ซื้อแล้วห้ามขาย! All-New Toyota Land Cruiser 2022

หลังจากที่ Toyota เปิดตัว All-New Toyota Land Cruiser 2022 (โตโยต้า แลนด์ ครุยเซอร์) ใหม่ ที่นับได้ว่าเป็น King Of SUV ของญี่ปุ่นที่มีตำนานมายาวนานมากนับตั้งแต่ปี 1951 มาจนถึงทุกวันนี้ก็ครบรอบ 70 ปี Toyota Land Cruiser เลยพอดี ทาง Toyota จึงเปิดตัวโฉมใหม่หมดใน Series 300 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล รวมถึงเวอร์ชั่นสปอร์ตอย่าง GR ด้วย ซึ่งตอนนี้มียอดจองในญี่ปุ่นกว่า 22,000 คัน

All-New Toyota Land Cruiser 2022

แต่ล่าสุด มีข้อมูลจากลูกค้าจากญี่ปุ่นปล่อยข้อมูลออกมาว่า ทาง Toyota ห้ามไม่ให้ลูกค้าที่ซื้อรถรุ่นนี้ไปแล้ว เอาไปขายต่อในระยะเวลา 12 เดือน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในหลายประเทศได้ ซึ่งทางโตโยต้าออกมายืนยันแล้วว่า เป็นเรื่องจริง เพราะต้องการให้รถไปอยู่ในมือคนใช้งานจริงๆ มากกว่าอยู่ในมือผู้ที่ไม่หวังดี

All-New Toyota Land Cruiser 2022

สำหรับ All-New Toyota Land Cruiser 2022 ใหม่ พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์ม GA-F ซึ่งเป็นหนึ่งในแพล็ตฟอร์ม TNGA จากโตโยต้า แต่ยังคงใช้โครงสร้างตัวรถที่วางบนแชสซีส์ตามแบบฉบับ Land Cruiser รุ่นดั้งเดิม พร้อมปรับปรุงใหม่ให้แข็งแรงมากขึ้น และรีดน้ำหนักลงได้มากถึง 200 กิโลกรัม

All-New Toyota Land Cruiser 2022

ในโฉมนี้ ปรับปรุงช่วงล่างใหม่หมด ให้รองรับการขับขี่รูปแบบต่างๆ ทั้งทางเรียบและทางทุรกันดาร เสริมด้วยระบบ Multi-Terrain Monitor สำหรับแสดงอุปสรรคบนเส้นทางได้แบบ Real-Time และระบบ Multi Terrain Select เลือกโหมดการขับขี่ตามที่ต้องการ รวมถึงการใช้ช่วงล่างแบบ E-KDSS หรือ Electronic Kinetic Dynamic Suspension System เป็นครั้งแรกในโลกด้วย เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนยิ่งขึ้น

All-New Toyota Land Cruiser 2022

ภายในห้องโดยสาร ยังคงความหรูหราอลังการเอาไว้อย่างเต็มพิกัด เน้นออกแบบให้ผู้ขับใช้งานระบบต่างๆ ได้ง่าย และตกแต่งด้ยวัสดุสีเงินในโฉมนี้ยังมาะพร้อมระบบ Toyota Safety Sense ที่มีฟังก์ชั่น Parking Support Brake เพิ่มขึ้นมา โดยจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุในขณะถอยจอดได้

All-New Toyota Land Cruiser 2022

ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 Twin Turbo ขนาด 3.5 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 415 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ดีเซล V6 Twin Turbo ขนาด 3.3 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 309 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ทั้งคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

แต่ก็มีข่าวลูกค้าในญี่ปุ่นรายหนึ่งที่เพิ่งซื้อ All-New Toyota Land Cruiser 2022 ใหม่ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ Twitter @shimabase1 ว่า โตโยต้าได้ทำหนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ระบุว่าห้ามมิให้ลูกค้านำรถที่เพิ่งได้รับไปขายต่อให้ผู้อื่นภายในเวลาอย่างน้อย 12 เดือน หลังจากส่งมอบรถ หากฝ่าฝืนสัญญาจะไม่ได้รับสิทธิ์ให้ซื้อรถโตโยต้าอีกในภายหลัง

แต่ในตอนนี้ ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าลูกค้าที่ฝ่าฝืนสัญญาดังกล่าว จะถูกห้ามซื้อรถโตโยต้าคันใหม่เป็นเวลานานเท่าใด ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการเงื่อนไขที่ดูไม่ลงตัวเลย สำหรับผู้ขายกับลูกค้า

All-New Toyota Land Cruiser 2022

นอกจากนี้ อาจเป็นไปได้ว่าลูกค้าที่ซื้อรถรุ่นนี้ จะนำรถไปขายต่อให้บุคคลบางกลุ่มในต่างประเทศเพื่อใช้ในทางที่ไม่ดี คล้ายกับกรณีที่รถกระบะ Toyota Hilux หรือ Toyota Land Cruiser ถูกใช้งานโดยกลุ่มหัวรุนแรงในแถบตะวันออกกลาง จึงได้ออกสัญญามาเพื่อป้องกันการขาย หรือส่งออกรถไปขายยังต่างประเทศด้วยนั่นเอง

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

เปรียบเทียบ มวยคู่เด็ด! Honda City Turbo VS MG5 กับข้อดี ข้อเสีย ราคา ก่อนจะตัดสินใจซื้อ!

CARRO Thailand ขอเปรียบเทียบรถยอดนิยมแห่งปี 2021 กับรายละเอียดต่างๆ ข้อดี ข้อเสีย พร้อมตารางราคา และอัตราดอกเบี้ย กับ Honda City 2021 (ฮอนด้า ซิตี้) จัดว่าเป็นรถขายดีในเวลานี้ และ All-New MG5 2021 (เอ็มจี5) ใหม่ล่าสุดจากค่ายเอ็มจี

ซึ่งการมาของ MG5 ในครั้งนี้ เรียกได้ว่าสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถ Eco-Car (อีโคคาร์) กันอีกครั้ง และตัวรถยังให้อารมณ์สปอร์ตเหมือนกันทั้งคู่ CARRO เลยจับมาเปรียบเทียบกันให้เห็นกันจะๆ! หากใครสนใจรุ่นไหนอยู่ ลองคำนวณงบประมาณที่มี แล้วเลือกดูว่า จะผ่อนจะซื้อกันแบบไหนได้เลย

ถ้าคุณอยากขายรถด่วน เพื่อไปซื้อรถคันใหม่ หรือรับเงินก้อนไปใช้ สามารถขายรถคันเก่า หรือตีราคารถกับทาง CARRO ได้ ง่ายๆ ได้เงินไว! กับ CARRO Express เพียงแค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรือสามารถ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

Honda City 2021 / ฮอนด้า ซิตี้ 2021

Honda City 2021

ข้อดี : รูปทรงสวย สปอร์ต ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย พื้นที่เก็บสัมภาระ ใหญ่มาก เครื่อง 1.5 Turbo ที่แรงม้ามากกว่า อันนี้เป็นจุดได้เปรียบกว่า MG5 (ซึ่งสายซิ่งคงถูกใจแน่ๆ เพราะเอาไปต่อยอด แต่งได้อีกเพียบ) ช่วงล่างเกาะถนน ห้องเครื่องเก็บสายไฟ เก็บท่อต่างๆ ได้เรียบร้อย ชุดแต่ง ของแต่งในตลาดมีเพียบ เพราะได้เปรียบกว่าตรงที่ออกมาได้ 1 ปีกว่าแล้ว

ข้อด้อย : ราคาจำหน่าย ที่สูงไปนิดนึง อันนี้ถือเป็นข้อด้อยเมื่อเทียบกับ All-New MG5 ส่วนชุดคอนโซลภายใน ดูการดีไซน์รู้สึกเรียบง่ายไปหน่อย ซึ่งก็อยู่ที่มุมมองของแต่ละคน กับระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch ที่หลายคนอาจจะไม่ “สะใจ” กับฟังก์ชั่นที่มีมาให้นัก

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถในขนาด B-Segment (หรือ Sub-Compact ที่กระโดดลงมาเล่นในตลาดรถ Eco-Car Phase 2 แต่ทาง Honda ไม่เรียก Eco-Car แต่เรียกเป็น Ecology Car)

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (ในรุ่น RS)
  • กระจังหน้าแบบโครเมียม
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม
  • ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว และ 16 นิ้ว (ในรุ่น RS)
  • เบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV)
  • คอนโซลหน้าแบบ Piano Black (เฉพาะรุ่น SV/RS)
  • มาตรวัดเรืองแสงสีขาวพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่
  • ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT (ในรุ่น RS)
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (ในรุ่น RS)
  • พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (ยกเว้นรุ่น S)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ในรุ่น RS)
  • ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน (ในรุ่น RS)
  • กระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS (ในรุ่น RS)
  • ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED (ในรุ่น RS)
  • กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว (ในรุ่น RS)
  • สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS (ในรุ่น RS)
  • เบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (ในรุ่น RS)

Honda City 2021 / ฮอนด้า ซิตี้ 2021

เครื่องยนต์ : ขนาด 1.0 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC VTEC 12 วาล์ว Turbocharger ให้แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ทุกรุ่น ให้อัตราเร่ง และประหยัดน้ำมันได้ถึง 23.8 กม./ลิตร และมี Paddle Shifts เปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยได้ แบบ 7 สปีด และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้

มิติตัวรถ : ยาว 4,553 มม. กว้าง 1,748 มม. สูง 1,467 มม. ระยะฐานล้อ 2,589 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 135 มม. น้ำหนักรถ 1,150 – 1,165 กิโลกรัม

มีสีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS สีขาว Platinum (มุก) เฉพาะรุ่น RS และรุ่น SV สีดำ Crystal (มุก) สีเงิน Lunar (เมทัลลิก) สีเทา Modern Steel (เมทัลลิก) และสีขาว Taffata เฉพาะรุ่น V และรุ่น S

ราคาจำหน่าย :

  • รุ่น S (รุ่นเริ่มต้น) ราคา 579,500 บาท
  • รุ่น V (รุ่นกลาง) ราคา 609,000 บาท
  • รุ่น SV (รุ่นท็อป) ราคา 665,000 บาท
  • รุ่น RS (รุ่นท็อป-สปอร์ต) ราคา 739,000 บาท

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

All-New MG5 2021

ข้อดี : รูปทรงสวย สปอร์ต มาพร้อมนิยาม “BEYOND” ที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ที่มีความโดดเด่นและมีมุมมองที่เหนือระดับ ได้เปรียบกับความใหญ่ของตัวรถที่กินขาดรถ C-Segment หรือใหญ่เทียบเท่า Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) ทีเดียว รวมถึงหน้าตารถ และท้ายรถ ที่ดูคล้ายกับรถยุโรปอย่าง Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส-เบนซ์) เรื่องการดีไซน์ถือว่าสอบผ่านเลยทีเดียว ถูกใจคนชอบรถยนต์แนวยุโรป แต่ราคาสบายกระเป๋ากว่ามากครับ

และห้องโดยสารภายในที่มีความใหญ่กว่า ออฟชั่นมาตรึม! พร้อมกับหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว “ใหญ่สะใจ” คนชอบหน้าจอโตๆ ผนวกกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART สังการทำงานด้วยเสียงได้ พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม กับระบบ Smart Check, Smart Command และ Smart Connect อันเป็นจุดเด่นของ MG รวมถึงซันรูฟไฟฟ้า หลังคาเปิดได้ อันนี้ถือว่าได้เปรียบมากกว่า Honda City Turbo อย่างเห็นได้ชัด

ข้อด้อย : อาจจะเป็นในเรื่องของวัสดุพลาสติก ที่สมราคา แต่ก็ไม่แย่นะ การเก็บงาน ความหนาของชิ้นงาน ถือว่าดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ ซึ่งฝากระโปรงท้าย มีเพิ่มพลาสติกตัวเหล็กยกด้วย กับในส่วนของเครื่องยนต์ที่จุดนี้อาจจะดูด้อยกว่า City Turbo หน่อย หลายคนอาจจะผิดหวังที่ MG5 ตัว Turbo ไม่มา แต่เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรตัวนี้ เน้นใช้งานในเมืองก็ถือว่า OK แม้จะไม่แรง แต่ก็ได้ประหยัดน้ำมัน

รวมถึงศูนย์บริการที่แม้จะมีถึง 150 แห่งแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเทียบกับของ Honda ที่มีมากกว่ามาก อาจจะเป็นจุดด้อยสำหรับคนที่ต้องนำรถเข้ารับบริการ กรณีอยู่ในต่างจังหวัด

รายละเอียดตัวรถ : เป็นรถในขนาด B-Segment ที่มีใหญ่กว่ารถยนต์ประเภท B-Segment ทั่วไป

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ :

  • ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ
  • ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว (เฉพาะรุ่น X)
  • หลังคาซันรูฟ (เฉพาะรุ่น X)
  • วัสดุภายในเป็นแบบผิวสัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ในหลายตำแหน่ง
  • เบาะหนังสังเคราะห์ (ยกเว้นรุ่น C)
  • หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และโทรศัพท์มือถือระบบ Android
  • พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น
  • ปุ่ม PUSH Start
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • กรองอากาศ PM 2.5
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น X)
  • มาตรวัดอัจฉริยะแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว
  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับรถยนต์ MG ที่โดดเด่นด้วยระบบการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุด คือ กุญแจดิจิตอล (Digital Key) ที่เจ้าของรถสามารถส่งผ่านมายังโทรศัพท์มือถือ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องใช้กุญแจในการสตาร์ท อีกทั้งยังสามารถส่งกุญแจดิจิตอลให้กับผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ได้ด้วยการรับ-ส่งโค้ด ผ่านทางแอพพลิเคชั่น i-SMART (เฉพาะรุ่น X)
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ มาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA
  • เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (AVH)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA) (เฉพาะรุ่น X)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) (เฉพาะรุ่น X)
  • ม่านถุงลมนิรภัย (เฉพาะรุ่น X)
  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 3 มิติ (เฉพาะรุ่น X)
  • ระบบควบคุมการทรงตัวในขณะเข้าโค้ง (XDS)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล (TCS)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS) และอื่นๆ อีกมากมาย

จุดเด่น All-New MG5 ใหม่

เครื่องยนต์ : ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VTi-TECH ให้แรงม้าสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที

ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด และประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.9 กม./ลิตร (ตาม ECO Sticker) และสามารถรองรับน้ำมัน E85 ได้

มิติตัวรถ : ยาว 4,675 มม. กว้าง 1,842 มม. สูง 1,473 มม. (รุ่น X 1,480 มม.) ระยะฐานล้อ 2,680 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 138 มม. น้ำหนักรถ ประมาณ 1,2XX กิโลกรัม

มีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเหลือง (Nuclear Yellow), สีขาว (Arctic White), สีดำ (Black Knight), สีเงิน (Silver Metallic), สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey)

*สำหรับรุ่น C มีให้เลือก 3 สี คือ สีขาว, สีดำ และสีเงิน, รุ่น D มีให้เลือก 4 สี คือ สีขาว, สีดำ, สีเงิน และสีเทา และรุ่น X มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาว, สีดำ, สีเทา, สีเหลือง และสีแดง

ราคาจำหน่าย :

  • รุ่น C (รุ่นเริ่มต้น) ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น D (รุ่นกลาง) ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น X (รุ่นท็อป) ราคา 689,000 บาท

ตารางผ่อนดาวน์ Honda City 2021

ตารางผ่อนดาวน์ Honda City 2021 / ฮอนด้า ซิตี้ 2021

ตารางผ่อนดาวน์ All-New MG5 2021 ใหม่

  • รุ่น C ราคา 559,000 บาท
  • รุ่น D ราคา 599,000 บาท
  • รุ่น X ราคา 689,000 บาท

ตารางผ่อนดาวน์ All-New MG5 2021 ใหม่

อย่างไรก็ตาม ขอให้บทความนี้เป็นเครื่องมือช่วยให้ทุกท่าน เลือกรถคู่ใจได้ตามความต้องการ และตามงบที่มี เพราะการเลือกซื้อรถแต่ละคัน แต่ละคนย่อมมีรสนิยม ความชอบ ความพึงพอใจ ในหลายองค์ประกอบไม่เหมือนกัน

รวมไปถึงความเชื่อมั่นในแบรนด์ด้วย ที่ต่างคนก็ต่างมีประสบการณ์ในการเจอที่ปรึกษาการขาย เจอดีลเลอร์ เจอการซ่อม การเคลม หรือราคาอะไหล่ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น การที่คุณเลือกรถใช้แบรนด์ต่างจากคนอื่น ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใดจ้า

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิม มาขายรถคันเดิมกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

แต่ถ้าหากช่วงนี้ใครอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ มาใช้แทนที่รถคันเดิม CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยมผ่านระบบออนไลน์ พร้อมตอบโจทย์คุณด้วยคอนเซปต์ “click.buy.drive.” คุณสามารถจองรถออนไลน์ ได้ในเวลาเพียง 1 นาทีเท่านั้น!

รถทุกคันผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check มากกว่า 200 จุด และยังมีเทคโนโลยี “360 View & Sound Engine Analysis” ให้คุณเลือกชมรถยนต์เสมือนจริงออนไลน์รายแรกในไทย ทั้งภาพและเสียงในรูปแบบ 360 องศา พร้อมรับประกันคุณภาพรถนานถึง 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร! อีกทั้งยังการันตีความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 5 วันอีกด้วย! เรามีรถให้คุณเลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน ซื้อรถคุณภาพเยี่ยม ต้องที่ CARRO Automall สิ!

หรือถ้าหากสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall Thailand โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall ครับ

สถิติการขายรถยนต์ ยอดขายรถ ตลาดรถยนต์ไทย ปี 2564

สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2564 มียอดขายรวมทั้งสิ้น 55,948 คัน เพิ่มขึ้น 38.4% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 15,569 คัน เพิ่มขึ้น 32.7% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 40,379 คัน เพิ่มขึ้น 40.6% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 31,778 คัน เพิ่มขึ้น 37.3%

ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2564 มีปริมาณการขาย 55,948 คัน เพิ่มขึ้น 38.4% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 32.7% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 40.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากข้อเสนอพิเศษที่หลากหลาย แคมเปญ โปรโมชั่นจากค่ายรถยนต์ที่แข่งขันอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ตลอดจนการจัดการฉีดวัคซีน COVID-19 ของภาครัฐ ส่งผลให้ผู้บริโภคคลายความวิตกกังวล และจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ผนวกกับการทยอยส่งมอบรถที่ลูกค้าจองในงาน Motor Show 2021 (มอเตอร์โชว์ 2021) ที่ผ่านมา

Isuzu-D-Max-V-Cross-2021

ตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายนมีแนวโน้มชะลอตัว สืบเนื่องจากความกังวลต่อการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยการแพร่ระบาดในระลอกนี้รุนแรงมากกว่าระลอกก่อน รวมถึงการตรวจพบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อเศรษฐกิจให้ต้องชะลอ หรือเลื่อนกำหนดการออกไป ทั้งนี้ ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม แทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ยังมีความหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะฟื้นตัวดีขึ้นจากความพยายามของภาครัฐในการแก้ไขปัญหา ควบคู่ไปกับการดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับคนไทยครบ 50 ล้านคนภายในสิ้นปี ซึ่งจะก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไป

Nissan Almera Sportech

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤษภาคม 2564

  1.   ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 55,948 คัน เพิ่มขึ้น 38.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,767 คัน เพิ่มขึ้น 45.2% ส่วนแบ่งตลาด 35.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,866 คัน เพิ่มขึ้น 46.8% ส่วนแบ่งตลาด 26.6%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 4,998 คัน เพิ่มขึ้น 19.6% ส่วนแบ่งตลาด 8.9%
  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 15,569 คัน เพิ่มขึ้น 32.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 4,824 คัน เพิ่มขึ้น 35.6% ส่วนแบ่งตลาด 31.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 4,380 คัน เพิ่มขึ้น 24.6% ส่วนแบ่งตลาด 28.1%
อันดับที่ 3 มาสด้า 1,527 คัน เพิ่มขึ้น 50.9% ส่วนแบ่งตลาด 9.8%
  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 40,379 คัน เพิ่มขึ้น 40.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,943 คัน เพิ่มขึ้น 46.8% ส่วนแบ่งตลาด 36.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,866 คัน เพิ่มขึ้น 48.6% ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,702 คัน เพิ่มขึ้น 94.9% ส่วนแบ่งตลาด 6.7%
  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 31,778 คัน เพิ่มขึ้น 37.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 13,403 คัน เพิ่มขึ้น 43.8% ส่วนแบ่งตลาด 42.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 12,519 คัน เพิ่มขึ้น 37.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,702 คัน เพิ่มขึ้น 94.9% ส่วนแบ่งตลาด  8.5%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,039 คัน
โตโยต้า 2,023 คัน – อีซูซุ 1,143 คัน – มิตซูบิชิ 451 คัน – ฟอร์ด 390  คัน – นิสสัน 32 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 27,739 คัน เพิ่มขึ้น 34.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 12,260 คัน เพิ่มขึ้น 36.9% ส่วนแบ่งตลาด 44.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 10,496 คัน เพิ่มขึ้น 34.0% ส่วนแบ่งตลาด 37.8%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,312 คัน เพิ่มขึ้น 108.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.3%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564

  1.  ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 308,217 คัน เพิ่มขึ้น 13.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า
94,848 คัน เพิ่มขึ้น 17.3% ส่วนแบ่งตลาด 30.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 79,067 คัน เพิ่มขึ้น 33.1% ส่วนแบ่งตลาด 25.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
35,376 คัน ลดลง 0.4% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%
  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 97,813 คัน ลดลง 1.1%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 30,164 คัน เพิ่มขึ้น 1.6% ส่วนแบ่งตลาด 30.8%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
24,289 คัน ลดลง 3.3% ส่วนแบ่งตลาด 24.8%
อันดับที่ 3 นิสสัน 9,739 คัน ลดลง 10.7% ส่วนแบ่งตลาด 10.0%
  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 210,404 คัน เพิ่มขึ้น 22.2%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 79,067 คัน เพิ่มขึ้น 33.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.6%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
70,559 คัน เพิ่มขึ้น 26.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 13,575 คัน เพิ่มขึ้น 38.6% ส่วนแบ่งตลาด 6.5%
  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 163,765 คัน เพิ่มขึ้น 19.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ
72,457 คัน เพิ่มขึ้น 31.3% ส่วนแบ่งตลาด 44.2%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
59,669 คัน เพิ่มขึ้น 22.0% ส่วนแบ่งตลาด 36.4%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 13,575 คัน เพิ่มขึ้น 38.6% ส่วนแบ่งตลาด 8.3%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 24,130 คัน
โตโยต้า 10,540 คัน – อีซูซุ 8,250 คัน – มิตซูบิชิ 3,079 คัน – ฟอร์ด 2,145 คัน – นิสสัน 116 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 139,635 คัน เพิ่มขึ้น 13.7%
อันดับที่ 1 อีซูซุ
64,207 คัน เพิ่มขึ้น 21.7% ส่วนแบ่งตลาด 46.0%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
49,129 คัน เพิ่มขึ้น 12.9% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 11,430 คัน เพิ่มขึ้น 42.8% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%

ส่วนถ้าใครตอนนี้อยากขายรถคันเดิม แล้วไปซื้อรถป้ายแดงมาใช้ มาขายรถกับ CARRO Express สิ! ได้ราคาดี พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall

แหล่งที่มาจาก:

สีรถยนต์ มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถ

แอ็กซอลตา (Axalta) (NYSE: AXTA) ผู้นำอันดับหนึ่งของโลกทั้งสีน้ำและสีฝุ่น เผยผลสำรวจความชอบสีรถยนต์ของลูกค้า ประจำปี 2021 โดยการทำวิจัยกับผู้บริโภคเพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของสีรถยนต์กับการตัดสินใจซื้อรถ

ซึ่งจากผู้ร่วมตอบแบบสอบถามกว่า 4,000 คน อายุ 25-60 ปี ในตลาดผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดใน 4 ประเทศ ได้แก่ จีน เยอรมนี เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา พบว่าสีรถยนต์มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถถึง 88%

“ตามหลักจิตวิทยา สีมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อรถ บ่อยครั้งที่สีสะท้อนบุคลิกเฉพาะตัวของเจ้าของรถ” แนนซี ล็อกฮาร์ท ผู้จัดการด้านสีพ่นรถยนต์ระดับโลกจากแอ็กซอลตา กล่าว “สิ่งที่น่าสนใจคือ ความสง่างาม ความคงทน และการมองบวก เป็นคุณลักษณะเฉพาะของสีรถยนต์ที่เป็นที่ต้องการจากผู้ที่เข้าร่วมทำการสำรวจนี้”

สีรถยนต์ มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถ

การสำรวจนี้วิเคราะห์ความต้องการสีรถยนต์ของลูกค้า เพื่อความเข้าใจเทรนด์สีในอนาคต ในขณะที่ลูกค้าต้องการสีที่หลากหลาย แต่ละบุคคลก็มีความต้องการที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศด้วย

การสำรวจยังสอบถามรวมไปถึงแม่สีและสีเอฟเฟกต์ที่ชอบ สีรถที่เคลือบเงาเป็นที่ต้องการโดยส่วนมาก ยกเว้นในจีน ผลสำรวจยังแสดงสัดส่วนระหว่างความชอบสีเคลือบเงา 48% และสีเคลือบด้าน 52% ความชื่นชอบของสีเอฟเฟกต์ค่อนข้างแตกต่างกับผลสำรวจของแม่สี สีโซลิด เป็นสีที่ชื่นชอบในสหรัฐอเมริกาและจีน ขณะที่ชาวเยอรมันชอบแม่สีมุก และเม็กซิโกชอบแม่สีเอฟเฟต์และแม่สีมุกด้วย

แอ็กซอลตาออกแบบสีรถยนต์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทั่วโลก การศึกษาความเปลี่ยนแปลงในสีที่ชื่นชอบของแต่ละประเทศและแต่ละลักษณะของรถ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มหรือเทรนด์สีในอนาคตได้ “การพัฒนาจำเพาะและนำเสนอสีใหม่ ๆ อยู่เสมอจะทำให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ เราจะเข้าใจแนวโน้มของตลาด เราจะทราบว่าสีใดที่โดดเด่นและเป็นที่ชื่นชอบ สีแดงและสีน้ำเงินเป็นสีที่นิยมขึ้นมา เราจะเห็นมากขึ้นตามท้องถนนในไม่ช้านี้” ล็อกฮาร์ท กล่าวทิ้งท้าย

สีรถยนต์ มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถ

ผลสำรวจในแต่ละประเทศ

  • จีน สีรถยนต์มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถของลูกค้าถึง 99% สีขาวเป็นที่นิยมมากที่สุด (29%) และสีดำ (26%) สีแดงและสีน้ำเงินอยู่ในอันดับ 5 และ 6 ตามลำดับ จากผลสำรวจ 64% จะเปลี่ยนยี่ห้อรถ หากไม่มีสีที่ชอบ และ 93% ตัดสินใจซื้อรถจากสีที่ชอบด้วยตนเองแต่เพียงผู้เดียว ขณะที่ 7% ให้คนอื่นช่วยตัดสินใจเรื่องสีรถด้วย
  • เยอรมนี สีรถยนต์มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถของลูกค้าถึง 83% ตัดสินใจด้วยตนเองเพียงผู้เดียว 63% และให้ครอบครัวช่วยตัดสินใจ 37% สีดำเป็นสีที่ชื่นชอบ 32% สีน้ำเงินมาเป็นอันดับ 2 ที่ 16% มีความเห็นว่า สีดำสะท้อนความสง่างาม และสีน้ำเงินสะท้อนความสุขุม มั่นคง และกว่า 1 ใน 4 (27%) เป็นเจ้าของรถยนต์ขนาดคอมแพกซ์สีดำ
  • เม็กซิโก 90% ที่ตอบว่าสีมีผลต่อการซื้อรถยนต์ สีแดงเป็นสีที่ชื่นชอบมากที่สุดที่ 22% ทั้งหญิงและชาย

Buy-Secondhand-cars-And-VAT-Tax

4 ใน 10 จะเปลี่ยนยี่ห้อรถหากไม่มีสีที่ต้องการ ผู้ตอบแบบสอบถาม 64% เป็นเจ้าของรถยนต์นั่งซีดาน สีแดงสะท้อนบุคลิกที่สง่างาม และสีน้ำเงินสะท้อนบุคลิกคิดบวก

  • สหรัฐอเมริกา สีมีผลต่อการซื้อรถยนต์ 79% เกือบครึ่ง (46%) กล่าวว่าสีมีส่วนสำคัญอย่างมาก

82% ตัดสินใจด้วยตนเอง และ 53% มีรถมากกว่า 1 คันในครอบครัว แม้ว่าสีดำจะเป็นสีที่ได้รับความนิยมในภาพรวม แต่เจ้าของรถบรรทุกเลือกสีที่มีสีสันมากขึ้น สีน้ำเงิน (อันดับ 2) และสีแดง (อันดับ 3) สีน้ำเงินสะท้อนความคิดบวกและสีแดงแสดงถึงการผจญภัย

และสำหรับในไทย พบว่า สีรถถูกโฉลกตามวันเกิดของเจ้าของรถ ตามความเชื่อของคนไทย เป็นสีที่เจ้าของรถนิยมเลือกกันมากเป้นอันดับต้นๆ ประจำปี 2021 เลยทีเดียว และสีที่ได้รับความนิยมในไทย ยังคงเป็นรถยนต์สีขาวมุก, สีบรอนซ์, สีทอง, สีน้ำตาล หรือสีดำ เป็นต้น

How-To-Buy-A-Car-With-Bad-Credit

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ! มาขายรถกับ CARRO Express สิ! Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

อีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall

5 เหตุผล ที่ทำไมคนญี่ปุ่น ถึงนิยมเทคโนโลยี e-Power ของรถ Nissan

นับตั้งแต่ Nissan (นิสสัน) แนะนำเทคโนโลยี e-Power (นิสสัน อี-พาวเวอร์) ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น กับ Nissan Note (นิสสัน โน๊ต) รถยนต์แบบ Compact เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 ตั้งแต่นั้นมา Nissan Note e-Power ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และยังได้รับรางวัลรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ประจำปี 2018*

Nissan Note e-Power และ Nissan Serena e-Power

ต่อมา ในเดือนมีนาคม 2018 Nissan เปิดตัวรถมินิแวน Nissan Serena e-Power (นิสสัน เซเรน่า อี-พาวเวอร์) ตามด้วย Nissan Kicks e-Power (นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์) ในเดือนมิถุนายน 2020 พร้อมๆ กับบางประเทศในทวีปเอเชีย และในไทย

ซึ่งทำให้เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ แพร่หลายมากยิ่งขึ้น และในเดือนธันวาคมปีเดียวกันก็ได้เปิดตัว นิสสัน โน๊ต ใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เจเนอเรชั่นที่ 2

Nissan Note e-Power E12 Engine

เดือนมีนาคมปี 2021 Nissan เปิดตัว Nissan Qashqai e-Power (นิสสัน แคชไค อี-พาวเวอร์) ใหม่ ในตลาดยุโรปหลังจากมีการเปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์แบบ Mild Hybrid ไปก่อนหน้านี้ นับเป็นการเปิดตัวเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ครั้งแรกในทวีปยุโรป และที่งาน Auto Shanghai 2021 ในประเทศจีน Nissan ก็ได้เปิดตัวเทคโนโลยีนี้ด้วยเช่นกัน

Nissan Note e-Power E12 Engine

และในเดือนมีนาคมเดียวกันนี้ Nissan สามารถสร้างยอดขายรถยนต์ Nissan e-Power ได้ทะลุ 500,000 คัน! ซึ่งประเทศที่ครองยอดขายเป็นอันดับ 1 คือ ประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งในเดือนมิถุนายนนี้ Nissan ได้เสริมทัพด้วย Nissan Note Aura (นิสสัน โน๊ต ออร่า) ที่ใช้ e-Power ออกมาอีกรุ่น

MR.CARRO เลยชวนคุณมาดู 5 เหตุผล ว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงโคตรนิยมรถยนต์ e-Power ของ Nissan กันครับ …

Nissan Note e-Power E13 2021

1. มอเตอร์ไฟฟ้า 100%

e-Power ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แบบเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% คือการใช้เครื่องยนต์เบนซินประสิทธิภาพสูง ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อส่งต่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าใช้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถ (ถ้าคุณนึกภาพไม่ออก ว่า e-Power ทำงานอย่างไร? ขอให้นึกถึงรถไฟ แบบรถจักรดีเซลไฟฟ้า มีหลักการทำงานที่คล้ายกัน)

ผู้ขับขี่จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเงียบภายในห้องโดยสาร และได้ความสนุกในการขับขี่ ด้วยอัตราเร่งที่ทันใจแบบรถยนต์ไฟฟ้า แต่สะดวกกว่า ตรงที่เติมน้ำมันแทนการชาร์จไฟจากภายนอก

2. 5 รางวัลจากญี่ปุ่น

เทคโนโลยี e-Power ได้รับรางวัลระดับประเทศมาแล้ว 5 รางวัลในประเทศญี่ปุ่น เช่น รางวัลเทคโนโลยียอดเยี่ยมแห่งปีในประเทศญี่ปุ่น จาก สมาคมนักวิจัย และนักข่าวด้านยานยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น (Automotive Researchers’ and Journalists’ Conference of Japan) (RJC)

อีกทั้งจากการที่มีส่วนในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อี-พาวเวอร์ ยังได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมจากศูนย์อนุรักษ์พลังงานประเทศญี่ปุ่น (The Energy Conservation Center Japan) (ECCJ)

*ยอดขาย Note ประกอบด้วย Note รุ่นมาตรฐานและ Note e-Power โดยรุ่น อี-พาวเวอร์ คิดเป็นประมาณ 70% ของยอดขาย

Nissan Note e-Power E13 2021

3. ไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอก

หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ความเงียบ และอัตราเร่งที่ราบรื่นเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า แต่สะดวกสบายเพราะไม่ต้องชาร์จไฟจากภายนอกหรือต้องคอยหาสถานีชาร์จ แน่นอนว่า e-Power มอบความพิเศษนี้ให้กับคุณได้

และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเทคโนโลยีถึงได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า แต่ไม่สะดวกชาร์จที่บ้าน เช่น ผู้คนที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนท์ในโตเกียว

4. ยอดขายรถยนต์ Nissan e-Power ในญี่ปุ่นทะลุ 500,000 คัน

หากคุณนำรถยนต์ e-Power ที่จำหน่ายไปแล้วกว่า 500,000 คันมาเรียงต่อกัน ก็จะได้ความยาวเท่ากับระยะทางจากโตเกียวถึงไทเป![1] หรือพอๆ กับหากคุณเดินเท้าจากกรุงเทพไปยังมะนิลา![2]

Nissan Note e-Power E13 2021

5. ลดการใช้แป้นเบรกลง 70% ด้วย One-Pedal

การได้ลดการใช้แป้นเบรกในระหว่างรถติดนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ขับขี่ชาวญี่ปุ่น เทคโนโลยี One-Pedal ในคิกส์ อี-พาวเวอร์ ช่วยให้คุณได้เร่งและชะลอความเร็วรถโดยใช้แป้นคันเร่งเพียงแป้นเดียว

นวัตกรรมนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยลดจำนวนการใช้แป้นเบรกได้ถึง 70% เมื่อรถมีการชะลอความเร็ว ระบบจะมีการฟื้นฟูพลังงานเพื่อชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

อีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ เรายินดีหาให้! เพียงแค่กรอกเบอร์โทรศัพท์ ชื่อยี่ห้อ / รุ่นรถ ที่คุณต้องการก็ได้เช่นกันครับ อีกทั้งยังสามารถ Inbox เข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง โทร. 02-508-8690 หรือทาง Line @carroautomall

แหล่งที่มาบางส่วนจาก:

BMW Z4 (E89) ราคาตอนซื้อป้ายแดง ผ่อนเดือนละเท่าไหร่

จากกรณีข่าวรถสปอร์ต BMW Z4 (บีเอ็มดับเบิลยู แซด4) รหัส E89 ซิ่งฝ่าสายฝนจนเกิดอุบัติเหตุรถพุ่งข้ามเลนไปชนรถอีกคัน ทำให้หลายคนอยากทราบรายละเอียดเบื้องต้นของ BMW Z4 รุ่นนี้ว่า มีความเป็นมาในบ้านเราอย่างไรบ้าง …

และราคาจำหน่ายของ BMW Z4 รุ่นดังกล่าว หลายคนอยากทราบว่าตอนป้ายแดงคันละเท่าไหร่ และค่างวดที่ต้องผ่อนจ่ายในแต่ละเดือน เท่าไหร่บ้าง

MR.CARRO เลยขอนำราคาและค่างวดของรถรุ่นนี้ ในยุคที่ยังเป็นรถป้ายแดง มาให้ทุกคนได้ดูกันครับ

BMW Z4 sDrive35i

สำหรับ BMW Z4 Roadster รหัส E89 สุดยอดแห่งโรดสเตอร์ที่ผสมผสานความคลาสสิค กับดีไซน์ที่มีเสน่ห์แบบโรดสเตอร์พันธุ์แท้ และยังเป็นรถ BMW ที่ออกแบบโดยผู้หญิง ซึ่ง Juliane Blasi ออกแบบตัวรถภายนอก และในส่วนของห้องโดยสารออกแบบโดย Nadya Arnaout ผสานกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และความสะดวกสบาย

อีกทั้งยังรวมถึงอารมณ์การขับขี่สไตล์สปอร์ตโรดสเตอร์เต็มรูปแบบ ด้วยการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุล 50:50 หน้า:หลัง และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ผลิตจาก​โรงงานในเมือง Regensburg แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ถูกนำเข้ามาเปิดตัวในไทยเมื่อเดือนมีนาคม 2552 แรกเริ่มนั้นเป็นรุ่น sDrive23i, sDrive23i Highline ในราคา 4,599,000 – 5,099,000 บาท

BMW Z4 sDrive35i

BMW Z4 ชูจุดเด่นด้วยหลังคา Retractable Hardtop แบบแข็ง (Hardtop) เป็นครั้งแรก โดยชุดหลังคาสามารถ เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าในเวลาเพียง 20 วินาที อีกทั้งยังสามารถใส่ถุงกอล์ฟได้ถึง 2 ใบ (ขณะหลังคาปิด) สำหรับผู้ขับขี่ที่รักความสปอร์ตของรถแบบโรดสเตอร์ แต่ยังคงหลงใหลในกีฬากอล์ฟ

BMW Z4 sDrive35i

ไฮเทคสุดๆ กับระบบ iDrive ที่มีศูนย์บัญชาการข้อมูล CIC Car Infotainment Computer สั่งการระบบข้อมูลแผนที่นาวิเกเตอร์ โทรศัพท์ และระบบเอนเตอร์เทนเมนท์ BMW Navigation System Professional ทำงานบนฮาร์ดดิสก์ขนาด 80GB +DVD + Bluetooth + iPod USB Connector แสดงผลผ่านจอมอนิเตอร์ความละเอียดสูง 1280 x 480 พิกเซล

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร รหัส N52 ให้แรงม้าสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 2,750 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.3 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 11.2 กม./ลิตร

และ sDrive35i ที่นำเข้ามาในช่วงแรก ใช้ขุมพลัง 3.0 ลิตร รหัส N54 ให้แรงม้าสูงสุด 306 แรงม้า และมีราคาอยู่ที่ 7,599,000 บาท

ต่อมาในเดือนมีนาคม 2553 BMW ปรับให้ BMW Z4 sDrive23i สามารถเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ได้ ซึ่งเป็นโรดสเตอร์พลังงานทางเลือกรุ่นแรกของเมืองไทย ปรับราคาตัวรถลงมาเหลือ 4,399,000 – 4,799,000 บาท

BMW Z4 sDrive35iS

ในเดือนมิถุนายน 2553 BMW เปิดตัว BMW Z4 sDrive35is สุดยอดโรดสเตอร์พันธุ์สปอร์ต เคาะราคาขายสูงกว่าใครเพื่อน สมกับเป็นราคาของคนเท้าหนัก 8,399,000 บาท

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงขนาด 3.0 ลิตร อัดอากาศด้วยระบบ Twin Turbo ผลิตแรงม้าได้สูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-4,500 รอบ/นาที เพิ่มขึ้นถึง 500 นิวตัน-เมตรในขณะเร่งแซง ด้วยฟังก์ชั่น Overboost ระบบเทอร์โบ ด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 4.8 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 11.1 กม./ลิตร

BMW Z4 sDrive35iS

ระบบเกียร์คลัทช์คู่ DCT 7-สปีด พร้อมฟลายวีลแบบ Two-Mass และโปรแกรมพิเศษ พร้อมฟังก์ชั่น Launch Control รับแรงบิดสูงของเครื่องยนต์ได้สบายๆ และโปรแกรมเกียร์ปรับให้เหมาะสม เน้นพละกำลัง ความปราดเปรียว และมีฟังก์ชั่น Launch Control สำหรับผู้ขับที่ต้องการออกตัวให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

ระบบปั๊มน้ำและปั๊มน้ำมันเครื่องแบบ On-Demand แล้ว ยังมีระบบ Brake Energy Re-Generation ซึ่งเป็นการนำพลังงานจากการเบรกกลับมาแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อป้อนให้กับระบบต่างๆ ภายในรถด้วย

BMW Z4 sDrive35iS

ระบบท่อไอเสียปรับแต่งให้เสียงทุ้ม นุ่มลึก เข้ากับคาร์แรคเตอร์ โดยออกแบบท่อทางเดินอากาศและหม้อพักไอเสียเป็นพิเศษ เพื่อให้ได้เสียงความถี่ต่ำ ให้ความรู้สึกถึงพลังที่ซ่อนอยู่ของโรดสเตอร์พันธุ์ดุ โดยที่ไม่ดังส่งเสียงรบกวนจนน่ารำคาญ

ภายหลังในช่วงปี 2555 ปรับรุ่นย่อยเหลือเป็นรุ่น sDrive20i, sDrive20i Highline ใช้เครื่องยนต์เล็กลงเป็น 2.0 ลิตร รหัส N20 ให้แรงม้าสูงสุด 184 แรงม้า ในราคา 3,799,000 – 4,199,000 บาท

BMW Z4 sDrive20i Highline 2013

ช่วงต้นปี 2556 ในเยอรมนี ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ LCi และรุ่นย่อย บ้านเราเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2556 นำเข้าเฉพาะรุ่น sDrive20i Highline อย่างเดียว ในราคา 3,999,000 – 4,099,000 บาท

สำหรับ BMW Z4 sDrive20i Highline มาพร้อมกับสีที่มีให้เลือกได้ถึง 8 สี รวมถึงโทนสีใหม่ล่าสุด เช่น สี Mineral Grey Metallic, สี Glacier Silver Metallic, และ สี Valencia Orange Metallic ที่มีให้เลือกโดยเฉพาะสำหรับ BMW Z4 sDrive20i Highline พร้อมชุดตกแต่งพิเศษที่ผสมผสานระหว่างการดีไซน์แบบ Design Pure Traction และชุดแต่ง M Sport

BMW Z4 sDrive35iS

โดยชุดตกแต่งพิเศษ Design Pure Traction นี้โดดเด่นและเหนือชั้นกับทุกรายละเอียดของการสร้างสรรค์ เน้นความเป็นผู้นำแห่งโรดสเตอร์ที่ไม่เหมือนใคร สะกดทุกสายตากับตัวรถสีส้ม Valencia Orange ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีที่ตัดกัน เพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยหนังแบบ Alcantara สีส้มตัดกับหนังสีดำทั้งเบาะนั่งแบบสปอร์ตและแผงประตู

BMW Z4 sDrive35iS

ส่วนของคอนโซลกลางสีดำแบบ Black Piano ได้รับการติดตั้งพร้อมหนังที่เย็บด้วยตะเข็บสีส้ม เพิ่มบุคลิกความเป็นสปอร์ตเข้ากันอย่างลงตัว

สำหรับชุดตกแต่งพิเศษ Design Pure Balance นั้น ภายในผสมผสานหนังแท้สีดำกับสีน้ำตาลเข้ม (Cohiba Brown) ของเบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนังแท้ Merino และตัดขอบด้วยตะเข็บสีขาว

BMW Z4 sDrive35iS

นอกจากนี้ ยังเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นด้วยชุดตกแต่ง M Sport Package พร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว และชุดแต่ง M แอโรไดนามิครบครัน รวมถึงเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น หุ้มด้วยหนังแท้สไตล์สปอร์ตแบบ M พร้อมก้านเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย กาบบันได M รวมถึงผ้าบุหลังคาสี Anthracite

BMW Z4 sDrive20i

ก่อนที่จะขายกันมาเรื่อยๆ มาจนถึงต้นปี 2559 ทาง BMW Group Thailand จึงยุติการนำเข้าไป และนี่ก็คือรายละเอียดของ BMW Z4 (E89) ที่คุณต้องรู้ไว้เบื้องต้น ก่อนจะซื้อมาใช้กันครับ!

สำหรับราคาของ BMW Z4 Roadster (E89) ตอนออกใหม่ๆ และค่างวดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน ของ BMW Hire Purchase (แบบมี Balloon) จะต้องจ่ายเท่าไหร่ มาดูกันได้ที่ตารางนี้ครับ

BMW Z4 (E89) ราคาตอนซื้อป้ายแดง ผ่อนเดือนละเท่าไหร่

*หมายเหตุ: ราคาและค่างวดตามนี้ คำนวณจากเงินดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน (และมียอด Ballroon งวดสุดท้าย จ่าย 30-40% ของราคารถ ซึ่งรถในแต่ละรุ่น แต่ละปี จำนวนเงินที่ต้องจ่ายอาจไม่เท่ากัน)

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

กรมการขนส่งทางบก เปิดให้ทำใบขับขี่ทุกประเภท จองคิวใบขับขี่ออนไลน์ได้

ในช่วงนี้ สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มดีขึ้นในหลายพื้นที่ กรมการขนส่งทางบก จึงได้ผ่อนคลายการให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) ทุกประเภท และใบอนุญาตผู้ประจํารถ โดยสำนักงานขนส่งทุกแห่ง กลับมาเปิดให้บริการตามปกติเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป

คนที่เคยจองคิวขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่ หรือการอบรมที่สำนักงาน ที่เคยได้รับคิวระหว่าง 16 เมษายน 2564 – 18 มิถุนายน 2564 สามารถเลือกวันและเวลารับบริการได้ก่อน ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2564 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป

กรมการขนส่งทางบก เปิดให้ทำใบขับขี่ทุกประเภท จองคิวใบขับขี่ออนไลน์ได้

สำหรับผู้ที่จองคิวได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป สามารถเข้ารับบริการได้ตามวันและเวลาที่นัดหมาย หลังจากนั้นกรมการขนส่งทางบก ถึงจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้จองคิวมาก่อน สามารถเข้าระบบจองคิวได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก ได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอผ่อนผันการใช้กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง กับผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถ และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถที่สิ้นอายุแล้ว สามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564

กรมการขนส่งทางบก เปิดให้ทำใบขับขี่ทุกประเภท จองคิวใบขับขี่ออนไลน์ได้

ส่วนผู้ถือใบขับขี่และใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถที่สิ้นอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป ในระหว่างวันที่ 10 เมษายน – 30 กันยายน 2564 กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเยียวยา คือ กรณีสิ้นอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป จะยกเว้นการทดสอบข้อเขียน กรณีสิ้นอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป จะยกเว้นการทดสอบขับรถ

ส่วนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตาม พรบ. การขนส่งทางบก (ใบขับขี่รถสาธารณะ) สิ้นอายุเกิน 3 ปี จะได้รับการยกเว้นการทดสอบขับรถ

ผู้สนใจสามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th ของกรมการขนส่งทางบก

1

สำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

แหล่งที่มาจาก:

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

Great Wall Motor (เกรท วอลล์ มอเตอร์) เปิดโรงงานเต็มรูปแบบแห่งที่สองนอกประเทศจีน ณ ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 9 มิถุนายน 2564 วางแผนสร้างฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวา พร้อมเฉลิมฉลองรถคันแรกจากสายการผลิต เตรียมส่งมอบให้กับผู้บริโภคชาวไทย

  • เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย ถือเป็นโรงงานผลิตแบบเต็มรูปแบบแห่งที่สอง นอกประเทศจีนของ เกรท วอลล์ มอเตอร์
  • พร้อมเดินสายการผลิตด้วยมาตรฐานระดับโลกและเทคโนโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัยภายใต้แนวคิด “ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Intelligence, Safety and Green)
  • เฉลิมฉลองรถคันแรก All New HAVAL H6 Hybrid SUV จากสายการผลิตในประเทศ ตอกย้ำความพร้อมเพื่อส่งมอบรถยนต์คุณภาพสูงให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย โดยจะเริ่มเปิดจองสิทธิ์ลงทะเบียนเพื่อซื้อ 15 มิถุนายนนี้

โรงงาน Great Wall Motor จังหวัดระยอง

เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดพิธีเปิดโรงงานอัจฉริยะ ฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน ที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ “GWM Smart Factory for Smart xEV World” โรงงานแห่งนี้ถือเป็นโรงงานการผลิตแบบเต็มรูปแบบที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สอง ของโรงงานการผลิตนอกประเทศจีน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอีกครั้ง ตอกย้ำความเป็น “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก (Global Mobility Technology Company)” ด้วยการเปิดโรงงานอัจฉริยะ หรือ “Smart Factory” ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์เต็มรูปแบบแห่งที่ 2 ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ นอกประเทศจีนเป็นทางการ ในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC จังหวัดระยอง ภายใต้แนวคิด “ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Intelligence, Safety and Green)

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

พร้อมเผยโฉม All New HAVAL H6 Hybrid SUV คันแรกจากสายการผลิตในประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและตอกย้ำความพร้อมในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในเร็วๆ นี้

มร. เอลเลียต จาง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เผยว่า “โรงงานที่จังหวัดระยองนี้ ถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์ในต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และเป็นโรงงานผลิตอัจฉริยะแห่งใหม่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราพร้อมสำหรับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตลาดอาเซียนอย่างเป็นทางการ และภายในปลายปีนี้ เราจะสร้างอาชีพกว่า 1,000 ตำแหน่ง ในประเทศไทย และในอนาคตทรัพยากรบุคคลของเราจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

การเปิดโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ แห่งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญตามกลยุทธ์โลกาภิวัตน์ของเราในการขยายธุรกิจมาสู่ตลาดอาเซียนโดยเฉพาะตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวา โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ เชื่อมั่นเต็มที่ในศักยภาพของประเทศไทย ที่พร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี องค์ความรู้ ทักษะและฝีมือของพนักงาน รวมไปถึงความร่วมมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ที่จะช่วยเติมเต็มและผลักดันให้โรงงานระยองเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย

โดยโรงงานแห่งนี้ ถือเป็นโรงงานอัจฉริยะที่มีมาตรฐานระดับโลกที่พลิกโฉมและสร้างมาตรฐานใหม่ เราได้นำเทคโนโลยีหลักจำนวนมากมาใช้ เช่น อุปกรณ์อัจฉริยะ ระบบข้อมูลอัจฉริยะ และนำ Big Data มาใช้เชิงอุตสาหกรรม ในกระบวนการจัดการ เรายังได้นำเทคโนโลยีล่าสุดของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มาใช้ในด้านการผลิตอัจฉริยะ การขนส่งโลจิสติกส์อัจฉริยะ และการปฏิบัติการเชิงดิจิทัล (Digital Operation) เพื่อให้เป็นโรงงานที่มีวิธีการผลิต กระบวนการ และการจัดการอัจฉริยะอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะนำรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ และการออกแบบประสบการณ์ใหม่มาสู่ผู้บริโภคชาวไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานประสบการณ์ลูกค้าให้ก้าวไปอีกขั้น พร้อมดำเนินการเปิด GWM Store และ Partner Store อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าชาวไทย

ความสำเร็จต่างๆ นี้ เป็นเพราะเราได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ และคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจ และแฟนๆ ชาวไทยของเราเป็นอย่างดีเสมอมา เราขอขอบคุณและขอยืนยันความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและรักษามาตรฐานที่ดีที่สุด เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ใหม่ที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นให้ผู้บริโภคชาวไทย

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

โรงงานอัจฉริยะ ฐานการผลิตเต็มรูปแบบแห่งที่ 2 นอกประเทศจีนของ เกรท วอลล์ มอเตอร์

โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มอเตอร์ ประเทศไทย จัดตั้งขึ้นภายใต้แนวคิด “ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Intelligence, Safety and Green) ตั้งอยู่ที่ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่ 412 ไร่ โดยหลังจากการเข้ามาเริ่มดำเนินงานในระยะเพียง 7 เดือน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้พัฒนาในระบบและปรับปรุงโรงงานให้เป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) มีกำลังการผลิตแบบเต็มกำลังอยู่ที่ 80,000 คันต่อปี และจะเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) ของภูมิภาคอาเซียน

มีสัดส่วนของการผลิตและส่งออกอยู่ที่ 60:40 ซึ่งจะเป็นการจำหน่ายภายในประเทศ 60% และเป็นการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา 40% โดยมี All New HAVAL H6 Hybrid SUV เป็นรถรุ่นแรกจากสายการผลิต

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

การจัดตั้งโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่จังหวัดระยองในประเทศไทย นับตั้งแต่การเริ่มดำเนินการที่โรงงานระยองในเดือนพฤศจิกายน 2563 มีการจ้างงานไปแล้วกว่า 700 ตำแหน่ง และมีแผนที่จะเพิ่มอัตราการจ้างงานขึ้นให้ครบ 1,000 ตำแหน่งภายในปลายปีนี้

รถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ผลิตจากสายการผลิตของโรงงานระยอง โดยรถยนต์ทุกคันได้ผ่านกระบวนการผลิต การทดสอบ และการประเมิน ทั้งในด้านคุณภาพ เทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานระดับโลกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เพื่อสร้างความมั่นใจกับผู้บริโภคชาวไทย โดย HAVAL H6 Hybrid SUV ที่มาจากสายการผลิตจากโรงงานในประเทศไทย จะมาพร้อมกับแนวคิด LIFE+ คือ 

  • L: การขับขี่อัตโนมัติระดับ L2
  • I: ระบบอัจฉริยะ Intelligence V3.5 รองรับคำสั่งงานด้วยเสียง
  • F: FOTA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถอัพเกรดซอฟต์แวร์ผ่านทคโนโลยีการอัปเกรดระยะไกล
  • E: ชิปอัจฉริยะ EYEQ4 และ + (Plus): ที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จะช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่

โดย All New HAVAL H6 Hybrid SUV จะเริ่มเปิดจองสิทธิลงทะเบียนเพื่อซื้อ ในวันที่ 15 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศราคาในวันที่ 28 มิถุนายนนี้

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

Smart Factory ที่เพียบพร้อมด้วยความอัจฉริยะในทุกขั้นตอน

โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลัก อันได้แก่

  1. Press Shop
  2. Body Shop
  3. Paint Shop
  4. General Assembly (GA) Shop

โดยแต่ละส่วนจะประกอบไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการผลิตอันล้ำสมัย ทั้งระบบ Artificial Intelligence (AI) การใช้หุ่นยนต์และระบบควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งได้รับการคิดค้นและพัฒนาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งมีกว่า 10 แห่ง ใน 7 ประเทศทั่วโลก

โดยทุกๆ กระบวนการทำงานภายในโรงงาน จะมีการควบคุมดูแล ตรวจเช็คคุณภาพ และรักษาความปลอดภัยอย่างละเอียดและเคร่งครัดจากทีมทำงานที่เปี่ยมไปด้วยทักษะและความเชี่ยวชาญของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อย่างใกล้ชิด

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

Press Shop จุดเริ่มต้นการสายการผลิตรถยนต์อัจฉริยะ

กระบวนการผลิตใน Press Shop ถือเป็นขั้นตอนแรกของการผลิตรถยนต์ โดยมีหน้าที่หลักในการผลิตแผงตัวถังขนาดใหญ่และชิ้นส่วนโลหะที่สำคัญ โดย Press Shop ของโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในปัจจุบันยังไม่ได้เปิดทำงานในส่วนนี้ แต่ในอนาคต Press Shop แห่งนี้ จะโดดเด่นด้วยการทำงานของ 2 สายการผลิต อันได้แก่ สายการผลิต JINAN ของประเทศจีน และสายการผลิต WIA ของประเทศเกาหลีใต้ ทำงานร่วมกับการใช้ หุ่นยนต์ FANUC อัจฉริยะแบบ 6 แกน นอกจากนี้ สายการผลิตยังมีฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น ระบบเปลี่ยนแม่พิมพ์อัตโนมัติ (Automatic Die Change System) และระบบตรวจสอบการผลิตอันล้ำสมัยที่จะมาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแต่ยังช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

Body Shop ที่มาพร้อมระบบหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์อันล้ำสมัย

Body Shop ของโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ จ.ระยอง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 30,000 ตร.ม. ที่เต็มไปด้วยแนวคิดการออกแบบที่ชาญฉลาดและประสิทธิภาพสูง และอัดแน่นไปด้วย

  • หุ่นยนต์อัจฉริยะกว่า 53 ตัว โดยแบ่งเป็นหุ่นยนต์ FANUC จำนวน 47 ตัว ที่ทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญ ในการเชื่อมตัวถังรถยนต์ซึ่งผลิตจากเหล็กคุณภาพสูงที่แข็งแรงทนทาน โดยทำงานร่วมกับหุ่นยนต์อีก 6 ตัว ซึ่งทำหน้าที่ในการส่งต่อชิ้นส่วนในการผลิตในแต่ละสถานี ทำให้การทำงานใน Body เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพในการประกอบมากที่สุด
  • ระบบประมวลผลภาพ MES Process Visualization ซึ่งเป็นการแสดงข้อมูลการประกอบชิ้นส่วนยานยนต์ และการสร้างตัวถังรถยนต์ (Body In White) ในรูปแบบดิจิทัลแทนที่การใช้กระดาษ ซึ่งแผนการผลิตจะถูกส่งผ่านระบบ MES โดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความผิดพลาดต่าง ๆ เช่น การประกอบชิ้นส่วนไม่ถูกต้อง หรือมีการติดตั้งออปชั่นที่ไม่ถูกต้อง โดยระบบจะแสดงข้อมูลชิ้นส่วนยานยนต์ที่กำลังอยู่ในกระบวนการผลิตปัจจุบันเป็นรูปภาพบนหน้าจออุปกรณ์พกพา (PDA) เพื่อความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น
  • ระบบ VIN number เป็นการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI มาใช้เพื่อเพื่อบอกตำแหน่ง ความลึก ความยาว และข้อมูลต่างๆ  อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการจับภาพเพื่อบ่งบอกอัตลักษณ์ของชิ้นส่วนต่างๆ การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบชิ้นส่วน ซึ่งสามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลได้จากกาประทับเลข VIN Number การบันทึกแผนการผลิตลงในระบบ MES หรือการประทับบาร์โค้ด
  • Automatic Model Switching เทคโนโลยีการสลับรุ่นแบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะของเกรท วอลล์ มอเตอร์ โดยเป็นอุปกรณ์หยิบและยึดจับหลากหลายรูปแบบที่ทำให้สามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น สามารถผลิตรถยนต์ได้หลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เอสยูวีหรือรถกระบะร่วมกันได้ภายในสถานีเดียวกัน

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

Paint Shop สร้างสรรค์สีสันอันสวยงามผ่านอัจริยภาพแห่งเทคโนโลยี

Paint Shop ของโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 39,744 ตร.ม. โดยมีกระบวนการการทำสีที่ละเอียดอ่อนกว่า 10 ขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมพื้นผิวของตัวถังให้พร้อมสำหรับการทำสี การเคลือบกันสนิมโดยการใช้ประจุไฟฟ้าเพื่อให้สามารถเคลือบสีให้ติดบนพื้นผิวรถได้มากที่สุด ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพอีกครั้งก่อนจะส่งไปยังโรงงานประกอบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ที่ผลิตทุกคันจะมีสีสันสวยงาม คงทน ดูเหมือนรถยนต์ใหม่อยู่เสมอ โดยมีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • การเคลือบสีด้วยไฟฟ้า แบบ The 8th Generation Ultra-high Penetration Electrophoretic Paint ซึ่งเป็น เทคโนโลยีการเคลือบสีขั้นสูงด้วยไฟฟ้า ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการกัดกร่อนให้กับโครงรถ
    ทั้งคันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยการเคลือบสีอิเล็กโตรโฟเรชั่นสูงสามารถป้องกันการกัดกร่อนแบบ 15 ไมครอนขึ้นไป
  • เทคโนโลยี Regenerative Thermal Oxidation ซึ่งเป็นอุปกรณ์ออกซิเดชั่นความร้อนที่เกิดใหม่ขั้นสูงที่นำเข้ามาจากประเทศเยอรมนี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดก๊าซเสียได้มากกว่า 99% ทำให้ลดการปล่อยก๊าซและสารพิษในกระบวนการพ่นสีให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
  • ระบบการพ่นสีแบบ 24-Color Robot Automatic Spraying ซึ่งเป็นระบบหุ่นยนต์พ่นสีอัจฉริยะที่ควบคุมด้วยระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สามารถควบคุมความสม่ำเสมอในการพ่นสีให้เหมือนกันในทุกๆ ครั้ง รวมไปถึงโหมดการทำงานที่สามารถเลือกเปลี่ยนสีรถยนต์แต่ละคันได้ตามที่กำหนด และใช้งานได้มากถึง 24 สี

นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนที่จะช่วยเติมเต็มให้การพ่นสีเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้กาวพีวีซีแบบพิเศษเพื่อช่วยป้องกันการซึมและรั่วไหลได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการ Top Coating พื้นผิวด้วยเทคนิคพิเศษเพื่อให้ตัวรถมีสีสันสดใสสวยงามมากยิ่งขึ้น

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

General Assembly (GA) Shop เติมเต็มความสมบูรณ์แบบของรถยนต์ด้วยนวัตกรรมอันล้ำสมัย

GA Shop ถือเป็นกระบวนการสุดท้ายในการผลิตรถยนต์ ซึ่งเป็นขั้นตอนการประกอบรถยนต์เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ โดย GA Shop ของโรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 63,000 ตารางเมตร ได้รับการปรับปรุงพื้นที่และระบบใหม่ทั้งหมดด้วยวิธีการอันชาญฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อาทิ

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

  • ระบบ PDA Smart Scan & QA System เป็นระบบสแกนอัจฉริยะที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยระบบจะรวมรวมข้อมูลอะไหล่ทั้งหมด 99 ชนิด โดยจะมีการสแกนข้อมูลชิ้นส่วนเพื่อบันทึกลงในระบบก่อนการเริ่มประกอบรถยนต์ผ่านแทนที่จะเป็นการบันทึกด้วยมือเพื่อป้องกันความผิดพลาด 4 ประเภทในระหว่างการผลิต ไม่ว่าจะเป็นจากการลืมสแกน การประกอบผิดพลาด การลืมประกอบ หรือการประกอบซ้ำ เป็นการลดปัญหาเรื่องความผิดพลาดในการประกอบชิ้นส่วนหลักหรือชิ้นส่วนที่คล้ายคลึงกันให้กลายเป็นศูนย์ และมีประสิทธิภาพในการติดตามชิ้นส่วนต่างๆ มากถึง 100%
  • Intelligent Chassis Line นับเป็นครั้งแรกของ Chassis Line ที่เป็นการออกแบบอย่างอัจฉริยะ โดยมีเสาสำหรับแขวนโครงรูปตัว L เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย โดยโครงแขวนนี้สามารถรองรับรูปแบบแผนการผลิตที่หลากหลาย เพื่อทำให้การทำงานมีความยืดหยุ่นและรวดเร็วขึ้น และสามารถผลิตรถยนต์ได้หลายรุ่น
  • เทคโนโลยี Dual-Life AGV ระบบเคลื่อนย้ายอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เพื่อการประกอบตัวถังที่รวดเร็ว พร้อมกับระบบติดตามกระบวนการผลิตและการป้องกันการกระแทกระหว่างผลิตอันชาญฉลาด สามารถทำงานได้หลากหลายในเวลาเดียวกัน สามารถทำให้การขยายหรือปรับเปลี่ยนแผนการผลิตทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • Assembly Manipulator การใช้หุ่นยนต์ที่มีระบบการทำงานที่ชาญฉลาดและทันสมัยมาช่วยในการประกอบรถยนต์ โดยเฉพาะในส่วนที่มีความซับซ้อนอย่างการประกอบ Panoramic Sunroof มีความแม่นยำ ถูกต้อง รวดเร็วที่สุด และเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

นอกจากนี้ใน GA Shop ยังมีการติดตั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบกล้องอัจฉริยะแบบ 360 องศา (360 Degree Smart Camera) เป็นระบบกล้องที่สามารถมองรอบทิศทางได้ 360 องศา ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวรถ โดยกล้องจะจับภาพแสดงวัตถุที่อยู่รอบๆ ตัวรถและส่งสัญญานเตือนเมื่อมีวัตถุเข้ามาในรัศมีต่างๆ ตามระยะห่าง ซึ่งใน GA workshop จะมีอุปกรณ์สำหรับการตรวจสอบตำแหน่งการติดตั้งกล้องรอบตัวรถอย่างแม่นยำ ซึ่งจะติดตั้งกล้องไว้ที่ตำแหน่งมุมมองกว้างพิเศษของด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย และด้านขวาของตัวรถ อย่างความถูกต้องและแม่นยำสูงสุด และจะมีการเชื่อมต่อไปยังหน้าจอคอนโซลเพื่อแสดงผลภาพรอบตัวรถทั้ง 4 มุมได้อย่างถูกต้อง
  • หน้าจอแสดงข้อมูลขับขี่อัจฉริยะ (HUD System) เป็นระบบประมวลภาพและข้อมูล เพื่อนำข้อมูลที่เอื้อต่อการขับขี่ เช่น สภาพถนนและความเร็ว มาปรากฏบนกระจกที่หน้าจอคนขับ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่อัตโนมัติ

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

ทั้งนี้ ในสายการผลิตรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV จะมีการใช้อุปกรณ์กึ่งอัตโนมัติที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการติดตั้งแบตเตอรี่พร้อมด้วยอุปกรณ์อันทันสมัยสำหรับทดสอบแบตเตอรี่ให้พร้อมสำหรับการใช้งาน และจะมีการตรวจคุณภาพของรถยนต์ทุกคันที่ออกมาจากสายการผลิตอย่างเคร่งครัดตามขั้นตอนที่ได้มาตรฐานระดับโลกของ เกรท วอลล์ มอเตอร์

โรงงานอัจฉริยะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง มาพร้อมแนวคิดด้านความชาญฉลาด ความปลอดภัย อีกทั้งยังตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในแง่ของการผลิตและทดสอบรถยนต์พลังงานใหม่ตามกลยุทธ์ xEV Leader ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดมลพิษที่เกิดขึ้นต่อโลก

นอกจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้ปรับปรุงทัศนียภาพของโรงงานให้ร่มรื่น โอบล้อมด้วยสวนและพื้นที่สวนสาธารณะ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตร มีการบำบัดของเสียจากโรงงานควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดการจัดการขยะ และของเสียตามกฏหมายสิ่งแวดล้อมของไทยในทุกแง่มุม ซึ่งสะท้อนถึงความตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงของบริษัท

Great Wall Motor โรงงานอัจฉริยะ ฐานผลิตรถพวงมาลัยขวาในไทย

การเปิดโรงงานใหม่ล่าสุดของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ประเทศไทยในวันนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในฐานะ “บริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) และยังเป็นการบันทึกอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ในการก้าวผ่านไปสู่ยุคของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ไปด้วยกัน

และสำหรับใครที่อยากขายรถคันเดิมตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

ธปท. คืนรถล้างหนี้ ผ่อนรถ โควิด

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม, สำนักงานศาลยุติธรรม, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และผู้ให้บริการทางการเงิน 12 แห่ง ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์รวมกันแล้วมากกว่า 65 % ได้ร่วมกันจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ออนไลน์ขึ้น ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. – 31 ก.ค. 2564 เพื่อเป็นช่องทางช่วยลดภาระของลูกหนี้ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ ในการชำระหนี้ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์

สำหรับมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ครั้งนี้ จะครอบคลุมลูกหนี้เช่าซื้อบุคคลธรรมดาทุกกลุ่ม ได้แก่

1.กลุ่มที่ยังไม่เป็นหนี้เสีย (NPL) หรือกลุ่มที่เป็น NPL แต่รถยังไม่ถูกยึด
2. กลุ่มลูกหนี้ที่รถถูกยึดแล้วแต่ยังไม่ถูกขายทอดตลาด และ
3. กลุ่มลูกหนี้ที่รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมีหนี้เช่าซื้อส่วนขาด

โดยมีเป้าหมายให้ลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ที่รายได้ลดลงในช่วงโควิด-19 สามารถเจรจาผ่อนชำระหนี้ได้ตามความสามารถ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถนำรถที่ถูกยึดกลับไปใช้ในการประกอบอาชีพและนำรถไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นเดิม ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในสถานการณ์ช่วงนี้อีกทางหนึ่ง ส่วนความช่วยเหลือจะแตกต่างกัน ตามความเหมาะสมและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ คือ

กลุ่มที่ 1. ลูกหนี้ที่ยังไม่เป็น NPL หรือเป็น NPL แต่รถยังไม่ถูกยึด

แนวทางช่วยเหลือจะสอดคล้องกับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 3 ของ ธปท. ได้แก่ การปรับโครงสร้างหนี้ ลดค่างวด ขยายระยะเวลาชำระหนี้ สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง สามารถขอพักชำระค่างวดได้ 3 เดือน หรือตามผลกระทบที่ลูกหนี้ได้รับ โดยแนวทางใหม่จะคำนวณดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้จากฐานของค่างวดที่ได้พักชำระหนี้ตามเกณฑ์ของ สคบ. ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยในช่วงที่พักชำระหนี้ถูกลงอย่างมาก

ส่วนลูกหนี้ที่เคยพักชำระค่างวดหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และได้รับผลกระทบรุนแรงจนไม่สามารถชำระหนี้ต่อไปได้ สามารถคืนรถยนต์เพื่อลดภาระหนี้ได้ และหากราคาขายรถทอดตลาดที่ได้รับต่ำกว่าภาระหนี้คงค้าง ลูกหนี้สามารถขอผ่อนปรนเพิ่มเติมได้โดยผู้ให้บริการทางการเงินอาจพิจารณายกหนี้ส่วนที่เหลือให้ตามความเหมาะสม

กลุ่มที่ 2. ลูกหนี้ที่รถถูกยึดแล้ว แต่ยังไม่ถูกขายทอดตลาด ลูกหนี้เช่าซื้อสามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในครั้งนี้ เพื่อเจรจากับเจ้าหนี้เช่าซื้อที่ร่วมงานมเพื่อขอรถที่ถูกยึดไปคืน โดยเจ้าหนี้เช่าซื้อจะชะลอการขายทอดตลาด และปรับโครงสร้างหนี้ โดยงานมหกรรมในครั้งนี้จะช่วยให้ลูกหนี้เช่าซื้อมีโอกาสที่จะนำรถกลับไปประกอบอาชีพหรือใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยครั้งนี้หวังว่าลูกหนี้ที่ถูกยึดรถไป ส่วนหนึ่งจะมีโอกาสที่จะได้รับรถคืนซึ่งเป็นทางเลือกที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

กลุ่มที่ 3. ลูกหนี้ที่รถถูกขายทอดตลาดแล้ว แต่ยังมีมูลหนี้เช่าซื้อส่วนที่ขาดกรณีรถถูกขายทอดตลาดแล้ว ปรากฏว่าเงินที่ได้รับนั้นน้อยกว่ายอดหนี้เช่าซื้อคงเหลือ ทำให้มียอดหนี้ส่วนขาด หรือติ่งหนี้ โดยในงานมหกรรมครั้งนี้ สคบ. และ ธปท. ได้ร่วมกันศึกษาแนวคำพิพากษาของศาลยุติธรรมเกี่ยวกับการคำนวณยอดหนี้เช่าซื้อส่วนขาด และได้จัดทำโปรแกรมการคำนวณยอดหนี้เช่าซื้อส่วนขาดแบบง่ายๆ เพื่อให้ลูกหนี้จะได้ใช้คำนวณ โดยลูกหนี้เช่าซื้อที่มีปัญหาเกี่ยวกับยอดหนี้เช่าซื้อส่วนขาดสามารถใช้ช่องทางของงานมหกรรมในครั้งนี้ ไกล่เกลี่ยปัญหาที่เกิดขึ้นกับเจ้าหนี้ทั้งในส่วนที่ยังไม่มีการฟ้อง หรือฟ้องแล้ว ซึ่งคาดหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรื่องนี้เป็นธรรมมากขึ้น และช่วยให้เจ้าหนี้และลูกหนี้เช่าซื้อสามารถตกลงกันได้ง่ายขึ้นและตรงไปตรงมา

การจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยสินเชื่อเช่าซื้อในครั้งนี้ มุ่งหวังว่าจะเป็นอีกช่องทางที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกหนี้เช่าซื้อได้ ประชาชนที่มีหนี้เช่าซื้อรถยนต์หรือผู้ค้ำประกัน และหนี้เช่าซื้อถูกโอนขายไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์

สามารถลงทะเบียนขอไกล่เกลี่ยหนี้ในมหกรรมไกล่เกลี่ยออนไลน์ครั้งนี้ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ถึงวันที่ 31 ก.ค. 2564 ผ่านเว็บไซต์ของ กรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม, สำนักงานศาลยุติธรรม, สคบ., ธปท. และศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) รวมทั้ง เว็บไชต์ของผู้ให้บริการทางการเงินที่เข้าร่วมมหกรรม

สำหรับใครที่อยากขายรถตอนนี้ หรือกำลังตัดสินใจจะซื้อรถป้ายแดงอยู่พอดี แต่งบไม่พอ!  มาขายรถกับ CARRO Express สิ! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

แหล่งที่มาของข่าวจาก:

สถิติการขายรถยนต์ ยอดขายรถ ตลาดรถยนต์ไทย ปี 2564

สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2564 เติบโตทะลุ 90% ทุกตลาด มียอดขายรวมทั้งสิ้น 58,132 คัน เพิ่มขึ้น 93.1% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 16,988 คัน เพิ่มขึ้น 92.4% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 41,144 คัน เพิ่มขึ้น 93.1% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 32,605 คัน เพิ่มขึ้น 94.9%

ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2564 เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มีปริมาณการขาย 58,132 คัน เพิ่มขึ้น 93.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งเติบโตเพิ่มขึ้น 92.4% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เติบโตเพิ่มขึ้น 93.1% โดยได้รับปัจจัยบวกจากข้อเสนอพิเศษ และกิจกรรมส่งเสริมการขายที่แข่งขันกันอย่างหนักในช่วง Motor Show 2021 (มอเตอร์โชว์ 2021) ที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ โดยยอดจองในงานดังกล่าว รวมทั้งที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ทั่วประเทศ กำลังทยอยส่งมอบลูกค้า

Toyota-Corolla-Cross-2021

ส่วนตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมกลับชะลอตัวลง จากการระบาดของไวรัส Covid-19 (โควิด-19) ในรอบที่ 3 รุนแรงกว่าที่คาดไว้ ส่งผลด้านลบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม และผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์ไว้ด้วยเช่นกัน

คาดว่าหลังจากการดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ยังพอมองเห็นทางออกในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ รวมทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภค ที่มีโอกาสกลับมาได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

Nissan-Kicks-e-Power-2021

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน 2564

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 58,132 คัน เพิ่มขึ้น 93.1%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 19,150 คัน เพิ่มขึ้น 72.8% ส่วนแบ่งตลาด 32.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,953 คัน เพิ่มขึ้น 117.8% ส่วนแบ่งตลาด 25.7%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 5,419 คัน เพิ่มขึ้น 104.6% ส่วนแบ่งตลาด 9.3%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 16,988 คัน เพิ่มขึ้น 92.4%

อันดับที่ 1 โตโยต้า 4,956 คัน เพิ่มขึ้น 70.5% ส่วนแบ่งตลาด 29.2%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 4,437 คัน เพิ่มขึ้น 99.1% ส่วนแบ่งตลาด 26.1%
อันดับที่ 3 มาสด้า 2,296 คัน เพิ่มขึ้น 114.2% ส่วนแบ่งตลาด 13.5%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 41,144 คัน เพิ่มขึ้น 93.1%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 14,953 คัน เพิ่มขึ้น 117.8% ส่วนแบ่งตลาด 36.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 14,194 คัน เพิ่มขึ้น 73.6% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,777 คัน เพิ่มขึ้น 130.5% ส่วนแบ่งตลาด 6.7%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 32,605 คัน เพิ่มขึ้น 94.9%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 13,655 คัน เพิ่มขึ้น 117.9% ส่วนแบ่งตลาด 41.9%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 12,432 คัน เพิ่มขึ้น 77.1% ส่วนแบ่งตลาด 38.1%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,777 คัน เพิ่มขึ้น 130.5% ส่วนแบ่งตลาด  8.5%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,147 คัน
โตโยต้า 2,015 คัน – อีซูซุ 1,930 คัน – มิตซูบิชิ 661 คัน – ฟอร์ด 506  คัน – นิสสัน 35 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 27,458 คัน เพิ่มขึ้น 81.1%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 11,725 คัน เพิ่มขึ้น 97.2% ส่วนแบ่งตลาด 42.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 10,417 คัน เพิ่มขึ้น 66.2% ส่วนแบ่งตลาด 37.9%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 2,271 คัน เพิ่มขึ้น 128.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.3%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – เมษายน 2564

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 252,269 คัน เพิ่มขึ้น 9.6%

อันดับที่ 1 โตโยต้า
75,081 คัน เพิ่มขึ้น 11.7% ส่วนแบ่งตลาด 29.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 64,201 คัน เพิ่มขึ้น 30.3% ส่วนแบ่งตลาด 25.4%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า
30,378 คัน ลดลง 3.0% ส่วนแบ่งตลาด 12.0%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 82,244 คัน ลดลง 5.7%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า 25,784 คัน ลดลง 1.5% ส่วนแบ่งตลาด 31.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
19,465 คัน ลดลง 9.7% ส่วนแบ่งตลาด 23.7%
อันดับที่ 3 นิสสัน 8,292 คัน ลดลง 15.1% ส่วนแบ่งตลาด 10.1%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 170,025 คัน เพิ่มขึ้น 18.6%

อันดับที่ 1 อีซูซุ 64,201 คัน เพิ่มขึ้น 30.3% ส่วนแบ่งตลาด 37.8%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
55,616 คัน เพิ่มขึ้น 21.8% ส่วนแบ่งตลาด 32.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 10,873 คัน เพิ่มขึ้น 29.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.4%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 131,987 คัน เพิ่มขึ้น 16.1%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
59,054 คัน เพิ่มขึ้น 28.7% ส่วนแบ่งตลาด 44.7%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
47,150 คัน เพิ่มขึ้น 18.6% ส่วนแบ่งตลาด 35.7%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 10,873 คัน เพิ่มขึ้น 29.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 20,091 คัน
โตโยต้า 8,517 คัน – อีซูซุ 7,107 คัน – มิตซูบิชิ 2,628 คัน – ฟอร์ด 1,755 คัน – นิสสัน 84 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 111,896 คัน เพิ่มขึ้น 9.4%

อันดับที่ 1 อีซูซุ
51,947 คัน เพิ่มขึ้น 18.6% ส่วนแบ่งตลาด 46.4%
อันดับที่ 2 โตโยต้า
38,633 คัน เพิ่มขึ้น 8.3% ส่วนแบ่งตลาด 34.5%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 9,118 คัน เพิ่มขึ้น 32.2% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%

ส่วนถ้าใครตอนนี้อยากขายรถคันเดิม แล้วไปซื้อรถป้ายแดงมาใช้ มาขายรถกับ CARRO Express สิ! ได้ราคาดี พร้อมปิดการขายภายใน 24 ชั่วโมง! หรือจะ Inbox มาขอรายละเอียดได้ที่ Facebook -> CARRO Thailand และ Add Line สอบถามรายละเอียดได้เช่นกัน ที่ @carrothai

และอีกหนึ่งบริการใหม่! CARRO Automall แหล่งรวมรถมือสองคุณภาพเยี่ยม ผ่านการตรวจสภาพแบบ Double Check รับประกันพร้อมโอนทุกคัน ฟรี! ค่าจัดโอน มีให้เลือกชมเพียบ เปิดบริการทุกวัน อยากซื้อรถคุณภาพเยี่ยม มาซื้อกับ CARRO Automall สิ!

หรือสนใจรถรุ่นไหนอยู่ แต่หาไม่ได้ สามารถสั่งตามออเดอร์ได้ที่นี้ > https://th.carro.co/buy-car หรือโทร. 02-508-8690 อีกทั้งยัง Inbox เข้ามาสอบถามก็ได้เช่นกันได้ที่ Facebook -> CARRO Automall – รถบ้านมือสอง หรือทาง Line เชิญเลยครับที่ @carroautomall

แหล่งที่มาจาก: