New-Car-In-Motor-Expo-2020

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37” หรือ The 37th Thailand International Motor Expo 2020 ภายใต้แนวคิด “พร้อมขับเคลื่อน ไปในความเปลี่ยนแปลง” หรือ “Whatever Changes will be…Move on” หลังจากที่ต้องเผชิญกับโควิด-19 มาเกือบทั้งปีนี้ จนอ่วมไปตามๆ กัน ทั้งตัวค่ายรถเอง และผู้บริโภคเอง กำลังซื้อหดหายไปอย่างมากในปีนี้

โดยงาน Motor Expo 2020 พร้อมจัดงานในยุค New Normal เตรียมนำรถรุ่นใหม่ และรถรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงส่งท้ายปี 2020 โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2563 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2020 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

CARRO ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่เปิดตัวก่อนงานและในงาน Motor Expo 2020 นับตั้งแต่ในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน บริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ไปแล้วหลายค่าย CARRO ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

Toyota-GR-Yaris-2021

1. Toyota GR Yaris

Toyota เตรียมสั่งนำเข้า Toyota GR Yaris (โตโยต้า จีอาร์ ยาริส) รถสปอร์ตตัวแรง 3 ประตู แต่งซิ่งครบสูตร ด้วยโควต้านำเข้าเพียง 6 คันเท่านั้น ในราคาประมาณ 2.7 ล้านบาท! หลังจากที่เปิตตัวในญี่ปุ่นไปในงาน Tokyo Auto Salon 2020 ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และจัดได้ว่าเป็น Yaris ที่แรงที่สุดในโลกด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินรหัส G16E-GTS ขนาด 1.6 ลิตร Turbo แบบ 3 สูบแถวเรียง ให้แรงม้าสูงสุด 272 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร (37.7 กก.-ม.) ที่ 3,000-4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ iMT บนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR4 ที่ถูกพัฒนามาจากในสนามแข่ง WRC

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.5 วินาที และจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 230 กม./ชม.

Toyota-Innova-Crysta-2021

2. Toyota Innova (Minorchange)

Toyota (โตโยต้า) เผยโฉม Toyota Innova (โตโยต้า อินโนวา) รุ่นไมเนอร์เชนจ์ มีให้เลือก 3 รุ่น คือ 2.8 Crysta Premium, 2.8 Crysta และ 2.0 Entry ปรับเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกรอบคัน โฉบเฉี่ยว ทันสมัย โดดเด่นสะดุดตามากขึ้น นับตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าใหม่ ชุดตกแต่งรอบคัน สปอยเลอร์หลัง ล้อแม็กดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว และ 17 นิ้ว

ภายในออกแบบอย่างมีระดับ กว้างสบาย ตืดตั้งเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และฟังก์ชันความปลอดภัยอย่าง กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (Panoramic View Monitor) และสัญญาณกะระยะด้านหน้าและด้านหลัง

พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร GD-Efficient Boost, เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร Dual VVT-i ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ในราคา 1,199,000 – 1,429,000 บาท

Nissan-Navara-Pro-4X-2021

3. Nissan Navara

Nissan (นิสสัน) เปิดตัว Nissan Navara (นิสสัน นาวารา) โฉมหน้ายกใหม่!ถอดแบบมาจากรุ่นพี่สายพันธุ์ยักษ์อย่าง Nissan Titan บุกตลาดเป็นประเทศแรกในโลก ด้วยดีไซน์ใหม่ดุดัน เพื่อลูกค้าคนไทยด้วยพลังที่กล้า เพื่อคนแกร่ง จากชื่อเสียงมากกว่า 80 ปี ของรถกระบะนิสสันที่ลูกค้ายอมรับในเรื่องความแข็งแกร่งทนทาน โดยไม่ละทิ้ง DNA ของนิสสันที่ท้าทายทุกขีดจำกัด

ดีไซน์ Concept “Unbreakable Design” คำนึงถึงการใช้งาน และความชื่นชอบของลูกค้า กับรุ่นย่อยใหม่ PRO4X และ PRO2X อีกขั้นของกระบะ Adventure สำหรับทุกความท้าทาย ด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดุดัน กระจังหน้าใหม่แบบ Interlock และซุ้มล้อขนาดใหญ่ ชุดไฟหน้าแบบ QUAD – LED คุณภาพสูง 4 ดวง พร้อม Daytime Running Light และไฟท้ายแบบ LED แบบเส้นเดียวที่ทันสมัย

มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ รหัส YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ Twin Turbo เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมด Manual ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร (Nm) และ Nissan Intelligent Mobility เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มรูปแบบ ในราคา 599,000 – 1,149,000 บาท

All-New-Honda-City-Hatchback-2021

4. Honda City Hatchback

Honda เปิดตัว Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบค) ครั้งแรกในโลกกับฮอนด้า ซิตี้ ในรูปแบบ 5 ประตู ในไทย ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสง ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI

ผสานเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์กับเบาะนั่ง อัลตราซีท (ULTR) และการขับขี่ที่สนุกสนานกับ ขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ให้สมรรถนะการขับขี่สูงถึง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที

ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ในราคา 599,000 – 749,000 บาท!

New-Honda-City-Hybrid-2021

5. Honda City e:HEV

Honda (ฮอนด้า) เปิดตัว Honda City e:HEV (ฮอนด้า ซิตี้ อีเอชอีวี) ยนตรกรรม Full Hybrid รุ่นแรกของเซกเมนต์ City Car ในประเทศไทย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive i-MMD ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 98 แรงม้า

ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เป็นระบบ Full Hybrid 109 แรงม้า ที่ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0 – 3,000 รอบ/นาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กม./ลิตร และรองรับน้ำมัน E20

พร้อมเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING) ดีไซน์สปอร์ตโดดเด่น ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS เสริมเอกลักษณ์เฉพาะของความเป็นไฮบริดด้วยโลโก้ฮอนด้าสีฟ้า (H Mark) และโลโก้ e:HEV

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกมิติ ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม ในราคา 839,000 บาท!

All-New-Isuzu-MU-X-2020

6. Isuzu MU-X

Isuzu (อีซูซุ) เปิดตัว  “All-New Isuzu MU-X (ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์)” ใหม่ ครั้งแรกของโลก! ยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นใหม่หมดระดับ Masterpiece ภายใต้นิยาม “เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ (Originality Redefined)” พลิกโฉมใหม่ทั้งภายนอกจรดภายใน ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา สะดวกสบาย ประณีตในทุกรายละเอียด ในราคา 1,121,000 บาท (ราคาช่วงแนะนำ 1,109,000 บาท) – 1,579,000 บาท

ตัวรถภายนอก หรู ล้ำสไตล์ สง่างาม โฉบเฉี่ยวเร้าอารมณ์ ภายใต้แนวคิด Emotional & Solid ผสานความหนักแน่นและพลิ้วไหวเข้าไว้ด้วยกันตลอดทั้งคัน ส่วนภายในกว้างขวาง โอ่อ่า ด้วยแนวคิดการออกแบบ Fine, Rich & Impressive Craftsmanship ด้วยวิธีการออกแบบ Integrated Cockpit คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง จัดวางเรียบหรู

มีให้เลือกครบครันด้วยสไตล์ที่หลากหลายรวม 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power และ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 พร้อมทางเลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ พร้อมระบบขับเคลื่อน Rough Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L

Mitsubishi-Outlander-PHEV-2020

7. Mitsubishi Outlander PHEV

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เตรียมรุกตลาดรถยนต์ Plug-In Hybrid เป็นครั้งแรกในไทยกับ Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด) ที่ผลิตจากโรงงานแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2020 นี้

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ 135 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 211 นิวตันเมตร ผสานกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว หน้า-หลัง ให้กำลัง 82 แรงม้า และ 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 195 นิวตันเมตรทั้งคู่ ให้กำลังรวมสูงสุด 305 แรงม้า โดยราคารุ่น GT อยู่ที่ 1,640,000 บาท และรุ่น GT Premium ราคา 1,749,000 บาท

Mitsubishi-Xpander-2020

8. Mitsubishi Xpander

Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์) รุ่นปรับปรุงใหม่ โดดเด่นมากขึ้นด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และเสาอากาศแบบครีบฉลาม พร้อมเอกลักษณ์การออกแบบ Advanced ‘Dynamic Shield’ ที่มาพร้อมกับสีภายนอกใหม่ สีเทา Graphite Gray พร้อมด้วยระยะความสูงจากพื้นถึง 205 มม.

ห้องโดยสารภายในสะดวกสบาย กว้างขวาง ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่มคุณภาพเยี่ยม มีความเงียบเพิ่มมากขึ้น มีเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือนที่ต่ำ (NVH) เพิ่มสุนทรียภาพตามปรัชญาแบบ “โอโมเตะนาชิ” ที่ถ่ายทอดความประณีตและยังใส่ใจในทุกรายละเอียด

สะดวกสบายมากขึ้นด้วยกุญแจอัจฉริยะแบบ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และระบบปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พวงมาลัยสามารถปรับระดับสูง-ต่ำ และปรับเข้า-ออกได้ พร้อมกับสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย และจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว พร้อมการแสดงผลแบบภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ ในราคา 789,000 – 863,000 บาท

Ford-Ranger-2021

9. Ford Ranger / Everest

Ford (ฟอร์ด) ปรับโฉม Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘Live The Ranger Life’ มาพร้อมระบบส่งกำลังที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น โดยรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ทุกคันจะได้รับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ในราคา 669,000 – 1,699,000 บาท

ภายนอกกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูตกแต่งตะแกรงสีดำ ในรุ่น XL, XL Street, XL+, XLT และWildtrak, ล้ออัลลอยสีดำและกระจกข้างสีดำในรุ่น XL+ Sport, XL Street, XLT และ Wildtrak, มือจับประตูสีดำในรุ่น XL+ Sport, XLT และ Wildtrak และอุปกรณ์เสริมใหม่ แผ่นเปิด-ปิดฝากระบะท้ายด้วยระบบไฟฟ้า (Power Roller Shutter) เป็นครั้งแรกสำหรับ Wildtrak

ในโอกาสนี้ Ford ยังได้เปิดตัว Ranger XL Street ใหม่ กระบะตอนครึ่งตัวเตี้ยแต่งพิเศษ เป็นรุ่นย่อยใหม่ล่าสุด ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน ผลงานของทีมดีไซเนอร์ของ ฟอร์ด ออสเตรเลีย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Ford Ranger ของทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง (Ford Thailand Racing – FTR) มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ผสานเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

Ford-Everest-2021

และในส่วนของ Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) ใหม่ ต่อยอดความสำเร็จของ Ford Everest Sport ที่ได้รับกระแสตอบรับดีจากลูกค้า โดยลูกค้ากว่าครึ่ง ให้ความสนใจเลือกซื้อจากดีไซน์สไตล์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว และดุดัน

ด้วยกระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวอักษรนูน ‘Everest’ บนฝากระโปรงหน้า พร้อมมือจับ กระจกข้าง และล้ออัลลอยใหม่สำหรับรุ่นเทรนด์ พร้อมมอบตัวเลือกสีภายนอกใหม่ สีขาว สโนว์ เฟลก ไวท์ เพิร์ล สำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์ สำหรับรุ่นเทรนด์, ไทเทเนี่ยม และไทเทเนี่ยม พลัส และสีน้ำเงินดีพ คริสตัล บลู สำหรับรุ่นสปอร์ต ในราคา 1,299,000 – 1,799,000 บาท

Rolls-Royce-Ghost-2021

10. Rolls-Royce Ghost

Rolls-Royce (โรลส์-รอยซ์) เผยโฉม Rolls-Royce Ghost (โรลส์-รอยซ์ โกสต์) เจเนอเรชั่น 2 ในฐานะตัวแทนการเข้าสู่ยุคใหม่ของบริษัท ที่เตรียมมาเปิดตัวเขย่าตู้เซฟเศรษฐีไทย ให้เอาเงินออกมาซื้อได้ในเดือนนี้

Rolls-Royce Ghost ใหม่ พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มอลูมิเนียม สเปซเฟรม Architecture of Luxury แบบเดียวกับ Rolls-Royce Phantom และ Rolls-Royce Cullinan การออกแบบตัวรถเน้นความเรียบง่าย ใช้ประตูคู่หลังแบบ Coach Doors กับห้องโดยสารที่เงียบเชียบภายใต้สูตร Formula for Serenity รวมถึงงานตกแต่งพิเศษจากแผนก Bespoke และปรับปรุงระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสารใหม่ Micro-Environment Purification System หรือ MEPS เป็นต้น

ขุมพลังมาจากเครื่องยนต์เบนซินตระกูล N74 ของ BMW แบบ V12 ความจุ 6.75 ลิตร Twin Turbo 563 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF พร้อมเทคโนโลยี Satellite Aided Transmission

Maserati-Ghibli-Hybrid-2021

11. Maserati Ghibli Hybrid

Maserati (มาเซราติ) เผยโฉม Maserati Ghibli Hybrid (มาเซราติ กิบลี ไฮบริด) หัวใจลูกผสมแบบ Mild Hybrid เป็นครั้งแรกของค่ายนี้ พร้อมการปรับปรุงใหม่รอบคัน ให้ดูแตกต่างไปจาก Ghibli รุ่นปกติ สำหรับลูกค้าที่มองหาสมรรถนะและความประหยัด เตรียมเปิดตัวในไทยเดือนนี้

ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร Turbo ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง อัดอากาศด้วย Supercharge ไฟฟ้า หรือ E-Booster ให้แรงม้าสูงสุด 330 แรงม้า และส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ของ ZF พร้อมกำลังไฟ 48 โวลต์ ที่ใช้เทคโนโลยี BSG หรือ Belt-Driven Starter Generator สายพานที่รวมกับมอเตอร์สตาร์ท ทำหน้าที่แทน Alternator (ไดชาร์จ) และนำกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ระบบไฟ 48 โวลท์ ไปเพิ่มแรงบิด และลดการใช้เชื้อเพลิง

ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 255 กม./ชม. อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ มีระบบเชื่อมต่อภายใต้โปรแกรม Maserati Connect ให้ข้อมูลผู้ขับขี่ ทำงานร่วมกับชุดระบบมัลติมีเดีย MIA (Maserati Intelligent Assistant) แบบใหม่ ใช้พื้นฐานของ Android Automotive แสดงผลด้วยจอทัชสกรีนขนาด 10.1 นิ้ว

Audi-e-tron-Sportback-55-quattro-S-line-2020

12. Audi e-tron Sportback

Audi (อาวดี้) เปิดตัว Audi e-tron Sportback 55 quattro S line รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โมเดลที่ 2 ของ Audi เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ชูจุดเด่นและความสมบูรณ์แบบทางเทคโนโลยีไฟฟ้า 100% ตอบรับกลยุทธ์ของ AUDI AG ที่กำหนดนิยามใหม่ของ “Vorsprung” ให้มีความทันสมัย สะท้อนจุดยืน ความพร้อม และบทบาทของแบรนด์ Audi สำหรับยุคยานยนต์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

พร้อมเปิดตัวแคมเปญ Branding ใหม่พร้อมกันทั่วโลก กับสโลแกน “Future is An Attitude” ชูจุดเด่นของเทคโนโลยี ดีไซน์ที่สะท้อน DNA ของ Audi ลุคสปอร์ตพรีเมียมและสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ภายในมาพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส พร้อมตอบสนองการสั่งงาน (Haptic Feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว เพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับการสั่งการด้วยการเขียนด้วยนิ้ว เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือด้วย Audi Smartphone Interface และเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ

ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบไฟฟ้า (Electric quattro) มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้กำลังสูงสุดถึง 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 463 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง (อ้างอิงตามผลการทดสอบโดยใช้มาตรฐาน NEDC) การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง

ผสมผสานกับระบบขับเคลื่อน quattro และมีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Recuperation) อย่างชาญฉลาด 2 รูปแบบ คือ พลังงานจากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว (Coasting) และพลังงานจากการเบรก (Braking) พร้อมเปิดจองและส่งมอบทันทีในราคา 5,299,000 บาท

BMW-430i-Coupe-M-Sport-2021

13. BMW 430i Coupe M Sport

BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) เปิดตัว BMW 430i Coupe M Sport (บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 4 คูเป้) ใหม่ มาพร้อมกลิ่นอายที่ผสมผสานทั้งความแข็งแกร่ง ทรงพลัง และความหรูหราในสไตล์คูเป้ของ BMW ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 90 ปี

โดย BMW 430i Coupe M Sport ใหม่ พัฒนาทั้งในด้านสมรรถนะและสุนทรียภาพให้โดดเด่นกว่ารุ่นก่อนหน้า รวมถึง BMW ซีรี่ส์ 3 ซีดาน อย่างชัดเจน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo รุ่นใหม่ล่าสุด และเทคโนโลยี Mild Hybrid ยกระดับการโต้ตอบให้ฉับไวกว่า มอบสมรรถนะการขับขี่ได้เต็มพิกัด

ส่งพละกำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ระหว่าง 1,550- 4,400 รอบ/นาที ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.8 วินาที ในราคา 3,969,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW-X1-sDrive20d-M-Sport-2021

14. BMW X1

BMW X1 (บีเอ็มดับเบิลยู X1) รถยนต์ Sports Activity Vehicle รุ่นปรับโฉมใหม่ ให้การใช้งานที่หลากหลายยิ่งกว่า และฟีเจอร์การใช้งานและอุปกรณ์ล้ำสมัยอีกมากมาย มาพร้อมเครื่องยนต์ BMW TwinPower Turbo แบบ 3 สูบ และ 4 สูบ

โดย BNW X1 sDrive18i (Iconic) ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 4,600-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,480-4,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับเกียร์ Steptronic อัตโนมัติ 7 จังหวะ คลัทช์คู่ อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ในเวลา 9.7 วินาที สู่ความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม.

ในขณะที่ BMW X1 sDrive20d xLine และ BMW X1 sDrive20d M Sport ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที สามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 222 กม./ชม.

ซึ่งในรุ่น xLine มาพร้อมเกียร์ Steptronic อัตโนมัติ 8 จังหวะ และในรุ่น M Sport มาพร้อมเกียร์ Steptronic อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบสปอร์ต ในราคา 1,999,000 – 2,559,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

New-MG-HS-PHEV-2020

15. MG HS PHEV

MG (เอ็มจี) เปิดตัว MG HS PHEV (เอ็มจี เอชเอส ปลั๊กอินไฮบริด) ชูแนวคิด “Refinement” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต โดยสะท้อนถึงความเหนือระดับ ทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบายความปลอดภัย และการแนะนำเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ Turbo ขนาด 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ที่มาพร้อมนวัตกรรม Hairpin Design พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดใหญ่ 16.6 kWh ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ EDU II – 10 Speeds ให้กำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร สามารถเลือกขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร

พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสูงมากถึง 25 ระบบ พร้อมทั้ง Advanced Driver Assistance System สนับสนุนช่วยเหลือผู้ขับขี่เทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous) ระดับ 2 ในราคา 1,359,000 บาท

KIA-Grand-Carnival-2021

16. KIA Grand Carnival

KIA (เกีย) ก็ขอเผยโฉมรถใหม่ๆ ในงาน Motor Expo 2020 ครั้งนี้บ้าง ด้วยการเปิดตัว KIA Grand Carnival (เกีย แกรนด์ คานิวัล) ใหม่! เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่ส่งตรงจากเกาหลีใต้มาถึงไทย ที่เตรียมเปิดราคาในงานนี้ด้วยเลย

สำหรับ KIA Grand Carnival โฉมนี้ ปรับรูปโฉมใหม่หมดที่ดูคล้ายกับ SUV และรถมินิแวนในฝั่งอเมริกันมากขึ้น พร้อมกระจังหน้าแบบ Tiger Nose และเส้นสายตัวถังแบบใหม่ เพิ่มเหลี่ยมมุมมากขึ้น สร้างขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ล่าสุดอย่าง “Grand Utility Vehicle” ที่ใช้ร่วมกับรุ่น Optima และ Sorento พร้อมห้องโดยสารภายในที่หรูหรามากขึ้น โดดเด่นด้วยจอ Infotainment ขนาดใหญ่ด้านคอนโซลหน้า

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร CRDi Turbo 202 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

All-New-Volvo-S60

“The All-New Volvo S60” (วอลโว่ เอส60) สุดยอดสปอร์ตซีดานระดับพรีเมียมจากสวีเดน ที่มาพร้อม Concept “Your Signature Drive”

วอลโว่ ไม่เคยหยุดพัฒนาประสบการณ์การขับขี่แนวใหม่พร้อมระบบส่งกำลังรุ่นล่าสุดและความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี “The All-New Volvo S60” คือสุดยอดยานยนต์แห่งยุค สปอร์ตซีดานระดับพรีเมียมจากสวีเดน ที่จะพลิกโฉมสู่ประสบการณ์การขับขี่บนมาตรฐานใหม่ ด้วยสมรรถนะขั้นสุดยอด เทคโนโลยีที่ตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติ และโครงสร้างตัวถังสุดไฮเทค มอบสมดุลแห่งความสบายและการควบคุมที่ฉับไวอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะ The All-New Volvo S60 ถูกสร้างสรรค์มาเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของแฟนวอลโว่และผู้บริโภคในเมืองไทย

ถ้าหากใครอยากขายรถคันเดิมช่วงนี้พอดี อยากไปดาวน์รถใหม่หรือจะซื้อ Volvo S60 ออกมาใช้ มาขายรถกับ CARRO Express สิ เรารับซื้อรถของคุณ เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

All-New-Volvo-S60

ในช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของ Volvo ในไทยเลยก็ว่าได้ ด้วยยอดขายรถยนต์รุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 63% ได้ส่งมอบรถยนต์ Volvo รุ่นใหม่แก่ลูกค้าในเมืองไทยมากที่สุดในรอบ 22 ปีเลยทีเดียว โดยเฉพาะรุ่น The All-New Volvo V60 ซึ่งเปิดตัวไปในปี 2562 ที่ผ่านมา

All-New-Volvo-S60

The All-New Volvo S60 เป็นรถยนต์ที่มีความยาวและหน้ากว้างที่สุดในรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ทั้งยังขับขี่ได้อย่างสนุกสนานและเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อม ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร แบบ T8 Twin Engine Plug-In Hybrid 407 แรงม้า สามารถพาคุณพุ่งทะยานจากความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที

All-New-Volvo-S60

The All-New Volvo S60 มาในราคาเริ่มต้นเพียง 2,190,000 บาท สำหรับรุ่น Momentum และรุ่น R-Design ในราคาเริ่มต้นที่ 2,590,000 บาท

และเป็นเจ้าของอย่างง่ายดาย ด้วยการผ่อนชำระเพียงเดือนละ 19,xxx บาท *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

All-New-Volvo-S60

กระจังหน้า ออกแบบอย่างสะดุดตา ติดตั้งตรา Volvo อันภาคภูมิ ส่วนฮู้ดหลังยาวและฝากระโปรงห้องเครื่อง สื่อถึงพลังในการขับเคลื่อนอย่างชัดเจน เสริมด้วยไฟหน้า LED ดีไซน์รูปลักษณ์ฆ้อนธอร์อันเป็น Signature ของวอลโว่

All-New-Volvo-S60

งานออกแบบแนวสแกนดิเนเวียน ให้ความสำคัญกับความสะอาดหมดจด คุณภาพ และตอบรับกับการใช้งาน ซึ่งการออกแบบห้องโดยสารของ The All-New Volvo S60 สะท้อนถึงหลักการดังกล่าวอย่างชัดเจน ด้วยการจัดสรรพื้นที่ภายในอย่างเรียบง่าย โปร่งสบายตา

โดยรุ่น R-Design ตกแต่งเบาะด้วยหนัง R-Design Fine Nappa Perforated Leather Upholstery ในเฉดสี Charcoal และรุ่น Momentum ตกแต่งหนังแท้ในเฉดสี Charcoal และ Maroon Brown

มือจับประตูรถตกแต่งด้วยอลูมิเนียม และแผงไฟในโทนสีที่สอดประสานกลมกลืน เสริมความสวยงามด้วยการฝังลายแบบ Metal Décor Inlays ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดการตกแต่ง แป้นเกียร์ และพวงมาลัยแบบ R-design

All-New-Volvo-S60

เทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นนำระดับโลก มีหลากหลาย อาทิ …

ระบบไฟหน้าหักเหตามพวงมาลัย (Active Bending Headlights) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นนำระดับโลกเพื่อการปกป้องคุณและผู้โดยสาร อันเป็นผลงานจากการคิดค้นนวัตกรรมมายาวนานหลายทศวรรษ นอกจากนี้ ระบบไฟหน้า LED Headlights with ABL (Active Bending Lights) ยังถูกออกแบบมาเพื่อมอบความสว่างสูงสุดเมื่อเจอทางโค้งหรือแยกบนถนน และระบบ High-Pressure Cleaning เพื่อให้คุณมีทัศนวิสัยในความมืดที่ชัดเจนที่สุดและช่วยให้การขับขี่ราบรื่นตลอดเส้นทางในรุ่น R-Design

ระบบ Head-Up Display จะแสดงการเตือนและข้อมูลการขับขี่บนระดับการมองเห็นของผู้ขับพอดี ทั้งอัตราความเร็ว การทำงานต่าง ๆ ช่วยลดความถี่ในการละสายตาจากถนนของผู้ขับ ผ่านการฉายข้อมูลที่จำเป็นบนระดับการมองเห็นของผู้ขับโดยตรง จึงไม่ต้องละสายตาจากถนนในขณะขับรถ

ระบบช่วยในการจอดรถพร้อมจอแสดงผลด้วยภาพ 360 องศา ทำงานด้วยเซ็นเซอร์ซึ่งติดตั้งบนกระจังหน้ารถและบนกันชนหลัง ร่วมกับกล้องอื่น ๆ ทั้งที่ติดตั้งเข้ากับป้าย Volvo Iron Mark ด้านล่างกระจกหูช้าง และที่ประตูท้าย เพื่อการวัดระยะห่างของวัตถุรอบตัวรถ เมื่อระบบตรวจพบวัตถุในระยะใกล้ จะส่งสัญญาณเสียงเตือนและแสดงภาพบนหน้าจอแบบ Sensus Screen ในทันที ระบบกล้องช่วยจอดยังช่วยในการถอยรถโดยมีเส้นนำทางและภาพแสดงพื้นที่ เพื่อช่วยให้คุณทราบระยะห่างระหว่างยานพาหนะและวัตถุรอบข้างได้ดีขึ้น

ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ ช่วยให้คุณถอยรถเข้าและออกจากที่จอดรถได้อย่างแม่นยำ โดยระบบจะกำหนดระยะห่างสำหรับการจอดที่เหมาะสม (ทั้งสองด้านของตัวรถ) และให้คำแนะนำการจอดทีละขั้นตอน โดยรถยนต์จะควบคุมการเลี้ยวโดยอัตโนมัติ ส่วนคุณเพียงควบคุมการเบรก และการเปลี่ยนเกียร์

All-New-Volvo-S60

ด้วยเบาะที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันและรองรับส่วนโค้งของสรีระได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงมอบความสบายแม้ในการเดินทางที่ยาวนาน รวมถึงการกำหนดความสูงของเบาะนั่งระดับต่ำยังทำให้คุณสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวบนพื้นถนนอย่างชัดเจน สำหรับเบาะด้านหลังของผู้โดยสารมาพร้อมระบบ 4-Way Power Lumbar Support เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าบริเวณหลัง ผสานกับ Power Fold Rear Headrest และการปรับระยะหมอนรองได้ตามต้องการ

All-New-Volvo-S60

The All-New Volvo S60 นำเสนอ 4 โทนสี ได้แก่ Crystal White Premium Metallic, Onyx Black Metallic, Fusion Red Metallic และสีใหม่ล่าสุด “Pebble Grey Metallic” นำเสนอลุคแบบสปอร์ตที่สวยงามด้วยล้อดีไซน์ 5 – Triple Spoke แบบ Diamond Cut ขนาด 8 x 19 นิ้ว สีดำด้าน สำหรับรุ่น R-Design และล้อดีไซน์ 5 – Y Spoke แบบ Diamond Cut ขนาด 7.5 x 18 นิ้ว สีดำ สำหรับรุ่น Momentum

หมายเหตุ: รถที่เตรียมและนำมาจัดแสดงในงานเปิดตัว Volvo S60 ใหม่ครั้งนี้ ใช้สำหรับในการเปิดตัวรถใหม่เท่านั้น เนื่องจากเครื่องเสียงรถยนต์ มิได้ตรงกับรุ่นรถที่จะนำเข้ามาขายจริง

Harman Kardon คือเครื่องเสียงที่ติดตั้งรถยนต์ New Volvo S60 (R-Design)

New-Cars-In-Thailand-2020

เป็นธรรมดาของปีใหม่ทุกปีที่บรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆ ต้องทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่แทบทุกเดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อรถกันเยอะๆ เศรษฐกิจไทยจะได้คึกคัก ในปี 2563 นี้ ก็มีรถหลายรุ่นที่น่าสนใจ ทั้งแบบ All-New ใหม่หมดจรด หรือจะเป็นแบบ Minorchange ปรับโฉมแต่งหน้าทาปากหน่อย โดยเฉพาะ “รถ SUV” ปีนี้ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง

โดย CARRO ขอคาดการณ์รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะเตรียมเปิดตัวกันในปีนี้ แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ยังถือว่าย่ำแย่ก็ตามที MR.CARRO ขอพาไปดูกันเลยว่า ปีนี้ตลาดรถยนต์ไทย จะมีอะไรใหม่ๆ มาให้ได้ตื่นเต้นกันบ้าง …

Honda-Jazz-2020

1. Honda Jazz

แม้ว่าการเปิดตัวของ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ใหม่ ทำให้หลายฝ่ายต้องมาลุ้นกันต่อว่า Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ซ) รุ่นใหม่ล่าสุดนี้เปิดตัวไปในเมื่อปีที่ผ่านมา และจะวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธุ์นี้ จะมาขายในบ้านเราหรือไม่? จากรูปโฉมที่ดูอ้วนป่องน่ารัก มากกว่าความเป็นสปอร์ตแบบโฉมที่ผ่านมา จึงยังไม่มีความชัดเจนเท่าใดนัก

บางแห่งข่าวบอกด้วยซ้ำว่าทาง Honda จัดสินใจจะผลิต Honda City Hatchback มาจำหน่ายแทน …

ซึ่งถ้าหากทาง Honda คิดผลิต Jazz โฉมใหม่นี้ขายในบ้านเราจริง เครื่องยนต์ Hybrid คงไม่มาแน่นอน แต่อาจจะใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับ Honda City นั่นคือเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร VTEC Turbo 122 แรงม้า

Mazda-CX-30-2020

2. Mazda CX-30

Mazda (มาสด้า) ยังคงเดินหน้ากวาดยอดขายรถอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ายอดขายรถของ Mazda ในปีที่แล้ว อาจจะร่วงลงไปบ้างก็ตามหากเทียบกับยอดในปี 2561 ที่ผ่านมา แต่เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นแล้วก็ยังดูสูงอยู่ดี โดยรถ Crossover ยอดฮิตที่เพิ่งเปิดตัวในญี่ปุ่นอย่าง Mazda CX-30 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-30) ที่มีคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Toyota C-HR และ Honda HR-V ต้องสะเทือนกันอย่างแน่นอน

โดย Mazda CX-30 2020 มีหน้าตาและรูปร่างคล้าย Mazda3 โฉมใหม่ล่าสุด ในแบบยกสูง ภายใต้เครื่องยนต์ที่มีให้เลือกทั้งแบบ เบนซินขนาด 1.5 ลิตร, 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร และแบบดีเซลขนาด 1.8 ลิตร แต่เครื่องยนต์ที่จะขายในไทยคงเป็นตัวเบนซินขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า และดีเซลขนาด 1.8 ลิตร 116 แรงม้า

Nissan-Kicks-2020

3. Nissan Kicks

ปีนี้อาจจะพอเรียกได้ว่าเป็นปีทองของ Nissan (นิสสัน) ที่หวนกลับมาอีกครั้งนับตั้งแต่เกือบๆ 10 ปีที่ผ่านมา โดย Nissan Almera 2020 ก็ได้รับการตอบรับที่ดีทีเดียว ในเดือนเมษายน 2563 นี้ Nissan มีแพลนที่จะเปิดตัว Nissan Kicks 2020 (นิสสัน คิกส์) ใหม่ เอามาขายแทน Nissan Juke ในราคาเริ่มต้นประมาณ 895,000 บาท

โดย Nissan Kicks คาดว่ามาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 124 แรงม้า และอาจได้เห็นรุ่น e-Power มาอีกด้วย Nissan Ju

Nissan-Sylphy-2020

4. Nissan Sylphy

ต้องยอมรับว่า รถยนต์แบบ Compact Car ของ Nissan อย่าง Nissan Sylphy (นิสสัน ซิลฟี่) เป็นรถที่ดูเงียบมากๆ ของนิสสันในช่วงหลายปีมาผ่าน ซึ่งหลายต่อหลายฝ่ายต่างคิดว่า Nissan บ้านเราคงถอดใจกับการขายรถรุ่นนี้ไปแล้ว

แต่ Nissan Sylphy โฉมใหม่ล่าสุด ก็เปิดตัวไปแล้วในจีน และสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ภายใต้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 139 แรงม้า และ 2.0 ลิตร 149 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งต้องมารอลุ้นกันว่า รถรุ่นนี้ผลิตขายและจำหน่ายในบ้านเราเวลาใด

Toyota-Yaris-2020

5. Toyota Yaris

Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) โฉมใหม่หมดจด นับเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 ของรุ่นนี้ แม้ว่าในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นและยุโรป จะเปิดตัวรุ่นใหม่ไปแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา กับรูปทรงที่สวยสปอร์ตอย่างเห็นได้ชัด แถมมีรุ่นเครื่องยนต์ Hybrid ให้ได้เลือกสรรกันด้วย

พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ 1.0 ลิตร พร้อมระบบไฮบริด รวมถึงยังมีเทคโนโลยีอีกมากมายที่เน้นไปที่เรื่องของความปลอดภัย ในบ้านเราก็ต้องรอลุ้นกันต่อไป ว่ารุ่นนี้จะมาเข้าโครงการ Eco-Car เฟส 2 ด้วยหรือเปล่า

Toyota-Rush-2020

6. Toyota Rush

มาแน่แต่ไม่รู้มาเดือนไหน? สำหรับ Toyota Rush (โตโยต้า รัช) เป็นรถแบบ Crossover SUV ที่ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวไปแล้วในอินโดนีเซีย และมาเลเซีย โอกาสที่จะเข้ามาไทย (แทนที่ Avanza) นี้ ก็ถือว่ามีสูงมากเลยทีเดียว พร้อมท้าชนกับเจ้า Honda BR-V หรือ Mitsubishi Xpander แน่นอน

Toyota Rush ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR 104 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลัง

Suzuki-Ciaz-2020

7. Suzuki Ciaz

สำหรับค่าย Suzuki (ซูซูกิ) หลังจากที่สร้างความตื่นเต้นไปในปีที่ผ่านมา กับรถใหม่ๆ หลายรุ่นแล้ว ในปีนี้ก็ถึงเวลาที่ Suzuki Ciaz (ซูซูกิ เซียส) รุ่นปรับโฉมมามาแทนที่รุ่นเดิม

Mercedes-Benz-GLB-Class-2020

และสำหรับแบรนด์อื่นๆ เช่น Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) ช่วงต้นปีนี้ก็เตรียมพบกับ Mercedes-Benz GLA รุ่นใหม่ล่าสุด และ Mercedes-Benz GLB รถ SUV รุ่นใหม่ที่คั่นกลางระหว่าง GLA และ GLC ที่มาพร้อม 7 ที่นั่ง! และ New A-Class ใหม่ ในเวอร์ชั่นประกอบในประเทศ ที่ต้องรอติดตามดูกันว่าจะมาหรือไม่

ส่วน BMW (บีเอ็มดับเบิลยู) ก็ต้องรอลุ้นกับ Series-3 รุ่นเพิ่มเติมที่มาเอาใจแฟนๆ Bimmer อย่างแน่นอน รวมไปถึง BMW New X6 และรถธงอย่าง BMW Series-7 โฉมใหม่ล่าสุด รุ่นประกอบในประเทศ เปิดตัวกันไปแล้วในรุ่น 730Ld sDrive M Sport ราคา 6,139,000 บาท และ 745Le xDrive M Sport ในราคา 6,439,000 บาท

เป็นอันว่า หากใครที่อยากได้รถรุ่นใหม่ๆ ดังกล่าว ก็เตรียมเก็บเงินซื้อกันได้เลย แต่วิธีการที่จะช่วยให้คุณดาวน์รถใหม่ หรือผ่อนรถใหม่ได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้คุณนำรถคันเดิมมาขายกับทาง CARRO ได้ตาม Link นี้เลยจ้า https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

New-Car-In-Motor-Expo-2019

“มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36” หรือ The 36th Thailand International Motor Expo 2019 ภายใต้แนวคิด “โลดแล่นทันใด ทะยานไปด้วยกัน” หรือ “Ride and Drive Together Now” พร้อมนำรถรุ่นใหม่ ทั้งที่เปิดตัวในปีนี้ รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ โดยงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

ไหนๆ จะไปดู ไปซื้อรถใหม่ที่งาน Motor Expo 2019 กันแล้ว ถ้าคุณอยากขายรถคันเดิม หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ Carro ได้ เราพร้อมรับซื้อรถของคุณ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Fanpage Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

หากท่านใดที่อยากได้บัตรเข้างาน Motor Expo 2019 ฟรี! ง่ายๆ ดูรายละเอียดการขอบัตรได้ในนี้เลย —> https://th.carro.co/blog/carro-ticket-motor-expo/

Carro ขอนำเสนอรถยนต์ใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดตัวก่อนและในงาน Motor Expo 2019 กันตั้งแต่ในเดือนตุลาคม จนถึงเดือนพฤศจิกายน บริษัทรถยนต์หลายแบรนด์ ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ ไปแล้วหลายค่าย Carro ขอแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ครับผม …

1. Toyota Yaris Cross

Toyota-Yaris-Cross-2020

Toyota (โตโยต้า) เผยโฉม Toyota Yaris Cross (โตโยต้า ยาริส ครอส) ได้ฤกษ์เปิดตัว “รุ่นปรับปรุงใหม่” และ “ชุดแต่งพิเศษ Yaris Cross” มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FKE แบบ Dual VVT-iE 92 แรงม้า แรง ประหยัดน้ำมัน รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และผ่านมาตรฐาน EURO 5 ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock และฟังก์ชัน S Mode

โดยมีทางเลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ High, Mid และ Entry พร้อมแนะนำ ชุดแต่งพิเศษ Yaris Cross ครั้งแรกกับรถสไตล์ Crossover ในกลุ่มอีโคคาร์ (ราคาพิเศษ 35,000 บาท สามารถติดตั้งได้กับ Yaris รุ่น High และรุ่น Mid (สินค้ามีจำนวนจำกัด)

ด้วยดีไซน์ที่แตกต่าง กับชุดอุปกรณ์ตกแต่งรอบคัน สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง (ซ้าย-ขวา), สเกิร์ตท้าย, ชุดตกแต่งขอบประตูรถ หลังคาเคลือบฟิล์มดำ Matt Black, ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว พร้อมคิ้วซุ้มล้อและสัญลักษณ์ Cross ด้านท้ายรถ นอกจากนี้ยังได้รับการปรับแต่งชุดสปริงและโช้คยกสูง 30 มม.

และยังมีระบบ ABS, EBD, BA, VSC, TRC และ HAC พร้อมถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง และกล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง แม้ขณะดับเครื่องยนต์ เซ็นเซอร์สามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือน และบันทึกภาพกรณีพบสิ่งผิดปกติ ในราคา 539,000 – 649,000 บาท

2. Toyota Yaris ATIV

Toyota-Yaris-ATIV-2020

Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) เปิดตัว “รุ่นปรับปรุงใหม่” และ “ชุดแต่งพิเศษ ATIV GT” มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FKE แบบ Dual VVT-iE 92 แรงม้า แรง ประหยัดน้ำมัน รองรับแก๊สโซฮอล์ E20 และผ่านมาตรฐาน EURO 5 ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock และฟังก์ชัน S Mode

โดยมีทางเลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ High, Mid และ Entry พร้อมแนะนำ ชุดแต่งพิเศษ ATIV GT (ราคาพิเศษ 7,000 บาท สามารถติดตั้งได้กับ ATIV ทุกรุ่นและทุกสี (พิเศษ! มีจำนวนจำกัด)) ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่ง สเกิร์ตกันชนหน้า, สเกิร์ตข้าง (ซ้าย-ขวา), สเกิร์ตกันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง และเพิ่มระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System)

กับระบบ ABS, EBD, BA, VSC, TRC และ HAC พร้อมถุงลมนิรภัย SRS 7 ตำแหน่ง และกล้องบันทึกภาพหน้า-หลัง แม้ขณะดับเครื่องยนต์ เซ็นเซอร์สามารถตรวจจับแรงสั่นสะเทือน และบันทึกภาพกรณีพบสิ่งผิดปกติ ในราคา 529,000 – 649,000 บาท

3. Toyota Hilux Revo Rocco

Toyota-Hilux-Revo-ตูน-บอดี้สแลม

Toyota Hilux Revo (โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่) โฉมปี 2020 พร้อมจ้าง “พี่ตูน บอดี้สแลม” อาทิวราห์ คงมาลัย มาเป็นพรีเซนเตอร์ใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ Over The Limit…ทลายทุกขีดจำกัด

โดยทาง Toyota ยังได้ร่วมมือกับบริษัท อีซียู ช็อป1 จำกัด ติดตั้งกล่องเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ รุ่น Ultra Boost สำหรับรถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร GD Efficient Boost โดยกล่องเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ รุ่น Ultra Boost จะทำงานร่วมกับ ECU หลักของเครื่องยนต์ ช่วยเพิ่มแรงม้าสูงสุดถึง 204 แรงม้า และเพิ่มแรงบิดสูงสุด 518 นิวตัน-เมตร เพื่อการออกตัวและเร่งแซงที่ไวมากยิ่งขึ้น

และแพ็คเกจชุดแต่งพิเศษสำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ รุ่นดับเบิ้ลแค็บ และรุ่นสมาร์ทแค็บ ทั้งแบบยกสูง Prerunner และขับเคลื่อนสี่ล้อ รวมไปถึงรุ่น Z Edition เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยกระจังหน้า และกรอบไฟตัดหมอกหน้าดีไซน์ใหม่ กับสปอยเลอร์รอบคัน

4. Toyota GR Supra

Toyota-GR-Supra

การกลับมาใหม่ของ Toyota GR Supra (โตโยต้า จีอาร์ ซูปร้า) ที่แฟนๆ Supra ในทั่วโลกก็มีทั้งเสียงตอบรับที่ดี และเสียงตอบรับที่ดูตกใจกับการเปลี่ยนไปของรถสปอร์ตระดับตำนานของโตโยต้ารุ่นนี้ โดยมันคือฝาแฝดของ BMW Z4 นั่นเอง! ส่วนภายในได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก FT-1 Concept

ในบ้านเรานำเข้ามาโชว์ตัวเป็นๆ ให้เห็นกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในที่สุด วันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ Toyota ก็เตรียมเปิดตัวจำหน่ายอย่างเป็นทางการซะที ในราคาหลักหลายล้านบาทเลยทีเดียว!

GR Supra นี้ ใช้เครื่องยนต์จาก BMW ขนาด 3.0 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง Turbo 340 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Paddle Shifts สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.1 วินาที ถือว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุด ที่ Toyota เคยผลิตมา ส่วนความเร็วสูงสุด จำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. ในราคาประมาณ 5 บ้านบาท (ซึ่งมีคนรับมอบเป็นเจ้าของรถแล้ว อย่างน้อย 5 คน)

5. Honda City

All-New-Honda-City-RS-2020

เป็นไปตามคาด สำหรับ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ใหม่ล่าสุด เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ไทย วันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2019 นับเป็นครั้งแรกของ City กับการกระโดดลงมาเล่นในตลาดรถ Eco-Car นั่นเอง

ในส่วนของเครื่องยนต์ ปลี่ยนใหม่หมดกับเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC VTEC 12 วาล์ว Turbo Dual VTC ให้แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Paddle Shift 7 สปีด และเครื่องยนต์รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ในราคา 579,500 – 739,000 บาท

6. Nissan Almera

All-New-Nissan-Almera-2020

Nissan (นิสสัน) เผยโฉม Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) เปิดตัวในไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เตรียมโชว์ในงาน Motor Expo 2019 ออกแบบภายใต้ปรัชญา “รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” มีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ ส่วนภายในออกแบบใหม่หมด ซึ่งกว้างขวางมากๆ เหมือนเดิม

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า ให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร และให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic

และยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility เป็นจุดเด่นด้านความปลอดภัยของ Nissan ด้วย ในราคา 499,000 – 639,000 บาท

7. Mazda CX-8

All-New-Mazda-CX-8-2019

Mazda เผยโฉม Mazda CX-8 (มาสด้า ซีเอ็กซ์-8) ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ SUV ระดับ Premium แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง ถือเป็น Crossover SUV ที่สะท้อนภาพลักษณ์ความภูมิฐาน สง่างาม และความสมบูรณ์แบบ ตัวรถยาวขึ้น นั่งสบายทุกที่นั่ง ภายใต้ปรัชญา KODO design : Soul of Motion ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงามจากคอนเซ็ปต์ “Less is More”

ให้การตอบสนองดีเยี่ยมด้วยขุมพลังของ 2 เครื่องยนต์ สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร 190 แรงม้า ปรับปรุงพัฒนาใหม่ โดยในรุ่นดีเซล XDL Exclusive 6 ที่นั่ง มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ i-ACTIV AWD และประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร 194 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงถึง 13.5 กม./ลิตร

พร้อมส่งมอบความคุ้มค่าด้วยการรับประกันคุณภาพและฟรีค่าแรงนาน 5 ปี ในราคา 1,599,000 – 2,069,000 บาท

8. Mitsubishi Mirage / Attarge

New-Mitsubishi-Mirage-2020

New-Mitsubishi-Attrage-2020

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เผยโฉม “Mitsubishi Mirage” (มิตซูบิชิ มิราจ) และ “Mitsubishi Attrage” (มิตซูบิชิ แอททราจ) ใหม่ ด้วยแนวคิด “พลังจากข้างใน ไปให้สุด” พร้อมดีไซน์ Advanced ‘Dynamic Shield’ อันโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าตกแต่งด้วยเส้นสีแดง กันชนใหม่ ไฟหน้าแบบ Bi-LED พร้อมไฟ Daytime Running Light ชุดไฟตัดหมอกแบบใหม่ ไฟท้ายแบบ LED และ ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 15 นิ้ว ทั้งนี้ Mirage ใหม่ ยังมาพร้อมกับสปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ต

ภายในห้องโดยสารยกระดับใหม่ ทั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ High Contrast ตกแต่งด้วยลายคาร์บอนดีไซน์ใหม่ เบาะนั่งวัสดุหนังสังเคราะห์ดีไซน์ใหม่ สำหรับ มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่ และ เบาะนั่งวัสดุหนังสังเคราะห์และผ้าดีไซน์ใหม่ ส่วน มิตซูบิชิ มิราจ มีแผงควบคุมเปิด-ปิดกระจกข้างตกแต่งด้วยลายคาร์บอนดีไซน์ใหม่ พร้อมวัสดุบุนุ่มบริเวณแผงประตู

และทั้ง 2 รุ่น สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอระบบสัมผัส Smartphone – Link Display Audio (SDA) ขนาด 7 นิ้ว รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และการเชื่อมต่อบลูทูธ

สำหรับ Mitsubishi Mirage ราคาอยูที่ 474,000 – 619,000 บาท และ

สำหรับ Mitsubishi Attrage ราคาอยูที่ 494,000 – 624,000 บาท

9. Mitsubishi Triton Athlete

 New-Mitsubishi-Triton-Athlete-2020

Mitsubishi Triton Athlete (มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท) ใหม่ “เหนือชั้น สายพันธุ์สปอร์ต” ยกระดับสู่ความสปอร์ตเต็มขั้นโดยพัฒนาจากรุ่นสูงสุดของกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ด้วยชุดตกแต่งกันชนหน้าสีดำแบบสปอร์ต หลังคาสีดำพร้อมล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ด้านหลังดีไซน์มือเปิดกระบะท้าย และกันชนหลังสีดำ พร้อมสัญลักษณ์ ‘Athlete’ บนฝากระบะท้าย พร้อมชุดปูพื้นกระบะ แกร่งขึ้นด้วยกรอบกระจกมองข้างและสไตล์ลิ่งบาร์สีดำ พร้อมบันไดข้าง รวมถึงสัญลักษณ์ ‘Athlete’ บนแถบกราฟฟิกข้างตัวรถ

ภายในห้องโดยสารตกแต่งพิเศษด้วยเบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ทูโทนสีดำสลับสีส้ม พร้อมสัญลักษณ์ ‘Athlete’ เดินด้ายสีส้มที่หัวเกียร์ แผงประตู และเบรกมือ วัสดุบุนุ่มกันกระแทกบริเวณหัวเข่า และฝากล่องเก็บของคอนโซลกลางตกแต่งด้วยสีส้ม พร้อมพรมห้องโดยสารปักสัญลักษณ์ ‘Athlete’ สีส้ม ในราคา 1,035,000 – 1,146,000 บาท

10. Isuzu D-Max

All-New-Isuzu-D-Max-2019

Isuzu (อีซูซุ) เปิดตัว All-New Isuzu D-Max (ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์) พลานุภาพ…พลิกโลก! “Infinite Potential” “ยนตรกรรมที่เหนือกว่าคำว่าปิกอัพ” ภายใต้แนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART ดีไซน์ใหม่หมดทุกมิติ ทั้งภายนอกภายใน แรงสะใจกับขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ แพลตฟอร์มใหม่ ระบบความปลอดภัยใหม่เต็มรูปแบบ เทคโนโลยีใหม่ในทุกฟังก์ชั่น

ผ่านการพัฒนาโดยการทดสอบในอุโมงค์ลม Japan Railway Research Institute หรือ JR ซึ่งเป็นสถานที่ทดสอบรถไฟหัวกระสุนของประเทศญี่ปุ่น “ออลนิว อีซูซุดีแมคซ์” จึงเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม และมีห้องโดยสารที่เงียบขึ้นอีกด้วย

มาพร้อมเครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่น 4JJ3-TCX  190 แรงม้า และเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ Gen 2 รุ่น RZ4E-TC ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น 150 แรงม้า ในราคา 510,000 – 1,164,000 บาท

11. Ford Ranger FX4

Ford-Ranger-FX4

Ford (ฟอร์ด) เปิดตัว Ford Ranger FX4 (ฟอร์ด เรนเจอร์ FX4) ใหม่ มาพร้อมรูปลักษณ์ดุดัน และอุปกรณ์เทคโนโลยีอันทันสมัย ยกระดับมาตรฐานกระบะพันธุ์แกร่งให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ชุดล้ออัลลอยด์สีดำ ขนาด 18 นิ้ว กันชนหลังสีดำ และสปอร์ตบาร์สีดำดีไซน์ใหม่

ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งโทนสีดำเงา เดินด้ายสีแดงตั้งแต่แผงคอนโซล เกียร์ ที่วางแขน ขอบประตู และเบาะนั่ง พร้อมประดับสัญลักษณ์ FX4 ที่พรมและเบาะนั่งคู่หน้า นำเสนอระบบความบันเทิง SYNC ใหม่ ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับภาษาไทย การใช้งานผ่าน Apple Car Play และ Android Auto รองรับไฟล์ VDO รวมถึงระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน ในราคา 919,000 บาท

12. Ford Everest Sport

Ford-Everest-Sport

Ford Everest Sport (ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต) รุ่นพิเศษ ออกแบบใหม่ด้วยอุปกรณ์ตกแต่งสีดำเงา ทั้งกระจังหน้า กระจกมองข้าง และราวหลังคา ประดับสัญลักษณ์รุ่นสปอร์ตทั้งด้านข้างและด้านหลัง กันชนหลังสีดำ พร้อมล้ออัลลอยด์สีดำขนาด 20 นิ้ว หรูหรา โดดเด่นด้วยตัวอักษรนูน ‘Everest’ บนกระโปรงหน้ารถ

ภายในของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เพิ่มลูกเล่นและความโฉบเฉี่ยว ด้วยโทนสีดำน้ำเงิน ตั้งแต่แผงคอนโซล ที่วางแขน และเบาะที่นั่ง พร้อมสลักลายคำว่า Sport บนเบาะนั่งคู่หน้า พร้อมตกแต่งลวดลาย Hydrographic เคลือบ 2 ชั้น บนวัสดุที่ทันสมัย บนคอนโซลหน้าและที่เปิดประตู ระบบความบันเทิง SYNC 3 สั่งงานด้วยเสียง รองรับภาษาไทย พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มาพร้อมกับระบบช่วยโทรฉุกเฉินและกล้องมองหลังขณะถอดจอด ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้ายขวา ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอบหลังแบบปรับอุณหภูมิแยกได้ ในราคา 1,469,000 บาท

13. Porsche Cayenne Coupe

Porsche-Cayenne-Coupe

Porsche Cayenne Coupe (ปอร์เช่ คาเยนน์ คูเป้) รถสปอร์ตอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดจากปอร์เช่ ที่มาพร้อมความโฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตาด้วยแนวหลังคาที่ลาดลงมาจรดท้ายรถ สะดวกสบายทุกการเดินทางด้วยเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต 4 ที่นั่ง

สปอร์ตเต็มพิกัดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ Turbo ขนาด 3.0 ลิตร 340 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 243 กม./ชม. ติดตั้งอุปกรณ์มาตราฐาน ระบบความบันเทิงและการติดต่อสื่อสาร Porsche Communication Management รุ่นล่าสุด พร้อมระบบ Apple CarPlay และ ระบบเครื่องเสียง BOSE Surround Sound System โดย Cayenne Coupe ใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 8.6 ล้านบาท และ Cayenne e-Hybrid Coupe ราคาเริ่มต้นที่ 6.5 ล้านบาท

รถรุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้า สามารถดูได้ใน Link ด้านล่างนี้