All-New Toyota Yaris ATIV 2022 ใหม่! เปิดตัวที่ไทยครั้งแรกในโลก ราคา 539,000 - 689,000 บาท

Toyota (โตโยต้า) เปิดตัวรถยนต์ Compact Sedan รุ่นใหม่ล่าสุด All-New Toyota Yaris ATIV 2022 (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) ภายใต้ปรัชญา “People Beloved Car” หรือ “รถยนต์ที่เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน” ด้วยรูปทรงสไตล์ Fastback และเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร Dual VVT-iE 94 แรงม้า อันเป็นผลสำเร็จจากการศึกษาความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงในทุกด้าน ทำให้ได้รถยนต์ที่จะเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง

พร้อมด้วย Package การขายที่จะทำให้ผู้ที่ครอบครองเป็นเจ้าของ All-New Toyota Yaris ATIV 2022 (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) ได้รับมากกว่ารถยนต์ ด้วยประสบการณ์ที่ดีที่สุด ทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่า สะดวกสบาย พร้อมความพึงพอใจสูงสุดในการเป็นเจ้าของ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ในราคา 539,000 – 689,000 บาท

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

Toyota เชื่อมั่นว่ารถยนต์รุ่นนี้จะเป็นผู้นำในตลาด Compact Sedan ด้วยเป้าหมายการขายที่ 3,500 คัน/เดือน และได้ทุ่มเงินลงทุนถึง 5.2 พันล้านบาทเพื่อโครงการนี้ โดยรถรุ่นนี้จะทำการประกอบที่โรงงานผลิตรถยนต์ โตโยต้าเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา โดยใช้ระบบการผลิตแบบควบ 2 กะ พร้อมพนักงานกว่า 10,000 คน พร้อมผลิตส่งออกไปจำหน่ายยังกว่า 35 ประเทศทั่วโลก

นับตั้งแต่ Toyota Yaris ATIV เปิดตัวครังแรกในปี 2560 มีจุดมุ่งหมายในการนำเสนอรถยนต์ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ประหยัดน้ำมัน และเชื่อถือได้ในคุณภาพ เจาะกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน และคนรุ่นใหม่ รถรุ่นนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าชาวไทย และมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาด Subcompact Sedan ด้วยยอดขายรวม 133,000 คัน

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Toyota Yaris ATIV สวยๆ

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

สำหรับตลาดรถยนต์นั่ง Eco-Car (อีโคคาร์) มีสัดส่วนการขายถึง 56% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นรถ Sedan ถึง 50% หรือมากถึงเกือบ 100,000 คัน/ปี จากข้อมูลการขายพบว่า Toyota Yaris ATIV เป็นรถที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าทุก Segment ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ซื้อรถคันแรก First Jobber พนักงานบริษัท เจ้าของกิจการค้าขาย รวมทั้งข้าราชการ นอกจากนี้ผลการวิจัยยังระบุว่าในยุค New Normal ทำให้ทุกคนอยากมีรถส่วนตัวไว้สักคัน เพื่อการเดินทางอย่างมั่นใจ และปลอดภัย

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

ซึ่งรถคันนี้เพียบพร้อมไปด้วยแนวคิดหลัก 3 ประการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ประสบการณ์ที่ดีที่สุด และการขับเคลื่อนที่ดีที่สุด

แนวคิดหลักในการสร้างสรรค์รถยนต์ ที่จะเป็นที่ชื่นชอบของคนไทย (Beloved Car)

1.ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด All-New Toyota Yaris ATIV 2022 ใหม่ ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดในการพัฒนา ดังต่อไปนี้

ความภาคภูมิใจ (Proudful) ด้วยการออกแบบภายนอกสไตล์ Fastback พร้อมการออกแบบภายในที่หรูหรา
ความสะดวกสบาย (Comfortable) ด้วยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม
ราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย (Affordable) ด้วยองค์ประกอบที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงเหนือระดับ และความคุ้มค่า

2. ประสบการณ์ที่ดีที่สุด ด้วย Package สินเชื่อรถยนต์รูปแบบใหม่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น เช่น Package ประกันภัย PHYD : Pay How Your Drive ที่ลดอัตราดอกเบี้ยประกันภัยสำหรับลูกค้าที่ขับขี่อย่างปลอดภัย และ TFSR : Toyota Connected Frequent Service Reward เพื่อตอบแทนลูกค้าที่นำรถเข้าศูนย์เพื่อรับบริการตรงตามเวลาที่กำหนด

3. การขับเคลื่อนที่ดีที่สุด ด้วยบริการ T-Connect ที่จะคอยดูแลผู้ขับขี่ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านระบบต่างๆ เช่น ระบบติดตามรถหาย (Theft Track) การแจ้งเตือนการบำรุงรักษาผ่านระบบดิจิทัล (Digital Maintenance Reminder) การจองผ่านระบบดิจิทัล (Digital Booking) ระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS และบริการผู้ช่วยส่วนตัว (Concierge Service)

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

Mr. Hideyuki Camino (มร. ฮิเดยูกิ คามิโนะ) Executive Chief Engineer, Emerging Market Compact Car บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงการพัฒนารถรุ่นนี้ว่า “นับตั้งแต่การเปิดตัว Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) รุ่นแรกในปี 2545 ปริมาณรถที่ขายได้โดยรวมทั้งหมดอยู่ที่ 3.5 ล้านคันทั่วโลก ต่อมาในปี 2550 ได้มีการเปิดตัว Toyota Vios Generation ที่ 2 โดยเพิ่มเติมองค์ประกอบต่างๆ ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น หลังจากนั้นได้เปิดตัว Toyota Vios Generation ที่ 3 โดยมีจุดเด่นที่เหนือระดับ เมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน

ด้วยเหตุนี้ จึงได้สร้างฐานลูกค้าที่ชื่นชอบกับรถรุ่นนี้อย่างเหนียวแน่น และนอกจากคุณภาพ ความทนทาน ความน่าเชื่อถือ เรายังตั้งใจให้รถรุ่นนี้เป็นรถที่ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก และเป็นรถยนต์ที่มีวิวัฒนาการตามกาลเวลา และครองใจลูกค้ามากมายนับไม่ถ้วน”

“สำหรับในไทย กลุ่มลูกค้า Toyota Yaris ATIV ของเราประกอบด้วยลูกค้าหลักคือ ผู้ซื้อรถคันแรก โดยมีช่วงอายุประมาณ 30 ต้นๆ รวมทั้งกลุ่มผู้หญิงที่อาศัยอยู่กับครอบครัว หรือเพิ่งมีครอบครัว พร้อมด้วยลูก สำหรับกลยุทธ์ในการพัฒนา ตลอดจนแนวคิดด้านผลิตภัณฑ์ และการออกแบบ รวมทั้งจุดขายหลักของ Toyota Yaris ATIV ใหม่ ได้แก่ ความภาคภูมิใจ ความสะดวกสบาย ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย”

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

แนวทางการออกแบบของ All-New Toyota Yaris ATIV 2022 คือ การออกแบบให้เป็นรถ Fastback ที่ทรงพลัง และสง่างาม โดยติดตั้งไฟเลี้ยว Sequential และไฟหน้าแบบ LED ในขณะเดียวกันยังคงไว้ซึ่งพื้นที่ภายในห้องโดยสาร และพื้นที่เก็บสัมภาระอันกว้างขวาง ซุ้มล้อที่กว้าง และยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ดูสปอร์ตให้ดูมีพลังยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังยกระดับสมรรถนะพื้นฐานต่างๆ ครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดน้ำมัน และการควบคุมพวงมาลัย ทั้งหมดนี้ทำให้มั่นใจได้ว่า รถคันนี้คือยนตรกรรมที่เพียบพร้อมไปด้วย Design อันล้ำสมัย และอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นสูง

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

Spec พิเศษ สำหรับประเทศไทย

จากการศึกษาความต้องการของลูกค้าชาวไทย จึงนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนไทยเป็นพิเศษ ผ่านองค์ประกอบต่างๆ ได้แก่

1. ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) 64 เฉดสี แนวเส้นไฟส่องสว่างติดตั้งอยู่บริเวณแผงหน้าปัด หรูหรา ล้ำสมัย ให้กับภายในห้องโดยสาร

2. เบาะหนังสีแดง เพื่อมอบความรู้สึกพึงพอใจเหนือระดับให้ลูกค้าที่มองหาความหรูหราภายในห้องโดยสาร

3. ชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกสีเทเมทัลลิก เน้นความโดดเด่นให้กับรูปลักษณ์ทรงสปอร์ต และโฉบเฉี่ยว

4. ลำโพงระดับ Premium ติดตั้งระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง มอบเสียงเพลงไพเราะ ทรงพลัง ให้ลูกค้าเพลิดเพลินยิ่งขึ้นในระหว่างการขับขี่

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

สรุปสเป็คเด่นของแต่ละรุ่น

รุ่นเริ่มต้น Sport ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ลูกค้าจะได้สัมผัสทั้งฟังก์ชั่น และความใหม่ที่มาเหนือกว่ารถรุ่นปัจจุบัน เช่น

  • ชุดไฟหน้า Full LED
  • ล้ออัลลอยด์ Two Tone ขนาด 16 นิ้ว
  • พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ ECO / Normal / Power บนพวงมาลัย
  • ปุ่ม Push Start / กุญแจ Smart Entry
  • วิทยุหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android Auto
  • ที่วางแก้วน้ำ 4 ตำแหน่ง
  • คอนโซลหน้าบุนุ่ม
  • ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ABS / EBD / BA / VSC / TRC / HAC / EBS / ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านนิรภัย

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

รุ่น Smart เพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆ มากมาย ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มที่เน้นความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ราคาง่ายต่อการเป็นเจ้าของในแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน โดยเพิ่มเติม

  • ชุดไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding
  • มาตรวัดแบบ Full Digital
  • วิทยุหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple Car Play และ Android auto
  • ช่องต่อ USB 4 ช่อง บริเวณคอนโซลด้านหน้า และด้านหลัง
  • เบาะหนังสังเคราะห์ และผ้า
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม
  • ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense : ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System), ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Alert) พร้อมพวงมาลัยดึงกลับ, ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนต้ว (Front Departure Alert), ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดวิธี (Pedal Misoperation Control) พร้อมเพิ่มความมั่นใจด้วยกล้องบันทึกภาพหน้ารถ และกล้องมองหลัง

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

รุ่น Premium ตอบสนองลูกค้ากลุ่มที่ต้องการความสวย เนี๊ยบ มีระดับ และความมั่นใจในการขับขี่ที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน

  • ระบบไฟส่องสว่างหลังจากดับเครื่องยนต์ Follow Me Home
  • ไฟท้ายแบบ Full LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential
  • ภายในตกแต่งด้วย Ambient Light ปรับได้ 64 เฉดสี บริเวณคอนโซลกลาง
  • ระบบกรองฝุ่น PM 2.5 พร้อมจอแสดงสถานะ
  • ระบบเบรคมือไฟฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรคอัตโนมัติ ABH
  • ยกระดับความปลอดภัยครบครันจากรุ่น SMART ด้วยกล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor), สัญญาณเตือนกะระยะรอบคัน 6 ตำแหน่ง, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกข้าง (Blind Spot Monitor), ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam) และดิสก์เบรก 4 ล้อ

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

รุ่น Premium Luxury ซึ่งเป็นรุ่น Top สุด หรูถูกใจ Lifestyle คนเมือง ตอบสนองความ ต้องการของ Young Management ที่มองหาความสมบูรณ์แบบ ฟังก์ชั่นครบครันทุกความต้องการ คุ้มค่า และแตกต่าง ด้วย Feature แบบจัดเต็ม เช่น

  • ภายในตกแต่งด้วยสีแดง ทั้งบริเวณคอนโซลหน้าและเบาะหนังแท้
  • Ambient Light 64 เฉดสี เพิ่มตำแหน่งที่คอนโซลหน้า คอนโซลกลาง และแผงประตูด้านหน้า
  • Pioneer Premium Speaker 6 ตำแหน่ง

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

นอกจากนี้ Toyota ยังมี Package ชุดแต่งพิเศษ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อตอบสนองความต้องการที่โดดเด่น และแตกต่าง หลากหลาย Package ได้ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Toyota Yaris ATIV ใหม่

ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง All New YARIS ATIV

1. ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง LUSSO (ลูสโซ่)

โดดเด่น ดูดี มีระดับ และเปลี่ยนคาแร็คเตอร์ของรถให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยชุดสเกิร์ตรอบคัน และสปอยเลอร์ฝาท้าย โดดเด่นสะดุดตาด้วยสีทูโทน (สีเดียวกับตัวรถตัดด้วยสีดำ Glossy black)

ราคาจำหน่ายแนะนำ : 19,990 บาท (รวม VAT)

2. ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHIARO (เคียโร่)

หรูหรา สะดุดตา สง่างาม และโดดเด่น ด้วยการตกแต่งรายละเอียด ด้วยชิ้นส่วนโครเมี่ยมเกรดคุณภาพในส่วนต่างๆ รอบคัน

ราคาจำหน่ายแนะนำ : 8,690 บาท (รวม VAT)

3. ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง PRESTO (เพรสโต้)

ด้วยแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง มาสู่การออกแบบชุดแต่ง PRESTO ที่ตื่นเต้นเร้าใจทุกมุมมอง เส้นสายที่เฉียบคม พุ่งทะยานไปข้างหน้า ดุดันด้วยสีทูโทน (สีเดียวกับตัวรถตัดกับสีดำ) และเพิ่มความสปอร์ตด้วยสติ๊กเกอร์คาดฝากระโปรง หลังคา และฝาท้าย สีดำ-แดง

ราคาจำหน่ายแนะนำ : 17,500 บาท (รวม VAT)

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-iE ให้แรงม้าสูงสุด 94 แรงม้า (69 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร (11.2 กก.-ม.) ที่ 4,400 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Sequential Shift ระบบช่วงล่างด้านหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง

เลือกเป็นเจ้าของ All-New Toyota Yaris ATIV 2022 ได้ 7 สี ได้แก่ สีส้ม SPICY SCARLET (สีใหม่)**, สีขาว Super White, สีเงิน Metal Stream, สีเทา Urban Metal, สีแดง Red Mica Metallic, สีดำ Attitude Black Mica และสีขาวมุก Platinum White Pearl**

**สีพิเศษเพิ่ม 7,000 บาท

เลือกรถที่ใช่ สไตล์คุณ กับราคา และข้อเสนอที่คุ้มค่าสูงสุด

  • 1.2 Sport ราคา 539,000 บาท
  • 1.2 Smart ราคา 584,000 บาท
  • 1.2 Premium ราคา 659,000 บาท
  • 1.2 Premium Luxury ราคา 689,000 บาท

ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงานเท่านั้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครที่งบไม่พอ หรือสนใจจะซื้อรถมือสอง Toyota Yaris ATIV ในงบที่ตัวเองมี Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถ Toyota Yaris ATIV ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

โปรโมชั่นรถใหม่ Toyota 2022 ทุกรุ่น

รวมโปรโมชั่นรถใหม่ Toyota (โตโยต้า) ทุกรุ่น Update 9/8/2022

Carro นำเสนอโปรโมชั่นรถใหม่ 2022 Toyota (โตโยต้า) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ประจำเดือนสิงหาคม 2565

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @carrothai  เช่นกัน หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

ATIV & YARIS URBAN ADDICT

เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

1. ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,499 บาทต่อเดือน พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง TOYOTA Care

2. ดาวน์เริ่มต้น 0 บาท

1 – 31 สิงหาคม 2565

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ 3 ทางเลือก ได้แก่…

  • ไม่ต้องดาวน์ หรือ
  • ผ่อนเริ่มต้นเพียง 5,499 บาทต่อเดือน (ดาวน์ 25% 84 เดือน) พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 โตโยต้าแคร์ “ขับดีลดให้” PHYD หรือ
  • รับดอกเบี้ยต่ำสุด 0.75% (ดาวน์ 25% 48 เดือน) พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 โตโยต้าแคร์ “ขับดีลดให้” PHYD

ข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติม สำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

  • “Payroll” พนักงานเงินเดือนรับข้อเสนอสุดพิเศษ “ไม่ต้องดาวน์ ไม่ต้องมีผู้ค้ำ” พร้อมส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 0.40% มูลค่ากว่า 14,000 บาท”
  • “Graduate” นักศึกษาจบใหม่ รับข้อเสนอพิเศษ ส่วนลดดอกเบี้ยสูงสุด 0.40% มูลค่ากว่า 14,000 บาท
    *หมายเหตุ รายละเอียดข้อเสนอขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินที่เข้าร่วม

VIOS ALL IS POSSIBLE

ซื้อ VIOS วันนี้ รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.49% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป พร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง TOYOTA Care

1 – 31 สิงหาคม 2565

เป็นเจ้าของ Corolla Cross วันนี้

(1) สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน รับฟรี ประกันภัยชั้น 1 Toyota Care** พร้อมดอกเบี้ย 1.39%* หรือเลือกรับ ดอกเบี้ยพิเศษเพียง 0.85%*

(2) สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด ดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%*

(3) และรับข้อเสนอพิเศษขยายระยะเวลาการคุ้มครอง (มูลค่า 35,000 บาท)

  • รับประกันคุณภาพรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กม.

