sport Package ราคา 21,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น และ ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

หมายเหตุ

  • อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
  • สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท
  • สีดำคริสตัล (มุก) และสีเทาโซนิค (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
  • ราคาแพ็กเกจชุดแต่งโมดูโล ไม่รวม VAT 7%
  • ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/line-up/honda-city-hatchback

New-Honda-City-Hybrid-2021

Honda City e:HEV 2021 (ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี) ใหม่

ยนตรกรรม Full Hybrid รุ่นแรกของเซกเมนต์ City Car ในประเทศไทย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive i-MMD ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เป็นระบบ Full Hybrid ที่ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบ/นาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กม./ลิตร และรองรับน้ำมัน E20

พร้อมเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING) ดีไซน์สปอร์ตโดดเด่น ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS เสริมเอกลักษณ์เฉพาะของความเป็นไฮบริดด้วยโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark) และโลโก้ e:HEV ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกมิติ ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม

New-Honda-City-Hybrid-2021

พุ่งทะยานได้อย่างมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

New-Honda-City-Hybrid-2021

มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัยเพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง เช่น ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) และเทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เป็นต้น

New-Honda-City-Hybrid-2021

โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมไฮบริดที่ชัดเจนด้วยโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark) และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย และเสริมความสปอร์ตในสไตล์ RS รอบคัน ด้วยกระจังหน้าและสปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว มาพร้อมล้ออัลลอย 16 นิ้วดีไซน์สปอร์ต

New-Honda-City-Hybrid-2021

New-Honda-City-Hybrid-2021

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายในทุกมิติ มาพร้อมเบาะหนังกลับดีไซน์สปอร์ตตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศตอนหลัง พร้อมช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม Google Maps พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) เป็นต้น

New-Honda-City-Hybrid-2021

ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)

เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมด้วยโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ด้วยการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร สูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance) อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

พิเศษสำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถสัมผัส ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ที่จัดแสดง ณ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ตั้งแต่วันที่ 24 – 26 พฤศจิกายน 2563 และสามารถติดต่อที่ปรึกษาการขายได้ ณ บริเวณงาน

หลังจากนั้นสามารถสัมผัส เดอะ ซิตี้ ซีรีส์ ใหม่ ทั้ง 2 รุ่น ได้ที่บูทฮอนด้า A14 ในงาน Motor Expo 2020 ตั้งแต่วันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และสัมผัส ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 และพบกับฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2564 เป็นต้นไป

สำหรับลูกค้าที่จอง ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 – 31 มกราคม 2564 และรับรถภายในวันที่ 31 มกราคม 2564 จะได้รับหูฟัง Skullcandy True Wireless Earbuds รุ่น Sesh Evo สี Deep Red มูลค่า 3,590 บาท และ Honda Jacket มูลค่า 500 บาท*

และสำหรับลูกค้าที่จอง ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 – 31 ธันวาคม 2563 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จะได้รับ Fitbit Smart Tracker รุ่น Charge 3 สี Graphite/Black มูลค่า 6,490 บาท และ Honda Jacket มูลค่า 500 บาท*

* ข้อเสนอพิเศษเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด

ส่วนใครที่อยากขายรถ ไม่ว่าจะเป็นรถบ้าน รถมือสอง ก็สามารถปรึกษากับทางเราดูก่อนได้ เพียงแค่คุณขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน