รถ Benz E-Class (เบนซ์ อี-คลาส) มือสอง

Mercedes-Benz E-Class มือสอง (เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส มือสอง) ถือเป็นรถยนต์ระดับหรูขนาดกลางของค่ายดาว 3 แฉก ที่ทำตลาดมานานมากๆ นับจากรหัส W120 ในปี 1953-1962, W110 ในปี 1961-1968, W114-W115 ในปี 1968-1976 และ W123 ในปี 1976-1986 แต่การนำอักษร E มาใช้ประกอบกับชื่อรุ่นเพิ่งจะเริ่มขึ้นในปี 1984 กับรหัสตัวถัง W124 (ซึ่งในบางรุ่นย่อยของ W123 จะมีตัว E, CE, TE หรือ D กำกับตามลักษณะตัวรถและประเภทเครื่องยนต์) ในปี 1993 หลังจากที่ อี-คลาส รหัส W124 ปรับโฉมใหม่ ทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงจัดเรียงชื่อรุ่นตามแบบปัจจุบัน คือ นำหน้าด้วยตัว E แล้วตามด้วยเลข 3 หลัก

ซึ่งสำหรับรุ่นที่ถือเป็นการเริ่มต้นของ อี-คลาส ที่มี E นำหน้าอย่างเป็นทางการ คือรุ่น "เบนซ์ ตากลม" (New-Eye) รหัส W210 และตามด้วยเจนเนอเรชั่นต่อมา "เบนซ์ ตาถั่ว" ในรหัส W211 ซึ่งเปิดตัวปี 2003 CARRO ขอนำเสนอ E-Class รุ่นยอดฮิตในตลาดรถมือสองกันครับ

Mercedes-Benz E-Class รหัส W212 มือสอง รูปลักษณ์ได้รับการออกแบบและอิงพื้นฐานมาจากรถต้นแบบที่ชื่อ Concept Fascination ที่เปิดตัวใน Paris Motorshow 2008 มีให้เลือกรูปแบบตัวถังแบบครบๆ เริ่มตั้งแต่ 4 ประตู Sedan, Estate, Coupe และ Cabriolet

24 สิงหาคม 2552 เปิดตัว E 500 เครื่องยนต์ขนาด 5.5 ลิตร 388 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ให้ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. เดือนมกราคม 2553 เปิดตัว E-Class รุ่นประกอบในประเทศ เป็นรุ่น E300 Avantgarde มาพร้อมเครื่อง 3.0 ลิตร แบบ V6 219 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ 7 สปีด 7G-Tronic

ในปี 2555 เพิ่มระบบเกียร์ใหม่ 7G-Tronic Plus เดือนมีนาคม 2556 Mercedes-Benz เปิดตัว E-Class ไมเนอร์เชนจ์ถึง 3 รุ่น ได้แก่ E 200 Executive, E 300 BlueTEC HYBRID Executive และ E 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ทั้งเบนซินและดีเซลไฮบริด อีกจุดเด่นนั่นคือ เครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด 2.2 ลิตร 204 แรงม้า BlueTEC HYBRID พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 27 แรงม้า กินน้ำมันเพียง 23.81 - 24.39 กม./ลิตร!

28 มิถุนายน 2556 Mercedes-Benz เปิดตัว The new E-Class Coupe และ The new E-Class Cabriolet ส่วนในรุ่นอื่นๆ อาทิ E 200 CGI BlueEFFICIENCY Elegance ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร 184 แรงม้า, E 250 CGI BlueEFFICIENCY Avantgarde ขนาด 1.8 ลิตร 204 แรงม้า (มีรุ่น Estate ให้เลือกด้วย) และ E 300 Avantgarde ขนาด 3.0 ลิตร 219 แรงม้า

Mercedes-Benz E-Class รหัส W213 เจเนอเรชั่นที่ 10 ของตระกูล E-Class เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2559 ที่สุดแห่งยนตกรรมซีดานอัจฉริยะในกลุ่ม Contemporary Luxury ประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยขับขี่และโดยสารสบายปลอดภัยมากขึ้น เริ่มแรกมีให้เลือกสรร 2 ดีไซน์ คือ E 220 d Exclusive และ E 220 d AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องดีเซล 4 สูบที่พัฒนาหม่ ขนาด 2.0 ลิตร 194 แรงม้า และระบบเกียร์อัตโนมัติชุดใหม่ 9G-TRONIC

ในเดือนมกราคม 2560 เปิดตัว E 220 d รุ่นประกอบในประเทศ มีให้เลือก 3 ดีไซน์ ได้แก่ Avantgarde, Exclusive และ AMG Dynamic จากนั้นอีก 4 เดือน (พฤษภาคม 2560) Mercedes-Benz ก็เปิดตัวแบรนด์ "EQ" (Electric Intelligence) พร้อมแนะนำรุ่นใหม่ Mercedes-Benz E 350 ใช้ขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตร Turbo 211 แรงม้า พร้อมทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 88 แรงม้า ส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-Tronic Plus) มีให้เลือก 3 ดีไซน์ด้วยกัน คือ Avantgarde, Exclusive และ AMG Dynamic พร้อมกับกินน้ำมันเฉลี่ย 40 - 47.62 กม./ลิตร!

สำหรับ Mercedes-Benz E-Class มือสอง สามารถเปรียบเทียบได้กับ BMW Series 5, Audi A6, Volvo S60, Skoda Superb หรือจะเป็นรถจากฝั่งญี่ปุ่นอย่าง Toyota Camry, Nissan Teana, Honda Accord และถ้าจากเกาหลีก็ KIA Stinger เป็นต้น

Mercedes-Benz E-Class เป็นรถที่เหมาะสำหรับนักธุรกิจ เพราะรถรุ่นนี้ออกแบบได้หรูหรา ราคามือสองที่ไม่แพงมากนัก มาพร้อมทคโนโลยีทันสมัย ยิ่งโฉมปัจจุบันมีรุ่นที่เป็น Plug-In Hybrid CARRO มีให้เลือกมากมายหลายคันครัน
Benz E-Class-content

ถามสิ่งที่คุณสงสัยกับ CARRO

ทีม CARRO Operations พร้อมให้คำปรึกษาและคำตอบกับคุณ