1 – 31 สิงหาคม 2565

COROLLA CROSS MODELLISTA รุ่นพิเศษ จำนวนจำกัด

หมายเหตุ

  • รุ่นพิเศษ Corolla Cross Modellista เฉพาะรุ่น Hybrid Premium Safety และ Hybrid Premium เท่านั้น จำนวนจำกัด 250 คัน
  • อุปกรณ์ตกแต่ง Modellista (สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง ซ้าย-ขวา, สเกิร์ตหลัง และล้อแม็ก 18 นิ้ว) มูลค่า 41,500 บาท มีเฉพาะสี Celestite Gray Metallic, Platinum White Pearl และ Metal Stream Metallic ประกอบและติดตั้งโดย บริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด
  • อุปกรณ์ตกแต่งรับประกันสูงสุดในระยะเวลา 36 เดือน หรือระยะ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน) ตามเงื่อนไขการรับประกันของ บริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด
  • ราคาดังกล่าวไม่รวมค่าทำสีหลังคาดำ

ชุดแต่งใหม่กับสไตล์สุดชิค ผ่อนเพิ่มเพียง 850 บาท/เดือน*

เป็นเจ้าของ โคโรล่า ครอส พร้อมชุดแต่งใหม่ URBAN SPORT ราคา 51,900 บาท*

*ราคาดังกล่าว ไม่รวมค่าติดตั้ง และค่าทำสีหลังคาดำ – ราคาเงินผ่อนที่เพิ่มคำนวณจากโปรแกรมเช่าซื้อปกติ ดาวน์ 25% ระยะเวลา 72 เดือน สำหรับรุ่น Hybrid Premium Safety และ Hybrid Premium โดยอ้างอิงดอกเบี้ยเดือน ม.ค. 2564 บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง  (ประเทศไทย) จำกัด

  • สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ส่วนประกอบและอุปกรณ์ต่างๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง ติดตั้งกับรถรุ่นใหม่ (ต้องติดตั้ง จากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าเท่านั้น) ระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน อ้างอิงจากคู่มือ รับประกันคุณภาพรถยนต์
  • ล้อ Lenso รับประกันโครงสร้างล้อ 10 ปี ตามเงื่อนไขการรับประกัน บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด

ชุดแต่งใหม่กับสไตล์สุดลุย ผ่อนเพิ่มเพียง 960 บาท/เดือน*

เป็นเจ้าของ โคโรลล่า ครอส พร้อม ชุดแต่งใหม่ ADVENTURE ราคา 58,900 บาท*

*ราคาดังกล่าว ไม่รวมค่าติดตั้ง – ราคาเงินผ่อนที่เพิ่มคำนวณจากโปรแกรมเช่าซื้อปกติ ดาวน์ 25% ระยะเวลา 72 เดือน สำหรับรุ่น Hybrid Premium โดยอ้างอิงดอกเบี้ยเดือน ม.ค. 2564 บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

  • สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ส่วนประกอบและอุปกรณ์ต่างๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • แร็คหลังคา ไม่สามารถติดตั้งในรุ่น Hybrid Premium Safety
  • ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง ติดตั้งกับรถรุ่นใหม่ (ต้องติดตั้ง จากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าเท่านั้น) ระยะเวลารับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน อ้างอิงจากคู่มือ รับประกันคุณภาพรถยนต์
  • ล้อ Lenso รับประกันโครงสร้างล้อ 10 ปี ตามเงื่อนไขการรับประกัน บริษัท เลนโซ่ วีล จำกัด
  • แร็คหลังคา รับประกัน 6 เดือน ตามเงื่อนไขการรับประกันของ บริษัท ทีเคที ไฟเบอร์ จำกัด

CHR CAMPAIGN

เป็นเจ้าของ C-HR วันนี้ พร้อมรับดีลสุดพิเศษ รับทันที ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมเลือกรับแคมเปญพิเศษ

ทางเลือกที่ 1 ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%

  • ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% (ผ่อนนาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป)

ทางเลือกที่ 2 ผ่อนเริ่มต้นเพียง 11,590 บาทต่อเดือน

  • รุ่น HEV Premium Safety ราคา 1,139,000 บาท ผ่อนเริ่มต้น 11,590 บาท ที่ดาวน์ 25.44% นาน 84 เดือน
  • คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยของ บริษัท ลีสซิ่ง ไอซีบีซี (ไทย) จำกัด

พร้อมรับแพ็กเกจรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี และแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 10 ปี (มูลค่า 35,000 บาท)

  • รับประกันคุณภาพรถใหม่ 5 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 100,000 กม.

1 – 31 สิงหาคม 2565

ซื้อโคโรลล่า อัลติส รุ่น 1.6 G วันนี้

  • ต่อที่ 1 เลือกรับดอกเบี้ย 0% หรือ ผ่อนเริ่มต้น 8,790 บาท/เดือน หรือ ดาวน์ต่ำเพียง 46,300 บาท
  • ต่อที่ 2 ฟรี! ประกันภัยชั้น 1
  • ต่อที่ 3 ค่าแรงเช็กระยะฟรี 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมค่าแรง ค่าอะไหล่ เคมีภัณฑ์

1 – 31 สิงหาคม 2565

ซื้อโคโรลล่า อัลติส วันนี้ 

ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.35% พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 หรือ เลือกรับดอกเบี้ยต่ำสุด 0.85%

พร้อมแพ็กเกจการรับประกันรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ที่ครอบคลุมทั้งแบตเตอรี่ และระบบไฮบริด กับการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี

พร้อมข้อเสนอพิเศษ กับแพ็กเกจขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่

1 – 31 สิงหาคม 2565

CAMRY CAMPAIGN

ทางเลือกที่ 1: ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.69% พร้อม ฟรี ประกันภัยชั้น1 โตโยต้าแคร์

ทางเลือกที่ 2: ดอกเบี้ยพิเศษ 1.19%

1 – 31 สิงหาคม 2565

All-New Toyota Veloz – BETTER TOGETHER

เลือกรับข้อเสนอพิเศษ

1. ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%
ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม.
ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 60,000 – 100,000 กม.

2. ดอกเบี้ยต่ำ 1.75% พร้อม ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota Care
ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม.
ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 60,000 – 100,000 กม.

1 – 31 สิงหาคม 2565

Toyota 60th Anniversary Special Collection

เป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้ารุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 60 ปี จำนวนจำกัด 6,000 คัน รับข้อเสนอที่มากกว่าใคร

1. รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ 0.10%

2. รับ Exclusive Boxset พร้อมฟรี Apple AirTag

3. สะสมคะแนน Alive-X ผ่านแอปพลิเคชัน T-Connect

4. และพิเศษสุด! ลุ้นรับรางวัลใหญ่ GR86 มูลค่า 2,949,000 บาท

ดูราคารถใหม่ Toyota เพิ่มเติมได้ที่ – https://th.carro.co/blog/toyota-car-price-list/

ราคารถใหม่ Toyota ปี 2022 ทุกรุ่น

รวมราคารถใหม่ Toyota (โตโยต้า) Update 9/8/2022

Carro นำเสนอราคารถใหม่ 2022 Toyota (โตโยต้า) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน เช็คราคารถ Toyota ป้ายแดงได้ที่นี่

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @carrothai เช่นกัน หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

Toyota Yaris 2020 / โตโยต้า ยาริส 2020

New Toyota Yaris 2020

  • 1.2 Entry ราคา 549,000 บาท
  • 1.2 Sport ราคา 609,000 บาท
  • 1.2 Sport Premium ราคา 679,000 บาท
  • 1.2 Sport Premium with Black Roof ราคา 684,000 บาท
  • Play Limited Edition Sport ราคา 634,000 บาท
  • Play Limited Edition Sport Premium with Black Roof ราคา ราคา 709,000 บาท

Toyota Yaris ATIV 2020 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ 2020

Toyota Yaris ATIV 2020

  • 1.2 Entry ราคา 539,000 บาท
  • 1.2 Sport ราคา 599,000 บาท
  • 1.2 Sport Premium ราคา 674,000 บาท
  • Play Limited Edition Sport ราคา 624,000 บาท
  • Play Limited Edition Sport Premium ราคา ราคา 699,000 บาท

Toyota Yaris 2021 / โตโยต้า ยาริส 2021

New Toyota Yaris 2021

  • 1.2 Entry ราคา 549,000 บาท
  • 1.2 Sport ราคา 609,000 บาท
  • 1.2 Sport X (Two-Tone) ราคา 614,000 บาท
  • 1.2 Sport Premium ราคา 679,000 บาท
  • 1.2 Sport Premium X (Two-Tone) ราคา 684,000 บาท
  • 1.2 Sport Premium (Two-Tone) ราคา 684,000 บาท
  • 1.2 ฉลองครบรอบ 60 ปี Toyota ราคา 709,000 บาท

Toyota Yaris ATIV / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

Toyota Yaris ATIV 2021

  • 1.2 Entry ราคา 539,000 บาท
  • 1.2 Sport ราคา 599,000 บาท
  • 1.2 Sport Premium ราคา 674,000 บาท
  • 1.2 Sport Premium (Two-Tone) ราคา 684,000 บาท

All-New Toyota Yaris ATIV 2022 / โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

All-New Toyota Yaris ATIV 2022

  • 1.2 Sport ราคา 539,000 บาท
  • 1.2 Smart ราคา 584,000 บาท
  • 1.2 Premium ราคา 659,000 บาท
  • 1.2 Premium Luxury ราคา 689,000 บาท

Toyota GR Yaris-2021 / โตโยต้า จีอาร์ ยาริส 2021

Toyota GR Yaris

  • ราคา 2,690,000 บาท

Toyota Vios 2017 / โตโยต้า วีออส 2017

Toyota Vios

  • 1.5 Entry ราคา 609,000 บาท
  • 1.5 Mid ราคา 699,000 บาท
  • 1.5 High ราคา 789,000 บาท

New Toyota Corolla Altis GR Sport 2022

Toyota Corolla Altis / Hybrid 2020

  • Limo ราคา 839,000 บาท
  • 1.6 G ราคา 879,000 บาท
  • 1.8 GR-Sport ราคา 999,000 บาท
  • Hybrid Entry ราคา 939,000 บาท
  • Hybrid Mid ราคา 989,000 บาท
  • Hybrid High ราคา 1,099,000 บาท

(*สำหรับสีพิเศษ White Pearl มีเฉพาะรุ่น Hybrid และเครื่องยนต์ 1.8 GR-Sport เพิ่ม 10,000 บาท)

Toyota Corolla Altis / Hybrid 2021 – 2022

  • Limo ราคา 839,000 บาท*
  • 1.6 G ราคา 879,000 บาท*
  • 1.8 Sport ราคา 964,000 บาท
  • 1.8 GR-Sport ราคา 1,059,000 บาท**
  • Hybrid Smart ราคา 939,000 บาท
  • Hybrid Premium ราคา 994,000 บาท
  • Hybrid ฉลองครบรอบ 60 ปี Toyota ราคา 1,019,000 บาท
  • Hybrid Premium Safety ราคา 1,099,000 บาท (รุ่นปี 2021 เท่านั้น)
  • HEV GR Sport ราคา 1,114,000 บาท***

*สำหรับสีพิเศษ Super White II มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6L และ รุ่น Limo เท่านั้น

***รุ่น HEV GR Sport และ รุ่น 1.8 GR Sport มี 3 สี ได้แก่ สีขาวมุก Platinum White Pearl, สีแดง Red Mica Metallic, และ สีดำ Attitude Black Mica

(*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl มีเฉพาะรุ่น Hybrid, เครื่องยนต์ 1.8 GR-Sport และ 1.8 Sport เพิ่ม 10,000 บาท)

Toyota Camry 2022 / โตโยต้า คัมรี่ 2022

New Toyota Camry 2022

  • 2.5 Sport ราคา 1,475,000 บาท
  • 2.5 Premium ราคา 1,599,000 บาท
  • 2.5 Premium ฉลองครบรอบ 60 ปี Toyota ราคา 1,624,000 บาท
  • 2.5 HEV Premium ราคา 1,659,000 บาท
  • 2.5 HEV Premium Luxury ราคา 1,809,000 บาท
  • 2.5 HEV Premium Luxury ฉลองครบรอบ 60 ปี Toyota ราคา 1,834,000 บาท

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท

Toyota Corolla Cross / โตโยต้า โคโรลล่า ครอส

All-New Toyota Corolla Cross

  • 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท
  • Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท
  • Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท
  • Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท
  • Hybrid Premium ชุดแต่ง Modellista ราคา 1,130,500 บาท**
  • Hybrid ฉลองครบรอบ 60 ปี Toyota ราคา 1,224,000 บาท
  • Hybrid Premium Safety ชุดแต่ง Modellista ราคา 1,240,500 บาท**
  • HEV GR Sport ราคา 1,249,000 บาท***

หมายเหตุ:

  • สำหรับภายในสี Terra Rossa มีเฉพาะสี Celestite Gray Metallic, Platinum White Pearl และ Attitude Black Mica ในรุ่น Hybrid Premium Safety และ Hybrid Premium
  • สำหรับรุ่น Hybrid Smart และ 1.8 Sport ภายในสีดำสำหรับภายนอกทุกสี
  • สำหรับสี Platinum White Pearl ราคาเพิ่มขึ้น 10,000 บาท
  • สำหรับ โคโรลล่า ครอส HEV GR Sport  หลังคาดำติดตั้งจากโรงงาน
    ***สำหรับสี Platinum White Pearl/Black roof เพิ่มเงิน 15,000 บาท
    ***สำหรับสี Red Mica Metallic/Black roof เพิ่มเงิน 10,000 บาท
  • **ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม และรวมอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษและค่าติดตั้ง โดยบริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด โดยไม่รวมค่าทำสีหลังคาดำ
    ***สำหรับการทำสีหลังคาดำ ลูกค้าสามารถติดต่อได้ที่ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ

Toyota-CHR-2021 / โตโยต้า ซีเอชอาร์ 2021

Toyota C-HR 2021

  • HV Premium Safety ราคา 1,139,000 บาท
  • HEV GR Sport ราคา 1,189,000 บาท

*สำหรับสีพิเศษ Platinum White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท

All-New Toyota GR86 2022

All-New Toyota GR 86 2022

  • GR 86 ราคา 2,949,000 บาท

Toyota GR Supra / โตโยต้า จีอาร์ ซูปร้า

Toyota GR Supra

  • GR Supra 2020 Edition ราคา 5,199,000 บาท

* สำหรับรุ่นพิเศษ สี Horizon Blue เท่านั้น

All-New Toyota Veloz 2022

All-New Toyota Veloz 2022

  • 1.5 Smart ราคา 795,000 บาท
  • 1.5 Premium ราคา 875,000 บาท

Toyota Sienta / โตโยต้า เซียนต้า

Toyota Sienta

  • 1.5 G ราคา 775,000 บาท
  • 1.5 V ราคา 889,000 บาท

Toyota Innova Crysta / โตโยต้า อินโนว่า คริสต้า

Toyota Innova Crysta 2021

  • 2.0 Entry ราคา 1,199,000 บาท
  • 2.8 Crysta ราคา 1,279,000 บาท**
  • 2.8 Crysta Premium ราคา 1,429,000 บาท**

*สี White Pearl Crystal (เฉพาะรุ่น 2.8 Crysta Premium และ 2.8 Crysta) ราคาเพิ่ม 10,000 บาท จากราคาที่แสดงข้างบน

**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน และรวมชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ พร้อมค่าติดตั้งโดยบริษัท TAC จำกัด (รุ่น 2.8 Crysta Premium มูลค่า 39,500 และ 2.8 Crysta มูลค่า 30,500 บาท)

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2019

Toyota Fortuner

  • 2.4 G 2WD ราคา 1,309,000 บาท
  • 2.4 V 2WD ราคา 1,429,000 บาท
  • 2.8 V 2WD ราคา 1,603,000 บาท
  • 2.4 V 4WD ราคา 1,509,000 บาท
  • 2.8 V 4WD ราคา 1,673,000 บาท
  • 2.8 TRD Sportivo 2WD ราคา 1,662,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 47,000 บาท ราคารวม 1,709,000 บาท
  • 2.8 TRD Sportivo 2WD Black Top ราคา 1,668,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 60,500 บาท ราคารวม 1,729,000 บาท
  • 2.8 TRD Sportivo 4WD ราคา 1,732,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 47,000 บาท ราคารวม 1,779,000 บาท
  • 2.8 TRD Sportivo 4WD Black Top ราคา 1,738,500 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 60,500 บาท ราคารวม 1,799,000 บาท

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2020

Toyota Fortuner 2020

  • 2.4 G 2WD ราคา 1,349,000 บาท
  • 2.4 V 2WD ราคา 1,454,000 บาท
  • 2.4 V 4WD ราคา 1,524,000 บาท
  • 2.4 Legender 2WD ราคา 1,557,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,564,000 บาท
  • 2.4 Legender 4WD ราคา 1,627,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,634,000 บาท
  • 2.8 Legender 2WD ราคา 1,762,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,769,000 บาท
  • 2.8 Legender 4WD ราคา 1,832,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 7,000 บาท ราคารวม 1,839,000 บาท

หมายเหตุ

1. สำหรับรุ่นธรรมดา สีพิเศษ White Pearl CS และ Emotional Red เพิ่ม 12,000 บาท
2. สำหรับรุ่น Legender สีพิเศษ White Pearl CS และ Emotional Red เพิ่ม 20,000 บาท

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2021

Toyota Fortuner 2021

  • 2.4 G 2WD ราคา 1,351,000 บาท
  • 2.4 V 2WD ราคา 1,466,000 บาท
  • 2.4 Commander ราคา 1,505,000 บาท
  • 2.4 V 4WD ราคา 1,536,000 บาท
  • 2.4 Legender 2WD ราคา 1,566,000 บาท
  • 2.4 Legender 4WD ราคา 1,636,000 บาท
  • 2.8 Legender 2WD ราคา 1,775,000 บาท
  • 2.8 Legender 4WD ราคา 1,839,000 บาท
  • 2.8 GR Sport 2WD ราคา 1,879,000 บาท

หมายเหตุ

1. สำหรับรุ่นธรรมดา สีพิเศษ White Pearl CS และ Emotional Red เพิ่ม 12,000 บาท
2. สำหรับรุ่น Legender / GR Sport สีพิเศษ White Pearl CS Black Top และ Emotional Red Black Top เพิ่ม 20,000 บาท

Toyota Fortuner 2022 / โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 2022

Toyota Fortuner 2022

  • 2.4 Leader G 2WD ราคา 1,371,000 บาท
  • 2.4 Leader V 2WD ราคา 1,490,000 บาท
  • 2.4 Leader V 4WD ราคา 1,560,000 บาท
  • 2.4 Legender 2WD ราคา 1,603,000 บาท
  • 2.4 Legender 4WD ราคา 1,673,000 บาท
  • 2.8 Legender 2WD ราคา 1,795,000 บาท
  • 2.8 Legender 4WD ราคา 1,859,000 บาท
  • 2.8 Legender 2WD รุ่นฉลองครบรอบ 60 ปี Toyota ราคา 1,889,000 บาท
  • 2.8 GR Sport 2WD ราคา 1,899,000 บาท

หมายเหตุ

1. สำหรับรุ่นธรรมดา สีพิเศษ White Pearl CS และ Emotional Red เพิ่ม 12,000 บาท
2. สำหรับรุ่น Legender / GR Sport สีพิเศษ White Pearl CS Black Top และ Emotional Red Black Top เพิ่ม 20,000 บาท

Toyota Alphard Vellfire / โตโยต้า อัลฟาร์ด เวลไฟร์

Toyota Alphard

  • 2.5 Hybrid ราคา 3,968,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 51,000 บาท ราคารวม 4,019,000 บาท
  • 3.5 VIP ราคา 5,458,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 51,000 บาท ราคารวม 5,509,000 บาท

Toyota Vellfire

  • 2.5 ราคา 3,838,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 51,000 บาท ราคารวม 3,889,000 บาท

Toyota Hilux Revo Rocco 2020 / โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค 2020

Toyota Hilux Revo 2020 – 2021

Standard Cab

  • 2.4 Entry (ไม่มีกระบะ) ราคา 544,000 บาท
  • 2.4 Entry (ไม่มีกระบะ) AT ราคา 594,000 บาท
  • 2.4 Entry ช่วงล้อสั้น ราคา 584,000 บาท
  • 2.4 Entry ราคา 584,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 634,000 บาท
  • 2.8 Entry ราคา 604,000 บาท
  • 2.8 Entry 4X4 ราคา 704,000 บาท

Smart Cab

  • Z Edition 4×2 2.4 Entry STD ราคา 609,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Entry ราคา 624,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Mid STD ราคา 684,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Mid ราคา 699,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Mid STD ATราคา 734,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Mid AT ราคา 749,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Entry STD ราคา 689,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Entry ราคา 704,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Mid STD ราคา 754,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Mid ราคา 769,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Mid STD AT ราคา 794,000 บาท
  • Z Edition 4×2 2.4 Mid AT ราคา 809,000 บาท

Prerunner & 4X4

  • Smart Cab Prerunner 2×4 2.4 Entry ราคา 707,000 บาท
  • Smart Cab Prerunner 2×4 2.4 Entry AT ราคา 757,000 บาท
  • Smart Cab Prerunner 2×4 2.4 Mid ราคา 787,000 บาท
  • Smart Cab Prerunner 2×4 2.4 Mid AT ราคา 837,000 บาท
  • Smart Cab Prerunner 2×4 2.4 High ราคา 864,000 บาท
  • Smart Cab Prerunner 2×4 2.4 High AT ราคา 914,000 บาท
  • Smart Cab 4×4 2.4 Mid ราคา 862,000 บาท
  • Smart Cab 4×4 2.8 High ราคา 959,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2×4 2.4 Entry ราคา 807,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2×4 2.4 Entry AT ราคา 857,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2×4 2.4 Mid ราคา 872,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2×4 2.4 Mid AT ราคา 922,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2×4 2.4 High ราคา 959,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2×4 2.4 High AT ราคา 1,009,000 บาท
  • Double Cab 4×4 2.4 Mid ราคา 957,000 บาท
  • Double Cab 4×4 2.8 High ราคา 1,109,000 บาท
  • Double Cab 4×4 2.8 High AT ราคา 1,159,000 บาท

Rocco

  • Smart Cab Prerunner 2×4 2.4 Rocco AT ราคา 919,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 30,000 บาท ราคารวม 949,000 บาท
  • Smart Cab 4×4 2.8 Rocco AT ราคา 1,049,000 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 30,000 บาท ราคารวม 1,079,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2×4 2.4 Rocco AT ราคา 1,050,500 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 28,500 บาท ราคารวม 1,079,000 บาท
  • Double Cab 4×4 2.8 Rocco AT ราคา 1,210,500 บาท ราคาอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ 28,500 บาท ราคารวม 1,239,000 บาท

Toyota Hilux Revo GR Sport 2021 / โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต 2021

Toyota Hilux Revo 2021

Standard Cab & Cab Chassis

  • 2.4 Entry C&C ราคา 544,000 บาท
  • 2.4 Entry C&C AT ราคา 594,000 บาท
  • 2.4 Entry ราคา 584,000 บาท
  • 2.4 Entry SWB ราคา 584,000 บาท
  • 2.8 Entry ราคา 604,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 634,000 บาท
  • 2.8 Entry 4WD ราคา 704,000 บาท

Toyota Hilux Revo Z Edition

Smart Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • 2.4 Entry MT ราคา 619,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 669,000 บาท
  • 2.4 Mid MT ราคา 695,000 บาท
  • 2.4 Mid AT ราคา 745,000 บาท

Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • 2.4 Entry MT ราคา 699,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 739,000 บาท
  • 2.4 Mid MT ราคา 765,000 บาท
  • 2.4 Mid AT ราคา 805,000 บาท

Toyota Hilux Prerunner

Smart Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • 2.4 Entry MT ราคา 724,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 774,000 บาท
  • 2.4 Mid MT ราคา 799,000 บาท
  • 2.4 Mid AT ราคา 849,000 บาท

Double Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • 2.4 Entry MT ราคา 824,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 874,000 บาท
  • 2.4 Mid MT ราคา 885,000 บาท
  • 2.4 Mid AT ราคา 935,000 บาท
  • 2.4 High MT ราคา 976,000 บาท
  • 2.4 High AT ราคา 1,026,000 บาท

Toyota Hilux Revo 4×4

Smart Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • 2.4 Mid MT ราคา 879,000 บาท
  • 2.4 High MT ราคา 976,000 บาท

Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • 2.4 Mid MT ราคา 974,000 บาท
  • 2.8 High MT ราคา 1,126,000 บาท
  • 2.8 High AT ราคา 1,176,000 บาท

Toyota Hilux Revo Rocco

Smart Cab Prerunner ขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • 2.4 Rocco AT ราคา 966,000 บาท

Smart Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • 2.8 Rocco AT ราคา 1,096,000 บาท

Double Cab Prerunner ขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • 2.4 Rocco AT ราคา 1,096,000 บาท

Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • 2.8 Rocco AT ราคา 1,256,000 บาท

Toyota Hilux Revo GR Sport

GR Sport Double Cab

  • 2.8 AT ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 889,000 บาท
  • 2.8 AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,299,000 บาท

Toyota Hilux Revo 2022 / โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ 2022

Toyota Hilux Revo 2022

Standard Cab & Cab Chassis

  • 2.4 Entry C&C ราคา 554,000 บาท
  • 2.4 Entry C&C AT ราคา 604,000 บาท
  • 2.4 Entry SWB ราคา 594,000 บาท
  • 2.4 Entry ราคา 594,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 644,000 บาท
  • 2.8 Entry ราคา 609,000 บาท
  • 2.8 Entry 4×4 ราคา 714,000 บาท
  • 2.8 Entry AT 4×4 ราคา 766,000 บาท

หมายเหตุ: รุ่น Standard Cab ตัวถังสีขาว Super White II ลดราคาลง 7,000 บาททุกรุ่นย่อย

Toyota Hilux Revo Z Edition

Smart Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • 2.4 Entry MT ราคา 629,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 679,000 บาท
  • 2.4 Mid MT ราคา 700,000 บาท
  • 2.4 Mid AT ราคา 750,000 บาท

Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • 2.4 Entry MT ราคา 699,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 739,000 บาท
  • 2.4 Mid ราคา MT 765,000 บาท
  • 2.4 Mid AT ราคา 805,000 บาท

Toyota Hilux Prerunner

Smart Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • 2.4 Entry MT ราคา 740,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 790,000 บาท
  • 2.4 Mid MT ราคา 804,000 บาท
  • 2.4 Mid AT ราคา 854,000 บาท

Double Cab ขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • 2.4 Entry MT ราคา 841,000 บาท
  • 2.4 Entry AT ราคา 891,000 บาท
  • 2.4 Mid MT ราคา 891,000 บาท
  • 2.4 Mid AT ราคา 941,000 บาท
  • 2.4 High MT ราคา 982,000 บาท
  • 2.4 High AT ราคา 1,032,000 บาท

Toyota Hilux Revo 4×4

Smart Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • 2.4 Mid 4×4 MT ราคา 904,000 บาท
  • 2.8 High 4×4 MT ราคา 1,001,000 บาท

Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • 2.4 Mid MT ราคา 1,005,000 บาท
  • 2.8 High MT ราคา 1,157,000 บาท
  • 2.8 High AT ราคา 1,207,000 บาท

Toyota Hilux Revo Rocco

Smart Cab Prerunner ขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • 2.4 Rocco AT ราคา 971,000 บาท

Smart Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • 2.8 Rocco AT 4×4 ราคา 1,121,000 บาท

Double Cab Prerunner ขับเคลื่อน 2 ล้อ

  • 2.4 Rocco AT ราคา 1,096,000 บาท

Double Cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ

  • 2.8 Rocco AT 4×4 ราคา 1,121,000 บาท

Toyota Hilux Revo GR Sport

GR Sport Double Cab

  • 2.8 AT ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 889,000 บาท
  • 2.8 AT ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,324,000 บาท

Toyota Hilux Revo 2022 รุ่นฉลองครบรอบ 60 ปี

ราคา Toyota Hilux Revo 2022 รุ่นฉลองครบรอบ 60 ปี

  • Smart Cab 2.4 Mid MT ราคา 720,000 บาท
  • Smart Cab 2.4 Mid AT ราคา 770,000 บาท
  • Smart Cab Prerunner 2.4 Mid MT ราคา 824,000 บาท
  • Smart Cab Prerunner 2.4 Mid AT ราคา 874,000 บาท
  • Smart Cab Prerunner 2.4 ROCCO AT ราคา 991,000 บาท
  • Smart Cab 2.4 Mid 4×4 AT ราคา 924,000 บาท
  • Smart Cab 2.8 High 4×4 MT ราคา 1,021,000 บาท
  • Smart Cab 2.8 Rocco AT 4×4 ราคา 1,141,000 บาท
  • Double Cab 2.4 Mid MT ราคา 785,000 บาท
  • Double Cab 2.4 Mid AT ราคา 825,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2.4 Mid MT ราคา 911,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2.4 Mid AT ราคา 961,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2.4 High MT ราคา 1,002,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2.4 High AT ราคา 1,052,000 บาท
  • Double Cab Prerunner 2.4 Rocco AT ราคา 1,116,000 บาท
  • Double Cab 2.8 Mid 4×4 MT ราคา 1,025,000 บาท
  • Double Cab 2.8 High 4×4 MT ราคา 1,177,000 บาท
  • Double Cab 2.8 High AT 4×4 ราคา 1,227,000 บาท
  • Double Cab 2.8 Rocco AT 4×4 ราคา 1,301,000 บาท

Toyota Hiace 2019 / โตโยต้า ไฮเอช 2019

Toyota Hiace

  • Eco Panel Van ราคา 999,000 บาท
  • GL Van สีขาว ราคา 1,079,000 บาท
  • GL Van สีเงิน ราคา 1,085,000 บาท

Toyota Commuter 2019 / โตโยต้า คอมมิวเตอร์ 2019

Toyota Commuter

  • 2.8 M/T สีขาว ราคา 1,269,000 บาท
  • 2.8 M/T สีเงิน ราคา 1,275,000 บาท
  • 2.8 A/T สีขาว ราคา 1,299,000 บาท
  • 2.8 A/T สีเงิน ราคา 1,305,000 บาท

Toyota Majesty 2019 / โตโยต้า มาเจสตี้ 2019

Toyota Majesty

  • Standard ราคา 1,709,000 บาท
  • Premium ราคา 1,899,000 บาท
  • Grande ราคา 2,199,000 บาท

ดูโปรโมชั่น Toyota ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/toyota-car-price-list/

รวมยอดขายรถใหม่ในไทย ปี 2565

สถิติยอดขายรถใหม่ 2022 ประจำเดือนพฤษภาคม 2565 มีตัวเลขการขายรวมทั้งสิ้น 64,735 คัน เพิ่มขึ้น 15.7% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 20,084 คัน เพิ่มขึ้น 29% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 44,651 คัน เพิ่มขึ้น 10.6% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 33,822 คัน เพิ่มขึ้น 6.4%

เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประชาชนกลับมาใช้ชีวิต ประกอบอาชีพและกิจกรรมทางเศรษฐกิจจนเกือบเป็นปกติ แม้จะมีปัจจัยลบที่สำคัญคือสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง แต่ความต้องการใช้รถยนต์ของผู้บริโภคที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์นั่งซึ่งมีความจำเป็นในการเดินทางที่สะดวก ปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อให้ปลอดภัยจากโรคระบาด โควิด-19

ตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายนมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากผู้บริโภคที่สามารถปรับตัวเข้ากับโควิด-19 ได้ ส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม และสะท้อนไปยังตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน โดยสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลที่ส่วนใหญ่ใช้ในภาคขนส่งจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งราคาน้ำมันเบนซินที่ส่วนใหญ่ใช้ในรถยนต์ส่วนบุคคล ส่งผลให้ต้นทุนในการเดินทางของประชาชนสูงขึ้น แต่ก็ไม่อาจหยุดความต้องการใช้รถยนต์ของผู้บริโภค ภายใต้โปรโมชั่นพิเศษที่ทำให้การเป็นเจ้าของรถยนต์ในปัจจุบันเป็นเรื่องง่าย เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายนยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

New Honda Civic e:HEV 2022

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤษภาคม 2565

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,735 คัน เพิ่มขึ้น 15.7%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 22,181 คัน เพิ่มขึ้น 12.2% ส่วนแบ่งตลาด 34.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,728 คัน เพิ่มขึ้น 5.8% ส่วนแบ่งตลาด 24.3%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 5,035 คัน เพิ่มขึ้น 0.7% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 20,084 คัน เพิ่มขึ้น 29%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,773 คัน เพิ่มขึ้น 19.7% ส่วนแบ่งตลาด 28.7%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,191 คัน ลดลง 27.1% ส่วนแบ่งตลาด 15.9%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,077 คัน เพิ่มขึ้น 76.5% ส่วนแบ่งตลาด 10.3%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 44,651 คัน เพิ่มขึ้น 10.6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 16,408 คัน เพิ่มขึ้น 9.8% ส่วนแบ่งตลาด 36.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,728 คัน เพิ่มขึ้น 5.8% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,637 คัน เพิ่มขึ้น 19.1% ส่วนแบ่งตลาด 5.9%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 33,822 คัน เพิ่มขึ้น 6.4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 14,192 คัน เพิ่มขึ้น 5.9% ส่วนแบ่งตลาด 42.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 13,909 คัน เพิ่มขึ้น 11.1% ส่วนแบ่งตลาด 41.1%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,604 คัน เพิ่มขึ้น 19.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,585 คัน

โตโยต้า 2,048 คัน – อีซูซุ 1,297 คัน – มิตซูบิชิ 702 คัน – ฟอร์ด 435 คัน – นิสสัน 103 คัน

5.  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 29,237 คัน เพิ่มขึ้น 5.4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 12,895 คัน เพิ่มขึ้น 5.2% ส่วนแบ่งตลาด 44.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 11,861 คัน เพิ่มขึ้น 13.0% ส่วนแบ่งตลาด 40.6%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,902 คัน เพิ่มขึ้น 9.7% ส่วนแบ่งตลาด 6.5%

เลือกซื้อรถที่งาน Motor Show 2022 … อย่างไรถึงคุ้มค่า

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2565

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 359,351 คัน เพิ่มขึ้น 16.6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า
121,006 คัน เพิ่มขึ้น 27.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 89,743 คัน เพิ่มขึ้น 13.5% ส่วนแบ่งตลาด 25.0%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
35,766 คัน เพิ่มขึ้น 1.1% ส่วนแบ่งตลาด 10.0%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 116,302 คัน เพิ่มขึ้น 18.9%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 33,010 คัน เพิ่มขึ้น 35.9% ส่วนแบ่งตลาด 28.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
27,056 คัน ลดลง 10.3% ส่วนแบ่งตลาด 23.3%
อันดับที่ 3 มาสด้า 10,151 คัน เพิ่มขึ้น 11.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.7%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 243,049 คัน เพิ่มขึ้น 15.5%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 89,743 คัน เพิ่มขึ้น 13.5% ส่วนแบ่งตลาด 36.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
87,996 คัน เพิ่มขึ้น 24.7% ส่วนแบ่งตลาด 36.2%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 13,545 คัน เพิ่มขึ้น 11.4% ส่วนแบ่งตลาด 5.6%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 190,223 คัน เพิ่มขึ้น 16.2%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
82,799 คัน เพิ่มขึ้น 14.3% ส่วนแบ่งตลาด 43.5%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
76,603 คัน เพิ่มขึ้น 28.4% ส่วนแบ่งตลาด 40.3%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 13,447 คัน เพิ่มขึ้น 13.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 25,400 คัน

โตโยต้า 12,012 คัน – อีซูซุ 7,531 คัน – มิตซูบิชิ 3,483 คัน – ฟอร์ด 1,850 คัน – นิสสัน 524 คัน

5.  ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 164,823 คัน เพิ่มขึ้น 18%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
75,268 คัน เพิ่มขึ้น 17.2% ส่วนแบ่งตลาด 45.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
64,591 คัน เพิ่มขึ้น 31.5% ส่วนแบ่งตลาด 39.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 10,295 คัน ลดลง 9.9% ส่วนแบ่งตลาด 6.2%

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาจาก:

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

8 รถอีโคคาร์มือสอง ประหยัดน้ำมัน ราคาไม่แพง ที่น่าเป็นเจ้าของ!

ในปัจจุบัน “รถมือสอง” นั้นจะมีตัวเลือกในท้องตลาดอย่างมหาศาล และมีรถหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สภาพเก่าๆ ราคาเพียงหลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงราคาหลายล้านบาท ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่ใช้แล้วไม่ถูกใจ ใช้แล้วเบื่อ อยากขายแล้วซื้อใหม่ หรือครอบครัวขยายขึ้น ต้องเปลี่ยนรถใหญ่ขึ้นก็มี

แต่อีกหนึ่งในรถที่ให้ความคุ้มค่าในการใช้งาน ในยุคเศรษฐกิจขาขึ้นก่ายหน้าผากแบบนี้ นั่นคือรถยนต์ “Eco-Car” ที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำงานใหม่ๆ แม่บ้าน หรือนักศึกษา เป็นต้น อยากได้รถมือสองประหยัดน้ำมัน หาที่จอดง่าย ไว้ใช้งานในเมือง ไปจ่ายตลาด หรือขับไปมหาวิทยาลัย ในงบประมาณจำกัด และมีราคารถมือสองที่ไม่แพงมาก ซื้อขายง่าย

ตัวเลือกอย่างรถยนต์ Eco-Car (อีโคคาร์) ถือได้ว่าเหมาะสมกับงบประมาณและสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ … Carro ขอแนะนำ 8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้ มีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง รับชมกันได้เลยครับ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

1. Toyota Yaris

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) ในอดีตถือเป็นรถ Sub-Compact ที่ยอดนิยมที่สุดอีกหนึ่งรุ่นในท้องตลาด ซึ่งรุ่นแรกก่อนหน้านั้น ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แต่ในเจเนอเรชั่นที่เป็น Eco-Car ตอนนี้ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2556 ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ เน้นกลุ่มวัยรุ่น ความปลอดภัยครบครัน

และผ่านการปรับโฉมมาหลายครั้ง แถมยังมีรถใหม่ป้ายแดงขายในตอนนี้อยู่ด้วย เป็นรถที่ดูแลง่าย ทนทาน ค่าซ่อมไม่แพง ศูนย์บริการหาง่าย ของแต่งก็มีเยอะ ขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้งานในเมือง

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i 86 แรงม้า ปัจจุบัน Yaris มีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 240,000 – 540,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

2. Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) จัดเป็นรถ Sedan ในรูปแบบ Eco-Car รุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นในท้องตลาด ที่ทาง Toyota ตั้งใจออกมาขายเพื่อชนกับ Eco-Car ซีดานค่ายอื่นๆ โดยเฉพาะ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560 ด้วยรูปลักษณ์สปอร์ต เจาะกลุ่มวัยรุ่น ความปลอดภัยครบครัน แถมยังมีรถใหม่ป้ายแดงขายอยู่ด้วย เป็นรถที่ดูแลง่าย ทนทาน ค่าซ่อมไม่แพง ใช้อะไหล่ร่วมกับ Yaris โฉม Hatchback ได้พอสมควร

โดยทั้ง Yaris และ Yaris ATIV ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i 86 แรงม้า ปัจจุบัน Yaris ATIV มีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 350,000 – 540,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

3. Nissan March

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ถือเป็นรถ Eco-Car รุ่นแรกที่ทำตลาดในโครงการนี้ ซึ่งในยุคของสยามกลการ เคยทำรุ่นนี้ขายเมื่อ 20 กว่าปีก่อน เปิดตัวเมื่อ 12 มีนาคม 2553 มีราคาจำหน่ายที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ได้รับความนิยมอย่างมากและมียอดขายสะสมรวมหลายแสนคัน แถมยังส่งออกไปขายในญี่ปุ่นอีกด้วย และปัจจุบันยังมีแบบรถป้ายแดงขาย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องอะไหล่นัก

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC 79 แรงม้า ประหยัดนํ้ามันได้มากถึง 20 กม./ลิตร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 130,000 – 330,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

4. Nissan Almera

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) เป็นรถ Eco-Car ขนาด 4 ประตู รุ่นแรกที่ผลิตออกมาในตลาดประเทศไทย เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 พร้อมทั้งมีรุ่นพิเศษออกมาหลายครั้ง รวมไปถึงการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ และเวอร์ชั่นใส่ชุดแต่ง NISMO ด้วย มีความโดดเด่นด้วยขนาดห้องโดยสารที่กว้างขวางกว่ารถรุ่นเดียวกันมาก

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว CVTC 79 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 20 กม./ลิตร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 160,000 – 360,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

หรือถ้ามีงบประมาณมากหน่อย จะเลือก Almera โฉมปัจจุบันในรูปแบบรถมือสอง ที่เปิดตัวสู่ตลาดบ้านเรามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ก็ได้เช่นกัน

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 100 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 450,000 – 500,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

5. Suzuki Swift

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) สำหรับโฉมนี้ เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 เป็นรุ่นที่ประกอบในบ้านเรา ด้วยรูปแบบ Eco-Car ที่ขายดีของซูซูกิ นำเสนอด้วยรูปทรงน่ารักเหมือนรถ Hatchback จากฝั่งยุโรป ออพชั่นแพรวพราว แต่งสวย ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 20 กม./ลิตร และมีรุ่นพิเศษออกมากระตุ้นตลาดอยู่เรื่อยๆ

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12B ขนาด 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT 91 แรงม้า ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 180,000 – 350,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

หรือถ้ามีงบประมาณมากหน่อย จะเลือก Swift โฉมปัจจุบันในรูปแบบรถมือสอง ที่เปิดตัวสู่ตลาดบ้านเรามาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 ก็ได้เช่นกัน

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12M แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 83 แรงม้า กับเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ DUALJET รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 350,000 – 460,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

6. Suzuki Ciaz

Suzuki Ciaz (ซูซูกิ เซียส) (ชื่อรุ่น มาจากคำว่า “City A-Z”) เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 เป็นรถซีดาน 4 ประตู ที่มีอะไรร่วมกันกับ Swift หลายๆ อย่าง แต่งสวย สปอร์ต ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง ประหยัดน้ำมันมากถึง 20 กม./ลิตร และตอนนี้ก็ยังมีรถป้ายแดงขายอยู่

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12B ขนาด 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT 91 แรงม้า ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 240,000 – 400,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

7. Mitsubishi Mirage

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) ชื่อที่คนรุ่นก่อนคุ้นเคยตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้ว ในรูปแบบของรถ 4 ประตู และ 5 ประตู ก่อนจะกลับมาเป็นรถ Eco-Car ขายในตลาดบ้านเราอีกครั้ง เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 ชูรูปทรงขนาดเล็กน่ารัก ปรับโฉมกันมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังมีในรูปแบบรถป้ายแดงให้เลือกเช่นกัน

มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว MIVEC 78 แรงม้า ประหยัดน้ำมันได้ถึง 20-23.8 กม./ลิตร ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 150,000 – 390,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

8 รถมือสอง Eco-Car สุดคุ้มน่าใช้

8. Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวที่แรกในโลกในไทย อีกหนึ่งในรถ Eco­-Car แบบ 4 ประตู แบรนด์ที่สอง ที่ออกแนะนำสู่ท้องตลาดในวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ชูจุดเด่นด้วยการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับรถ อีโคคาร์ ซีดาน จากเทคโนโลยีการออกแบบชั้นสูง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มีให้ครบครัน แล้วก็ยังมีในรูปแบบรถป้ายแดงให้เลือกเช่นกัน

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว MIVEC 78 แรงม้า รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร ปัจจุบันมีราคาอยู่ในตลาดรถมือสองประมาณ 180,000 – 390,000 บาท ขึ้นอยู่กับปี รุ่นย่อย และสภาพตัวรถ

Mr.Carro หวังว่า รถ Eco-Car ที่เรานำมาเสนอนี้ น่าจะถูกใจคุณผู้อ่านนะครับ …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : *ราคาในตลาดรถมือสอง 8 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนมิถุนายน 2565 เมื่อเวลาผ่านไปราคามือสองดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

ถ้าจะให้พูดถึง “รถ SUV” (Sport Utility Vehicle) แล้ว ในบ้านเราก็มีอยู่หลากหลายประเภท เริ่มต้นตั้งแต่แบบ Crossover ซึ่งมาจากคำว่า Crossover Utility Vehicle ซึ่งเป็นรถที่ประกอบเป็นชิ้นเดียวกันทั้งคัน ดูคล้ายกับรถเก๋งยกสูง รูปร่างหน้าตาสวย เน้นความอเนกประสงค์ ตัวรถไม่ใหญ่มากนัก เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก หรืออาจจะลุยได้บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่ากับแบบ SUV แท้ๆ

สำหรับรถ SUV นั้น ก็ยังมีแยกย่อยไปได้อีก 2 แบบหลักๆ ได้แก่ SUV แบบที่มีลักษณะเดียวกันกับรถแนว Crossover แต่มีขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่า โครงสร้างตัวรถเป็นแบบ Monocoque เชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกันตลอดคัน ให้ความนุ่มสบายกว่าเวลาขับ มีที่นั่งทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง

และรถ SUV ที่โครงสร้างตัวรถมีแชสซีส์เป็นฐานหลัก แบบเดียวกับรถกระบะ ที่บ้านเรามักเรียกกันว่า “รถ PPV” หรือ Pick-up Passenger Vehicle ช่วงล่างแบบรถกระบะ เด้ง สะเทือน แต่ผู้ผลิตรถก็พยายามปรับช่วงล่างให้นุ่มนวลขึ้น ด้วยการใช้คอยล์สปริง ตัวรถขนาดใหญ่ นั่งได้ 7-8 ที่นั่ง ใช้วิ่งในเมือง ลุยทางฝุ่น เข้าป่าฝ่าดงได้

คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงรถอเนกประสงค์ ที่ใช้งานได้หลากหลาย ขับไปทำงาน ไปพักผ่อนหย่อนใจกันได้ทั้งครอบครัว ฝนตกก็พอลุยน้ำท่วมได้ หรือเข้าทางลูกรังก็พอลุยได้ มีให้เลือกกันทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งยังแบ่งออกไปได้อีกเป็นแบบ Part-Time หรือแบบ Full-Time เป็นต้น

Carro ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ SUV และ Crossover ราคาถูกสุดในไทย ประจำปี 2022 มาให้ทุกท่านได้เลือก และเช็คราคากันครับ.

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

1. MG ZS 1.5 C ราคา 689,000 บาท

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) เป็นรถที่พวกลื้ออาจจะถามว่า กี่ล้านนนนน แต่ตอนพวกลื้อจะขาย ก็อาจจะถามว่า เหลือกี่แสนนนนน …..

โดย MG ZS จัดเป็นรถในระดับ B-SUV รุ่นไมเนอรเชนจ์ล่าสุด เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2563 เอาใจคนรุ่นใหม่ด้วยความเป็น Smart SUV ที่ชูจุดเด่นอย่างระบบ i-Smart ระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย และยังดูสถานะและสั่งงานระบบต่างๆ ของตัวรถผ่านแอพพลิเคชั่น MG iSMART บนโทรศัพท์มือถือ ได้อีกทั้งยังตั้งราคาในแบบที่ว่า “จับต้องได้” จนหลายต่อหลายคนต้องลองซื้อไปใช้กัน ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง หรูหรา ใช้งานได้อเนกประสงค์

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ตัวเดียวกับที่ใช้ใน MG3 และ MG5 แต่ปรับแรงม้าให้มากขึ้นมาเป็น 114 แรงม้า พร้อมกับปรับปรุงชิ้นส่วนภายใน และช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension ส่งกำลังผ่านระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ CVT ใหม่

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

2. Honda BR-V 1.5 V ราคา 765,000 บาท

Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์วี) เป็นรถแนว Active Sport Crossover มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่และไฟ LED สำหรับวิ่งกลางวัน, ไฟตัดหมอกใหม่ เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin) ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว แถมยังสีภายนอกเพิ่มสีใหม่ แดงมุก Passion Red

ชูจุดเด่นด้วยภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทนดำ-แดงสไตล์สปอร์ต มีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถพับแยกแบบ 60:40 หรือพับตลบจังหวะเดียว (One Motion) ปรับเลื่อนหน้า-หลัง เพื่อให้ผู้โดยสาร แถวที่ 3 เข้า-ออกได้สะดวกยิ่งขึ้น และพนักพิงปรับเอนได้ถึง 3 ระดับ โดยเบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง พนักพิงสามารถพับแยกแบบ 50:50 หรือพับตลบไปด้านหน้า 2 จังหวะ เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย และแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร แบบเดียวกับใน Honda City (โฉมเก่า) ให้แรงม้าสูงสุด 117 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT โดยทั้งเครื่องยนต์และเกียร์ พัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยี Earth Dreams พร้อมรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85

Mazda CX-3 2022

3. Mazda CX-3 2.0 Base ราคา 769,000 บาท

Mazda CX-3 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3) ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์รุ่นฮิต ในโฉมรถใหม่ 2022 ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถอเนกประสงค์ Compact SUV เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ตัวรถดูเรียบหรู ภายใต้ Concept “Less is More” เพิ่มตัวถังสีบรอนซ์ Platinum Quartz ผสมผลึกกึ่งโปร่งแสงจากควอตซ์ขาวละเอียด เป็นจุดเด่น

ภายในห้องโดยสารตกแต่งระดับพรีเมียม ทั้งคอนโซลหน้าแบบ Grand Luxe Suede สีเทา, เบาะนั่งสีดำเดินด้ายสีเทา พร้อมปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 8 ทิศทางและหน่วยความจำ, หน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto หรือระบบชาร์จไฟไร้สาย Wireless Charger กล้องมองภาพด้านหลัง, ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start Button) เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ให้กำลังเครื่องยนต์มากที่สุดและประหยัดน้ำมันมากที่สุดถึง 16.4 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

4. DFSK Glory 560 ราคา 789,000 บาท

การกลับมาใหม่อีกครั้ง สำหร้บ DFSK (ดีเอฟเอสเค) ที่เคยผลิตและนำเข้ารถบรรทุกเล็กกับรถตู้มาขายในไทย ก่อนจะเลิกขายไป งวดนี้ตัวแทนจำหน่ายรายเดิม ได้กลับมาทำตลาดใหม่พร้อมนำเข้า DFSK Glory 560 (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ 560) รถ Crossover SUV สัญชาติจีนแบบ 7 ที่นั่ง ถูกสุดในตลาดบ้านเราแล้วตอนนี้ โดยนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย ซึ่งในตลาดจีนเองใช้ชื่อว่า Dongfeng Fengguang S560 (ตงฟง เฟิงกวง เอส560) เปิดตัวไปในช่วงปี 2017 ในราคาสุดคุ้ม แถมหรูอย่างกับรถยุโรป!

ภายนอกมาพร้อมชุดไฟหน้าแบบ Projector LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟตัดหมอกหน้า กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว ที่ปรับและพับได้อัตโนมัติ ตกแต่งตัวรถให้ดูบึกบึน ส่วนไฟท้ายแบบแนวยาว มีเซ็นเซอร์ถอยหลัง ไฟตัดหมอกหลัง และล้อแม็กแบบสปอร์ตขนาด 17 นิ้ว

ส่วนภายในห้องโดยสาร ตกแต่งหรูหราเกินราคา ด้วยเบาะหนัง มาพร้อมหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปรับระดับได้ มีระบบอัจฉริยะ (Intelligent Features) ประกอบด้วย ระบบนำทาง GPS, รีโมทอัจฉริยะ Keyless, ปุ่ม Push Start, กระจกไฟฟ้าขึ้น-ลง ควบคุมได้ด้วยรีโมท มีเบรกมือไฟฟ้า มีระบบ Cruise Control พร้อมระบบปลดล็อคอัตโนมัติกรณีเกิดการปะทะให้ด้วย

รวมถึงก้านไฟเลี้ยว ที่ปรับย้ายฝั่งมาที่ด้านขวาแล้ว เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ต่างจากรถจีนในหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ที่ไม่ได้ย้ายตามที่ใช้ในพวงมาลัยซ้ายมาด้วย

ขุมพลังมีขนาด 1.5 ลิตร Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

Haval Jolion Hybrid SUV 2022

5. Haval Jolion Hybrid SUV Tech ราคา 879,000 บาท

All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV (ฮาวาล โจไลอ้อน) นับเป็นรถจีนรุ่นที่ 2 ของ Haval จากสายการผลิตที่โรงงาน Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) จ.ระยอง เปิดตัวในไทย (รุ่นพวงมาลัยขวา) คันแรกของโลก ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ด้วยราคาสุดเร้าใจ และการออกแบบรถ คุณภาพวัสดุ ดูดีเหมือนรถยุโรป ส่วนที่มาของชื่อรุ่น Jolion มาจากการรวมคำว่า Joy + Lion

ความพิเศษของรถรุ่นนี้ อยู่ที่การใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะเช่นเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV และพกพาความหรูหรามารอบคัน ด้วยกระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา ไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ กับระบบ Daytime Running Light และระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค พร้อมไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ร่วมด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ และไฟท้าย LED

ห้องโดยสารภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” กว้างสบาย เริ่มด้วยการเชื่อมต่อของ 3 หน้าจออัจฉริยะ ทั้งหน้าจอหลักตรงกลางแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับ Apple Carplay MP3 JOOX และระบบนำทาง ต่อด้วยหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอ Head-up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมด้านหน้า

นอกจากนี้ ยังมีเบาะคนขับที่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ลำโพง 6 ตัว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา และช่องแอร์ด้านหลัง ระบบกรองอากาศ PM2.5 ที่ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start รวมไปถึงเบาะที่นั่งด้านหลังพับลงได้พื้นที่บรรทุกสัมภาระสูงสุดถึง 1,069 ลิตร

พร้อมการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT และเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent Single Pedal) ให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว

พร้อมด้วยเทคโนโลยี LEMON Hybrid DHT (Dedicated Hybrid Technology) ที่พัฒนาขึ้นโดย GWM ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ไฮบริดและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 23.8 กม./ลิตร (ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ) ชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter ปรับโหมดการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ 1) โหมดมาตรฐาน 2) โหมด Sport 3) โหมด ECO 4) โหมดสภาพถนนลื่น ซึ่งจะมีการปรับการใช้พลังงานขับเคลื่อนเหมาะสมกับการขับขี่ในแต่ละโหมด

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

6. Nissan Kicks e-POWER S ราคา 889,000 บาท

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) เป็นรถครอสโอเวอร์ไฮบริด ที่มาพร้อมจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

7. DFSK Glory i-Auto ราคา 919,000 บาท

DFSK (ดีเอฟเอสเค) ผู้ผลิตรถจีนแบรนด์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน ภายใต้ตัวแทนจำหน่ายที่กลับมาทำตลาดอีกครั้งในไทย ได้นำเข้า DFSK Glory i-Auto (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ ไอ-ออโต้) รถ Crossover SUV สัญชาติจีนแบบ 7 ที่นั่ง จากอินโดนีเซียมาบุกตลาดบ้านเรา ซึ่งในตลาดจีนเองใช้ชื่อว่า Dongfeng Fengguang 580 (ตงฟง เฟิงกวง 580) เปิดตัวไปตั้งแต่ช่วงปี 2016

ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าแบบ Infinite Starlight Design ชุดไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ส่วนไฟท้ายแบบ Full LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential, หลังคาแบบ Panoramic Sunroof ที่สั่งการเปิดได้ด้วยเสียง, ประตูบานท้ายแบบไฟฟ้า พร้อมเซ็นเซอร์เท้า, กล้อง 360 องศารอบคัน และล้อแม็กแบบสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว

ส่วนภายในห้องโดยสาร ตกแต่งหรูหราพร้อมลายไม้ มาพร้อมหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว กับปุ่มสั่งงานบริเวณแผงคอนโซล, ระบบสั่งการด้วยเสียง i-Talk, เบาะหนังแท้ 7 ที่นั่ง พร้อมกล้องบันทึกภาพขณะรถวิ่ง และระบบความปลอดภัยมากมาย

ขุมพลังมีขนาด 1.5 ลิตร Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT บนน้ำหนักตัวรถ 1,510 กิโลกรัม

New MG HS และ MG HS PHEV 2022

8. MG HS 1.5 T 2WD C ราคา 939,000 บาท

New MG HS (เอ็มจี เอชเอส) รถใหม่ 2022 แบบ SUV รุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ภายใต้แนวคิด Refinement โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย หรูหราทันสมัย และความสปอร์ต มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องเบนซินเทอร์โบ และ ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-In Hybrid)

โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยการติดตั้งระบบนำทางเสมือนจริง หรือ AR Navigation ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกล้องหน้าที่ถ่ายทอดสภาวะแวดล้อมจริงในขณะเดินทาง ร่วมกับระบบนำทาง Navigation แบบ Realtime ช่วยให้การใช้งานระบบนำทางแม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากกว่าเดิม

และระบบกุญแจดิจิตอล (Digital Key Technology) อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากลสูงสุดถึง 26 ระบบ และระบบช่วยผู้ขับขี่หรือระบบ ADAS ที่เทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน Turbo GDI ขนาด 1.5 ลิตร 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด แบบ Twin Clutch Sportronic Transmission (TST) และเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้กำลังสูงสุด 284 แรงม้า

มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบโมดูล ขนาดใหญ่ 16.6 kWh ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

All-New Honda HR-V e:HEV 2022

9. Honda HR-V e:HEV E ราคา 979,000 บาท

All-New Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์วี) ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยรูปแบบ e:HEV ขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย กับรุ่นย่อย RS เปิดตัวในไทยที่แรกของโลก! เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์ SUV ได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตา ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย กว้างขวาง

มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม โดดเด่นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟได้ประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

10. Mazda CX-30 2.0 C ราคา 989,000 บาท

Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) เพิ่งปรับโฉมใหม่ไปในเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา ด้วยสีใหม่ล่าสุด บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มต้นชีวิตคู่ในสไตล์ใหม่ ที่กำลังมองหาครอสโอเวอร์ในกลุ่ม B-SUV

ตัวรถออกแบบภายใต้แนวคิด Kodo: Soul of Motion เป็นรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 โดย CX-30 เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม “Less is More” ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ภายในห้องโดยสารยังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่พิถีพิถัน คัดสรรเลือกใช้เฉพาะวัสดุเกรดพรีเมี่ยมในทุกจุดสัมผัส ดุจงานศิลปะชั้นสูงที่มีเอกลักษณ์

เพิ่ม ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวันแบบ LED Signature และไฟท้ายแบบ LED Signature, เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง และกล้องมองหลัง (ในรุ่น 2.0 C), ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS (ในรุ่น 2.0 C) และเพิ่มระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS สามารถทำงานได้ถึง 145 กม./ชม.

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

10. Toyota Corolla Cross 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover ของโตโยต้าซึ่งได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัว สร้างยอดขายสูงสุดในตลาดรถ Sub-Compact SUV ที่สำคัญ ยอดขายรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด มีสัดส่วนถึง 85% ของยอดจำหน่ายรวม และเป็นยอดขายสูงสุด ในตลาดรถ Hybrid SUV และยังเอาใจคนชอบรถแนวสปอร์ต กับรุ่น HEV GR Sport อีกด้วย

Toyota Corolla Cross พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue)

ภายนอกมาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

Mr.Carro หวังว่า 10 อันดับ รถ SUV – PPV และ Crossover ถูกสุดในไทยที่นำมาเสนอนั้น หากใครอยากได้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี! แล้วอยากขายรถคันเดิม มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : *ข้อมูลสินค้า 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลสินค้าที่ Update ณ เดือนพฤษภาคม 2565 เมื่อเวลาผ่านไปราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรือราคาล่าสุด ที่ตัวแทนจำหน่ายรถรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง

**การจัดอันดับ หากเป็นรถ SUV รุ่นที่มีราคาเท่ากันในหลายยี่ห้อนั้น ทางเราจะจัดอันดับเรียงตามการเปิดตัวโฉมใหม่ล่าสุด หรือการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ล่าสุด ขึ้นเป็นอันดับแรก

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

“ญี่ปุ่น” นับเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมยานยนต์อยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก แม้ว่าในช่วงหลังๆ อาจจะดูเงียบไปบ้าง (เนื่องจากเจอค่ายรถยนต์จากจีน พยายามแซงขึ้นมาแล้ว) แต่ก็ยังมีแบรนด์รถยนต์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่หลายแบรนด์ อีกทั้งยอดขายภายในประเทศตัวเอง ก็ขายได้มากถึงหลายล้านคันต่อปี

นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา เจอโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก แถมด้วยสายพันธุ์ใหม่กระหน่ำซ้ำอีก บวกกับปัญหาจากวิกฤติ Semiconductor Chip Shortage หรือชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน ทำให้รถบางรุ่นต้องพักสายการผลิต เพราะไม่สามารถหาชิปมาผลิตรถได้

บรรดาค่ายรถญี่ปุ่นก็ได้ผลกระทบต่อเนื่อง ในปี 2021 ที่ผ่านมา มียอดขาย และยอดจดทะเบียนรถในประเทศญี่ปุ่น ตกลงมาเหลือ 4,448,340 คัน ลดลง 3.3% เมื่อเทียบกับยอดขายรถในปี 2020 ที่ผ่านมาที่ทำได้มากถึง 4,598,615 คัน (ซึ่งก็เป็นยอดที่ลดลงมาแล้วก็ตาม)

ในรอบหนึ่งทศวรรษ นี่นับเป็นครั้งที่สาม ตั้งแต่ที่ในญี่ปุ่นเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ คลื่นสึนามิถล่มในเดือนมีนาคม 2011 และในปี 2016 ที่ส่งผลให้ยอดขายรถตกลงมาต่ำกว่า 5 ล้านคัน ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง แต่ในปี 2022 นี้ หลายฝ่ายต่างคาดว่ายอดขายจะดีขึ้น เพราะมียอดจองรถที่เข้ามามาก รวมไปถึงวิกฤตโควิด และสงครามรัสเซีย-ยูเครน จะเริ่มแผ่วเบาลง

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

ตัวเลขยอดขาย แยกย่อยออกเป็นรถยนต์ทั่วไป 2,399,862 คัน (-3.2% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว), รถ K-Car 1,275,836 คัน (-4.2% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว), รถเชิงพาณิชย์ 389,076 คัน (-0.8% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว), รถ K-Car เชิงพาณิชย์ 376,686 คัน (-2.6% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว) และรถบัส 6,880 คัน (-26.3% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว)

ซึ่งยอดขายรถบางส่วนนี้ รวมไปถึงรถยนต์ที่ผู้จำหน่ายอิสระซื้อ และสั่งเข้ามาขายในไทยด้วยนะครับ

สำหรับรถยนต์ในญี่ปุ่นนั้น มีอายุการใช้งานที่ไม่มากนัก เพียงไม่กี่ปี จากอัตราภาษีที่ปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุรถและค่าซ่อมรถที่ค่อนข้างแพง จึงทำให้มีการกระตุ้นยอดขายรถใหม่ไปในตัวตลอด แล้วรถใหม่ก็มีราคาจำหน่ายที่ไม่แพงมาก ผนวกกับค่าครองชีพของคนญี่ปุ่น ที่สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็สามารถซื้อรถยนต์คันใหม่ได้ไม่ยาก ยอดขายรถจึงค่อนข้างสูงหลายแสนคันต่อเดือน

Mr.Carro ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ รถที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น (ตามการจัดอันดับของสมาพันธ์ผู้ค้ารถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น JADA (Japan Automobile Dealers Association) ซึ่งรถยนต์แบบ K-Car จะถูกจับแยกออกไปต่างหาก) ประจำปี 2021 มาให้ทุกท่านได้ทราบครับ.

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

1. Toyota Yaris ยอดขาย 212,927 คัน

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) น้องเล็กของ Toyota ที่เป็น Yaris ในตลาดโลก (แต่ในบ้านเรา กลับได้ Yaris เวอร์ชั่นจีนมาแทน) เพิ่งปรับโฉมโมเดลเชนจ์ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2019 ที่ผ่านมา สามารถไต่ยอดขายได้เป็นไปอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง แสดงให้เห็นว่าชาวญี่ปุ่นนิยมรถแนวนี้มากๆ

โดยโฉมนี้ใช้แพลตฟอร์มใหม่อย่าง TNGA-B มาในรูปแบบสปอร์ต ภายในขับขี่ง่าย ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ง่าย พร้อมระบบความปลอดภัยอย่าง Toyota Safety Sense ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร รหัส 1KR-FE ให้แรงม้าสูงสุด 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที

แบบเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NR-FKE ให้แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่วนเครื่องยนต์รหัส 1NR-FE มี ให้แรงม้าสูงสุด 95 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 119 นิวตัน-เมตร

ส่วนขุมพลัง Hybrid มีขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 111 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-4,400 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 61 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 169 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

อีกทั้งยังมีรุ่นพลังแรงให้เลือก (ที่มีขายในบ้านเราด้วย!) นั่นคือ Toyota GR Yaris ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร รหัส G16E-GTS แบบแถวเรียง 3 สูบ เทอร์โบ DOHC 12 วาล์ว ขุมพลังใหม่ล่าสุด พละกำลังสูง ด้วยความแรงระดับ 261 แรงม้า  พร้อมแรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด iMT (Intelligent Manual Transmission) และรุ่น GRMN Yaris ที่ลดน้ำหนักตัวรถลงไปถึง 20 กิโลกรัม สำหรับนักขับแบบฮาร์ดคอร์ จำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น

สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 230 กม./ชม. โดยพละกำลังทั้งหมดจากเครื่องยนต์ จะถูกถ่ายทอดผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ล่าสุด ที่เรียกว่า “GR-FOUR”

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

2. Toyota Roomy ยอดขาย 134,801 คัน

Toyota Roomy (โตโยต้า รูมมี่) รถยอดนิยม รูปทรงแบบ Tall Boy ที่มาแทน Toyota bB (โตโยต้า บีบี) รุ่นก่อนหน้า ที่ยังมีคู่แฝด ในชื่อ Daihatsu Thor อีกด้วย รุ่นปัจจุบันเป็นโฉมไมเนอร์เชนจ์เมื่อเดือนกันยายน 2020 ที่ผ่านมา เป็นรถที่นั่งได้ 5 ที่นั่ง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร รหัส 1KR-FE ซึ่งให้แรงม้าสูงสุด 69 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 92 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที

และในรุ่น Turbo Intercooler รหัส 1KR-VET ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที แรงเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรที่ไม่มี Turbo

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

3. Toyota Corolla ยอดขาย 110,865 คัน

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) ต้องบอกได้ว่าลุคของ Corolla ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 12 นี้ ฉีกความอนุรักษ์นิยมเดิมๆ เรียบๆ เรื่อยๆ ของ Corolla Axio ทิ้งไปได้หมดจริงๆ สำหรับเวอร์ชั่นญี่ปุ่นที่ดูเปรี้ยวสุดๆ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และยังมีรุ่น 5 ประตู Sport Hatchback กับรุ่นแวกอนอย่าง Touring ออกมาขายเช่นเคย

ขุมพลังของทั้งรุ่น Sedan, Sport และ Touring มีให้เลือก 2 รุ่นเครื่องยนต์ ตั้งแต่เบนซินขนาด 1.2 ลิตร Turbo รหัส 8AR-FTS ให้แรงม้าสูงสุด 116 แรงม้า ที่ 5,200-5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 185 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ iMT และเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่สามารถล็อคอัตราทดได้ 10 สปีด

แบบเบนซินเพียวๆ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FAE ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 170 นิวตัน-เมตร ที่ 3,900 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ส่วนขุมพลัง Hybrid ยกมาจาก Prius ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 72 แรงม้า ให้กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบอยู่ที่ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา Toyota ได้ออกรุ่นพิเศษให้กับ Corolla 50 Million Edition ฉลองครบรอบการผลิตครบ 50 ล้านคัน ของโคโรลล่า Hybrid ทุกรุ่นย่อยอีกด้วย

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

4. Toyota Alphard ยอดขาย 95,049 คัน

Toyota Alphard (โตโยต้า อัลฟาร์ด) ยังคงเป็นรถแวนระดับหรู ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งในญี่ปุ่นและในไทย แม้จะอยู่ในช่วงปลายอายุตลาดแล้ว แต่ในปี 2021 ยังมาพร้อมตัวเลขยอดขายที่สูงกว่าในปี 2020 ถึง 4.7% (ปี 2020 ยอดขาย 90,748 คัน)

มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายด้วยชุดเซ็นเซอร์เปิดฝาท้ายแบบ Kick activated เพิ่มสุนทรียภาพในทุกการเดินทางด้วยเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสด้านหน้าขนาด 10.5 นิ้ว และด้านหลังขนาด 13.3 นิ้ว ที่สามารถรองรับ Apple Carplay ตลอดจนลำโพง JBL 17 ตัว

นอกจากนี้ยังมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยกล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor) กล้องวิดีโอบันทึกภาพติดรถยนต์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (Digital Video Recorder) และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้ารุ่นล่าสุด อย่าง Toyota Safety Sense เจเนอเรชั่นที่ 2

ขุมพลังพื้นฐานมีเป็นแบบเบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที

ส่วนขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า (PS) ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 – 4,800 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวหน้าให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า และตัวหลัง 68 แรงม้า โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

และขุมพลังเบนซินขนาด 3.5 ลิตร รหัส 3GR-FKS แบบ V6 DOHC Chain Drive VVT-iW และ D-4S ให้แรงม้าสูงสุด 296 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 – 4,700 รอบ/นาที

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

5. Nissan Note ยอดขาย 90,177 คัน

Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) รถ Sub-Compact โฉมใหม่ล่าสุดจาก Nissan ที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ในญี่ปุ่นจริงๆ สร้างยอดขายแบบพุ่งกระฉูดได้ตลอดปี 2021 ต่างจาก Nissan Note จำหน่ายในบ้านเราลิบลับ! แถมยังมี Nissan Note Aura (นิสสัน โน๊ต ออร่า) มาช่วยเสริมทัพด้วย

โดย Nissan Note โฉมล่าสุดนี้ถูกออกแบบใหม่หมด มาพร้อมความคล้าย Nissan Leaf หน่อยๆ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรง V-Motion ไฟหน้าแบบ LED แบบ 4 ดวงในแต่ละข้าง ส่วนไฟท้ายเป็นรูปทรงแนวนอน พร้อมล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว มีสีตัวถังให้เลือกเยอะถึง 13 สี และสามารถเลือกหลังคาแบบสีดำได้

ส่วนภายในห้องโดยสารหรูหราขึ้นมาก แผงคอนโซลแบบสองชั้น ส่วนคอนโซลกลางมาพร้อมคันเกียร์ไฟฟ้า ติดตั้งเบาะนั่ง Zero Gravity พร้อมที่วางแขนขนาดใหญ่ เสริมด้วยจอ Infotainment ขนาดใหญ่ แสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล ติดตั้งระบบ ProPILOT with Navi-link สามารถปรับความเร็วตามป้ายจำกัดความเร็วได้อัตโนมัติ รวมถึงลดความเร็วก่อนเข้าโค้งได้

ขุมพลัง e-Power พัฒนาให้มีกำลังเพิ่มขึ้น 6% และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้น 10% เป็นแบบเบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 82 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 134 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร (รุ่น 4WD มีมอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลัง ขนาด 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร เพิ่มมาให้ด้วย) มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

ส่วน Nissan Note Aura (นิสสัน โน๊ต ออร่า) ที่ปรับแต่งให้สวยหรูยิ่งขึ้น และ Nissan Note Aura Nismo (นิสสัน โน๊ต ออร่า นิสโม่) ที่เปิดตัวไปในเดือนสิงหาคม 2021 ทาง Nissan ระบุว่า Note Aura เป็นรถรุ่นแรกของ Nissan ที่ตกแต่งในธีมการออกแบบใหม่ของ Nismo มาพร้อมชุดแต่งรอบคันที่ตกแต่งด้วยสีแดง มีไฟตัดหมอกหน้า-หลัง พร้อมเบาะนั่งแบบบักเก็ตซีทสไตล์รถแข่งจาก Recaro ตกแต่งด้วยวัสดุหนังกลับและหนังสังเคราะห์ ตกแต่งแผงคอนโซลลายคาร์บอนสีแดง ก็ช่วยให้ยอดขายกระฉูดกันไป

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

6. Toyota Raize ยอดขาย 81,880 คัน

Toyota Raize (โตโยต้า ไรซ์) รถ Crossover ขนาดเล็กยอดนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น ที่มีคู่แฝดร่วมกันกับ Daihatsu Rocky (ไดฮัทสุ ร็อคกี้) ซึ่งมีการดีไซน์ที่คล้ายกับ Toyota RAV4 รุ่นใหม่อยู่ไม่น้อย ที่นอกจากจะขายดีในญี่ปุ่นแล้ว Toyota ยังนำไปเปิดตัวในหลายๆ ประเทศ และในอาเซียน ก็ขายดีไม่แพ้กัน

มาพร้อมกันชนหน้าทรงสปอร์ตขนาดใหญ่ และไฟตัดหมอก กับไฟ Daytime Running Light ทรงแนวนอน พร้อมไฟท้ายแบบ LED กับห้องโดยสารภายใน ที่นั่งกันได้สบายๆ 5 คน พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีมากถึง 369 ลิตร

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรหัส 1KR-VET แบบ 3 สูบ DOHC Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 140 นิวตันเมตร ที่ 2,400 – 4,000 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Dynamic Torque Control 4WD ให้เลือก

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

7. Toyota Harrier ยอดขาย 74,575 คัน

Toyota Harrier (โตโยต้า แฮริเออร์) เจเนอเรชั่นที่ 4 แม้ว่าในบ้านเราอาจจะไม่ได้ฮิตเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่ที่ญี่ปุ่นยังเป็นรถ SUV ที่ขายดีมาก สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม TNGA (GA-K) ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ แนวหลังคาลาดแบบรถคูเป้ ให้การขับขี่ที่สบายและสนุกมากกว่าเดิม และมิติตัวรถที่ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ

รูปลักษณ์ภายนอกของดีไซน์ดูแข็งแกร่ง โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED แบบเรียวบางพร้อมแถบโครเมี่ยม พร้อมชุดไฟท้าย LED แนวนอนคาดยาวเต็มความกว้างของบั้นท้าย ส่วนภายในห้องโดยสารใช้โทนสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไม้กฤษณา และตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์ พร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ

เครื่องยนต์นั้นมีทั้งแบบเบนซิน และแบบไฮบริดให้เลือก โดยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส M20A-FKS ให้แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 207 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-CVT

และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS ให้แรงม้าสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า 120 แรงม้า และด้านหลัง 54 แรงม้า รวมกำลังสงสุด 222 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

8. Toyota Aqua ยอดขาย 72,495 คัน

Toyota Aqua (โตโยต้า อควา) หรือ Prius C (พรีอุส ซี) ในตลาดต่างประเทศ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดโฉมเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในเมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 ที่ผ่านมา ด้วยรูปทรงที่น่ารัก ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม TNGA GA-B ขยายความยาวฐานล้อเพิ่มอีก 50 มม. โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ความน่ารักไว้คล้ายกับในโฉมที่แล้ว

แน่นอนว่ารุ่นนี้ต้องมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำๆ อยู่แล้ว อาทิ ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ในทุกรุ่นย่อย พร้อมระบบช่วยจอด Toyota Teammate Advanced Park ครั้งแรกในรถ Compact ของ Toyota ซึ่งตัวรถสามารถควบคุมการจอดรถเองได้หมด ทั้งเดินหน้า-ถอยหลัง หรือหมุนพวงมาลัยเอง

และยังเป็นรถที่สามารถใช้จ่ายไฟในกรณีฉุกเฉินยามเกิดภัยพิบัติได้ด้วย สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 1,500 วัตต์แบบกระแสสลับ ด้วยแรงดัน 100 โวลต์ ตามมาตรฐานครัวเรือนญี่ปุ่น พร้อมทั้งช่องจ่ายไฟแบบ USB สำหรับชาร์จสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ขนาดเล็กด้วย

ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.5 ลิตรแบบใหม่ รหัส M15A-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 120 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800-4,800 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร

มาพร้อมระบบ Pleasure Pedal เป็นครั้งแรก หากใช้โหมด Power+ สามารถใช้แป้นคันเร่งเพิ่มหรือชลอความเร็วเพียงแป้นเดียวได้ ช่วยให้ขับรถในเมืองได้สบายขึ้น ขณะที่โหมดอื่นๆ ประกอบด้วย Normal, Power และ Eco-Drive

มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ E-Four ที่จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าเพิ่มมาที่ด้านหลังอีก 1 ตัวด้วย ให้กำลัง 6.4 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 5.3 นิวตัน-เมตร

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

9. Toyota Voxy ยอดขาย 70,085 คัน

Toyota Voxy (โตโยต้า วอกซี่) สำหรับเจเนอเรชั่นที่ 3 ของรถ MPV ขายดีฝั่ง Toyota อย่าง Voxy นับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2017 ก่อนจะปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2017 และยังมีคู่แฝดร่วมรุ่นอย่าง Noah และ Esquire ที่ในบ้านเราก็มีคนนำเข้ามาขายกันหลายคัน พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยล่าสุดอย่าง Toyota Safety Sense C

เครื่องยนต์นั้นมีทั้งแบบเบนซิน และแบบไฮบริดให้เลือก โดยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3ZR-FAE ให้แรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 193 นิวตัน-เมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

และเครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE ให้แรงม้าสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 82 แรงม้า แรงบิดสงสุด 207 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

10 อันดับ รถขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ปี 2021

10. Honda Freed ยอดขาย 69,577 คัน

Honda Freed (ฮอนด้า ฟรีด) แม้ว่าจะเปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 2 ไปตั้งแต่ปี 2016 ที่ผ่านมา แต่กระแสตอบรับยังแรงต่อเนื่อง นับเป็นรถ Minivan MPV ขนาดเล็กที่ใช้พื้นฐานร่วมกับ Honda Fit และ Grace (หรือ Honda Jazz กับ City ในไทย) มีจำหน่ายทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ซึ่งในปี 2021 ที่ผ่านมา Honda Freed ก็ฉลองยอดการผลิตไปถึง 1 ล้านคันเรียบร้อย

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเบนซินและ Hybrid เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 153 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

ในส่วนของเครื่องยนต์ Hybrid ทำงานคู่กันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC + ระบบ Hybrid แบบ Sport Hybrid i-DCD ให้แรงม้าสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 134 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 29.5 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ 7 สปีด

MR.CARRO หวังว่า 10 อันดับ รถขายดีสุดในญี่ปุ่นที่นำมาเสนอนั้น น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนนะครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : ข้อมูลรถ 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ Update ณ เดือนเมษายน 2565 เมื่อเวลาผ่านไป ราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

แหล่งที่มาจาก:

Carro Automall แนะนำ Toyota Fortuner ลุยได้ทุกฤดู

ในสังเวียนของรถยนต์แบบ SUV ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับรถกระบะ หรือมีแชสซีส์เป็นพื้นฐานที่บ้านเรามักเรียกว่า รถ PPV (หรือ Pick-Up Passenger Vehicle = รถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ) นับได้ว่าเป็นสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือด มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะในตลาดรถใหม่ หรือในตลาดรถมือสองก็ตาม

สำหรับรถยนต์ประเภทนี้ ถือได้ว่ามีบทบาทสำหรับคนใช้รถในไทยมานาน ทั้งตอบโจทย์ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน การบรรทุกสัมภาระ ยิ่งคนมีครอบครัวใหญ่ มีลูกหลานหลายคน ใช้รถเดินทางไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมญาติได้ลงตัว โดยรถรุ่นใหม่ๆ ต่างออกแบบมาใช้ขับง่าย ใช้งานง่าย ออฟชั่นเพียบ และเพิ่มความหรูหรามากกว่าในอดีตเป็นเท่าตัว

และในวันนี้ Carro จะขอพาทุกท่านมารู้จักกับ รถอเนกประสงค์ยอดฮิตที่สุดในไทยอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นรถที่ซื้อง่ายขายคล่อง ราคาตกน้อย และการดูแลรักษา อะไหล่หาง่าย นั่นก็คือ Toyota Fortuner มือสอง (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มือสอง) ในเจเนอเรชั่นที่ 2 นั่นเองครับ

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2015

สำหรับ รถอเนกประสงค์ Toyota Fortuner โฉมนี้ มาพร้อมสโลแกน “New Legend of the Pride” หรือ “เหนือนิยามแห่งศักดิ์ศรี” เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2558 ภายใต้โครงการ IMV (Innovative International Multi-Purpose Vehicle) ที่ Toyota เคลมว่าเป็นผู้นำในตลาดรถอเนกประสงค์ประเภท PPV ในไทย และในต่างประเทศ

สำหรับ Toyota Fortuner 2015 มาพร้อมนิยามใหม่ของ “ความแกร่ง” ขยายเฟรมให้ใหญ่ขึ้น และพัฒนาช่วงล่างแบบ 4 ลิงค์ เครื่องยนต์ใหม่ รวมถึงนิยามใหม่แห่ง “ดีไซน์” ที่หรูหรา ล้ำสมัย ทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะ 3 เส้นสายแห่งดีไซน์ (3 Iconic Lines) ออกแบบได้สวยทั้งหน้าและหลัง

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2015

ห้องโดยสารภายใน มีฟังก์ชั่นเด่นๆ อย่าง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, ระบบนำทาง (Navigator) พร้อมเครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ T-Connect และการเชื่อมต่อ Bluetooth, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติสามารถควบคุมแรงลมอัตโนมัติ, กล้องมองภาพด้านหลัง, ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ, ระบบ Cruise Control หรือช่องเก็บของแบบ Cool Box เป็นต้น

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2015

นิยามใหม่แห่งสมรรถนะการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เจเนอเรชั่นใหม่ (GD Efficient Boost) ทั้งในแบบ 2.4 ลิตร รหัส 2GD-FTV (High) แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VN Turbo Intercooler Commonrail ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที

ขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV แบบ 4 สูบ VN Turbo Intercooler Commonrail ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที แรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้นกว่าเครื่องยนต์ตระกูล KD รุ่นเดิม แถมกินน้ำมันลดลง 10%

เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ ให้แรงบิดสูงในช่วงรอบกว้าง (Flat torque) แต่ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ผสานกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (เฉพาะรุ่นดีเซล 2.4) และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift กับระบบ Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

และเบนซินขนาด 2.7 ลิตร รหัส 2TR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 166 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

และสัมผัสใหม่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ “Sigma 4” ที่สามารถตอบสนองการขับขี่ในทุกสภาพถนน

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2015

ส่วนระบบความปลอดภัยมาอย่างครบครัน เช่น ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบเบรก ABS/EBD/BA, กล้องมองหลัง (ยกเว้นรุ่น 2.4G MT), เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง (เฉพาะรุ่น 2.4G MT), ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 จุด หรือระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TDS เป็นต้น

รุ่นย่อยที่มีให้เลือก ได้แก่ 2.4G MT 2WD, 2.4V 2WD, 2.7V 2WD, 2.8V 2WD, 2.4V 4WD AT และ 2.8V 4WD

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner TRD Sportivo 2016

ส่วน Toyota Fortuner TRD Sportivo ตามมาในวันที่ 8 มีนาคม 2559 ดีไซน์เด่นๆ กับกระจังหน้าแบบรมดำพร้อมกันชนหน้าดีไซน์ใหม่, ล้ออัลลอย TRD 20 นิ้ว ใหม่, หลังคาแบบสปอร์ต Black Top, สคัพเพลทพร้อมไฟเรืองแสงสัญลักษณ์ TRD, กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมแถบโครเมียมประตูท้ายรมดำ, ท่อไอเสียสเตนเลส TRD และประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟสัญลักษณ์ TRD

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner TRD Sportivo 2016

ภายในสีดำแดงสไตล์สปอร์ต ด้วยวัสดุหนังสีดำสลับแดง พร้อมชุดแต่งลายเคฟลาร์ และแถบโครเมียมรมดำ, เบาะหนังและหนังสังเคราะห์สีดำสลับแดง พร้อมเดินด้ายแดง มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ลายเคฟลาร์ และไฟแสดงผลสีแดง, ชุดเครื่องเสียง Premium Audio พาวเวอร์แอมป์ และลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง 11 ลำโพง ระบบนำทาง รองรับ T-Connect พร้อมเครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อ Bluetooth และกล้องมองหลัง, ปุ่ม Push Start พร้อมสัญลักษณ์ TRD, กุญแจ Smart Key พร้อมสัญลักษณ์ TRD และดิสก์เบรก 4 ล้อ ขนาดใหญ่

มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ เท่านั้น

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2017

พอถึงเดือนสิงหาคม 2560 Toyota แนะนำ Fortuner รุ่นปรับปรุงใหม่ พร้อมเพิ่มรุ่นย่อย 2.4V Sigma4 ขับ 4 ล้อ ปรับปรุงทุกรุ่นด้วยบันไดข้าง กระจกไฟเลี้ยว และไฟเบรค ออกแบบใหม่ ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED*, เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง* และดิสก์เบรก 4 ล้อ (หมายเหตุ *ยกเว้นรุ่น 2.4G MT)

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner TRD Sportivo 2018

9 พฤศจิกายน 2561 Toyota ก็ได้ออก Fortuner TRD Sportivo รุ่น 2.8 ขับเคลื่อนสี่ล้อ และรุ่น 2.8 ขับเคลื่อนสองล้อ กันอีกรอบ ด้วยกันชนหน้า-หลังใหม่ กระจังหน้า-กระจกมองข้างสีดำเมทัลลิก พร้อมสเกิร์ตรอบคัน กรอบไฟตัดหมอก และล้ออัลลอย TRD 20 นิ้ว สีทูโทน

ภายในใช้วัสดุหนังและหนังสังเคราะห์สีดำสลับแดง ชุดแต่งลาย Carbon Kevlar กับแถบโครเมียมรมดำ และมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron สีแดงลาย Carbon Kevlar พร้อมสัญลักษณ์ TRD และชุดแต่งช่วงล่างเฉพาะรุ่น TRD Sportivo

ครั้งนี้มาพร้อม 2 สีภายนอก ได้แก่ สีขาวมุก White Pearl Crystal พร้อมหลังคาแบบสปอร์ตสีดำ Black Top และสีดำ Attitude Black Mica

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2019

10 พฤษภาคม 2562 Toyota แนะนำ Toyota Fortuner รุ่นปรับปรุงใหม่ 2.4G เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift บวกกับรองรับน้ำมันไบโอดีเซล บี20 ทุกรุ่น

ภายนอกเพิ่มไฟส่องสว่างแบบ LED Bi-Beam Projector, ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED และกล้องมองภาพขณะถอยหลัง พร้อม Back Guide Monitor ภายในหรูหราล้ำสมัย ด้วยเบาะหนังสีน้ำตาล ติดตั้งเครื่องเสียง DVD หน้าจอสัมผัส เป็นต้น

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2020

4 มิถุนายน 2563 Toyota เปิดตัว Fortuner โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ และรุ่นใหม่อย่าง Legender ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Link นี้ >> เจาะจุดเด่น Toyota Hilux Revo 2020 และ Fortuner 2020 ใหม่ มีอะไรน่าสนบ้าง! พร้อมราคาและโปรโมชั่น

CARRO Automall แนะนำ Toyota Fortuner 2021

และในวันที่ 26 สิงหาคม 2564 Toyota เปิดตัว Toyota Fortuner GR Sport (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จีอาร์ สปอร์ต) ครั้งแรกของโลกที่ไทย พร้อมแนะนำ ชุดแต่ง Modellista และรุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2564 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Link นี้ >> Toyota เปิดตัว Toyota Fortuner GR Sport ครั้งแรกในโลกที่ไทย พร้อม Toyota Fortuner 2021 ในราคา 1,351,000 – 1,879,000 บาท

และสำหรับ CARRO Automall ในเดือนกรกฎาคม 2565 เรามี Toyota Fortuner รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 11 คันครับ ได้แก่ …..

TOYOTA FORTUNER 2.8 V 4WD 2018 เทา

TOYOTA FORTUNER 2.8 V 4WD 2018 เทา

1. Toyota Fortuner 2.8 V 4WD ปี 2018 เลขไมล์ 97,727 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 1,089,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2018-G972J8.html

TOYOTA FORTUNER 2.8 V TRD BLACK TOP 2019 ขาว-ดำ

TOYOTA FORTUNER 2.8 V TRD BLACK TOP 2019 ขาว-ดำ

2. Toyota Fortuner 2.8 V TRD Sportivo Black Top ปี 2019 เลขไมล์ 109,435 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 1,329,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2019-EQ2PY5.html

TOYOTA FORTUNER 2.8 V 2017 เทา

TOYOTA FORTUNER 2.8 V 2017 เทา

3. Toyota Fortuner 2.8 V ปี 2017 เลขไมล์ 143,418 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 879,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2017-DR2831.html

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 4WD 2018 Black

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 4WD 2018 Black

4. Toyota Fortuner 2.4 V 4WD ปี 2018 เลขไมล์ 144,406 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 1,064,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2018-EQPMKV.html

TOYOTA FORTUNER 2.8 V TRD SPORTIVO BLACK TOP 4WD 2019 ขาว-ดำ

TOYOTA FORTUNER 2.8 V TRD SPORTIVO BLACK TOP 4WD 2019 ขาว-ดำ

5. Toyota Fortuner 2.8 V TRD Sportivo Black Top 4WD ปี 2019 เลขไมล์ 55,437 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 1,399,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2019-E1WLLV.html

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 2WD 2018 ดำ

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 2WD 2018 ดำ

6. Toyota Fortuner 2.4 V 2WD ปี 2018 เลขไมล์ 194,688 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 924,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2018-E77NKO.html

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 4WD 2018 ขาว

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 4WD 2018 ขาว

7. Toyota Fortuner 2.4 V 4WD ปี 2018 เลขไมล์ 105,408 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 1,004,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2018-ENM721.html

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 2018 ขาว

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 2018 ขาว

8. Toyota Fortuner 2.8 V ปี 2018 เลขไมล์ 96,689 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 989,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2018-E171PY.html

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 2018 ขาว

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 2018 ขาว

9. Toyota Fortuner 2.4 V ปี 2018 เลขไมล์ 114,347 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 999,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2018-DLK7O3.html

TOYOTA FORTUNER 2.8 TRD SPORTIVO 4WD 2016 ขาว

TOYOTA FORTUNER 2.8 TRD SPORTIVO 4WD 2016 ขาว

10. Toyota Fortuner 2.8 TRD Sportivo 4WD ปี 2016 เลขไมล์ 189,357 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 994,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2016-ENM7WL.html

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 2018 น้ำตาล

TOYOTA FORTUNER 2.4 V 2018 น้ำตาล

11. Toyota Fortuner 2.4 V ปี 2018 เลขไมล์ 115,975 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 979,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/toyota-fortuner-2018-DXZM1K.html

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ถ้าใครที่กำลังมองหา Toyota Fortuner มือสอง (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ในปัจจุบันเทคโนโลยีเครื่องยนต์ ที่สมรรถนะดีมากกว่าในอดีตมาก และออพชั่นติดรถสุดทันสมัย ไม่แพ้รถยนต์นั่งเลยทีเดียว ซึ่งคาวมนิยมในบ้านเรากับความเป็นรถสารพัดประโยชน์ ทั้งในเชิงพาณิชย์ การใช้งานที่อเนกประสงค์ ขนของได้ ลุยน้ำได้ ไปกันได้หลายคน ใช้ทำเป็นรถรับจ้างหาเงินได้อีกด้วย

ในงาน Motor Show 2022 (งานมอเตอร์โชว์ 2022) นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, นิสสัน, มิตซูบิชิ, ฟอร์ด หรือ เอ็มจี ต่างส่งรถกระบะโฉมใหม่ หรือรุ่นพิเศษของตัวเองออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด ช่วงชิงยอดจองและยอดขาย โดนใจผู้บริโภคที่อยากเปลี่ยนรถกระบะคันใหม่

โดยในงาน Motor Show 2022 จะมีรถกระบะรุ่นใดที่น่าซื้อนั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันครับ …

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Toyota Hilux Revo

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) ปีนี้นำ Hilux Revo GR Sport (ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต) ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาโชว์ รถกระบะยกสูงรุ่นท็อป Premium Adventure ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาจากรถแข่งระดับโลก ที่เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ World Rally Championship (WRC) เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหารถกระบะดีไซน์สปอร์ต

ดุดัน ทันสมัย ทั้งการออกแบบภายนอก ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า สปอร์ตบาร์ ล้ออัลลอย มาพร้อมกับโช้คอัพแบบโมโนทูบ (Monotube Shock Absorber) เพิ่มประสิทธิภาพให้สมรรถนะการขับขี่ขั้นสูง ขับสนุกเร้าใจ สามารถขับลุยได้ทุกที่ ครบครันด้วยอุปกรณ์ความบันเทิง อาทิ หน้าจอสัมผัส Touchscreen ที่รองรับการใช้งาน Apple CarPlay

แข็งแกร่งในทุกมิติด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ GD Super Power ขนาด 2.8 ลิตร แรงสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ให้สมรรถนะที่แรง ดุดัน และเร้าใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งประหยัดน้ำมันขั้นสูงสุด นุ่มนวล เกาะถนนมั่นใจด้วยช่วงล่าง SuperFlex Suspension เพิ่มความนุ่มนวลเช่นเดียวกับรถ SUV พร้อมระบบบังคับเลี้ยวแบบ Variable Flow Control ปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว

ราคาของ Toyota Hilux Revo มีดังนี้

  • Hilux Revo รุ่นมาตรฐาน กระบะตอนเดียว มี 7 รุ่น ราคา 544,000 – 704,000 บาท
  • Hilux Revo Z-Edition มี 8 รุ่น ราคา 619,000 – 805,000 บาท
  • Hilux Revo ยกสูง แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ Pre-Runner มี 10 รุ่น ราคา 724,000 – 1,026,000 บาท
  • Hilux Revo แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มี 5 รุ่น ราคา 879,000 – 1,176,000 บาท
  • Hilux Revo GR Sport 2WD ราคา 889,000 บาท
  • Hilux Revo Rocco มี 4 รุ่น ราคา 966,000 – 1,256,000 บาท
  • Hilux Revo GR Sport 4WD ราคา 1,299,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Isuzu D-Max

Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) โฉมใหม่! ครั้งแรกของโลก! ผลงานความสมบูรณ์แบบล่าสุดจาก DNA ของ Isuzu ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติ ทั้งภายนอกภายใน มิติตัวรถใหญ่ บึกบึนยิ่งขึ้น ดูทรงพลัง และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ยกระดับความพรีเมี่ยม สู่มาตรฐานใหม่ของรถปิกอัพระดับ Top Class ด้วยสีเทาโอเพคใหม่! (Islay Gray Opaque) เทรนด์สีใหม่ของวงการยานยนต์โลก กระจังหน้าแบบ Double Dimensions ดีไซน์แบบทูโทน สีเทาดำ และ Black Chrome พร้อมไฟท้ายดีไซน์โทนสีเข้ม ใหม่! Front Bumper Guard สีทูโทน พร้อมชุดแต่งสีเทาดำรอบคัน เพิ่มความดุดัน และล้อ อัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่! แบบ Robust Radius

ห้องโดยสารภายใน ผสานความเท่ สปอร์ต และหรูหรา ด้วยดีไซน์ High-Class & Sporty เน้นสีแบบทูโทน ดำ-น้ำตาล คอนโซลหน้าสีดำ เบาะคู่หน้าดีไซน์ใหม่ เดินด้ายสีน้ำตาล และพวงมาลัยสัมผัสใหม่ สีทูโทน ออกแบบให้มิติห้องโดยสารกว้างขวางแบบ Sharp Horizontal Layers คมเข้ม เล่นระดับกับแผงข้างประตู ด้วยวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยม สี Brown Cafe และ Satin Silver จัดวางสิ่งอำนวยสะดวกสบายตามหลัก Usability Design เน้นการใช้งานหลากหลาย พร้อมระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบของ Isuzu Ultimate Entertainment

มีให้เลือกครอบคลุมทั้งรุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู พร้อมเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 190 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีดพัฒนาใหม่สไตล์สปอร์ต ขับสนุก แม่นยำยิ่งขึ้น และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดใหม่ ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล พร้อมโหมดขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic

ราคาของ Isuzu D-Max อยู่ที่ 510,000 – 1,172,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Nissan Navara

Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) รถกระบะที่ กล้า… เพื่อคนแกร่ง ดีไซน์คอนเซ็ปต์ “Unbreakable Design” คำนึงถึงการใช้งาน และความชื่นชอบของลูกค้า โดดเด่นด้วยด้วยดีไซน์ใหม่ดุดัน และเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มรูปแบบจาก Nissan Intelligent Mobility

นาวารา ใหม่ มีเครื่องยนต์ 3 แบบได้แก่

  • เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ Twin Turbo เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ YS23DDT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบแปรผันแบบ VGS เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร
  • เครื่องยนต์ YD25DDTTi ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผันแบบ VGS ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 403 นิวตัน-เมตร

นอกจากนี้ ยังคงความสมบูรณ์แบบที่สามารถลุยได้ทุกที่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และเทคโนโลยีที่เสริมความมั่นใจในทุกสภาวะของเส้นทาง อาทิ ระบบป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential: B-LSD) และ ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า (Electronic Rear Locking Differential)  รวมถึงเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (IAVM) ที่เสริมฟังก์ชัน Off-Road Meter เมื่ออยู่ในโหมด 4L

นอกจากนี้ นาวารา ใหม่ ยังนำรุ่นพิเศษ PRO-4X และ PRO-2X ใหม่ ถ่ายทอดดีเอ็นเอมาจาก Nissan Titan สำหรับลูกค้าที่ชอบการเดินทางแบบผจญภัยพร้อมลุยไปในเส้นทางแปลกใหม่ ที่เสริมความดุดันของดีไซน์ภายนอก จากกระจังหน้า และอุปกรณ์ตกแต่งโทนสีดำ ปรับแต่งช่วงล่างใหม่ให้สามารถลุยไปได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ ด้วยล้ออัลลอยพร้อมยางแบบ All-Terrain

โดยทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมสีพิเศษ สเตลท์ เกรย์ (Stealth Gray) เสริมด้วยชุดแต่งที่มีแอคเซนท์สีส้มแดง ภายในห้องโดยสารเสริมด้วยเบาะนั่งสีดำดีไซน์สปอร์ต ในราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท สำหรับรุ่น PRO-2X และ 1,149,000 บาท สำหรับรุ่น PRO-4X

ราคาของ Nissan Navara อยู่ที่ 519,000 – 1,149,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Mitsubishi Triton

Mitsubishi Triton (มิตซูบิชิ ไทรทัน) ปีนี้มาในแนวชุดแต่ง Ralliart (แรลลี่อาร์ต) กับแนวคิด “Engineered Beyond Tough” หน้าตาภายนอกใช้ไฟหน้าแบบ 2 ชั้น และกระจังหน้าแบบ Dynamic Shield มาพร้อมไฟท้ายแบบ LED Tube กับกันชนดีไซน์ใหม่ ลงตัวกับล้อแม็กลาย 6 ก้านคู่ และด้วยระยะความสูงจากพื้นถึง 700 มม. ช่วยลดความเสี่ยงที่ไฟหน้าและไฟตัดหมอกจะได้รับความเสียหายขับรถลุยน้ำท่วม หรือถูกหินกระเด็นใส่ตัวรถ

ส่วนออพชั่นภายใน และดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ปรับเปลี่ยนเยอะพอสมควร ช่องแอร์แบบใหม่ ใช้วัสดุภายในดูโดดเด่นขึ้น และยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครบครันที่สุดในระดับเดียวกัน รวมไปถึงกล้องมองภาพรอบคัน ที่ใช้กล้อง 4 ตัวจับภาพรอบคันพร้อมภาพมุมสูงที่แสดงสิ่งกีดขวางรอบคัน และเซ็นเซอร์กะระยะจอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการจอดรถ

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo Clean Diesel ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด แบบใหม่พร้อม Sport Mode

ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II พร้อมฝ่าอุปสรรคในทุกสภาพเส้นทาง ด้วย 4 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมด 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และโหมด 4H ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time All Wheel Control พ่วงด้วยโหมด 4HLc ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 519,000 – 1,112,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Mazda BT-50

All-New Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) เจเนอเรชั่นใหม่ ผนวกคุณสมบัติของรถปิกอัพที่ดีที่สุดในโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย ดีไซน์ที่ถูกออกแบบอย่างสง่างามที่สุดในโลก คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ประหยัดน้ำมันมากที่สุด มีความทนทานสูงสุด รวมทั้งค่าดูแลรักษาต่ำสุด

การออกแบบที่สง่างาม สไตล์ปิกอัพยุคใหม่ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ให้ความสะดวกสบายเทียบเท่ารถเอสยูวี ยังตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกโอกาส หรือ “Built for Dress and Jeans” ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าที่ออกแบบด้วย Signature Wing ขนาดใหญ่ รูปทรงด้านหน้าที่สง่างามในสไตล์รถเอสยูวี ดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายทรงสปอร์ต โฉบเฉี่ยว

ภายในห้องโดยสาร ประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด ใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูง คอนโซลหน้าถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน เสาภายในและเพดานเลือกใช้โทนสีดำตัดกับหนังสีน้ำตาลเข้มของเบาะนั่ง ให้นั่งสบายในทุกตำแหน่ง และแผงประตูดูหรูหรา ด้วยการตกแต่งสไตล์เดียวกับรถ SUV

การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์โดยให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางตามหลักการ Human Machine Interface ทุกฟังก์ชันง่ายต่อการใช้งาน การรับรู้ข้อมูลการขับขี่รวมถึงสายเรียกเข้าหรือชื่อเพลงบนหน้าจอแบบสี MID (Multi-Information Display) ขนาด 4.2 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลได้หลายรูปแบบ อ่านง่าย มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบ TFT (Thin-film Transistor Technology)

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ซึ่งประหยัดน้ำมันมากที่สุดในคลาส กับตัวเลข 16.1 กม./ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร มีทั้งแบบส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แถมรองรับน้ำมันดีเซลได้ถึง B20

ราคาของ Mazda BT-50 อยู่ที่ 569,000 – 1,153,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

Ford Ranger / Ranger Raptor

Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) เจเนอเรชั่นใหม่ สุดยอดรถกระบะที่แกร่งที่สุด สมบุกสมบันที่สุด และชาญฉลาดที่สุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ โดดเด่นด้วยดีไซน์โฉมใหม่ที่ดุดัน โฉบเฉี่ยว ยกระดับความแข็งแกร่งภายนอกพร้อมความหรูหราสะดวกสบายภายใน โดยในระยะแรก สมนิยาม “เกิดมาแกร่ง” อย่างแท้จริง มีให้เลือกเฉพาะรุ่น Sport และ Wildtrak เท่านั้น พร้อมเปิดให้จองแล้วผ่านเวบไซต์ของ Ford

ดีไซน์ภายนอกของ All-new Ford Ranger 2022 โดดเด่นด้วยไฟหน้ารูปตัว C และกระจังหน้าแบบใหม่ พร้อมระบบไฟหน้าแบบ Matrix LED ที่นำมาใช้เป็นครั้งแรก และบันไดเหยียบด้านข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง ขึ้น-ลงกระบะท้ายได้ง่ายขึ้น เสริมด้วยฐานล้อที่มีความยาวและความกว้างเพิ่มขึ้น 50 มม.

ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหรายิ่งขึ้น แผงหน้าปัดใหม่ พร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 10.1 นิ้ว และ 12 นิ้ว ที่เชื่อมเข้ากับกล้อง 360 องศา รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A รุ่นใหม่ล่าสุด รองรับ Apple CarPlay/Android Auto พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง และแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับรถได้เต็มรูปแบบ

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล Turbo 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo 2.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

Ford Ranger ใหม่ เคาะราคารุ่น Sport เริ่มต้นที่ 929,000 บาท และรุ่น Wildtrak เริ่มต้นที่ 999,000 บาท

All-New Ford Ranger Raptor 2022

Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเตอร์ แรพเตอร์) เจเนอเรชั่นใหม่ รถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลเรนเจอร์ อัดแน่นด้วยสมรรถนะขั้นสูงสุดเท่าที่ฟอร์ดเคยพัฒนา มาพร้อมดีไซน์ที่ดุดันยิ่งกว่าเคย พร้อมลุยทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนทางเรียบในชีวิตประจำวัน หรือเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด

ตัวรถภายนอกมาพร้อมความดุดัน และจุดเด่นหลายๆ อย่าง เช่น ติดตั้งระบบไอเสียแบบแปรผันควบคุมไฟฟ้าครั้งแรกในรถกระบะ ช่วยให้ผู้ขับขี่ตั้งค่าเสียงท่อไอเสีย มีระดับความดังด้วยกันถีง 4 โหมด ได้แก่ โหมดเงียบ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา เสริมด้วยระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System – ALS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโหมดบาฮา จะรักษาการหมุนของ Turbo ที่ความเร็วสูงต่อไปอีกถึง 3 วินาที ช่วยให้เร่งได้ทันใจขณะออกจากทางโค้ง หรือระหว่างการเปลี่ยนเกียร์

ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร EcoBoost V6 Twin Turbo มอบกำลังสูงสุดถึง 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบ/นาที และแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ซึ่งทั้งหมดถูกปรับจูนตามมาตรฐานของ Ford Performance ถ่ายทอดกำลังได้เต็มพิกัดทั้งบนทางกรวด ดิน โคลน และทราย ขณะที่เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร Twin Turbo จะยังคงมีอยู่

ราคาของ Ford Ranger Raptor อยู่ที่ 1,869,000 บาท

รวม 7 รถกระบะพันธุ์แกร่ง จอมอึด ราคาเป็นมิตรในงาน Motor Show 2022

MG Extender

MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) มาใน Concept “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าใหม่ ตั้งแต่การจัดวาง Daytime Running Light ไว้ด้านบน

พร้อมชุดไฟส่องสว่างเป็นแบบ LED Projector จัดวางเรียงเป็น 3 ระดับ ตามแนวตั้งด้านข้างของกันชนหน้า โดยไฟส่องสว่างลดระดับต่ำลงกว่าเดิม ทำให้ไม่รบกวนรถที่สวนทางมา พร้อมล้ออัลลอยด์แบบ Bi-Colour ขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารภายใน เสริมความพรีเมี่ยมด้วยสีทูโทน สีน้ำตาลสลับสีดำ คอนโซล และแผงประตูตกแต่งพิเศษ ด้วยวัสดุแบบ Soft Touch พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้าเอนได้ถึง 150 องศา และตกแต่งเบาะด้วยวัสดุลายคาร์บอนไฟเบอร์

ตอกย้ำความเป็นสมาร์ทปิกอัพ ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปที่ครบครันถึง 9 ระบบ มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร พร้อมมอบความคุ้มค่าที่เหนือกว่า

วางสมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซล Commonrail Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 161 แรงม้า ให้ทั้งพละกำลังโดดเด่น การประหยัดน้ำมัน และมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ มั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension พร้อมการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อในเกือบทุกรุ่น พร้อม Option ต่างๆ ที่ให้มากกว่ารถทุกรุ่นเมื่อเทียบในระดับราคาเดียวกัน

สำหรับ MG Extender ใหม่ ราคาอยูที่ 559,000 – 1,039,000 บาท

… ถูกใจรุ่นไหน ไปสัมผัสตัวจริงได้ที่งาน Motor Show 2022 กันได้เลยนะครับ …

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันมาใช้แทน มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Toyota เปิด All-New Toyota Veloz เริ่มต้น 795,000 บาท

Toyota (โตโยต้า) เผยโฉม All-New Toyota Veloz 2022 (โตโยต้า เวลอซ) “Better Together ใช้ชีวิตไปด้วยกัน” รถ MPV 7 ที่นั่งสไตล์ Premium Crossover ด้วยดีไซน์ล้ำสมัย ห้องโดยสารกว้างขวางเทียบเท่ารถระดับ C-Segment เบาะนั่งสามารถปรับได้หลากหลายถึง 7 แบบ ในราคา 795,000 – 875,000 บาท

มีระบบเครื่องเสียง หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในรถระดับเดียวกัน ด้วย Toyota Safety Sense หรือ TSS

พร้อมขับเคลื่อนล้อหน้าใหม่ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Dual VVT-i 106 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ มอบอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 17.9 กม./ ลิตร มีให้ลูกค้าเลือกทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Premium และ รุ่น Smart

เจาะกลุ่มครอบครัว ที่มีขนาด 4 คนขึ้นไป เป็นกลุ่มหลัก ใช้รถในชีวิตประจำวัน ไปทำงาน รับส่งลูก และออกไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุด และกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก หรือคนทำธุรกิจส่วนตัวที่ต้องการที่ต้องการไลฟ์สไตล์ ไปพร้อมกับธุรกิจ เช่น Youtuber

Toyota เปิดตัว All-New Toyota Veloz ราคา 795,000 - 875,000 บาท

All-New Toyota Veloz 2022 มาพร้อม 4 จุดขายหลัก ได้แก่

  • ดีไซน์ล้ำสมัย แบบฉบับ Premium Crossover ด้วยภายในห้องโดยสารที่ออกแบบลงตัว ในการใช้งานอเนกประสงค์ ตามแนวคิดการออกแบบ “Proud Active”
  • มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดด้วย Toyota Safety Sense หรือ TSS พร้อมฟังก์ชั่นเพิ่มเติม อาทิ ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (Pedal Misoperation Control) ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Front Departure Alert) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert (LDA) With Steering Assist) ในรุ่น Premium
  • พื้นที่ภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย กับรูปแบบปรับเบาะที่นั่งโดยสารถึง 7 แบบ
  • การขับขี่ที่มั่นคง อัตราเร่งดีเยี่ยม จาก Platform ขับเคลื่อนล้อหน้าใหม่ และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ตอบสนองอัตราเร่งได้ดี และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

Mr.Eiji Fujibayashi (มร.เออิจิ ฟูจิบายาชิ) หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “Concept หลักในการพัฒนารถรุ่นนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่หารถยนต์ที่โดดเด่น ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ซึ่งมาพร้อมการขับขี่ดีเยียม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสไตล์ Premium Crossover และน่าดึงดูดกว่ารถยนต์ MPV ที่เคยมีมา

All-New Toyota Veloz 2022

– การออกแบบสไตล์พรีเมียมที่เหนือระดับสำหรับชีวิตยุคใหม่

ด้านหน้าของ All-New Toyota Veloz 2022 โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ขนาดใหญ่พร้อมไฟหน้าแบบ LED ให้เอกลักษณ์ ความรู้สึกที่แข็งแกร่ง พร้อมแผ่นกันใต้ท้องรถสไตล์ Crossover มีแนวเส้นขอบโครเมียมตั้งแต่หน้าตัวรถ ยาวถึงด้านหลัง ล้อและซุ้มล้อขนาดใหญ่ ให้อารมณ์แบบ SUV ด้านหลัง ตกแต่งด้วยดีไซน์แบบเส้นยาวแนวนอน ยาวถึงชุดไฟท้ายทั้งสองฝั่งของตัวรถ ให้ความรู้สึกเฉียบคม พรีเมียมยิ่งขึ้น

Toyota เปิดตัว All-New Toyota Veloz ราคา 795,000 - 875,000 บาท

– การตกแต่งภายในที่มีความอเนกประสงค์ และกว้างขวางเป็นพิเศษ

การออกแบบสไตล์พรีเมียมสำหรับชีวิตยุคใหม่ ภายในกว้างขวาง ให้ความสบายทุกที่นั่ง ระยะห่างระหว่างที่นั่งผู้โดยสารในแถวที่หนึ่ง และแถวสองมีขนาดเทียบเท่ากับรถใน C-Segment ในขณะที่เบาะแถวที่สองมีระยะเลื่อนได้ถึง 240 มม. แถวที่ 3 กว้างถึง 700 มม. และสามารถปรับพับเบาะได้ 7 รูปแบบ ได้แก่ …

1. Big Room พับแถว 2 และแถว 3
2. Small Room พับแถว 3
3. Relax Mode พับแถว 1 เอนราบ
4. Day Bed พับแถว 2 เอนราบ
5. Long Stuff พับแถว 3 และเบาะกลางแถว 2
6. Free Form พับแถว 3 และแถว 2 ด้านซ้ายหรือขวา
7. Cabinet พับแถว 3 ด้านซ้ายหรือขวา

นอกจากนี้ ยังออกแบบให้จัดที่นั่งได้อย่างยืดหยุ่น มีที่เปิดประตูขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีดีไซน์คอนโซลแบบสูง และบุด้วยวัสดุนิ่ม สำหรับเบาะนั่ง มีการตกแต่งที่บริเวณด้านข้างด้วย

Toyota เปิดตัว All-New Toyota Veloz ราคา 795,000 - 875,000 บาท

หน้าปัดมาตรวัดความเร็วปรับได้ 4 รูปแบบ เพลิดเพลินกับเครื่องเสียงหน้าจอแบบสัมผัส 9 นิ้ว ทั้งยังมีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless charger) และจุดเสียบ USB 4 จุด พร้อมช่องใส่ Tablet แถมมีที่วางแก้วมากมายทุกที่นั่งรวม 15 จุด เพิ่มความหรูหราอีกระดับด้วยไฟ Ambient Light ในห้องโดยสาร พร้อมระบบแอร์อัตโนมัติ

– Platform ขับเคลื่อนล้อหน้าใหม่ ให้สัมผัสการขับขี่ที่มั่นใจและทรงพลัง

Platform และช่วงล่างใหม่ ช่วยให้การขับขี่สบายแม้จะต้องเดินทางไกล ผสานการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง CVT ใหม่ ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ Toyota Safety Sense หรือ TSS ให้คุณขับรถได้อย่างมั่นใจ

ด้านสมรรถนะการขับขี่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร (14,1 กก.-ม.) ที่ 4,200 รอบ/นาที

พร้อมเกียร์ CVT ใหม่ พร้อม Sequential Shift ประหยัดน้ำมัน ตอบสนองทันใจ แต่เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล เงียบกว่าในทุกช่วงความเร็ว พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ที่ตอบสนองได้ดังใจ พร้อมเบรกมือไฟฟ้า ทันสมัย และสะดวกสบายกว่า

Toyota เปิดตัว All-New Toyota Veloz ราคา 795,000 - 875,000 บาท

ที่สำคัญ ยังมาพร้อมระบบมาตรฐานความปลอดภัย Toyota Safety Sense หรือ TSS มอบความมั่นใจตลอดการเดินทาง เช่น

  • กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor)
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert (LDA) With Steering Assist)
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Front Departure Alert)
  • ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี (Pedal Misoperation Control)* (ในรุ่น Premium)

Toyota เปิดตัว All-New Toyota Veloz ราคา 795,000 - 875,000 บาท

ทั้งยังปกป้องสูงสุดกับระบบมาตรฐานความปลอดภัยโตโยต้าในทุกรุ่น เช่น

  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) และ
  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 6 ตำแหน่ง

โตโยต้า เวลอซ 2022 มีให้ลูกค้าเลือก 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Premium และ รุ่น Smart มีสีภายนอกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาวมุก, สีดำ, สีแดง และ ใหม่ สีเงิน “Purplish Silver Mica Metallic”

พร้อมกันนี้ เรายังมีข้อเสนอสุดพิเศษ ดาวน์ 15% พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน 60 เดือน พร้อมแพ็กเกจขยายการรับประกัน 5 ปี หรือ 150,000 กม. และพิเศษยิ่งกว่าด้วยฟรีค่าแรงเช็กระยะถึง 100,000 กม.

โดยความพร้อมในการส่งมอบรถรุ่น Smart ได้ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ส่วนรุ่น Premium จะเริ่มส่งมอบได้ในเดือนมีนาคมเป็นต้นไป

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครกำลังเงินซื้อป้ายแดงไม่พอ ลองมองมองหารถ MPV มือสองมาใช้ดูสิ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ เราพร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่งรถทุกคันของ CARRO Automall คุณไม่ต้องกังวลเลยในเรื่องของรถจมน้ำ รถน้ำท่วม หรือรถจมบาดาล เพราะเราไม่นำรถที่ถูกน้ำท่วมมาขายโดยเด็ดขาด และรถทุกคันยังผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด อีกด้วย

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดในการดูรถเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ เป็นรายแรกของธุรกิจรถมือสองในประเทศไทย คุณสามารถดูรูปรถทั้งภายนอก ภายใน กันได้แบบ 360 องศา รวมถึงยังสามารถฟังเสียงเครื่องยนต์จากรถคันที่คุณสนใจได้อีกด้วย!

เพราะเรามั่นใจในคุณของรถยนต์ทุกคัน เราจึงกล้ารับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