รถพระที่นั่งของในหลวงรัชกาลที่9

รถยนต์ยี่ห้อใดบ้าง ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเลือกใช้เดินทาง

     คนรุ่นใหม่อาจไม่เคยเฝ้ารับเสด็จ จึงอาจไม่เคยเห็นรถยนต์ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทำให้ภาพเหล่านี้หาดูยากขึ้นทุกวัน คาร์โร จึงขอนำเสนอยี่ห้อรถยนต์พระที่นั่งของในหลวงรัชกาลที่ ๙ พร้อมกับเรื่องราวของการใช้งาน จำนวน ๖ คัน เพื่อให้คนรุ่นใหม่ หรือเด็กๆ รุ่นต่อไป ได้ศึกษากัน


 

รถพระที่นั่งของในหลวง

1. Mercedes Maybach 62

มายบัคองค์นี้ ทรงใช้เป็นรถยนต์พระที่นั่งสำหรับงานพิธีต่างๆ ที่เป็นทางการ โดยรถพระที่นั่งคันนี้มาแทนที่ ร.ย.ล. ๑ คันก่อน (ภาพล่าง) คือ Rolls – Royce Phantom VI ซึ่งทรงใช้งานอย่างยาวนานร่วม ๓๐ ปี

รถพระที่นั่งของในหลวง

ภาพนี้คือ Phantom VI ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นรถยนต์พระที่นั่งเป็นครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. ๒๕๔๗


 

รถพระที่นั่งของในหลวง

2. Cadillac DTS

เป็นรถที่ทรงใช้ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ตัวรถผ่านการดัดแปลงให้เป็นรถเปิดประทุนเพื่อความสะดวกในการประกอบพิธี ดังที่เห็นได้จากในภาพ


 

รถพระที่นั่งของในหลวง

3. Mercedes Benz S600L (W220)

เป็นรถเบนซ์เอสคลาสสีครีม หมายเลขทะเบียน ร.ย.ล.๙๐๑ พระองค์ทรงใช้ในราชการเป็นประจำ แต่ในปัจจุบัน
ใช้ในงานเฉพาะกิจส่วนพระองค์ หรือไม่ได้มีการออกงานใหญ่ๆ

นอกจากรถพระที่นั่งซึ่งใช้ในกิจการของพระราชวังดังที่ได้ยกมา ๓ องค์เบื้องต้นแล้ว ยังมีรถอีก ๒ องค์ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงจัดซื้อด้วยทรัพย์ส่วนพระองค์ ดังนี้


 

รถพระที่นั่งของในหลวง

4. Toyota Soluna

เป็นรถที่ทรงขับด้วยพระองค์เอง และทรงใช้ทรัพย์ส่วนของพระองค์ในการจัดซื้อ ทำให้ป้ายทะเบียนอยู่ในหมวด ด

รถพระที่นั่งคันนี้มีที่มาที่ไป คือเป็นรถที่ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้บริษัทโตโยต้าเป็นจำนวนเงิน ๖๐๐,๐๐๐ บาท แต่ทางโตโยต้าขอปฏิเสธ ไม่รับพระราชทานเงินนั้น พระองค์จึงทรงบริจาคเงินส่วนนี้ให้ตั้งโรงสีขาวเพื่อช่วยเหลือชาวนา ซึ่งได้กลายมาเป็นบริษัทข้าวรัชมงคลในปัจจุบัน


 

5. Volkswagen Transporter

รถยนต์พระที่นั่งองค์นี้มีนามเรียกขานว่า “เจมส์ บอนด์” เป็นรถตู้สีเทาอมฟ้าปี ๒๕๔๑ ที่มีความสมถะ และเรียบง่าย

ส่วนเหตุผลที่มีการเลือกรถพระที่นั่งคันนี้มาใช้ในพิธีอัญเชิญพระบรมศพ ได้มีผู้ให้คำตอบไว้ว่า คือเป็นรถที่พระองค์ทรงโปรด ด้านในรถจะเรียบง่ายมาก แทบไม่มีอะไรเลย นอกจากวิทยุเดิมๆ ที่ติดมากับรถ แล้วก็จะมีโต๊ะเล็กๆไว้ทรงงาน สภาพของรถจะมีนายช่างประจำตัว คอยซ่อมแซมให้ตลอด


 

รถพระที่นั่งของในหลวง

6. Mercedes Benz 300SL Gullwing 1955 

รถยนต์องค์นี้เข้าประจำการเพื่อเป็นพระราชพาหนะในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๙๘

เป็นรถยนต์ที่จอมพล ป.พิบูลสงคราม น้อมเกล้าฯ ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในสมัยนั้น แล้วได้มีการเปลี่ยนทะเบียนจาก ๑ด๐๐๑๐ ไปเป็น ๑ด๑๑๑๐ ในภายหลัง

ซึ่งรถยนต์องค์นี้ได้มีการเปิดให้นิตรสารทั้งใน และต่างประเทศมีโอกาสได้เก็บภาพ รวมถึงทำประวัติไว้อย่างงดงาม รถยนต์องค์นี้ถือว่าเป็นซูเปอร์คาร์ในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้ เป็นรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพที่สูง และมีเพียง ๘ คันในประเทศไทย

ส่วนรถยนต์องค์นี้ถือว่าเป็นองค์ที่สภาพสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย และยังคงเป็นรถที่สมบูรณ์มากที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน ได้ใช้งานไปเพียง ๒,๐๒๑ กิโลเมตร ด้วยอายุถึง ๕๗ ปี ท่านทรงรัก และดูแลรถยนต์องค์นี้อย่างดี


 

 

ข้อมูลจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก : นุสรา ชั้นบุญ

 

 

 

ขับรถอย่าเล่นมือถือ

ขับรถอย่าเล่นมือถือ !!

เชื่อเถอะว่า หลายๆโครงการในประเทศไทยพยายามรณรงค์เรื่องนี้ และพูดอะไรทำนองมานานแล้ว แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่เล่นมือถือไปขับรถไป เพราะประมาท และย่ามใจว่าคงไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวเองแน่ๆ CARRO ไม่ขอพูดอะไรซ้ำซาก แต่จะขอหยิบยก 5 กรณีตัวอย่างนี้ เพื่อให้เหตุผล 5 ข้อกับคุณ มาเริ่มกันเลย

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

1. Selfie อาจเปลี่ยนชีวิต!

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่รัฐเท็กซัส ขณะที่สาวน้อยวัย 19 ปีกำลัง Selfie เพื่อส่งรูปถ่าย Sexy ของตัวเองให้แฟนหนุ่ม รถของเธอก็ชนท้ายรถตำรวจเข้าอย่างจัง!

ความพีคของเรื่องนี้คือขณะที่เกิดอุบัติเหตุ เธอกำลัง Selfie แบบ Topless (เปลือยท่อนบน) อยู่!

หลังจากตำรวจ (ซึ่งเป็นคู่กรณี) ลงจากรถมาสอบถามก็ต้องตะลึงกับสภาพเปลือยครึ่งท่อนของสาวคนขับ แถมยังพบว่าเบาะข้างคนขับมีไวน์ที่เปิดขวดแล้ววางอยู่ โดยสาวคนขับได้ให้การว่า เธอกำลัง Selfie และส่งรูปถ่ายลับๆ ให้กับหนุ่มคนรักขณะที่ีรถติดไฟแดง แต่พลาดอย่างไรก็ไม่ทราบ รถได้เลื่อนไปชนท้ายรถตำรวจซึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ข้างหน้าอย่างเต็มเปา!

สุดท้ายสาวน้อยนางนี้ก็ถูกปรับด้วยข้อหาเมาแล้วขับ เป็นเงินจำนวน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็นเงินไทยราว 70,000 บาท) แถมยังเป็นที่กล่าวขานในสังคมออนไลน์ไปอีกนาน

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

2. เปลี่ยนเพลง 1 ที ฆ่า 4 ศพ!

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อคนขับรถบรรทุกก้มมองสมาร์ทโฟนของตัวเองเป็นเวลา 45 วินาทีเพื่อเลื่อนเปลี่ยนเพลง จากนั้นรถของเขาก็ชนเข้ากับรถ SUV ของคุณแม่ลูกสามอย่างรุนแรง!

อุบัติเหตุนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เทรซี่ คุณแม่ซึ่งกำลังขับรถเสียชีวิตทันทีเท่านั้น แต่ยังทำให้อีธาน จอช และเอมี่ ลูกทั้ง 3 ของเทรซี่เสียชีวิตหมดทุกคน!

ภาพจากกล้องวงจรปิดและกล้องที่ติดตั้งอยู่หน้ารถได้แสดงให้เห็นว่า ชายขับรถบรรทุกทำความผิดจริงด้วยการก้มหน้าก้มตาเลือกเพลงจากสมาร์ทโฟน จนต้องละสายตาจากถนนนานเกือบหนึ่งนาที และ 0.75 วินาทีหลังจากการชนเกิดขึ้น กล้องได้จับสีหน้าตื่นตกใจสุดชีวิตของเขาเอาไว้ได้ แต่ขณะนั้นมันสายเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

ล่าสุดคนขับรถบรรทุกถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ส่วนสามีของคุณแม่ที่เสียชีวิต (คุณพ่อของเด็กๆ) ต้องจัดงานศพให้กับสมาชิกครอบครัวที่จากไปพร้อมกันถึง 4 คน

เล่นมือถือ-ขับรถ-ผิดกฎหมาย

3. รถพังยับเพราะรีบกดรับอั่งเปา

ถือเป็นเรื่องซวยรับวันตรุษจีนเลยทีเดียว เมื่อหนุ่มชาวจีนมัวแต่รีบกดชิงอั่งเปาจากแอพฯ Wechat รู้ตัวอีกทีรถก็วิ่งเลยไปถึงสี่แยกและประสานงาเข้ากับรถอีกคันอย่างจัง!

อั่งเปาที่ว่านี้เป็นอั่งเปาออนไลน์ที่แจกกันในห้องสนทนากลุ่มของ Wechat ซึ่งอำนวยความสะดวกให้บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ต้องแจกอั่งเปาเป็นกระดาษในวันตรุษจีนอีกต่อไป แถมยังมีกติกา “มาก่อนได้ก่อน” ให้ลูกหลานได้สนุกสนานจากการแย่งชิงอั่งเปากันอีกด้วย

แต่การรีบกดรับอั่งเปาขณะขับรถก็ส่งผลน่ากลัวแบบนี้เอง แม้จะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่รถของหนุ่มชาวจีนผู้โชคร้ายก็ได้รับการประเมินค่าเสียหายราว 10,000 หยวน (ราวๆ 50,000 บาท) ซึ่งไม่รู้ว่าจะคุ้มกับเงินอั่งเปาที่ได้มาหรือไม่

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

4. แค่คุยโทรศัพท์ทำรถชนยับ 10 คันรวด!

สาว 17 คุยโทรศัพท์ขณะขับรถแล้วเสียสมาธิจนเผลอขับรถฝ่าไฟแดง ส่งผลให้รถชนกัน 10 คันรวดบริเวณ 4 แยก!โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่ได้ทำให้ใครต้องบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าเรื่องราวจะแสนอลหม่านและเลอะเทอะเปรอะเปื้อน เพราะรถของเด็กสาวไปตัดหน้ารถขนดิน ทำให้รถขนดินพลิกคว่ำจนดินกองท่วมถนน อีกทั้งยังทำให้การจราจรติดขัดยาวเหยียด!

ผลจากเหตุการณ์นี้ทำให้เด็กสาวที่คุยโทรศัพท์ขณะขับรถถูกปรับเป็นเงิน 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 17,500 บาท) ด้วยข้อหาฝ่าสัญญาณไฟจราจร และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ

เล่นมือถือ ขับรถ ผิดกฎหมาย

5. เล่นมือถือมือซ้าย ขี่มอเตอร์ไซค์มือขวา ชนท้ายรถข้างหน้าเต็มๆ!

เหตุการณ์ท้ายสุดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยของเรานี่เอง เมื่อหนุ่มเมืองนครศรีธรรมราชเล่นมือถือไปขับมอเตอร์ไซค์ไปจนลืมดูทาง แล้วชนเข้ากับรถปิคอัพซึ่งจอดอยู่ข้างทางอย่างจัง!

แม้ว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนัก และไม่มีความเสียหายมากนัก แต่มันก็ทำให้ทั้งคนขับมอเตอร์ไซค์และเจ้าของรถปิคอัพเสียอารมณ์ไปตามๆ กัน!

นี่คือ 5 ตัวอย่างที่คุณไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง! และเป็น 5 เหตุผลที่ชัดเจนมากที่ควรจะเลิกเล่นมือถือขณะขับรถ จะเห็นได้ว่าไม่มีข้อไหนที่มีจุดจบอย่างสวยงามเลย แถมยังนำมาซึ่งการสูญเสีย ตั้งแต่ความรู้สึก ทรัพย์สินเงินทอง ไปจนถึงชีวิต

และอย่าลืมว่า การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ยานพาหนะใดๆ โดยไม่มีอุปกรณ์เสริมช่วยในการสนทนา ตามกฎหมายถือว่ามีโทษปรับถึง 400 – 1,000 บาท ต่อให้ไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ มันก็ยังผิดกฎหมายอยู่ดี !

เอาเป็นว่าควรขับขี่อย่างไม่ประมาท ไม่เล่นโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ใดๆ ขณะขับรถ เชื่อ CARRO เถอะ! เราจะได้อยู่ด้วยกันไปอีกนานๆ

รถมือสอง

จะซื้อรถมือสองสักคันดีไหม ? คำถามนี้ต้องอยู่ในใจมนุษย์เงินเดือนในกรุงเทพฯ

อย่างที่หลายคนรู้กันว่าระบบขนส่งสาธารณะของบ้านเรายังไม่ครอบคลุมมากนัก แถมเรื่องความสะดวกสบายนั้นไม่ต้องพูดถึง เผลอๆ การเดินทางไป – กลับจากที่ทำงานยังเหนื่อยกว่าการนั่งทำงานทั้งวันเสียอีก ! 

การมีรถเป็นของตัวเองสักคันน่าจะช่วยให้ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนชาวกรุงฯ สบายขึ้นมากทีเดียว แต่การซื้อรถมือหนึ่งอาจจะเป็นภาระที่หนักหน่วงเกินไปสำหรับพนักงานเบี้ยน้อยหอยน้อย ฉะนั้นซื้อรถมือสองดีกว่า ประหยัดกว่ากันเยอะ

ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อรถรุ่นไหนดีที่เหมาะกับชีวิตมนุษย์เงินเดือน CARRO ได้รวบรวมรถมือสอง 5 รุ่นขวัญใจมนุษย์เงินเดือนมาให้ชมกันแล้ว! รับรองว่าราคาไม่พาช้ำใจ ประหยัดน้ำมัน และเหมาะกับชีวิตในเมืองอย่างแน่นอน

รถมือสอง ยอดนิยม

อันดับ 5 : Mazda 2

ถือเป็นรถที่ถูกถามถึงอย่างมากมายจากคนใช้รถมือสอง เพราะเป็นรถที่มีขนาดกะทัดรัด แต่ดีไซน์ที่ให้ความปลอดโปร่งภายในห้องโดยสารทำให้ไม่รู้สึกไม่อึดอัด Mazda 2 เป็นรถที่ขึ้นชื่อในเรื่องช่วงล่างดี เกาะถนนแน่น ตีวงเลี้ยวได้แคบ และไม่มีหลุด อีกทั้งยังเป็นรถที่ไม่ซดน้ำมันอีกด้วย ! แต่หากต้องการรถ Mazda 2 รุ่นที่ประหยัดน้ำมันมากกว่าก็เลือกรุ่นที่เป็น Eco Car ได้เลย 

รถมือสอง ยอดนิยม

อันดับ 4 : Toyota Corolla Altis

อันดับต่อมา มาพร้อมกับราคาที่ขยับขึ้นมาอีกเล็กน้อย Altis ถือเป็นรถยอดนิยมอีกรุ่นหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปทั้งจากมนุษย์เงินเดือนและจาก Taxi (ของเค้าดีจริง!) ข้อดีของอัลติสที่หลายคนประทับใจคือ เครื่องยนต์เล็กแต่ขับสนุก เสียงเครื่องยนต์ไม่ดังหนวกหู ภายในรถโล่งโปร่ง เบาะนั่งสบาย สาดโค้งได้ดีพอใช้ และไฟท้ายสวยโดดเด่น ที่สำคัญคือพะยี่ห้อ Toyota มาแล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องศูนย์บริการและอะไหล่แน่นอน

รถมือสอง ยอดนิยม

อันดับ 3 : Nissan March

ใครชอบรถที่ดูน่ารักต้องไม่พลาด Nissan March แน่นอน! จัดว่าเป็นรถที่ได้ใจสาวๆ และหนุ่มๆ จำนวนมากทีเดียวด้วยดีไซน์ตัวถังที่กลมมนน่ารัก (แต่ March รุ่นใหม่ล่าสุดมีการเปลี่ยนดีไซน์ให้ดุขึ้นแล้ว) ห้องโดยสารกว้างโล่ง รวมถึงขนาดตัวถังที่กะทัดรัดปราดเปรียว สามารถจอดตามซอกตามหลืบได้ง่าย อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันมากอีกด้วยเพราะเป็น Eco Car แต่! ในทุกข้อดีย่อมมีข้อเสีย ข้อเสียของ March ก็คือ เป็นรถน้ำหนักเบา ไม่เหมาะแก่การสาดโค้งหรือเร่งเครื่องแรงๆ ไม่เหมาะแก่การขับแบบฮาร์ดคอร์ ขับทางไกล หรือขับขึ้นดอย และเป็นรถที่ไม่ค่อยจะเก็บเสียงอีกด้วย แต่ถ้าคุณกำลังมองหารถราคาไม่แพงไว้ขับชิลๆ ไปทำงาน มาร์ชนี่แหละใช่เลย!

รถมือสอง ยอดนิยม

อันดับ 2 : Suzuki Swift

ถ้า Nissan March ครองตำแหน่งรถน่ารัก Suzuki Swift ก็ต้องครองตำแหน่งรถสวย! Swift นั้นขึ้นชื่อมากในเรื่องของดีไซน์ ทั้งดีไซน์ตัวถัง และดีไซน์ภายในห้องโดยสาร เป็นรถที่ดูสวยแบบคลาสสิก แถมยังแต่งขึ้นด้วย! เหมาะกับคนที่มองหารถสำหรับใช้ไปยาวๆ จุดเด่นอื่นๆ ของสวิฟต์ก็คือช่วงล่างดี เข้าโค้งง่าย ไม่มีเป๋ เบาะสวยและนั่งสบาย อีกทั้งออพชั่นภายในก็จัดมาเต็มด้วย เช่น ปุ่ม Start Engine กระจกมองข้างพับไฟฟ้า ฯลฯ ถือว่าเกินคาดหมายในหลายด้านสำหรับรถ Segment นี้

รถมือสอง ยอดนิยม

อันดับ 1 : Toyota Vios

ตำแหน่งอันดับ 1 ตกเป็นของ Toyota Vios อย่างไม่มีการพลิกโผ! ด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่ขึ้นชื่อ ดีไซน์ตัวถังที่เรียบแต่หรู เครื่องยนต์แรง และทนทานสมชื่อโตโยต้า ศูนย์บริการและอะไหล่หาง่าย อายุการใช้งานยืนยาว อีกทั้งเป็นรถที่เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการรถสำหรับใช้งานนานๆ ขับขี่ประจำวันที่ไม่สมบุกสมบันมาก รวมถึงคนที่ต้องการติดแก๊สเพื่อเพิ่มความคุ้มค่า หากมองด้านความคุ้ม ความประหยัด ความทนทาน Vios คือคำตอบแน่นอน

Sale-Isuzu-D-Max-With-Carro-Express

รถมือสองทั้งหมดนี้ บอกเลยว่า เหมาะกับชีวิตมนุษย์เงินเดือนอย่างแน่นอน! หากคุณต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพ ทาง CARRO เราก็มีรถมือสองให้เลือกหลากหลาย สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod ถ้าสนใจที่จะขายรถของคุณแบบด่วนๆ เชิญที่ https://th.carro.co/sell-car/express หรือ Inbox สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Fanpage CARRO Thailand ครับ


ซื้อรถมือสองเถอะ แล้วชีวิตคุณจะง่ายขึ้นอีกเยอะ !

ราคาตก-กดราคา

นี้คือความจริง! ของราคารถมือสอง

ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงการกดราคารถยนต์มือสอง เต็นท์รถมักจะกลุ่มแรกๆ ที่ถูกโจมตี ทั้งที่ความจริงแล้ว สาเหตุที่ทำให้รถมือสองบางคันขายได้ราคาไม่ดีนั้น ไม่ได้เป็นเพราะเต็นท์รถกดราคากับคนขาย อย่างที่หลายคนชอบกล่าวหาแต่อย่างใด

ความเป็นจริงอาจจะแสลงใจเจ้าของรถมือสองที่นำรถมาประกาศขายอยู่บ้าง แต่ต้องยอมรับว่ารถมือสองหลายรุ่นนั้นราคาตกรวดเร็วมากโดยไม่ได้มีใครไปกดราคาเพื่อหาผลประโยชน์ใดๆ

คำว่า “ราคาตก” ในที่นี้ต่างกับคำว่า “กดราคา” เพราะการกดราคาก็เท่ากับว่า รถมือสองคันที่ขายมีมูลค่าจริงสูงกว่า แต่ถูกซื้อด้วยราคาที่ต่ำกว่าจริง แต่ราคาตก แปลว่า มูลค่าของรถมือสองนั้นลดลงด้วยปัจจัยหลายประการ และมีกลไกการตลาดมาเกี่ยวข้องด้วย

สำหรับเหตุผลทำให้รถมือสองบางคันราคาตกนั้น Carro ได้เคยวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถยนต์มือสองได้ราคาไม่ดีเท่าที่ควรไว้ 10 ประการ ซึ่งในบทความนี้จะขอยกมาอธิบายเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ

  1. ความนิยมต่อแบรนด์

ตอนซื้อรถมือหนึ่ง คนซื้อมักคิดว่าชอบแบรนด์ไหน รุ่นอะไรก็ซื้อคันนั้น แต่เมื่อนำมาขายต่อเป็นรถยนต์มือสองแล้ว ความนิยมที่ผู้คนมีต่อแบรนด์นั้นๆ จะส่งผลโดยตรงต่อราคาที่ขายได้ จะเห็นได้ว่ารถตลาดอย่าง Honda , Toyota รถมักจะขายต่อได้ไว และราคาไม่ตกมากนัก แต่หากเป็นยี่ห้อที่คนไทยไม่คุ้นหู (แม้จะดังระดับโลกก็ตาม) การขายต่อก็จะยากกว่าเดิม และราคาก็จะตกลงมากด้วย

ตัวอย่าง หากคุณซื้อรถ Honda City และ MG6 พร้อมกันในวันนี้ อีก 1 ปีข้างหน้า Honda City อาจจะราคาตกลงไป 30% แต่ MG6 อาจจะราคาตกลงไป 50% หรือมากกว่านั้น!

สาเหตุก็เป็นเพราะคนไทยรู้จัก Honda ดีมาก ต่างกับ MG ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ยังไม่ติดหูคนไทยมากนัก มีการสำรวจความคิดเห็นโดย Carro ที่พบว่า คนไทยมักจะรู้สึกดีกับรถตลาดมากกว่า ไม่ใช่เพราะความชื่นชอบในตัวแบรนด์เท่านั้น แต่รวมถึงเรื่องความสะดวกในการซ่อมบำรุง เช่น มีศูนย์เยอะ เข้าถึงง่าย หาอะไหล่ได้ง่าย เป็นต้น ซึ่งรถตลาดมักจะตอบโจทย์ในข้อนี้ได้ดีกว่า

 

  1. อายุของรถ

ปกติแล้วรถยิ่งใหม่ก็ยิ่งมีโอกาสจะขายได้ไว และในทางกลับกัน รถยิ่งมีอายุการใช้งานมากก็ยิ่งส่งต่อยาก เพราะผู้ซื้อมีความกังวลว่ารถอาจชำรุดหรือมีอุปกรณ์สึกหรอ ทำให้ต้องรับภาระในการซ่อมบำรุงต่อไป

อีกเหตุผลหนึ่งคือ การซื้อรถยนต์ที่มีอายุมากมักจะขอจัดไฟแนนซ์ได้ยาก เพราะรถที่สถาบันการเงินจะอนุมัติวงเงินกู้ให้นั้นจะต้องเป็นรถที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี

ฉะนั้นกลุ่มผู้ซื้อก็จะยิ่งแคบลงอีก คือต้องเป็นกลุ่มที่ไม่มีปัญหากับการซ่อมบำรุงในอนาคต ขณะเดียวกันก็ต้องไม่มีปัญหากับการวางเงินดาวน์สูงๆ หรือสามารถซื้อสดได้ เป็นเหตุให้ราคารถที่อายุการใช้งานมากตกลงนั่นเอง

 

  1. สภาพรถ

รถยิ่งสภาพดียิ่งขายได้ไว! แต่หากรถผ่านอุบัติเหตุหนักมาก่อน หรือมีการชำรุดที่โครงสร้างสำคัญ รถจะขายออกได้ยากมาก และทำให้ราคาดิ่งลงมากด้วยเช่นกัน เนื่องจากสภาพรถมีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ คนส่วนใหญ่ยินดีจะซื้อรถที่มีอายุการใช้งานมาก ดีกว่าซื้อรถที่ถอยป้ายแดงออกมาจากศูนย์ไม่ได้นาน แต่เพิ่งไปชนหนักมา

 

  1. เคยเกิดอุบัติเหตุ หรือ มีประวัติความเป็นมาที่ชวนให้ไม่สบายใจ

อีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยมักกังวลคือ “สิ่งลี้ลับ” ฉะนั้น รถคันไหนมีประวัติความเป็นมาชวนให้กังวล (เช่น เจ้าของรถคนก่อนเสียชีวิตในรถ เคยชนคน ฯลฯ) ผู้ซื้อก็จะหลีกเลี่ยงไว้ก่อน ทำให้รถคันนั้นราคาตก

ราคาตก กดราคา

  1. ไมล์

แม้ว่าจะเป็นที่กังขาว่าไมล์สามารถเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน เพราะไมล์รถสามารถกรอได้ แต่ไมล์ก็มักจะถูกนำมาพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ ในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองเสมอ เพราะเป็นจุดที่จะบอกว่ารถคันดังกล่าวผ่านการใช้งานมามากหรือน้อย และรถมีแนวโน้มที่จะเสื่อมสภาพมากน้อยแค่ไหน

ตัวอย่าง รถ Toyota Altis ของนาย A อายุการใช้งาน 1 ปี วิ่งมาแล้ว 80,000 กม. กับรถ Toyota Altis ของนาย B อายุการใช้งาน 3 ปี วิ่งมาแล้ว 40,000 กม. ในสายตาของคนที่สนใจซื้อ Toyota Altis มือสอง รถของนาย B จะน่าสนใจมากกว่าและได้ราคาดีกว่า เพราะรถที่ใช้งานมาน้อยก็จะเยินน้อย ในขณะที่รถของนาย A แม้จะเป็นรถใหม่แต่เจ้าของรถใช้งานอย่างสมบุกสมบันมาก รถก็จะเยินมากกว่า และราคาตกมาก

 

  1. รุ่นย่อย

รุ่นย่อยของรถก็มีผลต่อความสูง – ต่ำของราคาที่ขายได้เช่นกัน ปกติแล้วรถรุ่นท็อปจะขายได้ราคาดีกว่ารถรุ่นพื้นฐาน (รุ่นที่ราคาถูกที่สุด) เพราะรุ่นท็อปจะมาพร้อมกับออฟชั่นต่างๆ ที่ครบครัน รวมถึงมาพร้อมกับข้าวของที่ได้รับการลดแลกแจกแถมมาจากเซลส์ที่ศูนย์ตอนออกป้ายแดงอีกด้วย

ส่วนรถรุ่นพื้นฐานนั้น ในเมื่อซื้อป้ายแดงมาราคาถูกกว่า ขายต่อมือสองก็ย่อมขายได้ในราคาต่ำกว่าอยู่แล้ว อีกทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ก็มีให้ไม่มากนัก

ผู้ซื้อรถยนต์มือสองจำนวนมากจึงสนใจรุ่นท็อปมากกว่า เป็นเหตุให้รถรุ่นพื้นฐานไม่ว่าของแบรนด์ใดก็ตามมักจะมีราคาตกลง เมื่อเอาไปเทียบกับรถรุ่นที่สูงขึ้นมา ปีเดียวกัน สภาพใกล้เคียงกัน ก็จะเห็นความแตกต่างได้ชัด

 

  1. รถแต่ง / รถซิ่ง

ปกติแล้วรถมือสองที่ขายได้ราคาดีคือรถที่คงสภาพไว้ใกล้เคียงวันที่ถอยป้ายแดงออกมาจากศูนย์มากที่สุด แม้ว่าคุณจะเอารถไปแต่งมาอย่างสวยงาม หมดเงินค่าแต่งรถไปเป็นหลักล้าน แต่มูลค่ารถเมื่อนำไปขายต่อก็จะไม่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด (ในบางกรณีควรเปลี่ยนกลับเป็นแบบเดิมก่อนขายต่อด้วยซ้ำ)

ส่วนรถซิ่งนั้น หากเป็นรถที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักซิ่งอย่างจริงจัง (เช่น รถ Mitsubishi Evolution เป็นต้น) ราคาก็จะไม่ตก และจะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีกในประเภทที่เลิกผลิตแล้วหรือหาได้ยาก แต่หากเป็นรถตลาดอย่าง Toyota Vios Honda Civic ฯลฯ ที่ผ่านการแต่งซิ่งมา ราคาจะดิ่งลงเหวและขายต่อยากอย่างแน่นอน เพราะรถซิ่งต่างๆ มักถูกรีดเค้นสมรรถนะเครื่องยนต์อย่างหนัก รวมถึงมีการเปลี่ยนนั่นเติมนี่อยู่บ่อยๆ

 

  1. รถติดแก๊ส

รถที่ติดแก๊สนั้น แม้จะเป็นรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน ไมล์ไม่ต่างกัน แต่ราคาจะต่ำกว่ารถที่ไม่ติดแก๊สอย่างแน่นอน เพราะคนส่วนใหญ่มักกังวลว่าการติดแก๊สจะส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ อีกทั้งยังส่งผลด้านความรู้สึกอีกด้วย เพราะคนซื้อมักคิดว่ารถที่ติดแก๊สมา คือรถที่เจ้าของใช้งานมาเยอะ จึงรู้สึกกังวลว่าสภาพรถอาจแย่กว่ารถที่ไม่ติดแก๊ส

 

  1. สี

ปกติแล้วสีรถยอดนิยมของคนไทยคือ สีดำ สีขาว สีบรอนซ์ สีเทา ด้วยความเป็นสียอดนิยม รถที่มีสีเหล่านี้ก็จะขายต่อง่าย ได้ราคาดี ขณะเดียวกัน รถที่สีไม่ค่อยได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ เช่น สีแดง สีเหลือง จึงมักจะขายต่อได้ในราคาที่ต่ำกว่า

 

  1. Book service

คือ สมุดพกที่ศูนย์มอบให้เจ้าของรถตั้งแต่วันที่ซื้อ (หรือวันที่เข้าศูนย์ครั้งแรก) นั่นเอง ใน Book Service จะมีข้อมูลการใช้รถ ข้อมูลการซ่อมบำรุง ซึ่งจะบ่งบอกถึงสภาพรถ และความทะนุถนอมของเจ้าของรถ เช่น มีการนำรถเข้าศูนย์ตามระยะหรือไม่ เคยประสบอุบัติเหตุแล้วส่งเข้าศูนย์มากี่ครั้ง เป็นต้น

รถที่มีบุ๊กเซอร์วิส และมีประวัติการซ่อมบำรุงดีมาตลอดจึงมักจะขายได้ราคาดี ในขณะเดียวกัน หากไม่มีบุ๊กเซอร์วิส หรือข้อมูลในบุ๊กบอกความไม่เอาใจใส่ ไม่เข้าศูนย์ตามระยะ ราคาที่ขายได้ก็จะลดลง

ในการซื้อ – ขายรถยนต์มือสองนั้น ทางที่ดีควรจะตกลงขายในราคาที่ผู้ซื้อและผู้ขายรู้สึกพึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย แต่ก็มีโอกาสที่รถยนต์มือสองดีๆ อาจจะขายได้ราคาต่ำกว่าที่ควร เพราะผู้ซื้อรู้สึกว่าราคาที่ผู้ขายตั้งไว้ไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ผู้ซื้อจะได้รับจึงขอต่อรองราคาลงมา (แต่ก็มีผู้ซื้อประเภทที่ไม่ว่ายังไงก็ขอต่อไว้ก่อนเช่นกัน) ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ขายจะตัดสินใจไม่ขายก็ได้ หากรู้สึกว่าราคาที่ได้ไม่ยุติธรรมกับตนเอง

อย่างไรก็ตาม มีผู้ขายบางคนที่มีความต้องการใช้เงินอย่างเร่งด่วนจึงยอมขายรถแม้จะได้ราคาต่ำ แต่กรณีแบบนี้เรียกว่า “กดราคา” (แถมคนขายยอมให้กดด้วย) ไม่ใช่ “ราคาตก”

ราคาตก กดราคา

หลายคนอาจจะกังวลว่า แล้วจะขายรถมือสองอย่างไรให้ราคาไม่ตก และไม่ถูกกดราคา ? ในส่วนนี้เว็บไซต์ Carro ของเรามีบริการขายรถแบบด่วนอย่าง Carro Express ที่สามารถขายออกได้จริง รวดเร็ว ภายใน 1 วันเท่านั้น ซึ่งมีไม่กี่เจ้าที่หลังจากปิดการขายได้รับเงินสดทันที แต่หากคุณกำลังกังวลว่าขายด่วนอาจโดนกดราคา ทาง Carro ขอยืนยันว่าคุณจะได้ราคาดีไม่ถูกกดราคาอย่างแน่นอน

เคยสงสัยไหม? ทำไมรถบางรุ่นราคาแพงแสนแพง บางรุ่นราคาถูกจนงง รถบางคันเป็นรุ่นยอดนิยมที่เห็นขับกันเต็มถนน แต่ไม่รู้ทำไมขายออกยากเหลือเกิน เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?

เชื่อไหมว่าสิ่งที่ Carro เกริ่นมานี้เป็นสิ่งที่คนขายรถมือสองหลายคนก็สงสัย คนซื้อรถมือสองจำนวนมากก็ยังงงงวย แต่ไม่ต้องกังวลไปจ้า!

ในบทความนี้ Carro ได้รวบรวม 10 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถมีราคาถูก-แพง ต่างกันมาให้คุณอย่างคร่าวๆ แล้ว! รับรองอ่านแล้วเก็ท เข้าใจตรงกันทั้งคนซื้อคนขายแน่นอน!

1. รถตลาดมักขายง่ายและได้ราคาดี

ข้อนี้พูดถึงแบรนด์ล้วนๆ ขอให้ตัดเรื่อง สภาพ ราคา และปัจจัยอื่นๆ ออกไปก่อนเลย เป็นที่รู้กันดีว่า ในวงการรถยนต์มือสอง รถตลาด (อย่าง Toyota หรือ Honda) นั้นจะราคาตกน้อยกว่าหากเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ต่อให้เป็นแบรนด์ที่ดังระดับโลก แต่หากไม่ค่อยมีชื่อเสียงในไทย รถก็มีโอกาสที่จะราคาดิ่งลงเหว เพราะไม่ตรงกับความนิยมของผู้ซื้อส่วนใหญ่

2. รถยิ่งใหม่ ยิ่งราคาสูง

อายุของรถมีผลต่อราคามาก ขึ้นชื่อว่าเป็นรถมือสองนั้นราคาก็ต้องถูกกว่าป้ายแดงอยู่แล้ว แต่จะถูกกว่าแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าผ่านการใช้งานนานแค่ไหนด้วย หากเป็นรถที่ใช้มาไม่เท่าไหร่ แล้วเจ้าของนำมาขายต่อในสภาพสุดนิ้ง รถก็ย่อมมีราคาสูงเป็นธรรมดา

นอกจากนี้ อายุของรถยังมีผลต่อการขอจัดไฟแนนซ์ ด้วยเพราะรถที่อายุเกิน 7 – 8 ปีขึ้นไป ก็จะเริ่มขอจัดไฟแนนซ์ยากแล้ว อีกทั้งรถแต่ละคันก็ย่อมมีการเสื่อมสภาพไปตามเวลา ฉะนั้นก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาอีกเช่นกันที่รถอายุมากหน่อยมักจะมีราคาตก

3. ยิ่งสภาพดี ยิ่งราคาดี

สภาพรถนั้นสำคัญมากสำหรับคนซื้อ เพราะไม่มีใครอยากได้รถที่ผ่านอุบัติเหตุหนักมา หรือเสียหายที่โครงสร้างสำคัญอยู่แล้ว ต่อให้เป็นรถที่เพิ่งถอยป้ายแดงออกมาใหม่ๆ ก็ตาม ในทางกลับกัน หากเป็นรถที่อายุการใช้งานมากหน่อย แต่เจ้าของเดิมดูแลอย่างดี มีประวัติการซ่อมบำรุงที่เชื่อถือได้ รถก็มีโอกาสที่จะได้ราคาดีตามไปด้วย

หากอยากทราบรายละเอียดเรื่องราคารถมือสองแต่ละรุ่นที่ Carro มีจำหน่าย สามารถสอบถามได้ที่ โทร. 02-460-9380 หรือช่องทางการติดต่อ Facebook : Carro Thailand / Line : @carrothai

4. ไมล์ยิ่งน้อยยิ่งดี

แม้ว่าไมล์จะกรอได้ แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังชมชอบรถที่ไมล์น้อยๆ เพราะเชื่อว่ารถที่ไมล์น้อยกว่า แปลว่าผ่านการใช้งานมาน้อยกว่า การเสื่อมสภาพย่อมจะน้อยกว่า มาตรฐานที่ใช้เป็นเกณฑ์กันทั่วไปคือประมาณ 10,000 กม./ปี หากเกินกว่านี้คนซื้อบางคนก็จะรู้สึกไม่โอเคแล้ว

5. รถที่ประวัติไม่ดี จะขายยากและราคาตกมาก

ประวัติในที่นี้มีตั้งแต่ประวัติอาชญากรรม ไปจนถึงเรื่องหลอนๆ ลี้ลับ เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนซื้อส่วนใหญ่เลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง เพราะฉะนั้นรถจึงขายยาก และราคาตกมาก

6. รุ่นย่อยดี ราคาก็ดีตาม

คนซื้อมือสองมักไม่ค่อยมองหารถรุ่นพื้นฐาน เพราะรู้สึกว่าออพชั่นมาไม่ค่อยครบ และเพิ่มงบขึ้นมาอีกนิดก็ได้รถที่ดีกว่าแล้ว อีกทั้งรุ่นย่อยที่สูงๆ ขึ้นหน่อย มักมาพร้อมกับของสมนาคุณจากเซลส์ขายรถ เป็นสิ่งที่คนซื้อบางคนนิยมชมชอบเช่นกัน

7. รถแต่งมาดี ราคาขายต่ออาจไม่ดีตาม

หลายคนชื่นชอบการแต่งรถ และอาจลงทุนกับอุปกรณ์ตกแต่งไปจนถึงหลักแสนหลักล้าน แต่ Carro ขอแนะนำว่ารถที่จะขายได้ราคาดีที่สุด ก็คือรถที่ใกล้เคียงกับสภาพตอนถอยป้ายแดงออกมามากที่สุด

ฉะนั้น หากใครอยากจะขายรถแต่ง แนะนำให้ควรถอดของแต่งออกแล้วใส่ชิ้นส่วนเดิมกลับคืน ส่วนพวกอุปกรณ์ตกแต่งนั้นเอาไปขายต่อให้ถูกแหล่งอาจจะทำเงินคุ้มค่ามากกว่า

8. ติดแก๊ส LPG / NGV มา ราคาตกชัวร์

คนซื้อหลายคนมักมีความกลัวว่ารถที่ติดแก๊ส LPG หรือ NGV มาจะทำให้เครื่องยนต์เสื่อมเร็ว อีกทั้งโดยมากแล้ว รถที่ติดแก๊ส LPG / NGV มักจะผ่านการใช้งานมาค่อนข้างมาก ฉะนั้นหากคุณมีรถอยู่ และคิดว่าวันหนึ่งอาจส่งต่อ อย่าเพิ่งติดแก๊สมาจะดีกว่า เพราะรถจะได้ราคาดีกว่า แต่ถ้าจะซื้อมาใช้งานไม่คิดมากเรื่องราคาขายต่อก็ไม่ว่ากัน

9. สีพื้นๆ ราคาดีกว่า

สีรถยอดนิยมของคนไทย คือ ขาว ดำ บรอนซ์ และเทา หากจะขายต่อรถสีเหลือง แดง เขียว ชมพู ฯลฯ ทำใจไว้ก่อนเลยว่ารถจะขายต่อยาก และราคาจะตกลงอย่างแน่นอน เว้นแต่ว่าบังเอิญเจอคนรสนิยมเดียวกัน

10. ประวัติการซ่อมบำรุง มีไว้อุ่นใจกว่า!

หลายคนให้ความสำคัญกับ Book Service เพราะแสดงถึงการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอของเจ้าของรถ ยิ่งมีเก็บใบเสร็จที่ซ่อมแซมรถไว้หลายๆ ปี มีรายการตรวจเปลี่ยนอะไหล่ หรือมีประวัติที่เช็คได้จากศูนย์บริการ ซึ่งเป็นข้อหนึ่งที่ส่งผลให้รถมีราคาสูงขึ้นเช่นกัน

วันที่ซื้อรถมา หลายคนอาจจะไม่ทันคิดว่าวันหนึ่งอาจจะต้องส่งต่อ หลายข้อที่ Carro ลิสต์มานี้เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงอย่างยิ่งหากคุณกำลังจะซื้อหรือขายรถ เพราะเป็นปัจจัยที่จะช่วยบอกว่ารถที่คุณซื้อ/ขาย ควรจะมีราคาสูงต่ำได้แค่ไหน และหากรถคันนั้นราคาตกมาก เหตุผลคืออะไร? รู้ไว้ก่อนจะได้เข้าใจตรงกันทั้งคนซื้อและคนขาย และไม่ถูกใครเอาเปรียบด้วย!

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยมๆ แถมคุณสมบัติครบทั้ง 10 ข้อในด้านบน Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai