ราคารถใหม่ Ford ปี 2022 ทุกรุ่น

รวมราคารถใหม่ Ford (ฟอร์ด) ทุกรุ่น Update 25/5/2022

CARRO นำเสนอราคารถใหม่ 2022 ราคารถยนต์ Ford (ฟอร์ด) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ครบถ้วน เช็คราคาได้ที่นี่

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพได้มาตรฐาน รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่ต้องการ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ! สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ Carro ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ Carro Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook Carro Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @carrothai เช่นกัน หรือคลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

Ford-Ranger-2021

Ranger

Standard Cab

  • Standard Chassis Cab 2.2L XL 6MT ราคา 531,000 บาท
  • Standard Cab 2.2L XL 6MT ราคา 562,000 บาท
  • Standard Cab 2.2L XL 4WD 6MT ราคา 652,000 บาท

Open Cab

  • Open Cab 2.2L XL ราคา 632,000 บาท
  • Open Cab 2.2L XL Street 6MT ราคา 672,000 บาท
  • Open Cab 2.2L XL+ Sport Hi-Rider 6MT ราคา 692,000 บาท
  • Open Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6MT ราคา 757,000 บาท
  • Open Cab 2.2L XLT 4X4 6AT ราคา 797,000 บาท
  • Open Cab 2.2L XLT 4X4 6MT ราคา 807,000 บาท

Double Cab

  • Double Cab 2.2L XL 6MT ราคา 692,000 บาท
  • Double Cab 2.2L XL+ Hi-Rider 6MT ราคา 752,000 บาท
  • Double Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6MT ราคา 857,000 บาท
  • Double Cab 2.2L XLT Hi-Rider 6AT ราคา 902,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Limited 4X4 10AT ราคา 1,042,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT ราคา 1,032,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak (Roller) Hi-Rider 10AT ราคา 1,062,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo FX4 MAX 10AT ราคา 1,189,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 6MT ราคา 982,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4X4 10AT ราคา 1,268,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak (Roller) 4X4 10AT ราคา 1,298,000 บาท

All-New Ford Ranger 2022

All-New Ranger 2022

Standard Cab

  • Standard Chassis Cab 2.0L XL Turbo LR 5MT ราคา 554,000 บาท
  • Standard Cab 2.0L XL Turbo LR 5MT ราคา 589,000 บาท
  • Standard Cab 2.0L XL Turbo 4X4 6MT ราคา 697,000 บาท

Open Cab

  • Open Cab 2.0L XL Turbo 5MT ราคา 635,000 บาท
  • Open Cab 2.0L XL+ Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 699,000 บาท
  • Open Cab 2.0L XLT Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 799,000 บาท
  • Open Cab 2.0L XLT Turbo Hi-Rider 6MT ราคา 844,000 บาท
  • Open Cab 2.0L XLT Turbo 4X4 6MT ราคา 859,000 บาท

Double Cab

  • Double Cab 2.0L XL 6MT ราคา 732,000 บาท
  • Double Cab 2.0L XL+ Hi-Rider 6MT ราคา 792,000 บาท
  • Double Cab 2.0L XLT Hi-Rider 6MT ราคา 889,000 บาท
  • Double Cab 2.0L XLT Hi-Rider 6AT ราคา 934,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Sport Hi-Rider 6MT ราคา 929,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Sport Hi-Rider 6AT ราคา 964,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Sport 4X4 6AT ราคา 1,049,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 6MT ราคา 999,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Turbo Wildtrak Hi-Rider 6AT ราคา 1,049,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak Hi-Rider 10AT ราคา 1,159,000 บาท
  • Double Cab 2.0L Bi-Turbo Wildtrak 4X4 10AT ราคา 1,299,000 บาท

เทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูง Advanced Driver Assist Technology : Ford Ranger

Package A เพิ่มเงิน 30,000 บาท (รุ่น XLT MT เพิ่มเงิน 40,000 บาท)

  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า (Front Parking Sensors)
  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง (Rear Parking Sensors)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP *เฉพาะรุ่น XLT MT
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control *เฉพาะรุ่น XLT MT
  • ระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA *เฉพาะรุ่น XLT MT
  • ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM *เฉพาะรุ่น XLT MT
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High-Bram Headlamps)
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (Automatic Emergency Braking with Pedestrian Detection)
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning with Brake Support)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)

Package B เพิ่มเงิน 50,000 บาท (เฉพาะรุ่น Wildtrak 2.0L Turbo HR 6AT)

  • สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า Front Parking Sensors
  • ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อม Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Adaptive Cruise Control with Stop-and-Go and Lane Centering)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High-Bram Headlamps)
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (Automatic Emergency Braking with Pedestrian Detection)
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning with Brake Support)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning)
  • ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System with Cross-Traffic Alert and Braking)
  • กล้องมองรอบคัน 360 องศา (360-Degree Camera)
  • ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง (Reverse Brake Assist)
  • ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steer Assist)

Ford-Ranger-Raptor-2020

Ranger Raptor

  • Raptor Double Cab 2.0L Bi-Turbo 4X4 10AT ราคา 1,699,000 บาท
  • Raptor Double Cab 2.0L Bi-Turbo X 4X4 10AT ราคา 1,729,000 บาท

All-New Ford Ranger Raptor 2022

All-New Ranger Raptor 2022

  • Raptor Double Cab 3.0L V6 Twin Turbo EcoBoost 4X4 10AT ราคา 1,869,000 บาท

หมายเหตุ:

  • สติ๊กเกอร์ตกแต่งเพิ่มเงิน 10,000 บาท
  • สีส้ม Code Orange และสีเทา Conquer Grey เพิ่มเงิน 10,000 บาท

Ford-Everest-2021

Everest

  • Trend 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,299,000 บาท
  • Titanium 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,399,000 บาท
  • Titanium (Sport) 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,429,000 บาท
  • Titanium+ 2.0L Turbo 2WD ราคา 1,599,000 บาท
  • Titanium+ 2.0L Bi-Turbo 4WD ราคา 1,799,000 บาท

All-New Ford Everest 2022

Everest 2022

  • Sport 2.0L Turbo 2WD 6AT ราคา 1,464,000 บาท
  • Titanium+ 2.0L Bi-Turbo 4WD 10AT ราคา 1,854,000 บาท

Ford-Mustang

Mustang

  • 2.3L EcoBoost Coupe Performance Pack ราคา 3,699,000 บาท
  • 5.0L V8 GT Coupe Performance Pack ราคา 4,899,000 บาท

ดูโปรโมชั่น Ford ทั้งหมดได้ที่นี่ – https://th.carro.co/blog/ford-new-car-promotion/

Ford-New-Car-Promotion

รวม Promotion รถใหม่ 2022 Ford (ฟอร์ด) ทุกรุ่น Update ล่าสุด ประจำเดือนเมษายน 2565

หากช่วงนี้ใครต้องการซื้อรถมือสองคุณภาพเยี่ยม มาที่นี่เลย CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งรถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check และยังมีเทคโนโลยีจากระบบ AI ช่วยประเมินสภาพรถก่อนขาย

รับประกันพร้อมโอนทุกคัน หรือต้องการหารถมือสองยี่ห้อ/รุ่นที่คุณต้องการ ก็ได้เช่นกัน มาซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ที่ CARRO Automall สิ! โทร. 02-508-8690 หรือจะ Inbox มาสอบถามก็ได้ที่ Facebook CARRO Automall – รถบ้านมือสอง ถ้าสะดวก Add Line @carroautomall

แต่ถ้าคุณอยาก “ขายรถ” คันเดิม เพื่อซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถด่วนกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! และฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothai คลิกที่นี่ ขายรถด่วน! —> เพิ่มเพื่อน

Ranger October offers

โปรโมชั่น Ford ข้อเสนอคุ้มแล้วคุ้มอีก จาก ฟอร์ด

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เทรน

ราคาเริ่มต้น 1,299,000 บาท ราคาพิเศษ 1,199,000 บาท (จากราคาปกติ 1,599,000 บาท)

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียม พลัส 4X2

ราคาเริ่มต้น 1,499,000 บาท ดอกเบี้ย 0.49% ผ่อนนาน 48 เดือน

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียม พลัส 4X4

ราคาเริ่มต้น 1,799,000 บาท 0% อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ผ่อนนาน 36 เดือน

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สปอร์ต

ราคาเริ่มต้น 1,429,000 บาท ผ่อนเริ่มต้น 9,900 บาท

ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์

ราคาเริ่มต้น 1,729,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง FORD ENSURE

ฟอร์ด กระบะ FX4 MAX (ใหม่)

ราคาเริ่มต้น 1,189,000 บาท พิเศษ ดอกเบี้ย 0.99% ผ่อนนาน 48 เดือน

ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค

ราคาเริ่มต้น 982,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.99% ผ่อนนาน 48 เดือน

ดู Promotion Ford เพิ่มเติมได้ที่ – https://www.ford.co.th/buying/latest-offers/

Top-Three-Cars-Customer-Satisfaction-In-Thailand

ผลการศึกษาวิจัยสมรรถนะ, ระบบปฏิบัติการ และการออกแบบรูปลักษณ์ของรถยนต์ในประเทศไทย ประจำปี 2561 โดย เจ.ดี.พาวเวอร์ เผยผลสำรวจ J.D. Power 2018 Thailand Automotive Performance, Execution and Layout (APEAL) Study โดยระบุว่า เครื่องเสียง, ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เจ้าของรถยนต์รู้สึกพอใจ เนื่องจากเจ้าของรถมีการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือเพื่อฟังเพลง หรือใช้แอปพลิเคชั่นนำทางกับระบบเครื่องเสียงรถยนต์

โดยครั้งนี้ Toyota คว้า 2 รางวัล ด้าน APEAL ส่วน Mitsubishi, Honda, Mazda, Chevrolet และ Ford ได้รับค่ายละ 1 รางวัล

Top-Three-Cars-Customer-Satisfaction-In-Thailand-2018

จากการศึกษาพบว่า คุณลักษณะต่างๆ ที่เกี่ยวกับเครื่องเสียง, ระบบความบันเทิง และระบบนำทาง (AENS) ที่ได้รับความพึงพอใจน้อยที่สุด ได้แก่ ความน่าสนใจของจอแสดงผลจากระบบเครื่องเสียงและระบบนำทาง, ความง่ายในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ใช้เล่นเพลงกับตัวรถยนต์, คุณภาพเสียงของการโทร เมื่อเชื่อมต่อมือถือผ่านระบบบลูทูธ, รวมถึงลักษณะ และสัมผัสของปุ่มควบคุมเครื่องเสียง

การศึกษาในครั้งนี้ยังพบอีกว่า คะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจโดยรวม อยู่ที่ 846 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนน) ในปี 2561 โดยเจ้าของรถยนต์อเนกประสงค์ ให้คะแนนสูงสุดที่มีต่อความน่าดึงดูดใจของรถยนต์ (855 คะแนน) ตามมาด้วยเจ้าของรถกระบะ (845 คะแนน) และเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (843 คะแนน)

3 อันดับแรกของรถแต่ละประเภทที่ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด (คะแนนเต็ม 1,000 คะแนน)

Mitsubishi-Mirage

รถยนต์ขนาดเล็ก (Compact Car)

  1. Mitsubishi Mirage – 849
  2. Nissan Note – 842
  3. Toyota Yaris – 838

Honda-Jazz

รถยนต์ขนาดกลางระดับต้น (Entry Midsize Car)

  1. Honda Jazz – 846
  2. Honda City – 840
  3. Toyota Vios – 838

Mazda3

รถยนต์ขนาดกลาง (Midsize Car)

  1. Mazda3 – 853
  2. Toyota Corolla Altis – 851
  3. Honda Civic – 847

Toyota-Fortuner

รถยนต์อเนกประสงค์สมรรถสูงขนาดใหญ่ (Large SUV)

  1. Toyota Fortuner – 865
  2. Ford Everest – 863
  3. Mitsubishi Pajero Sport – 860

Chevrolet-Colorado-X-Cab

รถกระบะตอนขยาย (Pickup Extended Cab)

  1. Chevrolet Colorado X-Cab – 850
  2. Toyota Hilux Revo Prerunner Smart Cab – 850
  3. Isuzu D-Max Space Cab/V-Cross – 848

Ford-Ranger

รถกระบะ 4 ประตู (Pickup Double Cab)

  1. Ford Ranger Hi-Rider D-Cab – 859
  2. Isuzu D-Max Hi-Lander D-Cab – 857
  3. Toyota Hilux Revo D-Cab – 857

การศึกษาวิจัยดังกล่าว รวบรวมคำตอบจากเจ้าของรถยนต์ในประเทศไทยเกี่ยวกับความพึงพอใจต่อสมรรถนะและการออกแบบในช่วง 2-6 เดือนแรก ของการเป็นเจ้าของ จำนวน 5,106 ราย ที่ซื้อรถใหม่ระหว่างเดือนกันยายน 2560 – กันยายน 2561 ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล, รถกระบะ และรถยนต์อเนกประสงค์ จำนวน 74 รุ่น จากทั้งหมด 13 ยี่ห้อ

การสำรวจดังกล่าวครอบคลุมองค์ประกอบของรถยนต์ 10 หมวดหมู่ ได้แก่ ภายนอกรถยนต์, ภายในห้องโดยสาร, พื้นที่เก็บสัมภาระและพื้นที่ว่าง, เครื่องเสียง/ระบบสื่อสาร/ระบบความบันเทิง/ระบบนำทาง, เบาะที่นั่ง, ระบบทำความร้อน, ระบบระบายอากาศ และระบบแอร์, สมรรถนะในการขับขี่, เครื่องยนต์ระบบเกียร์, ทัศนวิสัย และความปลอดภัยในการขับขี่ และการประหยัดเชื้อเพลิง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก J.D.Power

10-Secondhard-Cars-Price-Falls

“รถมือสอง” ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นรถที่มีเจ้าของใช้มาก่อนหน้านี้แล้ว ราคาก็ย่อมถูกกว่า “รถป้ายแดง” เช่นกัน โดยรถมือสองนั้น ก็มีทั้ง “แบรนด์หลัก” และ “แบรนด์รอง”

“แบรนด์หลัก” ก็คือรถยี่ห้อใหญ่ๆ ที่ตลาดนิยม เช่น รถญี่ปุ่นหลายยี่ห้อ หรือรถยุโรปบางยี่ห้อ ที่แม้ว่าเราจะอาจจะเบื่อแล้ว หรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ พอลงประกาศขาย (ในราคาที่เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป) ก็จะมีผู้คนสนใจอยากซื้อไปใช้ต่อ แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะรถบางรุ่นของ “แบรนด์หลัก” เวลาขายต่อ ราคาก็ร่วงรูดได้เหมือนกัน

ส่วนรถยนต์ยี่ห้อที่เป็น “แบรนด์รอง” นั้น ไม่ต้องพูดถึง ส่วนใหญ่ตอนซื้อมาจ่ายราคาเต็ม พอขายต่อ ส่วนต่างหายไปมหาศาลก็มี ไม่ใช่ว่ารถคันนั้นคุณภาพ หรือสภาพรถไม่ดี! แต่เป็นเพราะหลายๆ ปัจจัย เช่น บริการหลังการขาย ราคาอะไหล่ ความหายากของศูนย์บริการ ก็มีผลทำให้รถคันนั้นๆ ราคาร่วงรูดได้เช่นกัน …

MR.CARRO ขอยกตัวอย่าง 10 รถมือสอง ราคาถูกกว่าตอนป้ายแดง มากอย่างไม่น่าเชื่อ (ภาค 1) มาให้ได้อ่านกันครับ.

Chery-QQ

ภาพจาก รัตศุภา จิณะแสน

1. Chery QQ

ราคาป้ายแดง (ปี 2552) : 389,400 – 434,400 บาท
ราคามือสอง (ปี 2563) : 40,000 – 70,000 บาท

Chery QQ (เฌอรี่ คิวคิว) รถแบรนด์จีนขนาดเล็กหน้าตาน่ารัก นำเข้าโดย บริษัท ไทยเฌอรี่ยานยนตร์ จำกัด ในเครือไทยยานยนตร์กรุ๊ป มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.1 ลิตร 68 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์แบบ AMT 5 สปีด ประหยัดน้ำมันสูงถึง 19.23 กม./ลิตร (ที่ความเร็ว 90 กม./ชม.)

พอเจอโครงการรถ Eco-Car ของรัฐบาลเข้าไป บวกกับทาง CP เสนอให้ Chery บริษัทแม่ในจีนมาร่วมลงทุนในไทย แต่ทางจีนไม่เอาด้วย รถเฌอรี่ จึงเลือนหายไปจากตลาดรถบ้านเรา …

Proton-Savvy

ภาพจาก ปริญญา วงค์สมบูรณ์

2. Proton Savvy

ราคาป้ายแดง (ปี 2550) : 399,000 – 469,000 บาท
ราคามือสอง (ปี 2563) : 50,000 – 80,000 บาท

Proton Savvy (โปรตอน เซฟวี่) รถยนต์แห่งชาติของประเทศมาเลเซีย รูปทรงขนาดเล็กน่ารัก นำเข้ามาขายโดย บริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 74 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์แบบ AMT 5 สปีด ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้สูงถึง 19 กม./ลิตร และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 170 กม./ชม.

พอเจอโครงการรถ “รถคันแรก” ของรัฐบาลเข้าไป บวกกับทางตัวแทนจำหน่ายในไทย (ก็รู้ๆ กันอยู่) … ทำให้รถ Proton หลายๆ รุ่น และโชว์รูม ก็เลือนหายไปจากตลาดรถบ้านเรา (แม้ว่า โชว์รูม กับ ศูนย์บริการ ยังมีเหลืออยู่ แต่ก็น้อยนิดแล้วก็ตาม)

Chevrolet-Sonic

3. Chevrolet Sonic

ราคาป้ายแดง รุ่น 1.4 (ปี 2555) : 548,000 – 687,000 บาท
ราคาป้ายแดง รุ่น 1.6 (ปี 2556) : 677,000 – 709,000 บาท

ราคามือสอง (ปี 2563) : 130,000 – 180,000 บาท

Chevrolet Sonic (เชฟโรเลต โซนิค) เป็นตัวตายตัวแทนของรุ่น Aveo ที่เคยทำตลาดในบ้านเรา มีทั้งแบบ Northback 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู เจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ แต่ก็เจอมรสุมของตัวรถเอง จึงต้องหายไปจากตลาดอย่างเงียบๆ …

ในช่วงแรก Chevrolet เปิดตัว Sonic รุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร 100 แรงม้า พอผ่านไป 1 ปี รุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 115 แรงม้า รองรับแก๊สโซฮอล์ E85 จึงตามมาให้เลือก ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

ถ้าใครอยากเล่นรุ่นนี้ เราแนะนำให้เล่นรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เพราะสมรรถนะดีกว่ารุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร ครับ

Chevrolet-Cruze

4. Chevrolet Cruze

ราคาป้ายแดง (ปี 2553) : 729,000 – 1,149,000 บาท
ราคาป้ายแดง (ปี 2556) : 752,000 – 1,248,000 บาท

ราคามือสอง (ปี 2563) : 160,000 – 280,000 บาท

Chevrolet Cruze (เชฟโรเลต ครูซ) อันนี้ถือว่าเป็นตัวแทนของ Optra เดิม เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร 109 แรงม้า เบนซินขนาด 1.8 ลิตร 141 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Commonrail Turbo 150 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด DSC

พอถึงปี 2556 จึงปรับหน้าตาและเครื่องยนต์ให้รองรับแก๊สโซฮอล์ E85 ก่อนจะตัดรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ออก เหลือแค่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร อย่างเดียว ปรับโฉมอีกครั้งช่วงปี 2558 ก่อนจะหายเงียบไป

หากใครอยากเล่นรุ่นนี้ เราขอแนะนำตัวดีเซลครับ เพราะขับสนุกสุดแล้ว (แต่ก็ดูแลเรื่องเกียร์หน่อยละกัน …)

Ford-Fiesta

5. Ford Fiesta

ราคาตอนป้ายแดง (ปี 2554) : 549,000 – 724,000 บาท
ราคาตอนป้ายแดง (ปี 2555) : 644,000 – 759,000 บาท
ราคาตอนป้ายแดง EcoBoost (ปี 2557) : 619,000 – 779,000 บาท
ราคามือสอง (ปี 2563) : 140,000 – 270,000 บาท

Ford Fiesta (ฟอร์ด เฟียสต้า) ถือเป็นรถ Ford อีกรุ่น ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอีกรุ่นเลยก็ว่าได้ มาทำตลาดในไทยครั้งแรกในแบบ 4 ประตู และ 5 ประตู ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร 95 แรงม้า เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 121 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด กับแบบ PowerShift 6 สปีด

และในช่วงที่โครงการ “รถคันแรก” มา ทาง Ford จึงส่ง Fiesta รุ่นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 109 แรงม้า มาแทนที่รุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร ซะเลย แถมยังได้เงินคืนถึง 100,000 บาทเชียวนะ!

สุดท้าย Ford Fiesta จึงปรับโฉมหน้าตาใหม่ ในปี 2556 (ก่อนจะเปลี่ยนหน้าตาของรุ่น 1.5 ตามมาในปี 2557) มาพร้อมเครื่องยนต์ Turbo ใหม่ ขนาด 1.0 ลิตร EcoBoost 125 แรงม้า … แต่พอเจอ User Voice มากมายของที่ใช้รุ่นรถนี้ บวกกับข่าวคราวหลายครั้งที่ผ่านมา ก็ทำให้ราคามือสองของ Fiesta นั้น ต่างจากราคาป้ายแดงลิบลับแบบไม่ต้องสงสัย …

Ford-Focus-EcoBoost

6. Ford Focus

ราคาป้ายแดง (ปี 2555) : 759,000 – 1,079,000 บาท
ราคามือสอง (ปี 2563) : 100,000 – 380,000 บาท

Ford Focus (ฟอร์ด โฟกัส) รถขนาดกลางแบบ C-Segment ยอดนิยมของฟอร์ดทั่วโลกอีกหนึ่งรุ่น เปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 3 ในบ้านเราเมื่อปี 2555 มาพร้อมความสปอร์ตในแบบ Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร 125 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 170 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ PowerShift 6 สปีด

สุดท้าย Ford Focus จึงปรับโฉมหน้าตาและเครื่องยนต์ใหม่ ในปี 2559 มาพร้อมเครื่องยนต์ Turbo ใหม่ ขนาด 1.5 ลิตร EcoBoost 180 แรงม้า …

แต่พอเจอ User Voice มากมายของที่ใช้รุ่นรถนี้ เกี่ยวกับเรื่องเกียร์ PowerShift เช่นเดียวกับรุ่นน้องอย่าง Fiesta ก็ทำให้ราคามือสองของ Focus นั้น ดำดิ่งต่างจากราคาป้ายแดงลิบลับเช่นกัน …

MG6

7. MG6

ราคาป้ายแดง (ปี 2557) : 988,000 – 1,128,000 บาท
ราคามือสอง (ปี 2563) : 200,000 – 300,000 บาท

MG6 (เอ็มจี6) ถือเป็นรถรุ่นแรกของ MG ในไทย ภายใต้การทำตลาดโดย CP ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เมื่อปี 2557 มีให้เลือกทั้งโฉม Sedan 4 ประตู และแบบ Fastback 5 ประตู มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร 161 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ Dual Clutch Transmission (DCT) 6 สปีด

แต่เนื่องด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ของตัวแบรนด์ MG เอง จึงทำให้ราคาขายต่อรถมือสองของรุ่นนี้ ดูเบาๆ สำหรับคนกำลังมองหารถมือสอง MG มาใช้ อย่างไม่ต้องสงสัย …

Nissan-Pulsar

8. Nissan Pulsar

ราคาป้ายแดง (ปี 2556) : 776,000 – 976,000 บาท
ราคาป้ายแดง (ปี 2557) : 781,000 – 1,070,000 บาท

ราคามือสอง (ปี 2563) : 280,000 – 390,000 บาท

Nissan Pulsar (นิสสัน พัลซ่าร์) อาจจะเรียกได้ว่า เป็นรถนิสสัน ที่เคยขายในไทยเมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่ยุคสยามกลการนู่น แต่ไม่รุ่งเลยเลิกขายไป ก่อนจะ Come Back กลับมาขายใหม่อีกหลังในปี 2556 ในแบบสปอร์ต แฮทช์แบค ออพชั่นเพียบ แล้วก็แป๊กเหมือนในอดีตอีก …

มีให้เลือก 3 เครื่องยนต์ ได้แก่ ขนาด 1.6 ลิตร 116 แรงม้า, ขนาด 1.8 ลิตร 131 แรงม้า และเบนซิน 1.6 ลิตร DIG Turbo 190 แรงม้า ซึ่งถ้าใครที่ชอบความแรงแล้ว คงต้องยกให้ไปลองเล่นรุ่น Turbo ดูครับ

Mitsubishi-Lancer-EX

9. Mitsubishi Lancer EX

ราคาป้ายแดง (ปี 2552) : 831,000 – 1,034,000 บาท
ราคาป้ายแดง (ปี 2554) : 794,000 – 1,151,000 บาท
ราคามือสอง (ปี 2563) : 230,000 – 340,000 บาท

Mitsubishi Lancer EX (มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์) แม้ว่าจะเป็น Lancer รุ่นสุดท้ายที่ขายในบ้านเราเวลานี้ จัดว่าเป็นรถ C-Segment ที่น่าใช้อีกรุ่น ดีไซน์สไตล์สปอร์ต ไปแต่งเป็นโฉม Evolution ก็หล่อใช่ย่อย ช่วงล่างก็ดีเกาะถนน ออพชั่นติดรถก็ถือว่ามากใช้ได้ และเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร แบบ FFV เติมแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ รุ่นแรกในไทย … พอในปี 2554 ก็มีการปรับออพชั่นเพิ่มอีก อาทิเช่น เพิ่มระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS และแนะนำตัวถังสีใหม่ “แดงเมทัลลิก” เป็นต้น

มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 139 แรงม้า และ 2.0 ลิตร 154 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT INVECS-III แบบ 6 สปีด … แต่เพราะ Lancer ไม่ใช่รถตลาด เหมาะสำหรับคนชอบรถแต่งมากกว่า และเรื่องศูนย์บริการ กับราคาอะไหล่ ทำให้ราคามือสอง อาจจะทิ้งห่างจากตอนป้ายแดงอยู่พอสมควร

Toyota-Prius

10. Toyota Prius

ราคาป้ายแดง (ปี 2553) : 1,190,000 – 1,270,000 บาท
ราคาป้ายแดง (ปี 2555) : 1,199,000 – 1,369,000 บาท
ราคามือสอง (ปี 2563) : 270,000 – 400,000 บาท

Toyota Prius (โตโยต้า พริอุส) รถสำหรับคนรักษ์โลกจากค่ายโตโยต้า มาพร้อมขุมพลังไฮบริด กับรูปทรงที่ลู่ลม ผลิตในไทยด้วย! ซึ่งนับเป็นประเทศที่ 3 ของโลก สำหรับการผลิต Prius ขาย … มีเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย เช่น ระบบ Head-Up Display รวมไปถึงประสิทธิภาพของระบบไฮบริดที่ดีเยี่ยม เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร 99 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 82 แรงม้า ประหยัดน้ำมัน และให้อัตราเร่งเทียบเท่ารถยนต์เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติ

Prius เป็นรถที่ดีและน่าใช้อีกคันหนึ่งเลยทีเดียว แต่ด้วยเวลาที่แบตเตอรี่ต้องใกล้เปลี่ยน กับ ราคาอะไหล่ชิ้นส่วนต่างๆ ต้องนำเข้าจากญี่ปุ่นเยอะ ทำให้ราคามือสองของรุ่นนี้ ทิ้งห่างจากตอนซื้อใหม่ไปมากพอสมควร …

ทางที่ดี ก่อนคุณจะซื้อตัดสินใจหารถมือสองมาใช้สักคัน ก็ควรหาคนที่พอมีความรู้เรื่องรถยนต์ หรือช่างไปดูรถด้วย เพื่อให้ได้รถที่มีสภาพดี ไม่ชนหนัก ไม่ถูกย้อมแมว จะได้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ยังไงล่ะครับ

หากใครที่คิดว่าตัวเองใจไม่ถึง อยากเปลี่ยนไปเล่นรถตลาด อยากขายรถที่มีในบทความนี้อยู่เพื่อไปเล่นรุ่นอื่น ก็ลองดูได้ครับผม …

ถ้าคุณตัดสินใจอยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเป็นเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเดิมกับ CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @carrothai หรือคลิกที่นี่ครับ —> เพิ่มเพื่อน

9-New-Cars-In-Half-Year-Later-2018

รถใหม่ รถเด่น 9 รุ่น เตรียมเปิดตัวครึ่งหลังปี 2018

ช่วงครึ่งหลังปี 2561 ที่หลายคนยังบ่นว่า เศรษฐกิจไม่ดี ข้าวยากหมากแพง แต่ตลาดรถใหม่ก็ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพื่อช่วงชิงยอดขายให้ได้มากที่สุด โดยหลายค่าย เตรียมตัวเปิดตัวรถใหม่ ที่เป็นรถยอดนิยมของคนไทยกันอยู่แล้ว …

Carro ขอแนะนำ 9 รถใหม่ รุ่นเด็ด ที่เตรียมตัวเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 นี้ จะมียี่ห้อไหน รุ่นใดบ้าง ไปชมกันได้เลยครับ.

Toyota Camry

Toyota-Camry

Toyota เตรียมแผนการเปิดตัว Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) ในไทย ทั้งในรุ่นเครื่องยนนต์เบนซินธรรมดา และรุ่น Hybrid ช่วงประมาณปลายปี 2561 นี้ หลังจากที่เปิดไปแล้วในหลายประเทศ โดยมาพร้อมกับแพลทฟอร์ม TNGA และรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต

ส่วนเครื่องยนต์ คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร 167 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด, เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร 184 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และ เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด ขนาด 2.5 ลิตร 211 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT

Nissan Terra – มาแน่

Nissan-Terra

Nissan เตรียมเปิดตัวรถ SUV 7 ที่นั่ง โดย Nissan Terra (นิสสัน เทอร์ร่า) จะใช้พื้นฐานร่วมกับ Nissan Navara เตรียมผลิตขายในไทยช่วงปลายปีนี้

ด้านขุมพลังนั้น เวอร์ชั่นไทย คาดว่าจะเป็นแบบเดียวกับในตลาดฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นแบบเดียวกับในรุ่น Navara ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.5 ลิตร รหัส YD25DDTi ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด

Honda HR-V – มาแน่

Honda-HR-V-2018

หลังจากที่ทาง Honda ได้เผยโฉม Honda HR-V (ฮอนด้า เฮชอาร์วี) โฉมไมเนอร์เชนจ์ในรูปแบบ Teaser แล้ว ก็คาดว่าในไม่ช้าก็จะเปิดตัวแน่นอน รูปโฉมภายนอกมาพร้อมชุดกันชนหน้าและกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้า และไฟตัดหมอกแบบใหม่ ด้านท้ายต่างจากรุ่นปัจจุบันนิดหน่อย

เครื่องยนต์คาดว่ายังคงใช้ขนาด 1.8 ลิตร แบบเดิม แต่ไฮไลท์เด็ดที่คาดว่า (นะ) ฮอนด้า อาจจะใส่ระบบ Honda LaneWatch แบบเดียวกับในรุ่น Accord และ CR-V ที่มีมาให้ ส่วนจะมีรุ่นเครื่องยนต์ Hybrid และรุ่นใส่ชุดแต่งสปอร์ต “RS” หรือไม่ ต้องติดตาม …

Honda Accord

Honda-Accord

Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) เจนเนอเรชั่นที่ 10 มาพร้อมรูปร่างหน้าตา ที่ฉีกแนวจากเดิมหมด ดีกว่าเดิมทุกด้าน ทั้งระยะฐานล้อ 2,830 มม. (ยาวขึ้น 55 มม.) ความสูง 1,450 มม. (ลดลง 15 มม.) และความกว้างตัวรถ 1,860 มม. (กว้างกว่า 10 มม.) ไฟหน้าแบบ Full LED 9 ดวง ไฟตัดหมอกแบบ LED รวมไปถึงติดตั้งไฟท้าย LED รูปตัว C ภายในเน้นความหรูหรา แฝงอารมณ์สปอร์ต

คาดว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร Turbo 192 แรงม้า หรือเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร Turbo 252 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด คาดว่าเปิดตัวในไทย ประมาณปลายๆ ปีนี้

Ford Ranger (Minorchange) – มาแน่

Ford-Ranger

Ford Ranger (ฟอร์ด เรนเจอร์) ไมเนอร์เชนจ์ ภายนอกปรับดีไซน์กระจังหน้า พร้อมแถบโครเมียมคู่แนวนอน ไฟหน้าแบบ HID พร้อม Daytime Running Light แบบ LED ภายในมีการปรับเล็กน้อย

ในรุ่น Wildtrak เวอร์ชั่นไทยคาดว่ามีเพิ่มระบบความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และ Adaptive Cruise Control รวมถึงระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Active Park Assist โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องจับพวงมาลัย

คาดว่า Ford Ranger ใหม่ เตรียมเปิดตัวในไทยช่วงปลายปีนี้

Ford Everest (Minorchange) – มาแน่

Ford-Everest

Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) ใหม่ เตรียมเปิดตัวในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ ภายนอกปรับดีไซน์กระจังหน้า ชายล่างกันชนหน้าเล็กน้อย และล้อแม็กใหม่ ลายก้านคู่ ภายในน่ามีการปรับในหลายอย่าง บวกกับออพชั่นที่มีมาเพิ่มเติม อาทิ ระบบ Passive Keyless Entry, ปุ่ม Start-Stopเครื่องยนต์ รวมไปถึงระบบ Auto Start-Stop และระบบเบรกอัตโนมัติ (AEB) ป้องกันการชนคนเดินถนนด้านหน้า เริ่มทำงานตั้งแต่ความเร็วเกิน 3.6 กม./ชม. ขึ้นไป

เครื่องยนต์ใหม่ ที่มาแทนเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร นั่นคือ ดีเซล 2.0Bi Turbo แบบ 4 สูบ เทอร์โบคู่ ให้แรงม้าสูงสุด 213 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

ส่วนเครื่องยนต์เดิมแต่ปรับแต่งใหม่ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบเทอร์โบแปรผัน TDCI ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที (ปรับแรงม้าลงจาก 160 แรงม้า / แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

Mitsubishi Xpander

Mitsubishi-Xpander

มิตซูบิชิ เตรียมเปิดตัวยนตรกรรมชั้นนำระดับโลก Mitsubishi Xpander (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์) รถ Crossover MPV ได้พบกับตัวจริงที่ไทยอย่างแน่นอน อาจจะเป็นกลางปีนี้ หรือปลายปีนี้

Mitsubishi Xpander ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร MIVEC ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (PS) ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด มีให้เลือกเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น

MG3 – มาแน่

MG3

หลังจากที่ต้องเผชิญเสียงติชมจากลูกค้าผู้ใช้ MG3 (เอ็มจี3) มานาน สำหรับรถที่ถือว่า ขายดีสุดของ MG ในเวลานี้ …

ในวันที่ 21 มิถุนายน 2561 ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ซะที ปรับปรุงรูปร่างหน้าตา ภายนอกภายใน ใหม่หมด! รวมไปถึงเลิกใช้ระบบเกียร์ AMT เจ้าปัญหา เปลี่ยนมาเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด ชุดใหม่ ที่ขับแล้วมั่นใจได้มากขึ้นกว่าเดิม

Hyundai H-1 – มาแน่

Hyundai-H-1

Hyundai H-1 / Grand Starex (ฮุนได เฮชวัน / แกรนด์ สตาร์เร็กซ์) รุ่นปรับไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่สอง ด้านหน้าปรับโฉมต่างไปจากเดิมมาก ด้วยไฟหน้าทรงเหลี่ยม กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าใหม่ ล้อแม็กลายใหม่ โดยในรุ่น Top ใช้ชุดไฟท้ายแบบ LED และล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว ให้ความหรูหราสง่างามมากยิ่งขึ้น ภายในห้องโดยสารเปลี่ยนชุดคอนโซลหน้าใหม่หมด (ในรุ่น Grand Starex) พวงมาลัยแบบ 4 ก้าน หัวเกียร์ออกแบบใหม่ มีระบบ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว หน้าจอทัชสกรีน อยู่กึ่งกลางคอนโซล และติดตั้งระบบแอร์ดิจิตอล พร้อมระบบถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง

เวอร์ชั่นไทย เตรียมเปิดตัวในไทยประมาณช่วงงาน BIG Motor Sale 2018 ระหว่างวันที่ 18-27 สิงหาคม 2561 นี้ ซึ่งยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร เหมือนเดิม ครับ

ถูกใจแบบไหน อยากได้แบบไหน เตรียมตัวเก็บเงิน ไปรอซื้อกันได้แล้วครับ …