Tiresbid x Carro | ง่ายมากๆ! 5 วิธีให้รถเกาะถนนมากยิ่งขึ้น

สวัสดีครับไทร์บิดกลับมาอีกครั้งกับเทคนิคที่จะทำให้เพื่อนๆที่เป็นสายสปอร์ตสายซิ่งขับรถได้มั่นใจยิ่งขึ้น เกาะถนนยิ่งขึ้นกับเทคนิควิธีการใช้ยางรถยนต์ โดยจอร์จจะบอกวิธีการเป็นข้อๆไปนะครับ ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปยังขั้นที่ไม่พื้นฐาน ซึ่งเทคนิคไทร์บิดมาเผยเคล็ดลับให้เพื่อนๆกันครับ ดังนั้นเรามาเริ่มกันเลยครับ

ง่ายมากๆ! 5 วิธีให้รถเกาะถนนมากยิ่งขึ้น

เรื่องของลมยางรถยนต์

อย่างแรกเลย เป็นเรื่องที่พื้นฐานที่สุดคือเรื่องของลมยาง แน่นอนครับให้นึกไว้ครับลมยางสูงทำให้ยางโก่งตัวเกาะถนนไม่เต็มหน้า ยางอ่อนเกินทำให้ยางงอตัวทำให้บริเวณหน้ายางไม่สัมผัสกับพื้นถนน ดังนั้นเราควรเติมลมให้พอดีกับรถของคุณ โดยคำว่าพอดีจอร์จแนะนำว่าให้เติมตามสติกเกอร์ข้างประตูคนขับรถจะเป็นการเติมลมที่เหมาะสมกับน้ำหนักของรถคันนั้นมากที่สุดจะทำให้หมดปัญหาเรื่องการควบคุมรถเมื่อเกิดเคสกระทันหันครับ เพราะการเติมลมยางพอดีจะส่งผลให้ยางสามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีที่สุดครับผม โปรโมชั่นยางรถเดี๋ยวนี้มักจะมีบริการหลังการขายเติมลมฟรีตลอดอายุการใช้งาน

ง่ายมากๆ! 5 วิธีให้รถเกาะถนนมากยิ่งขึ้น

เรื่องของขนาดหน้ายางรถยนต์

อย่างที่สองแน่นอนครับ เรื่องขนาดหน้ายางโดยปกติยางไซซ์ติดรถ เดิมๆเราอาจจะได้ยางที่สเปกไม่สูงมากนัก เช่น ยี่ห้อ รุ่น และขนาดไซซ์ยาง เพราะฉะนั้นเวลาเราเปลี่ยนยางโดยปกติเราสามารถอัพไซซ์ยางได้ครับ ซึ่งการเพิ่มไซซ์ยางแน่นอนไม่ว่าจาก 175 เป็น 185 หรือ 195 ซึ่งแม้ว่าขนาดยางจะต่างเพียงแค่สเต็ปและ 1 เซนติเมตร แต่พอคูณสองฝั่งเท่ากับรถเรามีฐานกว่าขึ้น 2 เซน หรือจะเป็น 4 เซนติเมตรก็ตามครับ ดูเหมือนน้อยนะครับแต่ว่าโมเมมตัมทางทางตรงและทางเข้าโค้ง ก็มีผลพอสมควรเลยครับ อีกอย่างการที่เราเพิ่มขนาดหน้ายางสิ่งที่จะตามมาครับ เรื่องของแก้มยางเราต้องลดลงด้วย ซึ่งทำให้การโยนตัวต่ำลงซึ่งก็ส่งผลต่อการทรงตัวเวลาขับขี่ ทำให้การโยนตัวเวลาเข้าโค้งน้อยและมีการเกาะถนนที่ดีขึ้นเช่นกันครับเพราะฉะนั้นการขยับไซซ์ยางให้เหมาะสมกับของเดิมก็ส่งผลต่อเรื่องการเกาะถนนที่ดีขึ้นครับ

ง่ายมากๆ! 5 วิธีให้รถเกาะถนนมากยิ่งขึ้น

เรื่องของรุ่นยางรถยนต์

อย่างที่สามรุ่นยางครับ แน่นอนว่ารุ่นยางมีส่วนส่งผลมากกับการยึดเกาะถนน อย่างแรกก่อนเลยนะครับต้องพูดว่ายางที่เกาะถนนนั้นต้องมีสองส่วนสำคัญครับ ที่เข็มขัดรัดหน้ายางจะทำหน้าที่ขึงตึงหน้ายางให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนได้เต็มหน้าตลอดเวลา ส่วนที่สองคือผิวสัมผัสของหน้ายางกับพื้นถนน ยิ่งมีหน้าผิวสัมผัสมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเกาะถนนได้ดีมากขึ้นเท่านั้นแต่ต้องดอกจันทร์ไว้นิดนึงครับเพราะว่ายางรถเราใช้หลากหลายรูปแบบทั้งถนนแห้งและทั้งเปียกมียางบางรุ่นที่แทบไม่มีร่องรีดน้ำเลยจะเกาะถนนได้ดีมากบนถนนแห้ง แต่ถนนเปียกไม่ต้องพูดถึงครับ แต่ว่ายางสไตล์สปอร์ตแบรนด์ดังๆ ก็จะมีการยึดเกาะถนนที่หลายรูปแบบดีเช่นกันครับ เพราะฉะนั้นสองส่วนที่พูดมาก็คือเป็นส่วนประกอบหลักที่เราต้องให้ความใส่ใจหากเราเป็นสายซิ่งและสายสปอร์ตครับ แนะนำเลือกรุ่นยางเป็นสไตล์สปอร์ตจะเกาะถนนดีกว่าครับ

ง่ายมากๆ! 5 วิธีให้รถเกาะถนนมากยิ่งขึ้น

เรื่องของล้อแม็กซ์รถยนต์

อย่างที่สี่ อาจจะเป็นเพียงส่วนประกอบครับนั้นก็คือล้อแม็กซ์ครับ การที่เราใส่ล้อแม็กซ์พอดีกับไซซ์ยางจะทำให้ยางสามารถทำงานได้เต็มสมรรถนะ โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งซึ่งจะมีการให้ตัวของแก้มยางได้อย่างเต็มสมรรถนะมากที่สุดครับ เพราะบางท่านแต่งรถสวยใช้แม็กซ์หน้ากว้างเกินกว่ามาตรฐานของยางซึ่งอาจดูสวยแต่เรื่องสมรรถนะก็ดรอปลงมาเช่นกันครับ

ง่ายมากๆ! 5 วิธีให้รถเกาะถนนมากยิ่งขึ้น

เรื่องของมุมล้อรถยนต์

อย่างสุดท้ายก็ คือ เรื่องของมุมล้อครับจริงๆมุมล้อนั้นก็ส่งผลต่อเรื่องการยึดเกาะถนนครับ ถ้าเราปรับมุมแคมเบอร์ให้มีอาการแบะออกเล็กน้อยกว่ามาตรฐานรถ จะทำให้รถของเพื่อนๆมีการทรงตัวที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ แต่ต้องบอกเลยนะครับว่าอาจจะส่งผลเสียต่อยางของเพื่อนๆในด้านในได้ครับอาจจะทำให้เพื่อนๆต้องมีรอบเปลี่ยนยางที่บ่อยกว่าปกติครับหรือหากให้ดีหลังใช้ไปสัก 50% ก็ควรสลับด้านในนอกครับแต่อาจจะส่งผลกระทบต่อสมรรถนะยางเช่นกัน แต่ก็เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ยางของคุณใช้ได้นานขึ้นครับ ซึ่งเราจะเห็นลักษณะนี้ในกลุ่มรถเบนซ์ และ บีเอ็มครับที่มีปัญหาการสึกกินในอย่างเดียวเป็นเพราะว่าการตั้งมุมแคมเบอร์ที่ให้ล้อแบะจะทำให้รถของเพื่อนๆ มีการทรงตัวที่ดีขึ้นครับ

ง่ายมากๆ! 5 วิธีให้รถเกาะถนนมากยิ่งขึ้น

หากเพื่อนๆมีข้อสงสัยไม่รู้ว่าจะเลือกยางยี่ห้อไหนและช้อปเช็กยาง & นัดหมายออนไลน์ที่ https://tiresbid.com/home ได้เลยครับ เพราะเราเป็นเว็บจำหน่ายยางที่ดีที่สุดครับ มีแบรนด์สินค้าคุณภาพให้เลือกมากที่สุด และเพื่อนๆสามารถหาอ่านบทความรู้ยานยนต์และรีวิวยางรถยนต์ครอบคลุมการใช้งานมากที่สุดในประเทศ แถมไทร์บิดเรายังมีบริการผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกลาง ให้เพื่อนๆที่ต้องการสอบถามได้ยางที่เหมาะสมที่สุดผ่านทาง Line OA : @tiresbid (เติม@ด้วยนะครับ) เราเป็นตัวกลางยางมืออาชีพโปรโมชั่นยางรถพิเศษไทร์บิดมากมาย  ให้บริการครบทุกรูปแบบ จุดบริการร้านยาง เปลี่ยนถึงบ้าน จัดส่ง Fast service ทุกรูปแบบการรับบริการนัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาเพียง 1 ชม.ในการรับบริการติดตั้งเปลี่ยนยาง ให้เรื่องยางรถของคุณง่ายยิ่งขึ้น ซื้อยางรถยนต์มั่นใจทุกครั้งที่ไทร์บิด วันนี้ก็ขอขอบคุณมากครับเพื่อนๆที่ติดตาม หากมีข้อสงสัยเลือกยางไม่ถูกสอบถามมาที่ไทร์บิดของเราได้เลยครับ วันนี้ขอบคุณมากครับ

5 เคล็ดไม่ลับ ดูแลรถสีขาวให้สวยใส!

ในอดีต คนไทยมักจะมองรถยนต์สีขาวว่าเป็นรถสำหรับใช้งานทั่วไป เช่น รถตู้ รถส่งของ รถหน่วยงานต่างๆ เป็นสีรถที่คนเล่นรถไม่นิยมเท่าไหร่นัก ต่างจากในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น

แต่เมื่อเจอปรากฎการณ์ของ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) ที่นำเสนอตัวรถแบบสีขาวมุก (White Pearl) ขึ้นมา บวกกับการนิยมนำเข้ารถยนต์สีขาวมุกเข้ามาในไทย เมื่อช่วงเกือบๆ 20 ปีที่แล้ว ของผู้จำหน่ายอิสระ ก็ทำให้รถยนต์สีขาวมุก บูมในบ้านเราจนถึงปัจจุบัน

5 เคล็ดไม่ลับ ดูแลรถสีขาวให้สวยใส!

แต่สภาพอากาศในบ้านเราเป็นแบบร้อนชื้น เจอทั้งแดดทั้งฝนกระหน่ำ จากสีขาว หรือสีขาวมุกที่ดูสวยใส กลับเกิดคราบหมองหม่น ออกเหลืองได้ ถ้าเจ้าของรถไม่ได้ดูแลรักษา จอดรถตากแดดตากฝนตลอด จึงดูเก่าเร็วกว่ารถสีอื่น

อ่านเพิ่มเติม >> 3 เคล็ดไม่ลับ วิธีเช็ดกระจกใสไร้ฝุ่น ไร้คราบน้ำ คราบหินปูน ตลอดช่วงหน้าฝน!

Mr.Carro จึงขอนำเคล็ดไม่ลับ ในการดูแลรถสีขาว (หรือสีขาวมุก) ให้สวยใสตลอดการใช้งานกันครับ

5 เคล็ดไม่ลับ ดูแลรถสีขาวให้สวยใส!

1. ล้างรถสักอาทิตย์ละครั้ง

ปกติการใช้รถยนต์ ไม่ว่าจะสีอะไรก็ตาม เราก็ควรจะต้องล้างรถบ้าง เพราะรถยนต์ของเราต้องเจอทั้งสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น ขี้นก ขี้โคลน คราบยางจากต้นไม้หรือดอกไม้ต่างๆ ฯลฯ ซึ่งสิ่งสกปรกเหล่านี้มีความเป็นกรดด่างที่คอยทำลายเนื้อสีชั้นต่างๆ ให้เป็นรอยด่างหรือซีดได้ ดังนั้น ควรหมั่นล้างรถบ่อยๆ หรืออาทิตย์ละครั้ง

ส่วนรถยนต์สีขาว เราแนะนำว่าให้ล้างรถจากด้านบนจนเสร็จก่อน และค่อยนำฟองน้ำชิ้นใหม่ (ย้ำ ชิ้นใหม่) มาใช้เช็ดล้างตัวถังรถส่วนล่างต่อ เนื่องจากส่วนล่างของรถสกปรกกว่า มีทั้งคราบดินคราบโคลน หรือสิ่งสกปรกที่ดีดขึ้นมาจากล้อรถ

การใช้ฟองน้ำร่วมกันล้างรถทั้งคัน จะทำให้เกิดคราบสกปรกขึ้นบนตัวถังด้านบนได้ ซึ่งรถสีขาวจะเห็นได้ชัด

2. เช็ดรถต้องแห้งและสะอาด

เมื่อล้างรถเสร็จแล้ว อย่าปล่อยผึ่งลมให้รถแห้งเอง ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือผ้าชามัวร์สำหรับเช็ดรถโดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้เกิดรอยขนแมวบริเวณสีผิวตัวรถ และต้องเช็ดรถให้สะอาดทุกจุด

เพราะอย่าลืมว่าถ้าคุณนำน้ำประปา หรือใช้น้ำบาดาลมาล้างรถ ในน้ำจะมีแร่ธาตุหลากหลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียม และแมกนีเซียม ทำให้น้ำมีความกระด้างสูง ถ้าใช้ล้างรถไปนานๆ แล้วไม่เช็ดให้แห้งให้เกลี้ยง ก็จะเกิดคราบหินปูนบนสีรถ หรือกระจกรถขึ้นมา

5 เคล็ดไม่ลับ ดูแลรถสีขาวให้สวยใส!

3. อย่าจอดรถตากแดด

การจอดรถตากแดดบ่อยๆ นี่ถือเป็นการทำลายสีรถอย่างช้าๆ อีกวิธีหนึ่ง เพราะนอกจากจะเจอสภาพอากาศร้อนชื้น คราบน้ำฝน คราบสกปรกจากละอองฝุ่นในอากาศ และความร้อนและรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสี UV) ที่คอยทำลายสีรถและชั้นเคลือบสีไปอย่างช้าๆ จนแลกเกอร์เสื่อมสภาพ ทำให้รถสีขาวนั้นดูหมองเหลืองเร็ว หนักกว่านั้นก็จะสีซีด ชั้นเคลือบสีลอกเป็นดวงๆ จนต้องทำสีใหม่เลยก็ว่าได้

ทางที่ดี ควรหาที่จอดรถในร่ม ไม่ว่าจะที่บ้าน หรือที่ไหนก็ตาม เพื่อช่วยยืดสภาพสีขาวของรถคุณให้ได้นานที่สุด ที่ช่วยให้รถสีไม่หมองเร็ว

4. ทำสีรถต้องให้แม่น

ขึ้นชื่อว่ารถสีขาว ย่อมเห็นเป็นเด่นชัดอยู่แล่ว ไม่ว่าจะเป็นคราบสกปรก หรือความเพิ้ยนของสีตัวรถ ถ้าหากจุดใดจุดหนึ่งของรถคุณโดนเฉี่ยวชนมา หากต้องการทำสีใหม่ ต้องให้ช่างสีเทียบสีรถกันให้ดี หรือเช็ครหัสสีรถจากผู้ผลิตรถให้ตรงรุ่นกับรถของคุณ

เพราะสีขาวนั้นแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็มีคิดสูตรออกมาหลายเฉดสีมาก ถ้าไม่ตรวจสอบตรงจุดนี้ก่อน ทำสีออกมาเสร็จแล้วชิ้นส่วนที่ทำสีแล้ว อาจสีเพี้ยนไปจากสีรถทั้งคันได้

5. ขัดสี เคลือบสีรถบ่อยๆ

หลังจากล้างรถเสร็จ ก็ควรใช้น้ำยาเคลือบสีรถ แว็กซ์เคลือบสีรถ หรือ Cleaner Wax อย่างน้อยๆ เดือนละครั้ง เพราะในน้ำยาหรือแว็กซ์จะมีฟิล์มบางๆ เคลือบสีรถเอาไว้ ช่วยให้เกิดคราบเหลืองได้ช้าลง คุณควรสังเกตก่อนด้วยนะครับว่า น้ำยาเคลือบสีรถ หรือแว็กซ์เคลือบสีรถ มีทั้งแบบใช้เฉพาะรถสีขาว และรถสีเข้มครับ

ซึ่งรถยนต์สีเป็นสีขาวหรือสีขาวมุก ควรใช้ Cleaner Wax ก่อนที่จะทำการลงน้ำยาเคลือบสีรถ แว็กซ์เคลือบสีรถ เพื่อขจัดคราบสกปรกฝังแน่น และป้องกันการเกิดคราบเหลืองขึ้นบนผิวสีรถในอนาคต

และก็อย่าลืมใช้ดินน้ำมันล้างรถบ้าง เพราะดินน้ำมันช่วยดึงคราบสกปรกออกจากตัวรถได้เป็นอย่างดี ช่วยให้รถสีขาว หรือสีขาวมุกของคุณดูเงางามสุดๆ คุ้มกับค่าสีขาวมุกที่ต้องจ่ายเพิ่มเป็นหลักหมื่นตอนซื้อรถไปเลยครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

กดแตรแบบไหน ถึงปลอดภัยทุกการเดินทาง

กดแตรรถ กดอย่างไร ให้ปลอดภัยทุกการเดินทาง

เวลาขับรถออกไปข้างนอก สังเกตกันไหมครับว่า กรุงเทพฯ ในยุคที่การจราจรติดขัดมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีต้องเสียเวลารถติดอยู่นานมากบนท้องถนน ทำให้คนขับรถเกิดความเครียด หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี ช่วงเวลาขับรถแน่ๆ

และบางทีเพียงแค่การกดแตรเพื่อให้สัญญาณกับรถคันหน้า หรือมอเตอร์ไซค์คันหน้า กลับกลายเป็นการเกิดเรื่องวิวาทกันได้อย่างคาดไม่ถึง เหมือนที่เห็นในหลายๆ คลิป … Carro ขอแนะนำวิธีการกดแตรแบบไหน ถึงปลอดภัยทุกการเดินทางครับ

แตรรถยนต์เริ่มติดตั้งในรถยนต์ตั้งแต่ในปี 1910 พัฒนาขึ้นโดย Oliver Lucas แห่งเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เพื่อใช้เป็นสัญญาณในการขอทาง ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย ป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุได้ รวมถึงขับรถกันอย่างมีระเบียบมากขึ้น ซึ่งในเมืองนอกนั้น นิยมกดแตรกันเพื่อเตือน หรือป้องกัน ซึ่งตรงข้ามกับในบ้านเรา ที่ถูกปลูกฝังให้ใช้แตรน้อยที่สุด นับเป็นเรื่องผิดๆ ที่มีมานานแล้ว

กดแตรแบบไหน ถึงปลอดภัยทุกการเดินทาง

1. ควรกดแตรแบบเป็นจังหวะ กดเบาๆ แล้วปล่อย ไม่กดค้างลากยาว ไม่กดพร่ำเพรื่อ กดให้เสียงแตรออกมาประมาณ “ปื้น … ปื้น …” ไม่ใช่การกดแบบ “ปื้นนนนนนนนนนนนนนนนนนน” เพราะว่าคนส่วนใหญ่ มักนิยมกดแตรครั้งเดียวและยาว ด้วยความไม่รู้ จึงทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่า การกดแตรลากยาวแบบนี้เหมือนเจตนาไล่ ด่า และสร้างความรำคาญ อาจจะทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันได้ ดังนั้น ควรกดแตรเป็นจังหวะ และรู้จักใช้น้ำหนักการกด ตั้งแต่การกดแบบส่งเสียงเบาๆ จนถึงเสียงดังสุดครับ

กดแตรแบบไหน ถึงปลอดภัยทุกการเดินทาง

ภาพจาก RT@pwittaya

2. กดแตรก่อนเกิดเหตุ เมื่อเห็นว่าอาจจะมีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้จากเพื่อนร่วมทาง คุณควรใช้แตรทันที เช่นมีรถยนต์หรือจักรยาน และจักรยานยนต์พุ่งออกมาจากซอยทันที โดยไม่มองดูซ้าย-ขวา หรือเจอพวกประเภทขับช้าชิดขวา หรือพวกขับรถไป เล่นมือถือไป การกดแตรก่อน ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ ที่อาจจะเกิดกับรถคุณได้

กดแตรแบบไหน ถึงปลอดภัยทุกการเดินทาง

3. อย่าลืมว่า บางสถานที่ก็ไม่ควรใช้แตรนะครับ เพราะตามกฎหมาย พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ระบุชัดเจนถึงสถานที่ไม่ควรใช้แตร ได้แก่ ถนนในช่วงเขตโรงเรียน โรงพยาบาล วัด และเขตพระราชฐาน รวมถึงในเขตที่มีป้ายสัญญาณห้ามกดแตร

การใช้ “แตร” ถ้าคุณรู้จักแล้วสามารถใช้งานได้อย่างเข้าใจ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ความปลอดภัย และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในการเดินทางได้ดีขึ้นครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

วิธีเปลี่ยนปัดน้ำฝนใหม่ ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ช่วงนี้ก็เข้าสู่หน้าฝนกันแล้ว อุปกรณ์เล็กๆ ของรถ แต่ความสำคัญไม่เล็กอย่าง “ที่ปัดน้ำฝน” ถือว่าเป็นของที่จำเป็นต้องใช้งานเลยล่ะ หลายคนอาจจะละเลยที่ปัดน้ำฝนไป พอจะเปิดใช้งาน กลับมีเสียงยางขูดกระจกดังครืดๆ ซะแล้ว!

ซึ่งอาการที่ว่ามานี้ หมายถึงยางปัดน้ำฝนเสื่อมแล้ว ถ้ายังฝืนใช้ต่อไป อาจจะทำให้กระจกบังลมหน้าเป็นรอยขูดได้ หรือทำให้รู้สึกรำคาญ เวลาขับรถอีก

Mr.Carro จะมาเล่าให้ฟังครับ ว่าวิธีเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนนั้น ง่ายนิดเดียว …

ที่ปัดน้ำฝนมีเสียง! เปลี่ยนใหม่ง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง

ใบปัดน้ำฝนที่ดี ต้องสามารถรีดน้ำได้หมดจด และใบปัดไม่ส่งเสียงดังน่ารำคาญ และตัวก้านปัดน้ำฝนของรถ มักจะสั้น-ยาว ไม่เท่ากัน เพราะทางผู้ผลิตก็ออกแบบมาเพื่อให้รับกับส่วนโค้งของกระจก สามารถปัดได้มุมกว้างมากที่สุดบนกระจกบังลมหน้า ส่วนก้านปัดน้ำฝนในด้านท้ายรถ ส่วนใหญ่จะมีในรถเก๋งท้ายตัด เพื่อปัดกวาดน้ำฝน และฝุ่นที่บริเวณกระจกบานท้าย

เราขอแนะนำให้เปลี่ยนทุกๆ 1 ปี ราคาก็เพียงชุดละหลักร้อยบาท คุ้มค่ากับการใช้งาน ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบยาง หรือแบบซิลิโคน ที่ไม่ต้องใช้โครงเหล็ก

ที่ปัดน้ำฝนมีเสียง! เปลี่ยนใหม่ง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง

วิธีการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน มีง่ายๆ ดังนี้ครับ …

  • ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นทั้ง 2 ข้าง พร้อมกับหมุนใบปัดเป็น 90 องศา
  • ดันสลักเล็กๆ ออก พร้อมเอาใบปัดน้ำฝนออก
  • ดึงยางอันเก่าพร้อมเส้นเหล็กออก
  • ใส่เส้นเหล็ก (ที่ด้านบนของร่องยาง) พร้อมใส่กลับเข้าไปในโครงเหล็กใบปัดน้ำฝน
  • ถ้ามียางส่วนเกิน ก็ตัดออกซะ
  • ทำเรียบร้อย ใส่กลับไปในก้านปัดน้ำฝน แค่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว

ที่ปัดน้ำฝนมีเสียง! เปลี่ยนใหม่ง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง

สิ่งสำคัญ อย่าลืมทำความสะอาดชุดปัดน้ำฝน และกระจกหน้ารถอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงตรวจเช็คน้ำยาล้างกระจกให้พร้อม แค่นี้ใบปัดน้ำฝนก็พร้อมใช้งานในช่วงหน้าฝนนี้แล้ว รับรองขับรถได้อย่างปลอดภัยหายห่วง

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ให้เหมาะกับโรงรถบ้านคุณ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

ต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม จมน้ำ 5 จุด แบบง่ายๆ

ถ้าหากคุณต้องการจะซื้อรถมือสองในเวลานี้ นอกจากเราจะต้องตรวจดูสภาพรถอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวถังรถ สีรถ เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง สภาพภายในรถ รวมไปถึงการทดลองขับขี่ ฯลฯ

แต่ … สิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่าง นั่นคือคุณต้องดูด้วยว่า “รถคันนี้ ผ่านการถูกน้ำท่วมมาหรือไม่” ด้วยนะครับ!

“น้ำท่วม” หรือ “น้ำรอการระบาย” ถือเป็นปัญหาสุดคลาสสิกในหลายพื้นที่ของไทย จึงไม่แปลกที่ในตลาดรถมือสองจะมี “รถจมน้ำ” โผล่มาขายอยู่บ้าง แต่ก็สังเกตได้ยากเนื่องจากถูกซ่อมแซมมาใหม่หมดแล้ว แต่เราจะมีวิธีดูรถอย่างไรบ้าง? Mr.Carro ก็ขออาสามาแนะนำวิธีดูรถน้ำท่วม หรือรถจมน้ำมา 5 จุด แบบง่ายที่สุด ให้ทุกคนเป็นความรู้กันครับ

ก่อนซื้อต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม รถจมน้ำ 5 จุด แบบง่ายที่สุด

ภาพจาก วิเชษฐ ศรีสวาสดิ์

1. เช็คตัวถัง หาสนิม

จุดแรกที่ควรสังเกตกันก่อนเลย นั่นคือ สภาพตัวถังรถ ซึ่งหลายคันภายนอกอาจจะทำการสาดสีใหม่มาแล้ว ก็อาจจะสังเกตยากหน่อย แต่ในกรณีที่ยังเป็นสีเดิมๆ ของตัวรถ ก็ขอให้สังเกตดูในบริเวณรอยตะเข็บตัวถังจุดต่างๆ ของรถ โดยเฉพาะใต้ท้องรถ ใต้กันชน ขอบยางประตูรถ พวกน็อตยึดต่างๆ หรือบริเวณแชสซีส์รถ

ถ้ามีสนิมขึ้นในที่ที่ไม่น่าจะมี เช่น มุมที่ไม่ได้อยู่บริเวณด้านล่างของตัวรถ ชายล่าง ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่า อาจเป็นไปได้ว่าเคยแช่น้ำ แช่โคลน หรือจมน้ำมาก่อน

ส่วนถ้าเป็นภายในรถ ให้ลองดูบริเวณชิ้นส่วนเหล็ก ใต้บังโคลนล้อหน้า-หลัง แผงฟิวส์บริเวณข้างแป้นคันเร่ง หรือที่วางเท้าคนนั่ง และน็อตยึดฐานเบาะนั่งคู่หน้าของตัวรถ ว่ามีสนิมขึ้นหรือไม่ หรือเบาะนั่งเลื่อนได้สะดวกหรือไม่ ก็อาจจะสังเกตตรงจุดนี้ได้เช่นกัน

ก่อนซื้อต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม รถจมน้ำ 5 จุด แบบง่ายที่สุด

ภาพจาก Nobuyasu Watada / Masanobu Hatsuchi

2. ระบบไฟฟ้า

ขึ้นชื่อว่าน้ำกับไฟย่อมไม่ถูกกัน เมื่อไฟเจอน้ำก็มักจะช็อต ซึ่งอาจจะทำให้ระบบไฟในรถมักรวน เพราะมีความชื้นอยู่ในแผงวงจร สายไฟ หรือแผงฟิวส์ ส่งผลให้การทำงานของระบบไฟฟ้าในรถ เดี๋ยวใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง

วิธีสังเกต ให้ลองสตาร์ทรถดูการทำงานของเครื่องยนต์ ดูระบบไฟฟ้าต่าง ว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ ยกเว้นว่าคันที่จะเปลี่ยนระบบไฟฟ้า หรือเดินสายไฟมาใหม่ อันนี้ก็อาจยากที่จะสังเกต

ก่อนซื้อต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม รถจมน้ำ 5 จุด แบบง่ายที่สุด

ภาพจาก Atipong Pongpat

3. เครื่องยนต์

รถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมบริเวณเครื่องยนต์ มักจะถูกยกและถอดออกมาทำความสะอาดขจัดคราบน้ำและโคลนที่เข้าไป แต่หลายๆ อู่ มักจะไม่เปลี่ยนน๊อตที่ประกอบเครื่องยนต์ใหม่เท่าไหร่ ก็อาจจะสังเกตตรงจุดได้ว่าถ้าเห็นชิ้นส่วนน็อตที่ขึ้นสนิม หรือมีร่องรอยการถอดประกอบเครื่อง โดยเฉพาะรอยยากาวตรงฝาสูบ หรือสังเกตตรงฝาตาน้ำเครื่องยนต์ เป็นต้น

แต่ในกรณีที่เจ้าของเดิมยกเครื่องยนต์ใหม่มาวางแทนเครื่องยนต์เดิม อันนี้ก็อาจจะสังเกตได้ยากหน่อย

ก่อนซื้อต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม รถจมน้ำ 5 จุด แบบง่ายที่สุด

ภาพจาก Kh Un Per

4. เครื่องมือช่างประจำรถ

ชุดเครื่องมือช่างประจำรถ เช่น ประแจ หรือแม่แรง มักจะเก็บไว้ในท้ายรถ บริเวณยางอะไหล่ อาจสังเกตได้หากชุดเครื่องมือเหล่านี้มีสนิมขึ้นอยู่ รวมถึงบริเวณยางอะไหล่ ตามรอยอาร์ค รอยยาแนว อาจสังเกตได้จากคราบดำๆ หรือคราบน้ำ คราบโคลน ที่อาจมีติดฝังแน่นอยู่

ก่อนซื้อต้องรู้! วิธีดูรถน้ำท่วม รถจมน้ำ 5 จุด แบบง่ายที่สุด

ภาพจาก Sutha Luaknaree

5. กลิ่นในห้องโดยสาร

เรื่องกลิ่นนี่ก็พอจะบ่งบอกได้ว่า รถคันนี้เคยถูกน้ำท่วมมาเช่นกัน แม้ว่ารถที่นำมาขายจะถูกปรับปรุงสภาพมาแล้วก็ตาม ซึ่งพรม และเบาะนั่ง จะถูกนำออกไปซักและตากแดด หรือถูกเปลี่ยนเป็นของใหม่

กลิ่นในห้องโดยสารที่ติดอยู่ตามซอกมุมต่างๆ ของตัวถังรถ อันนี้เป็นเรื่องยากที่จะกำจัด เนื่องจากน้ำที่ท่วมเป็นน้ำโคลน กลิ่นต่างๆ จะติดอยู่ได้นาน

แต่ถ้าคุณเลือกรถกับที่ Carro ทั้ง 5 ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะเราตรวจสอบรถยนต์โดยละเอียดถึง 160 จุด ตรวจสอบทุกจุด

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่มาใช้ในช่วงนี้ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

เช็กเครดิตบูโร เช็กแบล็คลิส ด้วยตัวเอง ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

คำว่า เครดิตบูโร เป็นคำที่คนส่วนใหญ่ ถ้าเคยซื้อรถ ซื้อรถจักรยานยนต์ ซื้อบ้าน หรือของชิ้นใหญ่ๆ ที่ต้องขอสินเชื่อรถ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อเงินสด จะคุ้นเคยกันดี โดยคำว่า เครดิตบูโร มาจากชื่อของ “บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” หรือ “National Credit Bureau” ซึ่งเป็นบริษัทที่เก็บข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก

ซึ่งหากใครก็ตามที่มาทำการขอสินเชื่อซื้อรถ ทางสถาบันการเงิน สามารถตรวจสอบ และขอข้อมูลฐานะทางการเงิน ประวัติการขอสินเชื่อ การได้รับอนุมัติสินเชื่อ หรือประวัติการค้ำประกัน เคยมีติดแบล็คสิส (Black List) หรือไม่ ได้ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งข้อมูลจากเครดิตบูโร จะแสดงเฉพาะหนี้สินเท่านั้น ที่ทางผู้ปล่อยสินเชื่อ ต้องนำมาประเมินก่อนว่าจะอนุมัติให้ได้หรือไม่ จะได้หรือไม่ได้สินเชื่อ ก็ขึ้นอยู่กับตรงนี้ล่ะ

หากคุณติดวางแผนทำธุรกรรมทางการเงินอยู่พอดี การตรวจสอบข้อมูล “เครดิตบูโร” ก่อนทำธุรกรรมการเงินต่างๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัตินั้นสูงขึ้น ซึ่งนอกจากจะเช็กประวัติการชำระเงินของตัวเองแล้ว ยังตรวจสอบเพิ่มได้อีกด้วยว่า เอกสารสำคัญส่วนตัวของคุณ มีใครนำไปแอบอ้างทำอะไรหรือไม่ เช่น การปลอมแปลงสำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารการเงินต่างๆ ไปสมัครสินเชื่อโดยใช้ชื่อของคุณ

ส่วนเอกสารที่ต้องนำไปตรวจสอบ คือ

  • บัตรประจำตัวประชาชน หรือ
  • หนังสือเดินทาง หรือ
  • บัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าว

โดยเอกสารที่นำมาต้องเป็นเอกสารตัวจริงเท่านั้น และจุดให้บริการต่างๆ ที่คุณสามารถทำการตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง มีอยู่หลายแห่ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

คุณสามารถตรวจสอบเครดิตบูโรแบบรอรับได้เลย ภายใน 15 นาที รอรับได้เลย หลังยื่นเอกสารเสร็จเรียบร้อย โดยมีค่าบริการ 100 บาท

เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ทาง บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด จึงปรับวัน-เวลาให้บริการศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

กรุงเทพฯ และปริมณฑล แบบรอรับได้เลย (ค่าบริการ 100 บาท) ภายใน 15 นาที

วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9.00 – 16.30 น. (ใช้บัตรประชาชนของตนเอง)

1. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (สำนักงานใหญ่) อาคาร 2 ชั้น 2 และศูนย์ตรวจเครดิตบูโรเคลื่อนที่ (บริเวณลานจอดรถ) *รายงานข้อมูลเครดิต (บุคคลธรรมดาและมอบอำนาจ) l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดาและ,มอบอำนาจ) l นิติบุคคล l นิติบุคคล (มอบอำนาจ) l ชาวต่างชาติ

วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9.00 – 18.00 น. (ใช้บัตรประชาชนของตนเอง)

2. เครดิตบูโรคาเฟ่ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3 (โซนธนาคาร) (BTS สถานีอารีย์ ทางออก 1) *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

3. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (ภายในสถานี) *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

4. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ภายในสถานี) *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

5. Bureau Lab (บูโรแล็บ) ท่าเรือวังหลัง (ใกล้ประตูทางเข้าโรงพยาบาลศิริราช) บริการตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส) รับรายงานทางอีเมล…ได้ทันที *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 18.00 น. (ใช้บัตรประชาชนของตนเอง)

6. Bureau Lab (บูโรแล็บ) สถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม (ภายในสถานี) บริการตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส) รับรายงานทางอีเมล…ได้ทันที *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

7. Bureau Lab (บูโรแล็บ) สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต (ภายในสถานี) บริการตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส) รับรายงานทางอีเมล…ได้ทันที *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

8. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 3 ติดประกันสังคม *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 8.30 – 23.00 น. (ใช้บัตรประชาชนของตนเอง)

9. ชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน บริการตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส) รับรายงานทางอีเมล…ได้ทันที *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

10. Bureau Lab (บูโรแล็บ) สถานีกลางบางซื่อ (ด้านหลังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ประตูทางเข้า 1) (จุดติดตั้งนาฬิกาประจำสถานี หรือนาฬิกาหน้าปัดหมายเลข ๙) บริการตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส) รับรายงานทางอีเมล…ได้ทันที *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แบบส่งรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ทางอีเมลได้ทันที

1. ผ่านโมบายแอป “KKP Mobile” (ธนาคารเกียรตินาคินภัทร) บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง ได้ทันที

2. ผ่านโมบายแอป “Bureau OK” บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง *ลงทะเบียนใช้บริการได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรทุกแห่ง ได้ทันที

3. ผ่านโมบายแอป “Krungthai NEXT” (ธนาคารกรุงไทย) บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง ภายใน 24 ชั่วโมง (เป็นไปตามเงื่อนไขที่เครดิตบูโรกำหนด)

4. ผ่านโมบายแอป “MyMo” (ธนาคารออมสิน) บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง ภายใน 24 ชั่วโมง (เป็นไปตามเงื่อนไขที่เครดิตบูโรกำหนด)

5. ผ่านโมบายแอป “ttb touch” (ธนาคารทีทีบี) บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิต ภายใน 3 วันทำการ

กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

คุณสามารถตรวจสอบเครดิตบูโรแบบส่งรายงานกลับไปให้ทางไปรษณีย์ โดยส่งแบบลงทะเบียน ภายใน 7 วันทำการ ซึ่งมีค่าบริการ 150 บาท

กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แบบส่งรายงานกลับไปให้ทางไปรษณีย์ ลงทะเบียน (ค่าบริการ 150 บาท) ภายใน 7 วันทำการ

1. เคาน์เตอร์ธนาคาร (ทุกสาขา) (เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเอง และชาวต่างชาติ)

กรุงศรี, กรุงไทย, ธอส., แลนด์แอนด์เฮ้าส์ และ ธกส. (เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเอง)
– แจ้งเจ้าหน้าที่ ที่เคาน์เตอร์ พร้อมยื่นบัตรประชาชนของตนเอง

2. ใช้บัตร ATM กรุงไทย, ไทยพาณิชย์ (เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเอง)
– มีบัตรของธนาคารไหน ใช้ตู้ ATM ธนาคารนั้น
– ทำรายการผ่านหน้าจอ (เมนู ตรวจเครดิตบูโร)

3. ใช้โมบาย แอปพลิเคชัน สำหรับผู้ที่ลงทะเบียน ธนาคารมือถือกรุงไทย, ออมสิน (รายงานข้อมูลเครดิต บุคคลธรรมดาของตนเอง และเครดิตสกอริ่ง บุคคลธรรมดา) ทีทีบี (เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเอง)
– ทำรายการผ่านธนาคาร บนโทรศัพท์มือถือ

4. ใช้บริการธนาคารออนไลน์ กรุงไทย, กรุงศรี (เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเอง)
– มีบัญชีธนาคาร / ทำรายการผ่านเว็บไซต์

5. ที่ทำการไปรษณีย์ เฉพาะสาขาที่ให้บริการ (เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเอง) สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเครดิตบูโรเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center หรือ โทร.1545 หรือค้นหาสาขาไปรษณีย์ทั่วประเทศได้ที่ >>> www.thailandpost.co.th

การรายงานเครดิตบูโรเป็นความลับส่วนบุคคล
คุณต้องดำเนินการด้วยตัวเองเท่านั้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

16/8/2017

แหล่งที่มาจาก:

10 วิธี ประหยัดน้ำมันรถ ในยุคน้ำมันแพง!

คำถามยอดฮิตที่ผู้ขับขี่รถยนต์อยากรู้ เพราะในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ แถมราคาน้ำมันก็พุ่งไม่หยุด ไม่ว่าใครๆ ก็ต่างอยากจะประหยัดเงินในการเติมน้ำมันกันทั้งนั้น

บางคนอาจใช้รถยนต์รุ่นเก่าๆ ที่ซดน้ำมันไม่ใช่น้อย ทำให้ต้องเสียเงินกับการเติมน้ำมันไปเดือนหนึ่งเป็นหลักหลายพันบาท ถึงขนาดหลายคนเลือกที่จะนำรถคันนั้นไปติดแก๊ส LPG เพราะคิดว่าวิธีนี้จะช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันที่สุด

แต่จริงๆ แล้ว ผู้เชี่ยวชาญจาก CARRO ขอยืนยันว่ามันมีวิธีการประหยัดน้ำมันที่ง่ายกว่านั้น!! แถมยังเป็นวิธีง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้อีกด้วย ซึ่งวิธีเหล่านั้นจะประกอบไปด้วย …

10 วิธี ประหยัดน้ำมันรถ ในยุคน้ำมันแพง!

1. ชุดแต่งรถ อย่าต้านลม

สำหรับขาซิ่ง หรือคนที่ชอบแต่งรถทั้งหลาย คุณอาจจะยังไม่รู้ว่า การติดตั้งอุปกรณ์แต่งรถ หรือปรับเปลี่ยนรถให้มีความเท่ ความโฉบเฉี่ยวมากขึ้น อาจทำให้รถคุณกินน้ำมันเพิ่มขึ้น!!

เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านั้นจะเพิ่มแรงต้านการหมุนของล้อ และเพิ่มแรงต้านอากาศให้มากขึ้นนั่นเอง ดังนั้น ถ้าไม่อยากจะต้องเสียค่าน้ำมันแพง คุณก็ควรจะแต่งรถในปริมาณที่พอดีๆ นะจ๊ะ

2. ขนสัมภาระเท่าที่จำเป็น

เวลาที่คุณต้องออกเดินทางไกล และมีเหตุให้ต้องขนข้าวของไปเยอะ แนะนำให้ลองเลือกขนเฉพาะสิ่งของที่จำเป็น เพราะการบรรทุกของที่หนักจนเกินไป จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น

โดยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 20 กิโลกรัม ทำให้รถยนต์ของคุณกินน้ำมันมากถึงร้อยละ 1 เลยทีเดียว

10 วิธี ประหยัดน้ำมันรถ ในยุคน้ำมันแพง!

3. ควบคุมความเร็วให้คงที่

ข้อนี้อาจจะยากสักหน่อยสำหรับการขับรถในเมืองใหญ่ที่รถเยอะๆ อย่างกรุงเทพฯ เพราะคุณอาจจะต้องขับไปเบรกไป (เนื่องจากรถติด) แต่ถ้าหากคุณเดินทางไปต่างจังหวัด หรือว่าอาศัยอยู่ในบริเวณที่รถไม่เยอะ แนะนำให้คุณลองขับรถโดยใช้ความเร็วที่คงที่ จะช่วยให้ประหยัดน้ำมัน

พยายามใช้เกียร์รถให้เหมาะสมกับความเร็วรถ พยายามอย่าลากรอบสูงๆ เมื่อใช้เกียร์ต่ำ หรือใช้เกียร์สูง แต่ความเร็วต่ำๆ

4. ไม่ต้องคิกดาวน์ หรือขับกระชากก็ได้ ถ้าไม่จำเป็น

แม้ว่าการคิกดาวน์จะช่วยให้เร่งรถเพื่อแซงคันอื่นได้ฉับไวขึ้น แต่ทำบ่อยๆ ก็เปลืองน้ำมันอยู่ไม่ใช่น้อย การขับรถแบบกระชาก เบิ้ลเครื่อง นี่สิ้นเปลืองน้ำมันทันตาเห็น ทั้งเครื่องยนต์จะพังแถมยังอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าเดิมถึง 30%

กรณีขับรถเก่า ที่ยังมีปุ่ม O/D (Overdrive) ก็กดใช้ได้เลย เพราะไม่ต้องกดคันเร่งมาก เพื่อเรียกกำลังจากเครื่องยนต์ได้มากขึ้น เกียร์จะช่วยลดรอบเครื่องยนต์ให้ทำงานต่ำกว่าอัตราทดเกียร์ปกติที่มากกว่า 1.000 ช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้น หรือในรถยุคใหม่ ที่มีแป้น + – ทั้งบริเวณเกียร์ และแป้นหลังพวงมาลัย (Paddle Shifts) คุณก็เลือกเปลี่ยนเกียร์เองก็ได้เช่นกัน

10 วิธี ประหยัดน้ำมันรถ ในยุคน้ำมันแพง!

5. จอดรถ ต้องดับเครื่อง กับหาที่จอดในร่ม

เวลาที่คุณจอดรถไว้เฉยๆ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาไม่กี่นาที หรือว่าเป็นเวลานาน แนะนำว่าควรดับเครื่องยนต์ เพราะถึงแม้คุณจะจอดรถทิ้งไว้เฉยๆ โดยไม่ได้ขับไปไหน ก็ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันได้เหมือนกัน

และอย่าจอดรถตากแดดโดยไม่จำเป็น ทางที่ดีควรจอดรถในที่มีร่มเงาดีกว่า เมื่อช่วงสตาร์ทรถ เครื่องปรับอากาศจะได้ไม่ทำงานหนักเกินไป ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น

6. อย่าเลี้ยงคลัทช์

รู้หรือไม่? ยิ่งเลี้ยงคลัทช์ ก็ยิ่งทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น และทำให้แผ่นคลัทช์สึกหรอ บวกกับอายุการใช้งานที่น้อยลง

10 วิธี ประหยัดน้ำมันรถ ในยุคน้ำมันแพง!

7. หลีกเลี่ยงเส้นทางที่รถติด

วิธีนี้อาจยากหน่อย สำหรับคนที่ต้องขับรถไปเส้นทางรถติดทุกๆ วัน แต่ถ้าลองเตรียมตัว เช็คเส้นทางที่รถติดน้อยที่สุด หรืออาจจะใช้เส้นทางลัด ก็ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มาก เพราะว่าการเหยียบเบรคบ่อยๆ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน

8. ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์

รถยนต์ยุคใหม่หลายรุ่นมีเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ ช่วยประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม เช่น ปุ่ม Idling stop หยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราว เหมาะสำหรับใช้หยุดการทำงานของเครื่องยนต์เวลาที่รถติดไฟแดง หรือเวลาที่ต้องจอดรถทิ้งเอาไว้ ซึ่งพอเครื่องยนต์หยุดทำงาน ก็จะช่วยหยุดการจ่ายน้ำมันนั่นเอง

และหากรถรุ่นไหนที่มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน เพราะจะช่วยควบคุมความเร็วให้คงที่ ช่วยประหยัดน้ำมันได้

10 วิธี ประหยัดน้ำมันรถ ในยุคน้ำมันแพง!

9. เช็คสภาพลมยาง

การตรวจเช็คสภาพลมยางเป็นสิ่งที่คุณควรจะทำอยู่เสมอ โดยการตรวจเช็คสภาพลมยาง จะช่วยทำช่วยประหยัดน้ำมันได้ส่วนหนึ่ง

เพราะถ้าหากลมยางของคุณเกิดการอ่อนตัว ก็จะทำให้เกิดการเสียดทานระหว่างตัวยางกับพื้นถนน ซึ่งจะส่งผลทำให้เครื่องยนต์รับภาระในการหมุนล้อเพิ่มขึ้น จึงเป็นสาเหตุทำให้เปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นนั่นเอง

10. หมั่นตรวจเช็คสภาพรถ

เมื่อถึงเวลาครบกำหนดที่คุณต้องนำรถเข้าไปตรวจเช็คสภาพ ซึ่งการตรวจสภาพเครื่องยนต์ และอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากจะช่วยทำให้รถยนต์ของคุณพร้อมในการขับขี่ ยังช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันได้ด้วย

เนื่องจากการที่รถยนต์กินน้ำมัน อาจจะมีสาเหตุมาจากการที่อุปกรณ์ต่างๆ เสื่อมสภาพก็เป็นไปได้ ดังนั้นถ้าหากถึงเวลาที่ควรจะต้องนำรถไปเช็คสภาพ ก็ไม่ควรที่จะละเลย

วิธีการทั้งหมดที่ได้กล่าวมา เป็นการช่วยประหยัดเงินค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้เหลือเงินที่จะไปทำอย่างอื่นอีก แต่สำหรับคนที่อยากมีรถยนต์สักคัน ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ไป เพราะปัจจุบันมีรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันให้เลือกมากมาย แต่หากอยากประหยัดเงินเพิ่มขึ้น แถมมีเงินเหลือเก็บ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่ทนราคาน้ำมันแพงไม่ไหว อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์ประหยัดน้ำมันคันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express วิธีการขายรถในแบบยุคใหม่ ง่าย สะดวก รวดเร็ว ได้ราคา อีกทั้งยังลงขายได้ “ฟรี!” พร้อมรับเงินสดกลับบ้านทันที ภายใน 24 ชั่วโมง!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

เติมน้ำมันผิด จะเกิดอะไรขึ้น เครื่องยนต์จะเป็นยังไง

หากคุณเพิ่งจะซื้อรถคันใหม่มาใช้ได้ไม่นาน แล้วเจอกับปัญหา เติมน้ำมันผิด คุณอาจจะรู้สึกเหมือนว่ากำลังทำสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตลงไป แต่เชื่อหรือไม่ว่าปัญหาเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าที่คุณคิดเอาไว้มาก สาเหตุที่ทำให้ความผิดพลาดเล็กน้อยนี้เกิดขึ้นได้ง่าย นั่นก็เพราะชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงในท้องตลาดที่มีอยู่ด้วยกันหลากหลายชนิด ถึงแม้จะเป็นน้ำมันประเภทเดียวกัน เช่น น้ำมันดีเซล ก็ยังมีให้เลือกทั้ง B7, B10, B20 และดีเซลพรีเมี่ยม เลือกกันตาลายเลยทีเดียวเมื่อขับเข้าปั๊ม

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของเครื่องยนต์อีกต่างหาก ซึ่งถ้าหากคุณเผลอไปเติมน้ำมันผิดมาจริงๆ รู้ใจ จึงมีคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นมาฝากกัน

เติมน้ำมันผิด จะเกิดอะไรขึ้น เครื่องยนต์จะเป็นยังไง

เติมน้ำมันผิดแบบไหนเป็นภัยกับรถคุณมากกว่ากัน

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเดียวกันก็มีหลายชนิดให้เลือกใช้ ซึ่งถ้าหากคุณเติมน้ำมันดีเซล B10 อยู่เป็นประจำ คุณอาจจะสามารถเติมน้ำมัน B7 หรือ ดีเซลพรีเมี่ยมให้กับรถของคุณได้ ซึ่งถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นแต่ก็ช่วยให้ระบบเผาไหม้ทำงานได้ดีขึ้น สะอาดขึ้น

แต่ในกรณีที่ใช้แบบพรีเมียมอยู่แล้วเผลอไปเติมดีเซลที่มีความบริสุทธิ์ต่ำลง (มีสัดส่วนของไบโอดีเซลผสมเข้ามา) จะขึ้นอยู่กับเครื่องยนต์ของรถคุณว่ารองรับน้ำมันดีเซลชนิดนั้นหรือไม่ โดยการใช้น้ำมันดีเซลที่มีความบริสุทธิ์น้อยลง อาจจะไม่ได้ทำให้เครื่องยนต์เสียในทันที ยังสามารถสตาร์ทใช้งานรถของคุณได้ตามปกติ รวมทั้งสามารถเติมน้ำมันดีเซลชนิดเดิมที่ใช้อยู่เป็นประจำผสมลงไปได้ แต่ในระยะยาวนั้นอาจส่งผลให้เครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนบางอย่างเสื่อมลงได้เร็วกว่าที่ควรจะเป็น นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายราคาสูงหากต้องเปลี่ยนอะไหล่เครื่องยนต์ชุดใหญ่ก่อนเวลาอันควร

ส่วนการ เติมน้ำมันผิด อาการเป็นอย่างไร แบบที่เป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์ของคุณแน่นอนก็คือ การเติมน้ำมันผิดจากประเภทของเครื่องยนต์ โดนเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องยนต์ดีเซลแต่ดันเผลอเติมน้ำมันเบนซินลงไป จะส่งผลให้เครื่องยนต์ของรถเกิดความเสียหายได้ เนื่องจากรถยนต์ดีเซลใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นตัวหล่อลื่น ทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น แต่พอเติมน้ำมันเบนซินซึ่งมีส่วนผสมของเอทานอลลงไป ก็จะทำหน้าที่เหมือนตัวทำละลายน้ำมันหล่อลื่นที่เครื่องยนต์ดีเซลต้องการ

ทำให้เมื่อคุณสตาร์ทเครื่องยนต์ก็จะทำให้น้ำมันเบนซินถูกส่งหมุนเวียนในเครื่องยนต์ เพิ่มแรงเสียดทานระหว่างส่วนประกอบต่างๆ และทำให้ชิ้นส่วนเสียหายในที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายกับเครื่องยนต์รถของคุณ จึงควรรีบเปลี่ยนถ่ายและไล่ระบบน้ำมันโดยเร็วที่สุด

เติมน้ำมันผิด จะเกิดอะไรขึ้น เครื่องยนต์จะเป็นยังไง

ทำไมการเติมน้ำมันผิดประเภทแล้วถึงทำให้รถมีปัญหา

น้ำมันคนละชนิดกันจะมีระดับการเผาไหม้ของน้ำมันแตกต่างกัน ซึ่งเมื่อคุณเติมน้ำมันคนละประเภทลงในถังน้ำมันที่มีน้ำมันเดิมค้างอยู่ เมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์จะทำให้การเผาไหม้สะดุด ส่งผลให้การทำงานของลูกสูบไม่เป็นไปตามจังหวะที่ควรเป็น เครื่องยนต์ทำงานไม่ได้และทำให้เครื่องดับในที่สุด หากคุณเพิกเฉยไม่รีบแก้ไขปัญหา จะทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายอย่างถาวรได้

ดังนั้นเมื่อรู้ตัวแล้วว่า เติมน้ํามันรถผิด ก็ควรรีบทำการถ่ายน้ำมันนั้นออกและทำความสะอาดเครื่องยนต์รวมไปถึงชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ไม่มีสิ่งปนเปื้อนเหลืออยู่โดยเร็วที่สุด ก็จะช่วยให้คุณสามารถรักษาเครื่องยนต์เอาไว้ได้ดังเดิม

วิธีสังเกตอาการหากสงสัยว่า เติมน้ำมันผิด

หากคุณไม่รู้ตัวจริง ๆ ว่าเติมน้ำมันผิดประเภทไปหรือเปล่า แต่รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างว่ารถของคุณมีอาการต่างไปจากเดิม ให้สังเกตว่ามีอาการตามที่ระบุด้านล่างนี้หรือไม่ เพราะอาจเป็นไปได้ว่าคุณ เติมน้ำมันผิด นั่นเอง

1.หากเผลอเติมน้ำมันเบนซินลงในเครื่องยนต์ดีเซล อาการที่อาจเกิดขึ้นกับรถของคุณคือ

  • เครื่องยนต์มีเสียงดังขณะเร่งความเร็ว
  • อัตราการเร่งช้ากว่าปกติ และ ไม่สามารถทำความเร็วได้ดีเมื่อรอบเครื่องยนต์สูงขึ้น
  • ระบบแสดงไฟเตือนเครื่องยนต์ และส่งผลให้เครื่องยนต์ดับได้ในที่สุด
  • ไม่สามารถสตาร์ทรถใหม่ได้

2.หากเผลอเติมน้ำมันดีเซลลงในเครื่องยนต์เบนซิน อาการที่อาจเกิดขึ้นกับรถของคุณคือ

  • มีควันดำออกมาจากท่อไอเสียมากกว่าปกติ
  • เครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ และ อาจทำให้เครื่องยนต์ดับได้
  • มีปัญหาในการสตาร์ทเครื่องใหม่

เติมน้ำมันผิด จะเกิดอะไรขึ้น เครื่องยนต์จะเป็นยังไง

เติมน้ำมันผิดประเภทควรทำยังไง

ถ้าหากคุณรู้ตัวตั้งแต่ที่ปั๊มน้ำมันเลยว่าคุณได้เติมน้ำมันผิดประเภทให้กับรถของคุณไปแล้ว ถือว่าโชคดีทีเดียวที่คุณยังไม่ได้สตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะน้ำมันจะยังอยู่แค่ในถังน้ำมัน ยังไม่เกิดการหมุนเวียนไปที่เครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ซึ่งทำให้คุณแก้ไขความผิดพลาดของการเติมน้ำมันผิดได้ไม่ยาก คุณเพียงแจ้งให้พนักงานในปั๊มน้ำมันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และขอให้ช่างมาช่วยทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันรวมทั้งไล่ระบบน้ำมันของเครื่องยนต์ใหม่ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถใช้งานรถของคุณได้ตามปกติ โดยที่เครื่องยนต์ยังไม่ได้รับความเสียหาย

ถ้าเติมน้ำมันผิดแล้วสตาร์ทรถไปแล้ว ความโชคร้ายที่สุดจะอยู่ที่เมื่อคุณ เติมน้ำมันผิด แล้วขับรถออกไปโดยที่ไม่รู้อะไรเลยแล้วรถเกิดดับกลางทาง ถ้าหากมีการทำประกันรถยนต์เอาไว้ก็จะสามารถขอใช้บริการลากรถฉุกเฉินได้ ก็จะช่วยให้คุณเบาใจไปได้เยอะเลย แต่ถ้าหากว่าประกันรถยนต์ของคุณไม่ได้ครอบคลุมการดูแลในกรณีนี้เอาไว้ ก็ต้องรีบนำรถเข้าข้างทางโดยเร็วที่สุดแล้วเรียกให้ช่างมาดูจะดีกว่า

เติมน้ำมันผิด จะเกิดอะไรขึ้น เครื่องยนต์จะเป็นยังไง

ที่สำคัญ ! เราไม่แนะนำให้คุณฝืนขับรถไปที่อู่เอง เพราะเมื่อเครื่องยนต์มีการสูบฉีดน้ำมันเข้าสู่ระบบไปทั่วแล้ว จะยิ่งทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย แต่โดยทั่วไปแล้วเมื่อเครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติเครื่องก็จะดับไปโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว และคุณก็ไม่ควรฝืนหรือพยายามสตาร์ทเครื่องใหม่

โดยวิธีใน การดูแลรถเบื้องต้น เมื่อเติมน้ำมันผิดและทำการออกรถไปแล้ว ก็จะคล้ายกันกับกรณีที่ยังไม่ได้สตาร์ทรถออกไป คือ คุณต้องทำการถ่ายน้ำมันรถออกทั้งหมดและให้ช่างไล่ระบบน้ำมันให้ใหม่ รวมทั้งต้องล้างหัวเทียนเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้คุณต้องทำการเปลี่ยนไส้กรองใหม่เพื่อให้ไม่เกิดการปนเปื้อนกับน้ำมันที่เติมผิดไป จึงจะทำให้รถของคุณทำงานได้ตามปกติและไม่สร้างปัญหาให้กับเครื่องยนต์

เติมน้ำมันผิด จะเกิดอะไรขึ้น เครื่องยนต์จะเป็นยังไง

เห็นหรือยังว่าการ เติมน้ำมันผิด นั้นเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ และถึงแม้โอกาสในการเกิดขึ้นจะมีไม่มาก แต่ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ของคุณนั้นค่อนข้างซีเรียสเลยทีเดียว ดังนั้นการเรียนรู้ถึงวิธีการที่ถูกต้องในการ ”แก้ปัญหาเบื้องต้น” เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เอาไว้ จะช่วยให้คุณดูแลรถของคุณไม่ให้ได้รับความเสียหายได้ ที่สำคัญ การมีประกันรถยนต์ดี ๆ ก็จะช่วยให้คุณอุ่นใจได้มากกว่า ว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดแบบนี้ขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นที่ไหนหรือเมื่อไหร่ ก็พร้อมมีคนดูแลคุณแบบเตรียมสแตนบายให้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งที่รู้ใจ เรามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนเตรียมไว้ให้คุณตลอด 24 ชม. ทั่วประเทศไทย รับประกันคุณภาพงานซ่อมนานถึง 12 เดือนอีกด้วย

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจได้ทาง FB Fan page: Roojai หรือ คลิก add Official LINE ของเราไว้ได้เช่นกัน

9 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการขับรถ สำหรับมือใหม่

การขับรถสำหรับมือใหม่ แน่นอนว่าทุกคนล้วนจะต้องเคยผ่านกันมาทั้งนั้น ที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง โอกาสเกิดอันตรายได้ง่ายเนื่องจากผู้ขับขี่ยังขาดประสบการณ์และความชำนาญบนท้องถนน อาจจะทำให้เกิดการผิดพลาดหรือรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ไม่ทันท่วงทีนัก

9 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการขับรถ สำหรับมือใหม่

และเมื่อให้เป็นการเตรียมตัวที่ดียิ่งกว่าเดิม รู้ใจได้รวบรวม 9 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การขับรถสำหรับมือใหม่ มาเพื่อเป็นคำแนะนำในการเริ่มต้นขับขี่ ให้คุณได้ตระหนักและระมัดระวังเป็นพิเศษ เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ช่วยลดความเสี่ยงให้แก่ทรัพย์สินและชีวิตของคุณ จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกัน

เคล็ดลับการขับรถสำหรับมือใหม่

ไม่ว่าจะเป็นการขับรถที่ไหน ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ด้านการขับรถที่ผู้ใช้รถทุกคนล้วนต้องเคยผ่านมา ในบางครั้งก็เป็นประสบการณ์ที่หวาดเสียวหรือมีสถานการณ์ที่น่าพึงพอใจ อย่างไรก็ตาม จะดีที่สุดถ้าหากเริ่มต้นการขับรถด้วยความปลอดภัยและสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะนำมาซึ่งความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินและชีวิตของคุณได้

สำหรับใครที่กำลังเพิ่งเริ่มต้นเรียนขับรถ เป็นมือใหม่ ขับรถช้า ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนัก ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดในการขับขี่ เราได้รวบรวมเคล็ดลับการขับรถสำหรับมือใหม่หัดขับที่จะทำให้คุณได้เข้าใจถึงข้อควรรู้สำคัญ คำแนะนำที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

1.ทำความคุ้นเคยกับรถของคุณ

สิ่งแรกที่คุณจะต้องเรียนรู้ในการเป็นมือใหม่หัดขับก็คือ การทำความคุ้นเคยกับรถยนต์ของคุณให้มากที่สุด เพื่อให้คุณมีความมั่นใจและคุ้นชินกับรายละเอียดต่าง ๆ คุณจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนประกอบของรถในทีละขั้นตอนเพื่อให้เกิดความรู้ถึงข้อมูลพื้นฐานที่สิ่งเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคต ให้การขับรถของคุณราบรื่นและรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนเกียร์รถยนต์ คุณจะต้องรู้ถึงเวลาและเงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับการวางตำแหน่งเกียร์ จังหวะการใช้เกียร์เมื่ออยู่ในสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงระดับความเร็วของรถยนต์ของคุณ

9 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการขับรถ สำหรับมือใหม่

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ควรที่จะปรับตำแหน่งของคุณให้เกิดความเหมาะสมเพื่อความสะดวกสบายในการขับรถมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ก่อนออกสตาร์ทรถควรที่จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปรับกระจกมองหลังและเบาะนั่งอย่างเหมาะสมแล้วหรือเปล่า ความสะดวกภายในรถจะช่วยลดความตึงเครียด บรรเทาความประหม่าสำหรับ มือใหม่หัดขับได้

นอกเหนือจากตำแหน่งของกระจกมองหลังและเบาะนั่งแล้ว คุณควรที่จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าหลังของคุณพิงเบาะนั่งในตำแหน่งที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้รู้สึกเหนื่อยล้าหรือแข็งมากจนเกินไป พยายามค้นหาและใช้ตำแหน่งที่นั่งที่สามารถให้คุณมองเห็นสภาพรอบรถได้อย่างชัดเจนมากที่สุด รวมถึงการเช็กตำแหน่งเข่าที่ไม่ให้ยืดจนเกินไปเพื่อให้คุณสามารถควบคุมคันเร่ง เบรก และคลัตช์ได้อย่างง่ายดาย

2.วางแผนและศึกษาเส้นทางการเดินทางให้ดี

การขับรถสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเส้นทางหรือการขับขี่มาก อาจจะทำให้คุณต้องมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเพื่อต้องขับขี่ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานที่ใหม่ หรือการขับรถไปต่างจังหวัด

ซึ่งสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องจำไว้อยู่เสมอก็คือ อย่าไว้วางใจใน Google Map มากจนเกินไป เพราะในบางครั้ง Google Map จะพาคุณไปยังเส้นทางลัดเพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางและนำมาซึ่งปัญหาด้านการขับขี่เมื่อคุณต้องไปเจอถนนลูกรังหรือพื้นที่ทางแคบ รวมถึงพื้นที่ในช่วงกลางคืนที่มีอันตราย

เพราะฉะนั้น มือใหม่หัดขับ ควรมีการเตรียมความพร้อมในเส้นทางการเดินทางที่ไม่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นแถวบ้าน ในเมืองหรือต่างจังหวัด มีการศึกษาเส้นทาง วางแผนการเดินทาง ประเมินความเสี่ยงเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดและเดินทางได้อย่างราบรื่น อีกทั้งการวางแผนและเตรียมพร้อมด้านการเดินทางยังช่วยให้คุณสามารถกำหนดระยะเวลาการเดินทางได้ดีเลยทีเดียว

3.หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนสมาธิในการขับรถ

สมาธิ คือสิ่งที่สำคัญสำหรับการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมือใหม่ขับรถ ซึ่งในทุกครั้งเมื่อคุณอยู่หลังพวงมาลัย นั่นแสดงว่าคุณกำลังอยู่ในสภาวะหรือทำงานที่ต้องใช้สมาธิที่สูงมากจริง ๆ ควรที่จะปรับกระจกมองหลัง คาดเข็มขัดนิรภัยและต้องปฏิบัติตามกฎจราจรเมื่อขับขี่บนท้องถนน ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่สามารถเบี่ยงเบนสมาธิของคุณ ยกตัวอย่างเช่น ในระหว่างที่คุณติดอยู่ในช่วงรถติด คุณจะต้องตั้งใจและมีสติอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะได้ตื่นตัวและตอบสนองได้ดีเมื่อต้องเคลื่อนรถ

9 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการขับรถ สำหรับมือใหม่

2 สิ่งพื้นฐานที่จะต้องจำเอาไว้ในขณะขับรถ อย่างแรกคือ อย่าใช้มือถือในขณะขับรถ ! และอย่างที่สอง อย่าเมาแล้วขับ นอกจากนี้ ในฐานะ มือใหม่หัดขับ คุณอาจจะต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารภายในรถ การเปิดเพลงเสียงดัง หรือการพูดคุยเรื่องสำคัญและลึกซึ้งในขณะขับรถ เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้อาจจะทำให้คุณเสียสมาธิได้ง่ายและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง

4.ให้ความสำคัญกับการ “ถอยหลัง”

การถอยหลัง คือสิ่งสำคัญสำหรับการขับขี่และเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การถอยหลังรถออกจากซอย การถอยหลังรถเข้าซอย รวมถึงการถอยหลังรถเข้าจอด ที่ทำให้หลายคนต้องเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เพราะฉะนั้น มือใหม่ที่ ขับรถไม่คล่อง จะต้องให้ความสำคัญสำหรับการถอยหลัง หมั่นฝึกฝนและเรียนรู้เพื่อให้เกิดความคล่องมากที่สุดเพื่อให้คุณสามารถเคลื่อนรถ ถอยหลังได้อย่างเชี่ยวชาญและยังประหยัดเวลาได้อีกด้วย

5.อย่าลืมใช้สัญญาณไฟ (เลี้ยว)

ต้องห้ามลืมใช้สัญญาณไฟเลี้ยวเป็นอันขาด โปรดจำไว้เสมอว่า ก่อนเริ่มเลี้ยวอย่างน้อยประมาณ 30 เมตรจะต้องเปิดไฟเลี้ยวเอาไว้ เปิดทุกครั้งให้ติดเป็นนิสัย สัญญาณไฟเลี้ยวจะแสดงให้แก่ผู้ขับขี่คนอื่น ๆ ทราบเมื่อคุณกำลังจะเลี้ยวรถ ต้องการเลี้ยวรถ ต้องการหยุดรถชั่วขณะหรือต้องการกลับรถ

9 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการขับรถ สำหรับมือใหม่

6.อย่าเร่งความเร็วมากเกินไป !

ในการขับรถสำหรับมือใหม่ คำแนะนำที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือ อย่าเร่งความเร็วรถมากจนเกินไป เพราะคุณยังไม่มีความชำนาญและขับขี่ได้คล่องตัว อาจจะทำให้สูญเสียการควบคุมรถยนต์เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง แนะนำให้ขับตามความเหมาะสมและขับด้วยความเร็วที่แนะนำตามป้ายจราจรบนท้องถนนจะดีที่สุด

7.รักษาระยะห่างกับรถคันอื่นสักหน่อย

พยายามรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าและคันอื่น ๆ อย่างเหมาะสม อย่าอยู่ใกล้รถคันอื่น ๆ มากจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงและยากมากยิ่งขึ้นในการดำเนินการอื่น ๆ เมื่อมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แนะนำว่าควรเว้นระยะห่างเอาไว้ที่ราว ๆ 1 – 2 ระยะคันรถ โดยให้ประเมินสภาพการจราจรและความเหมาะสมในช่วงเวลานั้น ๆ

9 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการขับรถ สำหรับมือใหม่

8.แตรรถ อย่าใช้มั่ว !

แตร เป็นส่วนประกอบของรถยนต์ที่มีไว้เพื่อเป็นสัญญาณสำหรับ ผู้ใช้รถใช้ถนน รอบ ๆ ตัวของคุณ เป็นสิ่งที่จะแจ้งให้แก่ผู้ที่ไม่ทราบตำแหน่งของคุณได้เห็น โปรดจำไว้เสมอว่า อย่าใช้แตรมากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้รบกวนผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น ๆ ก่อความรำคาญและทำให้เสียสมาธิได้

9.ประกันรถยนต์สำหรับมือใหม่หัดขับ

ต้องบอกเลยว่าการขับขี่บนท้องถนน เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงและยากที่จะคาดเดาถึงสถานการณ์นั้น ๆ ได้ ดังนั้นจึงต้องมีการขับรถที่ระมัดระวังอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ จริงมั้ย ?

ซึ่งถ้าหากเป็นมือใหม่หัดขับรถนั้น แนะนำให้ ทำประกันรถยนต์ เอาไว้ เพราะนอกเหนือจากการติดต่อรถพยาบาล การแจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ การเรียกประกันจะช่วยให้มือใหม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเร่งด่วน และครอบคลุมมากที่สุด

เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนจะต้องเคยผ่านมา มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากประสบการณ์ที่น้อยและไม่ชำนาญในด้านการขับขี่ เพราะฉะนั้นการเตรียมความพร้อมด้วย 9 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการขับรถสำหรับมือใหม่ข้างต้นนี้ จะช่วยให้คุณได้เข้าใจถึงรายละเอียดต่าง ๆ การเตรียมตัวที่ดี รวมไปถึงสิ่งที่ลืมไม่ได้เลยสำหรับมือใหม่หัดขับนั่นก็คือ ประกันรถยนต์ ที่แม้จะเป็นมือใหม่ก็มองหาความคุ้มค่าได้กับประกันรถยนต์ออนไลน์จากรู้ใจ ซื้อง่ายในไม่กี่นาที ราคาดี คุ้มครองสูง รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า สูงสุด 30%

คุณยังสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นใหม่ ๆ จากรู้ใจได้ทาง FB Fan page: Roojai หรือ คลิก add Official Line ของเราไว้ได้เลย

3 เคล็ดไม่ลับ วิธีเช็ดกระจกใสไร้ฝุ่น ไร้คราบน้ำ คราบหินปูน

ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ถ้าหากคุณยังไม่ได้ Word From Home หรือทำงานที่บ้านเป็นหลัก คุณอาจต้องใช้รถยนต์ในช่วงนี้มากหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เพราะเสี่ยงกับโควิด-19 มาก

แต่ในช่วงหน้าฝน ต้องขับรถลุยฝนกันเป็นประจำ ยิ่งตามร้าน Car Care ก็ยังติด Lockdown หลายเจ้าก็ยังปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้ ทำให้หลายคนต้องสลัดความขี้เกียจ ขยันทำความสะอาดรถกันบ่อยหน่อย

ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในเวลาขับรถ นั่นคือ “ทัศนวิสัยที่ดี” แต่กระจกรถเขรอะไปด้วยคราบน้ำ ฝุ่น ขี้นก หรือรอยน้ำยางจากต้นไม้ ฯลฯ แบบนี้จะไหวหรือ? MR.CARRO เลยขอมาแนะนำ 3 เคล็ดไม่ลับ วิธีเช็ดกระจกใสไร้ฝุ่น ไร้คราบน้ำ ตลอดช่วงหน้าฝน กันครับ

ก่อนอื่นเลย … เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ทั้งผ้าแห้งสะอาด หรือหนังสือพิมพ์ (ยุคนี้คงแทบไม่มีใครซื้ออ่านกันแล้ว แต่ถ้ามีก็ใช้ได้) ฟองน้ำเช็ดกระจกรถ หรือแปรงเช็ดกระจก แว็กซ์สำหรับเช็ดรถ และถังน้ำ

3 เคล็ดไม่ลับ วิธีเช็ดกระจกใสไร้ฝุ่น ไร้คราบน้ำ คราบหินปูน

1. กรณีเช็ดกระจกรถ ด้วยแชมพูล้างรถ

นำเกลือหรือแชมพูล้างรถ มาผสมกับน้ำสะอาด แล้วเช็ดทำความสะอาดกระจกให้ทั่ว ซึ่งจะช่วยให้ขจัดคราบสกปรก กระจกมัว คราบน้ำ คราบฝุ่น ออกได้

หรือจะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ เช็ดด้วยเบคกิ้งโซดาผสมน้ำหรือน้ำส้มสายชู เช็ดกระจกก็ได้เช่นกัน

3 เคล็ดไม่ลับ วิธีเช็ดกระจกใสไร้ฝุ่น ไร้คราบน้ำ คราบหินปูน

2. กรณีเช็ดกระจกรถ ด้วยแว็กซ์สำหรับเช็ดรถ

หลายคนอาจไม่ทราบว่า แว็กซ์สำหรับเช็ดรถ (ควรเลือกแบบไม่มีผงขัด เพราะอาจทำให้กระจกรถเป็นรอยขนแมวได้) ก็เช็ดกระจกรถให้เงาวาวได้ กับเคล็ดลับง่ายๆ เพียงใช้แว็กซ์เช็ดรถผสมกับน้ำ คนให้เข้ากัน แล้วก็เอาฟองน้ำไปเช็ดบริเวณกระจก แว็กซ์นอกจากจะช่วยให้ผิวกระจกรถคุณเงางามแล้ว ชั้นฟิล์มบางๆ ของแว็กซ์ ยังช่วยให้น้ำไม่เกาะตัวกันบริเวณกระจกรถอีกด้วยครับ

3 เคล็ดไม่ลับ วิธีเช็ดกระจกใสไร้ฝุ่น ไร้คราบน้ำ คราบหินปูน

3. ลบรอยขีดข่วน หรือคราบน้ำ คราบหินปูน

กรณีรถคุณมีรอยขีดข่วนมากที่กระจกรถ ลองใช้กลีเซอรีนหรือยาสีฟัน โดยนำมาเช็ดจนทั่วกระจกแล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดออก ก็ช่วยให้รอยขีดข่วนน้อยลงไปได้

และในส่วนของรถเก่าๆ บางคัน อาจจะมีรอยคราบน้ำที่แห้งกรัง ฝังแน่นติดบริเวณเนื้อกระจก ซึ่งสาเหตุอาจมาจากการใช้น้ำประปา หรือใช้น้ำบาดาลมาล้างรถ ซึ่งมีแร่ธาตุหลากหลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียม และแมกนีเซียม ทำให้น้ำมีความกระด้างสูง ถ้าใช้รถไปนานๆ แล้วไม่เคยเช็ดกระจก ก็จะเกิดคราบหินปูนขึ้นมา

คราบหินปูนอาจเช็ดออกยากหน่อย ขั้นต้นให้ลองใช้น้ำส้มสายชู เจือกับน้ำ ลองค่อยๆ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดดู ถ้ายังไม่ออก ลองเปลี่ยนมาใช้น้ำยาขจัดคราบน้ำบนกระจกรถ กรดเกลือ หรือน้ำยาล้างห้องน้ำ ที่มีส่วนผสมของกรดเกลืออย่างน้อย 10 – 20% แต่ถ้ายังไม่ออกอีก ให้ใช้มีดโกนขูดกระจก หรือไปให้ร้านที่มีเครื่องขัดผิวกระจกขัดออกโลด …

3 เคล็ดไม่ลับ วิธีเช็ดกระจกใสไร้ฝุ่น ไร้คราบน้ำ คราบหินปูน

ทุกครั้งของการเช็ดกระจกรถยนต์ หรือขจัดคราบหินปูนบนกระจกรถ ต้องระวังอย่าให้บรรดาแว็กซ์ น้ำส้มสายชู หรือน้ำยาล้างห้องน้ำ กระเด้นเข้าตา ปาก หรือผิวหนัง และอย่าให้น้ำยาล้างห้องน้ำสัมผัสกับตัวรถ และส่วนอื่นๆ ของรถยนต์เด็ดขาด เพราะอาจไปกัดสีรถยนต์ของคุณแทนนะครับ

เพียงแค่ลองทำตามดู แค่นี้รถของคุณ ก็จะมีกระจกสวยใส พร้อมขับรถไปตลอดหน้าฝนแล้วล่ะครับ

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

1 2 3 8