Free-Car-Check-New-Year-2018

ขับขี่ปลอดภัย ด้วยการตรวจเช็ครถยนต์ ก่อนออกเดินทาง

ช่วงเวลาปีใหม่ของทุกๆ ปี เป็นช่วงที่มีผู้คนเดินทางบนท้องถนนกันสูงมาก และตัวเลขของอุบัติเหตุบนท้องถนนก็สูงมากตามไปด้วย (จนกลายเป็นที่ 1 ของโลกไปแล้วในตอนนี้) เพื่อความพร้อมในการเดินทาง ลดปัญหาจากอุบัติเหตุ หรือปัญหารถเสียกลางทาง ทำได้ง่ายๆ ด้วยการนำรถไปตรวจสภาพก่อนออกเดินทาง

CARRO ขอรวบรวมข้อมูลตรวจเช็ครถฟรี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เพื่อให้ท่านผู้อ่านเลือกนำรถไปตรวจเช็คได้ตามความสะดวกเลยครับผม.

Toyota

Toyota-Car-Check-12-2017

โตโยต้า ส่งความสุข สำหรับลูกค้าโตโยต้าที่นำรถเข้ามารับบริการที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 60

Honda

Honda-Car-Check-12-2017

ฮอนด้า จัดแคมเปญ “ปีใหม่ปลอดภัย เช็คก่อนใช้ กับบริการจากฮอนด้า” ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ พร้อมข้อเสนอแคมเปญผ่อนชำระค่าใช้จ่ายงานบริการ ส่วนลดอะไหล่และอัลติเมทแคร์ ตั้งแต่วันนี้ – 30 ธันวาคม 2560 เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจในทุกการเดินทางก่อนช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่

รายการตรวจสภาพรถยนต์ฟรี 25 รายการ

1. ตรวจวัดค่าแบตเตอรี่ด้วยเครื่องทดสอบโวลท์ / แอมแปร์ และตรวจเติมน้ำกลั่น
2. ตรวจเติมระดับน้ำในถังสำรองหม้อน้ำและถังเก็บน้ำล้างกระจก
3. ตรวจการรั่วซึมของท่อยางหม้อน้ำ บน / ล่าง
4. ตรวจทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
5. ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง
6. ตรวจระดับน้ำมันเบรก / คลัทช์ (สำหรับรุ่นที่มี)
7. ตรวจระดับน้ำมัน พวงมาลัยเพาเวอร์ (สำหรับรุ่นที่มี)
8. ตรวจระดับน้ำมันเกียร์
9. ตรวจสภาพสายพานขับด้านนอก
10. ตรวจสภาพยางปัดน้ำฝน
11. ตรวจระดับหัวฉีดน้ำล้างกระจก
12. ตรวจสภาพยาง วัดแรงดัน / เติมลมยาง 5 เส้น
13. ตรวจการทำงานของ ไฟสัญญาณ / ไฟส่องสว่าง
14. ตรวจการทำงานของ เข็มขัดนิรภัย
15. ตรวจการทำงานของ ระยะแป้นเบรก
16. ตรวจการทำงานของ ระยะยกคันโยกเบรกมือ
17. ตรวจการทำงานของ แม่ปั๊มเบรก และหม้อลมเบรก
18. ตรวจการทำงานของ ระบบปรับอากาศ (ความเย็น / ช่องทางลม)
19. ตรวจสภาพของ ท่ออ่อนเบรก 4 ล้อ
20. ตรวจลูกหมากและยางกันฝุ่นแร็คพวงมาลัย
21. ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านซ้าย
22. ตรวจยางกันฝุ่นเพลาขับด้านขวา
23. ตรวจถังน้ำมันเชื้อเพลิง / ท่อ และข้อต่อท่อน้ำมันเชื้อเพลิง
24. ตรวจการทำงานของเครื่องยนต์ รอบเดินเบา / การรั่วซึม
25. ตรวจช่วงล่าง ลูกยาง และลูกหมากต่างๆ

Mazda

Mazda-Car-Check-12-2017

มาสด้าขอขอบคุณทุกความไว้ใจ ที่มอบให้ยนตรกรรม SKYACTIV พร้อมเดินทางเคียงข้างกันตลอดมา… เพียงนำรถมาสด้าเข้ารับบริการที่ศูนย์วันนี้ รับข้อเสนอสุดพิเศษ

  • ทุกสินค้าและบริการ ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน
  • ส่วนลดค่าอะไหล่ที่เข้าร่วมรายการ สูงสุด 40%

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ได้มาสด้าสปีดไลน์ 02-030-5666 หรือที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 60 นี้เท่านั้น

Isuzu

Isuzu-Car-Check-12-2017

อีซูซุ และ กรมการขนส่งทางบก ร่วมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วยบริการจากใจ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลปีใหม่” ฟรี! ตรวจเช็กสภาพรถเบื้องต้น 19 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 – 31 มกราคม 2561

– ตรวจเช็กการสตาร์ทเครื่องยนต์
– ตรวจเช็กระบบไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ
– ตรวจเช็กการทำงานของแตร
– ตรวจเช็กการทำงานของระบบปรับอากาศ
– ตรวจเช็กระบบปัดน้ำฝน
– ตรวจเช็กการทำงานของเข็มขัดนิรภัยทุกจุด
– ตรวจเช็กระยะและการทำงานของเบรกมือ
– ตรวจเช็กระยะฟรีขาเบรกและการทำงานของเบรก
– ตรวจเช็กระยะฟรีขาคลัตช์และการทำงานของคลัตช์
– ตรวจเช็กสภาพยางและความดันลมยาง
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำมันเครื่อง
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำมันเบรก/น้ำมันคลัตช์
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำหล่อเย็นในถังน้ำพัก
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่
– ตรวจเช็กสภาพและระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
– ตรวจเช็กสภาพและทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
– ตรวจเช็กสภาพและความตึงของสายพานเครื่องยนต์ทุกเส้น
– ตรวจเช็กระบบช่วงล่าง บูชยาง ยางกันฝุ่นและลูกหมากต่างๆ
– ตรวจเช็กสภาพและการรั่วซึมของโช้กอัพ

Hyundai

Hyundai-Car-Check-12-2017

บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ขอมอบความมั่นใจในการขับขี่อย่างปลอดภัยให้สมาชิกครอบครัวฮุนได ในโครงการ “New Year Campaign” “ปีใหม่นี้เดินทางอย่างอุ่นใจ” เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่

โดยลูกค้าสามารถนำรถยนต์ฮุนไดเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 40 พร้อมรับส่วนลดพิเศษ 20% สำหรับ ผ้าเบรก ส่วนลดพิเศษ 15% สำหรับไส้กรองอากาศ, ไส้กรองอากาศในตู้แอร์, กรองน้ำมันเชื้อเพลิง, จานเบรก, ใบปัดน้ำฝนหน้าและหลัง, ยางใบปัดน้ำฝนหน้าและหลัง และส่วนลดพิเศษ 10% สำหรับน้ำมันเครื่องเชลล์ ภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2560 ถึง 13 มกราคม 2561 (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากศูนย์บริการ)

รายการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ฟรี 40 รายการ มีดังต่อไปนี้

1. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนแบตเตอรี่ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
2. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนน้ำมันเครื่อง บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
3. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนเครื่องยนต์ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
4. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือน ABS บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
5. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือน AIR BAG บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
6. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเตือนเบรคมือ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
7. ตรวจเช็คสัญญาณบอกตำแหน่งเกียร์ออโต บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
8. ตรวจเช็คสัญญาณไฟเลี้ยว บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
9. ตรวจเช็คสัญญาณไฟฉุกเฉิน บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
10. ตรวจเช็คสัญญาณไฟหรี่ บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
11. ตรวจเช็คสัญญาณไฟสูง บนแผงมาตรวัดเรือนไมล์
12. ตรวจเช็คสัญญาณแตร
13. ตรวจเช็คการทำงานปัดน้ำฝนและการฉีดน้ำล้างกระจก
14. ตรวจการทำงานของกระจกประตูไฟฟ้า
15. ตรวจการทำงานของระบบล็อคประตูไฟฟ้า
16. ตรวจการทำงานของกระจกมองข้างไฟฟ้า
17. ตรวจการทำงานของเข็มขัดนิรภัย ด้านคนขับ
18. ตรวจการทำงานของระบบปรับอากาศ และกรองอากาศแอร์
19. ตรวจเช็คเบรคมือ จำนวนคลิก และระดับคันโยก
20. ตรวจการทำงานของเข็มขัดนิรภัย ด้านผู้โดยสาร
21. ตรวจเช็คแบตเตอรี่ (ที่ต้องเติมน้ำกลั่น), การหลวมของขั้วแบตเตอรี่
22. ตรวจเติมระดับน้ำในถังพักหม้อน้ำ
23. ตรวจเติมระดับน้ำในถังพักน้ำล้างกระจก
24. ตรวจทำความสะอาดไส้กรองอากาศ
25. ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง
26. ตรวจระดับน้ำมันเบรค
27. ตรวจระดับน้ำมันคลัทช์หรือน้ำมันเกียร์ออโต้
28. ตรวจระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
29. ตรวจสภาพของสายพานด้านหน้าเครื่องยนต์ (รอยแตก, ความตึง)
30. ตรวจสภาพยางปัดน้ำฝน
31. ตรวจเช็คสัญญาณของไฟหน้า สูง,ต่ำ รอบตัวถังรถ
32. ตรวจเช็คสัญญาณของไฟเลี้ยว ซ้าย,ขวา ไฟหรี่ รอบตัวถังรถ
33. ตรวจเช็คสัญญาณของไฟเบรค ไฟถอยหลัง รอบตัวถังรถ
34. ตรวจเช็คการหลวมคลอนและเสียหายของ ลูกหมากเหล็กกันโคลง
35. ตรวจเช็คการหลวมคลอนและเสียหายของ ลูกหมากคันชักคันส่ง
36. ตรวจเช็คการหลวมคลอนและเสียหายของ ปีกนกและบู๊ช
37. ตรวจเช็คการรั่วซึมของ โช๊คอัพ หน้าและหลัง
38. ตรวจเช็ครอยแตก ฉีกขาด ของยางหุ้มเพลาขับใน, นอก
39. ตรวจเช็ครอยแตก ฉีกขาด ของยางหุ้มแร็คพวงมาลัย
40. ตรวจเช็คการรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง,น้ำมันเกียร์-เฟืองท้าย,น้ำมันเพาเวอร์

กรมการขนส่งทางบก ตรวจรถฟรีขับขี่ปลอดภัย และตั้งจุดให้บริการทั่วไทย

DLT-Free-Check-Car

กิจกรรม “ตรวจรถ “ฟรี” ขับขี่ปลอดภัย” กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับภาคเอกชน สมาคม และหน่วยงานต่างๆ อาทิ บริษัทผู้ผลิตและศูนย์บริการตัวแทนจำหน่ายรถยนต์/รถจักรยานยนต์ ศูนย์บริการซ่อมบำรุงรักษารถ ศูนย์ซ่อมรถของบริษัทประกันภัย บริษัทติดตั้งแก๊ส NGV/LPG ในรถยนต์ บริษัทผลิตและศูนย์บริการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง สถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) สมาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ

ให้บริการเช็กความพร้อมรถยนต์และรถจักรยานยนต์โดยไม่คิดค่าบริการจำนวนกว่า 20 รายการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง อุปกรณ์ปัดน้ำฝน ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำมันเบรก การทำงานของไฟส่องสว่าง/ไฟสัญญาณต่างๆ เป็นต้น สามารถนำรถเข้ารับบริการฟรี ณ สถานประกอบการที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถ “ฟรี” ขับขี่ปลอดภัย” ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 – 15 มกราคม 2561 ซึ่งจะให้บริการประชาชนทั้งช่วงก่อนการเดินทางเพื่อเตรียมความพร้อมรถ และครอบคลุมถึงช่วงการเดินทางกลับเพื่อตรวจบำรุงรักษารถหลังจากใช้รถทางไกลด้วย

เครือข่ายไหน ตรวจรถ “ฟรี” 20 รายการบ้าง ปักหมุดไว้เลย

-ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.)
-สมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย
-สมาคมตรวจสภาพรถเอกชนไทย
-บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
-บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
-บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
-บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
-บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
-บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
-บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
-บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด (MG)
-บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด
-บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด
-บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด
-บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด
-บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
-บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)
-บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน)
-บริษัท สุวรรณภูมิ เซอร์วิส จำกัด
-บริษัท เอสซีจี ออโต้เซอร์วิส จำกัด
-บริษัท บี-ควิก จำกัด
-บริษัท ฟอร์ซเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (ศูนย์บริการ AUTOQUIKS)
-บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
-บริษัท เชลส์แห่งประเทศไทย จำกัด
-บริษัท คาร์เวิลด์ คลับ จำกัด

ใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น ขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนช่วยในการลดอุบัติเหตุ

ยกเว้นค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์

ครม.จึงเห็นชอบยกเว้นเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์
ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.60 – 4 ม.ค.61

เส้นทางหลวงที่ยกเว้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ได้แก่

  • ทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี)
  • ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 (วงแหวนตะวันออกจากบางปะอิน-บางนา)motorway

 

เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 28 ธ.ค.60 – 24.00 น. วันที่ 4 ม.ค. 61 รวม 8 วัน รวมรายได้ที่งดเว้นค่าธรรมเนียมเป็นเงินกว่า 156 ล้านบาท เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่

โดยคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีปริมาณการจราจรทั้งขาเข้าและขาออกที่ด่านพานทองและทับช้างทั้งสิ้น 4,600,000 คัน หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 660,628 คันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาลปีใหม่ 60 ประมาณร้อยละ 0.5 แต่ปริมาณการจราจรภาพรวมปีที่แล้วคาดว่าจะสูงกว่า เนื่องจากงดเว้นค่าธรรมเนียมมากถึง 10 วัน

ด้าน นายสุทธิศักดิ์ วรรธนวินิจ รักษาราชการแทนผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กทพ. มีมติเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา เห็นชอบยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษสายบูรพาวิถี หรือ ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี ในช่วงปีใหม่ 2561 เช่นเดียวกับกรมทางหลวง

ทั้งนี้ สำหรับปริมาณการจราจรได้คาดการณ์จากช่วงที่งดเว้น ค่าผ่านทางช่วงปีใหม่ 60 รวม 642,385 คัน คิดเป็นรายได้มากกว่า 25 ล้านบาท

 

motorway

Motor-Expo-2017-Booking

บริษัท สื่อสากล จำกัด เผยยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 ที่ได้รับการตอบรับดีเยี่ยมเฉกเช่นทุกปี กับยอดจองรถของแต่ละค่ายที่น่าพึงพอใจ … มาดูยอดจองในงานของปีนี้กันเลยครับ

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560 39,832 คัน

ยอดจองรถยนต์ วันที่ 30 พ.ย. – 12 ธ.ค. 2559 32,422 คัน

จากตัวเลขแสดงให้เห็นว่า ยอดจองรถยนต์ในงาน Motor Expo 2017 มีมากกว่าตัวเลขของปีที่แล้วพอสมควร ซึ่งมีแนวโน้มของผู้สนใจ และมีกำลังซื้อ มาจับจองรถยนต์ใหม่กันมากขึ้น

ราคาเฉลี่ยของรถที่ขายได้ในงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,271,837 บาท (ปีก่อน 1,177,393 บาท) เงินหมุนเวียนภายในงานราว 52,000 ล้านบาท ผู้เข้าชมงานจำนวน 1,360,605 คน เพิ่มขึ้น 14.2%

Motor-Expo-2017

รถเก๋งได้รับความสนใจสูงสุด มีสัดส่วนยอดขาย 38.7% ลดลงจากปีก่อน (44.1%) แบ่งเป็นเก๋งซีดาน 25% และแฮทช์แบคท้ายลาด 13.7% โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ Honda City, Honda Civic, Mazda2, Honda Jazz และ Nissan Note

ขณะที่รถกิจกรรมการแจ้ง (SUV) มีสัดส่วน 33.9% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน (25.1%) 5 อันดับแรก ได้แก่ MG ZS, Mitsubishi Pajero Sport, Mazda CX-5, Ford Everest และ Honda HR-V

รถกระบะมีสัดส่วน 17.9% ลดลงจากปีก่อน (20.3%) 5 อันดับแรก ได้แก่ Ford Ranger, Isuzu D-Max, Toyota Hilux Revo, Mitsubishi Triton และ Nissan NP300 Navara

ในส่วนของยอดขายรถจักรยานยนต์ รวม 7,711 คัน สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้เล็กน้อย อันดับ 1 ได้แก่ GPX 1,115 คัน อันดับ 2 Kawasaki 904 คัน อันดับ 3 Ryuka 831 คัน อันดับ 4 Yamaha 805 คัน และ อันดับ 5 Honda 741 คัน

ยอดจองรถยนต์ 10 อันดับแรกของ Motor Expo 2017 วันที่ 29 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2560

1. Honda 6,488 คัน

Honda-Civic

2. Toyota 5,456 คัน

Toyota-Hilux-Revo-Rocco

3. Mazda 5,015 คัน

Mazda-CX-5

4. Isuzu 4,479 คัน

Isuzu-D-Max

5. Mercedes-Benz 2,701 คัน

Mercedes-AMG-GT-R

6, MG 2,366 คัน

MG-ZS

7. Nissan 2,275 คัน

Nissan-Navara

8. Mitsubishi 2,260 คัน

Mitsubishi-Triton-Athlete

9. Ford 2,253 คัน

Ford-Ecosport

10. Suzuki 1,361 คัน

Suzuki-Ciaz

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Motor Expo

The-10-Best-in-Motor-Expo

10 “ที่สุด” ในงาน Motor Expo ที่คุณยังไม่รู้ หรืออาจจะคาดไม่ถึง!

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” หรือ “Motor Expo 2017” นอกจากจะมีการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รถมือสอง รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อุปกรณ์ตกแต่ง โปรโมชั่น และพริตตี้สาวสวยที่หลายๆ คนชื่นชอบนั้น …

ภายในงานยังถือได้ว่ามีเรื่องราว “ที่สุด” ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ทั้งหลายที่นำมาโชว์ด้วย Carro ขอรวบรวม 10 ที่สุด ที่เกี่ยวกับรถยนต์ในงาน “Motor Expo 2017” มาให้ทุกท่านได้รับทราบกันครับผม

ถูกที่สุด

TATA-Super-Ace-Mint

รถที่ “ถูก” ที่สุดในงาน Motor Expo 2017 ครั้งนี้ต้องยกให้ “TATA Super Ace Mint” (ทาทา ซูเปอร์ เอช มินท์) รถกระบะขนาดเล็กของแดนภารตะ ที่มาในราคาเพียง 365,000 บาท มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.4 ลิตร แบบ 4 สูบ คอมมอนเรล Di Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 70 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,750 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

แพงที่สุด

Rolls-Royce-Dawn

รถที่ขึ้นชื่อว่า “แพง” ที่สุดในงาน Motor Expo 2017 ครั้งนี้คือ “Rolls-Royce Dawn” (โรลส์-รอยซ์ ดอว์น) รถคูเป้เปิดประทุน 4 ที่นั่งสุดหรูจากโรลส์-รอยซ์ ในราคา 34,900,000 บาท! มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 6.6 ลิตร แบบ V12 Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 563 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 780 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 4.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม.

เร็วที่สุด

Bentley-Flying-Spur-W12

เร็วที่สุดในงาน Motor Expo 2017 ต้องยกให้ “Bentley Flying Spur W12” (เบนท์ลี่ย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ดับบลิว 12) ที่ได้ผสมผสานรูปลักษณ์ความเป็นเบนท์ลี่ย์แบบดั้งเดิมเข้ากับความเป็นรถสปอร์ต และรายละเอียดของความร่วมสมัยไว้ได้สมบูรณ์แบบที่สุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 6 ลิตร Twin-Turbo ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ ให้แรงม้าสูงสุดถึง 616 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 800 นิวตัน-เมตร ผสมผสานเข้ากับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ถือได้ว่าเบนท์ลี่ย์ 4 ประตู ในสายการผลิตที่ทรงพลังมากที่สุดตั้งแต่มีมา ทำความเร็วได้สูงสุด 322 กม./ชม.

ประหยัดที่สุด

Nissan-Leaf

สำหรับ นิสสัน ผู้บุกเบิกในยานยนต์ไฟฟ้า นำ “Nissan Leaf” (นิสสัน ลีฟ) รุ่นใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น มาโชว์ในงาน Motor Expo 2017 ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “100%” มีอัตราการปล่อยมลพิษเป็น “0” พร้อมชูจุดเด่นอย่าง “นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)” มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าชุดใหม่ แบบ EM57 ที่ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า (PS) (110 กิโลวัตต์) (แรงม้าเพิ่มขึ้น 38% จากรุ่นแรก) ที่ 3,283-9,795 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. (320 นิวตันเมตร) ที่ 0-3,283 รอบ/นาที

เพียงชาร์จ 1 ครั้ง สามารถเดินทางได้ระยะทางมากถึง 400 กิโลเมตร! (ตามการทดสอบตามโหมด JC08 ของประเทศญี่ปุ่น)

เก่าที่สุด

Black

รถเก่าที่สุดในงาน อยู่ที่บูธ สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย นั่นคือ “Black” รุ่นปี 1904 ผลิตโดย Black Manufacturing Company แห่งชิคาโก อิลลินอยส์ จำหน่ายโดย Sear, Roebuck & Company ระหว่างปี 1904-1912 เป็นรถรุ่นบรรพบุรุษในยุคเริ่มแรก รูปทรง และที่นั่งคนขับ พัฒนาจากรถเทียมม้าแบบดั้งเดิม จึงได้ชื่อว่าเป็น “เกวียนยนต์” หรือ “Horseless Carriage” เครื่องยนต์ 2 สูบนอน 852 ซีซี ให้แรงม้าสูงสุด 18 แรงม้า ถ้านับจนถึงปัจจุบัน รถคันนี้มีอายุ 113 ปีครับ

ใหญ่ที่สุด

Foton-Auman-EST

ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้วในงาน Motor Expo 2017 ครั้งนี้ ต้องยกให้ “Foton Auman EST” (โฟตอน อูแมน อีเอสที) รถบรรทุกหัวลากระดับไฮเอนด์ที่ผลิตโดย Foton Daimler Automotive Co., Ltd โดยมีมาตรฐานสากลครบถ้วน เหมาะสำหรับการขนส่งและโลจิสติกส์ระยะไกล ใช้ขุมพลัง Cummins ISG ขนาด 11.8 ลิตร แบบ 6 สูบ มีทั้งรุ่น 380 แรงม้า และ 430 แรงม้า

คนสนใจเยอะสุด

Toyota-C-HR

ในงาน Motor Expo 2017 รถที่ดึงดูดคนให้เข้ามาดูได้เยอะที่สุด เห็นทีต้องยกให้ “Toyota C-HR” (โตโยต้า ซี-เอชอาร์) ที่ไม่ว่าจะเดินผ่านไปเวลาไหน ก็ต้องเห็นคนรุมยืนดูด้วยความสนใจ เข้าไปทดลองนั่งดูบ้าง ตลอดเวลา

รถ SUV แพงที่สุด

Bentley-Bentayga-W12

รถ SUV แพงที่สุด ต้องยกให้ “Bentley Bentayga W12” (เบนท์ลี่ย์ เบนเทย์ก้า ดับบลิว12) ที่สุดแห่งความเร็ว ทรงพลัง จากเบนท์ลี่ย์ ผสมผสานความหรูหรากับสมรรถนะแบบสปอร์ต และแบบ Off-road อย่างลงตัว มาพร้อมกับเครื่องยนต์ W12 ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้แรงม้าสูงสุด 608 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.1 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 301 กม./ชม. และราคาก็สูงสุดที่ 24,500,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุด

Harley-Davidson-CVO-Limited

รถมอเตอร์ไซค์แพงที่สุดในงาน Motor Expo 2017 ต้องยกให้ “Harley-Davidson CVO Limited” (ฮาร์เลย์-เดวิดสัน ซีวีโอ ลิมิเต็ด) ในราคา 3,124,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุด

Lifan-Vintage

รถมอเตอร์ไซค์ถูกที่สุดในงาน Motor Expo 2017 นั่นคือ “Lifan Vintage” (ลี่ฟาน วินเทจ) ในราคา 29,900 บาท

Pickup-Motor-Expo-2017

ส่งท้ายปี 2560 กับรถกระบะเปิดตัวใหม่หลายรุ่นในงาน Motor Expo 2017

รถกระบะ ถือเป็นรถที่ยอดนิยมอย่างยิ่งของชาวไทยมานานนับหลายสิบปี ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ออพชั่น และกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้นเรื่อยๆ และยอดขายยังเป็นปัจจัยที่แสดงให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เป็นรถสารพัดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ใช้งานได้ทั้งในเมือง ในที่ทุรกันดาร ขนของ ขนสัตว์ ใช้รับจ้างหาเงิน ทำเป็นรถสองแถวก็ได้ หรือใช้งานส่วนตัวก็ดี ฯลฯ

ในงาน Motor Expo 2017 นี้ ผู้ผลิตรถกระบะหลายเจ้าอย่าง โตโยต้า, อีซูซุ, มิตซูบิชิ หรือเชฟโรเลต ต่างรีบแต่งหน้าทาปากรถกระบะของตัวเองกันใหม่ หรือผลิตรุ่นพิเศษออกมาเพื่อกระตุ้นตลาด เพื่อช่วงชิงยอดจองและยอดขาย ซึ่งในงาน Motor Expo 2017 จะมีรุ่นใดมาโชว์นั้น CARRO ขอนำเสนอข้อมูลให้ทุกท่านดูกันได้เลยครับ …

Toyota Hilux Revo (Minorchange)

Toyota-Hilux-Revo-Rocco

Toyota นำเสนอ “Hilux Revo รุ่นปรับโฉมใหม่” ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ตัวตนของคนจริง” ด้วยดีไซน์ใหม่ของกันชนหน้า กระจังหน้าแบบโครเมียมและสีดำเงา และกรอบไฟตัดหมอกสีดำเงา สอดรับกับสีภายในห้องโดยสารใหม่โทนสีดำ ตลอดจนอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ที่มีการปรับเพิ่มให้ครอบคลุมทุกการใช้งาน

และยังมี Hilux Revo Rocco (ไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่) ใหม่! รุ่นตกแต่งพิเศษ เปิดตัวในงานนี้ด้วย ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “แกร่งเกินนิยาม” โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC VN Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,600 รอบ/นาที

ราคาของ Toyota Hilux Minorchange ใหม่ อยู่ที่ 523,000 – 1,154,500 บาท

Isuzu D-Max (Minorchange)

Isuzu-D-Max

Isuzu (อีซูซุ) ฉลองครบรอบ 60 ปีในไทย พร้อมกับมีเซอร์ไพรส์ กับการเปิดตัว Isuzu D-Max Minorchange (อีซูซุ ดีแม็คซ์ ไมเนอร์เชนจ์) ภายนอกดีไซน์ล้ำสมัย เร้าใจ สไตล์สปอร์ต กระจังหน้าใหม่ เพิ่มออพชั่นหลายอย่าง สานต่อความแรงของ “ปรากฏการณ์ อีซูซุบลูเพาเวอร์” โดยชูจุดเด่นใหม่ๆ เช่น ไฟหน้าใหม่แบบ Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ปรับระดับสูง-ต่ำของไฟหน้าได้ถึง 4 ระดับ
ภายในเสนอความบันเทิงเหนือระดับกับ ใหม่! Isuzu iConnect พร้อม Built-in Navigator และใหม่ล่าสุด “อีซูซุอินไซท์” (Isuzu Insight) ที่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลผ่าน Smartphone ได้

และรุ่นไฮไลท์อย่าง “Isuzu D-Max V-Cross MAX 4×4” สปอร์ต ออฟโรด ดีไซน์ภายนอกใหม่! พร้อมชุดแต่ง MAX 4×4 สีเทาดำรอบคัน ผสานความแกร่งและสปอร์ตเป็นหนึ่งเดียว ดุดัน บึกบึนเต็มขั้น ด้วยโทนสีเทาดำ สไตล์สปอร์ตออฟโรดตัวจริง

สำหรับในรุ่น Spark, Spacecab, Cab4 และ Hi-Rider มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.9 ลิตร รหัส RZ4E-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC Commonrail Di พร้อม VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที

ส่วนเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ1-TCX แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC Commonrail Di พร้อม VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที

ราคาของ Isuzu D-Max Minorchange ใหม่ อยู่ที่ 497,000 – 1,099,000 บาท

Nissan Navara (MY2018)

Nissan-Navara

ครั้งแรกในรถปิคอัพ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะ ใน Nissan NP300 Navara (นิสสัน เอ็นพี 300 นาวารา) ใหม่ กับกล้องมองภาพรอบทิศทาง AVM (Around View Monitor) 360 องศา มองเห็นภาพภายนอกได้รอบคัน และเพิ่มถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน (เฉพาะรุ่น Top)

มาพร้อมเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ขนาด 2.5 ลิตร รหัส YD25DDTi แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ส่วนในรุ่น 4WD รหัส YD25DDTi แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VGS Turbo Intercooler ให้แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ราคาของ Nissan NP300 Navara อยู่ที่ 549,500 – 1,106,000 บาท

Mitsubishi Triton Athlete

Mitsubishi-Triton-Athlete

Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เปิดตัว Triton รุ่นพิเศษ “Triton Athlete” (ไทรทัน แอทลีท) สปอร์ต พันธุ์เข้ม เร้าใจทุกมุมมองด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคันจากโรงงาน มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่สีขาว, สีเทา และสีดำ ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ-ส้ม พร้อมสัญลักษณ์ Athlete เครืองเสียงแบบหน้าจอสัมผัสพร้อมรองรับระบบ Apple CarPlay เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VG Turbo ให้แรงม้าสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

ราคาของ Mitsubishi Triton อยู่ที่ 522,000 – 1,111,000 บาท

Chevrolet Colorado Centennial Edition

Chevrolet-Colorado-Centennial-Edition

Chevrolet (เชฟโรเลต) ฉลองครบรอบ 100 ปี กระบะอเมริกันพันธุ์แกร่ง สร้างมาเพื่ออนาคต กับ Chevolet Colorado Centennial Edition (เชฟโรเลต โคโลราโด เซนเทนเนียล อิดิชั่น) รุ่นฉลองครบรอบกระบะ 100 ปี จำนวนจำกัดเพียง 100 คัน เท่านั้น มาพร้อม สติกเกอร์สีดำด้านที่กระโปรงหน้า ตราสัญลักษณ์ฉลองครบรอบกระบะ 100 ปี ล้ออัลลอยสีดำ 18 นิ้ว ชุดแต่งซุ้มล้อ ด้านหน้า และหลัง สปอร์ตบาร์ และมือจับที่เปิดประตูท้ายโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์ฉลองครบรอบกระบะ 100 ปี เป็นต้นน

ใช้เครื่องยนต์ดูราแมกซ์ ดีเซล คอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น ขนาด 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC พร้อมเทอร์โบแปรผัน (VGT-Variable Geometry Turbocharger) และอินเตอร์คูลเลอร์ ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

ราคาของ Chevrolet Colorado อยู่ที่ 594,000 – 1,103,000 บาท

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2017 แต่ยังหนักใจว่าจะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ซื้อ ขาย รีไฟแนนซ์ รถยนต์อย่างมืออาชีพกับ CARRO Thailand” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “CARRO Thailand” ครับผม

Motor-Expo-2017-Car

Motor Expo 2017 จัดเต็มทั้งรถต้นแบบ รถใหม่ รถแต่ง นวัตกรรมยานยนต์ และพริตตี้สาวสวย

Motor-Expo-2017-View

งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” หรือ The 34th Thailand International Motor Expo 2017 ภายใต้แนวคิด “ยานยนต์ยุคใหม่ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” หรือ “New Age Vehicles … A Distant Dream Come True” เป็นงานแล้วอย่างยิ่งใหญ่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2560 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี

เชิญพบกับรถยนต์ที่ร่วมงานจำนวนมากถึง 35 แบรนด์ จาก 9 ประเทศ และรถจักรยานยนต์อีก 20 แบรนด์ จาก 10 ประเทศ

ภายในงานมีการจัดแสดงรถต้นแบบ 2 คัน รถยนต์เปิดตัวรถใหม่อีก 20 กว่ารุ่น และมีโปรโมชั่นพิเศษมากมาย พร้อมกิจกรรมมอบโชคคืนกำไรให้แก่ผู้ชมงาน โดยปีนี้ยังคงแจกรถยนต์ 3 คัน และจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 1 คัน รวมถึงลุ้นชิงรางวัลอื่นๆ จากการซื้อสินค้าอีกมากมาย และยังมีรถ Shuttle Bus รับ-ส่ง ฟรี! จาก 4 จุดในกรุงเทพฯ และที่รังสิต ให้คุณเดินทางมาชมงานได้อย่างสะดวกสบาย

ทาง CARRO อยากให้คนรักรถทุกท่าน หาโอกาสไปเดินเที่ยวกันจริงๆ ครับ … เชิญชมกับภาพบรรยากาศภายในงาน Motor Expo 2017 กันได้เลย

Subaru-XV

Subaru XV

Mini-JCW-Countryman

Mini JCW Countryman

Lexus-LC500

Lexus LC 500

Toyota-C-HR

Toyota C-HR

Toyota-Hilux-Revo-Rocco

Toyota Hilux Revo Rocco

Bentley-Bentayga

Bentley Bentayga

KIA-Stinger

KIA Stinger

Audi-A5-Sportback

Audi A5 Sportback

Toyota-Coaster

Toyota Coaster

Honda-Civic

Honda Civic RED

Hyundai-Ioniq

Hyundai Ioniq

Hyundai-RN30-Concept

Hyundai RN30 Concept

Jaguar-F-Type

Jaguar F-Type

Mercedes-Maybach-S-560

Mercedes-Maybach S 560

BMW-X3

BMW X3

Porsche-Cayenne

Porsche Cayenne

Mitsubishi-Triton-Athlete

Mitsubishi Triton Athlete

Isuzu-D-Max

Isuzu D-Max V-Cross

Nissan-Leaf

Nissan Leaf

MG-ZS

MG ZS

สำหรับผู้ที่สนใจซื้อรถใหม่ในงาน Motor Expo 2017 แต่ยังหนักใจว่าจะขายรถคันเดิมที่ไหนดี ให้ CARRO เป็นผู้ช่วยมืออาชีพของคุณ “ซื้อ ขาย รถยนต์อย่างมืออาชีพกับ Carro Thailand” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ใน Fanpage “CARRO Thailand” ครับผม

Modify-Suspension

ดัดแปลงช่วงล่างต้องแจ้งขนส่งก่อนใช้งาน หากตรวจเจอว่าไม่แจ้ง ปรับสูงสุด 5,000 บาท

Modify-Suspension

            กรมการขนส่งทางบก แนะ การแก้ไขดัดแปลงระบบช่วงล่าง ทั้งระบบรองรับน้ำหนัก ระบบกันสะเทือน ระบบบังคับเลี้ยว หรือระบบขับเคลื่อน ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพกับกรมการขนส่งทางบก และแก้ไขรายละเอียดลักษณะรถในใบคู่มือจดทะเบียนรถก่อนนำไปใช้งาน ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพกับกรมขนส่งทางบกและแก้ไขรายละเอียดในคู่มือจดทะเบียนก่อนใช้งาน เพื่อความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยในการใช้งาน ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 5,000 บาท

Nissan-Navara

นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การแก้ไขดัดแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ โดยเฉพาะกรณีการแก้ไขดัดแปลงระบบช่วงล่าง ทั้งระบบรองรับน้ำหนัก การเสริมแหนบ ระบบกันสะเทือน ระบบบังคับเลี้ยว หรือระบบขับเคลื่อน ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพกับกรมการขนส่งทางบก และแก้ไขรายละเอียดลักษณะรถในใบคู่มือจดทะเบียนรถก่อนนำไปใช้งาน

โดยแสดงหลักฐาน ได้แก่ การได้มาของอุปกรณ์ที่นำมาดัดแปลงรถ หรือบันทึกถ้อยคำรับรองว่าอุปกรณ์ดังกล่าวได้มาโดยถูกต้องและสุจริต เช่น ใบเสร็จค่าชิ้นส่วน อุปกรณ์ ค่าแรง และหนังสือรับรองความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยในการใช้รถ จากวิศวกรสาขาเครื่องกลหรือยานยนต์ หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถ และใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือสำเนา ในกรณีที่นายทะเบียนพิจารณาแล้วว่ารถนั้นปลอดภัยในเวลาใช้งาน จะบันทึกรายการในใบคู่มือจดทะเบียนรถไว้เป็นหลักฐาน ส่วนกรณีที่นายทะเบียนเห็นว่ารถที่แก้ไขดัดแปลงอุปกรณ์ส่วนควบดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายในการใช้งาน ให้เจ้าของรถดำเนินการแก้ไขก่อนนำรถเข้าตรวจสภาพ

Leaf-Spring

ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบการแก้ไขดัดแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ โดยไม่มีการนำรถไปให้นายทะเบียนตรวจสภาพและแก้ไขรายละเอียดลักษณะรถในใบคู่มือจดทะเบียนรถ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 14 ต้องระวางโทษตามมาตรา 60 ปรับไม่เกิน 2,000 บาท

ส่วนกรณีเป็นรถที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสภาพเครื่องอุปกรณ์หรือส่วนควบของรถ ให้ผิดแผกแตกต่างในสาระสำคัญตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนก่อนดำเนินการ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 ต้องระวางโทษตามมาตรา 149 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ช็อปช่วยชาติ-2560

ซ่อมรถ

เชื่อว่ามนุษย์เงินเดือน และผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหลายๆ ท่าน คงได้ทราบข่าวของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ช็อปช่วยชาติ” จากทางรัฐบาลกันแล้ว ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในระหว่างวันที่ 11 พ.ย.- 3 ธ.ค. 2560 โดยในเงื่อนไขดังกล่าว ก็คงถูกใจ “ขาช็อป” กันไม่น้อย และที่สำคัญ “ค่าซ่อมรถ” ยังสามารถนำค่าใช้จ่ายในการหักลดหน่อยภาษีได้อีกด้วย

ถือเป็นโอกาสดี สำหรับคนใช้รถที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยนของใหญ่ๆ พอดี ทีนี้เรามาดูกันว่า จะซ่อมรถอย่างไร ให้ได้ลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 15,000 บาทครับ

ตรวจเช็คตามระยะกิโลเมตร หรือซ่อมรถ

Maintenance-Car

อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้วสำหรับคนใช้รถ การตรวจเช็คบำรุงรักษาตามระยะที่ศูนย์บริการกำหนดไว้ มันก็ต้องสิ่งที่ต้องจ่าย อาทิเช่น การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำมันคลัตช์ น้ำมันเฟืองท้าย เปลี่ยนแบตเตอรี่ เป็นต้น (การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันต่างๆ ในรถยนต์ ที่ไม่ได้ใช้เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อน แบบ น้ำมันเบนซิน, น้ำมันดีเซล หรือแก๊ส LPG, NGV สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้)

ในส่วนของรถที่เข้าซ่อมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ พร้อม “ชำระค่าบริการ” ตั้งแต่ช่วงเวลาระหว่างวันที่ 11 พ.ย.- 3 ธ.ค. 2560 และซ่อมแล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธ.ค. 2560 จึงจะนำมาใช้หักลดหย่อนภาษีได้ อ่อ … อู่หรือศูนย์บริการที่เข้าใช้บริการนั้น ต้อง “ออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ” ได้ด้วยนะครับ

Tire

เปลี่ยนยางรถยนต์

ถือเป็นโอกาสทองของรถยนต์ที่ยางรถยนต์หัวเริ่มล้านแล้ว สมมติว่า หากคุณยางรถยนต์ขนาด 16 นิ้ว หมดทั้ง 4 เส้น ราคาก็ตกประมาณหนึ่งหมื่นกว่าบาทได้ ซึ่งหากคุณจะใช้โปรโมชั่น ผ่อนยาง 0% ก็สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ด้วยเช่นกัน

Mazda3-Sedan

แต่งรถ

โอกาสทองของคนชอบแต่งรถ มาถึงแล้ว … สำหรับสินค้าอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ หรือล้อแม็ก ก็เข้าข่ายได้หักลดหย่อนภาษีเช่นกันครับ

ซ่อมรถ

สำหรับ “ช็อปช่วยชาติ 2560” ต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง สำหรับยื่นลดหย่อนภาษี โดยคุณต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฏากร ซึ่งจะต้องมีการระบุข้อความดังนี้

1. คำว่า “ใบกำกับภาษี” ต้องเห็นได้เด่นชัด

2. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี

3. ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ

4. หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี)

5. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ

6. จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าหรือ ของบริการให้ชัดแจ้ง

7. วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี

8. ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด เช่น คำว่าเอกสารออกเป็นชุด สำเนาใบกำกับภาษี ฯลฯ

ซ่อมรถ

สุดท้ายนี้ Carro ขอบอกอีกครั้ง เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ ที่ไม่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ นั่นคือ ค่าน้ำมัน (ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อน), ค่าก๊าซ LPG, NGV สำหรับเติมพาหนะ, ค่าประกันภัยรถยนต์ รวมถึงค่าเช่าซื้อ, ผ่อน หรือดาวน์รถยนต์/มอเตอร์ไซค์ ก็ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้นะครับ

10 รถมือสอง ที่คุณสามารถซื้อได้ในราคาของ "iPhone X"

เป็นที่ทราบกันแล้วนะครับว่า สำหรับ iPhone 8 / iPhone 8 Plus และ iPhone X ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ไปใน USA ตั้งแต่เมื่อคืนของวันที่ 13 กันยายน 2560 (ตามเวลาในประเทศไทย) ซึ่งมีคุณสมบัติและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เพิ่มมามากขึ้น (ซึ่งจะถูกใจคุณผู้อ่านหรือเปล่านั้น … ไม่แน่ใจ!)

อีกทั้งราคาของ iPhone 8 / iPhone 8 Plus และ iPhone X ที่ขยับเพิ่มขึ้นมามากขึ้นในทุกรุ่น ทำให้ผู้บริโภคต้องคิดหนักว่า ถ้าวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว เมื่อตีราคาออกมาเป็นเงินไทยแล้ว ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว (รุ่น Top ปาเข้าไปประมาณ 4 หมื่นบาทได้) จะคุ้มค่ากับการใช้งานหรือไม่ หรือนำเงินนี้ ไปซื้อสิ่งของอย่างอื่นดี?

Mazda-323-Astina

MR.CARRO ขอแนะนำ 10 รถมือสอง ที่คุณสามารถซื้อได้ในราคาของ “iPhone X” ซึ่งตามจริงแล้ว มีรถมือสองปีเก่าๆ (ตั้งแต่ยุค 60 เป็นต้นมา) ที่มีราคาถูกกว่า iPhone 8 / iPhone 8 Plus และ iPhone X อยู่มาก แต่เนื่องจากราคาที่ถูกมากๆ นั้น ก็ต้องใช้งบประมาณในการซ่อมที่มาก และใช้เวลาหาอะไหล่กันลำบากหน่อย

MR.CARRO จึงขอนำเสนอรถยนต์มือสอง ในช่วงประมาณยุค 80-90 ที่มีราคาตั้งแต่ 2 – 4 หมื่นบาท ที่มีความทนทาน ดูแลง่าย อะไหล่พอหาได้เยอะหน่อย จะมีรุ่นใดบ้าง … เชิญอ่านได้เลยครับ

Toyota-Corolla-AE92

1. Toyota Corolla 1.3 XL, GL, 1.6 SE Limited (EE90/AE92)

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) รุ่นที่ถือได้ว่า มีอุปกรณ์มาตรฐานมากมายราวกับของวิเศษของ “โดเรมอน” ต่างกับรถในคลาสเดียวกัน จึงเป็นที่มาของฉายานี้ (แต่ชาวต่างประเทศได้ยินแล้ว งงน่าดู) เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2530 มาพร้อมสโลแกน “เร้าใจทุกเส้นทาง ยุคหน้า TOYOTA” (คล้ายกับของญี่ปุ่น “Fun To Drive”)

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส 2E และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-F, รหัส 4A-F คาร์บูเรเตอร์คู่ ในรุ่น Sporty รวมไปถึงเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร พลังแรงอย่างรหัส 4A-GE 130.5 แรงม้า ที่มาตอนไมเนอร์เชนจ์ ในรุ่น GTi

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้แล้ว

Toyota-Corona-ST171

2. Toyota Corona 1.6 XL, GL / 2.0 GL, GLi (AT171/ST171)

Toyota Corona (โตโยต้า โคโรน่า) โฉมนี้เปิดตัวในไทยตั้งแต่ปี 2531 โดยโคโรน่ารุ่นนี้ ถือเป็นรถญี่ปุ่นรุ่นแรกในประเทศไทย (เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร) ที่ใช้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด EFI (Electronic Fuel Injection) แบบเดียวกับรถยุโรป

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-F, เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3S-F คาร์บูเรเตอร์เดี่ยว 113 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3S-FE หัวฉีด EFi 128 แรงม้า

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน

Honda-Civic-EF

3. Honda Civic 1.5 LX, LX-S / EX (EF)

Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อต้นปี 2531 ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีการออกแบบรถให้เตี้ย แบน ลู่ลม และพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ เหมือนรถแข่ง Formula 1 รวมถึงระบบช่วงล่างแบบปีกนกอิสระ 4 ล้อ และเครื่องยนต์ทวินแคม 16 วาล์ว

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 90 แรงม้า (และยังมีรุ่นพิเศษ LX-S เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร คาร์บูเรเตอร์คู่ 105 แรงม้า) มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นบาทปลายๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน

Honda-Accord-CA

4. Honda Accord 2.0 LX / EX (CA)

Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อปี 2530 ซึ่งก็เซอร์ไพรส์ด้วยการสร้างยอดจองจนฮอนด้าผลิตขายไม่ทัน ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีการออกแบบรถให้เตี้ย แบน ลู่ลม และพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ 12 วาล์ว พ่วงระบบ Cross Flow อันลือชื่อของฮอนด้า รวมถึงระบบช่วงล่างแบบดับเบิลวิชโบนอิสระ 4 ล้อ … ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับปรุงหน้าตาใหม่ พร้อมเพิ่มล้อแม็กเข้ามาแทนที่กะทะล้อพร้อมฝาครอบล้อ

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 106 แรงม้า มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นบาทกลางๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับเท่ๆ ได้

Nissan-Sunny-B11

5. Nissan Sunny 1.3 / 1.5 GL (B11)

Nissan Sunny (นิสสัน ซันนี่) รถรุ่นยอดนิยมจากค่ายสยามกลการสมัยนั้น สำหรับ นิสสัน ซันนี่ FF เจเนอเรชั่นที่ 5 เปิดตัวตั้งแต่เดือนมกราคม 2526 ขายกันมาอย่างยาวนานถึงสิบกว่าปี ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์กันก็หลายครั้ง เป็นรถยอดนิยมมากในยุคนั้น ในโฉมนี้มาพร้อมสโลแกน “รถที่ไว้ใจได้ตลอดกาล”

ยุคแรก มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส E13S 74 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส E15S ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ประจำการทั้งในรุ่นซีดาน 4 ประตู และคูเป้ ภายหลังจึงตัดออกไป

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ ถ้าว่ากันตามตรง สภาพแบบต้องซ่อมทั้งคัน (แต่รถยังขับได้) เคยมีคนขายที่ราคา 9,500 บาท ก็ซื้อได้แล้ว แต่ตามสภาพแบบวิ่งได้ ใช้งานได้ปรกติ ราคา 1.5 – 4 หมื่นบาท ก็มีรถรุ่นนี้ให้เลือกซื้อเยอะแยะครับ

Nissan-Sentra-B13

6. Nissan Sentra 1.5 EX Saloon / 1.6 SuperSaloon e (B13)

Nissan Sentra (นิสสัน เซนทร้า) รุ่นที่ 2 ที่ขายในบ้านเรา เป็นรถยอดฮิตแท็กซี่ในยุคนั้นเลย เพราะสยามกลการ พยายามระบายรถล็อตใหญ่ ให้กับกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ ที่กำลังรีบหารถมาจดทะเบียนทำแท็กซี่มิเตอร์ (ป้ายทะเบียน 6ท) ในยุคแท็กซี่เปิดเสรีใหม่ๆ โดยในโฉมไมเนอร์เชนจ์ สังเกตได้จากชุดกระจังหน้าแบบใหม่ ชุดกันชนใหม่ และไฟท้ายเลนส์แบบใหม่ เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส GA15S 87 แรงม้า และขนาด 1.6 ลิตร รหัส GA16DE 110 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 3 หมื่นบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน

Nissan-NV

Nissan-NV-Van

7. Nissan NV Pickup 1.6 / NV AD Resort 1.6 SLX, SGX (Y10)

Nissan NV (นิสสัน เอ็นวี) หลายคนจะรู้กันบ้างไหมว่า “NV” นี่ย่อมาจากคำว่า “National Vehicle” หรือ “รถยนต์แห่งชาติ” ที่ทางสยามกลการตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น ที่จะเน้นการผลิตรถยนต์นั่งขนาดกลาง 1600 ซีซี แต่กลายมาเป็นรูปแบบของรถ Pickup และรถแวน Nissaan NV AD Resort ที่หยิบยืมพื้นฐานมาจาก Nissan AD Van (และ Sunny California เวอร์ชั่นญี่ปุ่น) โดยเปิดตัวในเดือนกันยายน 2536

สำหรับ Nissan NV Pickup มีขายกันมาหลายโฉมมาก ทั้งแบบธรรมดาในยุคแรก หลังจากนั้นเป็น Queen Cab (ต่อมาคือ Q-Cab) ขยายพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขึ้น เบาะปรับเอนนอนได้ ต่อมาภายหลังจึงกลายเป็นกระบะ Nissan Wingroad ไป

ทั้งสองแบบ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส GA16DS 95 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส GA16DNE 110 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด (เพิ่มมาภายหลัง ทั้งในรุ่นกระบะ และรุ่นแวน AD Resort)

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 3 หมื่นบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน ส่วนรุ่นแวนราคาอาจจะแพงกว่านั้นหน่อย แต่ราคานี้ก็มี ถ้าสภาพรถเน่าจริงๆ

Mitsubishi-Lancer-E-Car

8. Mitsubishi Lancer 1.3 GL, EL, 1.5 GLX, GLXi, 1.6 GLX, GLXi (E-Car)

Mitsubishi Lancer (มิตซูบิชิ แลนเซอร์) เป็น Lancer อีกหนึ่งรุ่น ที่ขายดีมากในบ้านเรา ในปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมจากคนชอบแต่งรถ และรถรุ่นนี้ยังถือเป็นต้นกำเนิดของรุ่น Evolution อีกด้วย (ช่วงล่างดี เครื่องทนทาน หลังคาชอบผุ อะไหล่แพงนิดๆ) เปิดตัวในปี 2535 ในรุ่น 1.3 GL, 1.5 GLX, 1.6 GLXi (นำเข้า) และ 1.8 GTi (นำเข้า)

ต่อมาเมื่อปี 2538 Lancer E-Car ได้ยกเลิกการจำหน่าย 1.3 และ 1.8 เปลื่ยนระบบจ่ายเชี้อเพลิงในรุ่น 1.5 จากคาร์บูเรเตอร์ เป็นระบบหัวฉีด ECi-MULTI และนำรุ่น 1.6 มาประกอบในประเทศ โดยคงเหลือรุ่นย่อย คือ 1.5 GLXi และ 1.6 GLXi

และในปี 2539 Lancer E-Car ได้ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เปลื่ยนล้อแม็กลายใหม่ เปลื่ยนกันชนให้ยาวและหนาขึ้น รวมถึงเปลื่ยนกระจังหน้าใหม่ เปลื่ยนท่อร่วมไอดีในรุ่น 1.5 โดยตัวอักษรคำว่า ECi-MULTI จะเล็กลง และนำรุ่น 1.3 กลับมาเพื่อตอบสนองลูกค้าระดับล่าง โดยมีรุ่นย่อย อาทิ 1.3 EL, 1.5 GLXi และ 1.6 GLXi

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 3 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้แล้ว

Mazda-323

Mazda-323-Astina

9. Mazda 323 1.6 GLX (BG) / 323 Astina 1.8 GT (BG)

Mazda 323 (มาสด้า 323) และ Mazda 323 Astina (มาสด้า 323 แอสติน่า) รุ่นยอดนิยม เปิดตัวในไทยเมื่อปี 2533 มีวิ่งเป็นแท็กซี่กันเพียบ รวมไปถึง มาสด้า 323 แอสติน่า 5 ประตูแฮทช์แบค ก็มีเป็นแท็กซี่หลายคันอยู่ ถือเป็นรถยอดนิยมสำหรับครอบครัว และวัยรุ่นสุดๆ โดยเฉพาะ มาสด้า 323 แอสติน่า ไฟป๊อปอัพ สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 200 กม./ชม. ในตอนนั้นถือว่าไม่ธรรมดา! และโดดเด่นด้วยช่วงล่างหลังแบบปีกนกคู่สัมพันธ์ TTL

มาสด้า 323 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส B6 87 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ส่วนในรุ่น Astina ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส BPD 140 แรงม้า (รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ลดแรงม้าลงมาเหลือ 125 แรงม้า) ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีด

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน ส่วน Astina อาจจะต้องเพิ่มเงินมาหน่อย เพราะราคารถตลาดสภาพ ก็อยู่ที่ 3 หมื่นปลายๆ แล้วครับ

BMW-E30

10. อันสุดท้าย เผื่อคนอยากได้รถยุโรป … BMW 316 / 318i (E30)

BMW ซีรี่ส์ 3 ในยุคที่บริษัท ยนตรกิจ จำกัด เป็นผู้จำหน่าย เริ่มเผยโฉมในปี 2527 มีทั้งแบบ 2 ประตู และ 4 ประตู ในรุ่น 316, 316i, 318i และ 318iA เกียร์อัตโนมัติ ในช่วงท้ายๆ อายุตลาด ตัวรถภายนอกสวยสปอร์ต เท่ ท้าทาย แน่นหนา ภายในโอ่อ่า หรูหรา ถูกใจวัยรุ่นวัยเฒ่าทั้งหลายที่โปรดปรานการขับอวดกันเพิ่มขึ้นอีก

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส M10 90 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 4 สปีด และ 5 สปีด, เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร รหัส M40 และเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส M10 105 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 184 กม./ชม.

พอในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ จึงเพิ่มเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส M40 115 แรงม้า เข้ามา ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน แต่ก็ต้องเตรียมงบไว้ปั้นต่อบานอยู่!

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ สามารถขายคันเดิมกับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

(บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์)

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ. ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมเข้ามากำกับดูแลรถป้ายแดง โดยจะดำเนินการตรวจจับปรับรถส่วนบุคคลที่ใช้ป้ายแดงในการขับขี่ ในส่วนของรถส่วนบุคคลที่ซื้อตั้งแต่ 1 ต.ค. 2560 – 31 ธ.ค. 2560 หากซื้อรถใหม่ป้ายแดงจะต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกภายใน 60 วันนับแต่รับรถ และหากซื้อรถตั้งแต่ 1 ม.ค. 2561 เป็นต้นไป จะต้องจดทะเบียนกับ ขบ. ภายใน 30 วันนับแต่รับรถ

หากไม่ดำเนินการตามข้อกำหนดในช่วงเวลาดังกล่าว จะต้องถูกตำรวจตรวจจับและปรับทันที โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 10,000 บาท ดังนั้นช่วงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึง 30 ก.ค. 2560 ขบ. จะเร่งประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้รับทราบข้อมูลดังกล่าว และเข้าใจกฎระเบียบ กฎหมาย ที่ขบ.จะประกาศออกไปเพื่อให้เข้าใจตรงกันและจะได้ไม่ต้องประสบกับปัญหาระหว่างเจ้าหน้าที่ ขณะตรวจจับ

นายสนิทกล่าวอีกว่า การดำเนินการ ดังกล่าวขณะนี้ทาง ขบ. อยู่ในขั้นตอนการแก้ไขกฎหมายรถป้ายแดง และขณะนี้ผ่าน ขั้นตอนของกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้วรอเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช. ให้พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ขบ. มั่นใจว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวนั้นเป็น การรักษาสิทธิของประชาชนที่เป็นเจ้าของ รถที่ซื้อรถใหม่จากศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถ มีการดำเนินการให้จดทะเบียนรถถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อให้ป้ายแดงที่ ขบ. ออกไปอย่างถูกกฎหมายกว่า 100,000 ป้ายทั่วประเทศ หมุนเวียนในระบบ รวมถึงป้องกันปราบปรามรถผิดกฎหมายที่วิ่งบนท้องถนนด้วย ประกอบกับการเข้ามาจดทะเบียนรถถูกต้องตามกำหนดเวลาก็จะทำให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น

ขอขอบคุณภาพจาก jacky2008

ทางกรมการขนส่งทาทงบกระบุอีกว่า สำหรับการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถส่วนบุคคลจากป้ายแดง เป็นป้ายดำ หากเป็นขั้นตอนของ ขบ. ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็แล้วเสร็จ ที่ผ่านมามีรถป้ายแดงจำนวนมากที่ไม่เปลี่ยนป้าย หรือเปลี่ยนป้ายช้า ส่วนหนึ่งมาจากขั้นตอนเอกสารของบริษัทรถยนต์ และ ดีลเลอร์ขายรถ ซึ่งหากถึงกำหนดเวลาตามเงื่อนไข ทางดีลเลอร์ต้องเร่งเวลาเรื่องเอกสารให้ได้ตามกำหนดของ ขบ.

สำหรับรถยนต์ ป้ายแดงที่ซื้อในช่วงก่อนหน้านี้ หรือก่อนวันที่ 1 ต.ค. แล้วยังไม่เปลี่ยนป้ายทะเบียน หากถึงกำหนดวันที่ 1 ต.ค.ที่เริ่มกวดขัน เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจคู่มือรถแล้วพบว่ารับรถมาเกิน 2 เดือนแล้วยังไม่เปลี่ยนป้ายทะเบียนจะถูกจับปรับเช่นกัน โดยช่วงแรกจะเน้นการประชาสัมพันธ์ หรือปรับอัตราต่ำสุดคือ 1,000 บาท

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสด