ราคารถใหม่ Mazda ปี 2022 ทุกรุ่น

รวมราคารถใหม่ Mazda (มาสด้า) Update 25/7/2022

Carro นำเสนอราคารถใหม่ 2022 Mazda (มาสด้า) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน เช็คราคารถ Mazda ป้ายแดงได้ที่นี่

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

Mazda2 2021 Collection

Mazda2

  • 1.3 C / C Sports ราคา 602,000 บาท
  • 1.3 S / S Sports ราคา 627,000 บาท
  • 1.3 S Leather / S Leather Sports ราคา 648,000 บาท
  • 1.3 SP / SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • XD / XD Sports ราคา 782,000 บาท
  • XDL / XDL Sports ราคา 799,000 บาท
  • Mazda 100th Anniversary Edition ราคา 677,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 10,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 12,000 บาท

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

New Mazda2 2022

  • 1.3 E / E Sports ราคา 546,000 บาท
  • 1.3 C / C Sports ราคา 599,000 บาท
  • 1.3 S Leather / S Leather Sports ราคา 659,000 บาท
  • 1.3 SP / SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • XDL / XDL Sports ราคา 799,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 10,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 12,000 บาท

Mazda3 2021

Mazda3

  • 2.0 C ราคา 969,000 บาท
  • 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท
  • Mazda 100th Anniversary Edition ราคา 1,237,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda3 2022

New Mazda3 2022

  • 2.0 C ราคา 979,000 บาท
  • 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda CX-3 2022

New CX-3 2022

  • 2.0 Base ราคา 769,000 บาท
  • 2.0 Base Plus ราคา 809,000 บาท
  • 2.0 Comfort ราคา 879,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 10,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 12,000 บาท

Mazda CX-30 Signature Style 2021

All-New CX-30 2020

  • 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท
  • Mazda 100th Anniversary Edition ราคา 1,228,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl (25D) เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray (46G) เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal (46V) เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

New CX-30 2022

  • 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl (25D) เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray (46G) เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal (46V) เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda CX-5 2021

CX-5

  • 2.0 C ราคา 1,300,000 บาท
  • 2.0 S ราคา 1,410,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,560,000 บาท
  • XD ราคา 1,570,000 บาท
  • XDL ราคา 1,790,000 บาท
  • 2.5 Turbo SP ราคา 1,850,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

New Mazda CX-5 2022

CX-5 2022

  • 2.0 S ราคา 1,320,000 บาท
  • 2.0 SP ราคา 1,470,000 บาท
  • XDL ราคา 1,770,000 บาท
  • 2.5 Turbo SP ราคา 1,830,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda CX-8 2021

CX-8

  • 2.5 S ราคา 1,599,000 บาท
  • 2.5 SP ราคา 1,699,000 บาท
  • 2.2 XDL ราคา 1,899,000 บาท
  • 2.2 XDL Executive (6 ที่นั่ง) ราคา 2,069,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

New Mazda CX-8 2022

CX-8 2022

  • 2.5 S ราคา 1,499,000 บาท
  • 2.5 SP ราคา 1,599,000 บาท
  • 2.5 SP Executive (6 ที่นั่ง) ราคา 1,639,000 บาท
  • 2.2 XDL ราคา 1,799,000 บาท
  • 2.2 XDL Executive (6 ที่นั่ง) ราคา 2,069,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

New Mazda CX-8 2022 Minorchange

CX-8 2022 (Minorchange)

  • 2.5 S ราคา 1,549,000 บาท
  • 2.5 SP ราคา 1,619,000 บาท
  • 2.5 SP Executive (6 ที่นั่ง) ราคา 1,699,000 บาท
  • 2.2 XDL ราคา 1,849,000 บาท
  • 2.2 XDL Executive (6 ที่นั่ง) ราคา 2,199,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda MX-5 RF 2022

MX-5

  • 2.0 RF ราคา 2,905,000 บาท
  • 2.0 RF 6MT ราคา 2,905,000 บาท

*หมายเหตุ : สี Snowflake White Pearl เพิ่ม 10,000 บาท, สี Machine Gray เพิ่ม 15,000 บาท และสี Soul Red Crystal เพิ่ม 17,000 บาท

Mazda BT-50 Pro Thunder 2018

BT-50 PRO

  • Standard Cab 2.2 V ราคา 562,000 บาท
  • Freestyle Cab 2.2 S ราคา 623,000 บาท
  • Freestyle Cab 2.2 V ราคา 668,000 บาท
  • Freestyle Cab 2.2 Hi-Racer ราคา 682,000 บาท (รวมชุดแต่ง Thunder 701,000 บาท)
  • Freestyle Cab 2.2 Hi-Racer (ABS) ราคา 748,000 บาท
  • Double Cab 2.2 S ราคา 663,000 บาท
  • Double Cab 2.2 V (ABS) ราคา 795,000 บาท
  • Double Cab 2.2 Hi-racer ราคา 792,000 บาท
  • Double Cab 2.2 Hi-racer (ABS) ราคา 849,000 บาท
  • Double Cab 2.2 Hi-Racer 6AT ราคา 866,000 บาท
  • Double Cab 2.2 Hi-Racer 6AT (Leather) ราคา 926,000 บาท (รวมชุดแต่ง Thunder 952,000 บาท)
  • Double Cab 4×4 3.2 R ราคา 1,046,000 บาท
  • Double Cab 4×4 3.2 R 6AT ราคา 1,090,000 บาท

*หมายเหตุ : สีเมัลลิก เพิ่ม 7,000 บาท, สีขาวมุก ราคาเพิ่ม 14,000 บาท (เฉพาะรุ่น)

All-New Mazda BT-50 2021

All-New BT-50 2021

  • Standard Cab 1.9 E ราคา 553,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 C ราคา 679,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 C Hi-Racer ราคา 714,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 C Hi-Racer 6AT ราคา 768,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 S Hi-Racer ราคา 787,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 S Hi-Racer 6AT ราคา 812,000 บาท
  • Double Cab 1.9 C ราคา 771,000 บาท
  • Double Cab 1.9 S ราคา 847,000 บาท
  • Double Cab 1.9 S Hi-racer ราคา 891,000 บาท
  • Double Cab 1.9 S Hi-Racer 6AT ราคา 936,000 บาท
  • Double Cab 1.9 SP Hi-Racer ราคา 1,012,000 บาท
  • Double Cab 1.9 SP Hi-Racer 6AT  ราคา 1,070,000 บาท
  • Double Cab 4×4 3.0 SP ราคา 1,118,000 บาท
  • Double Cab 4×4 3.0 SP ราคา 1,153,000 บาท

ดูโปรโมชั่น Mazda ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/mazda-new-car-promotion/

Carro แนะนำ Mazda2 เพื่อคนวัยรุ่น!

ยุคที่หลายๆ คน นอกจากจะมีงานการอาชีพหลักแล้ว บางคนยังรู้จักหาอาชีพเสริมทำในยามว่าง หรือจะออกมาเป็นนายตัวเองก็ตาม หลายคนต้องใชัรถยนต์ทั้งในเรื่องงาน และในครอบครัว ก็ยังมีความต้องการรถยนต์ที่ขับแล้วสนุก ช่วงล่างเกาะถนนดี รูปทรงดีไซน์ ภายในสวยถูกใจคล้ายกับรถยุโรป ขนของได้ รวมไปถึงให้เด็กๆ นั่งไปโรงเรียน หรือไปเที่ยวในช่วงวันหยุดก็ได้

รถยนต์ที่ Carro (คาร์โร) จะมาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกสรรเป็นเจ้าของกัน เป็นรถที่มีคุณสมบัติดังกล่าวหลายอย่าง เชื่อว่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่หลายคนคงชอบทีเดียว

ไปรู้จักกับ Mazda2 (มาสด้า2) รหัสรุ่น DJ และ DL รถ Eco-Car สกายแอคทีฟ สายพันธุ์ Zoom-Zoom (ซูม-ซูม) สปอร์ตทุกอณู ในกลุ่ม B-Segment จากมาสด้ากันครับ กับรถขายดีใน Carro มาดูกันว่า รุ่นนี้มีความน่าสนใจตรงจุดไหนกันบ้าง …

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

สำหรับ Mazda2 มือสอง (มาสด้า2 มือสอง) เจเนอเรชั่นที่ 2 โฉมปัจจุบัน จุดเริ่มต้นคงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 เมื่อมาสด้าตัดสินใจเข็นรถขายดียอดนิยมในไทยอย่าง Mazda2 (หรือ Mazda Demio ในญี่ปุ่น) เข้าโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐาน ระยะที่ 2 หรือ โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 และตั้งสายการผลิตที่ โรงงานผลิตรถยนต์ออโต้อัลลายแอนซ์ จ.ระยอง

ก่อนจะนำมาให้ประชาชนเผยโฉมในงาน Motor Expo 2014 และก็สามารถคว้ายอดจองไปได้สูงกว่า 1,500 คัน!

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

ความโดดเด่นของ Mazda2 รถซิตี้คาร์รุ่นขายดีครั้งนี้ ได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2558 ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ารถเล็ก ได้ทั้งความแรง และเรื่องประหยัดน้ำมัน ภายใต้รูปลักษณ์การออกแบบแนวใหม่ของดีไซน์ โคโดะ (Kodo Design) ที่ลูกค้าชื่นชอบ และมอบประสบการณ์ความสนุกในการขับขี่ตามแนวคิด จินบะ – อิไต (Jinba-Ittai) ของมาสด้า ทำให้ลูกค้าต่างบอกกันปากต่อปาก ในเรื่องของความสวยงาม สมรรถนะการใช้งาน และความพึงพอใจที่มีต่อมาสด้า

พร้อมออพชั่น MZD Connect และอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มคัน พร้อมระบบป้องกันรถลื่นไถล DSC ที่เคยมีแต่ในรถหรูขนาดใหญ่ ก็จัดมาให้กันเป็นครั้งแรกใน Mazda2 รุ่นนี้อีกด้วย

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

โดยในโฉมแรกนี้ วางเครื่องยนต์คลีนดีเซลขนาด Compact 1.5 ลิตร “SKYACTIV-D” ในรถยนต์นั่งที่เป็นรุ่นเริ่มต้นของตลาด B-Segment และกลุ่มอีโคคาร์ แบบ 4 สูบ Turbo แปรผัน 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที มาพร้อมแรงบิดสูงเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่ 2.5 ลิตร นั่นคือ 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที แต่ประหยัดน้ำมันในอัตราสูงถึง 26.3 กม./ลิตร!

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

และจุดเด่นอีกหลายอย่าง อาทิ

– ระบบประหยัดพลังงานอัจฉริยะ i-ELOOP (Mazda Regenerative Braking System) เปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการลดความเร็วให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และเก็บไว้ในอุปกรณ์เก็บประจุไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้เลี้ยงระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์ภายในรถ

– ระบบ i-STOP (Idling Stop System) ระบบประหยัดน้ำมันที่สั่งให้เครื่องยนต์หยุดการทำงานชั่วคราวเมื่อรถจอดนิ่ง

– ระบบ i-ACTIVSENSE: Worry-free Excitement เส้นทางไหนก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ

– ระบบ MZD CONNECT: Connectivity At Your Fingertips สะดวกและครบทุกฟังก์ชั่น ให้คุณเพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลบนรถทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย หรือรับ-ส่ง ข้อความ SMS จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth พร้อม Infotainment หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รวมไปถึงระบบนำทาง Navigator

– ระบบ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กําลังแซงขึ้นมา

– ระบบ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง ซึ่งจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมไฟกะพริบเตือนที่กระจกมองข้างในขณะขับรถถอยหลัง

มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ XD, XD High Connect และ XD High Plus โดยมีให้เลือกทั้งแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

25 มีนาคม 2558 ตามมาติดๆ กับรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 1.3 ลิตร ขยายความต้องการเพิ่มเติม ด้วยจุดเด่นอย่างการเผาไหม้สมบูรณ์ที่สุดด้วยอัตราส่วนการอัดสูงถึง 10:1 ให้แรงม้าสูงถึง 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20 ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE แบบ 6 สปีด

มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, High High Plus ทั้งในแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู

ในเดือนธันวาคม 2558 ปรับโฉม New Mazda2 รุ่น Model Year 2016 รูปลักษณ์ใหม่ มาพร้อมไฟหน้า LED และไฟ Day Time Running LED ปรับอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้น กล้องมองหลัง และอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

15 กุมภาพันธ์ 2560 เปิดตัวรุ่นปี 2017 ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “The Next Level Of Excitement” อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่มาพร้อมกับระบบ G-VECTORING CONTROL อันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยีด้านการควบคุมการขับขี่ พร้อมใส่อุปกรณ์มาตรฐานเต็มคัน

มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, High, High Connect และ High Plus

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

20 กุมภาพันธ์ 2561 Mazda เปิดตัว Mazda2 รุ่น 2018 Collection ลุยตลาด ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “Excitement Neved Ends” หรือ “เร้าใจ ไม่เคยหยุด” เพิ่มจุดเด่นหลายอย่าง อาทิ สีใหม่ล่าสุด สีแดง Soul Red Crystal ที่ให้ความสดใสเป็นประกายของสีแดง หรือระบบไฟหน้า เปิด-ปิด แบบอัตโนมัติ และระบบ Cruise Control เป็นต้น

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

และแล้วก็ถึงเวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ Mazda2 ครั้งใหญ่ ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้ KODO Design เจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่กันชนหน้า-หลัง กระจังหน้า ไฟหน้าและไฟท้าย ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารที่หรูหรา พรีเมียม ด้วยการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง อาทิ แผงคอนโซลหน้า แผงประตูด้านข้าง และเบาะดีไซน์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของ SKYACTIV-Vehicle Architecture ที่ช่วยให้การขับขี่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ยังคงมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์คลีนดีเซล 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ทั้งแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าตาม Concept “ไม่หยุด…แค่ความธรรมดา”

พร้อมปรับชื่อรุ่นใหม่ เริ่มตั้งแต่รุ่นเบนซิน 1.3 E, 1.3 C, 1.3 S, 1.3 S Leather (เบาะหนังแท้) และ 1.3SP ส่วนรุ่นดีเซล ลดเหลือ 2 รุ่นย่อย อาทิ XD และ XDL

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

ล่าสุด … 8 กุมภาพันธ์ 2564 Mazda แนะนำ New Mazda2 2021 Collection เพิ่มออพชั่น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) ช่วยให้ขับสนุกยิ่งขึ้น, เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยกล้องมองหลัง ตั้งแต่รุ่น 1.3 C ขึ้นไป พร้อมระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง หรือกล้อง 360 องศา รอบคัน

ซึ่ง Mazda2 โฉมนี้ นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2558 มาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 185,000 คัน!!!

และสำหรับ Carro ในเดือนกรกฏาคม 2565 เรามี Mazda2 รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 21 คันครับ ได้แก่ …..

MAZDA 2 1.5 XD High Connect 2019 ขาว

MAZDA 2 1.5 XD High Connect 2019 ขาว

1. Mazda2 1.5 XD High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 107,995 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 459,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-EWYL1Y.html

MAZDA 2 1.3 Sports High plus 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 Sports High plus 2019 แดง

2. Mazda2 1.3 Sports High Plus ปี 2019 เลขไมล์ 36,459 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 459,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-G67MNV.html

MAZDA 2 1.5 SKYACTIV XD HIGH CONNECT 2017 แดง

MAZDA 2 1.5 SKYACTIV XD HIGH CONNECT 2017 แดง

3. Mazda2 1.5 XD High Connect ปี 2017 เลขไมล์ 88,208 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 419,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2017-G08QY9.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2019 แดง

4. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 42,079 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 439,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-G97PJ8.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 แดง

5. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 74,904 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 419,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-D27MJN.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH PLUS 2016 ดำ

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH PLUS 2016 ดำ

6. Mazda2 1.3 High Plus ปี 2016 เลขไมล์ 106,114 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 379,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2016-E17LXK.html

MAZDA 2 1.5 XD Sports HIGH CONNECT 2015 เทา-ดำ

MAZDA 2 1.5 XD Sports HIGH CONNECT 2015 เทา-ดำ

7. Mazda2 1.5 XD Sports High Connect ปี 2015 เลขไมล์ 223,862 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 359,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2015-G373ZR.html

MAZDA 2 1.3 Standard 2019 น้ำตาล

MAZDA 2 1.3 Standard 2019 น้ำตาล

8. Mazda2 1.3 Standard ปี 2019 เลขไมล์ 92,546 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-E47K1X.html

MAZDA 2 1.3 Sports High 2016 ดำ

MAZDA 2 1.3 Sports High 2016 ดำ

9. Mazda2 1.3 Sports High ปี 2016 เลขไมล์ 141,122 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 369,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2016-DRQNM5.html

MAZDA 2 1.3 Hight Connect 2017 เทา

MAZDA 2 1.3 Hight Connect 2017 เทา

10. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2017 เลขไมล์ 57,264 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 379,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2017-DO2997.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 น้ำตาล

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 น้ำตาล

11. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 53,680 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-EKJ29P.html

MAZDA 2 1.3 High Connect 2018 ดำ

MAZDA 2 1.3 High Connect 2018 ดำ

12. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 48,458 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-D87OL4.html

MAZDA 2 1.3 Sports Standard 2017 แดง

MAZDA 2 1.3 Sports Standard 2017 แดง

13. Mazda2 1.3 Sports Standard ปี 2017 เลขไมล์ 112,857 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 349,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2017-GY7N5Z.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 น้ำตาล

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 น้ำตาล

14. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 67,907 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-EWYL2Q.html

MAZDA 2 1.3 High Plus 2019 ขาว

MAZDA 2 1.3 High Plus 2019 ขาว

15. Mazda2 1.3 High Plus ปี 2019 เลขไมล์ 50,227 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 439,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-ENMJOL.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2016 ขาว

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2016 ขาว

16. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2016 เลขไมล์ 37,705 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 389,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2016-D57YPO.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 แดง

17. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 90,090 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-DONP22.html

MAZDA 2 1.3 Sports High Connect 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 Sports High Connect 2019 แดง

18. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 75,415 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-G67MO0.html

MAZDA 2 1.3 SPORTS HIGH CONNECT 2018 เทา

MAZDA 2 1.3 SPORTS HIGH CONNECT 2018 เทา

19. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 58,315 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-GJZ10X.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2018 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2018 แดง

20. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 107,268 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-DONL94.html

MAZDA 2 1.3 High Connect 2019 ขาว

MAZDA 2 1.3 High Connect 2019 ขาว

21. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 31,983 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 439,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-DLK3YO.html

Carro Automall ตลาดรถ

ถ้าใครที่กำลังมองหา มาสด้า2 มือสอง (Mazda2 มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

ถ้าจะให้พูดถึง “รถ SUV” (Sport Utility Vehicle) แล้ว ในบ้านเราก็มีอยู่หลากหลายประเภท เริ่มต้นตั้งแต่แบบ Crossover ซึ่งมาจากคำว่า Crossover Utility Vehicle ซึ่งเป็นรถที่ประกอบเป็นชิ้นเดียวกันทั้งคัน ดูคล้ายกับรถเก๋งยกสูง รูปร่างหน้าตาสวย เน้นความอเนกประสงค์ ตัวรถไม่ใหญ่มากนัก เหมาะกับการใช้งานในเมืองเป็นหลัก หรืออาจจะลุยได้บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่ากับแบบ SUV แท้ๆ

สำหรับรถ SUV นั้น ก็ยังมีแยกย่อยไปได้อีก 2 แบบหลักๆ ได้แก่ SUV แบบที่มีลักษณะเดียวกันกับรถแนว Crossover แต่มีขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่า โครงสร้างตัวรถเป็นแบบ Monocoque เชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกันตลอดคัน ให้ความนุ่มสบายกว่าเวลาขับ มีที่นั่งทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง

และรถ SUV ที่โครงสร้างตัวรถมีแชสซีส์เป็นฐานหลัก แบบเดียวกับรถกระบะ ที่บ้านเรามักเรียกกันว่า “รถ PPV” หรือ Pick-up Passenger Vehicle ช่วงล่างแบบรถกระบะ เด้ง สะเทือน แต่ผู้ผลิตรถก็พยายามปรับช่วงล่างให้นุ่มนวลขึ้น ด้วยการใช้คอยล์สปริง ตัวรถขนาดใหญ่ นั่งได้ 7-8 ที่นั่ง ใช้วิ่งในเมือง ลุยทางฝุ่น เข้าป่าฝ่าดงได้

คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงรถอเนกประสงค์ ที่ใช้งานได้หลากหลาย ขับไปทำงาน ไปพักผ่อนหย่อนใจกันได้ทั้งครอบครัว ฝนตกก็พอลุยน้ำท่วมได้ หรือเข้าทางลูกรังก็พอลุยได้ มีให้เลือกกันทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งยังแบ่งออกไปได้อีกเป็นแบบ Part-Time หรือแบบ Full-Time เป็นต้น

Carro ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ SUV และ Crossover ราคาถูกสุดในไทย ประจำปี 2022 มาให้ทุกท่านได้เลือก และเช็คราคากันครับ.

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

1. MG ZS 1.5 C ราคา 689,000 บาท

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) เป็นรถที่พวกลื้ออาจจะถามว่า กี่ล้านนนนน แต่ตอนพวกลื้อจะขาย ก็อาจจะถามว่า เหลือกี่แสนนนนน …..

โดย MG ZS จัดเป็นรถในระดับ B-SUV รุ่นไมเนอรเชนจ์ล่าสุด เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2563 เอาใจคนรุ่นใหม่ด้วยความเป็น Smart SUV ที่ชูจุดเด่นอย่างระบบ i-Smart ระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย และยังดูสถานะและสั่งงานระบบต่างๆ ของตัวรถผ่านแอพพลิเคชั่น MG iSMART บนโทรศัพท์มือถือ ได้อีกทั้งยังตั้งราคาในแบบที่ว่า “จับต้องได้” จนหลายต่อหลายคนต้องลองซื้อไปใช้กัน ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง หรูหรา ใช้งานได้อเนกประสงค์

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ตัวเดียวกับที่ใช้ใน MG3 และ MG5 แต่ปรับแรงม้าให้มากขึ้นมาเป็น 114 แรงม้า พร้อมกับปรับปรุงชิ้นส่วนภายใน และช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension ส่งกำลังผ่านระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ CVT ใหม่

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

2. Honda BR-V 1.5 V ราคา 765,000 บาท

Honda BR-V (ฮอนด้า บีอาร์วี) เป็นรถแนว Active Sport Crossover มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟหรี่และไฟ LED สำหรับวิ่งกลางวัน, ไฟตัดหมอกใหม่ เสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin) ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว แถมยังสีภายนอกเพิ่มสีใหม่ แดงมุก Passion Red

ชูจุดเด่นด้วยภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทนดำ-แดงสไตล์สปอร์ต มีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถพับแยกแบบ 60:40 หรือพับตลบจังหวะเดียว (One Motion) ปรับเลื่อนหน้า-หลัง เพื่อให้ผู้โดยสาร แถวที่ 3 เข้า-ออกได้สะดวกยิ่งขึ้น และพนักพิงปรับเอนได้ถึง 3 ระดับ โดยเบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง พนักพิงสามารถพับแยกแบบ 50:50 หรือพับตลบไปด้านหน้า 2 จังหวะ เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้าย และแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร แบบเดียวกับใน Honda City (โฉมเก่า) ให้แรงม้าสูงสุด 117 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT โดยทั้งเครื่องยนต์และเกียร์ พัฒนาขึ้นภายใต้เทคโนโลยี Earth Dreams พร้อมรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85

Mazda CX-3 2022

3. Mazda CX-3 2.0 Base ราคา 769,000 บาท

Mazda CX-3 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-3) ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์รุ่นฮิต ในโฉมรถใหม่ 2022 ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถอเนกประสงค์ Compact SUV เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ตัวรถดูเรียบหรู ภายใต้ Concept “Less is More” เพิ่มตัวถังสีบรอนซ์ Platinum Quartz ผสมผลึกกึ่งโปร่งแสงจากควอตซ์ขาวละเอียด เป็นจุดเด่น

ภายในห้องโดยสารตกแต่งระดับพรีเมียม ทั้งคอนโซลหน้าแบบ Grand Luxe Suede สีเทา, เบาะนั่งสีดำเดินด้ายสีเทา พร้อมปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 8 ทิศทางและหน่วยความจำ, หน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto หรือระบบชาร์จไฟไร้สาย Wireless Charger กล้องมองภาพด้านหลัง, ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (Push Start Button) เป็นต้น

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ให้กำลังเครื่องยนต์มากที่สุดและประหยัดน้ำมันมากที่สุดถึง 16.4 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

4. DFSK Glory 560 ราคา 789,000 บาท

การกลับมาใหม่อีกครั้ง สำหร้บ DFSK (ดีเอฟเอสเค) ที่เคยผลิตและนำเข้ารถบรรทุกเล็กกับรถตู้มาขายในไทย ก่อนจะเลิกขายไป งวดนี้ตัวแทนจำหน่ายรายเดิม ได้กลับมาทำตลาดใหม่พร้อมนำเข้า DFSK Glory 560 (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ 560) รถ Crossover SUV สัญชาติจีนแบบ 7 ที่นั่ง ถูกสุดในตลาดบ้านเราแล้วตอนนี้ โดยนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย ซึ่งในตลาดจีนเองใช้ชื่อว่า Dongfeng Fengguang S560 (ตงฟง เฟิงกวง เอส560) เปิดตัวไปในช่วงปี 2017 ในราคาสุดคุ้ม แถมหรูอย่างกับรถยุโรป!

ภายนอกมาพร้อมชุดไฟหน้าแบบ Projector LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟตัดหมอกหน้า กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว ที่ปรับและพับได้อัตโนมัติ ตกแต่งตัวรถให้ดูบึกบึน ส่วนไฟท้ายแบบแนวยาว มีเซ็นเซอร์ถอยหลัง ไฟตัดหมอกหลัง และล้อแม็กแบบสปอร์ตขนาด 17 นิ้ว

ส่วนภายในห้องโดยสาร ตกแต่งหรูหราเกินราคา ด้วยเบาะหนัง มาพร้อมหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปรับระดับได้ มีระบบอัจฉริยะ (Intelligent Features) ประกอบด้วย ระบบนำทาง GPS, รีโมทอัจฉริยะ Keyless, ปุ่ม Push Start, กระจกไฟฟ้าขึ้น-ลง ควบคุมได้ด้วยรีโมท มีเบรกมือไฟฟ้า มีระบบ Cruise Control พร้อมระบบปลดล็อคอัตโนมัติกรณีเกิดการปะทะให้ด้วย

รวมถึงก้านไฟเลี้ยว ที่ปรับย้ายฝั่งมาที่ด้านขวาแล้ว เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ต่างจากรถจีนในหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ที่ไม่ได้ย้ายตามที่ใช้ในพวงมาลัยซ้ายมาด้วย

ขุมพลังมีขนาด 1.5 ลิตร Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

Haval Jolion Hybrid SUV 2022

5. Haval Jolion Hybrid SUV Tech ราคา 879,000 บาท

All-New HAVAL Jolion Hybrid SUV (ฮาวาล โจไลอ้อน) นับเป็นรถจีนรุ่นที่ 2 ของ Haval จากสายการผลิตที่โรงงาน Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) จ.ระยอง เปิดตัวในไทย (รุ่นพวงมาลัยขวา) คันแรกของโลก ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ด้วยราคาสุดเร้าใจ และการออกแบบรถ คุณภาพวัสดุ ดูดีเหมือนรถยุโรป ส่วนที่มาของชื่อรุ่น Jolion มาจากการรวมคำว่า Joy + Lion

ความพิเศษของรถรุ่นนี้ อยู่ที่การใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะเช่นเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV และพกพาความหรูหรามารอบคัน ด้วยกระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา ไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ กับระบบ Daytime Running Light และระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค พร้อมไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ร่วมด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ และไฟท้าย LED

ห้องโดยสารภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” กว้างสบาย เริ่มด้วยการเชื่อมต่อของ 3 หน้าจออัจฉริยะ ทั้งหน้าจอหลักตรงกลางแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับ Apple Carplay MP3 JOOX และระบบนำทาง ต่อด้วยหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอ Head-up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมด้านหน้า

นอกจากนี้ ยังมีเบาะคนขับที่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ลำโพง 6 ตัว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา และช่องแอร์ด้านหลัง ระบบกรองอากาศ PM2.5 ที่ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start รวมไปถึงเบาะที่นั่งด้านหลังพับลงได้พื้นที่บรรทุกสัมภาระสูงสุดถึง 1,069 ลิตร

พร้อมการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Hybrid ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT และเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent Single Pedal) ให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งหรือชะลอความเร็วได้เพียงคันเร่งเดียว

พร้อมด้วยเทคโนโลยี LEMON Hybrid DHT (Dedicated Hybrid Technology) ที่พัฒนาขึ้นโดย GWM ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ไฮบริดและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 23.8 กม./ลิตร (ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ) ชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter ปรับโหมดการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ 1) โหมดมาตรฐาน 2) โหมด Sport 3) โหมด ECO 4) โหมดสภาพถนนลื่น ซึ่งจะมีการปรับการใช้พลังงานขับเคลื่อนเหมาะสมกับการขับขี่ในแต่ละโหมด

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

6. Nissan Kicks e-POWER S ราคา 889,000 บาท

Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์) เป็นรถครอสโอเวอร์ไฮบริด ที่มาพร้อมจุดเด่นอย่างการใช้ระบบเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปปั่นกระแสไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน และจ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าให้ขับเคลื่อนรถยนต์อีกที ซึ่งเป็นหลักการที่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV : Battery Electric Vehicle) แต่ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการขับรถทางไกล

ขุมพลังหลักคือเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ขนาด 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 79 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh)

จากนั้นจึงป้อนพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC Synchronous Motor รหัส EM57 เป็นลูกเดียวกับที่อยู่ใน Nissan Leaf ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า (95 กิโลวัตต์) หากรวมพลังทั้งหมด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะให้แรงม้าสูงถึง 129 แรงม้า

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

7. DFSK Glory i-Auto ราคา 919,000 บาท

DFSK (ดีเอฟเอสเค) ผู้ผลิตรถจีนแบรนด์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน ภายใต้ตัวแทนจำหน่ายที่กลับมาทำตลาดอีกครั้งในไทย ได้นำเข้า DFSK Glory i-Auto (ดีเอฟเอสเค กลอรี่ ไอ-ออโต้) รถ Crossover SUV สัญชาติจีนแบบ 7 ที่นั่ง จากอินโดนีเซียมาบุกตลาดบ้านเรา ซึ่งในตลาดจีนเองใช้ชื่อว่า Dongfeng Fengguang 580 (ตงฟง เฟิงกวง 580) เปิดตัวไปตั้งแต่ช่วงปี 2016

ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าแบบ Infinite Starlight Design ชุดไฟหน้าแบบ Full LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ส่วนไฟท้ายแบบ Full LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential, หลังคาแบบ Panoramic Sunroof ที่สั่งการเปิดได้ด้วยเสียง, ประตูบานท้ายแบบไฟฟ้า พร้อมเซ็นเซอร์เท้า, กล้อง 360 องศารอบคัน และล้อแม็กแบบสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว

ส่วนภายในห้องโดยสาร ตกแต่งหรูหราพร้อมลายไม้ มาพร้อมหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว กับปุ่มสั่งงานบริเวณแผงคอนโซล, ระบบสั่งการด้วยเสียง i-Talk, เบาะหนังแท้ 7 ที่นั่ง พร้อมกล้องบันทึกภาพขณะรถวิ่ง และระบบความปลอดภัยมากมาย

ขุมพลังมีขนาด 1.5 ลิตร Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT บนน้ำหนักตัวรถ 1,510 กิโลกรัม

New MG HS และ MG HS PHEV 2022

8. MG HS 1.5 T 2WD C ราคา 939,000 บาท

New MG HS (เอ็มจี เอชเอส) รถใหม่ 2022 แบบ SUV รุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ภายใต้แนวคิด Refinement โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย หรูหราทันสมัย และความสปอร์ต มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องเบนซินเทอร์โบ และ ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-In Hybrid)

โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยด้วยการติดตั้งระบบนำทางเสมือนจริง หรือ AR Navigation ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกล้องหน้าที่ถ่ายทอดสภาวะแวดล้อมจริงในขณะเดินทาง ร่วมกับระบบนำทาง Navigation แบบ Realtime ช่วยให้การใช้งานระบบนำทางแม่นยำมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากกว่าเดิม

และระบบกุญแจดิจิตอล (Digital Key Technology) อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากลสูงสุดถึง 26 ระบบ และระบบช่วยผู้ขับขี่หรือระบบ ADAS ที่เทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2

มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน Turbo GDI ขนาด 1.5 ลิตร 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด แบบ Twin Clutch Sportronic Transmission (TST) และเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้กำลังสูงสุด 284 แรงม้า

มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบโมดูล ขนาดใหญ่ 16.6 kWh ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

All-New Honda HR-V e:HEV 2022

9. Honda HR-V e:HEV E ราคา 979,000 บาท

All-New Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์วี) ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 2 ด้วยรูปแบบ e:HEV ขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย กับรุ่นย่อย RS เปิดตัวในไทยที่แรกของโลก! เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมที่สะท้อนตัวตนสไตล์ SUV ได้อย่างชัดเจน โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ดึงดูดทุกสายตา ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย กว้างขวาง

มอบความสะดวกสบายในทุกที่นั่งและทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม โดดเด่นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System

ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม./ลิตร

พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยให้การชาร์จไฟได้ประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

10. Mazda CX-30 2.0 C ราคา 989,000 บาท

Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) เพิ่งปรับโฉมใหม่ไปในเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา ด้วยสีใหม่ล่าสุด บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มต้นชีวิตคู่ในสไตล์ใหม่ ที่กำลังมองหาครอสโอเวอร์ในกลุ่ม B-SUV

ตัวรถออกแบบภายใต้แนวคิด Kodo: Soul of Motion เป็นรถที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mazda3 เพิ่มทางเลือกระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 โดย CX-30 เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม “Less is More” ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ภายในห้องโดยสารยังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่พิถีพิถัน คัดสรรเลือกใช้เฉพาะวัสดุเกรดพรีเมี่ยมในทุกจุดสัมผัส ดุจงานศิลปะชั้นสูงที่มีเอกลักษณ์

เพิ่ม ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวันแบบ LED Signature และไฟท้ายแบบ LED Signature, เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง และกล้องมองหลัง (ในรุ่น 2.0 C), ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS (ในรุ่น 2.0 C) และเพิ่มระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS สามารถทำงานได้ถึง 145 กม./ชม.

มาพร้อมขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว SkyActiv-G ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้

10 อันดับ รถ SUV และ Crossover ถูกสุดในไทย ปี 2022

10. Toyota Corolla Cross 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท

Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) นับได้ว่าเป็นรถ SUV Crossover ของโตโยต้าซึ่งได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัว สร้างยอดขายสูงสุดในตลาดรถ Sub-Compact SUV ที่สำคัญ ยอดขายรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด มีสัดส่วนถึง 85% ของยอดจำหน่ายรวม และเป็นยอดขายสูงสุด ในตลาดรถ Hybrid SUV และยังเอาใจคนชอบรถแนวสปอร์ต กับรุ่น HEV GR Sport อีกด้วย

Toyota Corolla Cross พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ความกะทัดรัดที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย” (Compact yet Comfortable) และ “ความล้ำสมัยที่สะท้อนตัวตนของความภูมิฐานสำหรับชีวิตในเมือง” (Dignity Urban Vogue)

ภายนอกมาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว หรูหราแข็งแกร่ง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารภายในใช้โทนสีแดงใหม่ Terra Rossa มีจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense)

เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

Mr.Carro หวังว่า 10 อันดับ รถ SUV – PPV และ Crossover ถูกสุดในไทยที่นำมาเสนอนั้น หากใครอยากได้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี! แล้วอยากขายรถคันเดิม มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

CARRO Automall

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ : *ข้อมูลสินค้า 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลสินค้าที่ Update ณ เดือนพฤษภาคม 2565 เมื่อเวลาผ่านไปราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรือราคาล่าสุด ที่ตัวแทนจำหน่ายรถรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง

**การจัดอันดับ หากเป็นรถ SUV รุ่นที่มีราคาเท่ากันในหลายยี่ห้อนั้น ทางเราจะจัดอันดับเรียงตามการเปิดตัวโฉมใหม่ล่าสุด หรือการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ล่าสุด ขึ้นเป็นอันดับแรก

New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีและอุปกรณ์ใหม่!

ตามมาติดๆ รับศักราชใหม่ต้อนรับปีเสือ 2565 เป็นรุ่นที่สอง โดย Mazda (มาสด้า) ได้โหมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง จนประสบความสำเร็จด้านยอดขายในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะรถอเนกประสงค์ในตระกูล CX-Series ที่เติบโตสูงถึง 21% จนในวันนี้ ก็ถึงเวลาเปิดตัว Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) ใหม่ พร้อมแนวคิด “LIFE’S ALWAYS ON” กันอีกครั้ง

กับ Crossover SUV ที่มีสไตล์ มอบความคุ้มค่าและลงตัวในการใช้งานในทุกมิติ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ครบครันยิ่งขึ้นตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น พร้อมความพรีเมี่ยมที่เหนือระดับ กับสีใหม่ล่าสุด บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ Platinum Quartz มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มต้นชีวิตคู่ในสไตล์ใหม่

ด้วยทางเลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย วางราคาจำหน่ายเท่าเดิมเริ่มต้นเพียง 989,000 บาท พร้อมข้อเสนอสุดคุ้มรับเปิดตัว กับดอกเบี้ย 1.99%1 และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ผู้ที่สนใจสามารถทดลองขับและจองซื้อได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมส่งมอบรถใหม่ได้ทันที

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

นับตั้งแต่ Mazda CX-30 ได้เผยโฉมสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในงาน เจนีวา มอเตอร์โชว์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็น จนเกิดกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว และยังเป็นรถแบรนด์ญี่ปุ่นเพียงแบรนด์เดียว ที่ติด 1 ใน 3 รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก ปี 2563 (Top Three in the World – World Car of the Year) รวมถึงรางวัลมากมายจากเวทีการประกวดในประเทศต่างๆ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบของ Mazda CX-30 ในทุกมิติ และเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าในระดับนานาชาติ

สำหรับ Mazda CX-30 ในไทย ก็ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมจากลูกค้าเช่นกัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ก็สร้างยอดจองสูงถึง 2,000 คัน ในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ รวมถึงเป็นรุ่นหลักที่สร้างยอดขายให้กับรถอเนกประสงค์ในตระกูล CX-Series ของมาสด้าอย่างต่อเนื่อง

และปี 2564 ที่ผ่านมา รถรุ่นนี้ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 30.9% เมื่อเทียบกับปี 2563 และมียอดจำหน่ายสะสมแล้วกว่า 14,000 คัน ในระยะเวลาเพียง 22 เดือน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นว่าความนิยมและความต้องการซื้อของลูกค้าต่อรถรุ่นนี้ยังคงมีอยู่มาก และลูกค้าก็ยังตอบรับอย่างดีเยี่ยม แม้ว่าจะอยู่ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ก็ตาม

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

สำหรับการปรับโฉม New Mazda CX-30 ครั้งนี้ แนะนำสีภายนอกใหม่ล่าสุด บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ เปิดตัวเป็นรุ่นที่สามของรถมาสด้าในประเทศไทย โดยเป็นสีที่บ่งบอกถึงความมีคุณภาพสูง เหนือระดับ มอบความหรูหราพรีเมี่ยมทุกมุมมอง โดยยังคงเอกลักษณ์ของ Crossover SUV ระดับพรีเมี่ยม บนแนวคิด “LIFE’S ALWAYS ON” เพื่อลูกค้าที่กำลังมองหาครอสโอเวอร์ในกลุ่ม B-SUV

Mazda CX-30 ใหม่ ได้รับการออกแบบตามแนวคิด Kodo: Soul of Motion ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม “Less is More” ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ภายในห้องโดยสารยังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่พิถีพิถัน คัดสรรเลือกใช้เฉพาะวัสดุเกรดพรีเมี่ยมในทุกจุดสัมผัส ดุจงานศิลปะชั้นสูงที่มีเอกลักษณ์

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

จุดเด่นของ New Mazda CX-30 2022 ใหม่

  • เพิ่ม สีภายนอกใหม่ บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ หรูหรา สปอร์ตพรีเมี่ยม ทุกมุมมอง
  • เพิ่ม ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวันแบบ LED Signature และไฟท้ายแบบ LED Signature ในรุ่น 2.0 C และ 2.0 S
  • เพิ่ม ความปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง และกล้องมองหลัง ในรุ่น 2.0 C
  • เพิ่ม ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS ในรุ่น 2.0 C และ 2.0 S
  • เพิ่ม เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า ในรุ่น 2.0 S
  • เพิ่ม ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sports Paddle Shift ในรุ่น 2.0 S
  • เพิ่ม ความเร็วสูงสุดของระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS สามารถทำงานได้ถึง 145 กม./ชม.

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

Mazda CX-30 ใหม่ มาพร้อม 3 รุ่นย่อย ภายใต้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร SKYACTIV-G ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมและคล่องตัวทุกการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง ด้วยความแรงสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด ที่ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างแม่นยำในทุกรอบความเร็ว ให้การขับขี่สนุกในทุกเส้นทางและทุกมิติของการใช้งาน

เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่พร้อมกับบุคคลสำคัญ จึงมาพร้อมสกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE ซึ่งพัฒนาขึ้นจากการศึกษาเชิงลึกด้านสรีรศาสตร์และธรรมชาติการเดินของมนุษย์ พัฒนารถยนต์ที่ให้ความรู้สึกเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย และยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus เทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้าที่ถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

ไม่เพียงเท่านี้ มาสด้ายังจัดเต็มเทคโนโลยีความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ทันสมัยและครบครัน รวมถึงสามารถตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ด้วยระบบการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ผ่านระบบ Mazda Connect ที่สามารถรองรับทั้ง Apple CarPlay® และ Android AutoTM* สามารถใช้งานฟังก์ชั่นสำคัญๆ ได้ โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander พร้อมมอบความโดดเด่นที่เหนือระดับด้วยระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง ที่ช่วยสร้างความประทับใจที่เหนือระดับไปตลอดการเดินทาง

ภายในห้องโดยสารได้ถูกพัฒนาภายใต้ปรัชญา HMI (Human-Machine Interface) ที่จัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานในตำแหน่งศูนย์กลาง พร้อมความสะดวกสบายในการขับขี่ที่เหนือระดับ ด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง คอนโซลกลางและที่วางแขนด้านหน้าที่กว้างสบายรองรับช่อง USB และมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ พร้อมด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า Windshield Active Driving Display แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอล แบบ TFT LCD พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสี ขนาด 7 นิ้ว พนักพิงเบาะหลังสามารถแยกพับ 60:40 อิสระจากกัน เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง

Mazda CX-30 ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น โดดเด่นตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานติดตั้งมาครบครันในทุกรุ่น

  • รุ่น 2.0 C มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยพื้นฐานที่ครบครัน อาทิ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบ LED Signature, ไฟท้ายแบบ LED Signature, ล้ออัลลอย ขนาด 16”, หน้าจอ Center Display ขนาด 8.8” พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง, ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง, กล้องมองหลัง, และระบบ i-Activsense 3 ระบบ มอบความคุ้มค่าเหนือระดับ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น
  • รุ่น 2.0 S มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ดีไซน์โดดเด่นรวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมที่เหนือกว่า เช่น ล้ออัลลอย 18” ที่ให้ความสปอร์ตมากขึ้น, ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sports Paddle Shift, ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า และระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้มากยิ่งขึ้น (หมายเหตุ: เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 C)
  • รุ่น 2.0 SP มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร มีดีไซน์ที่โดดเด่นเหนือระดับรวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับพรีเมี่ยม อาทิ หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า, ระบบเสียง BOSE® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง , ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง และระบบ i-Activsense มากถึง 11 ระบบ ยังคงเป็นรุ่นที่เน้นความสมบูรณ์แบบมอบความพรีเมี่ยมและความปลอดภัยเหนือกว่ารถในระดับเดียวกันมากที่สุด

(หมายเหตุ:เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 S)

Mazda เปิดตัว New Mazda CX-30 2022 เพิ่มสีใหม่ อุปกรณ์ใหม่!

Mazda CX-30 2022 ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย

  • สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
  • สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
  • สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
  • สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
  • สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
  • สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)
  • สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)

ราคาจำหน่าย Mazda CX-30 2022 ใหม่

  • รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

หมายเหตุ:

1 ดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน
2 บริษัทประกันภัยที่ร่วมโครงการ ได้แก่ (1) บมจ. วิริยะประกันภัย (2) บมจ. ธนชาตประกันภัย (3) บมจ. ประกันภัยไทยวิวัฒน์ (4) บมจ. ทิพยประกันภัย

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

หากคุณต้องการขายรถด่วน CARRO ช่วยคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง รับรองได้ราคาดี มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุด เริ่มต้น 546,000 บาท!

เปิดศักราชใหม่ต้อนรับปีเสือ 2565 Mazda (มาสด้า) ส่งรถยนต์นั่งซิตี้คาร์ที่กำลังร้อนแรงมากที่สุดตลอดกาลหวังกระตุ้นกำลังซื้อตั้งแต่ต้นปี ด้วยการแนะนำรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดส่งตรงจากโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จ.ระยอง New Mazda2 (มาสด้า2) ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ใหม่ LIVE LESS ORDINARY ไม่ธรรมดาในแบบที่เราเป็น

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

พร้อมเปิดเผยตัวตนอันโดดเด่น เติมเต็มความสนุกให้กับทุกวันของชีวิต ถ่ายทอดมุมมองและสะท้อนคุณค่าในแบบที่เราเป็นด้วยสไตล์ที่แตกต่าง มาพร้อมขุมพลังสกายแอคทีฟคลีนดีเซลและขุมพลังสกายแอคทีฟเบนซิน มีให้เลือกในสไตล์ที่เป็นคุณทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮทช์แบค 5 ประตู เพิ่มอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในคลาส มาพร้อมกับสีใหม่ล่าสุด แพลตทินั่ม ควอตซ์ วางราคาจำหน่ายเท่าเดิม เริ่มต้นเพียง 546,000 บาท

Mazda2 ถือเป็นโมเดลหลักสำคัญที่ส่งผลต่อปริมาณยอดขายของมาสด้าในแต่ละปี ดังนั้นการเปิดตัวแนะนำ มาสด้า2 ใหม่ ในครั้งนี้ จึงเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ ด้วยการสร้างความคุ้มค่าคุ้มราคาเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ประกอบกับการเพิ่มออฟชั่นและอุปกรณ์มาตรฐานให้มากขึ้น

มาสด้า2 จัดเป็นโมเดลที่ขายดีที่สุดของมาสด้า เริ่มทำตลาดในไทยเมื่อปี 2552 มียอดขายสะสมกว่า 95,000 คัน ตามมาด้วยเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟในปี 2558 มียอดขายสะสมสูงถึง 160,000 คัน และการปรับโฉมใหม่ครั้งล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2562 มียอดขายสะสมกว่า 45,000 คัน

ด้วยการเอาใจใส่คัดสรรเฉพาะวัสดุคุณภาพสูงและสมรรถนะการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว จึงทำให้ Mazda2 ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจนผลักดันให้ Mazda2 ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กรวม Eco-Car และ B-Segment ติดต่อกันนานถึง 3 ปี ระหว่างปี 2560 – 2562 ถือเป็นรุ่นเรือธงยอดนิยมที่อยู่ในการครอบครองของลูกค้าในประเทศไทยกว่า 300,000 คัน ดังนั้น การแนะนำมาสด้า2 ใหม่ ในครั้งนี้ คือการกลับมาเพื่อจะสร้างประวัติศาสตร์ในการก้าวสู่เบอร์หนึ่งในตลาดอีกครั้ง

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

Mazda2 2022 ใหม่ ดีไซน์หรูหราสง่างามมากยิ่งขึ้น ด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบและการพัฒนาจากแนวคิด Kodo – Soul of Motion ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวทรงพลังราวกับมีชีวิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น เรียบง่ายแต่งดงาม ภายในห้องโดยสารยกระดับความหรูหราพรีเมี่ยมยิ่งขึ้น แผงคอนโซลหน้าและเบาะหนังสีดำใหม่ พร้อมเพิ่มออฟชั่นที่ทันสมัยครบครันมากยิ่งขึ้น แต่ตั้งราคาขายเท่ารุ่นปัจจุบัน

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมแผงคอนโซลหน้าและเบาะหนังสีดำสไตล์สปอร์ตดีไซน์ใหม่ ที่ผสานกันอย่างลงตัวกับความพรีเมี่ยม และเบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะคนขับได้ถึง 2 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานนี้ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน

มั่นใจทุกการขับขี่ให้ทุกเส้นทางสนุกมั่นใจได้ในแบบของคุณกับ Active Driving Display สกรีนใสแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ Sport Paddle Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

และยังโดดเด่นในด้านสมรรถนะการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ โดยมีให้เลือกถึง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร ที่ให้การตอบสนองการขับขี่และการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศถึง 26.3 กม./ลิตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) เทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้าที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้ทั้งความสะดวกสบายในการใช้งานที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

Mazda2 2022 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองการใช้งานและอรรถประโยชน์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากที่สุด ทำให้การออกแบบฟังก์ชั่นและการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในตำแหน่งที่ลงตัวเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย พร้อมให้คุณสนุกไปกับทุกเป้าหมายที่อยากทำได้อย่างคล่องตัว ตามคอนเซ็ปต์ HMI (Human-Machine Interface) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันกับรถตามหลักปรัชญา Jinba-Ittai เพื่อส่งมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล ด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) เชื่อมต่อกับระบบ Mazda Connect ที่รองรับระบบ Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android Auto™* เพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างไร้ขีดจำกัด

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

ยังมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง และช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) เป็นต้น

นอกจากนี้ ในทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อค 4W-ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ DSC รวมถึงระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA ระบบสัญญาณไฟกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกในภาวะฉุกเฉินและส่งสัญญาณเตือนรถคันหลัง ESS ระบบช่วยป้องกันรถลื่นไถล TCS โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual Airbag เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า

ด้วยจุดขายหลักที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงทำให้มาสด้า2 ใหม่ ยังคงโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันในทุกมิติ ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่ต้องการสมรรถนะควบคู่ไปกับความสปอร์ตพรีเมี่ยมในรถยนต์นั่งซิตี้คาร์

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำที่เพียบพร้อมใน New Mazda2 2022

  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และปรับระดับแบบอัตโนมัติ มีในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus มีในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และระบบประหยัดพลังงาน i-ELOOP มีในทุกรุ่นย่อย
  • กระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวน มีในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sport paddle shift
  • ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
  • ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบหน่วงเวลา พร้อมฟังก์ชั่นตรวจจับน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
  • ระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง (360° View monitor)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
  • ระบบป้องกันล้อล็อกแยกอิสระ 4 ล้อ 4W-ABS ระบบกระจายแรงเบรก EDB และระบบช่วยเบรก BA
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ( Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)
  • ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
  • หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว และปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
  • พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
  • กุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย พร้อมเซ็นทรัลล็อก
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS
  • กล้องมองหลัง
  • ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลังอีก 4 จุด
  • คานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง
  • พนักพิงเบาะด้านหลัง สามารถแยกปรับและพับแบบ 60:40

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

มาสด้า2 2022 ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือกถึง 8 สี โดยเฉพาะการแนะนำสีภายนอกใหม่เพิ่มเติม ได่แก่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ทั้งในตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบค 5 ประตู ซึ่งเป็นสีหลักสำหรับการเปิดตัว และสื่อสารทางการตลาดในครั้งนี้

นอกจากนี้ยังมีการแนะนำสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ เพิ่มเติมสำหรับตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู อีกด้วย โดยมีรายละเอียดของสีภายนอกทั้งหมดดังต่อไปนี้

  • สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
  • สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
  • สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
  • สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
  • สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
  • สีขาว เซรามิก เมทัลลิก (Ceramic Metallic)
  • สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) สีใหม่ สำหรับ 4 ประตู และ 5 ประตู
  • และเพิ่มสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) สีใหม่ สำหรับซีดาน 4 ประตู

มาสด้า ยังได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาสด้า เพื่อให้ลูกค้าทั่วประเทศได้รับข้อเสนอสุดพิเศษนี้เฉพาะในช่วงเปิดตัวแนะนำ ทั้งมอบดอกเบี้ย 1.99%1 ฟรีประกันชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี2 และฟรี พ.ร.บ.3 ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาสด้าทั่วประเทศ หรือทางเว็บไซต์ www.mazda.co.th

ราคาจำหน่าย New Mazda2 ทั้งรุ่น Sedan 4 ประตู และรุ่น Hatchback 5 ประตู ราคาจำหน่ายเท่ากัน

  • รุ่น 1.3 E/1.3 E Sports ราคา 546,000 บาท
  • รุ่น 1.3 C/ 1.3 C Sports ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S Leather/1.3 Sports Leather ราคา 659,000 บาท
  • รุ่น 1.3 SP/1.3 SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • รุ่น XDL/XDL Sports ราคา 799,000 บาท

หมายเหตุ:

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
1. เงินดาวน์ 25% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน
2. บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย (1) บมจ. วิริยะประกันภัย (2) บมจ. ธนชาตประกันภัย (3) บมจ. ประกันภัยไทยวิวัฒน์ (4) บมจ. ทิพยประกันภัย
3. พ.ร.บ. สนับสนุนโดย ธนาคารทิสโก้ และธนาคารทหารไทยธนชาต สำหรับลูกค้าที่จองรถผ่าน SKY Journey ภายในวันที่ 31 ม.ค. 65 และรับรถภายในวันที่ 28 ก.พ. 65 เท่านั้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

หากคุณต้องการขายรถด่วน CARRO ช่วยคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง รับรองได้ราคาดี มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

Mazda-New-Car-Promotion

รวมโปรโมชั่นรถใหม่ Mazda (มาสด้า) ทุกรุ่น Update 18/8/2022

Carro นำเสนอโปรโมชั่นรถใหม่ 2022 Mazda (มาสด้า) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ประจำเดือนสิงหาคม 2565

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @carrothai  เช่นกัน หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

MAZDA Promotion

Mazda มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อให้ลูกค้าสามารถออกรถและเป็นเจ้าของรถมาสด้าทุกรุ่นได้ง่ายขึ้น

Mazda2

ดอกเบี้ย 2.09%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ฟรี บัตรเติมน้ำมัน 10,000 บาท

Mazda3

ดอกเบี้ย 2.09%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ฟรี Mazda Care Program 5 ปี
ฟรี บัตรเติมน้ำมัน 10,000 บาท

Mazda CX-3

ดอกเบี้ย 2.09%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ฟรี Mazda Care Program 5 ปี

Mazda CX-30

ดอกเบี้ย 2.09%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ฟรี Mazda Care Program 5 ปี
ฟรี บัตรเติมน้ำมัน 10,000 บาท

Mazda CX-5

ดอกเบี้ย 1.99%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ฟรี Mazda Care Program 5 ปี

Mazda CX-8

ดอกเบี้ย 1.99%
ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ฟรี Mazda Care Program 5 ปี

Mazda MX-5

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี
ขยายการรับประกันคุณภาพรถ เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

All-New Mazda BT-50

รับส่วนลดพิเศษ* (จำนวนจำกัด) เพื่อพลิกฟื้นผู้ประกอบการไทยอีกครั้ง

ดู Promotion Mazda เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.mazda.co.th/offers/latest-offers/

All-New-Mazda-BT-50-2021

หลายคนที่กำลังรอคอยคู่แฝดของ Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) มานาน วันนี้มาถึงแล้ว! กับ All-New Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) เจเนอเรชั่นใหม่ ผนวกคุณสมบัติของรถปิกอัพที่ดีที่สุดในโลกรวมเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย ดีไซน์ที่ถูกออกแบบอย่างสง่างามที่สุดในโลก คัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ประหยัดน้ำมันมากที่สุด มีความทนทานสูงสุด รวมทั้งค่าดูแลรักษาต่ำสุด วางราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 5.5 แสนบาท

ด้วยแนวคิด “พร้อม…กับทุกด้านของชีวิต” เติมเต็มทุกมิติของชีวิตดุจ Life-Partner สัมผัสแห่งดีไซน์อันสง่างามจาก “โคโดะ ดีไซน์” เน้นความเรียบง่าย แต่งดงาม ตามคอนเซ็ปต์ “Less is More” ผสานรูปลักษณ์อันทรงพลังสไตล์ปิกอัพ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย มอบความสะดวกสบายเสมือนรถเอสยูวี คุ้มค่าด้วยอัตราประหยัดน้ำมันมากที่สุดในคลาสกับตัวเลข 16.1 กม./ลิตร!

รับข้อเสนอพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว กับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.99%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร3 พร้อมเปิดรับจองแล้ววันนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ พร้อมส่งมอบรถใหม่ให้กับลูกค้าทันที!

All-New-Mazda-BT-50-2021

แม้ว่าปี 2563 ที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนต่างเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 จนส่งผลให้ยอดขายรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลงกว่า 20% แต่เมื่อเจาะลึกข้อมูลรายละเอียดของยอดขายรถยนต์ในแต่ละประเภท พบว่าสัดส่วนการขายรถปิกอัพในปี 2563 อยู่ที่ 45% เติบโตขึ้นจากปี 2562 ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 43%

ดังนั้นการเปิดตัว All-New Mazda BT-50 จึงเป็นตัวแปรที่จะเข้ามาเปลี่ยนทุกมุมมองเกี่ยวกับรถปิกอัพโดยสิ้นเชิง Revolutionary Change

หากย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมา Mazda ได้สร้างโรงงานเพื่อขึ้นไลน์ผลิตปิกอัพในประเทศไทย ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จังหวัดระยอง โดยผลิต Mazda Fighter (มาสด้า ไฟเตอร์) ซึ่งเป็นกระบะฝีมือคนไทยรุ่นแรก ที่เริ่มผลิตและจำหน่ายในปี 2541 มียอดขายเฉพาะในไทยกว่า 50,000 คัน

ต่อด้วยรุ่นที่สอง Mazda BT-50 (มาสด้า บีที-50) มียอดขายสะสมกว่า 52,000 คัน และ Mazda BT-50 PRO (มาสด้า บีที-50 โปร) มียอดขายสะสม 120,000 คัน ส่งผลให้มีรถปิกอัพพันธุ์แกร่งของมาสด้าอยู่ในการครอบครองของแฟนมาสด้ากว่า 222,000 คัน

All-New-Mazda-BT50

สำหรับ All-New Mazda BT-50 ถูกวางให้เป็นรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวเป็นรุ่นแรกในปี 2564 โดยใส่ความโดดเด่นของ “โคโดะ ดีไซน์” (KODO Design) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ มุ่งเน้นให้เกิดความเรียบง่าย แต่งดงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เฉกเช่นเดียวกับรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีตระกูล CX Series เจเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้า

การออกแบบที่สง่างามสไตล์ปิกอัพยุคใหม่ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย ให้ความสะดวกสบายที่เทียบเท่ากับรถเอสยูวี อีกทั้งยังเป็นปิกอัพที่มีความอเนกประสงค์ ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกโอกาส หรือ “Built for Dress and Jeans”

All-New-Mazda-BT-50-2021

ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าที่ออกแบบด้วย Signature Wing ขนาดใหญ่ รูปทรงด้านหน้าที่สง่างามในสไตล์รถเอสยูวี ดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายทรงสปอร์ต โฉบเฉี่ยว

โครงสร้างตัวถังที่ผลิตขึ้นจากเหล็กกล้าที่ทนต่อแรงดึงสูง (High Tensile Steel) แข็งแกร่งกว่าเหล็กธรรมดา เพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น กับคอยล์สปริงที่ช่วยเพิ่มความนุ่มสบาย พร้อมเหล็กกันโคลงหน้าช่วยเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัว ชุดแหนบด้านหลังที่เพิ่มความสามารถในการบรรทุก

All-New-Mazda-BT-50-2021

All-New-Mazda-BT-50-2021

ภายนอก-ภายในของรุ่น Standard Cab

ภายในห้องโดยสารที่เน้นความประณีตใส่ใจในทุกรายละเอียด และการคัดสรรเลือกใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูงเท่านั้น ผสมผสานกับโทนสีภายในรวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ อย่างลงตัว คอนโซลหน้าถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน เสาภายในและเพดานเลือกใช้โทนสีดำตัดกับหนังสีน้ำตาลเข้มของเบาะนั่งที่ออกแบบให้นั่งสบายในทุกตำแหน่ง และแผงประตูที่เพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งสไตล์เดียวกับรถเอสยูวี

การจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์โดยให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางตามหลักการ Human Machine Interface ทุกฟังก์ชันจึงง่ายต่อการใช้งาน การรับรู้ข้อมูลการขับขี่รวมถึงสายเรียกเข้าหรือชื่อเพลงบนหน้าจอแบบสี MID (Multi-Information Display) ขนาด 4.2 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลได้หลายรูปแบบ อ่านง่าย มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแบบ TFT (Thin-film Transistor Technology)

All-New-Mazda-BT-50-2021

All-New-Mazda-BT-50-2021

ภายนอก-ภายในของรุ่น Freestyle Cab

ผู้ขับขี่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยพวงมาลัยปรับได้มากถึง 4 ทิศทาง มาพร้อมกับเบาะไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทางและระบบดันหลัง ควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสารได้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ที่สามารถแยกปรับด้านซ้ายและขวาได้อย่างอิสระพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง

ยกระดับความสุนทรีย์ด้วยห้องโดยสารที่เงียบยิ่งขึ้น และลำโพงที่มากถึง 8 ตำแหน่ง นับรวมถึงลำโพงที่ติดตั้งบนหลังคา ผู้โดยสารสะดวกสบายตลอดการเดินทางด้วยที่พักแขนพร้อมที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง และช่องเสียบ USB มีช่องเก็บของภายในห้องโดยสารสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกตำแหน่ง

All-New-Mazda-BT-50-2021

All-New-Mazda-BT-50-2021

ภายนอก-ภายในของรุ่น Double Cab

All-New Mazda BT-50 มาพร้อมกุญแจรีโมทอัจฉริยะ สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ด้วยรีโมท เปิดระบบปรับอากาศก่อนขึ้นรถ และมีระบบไฟในห้องโดยสารส่องสว่างอัตโนมัติในทันทีเมื่อจับสัญญาณจากกุญแจรีโมท

อีกทั้งตอบโจทย์รูปแบบการเชื่อมต่อการสื่อสารในยุคปัจจุบันได้มากยิ่งขึ้น ด้วยระบบ Infotainment ที่มาพร้อมหน้าจอแบบสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 9 นิ้ว ที่สามารถตั้งค่า Home Screen ได้หลายรูปแบบ รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android Auto™* ซึ่งสามารถใช้งาน Miracast แบบไร้สายผ่าน Wifi และรองรับการเชื่อมต่อแบบ MirrorLink อีกทั้งยังมีระบบนำทางที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

*เชื่อมต่อในทันทีสำหรับ Android เวอร์ชั่น 10

All-New-Mazda-BT-50-2021

All-New Mazda BT-50 มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์

  • เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร มาพร้อมระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำงานได้อย่างแม่นยำ ให้แรงบิดสูงตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุดในคลาสกับตัวเลข 16.1 กม./ลิตร* จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถูกวางอยู่ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งเครื่องยนต์ทั้ง 2 ขนาด รองรับน้ำมันได้ถึง B20
  • เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร มาพร้อมระบบหัวฉีดน้ำมันแรงดันสูง 250 MPa ให้ละอองน้ำมันละเอียด และการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ถูกวางอยู่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถปรับเปลี่ยนจากการขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ

*ผลการทดสอบตามมาตรฐานยุโรป UN R101 Combine Mode

ระบบส่งกำลังของ All-New Mazda BT-50 มีให้ 2 ทางเลือก กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้อัตราเร่งที่ต่อเนื่อง จังหวะการเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล และสามารถเลือกเปลี่ยนเป็นโหมดแมนนวลได้เพื่อเพิ่มความแม่นยำ ขับสนุก และตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อีก 1 ทางเลือกกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ออกตัวได้แรง ให้กำลังฉุดลากสูงในทุกช่วงความเร็ว เข้าเกียร์ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น ผสานการทำงานกับระบบขับเคลื่อนที่มี 2 ทางเลือก ทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และระบบขับเคลื่อน 2 ล้อแบบยกสูง ซึ่งเป็นรุ่น Hi-Racer ตอบโจทย์การขับขี่ได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง อีกหนึ่งทางเลือกกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ รองรับการขับขี่ใบรูปแบบออฟโรดด้วยระบบ Electronic Diff-lock ที่เฟืองท้าย อีกทั้งรุ่น Hi-Racer และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถลุยน้ำได้สูงถึง 800 มิลลิเมตร

All-New-Mazda-BT-50-2021

เพื่อให้ All-New Mazda BT-50 ตอบสนองการใช้งานในทุกรูปแบบ จึงมีให้เลือก 3 รูปแบบตัวถัง ได้แก่ รุ่น Standard Cab (STD) หรือกระบะตอนเดียว รุ่น Freestyle Cab (FSC) หรือกระบะตอนครึ่งรุ่นแค็ปเปิดได้ และรุ่น Double Cab (DBL) หรือรุ่น 4 ประตู ที่ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย

ซึ่งได้ติดตั้งระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเบรก BA รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย

อีกทั้งในรุ่น Hi-Racer และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน ESS ระบบช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC และติดตั้งถุงลมนิรภัยสูงสุดถึง 6 ตำแหน่ง เพิ่มความมั่นใจในการเข้าจอด ด้วยระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง รวมสูงสุด 8 ตำแหน่ง พร้อมกล้องมองหลัง

สำหรับรุ่น DBL Hi-Racer และรุ่น DBL ขับเคลื่อน 4 ล้อ ใส่เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงของมาสด้า กับ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)

สีภายนอกมีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน กันบลู (Gunblue) สีเทา คอนกรีต เกรย์ (Concrete Gray) สีแดง เรด โวคาโน (Red Volcano) สีดำ ทรู แบล็ก (True Black) สีขาว ไอซ์ ไวท์ (Ice White) และสีเงิน อิงกอท ซิลเวอร์ (Ingot Silver)

เพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์มาสด้า พบกับข้อเสนอสุดพิเศษช่วงเปิดตัวแนะนำกับดอกเบี้ยต่ำสุด 1.99%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี2 ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร3 All-New Mazda BT-50 พร้อมให้ทุกท่านได้ทดลองขับขี่และเปิดรับจองแล้ววันนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

All-New-Mazda-BT-50-2021

ราคาจำหน่าย All-New Mazda BT-50 ทั้ง 14 รุ่น / All-New Mazda BT-50 Price, Shown in Thai Baht.

  • Standard Cab 1.9 E ราคา 553,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 C ราคา 679,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 C Hi-Racer ราคา 714,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 C Hi-Racer 6AT ราคา 768,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 S Hi-Racer ราคา 787,000 บาท
  • Freestyle Cab 1.9 S Hi-Racer 6AT ราคา 812,000 บาท
  • Double Cab 1.9 C ราคา 771,000 บาท
  • Double Cab 1.9 S ราคา 847,000 บาท
  • Double Cab 1.9 S Hi-racer ราคา 891,000 บาท
  • Double Cab 1.9 S Hi-Racer 6AT ราคา 936,000 บาท
  • Double Cab 1.9 SP Hi-Racer ราคา 1,012,000 บาท
  • Double Cab 1.9 SP Hi-Racer 6AT  ราคา 1,070,000 บาท
  • Double Cab 4×4 3.0 SP ราคา 1,118,000 บาท
  • Double Cab 4×4 3.0 SP ราคา 1,153,000 บาท

หมายเหตุ :

1ดาวน์ 25%, ผ่อนนาน 48 เดือน

2บริษัทประกันภัยที่ร่วมโครงการ ได้แก่ (1) บมจ. วิริยะประกันภัย (2) บมจ. ธนชาตประกันภัย (3) บมจ. ประกันภัยไทยวิวัฒน์

3ฟรีค่าแรงการบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 10 ครั้ง ทุก 6 เดือน หรือ ทุก 10,000 กิโลเมตร ตั้งแต่ 10,000 – 100,000 กิโลเมตร

เงื่อนไขเพิ่มเติม :

• เงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามข้อกำหนดของ บมจ. ธนาคารทิสโก้ และ บมจ. ธนาคารธนชาต เท่านั้น

• ข้อเสนอดังกล่าวสำหรับผู้เช่าซื้อที่ผ่านการอนุมัติตามเงื่อนไขของ บมจ.ธนาคารทิสโก้ และ บมจ.ธนาคารธนชาต ที่จองและออกรถ ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2564 เท่านั้น

ส่วนใครที่อยากได้ All-New Mazda BT-50 ใหม่ แต่เงินสดมีไม่เพียงพอ ถ้าใช้รถคันเดิมอยู่ สามารถนำมาขายกับทาง CARRO ได้ แม้ว่ารถจะติดไฟแนนซ์ เราก็พร้อมปิดไฟแนนซ์ให้ และยินดีรับซื้อรถของคุณ สามารถเข้าไปเช็กราคา ตีราคาขายรถก่อนได้ โดยใส่ข้อมูลรถของคุณที่นี่เลย กับ CARRO Express > https://th.carro.co/sell-car/express หรือโทร. 02-508-8425

หรือใครจะ Inbox มาสอบถามก็ได้เช่นกัน ที่ Facebook CARRO Thailand หรือสะดวก Add Line ก็ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

New-Car-Promotion-Motorshow-2020
All-New-Mazda-CX-30-2020

Mazda เปิดเกมส์รุกตลาดรถ Crossover SUV ด้วยสมาชิกใหม่ตระกูล CX ซีรี่ส์ ด้วยการเปิดตัว All-New Mazda CX-30 กับแนวคิด “Life’s Always On เติมชีวิตให้เต็มความหมาย” สง่างามด้วยดีไซน์จาก โคโดะ ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เรียบง่ายแต่งดงาม มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC PLUS

เหนือระดับด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ตอบสนองดีที่สุดในคลาสด้วยกำลังสูงสุด 165 แรงม้า อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นไม่ถึงหนึ่งล้านบาท พร้อมรับประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี และขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม.** อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% โดยจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ SKY BOOKING

All-New-Mazda-CX-30-2020

สำหรับตลาดรถอเนกประสงค์ของไทย เป็นตลาดใหญ่รองจากตลาดปิกอัพและรถเก๋งเล็ก โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา เซ็กเมนต์นี้มียอดขายสะสมรวมทั้งสิ้นกว่า 146,560 คัน (รวม PPV) หากแยกเฉพาะ SUV มียอดขายรวมทั้งสิ้นประมาณ 86,000 คัน ส่วน Mazda มียอดขายรวม 5,736 คัน ซึ่งในปี 2563 นี้ มาสด้าคาดการณ์ว่าตลาดในเซ็กเมนต์นี้จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.5 แสนคัน (รวม PPV) และที่สำคัญมาสด้าตั้งเป้าไว้สูงถึง 18,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 200% เลยทีเดียว

โดยตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปี 2562 ที่ผ่านมา มียอดขายสะสมสูงถึง 1,007,000 คัน เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2561 ตัวเลขยอดรวมอยู่ที่ 1,041,000 คัน ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเพียง 3% ในขณะที่มาสด้ามียอดขายสะสมรวมทั้งสิ้น 58,129 คัน มาสด้าคาดการณ์ว่าตลาดรวมในปี 2563 จะลดลงประมาณ 5-10% มาอยู่ที่ประมาณ 920,000 – 940,000 คัน ในขณะที่มาสด้าตั้งเป้ายอดในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 60,000 คัน

แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้นตลาด แต่มาสด้าเชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยยอดขายรวมสะสมปี 2563 ที่ผ่านมา 2 เดือน (มกราคมและกุมภาพันธ์) ตัวเลขรวมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ (ประมาณการ) 140,000 คัน และเป็นยอดขายรถยนต์มาสด้าอยู่ที่ประมาณ 7,000 คัน

หนึ่งในกลยุทธ์ของมาสด้าในปี 2563 คือ การผลักดันแบรนด์สู่การเป็นผู้นำรถ Crossover SUV ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเผยโฉมรถยนต์รุ่นใหม่นี้จะเข้ามาเติมเต็มตระกูล CX Series ของมาสด้า ซึ่งอักษร CX แทนความเป็น Sports Crossover ให้มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

All-New-Mazda-CX-30-2020

ด้วยขนาดของ All-New Mazda CX-30 ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างรุ่น CX-3 และ CX-5 ส่งผลให้รถรุ่นนี้มีความคล่องตัวสูง มีทัศนวิสัยที่ดีตามแบบฉบับรถ Crossover ตอบสนองที่ดีเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ที่แรงและประหยัดน้ำมัน รองรับน้ำมันได้สูงสุดถึง E85 ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร*

All-New Mazda CX-30 ถือเป็นรถ Crossocer SUV เจเนอเรชั่นใหม่รุ่นแรกของมาสด้า ที่งดงามและโดดเด่น ด้วยแนวคิดการออกแบบของ KODO:Soul of Motion ยังคงเน้นความเรียบหรูด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกสู่ห้องโดยสาร

All-New-Mazda-CX-30-2020

มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE ที่พัฒนาจากท่วงท่าของมนุษย์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและมีสมดุล มอบความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมไปถึงผู้ใช้ถนน อีกทั้งยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้ง 4 ให้ดียิ่งขึ้น ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ ลดการแก้พวงมาลัยน้อยลง ซึ่งจะช่วยลดความอ่อนล้าจากการขับขี่ ผู้โดยสารสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยการโคลงตัวที่ลดลง

All-New-Mazda-CX-30-2020

มาสด้ายังคงถ่ายทอดจุดเด่นด้านความหรูหราภายในห้องโดยสาร ด้วยการเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียมคุณภาพสูง ผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ภายในห้องโดยสารถูกพัฒนาตามหลักปรัชญา HUMAN CENTRIC PHILOSOPHY ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งที่ออกแบบให้โอบกระชับรองรับกับสรีระ ช่วยให้กระดูกเชิงกรานตั้งตรง แนวกระดูกสันหลังคงรูปตัว S เหมือนขณะกำลังเดิน

พวงมาลัยและคันเร่งได้รับการจัดวางอย่างลงตัว มอบความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนกับรถ รวมถึงฟังก์ชั่นและการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ

All-New-Mazda-CX-30-2020

มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันด้วยเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง แผงหน้าปัดและมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล TFT LCD หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้าช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน

การเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดด้วย Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน สร้างอารมณ์สุนทรีย์ด้วยระบบเสียงคุณภาพสูงจาก Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง

All-New-Mazda-CX-30-2020

สะดวกสบายตลอดเส้นทางภายในห้องโดยสารที่เงียบโปร่งสบาย พร้อมหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยเบาะหลังแบบพับได้ 60:40 แยกอิสระจากกัน และประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

All-New-Mazda-CX-30-2020

All-New Mazda CX-30 มอบความปลอดภัยระดับสูงสุดด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาโดยเน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุมากถึง 12 ระบบ

  • ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 ̊ View Monitor)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support)
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support)
  • ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse)
  • ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Rear Crossing)
  • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-keep Assist System)
  • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)

อีกทั้งยังปกป้องทันทีจากอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง

All-New-Mazda-CX-30-2020

All-New Mazda CX-30 มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย

  • สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
  • สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
  • สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)
  • สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
  • สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
  • สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
  • สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue)

ราคาของ Mazda CX-30 ใหม่

  • รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
  • รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
  • รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ All-New Mazda CX-30 สามารถจองในระบบออนไลน์ผ่าน https://skybooking.mazda.co.th/ ได้แล้ววันนี้

ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อ Mazda CX-30 คันใหม่ หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

New-Cars-In-Thailand-2020

เป็นธรรมดาของปีใหม่ทุกปีที่บรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆ ต้องทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่แทบทุกเดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อรถกันเยอะๆ เศรษฐกิจไทยจะได้คึกคัก ในปี 2563 นี้ ก็มีรถหลายรุ่นที่น่าสนใจ ทั้งแบบ All-New ใหม่หมดจรด หรือจะเป็นแบบ Minorchange ปรับโฉมแต่งหน้าทาปากหน่อย โดยเฉพาะ “รถ SUV” ปีนี้ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง

โดย CARRO ขอคาดการณ์รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะเตรียมเปิดตัวกันในปีนี้ แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ยังถือว่าย่ำแย่ก็ตามที MR.CARRO ขอพาไปดูกันเลยว่า ปีนี้ตลาดรถยนต์ไทย จะมีอะไรใหม่ๆ มาให้ได้ตื่นเต้นกันบ้าง …

Honda-Jazz-2020

1. Honda Jazz

แม้ว่าการเปิดตัวของ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ใหม่ ทำให้หลายฝ่ายต้องมาลุ้นกันต่อว่า Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) รุ่นใหม่ล่าสุดนี้เปิดตัวไปในเมื่อปีที่ผ่านมา และจะวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธุ์นี้ จะมาขายในบ้านเราหรือไม่? จากรูปโฉมที่ดูอ้วนป่องน่ารัก มากกว่าความเป็นสปอร์ตแบบโฉมที่ผ่านมา จึงยังไม่มีความชัดเจนเท่าใดนัก

บางแห่งข่าวบอกด้วยซ้ำว่าทาง Honda จัดสินใจจะผลิต Honda City Hatchback มาจำหน่ายแทน …

ซึ่งถ้าหากทาง Honda คิดผลิต Jazz โฉมใหม่นี้ขายในบ้านเราจริง เครื่องยนต์ Hybrid คงไม่มาแน่นอน แต่อาจจะใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับ Honda City นั่นคือเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร VTEC Turbo 122 แรงม้า

Mazda-CX-30-2020

2. Mazda CX-30

Mazda (มาสด้า) ยังคงเดินหน้ากวาดยอดขายรถอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ายอดขายรถของ Mazda ในปีที่แล้ว อาจจะร่วงลงไปบ้างก็ตามหากเทียบกับยอดในปี 2561 ที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นแล้วก็ยังดูสูงอยู่ดี โดยรถ Crossover ยอดฮิตที่เพิ่งเปิดตัวในญี่ปุ่นอย่าง Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) ที่มีคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Toyota C-HR และ Honda HR-V ต้องสะเทือนกันอย่างแน่นอน

โดย Mazda CX-30 2020 มีหน้าตาและรูปร่างคล้าย Mazda3 โฉมใหม่ล่าสุด ในแบบยกสูง ภายใต้เครื่องยนต์ที่มีให้เลือกทั้งแบบ เบนซินขนาด 1.5 ลิตร, 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร และแบบดีเซลขนาด 1.8 ลิตร แต่เครื่องยนต์ที่จะขายในไทยคงเป็นตัวเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า และดีเซลขนาด 1.8 ลิตร 116 แรงม้า

Nissan-Kicks-2020

3. Nissan Kicks

ปีนี้อาจจะพอเรียกได้ว่าเป็นปีทองของ Nissan (นิสสัน) ที่หวนกลับมาอีกครั้งนับตั้งแต่เกือบๆ 10 ปีที่ผ่านมา โดย Nissan Almera 2020 ก็ได้รับการตอบรับที่ดีทีเดียว ในเดือนเมษายน 2563 นี้ Nissan มีแพลนที่จะเปิดตัว Nissan Kicks 2020 (นิสสัน คิกส์) ใหม่ เอามาขายแทน Nissan Juke ในราคาเริ่มต้นประมาณ 895,000 บาท

โดย Nissan Kicks คาดว่ามาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 124 แรงม้า และอาจได้เห็นรุ่น e-Power มาอีกด้วย Nissan Ju

Nissan-Sylphy-2020

4. Nissan Sylphy

ต้องยอมรับว่า รถยนต์แบบ Compact Car ของ Nissan อย่าง Nissan Sylphy (นิสสัน ซิลฟี่) เป็นรถที่ดูเงียบมากๆ ของนิสสันในช่วงหลายปีมาผ่าน ซึ่งหลายต่อหลายฝ่ายต่างคิดว่า Nissan บ้านเราคงถอดใจกับการขายรถรุ่นนี้ไปแล้ว

แต่ Nissan Sylphy โฉมใหม่ล่าสุด ก็เปิดตัวไปแล้วในจีน และสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ภายใต้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 139 แรงม้า และ 2.0 ลิตร 149 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งต้องมารอลุ้นกันว่า รถรุ่นนี้ผลิตขายและจำหน่ายในบ้านเราเวลาใด

Toyota-Yaris-2020

5. Toyota Yaris

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) โฉมใหม่หมดจด นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 ของรุ่นนี้ แม้ว่าในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นและยุโรป จะเปิดตัวรุ่นใหม่ไปแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา กับรูปทรงที่สวยสปอร์ตอย่างเห็นได้ชัด แถมมีรุ่นเครื่องยนต์ Hybrid ให้ได้เลือกสรรกันด้วย

พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ 1.0 ลิตร พร้อมระบบไฮบริด รวมถึงยังมีเทคโนโลยีอีกมากมายที่เน้นไปที่เรื่องของความปลอดภัย ในบ้านเราก็ต้องรอลุ้นกันต่อไป ว่ารุ่นนี้จะมาเข้าโครงการ Eco-Car เฟส 2 ด้วยหรือเปล่า

Toyota-Rush-2020

6. Toyota Rush

มาแน่แต่ไม่รู้มาเดือนไหน? สำหรับ Toyota Rush (โตโยต้า รัช) เป็นรถแบบ Crossover SUV ที่ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวไปแล้วในอินโดนีเซีย และมาเลเซีย โอกาสที่จะเข้ามาไทย (แทนที่ Avanza) นี้ ก็ถือว่ามีสูงมากเลยทีเดียว พร้อมท้าชนกับเจ้า Honda BR-V หรือ Mitsubishi Xpander แน่นอน

Toyota Rush ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR 104 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง

Suzuki-Ciaz-2020

7. Suzuki Ciaz

สำหรับค่าย Suzuki (ซูซูกิ) หลังจากที่สร้างความตื่นเต้นไปในปีที่ผ่านมา กับรถใหม่ๆ หลายรุ่นแล้ว ในปีนี้ก็ถึงเวลาที่ Suzuki Ciaz (ซูซูกิ เซียส) รุ่นปรับโฉมมามาแทนที่รุ่นเดิม

Mercedes-Benz-GLB-Class-2020

และสำหรับแบรนด์อื่นๆ เช่น Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ช่วงต้นปีนี้ก็เตรียมพบกับ Mercedes-Benz GLA รุ่นใหม่ล่าสุด และ Mercedes-Benz GLB รถ SUV รุ่นใหม่ที่คั่นกลางระหว่าง GLA และ GLC ที่มาพร้อม 7 ที่นั่ง! และ New A-Class ใหม่ ในเวอร์ชั่นประกอบในประเทศ ที่ต้องรอติดตามดูกันว่าจะมาหรือไม่

ส่วน BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ก็ต้องรอลุ้นกับ Series-3 รุ่นเพิ่มเติมที่มาเอาใจแฟนๆ Bimmer อย่างแน่นอน รวมไปถึง BMW New X6 และรถธงอย่าง BMW Series-7 โฉมใหม่ล่าสุด รุ่นประกอบในประเทศ เปิดตัวกันไปแล้วในรุ่น 730Ld sDrive M Sport ราคา 6,139,000 บาท และ 745Le xDrive M Sport ในราคา 6,439,000 บาท

เป็นอันว่า หากใครที่อยากได้รถรุ่นใหม่ๆ ดังกล่าว ก็เตรียมเก็บเงินซื้อกันได้เลย แต่วิธีการที่จะช่วยให้คุณดาวน์รถใหม่ หรือผ่อนรถใหม่ได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้คุณนำรถคันเดิมมาขายกับทาง CARRO ได้ตาม Link นี้เลยจ้า https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand