Carro แนะนำ Mazda2 เพื่อคนวัยรุ่น!

ยุคที่หลายๆ คน นอกจากจะมีงานการอาชีพหลักแล้ว บางคนยังรู้จักหาอาชีพเสริมทำในยามว่าง หรือจะออกมาเป็นนายตัวเองก็ตาม หลายคนต้องใชัรถยนต์ทั้งในเรื่องงาน และในครอบครัว ก็ยังมีความต้องการรถยนต์ที่ขับแล้วสนุก ช่วงล่างเกาะถนนดี รูปทรงดีไซน์ ภายในสวยถูกใจคล้ายกับรถยุโรป ขนของได้ รวมไปถึงให้เด็กๆ นั่งไปโรงเรียน หรือไปเที่ยวในช่วงวันหยุดก็ได้

รถยนต์ที่ Carro (คาร์โร) จะมาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกสรรเป็นเจ้าของกัน เป็นรถที่มีคุณสมบัติดังกล่าวหลายอย่าง เชื่อว่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่หลายคนคงชอบทีเดียว

ไปรู้จักกับ Mazda2 (มาสด้า2) รหัสรุ่น DJ และ DL รถ Eco-Car สกายแอคทีฟ สายพันธุ์ Zoom-Zoom (ซูม-ซูม) สปอร์ตทุกอณู ในกลุ่ม B-Segment จากมาสด้ากันครับ กับรถขายดีใน Carro มาดูกันว่า รุ่นนี้มีความน่าสนใจตรงจุดไหนกันบ้าง …

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

สำหรับ Mazda2 มือสอง (มาสด้า2 มือสอง) เจเนอเรชั่นที่ 2 โฉมปัจจุบัน จุดเริ่มต้นคงต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 เมื่อมาสด้าตัดสินใจเข็นรถขายดียอดนิยมในไทยอย่าง Mazda2 (หรือ Mazda Demio ในญี่ปุ่น) เข้าโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐาน ระยะที่ 2 หรือ โครงการอีโคคาร์ เฟส 2 และตั้งสายการผลิตที่ โรงงานผลิตรถยนต์ออโต้อัลลายแอนซ์ จ.ระยอง

ก่อนจะนำมาให้ประชาชนเผยโฉมในงาน Motor Expo 2014 และก็สามารถคว้ายอดจองไปได้สูงกว่า 1,500 คัน!

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

ความโดดเด่นของ Mazda2 รถซิตี้คาร์รุ่นขายดีครั้งนี้ ได้รับการเผยโฉมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2558 ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ารถเล็ก ได้ทั้งความแรง และเรื่องประหยัดน้ำมัน ภายใต้รูปลักษณ์การออกแบบแนวใหม่ของดีไซน์ โคโดะ (Kodo Design) ที่ลูกค้าชื่นชอบ และมอบประสบการณ์ความสนุกในการขับขี่ตามแนวคิด จินบะ – อิไต (Jinba-Ittai) ของมาสด้า ทำให้ลูกค้าต่างบอกกันปากต่อปาก ในเรื่องของความสวยงาม สมรรถนะการใช้งาน และความพึงพอใจที่มีต่อมาสด้า

พร้อมออพชั่น MZD Connect และอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มคัน พร้อมระบบป้องกันรถลื่นไถล DSC ที่เคยมีแต่ในรถหรูขนาดใหญ่ ก็จัดมาให้กันเป็นครั้งแรกใน Mazda2 รุ่นนี้อีกด้วย

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

โดยในโฉมแรกนี้ วางเครื่องยนต์คลีนดีเซลขนาด Compact 1.5 ลิตร “SKYACTIV-D” ในรถยนต์นั่งที่เป็นรุ่นเริ่มต้นของตลาด B-Segment และกลุ่มอีโคคาร์ แบบ 4 สูบ Turbo แปรผัน 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที มาพร้อมแรงบิดสูงเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่ 2.5 ลิตร นั่นคือ 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที แต่ประหยัดน้ำมันในอัตราสูงถึง 26.3 กม./ลิตร!

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

และจุดเด่นอีกหลายอย่าง อาทิ

– ระบบประหยัดพลังงานอัจฉริยะ i-ELOOP (Mazda Regenerative Braking System) เปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการลดความเร็วให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และเก็บไว้ในอุปกรณ์เก็บประจุไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้เลี้ยงระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์ภายในรถ

– ระบบ i-STOP (Idling Stop System) ระบบประหยัดน้ำมันที่สั่งให้เครื่องยนต์หยุดการทำงานชั่วคราวเมื่อรถจอดนิ่ง

– ระบบ i-ACTIVSENSE: Worry-free Excitement เส้นทางไหนก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ

– ระบบ MZD CONNECT: Connectivity At Your Fingertips สะดวกและครบทุกฟังก์ชั่น ให้คุณเพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ดิจิตอลบนรถทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย หรือรับ-ส่ง ข้อความ SMS จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth พร้อม Infotainment หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รวมไปถึงระบบนำทาง Navigator

– ระบบ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กําลังแซงขึ้นมา

– ระบบ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง ซึ่งจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมไฟกะพริบเตือนที่กระจกมองข้างในขณะขับรถถอยหลัง

มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ XD, XD High Connect และ XD High Plus โดยมีให้เลือกทั้งแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

25 มีนาคม 2558 ตามมาติดๆ กับรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 1.3 ลิตร ขยายความต้องการเพิ่มเติม ด้วยจุดเด่นอย่างการเผาไหม้สมบูรณ์ที่สุดด้วยอัตราส่วนการอัดสูงถึง 10:1 ให้แรงม้าสูงถึง 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิงแก๊สโซฮอล์ E20 ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE แบบ 6 สปีด

มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, High High Plus ทั้งในแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู

ในเดือนธันวาคม 2558 ปรับโฉม New Mazda2 รุ่น Model Year 2016 รูปลักษณ์ใหม่ มาพร้อมไฟหน้า LED และไฟ Day Time Running LED ปรับอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้น กล้องมองหลัง และอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

15 กุมภาพันธ์ 2560 เปิดตัวรุ่นปี 2017 ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “The Next Level Of Excitement” อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ที่มาพร้อมกับระบบ G-VECTORING CONTROL อันเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของเทคโนโลยีด้านการควบคุมการขับขี่ พร้อมใส่อุปกรณ์มาตรฐานเต็มคัน

มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard, High, High Connect และ High Plus

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

20 กุมภาพันธ์ 2561 Mazda เปิดตัว Mazda2 รุ่น 2018 Collection ลุยตลาด ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “Excitement Neved Ends” หรือ “เร้าใจ ไม่เคยหยุด” เพิ่มจุดเด่นหลายอย่าง อาทิ สีใหม่ล่าสุด สีแดง Soul Red Crystal ที่ให้ความสดใสเป็นประกายของสีแดง หรือระบบไฟหน้า เปิด-ปิด แบบอัตโนมัติ และระบบ Cruise Control เป็นต้น

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

และแล้วก็ถึงเวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ Mazda2 ครั้งใหญ่ ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้ KODO Design เจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ภายนอกที่ได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่กันชนหน้า-หลัง กระจังหน้า ไฟหน้าและไฟท้าย ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 16 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารที่หรูหรา พรีเมียม ด้วยการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง อาทิ แผงคอนโซลหน้า แผงประตูด้านข้าง และเบาะดีไซน์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของ SKYACTIV-Vehicle Architecture ที่ช่วยให้การขับขี่ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ยังคงมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์คลีนดีเซล 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร ทั้งแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าตาม Concept “ไม่หยุด…แค่ความธรรมดา”

พร้อมปรับชื่อรุ่นใหม่ เริ่มตั้งแต่รุ่นเบนซิน 1.3 E, 1.3 C, 1.3 S, 1.3 S Leather (เบาะหนังแท้) และ 1.3SP ส่วนรุ่นดีเซล ลดเหลือ 2 รุ่นย่อย อาทิ XD และ XDL

CARRO Automall แนะนำ Mazda2

ล่าสุด … 8 กุมภาพันธ์ 2564 Mazda แนะนำ New Mazda2 2021 Collection เพิ่มออพชั่น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport Paddle Shift) ช่วยให้ขับสนุกยิ่งขึ้น, เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยกล้องมองหลัง ตั้งแต่รุ่น 1.3 C ขึ้นไป พร้อมระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง หรือกล้อง 360 องศา รอบคัน

ซึ่ง Mazda2 โฉมนี้ นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2558 มาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 185,000 คัน!!!

และสำหรับ Carro ในเดือนกรกฏาคม 2565 เรามี Mazda2 รีวิวรถคุณภาพเยี่ยม มาแนะนำให้คุณผู้อ่านรู้จักกัน 21 คันครับ ได้แก่ …..

