ติดไฟแนนซ์ก็ขายรถได้!
หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่ผู้ขายรถส่วนใหญ่อยากรู้ ถ้าหากคุณผ่อนรถต่อไม่ไหว และรถคันนั้นยังอยู่ในไฟแนนซ์
จะขายเป็นรถมือสองได้ไหม? ในบทความนี้ Carro มีคำตอบ
อันดับแรก สิ่งที่ผู้ขายทุกคนควรทราบเอาไว้ ว่าถ้าหากคุณได้ทำการกู้สินเชื่อรถยนต์ผ่านไฟแนนซ์ และอยากจะทำการขายรถ โดยที่คุณยังผ่อนไม่ครบงวด ชื่อผู้มีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของรถยนต์คันนั้น ยังเป็นชื่อของไฟแนนซ์อยู่ นั่นเท่ากับว่าคุณมีฐานะเป็นแค่ “ผู้เช่าซื้อรถยนต์” เท่านั้น
ซึ่งถ้าหากคุณตัดสินใจแล้วว่าต้องการขายรถยนต์คันนั้น ก็ให้ปฎิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้
1. เลือกว่าจะขายรถให้ใคร
1.1 ขายให้ดีลเลอร์รถมือสอง (เต็นท์รถมือสอง)
ข้อดีของการขายรถให้ “ดีลเลอร์รถมือสอง” คือ สะดวก และรวดเร็ว เพราะถ้าหากคุณรีบใช้เงินจริง ทางโชว์รูมรถอาจจะสามารถนำเงินไปปิดไฟแนนซ์ให้คุณได้เลย แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตกลง ของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
1.2 ขายให้กับ Carro (คาร์โร)
ข้อดีจะคล้ายกับขายให้ดีลเลอร์รถมือสอง (เต็นท์รถมือสอง) แต่ข้อแตกต่างคือ มีความรวดเร็วกว่า และสะดวกกว่าต้องที่ไม่ต้องออกเดินทางไปโชว์รูมเอง แค่กรอกข้อมูล กับจำนวนเงินที่ต้องการ หลังจากนั้น คาร์โร จะดำเนินการให้ จนสามารถขายรถได้ในระยะเวลาอันสั้น และได้ราคาที่ดีที่สุดแน่นอน
TIPS: ซึ่งถ้าหากคุณอยากขายรถแบบด่วนๆ เพียงแค่กรอกข้อมูลบนเว็บไซต์ของ carro.co เราจะติดต่อกลับอย่างด่วนที่สุด
1.2 ขายรถเองไม่ผ่านคนกลาง
หรือถ้าหากใครไม่รีบร้อน ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ โดยการไปประกาศขายรถด้วยตัวเอง แบบไม่ผ่านคนกลาง แต่ก็จะมีข้อเสียคือ อาจจะต้องรอกว่าจะมีผู้ซื้อสนใจมาดูรถ
TIPS: ซึ่งถ้าหากคุณอยากขายรถได้อย่างรวดเร็ว ก็สามารถไปโพสต์ประกาศขายได้ฟรีบนเว็บไซต์ของ carro.co
2. สิ่งที่ควรทำก่อนการซื้อขายรถยนต์
หลังจากที่มีคนสนใจมาซื้อรถคุณแล้ว หรือตกลงกับทางดีลเลอร์รถมือสองเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อไปก็คือ
2.1 นำเงินไปปิดไฟแนนซ์
วิธีแรก คือ การนำเงินไปปิดไฟแนนซ์ที่เหลือให้หมด ซึ่งวิธีการนี้ผู้ซื้อและผู้ขาย ควรตกลงกันก่อน ว่าจะนำเงินของฝ่ายใดไปปิดไฟแนนซ์ เพราะหลังจากที่คุณนำเงินไปปิดไฟแนนซ์เรียบร้อยแล้ว สมุดคู่มือทะเบียนรถ รวมถึงกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของรถ จะถูกโอนมาเป็นของผู้ขาย จากนั้นผู้ขาย จึงทำการโอนให้ผู้ซื้ออีกทีหนึง
TIPS: ส่วนใหญ่ถ้านำเงินไปปิดไฟแนนซ์ จะมีข้อดี ตรงที่ได้ส่วนลดค่าดอกเบี้ย จากทางบริษัทไฟแนนซ์
2.2 เปลี่ยนชื่อผู้เช่าซื้อ (คนผ่อนรถ) ให้เป็นชื่อผู้ซื้อ
ถ้าหากผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะใช้เงินใครไปปิดไฟแนนซ์ แนะนำว่าให้ไปที่บริษัทไฟแนนซ์ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถคันนั้น และให้โอนชื่อจากผู้ขาย ไปเป็นชื่อผู้ซื้อ ให้ผู้ซื้อเป็นคนจ่ายค่างวดผ่อนรถต่อแทน แต่อาจจะต้องมีการจ่ายค่ารถด้วยในกรณีที่ผู้ขาย ต้องการค่ารถทั้งหมดที่เคยผ่อนมา ผู้ขายย่อมไม่ต้องการเสียผลประโยชน์ จีงเป็นที่มาของคำว่า “ขายดาวน์”
TIPS: ข้อดีของการโอนชื่อผู้เช่าซื้อ คือคุณไม่ต้องกังวล ในกรณีที่ไม่มีการส่งค่างวดไฟแนนซ์ต่อ เพราะถือว่าผู้ขายได้โอนกรรมสิทธิ์ผู้เช่าซื้อให้ผู้ซื้อที่ซื้อรถต่อจากคุณเรียบร้อยแล้ว
3. ทำการซื้อ-ขาย รถยนต์ และไปโอนกรรมสิทธิ์รถ
หลังจากที่คุณได้จัดการเรื่องไฟแนนซ์เรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถไปซื้อ-ขาย รถยนต์ และไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ได้
– ซึ่งถ้าหากคุณได้นำเงินไปปิดไฟแนนซ์แล้ว คุณจะได้เล่มสมุดคู่มือทะเบียนรถมา และสามารถไปโอนได้ที่กรมการขนส่ง *สามารถดูรายละเอียดการเตรียมเอกสารได้ ที่นี่
– แต่ถ้าหากคุณได้เลือกวิธีที่สอง คือการโอนชื่อผู้เช่าซื้อ สมุดคู่มือทะเบียนรถ และกรรมสิทธิ์รถคันนั้นจะยังเป็นของไฟแนนซ์ ซึ่งผู้ขายต้องจัดเตรียมเอกสารของรถคันนั้นทั้งหมด เพื่อส่งต่อให้ผู้ซื้อไปดำเนินการเอง เมื่อส่งค่างวดไฟแนนซ์ครบเรียบร้อย
ข้อควรระวัง: ถ้าหากคุณต้องการขายรถที่ติดไฟแนนซ์ ไม่แนะนำให้ขายรถไปทั้งๆ ที่ยังไม่ปิดไฟแนนซ์ หรือชื่อผู้เช่าซื้อรถยนต์ยังเป็นชื่อผู้ขายอยู่ เพราะตามกฎหมายแล้ว ผู้เช่าซื้อมีสิทธิครอบครองเท่านั้น ไม่มีสิทธินำไปขายต่อให้ผู้อื่น มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมายอาญา ไม่ว่าจะเป็นการขายให้เต็นท์ หรือขายเอง
สรุปว่า หากคุณทำตามขั้นตอนในบทความนี้ รถที่ยังติดไฟแนนซ์ของคุณ ก็จะสามารถขายต่อได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย และยังเป็นการป้องกันการโดนโกงได้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถนำไปเลือกใช้