เช็คราคารถมือสอง Toyota Hiace / Commuter ทุกรุ่น

รถตู้รุ่นถือได้ว่า ขายดีและขายได้มากที่สุดของ Toyota นั่นคือ … Toyota Hiace (โตโยต้า ไฮเอช) และ Toyota Commuter (โตโยต้า คอมมิวเตอร์) ที่ได้รับความนิยม นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1967 ถึงปัจจุบันก็ 54 ปีพอดี ผ่านการขายมาแล้วถึง 6 เจเนอเรชั่น และยังเป็นที่นิยมของรถตู้ในบ้านเราอีกด้วย

สำหรับรถตู้ Toyota Hiace (โตโยต้า ไฮเอช) และ Toyota Commuter (โตโยต้า คอมมิวเตอร์) จัดได้ว่าเป็นรถตู้ยอดนิยมในตลาดอันดับ 1 ก็ว่าได้ มีทั้งรถตู้ขนของ รถตู้รับจ้าง รถตู้รับ-ส่ง ผู้โดยสาร ซึ่งทนทาน ซ่อมง่าย ศูนย์บริการเพียบ อะไหล่มีพร้อมทั้งของแท้ ของเทียบ ของเทียม ของเก่า ไม่ต้องห่วง

ที่นี่เรามาดูกันครับว่า เช็คราคารถมือสอง (ประจำปี 2564) Toyota Hiace (โตโยต้า ไฮเอช) และ Toyota Commuter (โตโยต้า คอมมิวเตอร์) ทาง CARRO ขอเสนอราคากลางเฉพาะรุ่น “หัวจรวด” จนถึงรุ่นก่อนรุ่นปัจจุบัน ที่ทาง Toyota เริ่มต้นขายรุ่นนี้มาตั้งแต่ปี 2532 – 2547 และ 2547 – 2562 นะครับ ไปเช็คราคากันได้เลยครับ!

Toyota Hiace โฉมปี 1989 – 2004

Toyota Hiace หัวจรวด

รุ่นปี 1989 – 1993

  • ตู้เบนซิน 2.0 ช่วงสั้น / ช่วงยาว – ตู้ดีเซล 2.4 ช่วงสั้น / ช่วงยาว ราคามือสองโดยประมาณ 30,000 – 70,000 บาท
  • Hiace ตู้ Hi-Roof ดีเซล 2.4 ราคามือสองโดยประมาณ 50,000 – 90,000 บาท

เช็คราคารถมือสอง Toyota Hiace / Commuter ทุกรุ่น

รุ่นปี 1993 – 1996

  • ตู้เบนซิน 2.0 ช่วงสั้น / ช่วงยาว – ตู้ดีเซล 2.4 ช่วงสั้น / ช่วงยาว ราคามือสองโดยประมาณ 50,000 – 100,000 บาท
  • Commuter ตู้ดีเซล 2.4 ช่วงยาว หลังคาสูง (LH125) ราคามือสองโดยประมาณ 80,000 – 150,000 บาท

เช็คราคารถมือสอง Toyota Hiace / Commuter ทุกรุ่น

รุ่นปี 1997 – 2000

  • ตู้เบนซิน 2.4 ช่วงยาว – ตู้ดีเซล 3.0 ช่วงยาว / ช่วงยาว GL ราคามือสองโดยประมาณ 60,000 – 150,000 บาท
  • Commuter ตู้ดีเซล 3.0 มาตรฐาน / หลังคาสูง ราคามือสองโดยประมาณ 90,000 – 160,000 บาท
  • Super Wagon ตู้ดีเซล 3.0 ช่วงสั้น ราคามือสองโดยประมาณ 100,000 – 150,000 บาท
  • Super Custom ตู้ดีเซล 3.0 ช่วงยาว ราคามือสองโดยประมาณ 100,000 – 150,000 บาท

เช็คราคารถมือสอง Toyota Hiace / Commuter ทุกรุ่น

รุ่นปี 2001 – 2004

  • ตู้เบนซิน 2.4 ช่วงยาว – ตู้ดีเซล 3.0 ช่วงยาว / ช่วงยาว GL ราคามือสองโดยประมาณ -100,000 – 180,000 บาท
  • Commuter ตู้ดีเซล 3.0 มาตรฐาน / หลังคาสูง ราคามือสองโดยประมาณ 120,000 – 180,000 บาท
  • Super Wagon ตู้เบนซิน 2.5 ราคามือสองโดยประมาณ 120,000 – 180,000 บาท
  • Grand Wagon ตู้เบนซิน 2.5 ราคามือสองโดยประมาณ 120,000 – 190,000 บาท

Toyota Hiace / Commuter โฉมปี 2004 – 2019

เช็คราคารถมือสอง Toyota Hiace / Commuter ทุกรุ่น

รุ่นปี 2004 – 2006 (Hiace / Commuter ประกอบในญี่ปุ่น)

  • ดีเซล 2.5 Eco ตู้ทึบ / ดีเซล 2.5 Eco / ดีเซล 2.5 GL ราคามือสองโดยประมาณ 300,000 – 500,000 บาท
  • Commuter ดีเซล 2.5 หลังคาสูง ราคามือสองโดยประมาณ 300,000 – 600,000 บาท

เช็คราคารถมือสอง Toyota Hiace / Commuter / Ventury ทุกรุ่น

รุ่นปี 2006 – 2011 (Hiace ประกอบในมาเลเซีย)

  • ดีเซล 2.5 Eco ตู้ทึบ / ดีเซล 2.5 Eco / ดีเซล 2.5 GL ราคามือสองโดยประมาณ 350,000 – 500,000 บาท
  • Commuter ดีเซล 2.5 หลังคาสูง ราคามือสองโดยประมาณ 300,000 – 550,000 บาท
  • Ventury เบนซิน 2.7 V / G ราคามือสองโดยประมาณ 250,000 – 500,000 บาท
  • Ventury Majesty เบนซิน 2.7 ราคามือสองโดยประมาณ 380,000 – 550,000 บาท

เช็คราคารถมือสอง Toyota Hiace / Commuter / Ventury ทุกรุ่น

รุ่นปี 2012 – 2015 (Commuter ประกอบในไทย)

  • ดีเซล 2.5 Eco ตู้ทึบ / ดีเซล 2.5 Eco / ดีเซล 2.5 GL ราคามือสองโดยประมาณ 350,000 – 550,000 บาท
  • Commuter ดีเซล 3.0 หลังคาสูง ราคามือสองโดยประมาณ 300,000 – 760,000 บาท
  • Ventury เบนซิน 2.7 V / G ราคามือสองโดยประมาณ 480,000 – 730,000 บาท

เช็คราคารถมือสอง Toyota Hiace / Commuter / Ventury ทุกรุ่น

รุ่นปี 2015 – 2019

  • ดีเซล 3.0 Eco ตู้ทึบ ราคามือสองโดยประมาณ 400,000 – 550,000 บาท
  • Commuter ดีเซล 3.0 M/T – A/T หลังคาสูง ราคามือสองโดยประมาณ 500,000 – 900,000 บาท
  • Ventury เบนซิน 2.7 G – ดีเซล 3.0 V / G ราคามือสองโดยประมาณ 450,000 – 890,000 บาท

Toyota-Commuter-2019

Toyota Hiace / Commuter โฉมปี 2019 – ปัจจุบัน

  • ราคามือสองโดยประมาณ 920,000 – 1,050,000 บาท

หมายเหตุ:

ราคานี้ เป็นราคาต่ำสุด – สุดสุด โดยประมาณ ตรวจสอบ ณ เดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งตามหลักแล้ว ราคาประเมิน ราคารับซื้อจากผู้ประกอบการรถมือสอง อาจจะต่ำกว่านี้ หรือสูงกว่านี้ ก็ได้ ซึ่งแตกต่างไปตามคุณลักษณะของสภาพรถ ปีที่ออกรถ ปีที่จดทะเบียน หรืออุปกรณ์ตกแต่งที่มี รวมไปถึงพื้นที่ในการขายรถของแต่ละภูมิภาค และรุ่นย่อยในแต่ละรุ่น ซึ่งมีผลต่อค่าเฉลี่ยของราคารถมือสอง

ใครที่กำลังอยากได้รถตู้ Toyota Hiace (โตโยต้า ไฮเอช) หรือ Toyota Commuter (โตโยต้า คอมมิวเตอร์) รุ่นไหนอยู่ในใจ ลองคำนวณงบประมาณที่ตัวเองมี คำนวณเงินผ่อนและอัตราดอกเบี้ย ก่อนซื้อนะครับ จะได้ขับรถใช้งานได้อย่างมีความสุข และไม่กระทบเรื่องเงินในกระเป๋าตังค์ …

แต่ถ้าเงินไม่พอ! เอารถคันเดิมของคุณมาขายที่ CARRO สิ ได้ราคาดี พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

4/10/2018

เช็คราคารถมือสอง Honda Civic FC และ Civic Hatchback FK ทุกรุ่น

รถยอดนิยมของคนวัยเพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ ไปจนถึงวัยกลางคนที่ชื่นชอบรถสปอร์ดซีดาน หรือสปอร์ตแฮทช์แบค คงต้องยกให้ Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ในรหัส “FC” และ Honda Civic Hatchback (ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบค) ในรหัส “FK” เพราะมียอดขายสะสมทะลุ 100,000 คัน กับกระแสความนิยมอย่างต่อเนื่องในฐานะผู้นำตลาดรถ Compact 4 ปีซ้อน

ซึ่ง Honda Civic ของทั้ง 2 โฉมนี้ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว สมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจทั้งเครื่องยนต์ Turbo ขนาด 1.5 ลิตร 173 แรงม้า ที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม มั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) และภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย

หากใครที่อยากขายรถคันเดิม เพื่อไปถอย Honda Civic FC และ Civic Hatchback FK มือสอง แบบได้เงินเร็วไว ไม่ต้องเสียเวลาประเมินราคาขายเอง หรือต้องรอจนกว่าจะมีคนมาซื้อรถได้ CARRO ขอแนะนำ CARRO Express เรารับซื้อรถทุกแบบ ได้ที่ Link นี้เลยจ้า https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถอีกครั้ง สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

Honda-Civic-Hatchback

Honda Civic FC โฉมปี 2016 – ปัจจุบัน

  • 1.8 E / EL / Turbo / Turbo RS MY2016 ราคามือสองโดยประมาณ 520,000 – 750,000 บาท
  • 1.8 E / EL / Turbo / Turbo RS MY2017 ราคามือสองโดยประมาณ 530,000 – 760,000 บาท

ปี 2017 เพิ่มสีแดงแรลลี่

  • 1.8 E / EL / Turbo / Turbo RS MY2018 ราคามือสองโดยประมาณ 590,000 – 800,000 บาท

ปี 2018 เพิ่มระบบ Honda Sensing และสีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (Brilliant Sporty Blue)

  • 1.8 E / EL / Turbo / Turbo RS MY2019 ราคามือสองโดยประมาณ 600,000 – 900,000 บาท

ปี 2020 เพิ่มสีแดงอิกไนต์ (Ignite Red)

  • 1.8 E / EL / Turbo / Turbo RS MY2020 ราคามือสองโดยประมาณ 700,000 – 950,000 บาท

Honda-Civic-Hatchback-MY2020

Honda City Hatchback FK โฉมปี 2017 – ปัจจุบัน

  • Turbo MY2017 ราคามือสองโดยประมาณ 780,000 – 900,000 บาท

ปี 2018 เพิ่มสีแดงแรลลี่

  • Turbo MY2018 ราคามือสองโดยประมาณ 840,000 – 900,000 บาท

ปี 2019 เพิ่มระบบ Honda Sensing และสีเทาโซนิค (มุก)

  • Turbo MY2019 ราคามือสองโดยประมาณ 850,000 – 950,000 บาท
  • Turbo MY2020 ราคามือสองโดยประมาณ 880,000 – 1,000,000 บาท

หมายเหตุ:

ราคานี้ เป็นราคาต่ำสุด – สุดสุด โดยประมาณ ตรวจสอบ ณ เดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งตามหลักแล้ว ราคาประเมิน ราคารับซื้อจากผู้ประกอบการรถมือสอง อาจจะต่ำกว่านี้ หรือสูงกว่านี้ ก็ได้ ซึ่งแตกต่างไปตามคุณลักษณะของสภาพรถ ปีที่ออกรถ ปีที่จดทะเบียน หรืออุปกรณ์ตกแต่งที่มี รวมไปถึงพื้นที่ในการขายรถของแต่ละภูมิภาค และรุ่นย่อยในแต่ละรุ่น ซึ่งมีผลต่อค่าเฉลี่ยของราคารถมือสอง

ใครที่กำลังอยากได้ Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) รุ่นไหนอยู่ในใจ ลองคำนวณงบประมาณที่ตัวเองมี คำนวณเงินผ่อนและอัตราดอกเบี้ย ก่อนซื้อนะครับ จะได้ขับรถไปไหนมาไหน อย่างมีความสุข และไม่กระทบเรื่องเงินในกระเป๋าตังค์ … แต่ถ้าเงินไม่พอ! เอารถคันเดิมของคุณมาขายที่ CARRO สิ ได้ราคาดี พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

เช็คราคารถมือสอง Toyota Fortuner

รถยนต์อเนกประสงค์ที่ขายดีมากๆ อีกรุ่นหนึ่งของโตโยต้า นั่นคือ “Toyota Fortuner” (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2548 ของโครงการ IMV: Innovative International Multi-Purpose Vehicle ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้รถยนต์อย่างล้นหลาม ยอดจองมากมาย อีกทั้งความทนทาน อะไหล่หาง่าย ซื้อง่ายขายคล่อง ราคามือสองไม่ตกมาก Fortuner ยังคงเป็นผู้นำตลาดรถอเนกประสงค์ ประเภท PPV ในประเทศไทย และยังเป็นรถยอดฮิตในตลาดต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันขายมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 แล้ว

ย้อนไปเวลานั้น … หลายคนอาจจะซื้อรุ่นนี้ ในตอนที่ยังเป็นรถป้ายแดงไม่ไหว เนื่องจากมีราคาอยู่ที่ประมาณหนึ่งล้านกว่าบาทได้ ก็ต้องมามองหารถมือสองดู เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า และสามารถนำเงินไปต่อยอดทำธุรกิจ หรือจับจ่ายใช้สอยอย่างอื่นได้ อีกทั้งเวลาขายต่อก็ไม่ขาดทุนมาก เนื่องจากเป็นรถที่คนนิยมอยู่แล้ว แม้ว่าจะเป็นรถที่หลายคนมักบอกว่าไฟหน้าชอบแยงตารถคันอื่นก็ตาม เพราะตัวรถสูงนั่นเอง ฮ่า ฮ่า

ที่นี้เรามาดูกันครับว่า เช็คราคารถมือสอง Toyota Fortuner (ประจำปี 2564) ตอนนี้ มีราคาในท้องตลาดที่ประมาณเท่าใดบ้าง? ไปเช็คราคากันได้เลยครับ

Toyota Fortuner โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์

Toyota Fortuner โฉมปี 2004 (ปลายปี) – 2008

  • 2.7 V 2WD / 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 300,000 – 400,000 บาท
  • 3.0 V 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 380,000 – 500,000 บาท
  • 3.0 V 4WD Exclusive (ปี 2005-2006) ราคามือสองโดยประมาณ 400,000 – 500,000 บาท
  • 3.0 V 4WD Smart (ปี 2006-2007) ราคามือสองโดยประมาณ 430,000 – 500,000 บาท
  • 3.0 G 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 370,000 – 420,000 บาท

Toyota Fortuner โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์

Toyota Fortuner โฉมปี 2008 – 2011

  • 2.5 G 2WD / 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 580,000 – 730,000 บาท
  • 2.7 V 2WD / 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 495,000 – 780,000 บาท
  • 3.0 V 2WD / 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 590,000 – 950,000 บาท
  • 3.0 G 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 600,000 – 800,000 บาท
  • 3.0 V 2WD Aperto (ปี 2009) ราคามือสองโดยประมาณ 680,000 – 750,000 บาท
  • 3.0 V 2WD Aperto II ปี 2010) ราคามือสองโดยประมาณ 750,000 – 850,000 บาท
  • 3.0 V 4WD TRD Sportivo I / II (ปี 2009-2010) ราคามือสองโดยประมาณ 625,000 – 800,000 บาท

Toyota Fortuner โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์

Toyota Fortuner โฉมปี 2011 – 2015

  • 2.5 G 2WD / 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 540,000 – 650,000 บาท
  • 2.5 V 2WD / 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 580,000 – 700,000 บาท
  • 2.7 V 2WD / 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 450,000 – 600,000 บาท
  • 3.0 V 2WD / 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 570,000 – 760,000 บาท
  • 3.0 V 2WD 50 ปี โตโยต้า (ปี 2012) ราคามือสองโดยประมาณ 570,000 – 700,000 บาท
  • 3.0 V 4WD TRD Sportivo (ปี 2012 – 2015) ราคามือสองโดยประมาณ 680,000 – 850,000 บาท

Toyota Fortuner โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์

Toyota Fortuner โฉมปี 2015 – 2020

  • 2.4 G MT 2WD ราคามือสองโดยประมาณ 780,000 – 1,000,000 บาท
  • 2.4 V 2WD ราคามือสองโดยประมาณ 850,000 – 1,150,000 บาท
  • 2.7 V 2WD ราคามือสองโดยประมาณ 870,000 – 1,150,000 บาท
  • 2.8 V 2WD ราคามือสองโดยประมาณ 870,000 – 1,250,000 บาท
  • 2.8 V 4WD ราคามือสองโดยประมาณ 880,000 – 1,250,000 บาท
  • 2.8 V 4WD TRD Sportivo ราคามือสองโดยประมาณ 1,050,000 – 1,450,000 บาท

Toyota-Fortuner-Legender

Toyota Fortuner โฉมปี 2020 – ปัจจุบัน

  • ราคามือสองโดยประมาณ 1,100,000 – 1,450,000 บาท

หมายเหตุ:

ราคานี้ เป็นราคาต่ำสุด – สุดสุด โดยประมาณ ตรวจสอบ ณ เดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งตามหลักแล้ว ราคาประเมิน ราคารับซื้อจากผู้ประกอบการรถมือสอง อาจจะต่ำกว่านี้ หรือสูงกว่านี้ ก็ได้ ซึ่งแตกต่างไปตามคุณลักษณะของสภาพรถ ปีที่ออกรถ ปีที่จดทะเบียน หรืออุปกรณ์ตกแต่งที่มี รวมไปถึงพื้นที่ในการขายรถของแต่ละภูมิภาค และรุ่นย่อยในแต่ละรุ่น ซึ่งมีผลต่อค่าเฉลี่ยของราคารถมือสอง

ใครที่กำลังอยากได้ Toyota Fortuner (โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์) รุ่นไหนอยู่ในใจ ลองคำนวณงบประมาณที่ตัวเองมี คำนวณเงินผ่อนและอัตราดอกเบี้ย ก่อนซื้อนะครับ จะได้ขับรถไปไหนมาไหนอย่างมีความสุข และไม่กระทบเรื่องเงินในกระเป๋าตังค์ แต่ถ้าเงินไม่พอ! เอารถคันเดิมของคุณมาขายที่ CARRO สิ ได้ราคาดี พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

เช็คราคารถมือสอง Honda City ทุกรุ่น

รถยนต์นั่งในรูปแบบ Sub-Compact ยอดนิยมที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของ Honda นั่นคือ … Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) ที่ได้รับความนิยม นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2539 ถึงปัจจุบันล่วงเข้า 25 ปีละ ผ่านการขายมาแล้วถึง 5 เจเนอเรชั่น เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ยอดขายของ Honda City นั้นมีมากมายขนาดไหน

แถมยังเป็นรถที่คนเล่นรถมือสอง นิยมซื้อมาใช้ในหลากหลายภารกิจ ตั้งแต่ใช้งานในเมือง ขับรถไปส่งลูก ส่งของ ทำธุระ หรือจะใช้ขับออกต่างจังหวัดก็ได้ เป็นรถที่จัดว่าทนทานในระดับหนึ่ง ช่วงล่างใช้ได้ ศูนย์บริการเพียบ อะไหล่มีพร้อมทั้งของแท้ ของเทียบ ของเทียม ของเก่า ไม่ต้องห่วง

หากใครที่อยากขายรถคันเดิม เพื่อไปซื้อ Honda City มือสอง แบบได้เงินเร็วไว ไม่ต้องเสียเวลาประเมินราคาขายเอง หรือต้องรอจนกว่าจะมีคนมาซื้อรถได้ CARRO ขอแนะนำ CARRO Express เรารับซื้อรถทุกแบบ ได้ที่ Link นี้เลยจ้า https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถอีกครั้ง สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

ที่นี่เรามาดูกันครับว่า เช็คราคารถมือสอง Honda City (ประจำปี 2564) ตอนนี้ อยู่ในตลาดรถมือสอง ประมาณเท่าใดบ้าง? ไปเช็คราคากันได้เลยครับ

Honda-City-Gen-1-1

Honda City โฉมปี 1996 – 2002

รุ่นเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร ปี 1996-1999 (นับรวม City S ที่ออกมาในปี 1997 ด้วย)

  • 1.3 Li / LXi / EXi ราคามือสองโดยประมาณ 30,000 – 50,000 บาท

เพิ่มรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ในปี 1997

  • 1.5 R ใส่ชุดแต่งทั้งคัน (ปี 1997) ไม่พบการซื้อ-ขาย รุ่นนี้ ในท้องตลาด

รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ทุกรุ่นย่อย ปรับเป็นรุ่น “Limited” (เพิ่มกุญแจรีโมท / พนักเท้าแขน / ไฟเบรกดวงที่ 3 / แผ่นรองป้ายทะเบียนโครเมียม / คิ้วบันไดสแตนเลส) ในปี 1998

  • 1.5 LXi / EXi / EXi Airbag / LXi-S / EXi-S ราคามือสองโดยประมาณ 35,000 – 50,000 บาท

ปี 1999 ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เป็น “City Type Z” + เครื่องยนต์ VTEC LEV

  • 1.5 Li / EXi MT – AT / VTi MT – AT / 1.5 VTi AT (AS = ABS / Airbag) ราคามือสองโดยประมาณ 45,000 – 70,000 บาท
  • รุ่น Millennium (ปี 2000) ราคามือสองโดยประมาณ 50,000 – 70,000 บาท
  • 1.5 LXi (ปี 2001) ราคามือสองโดยประมาณ 60,000 – 80,000 บาท
  • รุ่น Smart เพิ่มเครื่องเสียงชุดใหญ่จาก KENWOOD และสัญญาณกันขโมย (ปี 2001) 1.5 EXi MT – AT / VTi MT – AT / 1.5 VTi AT (AS = ABS / Airbag) ราคามือสองโดยประมาณ 60,000 – 80,000 บาท

Honda-City-Gen-2

Honda City โฉมปี 2002 – 2009

ปี 2002 เครื่องยนต์ i-DSi

  • 1.5 A MT / AT / (AS), 1.5 S MT / AT (AS) และ 1.5 E MT / AT (AS) ราคามือสองโดยประมาณ 55,000 – 90,000 บาท

ปี 2004 เพิ่มเครื่องยนต์ VTEC

  • 1.5 A MT / AT / (AS), 1.5 S MT / AT / (AS) และ 1.5 E MT / AT (AS) ราคามือสองโดยประมาณ 70,000 – 130,000 บาท
  • 1.5 E-V MT (AS) / AT (AS) ราคามือสองโดยประมาณ 90,000 – 130,000 บาท
  • 1.5 Sports E-V MT / AT (AS) ราคามือสองโดยประมาณ 100,000 – 130,000 บาท

ปี 2005 ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เป็น “City ZX”

  • 1.5 A (เครื่อง i-DSi) MT / AT, 1.5 V MT / AT / AT (AS), 1.5 SV MT / AT / AT (AS) และ 1.5 EV AT (AS) ราคามือสองโดยประมาณ 90,000 – 150,000 บาท
  • 1.5 LV (เบาะหนังแท้) AT (AS) (ปี 2006) ราคามือสองโดยประมาณ 130,000 – 150,000 บาท

Honda-City-Gen-3

Honda City โฉมปี 2009 – 2014

*รวมรุ่นปี 2011 เปิดตัวรุ่น Minorchange

  • 1.5 S MT / AT ราคามือสองโดยประมาณ 200,000 – 300,000 บาท
  • 1.5 V AT / AT (AS) ราคามือสองโดยประมาณ 210,000 – 350,000 บาท
  • 1.5 SV AT (SRS) ราคามือสองโดยประมาณ 230,000 – 360,000 บาท
  • 1.5 V Society AT / AT (SRS) (ปี 2011) ราคามือสองโดยประมาณ 220,000 – 300,000 บาท
  • 1.5 V Modulo AT (ปี 2012) ราคามือสองโดยประมาณ 260,000 – 320,000 บาท
  • 1.5 V Wise Edition AT / AT (AS) ราคามือสองโดยประมาณ 260,000 – 320,000 บาท
  • 1.5 SV AT (VSA) (ปี 2013) ราคามือสองโดยประมาณ 270,000 – 360,000 บาท

ปี 2012 เปิดตัวรุ่น CNG

  • 1.5 S CNG AT ราคามือสองโดยประมาณ 260,000 – 290,000 บาท
  • 1.5 V CNG AT ราคามือสองโดยประมาณ 270,000 – 320,000 บาท

Honda-City-Carro-Express

Honda City โฉมปี 2014 – 2019

  • 1.5 S MT / AT ราคามือสองโดยประมาณ 300,000 – 450,000 บาท
  • 1.5 V CVT ราคามือสองโดยประมาณ 340,000 – 470,000 บาท
  • 1.5 V+ CVT ราคามือสองโดยประมาณ 360,000 – 490,000 บาท
  • 1.5 SV CVT ราคามือสองโดยประมาณ 370,000 – 500,000 บาท
  • 1.5 SV+ CVT ราคามือสองโดยประมาณ 380,000 – 500,000 บาท

ปี 2014 เปิดตัวรุ่น CNG

  • 1.5 S CNG AT ราคามือสองโดยประมาณ 290,000 – 370,000 บาท
  • 1.5 V CNG AT ราคามือสองโดยประมาณ 310,000 – 490,000 บาท

ปี 2017 เปิดตัวรุ่น Minorchange

  • 1.5 S MT / AT ราคามือสองโดยประมาณ 380,000 – 460,000 บาท
  • 1.5 V CVT ราคามือสองโดยประมาณ 400,000 – 480,000 บาท
  • 1.5 V+ CVT ราคามือสองโดยประมาณ 430,000 – 500,000 บาท
  • 1.5 SV CVT ราคามือสองโดยประมาณ 450,000 – 530,000 บาท
  • 1.5 SV+ CVT ราคามือสองโดยประมาณ 470,000 – 580,000 บาท

All-New-Honda-City-RS-2020

Honda City โฉมปี 2020 – ปัจจุบัน

  • ราคามือสองโดยประมาณ 490,000 – 650,000 บาท

หมายเหตุ:

ราคานี้ เป็นราคาต่ำสุด – สุดสุด โดยประมาณ ตรวจสอบ ณ เดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งตามหลักแล้ว ราคาประเมิน ราคารับซื้อจากผู้ประกอบการรถมือสอง อาจจะต่ำกว่านี้ หรือสูงกว่านี้ ก็ได้ ซึ่งแตกต่างไปตามคุณลักษณะของสภาพรถ ปีที่ออกรถ ปีที่จดทะเบียน หรืออุปกรณ์ตกแต่งที่มี รวมไปถึงพื้นที่ในการขายรถของแต่ละภูมิภาค และรุ่นย่อยในแต่ละรุ่น ซึ่งมีผลต่อค่าเฉลี่ยของราคารถมือสอง

ใครที่กำลังอยากได้ Honda City (ฮอนด้า ซิตี้) รุ่นไหนอยู่ในใจ ลองคำนวณงบประมาณที่ตัวเองมี คำนวณเงินผ่อนและอัตราดอกเบี้ย ก่อนซื้อนะครับ จะได้ขับรถไปไหนมาไหน อย่างมีความสุข และไม่กระทบเรื่องเงินในกระเป๋าตังค์ แต่ถ้าเงินไม่พอ! เอารถคันเดิมของคุณมาขายที่ CARRO สิ ได้ราคาดี พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

5 List เตรียมพร้อมก่อนขายรถ คนจะขายรถคันเดิมต้องอ่าน!

ก่อนลงขายรถ เตรียมตัวง่ายๆ ด้วยวิธีการเหล่านี้

Washing-Car-And-Hot-Brakes

1. ล้างรถ

คุณควรทำให้สภาพรถดูดี และสมบูรณ์ เพราะผู้ซื้อรถมือสองทุกคนก็อยากได้รถที่มีสภาพใหม่ เป็นรถที่สภาพพร้อมใช้งาน ดังนั้นคุณก็ควรที่จะนำไปตรวจสภาพตัวรถทั้งภายนอกภายใน ส่วนประกอบต่างๆ ของเครื่องยนต์ รวมไปถึงเปลี่ยนถ่ายของเหลวต่างๆ อีกทั้งทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายในรถ ให้ดูสะอาด แค่นี้รถคุณก็จะเป็นที่น่าสนใจมากแล้วค่ะ

2. เช็คราคา

ก่อนที่คุณจะลงขายรถ ควรเช็คราคากลางของรถเสียก่อน โดยเช็กจากเว็บไซต์ขายรถยนต์มือสองเช่น เว็บ CARRO เพื่อเปรียบเทียบกับรถรุ่นเดียวกัน ปีเดียวกัน ของคันอื่นๆ ว่าตั้งราคาไว้กันประมาณเท่าไหร่ หรืออาจใช้วิธีเอารถเข้าไปเต็นท์รถเพื่อตีราคา (ถ้าคุณไม่อยากเสียเงินกับค่าประเมินราคารถ สามารถส่งรูปรถมาให้ CARRO ตีราคาก่อนได้ Free!) ซึ่งถ้าเป็นรถตลาด สภาพดี และเป็นสีที่ได้รับความนิยม เช่น สีชาว สีบรอนซ์ สีทอง ใช้เวลาไม่นาน ก็ขายได้แน่นอน

การตั้งราคาโดยประมาณ ซึ่งตามหลักแล้ว ราคาที่ตั้งไว้อาจจะมีต่ำกว่านี้ หรือสูงกว่านี้ก็ได้ ราคามือสองจะแตกต่างไปตามคุณลักษณะของสภาพรถ ปีที่ออกรถ ปีที่จดทะเบียน หรืออุปกรณ์ตกแต่งที่มี รวมไปถึงพื้นที่ในการขายรถของแต่ละภาค และรุ่นย่อยในแต่ละรุ่น ซึ่งมีผลต่อค่าเฉลี่ยของราคารถมือสอง

และจะมีค่าเสื่อมราคาของรถยนต์ ที่ลดลงทุกปีตามอายุของรถ โดยราคาตกลงมาสุดเลยจริงๆ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1-3 หมื่นบาท/คัน (ยกเว้นประเภทรถรุ่นหายากๆ หรือรถที่นิยมเล่นกันเฉพาะกลุ่ม ราคาอาจจะคงที่ต่อเนื่องหลายปี ถึงราคาตกแต่ไม่ตกมากนัก เป็นต้น)

3. ข้อมูลรถ

คุณควรจะบอกตามสภาพรถจริง ว่าตรงไหนดี ตรงไหนชำรุด มีชนมาบ้างหรือไม่ วิ่งมามากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ผู้ซื้อจะได้สบายใจในระดับนึง และที่สำคัญเลยข้อมูลของรถ เช่น ยี่ห้อ รุ่นย่อย ปี และรถยังติดไฟแนนซ์อยู่ไหม? ติดอยู่เท่าไร พอผู้ซื้อถามจะได้ตอบได้ถูกต้องอย่างครบถ้วนค่ะ ทำให้การดำเนินการซื้อขายรถเป็นไปอย่างรวดเร็ว (ถ้าคุณไม่ทราบว่ารถของคุณเป็นรุ่นย่อย หรือปีอะไร สามารถดูในเล่มทะเบียนค่ะ)

ต่อทะเบียนรถ ภาษีขาดเกิน 3 ปี

4. เอกสาร

คุณควรเตรียมเอกสารสำคัญเพื่อให้กับผู้ซื้อได้มั่นใจว่าเป็นรถถูกกฎหมาย เช่น มีเล่มทะเบียนที่ถูกต้อง (ถ้ากรณียังผ่อนไม่หมดสามารถใช้สำเนาเล่มทะเบียนแทนได้ค่ะ) พรบ., เอกสารประกันภัยรถยนต์,ภาษีรถยนต์ประจำปี แต่ถ้าภาษีรถขาด ก็ควรบอกให้ผู้ซื้อได้รับรู้  (ถ้าขาดต่อเกิน 3 ปี คาร์โร มีวิธีมาแนะนำ คลิก)

ซึ่งเอกสารของคุณที่ต้องเตรียมไป ได้แก่

  • สำเนาบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ (เพื่อจะได้โอนรถไปยังเจ้าของใหม่ได้)
  • สำเนาทะเบียนบ้าน และสุดท้าย ต้องมีเอกสารการโอนรถให้ผู้ซื้ออย่างถูกต้อง (ซึ่งถ้าเป็นส่วนนี้ CARRO จะเตรียมพร้อมให้กับผู้ลงขายรถทุกท่านค่ะ)

New-MG-ZS-2020

5. ถ่ายรูป

เมื่อคุณทำความสะอาดรถเรียบร้อย และเคลียร์ของที่ไม่จำเป็นออกนอกรถ ก็เตรียมหามุมสวยๆ ถ่ายรูปรถ เพราะรูปภาพที่ได้องค์ประกอบดี มุมต่างๆ ดูสมส่วนและสวยงาม ย่อมทำให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ใครถ่ายรูปไม่สวยอาจกังวล ไปดูวิธีง่ายๆ ถ่ายรูปรถให้สวย คลิก > https://goo.gl/rQkFYJ

สำหรับใครที่อยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai ค่ะ

ลงขายรถ รถมือสอง

โพสต์ขายรถบ้าน รถมือสองออนไลน์ ฟรี !!

การใช้ชีวิตประจำวันของคนในยุคปัจจุบัน คงเรียกได้ว่าเป็นยุคที่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตค่อยข้างมีอิทธิพลอย่างมาก โดยหลาย ๆ อย่างมักทำผ่านระบบออนไลน์เพื่อความสะดวก สบาย และรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน การชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หรือการสร้างรายได้ แม้กระทั่งการขายรถมือสองผ่านเว็ปไซต์ออนไลน์

ถ้าพูดถึงการขายรถมือสองผ่านระบบออนไลน์ หลายคนคงเลือกขายรถผ่านเว็บไซต์รถมือสองออนไลน์เจ้าดัง ๆ เพราะมีผู้คนมาเยี่ยมชมรถจำนวนมาก ทำให้โอกาสในการขายรถออกเร็ว ๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องไปฝากขายกับเต็นท์ให้เสียเวลา

ซึ่ง เว็บไซต์คาร์โร คือหนึ่งในเว็บไซต์รถมือสองคุณภาพในเมืองไทย โดยก่อนหน้านี้ระบบของเราประสบความสำเร็จอย่างมากมาแล้วจากประเทศสิงคโปร์ คุณจึงมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ขายรถมือสองของคาร์โร มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ระบบความปลอดภัยสูง จนเปรียบเสมือนเป็น Hero สำหรับเรื่องรถยนต์ของคุณ

ด้วยระบบที่ใช้งานง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ทำให้คุณสามารถโพสต์ลงขายรถได้อย่างรวดเร็วภายใน 30 วินาที หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อย ต่อจากนั้นรถของคุณจะขึ้นระบบในทันที อีกทั้งคุณสามารถมาแก้ไขข้อมูลรถได้ตลอดเวลา ที่สำคัญเว็บไซต์คาร์โรของเราให้ใช้บริการฟรี ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่น ๆ อย่างแน่นอน และข้อดีของการโพสต์ขายรถมือสองออนไลน์ คือ คุณสามารถตั้งราคาขายตามที่ต้องการอีกด้วย

 

โดยขั้นตอนการโพสต์ขายรถออนไลน์ ง่าย ๆ ดังนี้

1 คลิก ลงขายออนไลน์

รถมือสอง

2 ลงทะเบียนครั้งแรกด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ หลังจากนั้นจะมี sms ส่งรหัสเพื่อความปลอดภัย เมื่อคุณได้รหัสแล้วให้กรอกลงไป เป็นการลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งหลังจากนี้คุณสามารถเข้าระบบได้ด้วยหมายเลขโทรศัพท์

รถมือสอง

3 กรอกข้อมูลการติดต่อที่สะดวกที่สุด

รถมือสอง

4 คลิกปุ่ม ลงขายรถ และกรอกข้อมูลรถทั้งหมด

รถมือสอง

5 อัพโหลดรูปภาพรถ ( ตัวอย่าง รูปที่ดีเพิ่มโอกาสในการขาย คือ รูปรถเฉียงหน้าซ้าย-ขวา, เฉียงหลังซ้าย-ขวา,แผงหน้าปัทม์ (dashboard+console), เบาะนั่งคู่หน้า-หลัง, เล่มทะเบียนหรือสำเนาเล่มทะเบียน , กุญแจ ฯลฯ )

รถมือสอง

6 เสร็จเรียบร้อย เหลือแค่รออนุมัติจากทาง คาร์โร  รถของคุณก็จะขึ้นระบบทันที ! ( ไม่ต้องกังวลว่าจะรออนุมัตินาน ทางเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลระบบตลอดเวลาทำการ )

รถมือสอง

7 หากคุณมีรถมือสองที่อยากจะขายอีก สามารถคลิก ลงขายรถเพิ่ม

รถมือสอง

ส่วนถ้าไม่แน่ใจว่าคุณต้องการจะขายราคาเท่าไหร่ หรืออยากทราบราคาตลาดรถขณะนั้น สามารถโทรมาสอบถามราคาได้ที่ 096-463-3298  ตลอดเวลาทำการ ชอบตรงนี้นะ อ่านแล้วน่าสนใจดี

สุดท้าย อีกหนึ่งเทคนิคที่ คาร์โร อยากจะฝากให้คุณลองทำตาม เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายรถให้ออกได้อย่างรวดเร็ว คุณต้องกรอกข้อมูลตามจริง ที่สำคัญกรอกให้ครบถ้วน และเพิ่มรายละเอียดเพื่อดึงดูดความสนใจให้คนที่เยี่ยมชมรถของคุณมีโอกาสตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น แต่ถ้าคุณรีบขายรถ อยากรู้ผลเร็ว ๆ คลิกที่นี้ > th.carro.co/sell-car/express

Motor-Expo-2017-Analysis

Motor Expo ปีนี้ มั่นใจยอดจองรถยนต์ 40,000 คัน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างต่อเนื่อง

Motor-Expo-2016

เป็นที่ทราบกันดีสำหรับคนรักรถยนต์นะครับ ว่า ในบ้านเราตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา มีงานแสดงรถยนต์ขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จัก และเป็นที่นิยมของคนที่ชอบรถต้องไปเดินเที่ยวในงานสม่ำเสมอ นั่นคืองานต้นปีอย่าง “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ของค่ายกรังด์ปรีซ์ และงานปลายปี “มหกรรมยานยนต์” ของค่ายสื่อสากล และภายหลังก็มีงานกลางปีของ “BIG Motor Sale” หรืองาน “มหกรรมยานยนต์ เพื่อขายแห่งชาติ” จากค่ายยานยนต์ …

Motor-Expo-2016

และก็ยังมีงานยิบย่อยต่างๆ ที่จัดโชว์รถยนต์กันตามห้างบ้าง หรือตามภูมิภาคต่างๆ แทบทุกเดือน ขอร่วมลงมาแบ่งเค้กก้อนนี้จากการจัดงาน Event ด้วยคน …

แต่ฉันใดก็ฉันนั้น ยามเศรษฐกิจดี เงินสะพัด ผู้คนก็กล้าที่จะจับจ่ายใช้สอย กล้าที่จะซื้อรถมือหนึ่ง แต่เมื่อยามเศรษฐกิจซบเซา การปล่อยสินเชื่อและราคาของรถใหม่ และสถานะทางการเงิน ย่อมทำให้ผู้ที่ตัดสินใจซื้อต้องคิดหนัก ตัวเลือกอย่างรถมือสองในตลาด จึงเป็นที่หมายปองและสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้นเช่นกัน …

Motor-Expo-2016

สำหรับงาน Motor Expo นั้น จาก Concept ของการจัดงานแต่แรกเริ่มในปี 2527 “มหกรรมยานยนต์” เน้นโชว์รถยนต์และเทคโนโลยีเป็นหลัก ภายหลังจึงพัฒนามาเป็นงาน Thailand International Motor Expo คือเป็นทั้งงานโชว์รถยนต์ รถต้นแบบ และนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ จากทั่วทุกมุมโลก และรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ต่างพร้อมใจกันขายรถอย่างดุเดือด จัดเต็มทั้งแคมเปญและโปรโมชั่น นับเป็นโอกาสดีของผู้บริโภคที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถยนต์ใหม่ และรถมือสอง ได้เข้ามาเลือกชมรถที่ตัวเองชอบ ได้ทดลองขับรถดูภายในงาน ก่อนจะตัดสินใจจองรถ หรือซื้อรถใหม่ภายในงาน

Motor-Expo-2017-Poster

แนวคิดของงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” คือ “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” หรือ “New Age Vehicles … A Distant Dream Come True” เพื่อให้ผู้บริโภคได้ชมยานยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่พวกเขาเคยฝันไว้ และเพื่อยืนยันว่า ทุกความฝันเป็นจริงได้ในโลกยานยนต์ …

ภายรวมของงาน Motor Expo 2016 ที่ผ่านมานั้น แม้ว่าจะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซามากของประเทศไทย แต่งานนี้ แสดงถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของอาเซียน และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในงานรวม 4.5 หมื่นล้านบาท

Pretty-Mazda

อีกทั้งการแต่งกายของพริตตี้ในงาน มีความเรียบหรู เรียบร้อยกว่าปีก่อนๆ และเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองกับวัฒนธรรมที่งดงามของไทยอีกด้วย คาดว่าในงาน Motor Expo 2017 บรรดาน้องๆ พริตตี้ ก็ยังคง Concept ของความเรียบร้อย (คือไม่แต่งตัวโป๊) ไปมากจนเกินไปเฉกเช่นปีที่ผ่านมา

Motor-Expo

ด้านยอดจองรถในงานปีที่ผ่านมาของ Motor Expo 2016 มีตัวเลขเป็นที่น่าพอใจ รถยนต์มียอดจองรวมอยู่ที่ 32,422 คัน ลดลงจากปีก่อน 17.1% เนื่องจากบ้านเมืองยังอยู่ในบรรยากาศโศกเศร้า รวมทั้งรถใหม่หลายรุ่นที่ประชาชนสนใจได้เลื่อนการเปิดตัวออกไป อย่างไรก็ตามในส่วนของรถจักรยานยนต์ สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดจองสูงถึง 7,942 คัน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ถึง 98.6 % ด้านราคาเฉลี่ยรถที่ขายได้ในงานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,177,393 บาท เนื่องจากปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคให้ความสนใจรถเก๋งหรู รถ SUV และรถกระบะ เพิ่มมากขึ้น ส่วนผู้เข้าชมงานจำนวน 1,191,718 คน ลดลง 19.3%

Motor-Expo

สำหรับในงาน Motor Expo 2017 ตลาดรถยนต์บ้านเราปีนี้จะสดใสขึ้นเหมือนฟ้าหลังฝน แต่ทางผู้จัดงานก็คาดการณ์ยอดจองรถยนต์ในงานไว้สูงถึง 40,000 คัน! และยอดจองรถจักรยานยนต์ 7,000 คัน ส่วนจำนวนผู้ชมคาดว่าจะสูงถึง 1.5 ล้านคน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท

ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงซึมๆ ทรงตัวอยู่ในขณะนี้ ก็ยังมีปัจจัยทางตรงที่ช่วยให้ตลาดรถปลายปีนี้คึกคักขึ้น อาทิ การสิ้นสุดเงื่อนไขครอบครอง 5 ปี ของผู้เข้าร่วมโครงการรถคันแรก ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่เวลานั้นยังไม่ส่งผลต่อตลาด เนื่องจากเป็นช่วงทุกข์โศกของคนไทยทั้งประเทศพอดี พอปี 2560 นี้ เจ้าของรถคันแรกที่พ้นเงื่อนไข บางส่วนก็จะมองหารถใหม่กัน และปัจจัยทางอ้อม จากราคาสินค้าเกษตรหลายอย่าง มีราคาดีขึ้น

และในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ มีรถยนต์ที่รอเปิดตัวกันอยู่หลายรุ่น ซึ่งหนักไปทางรถแนว SUV หลายรุ่นจากค่ายญี่ปุ่นและค่ายยุโรป รอให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของ เชื่อว่าจะกระตุ้นให้ยอดขายรถปลายปีนี้ คึกคักมากยิ่งขึ้น

ยอดขายรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ที่ตั้งไว้ 40,000 คัน และยอดขายรถจักรยานยนต์ 7,000 คัน คาดว่าจะทำได้ถึงเป้า … หรือไม่ ก็ต้องคอยติดตามดูกันต่อไปครับ

ไฟแนนซ์-รถมือสอง

จัดไฟแนนซ์รถบ้านมือสองด้วยตัวเองแบบง่ายๆ
ไม่ต้องมีคนค้ำประกันก็ทำได้!

ไฟแนนซ์, รถมือสอง

เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ใครหลายคนตัดสินใจควักกระเป๋านำเงินไปซื้อรถยนต์ส่วนตัวใช้ ก็เพราะความสะดวกสบาย และความเป็นส่วนตัว และทำให้รถยนต์กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตของคนไทยไปซะแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองกรุง หรือชนบท รถยนต์ส่วนก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่สามารถอำนวยความสะดวกได้ดีที่สุด

แต่เนื่องด้วยเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวอยู่ในทุกวันนี้ คนที่กำลังจะควักกระเป๋าซื้อรถใหม่ก็ต้องคิดให้ดี เพราะนอกจากในเรื่องของเศรษฐกิจ ก็ยังมีเรื่องของราคารถมือหนึ่งที่เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคนหันมานิยมรถมือสองมากกว่า เพราะรถบ้านมือสองสมัยนี้มีราคาถูกกว่า และรถบางคันก็ยังอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน

ถ้าหากคุณต้องการซื้อรถบ้านมือสองสักคัน แต่ไม่อยากซื้อเงินสด ต้องการจัดไฟแนนซ์รถมือสองก็สามารถทำได้ แต่หลายคนอาจจะกังวลว่าจะจัดไฟแนนซ์รถมือสองผ่านไหม

ซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับคนที่ต้องการจัดไฟแนนซ์ส่วนใหญ่คือเรื่องของ ‘คนค้ำประกัน’ เพราะคงไม่มีใครอยากจะมาร่วมเป็นหนี้กับคุณ เนื่องจากถ้าหากลูกหนี้มีการหนีหนี้ คนค้ำประกันจะตกเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบแทนทั้งหมด

ซึ่งอันที่จริงแล้วคุณก็สามารถจัดไฟแนนซ์รถมือสองได้โดยไม่จำเป็นต้องมีคนค้ำประกัน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้ขอจัดไฟแนนซ์รถมือสองด้วยว่าจะสามารถขอจัดไฟแนนซ์รถมือสองแบบไม่มีคนค้ำได้หรือไม่

ซึ่ง Carro เว็บไซต์ซื้อ-ขายรถมือสอง ได้เล็งเห็นถึงข้อกังวลของผู้ซื้อทั้งหลาย และได้ทำการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด มาไขข้อข้องใจให้กับผู้ที่ต้องการซื้อรถบ้านมือสอง และจัดไฟแนนซ์ด้วยตนเอง ว่าถ้าหากไม่ต้องใช้คนค้ำประกันจะสามารถทำได้หรือไม่?! และบุคคลเหล่านั้นจะต้องมีคุณสมบัติใดบ้าง

ไฟแนนซ์, รถมือสอง

  1. ประกอบอาชีพที่มั่นคง และมีรายรับสม่ำเสมอ

คุณสมบัติแรกสำหรับผู้ที่ต้องการจัดไฟแนนซ์ต้องมีคือ การประกอบอาชีพที่มั่นคง ยิ่งถ้าคุณเป็นพนักงานประจำ ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีเงินเดือนเข้าบัญชีต่อเนื่อง และสม่ำเสมอก็จะยิ่งมีเครดิต มากกว่าคนที่ประกอบอาชีพอิสระ โดยทางบริษัทไฟแนนซ์ก็จะประเมินว่าเงินเดือนคุณสูงเกินจากค่าผ่อนชำระที่จะต้องส่งในแต่ละเดือนหรือไม่ ถ้าจะให้ดีเงินเดือนของคุณควรมีจำนวนมากกว่างวดประมาณ 2-3 เท่าขึ้นไป

 

  1. หลักฐานที่แสดงถึงรายได้

ไม่ว่าจะเป็นสลิปเงินเดือนย้อนหลัง หรือว่า Statement ย้อนหลัง ก็นับว่าเป็นหลักฐานที่ทางบริษัทไฟแนนซ์จะสามารถตรวจสอบได้ว่าคุณมียอดรายรับตรงกับที่แจ้งไว้หรือเปล่า ที่สำคัญยอดเงินที่เข้าบัญชีก็ต้องมีความสม่ำเสมอ ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องใช้หลักฐานย้อนหลังประมาณ 6 เดือน

 

  1. ที่อยู่อาศัยต้องเป็นหลักแหล่ง

ในส่วนของเรื่องที่อยู่อาศัยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บริษัทไฟแนนซ์จะต้องประเมิน ยิ่งถ้าหากผู้ขอจัดไฟแนนซ์มือสองมีที่อยู่อาศัยตรงตามทะเบียนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยกับพ่อแม่ สามีภรรยา หรือเป็นบ้านของตนเอง ก็จะทำให้การจัดไฟแนนซ์รถมือสองถูกอนุมัติได้ง่ายมากกว่าการอยู่ห้องเช่า หรือบ้านเช่า

 

  1. มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี

สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับสุดท้ายที่บริษัทไฟแนนซ์รถมือสองจะต้องประเมินคือ ประวัติการชำระหนี้ หรือที่เรียกกันว่า ‘เครดิตบูโร’ (link: https://www.ncb.co.th) ยิ่งคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีมากเท่าไหร่ การอนุมัติไฟแนนซ์รถมือสองก็จะเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากใครไม่แน่ใจว่าประวัติการชำระหนี้ของคุณเป็นอย่างไร ก็สามารถไปขอได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรตามสถานที่ต่างๆ

เพียงแค่ผู้ขอจัดไฟแนนซ์รถมือสองมีคุณสมบัติเบื้องต้นตามนี้ก็จะสามารถจัดไฟแนนซ์รถมือสองโดยไม่จำเป็นต้องมีคนค้ำประกัน แต่เงื่อนไข หรือคุณสมบัติบางอย่างอาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละเงื่อนไขของบริษัทไฟแนนซ์รถมือสองที่คุณเลือก หรือถ้าหากคุณอยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับไฟแนนซ์เรื่องอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถอ่านได้ที่ (https://th.carro.co/blog2/)

แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีรถบ้านมือสองคันที่ถูกใจ ก็สามารถเข้าไปเลือกดูได้ที่ (ตลาดรถมือสอง) ที่จะมีรถบ้านมือสองสภาพดีให้เลือกมากมาย หรือคุณมีรถคันเก่าที่อยากจะขายก็สามารถนำมาขายได้ที่ Carro เช่นกัน เรามีบริการอย่าง ขายรถแบบด่วน (link: https://th.carro.co/sell-car-express) เพื่อนำเงินไปซื้อรถคันใหม่ รับรองว่าให้ราคาที่ดีที่สุด พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Facebook: Carro Thailand

 

10-Family-Secondhand-Cars

สำหรับใครหลายๆ คน ที่ตอนนี้ อาจจะเพิ่งแต่งงาน หรือกำลังเริ่มสร้างครอบครัว หรือมีลูกอยู่แล้ว 1-2 คน และกำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์มือสองซักคัน ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ดี เพื่อนำเงินส่วนที่เหลือ ไปผ่อนบ้าน หรือใช้จ่ายในครอบครัว จ่ายค่าเทอมลูก เป็นต้น (แต่คนโสดจะซื้อไปใช้ ก็ได้เช่นกันนะครับ)

MPV-Family-Car

โดยรถยนต์ที่เหมาะสมหน่อย ก็คงหนีไม่พ้นรถยนต์แนวๆ MPV ที่นั่งได้หลายคน ขนของก็ได้ ไปได้กันทั้งครอบครัว ในราคาตัวรถที่ไม่แพงจนเกินไปนัก

Toyota-Innova

MR.CARRO ขอแนะนำรถครอบครัวมือสอง 10 รุ่น 10 คัน ในราคาคุ้มค่า ในราคาไม่เกิน 400,000 บาท ที่น่าซื้อมาใช้ ให้ทุกท่านได้พิจารณากันครับ.

Toyota-Avanza

1. Toyota Avanza F600 / F650

Toyota Avanza (โตโยต้า อแวนซ่า) ถือเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง นำเข้าจากอินโดนีเซีย ชื่อรุ่นมาจากคำว่า “Avanzato” ในภาษาอิตาลี หรือ “Advance” ในภาษาอังกฤษ … ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2547 เป็นต้นมา ในรูปแบบรถยนต์นั่งแนวใหม่ “Compact Multi – Purpose Vehicle” ที่มีความคุ้มค่า ขนาดห้องโดยสารใช้แนวคิดการออกแบบ “Tall Boy” หลังคาทรงสูง รองรับผู้โดยสารในการเดินทางได้ถึง 7 คน วางตำแหน่งเบาะนั่งแบบ Flex And Fold ปรับได้อิสระ สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเบาะนั่งเพื่อบรรทุกสัมภาระ พร้อมด้วยความคล่องตัว ประหยัดน้ำมัน ทนทาน อัตราการดูแลรักษาต่ำ

Toyota-Avanza

Toyota Avanza เจเนอเรชั่นแรก มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส K3-VE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 88 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.3 กก.-ม. (120 นิวตัน-เมตร) ที่ 3,200 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด

ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2551 อัพเกรดเครื่องยนต์เป็นขนาด 1.5 ลิตร รหัส 3SZ-VE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.4 กก.-ม. (141 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด …

โดย Avanza (F600) ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) ราคาอยู่ที่ประมาณ 145,000 – 360,000 บาท

Toyota-Avanza

ส่วน Toyota Avanza ในโมเดลที่ 2 เปิดตัวไปเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2555 พลิกโฉมสู่ความเป็นสปอร์ตมากขึ้น ออกแบบใหม่หมด ทั้งภายนอกและภายใน แถมรองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่่นั่งเหมือนเดิม

Toyota-Avanza

สำหรับ Toyota Avanza ในโฉมเจเนอเรชั่นที่ 2 มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 3SZ-VE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 101 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.6 กก.-ม. (133 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,400 รอบ/นาที และสามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด …

โดย Avanza (F650) ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) อยู่ที่ประมาณ 300,000 – 550,000 บาท

Toyota-Wish

2. Toyota Wish

จากรถที่เคยนำเข้ามาโชว์ก่อนเปิดตัว Toyota Wish (โตโยต้า วิช) ในงานมอเตอร์โชว์ เมื่อเดือนเมษายน 2546 ก่อนจะเปิดจำหน่ายในบ้านเราเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 สร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดรถยนต์ในบ้านเรามาก เพราะผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยเป็นแห่งที่ 2 ของโลกต่อจากประเทศญี่ปุ่น ช่วงแรกสร้างยอดขายเป็นที่น่าพอใจ รูปทรงดูทันสมัย แม้เวลาจะผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว

มีการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2548 แต่เนื่องจากกลุ่มตลาดที่ซ้ำซ้อนกับ Toyota Innova และยอดขายที่ตกมากช่วงปลายอายุตลาด ไม่คุ้มกับการผลิต Wish ก็เลยต้องหายจากตลาดไป …

Toyota-Wish

Toyota Wish ในประเทศไทย จะมีเบาะนั่ง 6-7 ที่ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 1AZ-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 19.6 กก.-ม. (192 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด Super ECT + Sport Sequential

โดย Wish ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) ราคาอยู่ที่ประมาณ 255,000 – 480,000 บาท

Toyota-Innova

3. Toyota Innova

Toyota Innova (โตโยต้า อินโนว่า) ถูกพัฒนาขึ้นมาจากโครงการ IMV (Innovative International Multi-Purpose Vehicle) มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทของ “โตโยต้า” โดยเป็นโมเดลที่ 2 ของโตโยต้า ภายใต้โครงการ IMV ที่เปิดตัวทำตลาดในไทยเดือนตุลาคม 2547 และเป็นรถแนว MPV รุ่นที่ได้รับความนิยมในบ้านเรามาก ทั้งในกลุ่มคนที่มีครอบครัว หรือในกิจการรถแท็กซี่ก็ตาม นำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย มีทั้งแบบ 7 และ 8 ที่นั่ง …

Toyota-Innova

Toyota Innova โฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรก

ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรก ในเดือนตุลาคม 2551 และครั้งที่สองในวันที่ 7 กันยายน 2554 พร้อมกับตัดรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลออกไป

Toyota-Innova

Toyota Innova โฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่สอง

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร รหัส 1TR-FE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้แรงม้าสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 18.6 กก.-ม. (182 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2KD-FTV แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว D4-D Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 26.5 กก.-ม. (260 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

โดย Innova ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) ราคาอยู่ที่ประมาณ 230,000 – 500,000 บาท (เป็นราคาโดยประมาณ สำหรับรุ่นก่อนปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งที่ 2)

Honda-Stream

4. Honda Stream

การมาของ “Honda Stream” (ฮอนด้า สตรีม) ทำให้ตลาดรถยนต์ในกลุ่ม MPV 7 ที่นั่ง ตื่นตัวขึ้นมากกว่าเดิม ด้วยรูปทรงที่ดูสวยงาม มุมด้านข้างดูโค้งมนพริ้วไหว ใช้พื้นฐานโครงสร้างเดียวกับ Civic โดยขยายช่วงล้อและยืดฐานล้อ ให้มีขนาดห้องโดยสารใหญ่เพียงพอสำหรับนั่งได้ 7 ที่นั่ง เปิดตัวไปในบ้านเราเมื่อกันยายน 2545 โดยนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกับที่วางใน CR-V รหัส K20A แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC LEV ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.4 กก.-ม. (191 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด S-Matic

ต่อมา … เพิ่มรุ่นพิเศษ “Stream Sports Version” ใส่ชุดสเกิร์ตรอบคัน ไฟตัดหมอก และกระจังหน้าแบบใหม่

Honda-Stream

พอในปี 2547 Honda ก็ได้ปรับโฉม Stream กันอีกครั้ง … แต่การมาของ Toyota Wish ก็ทำให้ Honda Stream ยอดขายตกวูบ และในที่สุดก็เลิกขายในไทยไป หลังจากมีการเปลี่ยนโฉมใหม่ …

โดย Stream ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) อยู่ที่ประมาณ 190,000 – 360,000 บาท

Mitsubishi-Space-Wagon

5. Mitsubishi Space Wagon

ช่วงที่ตลาดรถ MPV กำลังหอมหวาน มิตซูบิชิ ก็กระโดดลงมาเล่นในตลาดนี้ในเดือนพฤศจิกายน 2547 ด้วยการส่ง “Mitsubishi Space Wagon” (มิตซูบิชิ สเปซแวกอน) เป็น Mid-Size Minivan ที่ใหญ่กว่าคู่แข่ง ชิงส่วนแบ่งการตลาด ด้วยจุดขาย 2 ส่วน คือ ภาพลักษณ์หรูหรา ราคาไม่แตกต่างหรือใกล้เคียงมากกับคู่แข่ง และจุดขายส่วนที่ 2 คือ Multi Purpose ซึ่งทำให้รถยนต์สำหรับผู้บริหาร ไม่ใช่แค่การนั่งจากที่บ้านไปที่ทำงาน แต่หมายถึงใช้รถเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มที่ ส่วนในโฉมไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550

Mitsubishi-Space-Wagon

ทั้งนี้ ชื่อ “Space Wagon” เป็นที่รู้จักและคุ้นหูคนไทยมานาน ตั้งแต่ Mitsubishi นำเข้า Space Wagon (หรือ Mitsubishi Chariot ในญี่ปุ่น) เข้ามาขาย ส่วนในต่างประเทศใช้ชื่อว่า “Grandis”

Mitsubishi-Space-Wagon

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4G69 แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว MIVEC ให้แรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.1 กก.-ม. (224 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด INVECS-II

โดย Space Wagon ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) อยู่ที่ประมาณ 299,000 – 600,000 บาท

Suzuki-APV

6. Suzuki APV

ซูซูกิ เริ่มกระโดดลงมาเล่นในตลาดรถ MPV ครั้งแรก โดยส่ง “Suzuki APV” (ซูซูกิ เอพีวี) ตัวโชว์มาก่อนในช่วงงาน Motor Expo ปี 2547 ก่อนจะวางจำหน่ายจริงในช่วงเดือนมีนาคม 2548 โดยนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งก็ได้รับความนิยมมากจากครอบครัวคนไทย เพราะนั่งได้มากถึง 8 ที่นั่ง รวมไปถึงตลาดรถแท็กซี่เองก็มีซื้อไปใช้เช่นกัน อีกทั้ง ซูซูกิ ยังนำมาดัดแปลงเป็นรถกระบะบรรทุกขนาดเล็กอย่าง “Carry” อีกด้วย และปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ในปี 2551

Suzuki-APV

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส G16A แบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 5,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.0 กก.-ม. (127 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

โดย APV ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) อยู่ที่ประมาณ 180,000 – 350,000 บาท

Suzuki-Ertiga

7. Suzuki Ertiga

Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออร์ติกา) รับช่วงสานต่อความสำเร็จต่อจากรุ่น APV พัฒนาให้ดีขึ้นในทุกมิติ เปิดตัวในบ้านเราเมื่อเดือนมีนาคม 2556 รถอเนกประสงค์แบบ MPV 7 ที่นั่ง ชูความสะดวกสบายสามารถปรับใช้งานได้หลากหลาย เจาะกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย

Suzuki-Ertiga

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.4 ลิตร รหัส K14B แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT ให้แรงม้าสูงสุด 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.3 กก.-ม. (130 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20

โดย Ertiga ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) อยู่ที่ประมาณ 340,000 – 550,000 บาท

Chevrolet-Zafira

8. Chevrolet Zafira

Chevrolet Zafira (เชฟโรเลต ซาฟิร่า) เป็นการเปิดศักราชของ GM ภายใต้บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยลงทุนตั้งโรงงานประกอบที่ จ.ระยอง และทำตลาด Zafira ด้วยแบรนด์ Chevrolet เป็นรุ่นแรก (ไม่ใช้แบรนด์ Opel ในไทยอีกต่อไป) เปิดตัวในช่วงปี 2542 เป็นรถแบบ 7 ที่นั่ง รูปทรงกะทัดรัด ภายในห้องโดยสารออกแบบหรูหรา มีเบาะนั่งแบบ Flex7 สามารถพับเก็บได้สะดวกรวดเร็ว ถือเป็นจุดเด่นของ Zafira

มีเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร รหัส Z18XE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ECOTEC ให้แรงม้าสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

Chevrolet-Zafira

และเครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตร รหัส Z22SE แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ECOTEC ให้แรงม้าสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 22.3 กก.-ม. (203 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

โดย Zafira ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) อยู่ที่ประมาณ 89,000 – 180,000 บาท

Proton-Exora

9. Proton Exora

Proton Exora (โปรตอน เอ็กซ์โซร่า) เป็นการกลับมาของ บริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด ที่หันกลับมาขายแบรนด์ “Proton” (โปรตอน) รถยนต์จากประเทศมาเลเซีย กับรถแนว MPV 7 ที่นั่ง เปิดตัวไปในเดือนพฤศจิกายน 2552 มาพร้อมรูปทรงสง่างาม หรูหรา ตั้งแต่หัวจรดท้าย ดีไซน์ตัวถังตามหลัก Aerodynamics ภายในกว้างขวาง มีแอร์สำหรับที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 ด้วย
Proton-Exora

สำหรับ Exora และ Exora Prime มาพร้อมเครื่องยนต์ Campro ขนาด 1.6 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน CPS และท่อไอดีแปรผัน VIM ให้แรงม้าสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 15.3 กก.-ม. (150 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4 สปีด … มีรุ่นติดตั้งแก๊ส LPG ให้เลือกด้วยนะ

Proton-Exora-Turbo

ในปี 2555 จึงนำเข้า Exora Turbo มาเป็นตัวเลือกในตลาดเพิ่มอีกหนึ่งแบบ มีเฉพาะรุ่น High-Line มาพร้อมเครื่องยนต์ CFE ขนาด 1.6 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 138 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 20.9 กก.-ม. (205 นิวตัน-เมตร) ที่ 2,000-4,000 รอบ/นาที

โดย Exora ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) อยู่ที่ประมาณ 185,000 – 340,000 บาท

Kia-Carens

10. KIA Carens

KIA Carens (เกีย คาเรนส์) เป็นรถรุ่นเดียวในกลุ่ม Mini MPV ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ภายในห้องโดยสารกว้างและยาว สูงโปร่ง เพียงพอกับ 7 ที่นั่ง และประหยัดน้ำมัน เป็นรถที่นำเข้าจากประเทศเกาหลีใต้ และเป็นรถมือสองที่หายากในบ้านเราอีกหนึ่งรุ่น

Kia-Carens

ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบเรียง CRDi Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 112 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 25.0 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

โดย Carens ในตลาดรถมือสอง (ปี 2561) อยู่ที่ประมาณ 180,000 – 260,000 บาท

Mr.CARRO หวังว่ารถครอบครัวมือสอง 10 รุ่น 10 คัน ในราคาคุ้มค่า ไม่เกิน 4 แสนบาท ที่นำมาเสนอนั้น น่าจะถูกใจหลายๆ คนกันนะครับ

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ สามารถขายรถคันเก่ากับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

4 จุดสำคัญของรถมือสอง ประเมินไว้อุ่นใจแน่นอน

เพราะจำนวนรถยนต์ใช้แล้วที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดมือสองก็มีมากมายซะเหลือเกิน รวมถึงหลายคนก็อาจจะไม่มีประสบการณ์ในการเลือกซื้อรถ ซึ่งเหตุผลนี้ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หลายคนเกิดความกังวลใจ จนไม่กล้าเปิดใจซื้อรถมือสองดูสักที เนื่องจากแต่เดิมคนไทยส่วนมากก็มักจะฝังใจว่ารถยนต์ใช้แล้ว มักจะเป็นรถที่สภาพไม่ดีที่นำมาย้อมแมวขายต่อ ทำให้ภาพลักษณ์ของรถยนต์ใช้แล้วดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ในความเป็นจริงแล้ว รถมือสองที่มีสภาพดีก็ยังมีอยู่จริง

ซึ่งการที่จะตามหาซื้อรถยนต์ใช้แล้วที่มีสภาพดีนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะในปัจจุบันนี้ก็มีบริษัทที่รับตรวจสภาพ หรือเช็คสภาพรถให้เลือกอยู่ไม่น้อย แต่ที่สะดวกมากสุดเห็นทีต้องยกให้กับเว็บไซต์สื่อกลางในการซื้อ-ขายรถมือสองอย่าง Carro (คาร์โร)

ซึ่งแต่เดิมทีแล้วเว็บไซต์นี้ได้มีบริการตรวจสภาพรถที่ตรวจจากโครงสร้างรถ และค่าความหนาบางของสี โดยการตรวจนี้จะบอกได้ว่ารถคันไหนบ้างที่โครงสร้างรถยังสมบูรณ์ มีความปลอดภัยในการขับขี่ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจให้ครอบคลุม และตอบโจทย์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับการตรวจสภาพ เป็นการประเมินสมรรถนะของรถว่ามีประสิทธิภาพในการขับขี่ออกถนนมากน้อยเพียงใด โดยทางเว็บไซต์จะทำการรายงานผลตามความเป็นจริง และมีใบเซอร์ให้สำหรับรถคันที่ได้รับการตรวจแล้ว โดยการประเมินสมรรถนะการขับขี่ของรถมือสองจะแบ่งออกเป็นการตรวจ 4 จุดหลักๆ คือ

เช็กรถมือสองอย่างไร

1. ตรวจภายนอก

นับว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการตรวจสอบ และเป็นการตรวจสอบที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งถ้าหากใครที่พอมีความรู้เรื่องการเช็คสภาพอยู่แล้ว ก็คงพอจะตรวจสอบได้ด้วยตนเอง แต่สำหรับคนที่ไม่ประสบการณ์ หรือไม่เชี่ยวชาญ ทางคาร์โรก็จะช่วยดูให้ตั้งแต่ ล้อรถ สปอยเลอร์ กระจกมองข้างซ้าย-ขวา ไปจนถึงการดูระยะช่องไฟระหว่างชิ้นส่วนต่าง ๆ

เช็กรถมือสองอย่างไร

2. ตรวจภายในห้องโดยสาร

เมื่อมีการตรวจภายนอก ก็ย่อมต้องมีการตรวจภายในห้องโดยสารควบคู่กันไปด้วย ซึ่งการตรวจสอบภายในห้องโดยสารนี้ ไม่ได้ตรวจแค่สภาพของวัสดุ หรืออุปกรณ์ (เช่น พรม ช่องเก็บของ ช่องวางแก้ว แผงหลังคา) เพียงเท่านั้น แต่จะตรวจสอบไปจนถึงระบบไฟฟ้าภายในรถด้วย อย่างเช่น ไฟแผงคอนโซล ไฟแผงหน้าปัทม์ เครื่องเสียง และอื่นๆ อีกมากมาย

เช็กรถมือสองอย่างไร

3. เครื่องยนต์

มาถึงการตรวจสอบที่สำคัญที่สุด และเป็นส่วนที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นลำดับต้นๆ นั้นก็คือการตรวจสอบเครื่องยนต์ เนื่องจากเครื่องยนต์นั้นถือเป็นหัวใจหลักที่จะทำให้รถขับเคลื่อน ดังนั้นถ้าหากเครื่องยนต์มีสภาพที่ไม่พร้อม หรือบกพร่อง นั้นก็อาจจะทำให้การขับขี่ของคุณไม่ปลอดภัย โดยการเช็คเครื่องยนต์นั้นจะประกอบไปด้วย เช็คการรั่วซึมของเหลว เช็คระดับและสีของเหลวต่าง ๆ ตรวจสายพานเครื่อง แบตเตอรี่ สภาพสายไฟและท่อน้ำต่างๆ ไปจนถึงสายพานเครื่อง

เช็กรถมือสองอย่างไร-2

4. ทดลองขับ

หลังจากที่ตรวจเช็คองค์ประกอบภายใน และภายนอกเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงคิวของการทดลองขับจริงกันบ้าง โดยทางคาร์โรจะทำการทดลองขับจริง และเช็คสิ่งผิดปกติ หรือตรวจดูจุดบกพร่องระหว่างที่ทำการทดลองนี้ ซึ่งจะมีการเช็คตั้งแต่การสตาร์ทรถว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ รอบของเครื่องยนต์ทำงานปกติหรือเปล่า ไปจนถึงการตรวจเช็คระบบเบรค ระบบคลัทช์ เกียร์ และดูว่าเมื่อมีการหมุนพวงมาลัยนั้นรถจะมีอาการผิดปกติหรือไม่

นอกจากการประเมินสมรรถนะทั้ง 4 จุดนี้ ทางคาร์โรยังมีบริการตรวจสอบเอกสาร โดยดูจากเลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ และเลขทะเบียน ว่าข้อมูลทั้งหมดนั้นสอดคล้องกันหรือไม่ รวมถึงตรวจประวัติว่ารถมือสองคันนั้นมีประวัติการโจรกรรมหรือไม่ ทำให้นอกจากคุณจะได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพของการขับขี่แล้ว ยังสามารถทราบถึงประวัติของการโจรกรรมรถอีกด้วย หากใครกำลังมองหารถมือสองสภาพดี ลองให้คาร์โรช่วยคุณเลือกด้วยการประเมินสมรรถนะรถทั้ง 4 จุดนี้ เพราะคุณจะได้มั่นใจได้ว่ารถที่คุณซื้อไปนั้นคุ้มค่ากับราคาที่คุณต้องจ่าย สนใจ คลิก

Carro Express ขายรถกับคาร์โร อยากขายรถ ขายรถด่วน

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม ไปซื้อรถยนต์คันใหม่ มาขายรถกับทาง Carro Express สิ! คลิกเลยที่ https://th.carro.co/sell-car/express รับรองได้เงินเร็ว ไว ทันใจแน่นอน!

Carro Automall ตลาดรถ

ส่วนใครสนใจจะซื้อรถมือสอง Carro แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ คุณสามารถจองรถได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น! พร้อมคำนวณสินเชื่อและค่างวด ได้ภายในเว็บไซต์ทันที!

ซึ่ง Carro เรามีรถให้คุณเลือกมากมาย รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพโดย Carro Certified อย่างละเอียดแบบ Double Check มากกว่า 160 จุด, การันตีคืนเงินภายใน 5 วัน, รับประกันเครื่องยนต์และเกียร์ 1 ปี, รับประกันไม่กรอไมล์ และไม่ประสบอุบัติเหตุหนัก ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม พร้อมรับประกันคุณภาพรถ 1 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร!

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” เลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา รวมถึงมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen นำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าให้ตั้งแต่ต้นจนจบ บวกกับ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถวิดีโอคอล ตรวจสภาพรถยนต์คันที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ Carro สิ!

หรือถ้าหากคุณสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงกรอกชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ และรถที่คุณสนใจ ไว้ที่ “รับการแจ้งเตือน” เมื่อมีรถที่คุณต้องการ Carro จะรีบติดต่อไปยังคุณทันที สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> Carro Thailand โทร. 02-460-9380 หรือทาง Line @carrothai