MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

ถ้าจะให้พูดถึง “บริษัท เรียวฮิน เคอิคะคุ” (株式会社良品計画) หลายคนมึนตึ้บ ว่านี่คือบริษัทญี่ปุ่นอะไรกันแน่???

แต่ถ้าจะให้พูดถึงแบรนด์ “MUJI” (มูจิ) แบรนด์ไลฟ์สไตล์สัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลก ก็บริษัทนี้แหละครับ เป็นผู้ให้กำเนิด “MUJI” ขึ้นมา ตั้งแต่ค่านิยม ความมุ่งมั่นของบริษัท การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การดำเนินธุรกิจตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน อนาคต และความสำเร็จของแนวคิด “สินค้าคุณภาพดีที่ไม่มียี่ห้อ” ของ MUJI

MUJI ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม 1980 โดย Seiji Tsutsumi (เซจิ ซึซูมิ – 辻井喬) ประธานห้างสรรพสินค้าเซบู (Seibu) ลูกของผู้ก่อตั้งกิจการรถไฟ Seibu Railway และเจ้าของกิจการต่างๆ อีกหลายอย่าง

MUJI มีชื่อเต็มๆ ว่า “มูจิรุชิ เรียวฮิน” (Mujirushi Ryohin หรือ 無印良品) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า ไม่มีแบรนด์ (No Brand) หรือมีความหมายว่า “สินค้าคุณภาพดีที่ไม่มียี่ห้อ” เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพดีมากมาย รวมถึงของใช้ในบ้าน เครื่องแต่งกาย และอาหาร เป็นต้น

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

MUJI ตั้งอยู่บนหลักการสามข้อ ซึ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงทุกวันนี้ ได้แก่

1. การเลือกสรรวัสดุ
2. ปรับปรุงพัฒนากระบวนการต่างๆ
3. สร้างบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่าย

ผลิตภัณฑ์ของ MUJI เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตที่สมเหตุสมผลที่สุด มีความรวบรัด แต่ไม่ใช่สไตล์มินิมอล
หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เปรียบเสมือนภาชนะที่ว่างเปล่า ความเรียบง่ายและความว่างเปล่าก่อให้เกิดความเป็นสากลขั้นสูงสุด เป็นการยอมรับความรู้สึกและความนึกคิดของทุกคน

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

จนผลิตภัณฑ์ของ MUJI สามารถฉีกทุกตำราการตลาด เอาชนะความนิยมชมชอบมากมาย และแพร่หลายไปไม่เพียงแต่ทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่รวมไปถึงที่ต่างๆ ทั่วโลก ในปี 2021 MUJI ทำรายได้ไปกว่า 151,000 ล้านบาท มีสินค้ากว่า 7,000 รายการ และมีกว่า 1,000 สาขาทั่วโลก

ซึ่งในไทยเอง นับตั้งแต่ปี 2556 บริษัทแม่ MUJI ประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมทุนกับ “เซ็นทรัล” จัดตั้ง “บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียน 520 ล้านบาท ร่วมทุนกันและเดินหน้าขยายธุรกิจในไทยเชิงรุกมากขึ้น

แต่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนเลยว่า MUJI เคยคิดผลิตรถยนต์ออกมาขายด้วย!

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

ใช่ครับ แม้ว่าหลายปีก่อน MUJI จะมีแนวคิดพัฒนารถยนต์ไร้คนขับที่ชื่อว่า Gacha ออกมา แต่ในวันนี้ผมกำลังจะพูดถึง MUJI+Car 1000 (มูจิ คาร์ 1000) รถยนต์รุ่นแรกที่ทาง MUJI ร่วมกับทาง Nissan (นิสสัน) นำเอา Nissan March (K11) (นิสสัน มาร์ช) มาผลิตจำหน่ายในแบรนด์ของ MUJI

โดยพร้อมรับจองผ่านทางเว็บไซต์ muji.net ในเดือนเมษายน 2001 และพร้อมส่งมอบรถในวันที่ 11 พฤษภาคม 2001 ที่โชว์รูม Nissan ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 1,000 คันเท่านั้น ในราคา 930,000 เยน!

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

ตัวรถภายนอกมาพร้อมความเรียบง่ายสไตล์ MUJI เลย ไม่มีโลโก้แบรนด์ ไม่มีชื่อรุ่น กันชนหน้า-หลัง สีดำ กระจกมองข้างสีดำ ล้อรถเป็นแบบกระทะเหล็กขนาด 13 นิ้ว มาพร้อมสีโปรโมทตัวรถ อันเป็นสัญลักษณ์ของ MUJI

ส่วนห้องโดยสารภายในโทนสี Ivory ออกแบบในสไตล์ 2 ที่นั่ง + พื้นที่อิสระด้านหลัง ออกแบบเบาะนั่งหลังใหม่เป็นแบบไวนิล สามารถวางของเปียกได้ และปรับพับแบบ 60:40 ได้ พร้อมจุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก มีแอร์, วิทยุ 1 din พร้อม CD, กระจกกรองแสง UV, กระจกมองข้างพับไฟฟ้า, พรมปูพื้น ที่วางแก้วน้ำข้างประตู และกุญแจรถที่ออกแบบเป็นพิเศษมาให้

มีมิติตัวรถยาว 3,720 มม. กว้าง 1,585 มม. สูง 1,425 มม. ระยะฐานล้อ 2,360 มม. มีน้ำหนักตัวรถ 870 กิโลกรัม

MUJI Car 1000 : รถยนต์แบรนด์ MUJI กับความสำเร็จ!

มาพร้อมขุมพลังรหัส CG10DE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 60 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 84 นิวตัน-เมตร (8.6 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด E-Atx ประหยัดน้ำมัน 16.6 กม./ลิตร (ตามมาตรฐานโหมด 10-15)

และพิเศษสุด! ผู้สั่งจองรถในครั้งนี้จะได้รับจักรยานพับได้ขนาด 14 นิ้ว ของ MUJI มูลค่า 29,800 เยน ที่ออกแบบมาเพื่อ Muji+Car 1000 โดยเฉพาะ

ซึ่ง MUJI จะสามารถจำหน่ายรถรุ่นพิเศษ 1,000 คันนี้ไปได้จนหมด ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แม้ว่าในปัจจุบัน MUJI จะไม่ได้จัดทำรถรุ่นพิเศษแนวนี้ออกมาขายแล้ว แต่เชื่อว่าถ้าใครมีรถรุ่นนี้เก็บไว้ มีราคาดีอย่างแน่นอนครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

ส่องนักเตะและรถยนต์คู่ใจจากทีมแมนยู - ลิเวอร์พูล ใน THE MATCH

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลอาชีพในระดับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก รวมถึงเป็นนักฟุตบอลในสังกัดสโมสรชื่อดังระดับโลก อาทิ แมนยู หรือ ลิเวอร์พูล แน่นอนว่าชื่อเสียง บารมี รวมไปถึงเงินทองที่ไหลมาเทมามหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นสัญญาแต่ละครั้ง ค่าตัวในการฝึกซ้อมแต่ละครั้ง หรือการได้เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาต่างๆ ทั่วโลก …

Carro (คาร์โร) ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของศึกแดงเดือดในไทย แมนยู – ลิเวอร์พูล รายการ “THE MATCH BANGKOK Century Cup 2022” มีนักบอลชื่อดังระดับโลกมาร่วมแข่งในรายการครั้งนี้ หลายคนมีรายได้ไม่ธรรมดา เช่น คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo) ติดอันดับนักฟุตบอลมีรายได้มากที่สุดในโลก จากรายได้ฤดูกาล 2021-22 ทั้งค่าเหนื่อย และสัญญาสปอนเซอร์ส่วนบุคคลต่างๆ ก่อนหักภาษี รวมเป็นเงินถึง 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4,125 ล้านบาท) แบ่งเป็นค่าเหนื่อยรายปี 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,310 ล้านบาท) กับรายได้นอกสนาม 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,650 ล้านบาท)

ทำให้ “รถยนต์” ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่นักฟุตบอลดังๆ ชื่นชอบและปรารถนา พากันสะสมกันไว้ในคอลเลกชั่นเพียบ

Carro ขอนำเสนอรถยนต์ขวัญใจ 6 นักเตะศึกแดงเดือดจากทีมแมนยู – ลิเวอร์พูล ที่จะมาแข่งขัน THE MATCH BANGKOK Century Cup 2022 ในไทย ให้ทุกท่านได้อ่านกันจ้า

ส่อง 6 รถนักฟุตบอลคู่ใจ แมนยู - ลิเวอร์พูล ในศึกแดงเดือด THE MATCH

1. Cristiano Ronaldo

Cristiano Ronaldo dos Santos Aveiro (คริสเตียโน่ โรนัลโด้) ปัจจุบันเล่นให้ตำแหน่งกองหน้าของ Manchester United (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด) สโมสรในพรีเมียร์ลีก และเป็นกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ด้วยความสามารถระดับ “World Class”

โดยในศึก The Match ครั้งนี้ โรนัลโด้ยืนยันว่ามาร่วมศึกแดงเดือดในไทยแน่นอน ซึ่งเป็นที่ทราบกันไปก่อนหน้านั้นแล้ว ว่าโรนัลโด้ เป็นนักฟุตบอลที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก และมีทรัพย์สินมากกว่า 16,000 ล้านบาท รวมไปถึงยังมีคอลเลกชั่นรถยนต์ที่สะสมไว้นับพันล้านบาท

และถ้าใครจำกันได้ เขาคนนี้คือพรีเซ็นเตอร์ของ Toyota Hilux Vigo Champ (ในปี 2554 – 2556) ด้วยนะครับ! ด้วยมูลค่าที่ประมาณการไว้อยู่ที่ 3-5 ล้านยูโร หรือ 120-150 ล้านบาท

ส่วนรถ Supercar คันโปรดของ Cristiano Ronaldo แน่นอน ยังคงเป็นรถยี่ห้อ Bugatti (บูกัตติ) เช่นเคย โดยคันล่าสุดคือ Bugatti Centodieci (บูกัตติ เซนต์โตดีซิ) ชื่อรุ่นแปลเป็นภาษาอังกฤษ คือ “Hundred Ten” หรือ 110 ซึ่งเป็นรุ่นฉลองแบรนด์ครบรอบ 110 ปี

เป็นรถรุ่น Limited ที่มีราคาแพงกว่าเดิมมาก และการออกแบบยังคงไว้ซึ่งเส้นสายของรถ Bugatti รุ่นในตำนานอย่าง EB110 รอบคัน ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Chiron แต่ลดน้ำหนักให้เบาลงกว่าเดิม 20 กิโลกรัม

มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ W16 ขนาด 8.0 ลิตร Twin Turbo 4 ลูก ให้แรงม้าสูงสุด 1,600 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที มีแรงม้าต่อน้ำหนักที่ 1.13 กิโลกรัม/แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด DSG บนระบบขับเคลื่อน All-Wheel Drive

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.4 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ในเวลา 6.1 วินาที อัตราเร่ง 0-300 กม./ชม. ในเวลา 13.1 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 380 กม./ชม. (ถูกจำกัดไว้)

ผลิตจำกัดเพียง 10 คัน ด้วยราคากว่า 9,400,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 322 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษี) ซึ่งราคาแพงขนาดนี้ แต่ก็ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของโรนัลโด้ร่วงแต่ประการใด

ส่อง 6 รถนักฟุตบอลคู่ใจ แมนยู - ลิเวอร์พูล ในศึกแดงเดือด THE MATCH

2. Harry Maguire

Jacob Harry Maguire (แฮร์รี่ แม็คไกวร์) เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหลังให้กับ Manchester United (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด) และทีมชาติอังกฤษ ได้ฉายาว่าเป็นกองหลังร่างโย่ง มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก

เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับ ทีมเชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ช่วงปี 2011 – 2014 ก่อนจะย้ายมาร่วมทีม ฮัลล์ซิตี้ ช่วงปี 2014 – 2017 และเลสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะมาอยู่แมนยูในปัจจุบัน ด้วยค่าตัวกว่า 80 ล้านปอนด์ กับตำแหน่งกัปตันทีม ตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายไปร่วมทีม

แม้ว่า Harry Maguire เป็นนักเตะยอดเยี่ยมก็จริง แต่ก็มีข้อผิดพลาดกับรูปแบบการเล่นบ้างในบ้างครั้ง แต่โดยรวมแล้วถือว่า เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และกลายเป็นกองหลังที่ไว้ใจได้มากที่สุดของทีม

และรถยนต์คันโปรดของ Harry Maguire นั่นคือ Range Rover Sport SVR (เรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ต เอสวีอาร์) SUV สุดหรูทรงพลัง พร้อมป้ายทะเบียนในชื่อและตัวเลขของตัวเอง ใช้ลุยไปซ้อมฟุตบอล แข่งขันฟุตบอลได้ทุกอาทิตย์

ส่องนักเตะและรถยนต์คู่ใจจากทีมแมนยู - ลิเวอร์พูล ใน THE MATCH

3. Bruno Fernandes

Bruno Miguel Borges Fernandes (บรูโน่ เฟอร์นานเดส) เป็นนักฟุตบอลชาวโปรตุเกส ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางให้กับ Manchester United แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และทีมชาติโปรตุเกส ที่ถูกซื้อตัวมาในราคาสูงถึง 55 ล้านปอนด์

ซึ่งตั้งแต่ Bruno Fernandes เข้ามาใน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ทุกๆ คนในทีม เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพาทีมไปยังจุดมุ่งหมาย สร้างความสำเร็จ ที่เหล่าแฟนบอลรอคอยกัน

สำหรับรถคันโปรดของ Bruno Fernandes นั่นคือ Porsche Panamera Turbo S e-Hybrid (ปอร์เช่ พานาเมร่า เทอร์โบ เอส อี-ไฮบริด) แรงสุดๆ ด้วยเครื่องยนต์ V8 Turbo ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงถึง 680 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที 1,400 รอบ/นาที ถือเป็นรถยนต์นั่งที่แรงที่สุดเท่าที่ Porsche เคยผลิตมา

อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 310 กม./ชม. แถมประหยัดน้ำมันได้ถึง 34.4 กม./ลิตร ทีเดียว พร้อมกับขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนๆ ไกลถึง 50 กิโลเมตร

ส่องนักเตะและรถยนต์คู่ใจจากทีมแมนยู - ลิเวอร์พูล ใน THE MATCH

4. Mohamed Salah

Mohammed Salah Ghaly (โมฮาเหม็ด ซาลาห์) เป็นนักฟุตบอลชาวอียิปต์ ปัจจุบันเล่นให้กับลิเวอร์พูล และทีมชาติอียิปต์ ในตำแหน่งกองหน้า แถมยังเป็นคนที่ช่วยให้ อียิปต์ ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1990 ปัจจุบันรับค่าเหนื่อยระดับ 400,000 ปอนด์/สัปดาห์

แถม ซาลาห์ ยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อในอังกฤษเมื่อปีที่แล้วว่า “จะอยู่ลิเวอร์พูล ไปจนวันสุดท้ายของการเล่นฟุตบอล แต่ผมพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในมือผม มันขึ้นอยู่กับสโมสรว่า ต้องการหรือไม่ต้องการผม”

แม้ว่า Mohamed Salah จะมีรถตัว Top หรือ Supercar เก็บสะสมไว้เป็นจำนวนมาก แต่รถรุ่นที่จัดว่ามีราคาแพง และเป็นรถคันโปรดของซาลาห์ คงต้องยกให้กับ Bentley Continental GT (เบนท์ลีย์ คอนติเนนตัล จีที) รถสปอร์ตสุดหรู 2 ประตูในสไตล์ Bentley แท้ๆ ที่ใช้งานบ่อยที่สุด

โดย Bentley Continental GT มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 521 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ZF แบบ 8 สปีด ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 309 กม./ชม.

ส่องนักเตะและรถยนต์คู่ใจจากทีมแมนยู - ลิเวอร์พูล ใน THE MATCH

5. Sadio Mane

Sadio Mane (ซาดิโอ้ มาเน่) เป็นนักฟุตบอลชาวเซเนกัล ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งปีกให้กับลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติเซเนกัล จัดเป็นนักเตะแอฟริกันที่มีค่าตัวมากถึง 34 ล้านปอนด์

เนื่องด้วยรายได้จากการเป็นนักเตะและค่าตัวที่มากมาย ทำให้ Sadio Mane ก็มีคอลเลกชั่นรถหรูๆ สะสมไว้อยู่เพียบด้วยเช่นกัน แต่คันที่ใช้บ่อยที่สุดน่าจะเป็น Bentley Continental GT (เบนท์ลีย์ คอนติเนนตัล จีที) สีขาวคันนี้

และยังมีชีวิตนอกสนาม ที่ติดดิน เข้าถึงคนรากหญ้าและท้องถิ่นได้แบบไม่ถือตัว นอกจากจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ยังเป็นคนที่เคร่งศาสนาอีกด้วย อีกทั้งยังนำรายได้จากการเป็นนักเตะของตัวเอง กลับไปช่วยเหลือประเทศบ้านเกิด (เซเนกัล) หลายต่อหลายครั้ง ทั้งการสร้างศูนย์การศึกษา และศูนย์พยาบาลให้กับทุกคนในชุมชนด้วย

ส่องนักเตะและรถยนต์คู่ใจจากทีมแมนยู - ลิเวอร์พูล ใน THE MATCH

6. Alisson Becker

Alisson Ramses Becker (อลิสสัน เบ็คเกอร์) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวบราซิล ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับลิเวอร์พูล และทีมชาติบราซิล ที่เคยอยู่ร่วมกับทีมสโมสร Roma (โรม่า) ของอิตาลี ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวสูงถึง 67 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นผู้รักษาประตูค่าตัวแพงที่สุดในโลก ณ เดือนกรกฏาคม 2018

นอกจากนี้ Alisson Becker ยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าหลากหลายอย่าง พร้อมกับคอลเลกชั่นรถยนต์ที่สะสมไว้มูลค่ากว่า 2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

ซึ่งรถยนต์คันโปรดของ Alisson Becker นั่นคือ Audi Q7 (ออดี้ คิว7) เฉกเช่นเดียวกับที่เศรษฐีไทยหลายคนนิยมใช้นั่นเองครับ

CARRO Automall

ส่วนใครที่กำลังมองหารถคันที่ใช่ มาใช้งานก่อนศึกแดงเดือดจะเริ่ม Carro จัดเต็มทั้งราคาและคุณภาพ ให้ทุกท่านสามารถเป็นเจ้าของรถคุณภาพดี ราคาโดนใจ และยังอุ่นใจไปอีกขั้น นอกจากจะผ่านการตรวจสอบรถยนต์ด้วยคุณภาพ 160 จุดอย่างละเอียด จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เรายังรับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี รับประกันไม่กรอไมล์ และรับประกันไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม อีกด้วย! และเรายังมีบริการสินเชื่อรถยนต์จาก Genie เพื่อคุณอีกด้วย

เลือกชม ซื้อรถ หรือจองรถออนไลน์ของ Carro ผ่านหน้าตลาดรถ (คลิกที่นี่) หรือติดต่อผ่าน Inbox ใน Fanpage Carro Thailand

หรือคุณสามารถเลือกชมรถด้วยตนเองได้ที่ Carro Automall สาขาใกล้บ้านท่านได้แล้ววันนี้ ทั้งสาขาดอนเมือง สาขาศรีนครินทร์ และสาขาเกษตรนวมินทร์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 9.30 – 18.30 น.

Carro Automall สาขาดอนเมือง

Carro Automall สาขาดอนเมือง ตั้งอยู่ ณ 292 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทร. 02-508-8690

Carro Automall สาขาศรีนครินทร์

Carro Automall สาขาสวนหลวง ตั้งอยู่ ณ 37/91 ซ.ศรีนครินทร์ 55 (ซอยพรีเมียร์ 1 แยก 1) (ติดฝั่งสวนหลวง ร.9) ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ 10250 โทร. 02-508-8690

Carro Automall สาขาเกษตรนวมินทร์

และ Carro Automall สาขาเกษตรนวมินทร์ ตั้งอยู่ ณ ตลาดรถยนต์มอเตอร์ สแควร์ 289/5 บล็อก H2 ถ.ประเสริฐมนูกิจ (แยกไฟแดงนวลจันทร์ตัดใหม่ ตลาดรถไฟนวลจันทร์เก่า) เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230 โทร. 02-508-8690

รวมถึงศูนย์บริการลูกค้า Carro Customer Experience Center

สาขา Lotus’s บางกะปิ ชั้น 2 เลขที่ 3109 ถ. ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตโลตัสบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240

ดูเส้นทาง

สาขา Lotus’s ศรีนครินทร์ ชั้น 1 เลขที่ 9 หมู่ที่ 6 ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

ดูเส้นทาง

สาขา Lotus’s พระราม 1 ชั้น 3 เลขที่ 31 ถ.พระราม1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

ดูเส้นทาง

สาขา Lotus’s บางใหญ่ ชั้น 1 เลขที่ 90 หมู่ 5 ตำบลบางคูเวียง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130

ดูเส้นทาง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @Carrothai ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

5 ประเภทรถยอดฮิต ของสะสมคนมีเงิน

พูดถึง “คนมีเงิน” แล้ว หลายคนสร้างเนื้อสร้างตัวเองขึ้นมาได้จนร่ำรวย อายุน้อยร้อยล้าน หรือเกิดมาเป็นลูกคนรวย หลายคนรู้จักต่อยอดเพิ่ม มี Passive Income จากการเทรดคริปโต เล่นบิตคอยน์ หรือเก็บค่าเช่าบ้าน ที่ดิน หรือมีกงสี นั่งบริหารอยู่ในบริษัทฯ ของครอบครัว สบายไปทั้งชีวิต มีความรวยจนสามารถซื้อหาสิ่งต่างๆ มาเป็นรางวัลชีวิตได้มากมาย อาทิ นาฬิกา, พระเครื่อง, เครื่องเพชร, บ้าน หรือที่ดิน เป็นต้น

แต่ทุกวันนี้ ต่างก็รู้กันอยู่แล้วว่า “รถยนต์” คือสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นของเล่น ของสะสม ของคนรวย มหาเศรษฐี คนดัง หรือดารา ยิ่งประเด็นเรื่องรถหรู ซุปเปอร์คาร์ มีเป็นข่าวให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ

เกิดเป็นลูกคนรวย ต้องเลือกใช้รถอะไร ถึงทำให้คนหันมามองได้สำเร็จ!

ไม่ว่าจะเป็นคนรวย หรือลูกคนรวย รถยนต์ที่มีเป็นตัวเลือกให้เอาปากกามาวงก็มีเยอะอยู่ นับตั้งแต่รถซูเปอร์คาร์ รถโบราณ รถสปอร์ต รถหรู หรือรถ SUV คันโตๆ ก็มี ซึ่งหลายแบรนด์ก็รับสกุลเงินดิจิทัล ใช้คริปโต หรือบิตคอยน์ ซื้อรถหรูได้ด้วย

หากคุณยังนึกไม่ออกว่าถ้าเป็นคนรวย เป็นมหาเศรษฐี จะซื้อรถยนต์แบบไหน มาใช้หรือสะสมบ้าง? MR.CARRO จะมาเล่าให้ฟัง

เกิดเป็นลูกคนรวย ต้องเลือกใช้รถอะไร ถึงทำให้คนหันมามองได้สำเร็จ!

1. รถสปอร์ต, รถ Supercar และ Hypercar

แน่นอนว่ารถสปอร์ต, รถ Supercar ย่อมมี Appeal ดึงดูดสายตาผู้คนอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยรูปทรงการออกแบบของรถหลายๆ แบรนด์ ที่มีโฉบเฉี่ยว ทรงพลัง ดูรวดเร็ว เครื่องยนต์ให้พลังแรง คนรวยหลายคนจึงนำเงินไปลงทุนกับรถประเภทนี้ อนาคตมีแต่ได้กับได้ กำไรใช้ ราคาไม่ตก …

และยิ่งในรถประเภท Hypercar จะยิ่งมีความพิเศษยิ่งกว่า ซึ่งนอกจากจะให้กำลังเครื่องยนต์มหาศาล (แบบไม่ต้องแคร์ราคาน้ำมันเบนซินเพียวๆ ลิตรละ 40 บาท) ยังต้องเป็นรถที่ผลิตจำนวนจำกัด หรือสามารถทำความเร็วได้สูงมากๆ อีกด้วย

เกิดเป็นลูกคนรวย ต้องเลือกใช้รถอะไร ถึงทำให้คนหันมามองได้สำเร็จ!

เรียกได้ว่าหากคนรวยจะมีรถ Supercar สักคัน ฐานะทางการเงินของเขาต้องมีมากกว่าราคาตัวรถแน่นอน ซึ่งในบ้านเรา ราคารถ Supercar ส่วนมากก็มักจะมีหลักสิบล้านบาทขึ้นไป จนถึงเฉียดๆ คันละร้อยล้านก็มีมาแล้ว และแบนด์ของรถ Supercar หรือ Hypercar ที่เหล่าคนรวยนิยม ก็จะมีอาทิ Ferrari, Maserati, Lamborghini, Konigsegg, McLaren, Aston Martin, Pagani หรือ Bugatti เป็นต้น

เกิดเป็นลูกคนรวย ต้องเลือกใช้รถอะไร ถึงทำให้คนหันมามองได้สำเร็จ!

2. รถหรูระดับ Ultra Luxury

อีกหนึ่งในรถยนต์ยอดนิยมของบรรดาคนรวย หรืออภิมหาเศรษฐี ที่นิยมในหรูหรา ความโมเดิร์นคลาสสิค หรือความอัครฐานของยานยนต์ที่ใช้ ที่เรียกได้ว่านั่งด้านหลังแล้ว ดุจประธานบริษัทผู้ยิ่งใหญ่ในปฐพี ก็คงต้องยกให้กับรถยนต์ประเภท Ultra-Luxury ที่บางแบรนด์บอกนั่งแล้ว นุ่มสบาย ประดุจนั่งบนพรมวิเศษเลยทีเดียว

ซึ่งคนเล่นรถประเภทนี้ แน่นอน ฐานะทางการเงินของเขาต้องมีมากกว่าราคาตัวรถเหมือนข้างบน

สำหรับในบ้านเรา รถหรูระดับ Ultra-Luxury บรรดาคนรวยนิยมกันก็มีอยู่หลากหลายยี่ห้อ อาทิ Mercedes-Maybach, Bentley หรือ Rolls-Royce เป็นต้น

เกิดเป็นลูกคนรวย ต้องเลือกใช้รถอะไร ถึงทำให้คนหันมามองได้สำเร็จ!

3. รถ SUV หรู

ตลาดเอสยูวี (SUV) หรือรถยนต์อเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ นี่ก็เรียกว่าเป็นรถยนต์ที่บรรดาคนรวยยอดนิยมเช่นกัน โดยในหลายๆ แบรนด์ ต่างเอาอกเอาใจลูกค้าอภิมหารวยกลุ่มนี้ ต่างต้องผลิตรถประเภท Super Luxury ในรูปแบบ SUV ออกมาเสิร์ฟคนรวยสายลุยกันเป็นแถวๆ

ด้วยคุณสมบัติของรถ SUV รุ่นใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเมื่อยุค 80 หรือ 90 แล้ว ปัจจุบันเน้นขับง่าย หรูหรา เทคโนโลยีล้ำยุค กับขุมพลังที่มีความแรงมหาศาล บวกกับความเหนือชั้นในแง่ของประโยชน์ใช้สอย ของพื้นที่บรรทุกสัมภาระ และหลายค่ายที่ออกแบบตัวรถให้ดูผสมผสานกับรถแนว Supercar แล้ว หลายคนจึงปฏิเสธในการเป็นเจ้าของไม่ลง

สำหรับรถ SUV แบบ Super Luxury ก็มีให้เลือกด้วยกันหลายค่าย ได้แก่ Porsche, Aston Martin, Mercedes-Maybach, Maserati, Range Rover, Bentley, Lamborghini หรือ Rolls-Royce เป็นต้น

เกิดเป็นลูกคนรวย ต้องเลือกใช้รถอะไร ถึงทำให้คนหันมามองได้สำเร็จ!

4. รถโบราณ รถคลาสสิค

สำหรับ “รถโบราณ” นี่ก็จัดเป็นรถยอดนิยมของคนรวย หรืออภิมหาเศรษฐี และบรรดานักการเมือง ที่ชอบความคลาสสิค ความงดงามของยานยนต์ในอดีต

ซึ่งประเภทรถโบราณ และรถคลาสสิคใหม่ ตามแนวทางของสมาพันธ์รถโบราณสากล (FIVA – The Fédération Internationale des Véhicules Anciens) ได้ยึดเป็นมาตรฐาน และแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภทหลักๆ ได้แก่

  • รถรุ่นบรรพบุรุษ (Ancestor) ก่อนปี 1904
  • รถรุ่นผ่านศึก (Veteran) ปี 1904-1918
  • รถโบราณ (Vintage) ปี 1919-1930
  • รถก่อนสงคราม (Pre War) ปี 1931-1945
  • รถหลังสงคราม (Post War) ปี 1946-1960
  • รถคลาสสิค (Classic) ปี 1961-1970
  • รถคลาสสิคร่วมสมัย (Modern Classic) ปี 1971 – ปัจจุบัน -30 ปี

แต่เอาเท่าที่เห็น บรรดาคนรวยรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะนิยมรถประเภท รถคลาสสิค และรถคลาสสิคร่วมสมัยกันเยอะ เนื่องจากทันเห็นทันคุ้นเคยกับรถเหล่านี้ตั้งแต่สมัยวัยเด็ก (แน่นอนล่ะ ผู้ใหญ่ที่เป็นพ่อแม่ มีรถสมัยก่อนก็ต้องถือว่ามีฐานะ) หรือได้เห็นอิทธิพลมาจากหนังต่างประเทศ ที่นิยมรถอเมริกัน หรือรถยุโรปในยุค 70-80 มาก หลายคนจึงชื่นชอบรถประเภทนี้

และเราก็มีโอกาสได้เห็นลูกคนรวยหลายคน มีไลฟ์สไตล์แบบคนรุ่นใหม่ ใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ดังๆ กันด้วยกันหลายยี่ห้อ อาทิ ORA, Tesla, Mercedes-Benz, Audi, Volvo หรือ Porsche เป็นต้น

5. รถยนต์ไฟฟ้า

แน่นอนล่ะว่าเทรนด์ของโลกเราตอนนี้ “รถยนต์ไฟฟ้า” เรียกได้ว่ามาแรงที่สุดแล้ว และเป็นเทรนด์รักษ์โลก ขับรถไม่ต้องง้อน้ำมัน ในยุคที่ราคาน้ำมันขึ้นเอาๆ (แต่ต้องง้อสถานีชาร์จแทน) ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราหลายยี่ห้อก็ยังจัดว่ามีราคาแพงอยู่ และบางคนก็อาจจะเลือกใช้รถยนต์แบบ PHEV (Plug-In Hybrid) แทนก็มี

อ่านเพิ่มเติม >> 10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ราคาถูกสุดในไทย ปี 2022

และเราก็มีโอกาสได้เห็นคนรวยหลายคน มีไลฟ์สไตล์แบบคนรุ่นใหม่ ใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ดังๆ กันด้วยกันหลายยี่ห้อ อาทิ ORA, Tesla, Mercedes-Benz, Audi, Volvo หรือ Porsche เป็นต้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

หากใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาสบายๆ และมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพทุกคัน CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลา 1 นาที!

ซึ่งรถของ CARRO Automall เรามีให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพอย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด รวมไปถึงการการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพ ที่ผ่านการผึกอบรมตามมาตรฐานคาร์โรกว่า 40 คน พร้อมให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คัน/วัน

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์

เรารับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! (CARRO Quality Assurance) อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม กับ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

คนรักรถเหล็กห้ามพลาด! กับมุม Hot Wheels ใน Motor Expo 2021

อีกหนึ่งสีสันในงาน Motor Expo 2021 (มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38) นอกจากจะมาภายใต้แนวคิด “มหกรรมสุขสันต์คนรักยานยนต์” หรือ “TIME to ENJOY!” ที่สื่อให้เห็นถึงช่วงเวลาสนุกสนาน (อีกครั้ง) กับรถยนต์คันจริงๆ ของคนในวัยผู้ใหญ่ช่วงปลายปีนี้ แต่ไม่ใช่ว่าเด็กๆ คุณหนู หรือผู้ใหญ่ (ที่ชอบรถเหล็ก) มาร่วมเดินร่วมชมงาน จะไม่ได้พลาดความสนุกสนานไปด้วยเช่นกัน

รถฮอตวีล (Hot Wheels) ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันในงานมหกรรมยานยนต์ หรือ Motor Expo 2021 ที่ขาดไม่ได้ไปซะแล้ว บริษัท วังเด็กทอยส์แลนด์ จำกัด ตัวแทนจำหน่าย รถฮอตวีล ลิขสิทธิ์จาก แมทเทล แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มักจะนำไฮไลท์รถเด็กเล่นคันเด่นๆ มาให้บรรดาสาวกแฟนพันธุ์แท้ รถฮอตวีล (Hot Wheels) และรถแมทช์บ็อกซ์ (Matchbox) ได้สัมผัส ร่วมชม และเป็นเจ้าของก่อนกลับบ้าน พร้อมทั้งรถเหล็กที่นำมาลดราคากันเป็นพิเศษ เพื่อคุณหนู และคุณพ่อที่ชอบสะสมรถเหล็กกัน

ซึ่งในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2021 เป็นงานที่รวมคนรักรถทั้งหมดมาไว้ที่เดียวกัน ทาง Hot Wheels จึงมองเห็นถึงโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มคนที่มีความรัก และความชอบในรถจริงๆ จึงต้องการโชว์คุณภาพและความสวยงามของโมเดลรถเหล็กสไตล์ฮอตวีล สู่คนรักรถในไทยให้ได้เห็นและสัมผัส

เพราะคนที่รักรถส่วนใหญ่จะชอบทั้งรถจริงและรถโมเดล ซึ่งรถฮอตวีลนั้น ก็ถือเป็นโมเดลรถสะสมของคนที่รักและชอบรถด้วยเช่นกัน … CARRO ขอเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันครับ

คนรักรถเหล็กห้ามพลาด! กับมุม Hot Wheels ใน Motor Expo 2021

คนรักรถเหล็กห้ามพลาด! กับมุม Hot Wheels ใน Motor Expo 2021

คนรักรถเหล็กห้ามพลาด! กับมุม Hot Wheels ใน Motor Expo 2021

ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของฮอตวีลนั้น มีตั้งแต่วัยเด็กช่วงอายุ 7-10 ปี และยังรวมไปถึงวัยรุ่น และผู้ใหญ่ ที่มีอายุตั้งแต่ 13-75 ปี โดยส่วน มาก ถ้าเป็นวัยเด็กๆ จะเน้นรถ และ Playset ในขณะที่ผู้ใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อเยอะ เป็นนักสะสม เน้นสะสมตัวรถมากกว่า

คนรักรถเหล็กห้ามพลาด! กับมุม Hot Wheels ใน Motor Expo 2021

คนรักรถเหล็กห้ามพลาด! กับมุม Hot Wheels ใน Motor Expo 2021

คนรักรถเหล็กห้ามพลาด! กับมุม Hot Wheels ใน Motor Expo 2021

คนรักรถเหล็กห้ามพลาด! กับมุม Hot Wheels ใน Motor Expo 2021

งานนี้บอกเลยว่า เหล่าสาวกรถฮอตวีล ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ไปพบกันในงาน Motor Expo 2021 นะครับ

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

10 ที่สุด Motor Expo 2021 ที่คุณอาจคาดไม่ถึง!

งาน “Motor Expo 2021” หรือ “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38” นอกจากจะมีการนำเสนอรถใหม่ 2022, รถยนต์ไฟฟ้า รถ Hybrid รุ่นใหม่ๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รถมือสอง รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยที่หลายๆ คนชื่นชอบ ในยุคโควิดครองเมืองมาเป็นปีที่สองแล้ว …

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ด้วย หลายคนอาจไม่ทราบ CARRO ขอรวบรวม 10 ที่สุด ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Expo 2021” มาให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับผม

Suzuki Celerio

1. รถถูกที่สุด

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Expo 2021 ต่อเนื่องมาหลายปี ยังคงเป็นSuzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ)” รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย อัดแน่นคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร ในราคาเริ่มต้นที่ 318,000 บาท!

Rolls-Royce Ghost

2. รถแพงที่สุด

รถที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Expo 2021 ยังคงต้องยกให้เจ้าเดิม อย่าง Rolls-Royce Ghost (โรลส์-รอยซ์ โกสต์) ที่ยังคงครองแชมป์รถยนต์นั่งแพงสุดเป็นประจำในงาน กับราคา 35,900,000 – 42,900,000 บาท!!!

การออกแบบตัวรถ ใช้โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม เรียกว่า “สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา” (Architecture of Luxury) ที่เคยใช้เฉพาะรุ่นเรือธงอย่าง Phantom และเอสยูวี Cullinan เป็นโครงสร้างสเปซเฟรมที่เบา ยืดหยุ่น แต่แข็งแกร่ง ตัวถังอะลูมิเนียมเชื่อมด้วยมือ อัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่สมดุล 50:50 ส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนในทุกสภาพถนน

ทีมออกแบบ Bespoke Collective ที่ประกอบด้วยนักออกแบบ วิศวกร และช่างศิลป์ ได้รังสรรค์แดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) ที่ดูเข้ากันกับเพดานห้องโดยสาร Starlight Headliner กับแดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) ติดตั้งท่อนำแสงหนา 2 มม. พร้อมเจาะรูขนาดเล็กด้วยเลเซอร์กว่า 90,000 ช่อง บนแดชบอร์ด เพื่อทำให้คำว่า Ghost มีความสว่างอย่างทั่วถึง ภายใต้ LED 152 ดวง ล้อมรอบด้วยหมู่ดาว 850 ดวง เปล่งประกายระยิบระยับ

ทั้งหมดถูกซ่อนไว้ขณะดับเครื่องยนต์ ภายใต้วัสดุคอมโพสิต 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นพื้นสีดำ Piano Black ที่ผ่านการเจาะรูด้วยเลเซอร์ เพื่อให้แสงส่องผ่านคำว่า Ghost และกลุ่มดาว จากนั้นพ่นทับด้วยแลคเกอร์ทึบ และแลคเกอร์ขุ่นในชั้นสุดท้าย พร้อมขัดแต่งด้วยมืออย่างประณีต เหลือเพียงชั้นแลคเกอร์บางเฉียบ 0.5 มม. พร้อมความเงางามฉ่ำลึก

ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังบล็อกเดียวกับที่ใช้กับ Rolls-Royce Phantom เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Twin Turbo V12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร 571 แรงม้า (PS) แรงบิด 850 นิวตันเมตร ช่วยให้ยนตรกรรมพิกัดกว่า 2 ตัน มีอัตราเร่งทันใจในทุกสถานการณ์ แรงบิดสูงสุดมีให้ใช้ตั้งแต่ 1,600 รอบ/นาที ซึ่งสูงกว่ารอบเดินเบาประมาณ 600 รอบ/นาที เท่านั้น รวมถึงมีการปรับแต่งท่อไอดีใหม่ เพื่อลดเสียงรบกวนที่อาจเล็ดลอดสู่ห้องโดยสาร

Pocco Duoduo

3. รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ถูกที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ที่ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2021 ต้องยกให้กับรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนนั่นเอง กับ Pocco Duoduo (ป๊อคโค่ ตั่วตั่ว) หรือ 朋克多多 เป็นรถภายใต้แบรนด์ 朋克 (เผิงเค่อ) มาจากภาษาอังกฤษคำว่า Punk (พังก์) เป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ Tall Boy 4 ประตู (ดูคล้ายกับรถ K-Car ของญี่ปุ่น) นั่งได้ 4-5 ที่นั่ง ผสมผสานการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ จุดชาร์จไฟอยู่บริเวณด้านหน้ารถ โดยใช้สีทูโทนเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เพิ่งเปิดตัวไปในจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (39 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต มีขนาด 10.3 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 128 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC (ไฟบ้าน 0-100%) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 14.5 kWh (ใช้เวลาชาร์จ 6-8 ชั่วโมง) ที่เพิ่มระยะทางขึ้นเป็น 178 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ต่อการชาร์จ (ไฟบ้าน 0-100%) หนึ่งครั้ง ให้เลือก ทำความเร็วได้สูงสุด 100 กม./ชม.

รุ่น L ราคาเริ่มต้นที่ 389,000 บาท! (รุ่นแบตเตอรี่ 10.3 kWh) และรุ่น K ราคา 449,000 บาท (รุ่นแบตเตอรี่ 14.5 kWh)

Porsche Taycan 4S Cross Turismo

4. รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) แพงที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) (ที่มาโชว์) และราคาแพงที่สุดในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ ต้องยกให้ Porsche Taycan 4S Cross Turismo (ปอร์เช่ ไทคานน์ 4เอส ครอส ทัวริสโม) ใหม่ รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ในเวอร์ชั่นออฟโรด (Off-Road) ต่อยอดความสำเร็จจาก Taycan โดยยังคงรักษาไว้ซึ่งความโดดเด่นจากนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแรงดัน 800 โวลต์

และมีช่วงล่างที่ประกอบไปด้วย เทคโนโลยีขั้นสูงพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive และระบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ Adaptive Air Suspension รองรับสมรรถนะการขับขี่รองรับสมรรถนะการขับขี่รูปเเบบสปอร์ตบนเส้นทาง Off-Road และ On Road

รููปลักษณ์ภายนอกใกล้เคียงรถต้นแบบ Mission E Cross Turismo Concept Study ตัวรถมีเส้นโค้งของแนวหลังคา ลาดยาวจรดท้ายให้อารมณ์สปอร์ต มีชื่อเรียกจากบรรดานักออกแบบของปอร์เช่ ว่า “Flyline” พร้อมพื้นที่เหนือศีรษะภายในห้องโดยสารตอนหลังที่เพิ่มขึ้นถึง 47 มม. พื้นที่ท้ายรถมีความจุุมากขึ้นกว่า 1,200 ลิตร พร้อมฝาท้ายขนาดใหญ่ และสามารถติดตั้งจักรยานไว้บริเวณท้ายรถสูงสุดถึง 3 คัน ด้วยจุดยึดแบบ Universal

สำหรับ Porsche Taycan 4S Cross Turismo ราคาอยู่ที่ 7,790,000 บาท!

Black High Wheeler

5. เก่าที่สุด

รถเก่าที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย นั่นคือ “Black High Wheeler” (แบลค์ ไฮ วีลเลอร์) รุ่นปี 1904 ซึ่งความพิเศษของรถโบราณรุ่นนี้ คือ เป็นรถที่มีฐานล้อใหญ่ถึง 75 นิ้ว และผลิตออกมาเพียง 18 คันเท่านั้น

เครื่องยนต์วางใต้แคร่กลางลำ แบบ 2 สูบนอน ความจุ 52 Cu.In. (หรือ 852 ซีซี) 18 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยโซ่ ใช้ล้อแบบรถม้าขอบบางขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 36 นิ้ว

ผลงานของ Black Manufacturing Company แห่งเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ USA และจำหน่ายโดย Sear, Roebuck & Co. ระหว่างปี 1904-1912 ในปัจจุบันมีเหลือเพียง 13 คันทั่วโลก ถือเป็นรถที่เก่าที่สุดในงาน Motor Expo ครับ

Mercedes-Maybach GLS 600

6. รถ SUV แพงที่สุด

รถ SUV ที่แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2021 นั่นคือ Mercedes-Maybach GLS 600 4MATIC Premium (เมอร์เซเดส-มายบัค จีแอลเอส 600) ที่สุดแห่งยนตรกรรม SUV ไฮบริด ระดับ Ultra Luxury ภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybach ที่นำเสนอความพิถีพิถันในแบบที่ยกระดับขึ้นอีกขั้นในทุกรายละเอียด ทั้งด้านการออกแบบและวัสดุตกแต่งภายนอกและภายใน รายละเอียดทางวิศวกรรม และนวัตกรรมที่เป็นที่สุดจากเมอร์เซเดส-เบนซ์

มาพร้อมขุมพลังเบนซิน V8 Biturbo ขนาด 3,982 ซีซี ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้แรงม้าสูงสุดถึง 557 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 730 นิวตันเมตรที่ 2,500-5,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.9 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม. ในราคาเริ่มต้น 18,000,000 บาท!

คนสนใจล้นหลามที่สุด Motor Expo 2021

7. คนสนใจล้นหลามที่สุด

สำหรับบูธที่คนล้นหลามที่สุดในงาน Motor Expo 2021 แบบไม่เกรงใจโควิดสายพันธุ์ใหม่ (เพราะงานนี้มีมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างแน่นหนา) ในปีนี้ ต้องยกให้กับบูธ Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) นำรถขุมพลังไฮบริดอย่าง Haval Jolion (ฮาวาล โจไลอ้อน), Haval H6 (ฮาวาล เอช6), Haval H6 PHEV (ฮาวาล เอช6 พีเอชอีวี) และรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง ORA Good Cat (โอร่า กู๊ดแคท) มาโชว์ คนสนใจแน่นมาก

และอีกหนึ่งบูธอย่าง Honda (ฮอนด้า) ที่นำ All-New Honda HR-V e:HEV (ฮอนด้า เอชอาร์วี) รุ่นใหม่มาโชว์ ขุมพลังไฮบริดทุกรุ่น ซึ่งตัว RS ที่เปิดตัวในไทยเป็นครั้งแรกของโลก คนให้ความสนใจอย่างแน่นบูธทีเดียว

Yamaha Finn

8. รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุด

ในงาน Motor Expo 2021 นี้ แม้แต่มอเตอร์ไซค์จ่ายตลาด ก็มีขายเช่นกัน! ขอยกให้ “Yamaha Finn” (ยามาฮ่า ฟินน์) กล้าที่จะไป…กล้าที่เป็น #กล้าที่จะฟินน์…บ่งบอกความเป็นตัวตนกับ ยามาฮ่า ฟินน์ รถครอบครัวระดับพรีเมียมสุดคุ้ม ซึ่งมาพร้อมกับสีสันกราฟิกใหม่ สวยล้ำสไตล์โมเดิร์นไม่เหมือนใคร คุ้มค่าทันสมัยด้วยระบบสตาร์ทมือทุกรุ่น!

พร้อมเครื่องยนต์แรงดี 115 ซีซี ขับขี่ง่าย ไม่จุกจิก ประหยัดน้ำมันสูงสุด 96.16 กม./ลิตร (ที่พิสูจน์แล้วโดยสื่อมวลชน) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน และครั้งแรกของโลก! รับประกันนานถึง 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

โดยในรุ่นสตาร์ทมือ ดรัมเบรก สีแดง ราคาอยู่ที่ 39,800 บาท!

Harley-Davidson Ultra Limited

9. รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2021 ต้องยกให้กับ Harley-Davidson Ultra Limited (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน อุลต้า ลิมิเต็ด) เจ้าเก่า ที่มาพร้อมความโดดเด่นเรื่องงานดีไซน์ ใช้เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114 ขนาด 1,868 ซีซี แบบ 2 สูบ V-Twin 4 จังหวะ 2 วาล์ว/สูบ ในราคา 1,539,000 บาท

Fairline-F-Line-33

10. ใหญ่ที่สุดในงาน

สิ่งที่ใหญ่ที่สุดในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ต้องขอยกให้เรือ Fairline F-Line 33 (แฟร์ไลน์ เอฟ-ไลน์ 33) จากบูธ Join Boat Platform ที่นำเรือแม่น้ำ สปีดโบ๊ต และสกู๊ตเตอร์มาโชว์และจำหน่าย ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิม เพื่อนำเงินไปโปะรถคันใหม่ จะได้ผ่อนดาวน์กันน้อยลง มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพ 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Nissan ลุยคาเฟ่แมวทั่วญี่ปุ่น กับ Nissan Dayz คันจิ๋ว ที่ทาสแมวต้องซื้อให้เจ้านายแล้วล่ะ!

วันนี้ MR.CARRO มาเอาใจคุณสาวๆ และทาสแมว กับ Nissan Dayz (นิสสัน เดย์) รถทรงกล่องสุดน่ารักในรูปแบบของรถ K-Car จาก Nissan ที่เจเนอเรชั่นที่ 2 ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายน 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้น่าประทับใจ จนติดอันดับรถยนต์ K-Car ที่ขายดีในญี่ปุ่นอีกด้วย

Nissan ลุยคาเฟ่แมวทั่วญี่ปุ่น กับ Nissan Dayz คันจิ๋ว ที่ทาสแมวต้องซื้อให้เจ้านายแล้วล่ะ!

Nissan DayZ ยังเป็นคู่แฝดของ Mitsubishi eK อีกด้วย โดยรถรุ่นนี้ เน้นเจาะกลุ่มตลาดผู้หญิงช่วงอายุ 20 – 40 ปี มีให้เลือกถึง 3 แบบ นั่นคือ ได้แก่ Dayz, Dayz Highway Star และ Bolero

อ่านเพิ่มเติม >> 5 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2019

อ่านเพิ่มเติม >> 10 อันดับ รถ Kei Car ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ประจำปี 2020

ขุมพลังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 659 ซีซี รหัส BR06 ให้แรงม้าสูงสุด 52 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 60 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่วนรุ่น S-Hybrid จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ เข้ามาด้วย

และรุ่นเครื่องยนต์ Turbo Hybrid ให้แรงม้าสูงสุด 64 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือก

Nissan ลุยคาเฟ่แมวทั่วญี่ปุ่น กับ Nissan Dayz คันจิ๋ว ที่ทาสแมวต้องซื้อให้เจ้านายแล้วล่ะ!

นับตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา แม้ว่าในประเทศญี่ปุ่นจะพบเจอกับปัญหาวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนลำบาก จิตใจหดหู่กันไปทั้งโลก เพื่อเป็นการสร้างความสนใจให้กับตัวรถ และเอาใจลูกค้าที่ชอบทานกาแฟ บวกกับชอบเล่นกับแมวไปในตัว จึงเป็นที่มาของการจับมือกับร้านคาเฟ่แมวชื่อดังในญี่ปุ่นอย่าง Mocha Cat Cafe นั่นเอง

ซึ่งช่วยให้ลูกค้ามีความสุขขึ้น เมื่อได้เห็นรถ Nissan Dayz ที่มาพร้อมกับแมวเหมียวเหล่านี้ ต่อเนื่องเป็นปีที่สองแล้ว

Nissan ลุยคาเฟ่แมวทั่วญี่ปุ่น กับ Nissan Dayz คันจิ๋ว ที่ทาสแมวต้องซื้อให้เจ้านายแล้วล่ะ!

ซึ่ง Mocha Cat Cafe เป็นคาเฟ่แมวที่เริ่มธุรกิจตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ 2015 โดยเปิดสาขาแรกที่ Ikebukuro จนถึงในปัจจุบันมีสาขามากกว่า 20 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น (ซึ่งแค่สาขาคาเฟ่แมวในโตเกียว ก็มีด้วยกันถึง 9 สาขาแล้ว!) ภายในร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่งทั้งโซนอ่านหนังสือ ทำงาน หรือจะนั่งเล่นกับเจ้าเหมียวก็ได้

ซึ่งการนำ Nissan Dayz ไปให้แมวได้มุดเข้ามุดออกรถ ก็ถือว่าได้โปรโมทรถ ที่ถูกใจสาวๆ และคนชอบแมว นับว่าได้ผลเกินคาด!

และทาง Nissan เอง ยังได้ทำ Clip VDO แนะนำระบบใช้งานตัวรถคันนี้ขึ้นมาให้ทาสแมวได้ดูกันด้วย กับจุดเด่นของ “นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)” อาทิเช่น ระบบ ProPILOT ครั้งแรกของการแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ที่สามารถขับรถพาน้องแมว ไปไหนมาไหนได้ทุกมุมอย่างอิสระทีเดียว

กับความสามารถในการตรวจจับวัตถุต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวรถได้ดีขึ้น หรือรักษาระยะห่าง ด้วยระบบต่างๆ ที่ทำงานร่วมกัน กับมีปุ่มขอความช่วยเหลือ (SOS Call) บนรถอีกด้วย พร้อมกับเบื้องหลังอันถ่ายทำน่ารักๆ ครับ

เรียกได้ว่าน่าจะถูกใจทั้งคุณสาวๆ แล้วทาสแมวแล้วล่ะ ที่คงต้องหารถรุ่นนี้มาใช้กันแล้ว!

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

ถ้าใครอยากขายรถคันเดิมตอนนี้ มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

สำหรับใครที่อยากซื้อรถ Nissan Dayz ใหม่ สามารถซื้อแบบป้ายแดงได้ในราคาคันละล้านกว่าบาท แต่ถ้างบไม่พอ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถของเราทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุดและยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

รถยนต์-น้าค่อม-ชวนชื่น

นับเป็นข่าวเศร้าของวงการบันเทิงไทย สำหรับข่าวเช้าของวันศุกร์นี้ (30 เม.ย. 2564) ทุกท่านคงได้ทราบข่าวของ “น้าค่อม ชวนชื่น” ซึ่งน้าค่อมเสียชีวิตในวัย 63 ปี จากการรักษาอาการโควิด-19 ทาง CARRO ต้องขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

น้าค่อม ชวนชื่น หรือชื่อจริงคือ คุณอาคม ปรีดากุล ชื่อเล่น ค่อม หรือที่รู้จักในวงการในชื่อ ค่อม ชวนชื่น, เหยิน ชวนชื่น หรือ “น้าเหยิน” เกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2501 เป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นนักแสดงตลกชาวไทย และอดีตสมาชิกตลกคณะชวนชื่น ที่มีวลีชื่อก้องอย่าง “ไอ้สัส” ที่แฟนคลับใฝ่ฝันอยากถูกด่าคนเดียวในไทย

ด้วยความที่น้าค่อมไม่รู้หนังสือเลย แต่น้าค่อมเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษ เรื่องการจำบทได้อย่างแม่นยำ ซึ่งน้าค่อมเป็นที่รู้จักอย่างมากของคนไทยนับตั้งแต่ปี 2545 กับการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง 7 ประจัญบาน จากนั้นก็มีทั้งงานละครและภาพยนตร์อีกนับไม่ถ้วน และยังเป็นนักแสดงตลกอาวุโสตัวหลักประจำรายการ “บริษัทฮาไม่จำกัด (มหาชน)” และรายการ “ก็มาดิคร้าบ” เป็นต้น

สำหรับ ค่อม ชวนชื่น ก็ได้ชื่อว่าเป็นดาราตลก ที่ชอบเล่นรถแต่งซิ่ง รวมถึงมอเตอร์ไซค์แต่ง ซึ่งก็มีใช้งานอยู่หลายคันมาก และหลายคันจะใช้ทะเบียน “6999”

CARRO ขอรวบรวมรถยนต์ที่ “น้าค่อม ชวนชื่น” ดาราตลกขวัญใจคนไทย เคยมีโอกาสได้ไว้ครอบครองและใช้งาน มาให้ทุกท่านได้อ่านกันเป็นความรู้ครับ

รถน้าค่อม-Porsche-Cayman

Porsche Cayman ของน้าค่อม ชวนชื่น ในปี 2561

รถน้าค่อม-Toyota-Alphard

Toyota Alphard ของน้าค่อม ชวนชื่น มาติดตั้งชุดเครื่องเสียงเมื่อปี 2562 (ภาพจาก Rocket Sound)

รถน้าค่อม-Toyota-Alphard-2016

Toyota Alphard ของน้าค่อม ชวนชื่น เมื่อปี 2556 (ภาพจาก THE ONE PART)

รถน้าค่อม-Hyundai-H1

Hyundai H-1 ของน้าค่อม ชวนชื่น ในปี 2557 (ภาพจาก THE ONE PART)

รถน้าค่อม-Toyota-Camry

Toyota Camry กับล้อ W-WORK S1C ขอบ18″ F9.5 R10.5 สีบรอนซ์ขอบเงา รัดด้วยยาง Preza 225-45-18 ของน้าค่อม ชวนชื่น ในปี 2556 (ภาพจาก ยอดยางยนต์)

รถน้าค่อม-Honda-Jazz

Honda Jazz ของน้าค่อม ชวนชื่น (ภาพจาก Dr.Used Car)

รถน้าค่อม-Honda-CR-V

Honda CR-V ของน้าค่อม ชวนชื่น (ภาพจาก Dr.Used Car)

รถน้าค่อม-Toyota-Harrier

Toyota Harrier ของน้าค่อม ชวนชื่น เมื่อปี 2558 (ภาพจาก Triple P)

รถน้าค่อม-Nissan-Cefiro-A31

Nissan Cefiro (A31) ของน้าค่อม ชวนชื่น

รถน้าค่อม-Honda-Civic

Honda Civic Turbo (FK) ของน้าค่อม ชวนชื่น เมื่อปี 2562

รถน้าค่อม-Mitsubishi-Pajero-Sport

Mitsubishi Pajero Sport ของน้าค่อม ชวนชื่น

นอกจากน้าค่อม ชวนชื่น จะชื่นชอบรถยนต์เป็นชีวิตจิตใจแล้ว ยังชื่นชอบมอเตอร์ไซค์อีกด้วยครับ

Motorcycle-น้าค่อม

ขอบคุณภาพจาก

Mitsuoka-Himiko-ม้า-อรนภา

ย้อนเวลากลับไปในช่วงปลายปีที่แล้ว คงไม่มีใครคาดคิดว่าคนที่อยู่วงการบันเทิงมาหลายสิบปี อย่าง “ม้า อรนภา กฤษฎี” จะออกมาแสดงออกทางการเมืองของเหล่า นิสิต นักศึกษา และนักเรียน ที่ชูสามนิ้วและผูกโบว์ขาว ด้วยคำพูดที่ค่อนข้างรุนแรง จนกลายเป็นดราม่าในโลกออนไลน์

จากกระแสสังคมดังกล่าว ม้า-อรนภา จึงถูกปลดออกจากรายการที่ทำอยู่ทั้งหมด และตกงานมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ต้องมาช่วยแม่ไลฟ์สดขายห่อหมก ขายของลูกค้า หรือนำเสื้อผ้าแบรนด์เนมออกมาขาย ล่าสุดประกาศขายรถสปอร์ตสุดหรู คลาสสิค ที่มีชื่อว่า Mitsuoka Himiko (มิทสึโอกะ ฮิมิโกะ) อีกด้วย หลังจากได้ Toyota Corolla Cross ป้ายแดง ที่แฟนหนุ่มได้ซื้อมาให้ใช้เป็นที่เรียบร้อย

MR.CARRO คิดว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า รถที่ ม้า อรนภา ใช้อยู่ เป็นรถที่มีชื่อเสียงเรียงนามมาจากไหน ใครเป็นคนขาย วันนี้เลยขอโอกาสมาเล่าให้ฟังกันครับ …

Mitsuoka-Himiko

บริษัท Mitsuoka Motor นับเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเล็กของญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 1968 โดย Susumu Mitsuoka เน้นจุดขายที่คุณค่าที่อยู่เหนือกาลเวลา ความคลาสสิคของรถในสไตล์อังกฤษ หรือสไตล์อเมริกันในยุค 50 และ 60 ซึ่งสามารถใช้งานได้จริงในยุคปัจจุบัน และในช่วงแรกเริ่มของบริษัท มีจะผลิตรถยนต์ขนาดจิ๋ว Micro Car ด้วย

สำหรับรถยนต์ที่มีชื่อเสียงในอดีตของค่ายนี้ ก็มีอย่างเช่น BUBU, MC-1, Zero-1, SSK, Speedster, Ray, Ryoka, Le-Seyde, Orochi หรือ Like เป็นต้น

Mitsuoka-Motor-Famous-Cars

โดย Mitsuoka เริ่มนำรถยนต์ขนาดใหญ่มาตกแต่ง จริงๆ จังๆ เป็นครั้งแรกด้วยการนำ Nissan Silvia (S13) มาตกแต่งใหม่ให้เป็นรถยนต์สปอร์ตคลาสสิค ในชื่อรุ่น Le-Seyde ในปี 1990 ที่จำลองแบบมาจากรถ Zimmer Golden Spirit เพียง 500 คันเท่านั้น

ภายหลังจึงเริ่มขยายสู่ตลาด Mass มากขึ้น ด้วยการนำรถยนต์จากค่ายรถชื่อดังหลายแบรนด์ อาทิ Toyota, Nissan หรือ Mazda มาดัดแปลงให้เป็นรถยนต์แบบคลาสสิก ด้วยช่างฝืมือผู้ชำนาญงาน ประกอบด้วยมือ ซึ่งใช้เวลาผลิตต่อคันอยู่ที่ประมาณ 3-9 เดือน

ปัจจุบัน Mitsuoka มีรถยนต์ขายหลากหลายรุ่น อาทิ Viewt, Galue, Ryuki, Rock Star, Himiko, Buddy และสามล้ออย่าง Like-T3 เป็นต้น

Mitsuoka-Himiko

สำหรับ Mitsuoka เข้ามาในไทยได้อย่างไรนั้น? ก็ต้องขอบอกเลยว่า บริษัท มิทสึโอกะ มอเตอร์เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จับมือกับทาง ยนตรกิจ คอร์ป ในวันที่ 15 กันยายน 2553 ลงขันเปิดบริษัทร่วมกัน ในสัดส่วนการลงทุนระหว่าง Mitsuoka Motor ประเทศญี่ปุ่น ถือหุ้น 45% กับยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้น 40% ที่เหลือเป็นบริษัทอื่นๆ

เตรียมพร้อมตั้งฐานประกอบรถในไทย โดยใช้โรงงานประกอบรถยนต์ ของยนตรกิจอุตสาหกรรม ย่านร่มเกล้า หลังจากที่แต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2551 หวังเปิดตลาดส่งออกในภูมิภาคอาเซียน ตะวันออกกลาง ประเดิมเปิดไลน์ประกอบ 2 รุ่น Galue IV และ Himiko ในปี 2554 แต่ก็ทำตลาดในบ้านเราถึงปี 2559 ก็ตัดสินใจยุบตลาด ถอยทัพกลับประเทศไป …

Mitsuoka-Himiko

Mitsuoka Himoko (มิทสึโอกะ ฮิมิโกะ) เป็นยนตรกรรมสปอร์ตคลาสสิค 2 ที่นั่ง เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 โดยนำพื้นฐานของ Mazda Roadster (หรือ Mazda MX-5) รหัสรุ่น NC มาตกแต่งใหม่ด้วยช่างผู้ชำนาญมากถึง 45 คน

ตั้งชื่อรุ่นรถตามองค์ราชินี “ฮิมิโกะ” ผู้ปกครองอาณาจักร “ยามาไต” ซึ่งเป็นอาณาจักรโบราณที่มีอยู่จริงประมาณ 1,800 ปีมาแล้ว ให้ภาพความสง่างาม เกียรติยศ และรัศมีแห่งความงดงามที่เปี่ยมคุณค่า น่าหลงใหล มีพลังที่น่าดึงดูดใจตามรูปลักษณ์ของราชินี Himiko อย่างแท้จริง ในราคา 3,750,000 บาท

ตัวรถภายนอก ออกแบบโดย Takanori Aoki ผสมผสานกลมกลืนระหว่างรถยนต์สมัยใหม่ กับเส้นสายโค้งมนของรถคลาสสิค แบบ Long-Nose / Short-Deck กล่าวคือ อัตราส่วนระหว่าง ความยาวของบังโคลนหน้ากับช่วงท้ายรถ เป็นอัตราส่วนทอง คือ 7 : 3 งดงามเปรียบประดุจอัญมณีล้ำค่า แลดูยังคล้ายกับรถ Jaguar XK120 และ Morgan Aero 8 อีกด้วย

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 162 แรงม้า ที่ 6,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 189 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Manual Shift Mode ขับเคลื่อนล้อหลัง เปิดประทุนได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ในเวลา 12 วินาที

Mitsuoka-Himiko-Classic

ในปี 2555 ได้เปิดตัว Mitsuoka Himiko Classic ตกแต่งพิเศษด้วยตัวถังสีทูโทน Brilliant Black / Strong Red เบาะที่นั่งพร้อมแผงประตูหนังแท้สีแดง ตัดเย็บด้วยช่างฝีมือประณีต ภายในตกแต่งด้วยลายไม้สวยเก๋ คลาสสิคอย่างเหมาะเจาะลงตัว เพิ่มความหรูหราอีกระดับด้วยคิ้วโครเมี่ยมรอบคัน ผลิตเพียง 20 คัน เท่านั้น ในราคา 3,880,000 บาท

Mitsuoka-Himiko-Limited-Edition-2015

จนในเดือนมิถุนายน 2558 เปิดตัว Mitsuoka Himiko Limited Edition High Impack Color ในงาน Bangkok Auto Salon 2015 ออกแบบด้วยสีสันตัวรถที่สดใส ใช้โทนเขียวและส้ม ตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์ดำ เอาใจคนรักสปอร์ตสไตล์คลาสสิก ใช้ล้อแม็กสีดำขนาด 17 นิ้ว ท่อไอเสียคู่ ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ โดยพัฒนาร่วมกับ TRUST / GReddy บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับจากทั้ง Race & Street Tuner

ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยโทนเขียวและส้ม ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 10 คันเท่านั้น ในราคา 3,980,000 บาท!

แล้วก็หายไปเงียบจากท้องตลาด!

ส่วนถ้าใครอยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! ขายรถคันเดิมของคุณกับทาง CARRO ดูได้ ลงประกาศขายรถฟรี โดยได้ราคาที่คุณพอใจ พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือจะ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @Carrothai คลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

เดือน “ธันวาคม” นี้ ในเดือนที่มีวันหยุดเพียบ แม้ว่าอากาศจะหนาวบ้าง ร้อนบ้าง แต่ถ้าจะพูดถึงวันสุดสัปดาห์ของการทำงาน (เช่น วันศุกร์ หรือวันเสาร์) เหล่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ในวัยทำงาน มักนิยมหาแหล่งพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ

และยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ แล้วล่ะก็ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงลานเบียร์ เพื่อนั่งดื่มเบียร์ ดื่มด่ำกับบรรยากาศชิลล์ๆ แน่นอน บรรดาค่ายเบียร์ยักษ์ใหญ่ จึงต้องจัดงานแบบดาวกระจายไปหลายๆ ที่ในกรุงเทพฯ

ทาง CARRO จึงรวมแหล่งลานเบียร์ ที่เหมาะสังสรรค์ยามราตรีในกรุงเทพฯ และลานเบียร์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ ที่ให้เพื่อนๆ ไปพักผ่อนหลังเลิกงาน และได้สนุกสนานกันอย่างเต็มที่ แต่จะมีที่ไหนกันบ้าง ไปอ่านกันได้เลย

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

1. Parc Paragon @ Siam Paragon

ลาน Parc Paragon (พาร์ค พารากอน) อีกหนึ่งย่านใจกลางเมืองที่หลายคนชอบเดินช้อปปิ้ง มีลานเบียร์ที่เปิดให้บริการกันทุกปลายปี ซึ่งก็เป็นยี่ห้อของค่ายสีเขียว แต่ถ้าใครไม่ติดอะไร ก็ดื่มกันได้ และเป็นอีกย่านที่สะดวกทั้งการเดินทาง หรือไปเที่ยวที่อื่นต่อ

การเดินทาง : รถเมล์สาย 15, 16, 25, 40, 48, 54, 73, 73ก, 79, 204, 501, 508 / BTS สยาม  / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

2. Sathorn Square

เวลาเดินทางหรือแวะมาเยือนย่านสาทร หลายๆ คน คงนึกถึงตึก Sathorn Square (สาทรสแควร์) เป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นแหล่งที่รวมคนทำงานออฟฟิศที่เยอะสุดเลยก็ว่าได้ และใครที่เหนื่อยล้าจากงาน อยากจะสังสรรค์ผ่อนคลายก็มาได้ที่ลาน Sathorn Square ได้ทุกค่ำคืนเลยช่วงนี้

การเดินทาง : รถเมล์สาย 17, 77, 149 / BRT สาทร / BTS ช่องนนทรี / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

3. Asiatique The Riverfront

ใครที่อยากดื่มดั่มกับรรยากาศชิลล์ๆ แนะนำให้มาที่นี่เลย Asiatique The Riverfront (เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์) เพราะด้วยเป็นแลนด์มาร์คสุดอลังการ อีกทั้งมีบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดโรแมนติก ไม่มีที่ไหนให้ได้แบบนี้อีกแล้ว

การเดินทาง : รถเมล์สาย 1, 15, 17, 75, 504, 547 / รถสองแถวสาย 1273 / BTS สะพานตากสิน และต่อด้วย Shuttle Boat / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

4. Mega Bangna

ใครที่อยู่แถวพัฒนาการ ศรีนครินทร์ บางนา ลาดกระบัง และสมุทรปราการ คงคุ้นเคยกับห้าง Mega Bangna (เมกาบางนา) กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นห้างที่รวมแหล่งสาธารณูปโภคทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งถ้าใครต้องการไปลานเบียร์นั่งชิลล์ๆ ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ สามารถมาที่นี่ได้เลย ลองแวะเวียนไปกันดูนะ

การเดินทาง : รถเมล์สาย 2, 23, 145, 180, 207 / BTS สถานีอุดมสุข แล้วต่อ Shuttle Bus ฟรี / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Beer-Garden-Event-In-Bangkok

5. The Street Ratchada

ห้างใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ย่านรัชดา อย่าง The Street Ratchada (เดอะสตรีท รัชดา) เป็นแหล่ง Hang Out สุดชิคที่สามารถกิน ดื่ม ช้อปได้ 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับวัยรุ่นและวัยทำงานที่ไม่ยึดติดกับเวลา ทำให้ที่นี้เป็นอีกที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด

การเดินทาง : รถเมล์สาย 36, 54, 73, 73ก, 136, 137, 179, 185, 206, 514, 517 / MRT  ศูนย์วัฒนธรรม  / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Groove-CentralWorld

6. Groove @ CentralWorld

แม้ว่าลานหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด ที่จะเคยเป็นลานเบียร์ในตำนานอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้ถูกจัดแล้ว แต่ในอาณาบริเวณเดียวกันอย่าง Groove @ CentralWorld (กรูฟ @ เซ็นทรัลเวิลด์) ที่เป็น Lifestyle Dining & Gastro Bar นานาชาติ มีร้านอาหารแบรนด์ดังระดับโลกมารวมกัน ที่ภายนอกตกแต่งสไตล์ Futuristic แต่ข้างในตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติอย่างไม้และต้นไม้ช่วยเพิ่มความร่มรื่น ซึ่งมีหลายร้านให้คุณได้นั่งดื่มเบียร์ชิวๆ พร้อมอาหารคอกเทลสุดอร่อย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 15, 25, 40, 48, 54, 73, 73ก, 79, 204, 501, 508 / BTS สยาม – ชิดลม / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 10.00 น. – 00.00 น.

La-Villa-Aree

7. La Villa อารีย์

ในย่านตอนต้นของถนนพหลโยธิน แม้ว่าบางส่วนจะเป็นย่านธุรกิจ ที่พักอาศัย และเขตทหาร ที่นี่ยังมีแหล่งความบันเทิง หรือ Community Mall อีกด้วย ซึ่งในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ บริเวณด้านหน้าของ La Villa (ลาวิลล่า) ก็จะถูกเนรมิตพื้นที่เป็นลานเบียร์ ให้คนมานั่งดื่มหลังเลิกงาน กินเบียร์ชิวๆ ดูบอลกัน หรือจะไปนั่งต่อในร้านอาหาร หรือบาร์ในย่านนี้ต่อก็ได้

การเดินทาง : รถเมล์สาย 8, 26, 27, 28, 29, 34, 39, 59, 63, 74, 77, 97, 157, 204, 502, 503, 509, 510 / BTS อารีย์ / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Major-Cineplex-Ratchayothin

ภาพจาก Oversupar Whiteswan

8. Major Cineplex Ratchayothin (เมเจอร์รัชโยธิน)

Major Cineplex Ratchayothin (เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน) จุดนี้ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง ดูหนัง และเขตธุรกิจ ของคนที่อยู่ในละแวกย่านรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งในย่านนี้ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารดังๆ รวมไปถึงร้านอาหารแบบกลางแจ้ง พร้อมกับลานเบียร์ทั้งบริเวณด้านหน้า และบนดาดฟ้าอีกด้วย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 24, 26, 34, 39, 59, 63, 104, 107, 126, 129, 178, 206, 502, 503, 524, 543 / BTS รัชโยธิน / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

Crystal-Design-Center-CDC

ภาพจาก มิว รักเฟซบุ๊ก

9. Crystal Design Center (CDC)

บนเส้นถนนเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา หรือถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถ้าคนไม่มีรถยนต์ส่วนตัวอาจจะไปลำบากสักหน่อย แต่ถ้าคุณเป็นคนที่บ้านอยู่ย่านนี้ หรือทำงานอยู่ย่านนี้ อยากจะหาที่นั่งดื่มเบียร์ชิวๆ ในหน้าหนาว ไม่อยากฝ่ารถติดเข้าไปในเมือง ก็มาชิวกันได้ที่ คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) ได้ เพราะที่นี่มีลานเบียร์ของค่ายใหญ่มาเปิดกันอยู่ทุกปี อีกทั้งมีดนตรีสดด้วย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 26 (เอกมัย) / รถสองแถวสาย 1526 / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

W-District-Phrakhanong

ภาพจาก OneStep4Ward

10. W District พระโขนง

สำหรับลานเบียร์ในย่านสุขุมวิท แม้ว่าจะมีอยู่ด้วยกันในหลายที่ แต่ที่ W District (ดับบลิว ดิสทริค) เหมาะสำหรับคนที่ชอบการดื่มเบียร์ ในบรรยากาศที่มีคนต่างชาติเยอะๆ ทั้งฝรั่ง แขก หรือญี่ปุ่น พร้อมกับทานอาหารชิวๆ ในช่วงอากาศเย็นๆ ซึ่งบางวันมีดนตรีสดให้ดูกันด้วย

การเดินทาง : รถเมล์สาย 2, 22, 23, 25, 38, 40, 48, 71, 98, 133, 501, 508, 511 / BTS พระโขนง / Maps
เวลาทำการ (ลานเบียร์) : 17.00 น. – 00.00 น.

อย่างไรก็ตาม คาร์โร มีบางอย่างที่อยากจะฝากไว้นิดนึง คือ เมาแล้วไม่ขับนะคะ ถ้าคิดว่าไปแล้วตัวเองต้องดื่มแน่นอน อย่าได้นำรถของท่านไปเลยจะดีกว่า เดี๋ยวมันจะไม่คุ้มเสียเอาได้นะ …

ส่วนถ้าใครเบื่อละ อยากขายรถคันเดิม เพื่อไปดาวน์รถคันใหม่ ซื้อรถใหม่มาขับ ก็สามารถมาขายรถ หรือตีราคารถ ที่ CARRO ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express คลิกที่นี่ค่ะ https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

The-10-Best-In-Motor-Expo-2020

งาน “Motor Expo 2020” หรือ “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37” นอกจากจะมีการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รถมือสอง รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยที่หลายๆ คนชื่นชอบ ในยุค New Normal แล้ว …

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ด้วย หลายคนอาจไม่ทราบ CARRO ขอรวบรวม 10 ที่สุด ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Expo 2020” มาให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับผม

ส่วนใครอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ เอารถมาขาย หรือตีราคารถ ที่ CARRO ได้เลย ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Suzuki-Celerio-Motor-Expo-2020

1. รถถูกที่สุด

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ยังคงเป็นSuzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ)” รถ Eco-Car น้องเล็กในตระกูล Suzuki สำหรับตลาดเมืองไทย อัดแน่นคุณภาพ ชู 3 จุดเด่น เน้นห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาที่สูง สมรรถนะเกินตัว ความประหยัดเป็นเยี่ยม มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 22 กม./ลิตร ในราคาเริ่มต้นที่ 318,000 บาท!

Rolls-Royce-Phantom-Motor-Expo-2020

2. รถแพงที่สุด

รถที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ยังคงต้องยกให้เจ้าเดิม อย่าง Rolls-Royce Phantom (โรลส์-รอยซ์ แฟนทอม) ที่ยังคงครองแชมป์รถยนต์นั่งแพงสุดเป็นประจำ กับฉายา The King of Cars กับราคา 53,500,000 บาท!!!

การออกแบบตัวรถ คงความเหลี่ยมสันกับกระจังหน้าแนวตั้งไว้ ภายในยังคงเน้นความหรูหราในระดับประณีตศิลป์ เพิ่มการดีไซน์คอนโซลหน้าใหม่ ด้วยแนวคิด “The Gallery” นำเอาชิ้นงานศิลปะเข้ามาตกแต่งที่แผงคอนโซลฝั่งผู้โดยสาร เปรียบเสมือนเป็นห้องแสดงงานศิลปะที่สามารถเคลื่อนที่ได้

ขุมพลังและตัวตนของ New Phantom เครื่องยนต์ V12 Twin Turbo แบบใหม่ ที่ให้แรงม้าสูงสุด 563 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร ที่ 1,700 รอบ/นาที พลังจะถูกส่งไปยังอย่างเงียบ และแสนสบาย ซึ่งทำให้การขับเคลื่อนดั่งพรมวิเศษดียิ่งขึ้นไปอีก ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.3 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม.

MG-EP-Wagon-2021

3. รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ถูกที่สุด

รถ EV ที่ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ต้องยกให้กับรถยนต์ไฟฟ้าเชื้อชาติอังกฤษ สัญชาติจีน อย่าง MG EP (เอ็มจี อีพี) ในรูปแบบ Station Wagon ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Motor Expo 2020 ด้วยแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน”

มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 8.8 วินาที พร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Eco, Normal และ Sport รวมทั้งมีระบบชาร์จไฟกลับเมื่อชะลอความเร็ว หรือ KERS Mode รวม 3 ระดับ และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบโมดูล ที่สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้อิสระ โดยมีขนาดความจุถึง 50.3 kWh ให้ระยะทางในการขับขี่ได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง

ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ การชาร์จในรูปแบบ Normal Charge จาก 0-100% ผ่าน MG Home Charger ที่ใช้เวลา 7.15 ชั่วโมง และรูปแบบ Quick Charge จาก 0-80% ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบเร็ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 40 นาที ในราคาถูกสุดในงาน 988,000 บาท!

Porsche-Taycan-Turbo-S

4. รถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) แพงที่สุด

รถ EV ที่แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ครั้งนี้ ต้องยกให้ Porsche Taycan (ปอร์เช่ ไทคานน์) ใหม่ สุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตซาลูน 4 ประตู ที่ได้รับการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงขับเคลื่อนสูง 800 โวลต์ เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และคงไว้ซึ่งงานออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของปอร์เช่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Porsche Taycan Turbo S มาพร้อมกับพละกำลังสูงสุด 761 แรงม้า ให้อัตราเร่งออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลาเพียง 2.8 วินาที

Porsche Taycan Turbo มาพร้อมพละกำลังสูงสุด 680 แรงม้า ให้อัตราเร่งออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 3.2 วินาที ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ได้ถึง 260 กม./ชม.

สำหรับในรุ่น Taycan 4 S ที่ติดตั้ง Performance Battery Plus ให้พละกำลังสูงสุด 571 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 4.0 วินาที พร้อมทะยานทะลุความเร็วสูงสุดกว่า 250 กม./ชม.

สำหรับ Porsche Taycan Turbo S ราคาอยู่ที่ 11,700,000 บาท!

Black-High-Wheeler

5. เก่าที่สุด

รถเก่าที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย นั่นคือ “Black High Wheeler” (แบลค์ ไฮ วีลเลอร์) รุ่นปี 1904 ซึ่งความพิเศษของรถโบราณรุ่นนี้ คือ เป็นรถที่มีฐานล้อใหญ่ถึง 75 นิ้ว และผลิตออกมาเพียง 18 คันเท่านั้น

เครื่องยนต์วางใต้แคร่กลางลำ แบบ 2 สูบนอน ความจุ 52 Cu.In. (หรือ 852 ซีซี) 18 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยโซ่ ใช้ล้อแบบรถม้าขอบบางขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 36 นิ้ว

ผลงานของ Black Manufacturing Company แห่งเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ USA และจำหน่ายโดย Sear, Roebuck & Co. ระหว่างปี 1904-1912 ในปัจจุบันมีเหลือเพียง 13 คันทั่วโลก ถือเป็นรถที่เก่าที่สุดในงาน Motor Expo ครับ

Rolls-Royce-Cullinan-Motor-Expo-2020

6. รถ SUV แพงที่สุด

รถ SUV ที่แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ก็ยังคงเป็น Rolls-Royce Cullinan (โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน) ตัวรถระดับ Ultra Luxury SUV รุ่นแรกของ Rolls-Royce ตั้งชื่อตามเพชรที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันถูกนำไปประดับอยู่บนมงกุฏของพระราชินีแห่งอังกฤษ โครงสร้างตัวถังผลิตจากอะลูมิเนียม ที่เป็นสิทธิบัตรของโรลส์-รอยซ์ ห้องโดยสารสามารถขยายพื้นที่เพื่อเพิ่มความจุสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,930 ลิตร

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร Twin Turbo 563 แรงม้า แรงบิด 850 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ในราคา 33,500,000 บาท!

BMW-M5

7. โปรโมชั่นโหดที่สุด

สำหรับโปรโมชั่นโหดสุดในงาน Motor Expo 2020 ปีนี้ ต้องยกให้กับบูธ BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ที่นำ BMW M5 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม 5) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.4 ลิตร กับเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 600 แรงม้า ที่ 5,600-6,700 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ M xDrive และปรับเป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ได้

ตัวรถราคาเต็มๆ อยู่ที่ 9,339,000 บาท แต่ในงานนี้ ให้ส่วนลดถึง 4,000,000 บาท! (4 ล้านบาท!)

Kawasaki-Road-Bike

8. รถจักรยานแพงที่สุด

ในงาน Motor Expo 2020 นี้ แม้แต่จักรยาน ก็มีขายเช่นกัน! ต้องยกให้ “Kawasaki Road Bike” (คาวาซากิ โรด ไบค์) จักรยานทางเรียบระดับพรีเมียม ที่ผสมผสานระหว่างเฟรมคาร์บอนชั้นยอด และชิ้นส่วนคุณภาพสูงจาก Shimano ตกแต่งด้วยสีเอกลักษณ์ของ Kawasaki นั่นคือ สีเขียวไลม์กรีน ในราคา 349,000 บาท

Harley-Davidson-Touring

9. รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2020 ต้องยกให้กับ Harley-Davidson Road Glide (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน โรด กลิด) ที่มาพร้อมความโดดเด่นเรื่องงานดีไซน์ ใช้เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114 ขนาด 1,868 ซีซี แบบ 2 สูบ V-Twin 4 จังหวะ 2 วาล์ว/สูบ ในราคา 1,455,500 บาท

Honda-City-Hatchback-2021

10. คนสนใจเยอะที่สุด

รถที่คนสนใจเยอะที่สุดในงาน Motor Expo 2020 คงต้องยกให้ Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบค) เพราะเดินผ่านทีไร ก็ต้องเห็นคนยืนล้อมรถกันแน่นบูธทุกที!

1 2 3 5