New-YARIS-ยาริส

Toyota Yaris Hatchback ใหม่ มาพร้อม 4 รุ่นย่อย และ 7 สี ในราคาพิเศษ 479,000-619,000 บาท

Toyota-Yaris-2017

ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม 2549 เวลานั้น โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้แนะนำรถยนต์ Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) เข้าสู่ตลาดประเทศไทยเป็นครั้งแรก และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ต่อมาในเดือนตุลาคม 2556 โตโยต้า ได้เปิดตัว Yaris เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร สามารถสร้างยอดขายสะสมได้มากกว่า 150,000 คัน (ข้อมูลยอดขายสะสมถึงเดือนสิงหาคม 2560)

จนกระทั่งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โตโยต้าได้เปิดตัว Yaris ATIV ในรูปแบบของรถยนต์ซับคอมแพคซีดาน ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ตลอดทั้งคัน และถึงคิวของ Toyota Yaris Hatchback ที่ได้เวลาปรับโฉมบ้าง

Toyota เตรียมผลิต Yaris เพื่อส่งออกไปยัง 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะเริ่มผลิตรถรุ่นนี้ที่โตโยต้าเกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเริ่มส่งออกนับตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป และเป้าหมายการขายในปี 2560 ตั้งไว้ที่ 3,200 คัน/เดือน

Toyota-Yaris-2017

Toyota-Yaris-2017

Toyota-Yaris-2017

รูปทรงภายนอก สปอร์ต ถูกใจวัยรุ่น

ยาริส ใหม่ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นรถยนต์แฮทช์แบ็คขนาดเล็กที่จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ วัยรุ่นที่ชอบความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร มีไลฟ์สไตล์ที่สนุกสนาน ภายใต้แนวคิด “New YARIS…YES, THAT’S RIGHT! ที่สุดของความใช่ ในสไตล์คุณ”

Toyota-Yaris-2017 Toyota-Yaris-2017

Toyota-Yaris-2017

Toyota Yaris Hatchback ภายนอกดีไซน์โฉบเฉี่ยวตลอดรอบคัน เน้นความสปอร์ตด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ LED Light Guiding ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light แบบ LED และไฟตัดหมอกหน้า
ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding สะท้อนถึงความหรูหรา ทันสมัยอย่างลงตัว

ภายนอกและภายในดีไซน์โดดเด่น…Yes That’s Cool!

Toyota-Yaris-2017-Interior

Toyota-Yaris-Optitron-Meter

Toyota-Yaris-Air-Radio

ห้องโดยสารภายใน ดูดี หรูหรา ทันสมัย 

ห้องโดยสารดีไซน์ล้ำสมัย เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

Toyota-Yaris-2017-Utility

Trunk-Space

อเนกประสงค์ทุกการใช้สอย

อีกทั้งยังเงียบและนุ่มนวลเหนือระดับรถยนต์ซับคอมแพคแฮทช์แบ็ค ด้วยการเพิ่มวัสดุซับเสียงรบกวนรอบคัน

Toyota-Yaris-Safety

สมรรถนะ ขับสนุกควบคุมได้ดั่งใจ…Yes That’s Fun!

Toyota-Yaris-Dual-VVT-i-Engine

เครื่องยนต์ DUAL VVT-i ขนาด 1.2 ลิตร ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ให้การตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างยอดเยี่ยม

ระบบความปลอดภัยสูงสุดเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น…Yes That’s Safe!

Toyota-Yaris-7Airbags

มั่นใจด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดที่ครบครัน หนึ่งเดียวในรถยนต์แฮทช์แบ็คขนาดเล็ก ที่มีถุงลมนิรภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง และอื่นๆ อาทิ ระบบสัญญาณเตือนสิ่งกีดขวางขณะถอยหลัง (ในรุ่น G และ E), ระบบไฟส่องสว่างหลังจากดับเครื่องยนต์(Follow-Me-Home) (เฉพาะรุ่น G), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control), ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) และ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) เป็นต้น

โตโยต้า จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าและผู้ที่สนใจ ได้สัมผัส ยาริส ใหม่ ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศในวันที่ 22-24 กันยายน 2560 พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมพิเศษ

สำหรับข้อเสนอพิเศษ ทาง Toyota มีโปรแกรม Convini-EXT ทางเลือกใหม่จากแพ็กเกจที่คุ้มค่าด้วยการรวมสิทธิประโยชน์ 3 รายการ ด้วยรูปแบบเงินดาวน์และดอกเบี้ยต่ำ พร้อมประกันภัย และการขยายการรับประกันคุณภาพ

Toyota-Yaris-J-Eco-Grade Toyota-Yaris-J-Eco-Grade-Interior– รุ่น J ECO เกียร์อัตโนมัติ ราคา 479,000 บาท*

Toyota-Yaris-J-Grade Toyota-Yaris-J-Grade-Interior– รุ่น J เกียร์ CVT ราคา 529,000 บาท*

Toyota-Yaris-E-Grade Toyota-Yaris-E-Grade-Interior– รุ่น E เกียร์ CVT ราคา 559,000 บาท*

Toyota-Yaris-G-Grade Toyota-Yaris-G-Grade-Interior– รุ่น G เกียร์ CVT ราคา 609,000 บาท*

Follow-Me-Home

*ราคาดังกล่าว เป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน เป็นราคาพิเศษในช่วงแนะนำ สำหรับลูกค้าที่จองและออกรถตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2560

Toyota-Yaris-Orange-Metallic

พร้อมเลือกเป็นเจ้าของ ยาริส ใหม่ 7 สี

(Citrus Mica Metallic / Orange Metallic / Red Mica Metallic / Super White / Silver Metallic / Gray Metallic / Attitude Black Mica)

10 รถมือสอง ที่คุณสามารถซื้อได้ในราคาของ "iPhone X"

เป็นที่ทราบกันแล้วนะครับว่า สำหรับ iPhone 8 / iPhone 8 Plus และ iPhone X ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ไปใน USA ตั้งแต่เมื่อคืนของวันที่ 13 กันยายน 2560 (ตามเวลาในประเทศไทย) ซึ่งมีคุณสมบัติและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เพิ่มมามากขึ้น (ซึ่งจะถูกใจคุณผู้อ่านหรือเปล่านั้น … ไม่แน่ใจ!)

อีกทั้งราคาของ iPhone 8 / iPhone 8 Plus และ iPhone X ที่ขยับเพิ่มขึ้นมามากขึ้นในทุกรุ่น ทำให้ผู้บริโภคต้องคิดหนักว่า ถ้าวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว เมื่อตีราคาออกมาเป็นเงินไทยแล้ว ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว (รุ่น Top ปาเข้าไปประมาณ 4 หมื่นบาทได้) จะคุ้มค่ากับการใช้งานหรือไม่ หรือนำเงินนี้ ไปซื้อสิ่งของอย่างอื่นดี?

Mazda-323-Astina

MR.CARRO ขอแนะนำ 10 รถมือสอง ที่คุณสามารถซื้อได้ในราคาของ “iPhone X” ซึ่งตามจริงแล้ว มีรถมือสองปีเก่าๆ (ตั้งแต่ยุค 60 เป็นต้นมา) ที่มีราคาถูกกว่า iPhone 8 / iPhone 8 Plus และ iPhone X อยู่มาก แต่เนื่องจากราคาที่ถูกมากๆ นั้น ก็ต้องใช้งบประมาณในการซ่อมที่มาก และใช้เวลาหาอะไหล่กันลำบากหน่อย

MR.CARRO จึงขอนำเสนอรถยนต์มือสอง ในช่วงประมาณยุค 80-90 ที่มีราคาตั้งแต่ 2 – 4 หมื่นบาท ที่มีความทนทาน ดูแลง่าย อะไหล่พอหาได้เยอะหน่อย จะมีรุ่นใดบ้าง … เชิญอ่านได้เลยครับ

Toyota-Corolla-AE92

1. Toyota Corolla 1.3 XL, GL, 1.6 SE Limited (EE90/AE92)

Toyota Corolla (โตโยต้า โคโรลล่า) รุ่นที่ถือได้ว่า มีอุปกรณ์มาตรฐานมากมายราวกับของวิเศษของ “โดเรมอน” ต่างกับรถในคลาสเดียวกัน จึงเป็นที่มาของฉายานี้ (แต่ชาวต่างประเทศได้ยินแล้ว งงน่าดู) เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2530 มาพร้อมสโลแกน “เร้าใจทุกเส้นทาง ยุคหน้า TOYOTA” (คล้ายกับของญี่ปุ่น “Fun To Drive”)

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส 2E และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-F, รหัส 4A-F คาร์บูเรเตอร์คู่ ในรุ่น Sporty รวมไปถึงเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร พลังแรงอย่างรหัส 4A-GE 130.5 แรงม้า ที่มาตอนไมเนอร์เชนจ์ ในรุ่น GTi

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้แล้ว

Toyota-Corona-ST171

2. Toyota Corona 1.6 XL, GL / 2.0 GL, GLi (AT171/ST171)

Toyota Corona (โตโยต้า โคโรน่า) โฉมนี้เปิดตัวในไทยตั้งแต่ปี 2531 โดยโคโรน่ารุ่นนี้ ถือเป็นรถญี่ปุ่นรุ่นแรกในประเทศไทย (เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร) ที่ใช้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีด EFI (Electronic Fuel Injection) แบบเดียวกับรถยุโรป

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A-F, เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3S-F คาร์บูเรเตอร์เดี่ยว 113 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 3S-FE หัวฉีด EFi 128 แรงม้า

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน

Honda-Civic-EF

3. Honda Civic 1.5 LX, LX-S / EX (EF)

Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อต้นปี 2531 ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีการออกแบบรถให้เตี้ย แบน ลู่ลม และพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ เหมือนรถแข่ง Formula 1 รวมถึงระบบช่วงล่างแบบปีกนกอิสระ 4 ล้อ และเครื่องยนต์ทวินแคม 16 วาล์ว

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 90 แรงม้า (และยังมีรุ่นพิเศษ LX-S เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร คาร์บูเรเตอร์คู่ 105 แรงม้า) มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นบาทปลายๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน

Honda-Accord-CA

4. Honda Accord 2.0 LX / EX (CA)

Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) รุ่นนี้เปิดตัวเมื่อปี 2530 ซึ่งก็เซอร์ไพรส์ด้วยการสร้างยอดจองจนฮอนด้าผลิตขายไม่ทัน ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีการออกแบบรถให้เตี้ย แบน ลู่ลม และพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ 12 วาล์ว พ่วงระบบ Cross Flow อันลือชื่อของฮอนด้า รวมถึงระบบช่วงล่างแบบดับเบิลวิชโบนอิสระ 4 ล้อ … ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับปรุงหน้าตาใหม่ พร้อมเพิ่มล้อแม็กเข้ามาแทนที่กะทะล้อพร้อมฝาครอบล้อ

ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 106 แรงม้า มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นบาทกลางๆ ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับเท่ๆ ได้

Nissan-Sunny-B11

5. Nissan Sunny 1.3 / 1.5 GL (B11)

Nissan Sunny (นิสสัน ซันนี่) รถรุ่นยอดนิยมจากค่ายสยามกลการสมัยนั้น สำหรับ นิสสัน ซันนี่ FF เจเนอเรชั่นที่ 5 เปิดตัวตั้งแต่เดือนมกราคม 2526 ขายกันมาอย่างยาวนานถึงสิบกว่าปี ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์กันก็หลายครั้ง เป็นรถยอดนิยมมากในยุคนั้น ในโฉมนี้มาพร้อมสโลแกน “รถที่ไว้ใจได้ตลอดกาล”

ยุคแรก มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส E13S 74 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส E15S ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ประจำการทั้งในรุ่นซีดาน 4 ประตู และคูเป้ ภายหลังจึงตัดออกไป

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ ถ้าว่ากันตามตรง สภาพแบบต้องซ่อมทั้งคัน (แต่รถยังขับได้) เคยมีคนขายที่ราคา 9,500 บาท ก็ซื้อได้แล้ว แต่ตามสภาพแบบวิ่งได้ ใช้งานได้ปรกติ ราคา 1.5 – 4 หมื่นบาท ก็มีรถรุ่นนี้ให้เลือกซื้อเยอะแยะครับ

Nissan-Sentra-B13

6. Nissan Sentra 1.5 EX Saloon / 1.6 SuperSaloon e (B13)

Nissan Sentra (นิสสัน เซนทร้า) รุ่นที่ 2 ที่ขายในบ้านเรา เป็นรถยอดฮิตแท็กซี่ในยุคนั้นเลย เพราะสยามกลการ พยายามระบายรถล็อตใหญ่ ให้กับกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ ที่กำลังรีบหารถมาจดทะเบียนทำแท็กซี่มิเตอร์ (ป้ายทะเบียน 6ท) ในยุคแท็กซี่เปิดเสรีใหม่ๆ โดยในโฉมไมเนอร์เชนจ์ สังเกตได้จากชุดกระจังหน้าแบบใหม่ ชุดกันชนใหม่ และไฟท้ายเลนส์แบบใหม่ เป็นต้น

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร รหัส GA15S 87 แรงม้า และขนาด 1.6 ลิตร รหัส GA16DE 110 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 3 หมื่นบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน

Nissan-NV

Nissan-NV-Van

7. Nissan NV Pickup 1.6 / NV AD Resort 1.6 SLX, SGX (Y10)

Nissan NV (นิสสัน เอ็นวี) หลายคนจะรู้กันบ้างไหมว่า “NV” นี่ย่อมาจากคำว่า “National Vehicle” หรือ “รถยนต์แห่งชาติ” ที่ทางสยามกลการตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น ที่จะเน้นการผลิตรถยนต์นั่งขนาดกลาง 1600 ซีซี แต่กลายมาเป็นรูปแบบของรถ Pickup และรถแวน Nissaan NV AD Resort ที่หยิบยืมพื้นฐานมาจาก Nissan AD Van (และ Sunny California เวอร์ชั่นญี่ปุ่น) โดยเปิดตัวในเดือนกันยายน 2536

สำหรับ Nissan NV Pickup มีขายกันมาหลายโฉมมาก ทั้งแบบธรรมดาในยุคแรก หลังจากนั้นเป็น Queen Cab (ต่อมาคือ Q-Cab) ขยายพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขึ้น เบาะปรับเอนนอนได้ ต่อมาภายหลังจึงกลายเป็นกระบะ Nissan Wingroad ไป

ทั้งสองแบบ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส GA16DS 95 แรงม้า และเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส GA16DNE 110 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด (เพิ่มมาภายหลัง ทั้งในรุ่นกระบะ และรุ่นแวน AD Resort)

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 3 หมื่นบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน ส่วนรุ่นแวนราคาอาจจะแพงกว่านั้นหน่อย แต่ราคานี้ก็มี ถ้าสภาพรถเน่าจริงๆ

Mitsubishi-Lancer-E-Car

8. Mitsubishi Lancer 1.3 GL, EL, 1.5 GLX, GLXi, 1.6 GLX, GLXi (E-Car)

Mitsubishi Lancer (มิตซูบิชิ แลนเซอร์) เป็น Lancer อีกหนึ่งรุ่น ที่ขายดีมากในบ้านเรา ในปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมจากคนชอบแต่งรถ และรถรุ่นนี้ยังถือเป็นต้นกำเนิดของรุ่น Evolution อีกด้วย (ช่วงล่างดี เครื่องทนทาน หลังคาชอบผุ อะไหล่แพงนิดๆ) เปิดตัวในปี 2535 ในรุ่น 1.3 GL, 1.5 GLX, 1.6 GLXi (นำเข้า) และ 1.8 GTi (นำเข้า)

ต่อมาเมื่อปี 2538 Lancer E-Car ได้ยกเลิกการจำหน่าย 1.3 และ 1.8 เปลื่ยนระบบจ่ายเชี้อเพลิงในรุ่น 1.5 จากคาร์บูเรเตอร์ เป็นระบบหัวฉีด ECi-MULTI และนำรุ่น 1.6 มาประกอบในประเทศ โดยคงเหลือรุ่นย่อย คือ 1.5 GLXi และ 1.6 GLXi

และในปี 2539 Lancer E-Car ได้ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ เปลื่ยนล้อแม็กลายใหม่ เปลื่ยนกันชนให้ยาวและหนาขึ้น รวมถึงเปลื่ยนกระจังหน้าใหม่ เปลื่ยนท่อร่วมไอดีในรุ่น 1.5 โดยตัวอักษรคำว่า ECi-MULTI จะเล็กลง และนำรุ่น 1.3 กลับมาเพื่อตอบสนองลูกค้าระดับล่าง โดยมีรุ่นย่อย อาทิ 1.3 EL, 1.5 GLXi และ 1.6 GLXi

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 3 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้แล้ว

Mazda-323

Mazda-323-Astina

9. Mazda 323 1.6 GLX (BG) / 323 Astina 1.8 GT (BG)

Mazda 323 (มาสด้า 323) และ Mazda 323 Astina (มาสด้า 323 แอสติน่า) รุ่นยอดนิยม เปิดตัวในไทยเมื่อปี 2533 มีวิ่งเป็นแท็กซี่กันเพียบ รวมไปถึง มาสด้า 323 แอสติน่า 5 ประตูแฮทช์แบค ก็มีเป็นแท็กซี่หลายคันอยู่ ถือเป็นรถยอดนิยมสำหรับครอบครัว และวัยรุ่นสุดๆ โดยเฉพาะ มาสด้า 323 แอสติน่า ไฟป๊อปอัพ สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 200 กม./ชม. ในตอนนั้นถือว่าไม่ธรรมดา! และโดดเด่นด้วยช่วงล่างหลังแบบปีกนกคู่สัมพันธ์ TTL

มาสด้า 323 ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส B6 87 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ส่วนในรุ่น Astina ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส BPD 140 แรงม้า (รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ลดแรงม้าลงมาเหลือ 125 แรงม้า) ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรรมดา 5 สปีด

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน ส่วน Astina อาจจะต้องเพิ่มเงินมาหน่อย เพราะราคารถตลาดสภาพ ก็อยู่ที่ 3 หมื่นปลายๆ แล้วครับ

BMW-E30

10. อันสุดท้าย เผื่อคนอยากได้รถยุโรป … BMW 316 / 318i (E30)

BMW ซีรี่ส์ 3 ในยุคที่บริษัท ยนตรกิจ จำกัด เป็นผู้จำหน่าย เริ่มเผยโฉมในปี 2527 มีทั้งแบบ 2 ประตู และ 4 ประตู ในรุ่น 316, 316i, 318i และ 318iA เกียร์อัตโนมัติ ในช่วงท้ายๆ อายุตลาด ตัวรถภายนอกสวยสปอร์ต เท่ ท้าทาย แน่นหนา ภายในโอ่อ่า หรูหรา ถูกใจวัยรุ่นวัยเฒ่าทั้งหลายที่โปรดปรานการขับอวดกันเพิ่มขึ้นอีก

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร รหัส M10 90 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 4 สปีด และ 5 สปีด, เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร รหัส M40 และเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส M10 105 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 184 กม./ชม.

พอในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ จึงเพิ่มเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร รหัส M40 115 แรงม้า เข้ามา ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ราคาในตลาด แบบตามสภาพ มีเงิน 2 หมื่นกว่าบาท ก็สามารถซื้อรถรุ่นนี้มาขับได้เช่นกัน แต่ก็ต้องเตรียมงบไว้ปั้นต่อบานอยู่!

ส่วนถ้าใครอยากขายรถ สามารถขายคันเดิมกับ CARRO Express ได้ เรายินดีรับซื้อรถของคุณ ได้เงินไว เร็ว พร้อมปิดการขายได้ทันที แค่คลิก https://th.carro.co/sell-car/express หรืออยากตีราคารถก่อน สามารถ Inbox สอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook CARRO Thailand

หรือจะ Add Line สอบถามรายละเอียดได้ที่ @Carrothailand หรือคลิกที่นี่ —> เพิ่มเพื่อน

(บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์)

Promotion-YarisAtiv

ติดตามโปรโมชั่นรถใหม่ ประจำเดือนกันยายน 2560 กับ CARRO Blog ได้ที่นี่

หลังจากผ่านงานของ BIG Motor Sale 2017 เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา มีรถยนต์เปิดตัวใหม่ในงานหลายรุ่น อาทิเช่น Toyota Yaris Ativ ที่เปิดตัวครั้งแรกของโลก รวมไปถึง Chevrolet Trailblazer Z71 รุ่นท็อปใหม่ล่าสุด อีกทั้งยังมี Range Rover Velar ที่เอาใจเศรษฐีผู้ชอบรถ SUV สุดหรูราคาย่อมเยาว์จากอังกฤษ เป็นต้น

สำหรับในเดือนกันยายน เตรียมพบกับ Toyota Yaris Hatchback โฉมไมเนอร์เชนจ์ ในวันที่ 14 กันยายน

สำหรับโปรโมชั่นรถใหม่ ประจำเดือนกันยายน 2560 เชิญชมได้ด้านล่างครับ.

Toyota

Toyota-Hilux-Revo-Promotion-8-2017

เครื่องยนต์ GD จาก ไฮลักซ์ รีโว่ ยิ่งใช้…ยิ่งใช่

1. กรณีดาวน์ 5% คำนวณจากรุ่น สแตนดาร์ด แค็บ 2.4J ราคา 552,000 บาท
– มีรถยนต์โตโยต้าหรือรถยนต์ยี่ห้ออื่น กรณีเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์ สำเนาทะเบียนรถต้องตรงกับผู้เช่าซื้อ หากยังอยู่ระหว่างการผ่อนชำระ ต้องผ่อนชำระแล้ว 3 ปี ขึ้นไป
– ประวัติผ่อนชำระดี
– ยกเว้นรุ่นไฮลักซ์ รีโว่ ดับเบิ้ลแค็บขับเคลื่อน 4 ล้อ
– ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
2. ผ่อนสบายเริ่มต้น 3,999 บาท คำนวนจากโปรแกรม Sabuy:D รุ่น สแตนดาร์ด แค็บ 2.4J ราคา 552,000 บาท ดาวน์ 159,970 บาท (ดาวน์ 28.98%) ผ่อน 60 เดือน ดอกเบี้ย (3.30%) ผ่อน 3,999 บาท งวดที่ 1-59 และ 220,800 บาท งวดที่ 60
3. ประกันภัยชั้น 1 Exclusive Toyota Care 1 ปี โดยทุนประกันภัยไม่เกิน 80% ของมูลค่ารถ (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถภายใต้เงื่อนไขของแคมเปญ) รวมบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน 24 ชม. ไม่รวม พ.ร.บ. บุคคลที่ 3
4. ต้องแจ้งผ่าน บจก. โตโยต้า อินชัวรันซ์โบรกเกอร์เท่านั้น
5. สำหรับผู้ซื้อ ที่ผ่านการอนุมัติตามมาตรฐานเงื่อนไข บ.โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
6. สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน 2560 และไม่สามารถเปลี่ยนหรือทอนเป็นเงินสดได้
7. เงื่อนไขนี้เฉพาะผู้แทนจำหน่ายฯ ที่เข้าร่วมโครงการ
8. ยกเว้นรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อขายภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถขาย Fleet

Nissan

Nissan-Promotion-9-2017

จะกี่ฝนก็แฮปปี้เพราะโปรดีจากนิสสัน ข้อเสนอพิเศษ

ฟรี ประกันภัย 1 (3)

Note

ผ่อนสบาย 4,150 บาท (1)
ราคาเริ่มต้น 568,000 บาท (6)

Almera

ดาวน์ต่ำ 19,999 บาท (4)
ราคาเริ่มต้น 445,000 บาท (8)

X-Trail

ดอกเบี้ย 0% 48 เดือน (2)
ราคาเริ่มต้น 1,239,000 บาท (7)

Navara (Single Cab / King Cab)

ข้อเสนอมูลค่ารวม 80,000 บาท (5)

Navara (Sportech / BE)

ดอกเบี้ย 0% (2)
เพิ่มมูลค่ารถเก่า 10,000 บาท (10)

Sylphy (E85 Icon)

ดอกเบี้ย 0% 1 (2)

Teana

ดอกเบี้ย 0% 1 (2)

March (20 กม./ลิตร)

ดาวน์ต่ำ 4,999 บาท (4)
ราคาเริ่มต้น 400,000 บาท (9)

(1) สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถผ่านโปรแกรม “Nissan Easy Pay” ผ่อนเริ่มต้นเพียง 4,150 บาท/เดือน (สำหรับงวดที่ 1-60) เงินดาวน์ 30% คำนวณจากรุ่น 1.2V CVT ราคา 568,000 บาท
(2) ดอกเบี้ย 0% March ดาวน์ 15% ผ่อน 48 เดือน, Teana, Navara D/Cab Sportech, Navara Black Edition ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน, Sylphy, X-Trail และ Almera ดาวน์ 30% ผ่อน 48 เดือน (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ)
(3) ฟรีประกันภัยชั้น 1 Nissan Premium Protection 1 ปี ไม่รวม พ.ร.บ. ทุนประกันภัย 80% ของมูลค่ารถ (เบี้ยประกันภัยเริ่มต้นที่ 15,577 บาท) ขึ้นกับรุ่นรถภายใต้เงื่อนไขของแคมเปญ ยกเว้น Teana
(4) ไม่สามารถใช้ร่วมกับข้อเสนอ “ดอกเบี้ย 0%” March ดาวน์ต่ำสุด 4,999 บาท (คำนวณจากส่วนลดเงินดาวน์ 35,001 บาท ที่ดาวน์ 10% รุ่น 1.2 S MT ราคา 400,000 บาท) Almera ดาวน์ต่ำสุด 19,999 บาท (คำนวณจากส่วนลดเงินดาวน์ 33,701 บาท ที่ดาวน์ 10% รุ่น 1.2E Sportech ราคา 537,000 บาท) เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ
(5) เฉพาะรุ่น KC Sportech
(6) รุ่น 1.2V CVT
(7) รุ่น 2.0S
(8) รุ่น 1.2S MT
(9) รุ่น 1.2S MT
(10) เพิ่มมูลค่ารถเก่าเมื่อแลกซื้อรถใหม่ (Trade-in Bonus) 10,000 บาท

– เงื่อนไขพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่เช่าซื้อกับ บ. นิสสัน ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จก.
– สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายในวันที่ 1-30 กันยายน 2560

Nissan-X-Trail-Promotion-8-2017

นิสสัน ชวนคุณไปล่าแสงใต้ที่นิวซีแลนด์ กับแคมเปญ “Start the Journey of Life with Nissan X-Trail” เพียงลงทะเบียนทดลองขับและออกรถนิสสันเอ็กซ์เทรล ก็ได้ลุ้นเดินทางไปล่าแสงใต้ที่ประเทศนิวซีแลนด์ทันที พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ทดลองขับและออกรถนิสสันเอ็กซ์เทรล รับทันทีสิทธิพิเศษมูลค่า 5,000 บาท พร้อมรับข้อเสนอพิเศษดอกเบี้ย 0% ถึง 30 กันยายนนี้เท่านั้น!

Nissan-Navara-Promotion-9-2017

นาวารา 190 แรงม้าให้โชค มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

รายละเอียดข้อเสนอ นาวารา 190 แรงม้าให้โชค จำนวน 191 รางวัล มูลค่ารวมทั้งสิ้น 5,045,500 บาท

– ลุ้นรับสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 190 รางวัล
– ลุ้นรับกระบะ นาวารา Sportech ฟรี 1 คัน
– มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท
– ข้อเสนอพิเศษสูงสุด 80,000 บาท
– ฟรี ประกันภัยชั้น 1
– อุปกรณ์ตกแต่งราคาพิเศษ รุ่น ดับเบิ้ลแค็บ แพ็คเกจสุดคุ้ม 5,320.-(4) และ คิงแค็บ แพ็คเกจสุดคุ้ม 5,040.-

ระยะเวลา 1-30 กันยายน 2560

Honda

Honda-Promotion-9-2017

ให้คุณพาแม่เที่ยวได้ทุกที่ แฮปปี้กว่าที่เคย เพราะออกรถ Honda รุ่นใดก็ได้วันนี้ รับฟรี! บัตรน้ำมัน 4,000 บาท (ได้รับทันทีหรือไม่เกิน 60 วันหลังจากรับรถยนต์ ใช้เฉพาะปั้มน้ำมัน ปตท. เท่านั้น) พร้อมข้อเสนออื่นๆมากมาย พิเศษ! เมื่อทดลองขับรถยนต์ฮอนด้า รับฟรีหมอนรองคอ 2 in 1 ถึง 30 ก.ย. 2560

Honda-Promotion-9-2017

จองรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใดก็ได้ ด้วยบัตรเครดิตที่รวมรายการ 5,000 บาท รับบัตรของขวัญฮอนด้า มูลค่า 1,000 บาท
พิเศษ สำหรับรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่, ฮอนด้า แอคคอร์ด และฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด รับบัตรของขวัญฮอนด้า มูลค่า 3,000 บาท

เมื่อรับรถยนต์ วันนี้ – 30 กันยายน นี้ และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

Mazda

Mazda-Promotion-9-2017

Mazda Skyactiv Day วันพิเศษแห่งปี เพื่อยนตรกรรมสกายแอคทีฟ

จองรถมาสด้าทุกรุ่น รับ Active Camera มูลค่า 3,900 บาท*
พิเศษ! ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% พร้อมรับ Mazda Care และ Mazda Premium Insurance

9-17 กันยายน นี้ เท่านั้น ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

*ของมีจำนวนจำกัด
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

Mitsubishi

Mitsubishi-Mirage-Attrage-Promotion-9-2017

ข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับมิตซูบิชิ มิราจ

ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 3 ปี พร้อมกล้อง Action Camera รวมมูลค่าสูงสุด 51,000 บาท*
ฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์ (Diamond Warranty) นาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)**
ฟรี ค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)**
ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 3 ปี*
1 – 30 ก.ย. 2560

เงื่อนไข:

*สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์มิตซูบิชิ แอททราจ และมิตซูบิชิมิราจทุกรุ่น ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 กันยายน 2560 รับฟรีเบี้ยประกันภัยชั้นหนึ่งไดมอนด์ โพรเทคชั่น พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลานาน 3 ปี มูลค่าสูงสุด 48,669 บาท สำหรับมิตซูบิชิแอททราจ และมูลค่าสูงสุด 47,238 บาท สำหรับมิตซูบิชิมิราจ ตามเงื่อนไขการรับประกันภัยและทุนประกันภัยที่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด และ รับฟรีกล้อง Action Camera ระบบ 4K มูลค่า 3,990 บาท โดยเงื่อนไขการรับประกันกล้องดังกล่าวเป็นไปตามที่ บริษัท แบรนด์ ไอเดนติตี้ แอนด์ อินโนเวชั่น จำกัด กำหนด อนึ่ง ลูกค้าควรศึกษาวิธีการใช้งาน และข้อควรระวัง ที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้งานกล้อง

**การรับประกันคุณภาพรถยนต์ (Diamond Warranty) 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน) ระยะเวลาการรับประกันของชิ้นส่วนและอุปกรณ์แต่ละชนิดอาจแตกต่างกันตามที่ระบุไว้ในสมุดรับบริการและคู่มือการใช้รถ และรายการฟรีค่าแรงเช็คระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน) มูลค่า 7,650 บาท อัตราค่าแรงที่นำมาคำนวณอ้างอิงจากอัตราค่าแรงกลาง บริการฟรีเฉพาะค่าแรงเช็คระยะตามที่กำหนดไว้ในบัตรตรวจเช็คระยะฟรีในสมุดรับบริการและคู่มือการใช้รถ ซึ่งรถยนต์ของลูกค้าจะได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาตามรายการที่ระบุไว้ โดยลูกค้าสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการมาตรฐานของผู้จำหน่ายมิตซูบิชิที่ได้รับการแต่งตั้งเท่านั้น

Mitsubishi-Promotion-9-10-2017

เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความพึงพอใจของลูกค้าของ มิตซูบิชิ เจ้าของรถยนต์ มิตซูบิชิ1 สามารถนำรถยนต์เข้ารับบริการที่ศูนย์บริการมาตรฐานของ มิตซูบิชิ มากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เช็ครถยนต์ฟรี 21 รายการ พร้อมรับส่วนลดพิเศษ 10%1 สำหรับค่าอะไหล่ที่ร่วมรายการ รวมไปถึงเบรก โช๊คอัพ และเคมีภัณฑ์ เมื่อลูกค้านำรถยนต์เข้ารับบริการเช็คระยะ1 ทั้งนี้ ลูกค้าที่เข้ารับบริการตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป รับของที่ระลึกฟรีเป็น ไฟฉายฉุกเฉินอเนกประสงค์ มูลค่า 400 บาท โดยข้อเสนอพิเศษทั้งหมด มีผลตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2560

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมอบแคมเปญพิเศษให้กับลูกค้าใหม่ของ มิตซูบิชิ ฟรีกล้องแอคชั่น คาเมร่า พร้อม แพคเกจ 35531 ประกอบไปด้วย ประกันภัยชั้น 1 ฟรี 3 ปี และฟรีการรับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี2 พร้อมฟรีค่าแรงการเช็คระยะนาน 5 ปี2 ทั้งยังมีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลานาน 3 ปี สำหรับผู้ซื้อรถยนต์ มิตซูบิชิ รุ่นใหม่ ทุกรุ่นทั้ง ปาเจโร สปอร์ต, ไทรทัน, แอททราจ และ มิราจ

1 เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด
2 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน

Isuzu

Isuzu-D-Max-Promotion-9-2017

อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ ซื้อง่าย… ทุกข้อเสนอ

(1) กรณีดาวน์ 5% / คำนวณจากรุ่นสเปซแค็บ เอส 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา (2) ผ่อนเพียง 4,990 บาทต่อเดือน โดยคำนวณค่างวดต่อเดือนจากงวดที่ 1-59 สำหรับกรณีดาวน์ 28% ผ่อน 60 เดือน / อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือน กันยายน 2560 / คำนวณจากรุ่นสเปซแค็บ เอส 1,900 ซีซี เกียร์ธรรมดา สีธรรมดา (3) ช่วยผ่อนในงวดแรก 5,000 บาท เงื่อนไขเป็นไปตามที่สถาบันการเงิน ที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมถึงรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ / ของแถมไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

Isuzu-D-Max-Promotion-9-2017

ลุยเหนือชั้น เต็มพลังออฟโรด ตั้งแต่ 1-30 ก.ย. 2560

(*) เงื่อนไขเป็นไปตามที่สถาบันการเงิน (บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด) ที่ร่วมรายการกับบริษัทฯ กำหนด / รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่รวมถึงรถรับจ้าง รถเช่า รถที่ซื้อภายใต้เงื่อนไขพิเศษอื่นๆ และรถที่ขายฟลีท / บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า / สำหรับผู้ที่ซื้อรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ทุกรุ่น /อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย ณ เดือนกันยายน 2560 / เฉพาะผู้จำหน่ายอีซูซุที่ร่วมโครงการ / ของแถมไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

Isuzu-MU-X-Promotion-9-2017

เอกสิทธิ์พิเศษ เมื่อซื้อ ใหม่! อีซูซุมิว-เอ็กซ์ บลูเพาเวอร์ เงื่อนไขไฟแนนซ์สุดพิเศษดอกเบี้ยเพียง… 1.30% และเงื่อนไขพิเศษอื่นๆ วันนี้ – 31 ต.ค. 2560

*อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.30% เมื่อซื้อรถ ใหม่! อีซูซุมิว-เอ็กซ์ บลูเพาเวอร์ เงื่อนไขไฟแนนซ์เป็นไปตามที่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุลิสซิ่ง จำกัด กำหนดอ้างอิงดอกเบี้ยเดือน กันยายน-ตุลาคม 2560

Suzuki

Suzuki-Promotion-9-2017

โปรโมชั่นสุดเร้าใจกับ Suzuki Hot Deal ลดร้อนแรง แซงทุกดีล พิเศษเฉพาะลูกค้าที่ทำการจองและรับรถยนต์ซูซูกิทุกรุ่น ระหว่างวันที่ 1 กันยายน – 31 ตุลาคม 2560 นี้ รับบัตรเติมน้ำมัน 5,000 บาท ฟรี

MG

MG-Promotion-9-2017

MG Mega Bonus โปรโมชั่นสุดคุ้มค่าที่ทำให้คุณเป็นเจ้าของรถ MG ได้ง่ายขึ้น พบกับข้อเสนอสุดพิเศษ รถยนต์ MG ทุกรุ่น ที่โชว์รูม MG พร้อมกันทั่วประเทศ วันนี้ – 30 ก.ย. 2560

Chevrolet

Chevrolet-Promotion-9-2017

เชฟโรเลต… ฝนนี้มีเซอร์ไพรส์ ดอกเบี้ย 0.99% พิเศษ ฟรีประกันชั้น 1 ทุกรุ่น อย่าพลาด ข้อเสนอเฉพาะคุณ ที่โชว์รูมเชฟโรเลต ทั่วประเทศ 1-30 ก.ย. 2560

Ford

Ford-Ranger-Promotion-8-2017

สุดคุ้ม! Ford Ranger Wildtrak ดาวน์เพียง 89,999 บาท หรือผ่อนเพียง 8,999 บาท/เดือน เริ่มผ่อนปีหน้า พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง คุ้มได้อีก! จองรถฟอร์ดทุกรุ่นลุ้นส่วนลด 500,000 บาท วันนี้-17 ก.ย. ที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศ

BMW

BMW-5-Series-Promotion-8-2017

The All-New BMW 5 Series มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบ Adaptive และเทคโนโลยี Gesture Control ราคารวมแพคเกจ BSI STANDARD* เริ่มต้น 3.439 ล้านบาท

Nissan-Leaf

Nissan Leaf ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 2 ประหยัดขึ้นกว่าเดิม

             Nissan เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ) เจเนอเรชั่นที่ 2 “Simply Amazing” ครั้งแรกในโลกที่ญี่ปุ่น พร้อมเริ่มขายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ ก่อนส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลกเช่นเคย

สำหรับ นิสสัน ถือเป็นผู้บุกเบิกในยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเปิดตัว นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโลก และเริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2010 ปัจจุบันมียอดขายที่มากกว่า 280,000 คัน ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายมากที่สุดในโลก ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า กำลังจะมาแทนที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง!

Nissan-Leaf

Nissan Leaf ใหม่

Nissan-Leaf

Nissan-Leaf

รูปทรงภายนอก เน้นความสปอร์ต ลู่ลมขึ้น

นิสสัน ลีฟ ใหม่ ถูกออกแบบด้วยรูปโฉมสปอร์ต ตัวรถพัฒนาด้วย Concept “Advance Expression” มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED ทรงบูมเมอแรง, กระจังหน้า V-Motion แบบ 3 มิติ และไฟท้ายทรงบูมเมอแรงแบบ LED คู่กับล้อแม็กขนาด 16 นิ้ว และ 17 นิ้ว (ในรุ่น G)

มาพร้อมมิติตัวถังยาว 4,480 มม. กว้าง 1,790 มม. สูง 1,540 มม. และระยะฐานล้อ 2,700 มม.

Nissan-Leaf

Nissan-Leaf

Nissan-Leaf

ห้องโดยสารภายใน พร้อมพื้นที่เก็บของกว้างขวาง

ห้องโดยสารออกแบบใหม่ตาม Concept “Gliding Wing” คอนโซลหน้ารูปแบบใหม่ เบาะนั่งเดินด้วยด้ายสีน้ำเงิน ส่วนความบันเทิง มาพร้อมชุดจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบ Apple CarPlay และ NissanConnect ที่สามารถค้นหาข้อมูล Update ล่าสุด ของสถานีชาร์จไฟฟ้า ทั้งสถานที่ตั้ง หรือเวลาให้บริการ รวมทั้งการรอคิวชาร์จ และในระหว่างชาร์จไฟฟ้า เจ้าของรถสามารถดูปริมาณแบตเตอรี่ได้ผ่านสมาร์ทโฟน เป็นต้น พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มากถึง 435 ลิตร (วัดตามมาตรฐาน VDA)

Nissan-Leaf

นิสสัน ลีฟ คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า “100%” และมีอัตราการปล่อยมลพิษเป็น “0” พร้อมชูจุดเด่นอย่าง “นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility)” ทำให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจกับมุมมองรอบด้าน และสามารถตรวจจับวัตถุต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวรถได้ดีขึ้น ด้วยระบบต่างๆ อาทิเช่น

Nissan-Leaf

  • ระบบ ProPILOT ครั้งแรกของการแนะนำระบบขับอัตโนมัติ รวมถึงระบบ ProPILOT Park ที่สามารถนำรถยนต์เข้าจอดในซอง และการจอดรถริมฟุตบาท แบบอัตโนมัติ โดยที่คนขับนั่งเฉยๆ ไม่ต้องไปหมุนพวงมาลัยใดๆ

Nissan-Leaf

  • ระบบ e-Pedal ช่วยในการเร่งความเร็วและการเบรก โดยระบบจะทำงานร่วมกับระบบ Regenerative Braking ในการช่วยหยุดรถ อีกทั้งยังใช้ทดแทนระบบ Hill Start Assisted (HSA) ในการออกตัวบนทางลาดชันอีกด้วย

Nissan Leaf ใหม่ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าชุดใหม่ แบบ EM57 ที่ให้แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า (PS) (110 กิโลวัตต์) (แรงม้าเพิ่มขึ้น 38% จากรุ่นแรก) ที่ 3,283-9,795 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. (320 นิวตันเมตร) ที่ 0-3,283 รอบ/นาที

แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ขนาด 40 กิโลวัตต์/ชม. เพียงชาร์จ 1 ครั้ง สามารถเดินทางได้ระยะทางมากถึง 400 กิโลเมตร (ตามการทดสอบตามโหมด JC08 ของประเทศญี่ปุ่น)

Nissan-Leaf

Nissan-Leaf

ขับไปไหนก็หายห่วงเรื่องไฟหมด ด้วยจุดเติมพลังงานไฟฟ้าที่มากถึง 28,500 จุด (โดยประมาณ) ทั่วประเทศญี่ปุ่น (แบ่งเป็นสถานี Quick Change 7,108 จุด และสถานีขาร์จแบบธรรมดา 20,727 จุด) ใช้เวลาชาร์จประมาณ 40 นาที ก็ได้ปริมาณพลังงานไฟฟ้ามากถึง 80% หากชาร์จแบบ Quick Charge และใช้เวลาชาร์จ 8 ชั่วโมง (กำลังไฟ 6 กิโลวัตต์) สำหรับการชาร์จแบบธรรมดา

Nissan Leaf ใหม่ มีรุ่นย่อยให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ S, X และ G พร้อมมีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ในราคา 3,150,360-3,990,600 เยน

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.nissan.co.jp

Toyota เปิดตัว Yaris ATIV ใหม่ ครั้งแรกในโลก ในราคา 469,000-619,000 บาท

Toyota Yaris ATIV

Toyota แนะนำรถยนต์ Sub-Compact Sedan รุ่นใหม่ล่าสุด ครั้งแรกของโลกกับ “Yaris ATIV…Life Activated” ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ตลอดทั้งคัน ภายนอกดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ภายในสวยสะดุดตา กว้างขวางสะดวกสบาย รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่คล่องตัว พร้อมเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมัน มาพร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานเหนือรถระดับเดียวกัน

Toyota Yaris ATIV

หลังจากที่โตโยต้า แนะนำ Yaris (ยาริส) เข้าสู่ตลาดโลกครั้งแรกในปี 2542 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในยุโรปรวมทั้งในญี่ปุ่น จนกระทั่งได้แนะนำเข้าสู่ตลาดประเทศไทยในเดือนมกราคม 2549 และในเดือนตุลาคมปี 2556 โตโยต้าได้เปิดตัวยาริส เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ด้วยคุณลักษณะที่โดดเด่น สามารถครองใจลูกค้าชาวไทยด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 150,000 คัน*

*(ข้อมูลยอดขายสะสมของยาริส รุ่น 1.2 ลิตร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 – กรกฎาคม 2560)

Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris ATIV

สำหรับชื่อของ Yaris ATIV มีที่มาจากคำว่า “Smart” และ “Active” เป็นการผสมผสานระหว่างองค์ประกอบสำคัญสองประการ ได้แก่ ความล้ำสมัยและความคล่องแคล่วปราดเปรียว และยังสะท้อนถึงนวัตกรรมและความสร้างสรรค์ ทำให้เรามั่นใจว่า ATIV จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมทางการตลาดรถยนต์นั่ง ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่โดดเด่น ความสะดวกสบายในการขับขี่ ความเงียบภายในห้องโดยสาร ตลอดจนระบบความปลอดภัยเหนือรถระดับเดียวกัน โดยมาพร้อมกับราคาที่ทุกคนสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ไม่ยาก

Toyota Yaris ATIV

มร.ทาคาโทโมะ สึซึกิ หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เผยว่า “ทีมวิศวกรโตโยต้าได้สร้างสรรค์ Yaris ATIV ภายใต้แนวคิด “ผู้ริเริ่มคุณค่าใหม่” มุ่งเน้นให้เป็นรถยนต์ที่คุ้มค่าเหนือราคา ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ตลอดคันทั้งภายนอกและภายใน พร้อมประกอบด้วยวัสดุตกแต่งคุณภาพสูงและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน กว้างขวางสะดวกสบาย ตลอดจนสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ขับสนุกแต่ยังคงความประหยัดน้ำมัน รวมถึงมาตรฐานระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ”

Toyota Yaris ATIV

Toyota Yaris ATIV

เริ่มต้น สู่โลกที่กว้างกว่ากับ All New Yaris ATIV

ภายใต้แนวคิด Life Activated … เริ่มต้น สู่โลกที่กว้างกว่า ด้วยจุดเด่น 4 จุดหลัก ดังนี้

– ภายนอกดีไซน์ล้ำสมัย โดดเด่นกว่าที่เคยสัมผัส…โฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสายที่มีความต่อเนื่องรอบคัน เน้นความสปอร์ตด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์เชื่อมต่อกับกระจังหน้าโครเมียมรมดำ สะท้อนถึงความหรูหรา ทันสมัยอย่างลงตัว
– ภายในตอบรับทุกความต้องการ กับไลฟ์สไตล์ที่เหนือกว่า…ห้องโดยสารดีไซน์ล้ำสมัยกับการออกแบบที่เน้นความกว้างขวางสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอยประโยชน์สูงสุด พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เพิ่มวัสดุซับเสียงรบกวนรอบคัน
– สมรรถนะเหนือชั้น ขับสนุกควบคุมได้ดั่งใจ…ด้วยเครื่องยนต์ DUAL VVT-i ขนาด 1.2 ลิตร ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ที่มีการปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
– มั่นใจด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ที่ครบครันและเหนือชั้น มีถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง ทุกรุ่น

Toyota Yaris ATIV

ทั้งนี้ โตโยต้าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าและผู้ที่สนใจได้ร่วมสัมผัส Yaris ATIV ภายในงาน BIG Motor Sale ระหว่างวันที่ 19-27 สิงหาคม ที่ BITEC บางนา นอกจากนี้เราจะจัดกิจกรรมที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศในวันที่ 25-27 สิงหาคม เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่อย่างทั่วถึง พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมพิเศษ

Toyota Yaris ATIV

โตโยต้า ยังแนะนำข้อเสนอพิเศษเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ในรูปแบบการเช่าซื้อพร้อมประกันภัย และการขยายระยะรับประกันคุณภาพ นอกจากนี้ ราคาพิเศษในช่วงแนะนำ สำหรับลูกค้าที่จองและออกรถตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2560 โดย Yaris ATIV มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่น 7 สี พร้อมสีภายในให้เลือก 2 สี และมีเป้าหมายการขายในปี 2560 ที่ 4,700 คัน/เดือน

พร้อมเลือกเป็นเจ้าของ Yaris ATIV 5 รุ่น และ 7 สี ในราคาช่วงแนะนำ วันนี้ – 31 ตุลาคม 2560

1.สีน้ำเงิน 2.สีเทาดำ 3.สีบรอนซ์เงิน 4.สีน้ำตาล 5.สีขาว 6.สีดำ 7.สีแดง

Toyota Yaris ATIV

สีภายในให้เลือกสองสี (สีดำในทุกรุ่น และสีเบจเฉพาะในรุ่น G และ E)

Toyota Yaris ATIV

– รุ่น J ECO เกียร์อัตโนมัติ ราคา 469,000 บาท**

Toyota Yaris ATIV

– รุ่น J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 519,000 บาท**

Toyota Yaris ATIV

– รุ่น E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 549,000 บาท**

Toyota Yaris ATIV

– รุ่น G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 599,000 บาท**

Toyota Yaris ATIV

– รุ่น S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 619,000 บาท**

**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ

Mitsubishi-Xpander-2018

Mitsubishi Motors เปิดตัว “Xpander” ใหม่ 2 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นประมาณ 7 แสนบาทปลายๆ

Mitsubishi-Xpander-1

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวยนตรกรรมชั้นนำระดับโลก “Mitsubishi Xpander” (มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์) รถ Crossover MPV ที่ประเทศอินโดนีเซีย และในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของรถยนต์แบบ MPV สร้างยอดขายให้กับมิตซูบิชิอย่างมาก โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย ที่มียอดส่งมอบไปมากกว่า 50,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา

Mitsubishi-Xpander

ซึ่งทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ตัดสินใจนำรถรุ่นนี้เข้ามา และเตรียมเปิดตัวภายในงาน BIG Motor Sale 2018 อย่างเป็นทางการ เพื่อต่อกรกับรถในประเภทเดียวกัน อาทิ Honda BR-V และ Toyota Sienta ด้วยคุณสมบัติที่ใหญ่กว่า สูงกว่า ในสไตล์รถ MPV ที่ดีไซน์ตัวรถละม้ายคล้ายกับรถ SUV

“เอ็กซ์แพนเดอร์” คือการผสมผสานความสามารถในการใช้งานที่หลากหลายของรถเอ็มพีวี เข้าไว้กับสมรรถนะที่โดดเด่นตามแบบฉบับของรถเอสยูวี กลายเป็นนิยามใหม่ของมิตซูบิชิ ที่มีความแกร่ง ความโอ่โถง รูปลักษณ์ที่โดดเด่น ความสะดวกสบาย รวมถึงสไตล์และฟังก์ชั่นการใช้งาน หลอมรวมกันเป็นรถครอสโอเวอร์ เอ็มพีวี ซึ่งครบครันทั้งความสบายในการขับขี่ที่มาพร้อมสมรรถนะ และดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว และขับเคลื่อนล้อหน้า

Mitsubishi-Xpander

– อีกหนึ่งการขับเคลื่อนตลาดในภูมิภาคอาเซียนของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
– โฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์
– มอบความสบายที่มากขึ้นในทุกการเดินทาง
– กว้างขวางด้วยห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่
·- โดดเด่นด้วยสมรรถนะและความแกร่ง

Mitsubishi-Xpander

ตัวถังของ Xpander ใหม่ มีมิติตัวรถยาว 4,475 มม. กว้าง 1,750 มม. สูง 1,700 มม. ระยะฐานล้อ 2,775 มม.

ดีไซน์ตัวรถด้วยหลัก Dynamic Shield t ติดตั้งไฟ Daytime Running Light ไว้บริเวณฝากระโปรงหน้า ส่วนชุดไฟหลักถูกติดตั้งไว้ต่ำกว่า ด้านท้ายไฟท้ายแบบ LED รูปตัว L รองรับด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท และเหล็กกันโคลง ในขณะที่ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ระบบเบรกแบบด้านหน้าดิสก์เบรก ด้านหลังแบบดรัมเบรก

Mitsubishi-Xpander

มีให้เลือกในบ้านเรา 2 รุ่นย่อย ได้แก่ GLS-LTD และ GT โดยรุ่น GT เป็นรุ่น Top สุด ออพชั่นมากกว่ารุ่น GLS-LTD พอสมควร

Mitsubishi-Xpander

พื้นที่ที่กว้างขวางด้วยห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่สุดในคู่แข่งระดับเดียวกัน ผู้โดยสารแถวที่ 3 สามารถเดินภายในได้อย่างสะดวกสบาย ขณะที่เบาะนั่งแถวที่สองสามารถพับเบาะกลางลงเพื่อใช้เป็นที่วางแขนได้ มีช่องวางแก้วน้ำให้ถึง 16 จุดรอบคัน มีระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

Mitsubishi-Xpander

ขุมพลังของ “เอ็กซ์แพนเดอร์” ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส 4A91 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมปุ่ม Overdrive รองรับแก๊สโซฮอล์ E85

Mitsubishi-Xpander

“เอ็กซ์แพนเดอร์” ผลิตขึ้นที่ โรงงานใหม่ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ในประเทศอินโดนีเซีย เมืองเบกาซิ จังหวัดชวาตะวันตก ซึ่งมีแผนการผลิตอยู่ที่จำนวน 80,000 คัน/ปี และจะเริ่มจำหน่ายในตลาดอินโดนีเซีย เร็วๆนี้ พร้อมทั้งยังมีแผนที่จะส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆ

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ ในรุ่น GLS-LTD

  • ไฟหน้าอบบฮาโลเจน + ไฟหรี่แบบ LED
  • ไฟท้าย LED
  • มือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ
  • คิ้วขอบประตูสีดำ
  • แผงกันชนหน้า-หลัง และคิ้วด้านข้างสีดำ
  • กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
  • ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา
  • ไฟ Welcome Light และไฟส่องสว่างหลังดับเครื่อง
  • เบาะนั่งหุ้มผ้า
  • เครื่องเสียง CD/MP3/USB ขนาด 2DIN
  • ลำโพง 4 จุด
  • ระบบปรับอากาศด้านหลัง
  • พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
  • กุญแจรีโมท
  • ช่องจ่ายไฟ 12 V 3 ตำแหน่ง
  • ระบบเบรก ABS/EBD/BA
  • ระบบป้องกันลื่นไถล TCL
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพ ASC
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
  • ล้อแม็กสีเงินขนาด 15 นิ้ว พร้อมยางขนาด 185/68 R15

อุปกรณ์มาตรฐานเด่นๆ ในรุ่น GT (เพิ่มขึ้นจากรุ่น GLS-LTD)

  • ไฟตัดหมอกคู่หน้า
  • ที่เปิดประตู-ขอบประตู วัสดุโครเมียม
  • แผงกันชนหน้า-หลัง และคิ้วด้านข้างสีเงิน
  • เบาะนั่งหนังแท้และหนังสังเคราะห์
  • พวงมาลัย, หัวเกียร์, และเบรกมือ หุ้มหนัง
  • เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว CD/DVD/MP3
  • Bluetooth
  • ช่องเชื่อมต่อ USB/AUX
  • จอ MID แบบ TFT สี ขนาด 4.2 นิ้ว
  • สวิตช์เครื่องเสียงและโทรศัพท์ บนพวงมาลัย
  • ลำโพง 6 จุด
  • มาตรวัดแบบ High Contrast
  • Cruise Control
  • กุญแจ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
  • กล้องมองหลัง
  • ล้อแม็กสีทูโทนขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/55 R16

Mitsubishi-Xpander

สำหรับท่านใดที่สนใจ Mitsubihi Xpander ใหม่ สามารถไปชมตัวจริงได้ที่งาน BIG Motor Sale 2018

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ. ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมเข้ามากำกับดูแลรถป้ายแดง โดยจะดำเนินการตรวจจับปรับรถส่วนบุคคลที่ใช้ป้ายแดงในการขับขี่ ในส่วนของรถส่วนบุคคลที่ซื้อตั้งแต่ 1 ต.ค. 2560 – 31 ธ.ค. 2560 หากซื้อรถใหม่ป้ายแดงจะต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกภายใน 60 วันนับแต่รับรถ และหากซื้อรถตั้งแต่ 1 ม.ค. 2561 เป็นต้นไป จะต้องจดทะเบียนกับ ขบ. ภายใน 30 วันนับแต่รับรถ

หากไม่ดำเนินการตามข้อกำหนดในช่วงเวลาดังกล่าว จะต้องถูกตำรวจตรวจจับและปรับทันที โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 10,000 บาท ดังนั้นช่วงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถึง 30 ก.ค. 2560 ขบ. จะเร่งประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้รับทราบข้อมูลดังกล่าว และเข้าใจกฎระเบียบ กฎหมาย ที่ขบ.จะประกาศออกไปเพื่อให้เข้าใจตรงกันและจะได้ไม่ต้องประสบกับปัญหาระหว่างเจ้าหน้าที่ ขณะตรวจจับ

นายสนิทกล่าวอีกว่า การดำเนินการ ดังกล่าวขณะนี้ทาง ขบ. อยู่ในขั้นตอนการแก้ไขกฎหมายรถป้ายแดง และขณะนี้ผ่าน ขั้นตอนของกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้วรอเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช. ให้พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ขบ. มั่นใจว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวนั้นเป็น การรักษาสิทธิของประชาชนที่เป็นเจ้าของ รถที่ซื้อรถใหม่จากศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถ มีการดำเนินการให้จดทะเบียนรถถูกต้องตามกฎหมาย และเพื่อให้ป้ายแดงที่ ขบ. ออกไปอย่างถูกกฎหมายกว่า 100,000 ป้ายทั่วประเทศ หมุนเวียนในระบบ รวมถึงป้องกันปราบปรามรถผิดกฎหมายที่วิ่งบนท้องถนนด้วย ประกอบกับการเข้ามาจดทะเบียนรถถูกต้องตามกำหนดเวลาก็จะทำให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น

ขอขอบคุณภาพจาก jacky2008

ทางกรมการขนส่งทาทงบกระบุอีกว่า สำหรับการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถส่วนบุคคลจากป้ายแดง เป็นป้ายดำ หากเป็นขั้นตอนของ ขบ. ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็แล้วเสร็จ ที่ผ่านมามีรถป้ายแดงจำนวนมากที่ไม่เปลี่ยนป้าย หรือเปลี่ยนป้ายช้า ส่วนหนึ่งมาจากขั้นตอนเอกสารของบริษัทรถยนต์ และ ดีลเลอร์ขายรถ ซึ่งหากถึงกำหนดเวลาตามเงื่อนไข ทางดีลเลอร์ต้องเร่งเวลาเรื่องเอกสารให้ได้ตามกำหนดของ ขบ.

สำหรับรถยนต์ ป้ายแดงที่ซื้อในช่วงก่อนหน้านี้ หรือก่อนวันที่ 1 ต.ค. แล้วยังไม่เปลี่ยนป้ายทะเบียน หากถึงกำหนดวันที่ 1 ต.ค.ที่เริ่มกวดขัน เมื่อเจ้าหน้าที่ขอตรวจคู่มือรถแล้วพบว่ารับรถมาเกิน 2 เดือนแล้วยังไม่เปลี่ยนป้ายทะเบียนจะถูกจับปรับเช่นกัน โดยช่วงแรกจะเน้นการประชาสัมพันธ์ หรือปรับอัตราต่ำสุดคือ 1,000 บาท

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสด