ราคารถใหม่ MG ปี 2022 ทุกรุ่น

รวมราคารถใหม่ MG (เอ็มจี) ทุกรุ่น Update 8/8/2022

Carro นำเสนอราคารถใหม่ 2022 MG (เอ็มจี) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน เช็คราคารถ MG ป้ายแดงได้ที่นี่

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @carrothai เช่นกัน หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

All-New MG5 / เอ็มจี 5

All-New MG5 2021

  • 1.5 C ราคา 569,000 บาท
  • 1.5 D ราคา 609,000 บาท
  • 1.5 X ราคา 699,000 บาท

All-New MG5 2022

  • 1.5 C ราคา 585,000 บาท
  • 1.5 D ราคา 625,000 บาท
  • 1.5 D+ ราคา 679,000 บาท
  • 1.5 X ราคา 709,000 บาท

MG ZS / เอ็มจี แซดเอส

MG ZS

  • 1.5 C+ ราคา 689,000 บาท
  • 1.5 D+ ราคา 739,000 บาท
  • 1.5 X+ ราคา 799,000 บาท

MG ZS EV 2022 โฉมใหม่! ชูแบตเตอรี่วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 403 กิโลเมตร

New MG ZS EV 2022

  • D ราคา 949,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 240,000 บาท)
  • X ราคา 1,023,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 240,000 บาท)

New MG VS HEV 2022 / เอ็มจี วีเอส เอชอีวี 2022

New MG VS HEV 2022

  • D ราคา 859,000 บาท
  • X ราคา 919,000 บาท

New MG HS 2022

New MG HS 2022

  • C ราคา 939,000 บาท
  • D ราคา 1,089,000 บาท
  • X ราคา 1,159,000 บาท

New MG HS PHEV 2022

New MG HS PHEV 2022

  • D ราคา 1299,000 บาท
  • X ราคา 1379,000 บาท

10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ราคาถูกสุดในไทย ปี 2022

MG EP

  • Wagon ราคา 761,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 227,000 บาท)
  • Plus ราคา 771,000 บาท (ได้ส่วนลดจากมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ 227,000 บาท)

New MG Extender 2021 / เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ 2021

New MG Extender 2021

New MG Extender รุ่น Giant Cab (กระบะตอนครึ่ง)

  • GC 2.0 C 6MT ราคา 559,000 บาท
  • GC 2.0 D 6MT ราคา 629,000 บาท
  • GC 2.0 GRAND D 6MT ราคา 669,000 บาท
  • GC 2.0 GRAND D 6AT ราคา 729,000 บาท
  • GC 2.0 GRAND X 6MT ราคา 739,000 บาท

New MG Extender รุ่น Double Cab (4 ประตู)

  • DC 2.0 GRAND D 6MT ราคา 769,000 บาท
  • DC 2.0 GRAND X 6AT ราคา 889,000 บาท
  • DC 2.0 GRAND 4WD X 6AT ราคา 1,039,000 บาท

ดูโปรโมชั่น MG ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/mg-new-car-promotion/

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

ถ้าจะว่ากันถึงเรื่องของการใช้รถ ในเวลานี้รถ SUV จัดได้ว่าเป็นรถยนต์ยอดฮิตในตลาดรถบ้านเราในกลุ่มลูกค้าหลากหลายประเภท ซึ่งค่ายรถก็นำเสนอกันทั้งในแบบรุ่นเล็ก รุ่นกลาง และรุ่นใหญ่ เพราะความได้เปรียบของรถ SUV อยู่ที่ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน การขนของ ขนสัมภาระ ถูกใจคนมีครอบครัว มีลูกหลานหลายคน ใช้รถเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปเยี่ยมญาติ ก็เหมาะ

ในวันนี้ รถยนต์ที่ Carro (คาร์โร) จะมาแนะนำคนที่กำลังมองหารถอเนกประสงค์มาไว้ใช้งาน เราเน้นรถที่มีคุณสมบัติในการใช้งานอเนกประสงค์ ที่มีที่เก็บของจุกจิก ปรับเบาะพับใช้งานได้ได้หลายรูปแบบ เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน แถมราคาขายต่อดี ไม่ตก และยังเป็นแบรนด์เจ้าตลาด ขับไปไหนก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องของศูนย์บริการ และการหาอะไหล่ ใช้งานได้ยาวๆ

ไปรู้จักกับ Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์วี) เจเนอเรชั่นแรก ที่ทาง Carro ภูมิใจเสนอ และอยากให้คุณได้เป็นเจ้าของกันครับ มาดูกันว่า รุ่นนี้มีความน่าสนใจตรงจุดไหนกันบ้าง …

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์วี) นับเป็นยนตรกรรม Sport Crossover ที่ Honda ตั้งใจผลิตขึ้นมาเพื่อเติมเต็มไลน์รถ SUV ของฮอนด้าให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ร่วมกับ Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) และ Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี) โดยเป็นรถแบบ Regional Model ทำตลาดในแถบ ASEAN (อาเซียน) เป็นหลัก

ซึ่งเจ้ารุ่นนี้ยังมีความเกี่ยวพันกับ Honda Brio (ฮอนด้า บริโอ้), Honda Brio Amaze (ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ) และ Honda Mobilio (ฮอนด้า โมบิลิโอ้) เพราะใช้พื้นฐานเดียวกันอีกด้วย คลอดออกมาจากโรงงานฮอนด้า จ.พระนครศรีอยุธยา นี่เอง

หลังจากที่นำรถออกโชว์ชิมลางในงาน Motor Expo 2015 ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 28 มกราคม 2559 กับการสื่อสารทางการตลาด คือ How BRAVE are we ? ให้ความกล้า พาชีวิตไปให้สุด มีราคาตอนออกป้ายแดง 750,000 – 820,000 บาท

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

สำหรับโครงสร้างตัวรถของ Honda BR-V ออกแบบใหม่เกือบทั้งคัน (มีชุดประตู ที่ใช้ร่วมกันกับ Honda Mobilio แต่รายละเอียดปลีกย่อยดูแตกต่างกันไป) มีระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า (ล้อซ้าย-ขวา) และหลัง (ล้อซ้าย-ขวา) อยู่ที่ 1,500 มม. มากกว่าในรุ่น Mobilio 28 และ 25 มม.ตามลำดับ เช่นเดียวกับระยะต่ำสุดจากพื้น 201 มม. (Mobilio 189 มม.) มีน้ำหนักตัวรถ 1,206 – 1,241 กิโลกรัม

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

ส่วนมิติตัวรถยาว 4,453 มม. (รุ่น 7 ที่นั่ง 4,456 มม.) กว้าง 1,735 มม. สูง 1,666 มม. และระยะฐานล้อ 2,655 มม. มากกว่า Mobilio ทุกมิติ

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

รูปลักษณ์ภายนอก มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่แข็งแกร่ง และช่วงล่างยกสูง ลุยได้ทุกเส้นทางท้าทายในสไตล์รถ SUV ผสานกับเส้นสายรอบคันที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ซึ่งในรุ่น 5 ที่นั่ง ชุดไฟหน้าเป็นแบบ Projector แต่ไม่มีไฟตัดหมอก กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว มีราวหลังคาสไตล์สปอร์ต (Roof Rail) ส่วนในรุ่น 7 ที่นั่ง ชุดไฟหน้าเป็นแบบ Projector พร้อมไฟหรี่แบบ LED มีไฟตัดหมอก และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ลงตัวกับดีไซน์ภายในโทนสีดำ ตกแต่งคอนโซลด้วย Piano Black พร้อมทัศนวิสัยด้านคนขับที่สูงคล้ายรถ SUV และพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

มาพร้อม ทางเลือก ทั้งรูปแบบเบาะนั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง เน้นเพื่อการพาณิชย์ (เช่น ร้านขายของเล็กๆ ไว้ใช้ขับไปส่งของ) ให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายพร้อมตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ ซึ่งในรุ่น 5 ที่นั่ง (รุ่น V) ใช้พวงมาลัยแบบเดียวกับในรุ่น Brio เบาะนั่งแบบผ้า มีมาตรวัดเรืองแสงสีขาว พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าได้อย่างเดียว มีช่องเก็บของหลายจุด และที่วางแก้วน้ำมากถึง 11 ที่นั่ง 

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

ส่วนในรุ่นเบาะนั่ง แถว ที่นั่ง (รุ่น SV) เพิ่มออฟชั่นจากรุ่น S จะดูหรูหราพรีเมียมกว่า ใช้เบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์ พวงมาลัยหุ้มหนัง 3 ก้าน แบบเดียวกับใน Civic รุ่น FB ใช้เครื่องเสียงแบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 6.1 นิ้ว ที่รองรับระบบ iOS และ Android รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone + ช่องเชื่อมต่อ HDMI มีปุ่ม Start เครื่องยนต์ มี Honda Smart Car System มีแอร์สำหรับผูัโดยสารตอนหลัง กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้าได้ หรือกล้องมองภาพถอยหลัง เป็นต้น

โดยในรุ่น SV เบาะนั่งแถวที่ 2 พื้นที่วางขามากพอประมาณ ผู้ใหญ่ตัวใหญ่ๆ นั่งได้ไม่อึดอัด แถมมีหลังคาตัวรถที่สูง ให้พื้นที่เพดานในรถมากตามไปด้วย พนักพิงปรับเอนได้ถึง 2 ระดับ ปรับเลื่อนหน้า-หลัง เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารแถวที่ 3 เข้า-ออกได้สะดวกยิ่งขึ้น เบาะนั่งแถวที่ 3 พนักพิงพับแยกแบบ 50:50 หรือพับตลบไปด้านหน้า 2 จังหวะได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย (แต่ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว เบาะนั่งแถวที่ 3 เหมาะสำหรับให้เด็กๆ นั่งมากกว่า)

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว iVTEC ให้แรงม้าสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที ทำความเร็วได้สูงสุด 160 กม./ชม. (ระบบล็อคความเร็วไว้) และระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ให้อัตราเร่งดี ออกตัวได้ฉับไว อีกทั้งรองรับแก๊สโซฮอล์ E85 ด้วย

มาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA), ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) เป็นต้น

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

ช่วงล่างหน้า เป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังใช้คานทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape ซึ่งชุดโช๊คอัพที่ใช้ จะต่างไปจาก Mobilio และชุดสปริงก็ให้ค่าที่แข็งกว่า Mobilio ส่วนเหล็กกันโคลงหนากว่าเช่นกัน และพวงมาลัยค่อนข้างนิ่ง ให้การทรงตัวของรถที่ดีในยามเข้าโค้ง หรือใช้ความเร็วสูง

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

เดือนมีนาคม 2561 Honda กระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัว Honda BR-V ปรับรุ่น V เดิมที่ขายไม่ค่อยดี เป็น V+ เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น กระจกไฟฟ้าปรับพับได้ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI หรือกล้องมองภาพด้านหลัง พร้อม Sport Package ใส่ชุดแต่งจาก Modulo เป็นต้น

Carro แนะนำ Honda BR-V ลุยๆ น่าใช้!

ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2562 Honda ได้ปรับโฉมเจ้า Honda BRV ใหม่ ยนตรกรรม Active Sport Crossover ดีไซน์สปอร์ตแข็งแกร่ง กับกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต 16 นิ้ว มาพร้อมสีใหม่ สีแดงแพสชั่น (มุก) และระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว

อ่านเพิ่มเติม >> Honda เปิดตัว BR-V ปรับโฉมใหม่ ในราคา 765,000 – 835,000 บาท

ก่อนที่จะขายกันมาเรื่อยๆ จนได้เวลาปรับโฉม All-New Honda BR-V ใหม่หมด เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เตรียมเผยตัวจริงช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2565 นี้

และสำหรับ Carro ในเดือนสิงหาคม 2565 เดือนแห่งหน้าฝน เรามี Honda BR-V รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 9 คันครับ ได้แก่ …..

HONDA BR-V 1.5 SV 2017 เทา

HONDA BR-V 1.5 SV 2017 เทา

1. Honda BR-V 1.5 SV ปี 2017 เลขไมล์ 59,728 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 529,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-br-v-2017-ENM711.html

HONDA BR-V 1.5 SV 2017 เทา

HONDA BR-V 1.5 SV 2017 เทา

2. Honda BR-V 1.5 SV ปี 2017 เลขไมล์ 48,599 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 529,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/honda-br-v-2017-EWYL8W.html

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ถ้าใครที่กำลังมองหา Honda Jazz มือสอง (ฮอนด้า แจ๊ส มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

ราคารถใหม่ Mazda ปี 2022 ทุกรุ่น

รวมราคารถใหม่ Mazda (มาสด้า) Update 25/7/2022

Carro นำเสนอราคารถใหม่ 2022 Mazda (มาสด้า) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน เช็คราคารถ Mazda ป้ายแดงได้ที่นี่

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

Mazda2 2021 Collection

Mazda2

  • 1.3 C / C Sports ราคา 602,000 บาท
  • 1.3 S / S Sports ราคา 627,000 บาท
  • 1.3 S Leather / S Leather Sports ราคา 648,000 บาท
  • 1.3 SP / SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • XD / XD Sports ราคา 782,000 บาท
  • XDL / XDL Sports ราคา 799,000 บาท
  • Mazda 100th Anniversary Edition ราคา 677,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 10,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 12,000 บาท

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

New Mazda2 2022

  • 1.3 E / E Sports ราคา 546,000 บาท
  • 1.3 C / C Sports ราคา 599,000 บาท
  • 1.3 S Leather / S Leather Sports ราคา 659,000 บาท
  • 1.3 SP / SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • XDL / XDL Sports ราคา 799,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 10,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 12,000 บาท

Mazda3 2021

Mazda3

  • 2.0 C ราคา 969,000 บาท
  • 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท
  • Mazda 100th Anniversary Edition ราคา 1,237,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda3 2022

New Mazda3 2022

  • 2.0 C ราคา 979,000 บาท
  • 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda CX-3 2022

New CX-3 2022

  • 2.0 Base ราคา 769,000 บาท
  • 2.0 Base Plus ราคา 809,000 บาท
  • 2.0 Comfort ราคา 879,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 10,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 12,000 บาท

Mazda CX-30 Signature Style 2021

All-New CX-30 2020

  • 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท
  • Mazda 100th Anniversary Edition ราคา 1,228,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl (25D) เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray (46G) เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal (46V) เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

New CX-30 2022

  • 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl (25D) เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray (46G) เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal (46V) เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda CX-5 2021

CX-5

  • 2.0 C ราคา 1,300,000 บาท
  • 2.0 S ราคา 1,410,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,560,000 บาท
  • XD ราคา 1,570,000 บาท
  • XDL ราคา 1,790,000 บาท
  • 2.5 Turbo SP ราคา 1,850,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

New Mazda CX-5 2022

CX-5 2022

  • 2.0 S ราคา 1,320,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,470,000 บาท
  • XDL ราคา 1,770,000 บาท
  • 2.5 Turbo SP ราคา 1,830,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda CX-8 2021

CX-8

  • 2.5 S ราคา 1,599,000 บาท
  • 2.5 SP ราคา 1,699,000 บาท
  • 2.2 XDL ราคา 1,899,000 บาท
  • 2.2 XDL Executive (6 ที่นั่ง) ราคา 2,069,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

New Mazda CX-8 2022

CX-8 2022

  • 2.5 S ราคา 1,499,000 บาท
  • 2.5 SP ราคา 1,599,000 บาท
  • 2.5 SP Executive (6 ที่นั่ง) ราคา 1,639,000 บาท
  • 2.2 XDL ราคา 1,799,000 บาท
  • 2.2 XDL Executive (6 ที่นั่ง) ราคา 2,069,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

New Mazda CX-8 2022 Minorchange

CX-8 2022 (Minorchange)

  • 2.5 S ราคา 1,549,000 บาท
  • 2.5 SP ราคา 1,619,000 บาท
  • 2.5 SP Executive (6 ที่นั่ง) ราคา 1,699,000 บาท
  • 2.2 XDL ราคา 1,849,000 บาท
  • 2.2 XDL Executive (6 ที่นั่ง) ราคา 2,199,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda MX-5 RF 2022

MX-5

  • 2.0 RF ราคา 2,905,000 บาท
  • 2.0 RF 6MT ราคา 2,905,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda BT-50 Pro Thunder 2018

BT-50 PRO

  • Standard Cab 2.2 V ราคา 562,000 บาท
  • Freestyle Cab 2.2 S ราคา 623,000 บาท
  • Freestyle Cab 2.2 V ราคา 668,000 บาท
  • Freestyle Cab 2.2 Hi-Racer ราคา 682,000 บาท (รวมชุดแต่ง Thunder 701,000 บาท)
  • Freestyle Cab 2.2 Hi-Racer (ABS) ราคา 748,000 บาท
  • Double Cab 2.2 S ราคา 663,000 บาท
  • Double Cab 2.2 V (ABS) ราคา 795,000 บาท
  • Double Cab 2.2 Hi-racer ราคา 792,000 บาท
  • Double Cab 2.2 Hi-racer (ABS) ราคา 849,000 บาท
  • Double Cab 2.2 Hi-Racer 6AT ราคา 866,000 บาท
  • Double Cab 2.2 Hi-Racer 6AT (Leather) ราคา 926,000 บาท (รวมชุดแต่ง Thunder 952,000 บาท)
  • Double Cab 4×4 3.2 R ราคา 1,046,000 บาท
  • Double Cab 4×4 3.2 R 6AT ราคา 1,090,000 บาท

*หมายเหตุ : สีเมัลลิก เพิ่ม 7,000 บาท, สีขาวมุก ราคาเพิ่ม 14,000 บาท (เฉพาะรุ่น)

All-New Mazda BT-50 2021

All-New BT-50 2021

  • Standard Cab 1.9 E ราคา 553,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 C ราคา 679,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 C Hi-Racer ราคา 714,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 C Hi-Racer 6AT ราคา 768,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 S Hi-Racer ราคา 787,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 S Hi-Racer 6AT ราคา 812,000 บาท
  • Double Cab 1.9 C ราคา 771,000 บาท
  • Double Cab 1.9 S ราคา 847,000 บาท
  • Double Cab 1.9 S Hi-racer ราคา 891,000 บาท
  • Double Cab 1.9 S Hi-Racer 6AT ราคา 936,000 บาท
  • Double Cab 1.9 SP Hi-Racer ราคา 1,012,000 บาท
  • Double Cab 1.9 SP Hi-Racer 6AT  ราคา 1,070,000 บาท
  • Double Cab 4×4 3.0 SP ราคา 1,118,000 บาท
  • Double Cab 4×4 3.0 SP ราคา 1,153,000 บาท

ดูโปรโมชั่น Mazda ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/mazda-new-car-promotion/

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

ถ้าจะให้พูดถึง “รถ SUV” (Sport Utility Vehicle) และ “รถ MPV” (Multi-Purpose Vehicle) มือสอง ในบ้านเราจัดเป็นรถขายดีทีเดียว เพราะเป็นรถที่เหมาะกับคนมีครอบครัวใหญ่ ไปไหนไปกันได้หลายคน เริ่มต้นตั้งแต่แบบ SUV Crossover ซึ่งมาจากคำว่า Crossover Utility Vehicle เป็นรถที่ประกอบเป็นชิ้นเดียวกันทั้งคัน ดูคล้ายกับรถเก๋งยกสูง เน้นความอเนกประสงค์ ตัวรถไม่ใหญ่มากนัก เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก หรืออาจลุยได้บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่ากับแบบ SUV แท้ๆ

สำหรับรถ SUV นั้น ก็ยังมีอีก 2 แบบหลักๆ ได้แก่ SUV แบบที่มีลักษณะเดียวกันกับรถแนว Crossover แต่มีขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่า ดูลุยกว่า มีที่นั่งทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

และรถ SUV ที่มีพื้นฐานตัวรถเป็นแชสซีส์ แบบเดียวกับรถกระบะ หรือที่บ้านเรามักเรียกกันว่า “รถ PPV” หรือ Pick-up Passenger Vehicle แต่ปรับช่วงล่างให้นุ่มนวลขึ้น ด้วยการใช้คอยล์สปริง ตัวรถมีขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่จะนั่งได้ 7 ที่นั่ง สามารถวิ่งในเมือง หรือลุยในทางฝุ่น เข้าป่าฝ่าดงได้

และรถในรูปแบบ MPV ที่เหมาะสำหรับคนมีครอบครัวใหญ่ ที่มีทั้งเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ เน้นการใช้งานใช้เมืองสะดวกสบาย เข้า-ออก สะดวกกว่า มีทั้งแบบประตูเปิดแบบรถปกติ และประตูแบบบานเลื่อน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถที่มี 7 ที่นั่งเช่นกัน

แต่ด้วยงบประมาณของหลายคนเวลานี้อาจมีจำกัด เนื่องจากวิกฤตโควิด-19, เศรษฐกิจฝืดเคือง และน้ำมันแพง ทำให้การเลือกรถใช้สักคัน ต้องคำนึงถึงราคา และความประหยัดกันมากขึ้น

Carro จึงรวบรวมรถ SUV, Crossover และ MPV มือสอง ที่ขายดีใน Carro และน่าซื้อในปี 2022 มาให้ทุกท่านเลือกซื้อกันแล้วครับ

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

1. Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์)

รถอเนกประสงค์ยอดฮิตที่สุดในไทยอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นรถที่รถขายดีใน Carro ราคาตกน้อย และการดูแลรักษา อะไหล่หาง่าย นั่นก็คือ Toyota Fortuner มือสอง (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มือสอง) ในเจเนอเรชั่นที่ 2 นั่นเอง

รถอเนกประสงค์ Toyota Fortuner โฉมนี้ มาพร้อมสโลแกน “New Legend of the Pride” หรือ “เหนือนิยามแห่งศักดิ์ศรี” เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2558 ภายใต้โครงการ IMV ของ Toyota พร้อมขยายเฟรมให้ใหญ่ขึ้น และพัฒนาช่วงล่างแบบ 4 ลิงค์ เครื่องยนต์ใหม่ รวมถึงดีไซน์ที่หรูหรา ล้ำสมัย ทั้งภายนอก-ภายใน โดยเฉพาะ 3 เส้นสายแห่งดีไซน์ (3 Iconic Lines) ออกแบบได้สวยทั้งหน้าและหลัง

ห้องโดยสารภายใน มีฟังก์ชั่นเด่นๆ อย่าง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, ระบบนำทาง (Navigator) พร้อมเครื่องเล่น DVD หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ T-Connect และการเชื่อมต่อ Bluetooth, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติสามารถควบคุมแรงลมอัตโนมัติ, กล้องมองภาพด้านหลัง, ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ, ระบบ Cruise Control หรือช่องเก็บของแบบ Cool Box เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เจเนอเรชั่นใหม่ (GD Efficient Boost) ทั้งในแบบ 2.4 ลิตร รหัส 2GD-FTV (High) แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VN Turbo Intercooler Commonrail ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที

ขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV แบบ 4 สูบ VN Turbo Intercooler Commonrail ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที แรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้นกว่าเครื่องยนต์ตระกูล KD รุ่นเดิม แถมกินน้ำมันลดลง 10%

เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ ให้แรงบิดสูงในช่วงรอบกว้าง (Flat torque) แต่ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ผสานกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (เฉพาะรุ่นดีเซล 2.4) และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift กับระบบ Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

และเบนซินขนาด 2.7 ลิตร รหัส 2TR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 166 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Toyota Fortuner ลุยได้ทุกฤดู

ดูรายละเอียด Toyota Fortuner มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

2. Toyota Sienta (โตโยต้า เซียนต้า)

Toyota Sienta มือสอง (โตโยต้า เซียนต้า มือสอง) จัดเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์รูปแบบใหม่ ในโฉมเจเนอเรชั่นที่ 2 นี้ เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2558

การออกแบบภายนอก ได้แรงบันดาลใจจาก “Urban Trekking Shoes” หรือ “รองเท้าเดินป่าสมัยใหม่” โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ Bi-Beam LED พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED, ไฟหรี่ และไฟท้าย LED แบบ Light Guiding, กระจกมองข้างปรับ/พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ภายในออกแบบให้มี 3 แถว 7 ที่นั่ง พื้นที่กว้างขวาง จัดเต็มกับเครื่องเล่น DVD/CD/MP3/WMA พร้อมจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและ MID กับระบบแอร์อัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแบบ Digital, ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start), ประตูข้างซ้าย-ขวา สไลด์อัตโนมัติ แบบ Smart Entry และเบาะพับง่ายแค่เพียงสัมผัส (1-Touch Tumble) พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน

ขุมพลังใช้เครื่องยนต์รหัส 2NR-FE ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 16.1 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบ Sport Sequential Shift 7 สปีด

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Toyota Sienta สำหรับครอบครัว

ดูรายละเอียด Toyota Sienta มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

3. Toyota Innova Crysta (โตโยต้า อินโนว่า คริสต้า)

Toyota Innova Crysta มือสอง (โตโยต้า อินโนว่า คริสต้า มือสอง) เป็นรถเจเนอเรชั่นที่ 2 ของ Innova ที่ยังได้รับความนิยมทั้งในตลาดรถป้ายแดง และรถมือสองอย่างต่อเนื่อง เป็นการนำเข้าจากอินโดนีเซียเช่นเคย (เพราะที่อินโดนีเซีย นิยมรถประเภท MPV มาก ยอดขายเยอะ ฐานการผลิตรุ่นนี้จึงอยู่ที่นั่น)

เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนกันยายน 2559 อัพเกรดความหรูหรามาเต็มพิกัด ภายใต้แนวคิด “Life is Infinite – เปลี่ยน…ให้ชีวิตทุกด้านเหนือระดับ”

ภายนอก ดีไซน์หรูหราโฉบเฉี่ยว แบบ Premium Crossover MPV มาพร้อมสเกิร์ตรอบคัน ไฟหน้า LED Projector พร้อม Daytime Running Lights มีไฟตัดหมอกหน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว และไฟ Welcome Light สปอยเลอร์หลัง พร้อมเสาอากาศแบบ Shark Fin และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว เป็นต้น

ห้องโดยสารกว้างขวาง ให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในบ้าน ภายใต้ Concept “Living Room Like” เติมเต็มด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม อาทิ ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารแบบซ่อนฝ้า Premium Illumination LED แผงควบคุมไฟห้องโดยสาร และระบบแอร์แบบแยกส่วน พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุม มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID หน้าจอสีแบบ TFT ระบบ Push Start ระบบ Smart Entry ควบคุมการล็อค-ปลดล็อคประตูอัจฉริยะ และมีช่องเก็บของแบบ Cool Box

เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat มาพร้อมที่พักแขน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control, DVD & Navigator ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมรองรับระบบ T-Connect และช่องต่อ USB

ในรุ่น 2.8V และ 2.8G มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล GD Efficient Boost รหัส 1GD-FTV (High) 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,200-3,400 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift

ส่วนรุ่น 2.0E ใช้เครื่องยนต์เบนซินรหัส 1TR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 139 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 183 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด รองรับแก๊สโซฮอล์ E20

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Toyota Innova รถอเนกประสงค์

ดูรายละเอียด Toyota Innova Crysta มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

4. Nissan X-Trail (นิสสัน เอ็กซ์เทรล)

Nissan X-Trail มือสอง (นิสสัน เอ็กซ์เทรล มือสอง) เจเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายที่ขายในไทย เปิดตัวในไทยเป็นทางการในไทยเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2557 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร แม้ว่าจะช้ากว่าในตลาดโลก แต่ก็ทำให้ตลาดรถ SUV ได้ตื่นเต้นไปตามๆ กัน ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ และฐานล้อที่ยาวขึ้น มีเทคโนโลยีและอุปกรณ์ติดตั้งครั้งแรกในกลุ่มรถประเภทนี้ อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ 3 มิติ ขนาด 5 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ หรือไฟหน้า LED Projector พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน เป็นต้น

ส่วนพื้นที่ภายในหรูหรา โดดเด่นมากขึ้น เบาะนั่งแบบ 3 แถว และที่นั่งแบบ 5+2 ที่ ซันรูฟแบบพาโนรามิค และประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอย เหมาะที่จะเป็นรถสำหรับทุกครอบครัว

นอกจากนี้ เทคโนโลยีเด่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบกล้องมองรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor) ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ (Active Engine Brake) และระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control) ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจ

ต่อมาในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ได้เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ พร้อมกันทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และ Hybrid รายแรกในกลุ่ม SUV ในไทย เพิ่มฟังก์ชั่นมากมาย ตอบสนองวิถีชีวิตคนเมือง เช่น ระบบเปิด-ปิด ประตูท้ายอัตโนมัติแบบระบบแฮนด์ฟรี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนเครื่องเสียงรุ่นใหม่แบบ A-IVI หรูหราและตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้ายิ่งขึ้น

ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส QR25DE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Twin C-VTC ให้แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

ส่วนเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร รหัส MR20DD Hybrid แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Twin C-VTC ให้แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที + มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร ซึ่งทั้งสองรุ่นย่อย ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม Manual Mode 7 สปีด (M-CVT)

อ่านเพิ่มเติม >> เจาะลึกจุดเด่น! + ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์ Nissan X-Trail 2019

ดูรายละเอียด Nissan X-Trail มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

5. Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า)

Nissan Terra มือสอง (นิสสัน เทอร์ร่า มือสอง) เปิดตัวครั้งแรกในไทยเมื่อ 16 สิงหาคม 2561 รถยนต์อเนกประสงค์แบบตัวถังบนแชสซีส์ (หรือรถ PPV ตามที่ Nissan เรียก) มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ที่รับกับกระจังหน้าแบบ V-Motion ส่วนชุดประตูหน้านั้นเหมือน Navara และด้านท้ายถูกออกแบบใหม่หมด ไฟท้ายเป็นแบบ LED มาพร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารภายในยกชุดมาจาก Navara แต่ตกแต่งให้หรูหราขึ้น ด้วยโทนสีดำตัดด้วยสีเงิน แบบ Gliding Wing 7 ที่นั่ง กว้างขวาง และเงียบ มีเครื่องเสียงระบบหน้าจอสัมผัส, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน, กุญแจ Keyless Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งแถว 2 มีระบบพับอัตโนมัติแบบแบนราบ และระบบแอร์เพดานแยกส่วนกระจายทั่วห้องโดยสาร เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังดีเซลขนาด 2.3 ลิตร รหัส YS23DDTT แบบ 4 สูบ DOHC Twin-Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อม Manual Mode

พร้อมเทคโนโลยีจาก Nissan Intelligent Mobility โดย Terra เป็น SUV รายแรก ที่มีเทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ หรือ Intelligent Rear View Mirror (IRVM) นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง หรือ Lane Departure Warning (LDW), เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW) และเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD) โดยทั้งหมดนี้ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น กับความสะดวกสบายอย่างสูงสุดสำหรับผู้โดยสารทุกคน

อ่านเพิ่มเติม >> เจาะลึกจุดเด่น! + ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์ Nissan Terra 2018

ดูรายละเอียด Nissan Terra มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

6. Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์วี)

Honda CR-V มือสอง (ฮอนด้า ซีอาร์วี มือสอง) รุ่นยอดฮิตและเป็นรถขายดีใน Carro โฉมนี้ เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2560 จัดเป็นรถยนต์ SUV อเนกประสงค์รุ่นใหญ่เจเนอเรชั่นที่ 5 ของตระกูล CR-V ที่ออกแบบใหม่ทั้งคัน ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขึ้น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง ที่ตามออกมาในเดือนพฤศจิกายน 2561

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายและเงียบยิ่งขึ้นในทุกการเดินทาง ออกแบบภายในหลักการที่ว่า “Urban BASE Beautility” หรูหราด้วยแผงคอนโซลหน้าขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยเส้นสายลายไม้ และวัสดุสี Piano Black พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มากถึง 561 ลิตร (ในรุ่น 5 ที่นั่ง) หากพับเบาะหลังลง จะเพิ่มเนื้อที่ได้มากถึง 1,123 ลิตร และ 936 ลิตร ในรุ่น 7 ที่นั่ง

มาพร้อมเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3 เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง มีะบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ซึ่งสามารถแสดงผลฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังขับเคลื่อนเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร เป็นครั้งแรก! พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม (Earth Dreams Technology) ในรูปแบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-DTEC Diesel Turbo แบบ 2 จังหวะ (2-Stage Turbocharger) ให้แรงม้าสูงสุดถึง 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร (35.6 กก.-ม.) ที่ 2,000 รอบ/นาที ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่

ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ (Shift by Wire)

และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC ให้แรงม้าสูงถึง 173 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 22.8 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ให้การตอบสนองที่ทันใจ พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85

อ่านเพิ่มเติม >> สายลุยห้ามพลาด! Honda CR-V มือสอง น่าซื้อ น่าใช้ Carro มีให้เลือกแล้ว!

ดูรายละเอียด Honda CR-V มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

7. Honda Freed (ฮอนด้า ฟรีด)

Honda Freed มือสอง (ฮฮนด้า ฟรีด มือสอง) รุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ขายในไทย เปิดตัวเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 โดยการนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย (ซึ่งนิยมรถ MPV แบบ 7 ที่นั่งมานาน) จัดเป็นรถยนต์นั่งเอนกประสงค์ Segment ใหม่ นั่นคือ MUV” (หรือ Multipurpose Utility Vehicle) ที่ Honda เรียก

ออกแบบตัวรถสไตล์ European ใช้รูปทรงสามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยมโดดเด่นไม่เหมือนใคร ชูจุดเด่นด้วยตัวถังขนาดกระทัดรัด ห้องโดยสารกว้างขวาง ประหยัดน้ำมัน ขับขี่ง่าย ตัวรถสั้น หาที่จอดได้ง่าย จุดเด่นข้อที่สอง มีเครื่องยนต์ขนาดเล็ก ประหยัดน้ำมัน แต่ถ้าหากใช้วิ่งออกต่างจังหวัดยาวๆ ก็อาจกินน้ำมันนิดๆ

ตัวรถออกแบบให้มี 7 ที่นั่ง แบ่งเป็น 3 แถว พื้นห้องสัมภาระแบนราบ Flat Floor เดินในรถไม่ต้องกลัวสะดุด และเดินถึงกันได้ทุกมุม ส่วนเบาะแถวสองดีไซน์แบบ Captain’s Seats ปีกเบาะโอบกระชับ คุณแม่นั่งได้สบายๆ และเบาะแถวที่ 3 พับเก็บได้ วางของได้เพียบ เมื่อพับเบาะแล้วจะมีพื้นที่มากถึง 670 ลิตร

ส่วนชุดแผงคอนโซลออกแบบสไตล์ Open Cafe เป็นแบบ 2 ชั้น กว้าง ใช้งานได้หลากหลาย จะวางอาหาร หรือเครื่องดื่มก็ได้ ซึ่งใช้งานได้จริงๆ (อย่างน้อยก็วางจานข้าว ไว้กินข้าว ตอนรถติดๆ ได้!) ส่วนเครื่องเสียงของฟรีด สามารถเชื่อมต่อ iPod ด้วย USB Port ได้

มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว i-VTEC ให้แรงม้าสูงสุด 118 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 147 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด และขับเคลื่อนล้อหน้า

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Honda Freed ยอดรถอเนกประสงค์ สำหรับครอบครัว!

ดูรายละเอียด Honda Freed มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

8.  Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์)

Isuzu MU-X มือสอง (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ มือสอง) รุ่นที่มาทดแทน Isuzu MU-7 นี้ เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 มาพร้อมสโลแกน “เอกสิทธิ์แห่งผู้นำ” (PRIVILEGE of the LEADER) คล่องตัวสูงสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ ด้วยความยาวตัวรถ 4.825 เมตร และวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.7 เมตร หรือเทียบเท่ารถยนต์นั่งขนาดกลาง

โดดเด่นด้วยรูปทรงลู่ลม ไฟหน้าแบบ Projector กระจังหน้าแบบ 3-Dimension ไฟท้ายแบบ ARC-Dimension ด้านหลังติดตั้งกล้องแบบ Built-In เสาอากาศ Dual Function แบบครีบ รับได้ทั้งสัญญาณวิทยุและระบบนำทาง ราวหลังคาออกแบบใหม่ ปรับตำแหน่งยึดรูฟแร็คได้อิสระ

สำหรับการออกแบบภายในหรูหราสไตล์ยุโรป ด้วยแนวคิด “Premium & Exclusive” เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สี Ivory เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดครบทั้ง 7 ที่นั่ง แผงหน้าปัดตกแต่งด้วยลายไม้แบบ Nature Touch มาตรวัดเป็นไฟเรืองแสงสีขาวพร้อมตัวเลขสีขาว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบอินโฟเทนเมนท์ Isuzu Media Solutions พร้อมระบบนำทาง i-Genii ทำงานผ่านจอทัชสกรีน 7 นิ้ว เสริมด้วยมอนิเตอร์บนเพดาน Built-In ขนาด 10.5 นิ้ว ระบบเสียง Surround Sound ลำโพง 8 ทิศทาง

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติทั้ง 3 ตอน พร้อมปุ่มควบคุมแยกตอนหน้า-หลัง ระบบปรับ-พับเบาะแบบ One Action ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในได้หลากหลาย พร้อมกุญแจอัจฉริยะ Genius Entry ควบคุมการเปิด-ปิด และล็อกประตูได้ทุกบาน รวมถึงการสตาร์ทรถ พร้อมสวิตช์เปิด-ปิด ที่ประตูท้าย

ด้านขุมพลัง แรงเร้าใจกับเครื่องยนต์ Isuzu Ddi Super Commonrail สองทางเลือกกับขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TCX ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที

และเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGS Turbo ใหม่ล่าสุดแบบ Zero GAP ลดช่องว่างระหว่างใบพัดกับเสื้อเทอร์โบ เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ REV Tronic มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ

ในรุ่นปรับโฉม Blue Power จึงโละเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตรออก แล้วแทนที่ไปด้วยเครื่องยนต์ใหม่! 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Commonrail DI VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Isuzu MU-X เพื่อสายลุย!

ดูรายละเอียด Isuzu MU-X มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

9. Mitsubishi Pajero Sport (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต)

Mitsubishi Pajero Sport มือสอง (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต มือสอง) เจเนอเรชั่นที่ 2 นับตั้งแต่ปี 2015 – ปัจจุบัน ก็จัดว่าเป็นรถขายดีของทาง Carro ที่ภูมิใจเสนอ และอยากให้คุณได้เป็นเจ้าของกันครับ

สำหรับรถรุ่นนี้ เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 มีความล้ำสมัยที่สุดและครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ยกระดับงานดีไซน์ล่าสุด “Dynamic Shield” ตัวถังใหญ่ แข็งแกร่ง และบึกบึน งานออกแบบยังสะท้อนแนวคิด “รูปลักษณ์ที่สอดคล้องกับการใช้งาน” ผสมผสานการปกป้อง สมรรถนะการขับขี่

ภายในห้องโดยสารหรูหราและอเนกประสงค์ยิ่งขึ้น และมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างขวางที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง มาพร้อมคอนโซลกลางเสริมด้วยวัสดุนุ่มบริเวณด้านข้าง รวมถึงหน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว และระบบ Navigator  มาตรวัดแบบ High Contrast พร้อมการแสดงผลแบบอนิเมชั่น 3 มิติ และระบบฟอกอากาศ เทคโนโลยีนาโนอิ ยังรวมถึงช่องชาร์จไฟฟ้า 220V AC ช่องเก็บสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เบรกมือไฟฟ้า ช่องระบบปรับอากาศดีไซน์ใหม่สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ตลอดจนระบบกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ท

ยังรวมถึงระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ Dual Zone แยกปรับซ้าย-ขวา พวงมาลัยแบบปรับขึ้นลงและเข้าออกได้ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง หน้าจอบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติและระบบปรับอากาศด้านหลัง พร้อมระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยอัจฉริยะ (ETACS)

มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC บล็อกอลูมิเนียม ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Sport Mode และระบบ INC (Idle Neutral Control) + G-Sensor และระบบขับเคลื่อน Super Select 4WD-II

อ่านเพิ่มเติม >> Carro แนะนำ Mitsubishi Pajero Sport ขับแล้วอุ่นใจ พร้อมลุยน้ำท่วมหน้าฝน!

ดูรายละเอียด Mitsubishi Pajero Sport มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

10. Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์)

Mitsubishi Xpander มือสอง (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มือสอง) รถ Crossover MPV ที่เปิดตัวในไทยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2561 โดยเป็นการนำเข้าจากอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของรถยนต์แบบ MPV ที่สร้างยอดขายให้กับมิตซูบิชิอย่างมาก อีกทั้งยังมีรุ่นแบบลุยๆ อย่าง Xpander Cross ตามมาขายในไทยให้ผู้บริโภคเลือกในภายหลังด้วย

มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ดีไซน์ตัวรถด้วยหลัก Dynamic Shield พร้อมความสะดวกสบาย รวมถึงสไตล์และฟังก์ชั่นการใช้งาน หลอมรวมกันเป็นรถ Crossover MPV ซึ่งครบครันทั้งความสบายในการขับขี่ที่มาพร้อมสมรรถนะ และดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว และขับเคลื่อนล้อหน้า

พื้นที่ที่กว้างขวางด้วยห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่สุดในคู่แข่งระดับเดียวกัน ผู้โดยสารแถวที่ 3 สามารถเดินภายในได้อย่างสะดวกสบาย ขณะที่เบาะนั่งแถวที่สองสามารถพับเบาะกลางลงเพื่อใช้เป็นที่วางแขนได้ มีช่องวางแก้วน้ำให้ถึง 16 จุดรอบคัน มีระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 4A91 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมปุ่ม Overdrive รองรับแก๊สโซฮอล์ E85

อ่านเพิ่มเติม >> Mitsubishi เปิดตัว Mitsubishi Xpander 2018

ดูรายละเอียด Mitsubishi Xpander มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

11. Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติก้า)

Suzuki Ertiga มือสอง (ซูซูกิ เออร์ติก้า มือสอง) เปิดตัวในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ชูจุดเด่นการเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและความปลอดภัย

รูปโฉมภายนอก Suzuki Ertiga เป็นรถ 7 ที่นั่ง มีเส้นสายโฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารภายในดูเรียบหรู ใช้วัสดุคุณภาพสูง พื้นที่ภายในขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง กว้างขวาง โปร่งสบาย อัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย

มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile ทนทานด้วยโครงสร้างตัวถัง TECT ออกแบบจากเหล็กกล้าทำให้ทนทานต่อการสึกหรอ ระบบ NVH ให้การขับขี่นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน พร้อมลดเสียงรบกวนตลอดเส้นทาง

มั่นใจในระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS / EBD และระบบ ESP ที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และมีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ISOFIX และ Top tether สำหรับเด็กอีกด้วย

ใช้เครื่องยนต์ใหม่ K15B 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น GL AT และรุ่น GX AT

อ่านเพิ่มเติม >> รู้ลึกทุกจุดเด่น! + ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์ Suzuki Ertiga 2019

ดูรายละเอียด Suzuki Ertiga มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro แนะนำรถ SUV และ MPV แบบ 7 ที่นั่ง ที่ขายดี!

12. Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์)

Ford Everest มือสอง (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มือสอง) จัดเป็นรถมือสองแบรนด์อเมริกัน ที่ขายดีในไทยมานาน ซึ่งเจ้า Ford Everest รุ่นนี้ได้เปิดตัวในไทยนับตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2558

เป็นผลงานการสร้างสรรค์ขึ้น ทั้งในด้านความทนทานและความอเนกประสงค์ ตัวรถแบบ 7 ที่นั่ง ถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ติดตั้งเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อความปลอดภัย การเชื่อมต่ออย่างเหนือชั้นและความสะดวกสบาย

ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน (ในเวลานั้น) ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบ Terrain Management System หลังคาพาโนรามิคมูนรูฟแบบปรับไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่ 3 แบบปรับไฟฟ้าพับเรียบและประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist และระบบตรวจจับรถในจุดบอด พร้อมด้วยระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด

ยังติดตั้งระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 2 ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถรุ่นล่าสุดของฟอร์ด พร้อมด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และคำสั่งแบบแยกสี ช่วยให้การเลือกใช้งานเมนูต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น

มาพร้อมขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค TDCi ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ให้แรงม้าสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 385 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,500 รอบ/นาที มีให้เลือกเฉพาะขับเคลื่อนสองล้อเท่านั้น

และเครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค TDCi ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ ให้แรงม้าสงสุด 200 แรงม้า ที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที พ่วงระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติพร้อมระบบ Terrain Management และทั้งสองรุ่นติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด

ส่วนในรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2561 ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ใหม่ แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุดถึง 180 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที

และในรุ่น Bi-Turbo แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Bi-Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุดถึง 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที ทั้งสองรุ่นติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา SelectShift เพื่อการขับขี่ที่คล่องตัวและนุ่มนวลยิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติม >> Ford เปิดตัว Everest 2018 ในราคา 1,299,000 – 1,799,000 บาท

ดูรายละเอียด Ford Everest มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

Carro แนะนำ Isuzu MU-X เพื่อสายลุย!

ในสังเวียนของรถยนต์แบบ SUV ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับรถกระบะ หรือมีแชสซีส์เป็นพื้นฐานที่บ้านเรามักเรียกว่า รถ PPV (หรือ Pick-Up Passenger Vehicle = รถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ) นับได้ว่าเป็นสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือด มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะในตลาดรถใหม่ หรือในตลาดรถมือสองก็ตาม

สำหรับรถยนต์ประเภทนี้ ถือได้ว่ามีบทบาทสำหรับคนใช้รถในไทยมานาน ทั้งตอบโจทย์ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน การบรรทุกสัมภาระ ยิ่งคนมีครอบครัวใหญ่ มีลูกหลานหลายคน ใช้รถเดินทางไปเที่ยวหรือไปเยี่ยมญาติได้ลงตัว โดยรถรุ่นใหม่ๆ ต่างออกแบบมาใช้ขับง่าย ใช้งานง่าย ออฟชั่นเพียบ และเพิ่มความหรูหรามากกว่าในอดีตเป็นเท่าตัว

และในวันนี้ Carro จะขอพาทุกท่านมารู้จักกับ รถอเนกประสงค์ยอดฮิตในไทยอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นรถที่ทนทาน ซื้อง่ายขายคล่อง ราคาตกน้อย และการดูแลรักษา อะไหล่หาง่าย นั่นก็คือ Isuzu MU-X มือสอง (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ มือสอง) เป็นรุ่นที่สานต่อความสำเร็จมาจาก Isuzu MU-7 นั่นเองครับ

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

สำหรับ Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์) หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ที่มาของชื่อ “MU-X” นั้น มาจากคำว่า “MU” (มิว) ซึ่งเคยเป็นชื่อที่ใช้ในรถ Isuzu เมื่อครั้งตั้งแต่ในยุค 90 โดยย่อมาจากคำว่า Mysterious Utility หมายถึง ความอเนกประสงค์ที่คาดไม่ถึง ส่วน “X” เป็นตัวอักษรที่อีซูซุเลือกใช้ในการสื่อความหมายของการมีชีวิตเหนือระดับที่ไร้ขีดจำกัด เช่น Exemplary, Extraordinary, Exotic ฯลฯ เพื่อให้เป็นยนตรกรรมสำหรับกลุ่มผู้ใช้รถรุ่นใหม่ ที่พร้อมจะค้นหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับตัวเอง

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

Isuzu MU-X เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 มาพร้อมสโลแกน “เอกสิทธิ์แห่งผู้นำ” (PRIVILEGE of the LEADER) พร้อมให้ความคล่องตัวสูงสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ ด้วยความยาวตัวรถ 4.825 เมตร และวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.7 เมตร หรือเทียบเท่ารถยนต์นั่งขนาดกลาง

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

โดดเด่นด้วยรูปทรงลู่ลม ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Cd) เพียง 0.40 ดีสุดในรถระดับเดียวกัน โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Projector กระจังหน้าแบบ 3-Dimension ไฟท้ายแบบ ARC-Dimension ด้านหลังติดตั้งกล้องแบบ Built-In เสาอากาศ Dual Function แบบครีบ รับได้ทั้งสัญญาณวิทยุและระบบนำทาง ราวหลังคาออกแบบใหม่ ปรับตำแหน่งยึดรูฟแร็คได้อิสระ ส่วนล้อแม็กมีขนาด 17 นิ้ว

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

สำหรับการออกแบบภายในหรูหราสไตล์ยุโรป ด้วยแนวคิด “Premium & Exclusive” เบาะนั่งกึ่งหนังแท้สี Ivory เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดครบทั้ง 7 ที่นั่ง แผงหน้าปัดตกแต่งด้วยลายไม้แบบ Nature Touch มาตรวัดเป็นไฟเรืองแสงสีขาวพร้อมตัวเลขสีขาว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบอินโฟเทนเมนท์ Isuzu Media Solutions พร้อมระบบนำทาง i-Genii ทำงานผ่านจอทัชสกรีน 7 นิ้ว เสริมด้วยมอนิเตอร์บนเพดาน Built-In ขนาด 10.5 นิ้ว ระบบเสียง Surround Sound ลำโพง 8 ทิศทาง

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ให้ความเย็นทุกที่นั่งผ่านช่องแอร์ทั้ง 3 ตอน พร้อมปุ่มควบคุมแยกตอนหน้า-หลัง ระบบปรับ/พับเบาะแบบ One Action ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในได้หลากหลาย พร้อมกุญแจอัจฉริยะ Genius Entry ควบคุมการเปิด-ปิด และล็อกประตูได้ทุกบาน รวมถึงการสตาร์ทรถ พร้อมสวิตช์เปิด-ปิด ที่ประตูท้าย

ด้านขุมพลัง แรงเร้าใจกับเครื่องยนต์ Isuzu Ddi Super Commonrail สองทางเลือกกับขนาด 3.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที

และเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGS Turbo ใหม่ล่าสุดแบบ Zero GAP ลดช่องว่างระหว่างใบพัดกับเสื้อเทอร์โบ เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ REV Tronic มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ

มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.5 2WD CD, 2.5 2WD DVD, 3.0 2WD DVD NAVI และ 3.0 4WD DVD NAVI

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

ต่อมาในวันที่ 30 ตุลาคม 2557 Isuzu จัดงานฉลองครบครบ 1 ปี Isuzu MU-X อย่างยิ่งใหญ่ กับยอดขายมากถึง 20,000 คัน พร้อมเสนอทางเลือกใหม่ อีซูซุมิว-เอ็กซ์” รุ่น 2.5 Ddi VGS Turbo DVD Navi ทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์ออโตเมติก รวมทั้งได้เพิ่มปุ่ม Push Start ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่นอีกด้วย

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

ต่อมา … ในเดือนมีนาคม 2559 Isuzu ก็ได้ส่ง “Isuzu MU-X 1.9 Ddi Blue Power” (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์) ใหม่ สู่ตลาดไทยครั้งแรกในโลก ในเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ ถูกออกแบบภายใต้นิยาม “Signature of Privilege เอกลักษณ์แห่งเอกสิทธิ์” ปรับโฉมใหม่ ด้วยกระจังหน้าแบบ 3 มิติ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Super Daylight และไฟท้ายแบบพิเศษ Arc-Dimension พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ Dynamic Black

ภายในหรูหราเฉียบคมสไตล์ Modern Art Deco ด้วยโทนสีเข้มและตกแต่งด้วยวัสดุแบบ Hi-Gloss Black กับแถบโครเมียม มีกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ พร้อม Built-in Safety Camera สามารถบันทึกวิดีโอขณะขับขี่ ส่วนระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มีเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power เท่านั้น

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

เดือนกุมภาพันธ์ 2560 ครบรอบ 60 ปี Isuzu ในไทย เจ้า Isuzu MU-X ก็ถูกปรับโฉมใหม่ ด้วยกระจังหน้า Sport 3D ชุดไฟหน้า Bi-LED ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ มีไฟ Daylight ปรับกันชนหน้า-หลังใหม่ ไฟท้าย LED ใหม่แบบ Sharp Horizon ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว Cross Star และเสริมสปอยเลอร์หลังคา

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

ห้องโดยสารใช้สีทูโทน Sandstone Beige ตัดด้วยสีดำ มาตรวัดใหม่ เบาะกึ่งหนังแท้ เพิ่มผิวสัมผัสแบบ Soft Touch ที่คอนโซลหน้า แผงประตู และที่พักแขน เพิ่มการตกแต่งคอนโซลหน้า หัวเกียร์ และแผงข้างประตูด้วยลายไม้ Fine Walnut คอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ Piano Black สะดวกด้วยชุดระบบ Infotainment พร้อม iConnect ผ่านจอขนาด 8 นิ้ว โดยมีระบบ Air Mirroring รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมช่อง USB

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.9 ลิตร 150 แรงม้า หรือขนาด 3.0 ลิตร Ddi Blue Power 177 แรงม้า ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือ ชุดเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ หรือ 2 ล้อ

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

เดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพิ่มรุ่นแต่งพิเศษ Isuzu MU-X The Iconic (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ดิ ไอคอนนิค) งดงามทุกรายละเอียด มาพร้อมกับไฟหน้า Bi-LED พร้อมไฟ Daylight ในโคมและเส้นนำแสง LED Guiding Light, สปอยเลอร์หลังคาด้านหลัง และล้ออัลลอย 18 นิ้ว Iconic Cross มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 Ddi Blue Power เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

อ่านเพิ่มเติม >> Isuzu เปิดตัวรุ่นพิเศษ! “Isuzu MU-X The Iconic” จัดเต็มชุดแต่งสปอร์ตเท่รอบคัน

ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ ใช้เบาะกึ่งหนังแท้ Lava Black ติดตั้งเครื่องเล่น DVD, Digital TV Tuner, จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว มี iConnect พร้อม Built-in Navigator, ตกแต่งภายในด้วยลายไม้ Fine Walnut, ชุดตกแต่ง Piano Black และโครเมียม, พอร์ทสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า AC220 โวลต์ และ USB ที่คอนโซลกลาง และกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมกล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถ (DVR)

CARRO Automall แนะนำ Isuzu MU-X

เดือนกุมภาพันธ์ 2562 เปิดตัว MU-X รุ่นพิเศษ Isuzu MU-X The Onyx (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ดิ ออนิกซ์) ปรับโฉมใหม่ จุดประกายความรู้สึกใหม่ในตัวคุณ (New Sensation Ignited) ด้วยชุดแต่งแบบ Onyx Design Edition มีชุดกันชนหน้า/หลังใหม่ สเกิร์ทใหม่ กระจังหน้าใหม่แบบ Sport 3D โป่งล้อสีดำด้าน ไฟท้าย LED โคมรมดำ ล้ออัลลอยลายใหม่ Flash Black Design ขนาด 18 นิ้ว และ Roof Rail แบบสปอร์ตเฉพาะรุ่น ออกแบบให้เข้ากับตัวรถ ส่วนห้องโดยสารเพิ่มเบาะกึ่งหนังแท้สีดำ และมีไฟ Ambient Light สำหรับช่วยบรรยากาศในขณะขับ

Isuzu MU-X The Onyx มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร หรือ 3.0 ลิตร Ddi Blue Power ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ตัวรถได้รับการเพิ่มความปลอดภัยด้วยการติดตั้งระบบ BOS (Brake Override System) ช่วยลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อเป็นการช่วยเบรก และ Airbag เพิ่มเป็น 6 ใบ และมีระบบ Infotainment พร้อม Built-in Navigator และ Digital TV Tuner

และสำหรับ Carro ในเดือนกรกฎาคม 2565 เรามี Isuzu MU-X รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 8 คันครับ ได้แก่ …..

ISUZU MU-X 3.0 (DVD Navi) 2017 น้ำตาล

ISUZU MU-X 3.0 (DVD Navi) 2017 น้ำตาล

1. Isuzu MU-X 3.0 DVD Navi ปี 2017 เลขไมล์ 75,686 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 799,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-E47K0Z.html

ISUZU MU-X 1.9 DVD 2017 เทา

ISUZU MU-X 1.9 DVD 2017 เทา

2. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2017 เลขไมล์ 138,819 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 749,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-E47K31.html

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2016 เทา

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2016 เทา

3. Isuzu MU-X 3.0 DA DVD ปี 2016 เลขไมล์ 127,294 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 749,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-ENMKYN.html

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 ดำ

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 ดำ

4. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2016 เลขไมล์ 141,968 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 739,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-DON052.html

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 เทา

ISUZU MU-X 1.9 (DVD) 2016 เทา

5. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2016 เลขไมล์ 110,762 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 739,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-EW8VK2.html

ISUZU MU-X 1.9 (DVD Navi) 2017 ขาว

ISUZU MU-X 1.9 (DVD Navi) 2017 ขาว

6. Isuzu MU-X 1.9 DVD Navi ปี 2017 เลขไมล์ 81,829 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 819,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-GY7NPZ.html

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2017 เทา

ISUZU MU-X 1.9 DA DVD 2017 เทา

7. Isuzu MU-X 1.9 DA DVD ปี 2017 เลขไมล์ 146,086 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 749,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2017-E17MMV.html

ISUZU MU-X 3.0 DVD NAVI 2016 เทา

ISUZU MU-X 3.0 DVD NAVI 2016 เทา

8. Isuzu MU-X 1.9 DVD ปี 2016 เลขไมล์ 133,409 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 729,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/isuzu-mu-x-2016-EKJ8YQ.html

Carro Automall ตลาดรถ

ถ้าใครที่กำลังมองหา Isuzu MU-X มือสอง (อีซูซุ มิวเอ็กซ์ มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

Mitsubishi Pajero Mini เตรียมขายในแบบรถไฟฟ้า ปี 2024 นี้!
หากย้อนเวลากลับไปในช่วงยุค 90 บรรดารถ SUV น่าจะเรียกได้ว่าเป็นยุคขาขึ้นเลยทีเดียว เพราะรถ SUV ที่มีในตลาดญี่ปุ่นเดิม เริ่มแตกยอดออกไปเพื่อลูกค้าหลายๆ กลุ่มมากขึ้น ซึ่งในกลุ่มตลาดรถขนาดจิ๋ว Kei Car (หรือ K-Car) ก็มีผู้ผลิตรถรถแบบ SUV แนวออฟโรด เจ้าหลักๆ อย่าง Suzuki Jimny ที่ขายดิบขายดี จนทำให้หลายเจ้า ต้องลงมาเล่นในกลุ่มตลาดนี้กันมากขึ้น

Mitsubishi Pajero Mini เตรียมขายในแบบรถไฟฟ้า ปี 2024 นี้!

Mitsubishi Pajero Mini รุ่นแรก (ที่ในไทยก็มี)

สำหรับ Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เองก็ต้องงัดเอาชื่อ SUV Icon อันแข็งแกร่งของแบรนด์อย่าง Mitsubishi Pajero (มิตซูบิชิ ปาเจโร่) ลงมาเล่นในตลาดรถ Kei Car ด้วยในชื่อ “Mitsubishi Pajero Mini (มิตซูบิชิ ปาเจโร่ มินิ)” ที่ใช้พื้นฐานร่วมกันกับรุ่น Minica ซึ่งก็ขายดิบขายดีกันมาตั้งแต่ปี 1994 จนเลิกผลิตไปในปี 2013

ล่าสุด Mitsubishi มีแพลนที่จะฟื้นคืนชีพตลาดรถยนต์ในกลุ่มนี้อีกครั้ง เพื่อกลับมาเป็นคู่แข่งขันกันกับ Suzuki Jimny ที่ในขณะนี้สื่อสายรถยนต์ของญี่ปุ่นก็กำลังติดตามความเคลื่อนไหวกันอยู่ โดยการกลับมาของ Mitsubishi Pajero Mini ในครั้งนี้ จะเป็นในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า ที่เตรียมเปิดตัวในปี 2024 นี้

Mitsubishi Pajero Mini เตรียมขายในแบบรถไฟฟ้า ปี 2024 นี้!

สำหรับ Mitsubishi Pajero Sport จะพัฒนาตัวรถร่วมกับกับทาง NMKV ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ Nissan และจะผลิตขึ้นที่โรงงานของ Mitsubishi เช่นเดียวกับรถในรุ่น Nissan Dayz และ Mitsubishi eK

ซึ่งถ้าทาง Carro มีข่าวคราวอะไรเพิ่มเติม จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันต่อในครั้งหน้าครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาจาก:

ราคารถใหม่ Honda ปี 2022 ทุกรุ่น

รวมราคารถใหม่ Honda (ฮอนด้า) Update 15/6/2022

CARRO นำเสนอราคารถใหม่ 2022 Honda (ฮอนด้า) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน เช็คราคารถ Honda ป้ายแดงได้ที่นี่

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @carrothai เช่นกัน หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

All-New City 2020

  • S ราคา 579,500 บาท
  • V ราคา 609,000 บาท
  • SV ราคา 665,000 บาท
  • RS ราคา 739,000 บาท

*หมายเหตุ : สำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท

10 รถ Eco-Car น่าซื้อ! สำหรับวัยรุ่น เด็กจบใหม่ ราคาไม่ถึง 6 แสน ในงาน Motor Show 2022

All-New City Hatchback 2021

  • S+ ราคา 599,000 บาท
  • SV ราคา 675,000 บาท
  • RS ราคา 749,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท

New-Honda-City-Hybrid-2021

New City e:HEV 2021

  • e:HEV RS ราคา 839,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท, สีดำคริสตัล (มุก) และสีเทาโซนิค (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท

Honda เปิดตัว Honda City Hatchback e:HEV ครั้งแรกในโลก

New City Hatchback e:HEV 2021

  • e:HEV RS ราคา 849,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท, สีดำคริสตัล (มุก) และสีเทาโซนิค (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท

Honda-Jazz

Jazz

  • S MT ราคา 555,000 บาท
  • S CVT ราคา 594,000 บาท
  • V CVT ราคา 654,000 บาท
  • V+ CVT ราคา 694,000 บาท
  • RS CVT ราคา 739,000 บาท
  • RS+ CVT ราคา 754,000 บาท

*หมายเหตุ : สำหรับสีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท, สีส้มฟินิกซ์ (มุก), สีดำคริสตัล (มุก) และสีเทาโซนิค (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท

Honda เปิดตัว All-New Honda Civic 2022 ใหม่

All-New Civic 2022

  • EL ราคา 964,900 บาท
  • EL+ ราคา 1,009,900 บาท
  • RS ราคา 1,199,900 บาท

*หมายเหตุ : สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท, สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท

New Honda Civic e:HEV 2022

All-New Civic e:HEV 2022

  • EL+ ราคา 1,129,000 บาท
  • RS ราคา 1,259,000 บาท

*หมายเหตุ : สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท, สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท

Honda-Civic-Hatchback

Civic Hatchback

  • 1.5 VTEC Turbo ราคา 1,229,000 บาท

*หมายเหตุ : สีเทาโซนิค (มุก), สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท และ สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท

Honda-Accord-2019

Accord

  • Turbo EL ราคา 1,475,000 บาท

*หมายเหตุ : สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่มเงิน 8,000 บาท / สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่มเงิน 12,000 บาท

Honda-Accord-2019

Accord Hybrid

  • Hybird ราคา 1,639,000 บาท
  • Hybrid Tech ราคา 1,799,000 บาท

*หมายเหตุ : สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่มเงิน 8,000 บาท / สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่มเงิน 12,000 บาท

Honda เปิดตัว New Honda Accord ใหม่ ในราคา 1,499,000 - 1,799,000 บาท

New Accord 2022

  • EL ราคา 1,499,000 บาท
  • e:HEV EL+ ราคา 1,639,000 บาท
  • e:HEV TECH ราคา 1,799,000 บาท

*หมายเหตุ : สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่มเงิน 8,000 บาท / สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่มเงิน 12,000 บาท

Honda-Mobilio

Mobilio

  • S ราคา 659,000 บาท
  • V ราคา 699,000 บาท
  • RS ราคา 765,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่มเงิน 10,000 บาท, สีส้มฟินิกซ์ (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่มเงิน 6,000 บาท

Honda-BR-V-2019

BR-V

  • V ราคา 765,000 บาท
  • SV ราคา 835,000 บาท

*หมายเหตุ :

  1. สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่มเงิน 10,000 บาท
  2. สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่มเงิน 6,000 บาท
  3. สีแดงแพสชั่น (มุก) เพิ่มเงิน 6,000 บาท
  4. สีขาวทาฟเฟต้า มีจำหน่ายเฉพาะรุ่น V เท่านั้น

Honda-HR-V-2019

HR-V

  • E ราคา 949,000 บาท
  • EL ราคา 1,059,000 บาท
  • RS ราคา 1,119,000 บาท

*หมายเหตุ : สีแดงแพสชั่น (มุก) (เฉพาะรุ่น RS) , สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท และ สีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท

All-New Honda HR-V e:HEV 2022

All-New HR-V 2022

  • รุ่น e:HEV E ราคาประมาณการต่ำกว่า 990,000 บาท
  • รุ่น e:HEV EL ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,100,000 บาท
  • รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการต่ำกว่า 1,200,000 บาท

Honda-CR-V-2019

CR-V

  • 2.4 S (5 ที่นั่ง) ราคา 1,359,000 บาท
  • 2.4 ES 4WD (5 ที่นั่ง) ราคา 1,499,000 บาท
  • 2.4 E (7 ที่นั่ง) ราคา 1,409,000 บาท
  • 2.4 EL 4WD (7 ที่นั่ง) ราคา 1,549,000 บาท
  • DT-E (7 ที่นั่ง) ราคา 1,559,000 บาท
  • DT-EL 4WD (7 ที่นั่ง) ราคา 1,699,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่มเงิน 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่มเงิน 8,000 บาท

New-Honda-CR-V-2020

New CR-V 2020

  • 2.4 S 5 ที่นั่ง ราคา 1,369,000 บาท
  • 2.4 ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,529,000 บาท
  • 2.4 E 7 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
  • 2.4 EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,579,000 บาท
  • 2.4 Black Edition ราคา 1,467,000 บาท
  • ดีเซล DT-EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,759,000 บาท

*หมายเหตุ : สีน้ำเงินคอสมิก (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น DT-EL 4WD, 2.4 EL 4WD และ 2.4 ES 4WD, สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท

**ราคารุ่นย่อย Black Edition เป็นราคารวมค่าสีภายนอกเพิ่มเติม สำหรับสีดำคริสตัล (มุก) แล้ว

ดูโปรโมชั่น Honda ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/honda-new-car-promotion/

ราคารถใหม่ Nissan ปี 2022 ทุกรุ่น

รวมราคารถใหม่ Nissan (นิสสัน) Update 8/8/2022

Carro นำเสนอราคารถใหม่ 2022 Nissan (นิสสัน) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน เช็คราคารถ Nissan ป้ายแดงได้ที่นี่

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @carrothai เช่นกัน หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

Nissan March / นิสสัน มาร์ช

March

  • 1.2 S MT ราคา 420,000 บาท
  • 1.2 E MT ราคา 480,000 บาท
  • 1.2 S CVT ราคา 495,000 บาท
  • 1.2 EL CVT ราคา 510,000 บาท

*หมายเหตุ : สำหรับสีขาวมุก เพิ่ม 7,000 บาท

Nissan Almera / นิสสัน อัลเมร่า

All-New Almera 2020

  • รุ่น S ราคา 499,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น V Sportech ราคา 629,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 639,000 บาท
  • รุ่น VL Sportech ราคา 659,000 บาท
  • รุ่น N Sport ราคา 650,000 บาท

New Almera 2022

  • รุ่น E ราคา 509,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 619,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 649,000 บาท
  • รุ่น Sportech ราคา 699,000 บาท
  • รุ่น Sportech-X ราคา 695,000 บาท

CARRO Automall แนะนำ Nissan Note รถ Eco-Car สุดคุ้มอีกรุ่น พร้อมสู้น้ำมันแพง!

Note 2020

  • 1.2 E CVT ราคา 530,000 บาท
  • 1.2 V CVT ราคา 565,000 บาท
  • 1.2 VL CVT ราคา 595,000 บาท

*หมายเหตุ : สำหรับสีขาวมุก เพิ่ม 7,000 บาท

ซื้อมั้ย! 15 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเด่น ในงาน Motor Show 2022

Leaf

  • Leaf ราคาพิเศษ 1,499,000 บาท

New Nissan GT-R T-Spec 2022

GT-R

  • GT-R Premium Luxury ราคา 10,700,000 บาท
  • GT-R T-Spec ราคา 12,200,000 บาท

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

All-New Kicks e-POWER 2020

  • รุ่น S ราคา 889,000 บาท
  • รุ่น E ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 999,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 1,049,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาว Storm White (เพิ่มเงิน 10,000 บาท), สีส้ม Monarch Orange (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)

สีทูโทน หลังคาสีดำ (เฉพาะรุ่น VL) อีก 4 สี

  • สีขาว Storm White – ดำ (เพิ่มเงิน 15,000 บาท)
  • สีส้ม Monarch Orange – ดำ (เพิ่มเงิน 15,000 บาท)
  • สีแดง Radiant Red – ดำ (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)
  • สีเทา Gun Metallic – ดำ (เพิ่มเงิน 10,000 บาท)

New Nissan Kicks e-POWER 2022

New Kicks e-POWER 2022

  • รุ่น E ราคา 759,000 บาท
  • รุ่น V ราคา 829,000 บาท
  • รุ่น VL ราคา 899,000 บาท
  • รุ่น Autech ราคา 949,000 บาท

Nissan เปิดตัว Nissan Terra 2021 ไมเนอร์เชนจ์

New Terra 2021

  • 2.3 E 2WD 7AT ราคา 1,199,000 บาท
  • 2.3 VL 2WD 7AT ราคา 1,449,000 บาท
  • 2.3 VL 4WD 7AT ราคา 1,499,000 บาท

*หมายเหตุ : สีขาวมุก เพิ่มเงิน 12,000 บาท

Nissan-Navara-Pro-4X-2021

Nissan-Navara-Single-Cab-2021

Navara 2021

Single Cab

  • Chassis Cab 6MT ราคา 519,000 บาท
  • S 6MT 6MT ราคา 559,000 บาท
  • SL 6MT ราคา 575,000 บาท
  • SL 6MT 4WD ราคา 649,000 บาท

King Cab

  • S 6MT ราคา 599,000 บาท
  • SL 6MT ราคา 609,000 บาท
  • E 6MT ราคา 689,000 บาท
  • Calibre E 6MT ราคา 765,000 บาท
  • Calibre E 7AT ราคา 815,000 บาท
  • Calibre V 6MT ราคา 809,000 บาท
  • Calibre V 7AT ราคา 859,000 บาท

Double Cab

  • Calibre E 6MT ราคา 849,000 บาท
  • Calibre E 7AT ราคา 899,000 บาท
  • Calibre V 6MT ราคา 915,000 บาท
  • Calibre V 7AT ราคา 965,000 บาท
  • 4WD VL 7AT ราคา 1,129,000 บาท

PRO-2X และ New PRO-2X

  • PRO-2X 2WD 7AT 999,000 บาท
  • PRO-4X 4WD 7AT 1,149,000 บาท

New Nissan Navara 2022

Navara 2022

Single Cab

  • SL 6MT ราคา 595,000 บาท
  • SL 6MT 4WD ราคา 659,000 บาท

King Cab

  • SL 6MT ราคา 649,000 บาท
  • E 6MT ราคา 689,000 บาท
  • Calibre E 6MT ราคา 765,000 บาท
  • Calibre E 7AT ราคา 815,000 บาท
  • Calibre E 6MT Black Edition ราคา 799,000 บาท
  • Calibre E 7AT Black Edition ราคา 849,000 บาท
  • Calibre V 7AT ราคา 889,000 บาท

Double Cab

  • Calibre E 6MT ราคา 849,000 บาท
  • Calibre E 7AT ราคา 899,000 บาท
  • Calibre E 6MT Black Edition ราคา 884,000 บาท
  • Calibre E 7AT Black Edition ราคา 934,000 บาท

PRO-2X และ New PRO-2X

  • PRO-2X 2WD 7AT ราคา 1,030,000 บาท
  • PRO-4X 4WD 7AT ราคา 1,160,000 บาท

Nissan-Urvan

Urvan

  • Diesel MT ราคา 1,216,500 บาท

ดูโปรโมชั่น Nissan ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/nissan-new-car-promotion/

ราคารถใหม่ Ford ปี 2022 ทุกรุ่น

รวมราคารถใหม่ Ford (ฟอร์ด) ทุกรุ่น Update 25/5/2022

CARRO นำเสนอราคารถใหม่ 2022 ราคารถยนต์ Ford (ฟอร์ด) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน เช็คราคาได้ที่นี่

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @carrothai เช่นกัน หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

Ford-Ranger-2021

Ranger

Standard Cab

  • Standard Chassis Cab 2.2L XL 6MT ราคา 531,000 บาท
  • Standard Cab 2.2L XL 6MT ราคา 562,000 บาท
  • Standard Cab 2.2L XL 4WD 6MT ราคา 652,000 บาท

Open Cab

  • Open Cab 2.2L XL ราคา 632,000 บาท
  • Open Cab 2.2L XL Street 6MT ราคา 672,000 บาท
  • Open Cab 2.2L XL+ Sport Hi-Rider 6MT ราคา 692,000 บาท
  • Open Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6MT ราคา 757,000 บาท
  • Open Cab 2.2L XLT 4X4 6AT ราคา 797,000 บาท
  • Open Cab 2.2L XLT 4X4 6MT ราคา 807,000 บาท

Double Cab

  • Double Cab 2.2L XL 6MT ราคา 692,000 บาท
  • Double Cab 2.2L XL+ Hi-Rider 6MT ราคา 752,000 บาท
  • Double Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6MT ราคา 857,000 บาท
  • Double Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6AT ราคา 902,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Limited 4X4 10AT ราคา 1,042,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT ราคา 1,032,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak (Roller) Hi-Rider 10AT ราคา 1,062,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo FX4 MAX 10AT ราคา 1,189,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 6MT ราคา 982,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4X4 10AT ราคา 1,268,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak (Roller) 4X4 10AT ราคา 1,298,000 บาท

All-New Ford Ranger 2022

All-New Ranger 2022

Standard Cab

  • Standard Chassis Cab 2.0L XL Turbo LR 5MT ราคา 554,000 บาท
  • Standard Cab 2.0L XL Turbo LR 5MT ราคา 589,000 บาท
  • Standard Cab 2.0L XL Turbo 4X4 6MT ราคา 697,000 บาท

Open Cab

  • Open Cab 2.0L XL Turbo 5MT ราคา 635,000 บาท
  • Open Cab 2.0L XL+ Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 699,000 บาท
  • Open Cab 2.0L XLT Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 799,000 บาท
  • Open Cab 2.0L XLT Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 844,000 บาท
  • Open Cab 2.0L XLT Turbo 4X4 6MT ราคา 859,000 บาท

Double Cab

  • Double Cab 2.0L XL 6MT ราคา 732,000 บาท
  • Double Cab 2.0L XL+ Hi-Rider 6MT ราคา 792,000 บาท
  • Double Cab 2.0L XLT Hi-Rider 6MT ราคา 889,000 บาท
  • Double Cab 2.0L XLT Hi-Rider 6AT ราคา 934,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Sport Hi-Rider 6MT ราคา 929,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Sport Hi-Rider 6AT ราคา 964,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Sport 4X4 6AT ราคา 1,049,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 6MT ราคา 999,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 6AT ราคา 1,049,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT ราคา 1,159,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4X4 10AT ราคา 1,299,000 บาท

เทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง Advanced Driver Assist Technology : Ford Ranger

Package A เพิ่มเงิน 30,000 บาท (รุ่น XLT MT เพิ่มเงิน 40,000 บาท)

  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า (Front Parking Sensors)
  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง (Rear Parking Sensors)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP *เฉพาะรุ่น XLT MT
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control *เฉพาะรุ่น XLT MT
  • ระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA *เฉพาะรุ่น XLT MT
  • ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM *เฉพาะรุ่น XLT MT
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High-Bram Headlamps)
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (Automatic Emergency Braking with Pedestrian Detection)
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning with Brake Support)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)

Package B เพิ่มเงิน 50,000 บาท (เฉพาะรุ่น Wildtrak 2.0L Turbo HR 6AT)

  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า Front Parking Sensors
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อม Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Adaptive Cruise Control with Stop-and-Go and Lane Centering)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High-Bram Headlamps)
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (Automatic Emergency Braking with Pedestrian Detection)
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning with Brake Support)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning)
  • ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System with Cross-Traffic Alert and Braking)
  • กล้องมองรอบคัน 360 องศา (360-Degree Camera)
  • ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง (Reverse Brake Assist)
  • ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steer Assist)

Ford-Ranger-Raptor-2020

Ranger Raptor

  • Raptor Double Cab 2.0L Bi-Turbo 4X4 10AT ราคา 1,699,000 บาท
  • Raptor Double Cab 2.0L Bi-Turbo X 4X4 10AT ราคา 1,729,000 บาท

All-New Ford Ranger Raptor 2022

All-New Ranger Raptor 2022

  • Raptor Double Cab 3.0L V6 Twin Turbo EcoBoost 4X4 10AT ราคา 1,869,000 บาท

หมายเหตุ:

  • สติ๊กเกอร์ตกแต่งเพิ่มเงิน 10,000 บาท
  • สีส้ม Code Orange และสีเทา Conquer Grey เพิ่มเงิน 10,000 บาท

Ford-Everest-2021

Everest

  • Trend 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,299,000 บาท
  • Titanium 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,399,000 บาท
  • Titanium (Sport) 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,429,000 บาท
  • Titanium+ 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,599,000 บาท
  • Titanium+ 2.0L Bi-Turbo 4WD ราคา 1,799,000 บาท

All-New Ford Everest 2022

Everest 2022

  • Sport 2.0L Turbo 2WD 6AT ราคา 1,464,000 บาท
  • Titanium+ 2.0L Bi-Turbo 4WD 10AT ราคา 1,854,000 บาท

Ford-Mustang

Mustang

  • 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack ราคา 3,699,000 บาท
  • 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack ราคา 4,899,000 บาท

ดูโปรโมชั่น Ford ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/ford-new-car-promotion/

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

ถ้าจะให้พูดถึง “รถ SUV” (Sport Utility Vehicle) แล้ว ในบ้านเราก็มีอยู่หลากหลายประเภท เริ่มต้นตั้งแต่แบบ Crossover ซึ่งมาจากคำว่า Crossover Utility Vehicle ซึ่งเป็นรถที่ประกอบเป็นชิ้นเดียวกันทั้งคัน ดูคล้ายกับรถเก๋งยกสูง รูปร่างหน้าตาสวย เน้นความอเนกประสงค์ ตัวรถไม่ใหญ่มากนัก เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก หรืออาจจะลุยได้บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่ากับแบบ SUV แท้ๆ

สำหรับรถ SUV นั้น ก็ยังมีแยกย่อยไปได้อีก 2 แบบหลักๆ ได้แก่ SUV แบบที่มีลักษณะเดียวกันกับรถแนว Crossover แต่มีขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่า โครงสร้างตัวรถเป็นแบบ Monocoque เชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกันตลอดคัน ให้ความนุ่มสบายกว่าเวลาขับ มีที่นั่งทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง

และรถ SUV ที่โครงสร้างตัวรถมีแชสซีส์เป็นฐานหลัก แบบเดียวกับรถกระบะ ที่บ้านเรามักเรียกกันว่า “รถ PPV” หรือ Pick-up Passenger Vehicle ช่วงล่างแบบรถกระบะ เด้ง สะเทือน แต่ผู้ผลิตรถก็พยายามปรับช่วงล่างให้นุ่มนวลขึ้น ด้วยการใช้คอยล์สปริง ตัวรถขนาดใหญ่ นั่งได้ 7-8 ที่นั่ง ใช้วิ่งในเมือง ลุยทางฝุ่น เข้าป่าฝ่าดงได้

คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงรถอเนกประสงค์ ที่ใช้งานได้หลากหลาย ขับไปทำงาน ไปพักผ่อนหย่อนใจกันได้ทั้งครอบครัว ฝนตกก็พอลุยน้ำท่วมได้ หรือเข้าทางลูกรังก็พอลุยได้ มีให้เลือกกันทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งยังแบ่งออกไปได้อีกเป็นแบบ Part-Time หรือแบบ Full-Time เป็นต้น

Carro ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ SUV และ Crossover ราคาถูกสุดในไทย ประจำปี 2022 มาให้ทุกท่านได้เลือก และเช็คราคากันครับ.

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

1. MG ZS 1.5 C ราคา 689,000 บาท

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) เป็นรถที่พวกลื้ออาจจะถามว่า กี่ล้านนนนน แต่ตอนพวกลื้อจะขาย ก็อาจจะถามว่า เหลือกี่แสนนนนน …..

โดย MG ZS จัดเป็นรถในระดับ B-SUV รุ่นไมเนอรเชนจ์ล่าสุด เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2563 เอาใจคนรุ่นใหม่ด้วยความเป็น Smart SUV ที่ชูจุดเด่นอย่างระบบ i-Smart ระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย และยังดูสถานะและสั่งงานระบบต่างๆ ของตัวรถผ่านแอพพลิเคชั่น MG iSMART บนโทรศัพท์มือถือ ได้อีกทั้งยังตั้งราคาในแบบที่ว่า “จับต้องได้” จนหลายต่อหลายคนต้องลองซื้อไปใช้กัน ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง หรูหรา ใช้งานได้อเนกประสงค์

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ตัวเดียวกับที่ใช้ใน MG3 และ MG5 แต่ปรับแรงม้าให้มากขึ้นมาเป็น 114 แรงม้า พร้อมกับปรับปรุงชิ้นส่วนภายใน และช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension ส่งกำลังผ่านระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ CVT ใหม่

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

2. Honda BR-V 1.5 V ราคา 765,000 บาท

Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์วี) เป็นรถแนว Active Sport Crossover มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่และไฟ LED สำหรับวิ่งกลางวัน, ไฟตัดหมอกใหม่ เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin) ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว แถมยังสีภายนอกเพิ่มสีใหม่ แดงมุก Passion Red

ชูจุดเด่นด้วยภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทนดำ-แดงสไตล์สปอร์ต มีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถพับแยกแบบ 60:40 หรือพับตลบจังหวะเดียว (One Motion) ปรับเลื่อนหน้า-หลัง เพื่อให้ผู้โดยสาร แถวที่ 3 เข้า-ออกได้สะดวกยิ่งขึ้น และพนักพิงปรับเอนได้ถึง 3 ระดับ โดยเบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง พนักพิงสามารถพับแยกแบบ 50:50 หรือพับตลบไปด้านหน้า 2 จังหวะ เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย และแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร แบบเดียวกับใน Honda City (โฉมเก่า) ให้แรงม้าสูงสุด 117 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT โดยทั้งเครื่องยนต์และเกียร์ พัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยี Earth Dreams พร้อมรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85

Mazda CX-3 2022

3. Mazda CX-3 2.0 Base ราคา 769,000 บาท

Mazda CX-3 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3) ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์รุ่นฮิต ในโฉมรถใหม่ 2022 ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถอเนกประสงค์ Compact SUV เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ตัวรถดูเรียบหรู ภายใต้ Concept “Less is More” เพิ่มตัวถังสีบรอนซ์ Platinum Quartz ผสมผลึกกึ่งโปร่งแสงจากควอตซ์ขาวละเอียด เป็นจุดเด่น

ภายในห้องโดยสารตกแต่งระดับพรีเมียม ทั้งคอนโซลหน้าแบบ Grand Luxe Suede สีเทา, เบาะนั่งสีดำเดินด้ายสีเทา พร้อมปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 8 ทิศทางและหน่วยความจำ, หน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto หรือระบบชาร์จไฟไร้สาย Wireless Charger กล้องมองภาพด้านหลัง, ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start Button) เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ให้กำลังเครื่องยนต์มากที่สุดและประหยัดน้ำมันมากที่สุดถึง 16.4 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

4. DFSK Glory 560 ราคา 789,000 บาท

การกลับมาใหม่อีกครั้ง สำหร้บ DFSK (ดีเอฟเอสเค) ที่เคยผลิตและนำเข้ารถบรรทุกเล็กกับรถตู้มาขายในไทย ก่อนจะเลิกขายไป งวดนี้ตัวแทนจำหน่ายรายเดิม ได้กลับมาทำตลาดใหม่พร้อมนำเข้า DFSK Glory 560 (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ 560) รถ Crossover SUV สัญชาติจีนแบบ 7 ที่นั่ง ถูกสุดในตลาดบ้านเราแล้วตอนนี้ โดยนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย ซึ่งในตลาดจีนเองใช้ชื่อว่า Dongfeng Fengguang S560 (ตงฟง เฟิงกวง เอส560) เปิดตัวไปในช่วงปี 2017 ในราคาสุดคุ้ม แถมหรูอย่างกับรถยุโรป!

ภายนอกมาพร้อมชุดไฟหน้าแบบ Projector LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟตัดหมอกหน้า กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว ที่ปรับและพับได้อัตโนมัติ ตกแต่งตัวรถให้ดูบึกบึน ส่วนไฟท้ายแบบแนวยาว มีเซ็นเซอร์ถอยหลัง ไฟตัดหมอกหลัง และล้อแม็กแบบสปอร์ตขนาด 17 นิ้ว

ส่วนภายในห้องโดยสาร ตกแต่งหรูหราเกินราคา ด้วยเบาะหนัง มาพร้อมหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปรับระดับได้ มีระบบอัจฉริยะ (Intelligent Features) ประกอบด้วย ระบบนำทาง GPS, รีโมทอัจฉริยะ Keyless, ปุ่ม Push Start, กระจกไฟฟ้าขึ้น-ลง ควบคุมได้ด้วยรีโมท มีเบรกมือไฟฟ้า มีระบบ Cruise Control พร้อมระบบปลดล็อคอัตโนมัติกรณีเกิดการปะทะให้ด้วย

รวมถึงก้านไฟเลี้ยว ที่ปรับย้ายฝั่งมาที่ด้านขวาแล้ว เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ต่างจากรถจีนในหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ที่ไม่ได้ย้ายตามที่ใช้ในพวงมาลัยซ้ายมาด้วย

ขุมพลังมีขนาด 1.5 ลิตร Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

Haval Jolion Hybrid SUV 2022

5. Haval Jolion Hybrid SUV Tech ราคา 879,000 บาท

All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV (ฮาวาล โจไลอ้อน) นับเป็นรถจีนรุ่นที่ 2 ของ Haval จากสายการผลิตที่โรงงาน Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) จ.ระยอง เปิดตัวในไทย (รุ่นพวงมาลัยขวา) คันแรกของโลก ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ด้วยราคาสุดเร้าใจ และการออกแบบรถ คุณภาพวัสดุ ดูดีเหมือนรถยุโรป ส่วนที่มาของชื่อรุ่น Jolion มาจากการรวมคำว่า Joy + Lion

ความพิเศษของรถรุ่นนี้ อยู่ที่การใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะเช่นเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV และพกพาความหรูหรามารอบคัน ด้วยกระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา ไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ กับระบบ Daytime Running Light และระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค พร้อมไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ร่วมด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ และไฟท้าย LED

ห้องโดยสารภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” กว้างสบาย เริ่มด้วยการเชื่อมต่อของ 3 หน้าจออัจฉริยะ ทั้งหน้าจอหลักตรงกลางแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับ Apple Carplay MP3 JOOX และระบบนำทาง ต่อด้วยหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอ Head-up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมด้านหน้า

นอกจากนี้ ยังมีเบาะคนขับที่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ลำโพง 6 ตัว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา และช่องแอร์ด้านหลัง ระบบกรองอากาศ PM2.5 ที่ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start รวมไปถึงเบาะที่นั่งด้านหลังพับลงได้พื้นที่บรรทุกสัมภาระสูงสุดถึง 1,069 ลิตร

พร้อมการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT และเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent Single Pedal) ให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว

พร้อมด้วยเทคโนโลยี LEMON Hybrid DHT (Dedicated Hybrid Technology) ที่พัฒนาขึ้นโดย GWM ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ไฮบริดและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 23.8 กม./ลิตร (ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ) ชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter ปรับโหมดการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ 1) โหมดมาตรฐาน 2) โหมด Sport 3) โหมด ECO 4) โหมดสภาพถนนลื่น ซึ่งจะมีการปรับการใช้พลังงานขับเคลื่อนเหมาะสมกับการขับขี่ในแต่ละโหมด

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

6. Nissan Kicks e-POWER S ราคา 889,000 บาท

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) เป็นรถครอสโอเวอร์ไฮบริด ที่มาพร้อมจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

7. DFSK Glory i-Auto ราคา 919,000 บาท

DFSK (ดีเอฟเอสเค) ผู้ผลิตรถจีนแบรนด์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน ภายใต้ตัวแทนจำหน่ายที่กลับมาทำตลาดอีกครั้งในไทย ได้นำเข้า DFSK Glory i-Auto (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ ไอ-ออโต้) รถ Crossover SUV สัญชาติจีนแบบ 7 ที่นั่ง จากอินโดนีเซียมาบุกตลาดบ้านเรา ซึ่งในตลาดจีนเองใช้ชื่อว่า Dongfeng Fengguang 580 (ตงฟง เฟิงกวง 580) เปิดตัวไปตั้งแต่ช่วงปี 2016

ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าแบบ Infinite Starlight Design ชุดไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ส่วนไฟท้ายแบบ Full LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential, หลังคาแบบ Panoramic Sunroof ที่สั่งการเปิดได้ด้วยเสียง, ประตูบานท้ายแบบไฟฟ้า พร้อมเซ็นเซอร์เท้า, กล้อง 360 องศารอบคัน และล้อแม็กแบบสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว

ส่วนภายในห้องโดยสาร ตกแต่งหรูหราพร้อมลายไม้ มาพร้อมหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว กับปุ่มสั่งงานบริเวณแผงคอนโซล, ระบบสั่งการด้วยเสียง i-Talk, เบาะหนังแท้ 7 ที่นั่ง พร้อมกล้องบันทึกภาพขณะรถวิ่ง และระบบความปลอดภัยมากมาย

ขุมพลังมีขนาด 1.5 ลิตร Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT บนน้ำหนักตัวรถ 1,510 กิโลกรัม

New MG HS และ MG HS PHEV 2022

8. MG HS 1.5 T 2WD C ราคา 939,000 บาท

New MG HS (เอ็มจี เอชเอส) รถใหม่ 2022 แบบ SUV รุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ภายใต้แนวคิด Refinement โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย หรูหราทันสมัย และความสปอร์ต มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องเบนซินเทอร์โบ และ ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-In Hybrid)

โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยการติดตั้งระบบนำทางเสมือนจริง หรือ AR Navigation ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกล้องหน้าที่ถ่ายทอดสภาวะแวดล้อมจริงในขณะเดินทาง ร่วมกับระบบนำทาง Navigation แบบ Realtime ช่วยให้การใช้งานระบบนำทางแม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากกว่าเดิม

และระบบกุญแจดิจิตอล (Digital Key Technology) อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากลสูงสุดถึง 26 ระบบ และระบบช่วยผู้ขับขี่หรือระบบ ADAS ที่เทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน Turbo GDI ขนาด 1.5 ลิตร 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด แบบ Twin Clutch Sportronic Transmission (TST) และเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้กำลังสูงสุด 284 แรงม้า

มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบโมดูล ขนาดใหญ่ 16.6 kWh ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

All-New Honda HR-V e:HEV 2022

9. Honda HR-V e:HEV E ราคา 979,000 บาท

All-New Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์วี) ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยรูปแบบ e:HEV ขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย กับรุ่นย่อย RS เปิดตัวในไทยที่แรกของโลก! เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์ SUV ได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตา ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย กว้างขวาง

มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม โดดเด่นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟได้ประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

10. Mazda CX-30 2.0 C ราคา 989,000 บาท

Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) เพิ่งปรับโฉมใหม่ไปในเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา ด้วยสีใหม่ล่าสุด บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มต้นชีวิตคู่ในสไตล์ใหม่ ที่กำลังมองหาครอสโอเวอร์ในกลุ่ม B-SUV

ตัวรถออกแบบภายใต้แนวคิด Kodo: Soul of Motion เป็นรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 โดย CX-30 เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม “Less is More” ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ภายในห้องโดยสารยังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่พิถีพิถัน คัดสรรเลือกใช้เฉพาะวัสดุเกรดพรีเมี่ยมในทุกจุดสัมผัส ดุจงานศิลปะชั้นสูงที่มีเอกลักษณ์

เพิ่ม ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวันแบบ LED Signature และไฟท้ายแบบ LED Signature, เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง และกล้องมองหลัง (ในรุ่น 2.0 C), ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS (ในรุ่น 2.0 C) และเพิ่มระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS สามารถทำงานได้ถึง 145 กม./ชม.

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

10. Toyota Corolla Cross 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover ของโตโยต้าซึ่งได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัว สร้างยอดขายสูงสุดในตลาดรถ Sub-Compact SUV ที่สำคัญ ยอดขายรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด มีสัดส่วนถึง 85% ของยอดจำหน่ายรวม และเป็นยอดขายสูงสุด ในตลาดรถ Hybrid SUV และยังเอาใจคนชอบรถแนวสปอร์ต กับรุ่น HEV GR Sport อีกด้วย

Toyota Corolla Cross พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue)

ภายนอกมาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

Mr.Carro หวังว่า 10 อันดับ รถ SUV – PPV และ Crossover ถูกสุดในไทยที่นำมาเสนอนั้น หากใครอยากได้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี! แล้วอยากขายรถคันเดิม มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : *ข้อมูลสินค้า 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลสินค้าที่ Update ณ เดือนพฤษภาคม 2565 เมื่อเวลาผ่านไปราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรือราคาล่าสุด ที่ตัวแทนจำหน่ายรถรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง

**การจัดอันดับ หากเป็นรถ SUV รุ่นที่มีราคาเท่ากันในหลายยี่ห้อนั้น ทางเราจะจัดอันดับเรียงตามการเปิดตัวโฉมใหม่ล่าสุด หรือการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ล่าสุด ขึ้นเป็นอันดับแรก

1 2 3 9