MAZDA 2 1.5 XD High Connect 2019 ขาว

MAZDA 2 1.5 XD High Connect 2019 ขาว

1. Mazda2 1.5 XD High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 107,995 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 459,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-EWYL1Y.html

MAZDA 2 1.3 Sports High plus 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 Sports High plus 2019 แดง

2. Mazda2 1.3 Sports High Plus ปี 2019 เลขไมล์ 36,459 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 459,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-G67MNV.html

MAZDA 2 1.5 SKYACTIV XD HIGH CONNECT 2017 แดง

MAZDA 2 1.5 SKYACTIV XD HIGH CONNECT 2017 แดง

3. Mazda2 1.5 XD High Connect ปี 2017 เลขไมล์ 88,208 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 419,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2017-G08QY9.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2019 แดง

4. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 42,079 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 439,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-G97PJ8.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 แดง

5. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 74,904 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 419,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-D27MJN.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH PLUS 2016 ดำ

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH PLUS 2016 ดำ

6. Mazda2 1.3 High Plus ปี 2016 เลขไมล์ 106,114 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 379,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2016-E17LXK.html

MAZDA 2 1.5 XD Sports HIGH CONNECT 2015 เทา-ดำ

MAZDA 2 1.5 XD Sports HIGH CONNECT 2015 เทา-ดำ

7. Mazda2 1.5 XD Sports High Connect ปี 2015 เลขไมล์ 223,862 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 359,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2015-G373ZR.html

MAZDA 2 1.3 Standard 2019 น้ำตาล

MAZDA 2 1.3 Standard 2019 น้ำตาล

8. Mazda2 1.3 Standard ปี 2019 เลขไมล์ 92,546 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-E47K1X.html

MAZDA 2 1.3 Sports High 2016 ดำ

MAZDA 2 1.3 Sports High 2016 ดำ

9. Mazda2 1.3 Sports High ปี 2016 เลขไมล์ 141,122 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 369,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2016-DRQNM5.html

MAZDA 2 1.3 Hight Connect 2017 เทา

MAZDA 2 1.3 Hight Connect 2017 เทา

10. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2017 เลขไมล์ 57,264 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 379,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2017-DO2997.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 น้ำตาล

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2019 น้ำตาล

11. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 53,680 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-EKJ29P.html

MAZDA 2 1.3 High Connect 2018 ดำ

MAZDA 2 1.3 High Connect 2018 ดำ

12. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 48,458 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-D87OL4.html

MAZDA 2 1.3 Sports Standard 2017 แดง

MAZDA 2 1.3 Sports Standard 2017 แดง

13. Mazda2 1.3 Sports Standard ปี 2017 เลขไมล์ 112,857 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ลดราคา! เหลือ 349,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2017-GY7N5Z.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 น้ำตาล

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 น้ำตาล

14. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 67,907 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-EWYL2Q.html

MAZDA 2 1.3 High Plus 2019 ขาว

MAZDA 2 1.3 High Plus 2019 ขาว

15. Mazda2 1.3 High Plus ปี 2019 เลขไมล์ 50,227 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 439,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-ENMJOL.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2016 ขาว

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2016 ขาว

16. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2016 เลขไมล์ 37,705 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 389,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2016-D57YPO.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV SPORTS HIGH CONNECT 2018 แดง

17. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 90,090 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-DONP22.html

MAZDA 2 1.3 Sports High Connect 2019 แดง

MAZDA 2 1.3 Sports High Connect 2019 แดง

18. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 75,415 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-G67MO0.html

MAZDA 2 1.3 SPORTS HIGH CONNECT 2018 เทา

MAZDA 2 1.3 SPORTS HIGH CONNECT 2018 เทา

19. Mazda2 1.3 Sports High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 58,315 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 429,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-GJZ10X.html

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2018 แดง

MAZDA 2 1.3 SKYACTIV HIGH CONNECT 2018 แดง

20. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2018 เลขไมล์ 107,268 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 409,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2018-DONL94.html

MAZDA 2 1.3 High Connect 2019 ขาว

MAZDA 2 1.3 High Connect 2019 ขาว

21. Mazda2 1.3 High Connect ปี 2019 เลขไมล์ 31,983 กิโลเมตร สภาพเยี่ยม ราคา 439,000 บาท!

(สามารถฟังเสียงเครื่องยนต์ รวมถึงดูภาพภายนอกรถ-ภายในรถแบบ 360 องศา ได้)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม – https://th.carro.co/cardetail/mazda-2-2019-DLK3YO.html

Carro Automall ตลาดรถ

ถ้าใครที่กำลังมองหา มาสด้า2 มือสอง (Mazda2 มือสอง) แล้วรู้สึกสนใจอยากเป็นเจ้าของขึ้นมา Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

หมายเหตุ: ข้อมูลรถแนะนำจาก Carro เป็นข้อมูลรถยนต์ที่มีจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2565 / เลขกิโลเมตร ณ วันตรวจสภาพรถ / ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุด เริ่มต้น 546,000 บาท!

เปิดศักราชใหม่ต้อนรับปีเสือ 2565 Mazda (มาสด้า) ส่งรถยนต์นั่งซิตี้คาร์ที่กำลังร้อนแรงมากที่สุดตลอดกาลหวังกระตุ้นกำลังซื้อตั้งแต่ต้นปี ด้วยการแนะนำรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดส่งตรงจากโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จ.ระยอง New Mazda2 (มาสด้า2) ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ใหม่ LIVE LESS ORDINARY ไม่ธรรมดาในแบบที่เราเป็น

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

พร้อมเปิดเผยตัวตนอันโดดเด่น เติมเต็มความสนุกให้กับทุกวันของชีวิต ถ่ายทอดมุมมองและสะท้อนคุณค่าในแบบที่เราเป็นด้วยสไตล์ที่แตกต่าง มาพร้อมขุมพลังสกายแอคทีฟคลีนดีเซลและขุมพลังสกายแอคทีฟเบนซิน มีให้เลือกในสไตล์ที่เป็นคุณทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮทช์แบค 5 ประตู เพิ่มอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในคลาส มาพร้อมกับสีใหม่ล่าสุด แพลตทินั่ม ควอตซ์ วางราคาจำหน่ายเท่าเดิม เริ่มต้นเพียง 546,000 บาท

Mazda2 ถือเป็นโมเดลหลักสำคัญที่ส่งผลต่อปริมาณยอดขายของมาสด้าในแต่ละปี ดังนั้นการเปิดตัวแนะนำ มาสด้า2 ใหม่ ในครั้งนี้ จึงเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ ด้วยการสร้างความคุ้มค่าคุ้มราคาเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ประกอบกับการเพิ่มออฟชั่นและอุปกรณ์มาตรฐานให้มากขึ้น

มาสด้า2 จัดเป็นโมเดลที่ขายดีที่สุดของมาสด้า เริ่มทำตลาดในไทยเมื่อปี 2552 มียอดขายสะสมกว่า 95,000 คัน ตามมาด้วยเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟในปี 2558 มียอดขายสะสมสูงถึง 160,000 คัน และการปรับโฉมใหม่ครั้งล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2562 มียอดขายสะสมกว่า 45,000 คัน

ด้วยการเอาใจใส่คัดสรรเฉพาะวัสดุคุณภาพสูงและสมรรถนะการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว จึงทำให้ Mazda2 ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจนผลักดันให้ Mazda2 ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กรวม Eco-Car และ B-Segment ติดต่อกันนานถึง 3 ปี ระหว่างปี 2560 – 2562 ถือเป็นรุ่นเรือธงยอดนิยมที่อยู่ในการครอบครองของลูกค้าในประเทศไทยกว่า 300,000 คัน ดังนั้น การแนะนำมาสด้า2 ใหม่ ในครั้งนี้ คือการกลับมาเพื่อจะสร้างประวัติศาสตร์ในการก้าวสู่เบอร์หนึ่งในตลาดอีกครั้ง

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

Mazda2 2022 ใหม่ ดีไซน์หรูหราสง่างามมากยิ่งขึ้น ด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบและการพัฒนาจากแนวคิด Kodo – Soul of Motion ด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวทรงพลังราวกับมีชีวิต ภายใต้คอนเซ็ปต์ Less is More ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น เรียบง่ายแต่งดงาม ภายในห้องโดยสารยกระดับความหรูหราพรีเมี่ยมยิ่งขึ้น แผงคอนโซลหน้าและเบาะหนังสีดำใหม่ พร้อมเพิ่มออฟชั่นที่ทันสมัยครบครันมากยิ่งขึ้น แต่ตั้งราคาขายเท่ารุ่นปัจจุบัน

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมแผงคอนโซลหน้าและเบาะหนังสีดำสไตล์สปอร์ตดีไซน์ใหม่ ที่ผสานกันอย่างลงตัวกับความพรีเมี่ยม และเบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะคนขับได้ถึง 2 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานนี้ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน

มั่นใจทุกการขับขี่ให้ทุกเส้นทางสนุกมั่นใจได้ในแบบของคุณกับ Active Driving Display สกรีนใสแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญ Sport Paddle Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

และยังโดดเด่นในด้านสมรรถนะการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ โดยมีให้เลือกถึง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร ที่ให้การตอบสนองการขับขี่และการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศถึง 26.3 กม./ลิตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) เทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้าที่ช่วยควบคุมสมรรถนะการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้ทั้งความสะดวกสบายในการใช้งานที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

Mazda2 2022 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองการใช้งานและอรรถประโยชน์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากที่สุด ทำให้การออกแบบฟังก์ชั่นและการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในตำแหน่งที่ลงตัวเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย พร้อมให้คุณสนุกไปกับทุกเป้าหมายที่อยากทำได้อย่างคล่องตัว ตามคอนเซ็ปต์ HMI (Human-Machine Interface) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันกับรถตามหลักปรัชญา Jinba-Ittai เพื่อส่งมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยตลอดการเดินทาง

นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล ด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) เชื่อมต่อกับระบบ Mazda Connect ที่รองรับระบบ Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android Auto™* เพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างไร้ขีดจำกัด

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

ยังมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง และช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) เป็นต้น

นอกจากนี้ ในทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อค 4W-ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ DSC รวมถึงระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA ระบบสัญญาณไฟกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกในภาวะฉุกเฉินและส่งสัญญาณเตือนรถคันหลัง ESS ระบบช่วยป้องกันรถลื่นไถล TCS โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual Airbag เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า

ด้วยจุดขายหลักที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จึงทำให้มาสด้า2 ใหม่ ยังคงโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันในทุกมิติ ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่ต้องการสมรรถนะควบคู่ไปกับความสปอร์ตพรีเมี่ยมในรถยนต์นั่งซิตี้คาร์

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำที่เพียบพร้อมใน New Mazda2 2022

  • ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และปรับระดับแบบอัตโนมัติ มีในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus มีในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และระบบประหยัดพลังงาน i-ELOOP มีในทุกรุ่นย่อย
  • กระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวน มีในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sport paddle shift
  • ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ
  • กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
  • ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบหน่วงเวลา พร้อมฟังก์ชั่นตรวจจับน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
  • ระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง (360° View monitor)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
  • ระบบป้องกันล้อล็อกแยกอิสระ 4 ล้อ 4W-ABS ระบบกระจายแรงเบรก EDB และระบบช่วยเบรก BA
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC (Dynamic Stability Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ( Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA (Hill Launch Assist)
  • ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
  • หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว และปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
  • พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
  • กุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย พร้อมเซ็นทรัลล็อก
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS
  • กล้องมองหลัง
  • ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลังอีก 4 จุด
  • คานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง
  • พนักพิงเบาะด้านหลัง สามารถแยกปรับและพับแบบ 60:40

Mazda เปิดตัว Mazda2 2022 เพิ่มอุปกรณ์ดีสุดในคลาส ราคาเท่าเดิม 546,000 - 799,000 บาท!

มาสด้า2 2022 ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือกถึง 8 สี โดยเฉพาะการแนะนำสีภายนอกใหม่เพิ่มเติม ได่แก่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ทั้งในตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบค 5 ประตู ซึ่งเป็นสีหลักสำหรับการเปิดตัว และสื่อสารทางการตลาดในครั้งนี้

นอกจากนี้ยังมีการแนะนำสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ เพิ่มเติมสำหรับตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู อีกด้วย โดยมีรายละเอียดของสีภายนอกทั้งหมดดังต่อไปนี้

  • สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
  • สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
  • สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
  • สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
  • สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
  • สีขาว เซรามิก เมทัลลิก (Ceramic Metallic)
  • สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) สีใหม่ สำหรับ 4 ประตู และ 5 ประตู
  • และเพิ่มสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) สีใหม่ สำหรับซีดาน 4 ประตู

มาสด้า ยังได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาสด้า เพื่อให้ลูกค้าทั่วประเทศได้รับข้อเสนอสุดพิเศษนี้เฉพาะในช่วงเปิดตัวแนะนำ ทั้งมอบดอกเบี้ย 1.99%1 ฟรีประกันชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี2 และฟรี พ.ร.บ.3 ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการมาสด้าทั่วประเทศ หรือทางเว็บไซต์ www.mazda.co.th

ราคาจำหน่าย New Mazda2 ทั้งรุ่น Sedan 4 ประตู และรุ่น Hatchback 5 ประตู ราคาจำหน่ายเท่ากัน

  • รุ่น 1.3 E/1.3 E Sports ราคา 546,000 บาท
  • รุ่น 1.3 C/ 1.3 C Sports ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น 1.3 S Leather/1.3 Sports Leather ราคา 659,000 บาท
  • รุ่น 1.3 SP/1.3 SP Sports ราคา 690,000 บาท
  • รุ่น XDL/XDL Sports ราคา 799,000 บาท

หมายเหตุ:

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
1. เงินดาวน์ 25% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน
2. บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย (1) บมจ. วิริยะประกันภัย (2) บมจ. ธนชาตประกันภัย (3) บมจ. ประกันภัยไทยวิวัฒน์ (4) บมจ. ทิพยประกันภัย
3. พ.ร.บ. สนับสนุนโดย ธนาคารทิสโก้ และธนาคารทหารไทยธนชาต สำหรับลูกค้าที่จองรถผ่าน SKY Journey ภายในวันที่ 31 ม.ค. 65 และรับรถภายในวันที่ 28 ก.พ. 65 เท่านั้น

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

หากคุณต้องการขายรถด่วน CARRO ช่วยคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง รับรองได้ราคาดี มาขายรถกับทาง CARRO Express ได้ที่  https://th.carro.co/sell-car/express หรือถ้าหากต้องการซื้อรถคุณภาพเยี่ยม CARRO เราก็มีพร้อมให้คุณเลือกอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พร้อมรับประกันสูงสุดถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร กับ CARRO Automall ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.carro.co/taladrod/

Carro Automall / คาร์โร ออโต้มอลล์

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

CARRO แนะนำ 10 รถใหม่ ที่สาวออฟฟิศควรซื้อมาใช้ ในปี 2021

“รถยนต์” ในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ของคุณ และรถยนต์นั้นก็ถือว่า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบางสาขาอาชีพ รวมไปถึงอาจจะเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงสถานะทางสังคม และฐานะทางการเงิน ของผู้ที่ครอบครองอีกต่างหาก

การเดินทางในเมืองหลวงสำหรับคุณผู้หญิงนั้น ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว บางทีก็ต้องถือว่าลำบากนะ ไหนจะต้องขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า ลงเรือ นั่งวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือต่อแท็กซี่ บางทีก็ดูไม่เป็นส่วนตัว และลำบากในการเดินทาง ยิ่งในยุคโควิด-19 ระบาดด้วยแล้ว ออกไปใช้ระบบขนส่งมวลชน ยิ่งต้องระมัดระวัง ทำให้สาวออฟฟิศหลายคน พอเมื่อเริ่มทำงานไปสักพัก เงินเดือนผ่อนรถไหว ก็อาจจะตัดสินใจดาวน์รถป้ายแดงออกมาขับกัน ด้วยเงื่อนไขสารพัดแคมเปญ โปรโมชั่น เช่น ดาวน์น้อย ฟรีดาวน์ ผ่อนง่าย เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ

อีกทั้งรถสมัยนี้ มีดีไซน์ตรงกับ Lifestyle ของคุณผู้หญิงมากยิ่งขึ้น เช่น มีที่เก็บเครื่องสำอาง มีที่วางแก้วน้ำ ที่เก็บของมากมายในรถ มีกระจกเสริมสวย หรือที่ชาร์จมือถือไร้สาย เป็นต้น ทำให้ผู้หญิงก็เริ่มศึกษาข้อมูล การตัดสินใจซื้อรถยนต์กันมากขึ้น

CARRO ขอแนะนำ 10 รถยนต์รุ่นใหม่ ที่เหมาะกับสาวออฟฟิศวัยทำงาน เชิญชมได้เลยครับ.

Toyota Yaris 2020

1. Toyota Yaris ราคา 549,000 – 679,000 บาท

รถที่ตอบสนองความต้องการของสาวๆ คือ ต้องเป็นรถที่มีความอเนกประสงค์รอบด้าน ถ้าต้องการรถในรูปแบบแฮทช์แบค 5 ประตู ต้องลอง Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) ที่มาพร้อม Concept “Yes, That’s Right!” ที่สุดของความใช่ ในสไตล์คุณ

ปรับโฉมหน้าตาและด้านท้ายใหม่ ภายในตกแต่งใหม่ รถท้ายสั้น ขับขี่ง่าย หาที่จอดก็ง่าย ประหยัดน้ำมันด้วยเครื่องยนต์รหัส 3NR-FKE ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ที่ปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น

Toyota Yaris ATIV 2020

2. Toyota Yaris ATIV ราคา 539,000 – 674,000 บาท

รถที่ตอบสนองความต้องการของสาวๆ คือ ต้องเป็นรถที่มีความอเนกประสงค์รอบด้าน ถ้าต้องการรถในรูปแบบซีดาน 4 ประตู ต้องลอง Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) ที่มาพร้อม Concept “Yaris ATIV…Life Activated”

อีกทั้งชื่อรุ่น “ATIV” ยังมีที่มาจากคำว่า “Smart” และ “Active” โดดเด่นรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ตลอดทั้งคัน ทั้งภายนอกและภายใน ขับขี่ในเมืองสะดวกคล่องตัว ประหยัดน้ำมันด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 86 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ถือว่าพอเพียงสำหรับการใช้งานในเมือง

Toyota Corolla Cross 2020

3. Toyota Corolla Cross ราคา 989,000 – 1,199,000 บาท

ถ้าเป็นสาวออฟฟิศที่มีลูกแล้ว นอกจากจะต้องทำงานนอกบ้านแล้ว ช่วงเลิกงานหรือวันหยุด ยังต้องเป็นแม่บ้านอีกด้วย รถที่ดูเหมาะสมที่สุดคงต้องยกให้ Toyota Corolla Cross (โตโยต้า โคโรลล่า ครอส) ที่มาพร้อมหน้าตาน่ารัก ถูกใจสาวๆ แน่นอน รวมไปถึงความอเนกประสงค์ของห้องโดยสาร ขับไปช็อปปิ้ง เจอฝนตก น้ำท่วม ลุยน้ำเบาๆ ได้ ช่างลงตัวกับชีวิตคนเมืองจริงๆ และมีให้เลือกกับแบบรุ่นเบนซินธรรมดา และรุ่นไฮบริด

เครื่องยนต์ เริ่มต้นด้วยรุ่นเบนซินรหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 นิวตัน-เมตร (18.05 กก.-ม.) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด CVT-i พร้อม Sequential Shift และ Shift Lock ให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กม./ลิตร

ส่วนรุ่น Hybrid มากับชุดระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FXE 98 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส แม่เหล็กถาวร 53 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่แพคชนิด Ni-MH (นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์) แบบใหม่ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อม Shift Lock และเลือกโหมดในการขับเลือกได้ระหว่าง EV, Sport และ Eco อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร

Nissan Almera 2020

4. Nissan Almera ราคา 509,000 – 659,000 บาท

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) เป็นอีกหนึ่ง Eco-Car แบบ 4 ประตู เครื่อง Turbo รุ่นแรกที่ออกมาในตลาด “Intelligent Urban Sedan” โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ใหม่โฉบเฉี่ยว และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof) เป็นต้น

ภายในออกแบบใหม่หมด ใช้วัสดุคุณภาพสูง เน้นความประณีตในการประกอบ พร้อมพื้นที่ว่างเหนือศีรษะ พื้นที่วางขาที่กว้างขวาง คงไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในด้านความกว้างขวางที่สุด ในรถยนต์ระดับเดียวกัน สาวๆ ถูกใจแน่นอน และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ AIVI สะดวกสบายทั้งการใข้งานระบบนำทาง ระบบความปลอดภัย ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ ภายใต้การเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน

วางขุมพลังขนาด 1.0 ลิตร Turbo รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 152 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) มีประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic แถมยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย Nissan Intelligent Mobility

Honda City 2020

5. Honda City Turbo ราคา 579,500 – 739,000 บาท

เป็นตัวเลือกที่ฮอตฮิตมานานแล้ว สำหรับ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) รถขวัญใจคุณผู้หญิงมาตั้งแต่รุ่นแรกเลยล่ะ สำหรับโฉมไมเนอร์เชนจ์นี้ เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 ชูดจุดเด่นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งปรับพับได้หลายรูปแบบ เหมาะอย่างยิ่งกับการใข้งานในเมือง ขนของก็ได้ มีออพชั่นแพรวพราว ขับง่าย หาที่จอดก็ง่าย เป็นอะไรที่คุณผู้หญิงชอบมาก

มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ให้สมรรถนะการขับขี่สูงถึง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT และรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ประหยัดน้ำมัน ใช้งานในเมือง ลงตัวสุดๆ อีกทั้งยังมี City e:HEV รุ่นไฮบริด ให้เลือกอีกด้วย ในราคา 839,000 บาท

All-New Honda City Hatchback 2021

6. Honda City Hatchback Turbo ราคา 599,000 – 749,000 บาท

Honda City Hatchback (ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบค) ครั้งแรกในโลกกับฮอนด้า ซิตี้ ในรูปแบบ 5 ประตู ในไทย ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสง ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI

ผสานเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์กับเบาะนั่ง อัลตราซีท (ULTR) และการขับขี่ที่สนุกสนานกับ ขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO ให้สมรรถนะการขับขี่สูงถึง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที

ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 23.3 กม./ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด และสามารถรองรับน้ำมัน E20 อีกทั้งยังมี City Hatchback e:HEV รุ่นไฮบริด ให้เลือกอีกด้วย ในราคา 849,000 บาท

Honda เปิดตัว All-New Honda Civic 2022 ใหม่

7. Honda Civic ราคา 964,900 – 1,199,900 บาท

สำหรับสาวออฟฟิศที่มีเงินเดือนสูงหน่อย (อย่างน้อยก็สัก 5 หมื่นบาทขึ้นไป จะได้ผ่อนสบายๆ) ตัวเลือกอย่าง Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ก็น่าสนใจ เพราะได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากนับตั้งแต่เปิดตัว ตัวรถรูปทรงที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ที่เพิ่มความเหลี่ยมคมมามากขึ้น ยกระดับความสมบูรณ์แบบทั้งดีไซน์ และการใช้งานในทุกมิติ

และมั่นใจทุกการขับขี่กับ Honda SENSING ทุกรุ่นย่อย กับระบบใหม่ Lead Car Departure Notification System (LCDN) ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ สะดวกสบายแบบเหนือกว่า กับครั้งแรกของระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ พร้อม Honda Smart Key Card ล็อก และปลดล็อกรถได้ง่ายๆ เพียงพกการ์ดไว้กับตัว

ห้องโดยสารกว้างขวาง มีทั้งมุมหรูหรา เรียบง่าย และสปอร์ต ออพชั่นครบครัน ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม แรง เร้าใจ เกินกว่าใครจะตามทันกับขุมพลัง VTEC TURBO ใหม่ เบนซิน Turbo ขนาด 1.5 ลิตร 178 แรงม้า ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม 17.2 กม./ลิตร ทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85

Mazda2 Sedan Sports 2021

8. Mazda2 ราคา 546,000 – 799,000 บาท

รถรุ่นนี้เหมาะสำหรับสาวเปรี้ยว หัวใจสปอร์ต นั่นคือ Mazda2 (มาสด้า2) 2021 Collection ยกระดับความคุ้มค่ากับออพชั่นที่เกินราคา กับพลัง Zoom-Zoom ดีไซน์เรียบหรูสง่างามดุจงานศิลปะชิ้นเอก ตามแนวคิด Kodo Design (โคโดะ ดีไซน์) ที่เรียบง่าย แต่งดงามตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล SkyActiv-D ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า หนึ่งเดียวในตลาด และเครื่องยนต์เบนซิน SkyActiv-G ขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร แถมภายในห้องโดยสารเทียบชั้นรถยุโรป หรูหรา ดูดี

อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลด้วย MZD CONNECT เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ระบบประหยัดพลังงานอัจฉริยะ i-ELOOP ทำงานควบคู่กับระบบ i-Stop และล่าสุดระบบ G-VECTORING CONTROL หรือระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ หนึ่งในชุดเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS มั่นใจว่า ถูกใจคุณผู้หญิงอย่างแน่นอน

Suzuki Swift 2021

9. Suzuki Swift ราคา 557,000 – 629,000 บาท

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) ใหม่ จัดว่าเป็น Eco-Car รุ่นล่าสุด รูปทรงถูกใจคุณผู้หญิง และมีสมรรถนะไม่เล็กเลย Suzuki มาพร้อม Concept สไตล์เด่นบนเส้นทางที่แตกต่าง WE STANDOUT ด้วย Sport Compact Car มาตรฐานระดับโลก บนแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT กับเทคโนโลยีอันทันสมัยช่วยในการขับขี่ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เจาะกลุ่มคนหนุ่มสาววัยทำงาน ถูกใจคุณผู้หญิงแน่นอน ขับแบบเดิมๆ ก็ดูดี แต่งก็สวย น่ารัก

ชูจุดเด่นเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบ DUALJET ขนาด 1.25 ลิตร 83 แรงม้า มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ หรือ DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ ฉีดน้ำมันเข้าไปที่กระบอกสูบพร้อมกันทั้ง 2 หัวฉีด ได้กำลังและแรงบิดที่ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กม./ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

MG ZS 2020

10. MG ZS ราคา 689,000 – 799,000 บาท

MG ZS (เอ็มจี แซดเอส) รถเอสยูวีเพื่อชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีสมาร์ทคาร์ รูปลักษณ์โดดเด่นสไตล์ บริท ไดนามิค (Brit Dynamic) หรูหราทันสมัยและสปอร์ตยิ่งขึ้น ห้องโดยสารกว้างขวาง ออพชั่นเพียบ พ่วงด้วยระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System 9 ระบบ และยังติดตั้งระบบอัจฉริยะ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยครั้งแรกในโลก ถือว่าถูกใจใครหลายๆ คน เลยทีเดียว

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ รหัส 15S4C ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ 8 สปีด และสามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด

ถ้าคุณผู้หญิงสนใจรถที่ทาง CARRO นำเสนอมา ก็ลองศึกษาหาข้อมูล ไปดูรถตัวจริง ทดลองขับ แล้วก็ดูว่างบประมาณที่มีมีอยู่ หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนได้ขนาดไหน ไปเลือกรถคันที่ใช่ได้เลย

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถใหม่ป้ายแดง มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครไม่มีงบซื้อรถป้ายแดง ลองหารถมือสองรุ่นข้างต้น มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

CARRO Automall แนะนำ 6 รถมือสอง สำหรับเด็กจบใหม่

ในช่วงนี้ แม้ว่าจะมีเด็กจบใหม่ ที่เรียนจบมหาวิทยาลัยและต้องก้าวเข้าสู่โลกการทำงาน กลับ ประสบปัญหาจากโควิด-19 กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหางานไม่ได้ พร้อมๆ กับผู้คนที่ตกงานกันเป็นจำนวนนับล้านคน

แต่ก็ยังมีเด็กจบใหม่จำนวนหนึ่ง ที่โชคดีมาก หางานได้ในเวลานี้ แต่เนื่องด้วยการระบาดของโควิด-19 ซึ่งบางงานอาจจะ Work From Home ไม่ได้ ทำให้ต้องออกจากบ้านไปทำงาน จะใช้ระบบขนส่งสาธารณะก็ค่อนข้างรอนาน เสี่ยงต่อการเจอคนเยอะๆ และอาจเป็นอันตรายต่อคนที่บ้านอีก หลายคนจึงจำเป็นต้องซื้อรถมาใช้ในการเดินทาง ท่ามกลางทุนทรัพย์ที่มีจำกัด

CARRO Automall เลยจะมาแนะนำให้น้องๆ และทุกคนได้รู้จักกับ 6 รถมือสองยอดฮิตในตอนนี้กันครับ ซึ่งอาจจะไว้ใช้เป็นรถคันแรก สำหรับใช้เดินทางไปทำงาน โดยที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแล หรือเติมน้ำมันในแต่ละเดือนที่จะพอจ่ายไหว เมื่อเทียบกับเงินเดือนที่ได้รับกันครับ

Nissan-March-2013

1. Nissan March

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) จัดว่าเป็นรถ “Eco-Car” รุ่นแรกของไทย เปิดตัวจำหน่ายมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2010 ใน Concept “ให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอีก” มียอดสะสมรวมมากนับหลักแสนคัน และยังมีรถป้ายแดงขายในตอนนี้ โดยปรับราคาขึ้นไปบ้าง ณ ปัจจุบัน

มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก แต่ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย (เฉพาะด้านหน้า) มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT ให้เลือก ใช้งานในเมืองได้อย่างพอเพียง ประหยัดน้ำมัน มีให้เลือกหลายรุ่นย่อย ราคามือสองปัจจุบัน มีเงินแค่หนึ่งแสนกว่าบาท ก็เป็นเจ้าของได้แล้ว

Toyota-Yaris

2. Toyota Yaris

ชื่อชั้นของ “โตโยต้า” ต้องยอมรับว่าเป็นรถที่ทนทาน ไม่จุกจิก รวมถึงราคาขายต่อที่ดีกว่ารถแบรนด์อื่นๆ แต่ข้อเสียก็มักชอบกั๊กออฟชั่นมากหน่อย ถ้าคุณรับได้ก็ไม่เป็นไร

สำหรับรถมือสองที่เราขอแนะนำ นั่นคือ Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) รถสปอร์ตแฮทช์แบค ที่ตอบสนองชีวิตไลฟ์สไตล์คนเมือง ในรูปแบบรถอีโค่คาร์ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2013 มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.2 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 86 แรงม้า ภายในได้เปรียบเนื่องจากกว้างขวางกว่ารถในระดับเดียวกัน ออฟชั่นที่มีให้ก็ถือว่าใช้ได้ ส่วนราคามือสองเริ่มต้นอยู่ที่สองแสนกว่าบาท เด็กจบใหม่ผ่อนไหวอยู่แล้ว

CARRO Automall แนะนำ Toyota Vios

3. Toyota Vios

ขยับตัวรถขึ้นมาในระดับเครื่องยนต์ใหญ่หน่อย กับ Toyota Vios (โตโยต้า วีออส) ที่เปิดตัวจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปัจจุบัน เหมาะสำหรับคนต้องใช้รถในต่างจังหวัด วิ่งบนทางหลวงบ่อยๆ ได้กำลังเครื่องยนต์ พลังเร่งแซงมากขึ้น

รุ่นนี้มาพร้อมขุมพลังที่ใช้กันอย่างยาวนาน ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 1NZ-FE ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ใช้มาตั้งแต่ Vios โฉมแรก ความทนทานนี่หายห่วง ดูแลง่าย ไม่จุกจิก ส่วนในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ และรุ่นที่ขายในปัจจุบัน ปรับเครื่องยนต์ใหม่เป็นรหัส 2NR-FBE 108 แรงม้า เติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ด้วย ส่วนราคามือสองเริ่มต้นอยู่ที่สองแสนกลางๆ ก็พร้อมเป็นเจ้าของได้

CARRO Automall แนะนำ Honda Jazz

4. Honda Jazz

รถยอดนิยมของเหล่าบรรดาวัยรุ่น นักศึกษา หรือเด็กจบใหม่ที่เพิ่งทำงานกัน เพราะเป็นรถที่มีรูปร่างหน้าตาสปอร์ตโดนใจวัยรุ่น แต่งสวย ของแต่งเยอะอีกรุ่น คนต้องยกให้กับ Honda Jazz (ฮอนด้า แจ๊ส) ซึ่งในปัจจุบันก็ถือมีรุ่นที่เป็นป้ายป้ายแดงออกห้างจำหน่าย แต่ในราคามือสองนั้น ถือว่าย่อมเยาว์กว่ามาก เริ่มต้นที่สามแสนกว่าบาท

รุ่นนี้มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.5 ลิตร รหัส L15Z1 ให้แรงม้าสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ดูแลง่าย ทนทาน ขับสนุกยิ่งขึ้นด้วย Paddle Shift ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด แถมยังมีระบบ Cruise Control ขับทางไกลสบายๆ ไม่ต้องเมื่อยขาขวา

Mazda2

5. Mazda2

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนเพิ่งเริ่มทำงาน ที่ชอบรถแนวสปอร์ต ขับแล้วช่วงล่างเกาะถนนดี ขับสนุก ได้อารมณ์คล้ายกับรถซิตี้คาร์ของยุโรป ต้องยกให้ Mazda2 (มาสด้า2) ที่ออกจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2015 คุณอาจจะลืมไปเลย ว่านี่คือรถ Eco-Car แถมมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล

ด้วยสมรรถนะของเครื่องยนต์ SKYACTIV ทั้งแบบเบนซินขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน 23.3 กม./ลิตร และดีเซลขนาด 1.5 ลิตร Turbo 105 แรงม้า ประหยัดสุดยอด 26.3 กม./ลิตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กับ Manual Mode ออฟชั่นมีเยอะพอควร (ยกเว้นรุ่นเริ่มต้น) ถูกใจเด็กจบใหม่ขาซิ่งหลายๆ คน โดยราคามือสองเริ่มต้นเกือบๆ สามแสนบาท อาจต้องเก็บเงินดาวน์ หรือผ่อนต่อเดือนมากหน่อยนะ!

Suzuki-Swift-2012

6. Suzuki Swift

พูดถึง Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) หลายคนน่าจะเคยเห็นและรู้สึกชื่นชอบ กับความเป็นสปอร์ตที่แฝงอยู่ และดูคล้ายกับรถ Mini ของอังกฤษ โดย Suzuki Swift โฉมปี 2012 – 2018 ยังคงเป็นรถอีโคคาร์ยอดนิยมในตลาดรถมือสอง ซื้อง่ายขายคล่อง แต่งสวย

มาพร้อมขุมพลังขนาด 1.25 ลิตร รหัส K12B ให้แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า จัดว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับอีโคคาร์ในขนาด 1.2 ลิตรด้วยกัน ซึ่งตัวรถก็มีออฟชั่นที่จัดมาให้มากพอสมควร ในราคามือสองตอนนี้เริ่มต้นประมาณเกือบๆ สองแสนบาท ก็ซื้อได้แล้ว

ส่วนช่วงนี้ ใครอยากซื้อรถมือสองสภาพเยี่ยม ราคาเบาๆ CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! 

อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Official โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

10 อันดับ รถเกียร์ออโต้ป้ายแดง ราคาถูกสุด ปี 2021

ถ้าจะให้พูดถึงการขับรถในปัจจุบัน ในกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใหญ่ๆ มักเจอปัญหารถติดกันทุกวัน การจะขับรถเกียร์ธรรมดาขณะรถติดทุกวันนั้น สุขภาพเข่าซ้ายก็คงไม่สู้ดีนัก ต้องเหยียบคลัทช์กันจนขาล้าเลย และคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ ก็ขับรถเกียร์ธรรมดากันไม่ค่อยเป็นแล้ว …

รถเกียร์ออโต้ (หรือรถเกียร์อัตโนมัติ) ในอดีต มักจะเป็นรถราคาแพง หรือรถรุ่น Top ของรุ่นนั้นๆ … มาจนถึงยุคปัจจุบัน รถป้ายแดงเกียร์ออโต้ กลายเป็นของธรรมดาสามัญมาก มีให้เลือกในทุกรุ่น ไม่เว้นแม้แต่รถราคาถูก ก็มีให้คนออกรถใหม่เลือกซื้อกัน

MR.CARRO ขอรวบรวมข้อมูล 10 อันดับ รถเกียร์ออโต้ป้ายแดงราคาถูกสุด ประจำปี 2021 มาให้ทุกท่านได้ทราบครับ.

Suzuki-Celerio

1. Suzuki Celerio GL CVT ราคา 408,000 บาท

Suzuki Celerio (ซูซูกิ เซเลริโอ) รถ Eco-Car น้องเล็กจาก Suzuki ที่ขายในบ้านเรา ชู 3 จุดเด่น ด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง หลังคาตัวรถสูง ให้สมรรถนะเกินตัว ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม สูงถึง 22 กม./ลิตร มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 3 สูบ 1.0 ลิตร 68 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : กุญแจรีโมท, เซ็นทรัลล็อค, กระจกไฟฟ้า, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ล้อกระทะ 14 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

Nissan-March

2. Nissan March 1.2E CVT ราคา 495,000 บาท

Nissan March (นิสสัน มาร์ช) จัดเป็น “Eco-Car” รุ่นแรกของไทยที่ผลิตขายอย่างเป็นทางการในปี 2553 มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย ขับง่าย มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED, ไฟท้าย LED, สปอยเลอร์หลัง, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า, กุญแจรีโมท, เบาะนั่งด้านหลังพับ 60:40, เครื่องเสียง CD/MP3 พร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD และล้อกระทะขนาด 14 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

Nissan Almera Sportech

3. Nissan Almera Turbo E CVT ราคา 509,000 บาท

Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) จัดเป็น Eco-Car ขนาด 4 ประตูรุ่นแรกของไทยที่ยังมีขายอยู่ในปัจจุบัน มาในรูปแบบ “เรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” มีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้า-ไฟท้าย ทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (Kick-Up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (Floating Roof)

เครื่องยนต์สมรรถนะดี เร่งแซงได้ทันใจ ในรหัส รหัส HRA0 ให้แรงม้าสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร และให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ: ระบบเครื่องเสียง วิทยุ พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth/USB/AUX-IN, กุญแจรีโมท, กระจกไฟฟ้า, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD/BA, เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control (VDC), เทคโนโลยีออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA), ระบบกุญแจ Immobilizer และล้อกะทะเหล็ก 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ

New-Mitsubishi-Mirage-2020

4. Mitsubishi Mirage GLX CVT ราคา 509,000 บาท

Mitsubishi Mirage (มิตซูบิชิ มิราจ) อีกหนึ่งรถ Eco-Car จาก มิตซูบิชิ ตัวรถที่ขนาดเล็กน่ารัก ด้วยดีไซน์สปอร์ตรอบคัน มาพร้อมกับออพชั่นใหม่ๆ และอุปกรณ์ความปลอดภัยเพียบ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กม./ลิตร เรียกได้ว่าน่าใช้อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟ LED ที่กันชนหน้า, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED, ไฟท้าย LED, กุญแจรีโมท, เบาะนั่งด้านหลังพับ 60:40, หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI และระบบเชื่อมต่อบลูทูธ, สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, สวิตช์ควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง และปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบป้องกันการลื่นไถล และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA

MG3

5. MG3 1.5C ราคา 519,000 บาท

MG3 (เอ็มจี3) จัดเป็นรถซิตี้คาร์ที่น่าใช้อีกหนึ่งรุ่น มารูปทรงสไตล์สปอร์ต ภายใต้แนวคิด Brit Dynamic น่าใช้ พร้อมออพชั่นที่ให้มากมายเกินคาด ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 112 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ: ไฟหน้าโปรเจคเตอร์, ระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำ, กระจกมองข้างสีดำพร้อมไฟเลี้ยว, ไฟท้าย LED, ไฟตัดหมอกหลัง, กุญแจรีโมท, ระบบ Bluetooth + ช่อง USB, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบควบคุมการทรงตัว SCS, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS, ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อลดเกียร์ต่ำฉับพลัน MSR, Follow Me Home Light, ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว

New-Mitsubishi-Attrage-2020

6. Mitsubishi Attrage GLX CVT ราคา 529,000 บาท

Mitsubishi Attrage (มิตซูบิชิ แอททราจ) ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ Mirage แต่ออกแบบเป็นรถ 4 ประตู ตัวรถดีไซน์สปอร์ต ภายในหรูหรา กว้างขวาง มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟ LED ที่กันชนหน้า, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว LED, ไฟท้าย LED, กุญแจรีโมท, เบาะนั่งด้านหลังพับ 60:40, หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบสั่งงานด้วยเสียง SIRI และระบบเชื่อมต่อบลูทูธ, สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, สวิตช์ควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง และปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบป้องกันการลื่นไถล และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA

Nissan Note 2020

7. Nissan Note 1.2 E CVT ราคา 530,000 บาท

Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) จัดเป็น “Eco-Car” เฟส 2 ที่ผลิตขายอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2560 มีจุดเด่นที่ขนาดตัวรถเล็ก ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย ขับง่าย มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า ให้แรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 20 กม./ลิตร เกียร์อัตโนมัติแบบ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟหน้าแบบฮาโลเจน โปรเจกเตอร์, กระจกมองข้างปรับพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, ไฟท้ายแบบ Signature Light พร้อมไฟเบรกแบบ LED, คอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ Piano Black, พวงมาลัยยูรีเทนทรงสปอร์ตปรับสูง-ต่ำได้ ตกแต่งวัสดุสีเงิน, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, มาตรวัด Analog แบบเรืองแสง Fine Vision Meter, มาตรวัดอัจฉริยะ Multi-Information Display (MID) แสดงผลข้อมูลการขับขี่, กระจกไฟฟ้ารอบคัน พร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ, ระบบเครื่องเสียง วิทยุ CD/MP3 แบบ 1 แผ่น หน้าจอสี 5 นิ้ว พร้อม Aux-In/USB, ระบบเบรก ABS/EBD/BA, ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ VDC, ระบบออกตัวบนทางลาดชัน HSA, กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key พร้อม Immobilizer, ถุงลม SRS คู่หน้า และล้อแม็ก 15 นิ้ว

New-Toyota-Yaris-ATIV-2020

8. Toyota Yaris ATIV Entry ราคา 539,000 บาท

Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) รถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตูขนาดเล็ก โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มวัยรุ่น ห้องโดยสารดีไซน์ทันสมัย กว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระมากมาย ขับง่าย หาที่จอดง่าย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร 92 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : วิทยุ พร้อม USB และ AUX, สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์ บนพวงมาลัย, กุญแจรีโมท, กระจกไฟฟ้า, ระบบเบรก ABS/EBD/ฺBA, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ถุงลมนิรภัย 7 ใบ และล้อกระทะขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

Mazda2 Sedan Sports 2021

9. Mazda2 Sedan / Sports 1.3 E 2021 Collection ราคา 546,000 บาท

Mazda2 (มาสด้า2) แม้ว่าจะเปิดตัวขายกันมาหลายปีแล้ว แต่ Mazda ก็ยังคงปรับโฉม มาสด้า2 ให้สดใหม่อย่างต่อเนื่องทุกปี ราคาเดียวกันทั้งในรูปแบบ 5 ประตู Hatchback และ 4 ประตู Sedan ตัวรถดีไซน์สปอร์ต ภายในหรูหรา น่าขับ มาพร้อมเครื่องยนต์ Skyactiv-G ขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟหน้า LED, ไฟหน้าปรับอัตโนมัติ, เบาะนั่งด้านหลังพับ 60:40, วิทยุ FM/AM/MP3/USB/AUX, ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ, สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC, ระบบช่วยออกตัวของรถบนทางลาดชัน HLA และระบบไฟสัญญาณฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS

New-Toyota-Yaris-2020

10. Toyota Yaris Entry ราคา 549,000 บาท

Toyota Yaris Hatchback (โตโยต้า ยาริส แฮทช์แบค) รถยนต์อีโคคาร์ 5 ประตูแฮทช์แบค โฉมใหม่ไมเนอร์เชนจ์ ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มวัยรุ่น ห้องโดยสารดีไซน์ทันสมัย กว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระมากมาย ขับง่าย หาที่จอดง่าย มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร 92 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : วิทยุ พร้อม USB และ AUX, สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์ บนพวงมาลัย, กุญแจรีโมท, กระจกไฟฟ้า, ระบบเบรก ABS/EBD/ฺBA, ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ถุงลมนิรภัย 7 ใบ และล้อกระทะขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

New-Suzuki-Swift-2021

11. Suzuki Swift GA CVT ราคา 557,000 บาท

Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) รถ Eco-Car รุ่นใหม่จากค่ายซูซูกิ ที่นำพาความสปอร์ตมาอย่างเต็มที่ ทั้งภายนอกและภายใน โดดเด่นด้วยมาตรวัดแบบสปอร์ต เบาะนั่งแบบสปอร์ต ช่องเก็บของมากมาย พร้อมพื้นที่เก็บของด้านหลังที่มากถึง 265 ลิตร มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 83 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ CVT

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ : ไฟท้าย LED, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, กระจกไฟฟ้าคู่หน้า, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control, ระบบ Idling Stop, เครื่องเล่นวิทยุ CD MP3/WMA/USB/AUX และล้อกระทะขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบ

MR.CARRO หวังว่า 10 อันดับ รถเกียร์ออโต้ป้ายแดงราคาถูกสุดที่นำมาเสนอนั้น หากใครอยากได้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! ได้ราคาดี หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check การันตีคุณภาพ รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

หมายเหตุ : ข้อมูลสินค้า 10 อันดับข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลสินค้าที่ Update ณ เดือนมิถุนายน 2564 เมื่อเวลาผ่านไปราคาและอันดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดสอบถามรายละเอียดหรือราคาล่าสุด ที่ตัวแทนจำหน่ายรถรุ่นนั้นๆ อีกครั้ง

Mazda-Annual-Sales-Volume-In-Thailand

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เผยความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจประจำปี 2562 ที่ผ่านมา ยอดขายพุ่งสูงสุดเกือบ 6 หมื่นคัน Mazda2 (มาสด้า2) ยังคว้าแชมป์สองปีติดต่อกัน

มั่นใจปี 2563 ตลาดรถยนต์จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เน้นการบริหารงานแบบครบวงจร เตรียมเสริมทัพรถใหม่อีกเพียบ ทั้งรถเก๋ง รถอเนกประสงค์ รถครอสโอเวอร์ Mazda CX-30 และรถปิกอัพ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

มั่นใจปีนี้ยอดขายมากกว่า 60,000 คัน และครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 6%

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ เพื่อไปถอยรถ Mazda รุ่นใหม่ๆ ต้อนรับปี 2020 ลองมาขายคันเก่ากับ CARRO Express ดูสิ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในปี 2562 ที่ผ่านมา ถูกคาดการณ์ว่ายอดรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปี 2561 ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 1.04 ล้านคัน แม้จะมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกเข้ามากระทบ แต่ท้ายที่สุดตัวเลขรวมก็ทะลุ 1 ล้านคัน (ประมาณการ) ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

All-New-Mazda-CX-8-2019

ในส่วนของมาสด้าสามารถบรรลุยอดขายรวมได้สูงถึง 58,129 คัน ลดลงประมาณ 17.5% และครองส่วนแบ่งการตลาด 5.8% แบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 46,704 คัน รถอเนกประสงค์จำนวน 5,736 คัน โดยเฉพาะการเปิดตัว CX-8 Crossover 7 ที่นั่ง ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าแบบครอบครัวจนสร้างกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า รวมทั้งรถปิกอัพจำนวน 5,664 คัน และรถสปอร์ต MX-5 จำนวน 25 คัน

เนื่องจากตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมามีการแข่งขันที่สูงมาก แม้ว่ามาสด้าจะส่งรถยนต์รุ่นใหม่ลงสู้ศึกในตลาดถึง 6 รุ่น แต่ทั้งหมดอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี แต่กลับทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ สาเหตุสำคัญเกิดจากความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อตัวโปรดักซ์ทุกรุ่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมในทุกพื้นที่ การสื่อสารแบรนด์สู่ความเป็นพรีเมียมที่ลูกค้าสัมผัสได้จริง ตลอดจนการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี

ส่งผลให้ยอดขายรวมทะลุถึง 58,129 คัน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 5.8%

All-New-Mazda-CX-8-2019

“ภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2562 ขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 2.5% โดยรวมต้องบอกว่า “ดีขึ้น” แต่ยังต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น ปัจจัยสำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งแม้ว่าจะจัดการเลือกตั้งได้ไปได้ด้วยดี แต่ก็ใช้เวลานานกว่าที่จะจัดการแต่งตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้โครงการสำคัญๆ ชะลอออกไป ไม่สามารถเดินต่อได้ จึงไม่มีกลไกมาช่วยส่งเสริม”

พร้อมกันนี้ นายชาญชัย ตระการอุดมสุข แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.8 – 3.0% ค่าเงินและเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ หากค่าเงินบาทเฉลี่ยที่ 30/ดอลลาร์ฯ ในปีนี้จะกระทบสินค้าเกษตร รถยนต์ และท่องเที่ยว การผลิตอาจลดลงเป็นปีที่สองติดต่อกัน ด้านการท่องเที่ยว ปัญหานักท่องเที่ยวที่ลดลงจะกลับมาคึกคักมากขึ้น เพราะประเทศไทยยังถือเป็นประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหลัก จากจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อาเซียน รวมทั้งจากไทยเที่ยวไทย

The-All-New-Mazda3-2019

ประเด็นทางเศรษฐกิจไทย ปี 2563 จำเป็นต้องได้รับแรงหนุนจากภาครัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อาทิ รัฐต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินและการคลัง การลงทุนโครงการของภาครัฐคือแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง อาทิ ท่าอากาศยาน ทางหลวงพิเศษ รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าในเมือง

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คือ สถานการณ์ทางการเมืองของไทยและสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องสงครามการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงส่งผลมาถึงเศรษฐกิจไทย ส่วนปัญหาภัยแล้ง อาจกระทบภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมในห่วงโซ่ แต่จะส่งผลให้ราคาพืชผลทางการเกษตรทุกชนิดมีแนวโน้มดีขึ้น

Mazda2-2020

ตลาดรถยนต์ไทยในปี 2562 ยอดขายรวมทะลุ 1 ล้านคัน และที่สำคัญ มาสด้า2 ครองแชมป์เบอร์หนึ่งและตลาดรวมรถยนต์เก๋งมาสด้าครองอันดับ 3 อย่างถาวร ก้าวขึ้นครองอันดับหนึ่งของ B Car และ Eco Car เป็นปีที่สองติดต่อกัน

ล่าสุดการปรับโฉมของ New Mazda2 จะส่งผลให้มาสด้ายังคงรักษาแชมป์ในเซกเม้นต์นี้ต่อไป แม้ต้องเผชิญกับคู่แข่งรอบด้าน

ดังนั้น การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รถยนต์มาสด้า มียอดขายสะสมสูงถึง 2.6 แสนคัน ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี เท่านั้น

The-All-New-Mazda3-2019

สำหรับปี 2563 มาสด้ายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการสื่อสารวิสัยทัศน์ Sustainable Zoom-Zoom 2030 โดยยังคงเน้นเรื่อง “ความสนุกในการขับขี่” หรือ “Joy of Driving” ซึ่งเป็นพื้นฐานที่เราไม่เคยเปลี่ยน

โดยในปีนี้ Mazda Motor Corporation กำลังจะครบ 100 ปี ในวันที่ 30 มกราคม นี้ และทาง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เตรียมจัดกิจกรรมไปพร้อมกันกับมาสด้าทั่วโลกตลอดทั้งปี 2020 และแน่นอนว่าเรากำลังเตรียมงานสำคัญเพื่อร่วมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกัน

นโยบายเกี่ยวกับผู้จำหน่าย การปรับปรุงโชว์รูมทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ภายในปีงบประมาณ 2562 นี้ กิจกรรมส่งเสริมการขายจะถูกยึดถือเป็นนโยบายหลักเพื่อให้ดีลเลอร์ทั่วประเทศดำเนินการ ทุกคนต้องออกไปเจอลูกค้าด้วยตัวเอง เน้นสร้างทีมงานให้แข็งแกร่ง และดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด

ด้านผลิตภัณฑ์ ปี 2563 เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่ม Crossover SUV และครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง รถอเนกประสงค์ และรถปิกอัพ ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ทั้งกลุ่มคนโสด คู่สมรส และกลุ่มครอบครัว ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ด้านอะไหล่และการขนส่ง มาสด้าปรับปรุงทั้งคุณภาพและราคาจนสามารถใกล้เคียงกับตลาด หรือบางชิ้นส่วนมีราคาที่ต่ำกว่าตลาด ด้านการจัดส่งอะไหล่ไปยังศูนย์บริการ มีบริการจัดส่ง 2 รอบต่อวัน สำหรับเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัด 1 รอบต่อวัน

สรุปยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้า ประจำปี 2562 เปรียบเทียบกับปี 2561

ข้อมูลการขายรถ มกราคม – ธันวาคม 2561 มกราคม – ธันวาคม 2562 % เปลี่ยนแปลง
มาสด้า2 45,972 41,987 – 8.6
มาสด้า3 5,255 4,717 – 10.2
มาสด้า CX-3 3,536 1,971 – 44.2
มาสด้า CX-5 8,184 3,020 – 63.0
มาสด้า CX-8 n/a 745 n/a
มาสด้า BT-50 โปร 7,498 5,664 – 24.4
มาสด้า MX-5 30 25 – 16.6
ยอดรวม 70,475 58,129 – 17.5
Mazda2-MY2018

Mazda2 (มาสด้า2) ใหม่ ราคาเดิม เพิ่มออพชั่น เปิดตัวแล้ว

Mazda2-MY2018

Mazda แนะนำ Mazda2 (มาสด้า2) รุ่น 2018 Collection ลุยตลาด ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุด “Excitement Never Ends” หรือ “เร้าใจ ไม่เคยหยุด” ใส่ออพชั่นเพิ่มจนล้นคัน หวังมัดใจสาวก Zoom-Zoom พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง SKYACTIV-Vehicle Dynamics ที่มาพร้อมกับระบบ G-Vectoring Control เอกลักษณ์เฉพาะตัวจากมาสด้า เพิ่มออพชั่นเต็มคัน แต่ราคาเท่าเดิม

Mazda2-2018สำหรับมาสด้า2 รุ่น 2018 คอลเลคชั่น ทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3L และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5L ทั้งตัวถังแบบซีดานและแฮตช์แบค หวังมัดใจกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ในราคาที่จับต้องได้ง่าย เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานที่หลากหลาย ประกอบด้วย

Mazda2-2018

– สีใหม่ล่าสุด สีแดงโซลเรด คริสตัล ที่ให้ความสดใสเป็นประกายของสีแดง
– ระบบเชื่อมต่อโลกการสื่อสาร MZD Connect
– ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด แบบอัตโนมัติ
– ที่ปัดน้ำฝนแบบกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ
– ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม Daytime Running Light
– ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
– ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM)
– ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA)
– ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry)
– หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี

*ออพชั่นเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นของรถ

Mazda2-2018

Mazda 2 เครื่องยนต์เบนซิน

1.3 Skyactiv-G Standard ราคา 530,000 บาท
1.3 Skyactiv-G High ราคา 590,000 บาท
1.3 Skyactiv-G High Connect ราคา 620,000 บาท
1.3 Skyactiv-G High Plus ราคา 670,000 บาท

Mazdd 2 เครื่องยนต์ดีเซล

1.5 Skyactiv-D Standard ราคา 680,000 บาท
1.5 Skyactiv-D High Connect ราคา 750,000 บาท
1.5 Skyactiv-D High Plus L ราคา 789,000 บาท

สำหรับ รุ่น 1.3 Standard ไม่มีการเพิ่มอุปกรณ์

*เฉพาะสี Snowflake Pearl เพิ่มเงินอีก 7,000 บาท
**เฉพาะสี Soul Red เพิ่มเงินอีก 10,000 บาท

รุ่น High

ไฟอ่านแผนที่ตอนหน้า แบบแยกซ้าย–ขวา
ไฟส่องสว่างตรงกลางภายในห้องโดยสาร
หน้าจอกลาง แบบสี Center Display Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
ระบบ MZD Connect พร้อมปุ่ม Center Command
ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
ช่องเชื่อมต่อ USB 1 ช่อง / ช่องใส่ SD Card
ระบบจดจำเสียง Voice Recognition
ลำโพง 6 ตำแหน่ง (เดิน 4 คำแหน่ง)
ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor

รุ่น 1.3 High Connect เพิ่ม

ไฟหน้า LED Projector Lens พร้อมไฟ Daytime Running Light
ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control

รุ่น 1.3 High Plus

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM
ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA

รุ่น 1.5 Standard

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ

รุ่น 1.5 High Connect

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control

รุ่น 1.5 High Plus L

ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ Auto Headlamp
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor

Mazda2-2018

รถยนต์มาสด้า2 รุ่นปรับโฉมใหม่ มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู โดยในแต่ละรูปแบบตัวถังจะมี 7 รุ่นย่อย แบ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 รุ่นและเครื่องยนต์คลีนดีเซล 3 รุ่น

Mazda2-2018

สีภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ซึ่งสีใหม่ล่าสุด คือ สีแดง โซลเรด คริสตัล, สีขาว สโนว์เฟค ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล ไททาเนียมแฟลช, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค, สีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู, สีเทา เมทิเออ เกรย์ และสีดำ เจ็ท แบล็ก

Mazda2-2018

นับได้ว่าคุ้มค่าเลยทีเดียวสำหรับผู้ที่กำลังมองหา Mazda2 ใหม่ รุ่นปี 2018 เพราะนอกจากจะได้ออพชั่นต่างๆ เพิ่มขึ้นมาแล้ว ยังได้ประหยัดเงินด้วยเพราะซื้อได้ในราคาที่เท่ากับรุ่นปี 2017 ส่วนใครที่คิดว่างบประมาณยังมีไม่พอ ก็ลองมองหา Mazda2 มือสองได้ง่ายๆ ด้วยการติดต่อมาที่ Fanpage Carro Thailand ได้เลยครับผม

mazda-2

Review Mazda 2 Eco Car สุดหรูทั้งดีไซน์ และขุมกำลังดีเซลแห่งอนาคต

มาสด้า 2 (Mazda2) หลายคนอาจจะรู้สึกผิดหวัง กับ ราคาเล็กน้อย กับ รถยนต์ที่บอกว่าเป็นรถอีโคคาร์ด้วยราคาค่าตัวที่ต้องซู๊ดดดดปากดังๆ เพราะถ้าเทียบราคา กับความเป็น อีโคคาร์แล้ว ต้องบอกว่ามาสด้า 2  ถือว่าค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับบรรดารถอีโคคาร์ทั่วไป ทั้ง  8 รุ่นในบ้านเรา

จุดเด่น จุดด้อยของรถคันนี้จะมีอะไร ลองไปดูกันเริ่มต้นที่รุ่นสแตนดานซ์  1.5 Skyactiv-D XD ราคาเริ่มต้นที่  6.75 แสน รุ่นกลาง 1.5 Skyactiv-D XD High ราคา 7.35 แสนบาท และรุ่นท๊อป 1.5 Skyactiv-D XD High Plus+ ราคา 7.90 แสนบาท

แต่ถ้ามองในเชิงเทคโนโลยีและความคุ้มค่ากับการนำเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ  รวมทั้งการตัดสินใจน้ำเครื่อยนตฺดีเซลมาใส่ไว้ในเก๋งเล็กเป็นครั้งแรก หากจะชั่งน้ำหนักกับ เรื่อง “ราคา” ที่กระโดดไปสูงกว่าอีโคคาร์ทั่วแล้วถือว่า “รับได้”

หากจะมอง ให้ มาสด้า2 คันนี้ กระโดดขึ้นไปชกข้ามรุ่น เพราะถ้าเปรียบกับความเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กเครื่องยนต์ดีเซลแล้ว โดยส่วนตัว คู่แข่งที่ ตรงตัวมากที่สุด เห็นจะเป็นรถจากฝั่งยุโรปอย่าง “มินิ” ที่ทั้งด้านประสิทธิภาพขุมพลังของเครื่องยนต์ อัตราสิ้นเปลืองถือว่าพอสูสี แต่หากจะดูที่ระดับราคากับความคุ้มค่าและอัตราสินเปลื้องแล้ว ต้องให้มาสด้า2 ที่ กินขาดด้วยราคาที่เป็นมิตรภาพที่จับต้องได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับรถ “มินิ”

แต่อย่างที่บอก เมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นระดับเดียวกันตรงๆ นั้น ไร้คู่เเข่ง แต่หากจะเทียบกับความเป็น “อีโคคาร์” ถือว่า ราคาสูงโดดไปอยู่ในระดับ “ซิตี้ คาร์” เเม้ว่ารถคันนี้จะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เข้าช่วยถึง 17% แล้วก็ตาม

สาเหตุที่ต้องยก ประเด็นเรื่องของ “ราคา” มาอยู่ในอันดับต้นๆ นั้น เพราะ ประเด็นนี้กลายเป็น “โจทย์” สำคัญที่มาสด้าจะต้องเร่งเเก้ เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายรับรู่ โปรดักส์ได้อย่างถูกต้องการวางราคา ขายของ มาสด้า 2 จะเห็นว่า มาสด้า ได้วางตำแหน่ง “ราคา” ตัวเองไว้ระดับ บี  คารื ระดับพรีเมี่ยม เเต่เอาเข้าจริง… ลูกค้าจะรับได้ กับ ความเป็นรถอีโคคาร์ ที่ราคากระโดด ขนาดนี้ได้หรือไม่คงต้องใช้เวลา…

ส่วนเรื่องรูปร่างหน้าตา การออกแบบของรถคันนี้ ถือว่าสวยสุด ด้วยดีไซน์โคโดะ หรือการออกแบบที่สะท้อนจิตวิญญานแห่งการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้เราประทับใจกับรถรุ่นพี่อย่าง มาสด้า3 ที่มีทั้งความโฉบเฉี่ยว ความสปอร์ต ดุดัน โฉบเฉียว หรูหรา แน่นอน เมื่อมาสด้า ทำตคลอดมาสด้า2 ความสวยสะดุดตา เรื่อนร่าง รถคันนี้ จำลองมาสด้า3  มาเหมือนพิมพ์เเกะ เพียงเเต่ดีไซน์และขนาด ที่ผ่านการย่อส่วนมาอย่างลงตัว… ทั้งรุ่น ซีดาน และ เเฮทช์เเบค

หากเทียบกับ มาสด้า2 โฉมก่อน ถือว่า มาสด้าสอบผ่าน โดยเฉพาะรุ่น ซีดาน ที่ ช่วงด้านท้ายที่ โดง ไม่สวยสมกับความโฉบเฉี่ยวของการออกแบบในตอนหน้าและด้านข้าง ซึ่งหากจำไม่ผิดมาได้ได้แก้ปัญหา เนื่องดังกล่าวด้ยการ ลดส่วนสูงในตอนท้ายของโมเดลเก่าลงมาเล็กน้อย เเละช่วยได้พอสมควร ส่วน เเฮชท์เเบค โมเดลก่อนหน้า เรื่องการออกแบบ เรียกง่ายๆ ว่า “ไม่สุด” ในการดีไซน์ลงไปอย่างสิ้นเชิง หรือหากจะเทียบบรรดา อีโคคาร์ แอทช์แบค ที่พอฟัดพอเหวี่ยงได้ น่าจะมี โตโยต้า ยารีส ทีอาร์ ตัวเเต่ง  ที่ถือว่าออกแบบ เน้นความโฉบเฉียวพอฟัดพอเหวี่ยง เพียงเเต่ขนาดตัวของ ยารีส ดีจะหนากว่ามาสด้า2 เล็กน้อย

ส่วนรุ่นซีดาน โหวตให้มาสด้า2  มาเหนือไร้คู่เเข่งการออกแบบภายนอก ขอติงในส่วนไฟเลี้ยวท้าย ที่ออกแบบมาต้องการความโฉบเฉียว เเต่เวลาขับตามหลัง อาจจะมองไฟเลี้ยวได้ไม่ชัดเจน  เพราะมีขนาดเล็ก เป็นเส้นด้านท้าย

ภายในห้องโดยสาร มาสด้าใช้โทนสีดำเข้าช่วยขับความดุดันแปละความสปอร์ตภายในห้องโดยสารเบาะหนังสไตลล์บัคเก็ตซีท ตัดด้วยเส้นด้านสีเเดง เดินตะเข็บคู่ มาตัด กับสีดำ สะดุดตา และกระชากอารมณ์ความสปอร์ตออกมา ทั้งเบาะนั่ง และบริเวณ คอลโซลด้านหน้า แต่น่าเสียดายเเทนที่ มาสด้า จะเดิน ดายสีเเดงตัวขอบ ที่บริเวณเเผงประตู และพวงมาลัยด้วย  น่าจะช่วยให้การเคลื่อนไหวของ อารมณ์ความเร้าใจ ในห้องโดยสานไม่ไหลลื่น … จากการเดินเส้นดาย

อีกหนึ่งสิ่งที่ดูขัดเเย้งคือแผงช่องเเเอร์ บริเวณคอบโซลหน้าฝั่งคนนั้ง ที่ออกแบบมาให้เป็นเเนวนอนยาว  มองผาดๆอาจจะได้ในเรื่องของความเรียบงาน แต่โดยส่วนตัวแล้ว มองว่า คามเรียบง่ายนี้ถูกกลื่น ไปด้วยความรู้สึกว่า “เชย” แถมปุ่มกดไฟพาทสาด (ไฟฉุกเฉิน)  ที่อยู่ในระนาบเดียวกับช่องเเอร์เเนวนอน นั้น ก็ถูกกลื่นหายไป

อุปกรณ์การใช้งานอื่นๆในห้องโดยสาร  แม้ว่า จะใส่มาเต็มแต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ “เกิน” และไม่จำเป็นต้องมีก็ได้  ซึ่งช่วยเปลี่ยนองศา การมอง ด้วยHeads-up display หน้าจอแสดงความเร็ว ที่ด้านหลังพวงมาลัย  โดยส่วนตัวเเล้วรู้สึกว่า ไม่มีก็ได้ เเถมยังเเกะกะสายตา เพราะ เเค่เข็มไมลล์ที่หน้าปัดม์ บอกความเร็วนั้น เกินพอเเล้ว

สิ่งที่ต้องชม คือการนำ ปุ่มควบคุม Center Commander มาไว้ที่ ข้างๆ ผู้ขับ  ไม่ต้องเอื้อมมือไปสั่งการไกลนัก เพียงเเค่ความคุมหมุน ควบคุม คำสั่งต่างๆ   มีเหมือนเช่นเดียวกับรถหรูอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ส่วนระบบการทำงาน เพื่อใช้เเผนที่นำทางผ่านระบบ การติดต่อสื่อสาร MZD Connect นั้นไสามารถทำได้ ซึ่งลูกค้าจะต้องเข้าไปติดต่อกับทมางมาสด้าเพื่ออัพเดรสข้อมูล หรือ ของซื้อเพื่อรับโหลดข้อมูลการนำทางเข้าสู่ระบบอีกครั้ง เรียกว่า ถ้าลูกค้าอยากใช้ ก็ต้องเสียเงินเพิ่ม

ถึงตรงนี้ต้องบอกว่า สำหรับคนที่กำลังมองหารถ อีโคคาร์ หรือ บี คาร์ โดยยังไม่ตั้งธงในใจว่า เป็นรุ่นอะไร ลอ งช่างน้ำหนัก และเปรียบเทียบความต้องการกับเงินในกระเป๋า แต่หากตั้งธงมาแล้วว่า ต้องเป็นมาสด้า2 ลองสาระตะ… ความคุ้มค่า กับความต้องการแต่หากจะให้เเนะนำ แค่  รุ่นเริ่มต้น นั้นถือว่าน่าเพียงพอแล้ว